📜

๓. วชฺชิสตฺตกวคฺโค

๑. สารนฺททสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม เทวายตนภาเวน จิตฺตตฺตา โลกสฺส จิตฺตีการฏฺานตาย จ เจติยํ อโหสิ. ยาวกีวนฺติ (ที. นิ. ฏี. ๒.๑๓๔) เอกเมเวตํ ปทํ อนิยมโต ปริมาณวาจี. กาโล เจตฺถ อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ยตฺตกํ กาล’’นฺติ. อภิณฺหํ สนฺนิปาตาติ นิจฺจสนฺนิปาตา. ตํ ปน นิจฺจสนฺนิปาตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิวสสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สนฺนิปาตพหุลาติ ปจุรสนฺนิปาตา. โวสานนฺติ สงฺโกจํ. ‘‘วุทฺธิเยวา’’ติอาทินา วุตฺตมตฺถํ พฺยติเรกมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘อภิณฺหํ อสนฺนิปตนฺตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อากุลาติ ขุภิตา น ปสนฺนา. ภิชฺชิตฺวาติ วคฺคพนฺธโต วิภชฺช วิสุํ วิสุํ หุตฺวา.

สนฺนิปาตเภริยาติ สนฺนิปาตาโรจนเภริยา. อทฺธภุตฺตา วาติ สามิภุตฺตา วา. โอสีทมาเนติ หายมาเน.

สุงฺกนฺติ ภณฺฑํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเตหิ ปพฺพตขณฺฑนาทิติตฺถคามทฺวาราทีสุ ราชปุริสานํ ทาตพฺพภาคํ. พลินฺติ นิปฺผนฺนสสฺสาทิโต ฉภาคํ สตฺตภาคนฺติอาทินา ลทฺธพฺพกรํ. ทณฺฑนฺติ ทสวีสติกหาปณาทิกํ อปราธานุรูปํ คเหตพฺพธนทณฺฑํ. วชฺชิธมฺมนฺติ วชฺชิราชธมฺมํ. อิทานิ อปฺตฺตปฺาปนาทีสุ ตปฺปฏิกฺเขเป จ อาทีนวานิสํเส จ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘เตส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปาริจริยกฺขมาติ อุปฏฺานกฺขมา. โปราณํ วชฺชิธมฺมนฺติ เอตฺถ ปุพฺเพ กิร วชฺชิราชาโน ‘‘อยํ โจโร’’ติ อาเนตฺวา ทสฺสิเต ‘‘คณฺหถ นํ โจร’’นฺติ อวตฺวา วินิจฺฉยมหามตฺตานํ เทนฺติ. เต วินิจฺฉินิตฺวา สเจ อโจโร โหติ, วิสฺสชฺเชนฺติ. สเจ โจโร, อตฺตนา กิฺจิ อกตฺวา โวหาริกานํ เทนฺติ, เตปิ วินิจฺฉินิตฺวา อโจโร เจ, วิสฺสชฺเชนฺติ. โจโร เจ, สุตฺตธรานํ เทนฺติ. เตปิ วินิจฺฉินิตฺวา อโจโร เจ, วิสฺสชฺเชนฺติ. โจโร เจ, อฏฺฏกุลิกานํ เทนฺติ, เตปิ ตเถว กตฺวา เสนาปติสฺส, เสนาปติ อุปราชสฺส, อุปราชา รฺโ. ราชา วินิจฺฉินิตฺวา สเจ อโจโร โหติ, วิสฺสชฺเชติ. สเจ ปน โจโร โหติ, ปเวณิปณฺณกํ วาจาเปติ. ตตฺถ ‘‘เยน อิทํ นาม กตํ, ตสฺส อยํ นามทณฺโฑ’’ติ ลิขิตํ. ราชา ตสฺส กิริยํ เตน สมาเนตฺวา ตทนุจฺฉวิกํ ทณฺฑํ กโรติ. อิติ เอตํ โปราณํ วชฺชิธมฺมํ สมาทาย วตฺตนฺตานํ มนุสฺสา น อุชฺฌายนฺติ. ปรมฺปราคเตสุ อฏฺฏกุเลสุ ชาตา อคติคมนวิรตา อฏฺฏมหลฺลกปุริสา อฏฺฏกุลิกา.

สกฺการนฺติ อุปการํ. ครุภาวํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวาติ ‘‘อิเม อมฺหากํ ครุโน’’ติ ตตฺถ ครุภาวํ ปฏิ ปฏิ อุปฏฺเปตฺวา. มาเนสฺสนฺตีติ สมฺมาเนสฺสนฺติ. ตํ ปน สมฺมานนํ เตสุ เนสํ อตฺตมนตาปุพฺพกนฺติ อาห ‘‘มเนน ปิยายิสฺสนฺตี’’ติ. นิปจฺจการํ ปณิปาตํ. ทสฺเสนฺตีติ ครุจิตฺตภารํ ทสฺเสนฺติ. สนฺธาเนตุนฺติ สมฺพนฺธํ อวิจฺฉินฺนํ กตฺวา ฆเฏตุํ.

ปสยฺหการสฺสาติ พลกฺการสฺส. กามํ วุทฺธิยา ปูชนียตาย ‘‘วุทฺธิหานิโย’’ติ วุตฺตํ, อตฺโถ ปน วุตฺตานุกฺกเมเนว โยเชตพฺโพ. ปาฬิยํ วา ยสฺมา ‘‘วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา, โน ปริหานี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ตทนุกฺกเมน ‘‘วุทฺธิหานิโย’’ติ วุตฺตํ.

วิปจฺจิตุํ อลทฺโธกาเส ปาปกมฺเม, ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเก วา อนวสโรว เทวโสปสคฺโค. ตสฺมึ ปน ลทฺโธกาเส สิยา เทวโตปสคฺคสฺส อวสโรติ อาห ‘‘อนุปฺปนฺนํ…เป… วฑฺเฒนฺตี’’ติ. เอเตเนว อนุปฺปนฺนํ สุขนฺติ เอตฺถาปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. พลกายสฺส ทิคุณติคุณตาทสฺสนํ ปฏิภยภาวทสฺสนนฺติ เอวมาทินา เทวตานํ สงฺคามสีเส สหายตา เวทิตพฺพา.

อนิจฺฉิตนฺติ อนิฏฺํ. อาวรณโตติ นิเสธนโต. ธมฺมโต อนเปตา ธมฺมิยาติ อิธ ‘‘ธมฺมิกา’’ติ วุตฺตา. มิคสูกราทิฆาตาย สุนขาทีนํ กฑฺฒิตฺวา วนจรณํ วาโช, ตตฺถ นิยุตฺตา, เต วา วาเชนฺตีติ วาชิกา, มิควธจาริโน.

สารนฺททสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วสฺสการสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย อภิยาตุกาโมติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท อภิภวนตฺโถ ‘‘อนภิวิทิตุ’’นฺติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘อภิภวนตฺถาย ยาตุกาโม’’ติ. วชฺชิราชาโนติ ‘‘วชฺเชตพฺพา อิเม’’ติ อาทิโต ปวตฺตํ วจนํ อุปาทาย วชฺชีติ ลทฺธนามา ราชาโน, วชฺชิรฏฺสฺส วา ราชาโน วชฺชิราชาโน. รฏฺสฺส ปน วชฺชิสมฺา ตนฺนิวาสิราชกุมารวเสน เวทิตพฺพา. ราชิทฺธิยาติ ราชภาวานุคเตน ปภาเวน. โส ปน ปภาโว เนสํ คณราชานํ มิโถ สามคฺคิยา โลเก ปากโฏ. จิรฏฺายี จ อโหสีติ ‘‘สมคฺคภาวํ กเถตี’’ติ วุตฺตํ. อนุ อนุ ตํสมงฺคิโน ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อนุภาโว, อนุภาโว เอว อานุภาโว, ปตาโป. โส ปน เนสํ ปตาโป หตฺถิอสฺสาทิวาหนสมฺปตฺติยา ตตฺถ จ สุภิกฺขิตภาเวน โลเก ปากโฏ ชาโตติ ‘‘เอเตน…เป… กเถตี’’ติ วุตฺตํ. ตาฬจฺฉิคฺคเฬนาติ กุฺจิกาฉิทฺเทน. อสนนฺติ สรํ. อติปาตยิสฺสนฺตีติ อติกฺกาเมนฺติ. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ โปงฺขสฺส อนุโปงฺขํ, ปุริมสรสฺส โปงฺขปทานุคตโปงฺขํ อิตรํ สรํ กตฺวาติ อตฺโถ. อวิราธิตนฺติ อวิรชฺฌิตํ. อุจฺฉินฺทิสฺสามีติ อุมฺมูลนวเสน กุลสนฺตตึ ฉินฺทิสฺสามิ. อยนํ วฑฺฒนํ อโย, ตปฺปฏิปกฺเขน อนโยติ อาห ‘‘อวฑฺฒิ’’นฺติ. าตีนํ พฺยสนํ วินาโส าติพฺยสนํ.

คงฺคายาติ คงฺคาสมีเป. ปฏฺฏนคามนฺติ สกฏปฏฺฏนคามํ. ตตฺราติ ตสฺมึ ปฏฺฏเน. พลวาฆาตชาโตติ อุปฺปนฺนพลวโกโธ. เมติ มยฺหํ. คเตนาติ คมเนน. สีตํ วา อุณฺหํ วา นตฺถิ ตาย เวลาย. อภิมุขํ ยุทฺเธนาติ อภิมุขํ อุชุกเมว สงฺคามกรเณน. อุปลาปนํ สามํ ทานฺจาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เภโทปิ อิธ อุปาโย เอวาติ วุตฺตํ ‘‘อฺตฺร มิถุเภทา’’ติ. ยุทฺธสฺส ปน อนุปายตา ปเคว ปกาสิตา. อิทนฺติ ‘‘อฺตฺร อุปลาปนาย อฺตฺร มิถุเภทา’’ติ อิทํ วจนํ. กถาย นยํ ลภิตฺวาติ ‘‘ยาวกีวฺจ …เป… ปริหานี’’ติ อิมาย ภควโต กถาย อุปายํ ลภิตฺวา. อนุกมฺปายาติ วชฺชิราเชสุ อนุคฺคเหน.

ราชาปิ ตเมว เปเสตฺวา สพฺเพ…เป… ปาเปสีติ ราชา ตํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตํ ‘‘กึ, อาจริย, ภควา อวจา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘ยถา โภ สมณสฺส โคตมสฺส วจนํ น สกฺกา วชฺชี เกนจิ คเหตุํ, อปิจ อุปลาปนาย วา มิถุเภเทน วา สกฺกา’’ติ อาห. ตโต นํ ราชา ‘‘อุปลาปนาย อมฺหากํ หตฺถิอสฺสาทโย นสฺสิสฺสนฺติ, เภเทเนว เต คเหสฺสามิ, กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. เตน หิ, มหาราช, ตุมฺเห วชฺชี อารพฺภ ปริสติ กถํ สมุฏฺาเปถ, ตโต อหํ ‘‘กึ เต, มหาราช, เตหิ, อตฺตโน สนฺตเกน กสิวณิชฺชาทีนิ กตฺวา ชีวนฺตุ เอเต ราชาโน’’ติ วตฺวา ปกฺกมิสฺสามิ. ตโต ตุมฺเห ‘‘กึ นุ, โภ, เอส พฺราหฺมโณ วชฺชี อารพฺภ ปวตฺตํ กถํ ปฏิพาหตี’’ติ วเทยฺยาถ. ทิวสภาเค จาหํ เตสํ ปณฺณาการํ เปเสสฺสามิ, ตมฺปิ คาหาเปตฺวา ตุมฺเหปิ มม โทสํ อาโรเปตฺวา พนฺธนตาฬนาทีนิ อกตฺวาว เกวลํ ขุรมุณฺฑํ มํ กตฺวา นครา นีหราเปถ, อถาหํ ‘‘มยา เต นคเร ปากาโร ปริขา จ การิตา, อหํ ถิรทุพฺพลฏฺานฺจ อุตฺตานคมฺภีรฏฺานฺจ ชานามิ, น จิรสฺสํ ทานิ ตํ อุชุํ กริสฺสามี’’ติ วกฺขามิ. ตํ สุตฺวา ตุมฺเห ‘‘คจฺฉตู’’ติ วเทยฺยาถาติ. ราชา สพฺพํ อกาสิ.

ลิจฺฉวี ตสฺส นิกฺขมนํ สุตฺวา ‘‘สโ พฺราหฺมโณ, มา ตสฺส คงฺคํ อุตฺตาเรตุํ อทตฺถา’’ติ อาหํสุ. ตตฺร เอกจฺเจหิ ‘‘อมฺเห อารพฺภ กถิตตฺตา กิร โส เอวํ กโรตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ภเณ เอตู’’ติ วทึสุ. โส คนฺตฺวา ลิจฺฉวี ทิสฺวา ‘‘กิมาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิโต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ลิจฺฉวิโน ‘‘อปฺปมตฺตเกน นาม เอวํ ครุํ ทณฺฑํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘กึ เต ตตฺร านนฺตร’’นฺติ ปุจฺฉึสุ. วินิจฺฉยมหามจฺโจหมสฺมีติ. ตเทว เต านนฺตรํ โหตูติ. โส สุฏฺุตรํ วินิจฺฉยํ กโรติ. ราชกุมารา ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ. โส ปติฏฺิตคุโณ หุตฺวา เอกทิวสํ เอกํ ลิจฺฉวึ คเหตฺวา เอกมนฺตํ คนฺตฺวา ‘‘ทารกา กสนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, กสนฺติ. ทฺเว โคเณ โยเชตฺวาติ. อาม, ทฺเว โคเณ โยเชตฺวาติ. เอตฺตกํ วตฺวา นิวตฺโต. ตโต ตมฺโ ‘‘กึ อาจริโย อาหา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน วุตฺตํ – อสทฺทหนฺโต ‘‘น เมโส ยถาภูตํ กเถตี’’ติ เตน สทฺธึ ภิชฺชิ.

พฺราหฺมโณ อปรมฺปิ เอกทิวสํ เอกํ ลิจฺฉวึ เอกมนฺตํ เนตฺวา ‘‘เกน พฺยฺชเนน ภุตฺโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา นิวตฺโต. ตมฺปิ อฺโ ปุจฺฉิตฺวา อสทฺทหนฺโต ตเถว ภิชฺชิ. พฺราหฺมโณ อปรมฺปิ ทิวสํ เอกํ ลิจฺฉวึ เอกมนฺตํ เนตฺวา ‘‘อติทุคฺคโตสิ กิรา’’ติ ปุจฺฉิ. โก เอวมาหาติ . อสุโก นาม ลิจฺฉวีติ. อปรมฺปิ เอกมนฺตํ เนตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร ภีรุชาติโก’’ติ ปุจฺฉิ. โก เอวมาหาติ? อสุโก นาม ลิจฺฉวีติ. เอวํ อฺเน อกถิตเมว อฺสฺส กเถนฺโต ตีหิ สํวจฺฉเรหิ เต ราชาโน อฺมฺํ ภินฺทิตฺวา ยถา ทฺเว เอกมคฺเคน น คจฺฉนฺติ, ตถา กตฺวา สนฺนิปาตเภรึ จราเปสิ. ลิจฺฉวิโน ‘‘อิสฺสรา สนฺนิปตนฺตุ, สูรา สนฺนิปตนฺตู’’ติ วตฺวา น สนฺนิปตึสุ. พฺราหฺมโณ ‘‘อยํ ทานิ กาโล, สีฆํ อาคจฺฉตู’’ติ รฺโ สาสนํ เปเสติ. ราชา สุตฺวาว พลเภรึ จราเปตฺวา นิกฺขมิ. เวสาลิกา สุตฺวา ‘‘รฺโ คงฺคํ อุตฺตริตุํ น ทสฺสามา’’ติ เภรึ จราเปสุํ. เต สุตฺวา ‘‘คจฺฉนฺตุ สูรราชาโน’’ติอาทีนิ วตฺวา น สนฺนิปตึสุ. ‘‘นครปฺปเวสนํ น ทสฺสาม, ทฺวารานิ ปิทหิสฺสามา’’ติ เภรึ จราเปสุํ. เอโกปิ น สนฺนิปติ. ยถาวิวเฏหิ ทฺวาเรหิ ปวิสิตฺวา สพฺเพ อนยพฺยสนํ ปาเปตฺวา คโต. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘ราชาปิ ตเมว เปเสตฺวา สพฺเพปิ ภินฺทิตฺวา คนฺตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสี’’ติ.

วสฺสการสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปมสตฺตกสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย อปริหานาย หิตาติ อปริหานิยา (ที. นิ. ฏี. ๒.๑๓๖), น ปริหายนฺติ เอเตหีติ วา อปริหานิยา. เอวํ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธาปิ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตโตติอาทิ ทิสาสุ อาคตสาสเน วุตฺตวจนํ วุตฺตกถนํ. วิหารสีมา อากุลา ยสฺมา , ตสฺมา อุโปสถปวารณา ิตา. โอลียมานโกติ ปาฬิโต อตฺถโต จ วินสฺสมานโก. อุกฺขิปาเปนฺตาติ ปคุณภาวกรเณน อตฺถสํวณฺณนาวเสน จ ปคฺคณฺหนฺตา.

สาวตฺถิยํ ภิกฺขู วิย (ปารา. ๕๖๕) ปาจิตฺติยํ เทสาเปตพฺโพติ ปฺาเปนฺตา. วชฺชิปุตฺตกา วิย (จูฬว. ๔๔๖) ทสวตฺถุทีปเนน. ตถา อกโรนฺตาติ นวํ กติกวตฺตํ วา สิกฺขาปทํ วา อมทฺทนฺตา ธมฺมวินยโต สาสนํ ทีเปนฺตา ขุทฺทกมฺปิ จ สิกฺขาปทํ อสมูหนนฺตา. อายสฺมา มหากสฺสโป วิย จาติ ‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ, สนฺตามฺหากํ สิกฺขาปทานิ คิหิคตานิ. คิหิโนปิ ชานนฺติ ‘อิทํ โว สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ. สเจปิ หิ มยํ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ สมูหนิสฺสาม, ภวิสฺสนฺติ วตฺตาโร ‘ธูมกาลิกํ สมเณน โคตเมน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ยาวิเมสํ สตฺถา อฏฺาสิ, ตาวิเม สิกฺขาปเทสุ สิกฺขึสุ. ยโต อิเมสํ สตฺถา ปรินิพฺพุโต, น ทานิเม สิกฺขาปเทสุ สิกฺขนฺตี’ติ. ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อปฺตฺตํ น ปฺเปยฺย, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺเทยฺย, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺเตยฺยา’’ติ อิมํ (จูฬว. ๔๔๒) ตนฺตึ เปนฺโต อายสฺมา มหากสฺสโป วิย จ.

ถิรภาวปฺปตฺตาติ สาสเน ถิรภาวํ อนิวตฺติตภาวํ อุปคตา. เถรการเกหีติ เถรภาวสาธเกหิ สีลาทิคุเณหิ อเสกฺขธมฺเมหิ. พหู รตฺติโยติ ปพฺพชิตา หุตฺวา พหู รตฺติโย ชานนฺติ. สีลาทิคุเณสุ ปติฏฺาปนเมว สาสเน ปริณายกตาติ อาห ‘‘ตีสุ สิกฺขาสุ ปวตฺเตนฺตี’’ติ. โอวาทํ น เทนฺติ อภาชนภาวโต. ปเวณิกถนฺติ อาจริยปรมฺปราภตํ สมฺมาปฏิปตฺติทีปนํ ธมฺมกถํ. สารภูตํ ธมฺมปริยายนฺติ สมถวิปสฺสนามคฺคผลสมฺปาปเนน สาสเน สารภูตํ โพชฺฌงฺคโกสลฺลอนุตฺตรสีติภาว- (อ. นิ. ๖.๘๕) อธิจิตฺตสุตฺตาทิธมฺมตนฺตึ. อาทิกํ โอวาทนฺติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘เอวํ เต อาโลเกตพฺพํ, เอวํ เต วิโลเกตพฺพํ, เอวํ เต สมิฺชิตพฺพํ, เอวํ เต ปสาเรตพฺพํ, เอวํ เต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ โอวาทํ สงฺคณฺหาติ.

ปุนพฺภวทานํ ปุนพฺภโว อุตฺตรปทโลเปน. อิตเรติ เย น ปจฺจยวสิกา น อามิสจกฺขุกา, เต น คจฺฉนฺติ ตณฺหาย วสํ.

อารฺเกสูติ อรฺภาเคสุ อรฺปริยาปนฺเนสุ. นนุ ยตฺถ กตฺถจิปิ ตณฺหา สาวชฺชา เอวาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘คามนฺตเสนาสเนสุ หี’’ติอาทิ. เตน ‘‘อนุตฺตเรสุ วิโมกฺเขสุ ปิหํ อุปฏฺาปยโต’’ติ เอตฺถ วุตฺตปิหาทโย ปิย อารฺกเสนาสเนสุ สาลยตา เสวิตพฺพปกฺขิกา เอวาติ ทสฺเสติ.

อตฺตนาวาติ สยเมว. เตน ปเรหิ อนุสฺสาหิตานํ สรเสเนว อนาคตานํ เปสลานํ ภิกฺขูนํ อาคมนํ, อาคตานฺจ ผาสุวิหารํ ปจฺจาสีสนฺตีติ ทสฺเสติ. อิมินาว นีหาเรนาติ อิมาย ปฏิปตฺติยา. อคฺคหิตธมฺมคฺคหณนฺติ อคฺคหิตสฺส ปริยตฺติธมฺมสฺส อุคฺคหณํ. คหิตสชฺฌายกรณนฺติ อุคฺคหิตสฺส สุฏฺุ อตฺถจินฺตนํ. จินฺตรตฺโถ หิ อยํ สชฺฌายสทฺโท. เอนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ. นิสีทนฺติ อาสนปฺาปนาทินา.

ปมสตฺตกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔-๖. ทุติยสตฺตกสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๔-๒๖. จตุตฺเถ กโรนฺโตเยวาติ ยถาวุตฺตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺโตเยว. อติรจฺฉานกถาภาเวปิ ตสฺส ตตฺถ ตปฺปรภาวทสฺสนตฺถํ อวธารณวจนํ. ปริยนฺตการีติ สปริยนฺตํ กตฺวา วตฺตา. ‘‘ปริยนฺตวตึ วาจํ ภาสิตา’’ติ (ที. นิ. ๑.๙, ๑๙๔) หิ วุตฺตํ. อปฺปภสฺโสวาติ ปริมิตกโถเยว เอกนฺเตน กเถตพฺพสฺเสว กถนโต. สมาปตฺติสมาปชฺชนํ อริโย ตุณฺหีภาโว. นิทฺทายติเยวาติ นิทฺโทกฺกมเน อนาทีนวทสฺสี นิทฺทายติเยว, อิริยาปถปริวตฺตนาทินา น นํ วิโนเทติ. เอวํ สํสฏฺโวาติ วุตฺตนเยน คณสงฺคณิกาย สํสฏฺโ เอว วิหรติ. ทุสฺสีลา ปาปิจฺฉา นามาติ สยํ นิสฺสีลา อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย สมนฺนาคตตฺตา ปาปา ลามกา อิจฺฉา เอเตสนฺติ ปาปิจฺฉา. ปาปปุคฺคเลหิ มิตฺติกรณโต ปาปมิตฺตา. เตหิ สทา สหปวตฺตเนน ปาปสหายา. ตตฺถ นินฺนตาทินา ตทธิมุตฺตตาย ปาปสมฺปวงฺกา. ปฺจมาทีนิ อุตฺตานตฺถานิเยว.

ทุติยสตฺตกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๑๑. สฺาสุตฺตาทิวณฺณนา

๒๗-๓๑. สตฺตเม อนิจฺจาติ อนุปสฺสติ เอตายาติ อนิจฺจานุปสฺสนา. ตถาปวตฺตวิปสฺสนา ปน ยสฺมา อตฺตนา สหคตสฺาย ภาวิตาย ภาวิตา เอว โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ สหคตสฺา’’ติ. อิมา สตฺต โลกิยวิปสฺสนาปิ โหนฺติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปวตฺตนโต. ‘‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ อาคตวเสน ปเนตฺถ ทฺเว โลกุตฺตรา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ‘‘วิราโค นิโรโธ’’ติ หิ ตตฺถ นิพฺพานํ วุตฺตนฺติ อิธ วิราคสฺา, ตา วุตฺตสฺา นิพฺพานารมฺมณาปิ สิยุํ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว. อฏฺมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

สฺาสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

วชฺชิสตฺตกวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.