📜

๕. มุณฺฑราชวคฺโค

๑-๒. อาทิยสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๑-๔๒. ปฺจมสฺส ปเม อุฏฺานวีริยาธิคเตหีติ วา อุฏฺาเนน จ วีริเยน จ อธิคเตหิ. ตตฺถ อุฏฺานนฺติ กายิกํ วีริยํ. วีริยนฺติ เจตสิกนฺติ วทนฺติ. อุฏฺานนฺติ วา โภคุปฺปาทเน ยุตฺตปฺปยุตฺตตา. วีริยํ ตชฺโช อุสฺสาโห. ปีณิตนฺติ ธาตํ สุติตฺตํ. ตถาภูโต ปน ยสฺมา ถูลสรีโร โหติ, ตสฺมา ‘‘ถูลํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ. ทุติยํ อุตฺตานเมว.

อาทิยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อิฏฺสุตฺตวณฺณนา

๔๓. ตติเย อปฺปมาทํ ปสํสนฺตีติ ‘‘เอตานิ อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ อปฺปมาทเมว ปสํสนฺติ ปณฺฑิตา. ยสฺมา วา ปุฺกิริยาสุ ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ตสฺมา อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพติ อตฺโถ. ปุริมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ‘‘ปุฺกิริยาสู’’ติ ปทสฺส ‘‘อปฺปมตฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยสฺมา ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ, ยสฺมา จ ปุฺกิริยาสุ อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ อธิคโต โหติ, ตสฺมา อายุอาทีนิ ปตฺถยนฺเตน อปฺปมาโทว กาตพฺโพ. ทุติยสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปณฺฑิตา อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ. กตฺถาติ? ปุฺกิริยาสุ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา อปฺปมตฺโต อุโภ อตฺเถ อธิคฺคณฺหาติ ปณฺฑิโต, ตสฺมาติ อตฺโถ. อตฺถปฺปฏิลาเภนาติ ทิฏฺธมฺมิกาทิหิตปฺปฏิลาเภน.

อิฏฺสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. มนาปทายีสุตฺตวณฺณนา

๔๔. จตุตฺเถ ฌานมเนน นิพฺพตฺตํ มโนมยนฺติ อาห ‘‘สุทฺธาวาเสสุ เอกํ ฌานมเนน นิพฺพตฺตํ เทวกาย’’นฺติ. สติปิ หิ สพฺพสตฺตานํ อภิสงฺขารมนสา นิพฺพตฺตภาเว พาหิรปจฺจเยหิ วินา มนสาว นิพฺพตฺตตฺตา ‘‘มโนมยา’’ติ วุจฺจนฺติ รูปาวจรสตฺตา. ยทิ เอวํ กามภเว โอปปาติกสตฺตานมฺปิ มโนมยภาโว อาปชฺชตีติ เจ? น, ตตฺถ พาหิรปจฺจเยหิ นิพฺพตฺเตตพฺพตาสงฺกาย เอว อภาวโต ‘‘มนสาว นิพฺพตฺตา’’ติ อวธารณาสมฺภวโต. นิรุฬฺโห วายํ โลเก มโนมยโวหาโร รูปาวจรสตฺเตสุ. ตถา หิ ‘‘อนฺนมโย, ปาณมโย, มโนมโย, อานนฺทมโย, วิฺาณมโย’’ติ ปฺจธา อตฺตานํ เวทวาทิโนปิ วทนฺติ. อุจฺเฉทวาทิโนปิ วทนฺติ ‘‘ทิพฺโพ รูปี มโนมโย’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๗). ตีสุ วา กุลสมฺปตฺตีสูติ พฺราหฺมณขตฺติยเวสฺสสงฺขาเตสุ สมฺปนฺนกุเลสุ. ฉสุ วา กามสคฺเคสูติ ฉสุ กามาวจรเทเวสุ.

มนาปทายีสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๖. ปุฺาภิสนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๕-๔๖. ปฺจเม อสงฺเขยฺโยติ อาฬฺหกคณนาย อสงฺเขยฺโย. โยชนวเสน ปนสฺส สงฺขา อตฺถิ เหฏฺา มหาปถวิยา อุปริ อากาเสน ปริสมนฺตโต จกฺกวาฬปพฺพเตน มชฺเฌ ตตฺถ ตตฺถ ิตเกหิ ทีปปพฺพตปริยนฺเตหิ ปริจฺฉินฺนตฺตา ชานนฺเตน โยชนโต สงฺขาตุํ สกฺกาติ กตฺวา. มหาสรีรมจฺฉกุมฺภีลยกฺขรกฺขสมหานาคทานวาทีนํ สวิฺาณกานํ พลวามุขปาตาลาทีนํ อวิฺาณกานํ เภรวารมฺมณานํ วเสน พหุเภรวํ. ปุถูติ พหู. สวนฺตีติ สนฺทมานา. อุปยนฺตีติ อุปคจฺฉนฺติ. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.

ปุฺาภิสนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗-๘. ธนสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๗-๔๘. สตฺตเม สทฺธาติ มคฺเคนาคตา สทฺธา. สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณนฺติ กลฺยาณสีลํ นาม อริยสาวกสฺส อริยกนฺตํ สีลํ วุจฺจติ. ตตฺถ กิฺจาปิ อริยสาวกสฺส เอกสีลมฺปิ อกนฺตํ นาม นตฺถิ, อิมสฺมึ ปนตฺเถ ภวนฺตเรปิ อปฺปหีนํ ปฺจสีลํ อธิปฺเปตํ. อฏฺมํ อุตฺตานเมว.

ธนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. โกสลสุตฺตวณฺณนา

๔๙. นวเม ปติตกฺขนฺโธติ สมฺมุขา กิฺจิ โอโลเกตุํ อสมตฺถตาย อโธมุโข. นิปฺปฏิภาโนติ สหธมฺมิกํ กิฺจิ วตฺตุํ อวิสหนโต นิปฺปฏิภาโน ปฏิภานรหิโต.

โกสลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. นารทสุตฺตวณฺณนา

๕๐. ทสเม อชฺโฌมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตาย ตณฺหามุจฺฉาย มุจฺฉิโต, มุจฺฉํ โมหํ ปมาทํ อาปนฺโน. เตนาห ‘‘คิลิตฺวา…เป… อติเรกมุจฺฉาย ตณฺหาย สมนฺนาคโต’’ติ. มหจฺจาติ มหติยา. ลิงฺควิปลฺลาเสน เจตํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘มหตา ราชานุภาเวนา’’ติ.

นารทสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

มุณฺฑราชวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ