📜
๑. อาหุเนยฺยวคฺโค
๑. ปมอาหุเนยฺยสุตฺตวณฺณนา
๑. ฉกฺกนิปาตสฺส ¶ ¶ ปเม จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ นิสฺสยโวหาเรน วุตฺตํ. สสมฺภารกนิทฺเทโสยํ ยถา ‘‘ธนุนา วิชฺฌตี’’ติ, ตสฺมา นิสฺสยสีเสน นิสฺสิตสฺส คหณํ ทฏฺพฺพํ. เตนายมตฺโถ ‘‘จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมเณ อาปาถคเต ตํ รูปํ จกฺขุวิฺาเณน ทิสฺวา’’ติ. เนว สุมโน โหตีติ ชวนกฺขเณ อิฏฺเ อารมฺมเณ ราคํ อนุปฺปาเทนฺโต เนว สุมโน โหติ เคหสฺสิตเปมวเสนปิ มคฺเคน สพฺพโส ราคสฺส สมุจฺฉินฺนตฺตา. น ทุมฺมโนติ อนิฏฺเ อทุสฺสนฺโต น ทุมฺมโน. ปสาทฺถตฺตวเสนปิ อิฏฺเปิ อนิฏฺเปิ มชฺฌตฺเตปิ อารมฺมเณ น สมํ สมฺมา อโยนิโส คหณํ อสมเปกฺขนํ. อยฺจสฺส ปฏิปตฺติ สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา ปฺาเวปุลฺลปฺปตฺติยา ¶ จาติ อาห ‘‘สโต สมฺปชาโน หุตฺวา’’ติ. สติยา ยุตฺตตฺตา สโต. สมฺปชฺเน ยุตฺตตฺตา สมฺปชาโน. าณุปฺปตฺติปจฺจยรหิตกาเลปิ ปวตฺติเภทนโต ‘‘สตตวิหาโร กถิโต’’ติ วุตฺตํ. สตตวิหาโรติ ขีณาสวสฺส นิจฺจวิหาโร สพฺพทา ปวตฺตนกวิหาโร. เปตฺวา หิ สมาปตฺติเวลํ ภวงฺคเวลฺจ ขีณาสวา อิมินาว ฉฬงฺคุเปกฺขาวิหาเรน วิหรนฺติ.
เอตฺถ จ ‘‘ฉสุ ทฺวาเรสุปิ อุเปกฺขโก วิหรตี’’ติ อิมินา ฉฬงฺคุเปกฺขา กถิตา. ‘‘สมฺปชาโน’’ติ วจนโต ปน จตฺตาริ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ เตหิ วินา สมฺปชานตาย อสมฺภวโต. สตตวิหารภาวโต อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. ‘‘เนว สุมโน น ทุมฺมโน’’ติ วจนโต อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ, หสิตุปฺปาโท, โวฏฺพฺพนฺจาติ ทส จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. ราคโทสสหชาตานํ โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อภาโว เตสมฺปิ สาธารโณติ ฉฬงฺคุเปกฺขาวเสน อาคตานํ อิเมสํ สตตวิหารานํ โสมนสฺสํ กถํ ลพฺภตีติ เจ? อาเสวนโต. กิฺจาปิ ¶ ขีณาสโว อิฏฺานิฏฺเปิ อารมฺมเณ มชฺฌตฺโต วิย พหุลํ อุเปกฺขโก วิหรติ อตฺตโน ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนโต, กทาจิ ปน ตถา เจโตภิสงฺขาราภาเว ยํ ตํ สภาวโต อิฏฺํ อารมฺมณํ, ตสฺส ยาถาวสภาวคฺคหณวเสนปิ อรหโต จิตฺตํ ปุพฺพาเสวนวเสน โสมนสฺสสหคตํ หุตฺวา ปวตฺตเตว.
ปมอาหุเนยฺยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒-๗. ทุติยอาหุเนยฺยสุตฺตาทิวณฺณนา
๒-๗. ทุติเย (วิสุทฺธิ. ๒.๓๘๐) อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ นานปฺปการํ. อิทฺธิวิธนฺติ อิทฺธิโกฏฺาสํ. ปจฺจนุโภตีติ ปจฺจนุภวติ, ผุสติ สจฺฉิกโรติ ปาปุณาตีติ อตฺโถ. อิทานิสฺส อเนกวิหิตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอโกปิ หุตฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘เอโกปิ หุตฺวา’’ติ อิมินา กรณโต ปุพฺเพว ปกติยา เอโกปิ หุตฺวา. พหุธา โหตีติ พหูนํ สนฺติเก จงฺกมิตุกาโม วา สชฺฌายํ กาตุกาโม วา ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม วา หุตฺวา สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ โหติ. อาวิภาวํ ติโรภาวนฺติ เอตฺถ อาวิภาวํ กโรติ, ติโรภาวํ กโรตีติ อยมตฺโถ. อิทเมว หิ สนฺธาย ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๓.๑๑) วุตฺตํ – ‘‘อาวิภาวนฺติ เกนจิ อนาวุฏํ โหติ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ วิวฏํ, ติโรภาวนฺติ เกนจิ อาวุฏํ โหติ ปฏิจฺฉนฺนํ ปิหิตํ ปฏิกุชฺชิต’’นฺติ. ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ เสยฺยถาปิ อากาเสติ เอตฺถ ติโรกุฏฺฏนฺติ ปรกุฏฺฏํ, กุฏฺฏสฺส ปรภาคนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย อิตเรสุ. กุฏฺโฏติ จ เคหภิตฺติยา ¶ เอตํ อธิวจนํ. ปากาโรติ เคหวิหารคามาทีนํ ปริกฺเขปปากาโร. ปพฺพโตติ ปํสุปพฺพโต วา ปาสาณปพฺพโต วา. อสชฺชมาโนติ อลคฺคมาโน เสยฺยถาปิ อากาเส วิย.
อุมฺมุชฺชนิมุชฺชนฺติ เอตฺถ อุมฺมุชฺชนฺติ อุฏฺานํ วุจฺจติ. นิมุชฺชนฺติ สํสีทนํ. อุมฺมุชฺชฺจ นิมุชฺชฺจ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ. อุทเกปิ อภิชฺชมาเนติ เอตฺถ ยํ อุทกํ อกฺกมิตฺวา สํสีทติ, ตํ ภิชฺชมานนฺติ วุจฺจติ, วิปรีตํ อภิชฺชมานํ. ปลฺลงฺเกน คจฺฉติ. ปกฺขี ¶ สกุโณติ ปกฺเขหิ ยุตฺตสกุโณ. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสตีติ เอตฺถ จนฺทิมสูริยานํ ทฺวาจตฺตาลีสโยชนสหสฺสสฺส อุปริ จรเณน มหิทฺธิกตา, ตีสุ ทีเปสุ เอกกฺขเณ อาโลกกรเณน มหานุภาวตา เวทิตพฺพา. เอวํ อุปริจรณอาโลกกรเณหิ มหิทฺธิเก มหานุภาเว. ปรามสตีติ คณฺหาติ, เอกเทเส วา ฉุปติ. ปริมชฺชตีติ สมนฺตโต อาทาสตลา วิย ปริมชฺชติ. ยาว พฺรหฺมโลกาปีติ พฺรหฺมโลกมฺปิ ปริจฺเฉทํ กตฺวา. กาเยน วสํ วตฺเตตีติ ตตฺร พฺรหฺมโลเก กาเยน อตฺตโน วสํ วตฺเตติ.
ทิพฺพาย โสตธาตุยาติ เอตฺถ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพา. เทวตานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตา ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธา อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนสมตฺถา ทิพฺพา ปสาทโสตธาตุ โหติ. อยฺจาปิ อิมสฺส ภิกฺขุโน วีริยภาวนาพเลน นิพฺพตฺตา าณโสตธาตุ ตาทิสาเยวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพา. อปิจ ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพา. สวนฏฺเน นิชฺชีวฏฺเน จ โสตธาตุ. โสตธาตุกิจฺจกรเณน โสตธาตุ วิยาติปิ โสตธาตุ. ตาย โสตธาตุยา. วิสุทฺธายาติ สุทฺธาย นิรุปกฺกิเลสาย. อติกฺกนฺตมานุสิกายาติ มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา สทฺทสวเน มานุสิกํ มํสโสตธาตุํ อติกฺกนฺตาย วีติวตฺเตตฺวา ิตาย. อุโภ สทฺเท สุณาตีติ ทฺเว สทฺเท สุณาติ. กตเม ทฺเว? ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เทวานฺจ มนุสฺสานฺจ สทฺเทติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปเทสปริยาทานํ เวทิตพฺพํ. เย ทูเร สนฺติเก จาติ เย สทฺทา ทูเร ปรจกฺกวาเฬปิ, เย จ สนฺติเก อนฺตมโส สเทหสนฺนิสฺสิตปาณกสทฺทาปิ, เต สุณาตีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน นิปฺปเทสปริยาทานํ เวทิตพฺพํ.
ปรสตฺตานนฺติ อตฺตานํ เปตฺวา เสสสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ อิทมฺปิ อิมินา เอกตฺถเมว. เวเนยฺยวเสน ปน เทสนาวิลาเสน จ พฺยฺชนนานตฺตํ กตํ. เจตสา เจโตติ อตฺตโน จิตฺเตน เตสํ จิตฺตํ. ปริจฺจาติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา. ปชานาตีติ สราคาทิวเสน นานปฺปการโต ชานาติ. สราคํ วา จิตฺตนฺติอาทีสุ ปน อฏฺโลภสหคตจิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อวเสสํ จาตุภูมกํ ¶ กุสลาพฺยากตจิตฺตํ วีตราคํ. ทฺเว ¶ โทมนสฺสจิตฺตานิ, ทฺเว วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจจิตฺตานีติ อิมานิ ปน จตฺตาริ จิตฺตานิ อิมสฺมึ ทุเก สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน เถรา ตานิปิ สงฺคณฺหนฺติ. ทุวิธํ ปน โทมนสฺสจิตฺตํ สโทสํ จิตฺตํ นาม. สพฺพมฺปิ จาตุภูมกํ กุสลาพฺยากตจิตฺตํ วีตโทสํ. เสสานิ ทส อกุสลจิตฺตานิ อิมสฺมึ ทุเก สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน เถรา ตานิปิ สงฺคณฺหนฺติ. สโมหํ วีตโมหนฺติ เอตฺถ ปน ปาฏิปุคฺคลิกนเยน วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตทฺวยเมว สโมหํ. โมหสฺส ปน สพฺพากุสเลสุ สมฺภวโต ทฺวาทสวิธมฺปิ อกุสลจิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อวเสสํ วีตโมหํ. ถินมิทฺธานุคตํ ปน สํขิตฺตํ, อุทฺธจฺจานุคตํ วิกฺขิตฺตํ. รูปาวจรารูปาวจรํ มหคฺคตํ, อวเสสํ อมหคฺคตํ. สพฺพมฺปิ เตภูมกํ สอุตฺตรํ, โลกุตฺตรํ อนุตฺตรํ. อุปจารปฺปตฺตํ อปฺปนาปฺปตฺตฺจ สมาหิตํ, อุภยมปฺปตฺตํ อสมาหิตํ. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺตึ ปตฺตํ ปฺจวิธมฺปิ เอตํ วิมุตฺตํ, วิมุตฺติมปฺปตฺตํ วา อวิมุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อเนกวิหิตนฺติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๑๒) อเนกวิธํ, อเนเกหิ วา ปกาเรหิ ปวตฺติตํ สํวณฺณิตนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพนิวาสนฺติ สมนนฺตราตีตภวํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิวุตฺถสนฺตานํ. อนุสฺสรตีติ ขนฺธปฏิปาฏิวเสน, จุติปฏิสนฺธิวเสน วา อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา สรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ…เป… ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรตีติ. ตตฺถ เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ปฏิสนฺธิมูลํ จุติปริโยสานํ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธสนฺตานํ. เอส นโย ทฺเวปิ ชาติโยติอาทีสุปิ. อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเปติอาทีสุ ปน ปริหายมาโน กปฺโป สํวฏฺฏกปฺโป, วฑฺฒมาโน วิวฏฺฏกปฺโปติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สํวฏฺเฏน สํวฏฺฏฏฺายี คหิโต โหติ ตํมูลกตฺตา, วิวฏฺเฏน วิวฏฺฏฏฺายี. เอวฺหิ สติ ยานิ ตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวฏฺโฏ สํวฏฺฏฏฺายี วิวฏฺโฏ วิวฏฺฏฏฺายี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๕๖) วุตฺตานิ, ตานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ.
อมุตฺราสินฺติ อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเป อหํ อมุมฺหิ ภเว วา โยนิยา วา คหิยา วา วิฺาณฏฺิติยา วา สตฺตาวาเส วา สตฺตนิกาเย วา อาสึ. เอวํนาโมติ ติสฺโส วา ผุสฺโส วา. เอวํโคตฺโตติ โคตโม วา กจฺจายโน วา กสฺสโป วา. อิทมสฺส อตีตภเว อตฺตโน นามโคตฺตานุสฺสรณวเสน วุตฺตํ. สเจ ปน ตสฺมึ กาเล อตฺตโน วณฺณสมฺปตฺติลูขปณีตชีวิกภาวํ ¶ สุขทุกฺขพหุลตํ อปฺปายุกทีฆายุกภาวํ วา อนุสฺสริตุกาโม โหติ, ตมฺปิ อนุสฺสรติเยว. เตนาห ‘‘เอวํวณฺโณ…เป… เอวมายุปริยนฺโต’’ติ. ตตฺถ เอวํวณฺโณติ โอทาโต วา สาโม วา. เอวมาหาโรติ สาลิมํโสทนาหาโร วา ปวตฺตผลโภชโน วา. เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวทีติ ¶ อเนน ปกาเรน กายิกเจตสิกานํ สามิสนิรามิสาทิปฺปเภทานํ สุขทุกฺขานํ ปฏิสํเวที. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ วสฺสสตปริมาณายุปริยนฺโต วา จตุราสีติกปฺปสหสฺสายุปริยนฺโต วา. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติ โส อหํ ตโต ภวโต โยนิโต คหิโต วิฺาณฏฺิติโต สตฺตาวาสโต สตฺตนิกายโต วา จุโต ปุนอมุกสฺมึ นาม ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สกฺกนิกาเย วา อุทปาทึ. ตตฺราปาสินฺติ ตตฺราปิ ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา ปุน อโหสึ. เอวํนาโมติอาทิ วุตฺตนยเมว.
อปิจ อมุตฺราสินฺติ อิทํ อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตสฺส ยาวทิจฺฉกํ อนุสฺสรณํ. โส ตโตติ ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณํ, ตสฺมา ‘‘อิธูปปนฺโน’’ติ อิมิสฺสา อิธูปปตฺติยา อนนฺตรเมว อุปฺปตฺติฏฺานํ สนฺธาย ‘‘อมุตฺร อุทปาทิ’’นฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปาสินฺติ เอวมาทิ ปนสฺส ตตฺราปิ อิมิสฺสา อุปปตฺติยา อนฺตเร อุปปตฺติฏฺาเน นามโคตฺตาทีนํ อนุสฺสรณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ สฺวาหํ ตโต อนนฺตรุปฺปตฺติฏฺานโต จุโต อิธ อมุกสฺมึ นาม ขตฺติยกุเล วา พฺราหฺมณกุเล วา นิพฺพตฺโตติ. อิตีติ เอวํ. สาการํ สอุทฺเทสนฺติ นามโคตฺตวเสน สอุทฺเทสํ, วณฺณาทิวเสน สาการํ. นามโคตฺเตน หิ สตฺโต ‘‘ติสฺโส กสฺสโป’’ติ อุทฺทิสียติ, วณฺณาทีหิ ‘‘สาโม โอทาโต’’ติ นานตฺตโต ปฺายติ, ตสฺมา นามโคตฺตํ อุทฺเทโส, อิตเร อาการา.
ทิพฺเพนาติอาทีสุ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. เทวตานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตํ ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธํ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณสมฺปฏิจฺฉนสมตฺถํ ทิพฺพํ ปสาทจกฺขุ โหติ. อิทฺจาปิ วีริยภาวนาพเลน นิพฺพตฺตํ าณจกฺขุ ตาทิสเมวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา อตฺตโน จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพํ. อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ¶ ทิพฺพํ. ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสเนน มหาคติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพํ. ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ. จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขุ. จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธํ. โย หิ จุติเมว ปสฺสติ, น อุปปาตํ, โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. โย อุปปาตเมว ปสฺสติ, น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ, โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺิคตํ อติวตฺตติ, ตสฺมา ตํ ทสฺสนํ ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุ โหติ. อุภยมฺปิ เจตํ พุทฺธปุตฺตา ปสฺสนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธ’’นฺติ. มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ, มานุสํ วา มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา ¶ อติกฺกนฺตมานุสกนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน.
สตฺเต ปสฺสตีติ มนุสฺสานํ มํสจกฺขุนา วิย สตฺเต โอโลเกติ. จวมาเน อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ วา อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺุํ น สกฺกา. เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ, เต จวมานาติ, เย จ คหิตปฺปฏิสนฺธิกา สมฺปตินิพฺพตฺตา จ, เต อุปปชฺชมานาติ อธิปฺเปตา. เต เอวรูเป จวมาเน อุปปชฺชมาเน จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ. หีเนติ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา หีนานํ ชาติกุลโภคาทีนํ วเสน หีฬิเต อฺุาเต. ปณีเตติ อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา ตพฺพิปรีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อิฏฺกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ทุพฺพณฺเณติ โทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อนิฏฺากนฺตามนาปวณฺณยุตฺเต, วิรูปวิรูเปติปิ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต, อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ทุคฺคติคเต, โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน.
ยถากมฺมูปเคติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ, เตน เตน อุปคเต. กายทุจฺจริเตนาติอาทีสุ ทุฏฺุ จริตํ กิเลสปูติกตฺตาติ ทุจฺจริตํ. กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. อิตเรสุปิ เอเสว นโย. สมนฺนาคตาติ สมงฺคิภูตา. อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ อนตฺถกามา หุตฺวา อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา, อกฺโกสกา ครหกาติ วุตฺตํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิกาติ วิปรีตทสฺสนา ¶ . มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา, เยปิ มิจฺฉาทิฏฺิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อฺเปิ สมาทาเปนฺติ.
กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรํ มรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหณา. อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺสูปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติจิตฺตโต อุทฺธํ. อปายนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ นิรยเววจนเมว. นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปฺุสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺเมน นิพฺพตฺตา คตีติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ ตตฺถ ทุกฺกฏฺฏการิโนติ วินิปาโต, วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ ปตนฺติ สมฺภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.
อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา ¶ , น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยฺจ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สุคติโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา, น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ. โส หิ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมุสฺสเยหิ วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน อวีจิอาทิกมเนกปฺปการํ นิรยเมวาติ. อุปปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสาคติปิ สงฺคยฺหติ, สคฺคคฺคหเณน เทวคติเยว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปฺปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สพฺพากาเรน วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาโต คเหตพฺโพ. ตติยาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ.
ทุติยอาหุเนยฺยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อนุตฺตริยสุตฺตวณฺณนา
๘. อฏฺเม ¶ นตฺถิ เอเตสํ อุตฺตรานิ วิสิฏฺานีติ อนุตฺตรานิ, อนุตฺตรานิ เอว อนุตฺตริยานิ ยถา ‘‘อนนฺตเมว อนนฺตริย’’นฺติ อาห ‘‘นิรุตฺตรานี’’ติ. ทสฺสนานุตฺตริยํ นาม ผลวิเสสาวหตฺตา. เอส นโย เสเสสุปิ. สตฺตวิธอริยธนลาโภติ สตฺตวิธสทฺธาทิโลกุตฺตรธนลาโภ. สิกฺขาตฺตยสฺส ปูรณนฺติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ ปูรณํ. ตตฺถ ปูรณํ นิปฺปริยายโต อเสกฺขานํ วเสน เวทิตพฺพํ. กลฺยาณปุถุชฺชนโต ปฏฺาย หิ สตฺต เสขา ติสฺโส สิกฺขา ปูเรนฺติ นาม, อรหา ปริปุณฺณสิกฺโขติ. อิติ อิมานิ อนุตฺตริยานิ โลกิยโลกุตฺตรานิ กถิตานิ.
อนุตฺตริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อนุสฺสติฏฺานสุตฺตวณฺณนา
๙. นวเม อนุสฺสติโย เอว ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทิหิตสุขานํ การณภาวโต านานีติ อนุสฺสติฏฺานานิ. พุทฺธคุณารมฺมณา สตีติ ยถา พุทฺธานุสฺสติ วิเสสาธิคมสฺส านํ โหติ, เอวํ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา พุทฺธคุเณ อารพฺเภ อุปฺปนฺนา สติ. เอวํ อนุสฺสรโต ¶ หิ ปีติ อุปฺปชฺชติ, โส ตํ ปีตึ ขยโต วยโต ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อุปจารกมฺมฏฺานํ นาเมตํ คิหีนมฺปิ ลพฺภติ. อุปจารกมฺมฏฺานนฺติ จ ปจฺจกฺขโต อุปจารชฺฌานาวหํ กมฺมฏฺานปรมฺปราย สมฺมสนํ ยาว อรหตฺตา โลกิยโลกุตฺตรวิเสสาวหํ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อนุสฺสติฏฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. มหานามสุตฺตวณฺณนา
๑๐. ทสเม ตสฺมึ สมเยติ พุทฺธาคุณานุสฺสรณสมเย. ราคปริยุฏฺิตนฺติ ราเคน ปริยุฏฺิตํ. ปริยุฏฺานปฺปตฺติปิ, ราเคน วา สํหิตํ จิตฺตํ ¶ อรฺมิว โจเรหิ เตน ปริยุฏฺิตนฺติ วุตฺตํ, ตสฺส ปริยุฏฺานฏฺานภาวโตปิ ปริยุฏฺิตราคนฺติ อตฺโถ. พฺยฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถมตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุปฺปชฺชมาเนน ราเคน อุฏฺหิตฺวา คหิต’’นฺติ อาห. อุชุกเมวาติ ปเคว กายวงฺกาทีนํ อปนีตตฺตา จิตฺตสฺส จ อนุชุภาวกรานํ มานาทีนํ อภาวโต, ราคาทิปริยุฏฺานาภาเวน วา โอณติอุณฺณติวิรหโต อุชุภาวเมว คตํ. อถ วา อุชุกเมวาติ กมฺมฏฺานสฺส ถินํ มิทฺธํ โอติณฺณตาย ลีนุทฺธจฺจวิคมโต มชฺฌิมสมถนิมิตฺตปฺปฏิปตฺติยา อุชุภาวเมว คตํ. อฏฺกถํ นิสฺสายาติ ภวชาติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ นิสฺสาย. อตฺถเวทนฺติ วา เหตุผลํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ตุฏฺิมาห. ธมฺมเวทนฺติ เหตุํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ตุฏฺึ. ‘‘อารกตฺตา อรห’’นฺติ อนุสฺสรนฺตสฺส หิ ยทิทํ ภควโต กิเลเสหิ อารกตฺตํ, โส เหตุ. าปโก เจตฺถ เหตุ อธิปฺเปโต, น การโก สมฺปาปโก. ตโตเนน ายมาโน อรหตฺตตฺโถ ผลํ. อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ เหตุโส ผลวิปาโก เวทิตพฺโพ. ธมฺมานุสฺสติอาทีสุปิ หิ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณตาทโย สุปฺปฏิปตฺติอาทโย จ ตตฺถ ตตฺถ เหตุภาเวน นิทฺทิฏฺาเยว. ธมฺมูปสํหิตนฺติ ยถาวุตฺตเหตุผลสงฺขาตคุณูปสํหิตํ.
มหานามสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อาหุเนยฺยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.