📜
(๑๘) ๓. อุปาสกวคฺโค
๑-๖. สารชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๑-๑๗๖. ตติยสฺส ปมทุติยตติยจตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพํ. ปฺจเม อุปาสกปจฺฉิมโกติ อุปาสกนิหีโน. ‘‘อิมินา ทิฏฺาทินา อิทํ นาม มงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ พาลชนปริกปฺปิตโกตูหลสงฺขาเตน ทิฏฺสุตมุตมงฺคเลน สมนฺนาคโต โกตูหลมงฺคลิโก. เตนาห ‘‘อิมินา อิทํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิ. มงฺคลํ ปจฺเจตีติ ทิฏฺมงฺคลาทิเภทํ มงฺคลเมว ปตฺถิยายติ. โน กมฺมนฺติ กมฺมสฺสกตํ โน ปตฺถิยายติ. อิมมฺหา สาสนาติ อิโต สพฺพฺุพุทฺธสาสนโต. พหิทฺธาติ พาหิรกสมเย. ทกฺขิเณยฺยํ ปริเยสตีติ ‘‘ทุปฺปฏิปนฺนา ทกฺขิเณยฺยา’’ติ สฺี คเวสติ. เอตฺถ ทกฺขิณปริเยสนปุพฺพกาเร เอกํ กตฺวา ปฺจ ธมฺมา เวทิตพฺพา. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.
สารชฺชสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. วณิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗๗-๘. สตฺตเม ¶ สตฺถวณิชฺชาติ อาวุธภณฺฑํ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา กตํ วา ปฏิลภิตฺวา ตสฺส วิกฺกโย. อาวุธภณฺฑํ กาเรตฺวา ตสฺส วิกฺกโยติ อิทํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ. สูกรมิคาทโย โปเสตฺวา เตสํ วิกฺกโยติ สูกรมิคาทโย โปเสตฺวา เตสํ มํสํ สมฺปาเทตฺวา วิกฺกโย. เอตฺถ จ สตฺถวณิชฺชา ปโรปราธนิมิตฺตตาย อกรณียา วุตฺตา, สตฺตวณิชฺชา อภุชิสฺสภาวกรณโต, มํสวิสวณิชฺชา วธเหตุโต, มชฺชวณิชฺชา ปมาทฏฺานโต. อฏฺมํ อุตฺตานเมว.
วณิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. คิหิสุตฺตวณฺณนา
๑๗๙. นวเม ¶ อาภิเจตสิกานนฺติ อภิเจโตติ อภิกฺกนฺตํ วิสุทฺธจิตฺตํ วุจฺจติ อธิจิตฺตํ วา, อภิเจตสิ ชาตานิ อาภิเจตสิกานิ, อภิเจโต สนฺนิสฺสิตานีติ วา อาภิเจตสิกานิ. เตเนวาห ‘‘อุตฺตมจิตฺตนิสฺสิตาน’’นฺติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานนฺติ ทิฏฺธมฺเม สุขวิหารานํ. ทิฏฺธมฺโมติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโว วุจฺจติ, ตตฺถ สุขวิหารานนฺติ อตฺโถ. รูปาวจรชฺฌานานเมตํ อธิวจนํ. ตานิ หิ อปฺเปตฺวา นิสินฺนา ฌายิโน อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว อสํกิลิฏฺํ เนกฺขมฺมสุขํ วินฺทนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานี’’ติ วุจฺจนฺติ.
จตุพฺพิธเมรยนฺติ ปุปฺผาสโว, ผลาสโว, คุฬาสโว, มธฺวาสโวติ เอวํ จตุปฺปเภทํ เมรยํ. ปฺจวิธฺจ สุรนฺติ ปูวสุรา, ปิฏฺสุรา, โอทนสุรา, กิณฺณปกฺขิตฺตา, สมฺภารสํยุตฺตาติ เอวํ ปฺจปฺปเภทํ สุรํ. ปฺุํ อตฺโถ เอตสฺสาติ ปฺุตฺโถ. ยสฺมา ปเนส ปฺุเน อตฺถิโก นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฺุเน อตฺถิกสฺสา’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
คิหิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. คเวสีสุตฺตวณฺณนา
๑๘๐. ทสเม สุการณนฺติ โพธิปริปาจนสฺส เอกนฺติกํ สุนฺทรํ การณํ. มนฺทหสิตนฺติ อีสกํ ¶ หสิตํ. กหํ กหนฺติ หาสสทฺทสฺส อนุกรณเมตํ. หฏฺปฺปหฏฺาการมตฺตนฺติ หฏฺสฺส ปหฏฺาการมตฺตํ. ยถา คหิตสงฺเกตา ‘‘ปหฏฺโ ภควา’’ติ สฺชานนฺติ, เอวํ อาการนิทสฺสนมตฺตํ.
อิทานิ อิมินา ปสงฺเคน หาสสมุฏฺานํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘หสิตฺจ นาเมต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อชฺฌุเปกฺขนวเสนปิ หาโส น สมฺภวติ, ปเคว โทมนสฺสวเสนาติ อาห ‘‘เตรสหิ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตหี’’ติ. นนุ จ เกจิ โกธวเสนปิ หสนฺตีติ? น, เต สมฺปิยนฺติ โกธวตฺถุํ ตตฺถ ‘‘มยํ ทานิ ยถากามการิตํ อาปชฺชิสฺสามา’’ติ ทุวิฺเยฺยนฺตเรน โสมนสฺสจิตฺเตเนว หาสสฺส อุปฺปชฺชนโต. เตสูติ ¶ ปฺจสุ โสมนสฺสสหคตกิริยจิตฺเตสุ. พลวารมฺมเณติ อุฬารตเม อารมฺมเณ ยมกปาฏิหาริยสทิเส. ทุพฺพลารมฺมเณติ อนุฬารอารมฺมเณ.
‘‘อิมสฺมึ ปน าเน…เป… อุปฺปาเทตี’’ติ อิทํ โปราณฏฺกถายํ ตถา อาคตตฺตา วุตฺตํ, น สเหตุกโสมนสฺสสหคตจิตฺเตหิ ภควโต สิตํ น โหตีติ ทสฺสนตฺตํ. อภิธมฺมฏีกายํ (ธ. ส. มูลฏี. ๙๖๘) ปน ‘‘อตีตํสาทีสุ อปฺปฏิหตํ าณํ วตฺวา ‘อิเมหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺตี’ติอาทิวจนโต (มหานิ. ๑๕๖; ปฏิ. ม. ๓.๕) ‘ภควโต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’ติ วุตฺตวจนํ วิจาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมินา หสิตุปฺปาทจิตฺเตน ปวตฺติยมานมฺปิ ภควโต สิตกรณํ ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสสพฺพฺุตฺาณานํ อนุวตฺตกตฺตา าณานุปริวตฺติเยวาติ เอวํ ปน าณานุปริวตฺติภาเว สติ น โกจิ ปาฬิอฏฺกถานํ วิโรโธ. ตถา หิ อภิธมฺมฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๖๘) ‘‘เตสํ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อวสฺสฺเจตํ เอวํ อิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา อาวชฺชนจิตฺตสฺสปิ ภควโต ตถารูเป กาเล น ยุชฺเชยฺย. ตสฺสปิ หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาวสฺส นิจฺฉิตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เอวฺจ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตํ อุปปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๑ กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา) น จ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺเต ตํสมุฏฺานกายวิฺตฺติยา กายกมฺมาทิภาวํ อาปชฺชนภาโว วิสฺสชฺชตีติ.
หสิตนฺติ สิตเมว สนฺธาย วทติ. เตนาห ‘‘เอวํ อปฺปมตฺตกมฺปี’’ติ. สโมสริตา วิชฺชุลตา. สา หิ อิตรวิชฺชุลตา วิย ขณฏฺิติยา สีฆนิโรธา จ น โหติ, อปิจ โข ทนฺธนิโรธา, น จ สพฺพกาลิกา. ทีธิติ ปาวกมหาเมฆโต วา จาตุทฺทีปิกมหาเมฆโต วา ¶ นิจฺฉรติ. เตนาห ‘‘จาตุทฺทีปิกมหาเมฆมุขโต’’ติ. อยํ กิร ตาสํ รสฺมีนํ ธมฺมตา, ยทิทํ ติกฺขตฺตุํ สีสํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทาคฺเคสุเยว อนฺตรธานํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
คเวสีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุปาสกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.