📜

๒. สารณียวคฺโค

๑. ปมสารณียสุตฺตวณฺณนา

๑๑. ทุติยสฺส ปเม สริตพฺพยุตฺตกาติ อนุสฺสรณารหา. มิชฺชติ สินิยฺหติ เอตายาติ เมตฺตา, มิตฺตภาโว. เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ เมตฺตํ, กายกมฺมํ. ตํ ปน ยสฺมา เมตฺตาสหคตจิตฺตสมุฏฺานํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เมตฺเตน จิตฺเตน กาตพฺพํ กายกมฺม’’นฺติ. เอส นโย เสสทฺวเยปิ. อิมานีติ เมตฺตกายกมฺมาทีนิ. ภิกฺขูนํ วเสน อาคตานิ เตสํ เสฏฺปริสภาวโต. ยถา ปน ภิกฺขุนีสุปิ ลพฺภนฺติ, เอวํ คิหีสุปิ ลพฺภนฺติ จตุปริสสาธารณตฺตาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขูนฺหี’’ติอาทิมาห. ภิกฺขุโน สพฺพมฺปิ อนวชฺชกายกมฺมํ อาภิสมาจาริกกมฺมนฺโตคธเมวาติ อาห ‘‘เมตฺเตน จิตฺเตน…เป… กายกมฺมํ นามา’’ติ. ภตฺติวเสน ปวตฺติยมานา เจติยโพธีนํ วนฺทนา เมตฺตาสิทฺธาติ กตฺวา ตทตฺถาย คมนํ ‘‘เมตฺตํ กายกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน เจติยโพธิภิกฺขูสุ วุตฺตาวเสสาปจายนาทิวเสน ปวตฺตเมตฺตาวเสน ปวตฺตํ กายิกํ กิริยํ สงฺคณฺหาติ.

เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ กถิยมานนฺติ อธิปฺปาโย. เตปิฏกมฺปิ พุทฺธวจนํ ปริปุจฺฉนอตฺถกถนวเสน ปวตฺติยมานเมว เมตฺตํ วจีกมฺมํ นาม หิตชฺฌาสเยน ปวตฺติตพฺพโต. ตีณิ สุจริตานีติ กายวจีมโนสุจริตานิ. จินฺตนนฺติ เอวํ จินฺตนมตฺตมฺปิ มโนกมฺมํ, ปเคว ปฏิปนฺนา ภาวนาติ ทสฺเสติ.

อาวีติ ปกาสํ. ปกาสภาโว เจตฺถ ยํ อุทฺทิสฺส ตํ กายกมฺมํ กรียติ, ตสฺส สมฺมุขภาวโตติ อาห ‘‘สมฺมุขา’’ติ. รโหติ อปฺปกาสํ. อปฺปกาสตา จ ยํ อุทฺทิสฺส ตํ กายกมฺมํ กรียติ, ตสฺส อปจฺจกฺขภาวโตติ อาห ‘‘ปรมฺมุขา’’ติ. สหายภาวคมนํ เตสํ ปุรโต. เตสุ กโรนฺเตสุเยว หิ สหายภาวคมนํ สมฺมุขา กายกมฺมํ นาม โหติ. อุภเยหีติ นวเกหิ เถเรหิ จ. ปคฺคยฺหาติ ปคฺคณฺหิตฺวา อุทฺธํ กตฺวา เกวลํ ‘‘เทโว’’ติ อวตฺวา คุเณหิ ถิรภาวโชตนํ ‘‘เทวตฺเถโร’’ติ วจนํ ปคฺคยฺห วจนํ. มมตฺตโพธนํ วจนํ มมายนวจนํ. เอกนฺตปรมฺมุขสฺส มโนกมฺมสฺส สมฺมุขตา นาม วิฺตฺติสมุฏฺาปนวเสน โหติ, ตฺจ โข โลเก กายกมฺมนฺติ ปากฏํ ปฺาตํ. หตฺถวิการาทีนิ อนามสิตฺวา เอว ทสฺเสนฺโต ‘‘นยนานิ อุมฺมีเลตฺวา’’ติอาทิมาห. กามํ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธานํ นยนานํ อุมฺมีลนา ปสนฺเนน มุเขน โอโลกนฺจ เมตฺตํ กายกมฺมเมว, ยสฺส ปน จิตฺตสฺส วเสน นยนานํ เมตฺตาสิเนหสินิทฺธตา มุขสฺส จ ปสนฺนตา, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เมตฺตํ มโนกมฺมํ นามา’’ติ.

ลาภ-สทฺโท กมฺมสาธโน ‘‘ลาภา วต, โภ, ลทฺโธ’’ติอาทีสุ วิย. โส เจตฺถ ‘‘ธมฺมลทฺธา’’ติ วจนโต อตีตกาลิโกติ อาห ‘‘จีวราทโย ลทฺธปจฺจยา’’ติ. ธมฺมโต อาคตาติ ธมฺมิกา, ปริสุทฺธคมนา ปจฺจยา. เตนาห ‘‘ธมฺมลทฺธา’’ติ. อิมเมว หิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กุหนาที’’ติอาทิ วุตฺตํ. น สมฺมา คยฺหมานา หิ ธมฺมลทฺธา นาม น โหนฺตีติ ตปฺปฏิเสธนตฺถํ ปาฬิยํ ‘‘ธมฺมลทฺธา’’ติ วุตฺตํ. เทยฺยํ ทกฺขิเณยฺยฺจ อปฺปฏิวิภตฺตํ กตฺวา ภุฺชตีติ อปฺปฏิวิภตฺตโภคี นาม โหติ. เตนาห ‘‘ทฺเว ปฏิวิภตฺตานิ นามา’’ติอาทิ. จิตฺเตน วิภชนนฺติ เอเตน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ วิภชนํ ปฏิวิภตฺตํ นาม, ปเคว ปโยคโตติ ทสฺเสติ. จิตฺเตน วิภชนปุพฺพกํ วา กาเยน วิภชนนฺติ มูลเมว ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ จิตฺเตน วิภชน’’นฺติ วุตฺตํ. เตน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ปฏิวิภาโค กาตพฺโพติ ทสฺเสติ. อปฺปฏิวิภตฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, อปฺปฏิวิภตฺตํ ลาภํ ภุฺชตีติ กมฺมนิทฺเทโส วา. ตํ เนว คิหีนํ เทติ อตฺตโน อาชีวโสธนตฺถํ. น อตฺตนา ปริภุฺชติ ‘‘มยฺหํ อสาธารณโภคิตา มา โหตู’’ติ. ปฏิคฺคณฺหนฺโต จ…เป… ปสฺสตีติ อิมินา อาคมนโต ปฏฺาย สาธารณพุทฺธึ อุปฏฺาเปติ. เอวํ หิสฺส สาธารณโภคิตา สุกรา, สารณียธมฺโม จสฺส ปูโร โหติ.

อถ วา ปฏิคฺคณฺหนฺโต จ…เป… ปสฺสตีติ อิมินา ตสฺส ลาภสฺส ตีสุ กาเลสุ สาธารณโต ปนํ ทสฺสิตํ. ปฏิคฺคณฺหนฺโต จ สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ อิมินา ปฏิคฺคหณกาโล ทสฺสิโต. คเหตฺวา…เป… ปสฺสตีติ อิมินา ปฏิคฺคหิตกาโล. ตทุภยํ ปน ตาทิเสน ปุพฺพภาเคน วินา น โหตีติ อตฺถสิทฺโธ ปุริมกาโล. ตยิทํ ปฏิคฺคหณโต ปุพฺเพวสฺส โหติ ‘‘สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ ปฏิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ, ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส โหติ ‘‘สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ ปฏิคฺคณฺหามี’’ติ, ปฏิคฺคเหตฺวา โหติ ‘‘สงฺเฆน สาธารณํ โหตูติ หิ ปฏิคฺคหิตํ มยา’’ติ. เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺนํ กตฺวา ลทฺธํ ลาภํ โอสารณลกฺขณํ อวิโกเปตฺวา ปริภุฺชนฺโต สาธารณโภคี อปฺปฏิวิภตฺตโภคี จ โหติ.

อิมํ ปน สารณียธมฺมนฺติ อิมํ จตุตฺถํ สริตพฺพยุตฺตธมํ. น หิ…เป… คณฺหนฺติ, ตสฺมา สาธารณโภคิตา ทุสฺสีลสฺส นตฺถีติ อารมฺโภปิ ตาว น สมฺภวติ, กุโต ปูรณนฺติ อธิปฺปาโย. ปริสุทฺธสีโลติ อิมินา ลาภสฺส ธมฺมิกภาวํ ทสฺเสติ. วตฺตํ อขณฺเฑนฺโตติ อิมินา อปฺปฏิวิภตฺตโภคิตํ สาธารณโภคิตฺจ ทสฺเสติ. สติ ปน ตทุภเย สารณียธมฺโม ปูริโต เอว โหตีติ อาห ‘‘ปูเรตี’’ติ. โอทิสฺสกํ กตฺวาติ เอเตน อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปิตุโน, อาจริยุปชฺฌายาทีนํ วา เถราสนโต ปฏฺาย เทนฺตสฺส สารณียธมฺโมเยว โหตีติ ทสฺเสติ. ทาตพฺพนฺติ อวสฺสํ ทาตพฺพํ. สารณียธมฺโม ปนสฺส น โหติ ปฏิชคฺคฏฺาเน โอทิสฺสกํ กตฺวา ทินฺนตฺตา. เตนาห ‘‘ปลิโพธชคฺคนํ นาม โหตี’’ติ. มุตฺตปลิโพธสฺส วฏฺฏติ อมุตฺตปลิโพธสฺส ปูเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา. ยทิ เอวํ สพฺเพน สพฺพํ สารณียธมฺมํ ปูเรนฺตสฺส โอทิสฺสกทานํ วฏฺฏติ, น วฏฺฏตีติ? โน น วฏฺฏติ ยุตฺตฏฺาเนติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตน ปนา’’ติอาทิมาห. อิมินา โอทิสฺสกทานํ ปนสฺส น สพฺพตฺถ วาริตนฺติ ทสฺเสติ. คิลานาทีนฺหิ โอทิสฺสกํ กตฺวา ทานํ อปฺปฏิวิภาคปกฺขิกํ ‘‘อสุกสฺส น ทสฺสามี’’ติ ปฏิกฺเขปสฺส อภาวโต. พฺยติเรกปฺปธาโน หิ ปฏิภาโค. เตนาห ‘‘อวเสส’’นฺติอาทิ. อทาตุมฺปีติ ปิ-สทฺเทน ทาตุมฺปิ วฏฺฏตีติ ทสฺเสติ. ตฺจ โข กรุณายนวเสน, น วตฺตปริปูรณวเสน, ตสฺมา ทุสฺสีลสฺสปิ อตฺถิกสฺส สติ สมฺภเว ทาตพฺพํ. ทานฺหิ นาม น กสฺสจิ นิวาริตํ.

สุสิกฺขิตายาติ สารณียปูรณวิธิมฺหิ สุสิกฺขิตาย, สุกุสลายาติ อตฺโถ. อิทานิ ตสฺส โกสลฺลํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุสิกฺขิตาย หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวาทสหิ วสฺเสหิ ปูเรหิ, น ตโต โอรนฺติ อิมินา ตสฺส ทุปฺปูรตํ ทสฺเสติ. ตถา หิ โส มหปฺผโล มหานิสํโส ทิฏฺธมฺมิเกหิปิ ตาวครุตเรหิ ผลานิสํเสหิ อนุคโตติ ตํสมงฺคี จ ปุคฺคโล วิเสสลาภี อริยปุคฺคโล วิย โลเก อจฺฉริยพฺภุตธมฺมสมนฺนาคโต โหติ. ตถา หิ โส ทุปฺปชหทานมยสฺส สีลมยสฺส ปุฺสฺส ปฏิปกฺขธมฺมํ สุทูเร วิกฺขมฺภิตํ กตฺวา วิสุทฺเธน เจตสา โลเก ปากโฏ ปฺาโต หุตฺวา วิหรติ. ตสฺสิมมตฺถํ พฺยติเรกโต อนฺวยโต จ วิภาเวตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

อิทานิสฺส สมฺปรายิเก ทิฏฺธมฺมิเก จ อานิสํเส ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ปูริตสารณียธมฺมสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เนว อิสฺสา น มจฺฉริยํ โหติ จิรกาลภาวนาย วิธุตภาวโต. มนุสฺสานํ ปิโย โหติ ปริจฺจาคสีลตาย วิสฺสุตตฺตา. เตนาห ‘‘ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู’’ติอาทิ (อ. นิ. ๕.๓๔). สุลภปจฺจโย โหติ ทานวเสน อุฬารชฺฌาสยานํ ปจฺจยลาภสฺส อิธานิสํสสภาวโต ทานสฺส. ปตฺตคตมสฺส ทิยฺยมานํ น ขียติ ปตฺตคตสฺเสว ทฺวาทสวสฺสิกสฺส มหาวตฺตสฺส อวิจฺเฉเทน ปูริตตฺตา. อคฺคภณฺฑํ ลภติ เทวสิกํ ทกฺขิเณยฺยานํ อคฺคโต ปฏฺาย ทานสฺส ทินฺนตฺตา. ภเย วา…เป… อาปชฺชนฺติ เทยฺยปฺปฏิคฺคาหกวิกปฺปํ อกตฺวา อตฺตนิ นิรเปกฺขจิตฺเตน จิรกาลํ ทานสฺส ปูริตตาย ปสาริตจิตฺตตฺตา.

ตตฺราติ เตสุ อานิสํเสสุ วิภาเวตพฺเพสุ. อิมานิ ผลานิ วตฺถูนิ การณานิ. มหาคิริคาโม นาม นาคทีปปสฺเส เอโก คาโมว. อลภนฺตาปีติ อปฺปปุฺตาย อลาภิโน สมานาปิ. ภิกฺขาจารมคฺคสภาคนฺติ สภาคํ ตพฺภาคิยํ ภิกฺขาจารมคฺคํ ชานนฺติ. อนุตฺตริมนุสฺสธมฺมตฺตา เถรานํ สํสยวิโนทนตฺถฺจ ‘‘สารณียธมฺโม เม, ภนฺเต, ปูริโต’’ติ อาห. ตถา หิ ทุติยวตฺถุสฺมิมฺปิ เถเรน อตฺตา ปกาสิโต. ทหรกาเล เอวํ กิร สารณียธมฺมปูรโก อโหสิ. มนุสฺสานํ ปิยตาย สุลภปจฺจยตายปิ อิทํ วตฺถุเมว. ปตฺตคตาขียนสฺส ปน วิเสสํ วิภาวนโต ‘‘อิทํ ตาว…เป… เอตฺถ วตฺถู’’ติ วุตฺตํ.

คิริภณฺฑมหาปูชายาติ เจติยคิริมฺหิ สกลลงฺกาทีเป โยชนปฺปมาเณ สมุทฺเท จ นาวาสงฺฆาฏาทิเก เปตฺวา ทีปปุปฺผคนฺธาทีหิ กริยมานาย มหาปูชาย. ตสฺสา จ ปฏิปตฺติยา อวฺฌภาววิภาวนตฺถํ ‘‘เอเต มยฺหํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อาห. ปริยาเยนปิ เลเสนปิ. อนุจฺฉวิกนฺติ ‘‘สารณียธมฺมปูรโก’’ติ ยถาภูตปเวทนํ ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกนฺติ อตฺโถ.

อนาโรเจตฺวาว ปลายึสุ โจรภเยน. ‘‘อตฺตโน ทุชฺชีวิกายา’’ติปิ วทนฺติ. อหํ สารณียธมฺมปูริกา, มม ปตฺตปริยาปนฺเนนปิ สพฺพาปิมา ภิกฺขุนิโย ยาเปสฺสนฺตีติ อาห ‘‘มา ตุมฺเห เตสํ คตภาวํ จินฺตยิตฺถา’’ติ. วฏฺฏิสฺสตีติ กปฺปิสฺสติ. เถรี สารณียธมฺมปูริกา อโหสิ, เถรสฺส ปน สีลเตเชเนว เทวตา อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิ.

นตฺถิ เอเตสํ ขณฺฑนฺติ อขณฺฑานิ. ตํ ปน เนสํ ขณฺฑํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปสมฺปนฺนสีลานํ อุทฺเทสกฺกเมน อาทิอนฺตา เวทิตพฺพา. เตนาห ‘‘สตฺตสู’’ติอาทิ. น หิ อฺโ โกจิ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อนุกฺกโม อตฺถิ, อนุปสมฺปนฺนสีลานํ สมาทานกฺกเมนปิ อาทิอนฺตา ลพฺภนฺติ. ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิยาติ ตตฺรนฺเต ทสนฺเต วา ฉินฺนวตฺถํ วิย. วิสทิสุทาหรณฺเจตํ ‘‘อขณฺฑานี’’ติ อิมสฺส อธิกตตฺตา. เอวํ เสสานมฺปิ อุทาหรณานิ. ขณฺฑิกตา ภินฺนตา ขณฺฑํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ ขณฺฑํ, สีลํ. ฉิทฺทนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เวมชฺเฌ ภินฺนํ วินิวิชฺฌนวเสน. วิสภาควณฺเณน คาวี วิยาติ สมฺพนฺโธ. วิสภาควณฺเณน อุปฑฺฒํ ตติยภาคคตํ สมฺภินฺนวณฺณํ สพลํ, วิสภาควณฺเณเหว พินฺทูหิ อนฺตรนฺตราหิ วิมิสฺสํ กมฺมาสํ. อยํ อิเมสํ วิเสโส. สพลรหิตานิ อสพลานิ, ตถา อกมฺมาสานิ. สีลสฺส ตณฺหาทาสพฺยโต โมจนํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยภาวาปาทนํ, ตสฺมา ตณฺหาทาสพฺยโต โมจนวจเนน เตสํ สีลานํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยตมาห. ภุชิสฺสภาวกรณโตติ อิมินา ภุชิสฺสกรานิ ภุชิสฺสานีติ อุตฺตรปทโลเปนายํ นิทฺเทโสติ ทสฺเสติ. ยสฺมา วา ตํสมงฺคิปุคฺคโล เสรี สยํวสี ภุชิสฺโส นาม โหติ, ตสฺมาปิ ภุชิสฺสานิ. อวิฺูนํ อปฺปมาณตาย ‘‘วิฺุปฺปสตฺถานี’’ติ วุตฺตํ. สุปริสุทฺธภาเวน วา สมฺปนฺนตฺตา วิฺูหิ ปสตฺถานีติ วิฺุปฺปสตฺถานิ.

ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตฺตาติ ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติ ตณฺหาปรามาเสน, ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว หุตฺวา ตตฺถ นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต ภวิสฺสามี’’ติ ทิฏฺิปรามาเสน จ อปรามฏฺตฺตา. ปรามฏฺุนฺติ ‘‘อยํ เต สีเลสุ โทโส’’ติ จตูสุ วิปตฺตีสุ ยาย กายจิ วิปตฺติยา ทสฺสเนน ปรามฏฺุํ, อนุทฺธํเสตุํ โจเทตุนฺติ อตฺโถ. สีลํ นาม อวิปฺปฏิสาราทิปารมฺปริเยน ยาวเทว สมาธิสมฺปาทนตฺถนฺติ อาห ‘‘สมาธิสํวตฺตนิกานี’’ติ. สมาธิสํวตฺตนปฺปโยชนานิ สมาธิสํวตฺตนิกานิ.

สมานภาโว สามฺํ, ปริปุณฺณจตุปาริสุทฺธิภาเวน มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณสฺส วิย เภทาภาวโต สีเลน สามฺํ สีลสามฺํ, ตํ คโต อุปคโตติ สีลสามฺคโต. เตนาห ‘‘สมานภาวูปคตสีโล’’ติ, สีลสมฺปตฺติยา สมานภาวํ อุปคตสีโล สภาควุตฺติโกติ อตฺโถ. กามํ ปุถุชฺชนานมฺปิ จตุปาริสุทฺธิสีเล นานตฺตํ น สิยา, ตํ ปน น เอกนฺติกํ, อิทํ เอกนฺติกํ นิยตภาวโตติ อาห ‘‘นตฺถิมคฺคสีเล นานตฺต’’นฺติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตนฺติ มคฺคสีลํ สนฺธาย ตํ ‘‘ยานิ ตานิ สีลานี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยายนฺติ ยา อยํ มยฺหฺเจว ตุมฺหากฺจ ปจฺจกฺขภูตา. ทิฏฺีติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิ. นิทฺโทสาติ นิทฺธุตโทสา, สมุจฺฉินฺนราคาทิปาปธมฺมาติ อตฺโถ. นิยฺยาตีติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรติ นิคฺคจฺฉติ. สยํ นิยฺยนฺตีเยว หิ ตํสมงฺคิปุคฺคลํ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาเปตีติ วุจฺจติ. ยา สตฺถุ อนุสิฏฺิ, ตํ กโรตีติ ตกฺกโร, ตสฺส, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนฺตสฺสาติ อตฺโถ. สมานทิฏฺิภาวนฺติ สทิสทิฏฺิภาวํ สจฺจสมฺปฏิเวเธน อภินฺนทิฏฺิภาวํ.

ปมสารณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยสารณียสุตฺตวณฺณนา

๑๒. ทุติเย สพฺรหฺมจารีนนฺติ สหธมฺมิกานํ. ปิยํ ปิยายิตพฺพกํ กโรนฺตีติ ปิยกรณา. ครุํ ครุฏฺานิยํ กโรนฺตีติ ครุกรณา. สงฺคณฺหนตฺถายาติ สงฺคหวตฺถุวิเสสภาวโต สพฺรหฺมจารีนํ สงฺคหณาย สํวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อวิวทนตฺถายาติ สงฺคหวตฺถุภาวโต เอว น วิวทนตฺถาย. สติ จ อวิวทนเหตุภูตสงฺคหกตฺเต เตสํ วเสน สพฺรหฺมจารีนํ สมคฺคภาโว เภทาภาโว สิทฺโธเยวาติ อาห ‘‘สามคฺคิยา’’ติอาทิ.

ทุติยสารณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย วฑฺฒิตาติ ภาวนาปาริปูริวเสน ปริพฺรูหิตา. ปุนปฺปุนํ กตาติ ภาวนาย พหุลีกรเณน อปราปรํ ปวตฺติตา. ยุตฺตยานสทิสา กตาติ ยถา ยุตฺตมาชฺยานํ เฉเกน สารถินา อธิฏฺิตํ ยถารุจิ ปวตฺตติ, เอวํ ยถารุจิ ปวตฺติรหํ คหิตา. วตฺถุกตาติ วา อธิฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตา, สพฺพโส อุปกฺกิเลสวิโสธเนน อิทฺธิวิเสสตาย ปวตฺติฏฺานภาวโต สุวิโสธิตปริสฺสยวตฺถุ วิย กตาติ วุตฺตํ โหติ. อธิฏฺิตาติ ปฏิปกฺขทูรีภาวโต สุภาวิตภาเวน ตํตํอธิฏฺานโยคฺยตาย ปิตา. สมนฺตโต จิตาติ สพฺพภาเคน ภาวนูปจยํ คมิตา. เตนาห ‘‘อุปจิตา’ติ. สุฏฺุ สมารทฺธาติ อิทฺธิภาวนาสิขาปฺปตฺติยา สมฺมเทว สมฺภาวิตา. อภูตพฺยากรณํ พฺยากโรตีติ ‘‘เมตฺตา หิ โข เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา’’ติอาทินา อตฺตนิ อวิชฺชมานคุณาภิพฺยาหารํ พฺยาหรติ. เจโตวิมุตฺติสทฺทํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘นิสฺสฏา’’ติ วุตฺตํ. ปุน พฺยาปาโท นตฺถีติ อิทานิ มม พฺยาปาโท นาม สพฺพโส นตฺถีติ ตฺวา.

พลววิปสฺสนาติ ภยตุปฏฺาเน าณํ, อาทีนวานุปสฺสเน าณํ มุจฺจิตุกมฺยตาาณํ, ภงฺคาณนฺติ จตุนฺนํ าณานํ อธิวจนํ. เยสํ นิมิตฺตานํ อภาเวน อรหตฺตผลสมาปตฺติยา อนิมิตฺตตา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ราคสฺส นิมิตฺตํ, ราโค เอว วา นิมิตฺตํ ราคนิมิตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน โทสนิมิตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. รูปเวทนาทิสงฺขารนิมิตฺตํ รูปนิมิตฺตาทิ. เตสํเยว นิจฺจาทิวเสน อุปฏฺานํ นิจฺจนิมิตฺตาทิ. ตยิทํ นิมิตฺตํ ยสฺมา สพฺเพน สพฺพํ อรหตฺตผเล นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สา หิ…เป… อนิมิตฺตา’’ติ. นิมิตฺตํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉติ อารพฺภ ปวตฺตติ สีเลนาติ นิมิตฺตานุสารี. เตนาห ‘‘วุตฺตปฺปเภทํ นิมิตฺตํ อนุสรณสภาว’’นฺติ.

อสฺมิมาโนติ ‘‘อสฺมี’’ติ ปวตฺโต อตฺตวิสโย มาโน. อยํ นาม อหมสฺมีติ รูปลกฺขโณ เวทนาทีสุ วา อฺตรลกฺขโณ อยํ นาม อตฺตา อหํ อสฺมีติ. อสฺมิมาโน สมุคฺฆาตียติ เอเตนาติ อสฺมิมานสมุคฺฆาโต, อรหตฺตมคฺโค. ปุน อสฺมิมาโน นตฺถีติ ตสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ กิตฺเตนฺโต สมุคฺฆาตตฺตเมว วิภาเวติ.

นิสฺสารณียสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๕. ภทฺทกสุตฺตาทิวณฺณนา

๑๔-๑๕. จตุตฺเถ อารมิตพฺพฏฺเน วา กมฺมํ อาราโม เอตสฺสาติ กมฺมาราโม. กมฺเม รโต น คนฺถธุเร วิปสฺสนาธุเร วาติ กมฺมรโต. ปุนปฺปุนํ ยุตฺโตติ ตปฺปรภาเวน อนุ อนุ ยุตฺโต ปสุโต. อาลาปสลฺลาโปติ อิตฺถิวณฺณปุริสวณฺณาทิวเสน ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ปฺจเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.

ภทฺทกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ วิสภาคเวทนุปฺปตฺติยา กกเจเนว จตุอิริยาปถํ ฉินฺทนฺโต อาพาธยตีติ อาพาโธ, โส ยสฺส อตฺถีติ อาพาธิโก. ตํสมุฏฺานทุกฺเขน ทุกฺขิโต. อธิมตฺตคิลาโนติ ธาตุสงฺขเยน ปริกฺขีณสรีโร.

สปฺปฏิภยกนฺตารสทิสา โสฬสวตฺถุกา อฏฺวตฺถุกา จ วิจิกิจฺฉา ติณฺณา อิมายาติ ติณฺณวิจิกิจฺฉา. วิคตา สมุจฺฉินฺนา ปวตฺติอาทีสุ ‘‘เอวํ นุ โข น นุ โข’’ติ เอวํ ปวตฺติกา กถํกถา อสฺสาติ วิคตกถํกถา. สารชฺชกรานํ ปาปธมฺมานํ ปหีนตฺตา ราควิกฺเขเปสุ สีลาทิคุเณสุ จ ติฏฺกตฺตา เวสารชฺชํ, วิสารทภาวํ เวยฺยตฺติยํ ปตฺตาติ เวสารชฺชปฺปตฺตา. อตฺตนา เอว ปจฺจกฺขโต ทิฏฺตฺตา น ปรํ ปจฺเจติ, นสฺส ปโร ปจฺเจตพฺโพ อตฺถีติ อปรปฺปจฺจยา.

คิลานา วุฏฺิโตติ คิลานภาวโต วุฏฺาย ิโต. ภาวปฺปธาโน หิ อยํ นิทฺเทโส. คิลาโน หุตฺวา วุฏฺิโตติ อิทํ ปน อตฺถมตฺตนิทสฺสนํ.

นกุลปิตุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. โสปฺปสุตฺตวณฺณนา

๑๗. สตฺตเม ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เอตฺถ ปฏิสลฺลานนฺติ เตหิ เตหิ สทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกอุปาสกาทิสตฺเตหิ เจว รูปารมฺมณาทิสงฺขาเรหิ จ ปฏินิวตฺติตฺวา อปสกฺกิตฺวา นิลียนํ วิเวจนํ. กายจิตฺเตหิ ตโต วิวิตฺโต เอกีภาโว ปวิเวโกติ อาห ‘‘เอกีภาวายา’’ติอาทิ. เอกีภาวโตติ จ อิมินา กายวิเวกโต วุฏฺานมาห. ธมฺมนิชฺฌานกฺขนฺติโตติอาทินา จิตฺตวิเวกโต. วุฏฺิโตติ ตโต ทุวิธวิเวกโต ภวงฺคุปฺปตฺติยา สพฺรหฺมจารีหิ สมาคเมน อุเปโต.

โสปฺปสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. มจฺฉพนฺธสุตฺตวณฺณนา

๑๘. อฏฺเม มจฺฉฆาตกนฺติ มจฺฉพนฺธํ เกวฏฺฏํ. โอรพฺภิกาทีสุ อุรพฺภา วุจฺจนฺติ เอฬกา, อุรพฺเภ หนฺตีติ โอรพฺภิโก. สูกริกาทีสุปิ เอเสว นโย.

มจฺฉพนฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปมมรณสฺสติสุตฺตวณฺณนา

๑๙. นวเม เอวํนามเก คาเมติ นาติกานามกํ คามํ นิสฺสาย. ทฺวินฺนํ จูฬปิติมหาปิติปุตฺตานํ ทฺเว คามา, เตสุ เอกสฺมึ คาเม. าตีนฺหิ นิวาสฏฺานภูโต คาโม าติโก, าติโกเยว นาติโก -การสฺส น-การาเทโส ‘‘อนิมิตฺตา น นายเร’’ติอาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๗๔; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๐; ชา. อฏฺ. ๒.๒.๓๔) วิย. โส กิร คาโม เยสํ ตทา เตสํ ปุพฺพปุริเสน อตฺตโน าตีนํ สาธารณภาเวน นิวสิโต, เตน าติโกติ ปฺายิตฺถ. อถ ปจฺฉา ทฺวีหิ ทายาเทหิ ทฺวิธา วิภชิตฺวา ปริภุตฺโต. คิฺชกา วุจฺจติ อิฏฺกา, คิฺชกาหิเยว กโต อาวสโถติ คิฺชกาวสโถ. โส หิ อาวาโส ยถา สุธาปริกมฺเมน ปโยชนํ นตฺถิ, เอวํ อิฏฺกาหิ เอว จินิตฺวา ฉาเทตฺวา กโต. ตสฺมึ กิร ปเทเส มตฺติกา สกฺขรมรุมฺปวาลุกาทีหิ อสมฺมิสฺสา กถินา สณฺหสุขุมา, ตาย กตานิ กุลาลภาชนานิปิ สิลามยานิ วิย ทฬฺหานิ. ตสฺมา เต อุปาสกา ตาย มตฺติกาย ทีฆปุถู อิฏฺกา กาเรตฺวา เปตฺวา เปตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏตุลาโย สพฺพํ ทพฺพสมฺภาเรน วินา ตาหิ อิฏฺกาหิเยว ปาสาทํ กาเรสุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิฏฺกามเย ปาสาเท’’ติ.

รตฺตินฺทิวนฺติ เอกรตฺติทิวํ. ภควโต สาสนนฺติ อริยมคฺคปฺปฏิเวธาวหํ สตฺถุ โอวาทํ. พหุ วต เม กตํ อสฺสาติ พหุ วต มยา อตฺตหิตํ ปพฺพชิตกิจฺจํ กตํ ภเวยฺย.

ตทนฺตรนฺติ ตตฺตกํ เวลํ. เอกปิณฺฑปาตนฺติ เอกํ ทิวสํ ยาปนปฺปโหนกํ ปิณฺฑปาตํ. ยาว อนฺโต ปวิฏฺวาโต พหิ นิกฺขมติ, พหิ นิกฺขนฺตวาโตวา อนฺโต ปวิสตีติ เอกสฺเสว ปเวสนิกฺขโม วิย วุตฺตํ, ตํ นาสิกาวาตภาวสามฺเนาติ ทฏฺพฺพํ.

ปมมรณสฺสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทุติยมรณสฺสติสุตฺตวณฺณนา

๒๐. ทสเม นิกฺขนฺเตติ วีติวตฺเต. ปติคตายาติ ปจฺจาคตาย, สมฺปตฺตายาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฏิปนฺนายา’’ติ. โส มมสฺส อนฺตราโยติ ยถาวุตฺตา น เกวลํ กาลกิริยาว, มม อติทุลฺลภํ ขณํ ลภิตฺวา ตสฺส สตฺถุสาสนมนสิการสฺส เจว ชีวิตสฺส จ สคฺคโมกฺขานฺจ อนฺตราโย อสฺส, ภเวยฺยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ติวิโธ อนฺตราโย’’ติอาทิ. วิปชฺเชยฺยาติ วิปตฺตึ คจฺเฉยฺย. สตฺถเกน วิย องฺคปจฺจงฺคานํ กนฺตนการกา กาเย สนฺธิพนฺธนจฺเฉทกวาตา สตฺถกวาตา. กตฺตุกมฺยตาฉนฺโทติ นิยฺยานาวโห กตฺตุกมฺยตากุสลจฺฉนฺโท. ปโยควีริยนฺติ ภาวนานุโยควีริยํ. น ปฏิวาติ น ปฏินิวตฺตตีติ อปฺปฏิวานี, อนฺตรา โวสานานาปชฺชนวีริยํ. เตนาห ‘‘อนุกฺกณฺนา อปฺปฏิสงฺฆรณา’’ติ.

ทุติยมรณสฺสติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

สารณียวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.