📜

(๑๑) ๑. ผาสุวิหารวคฺโค

๑-๔. สารชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๑-๔. ตติยสฺส ปเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ. ทุติเย ปิณฺฑปาตาทิอตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานํ โคจโร, เวสิยา โคจโร อสฺสาติ เวสิยาโคจโร, มิตฺตสนฺถววเสน อุปสงฺกมิตพฺพฏฺานนฺติ อตฺโถ. เวสิยา นาม รูปูปชีวินิโย, ตา มิตฺตสนฺถววเสน น อุปสงฺกมิตพฺพา สมณภาวสฺส อนฺตรายกรตฺตา, ปริสุทฺธาสยสฺสปิ ครหาเหตุโต, ตสฺมา ทกฺขิณาทานวเสน สตึ อุปฏฺเปตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ. วิธวา วุจฺจนฺติ มตปติกา, ปวุตฺถปติกา วา. ถุลฺลกุมาริโยติ มหลฺลิกา อนิวิทฺธา กุมาริโย. ปณฺฑกาติ นปุํสกา. เต หิ อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา โลกามิสนิสฺสิตกถาพหุลา, ตสฺมา น อุปสงฺกมิตพฺพา. ภิกฺขุนิโย นาม อุสฺสนฺนพฺรหฺมจริยา. ตถา ภิกฺขูปิ. อฺมฺํ วิสภาควตฺถุภาวโต สนฺถววเสน อุปสงฺกมเน กติปาเหเนว พฺรหฺมจริยนฺตราโย สิยา, ตสฺมา น อุปสงฺกมิตพฺพา, คิลานปุจฺฉนาทิวเสน อุปสงฺกมเน สโตการินา ภวิตพฺพํ. ตติยจตุตฺถานิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สารชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ผาสุวิหารสุตฺตวณฺณนา

๑๐๕. ปฺจเม เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมํ เมตฺตํ กายกมฺมํ. เอส นโย เสสทฺวเยปิ. อาวีติ ปกาสนํ. ปกาสภาโว เจตฺถ ยํ อุทฺทิสฺส ตํ กายกมฺมํ กรียติ, ตสฺส สมฺมุขภาวโตติ อาห ‘‘สมฺมุขา’’ติ. รโหติ อปฺปกาสํ. อปฺปกาสตา จ ยํ อุทฺทิสฺส ตํ กายกมฺมํ กรียติ, ตสฺส อปจฺจกฺขภาวโตติ อาห ‘‘ปรมฺมุขา’’ติ. อิมานิ เมตฺตกายกมฺมาทีนิ ภิกฺขูนํ วเสน อาคตานิ เตสํ เสฏฺปริสภาวโต, คิหีสุปิ ลพฺภนฺติเยว. ภิกฺขูนฺหิ เมตฺตจิตฺเตน อาภิสมาจาริกปูรณํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม . คิหีนํ เจติยวนฺทนตฺถาย โพธิวนฺทนตฺถาย สงฺฆนิมนฺตนตฺถาย คมนํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺเ ภิกฺขู ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ ปตฺตปฺปฏิคฺคหณํ อาสนปฺาปนํ อนุคมนนฺติ เอวมาทิกํ เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. ภิกฺขูนํ เมตฺตจิตฺเตน อาจารปฺตฺติสิกฺขาปนํ กมฺมฏฺานกถนํ ธมฺมเทสนา เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. คิหีนํ ‘‘เจติยวนฺทนาย คจฺฉาม, โพธิวนฺทนาย คจฺฉาม, ธมฺมสฺสวนํ กริสฺสาม, ทีปมาลํ ปุปฺผปูชํ กริสฺสาม, ตีณิ สุจริตานิ สมาทาย วตฺติสฺสาม, สลากภตฺตาทีนิ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ ทสฺสาม, อชฺช สงฺฆสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย ทสฺสาม, สงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา ขาทนียาทีนิ สํวิทหถ, อาสนานิ ปฺเปถ, ปานียํ อุปฏฺเปถ, สงฺฆํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อาเนถ, ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปถ, ฉนฺทชาตา อุสฺสาหชาตา เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติอาทิกถนกาเล เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. ภิกฺขูนํ ปาโตว อุฏฺาย สรีรปฺปฏิชคฺคนํ กตฺวา เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา วตฺตาทีนิ กตฺวา วิวิตฺตเสนาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู สุขี โหนฺตุ อเวรา อพฺยาปชฺชา’’ติ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม, คิหีนํ ‘‘อยฺยา สุขี โหนฺตุ อเวรา อพฺยาปชฺชา’’ติ จินฺตนํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม.

ตตฺถ นวกานํ จีวรกมฺมาทีสุ สหายภาวคมนํ สมฺมุขา กายกมฺมํ นาม, เถรานํ ปน ปาทโธวนสิฺจนพีชนทานาทิเภทมฺปิ สพฺพํ สามีจิกมฺมํ สมฺมุขา กายกมฺมํ นาม, อุภเยหิปิ ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ ทารุภณฺฑาทีนํ เตสุ อวฺํ อกตฺวา อตฺตนา ทุนฺนิกฺขิตฺตานํ วิย ปฏิสามนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ กายกมฺมํ นาม. ‘‘เทวตฺเถโร ติสฺสตฺเถโร’’ติ วุตฺตํ เอวํ ปคฺคยฺหวจนํ สมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม, วิหาเร อสนฺตํ ปน ปฏิปุจฺฉนฺตสฺส ‘‘กุหึ อมฺหากํ เทวตฺเถโร, กุหึ อมฺหากํ ติสฺสตฺเถโร, กทา นุ โข อาคมิสฺสตี’’ติ เอวํ ปิยวจนํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม. เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานิ ปน นยนานิ อุมฺมีเลตฺวา ปสนฺเนน มุเขน โอโลกนํ สมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม, ‘‘เทวตฺเถโร ติสฺสตฺเถโร อโรโค โหตุ อพฺยาปชฺโช’’ติ สมนฺนาหรณํ ปรมฺมุขา เมตฺตํ มโนกมฺมํ นาม. กามฺเจตฺถ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานํ นยนานํ อุมฺมีลนํ, ปสนฺเนน มุเขน โอโลกนฺจ เมตฺตํ กายกมฺมเมว. ยสฺส ปน จิตฺตสฺส วเสน นยนานํ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธตา, มุขสฺส จ ปสนฺนตา, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เมตฺตํ มโนกมฺมํ นามา’’ติ. สมาธิสํวตฺตนปฺปโยชนานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ.

สมานสีลตํคโตติ เตสุ เตสุ ทิสาภาเคสุ วิหรนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมานสีลตํ คโต. ยายนฺติ ยา อยํ มยฺหฺเจว ตุมฺหากฺจ ปจฺจกฺขภูตา. ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ. อริยาติ นิทฺโทสา. นิยฺยาตีติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรติ นิคฺคจฺฉติ. สยํ นิยฺยนฺตีเยว หิ ตํสมงฺคิปุคฺคลํ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาเปตีติ วุจฺจติ. ยา สตฺถุ อนุสิฏฺิ, ตํ กโรตีติ ตกฺกโร, ตสฺส, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชกสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขกฺขยายาติ สพฺพทุกฺขกฺขยตฺถํ. ทิฏฺิสามฺคโตติ สมานทิฏฺิภาวํ อุปคโต.

ผาสุวิหารสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖-๑๐. อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๐๖-๑๑๐. ฉฏฺเ อธิสีเลติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, สีลนิมิตฺตํ น อุปวทติ น นินฺทตีติ อตฺโถ. อตฺตนิ กมฺเม จ อนุ อนุ เปกฺขติ สีเลนาติ อตฺตานุเปกฺขี. สตฺตมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

อานนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ผาสุวิหารวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.