📜
(๖) ๑. นีวรณวคฺโค
๑-๒. อาวรณสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๑-๕๒. ทุติยสฺส ¶ ¶ ปเม อาวรนฺตีติ อาวรณา, นีวารยนฺตีติ นีวรณา. เอตฺถ จ อาวรนฺตีติ กุสลธมฺมุปฺปตฺตึ อาทิโต ปริวาเรนฺติ. นีวารยนฺตีติ นิรวเสสโต วารยนฺตีติ อตฺโถ, ตสฺมา อาวรณวเสนาติ อาทิโต กุสลุปฺปตฺติวารณวเสน. นีวรณวเสนาติ นิรวเสสโต วารณวเสนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา ปฺจ นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนาปิ อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ วา อภิฺา อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. อุปจฺฉินฺทนํ ปาตนฺเจตฺถ ตาสํ ปฺานํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานเมว. อิติ มหคฺคตานุตฺตรปฺานํ เอกจฺจาย จ ปริตฺตปฺาย อนุปฺปตฺติเหตุภูตา นีวรณธมฺมา อิตราสํ สมตฺถตํ วิหนนฺติเยวาติ ปฺาย ทุพฺพลีกรณา วุตฺตา. ภาวนามนสิกาเรน วินา ปกติยา มนุสฺเสหิ นิพฺพตฺเตตพฺโพ ธมฺโมติ มนุสฺสธมฺโม, มนุสฺสตฺตภาวาวโห วา ธมฺโม มนุสฺสธมฺโม, อนุฬารํ ปริตฺตกุสลํ. ยํ อสติปิ พุทฺธุปฺปาเท วตฺตติ, ยฺจ สนฺธายาห ‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชตี’’ติ (ชา. ๑.๘.๗๕). อลํ อริยาย อริยภาวายาติ อลมริโย, อริยภาวาย สมตฺโถติ วุตฺตํ โหติ. าณทสฺสนเมว าณทสฺสนวิเสโส, อลมริโย จ โส าณทสฺสนวิเสโส จาติ อลมริยาณทสฺสนวิเสโส.
าณทสฺสนนฺติ จ ทิพฺพจกฺขุปิ วิปสฺสนาปิ มคฺโคปิ ผลมฺปิ ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ วุจฺจติ. ‘‘อปฺปมตฺโต สมาโน าณทสฺสนํ อาราเธตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๑๑) หิ เอตฺถ ทิพฺพจกฺขุ าณทสฺสนํ นาม. ‘‘าณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๔) เอตฺถ วิปสฺสนาาณํ. ‘‘อภพฺพา เต าณาย ทสฺสนาย อนุตฺตราย สมฺโพธายา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๙๖) เอตฺถ มคฺโค. ‘‘อยมฺโ ¶ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา อลมริยาณทสฺสนวิเสโส อธิคโต ผาสุวิหาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๒๘) เอตฺถ ¶ ผลํ. ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ, อกุปฺปา เม วิมุตฺติ, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๖; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอตฺถ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ‘‘าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ ‘สตฺตาหกาลกโต อาฬาโร กาลาโม’’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔; ๒.๓๔๐) เอตฺถ สพฺพฺุตฺาณํ. อิธ ปน โลกุตฺตรธมฺโม อธิปฺเปโต. เอตฺถ จ รูปายตนํ ชานาติ จกฺขุวิฺาณํ วิย ปสฺสติ จาติ าณทสฺสนํ, ทิพฺพจกฺขุ. สมฺมสนูปจาเร จ ธมฺมลกฺขณตฺตยฺจ ตถา ชานาติ ปสฺสติ จาติ าณทสฺสนํ, วิปสฺสนา. นิพฺพานํ จตฺตาริ วา สจฺจานิ อสมฺโมหปฺปฏิเวธโต ชานาติ ปสฺสติ จาติ าณทสฺสนํ, มคฺโค. ผลํ ปน นิพฺพานวเสเนว โยเชตพฺพํ. ปจฺจเวกฺขณา มคฺคาธิคตสฺส อตฺถสฺส สพฺพโส โชตนฏฺเน าณทสฺสนํ. สพฺพฺุตา อนาวรณตาย สมนฺตจกฺขุตาย จ าณทสฺสนํ. พฺยาทิณฺณกาโลติ ปริยาทินฺนกาโล. ทุติยํ อุตฺตานเมว.
อาวรณสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๔. ปธานิยงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๓-๕๔. ตติเย ปทหตีติ ปทหโน, ภาวนมนุยุตฺโต โยคี, ตสฺส ภาโว ภาวนานุโยโค ปทหนภาโว. ปธานมสฺส อตฺถีติ ปธานิโก, ก-การสฺส ย-การํ กตฺวา ‘‘ปธานิโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อภินีหารโต ปฏฺาย อาคตตฺตา’’ติ วุตฺตตฺตา ปจฺเจกโพธิสตฺตสาวกโพธิสตฺตานมฺปิ ปณิธานโต ปภุติ อาคตสทฺธา อาคมนสทฺทา เอว, อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ปน ‘‘สพฺพฺุโพธิสตฺตาน’’นฺติ วุตฺตํ. อธิคมโต สมุทาคตตฺตา อคฺคมคฺคผลสมฺปยุตฺตา จาปิ อธิคมสทฺธา นาม, ยา โสตาปนฺนสฺส องฺคภาเวน วุตฺตา. อจลภาเวนาติ ปฏิปกฺเขน อนธิภวนียตฺตา นิจฺจลภาเวน. โอกปฺปนนฺติ โอกฺกนฺทิตฺวา อธิมุจฺจนํ, ปสาทุปฺปตฺติยา ปสาทนียวตฺถุสฺมึ ปสีทนเมว. สุปฺปฏิวิทฺธนฺติ สุฏฺุ ปฏิวิทฺธํ. ยถา เตน ปฏิวิทฺเธน สพฺพฺุตฺาณํ หตฺถคตํ อโหสิ, ตถา ปฏิวิทฺธํ. ยสฺส พุทฺธสุพุทฺธตาย สทฺธา อจลา อสมฺปเวธิ, ตสฺส ธมฺมสุธมฺมตาย สงฺฆสุปฺปฏิปนฺนตาย ¶ เตน ปฏิเวเธน สทฺธา น ตถาติ อฏฺานเมตํ อนวกาโส. เตนาห ภควา – ‘‘โย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺโน ธมฺเม ปสนฺโน สงฺเฆ ปสนฺโน’’ติอาทิ. ปธานวีริยํ อิชฺฌติ ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ สกฺกจฺจํ ปทหนโต.
อปฺป-สทฺโท ¶ อภาวตฺโถ ‘‘อปฺปสทฺทสฺส…เป… โข ปนา’’ติอาทีสุ วิยาติ อาห ‘‘อโรโค’’ติ. สมเวปากินิยาติ ยถาภุตฺตมาหารํ สมากาเรเนว ปจนสีลาย. ทฬฺหํ กตฺวา ปจนฺตี หิ คหณี โฆรภาเวน ปิตฺตวิการาทิวเสน โรคํ ชเนติ, สิถิลํ กตฺวา ปจนฺตี มนฺทภาเวน วาตวิการาทิวเสน เตนาห ‘‘นาติสีตาย นาจฺจุณฺหายา’’ติ. คหณิเตชสฺส มนฺทปฏุตาวเสน สตฺตานํ ยถากฺกมํ สีตุณฺหสหตาติ อาห ‘‘อติสีตลคฺคหณิโก’’ติอาทิ. ยาถาวโต อจฺจยเทสนา อตฺตโน อาวิกรณํ นามาติ อาห ‘‘ยถาภูตํ อตฺตโน อคุณํ ปกาเสตา’’ติ. อุทยตฺถคามินิยาติ สงฺขารานํ อุทยฺจ วยฺจ ปฏิวิชฺฌนฺติยาติ อยเมตฺถ อตฺโถติ อาห ‘‘อุทยฺจา’’ติอาทิ. ปริสุทฺธายาติ นิรุปกฺกิเลสาย. นิพฺพิชฺฌิตุํ สมตฺถายาติ ตทงฺควเสน สวิเสสํ ปชหิตุํ สมตฺถาย. ตสฺส ทุกฺขสฺส ขยคามินิยาติ ยํ ทุกฺขํ อิมสฺมึ าเณ อนธิคเต ปวตฺติรหํ, อธิคเต น ปวตฺติ, ตํ สนฺธาย วทติ. ตถาเหส โยคาวจโร ‘‘จูฬโสตาปนฺโน’’ติ วุจฺจติ. จตุตฺถํ อุตฺตานเมว.
ปธานิยงฺคสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. มาตาปุตฺตสุตฺตวณฺณนา
๕๕. ปฺจเม วิสฺสาโสติ วิสจฺฉายสนฺตาโน ภาโว. โอตาโรติ ตตฺถ จิตฺตสฺส อนุปฺปเวโส. คเหตฺวาติ อตฺตโน เอว โอกาสํ คเหตฺวา. เขเปตฺวาติ กุสลวารํ เขเปตฺวา.
ฆฏฺเฏยฺยาติ อกฺกมนาทิวเสน พาเธยฺย. ตีหิ ปริฺาหีติ าตตีรณปฺปหานสงฺขาตาหิ ตีหิ ปริฺาหิ. นตฺถิ เอเตสํ กุโตจิ ภยนฺติ อกุโตภยา, นิพฺภยาติ อตฺโถ. จตุนฺนํ โอฆานํ, สํสารมโหฆสฺเสว วา ปารํ ปริยนฺตํ คตา. เตนาห ‘‘ปารํ วุจฺจติ นิพฺพาน’’นฺติอาทิ.
มาตาปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อุปชฺฌายสุตฺตวณฺณนา
๕๖. ฉฏฺเ ¶ มธุรกภาโว นาม สรีรสฺส ถมฺภิตตฺตํ, ตํ ปน ครุภาวปุพฺพกนฺติ อาห ‘‘สฺชาตครุภาโว’’ติ ¶ . น ปกฺขายนฺตีติ นปฺปกาเสนฺติ, นานาการณโต น อุปฏฺหนฺติ. เตนาห ‘‘จตสฺโส ทิสา จ อนุทิสา จ มยฺหํ น อุปฏฺหนฺตี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
อุปชฺฌายสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อภิณฺหปจฺจเวกฺขิตพฺพฏฺานสุตฺตวณฺณนา
๕๗. สตฺตเม ชราธมฺโมติ ธมฺม-สทฺโท ‘‘อสมฺโมสธมฺโม นิพฺพาน’’นฺติอาทีสุ (สุ. นิ. ๗๖๓) วิย ปกติปริยาโย, ตสฺมา ชราปกติโก ชิณฺณสภาโวติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ชราสภาโว’’ติอาทิ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. กมฺมุนา ทาตพฺพํ อาทิยตีติ กมฺมทายาโท, อตฺตนา ยถูปจิตกมฺมผลภาคีติ อตฺโถ. ตํ ปน ทายชฺชํ การณูปจาเรน วทนฺโต ‘‘กมฺมํ มยฺหํ ทายชฺชํ สนฺตกนฺติ อตฺโถ’’ติ อาห ยถา ‘‘กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ, เอวมิทํ ปฺุํ วฑฺฒตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๘๐). โยนีหิ ผลํ สภาวโต ภินฺนมฺปิ อภินฺนํ วิย มิสฺสิตํ โหติ. เตนาห ‘‘กมฺมํ มยฺหํ โยนิ การณ’’นฺติ. มมตฺตวเสน พชฺฌนฺตีติ พนฺธู, าติ สาโลหิโต จ, กมฺมํ ปน เอกนฺตสมฺพนฺธวาติ อาห ‘‘กมฺมํ มยฺหํ พนฺธู’’ติ. ปติฏฺาติ อวสฺสโย. กมฺมสทิโส หิ สตฺตานํ อวสฺสโย นตฺถิ.
โยพฺพนํ อารพฺภ อุปฺปนฺนมโทติ ‘‘มหลฺลกกาเล ปฺุํ กริสฺสาม, ทหรมฺห ตาวา’’ติ โยพฺพนํ อปสฺสาย มานกรณํ. ‘‘อหํ นิโรโค สฏฺิ วา สตฺตติ วา วสฺสานิ อติกฺกนฺตานิ, น เม หรีตกขณฺฑมฺปิ ขาทิตพฺพํ, อิเม ปนฺเ ‘อสุกํ โน านํ รุชฺชติ, เภสชฺชํ ขาทามา’ติ วิจรนฺติ, โก อฺโ มยา สทิโส นิโรโค นามา’’ติ เอวํ มานกรณํ อาโรคฺยมโท. สพฺเพสมฺปิ ชีวิตํ นาม ปภงฺคุรํ ทุกฺขานุพนฺธฺจ, ตทุภยํ อโนโลเกตฺวา ปพนฺธฏฺิตึ ปจฺจยสุลภตฺจ นิสฺสาย ‘‘จิรํ ชีวึ, จิรํ ชีวามิ, จิรํ ชีวิสฺสามิ, สุขํ ชีวึ, สุขํ ชีวามิ, สุขํ ชีวิสฺสามี’’ติ เอวํ มานกรณํ ชีวิตมโท.
อุปธิรหิตนฺติ ¶ กามูปธิรหิตํ. จตฺตาโร หิ อุปธี – กามูปธิ, ขนฺธูปธิ, กิเลสูปธิ, อภิสงฺขารูปธีติ. กามาปิ ‘‘ยํ ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๖) เอวํ วุตฺตสฺส สุขสฺส อธิฏฺานภาวโต ‘‘อุปธิยติ เอตฺถ สุข’’นฺติ อิมินา วจนตฺเถน ‘‘อุปธี’’ติ วุจฺจติ, ขนฺธาปิ ขนฺธมูลกสฺส ทุกฺขสฺส ¶ อธิฏฺานภาวโต, กิเลสาปิ อปายทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต, อภิสงฺขาราปิ ภวทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
อภิณฺหปจฺจเวกฺขิตพฺพฏฺานสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘-๑๐. ลิจฺฉวิกุมารกสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๘-๖๐. อฏฺเม สาปเตยฺยนฺติ เอตฺถ สํ วุจฺจติ ธนํ, ตสฺส ปตีติ สปติ, ธนสามิโก. ตสฺส หิตาวหตฺตา สาปเตยฺยํ, ทฺรพฺยํ, ธนนฺติ อตฺโถ. อตฺตโน รุจิวเสน คามกิจฺจํ เนตีติ คามนิโย, คามนิโยเยว คามณิโก.
อนฺวาย อุปนิสฺสาย ชีวนสีลา อนุชีวิโนติ อาห ‘‘เย จ เอตํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺตี’’ติ. เอกํ มหากุลํ นิสฺสาย ปณฺณาสมฺปิ สฏฺิปิ กุลานิ ชีวนฺติ, เต มนุสฺเส สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. นวมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ลิจฺฉวิกุมารกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
นีวรณวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.