📜

(๒๐) ๕. พฺราหฺมณวคฺโค

๑. โสณสุตฺตวณฺณนา

๑๙๑. ปฺจมสฺส ปเม สมฺปิเยเนวาติ อฺมฺเปเมเนว กาเยน จ จิตฺเตน จ มิสฺสีภูตา สงฺฆฏฺฏิตา สํสฏฺา หุตฺวา สํวาสํ วตฺเตนฺติ, น อปฺปิเยน นิคฺคเหน วาติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘ปิย’’นฺติอาทิ. อุทรํ อวทิหติ อุปจิโนติ ปูเรตีติ อุทราวเทหกํ. ภาวนปุํสกฺเจตํ, อุทราวเทหกํ กตฺวา อุทรํ ปูเรตฺวาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อุทรํ อวทิหิตฺวา’’ติอาทิ.

โสณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โทณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา

๑๙๒. ทุติเย ปวตฺตาโรติ (ที. นิ. ฏี. ๑.๒๘๕) ปาวจนภาเวน วตฺตาโร. ยสฺมา เต เตสํ มนฺตานํ ปวตฺตนกา, ตสฺมา อาห ‘‘ปวตฺตยิตาโร’’ติ. สุทฺเท พหิ กตฺวา รโหภาสิตพฺพฏฺเน มนฺตา เอว ตํตํอตฺถปฺปฏิปตฺติเหตุตาย มนฺตปทํ. อนุปนีตาสาธารณตาย รหสฺสภาเวน วตฺตพฺพกิริยาย อธิคมูปายํ. สชฺฌายิตนฺติ คายนวเสน สชฺฌายิตํ. ตํ ปน อุทตฺตานุทตฺตาทีนํ สรานํ สมฺปทาวเสเนว อิจฺฉิตนฺติ อาห ‘‘สรสมฺปตฺติวเสนา’’ติ. อฺเสํ วุตฺตนฺติ ปาวจนภาเวน อฺเสํ วุตฺตํ. สมุปพฺยูฬฺหนฺติ สงฺคเหตฺวา อุปรูปริ สฺูฬฺหํ. ราสิกตนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทาทิวเสน, ตตฺถาปิ ปจฺเจกํ มนฺตพฺรหฺมาทิวเสน, อชฺฌายานุวากาทิวเสน จ ราสิกตํ. เตสนฺติ มนฺตานํ กตฺตูนํ. ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกตฺวาติ ทิพฺพจกฺขุปริภณฺเฑน ยถากมฺมูปคาเณน สตฺตานํ กมฺมสฺสกตาทึ, ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน ทิพฺพจกฺขุสทิเสน ปุพฺเพนิวาสาเณน อตีตกปฺเป พฺราหฺมณานํ มนฺตชฺเฌนวิธิฺจ โอโลเกตฺวา. ปาวจเนน สห สํสนฺเทตฺวาติ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ยํ วจนํ วฏฺฏสนฺนิสฺสิตํ, เตน สห อวิรุทฺธํ กตฺวา. น หิ เตสํ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิโต อตฺโถ ปจฺจกฺโข โหติ. อปราปเรติ อฏฺกาทีหิ อปราปเร ปจฺฉิมา โอกฺกากราชกาลาทีสุ อุปฺปนฺนา. ปกฺขิปิตฺวาติ อฏฺกาทีหิ คนฺถิตมนฺตปเทสุ กิเลสสนฺนิสฺสิตปทานํ ตตฺถ ตตฺถ ปเท ปกฺขิปนํ กตฺวา. วิรุทฺเธ อกํสูติ พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตาทีสุ (สุ. นิ. พฺราหฺมณธมฺมิกสุตฺตํ ๒๘๖ อาทโย) อาคตนเยน สํกิเลสตฺถทีปนโต ปจฺจนีกภูเต อกํสุ.

อุสูนํ อสนกมฺมํ อิสฺสตฺถํ, ธนุสิปฺเปน ชีวิกา. อิธ ปน อิสฺสตฺถํ วิยาติ อิสฺสตฺถํ, สพฺพอาวุธชีวิกาติ อาห ‘‘โยธาชีวกมฺเมนา’’ติ, อาวุธํ คเหตฺวา อุปฏฺานกมฺเมนาติ อตฺโถ. ราชโปริสํ นาม วินา อาวุเธน โปโรเหจฺจามจฺจกมฺมาทิราชกมฺมํ กตฺวา ราชุปฏฺานํ. สิปฺปฺตเรนาติ คหิตาวเสเสน หตฺถิอสฺสสิปฺปาทินา. กุมารภาวโต ปภุติ จรเณน โกมารพฺรหฺมจริยํ.

อุทกํ ปาเตตฺวา เทนฺตีติ ทฺวาเร ิตสฺเสว พฺราหฺมณสฺส หตฺเถ อุทกํ อาสิฺจนฺตา ‘‘อิทํ เต, พฺราหฺมณ, ภริยํ โปสาปนตฺถาย เทมา’’ติ วตฺวา เทนฺติ. กสฺมา ปน เต เอวํ พฺรหฺมจริยํ จริตฺวาปิ ทารํ ปริเยสนฺติ, น ยาวชีวํ พฺรหฺมจาริโน โหนฺตีติ? มิจฺฉาทิฏฺิวเสน. เตสฺหี เอวํ ทิฏฺิ โหติ ‘‘โย ปุตฺตํ น อุปฺปาเทติ, โส กุลวํสจฺเฉทกโร โหติ, ตโต นิรเย ปจฺจตี’’ติ. จตฺตาโร กิร อภายิตพฺพํ ภายนฺติ คณฺฑุปฺปาทโก, กิกี, โกนฺตินี, พฺราหฺมโณติ. คณฺฑุปฺปาทา กิร มหาปถวิยา ขยนภเยน มตฺตโภชนา โหนฺติ, น พหุํ มตฺติกํ ขาทนฺติ. กิกี สกุณิกา อากาสปตนภเยน อณฺฑสฺส อุปริ อุตฺตานา เสติ. โกนฺตินี สกุณี ปถวีกมฺปนภเยน ปาเทหิ ภูมึ น สุฏฺุ อกฺกมติ. พฺราหฺมณา กุลวํสูปจฺเฉทภเยน ทารํ ปริเยสนฺติ. อาหุ เจตฺถ –

‘‘คณฺฑุปฺปาโท กิกี เจว, โกนฺตี พฺราหฺมณธมฺมิโก;

เอเต อภยํ ภายนฺติ, สมฺมูฬฺหา จตุโร ชนา’’ติ. (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๒๙๓);

เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.

โทณพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา

๑๙๓. ตติเย (สํ. นิ. ฏี. ๒.๕.๒๓๖) ปมฺเวาติ ปุเรตรํเยว, อสชฺฌายกตานํ มนฺตานํ อปฺปฏิภานํ ปเคว ปมํเยว สิทฺธํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ปริยุฏฺานํ นาม อภิภโว คหณนฺติ อาห ‘‘กามราคปริยุฏฺิเตนาติ กามราคคฺคหิเตนา’’ติ. วิกฺขมฺเภติ อปเนตีติ วิกฺขมฺภนํ, ปฏิปกฺขโต นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ. วิกฺขมฺภนฺจ ตํ นิสฺสรณฺจาติ วิกฺขมฺภนนิสฺสรณํ. เตนาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. อตฺตนา อรณีโย ปตฺตพฺโพ อตฺโถ อตฺตตฺโถ. ตถา ปรตฺโถ เวทิตพฺโพ.

‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๕๒) พฺยาปาทาทีนํ อนาคตตฺตา พฺยาปาทวาเร ตทงฺคนิสฺสรณํ น คหิตํ. กิฺจาปิ น คหิตํ, ปฏิสงฺขานวเสน ตสฺส วิโนเทตพฺพตาย ตทงฺคนิสฺสรณมฺปิ ลพฺภเตวาติ สกฺกา วิฺาตุํ. อาโลกสฺา อุปจารปฺปตฺตา วา อปฺปนาปฺปตฺตา วา. โย โกจิ กสิณชฺฌานาทิเภโท สมโถ. ธมฺมววตฺถานํ อุปจารปฺปนาปฺปตฺตวเสน คเหตพฺพํ.

กุธิโตติ ตตฺโต. อุสฺสูรกชาโตติ ตสฺเสว กุธิตภาวสฺส อุสฺสูรกํ อจฺจุณฺหตํ ปตฺโต. เตนาห ‘‘อุสุมกชาโต’’ติ. ติลพีชกาทิเภเทนาติ ติลพีชกณฺณิกเกสราทิเภเทน เสวาเลน. ปณเกนาติ อุทกปิจฺฉิลฺเลน. อปฺปสนฺโน อากุลตาย. อสนฺนิสินฺโน กลลุปฺปตฺติยา. อนาโลกฏฺาเนติ อาโลกรหิเต าเน.

สงฺคารวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. การณปาลีสุตฺตวณฺณนา

๑๙๔. จตุตฺเถ ปณฺฑิโต มฺเติ เอตฺถ มฺเติ อิทํ ‘‘มฺตี’’ติ อิมินา สมานตฺถํ นิปาตปทํ. ตสฺส อิติ-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปณฺฑิโตติ มฺตี’’ติ อาห. อนุมติปุจฺฉาวเสน เจตํ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อุทาหุ โน’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺติ ภวํ ปิงฺคิยานี สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติย’’นฺติ วุตฺตเมวตฺถํ ปุน คณฺหนฺโต ‘‘ปณฺฑิโต มฺเ’’ติ อาห, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภวํ ปิงฺคิยานี สมณํ โคตมํ ปณฺฑิโตติ มฺติ อุทาหุ โน’’ติ, ยถา เต ขเมยฺย, ตถา นํ กเถหีติ อธิปฺปาโย. อหํ โก นาม, มม อวิสโย เอโสติ ทสฺเสติ. โก จาติ เหตุนิสฺสกฺเก ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘กุโต จา’’ติ. ตถา จาห ‘‘เกน การเณน ชานิสฺสามี’’ติ, เยน การเณน สมณสฺส โคตมสฺส ปฺาเวยฺยตฺติยํ ชาเนยฺยํ , ตํ การณํ มยิ นตฺถีติ อธิปฺปาโย. พุทฺโธเยว ภเวยฺย อพุทฺธสฺส สพฺพถา พุทฺธาณานุภาวํ ชานิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตาติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อปฺปมตฺตกํ ปเนตํ, ภิกฺขเว, โอรมตฺตกํ สีลมตฺตกํ, เยน ปุถุชฺชโน ตถาคตสฺส วณฺณํ วทมาโน วเทยฺย (ที. นิ. ๑.๗). อตฺถิ, ภิกฺขเว, อฺเว ธมฺมา คมฺภีรา ทุทฺทสา ทุรนุโพธา…เป… เยหิ ตถาคตสฺส ยถาภูตํ วณฺณํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺยา’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๘) จ. เอตฺถาติ ‘‘โสปิ นูนสฺส ตาทิโส’’ติ เอตสฺมึ ปเท.

ปสตฺถปฺปสตฺโถติ ปสตฺเถหิ ปาสํเสหิ อตฺตโน คุเณเหว โส ปสตฺโถ, น ตสฺส กิตฺตินา, ปสํสาสภาเวเนว ปาสํโสติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สพฺพคุณาน’’นฺติอาทิ. มณิรตนนฺติ จกฺกวตฺติโน มณิรตนํ.

สเทวเก ปาสํสานมฺปิ ปาสํโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปสตฺเถหิ วา’’ติ ทุติยวิกปฺโป คหิโต. อรณียโต อตฺโถ, โส เอว วสตีติ วโสติ อตฺถวโส. ตสฺส ตสฺส ปโยคสฺส อานิสํสภูตํ ผลนฺติ อาห ‘‘อตฺถวสนฺติ อตฺถานิสํส’’นฺติ. อตฺโถ วา ผลํ ตทธีนวุตฺติตาย วโส เอตสฺสาติ อตฺถวโส, การณํ.

ขุทฺทกมธูติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตทณฺฑกมธุ. อเนฬกนฺติ นิทฺโทสํ อปคตมกฺขิกณฺฑกํ.

อุทาหรียติ อุพฺเพคปีติวเสนาติ อุทานํ, ตถา วา อุทาหรณํ อุทานํ. เตนาห ‘‘อุทาหารํ อุทาหรี’’ติ. ยถา ปน ตํ วจนํ อุทานนฺติ วุจฺจติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

การณปาลีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปิงฺคิยานีสุตฺตวณฺณนา

๑๙๕. ปฺจเม สพฺพสงฺคาหิกนฺติ สรีรคตสฺส เจว วตฺถาลงฺการคตสฺส จาติ สพฺพสฺส นีลภาวสฺส สงฺคาหกวจนํ. ตสฺเสวาติ นีลาทิสพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตอตฺถสฺเสว. วิภาคทสฺสนนฺติ ปเภททสฺสนํ. ยถา เต ลิจฺฉวิราชาโน อปีตาทิวณฺณา เอว เกจิ เกจิ วิเลปนวเสน ปีตาทิวณฺณา ขายึสุ, เอวํ อนีลาทิวณฺณา เอว เกจิ วิเลปนวเสน นีลาทิวณฺณา ขายึสุ. เต กิร สุวณฺณวิจิตฺเตหิ มณิโอภาเสหิ เอกนีลา วิย ขายนฺติ.

โกกนทนฺติ วา ปทุมวิเสสนํ ยถา ‘‘โกกาสก’’นฺติ. ตํ กิร พหุปตฺตํ วณฺณสมฺปนฺนํ อติวิย สุคนฺธฺจ โหติ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ยถา โกกนทสงฺขาตํ ปทุมํ ปาโต สูริยุคฺคมนเวลาย ผุลฺลํ วิกสิตํ อวีตคนฺธํ สิยา วิโรจมานํ, เอวํ สรีรคนฺเธน คุณคนฺเธน จ สุคนฺธํ, สรทกาเล อนฺตลิกฺเข อาทิจฺจมิว อตฺตโน เตชสา ตปนฺตํ, องฺเคหิ นิจฺฉรนฺตชุติตาย องฺคีรสํ สมฺพุทฺธํ ปสฺสาติ.

ปิงฺคิยานีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. มหาสุปินสุตฺตวณฺณนา

๑๙๖. ฉฏฺเ ธาตุกฺโขภกรณปจฺจโย นาม วิสภาคเภสชฺชเสนาสนาหาราทิปจฺจโย. อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วาติ ปสนฺนา อตฺถกามตาย, กุทฺธา อนตฺถกามตาย. อตฺถาย วา อนตฺถาย วาติ สภาวโต ภวิตพฺพาย อตฺถาย วา อนตฺถาย วา. อุปสํหรนฺตีติ อตฺตโน เทวานุภาเวน อุปเนนฺติ. โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตนฺติ ตทา กิร ปุเร ปุณฺณมาย สตฺตมทิวสโต ปฏฺาย วิคตสุราปานํ มาลาคนฺธาทิวิภูติสมฺปนฺนํ นกฺขตฺตกีฬํ อนุภวมานา โพธิสตฺตมาตา สตฺตเม ทิวเส ปาโตว อุฏฺาย คนฺโธทเกน นหายิตฺวา สพฺพาลงฺการภูสิตา วรโภชนํ ภุฺชิตฺวา อุโปสถงฺคานิ อธิฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สิริสยเน นิปนฺนา นิทฺทํ โอกฺกมมานา อิมํ สุปินํ อทฺทส – จตฺตาโร กิร นํ มหาราชาโน สยเนเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา อโนตตฺตทหํ เนตฺวา นหาเปตฺวา ทิพฺพวตฺถํ นิวาเสตฺวา ทิพฺพคนฺเธหิ วิลิมฺเปตฺวา ทิพฺพปุปฺผานิ ปิฬนฺเธตฺวา ตโต อวิทูเร รชตปพฺพโต, ตสฺส อนฺโต กนกวิมานํ อตฺถิ, ตสฺมึ ปาจีนโต สีสํ กตฺวา นิปชฺชาเปสุํ. อถ โพธิสตฺโต เสตวรวารโณ หุตฺวา ตโต อวิทูเร เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตตฺถ จริตฺวา ตโต โอรุยฺห รชตปพฺพตํ อารุหิตฺวา กนกวิมานํ ปวิสิตฺวา มาตรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ผาเลตฺวา กุจฺฉึ ปวิฏฺสทิโส อโหสิ. อิมํ สุปินํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตํ ‘‘โพธิสตฺตมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺต’’นฺติ.

โกสลราชาวิย โสฬส สุปิเนติ –

‘‘อุสภา รุกฺขา คาวิโย ควา จ,

อสฺโส กํโส สิงฺคาลี จ กุมฺโภ;

โปกฺขรณี จ อปากจนฺทนํ,

ลาพูนิ สีทนฺติ สิลาปฺลวนฺติ.

‘‘มณฺฑูกิโย กณฺหสปฺเป คิลนฺติ,

กากํ สุวณฺณา ปริวารยนฺติ;

ตสา วกา เอฬกานํ ภยา หี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๗๗) –

อิเม โสฬส สุปิเน ปสฺสนฺโต โกสลราชา วิย.

. เอกทิวสํ กิร โกสลมหาราชา รตฺตึ นิทฺทูปคโต ปจฺฉิมยาเม โสฬส มหาสุปิเน ปสฺสิ (ชา. อฏฺ. ๑.๑.๗๖ มหาสุปินชาตกวณฺณนา). ตตฺถ จตฺตาโร อฺชนวณฺณา กาฬอุสภา ‘‘ยุชฺฌิสฺสามา’’ติ จตูหิ ทิสาหิ ราชงฺคณํ อาคนฺตฺวา ‘‘อุสภยุทฺธํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ มหาชเน สนฺนิปติเต ยุชฺฌนาการํ ทสฺเสตฺวา นทิตฺวา คชฺชิตฺวา อยุชฺฌิตฺวาว ปฏิกฺกนฺตา. อิมํ ปมํ สุปินํ อทฺทส.

. ขุทฺทกา รุกฺขา เจว คจฺฉา จ ปถวึ ภินฺทิตฺวา วิทตฺถิมตฺตมฺปิ รตนมตฺตมฺปิ อนุคฺคนฺตฺวาว ปุปฺผนฺติ เจว ผลนฺติ จ. อิมํ ทุติยํ อทฺทส.

. คาวิโย ตทหุชาตานํ วจฺฉานํ ขีรํ ปิวนฺติโย อทฺทส. อยํ ตติโย สุปิโน.

. ธุรวาเห อาโรหปริณาหสมฺปนฺเน มหาโคเณ ยุคปรมฺปราย อโยเชตฺวา ตรุเณ โคทมฺเม ธุเร โยเชนฺเต อทฺทส. เต ธุรํ วหิตุํ อสกฺโกนฺตา ฉฑฺเฑตฺวา อฏฺํสุ, สกฏานิ นปฺปวตฺตึสุ. อยํ จตุตฺโถ สุปิโน.

. เอกํ อุภโตมุขํ อสฺสํ อทฺทส. ตสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ ยวสํ เทนฺติ, โส ทฺวีหิปิ มุเขหิ ขาทติ. อยํ ปฺจโม สุปิโน.

. มหาชโน สตสหสฺสคฺฆนิกํ สุวณฺณปาตึ สมฺมชฺชิตฺวา ‘‘อิธ ปสฺสาวํ กโรหี’’ติ เอกสฺส ชรสิงฺคาลสฺส อุปนาเมสิ. ตํ ตตฺถ ปสฺสาวํ กโรนฺตํ อทฺทส. อยํ ฉฏฺโ สุปิโน.

. เอโก ปุริโส รชฺชุํ วฏฺเฏตฺวา ปาทมูเล นิกฺขิปติ. เตน นิสินฺนปีสฺส เหฏฺา สยิตา ฉาตสิงฺคาลี ตสฺส อชานนฺตสฺเสว ตํ ขาทติ. อิมํ สตฺตมํ สุปินํ อทฺทส.

. ราชทฺวาเร พหูหิ ตุจฺฉกุมฺเภหิ ปริวาเรตฺวา ปิตํ เอกํ มหนฺตํ ปูริตกุมฺภํ อทฺทส. จตฺตาโรปิ ปน วณฺณา จตูหิ ทิสาหิ จตูหิ อนุทิสาหิ จ ฆเฏหิ อุทกํ อาเนตฺวา ปูริตกุมฺภเมว ปูเรนฺติ, ปูริตํ ปูริตํ อุทกํ อุตฺตริตฺวา ปลายติ. เตปิ ปุนปฺปุนํ ตตฺเถว อุทกํ อาสิฺจนฺติ, ตุจฺฉกุมฺเภ โอโลเกนฺตาปิ นตฺถิ. อยํ อฏฺโม สุปิโน.

. เอกํ ปฺจปทุมสฺฉนฺนํ คมฺภีรํ สพฺพโตติตฺถํ โปกฺขรณึ อทฺทส. สมนฺตโต ทฺวิปทจตุปฺปทา โอตริตฺวา ตตฺถ ปานียํ ปิวนฺติ. ตสฺส มชฺเฌ คมฺภีรฏฺาเน อุทกํ อาวิลํ, ตีรปฺปเทเส ทฺวิปทจตุปฺปทานํ อกฺกมนฏฺาเน อจฺฉํ วิปฺปสนฺนมนาวิลํ. อยํ นวโม สุปิโน.

๑๐. เอกิสฺสาเยว กุมฺภิยา ปจฺจมานํ โอทนํ อปากํ อทฺทส. ‘‘อปาก’’นฺติ วิจาเรตฺวา วิภชิตฺวา ปิตํ วิย ตีหากาเรหิ ปจฺจมานํ เอกสฺมึ ปสฺเส อติกิลินฺโน โหติ, เอกสฺมึ อุตฺตณฺฑุโล, เอกสฺมึ สุปกฺโกติ. อยํ ทสโม สุปิโน.

๑๑. สตสหสฺสคฺฆนกํ จนฺทนสารํ ปูติตกฺเกน วิกฺกิณนฺเต อทฺทส. อยํ เอกาทสโม สุปิโน.

๑๒. ตุจฺฉลาพูนิ อุทเก สีทนฺตานิ อทฺทส. อยํ ทฺวาทสโม สุปิโน.

๑๓. มหนฺตมหนฺตา กูฏาคารปฺปมาณา ฆนสิลา นาวา วิย อุทเก ปฺลวมานา อทฺทส. อยํ เตรสโม สุปิโน.

๑๔. ขุทฺทกมธุกปุปฺผปฺปมาณา มณฺฑูกิโย มหนฺเต กณฺหสปฺเป เวเคน อนุพนฺธิตฺวา อุปฺปลนาเฬ วิย ฉินฺทิตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา คิลนฺติโย อทฺทส. อยํ จุทฺทสโม สุปิโน.

๑๕. ทสหิ อสทฺธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ คามโคจรํ กากํ กฺจนวณฺณวณฺณตาย ‘‘สุวณฺณา’’ติ ลทฺธนาเม สุวณฺณราชหํเส ปริวาเรนฺเต อทฺทส. อยํ ปนฺนรสโม สุปิโน.

๑๖. ปุพฺเพ ทีปิโน เอฬเก ขาทนฺติ. เต ปน เอฬเก ทีปิโน อนุพนฺธิตฺวา มุรมุราติ ขาทนฺเต อทฺทส. อถฺเ ตสา วกา เอฬเก ทูรโตว ทิสฺวา ตสิตา ตาสปฺปตฺตา หุตฺวา เอฬกานํ ภยา ปลายิตฺวา คุมฺพคหนานิ ปวิสิตฺวา นิลียึสุ. อยํ โสฬสโม สุปิโน.

. ตตฺถ อธมฺมิกานํ ราชูนํ, อธมฺมิกานฺจ มนุสฺสานํ กาเล โลเก วิปริวตฺตมาเน กุสเล โอสนฺเน อกุสเล อุสฺสนฺเน โลกสฺส ปริหานกาเล เทโว น สมฺมา วสิสฺสติ, เมฆปาทา ปจฺฉิชฺชิสฺสนฺติ, สสฺสานิ มิลายิสฺสนฺติ, ทุพฺภิกฺขํ ภวิสฺสติ, วสฺสิตุกามา วิย จตูหิ ทิสาหิ เมฆา อุฏฺหิตฺวา อิตฺถิกาหิ อาตเป ปตฺถฏานํ วีหิอาทีนํ เตมนภเยน อนฺโตปเวสิตกาเล ปุริเสสุ กุทาลปิฏเก อาทาย อาฬิพนฺธนตฺถาย นิกฺขนฺเตสุ วสฺสนาการํ ทสฺเสตฺวา คชฺชิตฺวา วิชฺชุลตา นิจฺฉาเรตฺวา อุสภา วิย อยุชฺฌิตฺวา อวสฺสิตฺวาว ปลายิสฺสนฺติ. อยํ ปมสฺส วิปาโก.

. โลกสฺส ปริหีนกาเล มนุสฺสานํ ปริตฺตายุกกาเล สตฺตา ติพฺพราคา ภวิสฺสนฺติ, อสมฺปตฺตวยาว กุมาริโย ปุริสนฺตรํ คนฺตฺวา อุตุนิโย เจว คพฺภินิโย จ หุตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิสฺสนฺติ. ขุทฺทกรุกฺขานํ ปุปฺผํ วิย หิ ตาสํ อุตุนิภาโว, ผลํ วิย จ ปุตฺตธีตโร ภวิสฺสนฺติ. อยํ ทุติยสฺส วิปาโก.

. มนุสฺสานํ เชฏฺาปจายิกกมฺมสฺส นฏฺกาเล สตฺตา มาตาปิตูสุ วา สสฺสุสสุเรสุ วา ลชฺชํ อนุปฏฺเปตฺวา สยเมว กุฏุมฺพํ สํวิทหนฺตาว ฆาสจฺฉาทนมตฺตมฺปิ มหลฺลกานํ ทาตุกามา ทสฺสนฺติ, อทาตุกามา น ทสฺสนฺติ. มหลฺลกา อนาถา หุตฺวา อสยํวสี ทารเก อาราเธตฺวา ชีวิสฺสนฺติ ตทหุชาตานํ วจฺฉกานํ ขีรํ ปิวนฺติโย มหาคาวิโย วิย. อยํ ตติยสฺส วิปาโก.

. อธมฺมิกราชูนํ กาเล อธมฺมิกราชาโน ปณฺฑิตานํ ปเวณิกุสลานํ กมฺมนิตฺถรณสมตฺถานํ มหามตฺตานํ ยสํ น ทสฺสนฺติ, ธมฺมสภายํ วินิจฺฉยฏฺาเนปิ ปณฺฑิเต โวหารกุสเล มหลฺลเก อมจฺเจ น เปสฺสนฺติ, ตพฺพิปรีตานํ ปน ตรุณตรุณานํ ยสํ ทสฺสนฺติ, ตถารูเป เอว จ วินิจฺฉยฏฺาเน เปสฺสนฺติ. เต ราชกมฺมานิ เจว ยุตฺตายุตฺตฺจ อชานนฺตา เนว ตํ ยสํ อุกฺขิปิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, น ราชกมฺมานิ นิตฺถริตุํ. เต อสกฺโกนฺตา กมฺมธุรํ ฉฑฺเฑสฺสนฺติ, มหลฺลกาปิ ปณฺฑิตามจฺจา ยสํ อลภนฺตา กิจฺจานิ นิตฺถริตุํ สมตฺถาปิ ‘‘กึ อมฺหากํ เอเตหิ, มยํ พาหิรกา ชาตา, อพฺภนฺตริกา ตรุณทารกา ชานิสฺสนฺตี’’ติ อุปฺปนฺนานิ กมฺมานิ น กริสฺสนฺติ. เอวํ สพฺพถาปิ เตสํ ราชูนํ หานิเยว ภวิสฺสติ, ธุรํ วหิตุํ อสมตฺถานํ วจฺฉทมฺมานํ ธุเร โยชิตกาโล วิย ทูรวาหานฺจ มหาโคณานํ ยุคปรมฺปราย อโยชิตกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ จตุตฺถสฺส วิปาโก.

. อธมฺมิกราชกาเลเยว อธมฺมิกพาลราชาโน อธมฺมิเก โลลมนุสฺเส วินิจฺฉเย เปสฺสนฺติ, เต ปาปปุฺเสุ อนาทรา พาลา สภายํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉยํ เทนฺตา อุภินฺนมฺปิ อตฺถปจฺจตฺถิกานํ หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา ขาทิสฺสนฺติ อสฺโส วิย ทฺวีหิ มุเขหิ ยวสํ. อยํ ปฺจมสฺส วิปาโก.

. อธมฺมิกาเยว วิชาติราชาโน ชาติสมฺปนฺนานํ กุลปุตฺตานํ อาสงฺกาย ยสํ น ทสฺสนฺติ, อกุลีนานํเยว ทสฺสนฺติ. เอวํ มหากุลานิ ทุคฺคตานิ ภวิสฺสนฺติ, ลามกกุลานิ อิสฺสรานิ. เต จ กุลีนปุริสา ชีวิตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘อิเม นิสฺสาย ชีวิสฺสามา’’ติ อกุลีนานํ ธีตโร ทสฺสนฺติ, อิติ ตาสํ กุลธีตานํ อกุลีเนหิ สทฺธึ สํวาโส ชรสิงฺคาลสฺส สุวณฺณปาติยํ ปสฺสาวกรณสทิโส ภวิสฺสติ. อยํ ฉฏฺสฺส วิปาโก.

. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล อิตฺถิโย ปุริสโลลา สุราโลลา อลงฺการโลลา วิสิขาโลลา อามิสโลลา ภวิสฺสนฺติ ทุสฺสีลา ทุราจารา. ตา สามิเกหิ กสิโครกฺขาทีนิ กมฺมานิ กตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน สมฺภตํ ธนํ ชาเรหิ สทฺธึ สุรํ ปิวนฺติโย มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยมานา อนฺโตเคเห อจฺจายิกมฺปิ กิจฺจํ อโนโลเกตฺวา เคหปริกฺเขปสฺส อุปริภาเคนปิ ฉิทฺทฏฺาเนหิปิ ชาเร อุปธารยมานา สฺเว วปิตพฺพยุตฺตกํ พีชมฺปิ โกฏฺเฏตฺวา ยาคุภตฺตขชฺชกานิ ปจิตฺวา ขาทมานา วิลุมฺปิสฺสนฺติ เหฏฺาปีเก นิปนฺนฉาตสิงฺคาลี วิย วฏฺเฏตฺวา วฏฺเฏตฺวา ปาทมูเล นิกฺขิตฺตรชฺชุํ. อยํ สตฺตมสฺส วิปาโก.

. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล โลโก ปริหายิสฺสติ, รฏฺํ นิโรชํ ภวิสฺสติ, ราชาโน ทุคฺคตา กปณา ภวิสฺสนฺติ. โย อิสฺสโร ภวิสฺสติ, ตสฺส ภณฺฑาคาเร สตสหสฺสมตฺตา ภวิสฺสนฺติ. เต เอวํทุคฺคตา สพฺเพ ชานปเท อตฺตโนว กมฺมํ กาเรสฺสนฺติ, อุปทฺทุตา มนุสฺสา สเก กมฺมนฺเต ฉฑฺเฑตฺวา ราชูนํเยว อตฺถาย ปุพฺพณฺณาปรณฺณานิ วปนฺตา รกฺขนฺตา ลายนฺตา มทฺทนฺตา ปเวเสนฺตา อุจฺฉุกฺเขตฺตานิ กโรนฺตา ยนฺตานิ วาเหนฺตา ผาณิตาทีนิ ปจนฺตา ปุปฺผาราเม ผลาราเม จ กโรนฺตา ตตฺถ ตตฺถ นิปฺผนฺนานิ ปุพฺพณฺณาทีนิ อาหริตฺวา รฺโ โกฏฺาคารเมว ปูเรสฺสนฺติ. อตฺตโน เคเหสุ ตุจฺฉโกฏฺเ โอโลเกนฺตาปิ น ภวิสฺสนฺติ, ตุจฺฉกุมฺเภ อโนโลเกตฺวา ปูริตกุมฺภปูรณสทิสเมว ภวิสฺสติ. อยํ อฏฺมสฺส วิปาโก.

. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ราชาโน อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, ฉนฺทาทิวเสน อคตึ คจฺฉนฺตา รชฺชํ กาเรสฺสนฺติ, ธมฺเมน วินิจฺฉยํ นาม น ทสฺสนฺติ ลฺชวิตฺตกา ภวิสฺสนฺติ ธนโลลา, รฏฺวาสิเกสุ เตสํ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยา นาม น ภวิสฺสนฺติ, กกฺขฬา ผรุสา อุจฺฉุยนฺเต อุจฺฉุภณฺฑิกา วิย มนุสฺเส ปีเฬนฺตา นานปฺปการํ พลึ อุปฺปาเทตฺวา ธนํ คณฺหิสฺสนฺติ. มนุสฺสา พลิปีฬิตา กิฺจิ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา คามนิคมาทโย ฉฑฺเฑตฺวา ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา วาสํ กปฺเปสฺสนฺติ. มชฺฌิมชนปโท สุฺโ ภวิสฺสติ, ปจฺจนฺโต ฆนวาโส เสยฺยถาปิ โปกฺขรณิยา มชฺเฌ อุทกํ อาวิลํ ปริยนฺเต วิปฺปสนฺนํ. อยํ นวมสฺส วิปาโก.

๑๐. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ราชาโน อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ, เตสุ อธมฺมิเกสุ ราชยุตฺตาปิ พฺราหฺมณคหปติกาปิ เนคมชานปทาปีติ สมณพฺราหฺมเณ อุปาทาย สพฺเพ มนุสฺสา อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ. ตโต เตสํ อารกฺขเทวตา, พลิปฏิคฺคาหิกเทวตา, รุกฺขเทวตา, อากาสฏฺเทวตาติ เอวํ เทวตาปิ อธมฺมิกา ภวิสฺสนฺติ. อธมฺมิกราชูนํ รชฺเช วาตา วิสมา ขรา วายิสฺสนฺติ, เต อากาสฏฺกวิมานานิ กมฺเปสฺสนฺติ. เตสุ กมฺปิเตสุ เทวตา กุปิตา เทวํ วสฺสิตุํ น ทสฺสนฺติ. วสฺสมาโนปิ สกลรฏฺเ เอกปฺปหาเรเนว น วสฺสิสฺสติ, วสฺสมาโนปิ สพฺพตฺถ กสิกมฺมสฺส วา วปฺปกมฺมสฺส วา อุปกาโร หุตฺวา น วสฺสิสฺสติ. ยถา จ รฏฺเ, เอวํ ชนปเทปิ คาเมปิ เอกตฬากสเรปิ เอกปฺปหาเรน น วสฺสิสฺสติ, ตฬากสฺส อุปริภาเค วสฺสนฺโต เหฏฺาภาเค น วสฺสิสฺสติ, เหฏฺา วสฺสนฺโต อุปริ น วสฺสิสฺสติ. เอกสฺมึ ภาเค สสฺสํ อติวสฺเสน นสฺสิสฺสติ, เอกสฺมึ อวสฺสเนน มิลายิสฺสติ, เอกสฺมึ สมฺมา วสฺสมาโน สมฺปาเทสฺสติ. เอวํ เอกสฺส รฺโ รชฺเช วุตฺตสสฺสา วิปาโก. ติปฺปการา ภวิสฺสนฺติ เอกกุมฺภิยา โอทโน วิย. อยํ ทสมสฺส วิปาโก.

๑๑. คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเตเยว กาเล สาสเน ปริหายนฺเต ปจฺจยโลลา อลชฺชิกา พหู ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ. เต ภควตา ปจฺจยโลลุปฺปํ นิมฺมเถตฺวา กถิตธมฺมเทสนํ จีวราทิจตุปจฺจยเหตุ ปเรสํ เทเสสฺสนฺติ. ปจฺจเยหิ มุจฺฉิตฺวา นิตฺถรณปกฺเข ิตา นิพฺพานาภิมุขํ กตฺวา เทเสตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. เกวลํ ‘‘ปทพฺยฺชนสมฺปตฺติฺเจว มธุรสทฺทฺจ สุตฺวา มหคฺฆานิ จีวราทีนิ ทสฺสนฺติ’’อิจฺเจวํ เทเสสฺสนฺติ. อปเร อนฺตรวีถิจตุกฺกราชทฺวาราทีสุ นิสีทิตฺวา กหาปณอฑฺฒกหาปณปาทมาสกรูปาทีนิปิ นิสฺสาย เทเสสฺสนฺติ. อิติ ภควตา นิพฺพานคฺฆนกํ กตฺวา เทสิตํ ธมฺมํ จตุปจฺจยตฺถาย เจว กหาปณาทิอตฺถาย จ วิกฺกิณิตฺวา เทเสนฺตา สตสหสฺสคฺฆนกํ จนฺทนสารํ ปูติตกฺเกน วิกฺกิณนฺตา วิย ภวิสฺสนฺติ. อยํ เอกาทสมสฺส วิปาโก.

๑๒. อธมฺมิกราชกาเล โลเก วิปริวตฺตนฺเตเยว ราชาโน ชาติสมฺปนฺนานํ กุลปุตฺตานํ ยสํ น ทสฺสนฺติ, อกุลีนานฺเว ทสฺสนฺติ. เต อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, อิตรา ทลิทฺทา. ราชสมฺมุเขปิ ราชทฺวาเรปิ อมจฺจสมฺมุเขปิ วินิจฺฉยฏฺาเนปิ ตุจฺฉลาพุสทิสานํ อกุลีนานํเยว กถา โอสีทิตฺวา ิตา วิย นิจฺจลา สุปฺปติฏฺิตา ภวิสฺสติ. สงฺฆสนฺนิปาเตปิ สงฺฆกมฺมคณกมฺมฏฺาเนสุ เจว ปตฺตจีวรปริเวณาทิวินิจฺฉยฏฺาเนสุ จ ทุสฺสีลานํ ปาปปุคฺคลานํเยว กถา นิยฺยานิกา ภวิสฺสติ, น ลชฺชิภิกฺขูนนฺติ เอวํ สพฺพตฺถาปิ ตุจฺฉลาพูนํ สีทนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ ทฺวาทสมสฺส วิปาโก.

๑๓. ตาทิเสเยว กาเล อธมฺมิกราชาโน อกุลีนานํ ยสํ ทสฺสนฺติ. เต อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, กุลีนา ทุคฺคตา. เตสุ น เกจิ คารวํ กริสฺสนฺติ, อิตเรสุเยว กริสฺสนฺติ. ราชสมฺมุเข วา อมจฺจสมฺมุเข วา วินิจฺฉยฏฺาเน วา วินิจฺฉยกุสลานํ ฆนสิลาสทิสานํ กุลปุตฺตานํ กถา น โอคาหิตฺวา ปติฏฺหิสฺสติ. เตสุ กเถนฺเตสุ ‘‘กึ อิเม กเถนฺตี’’ติ อิตเร ปริหาสเมว กริสฺสนฺติ. ภิกฺขุสนฺนิปาเตปิ วุตฺตปฺปกาเรสุ าเนสุ เนว เปสเล ภิกฺขู ครุกาตพฺเพ มฺิสฺสนฺติ, นาปิ เนสํ กถา ปริโยคาหิตฺวา ปติฏฺหิสฺสติ, สิลานํ ปฺลวนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ เตรสมสฺส วิปาโก.

๑๔. โลเก ปริหายนฺเตเยว มนุสฺสา ติพฺพราคาทิชาติกา กิเลสานุวตฺตกา หุตฺวา ตรุณานํ อตฺตโน ภริยานํ วเส วตฺติสฺสนฺติ. เคเห ทาสกมฺมการาทโยปิ โคมหึสาทโยปิ หิรฺสุวณฺณมฺปิ สพฺพํ ตาสํเยว อายตฺตํ ภวิสฺสติ. ‘‘อสุกํ หิรฺสุวณฺณํ วา ปริจฺฉทาทิชาตํ วา กห’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ยตฺถ วา ตตฺถ วา โหตุ, กึ ตุยฺหิมินา พฺยาปาเรน, ตฺวํ มยฺหํ ฆเร สนฺตํ วา อสนฺตํ วา ชานิตุกาโม ชาโต’’ติ วตฺวา นานปฺปกาเรหิ อกฺโกสิตฺวา มุขสตฺตีหิ โกฏฺเฏตฺวา ทาสเจฏเก วิย วเส กตฺวา อตฺตโน อิสฺสริยํ ปวตฺเตสฺสนฺติ. เอวํ มธุกปุปฺผปฺปมาณานํ มณฺฑูกีนํ อาสิวิเส กณฺหสปฺเป คิลนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ จุทฺทสมสฺส วิปาโก.

๑๕. ทุพฺพลราชกาเล ปน ราชาโน หตฺถิสิปฺปาทีสุ อกุสลา ยุทฺเธสุ อวิสารทา ภวิสฺสนฺติ. เต อตฺตโน ราชาธิปจฺจํ อาสงฺกมานา สมานชาติกานํ กุลปุตฺตานํ อิสฺสริยํ อทตฺวา อตฺตโน ปาทมูลิกนหาปนกปฺปกาทีนํ ทสฺสนฺติ. ชาติโคตฺตสมฺปนฺนา กุลปุตฺตา ราชกุเล ปติฏฺํ อลภมานา ชีวิกํ กปฺเปตุํ อสมตฺถา หุตฺวา อิสฺสริเย ิเต ชาติโคตฺตหีเน อกุลีเน อุปฏฺหนฺตา วิจริสฺสนฺติ, สุวณฺณราชหํเสหิ กากสฺส ปริวาริตกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ ปนฺนรสมสฺส วิปาโก.

๑๖. อธมฺมิกราชกาเลเยว จ อกุลีนาว ราชวลฺลภา อิสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, กุลีนา อปฺาตา ทุคฺคตา. เต ราชานํ อตฺตโน กถํ คาหาเปตฺวา วินิจฺฉยฏฺานาทีสุ พลวนฺโต หุตฺวา ทุพฺพลานํ ปเวณิอาคตานิ เขตฺตวตฺถาทีนิ ‘‘อมฺหากํ สนฺตกานี’’ติ อภิยุฺชิตฺวา เต ‘‘น ตุมฺหากํ, อมฺหาก’’นฺติ อาคนฺตฺวา วินิจฺฉยฏฺานาทีสุ วิวทนฺเต เวตฺตลตาทีหิ ปหราเปตฺวา คีวายํ คเหตฺวา อปกฑฺฒาเปตฺวา ‘‘อตฺตโน ปมาณํ น ชานาถ, อมฺเหหิ สทฺธึ วิวทถ, อิทานิ โว ปหราเปตฺวา รฺโ กเถตฺวา หตฺถปาทจฺเฉทาทีนิ กาเรสฺสามา’’ติ สนฺตชฺเชสฺสนฺติ. เต เตสํ ภเยน อตฺตโน สนฺตกานิ วตฺถูนิ ‘‘ตุมฺหากํเยว ตานิ, คณฺหถา’’ติ นิยฺยาเตตฺวา อตฺตโน เคหานิ ปวิสิตฺวา ภีตา นิปชฺชิสฺสนฺติ. ปาปภิกฺขูปิ เปสเล ภิกฺขู ยถารุจิ วิเหเสฺสนฺติ. เปสลา ภิกฺขู ปฏิสรณํ อลภมานา อรฺํ ปวิสิตฺวา คหนฏฺาเนสุ นิลียิสฺสนฺติ. เอวํ หีนชจฺเจหิ เจว ปาปภิกฺขูหิ จ อุปทฺทุตานํ ชาติมนฺตกุลปุตฺตานฺเจว เปสลภิกฺขูนฺจ เอฬกานํ ภเยน ตสวกานํ ปลายนกาโล วิย ภวิสฺสติ. อยํ โสฬสมสฺส วิปาโก. เอวํ ตสฺส ตสฺส อนตฺถสฺส ปุพฺพนิมิตฺตภูเต โสฬส มหาสุปิเน ปสฺสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเน’’ติ. เอตฺถ จ ปุพฺพนิมิตฺตโต อตฺตโน อตฺถานตฺถนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต อตฺตโน กมฺมานุภาเวน ปสฺสติ. โกสลราชา วิย โลกสฺส อตฺถานตฺถนิมิตฺตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต ปน สพฺพสตฺตสาธารณกมฺมานุภาเวน ปสฺสตีติ เวทิตพฺพํ.

กุทฺธา หิ เทวตาติ มหานาควิหาเร มหาเถรสฺส กุทฺธา เทวตา วิย. โรหเณ กิร มหานาควิหาเร มหาเถโร ภิกฺขุสงฺฆํ อนปโลเกตฺวาว เอกํ นาครุกฺขํ ฉินฺทาเปสิ. รุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา เถรสฺส กุทฺธา ปมเมว นํ สจฺจสุปิเนน ปโลเภตฺวา ปจฺฉา ‘‘อิโต เต สตฺตทิวสมตฺถเก อุปฏฺาโก ราชา มริสฺสตี’’ติ สุปิเน อาโรเจสิ. เถโร ตํ กถํ อาหริตฺวา ราโชโรธานํ อาจิกฺขิ. ตา เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ วิรวึสุ. ราชา ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ตา ‘‘เอวํ เถเรน วุตฺต’’นฺติ อาโรจยึสุ. ราชา ทิวสํ คณาเปตฺวา สตฺตาเห วีติวตฺเต เถรสฺส หตฺถปาเท ฉินฺทาเปสิ. เอกนฺตํ สจฺจเมว โหตีติ ผลสฺส สจฺจภาวโต วุตฺตํ, ทสฺสนํ ปน วิปลฺลตฺถเมว . เตเนว ปหีนวิปลฺลาสา ปุพฺพนิมิตฺตภูตมฺปิ สุปินํ น ปสฺสนฺติ. ทฺวีหิ ตีหิปิ การเณหิ กทาจิ สุปินํ ปสฺสตีติ อาห ‘‘สํสคฺคเภทโต’’ติ. ‘‘อเสขา น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา’’ติ วจนโต จตุนฺนมฺปิ การณานํ วิปลฺลาสา เอว มูลการณนฺติ ทฏฺพฺพํ.

นฺติ สุปินกาเล ปวตฺตํ ภวงฺคจิตฺตํ. รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณนฺติ กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตโต อฺํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ น โหติ. อีทิสานีติ ปจฺจกฺขโต อนุภูตปุพฺพปริกปฺปิตรูปาทิอารมฺมณานิ เจว ราคาทิสมฺปยุตฺตานิ จ. สพฺโพหาริกจิตฺเตนาติ ปกติจิตฺเตน.

ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโตติ กุสลากุสลสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต. อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณติ อิทํ ยาว ตทารมฺมณุปฺปตฺติ, ตาว ปวตฺตจิตฺตวารํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘สุปิเนเนว ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เมติ กถนกาเล ปน อพฺยากโตเยว อาวชฺชนมตฺตสฺเสว อุปฺปชฺชนโต’’ติ วทนฺติ. เอวํ วทนฺเตหิ ปฺจทฺวาเร ทุติยโมฆวาเร วิย มโนทฺวาเรปิ อาวชฺชนํ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ชวนฏฺาเน ตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อธิปฺเปตนฺติ ทฏฺพฺพํ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส อาวชฺชนสฺส อุปฺปตฺติยํ ‘‘ทิฏฺํ วิย เม, สุตํ วิย เม’’ติ กปฺปนาย อสมฺภวโต. เอตฺถ จ ‘‘สุปินนฺเตปิ ตทารมฺมณวจนโต ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อตีตวเสน วา สภาวธมฺมา สุปินนฺเต อารมฺมณํ โหนฺตี’’ติ วทนฺติ. ‘‘ยทิปิ สุปินนฺเต วิภูตํ หุตฺวา อุปฏฺิเต รูปาทิวตฺถุมฺหิ ตทารมฺมณํ วุตฺตํ, ตถาปิ สุปินนฺเต อุปฏฺิตนิมิตฺตสฺส ปริกปฺปวเสน คเหตพฺพตาย ทุพฺพลภาวโต ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘กรชกายสฺส นิรุสฺสาหสนฺตภาวปฺปตฺติโต ตนฺนิสฺสิตหทยวตฺถุ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตโต ตนฺนิสฺสิตาปิ จิตฺตปฺปวตฺติ น สุปฺปสนฺนา อสุปฺปสนฺนวฏฺฏินิสฺสิตทีปปฺปภา วิย, ตสฺมา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ เอตฺถ ทุพฺพลหทยวตฺถุกตฺตา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. วีมํสิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ.

สุปินนฺตเจตนาติ มโนทฺวาริกชวนวเสน ปวตฺตา สุปินนฺตเจตนา. สุปินฺหิ ปสฺสนฺโต มโนทฺวาริเกเนว ชวเนน ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน. ปฏิพุชฺฌนฺโต จ มโนทฺวาริเกเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. นิทฺทายนฺตสฺส หิ มหาวฏฺฏึ ชาเลตฺวา ทีเป จกฺขุสมีปํ อุปนีเต ปมํ จกฺขุทฺวาริกํ อาวชฺชนํ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ. อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร จกฺขุทฺวาริกอาวชฺชนํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ , ตโต จกฺขุวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ ปวตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ. เตน จิตฺเตน ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน อาโลโก’’ติ ชานาติ. ตถา นิทฺทายนฺตสฺส กณฺณสมีเป ตูริเยสุ ปคฺคหิเตสุ , ฆานสมีเป สุคนฺเธสุ วา ทุคฺคนฺเธสุ วา ปุปฺเผสุ อุปนีเตสุ, มุเข สปฺปิมฺหิ วา ผาณิเต วา ปกฺขิตฺเต, ปิฏฺิยํ ปาณินา ปหาเร ทินฺเน ปมํ โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ น อาวฏฺเฏนฺติ, มโนทฺวาริกเมว อาวฏฺเฏติ, อถ ชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร โสตทฺวาริกาทีนิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏนฺติ, ตโต โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณาทีนิ ชวนปริโยสานานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ภวงฺคํ วตฺตติ. ตติยวาเร มโนทฺวาริกอาวชฺชเนน ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต มโนทฺวาริกชวนํ ชวติ, เตน จิตฺเตน ตฺวา ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน สทฺโท, สงฺขสทฺโท เภริสทฺโท’’ติ วา ‘‘กึ อยํ อิมสฺมึ าเน คนฺโธ, มูลคนฺโธ’’ติ วา ‘‘กึ อิทํ มยฺหํ มุขํ ปกฺขิตฺตํ, สปฺปีติ วา ผาณิต’’นฺติ วา ‘‘เกนมฺหิ ปิฏฺิยํ ปหโฏ, อติพทฺโธ เม ปหาโร’’ติ วา วตฺตา โหติ. เอวํ มโนทฺวาริกชวเนเนว ปฏิพุชฺฌติ, น ปฺจทฺวาริเกน. สุปินมฺปิ เตเนว ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.

มหาสุปินสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วสฺสสุตฺตวณฺณนา

๑๙๗. สตฺตเม อุตุสมุฏฺานนฺติ วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส อุปฺปนฺนํ. อกาเลปีติ จิตฺตเวสาขมาเสสุปิ. วสฺสวลาหกเทวปุตฺตานฺหิ อตฺตโน รติยา กีฬิตุกามตาจิตฺเต อุปฺปนฺเน อกาเลปิ เทโว วสฺสติ. ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร วสฺสวลาหกเทวปุตฺโต วากรกุฏกวาสิขีณาสวตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. เถโร ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. อหํ, ภนฺเต, วสฺสวลาหกเทวปุตฺโตติ. ตุมฺหากํ กิร จิตฺเตน เทโว วสฺสตีติ. อาม, ภนฺเตติ. ปสฺสิตุกามา มยนฺติ. เตมิสฺสถ, ภนฺเตติ. เมฆสีสํ วา คชฺชิตํ วา น ปฺายติ, กถํ เตมิสฺสามาติ. ภนฺเต, อมฺหากํ จิตฺเตน เทโว วสฺสติ, ตุมฺเห ปณฺณสาลํ ปวิสถาติ. ‘‘สาธุ, เทวปุตฺตา’’ติ ปาเท โธวิตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ. เทวปุตฺโต ตสฺมึ ปวิสนฺเตเยว เอกํ คีตํ คายิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิ, สมนฺตา ติโยชนฏฺานํ เอกเมฆํ อโหสิ. เถโร อทฺธตินฺโต ปณฺณสาลํ ปวิฏฺโติ.

วสฺสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘-๙. วาจาสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๙๘-๙. อฏฺเม องฺเคหีติ การเณหิ. องฺคียนฺติ เหตุภาเวน ายนฺตีติ องฺคานิ, การณานิ. การณตฺเถ จ องฺค-สทฺโท. ปฺจหีติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. สมนฺนาคตาติ สมนุอาคตา ปวตฺตา ยุตฺตา จ. วาจาติ สมุลฺลปน-วาจา. ยา ‘‘วาจา คิรา พฺยปฺปโถ’’ติ (ธ. ส. ๖๓๖) จ, ‘‘เนลา กณฺณสุขา’’ติ (ที. นิ. ๑.๙) จ อาคจฺฉติ. ยา ปน ‘‘วาจาย เจ กตํ กมฺม’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กายกมฺมทฺวาร) เอวํ วิฺตฺติ จ, ‘‘ยา จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ…เป… อยํ วุจฺจติ สมฺมาวาจา’’ติ (ธ. ส. ๒๙๙) เอวํ วิรติ จ, ‘‘ผรุสวาจา, ภิกฺขเว, อาเสวิตา ภาวิตา พหุลีกตา นิรยสํวตฺตนิกา โหตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๔๐) เอวํ เจตนา จ วาจาติ อาคตา, น สา อิธ อธิปฺเปตา. กสฺมา? อภาสิตพฺพโต. ‘‘สุภาสิตา โหติ, โน ทุพฺภาสิตา’’ติ หิ วุตฺตํ. สุภาสิตาติ สุฏฺุ ภาสิตา. เตนสฺสา อตฺถาวหตํ ทีเปติ. อนวชฺชาติ ราคาทิอวชฺชรหิตา. อิมินาสฺส การณสุทฺธึ อคติคมนาทิปฺปวตฺตโทสาภาวฺจ ทีเปติ. ราคโทสาทิวิมุตฺตฺหิ ยํ ภาสโต อนุโรธวิวชฺชนโต อคติคมนํ ทุรสมุสฺสิตเมวาติ. อนนุวชฺชาติ อนุวาทวิมุตฺตา. อิมินาสฺสา สพฺพาการสมฺปตฺตึ ทีเปติ. สติ หิ สพฺพาการสมฺปตฺติยํ อนนุวชฺชตาติ. วิฺูนนฺติ ปณฺฑิตานํ. เตน นินฺทาปสํสาสุ พาลา อปฺปมาณาติ ทีเปติ.

อิเมหิ โขติอาทีนิ ตานิ องฺคานิ ปจฺจกฺขโต ทสฺเสนฺโต ตํ วาจํ นิคเมติ. ยฺจ อฺเ ปฏิฺาทีหิ อวยเวหิ, นามาทีหิ ปเทหิ, ลิงฺควจนวิภตฺติกาลการกสมฺปตฺตีหิ จ สมนฺนาคตํ มุสาวาทาทิวาจมฺปิ สุภาสิตนฺติ มฺนฺติ, ตํ ปฏิเสเธติ. อวยวาทิสมนฺนาคตาปิ หิ ตถารูปี วาจา ทุพฺภาสิตาว โหติ อตฺตโน จ ปเรสฺจ อนตฺถาวหตฺตา. อิเมหิ ปน ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตา สเจปิ มิลกฺขุภาสาปริยาปนฺนา ฆฏเจฏิกาคีติกปริยาปนฺนาปิ โหติ, ตถาปิ สุภาสิตาว โลกิยโลกุตฺตรหิตสุขาวหตฺตา. ตถา หิ มคฺคปสฺเส สสฺสํ รกฺขนฺติยา สีหฬเจฏิกาย สีหฬเกเนว ชาติชรามรณยุตฺตํ คีติกํ คายนฺติยา สทฺทํ สุตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตา สฏฺิมตฺตา วิปสฺสกภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

ตถา ติสฺโส นาม อารทฺธวิปสฺสโก ภิกฺขุ ปทุมสฺสรสมีเปน คจฺฉนฺโต ปทุมสฺสเร ปทุมานิ ภฺชิตฺวา –

‘‘ปาโตว ผุลฺลิตโกกนทํ,

สูริยาโลเกน ภิชฺชิยเต;

เอวํ มนุสฺสตฺตํ คตา สตฺตา,

ชราภิเวเคน มทฺทียนฺตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๔๕๒ สุภาสิตสุตฺตวณฺณนา) –

อิมํ คีตึ คายนฺติยา เจฏิกาย สุตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต.

พุทฺธนฺตเรปิ อฺตโร ปุริโส สตฺตหิ ปุตฺเตหิ สทฺธึ อฏวิโต อาคมฺม อฺตราย อิตฺถิยา มุสเลน ตณฺฑุเล โกฏฺเฏนฺติยา –

‘‘ชราย ปริมทฺทิตํ เอตํ, มิลาตจมฺมนิสฺสิตํ;

มรเณน ภิชฺชติ เอตํ, มจฺจุสฺส ฆาสมามิสํ.

‘‘กิมีนํ อาลยํ เอตํ, นานากุณเปน ปูริตํ;

อสุจิภาชนํ เอตํ, ตทลิกฺขนฺธสมํ อิท’’นฺติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๔๕๒ สุภาสิตสุตฺตวณฺณนา) –

อิมํ คีตํ สุตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺโต สห ปุตฺเตหิ ปจฺเจกโพธึ ปตฺโต. เอวํ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา วาจา สเจปิ มิลกฺขุภาสาย ปริยาปนฺนา ฆฏเจฏิกาคีติกปริยาปนฺนา วาจา โหติ, ตถาปิ สุภาสิตาติ เวทิตพฺพา. สุภาสิตา เอว อนวชฺชา อนนุวชฺชา จ วิฺูนํ อตฺถตฺถิกานํ กุลปุตฺตานํ อตฺถปฺปฏิสรณานํ, โน พฺยฺชนปฺปฏิสรณานนฺติ. นวมํ อุตฺตานเมว.

วาจาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา

๒๐๐. ทสเม นิสฺสรนฺตีติ นิสฺสรณียาติ วตฺตพฺเพ ทีฆํ กตฺวา นิทฺเทโส. กตฺตริ เหส อนีย-สทฺโท ยถา ‘‘นิยฺยานิยา’’ติ. เตนาห ‘‘นิสฺสฏา’’ติ. กุโต ปน นิสฺสฏา? ยถาสกํ ปฏิปกฺขโต. นิชฺชีวฏฺเน ธาตุโยติ อาห ‘‘อตฺตสุฺสภาวา’’ติ. อตฺถโต ปน ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุวิเสโส . ตาทิสสฺส ภิกฺขุโน กิเลสวเสน กาเมสุ มนสิกาโร นตฺถีติ อาห ‘‘วีมํสนตฺถ’’นฺติ, ‘‘เนกฺขมฺมนิยตํ อิทานิ เม จิตฺตํ, กึ นุ โข กามวิตกฺโกปิ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ วีมํสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปกฺขนฺทนํ นาม อนุปฺปเวโส. โส ปน ตตฺถ นตฺถีติ อาห ‘‘นปฺปวิสตี’’ติ. ปสีทนํ นาม อภิรุจิ. สนฺติฏฺนํ ปติฏฺานํ. วิมุจฺจนํ อธิมุจฺจนนฺติ. ตํ สพฺพํ ปฏิกฺขิปนฺโต วทติ ‘‘ปสาทํ นาปชฺชตี’’ติอาทิ. เอวํภูตํ ปนสฺส จิตฺตํ ตสฺส กถํ ติฏฺตีติ อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิ.

นฺติ ปมชฺฌานํ. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ปริกมฺมจิตฺเตน สทฺธึ ฌานจิตฺตํ เอกตฺตวเสน เอกชฺฌํ กตฺวา วทติ. โคจเร คตตฺตาติ อตฺตโน อารมฺมเณ เอว ปวตฺตตฺตา. อหานภาคิยตฺตาติ ิติภาคิยตฺตา. สุฏฺุ วิมุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา สมฺมเทว วิมุตฺตํ. จิตฺตสฺส จ กายสฺส จ วิหนนโต วิฆาโต. ทุกฺขํ ปริทหนโต ปริฬาโห. กามเวทนํ น เวทิยติ อนุปฺปชฺชนโต. นิสฺสรนฺติ ตโตติ นิสฺสรณํ. เก นิสฺสรนฺติ? กามา. เอวฺจ กามานนฺติ กตฺตุสามิวจนํ สุฏฺุ ยุชฺชติ. ยทคฺเคน กามา ตโต นิสฺสฏาติ วุจฺจนฺติ, ตทคฺเคน ฌานมฺปิ กามโต นิสฺสฏนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ วุตฺตํ ‘‘กาเมหิ นิสฺสฏตฺตา’’ติ. เอวํ วิกฺขมฺภนวเสน กามนิสฺสรณํ วตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉทวเสน อจฺจนฺตโต นิสฺสรณํ ทสฺเสตุํ ‘‘โย ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เสสปเทสูติ เสสโกฏฺาเสสุ.

อยํ ปน วิเสโสติ วิเสสํ วทนฺเตน ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวาติอาทิโก อวิเสโสติ กตฺวา ทุติยตติยวาเรสุ สพฺพโส อนามฏฺโ, จตุตฺถวาเร ปน อยมฺปิ วิเสโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘อจฺจนฺตนิสฺสรณฺเจตฺถ อรหตฺตผลํ โยเชตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมา อรูปชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา อคฺคมคฺคํ อธิคนฺตฺวา อรหตฺเต ิตสฺส จิตฺตํ สพฺพโส รูเปหิ นิสฺสฏํ นาม โหติ. ตสฺส หิ ผลสมาปตฺติโต วุฏฺาย วีมํสนตฺถํ รูปาภิมุขํ จิตฺตํ เปเสนฺตสฺส. อิทมกฺขาตนฺติ สมถยานิกานํ วเสน เหฏฺา จตฺตาโร วารา คหิตา. อิทํ ปน สุกฺขวิปสฺสกสฺส วเสนาติ อาห ‘‘สุทฺธสงฺขาเร’’ติอาทิ. ‘‘ปุน สกฺกาโย นตฺถี’’ติ อุปฺปนฺนนฺติ ‘‘อิทานิ เม สกฺกายปฺปพนฺโธ นตฺถี’’ติ วีมํสนฺตสฺส อุปฺปนฺนํ.

นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺราหฺมณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๕. ปฺจมปณฺณาสกํ