📜
๖. มหาวคฺโค
๑. โสณสุตฺตวณฺณนา
๕๕. ฉฏฺสฺส ¶ ¶ ปเม นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเนติ เอตฺถ กึ ตํ อาสนํ ปมเมว ปฺตฺตํ, อุทาหุ ภควนฺตํ ทิสฺวา ปฺตฺตนฺติ เจ? ภควโต ธรมานกาเล ปธานิกภิกฺขูนํ วตฺตเมตํ, ยทิทํ อตฺตโน วสนฏฺาเน พุทฺธาสนํ ปฺเปตฺวาว นิสีทนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปธานิกภิกฺขู’’ติอาทิ. พุทฺธกาเล กิร ยตฺถ ยตฺถ เอโกปิ ภิกฺขุ วิหรติ, สพฺพตฺถ พุทฺธาสนํ ปฺตฺตเมว โหติ. กสฺมา? ภควา หิ อตฺตโน สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ผาสุกฏฺาเน วิหรนฺเต มนสิ กโรติ – ‘‘อสุโก มยฺหํ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา คโต, อสกฺขิ นุ โข วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ, โน’’ติ. อถ นํ ปสฺสติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา อกุสลวิตกฺกํ วิตกฺกยมานํ, ตโต ‘‘กถฺหิ นาม มาทิสสฺส สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิหรนฺตํ อิมํ กุลปุตฺตํ อกุสลวิตกฺกา อธิภวิตฺวา อนมตคฺเค วฏฺฏทุกฺเข สํสาเรสฺสนฺตี’’ติ ตสฺส อนุคฺคหตฺถํ ตตฺเถว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ตํ กุลปุตฺตํ โอวทิตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา ปุน อตฺตโน วสนฏฺานเมว คจฺฉติ. อเถวํ โอวทิยมานา เต ภิกฺขู จินฺตยึสุ ‘‘สตฺถา อมฺหากํ มนํ ชานิตฺวา อาคนฺตฺวา อมฺหากํ สมีเป ิตํเยว อตฺตานํ ทสฺเสติ. ตสฺมึ ขเณ, ‘ภนฺเต, อิธ นิสีทถ นิสีทถา’ติ อาสนปริเยสนํ นาม ภาโร’’ติ. เต อาสนํ ปฺเปตฺวาว วิหรนฺติ. ยสฺส ปีํ อตฺถิ, โส ตํ ปฺเปติ. ยสฺส นตฺถิ, โส มฺจํ วา ผลกํ วา ปาสาณํ วา วาลิกาปฺุชํ วา ปฺเปติ. ตํ อลภมานา ปุราณปณฺณานิปิ สํกฑฺฒิตฺวา ตตฺถ ปํสุกูลํ ปตฺถริตฺวา เปนฺติ.
สตฺต สราติ – ฉชฺโช, อุสโภ, คนฺธาโร, มชฺฌิโม, ปฺจโม, เธวโต, นิสาโทติ เอเต สตฺต สรา. ตโย คามาติ – ฉชฺชคาโม, มชฺฌิมคาโม, สาธารณคาโมติ ตโย คามา, สมูหาติ อตฺโถ. มนุสฺสโลเก วีณาวาทนา เอเกกสฺส สรสฺส วเสน ตโย ตโย มุจฺฉนาติ กตฺวา เอกวีสติ มุจฺฉนา. เทวโลเก วีณาวาทนา ปน สมปฺาส มุจฺฉนาติ วทนฺติ. ตตฺถ หิ ¶ เอเกกสฺส สรสฺส วเสน สตฺต ¶ สตฺต มุจฺฉนา, อนฺตรสฺส สรสฺส จ เอกาติ สมปฺาส มุจฺฉนา. เตเนว สกฺกปฺหสุตฺตสํวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๔๕) ‘‘สมปฺาส มุจฺฉนา มุจฺเฉตฺวา’’ติ ปฺจสิขสฺส วีณาวาทนํ ทสฺเสนฺเตน วุตฺตํ. านา เอกูนปฺาสาติ เอเกกสฺเสว สรสฺส สตฺต สตฺต านเภทา, ยโต สรสฺส มณฺฑลตาววตฺถานํ โหติ. เอกูนปฺาสฏฺานวิเสโส ติสฺโส ทุเว จตสฺโส จตสฺโส ติสฺโส ทุเว จตสฺโสติ ทฺวาวีสติ สุติเภทา จ อิจฺฉิตา.
อติคาฬฺหํ อารทฺธนฺติ ถินมิทฺธฉมฺภิตตฺตานํ วูปสมตฺถํ อติวิย อารทฺธํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา. สพฺเพน วา ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเยน อตฺเถตพฺพา สพฺพตฺถิกา. สมโถเยว สมถนิมิตฺตํ. เอวํ เสเสสุปิ. ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตาติ เอตฺถ ยสฺมา พาหิรโก กาเมสุ วีตราโค น ขยา ราคสฺส วีตราโค สพฺพโส อวิปฺปหีนราคตฺตา. วิกฺขมฺภิตราโค หิ โส. อรหา ปน ขยา เอว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ขยา ราคสฺส วีตราคตฺตา’’ติ. เอส นโย โทสโมเหสุปิ.
ลาภสกฺการสิโลกํ นิกามยมาโนติ เอตฺถ ลพฺภติ ปาปุณียตีติ ลาโภ, จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ. สกฺกจฺจํ กาตพฺโพติ สกฺกาโร. ปจฺจยา เอว หิ ปณีตปณีตา สุนฺทรสุนฺทรา อภิสงฺขริตฺวา กตา ‘‘สกฺกาโร’’ติ วุจฺจติ, ยา จ ปเรหิ อตฺตโน คารวกิริยา, ปุปฺผาทีหิ วา ปูชา. สิโลโกติ วณฺณภณนํ. ตํ ลาภฺจ, สกฺการฺจ, สิโลกฺจ, นิกามยมาโน, ปวตฺตยมาโนติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘จตุปจฺจยลาภฺจ…เป… ปตฺถยมาโน’’ติ.
ถูณนฺติ ปสูนํ พนฺธนตฺถาย นิขาตตฺถมฺภสงฺขาตํ ถูณํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
โสณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ผคฺคุนสุตฺตวณฺณนา
๕๖. ทุติเย สมโธสีติ สมนฺตโต อโธสิ. สพฺพภาเคน ปริผนฺทนจลนากาเรน อปจิตึ ทสฺเสติ. วตฺตํ กิเรตํ พาฬฺหคิลาเนนปิ วุฑฺฒตรํ ¶ ทิสฺวา อุฏฺิตากาเรน อปจิติ ทสฺเสตพฺพา. เตน ปน ‘‘มา จลิ มา จลี’’ติ วตฺตพฺโพ, ตํ ปน จลนํ อุฏฺานาการทสฺสนํ โหตีติ ¶ อาห ‘‘อุฏฺานาการํ ทสฺเสตี’’ติ. สนฺติมานิ อาสนานีติ ปมเมว ปฺตฺถาสนํ สนฺธาย วทติ. พุทฺธกาลสฺมิฺหิ เอกสฺสปิ ภิกฺขุโน วสนฏฺาเน – ‘‘สเจ สตฺถา อาคจฺฉิสฺสติ, อาสนํ ปฺตฺตเมว โหตู’’ติ อนฺตมโส ผลกมตฺตมฺปิ ปณฺณสนฺถารมตฺตมฺปิ ปฺตฺตเมว. ขมนียํ ยาปนียนฺติ กจฺจิ ทุกฺขํ ขมิตุํ, อิริยาปถํ วา ยาเปตุํ สกฺกาติ ปุจฺฉติ. สีสเวทนาติ กุโตจิ นิกฺขมิตุํ อลภมาเนหิ วาเตหิ สมุฏฺาปิตา พลวติโย สีสเวทนา โหนฺติ.
ผคฺคุนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ฉฬภิชาติสุตฺตวณฺณนา
๕๗. ตติเย อภิชาติโยติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อุปสคฺคมตฺตํ, น อตฺถวิเสสโชตโกติ อาห ‘‘ฉ ชาติโย’’ติ. อภิชายตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย.
อุรพฺเภ หนนฺตีติ โอรพฺภิกา. เอวํ สูกริกาทโย เวทิตพฺพา. โรเทนฺติ กุรุรกมฺมนฺตตาย สปฺปฏิพทฺเธ สตฺเต อสฺสูนิ โมเจนฺตีติ รุทฺทา, เต เอว ลุทฺทา ร-การสฺส ล-การํ กตฺวา. อิมินา อฺเปิ เย เกจิ มาควิกา เนสาทา วุตฺตา, เต ปาปกมฺมปฺปสุตตาย ‘‘กณฺหาภิชาตี’’ติ วทติ.
ภิกฺขูติ จ พุทฺธสาสเน ภิกฺขู. เต กิร สจฺฉนฺทราเคน ปริภฺุชนฺตีติ อธิปฺปาเยน จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺตีติ ‘‘กณฺฏกวุตฺติกา’’ติ วทติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา เต ปณีเต ปจฺจเย ปฏิเสวนฺตีติ ตสฺส มิจฺฉาคาโห. ายลทฺเธปิ ปจฺจเย ภฺุชมานา อาชีวกสมยสฺส วิโลมคฺคาหิตาย ปจฺจเยสุ กณฺฏเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ นามาติ วทตีติ. อถ วา กณฺฏกวุตฺติกา เอวํนามกา เอเก ปพฺพชิตา, เย สวิเสสํ อตฺตกิลมถานุโยคํ อนุยุตฺตา. ตถา หิ เต กณฺฏเก วตฺตนฺตา วิย โหนฺตีติ ‘‘กณฺฏกวุตฺติกา’’ติ วุตฺตา. อิมเมว จ อตฺถวิกปฺปํ สนฺธายาห ‘‘กณฺฏกวุตฺติกาติ สมณา นาเมเต’’ติ.
โลหิตาภิชาติ ¶ นาม นิคณฺา เอกสาฏกาติ วุตฺตา. เต กิร ตฺวา ภฺุชนนหานปฺปฏิกฺเขปาทิวตสมาโยเคน ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปณฺฑรตรา.
อเจลกสาวกาติ ¶ อาชีวกสาวเก วทติ. เต กิร อาชีวกลทฺธิยา สุวิสุทฺธจิตฺตตาย นิคณฺเหิปิ ปณฺฑรตรา. เอวฺจ กตฺวา อตฺตโน ปจฺจยทายเก นิคณฺเหิปิ เชฏฺกตเร กโรติ.
อาชีวกา อาชีวกินิโย ‘‘สุกฺกาภิชาตี’’ติ วุตฺตา. เต กิร ปุริเมหิ จตูหิ ปณฺฑรตรา. นนฺทาทโย หิ ตถารูปํ อาชีวกปฺปฏิปตฺตึ อุกฺกํสํ ปาเปตฺวา ิตา, ตสฺมา นิคณฺเหิ อาชีวกสาวเกหิ จ ปณฺฑรตราติ ‘‘ปรมสุกฺกาภิชาตี’’ติ วุตฺตา.
พิลํ โอลคฺเคยฺยุนฺติ มํสภาคํ นฺหารุนา วา เกนจิ วา คนฺถิตฺวา ปุริสสฺส หตฺเถ วา เกเส วา โอลมฺพนวเสน พนฺเธยฺยุํ. อิมินา สตฺถธมฺมํ นาม ทสฺเสติ. สตฺถวาโห กิร มหากนฺตารํ ปฏิปนฺโน อนฺตรามคฺเค โคเณ มเต มํสํ คเหตฺวา สพฺเพสํ สตฺถิกานํ ‘‘อิทํ ขาทิตฺวา เอตฺตกํ มูลํ ทาตพฺพ’’นฺติ โกฏฺาสํ โอลมฺพติ. โคณมํสํ นาม ขาทนฺตาปิ อตฺถิ, อขาทนฺตาปิ อตฺถิ, ขาทนฺตาปิ มูลํ ทาตุํ สกฺโกนฺตาปิ อสกฺโกนฺตาปิ. สตฺถวาโห เยน มูเลน โคโณ คหิโต, ตํ มูลํ สตฺถิเกหิ ธารณตฺถํ สพฺเพสํ พลกฺกาเรน โกฏฺาสํ ทตฺวา มูลํ คณฺหาติ. อยํ สตฺถธมฺโม.
กณฺหาภิชาติโย สมาโนติ กณฺเห นีจกุเล ชาโต หุตฺวา. กณฺหธมฺมนฺติ ปจฺจตฺเต อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘กณฺหสภาโว หุตฺวา อภิชายตี’’ติ, ตํ อนฺโตคธเหตุอตฺถํ ปทํ, อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. ตสฺมา กณฺหํ ธมฺมํ อภิชายตีติ กาฬกํ ทสทุสฺสีลฺยธมฺมํ อุปฺปาเทติ. สุกฺกํ ธมฺมํ อภิชายตีติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โส หิ ‘‘อหํ ปุพฺเพปิ ปฺุานํ อกตตฺตา นีจกุเล นิพฺพตฺโต, อิทานิ ปฺุํ กริสฺสามี’’ติ ปฺุสงฺขาตํ ปณฺฑรธมฺมํ กโรติ.
อกณฺหํ อสุกฺกํ นิพฺพานนฺติ สเจ กณฺหํ ภเวยฺย, กณฺหวิปากํ ทเทยฺย ยถา ทสวิธํ ทุสฺสีลฺยธมฺมํ. สเจ สุกฺกํ, สุกฺกวิปากํ ทเทยฺย ยถา ทานสีลาทิกุสลกมฺมํ. ทฺวินฺนมฺปิ อปฺปทานโต ‘‘อกณฺหํ อสุกฺก’’นฺติ วุตฺตํ. นิพฺพานฺจ นาม อิมสฺมึ อตฺเถ อรหตฺตํ อธิปฺเปตํ ‘‘อภิชายตี’’ติ วจนโต ¶ . ตฺหิ กิเลสนิพฺพานนฺเต ชาตตฺตา นิพฺพานํ นาม ยถา ‘‘ราคาทีนํ ขยนฺเต ชาตตฺตา ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโย’’ติ. ปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสน วา กิเลสานํ นิพฺพาปนโต นิพฺพานํ. ตํ เอส อภิชายติ ปสวติ. อิธาปิ หิ อนฺโตคธเหตุ อตฺถํ ‘‘ชายตี’’ติ ปทํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ชายตี’’ติ อิมสฺส ปาปุณาตีหิ อตฺถํ ¶ คเหตฺวาว ‘‘นิพฺพานํ ปาปุณาตี’’ติ วุตฺตํ. สุกฺกาภิชาติโย สมาโนติ สุกฺเก อุจฺจกุเล ชาโต หุตฺวา. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
ฉฬภิชาติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อาสวสุตฺตวณฺณนา
๕๘. จตุตฺเถ สํวเรนาติ สํวเรน เหตุภูเตน วา. อิธาติ อยํ อิธ-สทฺโท สพฺพาการโต อินฺทิยสํวรสํวุตสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน, อฺสฺส ตถาภาวปฺปฏิเสธโน วาติ วุตฺตํ ‘‘อิธาติ อิธสฺมึ สาสเน’’ติ. ปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขาย. สงฺขา-สทฺโท าณโกฏฺาสปฺตฺติคณนาทีสุ ทิสฺสติ ‘‘สงฺขาเยกํ ปฏิเสวตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๖๘) หิ าเณ ทิสฺสติ. ‘‘ปปฺจสฺาสงฺขา สมุทาจรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๒, ๒๐๔) โกฏฺาเส. ‘‘เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สงฺขา สมฺา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๕) ปฺตฺติยํ. ‘‘น สุกรํ สงฺขาตุ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๒๘) คณนาย. อิธ ปน าเณ ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห ‘‘ปฏิสฺชานิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ อตฺโถ’’ติ. อาทีนวปจฺจเวกฺขณา อาทีนวปฏิสงฺขาติ โยชนา. สมฺปลิมฏฺนฺติ ฆํสิตํ. อนุพฺยฺชนโสติ หตฺถปาทสิตอาโลกิตวิโลกิตาทิปฺปการภาคโส. ตฺหิ อโยนิโสมนสิกโรโต กิเลสานํ อนุพฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ วุจฺจติ. นิมิตฺตคฺคาโหติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตสฺส สุภนิมิตฺตาทิกสฺส วา กิเลสวตฺถุภูตสฺส นิมิตฺตสฺส คาโห. อาทิตฺตปริยาเยนาติ อาทิตฺตปริยาเย (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔) อาคตนเยน เวทิตพฺโพ.
ยถา อิตฺถิยา อินฺทฺริยํ อิตฺถินฺทฺริยํ, น เอวมิทํ, อิทํ ปน จกฺขุเมว อินฺทฺริยนฺติ จกฺขุนฺทฺริยํ. เตนาห ‘‘จกฺขุเมว อินฺทฺริย’’นฺติ. ยถา อาวาเฏ นิยตฏฺิติโก กจฺฉโป ‘‘อาวาฏกจฺฉโป’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติตาย ตํ าโน ¶ สํวโร จกฺขุนฺทฺริยสํวโร. เตนาห ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร จกฺขุนฺทฺริยสํวโร’’ติ. นนุ จ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร วา อสํวโร วา นตฺถิ. น หิ จกฺขุปสาทํ นิสฺสาย สติ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อุปฺปชฺชติ. อปิจ ยทา รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ตทา ภวงฺเค ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ. ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ, ตโต วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ, ตโต วิปากมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ, ตโต กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺพฺพนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ ¶ , ตทนนฺตรํ ชวนํ ชวติ. ตตฺถาปิ เนว ภวงฺคสมเย, น อาวชฺชนาทีนํ อฺตรสมเย จ สํวโร วา อสํวโร วา อตฺถิ. ชวนกฺขเณ ปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา อกฺขนฺติ วา โกสชฺชํ วา อุปฺปชฺชติ, อสํวโร โหติ. ตสฺมึ ปน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ สํวโร โหติ, ตสฺมา ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ชวเน อุปฺปชฺชมาโนปิ เหส…เป… จกฺขุนฺทฺริยสํวโรติ วุจฺจตี’’ติ.
อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา นคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ อสํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆรทฺวารโกฏฺกคพฺภาทโย สุสํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ อรกฺขิตํ อโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรน หิ ปวิสิตฺวา โจรา ยทิจฺฉกํ กเรยฺยุํ, เอวเมวํ ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ยถา ปน นครทฺวาเรสุ สํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆราทโย อสํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรสุ หิ ปิหิเตสุ โจรานํ ปเวโส นตฺถิ, เอวเมวํ ชวเน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ สุคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ, ตสฺมา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชมาโนปิ จกฺขุนฺทฺริยสํวโรติ วุตฺโตติ.
สํวเรน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล สํวุโตติ อาห ‘‘อุเปโต’’ติ. อยเมเวตฺถ อตฺโถ สุนฺทรตโรติ อุปริ ปาฬิยํ สนฺทิสฺสนโต วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ.
ยนฺติ อาเทโสติ อิมินา ลิงฺควิปลฺลาเสน สทฺธึ วจนวิปลฺลาโส กโตติ ทสฺเสติ, นิปาตปทํ วา เอตํ ปุถุวจนตฺถํ. วิฆาตกราติ จิตฺตวิฆาตกรา ¶ , กายจิตฺตทุกฺขนิพฺพตฺตกา วา. ยถาวุตฺตกิเลสเหตุกา ทาหานุพนฺธา วิปากา เอว วิปากปริฬาหา. ยถา ปเนตฺถ อาสวา อฺเ จ วิฆาตกรา กิเลสปริฬาหา สมฺภวนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุทฺวารสฺมิฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ สุวิฺเยฺยเมว. เอตฺถ จ สํวรณูปาโย, สํวริตพฺพํ, สํวโร, ยโต โส สํวโร, ยตฺถ สํวโร, ยถา สํวโร, ยฺจ สํวรผลนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. กถํ? ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติ หิ สํวรณูปาโย. จกฺขุนฺทฺริยํ สํวริตพฺพํ. สํวรคฺคหเณน คหิตา สติ สํวโร. ‘‘อสํวุตสฺสา’’ติ สํวรณาวธิ. อสํวรโต หิ สํวรณํ. สํวริตพฺพคฺคหณสิทฺโธ อิธ สํวรวิสโย. จกฺขุนฺทฺริยฺหิ สํวรณํ าณํ รูปารมฺมเณ สํวรยตีติ อวุตฺตสิทฺโธยมตฺโถ. อาสวตนฺนิมิตฺตกิเลสปริฬาหาภาโว ผลํ. เอวํ โสตทฺวาราทีสุ โยเชตพฺพํ. สพฺพตฺเถวาติ มโนทฺวาเร ปฺจทฺวาเร จาติ สพฺพสฺมึ ทฺวาเร.
ปฏิสงฺขา ¶ โยนิโส จีวรนฺติอาทีสุ ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา ปจฺจเวกฺขณเมว โยนิโส ปฏิสงฺขา. อีทิสนฺติ เอวรูปํ อิฏฺารมฺมณํ. ภวปตฺถนาย อสฺสาทยโตติ ภวปตฺถนามุเขน ภาวิตํ อารมฺมณํ อสฺสาเทนฺตสฺส. จีวรนฺติ นิวาสนาทิ ยํ กิฺจิจีวรํ. ปฏิเสวตีติ นิวาสนาทิวเสน ปริภฺุชติ. ยาวเทวาติ ปโยชนปริมาณนิยมนํ. สีตปฺปฏิฆาตาทิเยว หิ โยคิโน จีวรปฺปฏิเสวนปฺปโยชนํ. สีตสฺสาติ สีตธาตุกฺโขภโต วา อุตุปริณามโต วา อุปฺปนฺนสฺส สีตสฺส. ปฏิฆาตายาติ ปฏิฆาตนตฺถํ ตปฺปจฺจยสฺส วิการสฺส วิโนทนตฺถํ. อุณฺหสฺสาติ อคฺคิสนฺตาปโต อุปฺปนฺนสฺส อุณฺหสฺส. ฑํสาทโย ปากฏาเยว. ปุน ยาวเทวาติ นิยตปฺปโยชนปริมาณนิยมนํ. นิยตฺหิ ปโยชนํ จีวรํ ปฏิเสวนฺตสฺส หิริโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนํ, อิตรํ กทาจิ. หิริโกปีนนฺติ สมฺพาธฏฺานํ. ยสฺมิฺหิ องฺเค วิวเฏ หิรี กุปฺปติ วินสฺสติ, ตํ หิริยา โกปนโต หิริโกปีนํ, ตํปฏิจฺฉาทนตฺถํ จีวรํ ปฏิเสวติ.
ปิณฺฑปาตนฺติ ยํ กิฺจิ อาหารํ. โส หิ ปิณฺโฑลฺเยน ภิกฺขุโน ปตฺเต ปตนโต, ตตฺถ ตตฺถ ลทฺธภิกฺขาปิณฺฑานํ ปาโต สนฺนิปาโตติ วา ‘‘ปิณฺฑปาโต’’ติ วุจฺจติ. เนว ทวายาติ น กีฬนาย. น มทายาติ น พลมทมานมทปุริสมทตฺถํ. น มณฺฑนายาติ น องฺคปจฺจงฺคานํ ปีณนภาวตฺถํ. น วิภูสนายาติ น เตสํเยว โสภตฺถํ, ฉวิสมฺปตฺติอตฺถนฺติ อตฺโถ ¶ . อิมานิ ยถากฺกมํ โมหโทสสณฺานวณฺณราคูปนิสฺสยปฺปหานตฺถานิ เวทิตพฺพานิ. ปุริมํ วา ทฺวยํ อตฺตโน สํกิเลสุปฺปตฺตินิเสธนตฺถํ, อิตรํ ปรสฺสปิ. จตฺตาริปิ กามสุขลฺลิกานุโยคสฺส ปหานตฺถํ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. กายสฺสาติ รูปกายสฺส. ิติยา ยาปนายาติ ปพนฺธฏฺิตตฺถฺเจว ปวตฺติยา อวิจฺเฉทนตฺถฺจ, จิรกาลฏฺิตตฺถํ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตาปนตฺถํ. วิหึสูปรติยาติ ชิฆจฺฉาทุกฺขสฺส อุปรมตฺถํ. พฺรหฺมจริยานุคฺคหายาติ สาสนมคฺคพฺรหฺมจริยานํ อนุคฺคณฺหนตฺถํ. อิตีติ เอวํ อิมินา อุปาเยน. ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามีติ ปุราณํ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนํ ปฏิหนิสฺสามิ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ นวํ ภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ. ตสฺสา หิ อนุปฺปชฺชนตฺถเมว อาหารํ ปริภฺุชติ. เอตฺถ อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา นาม ยถาวุตฺตชิฆจฺฉานิมิตฺตา เวทนา. สา หิ อภฺุชนฺตสฺส ภิยฺโย ภิยฺโยปวฑฺฒนวเสน อุปฺปชฺชติ, ภุตฺตปจฺจยา อนุปฺปชฺชนกเวทนาปิ ขุทานิมิตฺตาว องฺคทาหสูลาทิเวทนา อปฺปวตฺตา. สา หิ ภุตฺตปจฺจยา อนุปฺปนฺนาว น อุปฺปชฺชิสฺสติ. วิหึสานิมิตฺตตา เจตาสํ วิหึสาย วิเสโส.
ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ ยาปนา จ เม จตุนฺนํ อิริยาปถานํ ภวิสฺสติ. ‘‘ยาปนายา’’ติ ¶ อิมินา ชีวิตินฺทฺริยยาปนา วุตฺตา, อิธ จตุนฺนํ อิริยาปถานํ อวิจฺเฉทสงฺขาตา ยาปนาติ อยเมตาสํ วิเสโส. อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จาติ อยุตฺตปริเยสนปฺปฏิคฺคหณปริโภคปริวชฺชเนน อนวชฺชตา, ปริมิตปริโภเคน ผาสุวิหาโร. อสปฺปายาปริมิตโภชนปจฺจยา อรติตนฺทีวิชมฺภิตาวิฺุครหาทิโทสาภาเวน วา อนวชฺชตา. สปฺปายปริมิตโภชนปจฺจยา กายพลสมฺภเวน ผาสุวิหาโร. ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกโภชนปริวชฺชเนน วา เสยฺยสุขปสฺสสุขมิทฺธสุขาทีนํ อภาวโต อนวชฺชตา. จตุปฺจาโลปมตฺตอูนโภชเนน จตุอิริยาปถโยคฺยตาปาทนโต ผาสุวิหาโร. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. (เถรคา. ๙๘๓; มิ. ป. ๖.๕.๑๐);
เอตฺตาวตา ¶ จ ปโยชนปริคฺคโห, มชฺฌิมา จ ปฏิปทา ทีปิตา โหติ. ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตีติ ปโยชนปริคฺคหทีปนา. ยาตฺรา หิ นํ อาหารูปโยคํ ปโยเชติ. ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคเหตุโก ผาสุวิหาโร มชฺฌิมา ปฏิปทา อนฺตทฺวยปริวชฺชนโต.
เสนาสนนฺติ เสนฺจ อาสนฺจ. ยตฺถ วิหาราทิเก เสติ นิปชฺชติ อาสติ นิสีทติ, ตํ เสนาสนํ. อุตุปริสฺสยวิโนทนปฺปฏิสลฺลานารามตฺถนฺติ อุตุเยว ปริสหนฏฺเน ปริสฺสโย สรีราพาธจิตฺตวิกฺเขปกโร, ตสฺส วิโนทนตฺถํ, อนุปฺปนฺนสฺส อนุปฺปาทนตฺถํ, อุปฺปนฺนสฺส วูปสมนตฺถฺจาติ อตฺโถ. อถ วา ยถาวุตฺโต อุตุ จ สีหพฺยคฺฆาทิปากฏปริสฺสโย จ ราคโทสาทิปฏิจฺฉนฺนปริสฺสโย จ อุตุปริสฺสโย, ตสฺส วิโนทนตฺถฺเจว เอกีภาวผาสุกตฺถฺจ. จีวรปฺปฏิเสวเน หิรีโกปีนปฺปฏิจฺฉาทนํ วิย ตํ นิยตปโยชนนฺติ ปุน ‘‘ยาวเทวา’’ติ วุตฺตํ.
คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ โรคสฺส ปจฺจนีกปฺปวตฺติยา คิลานปจฺจโย, ตโต เอว ภิสกฺกสฺส อนฺุาตวตฺถุตาย เภสชฺชํ, ชีวิตสฺส ปริวารสมฺภารภาเวหิ ปริกฺขาโร จาติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร, ตํ. เวยฺยาพาธิกานนฺติ เวยฺยาพาธโต ธาตุกฺโขภโต จ ตํนิพฺพตฺตกุฏฺคณฺฑปีฬกาทิโรคโต อุปฺปนฺนานํ. เวทนานนฺติ ทุกฺขเวทนานํ. อพฺยาพชฺฌปรมตายาติ นิทฺทุกฺขปรมภาวาย. ยาว ตํ ทุกฺขํ สพฺพํ ปหีนํ โหติ, ตาว ปฏิเสวามีติ โยชนา. เอวเมตฺถ สงฺเขเปเนว ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพา. นวเวทนุปฺปาทโตปีติ น เกวลํ อายตึ เอว วิปากปริฬาหา ¶ , อถ โข อติโภชนปจฺจยา อลํสาฏกาทีนํ วิย นวเวทนุปฺปาทโตปิ เวทิตพฺพา.
กมฺมฏฺานิกสฺส จลนํ นาม กมฺมฏฺานปริจฺจาโคติ อาห ‘‘จลติ กมฺปติ กมฺมฏฺานํ วิชหตี’’ติ. ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติ เอตฺถ จ โลมสนาคตฺเถรสฺส วตฺถุ กเถตพฺพํ. เถโร กิร เจติยปพฺพเต ปิยงฺคุคุหาย ปธานฆเร วิหรนฺโต อนฺตรฏฺเก หิมปาตสมเย โลกนฺตริกนิรยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา กมฺมฏฺานํ อวิชหนฺโตว อพฺโภกาเส วีตินาเมสิ. คิมฺหสมเย จ ปจฺฉาภตฺตํ พหิจงฺกเม กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต เสทาปิสฺส กจฺเฉหิ มุจฺจนฺติ. อถ นํ อนฺเตวาสิโก อาห – ‘‘อิธ, ภนฺเต, นิสีทถ, สีตโล โอกาโส’’ติ. เถโร ‘‘อุณฺหภเยเนวมฺหิ, อาวุโส, อิธ นิสินฺโน’’ติ อวีจิมหานิรยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ¶ นิสีทิเยว. อุณฺหนฺติ เจตฺถ อคฺคิสนฺตาโปว เวทิตพฺโพ สูริยสนฺตาปสฺส ปรโต วุจฺจมานตฺตา. สูริยสนฺตาปวเสน ปเนตํ วตฺถุ วุตฺตํ.
โย จ ทฺเว ตโย วาเร ภตฺตํ วา ปานียํ วา อลภมาโนปิ อนมตคฺเค สํสาเร อตฺตโน เปตฺติวิสยูปปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อเวธนฺโต กมฺมฏฺานํ น วิชหติเยว. ฑํสมกสวาตาตปสมฺผสฺเสหิ ผุฏฺโ เจปิ ติรจฺฉานูปปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อเวธนฺโต กมฺมฏฺานํ น วิชหติเยว. สรีสปสมฺผสฺเสน ผุฏฺโ จาปิ อนมตคฺเค สํสาเร สีหพฺยคฺฆาทิมุเขสุ อเนกวารํ ปริวตฺติตปุพฺพภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อเวธนฺโต กมฺมฏฺานํ น วิชหติเยว ปธานิยตฺเถโร วิย, อยํ ‘‘ขโม ชิฆจฺฉาย…เป… สรีสปสมฺผสฺสาน’’นฺติ เวทิตพฺโพ. เถรํ กิร ขณฺฑเจลวิหาเร กณิการปธานิยฆเร อริยวํสธมฺมํ สุณนฺตฺเว โฆรวิโส สปฺโป ฑํสิ. เถโร ชานิตฺวาปิ ปสนฺนจิตฺโต นิสินฺโน ธมฺมํเยว สุณาติ, วิสเวโค ถทฺโธ อโหสิ. เถโร อุปสมฺปทมาฬํ อาทึ กตฺวา สีลํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ‘‘วิสุทฺธสีโลมฺหี’’ติ ปีตึ อุปฺปาเทสิ, สห ปีตุปฺปาทา วิสํ นิวตฺติตฺวา ปถวึ ปาวิสิ. เถโร ตตฺเถว จิตฺเตกคฺคตํ ลภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ.
โย ปน อกฺโกสวเสน ทุรุตฺเต ทุรุตฺตตฺตาเยว จ ทุราคเต อปิ อนฺติมวตฺถุสฺิเต วจนปเถ สุตฺวา ขนฺติคุณํเยว ปจฺจเวกฺขิตฺวา น เวธติ ทีฆภาณกอภยตฺเถโร วิย, อยํ ‘‘ขโม ทุรุตฺตานํ ทุราคตานํ วจนปถาน’’นฺติ เวทิตพฺโพ. เถโร กิร ปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาย มหาอริยวํสปฺปฏิปทํ กเถสิ, สพฺโพ มหาคาโม อาคจฺฉติ, เถรสฺส มหาสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. ตํ อฺตโร มหาเถโร อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘ทีฆภาณโก ¶ ‘อริยวํสํ กเถมี’ติ สพฺพรตฺตึ โกลาหลํ กโรตี’’ติอาทีหิ อกฺโกสิ. อุโภปิ จ อตฺตโน อตฺตโน วิหารํ คจฺฉนฺตา คาวุตมตฺตํ เอกปเถน อคมํสุ. สกลคาวุตมฺปิ โส ตํ อกฺโกสิเยว. ตโต ยตฺถ ทฺวินฺนํ วิหารานํ มคฺโค ภิชฺชติ, ตตฺถ ตฺวา ทีฆภาณกตฺเถโร ตํ วนฺทิตฺวา ‘‘เอโส, ภนฺเต, ตุมฺหากํ มคฺโค’’ติ อาห. โส อสฺสุณนฺโต ¶ วิย อคมาสิ. เถโรปิ วิหารํ คนฺตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา นิสีทิ. ตเมนํ อนฺเตวาสิโก ‘‘กึ, ภนฺเต, สกลคาวุตํ ปริภาสนฺตํ น กิฺจิ อโวจุตฺถา’’ติ อาห. เถโร ‘‘ขนฺติเยวาวุโส, มยฺหํ ภาโร, น อกฺขนฺติ, เอกปทุทฺธาเรปิ กมฺมฏฺานวิโยคํ น ปสฺสามี’’ติ อาห.
วจนเมว ตทตฺถํ าเปตุกามานฺจ ปโถ อุปาโยติ อาห ‘‘วจนเมว วจนปโถ’’ติ. อสุขฏฺเน วา ติพฺพา. ยฺหิ น สุขํ, ตํ อนิฏฺํ ติพฺพนฺติ วุจฺจติ. อธิวาสกชาติโก โหตีติ ยถาวุตฺตเวทนานํ อธิวาสกสภาโว โหติ. จิตฺตลปพฺพเต ปธานิยตฺเถรสฺส กิร รตฺตึ ปธาเนน วีตินาเมตฺวา ิตสฺส อุทรวาโต อุปฺปชฺชติ. โส ตํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อาวตฺตติ ปริวตฺตติ. ตเมนํ จงฺกมนปสฺเส ิโต ปิณฺฑปาติยตฺเถโร อาห – ‘‘อาวุโส, ปพฺพชิโต นาม อธิวาสนสีโล โหตี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ อธิวาเสตฺวา นิจฺจโล สยิ. วาโต นาภิโต ยาว หทยํ ผาเลสิ. เถโร เวทนํ วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนฺโต มุหุตฺเตน อนาคามี หุตฺวา ปรินิพฺพายิ. เอวํ สพฺพตฺถาติ ‘‘อุณฺเหน ผุฏฺสฺส สีตํ ปตฺถยโต’’ติอาทินา สพฺพตฺถ อุณฺหาทินิมิตฺตํ กามาสวุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. นตฺถิ สุคติภเว สีตํ วา อุณฺหํ วาติ อนิฏฺํ สีตํ วา อุณฺหํ วา นตฺถีติ อธิปฺปาโย. อตฺตคฺคาเห สติ อตฺตนิยคฺคาโหติ อาห ‘‘มยฺหํ สีตํ อุณฺหนฺติ คาโห ทิฏฺาสโว’’ติ.
อหํ สมโณติ ‘‘อหํ สมโณ, กึ มม ชีวิเตน วา มรเณน วา’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ คามปฺปเวสปฺปโยชนาทิฺจ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. ปฏิกฺกมตีติ หตฺถิอาทีนํ สมีปคมนโต อปกฺกมติ. ายนฺติ เอตฺถาติ านํ, กณฺฏกานํ านํ กณฺฏกฏฺานํ, ยตฺถ กณฺฏกานิ สนฺติ, ตํ โอกาสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อมนุสฺสทุฏฺานีติ อมนุสฺสสฺจาเรน ทูสิตานิ, สปริสฺสยานีติ อตฺโถ. อนิยตวตฺถุภูตนฺติ อนิยตสิกฺขาปทสฺส การณภูตํ. เวสิยาทิเภทโตติ เวสิยาวิธวาถุลฺลกุมาริกาปณฺฑกปานาคารภิกฺขุนิเภทโต. สมานนฺติ สมํ, อวิสมนฺติ อตฺโถ. อกาสิ วาติ ตาทิสํ อนาจารํ อกาสิ วา. สีลสํวรสงฺขาเตนาติ กถํ ปริวชฺชนํ สีลํ? อนาสนปริวชฺชเนน หิ ¶ อนาจารปริวชฺชนํ วุตฺตํ. อนาจาราโคจรปริวชฺชนํ จาริตฺตสีลตาย สีลสํวโร. ตถา หิ ภควตา ‘‘ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๐๘) สีลสํวรวิภชเน อาจารโคจรสมฺปตฺตึ ¶ ทสฺเสนฺเตน ‘‘อตฺถิ อนาจาโร, อตฺถิ อโคจโร’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๓-๕๑๔) อาจารโคจรา วิภชิตฺวา ทสฺสิตา. ‘‘จณฺฑํ หตฺถึ ปริวชฺเชตี’’ติ วจนโต หตฺถิอาทิปริวชฺชนมฺปิ ภควโต วจนานุฏฺานนฺติ กตฺวา อาจารสีลเมวาติ เวทิตพฺพํ.
อิติปีติ อิมินาปิ การเณน อโยนิโสมนสิการสมุฏฺิตตฺตาปิ, โลภาทิสหคตตฺตาปิ, กุสลปฺปฏิปกฺขโตปีติอาทีหิ การเณหิ อยํ วิตกฺโก อกุสโลติ อตฺโถ. อิมินา นเยน สาวชฺโชติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อกุสโลติอาทินา ทิฏฺธมฺมิกํ กามวิตกฺกสฺส อาทีนวํ ทสฺเสติ, ทุกฺขวิปาโกติ อิมินา สมฺปรายิกํ. อตฺตพฺยาพาธาย สํวตฺตตีติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อาทีนววิภาวนา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺนสฺส กามวิตกฺกสฺส อนธิวาสนํ นาม ปุน ตาทิสสฺส อนุปฺปาทนํ. ตํ ปนสฺส ปหานํ วิโนทนํ พฺยนฺติกรณํ อนภาวคมนนฺติ จ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ ปาฬิยํ – ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสตี’’ติ วตฺวา ‘‘ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนธิวาเสนฺโต กึ กโรตี’’ติอาทิมาห. ปหานฺเจตฺถ วิกฺขมฺภนเมว, น สมุจฺเฉโทติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิโนเทตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ วิกฺขมฺภนวเสเนว อตฺโถ ทสฺสิโต. อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ เตสํ ปาปวิตกฺกานํ อุปฺปาทาวตฺถาคหณํ วา กตํ สิยา อนวเสสคฺคหณํ วา. เตสุ ปมํ สนฺธายาห ‘‘อุปฺปนฺนมตฺเต’’ติ, สมฺปติชาเตติ อตฺโถ. อนวเสสคฺคหณํ พฺยาปนิจฺฉายํ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สตกฺขตฺตุมฺปิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน’’ติ วุตฺตํ.
าติวิตกฺโกติ ‘‘อมฺหากํ าตโย สุขชีวิโน สมฺปตฺติยุตฺตา’’ติอาทินา เคหสฺสิตเปมวเสน าตเก อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโก. ชนปทวิตกฺโกติ ‘‘อมฺหากํ ชนปโท สุภิกฺโข สมฺปนฺนสสฺโส รมณีโย’’ติอาทินา เคหสฺสิตเปมวเสน ชนปทํ อารพฺภ อุปฺปนฺนวิตกฺโก. อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สมฺปราเย สตฺตา สุขี โหนฺติ อมราติ ทุกฺกรการิกาย ปฏิสํยุตฺโต อมรตฺถาย วิตกฺโก. ตํ วา อารพฺภ อมราวิกฺเขปทิฏฺิสหคโต อมโร จ โส วิตกฺโก จาติ ¶ อมราวิตกฺโก. ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโตติ ปเรสุ อุปฏฺากาทีสุ สหนนฺทิตาทิวเสน ปวตฺโต อนุทฺทยตาปติรูปโก เคหสฺสิตเปมปฺปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก. ลาภสกฺการสิโลกปฺปฏิสํยุตฺโตติ จีวราทิลาเภน จ สกฺกาเรน จ กิตฺติสทฺเทน จ อารมฺมณกรณวเสน ปฏิสํยุตฺโต. อนวฺตฺติปฺปฏิสํยุตฺโตติ ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุํ, น เหฏฺา กตฺวา มฺเยฺยุํ, ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กเรยฺยุ’’นฺติ อุปฺปนฺนวิตกฺโก.
กามวิตกฺโก ¶ กามสงฺกปฺปนสภาวโต กามาสวปฺปตฺติยา สาติสยตฺตา จ กามนากาโรติ อาห ‘‘กามวิตกฺโก ปเนตฺถ กามาสโว’’ติ. ตพฺพิเสโสติ กามาสววิเสโส ภวสภาวตฺตาติ อธิปฺปาโย. กามวิตกฺกาทิเก วิโนเทติ อตฺตโน สนฺตานโต นีหรติ เอเตนาติ วิโนทนํ, วีริยนฺติ อาห ‘‘วีริยสํวรสงฺขาเตน วิโนทเนนา’’ติ.
‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺติโย ปริปูเรนฺตี’’ติ วจนโต วิชฺชาวิมุตฺตีนํ อนธิคโม ตโต จ สกลวฏฺฏทุกฺขานติวตฺติ อภาวนาย อาทีนโว. วุตฺตวิปริยาเยน ภควโต โอรสปุตฺตภาวาทิวเสน จ ภาวนาย อานิสํโส เวทิตพฺโพ. โถเมนฺโตติ อาสวปหานสฺส ทุกฺกรตฺตา ตาย เอว ทุกฺกรกิริยาย ตํ อภิตฺถวนฺโต. สํวเรเนว ปหีนาติ สํวเรน ปหีนา เอว. เตน วุตฺตํ ‘‘น อปฺปหีเนสุเยว ปหีนสฺี’’ติ.
อาสวสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทารุกมฺมิกสุตฺตวณฺณนา
๕๙. ปฺจเม ปุตฺตสมฺพาธสยนนฺติ ปุตฺเตหิ สมฺพาธสยนํ. เอตฺถ ปุตฺตสีเสน ทารปริคฺคหํ ปุตฺตทาเรสุ อุปฺปิโล วิย. เตน เตสํ โรคาทิเหตุ โสกาภิภเวน จ จิตฺตสฺส สํกิลิฏฺตํ ทสฺเสติ. กามโภคินาติ อิมินา ปน ราคาภิภวนฺติ. อุภเยนปิ วิกฺขิตฺตจิตฺตตํ ทสฺเสติ. กาสิกจนฺทนนฺติ อุชฺชลจนฺทนํ. ตํ กิร วณฺณวิเสสสมุชฺชลํ โหติ ปภสฺสรํ, ตทตฺถเมว นํ สณฺหตรํ กโรนฺติ. เตเนวาห ‘‘สณฺหจนฺทน’’นฺติ ¶ , กาสิกวตฺถฺจ จนฺทนฺจาติ อตฺโถ. มาลาคนฺธวิเลปนนฺติ วณฺณโสภตฺถฺเจว สุคนฺธภาวตฺถฺจ มาลํ, สุคนฺธภาวตฺถาย คนฺธํ, ฉวิราคกรณตฺถฺเจว สุภตฺถฺจ วิเลปนํ ธาเรนฺเตน. ชาตรูปรชตนฺติ สุวณฺณฺเจว อวสิฏฺธนฺจ สาทิยนฺเตน. สพฺเพนปิ กาเมสุ อภิคิทฺธภาวเมว ปกาเสติ.
ทารุกมฺมิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. หตฺถิสาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๖๐. ฉฏฺเ หตฺถึ สาเรตีติ หตฺถิสารี, ตสฺส ปุตฺโตติ หตฺถิสาริปุตฺโต. โส กิร สาวตฺถิยํ หตฺถิอาจริยสฺส ปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา สุขุเมสุ ¶ ขนฺธธาตุอายตนาทีสุ อตฺถนฺตเรสุ กุสโล อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เถรานํ ภิกฺขูนํ อภิธมฺมกถํ กเถนฺตานํ อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตตี’’ติ. ตตฺถ อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตตีติ เถเรหิ วุจฺจมานสฺส กถาปพนฺธสฺส อนฺตเร อนฺตเร อตฺตโน กถํ ปเวเสตีติ อตฺโถ. ปฺจหิ สํสคฺเคหีติ สวนสํสคฺโค, ทสฺสนสํสคฺโค, สมุลฺลาปสํสคฺโค, สมฺโภคสํสคฺโค, กายสํสคฺโคติ อิเมหิ ปฺจหิ สํสคฺเคหิ. กิฏฺขาทโกติ กิฏฺฏฺาเน อุปฺปนฺนสสฺสฺหิ กิฏฺนฺติ วุตฺตํ การณูปจาเรน. สิปฺปิโย สุตฺติโย. สมฺพุกาติ สงฺขมาห.
คิหิภาเว วณฺณํ กเถสีติ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๔๒๒) กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กิร สาสเน ทฺเว สหายกา อเหสุํ, อฺมฺํ สมคฺคา เอกโตว สชฺฌายนฺติ. เตสุ เอโก อนภิรโต คิหิภาเว จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อิตรสฺส อาโรเจสิ. โส คิหิภาเว อาทีนวํ, ปพฺพชฺชาย อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา โอวทิ. โส ตํ สุตฺวา อภิรมิตฺวา ปุน เอกทิวสํ ตาทิเส จิตฺเต อุปฺปนฺเน ตํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหํ, อาวุโส, เอวรูปํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, อิมาหํ ปตฺตจีวรํ ตุยฺหํ ทสฺสามี’’ติ. โส ปตฺตจีวรโลเภน ตสฺส คิหิภาเว อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ปพฺพชฺชาย อาทีนวํ กเถสิ. ตสฺส ตํ สุตฺวาว คิหิภาวโต จิตฺตํ นิวตฺเตตฺวา ปพฺพชฺชายเมว อภิรมิ. เอวเมส ตทา สีลวนฺตสฺส ภิกฺขุโน คิหิภาเว ¶ อานิสํสกถาย กถิตตฺตา อิทานิ ฉ วาเร วิพฺภมิตฺวา สตฺตมวาเร ปพฺพชิตฺวา มหาโมคฺคลฺลานสฺส มหาโกฏฺิกตฺเถรสฺส จ อภิธมฺมกถํ กเถนฺตานํ อนฺตรนฺตรา กถํ โอปาเตสิ. อถ นํ มหาโกฏฺิกตฺเถโร อปสาเทสิ. โส มหาสาวกสฺส กถิเต ปติฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต วิพฺภมิตฺวา คิหิ ชาโต. โปฏฺปาทสฺส ปนายํ คิหิสหายโก อโหสิ, ตสฺมา วิพฺภมิตฺวา ทฺวีหตีหจฺจเยน โปฏฺปาทสฺส สนฺติกํ คโต. อถ นํ โส ทิสฺวา – ‘‘สมฺม, กึ ตยา กตํ, เอวรูปสฺส นาม สตฺถุ สาสนา อปสกฺกนฺโตสิ, เอหิ ปพฺพชิตุํ ทานิ เต วฏฺฏตี’’ติ ตํ คเหตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. ตสฺมึ าเน ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺตเม วาเร ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณี’’ติ.
หตฺถิสาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มชฺเฌสุตฺตวณฺณนา
๖๑. สตฺตเม มนฺตาติ ย-การโลเปน นิทฺเทโส, กรณตฺเถ วา เอตํ ปจฺจตฺตวจนํ. เตนาห ‘‘ตาย อุโภ อนฺเต วิทิตฺวา’’ติ. ผสฺสวเสน นิพฺพตฺตตฺตาติ ทฺวยทฺวยสมาปตฺติยํ อฺมฺํ สมฺผสฺสวเสน นิพฺพตฺตตฺตา, ‘‘ผสฺสปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว ¶ , ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ อิมินา จานุกฺกเมน ผสฺสสมุฏฺานตฺตา อิมสฺส กายสฺส ผสฺสวเสน นิพฺพตฺตตฺตาติ วุตฺตํ. เอโก อนฺโตติ เอตฺถ อยํ อนฺต-สทฺโท อนฺตอพฺภนฺตรมริยาทลามกอภาวโกฏฺาสปทปูรณสมีปาทีสุ ทิสฺสติ. ‘‘อนฺตปูโร อุทรปูโร’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๑๙๗) หิ อนฺเต อนฺตสทฺโท. ‘‘จรนฺติ โลเก ปริวารฉนฺนา อนฺโต อสุทฺธา, พหิ โสภมานา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๒๒) อพฺภนฺตเร. ‘‘กายพนฺธนสฺส อนฺโต ชีรติ (จูฬว. ๒๗๘) สา หริตนฺตํ วา ปนฺถนฺตํ วา เสลนฺตํ วา อุทกนฺตํ วา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๔) มริยาทายํ. ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๘๐; อิติวุ. ๙๑) ลามเก. ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๙๓; สํ. นิ. ๒.๕๑) อภาเว. สพฺพปจฺจยสงฺขโย หิ ทุกฺขสฺส อภาโว ¶ โกฏีติปิ วุจฺจติ. ‘‘ตโย อนฺตา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๐๕) โกฏฺาเส. ‘‘อิงฺฆ ตาว สุตฺตนฺตํ วา คาถาโย วา อภิธมฺมํ วา ปริยาปุณสฺสุ, สุตฺตนฺเต โอกาสํ การาเปตฺวา’’ติ (ปาจิ. ๔๔๒) จ อาทีสุ ปทปูรเณ. ‘‘คามนฺตํ วา โอสโฏ (ปารา. ๔๐๙-๔๑๐; จูฬว. ๓๔๓) คามนฺตเสนาสน’’นฺติอาทีสุ (ปารา. อฏฺ. ๒.๔๑๐) สมีเป. สฺวายมิธ โกฏฺาเส วตฺตตีติ อยเมโก โกฏฺาโสติ.
สนฺโต ปรมตฺถโต วิชฺชมาโน ธมฺมสมูโหติ สกฺกาโย, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. เตนาห ‘‘เตภูมกวฏฺฏ’’นฺติ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
มชฺเฌสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปุริสินฺทฺริยาณสุตฺตวณฺณนา
๖๒. อฏฺเม นิพฺพตฺติวเสน อปายสํวตฺตนิเยน วา กมฺมุนา อปาเยสุ นิยุตฺโตติ อาปายิโก เนรยิโกติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อวีจิมฺหิ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ อายุกปฺปสฺิตํ อนฺตรกปฺปํ ติฏฺตีติ กปฺปฏฺโ. นิรยูปปตฺติปริหรณวเสน ติกิจฺฉิตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อเตกิจฺโฉ. อขณฺฑานีติ เอกเทเสนปิ อขณฺฑิตานิ. ภินฺนกาลโต ปฏฺาย พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. อปูตีนีติ อุทกเตมเนน อปูติกานิ. ปูติกฺหิ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. อวาตาตปหตานีติ วาเตน จ อาตเปน จ น หตานิ นิโรชตํ น ปาปิตานิ. นิโรชฺหิ กสฏํ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. ‘‘สาราทานี’’ติ วตฺตพฺเพ อา-การสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ปาฬิยํ ‘‘สารทานี’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สาราทานี’’ติ. ตณฺฑุลสารสฺส อาทานโต ¶ สาราทานิ, คหิตสารานิ ปติฏฺิตสารานิ. นิสฺสรฺหิ พีชํ พีชตฺถาย น อุปกปฺปติ. สุขสยิตานีติ จตฺตาโร มาเส โกฏฺเ ปกฺขิตฺตนิยาเมเนว สุขสยิตานิ สุฏฺุ สนฺนิจิตานิ. มณฺฑเขตฺเตติ อูสขาราทิโทเสหิ อวิทฺธสฺเต สารกฺเขตฺเต. อภิโทติ อภิ-สทฺเทน สมานตฺถนิปาตปทนฺติ อาห ‘‘อภิอฑฺฒรตฺต’’นฺติ. นตฺถิ เอตสฺส ภิทาติ วา อภิโท. ‘‘อภิทํ อฑฺฒรตฺต’’นฺติ วตฺตพฺเพ อุปโยคตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. อฑฺฒรตฺตนฺติ ¶ จ อจฺจนฺตสํโยควจนํ, ภุมฺมตฺเถ วา. ตสฺมา อภิโท อฑฺฒรตฺตนฺติ อภินฺเน อฑฺฒรตฺตสมเยติ อตฺโถ. ปุณฺณมาสิยฺหิ คคนมชฺฌสฺส ปุรโต วา ปจฺฉโต วา จนฺเท ิเต อฑฺฒรตฺตสมโย ภินฺโน นาม โหติ, มชฺเฌ เอว ปน ิเต อภินฺโน นาม.
สุปฺปพุทฺธสุนกฺขตฺตาทโยติ เอตฺถ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๒๗ สุปฺปพุทฺธสกฺยวตฺถุ) สุปฺปพุทฺโธ กิร สากิโย ‘‘มม ธีตรํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขนฺโต, มม ปุตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา ตสฺส เวริฏฺาเน ิโต จา’’ติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ สตฺถริ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา เอกทิวสํ ‘‘น ทานิ นิมนฺติตฏฺานํ คนฺตฺวา ภฺุชิตุํ ทสฺสามี’’ติ คมนมคฺคํ ปิทหิตฺวา อนฺตรวีถิยํ สุรํ ปิวนฺโต นิสีทิ. อถสฺส สตฺถริ ภิกฺขุสงฺฆปริวุเต ตํ านํ อาคเต ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ อาโรเจสุํ. โส อาห – ‘‘ปุรโต คจฺฉาติ ตสฺส วเทถ, นายํ มยา มหลฺลกตโร, นาสฺส มคฺคํ ทสฺสามี’’ติ. ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโนปิ ตเถว นิสีทิ. สตฺถา มาตุลสฺส สนฺติกา มคฺคํ อลภิตฺวา ตโตว นิวตฺติ. โสปิ จรปุริสํ เปเสสิ – ‘‘คจฺฉ ตสฺส กถํ สุตฺวา เอหี’’ติ. สตฺถาปิ นิวตฺตนฺโต สิตํ กตฺวา อานนฺทตฺเถเรน – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, สิตปาตุกมฺเม ปจฺจโย’’ติ ปุฏฺโ อาห – ‘‘ปสฺสสิ, อานนฺท, สุปฺปพุทฺธ’’นฺติ. ปสฺสามิ, ภนฺเต. ภาริยํ เตน กมฺมํ กตํ มาทิสสฺส พุทฺธสฺส มคฺคํ อเทนฺเตน, อิโต สตฺตเม ทิวเส เหฏฺาปาสาเท ปาสาทมูเล ปถวิยา ปวิสิสฺสตี’’ติ อาจิกฺขิ.
สุนกฺขตฺโตปิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๗) ปุพฺเพ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมํ ปุจฺฉิ. อถสฺส ภควา กเถสิ. โส ทิพฺพจกฺขุํ นิพฺพตฺเตตฺวา อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา โอโลเกนฺโต เทวโลเก นนฺทนวนจิตฺตลตาวนผารุสกวนมิสฺสกวเนสุ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน เทวปุตฺเต จ เทวธีตโร จ ทิสฺวา – ‘‘เอเตสํ เอวรูปาย อตฺตภาวสมฺปตฺติยา ิตานํ กิร มธุโร นุ โข สทฺโท ภวิสฺสตี’’ติ สทฺทํ โสตุกาโม หุตฺวา ทสพลํ อุปสงฺกมิตฺวา ทิพฺพโสตธาตุปริกมฺมํ ปุจฺฉิ. ภควา ปนสฺส – ‘‘ทิพฺพโสตธาตุสฺส อุปนิสฺสโย นตฺถี’’ติ ตฺวา ปริกมฺมํ น กเถสิ. น หิ พุทฺธา ยํ น ภวิสฺสติ, ตสฺส ปริกมฺมํ กเถนฺติ. โส ภควติ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สมณํ โคตมํ ปมํ ทิพฺพจกฺขุปริกมฺมํ ¶ ปุจฺฉึ, โส มยฺหํ ‘สมฺปชฺชตุ วา มา วา สมฺปชฺชตู’ติ กเถสิ. อหํ ปน ปจฺจตฺตปุริสกาเรน ตํ นิพฺพตฺเตตฺวา ทิพฺพโสตธาตุปริกมฺมํ ปุจฺฉึ, ตํ เม น กเถสิ. อทฺธา เอวํ ¶ โหติ ‘อยํ ราชปพฺพชิโต ทิพฺพจกฺขุาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา, ทิพฺพโสตาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา, เจโตปริยกมฺมาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา, อาสวานํ ขเย าณํ นิพฺพตฺเตตฺวา, มยา สมสโม ภวิสฺสตี’ติ อิสฺสามจฺฉริยวเสน มยฺหํ น กเถตี’’ติ ภิยฺโยโส อาฆาตํ พนฺธิตฺวา กาสายานิ ฉฑฺเฑตฺวา คิหิภาวํ ปตฺวาปิ น ตุณฺหีภูโต วิหาสิ. ทสพลํ ปน อสตา ตุจฺเฉน อพฺภาจิกฺขิตฺวา อปายูปโค อโหสิ. ตมฺปิ ภควา พฺยากาสิ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘เอวมฺปิ โข, ภคฺคว, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต มยา วุจฺจมาโน อปกฺกเมว อิมสฺมา ธมฺมวินยา, ยถา ตํ อาปายิโก’’ติ (ที. นิ. ๓.๖). เตน วุตฺตํ ‘‘อปเรปิ สุปฺปพุทฺธสุนกฺขตฺตาทโย ภควตา าตาวา’’ติ. อาทิ-สทฺเทน โกกาลิกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
สุสีโม ปริพฺพาชโกติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๗๐) เอวํนามโก เวทงฺเคสุ กุสโล ปณฺฑิโต ปริพฺพาชโก. อฺติตฺถิยา หิ ปริหีนลาภสกฺการสิโลกา ‘‘สมโณ โคตโม น ชาติโคตฺตาทีนิ อารพฺภ ลาภคฺคปฺปตฺโต ชาโต, กวิเสฏฺโ ปเนส อุตฺตมกวิตาย สาวกานํ พนฺธํ พนฺธิตฺวา เทติ. เต ตํ อุคฺคณฺหิตฺวา อุปฏฺากานํ อุปนิสินฺนกถมฺปิ อนุโมทนมฺปิ สรภฺมฺปีติ เอวมาทีนิ กเถนฺติ. เต เตสํ ปสนฺนานํ ลาภํ อุปสํหรนฺติ. สเจ มยํ ยํ สมโณ โคตมา ชานาติ, ตโต โถกํ ชาเนยฺยาม, อตฺตโน สมยํ ตตฺถ ปกฺขิปิตฺวา มยมฺปิ อุปฏฺากานํ กเถยฺยาม. ตโต เอเตหิ ลาภิตรา ภเวยฺยาม. โก นุ โข สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ขิปฺปเมว อุคฺคณฺหิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา ‘‘สุสิโม ปฏิพโล’’ติ ทิสฺวา อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ ‘‘เอหิ ตฺวํ, อาวุโส สุสีม, สมเณ โคตเม พฺรหฺมจริยํ จร, ตฺวํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา อมฺเห วาเจยฺยาสิ, ตํ มยํ ธมฺมํ ปริยาปุณิตฺวา คิหีนํ ภาสิสฺสาม, เอวํ มยมฺปิ สกฺกตา ภวิสฺสาม ครุกตา มานิตา ปูชิตา ลาภิโน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๗๐).
อถ สุสีโม ปริพฺพาชโก เตสํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เยนานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เถโร จ ตํ อาทาย ภควนฺตํ ¶ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิ. ภควา ปน จินฺเตสิ ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก ติตฺถิยสมเย ‘อหํ ปาฏิเอกฺโก สตฺถา’ติ ปฏิชานมาโน จรติ, ‘อิเธว มคฺคพฺรหฺมจริยํ จริตุํ อิจฺฉามี’ติ กิร วทติ, กึ นุ โข มยิ ปสนฺโน, อุทาหุ มยฺหํ วา มม สาวกานํ ธมฺมกถาย ปสนฺโน’’ติ. อถสฺส เอกฏฺาเนปิ ปสาทาภาวํ ตฺวา ‘‘อยํ มม สาสเน ‘ธมฺมํ เถเนสฺสามี’ติ ปพฺพชติ, อิติสฺส อาคมนํ ¶ อปริสุทฺธํ, นิปฺผตฺติ นุ โข กีทิสา’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘กิฺจาปิ ‘ธมฺมํ เถเนสฺสามี’ติ ปพฺพชติ, กติปาเหเนว ปน ฆเฏตฺวา อรหตฺตํ คณฺหิสฺสตี’’ติ ตฺวา ‘‘เตนหานนฺท, สุสีมํ ปพฺพาเชถา’’ติ อาห. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘เอวํ ภควตา โก าโต? สุสีโม ปริพฺพาชโก’’ติ.
สนฺตติมหามตฺโตติ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๔๑ สนฺตติมหามตฺตวตฺถุ) โส กิร เอกสฺมึ กาเล รฺโ ปเสนทิสฺส ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วูปสเมตฺวา อาคโต. อถสฺส ราชา ตุฏฺโ สตฺต ทิวสานิ รชฺชํ ทตฺวา เอกํ นจฺจคีตกุสลํ อิตฺถึ อทาสิ. โส สตฺต ทิวสานิ สุรามทมตฺโต หุตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต นหานติตฺถํ คจฺฉนฺโต สตฺถารํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทฺวารนฺตเร ทิสฺวา หตฺถิกฺขนฺธวรคโตว สีสํ จาเลตฺวา วนฺทิ. สตฺถา สิตํ กตฺวา ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, สิตปาตุกรเณ เหตู’’ติ อานนฺทตฺเถเรน ปุฏฺโ สิตการณํ อาจิกฺขนฺโต อาห – ‘‘ปสฺสสิ, อานนฺท, สนฺตติมหามตฺตํ, อชฺเชว สพฺพาภรณปฺปฏิมณฺฑิโต มม สนฺติกํ อาคนฺตฺวา จาตุปฺปทิกคาถาวสาเน อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ โก าโต ภควตาติ? สนฺตติมหามตฺโต’’ติ.
ปุริสินฺทฺริยาณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. นิพฺเพธิกสุตฺตวณฺณนา
๖๓. นวเม ปริหายติ อตฺตโน ผลํ ปริคฺคเหตฺวา วตฺตติ, ตสฺส วา การณภาวํ อุปคจฺฉตีติ ปริยาโยติ อิธ การณํ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘นิพฺพิชฺฌนการณ’’นฺติ.
‘‘อนุชานามิ ¶ , ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ เอตฺถ หิ ปฏลฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔) เอตฺถ ราสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสฏฺโ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺตึสากาโร), กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ (ธ. ป. ๕๓) เอตฺถ พนฺธนฏฺโ คุณฏฺโ. อิธาปิ เอโสว อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘พนฺธนฏฺเน คุณา’’ติ. กามราคสฺส สํโยชนสฺส ปจฺจยภาเวน วตฺถุกาเมสุปิ พนฺธนฏฺโ ราสฏฺโ วา คุณฏฺโ ทฏฺพฺโพ. จกฺขุวิฺเยฺยาติ วา จกฺขุวิฺาณตํทฺวาริกวิฺาเณหิ ชานิตพฺพา. โสตวิฺเยฺยาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อิฏฺารมฺมณภูตาติ ¶ สภาเวเนว อิฏฺารมฺมณชาติกา, อิฏฺารมฺมณภาวํ วา ปตฺตา. กมนียาติ กาเมตพฺพา. มนวฑฺฒนกาติ มโนหรา. เอเตน ปริกปฺปนโตปิ อิฏฺารมฺมณภาวํ สงฺคณฺหาติ. ปิยชาติกาติ ปิยายิตพฺพสภาวา. กามูปสฺหิตาติ กามราเคน อุเปจฺจ สมฺพนฺธนียา สมฺพนฺธา กาตพฺพา. เตนาห ‘‘อารมฺมณํ กตฺวา’’ติอาทิ. สงฺกปฺปราโคติ วา สุภาทิวเสน สงฺกปฺปิตวุตฺถมฺหิ อุปฺปนฺนราโค. เอวเมตฺถ วตฺถุกามํ ปฏิกฺขิปิตฺวา กิเลสกาโม วุตฺโต ตสฺเสว วเสน เตสมฺปิ กามภาวสิทฺธิโต, กิเลสกามสฺสปิ อิฏฺเวทนา ทิฏฺาทิสมฺปโยคเภเทน ปวตฺติอาการเภเทน จ อตฺถิ วิจิตฺตกาติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘จิตฺรวิจิตฺรารมฺมณานี’’ติ อาห, นานปฺปการานิ รูปาทิอารมฺมณานีติ อตฺโถ.
อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺทนฺติ อถ เอเตสุ อารมฺมเณสุ ธิติสมฺปนฺนา ปณฺฑิตา ฉนฺทราคํ วินยนฺติ.
ตชฺชาติกนฺติ ตํสภาวํ, อตฺถโต ปน ตสฺส กามสฺส อนุรูปนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปฺุสฺส ภาโค ปฺุภาโค, ปฺุโกฏฺาโส. เตน นิพฺพตฺโต, ตตฺถ วา ภโวติ ปฺุภาคิโย. อปฺุภาคิโยติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. วิปาโกเยว เวปกฺกนฺติ อาห ‘‘โวหารวิปาก’’นฺติ.
สพฺพสงฺคาหิกาติ กุสลากุสลสาธารณา. สํวิทหนเจตนาติ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ สํวิทหนลกฺขณา เจตนา. อุรตฺตาฬินฺติ อุรํ ตาเฬตฺวา ¶ . เอกปทนฺติ เอกปทจิตํ มนฺตํ. เตนาห ‘‘เอกปทมนฺตํ วา’’ติอาทิ.
นิพฺเพธิกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สีหนาทสุตฺตวณฺณนา
๖๔. ทสเม ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. นนุ เจตานิ สาวกานมฺปิ เอกจฺจานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ? กามํ อุปฺปชฺชนฺติ, ยาทิสานิ ปน พุทฺธานํ านาฏฺานาณาทีนิ, น ตาทิสานิ ตทฺเสํ กทาจิ อุปฺปชฺชนฺตีติ อฺเหิ อสาธารณานิ. อิมเมว หิ ยถาวุตฺตํ เลสํ อเปกฺขิตฺวา สาธารณภาวโต อาสยานุสยาณาทีสุ เอว อสาธารณสมฺา นิรุฬฺหา. ยถา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปฺุสฺส สมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติ วา ตถาคตพลานิ. อุสภสฺส อิทํ อาสภํ, เสฏฺฏฺานํ. ปมุขนาทนฺติ เสฏฺนาทํ ¶ . ปฏิเวธาณฺเจว เทสนาาณฺจาติ เอตฺถ ปฺาย ปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ. กรุณาย ปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาตโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานฺเว โอรสาณํ.
านฺจ านโต ปชานาตีติ การณฺจ การณโต ปชานาติ. ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ภควา ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านํ, เย เย ธมฺมา เยยํ เยยํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺาน’’นฺติ ปชานนฺโต านโต อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ.
สมาทิยนฺตีติ ¶ สมาทานานิ, ตานิ ปน สมาทิยิตฺวา กตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘สมาทิยิตฺวา กตาน’’นฺติ. กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานนฺติ เอเตน ‘‘สมาทาน’’นฺติ สทฺทสฺส อปุพฺพตฺถาภาวํ ทสฺเสติ มุตฺตคตสทฺเท คตสทฺทสฺส วิย. คตีติ นิรยาทิคติโย. อุปธีติ อตฺตภาโว. กาโลติ กมฺมสฺส วิปจฺจนารหกาโล. ปโยโคติ วิปากุปฺปตฺติยา ปจฺจยภูตา กิริยา.
จตุนฺนํ ฌานานนฺติ ปจฺจนีกชฺฌาปนฏฺเน อารมฺมณูปนิชฺฌานฏฺเน จ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ. จตุกฺกนเยน เหตํ วุตฺตํ. อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานนฺติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ (ม. นิ. ๒.๒๔๘; ๓.๓๑๒; ธ. ส. ๒๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙) อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ. ติณฺณํ สมาธีนนฺติ สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ. นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนนฺติ ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนํ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. เอตฺถ จ ปฏิปาฏิยา อฏฺนฺนํ สมาธีติปิ นามํ, สมาปตฺตีติปิ จิตฺเตกคฺคตาสพฺภาวโต, นิโรธสมาปตฺติยา ตทภาวโต น สมาธีติ นามํ. หานภาคิยํ ธมฺมนฺติ อปฺปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ กามาทิปกฺขนฺทนํ. วิเสสภาคิยํ ธมฺมนฺติ ปคุเณหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺิตสฺส สฺามนสิการานํ ทุติยชฺฌานาทิปกฺขนฺทนํ. อิติ สฺามนสิการานํ ¶ กามาทิทุติยชฺฌานาทิปกฺขนฺทนานิ หานภาคิยวิเสสภาคิยธมฺมาติ ทสฺสิตานิ. เตหิ ปน ฌานานํ ตํสภาวตา ธมฺมสทฺเทน วุตฺตา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ เหตุภาเวน ปจฺจามสติ. โวทานนฺติ ปคุณตาสงฺขาตํ โวทานํ. ตฺหิ ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺหิตฺวา ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคมสฺส ปจฺจยตฺตา ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. เย ปน ‘‘นิโรธโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺานนฺติ ปาฬิ นตฺถี’’ติ วทนฺติ. เต ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อิมาย ปาฬิยํ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) ปฏิเสเธตพฺพา.
สีหนาทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.