📜

๓. สตฺตาวาสวคฺโค

๑. ติานสุตฺตวณฺณนา

๒๑. ตติยสฺส ปเม อุตฺตรกุรุกาติ อุตฺตรกุรุวาสิโน. อธิคฺคณฺหนฺตีติ อธิภวนฺติ, อธิกา วิสิฏฺา เชฏฺกา โหนฺติ. อมมาติ นิตฺตณฺหา. อฏฺกถายํ ปน นิทฺทุกฺขาติ วุตฺตํ. อปริคฺคหาติ ‘‘อิทํ มยฺห’’นฺติ ปริคฺคหรหิตา. นิยตายุกาติ เตสฺหิ นิพทฺธํ อายุ วสฺสสหสฺสเมว, คติปิ นิพทฺธา, ตโต จวิตฺวา สคฺเคเยว นิพฺพตฺตนฺติ. สติมนฺโตติ เทวตานฺหิ เอกนฺตสุขิตาย สติ ถิรา น โหติ, เนรยิกานํ เอกนฺตทุกฺขิตาย. อิเมสํ ปน โวกิณฺณสุขทุกฺขตฺตา สติ ถิรา โหติ. อิธ พฺรหฺมจริยวาโสติ ชมฺพุทีเป พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานํ อุปฺปชฺชนโต อฏฺงฺคิกมคฺคพฺรหฺมจริยวาโสปิ อิเธว โหติ.

๒. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตวณฺณนา

๒๒. ทุติเย ชวสมฺปนฺโนติ ปทชเวน สมฺปนฺโน. น วณฺณสมฺปนฺโนติ น สรีรวณฺเณน สมฺปนฺโน. ปุริสขฬุงฺเกสุ ชวสมฺปนฺโนติ าณชเวน สมฺปนฺโน. น วณฺณสมฺปนฺโนติ น คุณวณฺเณน สมฺปนฺโน. เสสํ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพํ. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ ติกนิปาตวณฺณนายํ วุตฺตเมว.

๓. ตณฺหามูลกสุตฺตวณฺณนา

๒๓. ตติเย ตณฺหํ ปฏิจฺจาติ ทฺเว ตณฺหา เอสนตณฺหา เอสิตตณฺหา จ. ยาย ตณฺหาย อชปถสงฺกุปถาทีนิ ปฏิปชฺชิตฺวา โภเค เอสติ คเวสติ, อยํ เอสนตณฺหา นาม. ยา เตสุ เอสิเตสุ คเวสิเตสุ ปฏิลทฺเธสุ ตณฺหา, อยํ เอสิตตณฺหา นาม. อิธ ปน เอสนตณฺหา ทฏฺพฺพา. ปริเยสนาติ รูปาทิอารมฺมณปริเยสนา. สา หิ เอสนตณฺหาย สติ โหติ. ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฏิลาโภ. โส หิ ปริเยสนาย สติ โหติ.

วินิจฺฉโย ปน าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สุขวินิจฺฉยํ ชฺา, สุขวินิจฺฉยํ ตฺวา อชฺฌตฺตํ สุขมนุยุฺเชยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๒๓) อยํ าณวินิจฺฉโย . ‘‘วินิจฺฉยาติ ทฺเว วินิจฺฉยา ตณฺหาวินิจฺฉโย จ ทิฏฺิวินิจฺฉโย จา’’ติ (มหานิ. ๑๐๒) เอวํ อาคตานิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ ตณฺหาวินิจฺฉโย. ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิโย ทิฏฺิวินิจฺฉโย. ‘‘ฉนฺโท โข, เทวานมินฺท, วิตกฺกนิทาโน’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕๘) อิมสฺมึ ปน สุตฺเต อิธ วินิจฺฉโยติ วุตฺโต วิตกฺโกเยว อาคโต. ลาภํ ลภิตฺวา หิ อิฏฺานิฏฺํ สุนฺทราสุนฺทรํ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉินนฺติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺธารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภุฺชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ. เตน วุตฺตํ – ลาภํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโยติ.

ฉนฺทราโคติ เอวํ อกุสลวิตกฺเกน วิตกฺกิเต วตฺถุสฺมึ ทุพฺพลราโค จ พลวราโค จ อุปฺปชฺชติ. อิทฺหิ อิธ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราคสฺสาธิวจนํ. อชฺโฌสานนฺติ อหํ มมนฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณํ. มจฺฉริยนฺติ ปเรหิ สาธารณภาวสฺส อสหนตา. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ – ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺส อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ. อารกฺโขติ ทฺวารปิทหนมฺชูสาโคปนาทิวเสน สุฏฺุ รกฺขนํ. อธิกโรตีติ อธิกรณํ, การณสฺเสตํ นามํ. อารกฺขาธิกรณนฺติ ภาวนปุํสกํ, อารกฺขาเหตูติ อตฺโถ. ทณฺฑาทานาทีสุ ปรนิเสธนตฺถํ ทณฺฑสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. เอกโต ธาราทิโน สตฺถสฺส อาทานํ สตฺถาทานํ. กลโหติ กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ปุริโม วิคฺคโห, ปจฺฉิโม วิวาโท (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๓). ตุวํตุวนฺติ อคารววเสน ตุวํตุวํวจนํ.

๔. สตฺตาวาสสุตฺตวณฺณนา

๒๔. จตุตฺเถ สตฺตาวาสาติ สตฺตานํ อาวาสา, วสนฏฺานานีติ อตฺโถ. ตตฺถ สุทฺธาวาสาปิ สตฺตาวาโสว, อสพฺพกาลิกตฺตา ปน น คหิตา. สุทฺธาวาสา หิ พุทฺธานํ ขนฺธาวารฏฺานสทิสา, อสงฺเขยฺยกปฺเป พุทฺเธสุ อนิพฺพตฺเตสุ ตํ านํ สุฺํ โหติ. อิติ อสพฺพกาลิกตฺตา น คหิตา. เสสเมตฺถ วิฺาณฏฺิตีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๕. ปฺาสุตฺตวณฺณนา

๒๕. ปฺจเม ยโตติ ยสฺมึ กาเล. สุปริจิตํ โหตีติ สุฏฺุ อุปจิตํ สุวฑฺฒิตํ โหติ. กลฺลํ วจนายาติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. วีตราคนฺติ วิคตราคํ. อสราคธมฺมนฺติ น สรชฺชนสภาวํ. อนาวตฺติธมฺมนฺติ อนาวตฺตนสภาวํ อนิพฺพตฺตารหํ, อปฺปฏิสนฺธิกภาเวเนว นิรุชฺฌนสภาวนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต ขีณาสโวว กถิโต.

๖. สิลายูปสุตฺตวณฺณนา

๒๖. ฉฏฺเ จนฺทิกาปุตฺโตติ มาตุ นามวเสน ปฺาโต จนฺทิกาปุตฺตตฺเถโร. เจตสา จิตฺตํ โหตีติ จิตฺตวารปริยาเยน จิตฺตวารปริยาโย จิโต วฑฺฒิโต โหติ. เจตสา จิตฺตํ สุปริจิตนฺติ จิตฺตวารปริยาเยน จิตฺตวารปริยาโย อุปรูปริ สุจิโต สุวฑฺฒิโต โหติ. เนวสฺส จิตฺตํ ปริยาทิยนฺตีติ ตานิ อารมฺมณานิ ตสฺส ขีณาสวสฺส จิตฺตุปฺปาทํ คเหตฺวา เขเปตฺวา าตุํ น สกฺโกนฺติ. อมิสฺสีกตนฺติ ตานิ อารมฺมณานิ อนลฺลีนตฺตา เตหิ อมิสฺสีกตํ. อาเนฺชปฺปตฺตนฺติ อนิฺชนภาวํ นิปฺผนฺทนภาวํ ปตฺตํ.

สิลายูโปติ สิลาถมฺโภ. โสฬสกุกฺกุโกติ ทีฆโต โสฬสหตฺโถ. เหฏฺาเนมงฺคมาติ อาวาฏสฺส เหฏฺาคตา. อุปริ เนมสฺสาติ อุปริ อาวาฏสฺส. สุนิขาตตฺตาติ อยมุสเลหิ โกฏฺเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา สุฏฺุ นิขาตตฺตา. เอวเมว โขติ เอตฺถ สิลายูโป วิย ขีณาสโว ทฏฺพฺโพ, มหาวาตา วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชนกา กิเลสา, จตูหิ ทิสาหิ อาคนฺตฺวา วาตานํ สิลายูปํ จาเลตุํ อสมตฺถภาโว วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ อุปฺปชฺชนกกิเลสานํ ขีณาสวสฺส จิตฺตํ จาเลตุํ อสมตฺถภาโว เวทิตพฺโพ. อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต ขีณาสโวว กถิโต.

๗-๘. เวรสุตฺตทฺวยวณฺณนา

๒๗-๒๘. สตฺตเม ภยํ เวรํ ปสวตีติ จิตฺตุตฺราสภยฺจ ปุคฺคลเวรฺจ ปฏิลภติ. เจตสิกนฺติ จิตฺตนิสฺสิตํ. ทุกฺขนฺติ กายวตฺถุกํ. โทมนสฺสนฺติ ปฏิฆสมฺปยุตฺตทุกฺขํ. อิมสฺมึ สุตฺเต โสตาปตฺติมคฺโค กถิโต. อฏฺมํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส กถิตํ, อิมสฺมึ ปน โสตาปนฺโนว กถิโตติ วุตฺตํ.

๙. อาฆาตวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

๒๙. นวเม อาฆาตวตฺถูนีติ อาฆาตการณานิ. อาฆาตํ พนฺธตีติ โกปํ พนฺธติ อุปฺปาเทติ.

๑๐-๑๑. อาฆาตปฏิวินยสุตฺตาทิวณฺณนา

๓๐-๓๑. ทสเม อาฆาตปฏิวินยาติ อาฆาตสฺส ปฏิวินยการณานิ. ตํกุเตตฺถ ลพฺภาติ ‘‘ตํ อนตฺถจรณํ มา อโหสี’’ติ เอตสฺมึ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน สกฺกา ลทฺธุํ, ‘‘ปโร นาม ปรสฺส อตฺตโน จิตฺตรุจิยา อนตฺถํ กโรตี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา อาฆาตํ ปฏิวิเนติ. อถ วา สจาหํ โกปํ กเรยฺยํ, ตํ โกปกรณํ เอตฺถ ปุคฺคเล กุโต ลพฺภา, เกน การเณน ลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. กุโต ลาภาติปิ ปาโ. สจาหํ เอตฺถ โกปํ กเรยฺยํ, ตสฺมึ เม โกปกรเณ กุโต ลาภา ลาภา, นาม เก สิยุนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิฺจ อตฺเถ นฺติ นิปาตมตฺตเมว โหติ. เอกาทสเม อนุปุพฺพนิโรธาติ อนุปฏิปาฏินิโรธา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สตฺตาวาสวคฺโค ตติโย.