📜
๓. อนุตฺตริยวคฺโค
๑-๒. สามกสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑-๒๒. ตติยสฺส ¶ ปเม เกวลกปฺปนฺติ เอตฺถ เกวล-สทฺโท อนวเสสตฺโถ, กปฺป-สทฺโท สมนฺตภาวตฺโถ. ตสฺมา เกวลกปฺปํ โปกฺขรณิยนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺสปิ โอภาสสฺส เกนจิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพโสว ผรตีติ ทสฺเสตุํ สมนฺตตฺโถ กปฺป-สทฺโท คหิโต. อตฺตโน โอภาเสน ผริตฺวาติ วตฺถาลงฺการสรีรสมุฏฺิเตน โอภาเสน ผริตฺวา, จนฺทิมา ¶ วิย เอโกภาสํ เอกปชฺโชตํ กริตฺวาติ อตฺโถ. สมนฺุโติ สมฺมเทว กตมนฺุโ. เตนาห ‘‘สมานจิตฺโต’’ติ, สมานชฺฌาสโยติ อตฺโถ. ทุกฺขํ วโจ เอตสฺมินฺติ ทุพฺพโจ, ตสฺส กมฺมํ โทวจสฺสํ, ตสฺส ปุคฺคลสฺส อนาทริยวเสน ปวตฺตา เจตนา, ตสฺส ภาโว อตฺถิตา โทวจสฺสตา. อถ วา โทวจสฺสเมว โทวจสฺสตา. สา อตฺถโต สงฺขารกฺขนฺโธ โหติ. เจตนาปธาโน หิ สงฺขารกฺขนฺโธ. จตุนฺนํ วา ขนฺธานํ อปทกฺขิณคฺคาหิตากาเรน ปวตฺตานํ เอตํ อธิวจนนฺติ วทนฺติ. ปาปา อสฺสทฺธาทโย ปุคฺคลา เอตสฺส มิตฺตาติ ปาปมิตฺโต, ตสฺส ภาโว ปาปมิตฺตตา. สาปิ อตฺถโต โทวจสฺสตา วิย ทฏฺพฺพา. ยาย หิ เจตนาย ปุคฺคโล ปาปมิตฺโต ปาปสมฺปวงฺโก นาม โหติ, สา เจตนา ปาปมิตฺตตา. จตฺตาโรปิ วา อรูปิโน ขนฺธา ตทาการปฺปวตฺตา ปาปมิตฺตตา. ทุติยํ อุตฺตานเมว.
สามกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ภยสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย สมฺภวติ ชาติมรณํ เอเตนาติ สมฺภโว, อุปาทานนฺติ อาห ‘‘ชาติยา จ มรณสฺส จ สมฺภเว ปจฺจยภูเต’’ติ. อนุปาทาติ อนุปาทาย. เตนาห ‘‘อนุปาทิยิตฺวา’’ติ. ชาติมรณานิ สมฺมา ขียนฺติ เอตฺถาติ ชาติมรณสงฺขโย, นิพฺพานนฺติ อาห ‘‘ชาติมรณานํ สงฺขยสงฺขาเต นิพฺพาเน’’ติ. สพฺพทุกฺขํ อุปจฺจคุนฺติ สกลมฺปิ วฏฺฏทุกฺขํ อติกฺกนฺตา จริมจิตฺตนิโรเธน วฏฺฏทุกฺขเลสสฺสปิ อสมฺภวโต.
ภยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ ¶ สมาปตฺติกุสโล โหตีติ สมาปชฺชนกุสโล โหติ. เตนาห ‘‘สมาปชฺชิตุํ กุสโล’’ติ. ตตฺถ อนฺโตคตเหตุอตฺโถ ิติ-สทฺโท, ตสฺมา ปนกุสโลติ อตฺโถติ อาห ‘‘สมาธึ เปตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ’’ติ. ตตฺถ เปตุํ สกฺโกตีติ สตฺตฏฺอจฺฉรามตฺตํ ¶ ขณํ ฌานํ เปตุํ สกฺโกติ อธิฏฺานวสิภาวสฺส นิปฺผาทิตตฺตา. ยถาปริจฺเฉเทนาติ ยถาปริจฺฉินฺนกาเลน. วุฏฺาตุํ สกฺโกติ วุฏฺานวสิภาวสฺส นิปฺผาทิตตฺตา. กลฺลํ สฺชาตํ อสฺสาติ กลฺลิตํ, ตสฺมึ กลฺลิเต กลฺลิตภาเว กุสโล กลฺลิตกุสโล. หาเสตุํ โตเสตุํ สมฺปหํเสตุํ. กลฺลํ กาตุนฺติ สมาธานสฺส ปฏิปกฺขธมฺมานํ ทูรีกรเณน สหการีการณานฺจ สมปฺปธาเนน สมาปชฺชเน จิตฺตํ สมตฺถํ กาตุํ. สมาธิสฺส โคจรกุสโลติ สมาธิสฺมึ นิปฺผาเทตพฺเพ ตสฺส โคจเร กมฺมฏฺานสฺิเต ปวตฺติฏฺาเน ภิกฺขาจารโคจเร สติสมฺปชฺโยคโต กุสโล เฉโก. เตนาห ‘‘สมาธิสฺส อสปฺปาเย อนุปการเก ธมฺเม วชฺเชตฺวา’’ติอาทิ. ปมชฺฌานาทิสมาธึ อภินีหริตุนฺติ ปมชฺฌานาทิสมาธึ วิเสสภาคิยตาย อภินีหริตุํ อุปเนตุํ.
หิมวนฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อนุสฺสติฏฺานสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม อนุสฺสติการณานีติ อนุสฺสติโย เอว ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทิหิตสุขานํ เหตุภาวโต การณานิ. นิกฺขนฺตนฺติ นิสฺสฏํ. มุตฺตนฺติ วิสฺสฏฺํ. วุฏฺิตนฺติ อเปตํ. สพฺพเมตํ วิกฺขมฺภนเมว สนฺธาย วทติ. เคธมฺหาติ ปฺจกามคุณโต. อิทมฺปีติ พุทฺธานุสฺสติวเสน ลทฺธํ อุปจารชฺฌานมาห. อารมฺมณํ กริตฺวาติ ปจฺจยํ กริตฺวา, ปาทกํ กตฺวาติ อตฺโถ.
อนุสฺสติฏฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. มหากจฺจานสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ สมฺพาเธติ วา ตณฺหาสํกิเลสาทีนํ สมฺปีเฬ สงฺกเร ฆราวาเส. โอกาสา วุจฺจนฺตีติ มคฺคผลสุขาธิคมาย โอกาสภาวโต โอกาสาติ วุจฺจนฺติ. โอกาสาธิคโมติ โลกุตฺตรธมฺมสฺส ¶ อธิคมาย อธิคนฺตพฺพโอกาโส. วิสุชฺฌนตฺถายาติ ราคาทีหิ มเลหิ อภิชฺฌาวิสมโลภาทีหิ ¶ จ อุปกฺกิลิฏฺจิตฺตานํ วิสุทฺธตฺถาย. สา ปนายํ จิตฺตสฺส วิสุทฺธิ สิชฺฌมานา ยสฺมา โสกาทีนํ อนุปาทาย สํวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘โสกปริเทวานํ สมติกฺกมายา’’ติอาทิ. ตตฺถ โสจนํ าติพฺยสนาทินิมิตฺตํ เจตโส สนฺตาโป อนฺโตตาโป อนฺโตนิชฺฌานํ โสโก, าติพฺยสนาทินิมิตฺตเมว โสจิกตา. ‘‘กหํ เอกปุตฺตกา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๓๕๓-๓๕๔; สํ. นิ. ๒.๖๓) ปริเทวนวเสน ลปนํ ปริเทโว. สมติกฺกมนตฺถายาติ ปหานาย. อายตึ อนุปฺปชฺชนฺหิ อิธ สมติกฺกโม. ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมายาติ กายิกทุกฺขสฺส จ เจตสิกโทมนสฺสสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ อตฺถงฺคมาย, นิโรธายาติ อตฺโถ. ายติ นิจฺฉเยน กมติ นิพฺพานํ, ตํ วา ายติ ปฏิวิชฺฌติ เอเตนาติ าโย, อริยมคฺโค. อิธ ปน สห ปุพฺพภาเคน อริยมคฺโค คหิโตติ อาห ‘‘สหวิปสฺสนกสฺส มคฺคสฺส อธิคมนตฺถายา’’ติ. อปจฺจยปรินิพฺพานสฺสาติ อนุปาทิเสสนิพฺพานํ สนฺธาย วทติ. ปจฺจยวเสน อนุปฺปนฺนํ อสงฺขตํ อมตธาตุเมว. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
มหากจฺจานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปมสมยสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม วฑฺเฒตีติ มนโส วิวฏฺฏนิสฺสิตํ วฑฺฒึ อาวหติ. มโนภาวนีโยติ วา มนสา ภาวิโต สมฺภาวิโต. ยฺจ อาวชฺชโต มนสิ กโรโต จิตฺตํ วินีวรณํ โหติ. อิมสฺมึ ปกฺเข กมฺมสาธโน สมฺภาวนตฺโถ ภาวนีย-สทฺโท. ‘‘ถินมิทฺธวิโนทนกมฺมฏฺาน’’นฺติ วตฺวา ตเทว วิภาเวนฺโต ‘‘อาโลกสฺํ วา’’ติอาทิมาห. วีริยารมฺภวตฺถุอาทีนํ วาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อิธ อวุตฺตานํ อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาหาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ฉ ธมฺมา ถินมิทฺธสฺส ปหานาย สํวตฺตนฺติ อติโภชเน นิมิตฺตคฺคาโห, อิริยาปถสมฺปริวตฺตนตา, อาโลกสฺามนสิกาโร, อพฺโภกาสวาโส, กลฺยาณมิตฺตตา, สปฺปายกถา’’ติ (อิติวุ. อฏฺ. ๑๑๑). อนฺตรายสทฺทปริยาโย อิธ อนฺตรา-สทฺโทติ อาห ‘‘อนนฺตราเยนา’’ติ.
ปมสมยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุติยสมยสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม ¶ ¶ มณฺฑลสณฺานมาฬสงฺเขเปน กตา โภชนสาลา มณฺฑลมาฬาติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘โภชนสาลายา’’ติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
ทุติยสมยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อุทายีสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ทิฏฺธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺโข อตฺตภาโวติ อาห ‘‘อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว’’ติ. สุขวิหารตฺถายาติ นิกฺกิเลสตาย นิรามิเสน สุเขน วิหารตฺถาย. อาโลกสฺํ มนสิ กโรตีติ สูริยจนฺทปชฺโชตมณิอุกฺกาวิชฺชุอาทีนํ อาโลโก ทิวา รตฺติฺจ อุปลทฺโธ, ยถาลทฺธวเสเนว อาโลกํ มนสิ กโรติ, จิตฺเต เปติ. ตถา จ นํ มนสิ กโรติ, ยถาสฺส สุภาวิตาโลกกสิณสฺส วิย กสิณาโลโก ยถิจฺฉกํ ยาวทิจฺฉกฺจ โส อาโลโก รตฺติยํ อุปติฏฺติ. เยน ตตฺถ ทิวาสฺํ เปติ, ทิวาริว วิคตถินมิทฺโธ โหติ. เตนาห ‘‘ยถา ทิวา ตถา รตฺติ’’นฺติ. ทิวาติ สฺํ เปตีติ วุตฺตนเยน มนสิ กตฺวา ทิวาริว สฺํ อุปฺปาเทติ. ยถาเนน ทิวา…เป… ตเถว ตํ มนสิ กโรตีติ ยถาเนน ทิวา อุปลทฺโธ สูริยาโลโก, เอวํ รตฺติมฺปิ ทิวา ทิฏฺากาเรเนว ตํ อาโลกํ มนสิ กโรติ. ยถา จเนน รตฺตึ…เป… มนสิ กโรตีติ ยถา รตฺติยํ จนฺทาโลโก อุปลทฺโธ, เอวํ ทิวาปิ รตฺตึ ทิฏฺากาเรเนว ตํ อาโลกํ มนสิ กโรติ, จิตฺเต เปติ. วิวเฏนาติ ถินมิทฺเธน อปิหิตตฺตา วิวเฏน. อโนนทฺเธนาติ อสฺฉาทิเตน. สโหภาสกนฺติ สฺาโณภาสํ. ทิพฺพจกฺขุาณํ รูปคตสฺส ทิพฺพสฺส อิตรสฺส จ ทสฺสนฏฺเน อิธ าณทสฺสนนฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ทิพฺพจกฺขุสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ.
อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุปริ มรณโต ปรํ. สมุคฺคเตนาติ อุฏฺิเตน. ธุมาตตฺตาติ อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตตฺตา สูนตฺตา ¶ . เสตรตฺเตหิ วิปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํ วินีลํ, วินีลเมว วินีลกนฺติ ก-กาเรน ปทวฑฺฒนมาห อนตฺถนฺตรโต ยถา ‘‘ปีตกํ โลหิตก’’นฺติ. ปฏิกูลตฺตาติ ชิคุจฺฉนียตฺตา. กุจฺฉิตํ วินีลํ วินีลกนฺติ กุจฺฉนตฺโถ วา อยํ ก-กาโรติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๑๖; อ. นิ. ๕.๒๑๓). ปริภินฺนฏฺาเนหิ กากธงฺกาทีหิ ¶ . วิสฺสนฺทมานํ ปุพฺพนฺติ วิสฺสวนฺตปุพฺพํ, ตหํ ตหํ ปคฺฆรนฺตปุพฺพนฺติ อตฺโถ. ตถาภาวนฺติ วิสฺสนฺทมานปุพฺพตํ.
โส ภิกฺขูติ โย ‘‘ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิต’’นฺติ วุตฺโต, โส ภิกฺขุ. อุปสํหรติ สทิสตํ. อยมฺปิ โขติอาทิ อุปสํหรณาการทสฺสนํ. อายูติ รูปชีวิตินฺทฺริยํ. อรูปชีวิตินฺทฺริยํ ปเนตฺถ วิฺาณคติกเมว. อุสฺมาติ กมฺมชเตโช. เอวํปูติกสภาโวติ เอวํ อติวิย ปูติสภาโว อายุอาทิวิคเม วิยาติ อธิปฺปาโย. เอทิโส ภวิสฺสตีติ เอวํภาวีติ อาห ‘‘เอวเมวํ อุทฺธุมาตาทิเภโท ภวิสฺสตี’’ติ.
ลฺุจิตฺวา ลฺุจิตฺวาติ อุปฺปาเฏตฺวา อุปฺปาเฏตฺวา. เสสาวเสสมํสโลหิตยุตฺตนฺติ สพฺพโส อกฺขาทิตตฺตา ตหํ ตหํ เสเสน อปฺปาวเสเสน มํสโลหิเตน ยุตฺตํ. อฺเน หตฺถฏฺิกนฺติ อวิเสเสน หตฺถฏฺิกานํ วิปฺปกิณฺณตา โชติตาติ อนวเสสโต เตสํ วิปฺปกิณฺณตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตุสฏฺิเภทมฺปี’’ติอาทิมาห. เตโรวสฺสิกานีติ ติโรวสฺสคตานิ. ตานิ ปน สํวจฺฉรํ วีติวตฺตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘อติกฺกนฺตสํวจฺฉรานี’’ติ. ปุราณตาย ฆนภาววิคเมน วิจุณฺณตา อิธ ปูติภาโว. โส ยถา โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อพฺโภกาเส’’ติอาทิมาห. อเนกธาตูนนฺติ จกฺขุธาตุอาทีนํ, กามธาตุอาทีนํ วา. สติยา จ าณสฺส จ อตฺถายาติ ‘‘อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๔; ๒.๓๗๖; ม. นิ. ๑.๑๐๙) วุตฺตาย สตฺตฏฺานิกาย สติยา เจว ตํสมฺปยุตฺตาณสฺส จ อตฺถาย.
อุทายีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนุตฺตริยสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม ¶ นิหีนนฺติ ลามกํ, กิลิฏฺํ วา. คามวาสิกานนฺติ พาลานํ. ปุถุชฺชนานํ อิทนฺติ โปถุชฺชนิกํ. เตนาห ‘‘ปุถุชฺชนานํ สนฺตก’’นฺติ, ปุถุชฺชเนหิ เสวิตพฺพตฺตา เตสํ สนฺตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนริยนฺติ น นิทฺโทสํ. นิทฺโทสฏฺโ หิ อริยฏฺโ. เตนาห ‘‘น อุตฺตมํ น ปริสุทฺธ’’นฺติ. อริเยหิ วา น เสวิตพฺพนฺติ อนริยํ. อนตฺถสํหิตนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทิวิวิธวิปุลานตฺถสหิตํ. ตาทิสฺจ อตฺถสนฺนิสฺสิตํ น โหตีติ อาห ‘‘น อตฺถสนฺนิสฺสิต’’นฺติ. น วฏฺเฏ นิพฺพินฺทนตฺถายาติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานาภาวโต. อสติ ปน วฏฺเฏ นิพฺพิทาย วิราคาทีนํ อสมฺภโวเยวาติ อาห ‘‘น วิราคายา’’ติอาทิ.
อนุตฺตมํ ¶ อนุตฺตริยนฺติ อาห ‘‘เอตํ อนุตฺตร’’นฺติ. หตฺถิสฺมินฺติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมนฺติ อาห ‘‘หตฺถินิมิตฺตํ สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ. หตฺถิวิสยตฺตา หตฺถิสนฺนิสฺสิตตฺตา จ หตฺถิสิปฺปํ ‘‘หตฺถี’’ติ คเหตฺวา ‘‘หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา หตฺถิสิปฺเป สิกฺขตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
ลิงฺคพฺยตฺตเยน วิภตฺติพฺยตฺตเยน ปาริจริเยติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ปาริจริยาย ปจฺจุปฏฺิตา’’ติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
อนุตฺตริยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อนุตฺตริยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.