📜
(๑๔) ๔. ราชวคฺโค
๑. ปมจกฺกานุวตฺตนสุตฺตวณฺณนา
๑๓๑. จตุตฺถสฺส ปเม อตฺถฺูติ หิตฺู. หิตปริยาโย เหตฺถ อตฺถ-สทฺโท ‘‘อตฺตตฺโถ ปรตฺโถ’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๖๙; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕) วิย. ยสฺมา เจส ปเรสํ หิตํ ชานนฺโต เต อตฺตนิ รฺเชติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘รฺชิตุํ ชานาตี’’ติ. ทณฺเฑติ อปราธานุรูเป ทณฺฑเน. พลมฺหีติ พลกาเย. ปฺจ อตฺเถติ อตฺตตฺโถ, ปรตฺโถ, อุภยตฺโถ, ทิฏฺธมฺมิโก อตฺโถ, สมฺปรายิโก อตฺโถติ เอวํ ปฺจปฺปเภเท อตฺเถ. จตฺตาโร ธมฺเมติ จตุสจฺจธมฺเม, กามรูปารูปโลกุตฺตรเภเท วา จตฺตาโร ธมฺเม. ปฏิคฺคหณปริโภคมตฺตฺุตาย เอว ปริเยสนวิสฺสชฺชนมตฺตฺุตาปิ โพธิตา โหนฺตีติ ‘‘ปฏิคฺคหณปริโภคมตฺตํ ชานาติ’’อิจฺเจว วุตฺตํ.
อุตฺตรติ อติกฺกมติ, อภิภวตีติ วา อุตฺตรํ, นตฺถิ เอตฺถ อุตฺตรนฺติ อนุตฺตรํ. อนติสยํ, อปฺปฏิภาคํ วา อเนกาสุ เทวมนุสฺสปริสาสุ อเนกสตกฺขตฺตุํ เตสํ อริยสจฺจปฺปฏิเวธสมฺปาทนวเสน ปวตฺตา ภควโต ธมฺมเทสนา ธมฺมจกฺกํ. อปิจ สพฺพปมํ อฺาตโกณฺฑฺปฺปมุขาย อฏฺารสปริสคณาย พฺรหฺมโกฏิยา จตุสจฺจสฺส ปฏิเวธวิธายินี ยา ธมฺมเทสนา, ตสฺสา สาติสยา ธมฺมจกฺกสมฺา. ตตฺถ สติปฏฺานาติธมฺโม เอว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. จกฺกนฺติ วา อาณา ธมฺมโต อนเปตตฺตา, ธมฺมฺจ ตํ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ. ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. ยถาห ‘‘ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺก’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๒.๔๐-๔๑). อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ธมฺมิสฺสรสฺส ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมจกฺกสฺส ¶ อนุตฺตรภาวโต อปฺปฏิเสธนียํ. เกหิ ปน อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อาห – ‘‘สมเณน วา’’ติอาทิ. ตตฺถ สมเณนาติ ปพฺพชฺชํ อุปคเตน. พฺราหฺมเณนาติ ชาติพฺราหฺมเณน. สาสนปรมตฺถสมณพฺราหฺมณานฺหิ ปฏิโลมจิตฺตํเยว นตฺถิ. เทเวนาติ กามาวจรเทเวน. เกนจีติ เยน ¶ เกนจิ อวสิฏฺปาริสชฺเชน. เอตฺตาวตา อฏฺนฺนมฺปิ ปริสานํ อนวเสสปริยาทานํ ทฏฺพฺพํ. โลกสฺมินฺติ สตฺตโลเก.
ปมจกฺกานุวตฺตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยจกฺกานุวตฺตนสุตฺตวณฺณนา
๑๓๒. ทุติเย จกฺกวตฺติวตฺตนฺติ ทสวิธํ, ทฺวาทสวิธํ วา จกฺกวตฺติภาวาวหํ วตฺตํ. ตตฺถ อนฺโตชนสฺมึ พลกาเย ธมฺมิกาเยว รกฺขาวรณคุตฺติยา สํวิธานํ, ขตฺติเยสุ, อนุยนฺเตสุ, พฺราหฺมณคหปติเกสุ, เนคมชานปเทสุ, สมณพฺราหฺมเณสุ, มิคปกฺขีสุ, อธมฺมิกปฏิกฺเขโป, อธนานํ ธนานุปฺปทานํ, สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหปุจฺฉนนฺติ อิทํ ทสวิธํ จกฺกวตฺติวตฺตํ. อิทเมว จ คหปติเก ปกฺขิชาเต จ วิสุํ กตฺวา คหณวเสน ทฺวาทสวิธํ. ปิตรา ปวตฺติตเมว อนุปฺปวตฺเตตีติ ทสวิธํ วา ทฺวาทสวิธํ วา จกฺกวตฺติวตฺตํ ปูเรตฺวา นิสินฺนสฺส ปุตฺตสฺส อฺํ ปาตุภวติ, โส ตํ ปวตฺเตติ. รตนมยตฺตา ปน สทิสฏฺเน ตเทเวตนฺติ กตฺวา ‘‘ปิตรา ปวตฺติต’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา โส ‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก, ตฺวํ เทว, โหหิ, อหมนุสาสิสฺสามี’’ติ อาห. ตสฺมา ปิตรา ปวตฺติตํ อาณาจกฺกํ อนุปฺปวตฺเตติ นามาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยฺหิ อตฺตโน ปฺุานุภาวสิทฺธํ จกฺกรตนํ, ตํ นิปฺปริยายโต เตน ปวตฺติตํ นาม, เนตรนฺติ ปมนโย วุตฺโต. ยสฺมา ปวตฺติตสฺเสว อนุวตฺตนํ, ปมนโย จ ตํสทิเส ตพฺโพหารวเสน วุตฺโตติ ตํ อนาทิยิตฺวา ทุติยนโย วุตฺโต.
ทุติยจกฺกานุวตฺตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ยสฺสํทิสํสุตฺตวณฺณนา
๑๓๔. จตุตฺเถ ‘‘อุภโต สุชาโต’’ติ เอตฺตเก วุตฺเต เยหิ เกหิจิ ทฺวีหิ ภาเคหิ สุชาตตา ปฺาเปยฺย, สุชาต-สทฺโท จ ‘‘สุชาโต จารุทสฺสโน’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๓; เถรคา. ๘๑๘) อาโรหสมฺปตฺติปริยาโยติ ¶ ชาติวเสน ¶ สุชาตตํ วิภาเวตุํ ‘‘มาติโต จ ปิติโต จา’’ติ วุตฺตํ. อโนรสปุตฺตวเสนปิ โลเก มาตุปิตุสมฺา ทิสฺสติ, อิธ ปน สา โอรสปุตฺตวเสน อิจฺฉิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสุทฺธคฺคหณิโก’’ติ วุตฺตํ. คพฺภํ คณฺหาติ ธาเรตีติ คหณี, คพฺภาสยสฺิโต มาตุกุจฺฉิปฺปเทโส. เตนาห ‘‘สํสุทฺธาย มาตุกุจฺฉิยา สมนฺนาคโต’’ติ. ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปาจนวเสน คณฺหนโต อฉฑฺฑนโต คหณี, เตโชธาตุ. ปิตา จ มาตา จ ปิตโร. ปิตูนํ ปิตโร ปิตามหา. เตสํ ยุโค ปิตามหยุโค, ตสฺมา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา, ปิตามหทฺวนฺทาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ปิตามหคฺคหเณเนว มาตามโหปิ คหิโตติ โส อฏฺกถายํ วิสุํ น อุทฺธโต. ยุค-สทฺโท เจตฺถ เอกเสสนเยน ทฏฺพฺโพ ‘‘ยุโค จ ยุโค จ ยุโค’’ติ. เอวฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ทฺวินฺนํ คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา’’ติ. ปุริสคฺคหณฺเจตฺถ อุกฺกฏฺนิทฺเทสวเสน กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวฺหิ ‘‘มาติโต’’ติ ปาฬิวจนํ สมตฺถิตํ โหติ.
อกฺขิตฺโตติ อปฺปตฺตกฺเขโป. อนวกฺขิตฺโตติ สมฺปตฺตวิวาทาทีสุ น อวกฺขิตฺโต น ฉฑฺฑิโต. ชาติวาเทนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เกน การเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อุภโต…เป… ปิตามหยุคา’’ติ เอเตน ขตฺติยสฺส โยนิโทสาภาโว ทสฺสิโต สํสุทฺธคฺคหณิกภาวกิตฺตนโต. ‘‘อกฺขิตฺโต’’ติ อิมินา กิริยาปราธาภาโว. กิริยาปราเธน หิ สตฺตา เขปํ ปาปุณนฺติ. ‘‘อนุปกฺกุฏฺโ’’ติ อิมินา อยุตฺตสํสคฺคาภาโว. อยุตฺตสํสคฺคฺหิ ปฏิจฺจ สตฺตา อกฺโกสํ ลภนฺติ.
อฑฺฒตา นาม วิภวสมฺปนฺนตา, สา ตํ ตํ อุปาทายุปาทาย วุจฺจตีติ อาห ‘‘โย โกจิ อตฺตโน สนฺตเกน วิภเวน อฑฺโฒ โหตี’’ติ. ตถา มหทฺธนตาปีติ ตํ อุกฺกํสคตํ ทสฺเสตุํ ‘‘มหตา อปริมาณสงฺเขน ธเนน สมนฺนาคโต’’ติ วุตฺตํ. ภฺุชิตพฺพโต ปริภฺุชิตพฺพโต วิเสสโต กามา โภคา นามาติ อาห ‘‘ปฺจกามคุณวเสนา’’ติ. โกฏฺํ วุจฺจติ ธฺสฺส อาวสนฏฺานํ, โกฏฺภูตํ อคารํ โกฏฺาคารํ. เตนาห ‘‘ธฺเน จ ปริปุณฺณโกฏฺาคาโร’’ติ. เอวํ สารคพฺภํ โกโส, ธฺปริฏฺปนฏฺานฺจ โกฏฺาคารนฺติ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตโต อฺถา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา อสิโน ติกฺขภาวปริหารโก ¶ ปฏิจฺฉโท ‘‘โกโส’’ติ วุจฺจติ. เอวํ รฺโ ติกฺขภาวปริหารํ กตฺวา จตุรงฺคินี เสนา โกโสติ อาห ‘‘จตุพฺพิโธ โกโส หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺตี’’ติ. วตฺถโกฏฺาคารคฺคหเณเนว สพฺพสฺสปิ ภณฺฑฏฺปนฏฺานสฺส คหิตตฺตา ‘‘ติวิธํ โกฏฺาคาร’’นฺติ วุตฺตํ.
ยสฺสา ¶ ปฺาย วเสน ปุริโส ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปณฺฑิจฺจนฺติ อาห ‘‘ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคโต’’ติ. ตํตํอิติกตฺตพฺพตาสุ เฉกภาโว พฺยตฺตภาโว เวยฺยตฺติยํ. สมฺโมหํ หึสติ วิธมตีติ เมธา, สา เอตสฺส อตฺถีติ เมธาวี. าเน าเน อุปฺปตฺติ เอติสฺสา อตฺถีติ านุปฺปตฺติ, านโส อุปฺปชฺชนปฺา. วฑฺฒิอตฺเถติ วฑฺฒิสงฺขาเต อตฺเถ.
ยสฺสํทิสํสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๙. ปตฺถนาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๓๕-๙. ปฺจเม หตฺถิสฺมินฺติ หตฺถิสิปฺเป. หตฺถีติ หิ หตฺถิวิสยตฺตา หตฺถิสนฺนิสฺสิตตฺตา จ หตฺถิสิปฺปํ คหิตํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. วยตีติ วโย, โสภเนสุ กตฺถจิ อปกฺขลนฺโต อวิตฺถายนฺโต ตานิ สนฺธาเรตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. น วโย อวโย, ตานิ อตฺถโต สทฺทโต จ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. อวโย น โหตีติ อนวโย. ทฺเว ปฏิเสธา ปกตึ คเมนฺตีติ อาห ‘‘อนวโยติ สมตฺโถ’’ติ. ฉฏฺาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปตฺถนาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โสตสุตฺตวณฺณนา
๑๔๐. ทสเม ติพฺพานนฺติ ติกฺขานํ. ขรานนฺติ กกฺกสานํ. กฏุกานนฺติ ทารุณานํ. อสาตานนฺติ นสาตานํ อปฺปิยานํ. น ตาสุ มโน อปฺเปติ, น ตา มนํ อปฺปายนฺติ วฑฺเฒนฺตีติ อมนาปา.
โสตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ราชวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.