📜
๓. ปฺจงฺคิกวคฺโค
๑-๒. ปมอคารวสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑-๒๒. ตติยสฺส ¶ ¶ ปเม อาภิสมาจาริกนฺติ อภิสมาจาเร อุตฺตมสมาจาเร ภวํ. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘วตฺตวเสน ปฺตฺตสีล’’นฺติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ทุติเย นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ปมอคารวสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๔. อุปกฺกิเลสสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๓-๒๔. ตติเย น จ ปภาวนฺตนฺติ น จ ปภาสมฺปนฺนํ. ปภิชฺชนสภาวนฺติ ตาเปตฺวา ตาฬกชฺชนปภงฺคุรํ. อวเสสํ โลหนฺติ วุตฺตาวเสสํ สชาติโลหํ, วิชาติโลหํ, ปิสาจโลหํ, กิตฺติมโลหนฺติ เอวํปเภทํ สพฺพมฺปิ โลหํ. อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนนาติ เอตฺถ นนุ โลกิยกุสลจิตฺตสฺสปิ สุวิสุทฺธสฺสปิ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนเนว อุปกฺกิเลสตาติ? สจฺจเมตํ, ยสฺมึ ปน สนฺตาเน นีวรณานิ ลทฺธปฺปติฏฺานิ, ตตฺถ มหคฺคตกุสลสฺสปิ อสมฺภโว, ปเคว โลกุตฺตรกุสลสฺส. ปริตฺตกุสลํ ปน ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชมานํ นีวรเณหิ อุปหเต สนฺตาเน อุปฺปตฺติยา อปริสุทฺธํ โหนฺตํ อุปกฺกิลิฏฺํ นาม โหติ อปริสุทฺธทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลาทิสนฺนิสฺสโย ปทีโป วิย. อปิจ นิปฺปริยายโต อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทาเนเนว เตสํ อุปกฺกิเลสตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทคฺเคน หี’’ติอาทิมาห. อารมฺมเณ วิกฺขิตฺตปฺปวตฺติวเสน จุณฺณวิจุณฺณตา เวทิตพฺพา. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
อุปกฺกิเลสสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อนุคฺคหิตสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม สมฺมาทิฏฺีติ วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺีติอาทินา องฺคุตฺตรภาณกานํ มเตน อยํ อตฺถวณฺณนา อารทฺธา, มชฺฌิมภาณกา ปเนตฺถ อฺถา อตฺถํ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ มชฺฌิมฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๔๕๒) –
‘‘อนุคฺคหิตา’’ติ ¶ ¶ ลทฺธูปการา. สมฺมาทิฏฺีติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ผลกฺขเณ นิพฺพตฺตา เจโตวิมุตฺติ ผลํ อสฺสาติ เจโตวิมุตฺติผลา. ตเทว เจโตวิมุตฺติสงฺขาตํ ผลํ อานิสํโส อสฺสาติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จตุตฺถผลปฺา ปฺาวิมุตฺติ นาม, อวเสสา ธมฺมา เจโตวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘สีลานุคฺคหิตา’’ติอาทีสุ สีลนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สุตนฺติ สปฺปายธมฺมสฺสวนํ. สากจฺฉาติ กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนกถา. สมโถติ วิปสฺสนาปาทิกา อฏฺ สมาปตฺติโย. วิปสฺสนาติ สตฺตวิธา อนุปสฺสนา. จตุปาริสุทฺธิสีลฺหิ ปูเรนฺตสฺส, สปฺปายธมฺมสฺสวนํ สุณนฺตสฺส, กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนํ ฉินฺทนฺตสฺส วิปสฺสนาปาทิกาสุ อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ กมฺมํ กโรนฺตสฺส, สตฺตวิธํ อนุปสฺสนํ ภาเวนฺตสฺส อรหตฺตมคฺโค อุปฺปชฺชิตฺวา ผลํ เทติ.
‘‘ยถา หิ มธุรํ อมฺพปกฺกํ ปริภฺุชิตุกาโม อมฺพโปตกสฺส สมนฺตา อุทกโกฏฺกํ ถิรํ กตฺวา พนฺธติ, ฆฏํ คเหตฺวา กาเลน กาลํ อุทกํ อาสิฺจติ, อุทกสฺส อนิกฺขมนตฺถํ มริยาทํ ถิรํ กโรติ. ยา โหติ สมีเป วลฺลิ วา สุกฺขทณฺฑโก วา กิปิลฺลิกปุโฏ วา มกฺกฏกชาลํ วา, ตํ อปเนติ, ขณิตฺตึ คเหตฺวา กาเลน กาลํ มูลานิ ปริขณติ, เอวมสฺส อปฺปมตฺตสฺส อิมานิ ปฺจ การณานิ กโรโต โส อมฺโพ วฑฺฒิตฺวา ผลํ เทติ, เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. รุกฺขสฺส สมนฺตโต โกฏฺกพนฺธนํ วิย หิ สีลํ ทฏฺพฺพํ, กาเลน กาลํ อุทกสิฺจนํ วิย ธมฺมสฺสวนํ, มริยาทาย ถิรภาวกรณํ วิย สมโถ, สมีเป วลฺลิอาทีนํ หรณํ วิย กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนํ, กาเลน กาลํ ขณิตฺตึ คเหตฺวา มูลขณนํ วิย สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ ภาวนา, เตหิ ปฺจหิ การเณหิ อนุคฺคหิตสฺส อมฺพรุกฺขสฺส มธุรผลทานกาโล วิย อิมสฺส ภิกฺขุโน อิเมหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ อนุคฺคหิตาย สมฺมาทิฏฺิยา อรหตฺตผลทานํ เวทิตพฺพ’’นฺติ.
เอตฺถ จ ลทฺธูปการาติ ยถารหํ นิสฺสยาทิวเสน ลทฺธปจฺจยา. วิปสฺสนาสมฺมาทิฏฺิยา อนุคฺคหิตภาเวน คหิตตฺตา มคฺคสมฺมาทิฏฺีสุ จ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ ¶ . อนนฺตรสฺส หิ วิธิ ปฏิเสโธ วา, อคฺคผลสมาธิมฺหิ ตปฺปริกฺขารธมฺเมสุเยว จ เกวโล เจโตปริยาโย นิรุฬฺโหติ สมฺมาทิฏฺีติ อรหตฺตมคฺคสมฺมาทิฏฺิ. ผลกฺขเณติ อนนฺตรํ กาลนฺตเร จาติ ทุวิเธปิ ผลกฺขเณ. ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน สพฺพสํกิเลเสหิ เจโตวิมุจฺจติ เอตายาติ เจโตวิมุตฺติ, อคฺคผลปฺํ เปตฺวา อวเสสา ผลธมฺมา. เตนาห ‘‘เจโตวิมุตฺติ ผลํ อสฺสาติ, เจโตวิมุตฺติสงฺขาตํ ¶ ผลํ อานิสํโส’’ติ. สพฺพกิเลเสหิ เจตโส วิมุจฺจนสงฺขาตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนสฺิตํ ปหานํ ผลํ อานิสํโส จาติ โยชนา. อิธ เจโตวิมุตฺติสทฺเทน ปหานมตฺตํ คหิตํ, ปุพฺเพ ปหายกธมฺมา. อฺถา ผลธมฺมา เอว อานิสํโสติ คยฺหมาเน ปุนวจนํ นิรตฺถกํ สิยา. ปฺาวิมุตฺติผลานิสํสาติ เอตฺถาปิ เอวเมว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา สีลสภาวตฺตา วิเสสโต สมาธิสฺส อุปการา, ตถา สมฺมาสงฺกปฺโป ฌานสภาวตฺตา. ตถา หิ โส ‘‘อปฺปนา’’ติ นิทฺทิฏฺโ. สมฺมาสติสมฺมาวายามา ปน สมาธิปกฺขิยา เอวาติ อาห ‘‘อวเสสา ธมฺมา เจโตวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา’’ติ.
จตุปาริสุทฺธิสีลนฺติ อริยมคฺคาธิคมสฺส ปทฏฺานภูตํ จตุปาริสุทฺธิสีลํ. สุตาทีสุปิ เอเสว นโย. อตฺตโน จิตฺตปฺปวตฺติอาโรจนวเสน สห กถนํ สํกถา, สํกถาว สากจฺฉา. อิธ ปน กมฺมฏฺานปฺปฏิพทฺธาติ อาห ‘‘กมฺมฏฺาเน…เป… กถา’’ติ. ตสฺส กมฺมฏฺานสฺส เอกวารํ วิธิยา อปฺปฏิปชฺชนํ ขลนํ, อเนกวารํ ปกฺขลนํ, ตทุภยสฺส วิจฺเฉทนี อปนยนี กถา ขลนปกฺขลนจฺเฉทนกถา. ปูเรนฺตสฺสาติ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา ปาเลนฺตสฺส พฺรูเหนฺตสฺส จ. สุณนฺตสฺสาติ ‘‘ยถาอุคฺคหิตกมฺมฏฺานํ ผาตึ คมิสฺสตี’’ติ เอวํ สุณนฺตสฺส. เตเนว หิ ‘‘สปฺปายธมฺมสฺสวน’’นฺติ วุตฺตํ. กมฺมํ กโรนฺตสฺสาติ ภาวนานุโยคกมฺมํ กโรนฺตสฺส. ปฺจสุปิ าเนสุ อนฺต-สทฺโท เหตุอตฺถโชตโน ทฏฺพฺโพ. เอวฺหิ ‘‘ยถา หี’’ติอาทินา วุจฺจมานา อมฺพูปมา ยุชฺเชยฺย.
อุทกโกฏฺกนฺติ ชลาวาฏํ. ถิรํ กตฺวา พนฺธตีติ อสิถิลํ ทฬฺหํ นาติมหนฺตํ นาติขุทฺทกํ กตฺวา โยเชติ. ถิรํ กโรตีติ อุทกสิฺจนกาเล ตโต ตโต ปวตฺติตฺวา อุทกสฺส อนิกฺขมนตฺถํ ชลาวาฏปาฬึ ถิรตรํ กโรติ. สุกฺขทณฺฑโกติ ตสฺเสว อมฺพคจฺฉสฺส สุกฺขโก สาขาสีสโก ¶ . กิปิลฺลิกปุโฏติ ตมฺพกิปิลฺลิกปุโฏ. ขณิตฺตินฺติ กุทาลํ. โกฏฺกพนฺธนํ วิย สีลํ สมฺมาทิฏฺิยา วฑฺฒนูปายสฺส มูลภาวโต. อุทกสิฺจนํ วิย ธมฺมสฺสวนํ ภาวนาย ปริพฺรูหนโต. มริยาทาย ถิรภาวกรณํ วิย สมโถ ยถาวุตฺตาย ภาวนาธิฏฺานาย สีลมริยาทาย ทฬฺหีภาวาปาทนโต. สมาหิตสฺส หิ สีลํ ถิรตรํ โหติ. สมีเป วลฺลิอาทีนํ หรณํ วิย กมฺมฏฺาเน ขลนปกฺขลนจฺเฉทนํ อิจฺฉิตพฺพภาวนาย วิพนฺธนาปนยนโต. มูลขณนํ วิย สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ ภาวนา ตสฺสา วิพนฺธสฺส มูลภูตานํ ตณฺหามานทิฏฺีนํ ปลิขณนโต. เอตฺถ จ ยสฺมา สุปริสุทฺธสีลสฺส กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺตสฺส สปฺปายธมฺมสฺสวนํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตโต ยถาสุเต อตฺเถ สากจฺฉาสมาปชฺชนํ, ตโต กมฺมฏฺานวิโสธเนน สมถนิพฺพตฺติ, ตโต สมาหิตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาปาริปูริ, ปริปุณฺณา ¶ วิปสฺสนา มคฺคสมฺมาทิฏฺึ พฺรูเหตีติ เอวเมเตสํ องฺคานํ ปรมฺปราย สมฺมุขา อนุคฺคณฺหนโต อยมานุปุพฺพี กถิตาติ เวทิตพฺพํ.
อนุคฺคหิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. วิมุตฺตายตนสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ วิมุตฺติยา วฏฺฏทุกฺขโต วิมุจฺจนสฺส อายตนานิ การณานิ วิมุตฺตายตนานีติ อาห – ‘‘วิมุจฺจนการณานี’’ติ. ปาฬิอตฺถํ ชานนฺตสฺสาติ ‘‘อิธ สีลํ อาคตํ, อิธ สมาธิ, อิธ ปฺา’’ติอาทินา ตํตํปาฬิอตฺถํ ยาถาวโต ชานนฺตสฺส. ปาฬึ ชานนฺตสฺสาติ ตทตฺถโพธินึ ปาฬึ ยาถาวโต อุปธาเรนฺตสฺส. ตรุณปีตีติ สฺชาตมตฺตา มุทุกา ปีติ ชายติ. กถํ ชายติ? ยถาเทสิตํ ธมฺมํ อุปธาเรนฺตสฺส ตทนุจฺฉวิกเมว อตฺตโน กายวาจามโนสมาจารํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส โสมนสฺสํ ปตฺตสฺส ปโมทลกฺขณํ ปาโมชฺชํ ชายติ. ตุฏฺาการภูตา พลวปีตีติ ปุริมุปฺปนฺนาย ปีติยา วเสน ลทฺธาเสวนตฺตา อติวิย ตุฏฺาการภูตา กายจิตฺตทรถสฺส ปสฺสมฺภนสมตฺถตาย ปสฺสทฺธิยา ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถา พลปฺปตฺตา ปีติ ชายติ. ยสฺมา นามกาเย ปสฺสทฺเธ รูปกาโยปิ ปสฺสทฺโธ เอว โหติ, ตสฺมา ‘‘นามกาโย ปสฺสมฺภติ’’จฺเจว วุตฺตํ.
สุขํ ¶ ปฏิลภตีติ วกฺขมานสฺส จิตฺตสมาธานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ เจตสิกํ นิรามิสสุขํ ปฏิลภติ วินฺทติ. สมาธิยตีติ เอตฺถ ปน น โย โกจิ สมาธิ อธิปฺเปโต, อถ โข อนุตฺตรสมาธีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรหตฺต…เป… สมาธิยตี’’ติ อาห. ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ ตสฺสํ เทสนายํ ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส ยถาวุตฺตสมาธิปฏิลาภสฺส การณภาววิภาวนํ, ยํ ตถา วิมุตฺตายตนภาโว. โอสกฺกิตุนฺติ ทสฺสิตุํ. สมาธิเยว สมาธินิมิตฺตนฺติ กมฺมฏฺานปาฬิยา อารุฬฺโห สมาธิ เอว ปรโต อุปฺปชฺชนกภาวนาสมาธิสฺส การณภาวโต สมาธินิมิตฺตํ. เตนาห ‘‘อาจริยสฺส สนฺติเก’’ติอาทิ.
วิมุตฺตายตนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สมาธิสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม ¶ สพฺพโส กิเลสทุกฺขทรถปริฬาหานํ วิคตตฺตา สาติสยเมตฺถ สุขนฺติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติ. ปุริมสฺส ปุริมสฺส วเสน ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ลทฺธาเสวนตาย สนฺตปณีตตรภาวปฺปตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘ปุริโม…เป… สุขวิปาโก’’ติ. กิเลสปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภเนน ลทฺธตฺตา. ‘‘กิเลสปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิภาวนฺติ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสมฺภนภาวํ. ลทฺธตฺตา ปตฺตตฺตา ตพฺภาวํ อุปคตตฺตา. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกานิ นีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ, อฺเ กิเลสา วาเรตพฺพา. อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณ จ อปฺปโยเคน อธิคตตฺตา อปฺปิตตฺตา จ อปริหานิวเสน วา อปฺปิตตฺตา น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตาติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ. ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนาติ เอเตน ปริจฺฉินฺนสฺสติยา สโตติ ทสฺเสติ. เสเสสูติ าเณสุ.
สมาธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๙. ปฺจงฺคิกสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๘-๒๙. อฏฺเม ¶ กโร วุจฺจติ ปุปฺผสมฺภวํ ‘‘คพฺภาสเย กิรียตี’’ติ กตฺวา. กรโต ชาโต กาโย กรชกาโย, ตทุปนิสฺสโย จตุสนฺตติรูปสมุทาโย. กามํ นามกาโยปิ วิเวกเชน ปีติสุเขน ตถาลทฺธูปกาโร, ‘‘อภิสนฺเทตี’’ติอาทิวจนโต ปน รูปกาโย อิธ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อิมํ กรชกาย’’นฺติ. อภิสนฺเทตีติ อภิสนฺทนํ กโรติ. ตํ ปน อภิสนฺทนํ ฌานมเยน ปีติสุเขน กรชกายสฺส ตินฺตภาวาปาทนํ สพฺพตฺถกเมว ลูขภาวาปนยนนฺติ อาห ‘‘เตเมตี’’ติอาทิ. ตยิทํ อภิสนฺทนํ อตฺถโต ยถาวุตฺตปีติสุขสมุฏฺาเนหิ ปณีตรูเปหิ กายสฺส ปริปฺผรณํ ทฏฺพฺพํ. ปริสนฺเทตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. สพฺพํ เอตสฺส อตฺถีติ สพฺพาวา, ตสฺส สพฺพาวโต. อวยวาวยวิสมฺพนฺเธ อวยวินิ สามิวจนนฺติ อวยววิสโย สพฺพ-สทฺโท, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สพฺพโกฏฺาสวโต’’ติ. อผุฏํ นาม น โหติ ยตฺถ ยตฺถ กมฺมชรูปํ, ตตฺถ ตตฺถ จิตฺตชรูปสฺส อภิพฺยาปนโต. เตนาห ‘‘อุปาทินฺนกสนฺตตี’’ติอาทิ.
เฉโกติ ¶ กุสโล. ตํ ปนสฺส โกสลฺลํ นหานียจุณฺณานํ กรเณ ปิณฺฑิกรเณ จ สมตฺถตาวเสน เวทิตพฺพนฺติ อาห ‘‘ปฏิพโล’’ติอาทิ. กํส-สทฺโท ‘‘มหติยา กํสปาติยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๖๑) สุวณฺเณ อาคโต.‘‘กํโส อุปหโต ยถา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๓๔) กิตฺติมโลเห. กตฺถจิ ปณฺณตฺติมตฺเต ‘‘อุปกํโส นาม ราชาสิ, มหากํสสฺส อตฺรโช’’ติอาทิ (ชา. อฏฺ. ๔.๑๐.๑๖๔ ฆฏปณฺฑิตชาตกวณฺณนา). อิธ ปน ยตฺถ กตฺถจิ โลเหติ อาห ‘‘เยน เกนจิ โลเหน กตภาชเน’’ติ. สฺเนหานุคตาติ อุทกสิเนเหน อนุปฺปวิสนวเสน คตา อุปคตา. สฺเนหปเรตาติ อุทกสิเนเหน ปริโต คตา สมนฺตโต ผุฏา. ตโต เอว สนฺตรพาหิรา ผุฏา สฺเนเหน. เอเตน สพฺพโส อุทเกน เตมิตภาวมาห. น จ ปคฺฆริณีติ เอเตน ตินฺตสฺสปิ ตสฺส ฆนถทฺธภาวํ วทติ. เตนาห ‘‘น พินฺทุพินฺทู’’ติอาทิ.
ตาหิ ตาหิ อุทกสิราหิ อุพฺภิชฺชตีติ อุพฺภิทํ, อุพฺภิทํ อุทกํ เอตสฺสาติ อุพฺภิโททโก. อุพฺภินฺนอุทโกติ นทีตีเร ขตกูปโก วิย อุพฺภิชฺชนกอุทโก. อุคฺคจฺฉนอุทโกติ ธาราวเสน อุฏฺหนอุทโก. กสฺมา ปเนตฺถ อุพฺภิโททโกว ¶ รหโท คหิโต, น อิตโรติ อาห ‘‘เหฏฺา อุคฺคจฺฉนอุทกฺหี’’ติอาทิ. ธารานิปาตพุพฺพุฬเกหีติ ธารานิปาเตหิ จ อุทกพุพฺพุเฬหิ จ. ‘‘เผณปฏเลหิ จา’’ติ วตฺตพฺพํ, สนฺนิสินฺนเมว อปริกฺโขภตาย นิจฺจลเมว, สุปฺปสนฺนเมวาติ อธิปฺปาโย. เสสนฺติ ‘‘อภิสนฺเทตี’’ติอาทิกํ.
อุปฺปลานีติ อุปฺปลคจฺฉานิ. เสตรตฺตนีเลสูติ อุปฺปเลสุ, เสตุปฺปลรตฺตุปฺปลนีลุปฺปเลสูติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิ อุปฺปลํ อุปฺปลเมว สามฺคฺคหณโต. สตปตฺตนฺติ เอตฺถ สต-สทฺโท พหุปริยาโย ‘‘สตคฺฆี’’ติอาทีสุ วิย. เตน อเนกสตปตฺตสฺสปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ. โลเก ปน รตฺตํ ปทุมํ, เสตํ ปุณฺฑรีกนฺติ วุจฺจติ. ยาว อคฺคา ยาว จ มูลา อุทเกน อภิสนฺทนาทิสมฺภวทสฺสนตฺถํ อุทกานุคฺคตคฺคหณํ. อิธ อุปฺปลาทีนิ วิย กรชกาโย, อุทกํ วิย ตติยชฺฌานสุขํ.
ยสฺมา ปริสุทฺเธน เจตสาติ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตมาห, ตฺจ ราคาทิอุปกฺกิเลสมลาปคมโต นิรุปกฺกิเลสํ นิมฺมลํ, ตสฺมา อาห ‘‘นิรุปกฺกิเลสฏฺเน ปริสุทฺธ’’นฺติ. ยสฺมา ปน ปาริสุทฺธิยา เอว ปจฺจยวิเสเสน ปวตฺติวิเสโส ปริโยทาตตา สุธนฺตสุวณฺณสฺส นิฆํสเนน ปภสฺสรตา วิย, ตสฺมา อาห ‘‘ปภสฺสรฏฺเน ปริโยทาตํ เวทิตพฺพ’’นฺติ. อิทนฺติ โอทาตวจนํ. อุตุผรณตฺถนฺติ อุตุโน ผรณทสฺสนตฺถํ. อุตุผรณํ น โหติ เสสนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตงฺขณ ¶ …เป… พลวํ โหตี’’ติ. วตฺถํ วิย กรชกาโยติ โยคิโน กรชกาโย วตฺถํ วิย ทฏฺพฺโพ อุตุผรณสทิเสน จตุตฺถชฺฌานสุเขน ผริตพฺพตฺตา. ปุริสสฺส สรีรํ วิย จตุตฺถชฺฌานํ ทฏฺพฺพํ อุตุผรณฏฺานิยสฺส สุขสฺส นิสฺสยภาวโต. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตตฺถ จ ‘‘ปริสุทฺเธน เจตสา’’ติ เจโตคหเณน ฌานสุขํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘อุตุผรณํ วิย จตุตฺถชฺฌานสุข’’นฺติ. นนุ จ จตุตฺถชฺฌาเน สุขเมว นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, สาตลกฺขณสนฺตสภาวตฺตา ปเนตฺถ อุเปกฺขา ‘‘สุข’’นฺติ อธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ.
ตสฺส ¶ ตสฺส สมาธิสฺส สรูปทสฺสนสฺส ปจฺจยตฺตา ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ. สมภริโตติ สมปุณฺโณ.
มณฺฑภูมีติ ปปาวณฺณภูมิ. ยตฺถ สลิลสิฺจเนน วินาว สสฺสานิ ิตานิ สมฺปชฺชนฺติ. ยุเค โยเชตพฺพานิ โยคฺคานิ, เตสํ อาจริโย โยคฺคาจริโย. เตสํ สิกฺขาปนโต หตฺถิอาทโยปิ ‘‘โยคฺคา’’ติ วุจฺจนฺตีติ อาห ปาฬิยํ ‘‘อสฺสทมฺมสารถี’’ติ. เยน เยนาติ จตูสุ มคฺเคสุ เยน เยน มคฺเคน. ยํ ยํ คตินฺติ ชวสมชวาทิเภทาสุ คตีสุ ยํ ยํ คตึ. นวเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ปฺจงฺคิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. นาคิตสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาติ อุทฺธํ อุคฺคตตฺตา อุจฺโจ ปตฺถโฏ มหนฺโต วินิพฺภิชฺชิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺโย สทฺโท เอเตสนฺติ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา. วจีโฆโสปิ หิ พหูหิ เอกชฺฌํ ปวตฺติโต อตฺถโต สทฺทโต จ ทุรวโพโธ เกวลํ มหานิคฺโฆโส เอว หุตฺวา โสตปถมาคจฺฉติ. มจฺฉวิโลเปติ มจฺฉานํ วิลุมฺปิตฺวา วิย คหเณ, มจฺฉานํ วา วิลุมฺปเน. เกวฏฺฏานฺหิ มจฺฉปจฺฉิปิตฏฺาเน มหาชโน สนฺนิปติตฺวา ‘‘อิธ อฺํ เอกํ มจฺฉํ เทหิ, เอกํ มจฺฉผาลํ เทหี’’ติ, ‘‘เอตสฺส เต มหา ทินฺโน, มยฺหํ ขุทฺทโก’’ติ เอวํ อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. มจฺฉคฺคหณตฺถํ ชาเล ปกฺขิตฺเตปิ ตสฺมึ าเน เกวฏฺฏา เจว อฺเ จ ‘‘ปวิฏฺโ คหิโต’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อสุจิสุขนฺติ กายาสุจิสนฺนิสฺสิตตฺตา กิเลสาสุจิสนฺนิสฺสิตตฺตา ¶ จ อสุจิสนฺนิสฺสิตสุขํ. เนกฺขมฺมสุขสฺสาติ กามโต นิกฺขมนฺตสฺส สุขสฺส. ปวิเวกสุขสฺสาติ คณสงฺคณิกโต กิเลสสงฺคณิกโต จ วิคตสฺส สุขสฺส. อุปสมสุขสฺสาติ ราคาทิวูปสมาวหสฺส สุขสฺส. สมฺโพธสุขนฺติ มคฺคสงฺขาตสฺส สมฺโพธสฺส นิฏฺปฺปตฺตตฺถาย สุขํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
นาคิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจงฺคิกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.