📜
๔. เทวตาวคฺโค
๑-๔. เสขสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๑-๓๔. จตุตฺถสฺส ปเม เสขานํ ปฏิลทฺธคุณสฺส ปริหานิ นาม นตฺถีติ อาห ‘‘อุปรูปริคุณปริหานายา’’ติ, อุปรูปริลทฺธพฺพานํ มคฺคผลานํ ปริหานาย อนุปฺปาทายาติ อตฺโถ. ตติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
เสขสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. วิชฺชาภาคิยสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม ¶ สมฺปโยควเสน วิชฺชํ ภชนฺติ, สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตาทิปจฺจยวเสน ตาย สห เอกีภาวํ คจฺฉนฺตีติ วิชฺชาภาคิยา. อถ วา วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฏฺาเส วตฺตนฺติ วิชฺชาสภาคตาย ตเทกเทเส วิชฺชาโกฏฺาเส ปวตฺตนฺตีติ วิชฺชาภาคิยา. ตตฺถ วิปสฺสนาาณํ, มโนมยิทฺธิ, ฉ อภิฺาติ อฏฺ วิชฺชา. ปุริเมน อตฺเถน ตาหิ สมฺปยุตฺตธมฺมา วิชฺชาภาคิยา. ปจฺฉิเมน อตฺเถน ตาสุ ยา กาจิ เอกาว วิชฺชา ¶ วิชฺชา, เสสา วิชฺชาภาคิยา. เอวํ วิชฺชาปิ วิชฺชาย สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ ‘‘วิชฺชาภาคิยา’’ตฺเวว เวทิตพฺพา. อิธ ปน วิปสฺสนาาณสมฺปยุตฺตา สฺาว วิชฺชาภาคิยาติ อาคตา, สฺาสีเสน เสสสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วุตฺตา เอวาติ ทฏฺพฺพํ. อนิจฺจานุปสฺสนาาเณติ อนิจฺจานุปสฺสนาาเณ นิสฺสยปจฺจยภูเต อุปฺปนฺนสฺา, เตน สหคตาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
วิชฺชาภาคิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. วิวาทมูลสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ โกธโนติ กุชฺฌนสีโล. ยสฺมา โส อปฺปหีนโกธตาย อธิคตโกโธ นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘โกเธน สมนฺนาคโต’’ติ อาห. อุปนาโห เอตสฺส อตฺถีติ อุปนาหี, อุปนยฺหนสีโลติ วา อุปนาหี. วิวาโท นาม อุปฺปชฺชมาโน เยภุยฺเยน ปมํ ทฺวินฺนํ วเสน อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ วิวาโท’’ติ. โส ปน ยถา พหูนํ อนตฺถาวโห โหติ, ตํ นิทสฺสนมุเขน นิทสฺเสนฺโต ‘‘กถ’’นฺติอาทิมาห. อพฺภนฺตรปริสายาติ ปริสพฺภนฺตเร.
คุณมกฺขนาย ปวตฺโตปิ อตฺตโน การกํ คูเถน ปหรนฺตึ คูโถ วิย ปมตรํ มกฺเขตีติ มกฺโข, โส เอตสฺส อตฺถีติ มกฺขี. ปฬาสตีติ ปฬาโส, ปรสฺส คุเณ ฑํสิตฺวา วิย อปเนตีติ อตฺโถ. โส เอตสฺส อตฺถีติ ปฬาสี. ปฬาสี ปุคฺคโล หิ ทุติยสฺส ธุรํ น เทติ, สมํ หริตฺวา อติวทติ. เตนาห ‘‘ยุคคฺคาหลกฺขเณน ปฬาเสน สมนฺนาคโต’’ติ. อิสฺสตีติ อิสฺสุกี. มจฺฉรายตีติ มจฺฉรํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ ¶ มจฺฉรี. สยติ น สมฺมา ภาสตีติ สโ อฺถา สนฺตํ อตฺตานํ อฺถา ปเวทนโต. มายา เอตสฺส อตฺถี มายาวี. มิจฺฉา ปาปิกา วิฺุครหิตา เอตสฺส ทิฏฺีติ มิจฺฉาทิฏฺิ, กมฺมปถปริยาปนฺนาย ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิวตฺถุกาย มิจฺฉตฺตปริยาปนฺนาย อนิยฺยานิกาย ทิฏฺิยา สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นตฺถิกวาที’’ติอาทิ.
สํ อตฺตโน ทิฏฺึ, สยํ วา อตฺตนา ยถาคหิตํ ปรามสติ, สภาวํ อติกฺกมิตฺวา ปรโต อามสตีติ สนฺทิฏฺีปรามาสี. อาธานํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ อาธานคฺคาหี, ทฬฺหคฺคาหี, ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ถิรคฺคาหีติ อตฺโถ. ยุตฺตํ การณํ ทิสฺวาว ลทฺธึ ปฏินิสฺสชฺชตีติ ปฏินิสฺสคฺคี, ทุกฺเขน กิจฺเฉน กสิเรน พหุมฺปิ การณํ ทสฺเสตฺวา น สกฺกา ปฏินิสฺสคฺคํ กาตุนฺติ ¶ ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี. โย อตฺตโน อุปฺปนฺนทิฏฺึ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหิตฺวา อปิ พุทฺธาทีหิ การณํ ทสฺเสตฺวา วุจฺจมาโน น ปฏินิสฺสชฺชติ. ตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตาทิโส หิ ปุคฺคโล ยํ ยเทว ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา สุณาติ, ตํ สพฺพํ ‘‘เอวํ อมฺหากํ อาจริเยหิ กถิตํ, เอวํ อมฺเหหิ สุต’’นฺติ กุมฺโมว องฺคานิ สเก กปาเล อนฺโตเยว สโมทหติ. ยถา หิ กจฺฉโป อตฺตโน หตฺถปาทาทิเก องฺเค เกนจิ ฆฏิเต สพฺพานิ องฺคานิ อตฺตโน กปาเลเยว สโมทหติ, น พหิ นีหรติ, เอวมยมฺปิ ‘‘น สุนฺทโร ตว คาโห, ฉฑฺเฑหิ น’’นฺติ วุตฺโต ตํ น วิสฺสชฺชติ, อนฺโตเยว อตฺตโน หทเย เอว เปตฺวา วิจรติ, กุมฺภีลคฺคาหํ คณฺหาติ. ยถา สุสุมารา คหิตํ น ปฏินิสฺสชฺชนฺติ, เอวํ คณฺหาติ.
วิวาทมูลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ฉฬงฺคทานสุตฺตวณฺณนา
๓๗. สตฺตเม ทกฺขนฺติ วฑฺฒนฺติ เอตายาติ ทกฺขิณา, ปริจฺจาคมยํ ปฺุํ, ตสฺสูปกรณภูโต เทยฺยธมฺโม จ. อิธ ปน เทยฺยธมฺโม อธิปฺเปโต. เตเนวาห ‘‘ทกฺขิณํ ปติฏฺาเปตี’’ติ. อิโต อุฏฺิเตนาติ อิโต เขตฺตโต อุปฺปนฺเนน. ราโค วินยติ เอเตนาติ ราควินโย, ราคสฺส สมุจฺเฉทิกา ปฏิปทา. เตนาห ‘‘ราควินยปฏิปทํ ปฏิปนฺนา’’ติ.
‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมโน’’ติอาทิคาถาย ปุพฺเพว ทานา มฺุจเจตนาย ปุพฺเพ ทานูปกรณสมฺภรณโต ปฏฺาย สุมโน ‘‘สมฺปตฺตีนํ นิทานํ อนุคามิกทานํ ¶ ทสฺสามี’’ติ โสมนสฺสิโต ภเวยฺย. ททํ จิตฺตํ ปสาทเยติ ททนฺโต เทยฺยธมฺมํ ทกฺขิเณยฺยหตฺเถ ปติฏฺาเปนฺโต ‘‘อสารโต ธนโต สาราทานํ กโรมี’’ติ อตฺตโน จิตฺตํ ปสาเทยฺย. ทตฺวา อตฺตมโน โหตีติ ทกฺขิเณยฺยานํ เทยฺยธมฺมํ ปริจฺจชิตฺวา ‘‘ปณฺฑิตปฺตฺตํ นาม มยา อนุฏฺิตํ, อโห สาธุ สุฏฺู’’ติ อตฺตมโน ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต โหติ. เอสาติ ยา อยํ ปุพฺพเจตนา มฺุจเจตนา อปรเจตนาติ อิมาสํ กมฺมผลานํ สทฺธานุคตานํ โสมนสฺสปริคฺคหิตานํ ติวิธานํ เจตนานํ ปาริปูรี, เอสา.
สีลสฺเมนาติ กายิกวาจสิกสํวเรน. หตฺถปาเทติ ทกฺขิเณยฺยานํ หตฺถปาเท. มุขํ วิกฺขาเลตฺวาติ เตสํเยว มุขํ วิกฺขาเลตฺวา, อตฺตนาว มุโขทกํ ทตฺวาติ อธิปฺปาโย.
ฉฬงฺคทานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๑๑. อตฺตการีสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๘-๔๑. อฏฺเม ¶ กุสลกิริยาย อาทิอารมฺภภาเวน ปวตฺตวีริยํ ิตสภาวตาย สภาวธารณฏฺเน ธาตูติ วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘อารมฺภธาตูติ อารภนวเสน ปวตฺตวีริย’’นฺติ. ลทฺธาเสวนํ วีริยํ พลปฺปตฺตํ หุตฺวา ปฏิปกฺเข วิธมตีติ อาห ‘‘นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขมนสภาวํ วีริย’’นฺติ. ปรกฺกมนสภาโวติ อธิมตฺตตรานํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิธมนสมตฺถตาย ปฏุปฏุตรภาเวน ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนสภาโว. นวมาทีสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
อตฺตการีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. นาคิตสุตฺตวณฺณนา
๔๒. ทฺวาทสเม มาหํ นาคิต ยเสน สมาคมนฺติ มา อหํ ยเสน สมาคมนํ ปตฺเถมิ. มา จ มยา ยโสติ ยโส จ มยา มา สมาคจฺฉตูติ ¶ อตฺโถ. อิมินา อตฺตโน ลาภสกฺกาเรน อนตฺถิกตํ วิภาเวติ. ปฺจหิ วิมุตฺตีหีติ ตทงฺควิมุตฺติอาทีหิ ปฺจหิ วิมุตฺตีหิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
นาคิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
เทวตาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.