📜
๔. มหาวคฺโค
๑-๒. อนุปุพฺพวิหารสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๒-๓๓. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อนุปุพฺพวิหาราติ อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพวิหารา. ทุติเย ยตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺตีติ ยสฺมึ าเน กามา วูปสมฺมนฺติ. นิโรเธตฺวาติ อปฺปฏิวตฺเต กตฺวา. นิจฺฉาตาติ ตณฺหาทิฏฺิจฺฉาตานํ อภาเวน นิจฺฉาตา. นิพฺพุตาติ อตฺตปริตาปนกิเลสานํ อภาเวน นิพฺพุตา. ติณฺณาติ กามโต ติณฺณา. ปารํคตาติ กาเม ปารํ คตา. ตทงฺเคนาติ เตน ฌานงฺเคน. เอตฺถ ¶ กามา นิรุชฺฌนฺตีติ เอตฺถ ปมชฺฌาเน ¶ กามา นิรุชฺฌนฺติ. เต จาติ เย ปมชฺฌานํ สมาปชฺชนฺติ, เต กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ นาม. ปฺชลิโกติ ปคฺคหิตอฺชลิโก หุตฺวา. ปยิรุปาเสยฺยาติ อุปฏฺาเปยฺย. อิมินา อุปาเยน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๓. นิพฺพานสุขสุตฺตวณฺณนา
๓๔. ตติเย อุทายีติ ลาฬุทายิตฺเถโร. เอตเทว ขฺเวตฺถาติ เอตเทว โข เอตฺถ. กามสหคตาติ กามนิสฺสิตา. สมุทาจรนฺตีติ มโนทฺวาเร สฺจรนฺติ. อาพาธายาติ อาพาธนาย ปีฬนาย. ปริยาเยนาติ การเณน. เอวํ สพฺพวาเรสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ สุตฺเต อเวทยิตสุขํ นาม กถิตํ.
๔. คาวีอุปมาสุตฺตวณฺณนา
๓๕. จตุตฺเถ ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพตจารินี. น สุปฺปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวาติ ยถา สุปฺปติฏฺิตา โหติ, เอวํ น ปติฏฺาเปตฺวา. ตํ นิมิตฺตนฺติ ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ นิมิตฺตํ. น สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาตีติ ยถา สุฏฺุ อธิฏฺิตํ โหติ, น เอวํ อธิฏฺาติ. อนภิหึสมาโนติ อโปเถนฺโต อวิเหเนฺโต. มุทุ จิตฺตํ โหติ กมฺมฺนฺติ ยถา วิปสฺสนาจิตฺตํ โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ มุทุ กมฺมกฺขมํ กมฺมโยคฺคํ ¶ โหติ, เอวมสฺส อภิฺาปาทกํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ มุทุ โหติ กมฺมฺํ ¶ . อปฺปมาโณ สมาธีติ จตุพฺรหฺมวิหารสมาธิปิ มคฺคผลสมาธิปิ อปฺปมาโณ สมาธิ นาม, อิธ ปน ‘‘อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติ อิมินา ปริยาเยน สุปฺปคุณสมาธิ อปฺปมาณสมาธีติ ทฏฺพฺโพ. โส อปฺปมาเณน สมาธินา สุภาวิเตนาติ อิมสฺมึ าเน อยํ ภิกฺขุ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต. อิทานิ ขีณาสวสฺส อภิฺาปฏิปาฏึ ทสฺเสนฺโต ยสฺส ยสฺส จาติอาทิมาห.
๕. ฌานสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ปฺจเม อาสวานํ ขยนฺติ อรหตฺตํ. ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตนฺติ ตสฺมึ ปมชฺฌานกฺขเณ วตฺถุวเสน วา จิตฺตสมุฏฺานิกาทิวเสน วา ยํ รูปํ นาม ปวตฺตติ. เวทนาคตาทีนิ สมฺปยุตฺตเวทนาทีนํ วเสน เวทิตพฺพานิ ¶ . เต ธมฺเมติ เต รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธธมฺเม. อนิจฺจโตติอาทีสุ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต, ปฏิปีฬนากาเรน ทุกฺขโต, รุชฺชนากาเรน โรคโต, อนฺโตทุสฺสนฏฺเน คณฺฑโต, อนุปวิฏฺฏฺเน อนุกนฺตนฏฺเน จ สลฺลโต, ทุกฺขฏฺเน อฆโต, อาพาธนฏฺเน อาพาธโต, อสกฏฺเน ปรโต, ปลุชฺชนฏฺเน ปโลกโต, อสฺสามิกฏฺเน สฺุโต, อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตโต. สมนุปสฺสตีติ พลววิปสฺสนาปฺาย ปสฺสติ.
เตหิ ธมฺเมหีติ เตหิ ปฺจกฺขนฺธธมฺเมหิ. ปฏิวาเปตีติ นิพฺพานวเสน นิวตฺเตติ. อมตาย ¶ ธาตุยาติ นิพฺพานธาตุยา. จิตฺตํ อุปสํหรตีติ าเณน อานิสํสํ ทิสฺวา โอตาเรติ. สนฺตนฺติ ปจฺจนีกสนฺตตาย สนฺตํ. ปณีตนฺติ อตปฺปกํ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ โส ตสฺมึ ปมชฺฌาเน ิโต ตํ พลววิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. อปโร นโย – โส เตหิ ธมฺเมหีติ ยสฺมา อนิจฺจโตติอาทีสุ อนิจฺจโต ปโลกโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ อนิจฺจลกฺขณํ กถิตํ, ทุกฺขโตติอาทีหิ ฉหิ ทุกฺขลกฺขณํ, ปรโต, สฺุโต, อนตฺตโตติ ตีหิ อนตฺตลกฺขณํ. ตสฺมา โส เตหิ เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ทิฏฺเหิ อนฺโตสมาปตฺติยํ ปฺจกฺขนฺธธมฺเมหิ. จิตฺตํ ปฏิวาเปตีติ จิตฺตํ ปฏิสํหรติ โมเจติ อปเนติ. อุปสํหรตีติ วิปสฺสนาจิตฺตํ ตาว สวนวเสน ถุติวเสน ปริยตฺติวเสน ปฺตฺติวเสน จ สนฺตํ นิพฺพานนฺติ เอวํ อสงฺขตาย อมตาย ธาตุยา อุปสํหรติ. มคฺคจิตฺตํ นิพฺพานํ ¶ อารมฺมณกรณวเสเนว ‘‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีต’’นฺติ น เอวํ วทติ. อิมินา ปนากาเรน ตํ ปฏิวิชฺฌนฺโต ตตฺถ จิตฺตํ อุปสํหรตีติ อตฺโถ.
โส ตตฺถ ิโตติ ตสฺสา ติลกฺขณารมฺมณาย วิปสฺสนาย ิโต. อาสวานํ ขยํ ปาปุณาตีติ อนุกฺกเมน จตฺตาโร มคฺเค ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ. เตเนว ธมฺมราเคนาติ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ฉนฺทราเคน. ธมฺมนนฺทิยาติ ¶ ตสฺเสว เววจนํ. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺพโส ฉนฺทราคํ ปริยาทาตุํ สกฺโกนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ.
ติณปุริสรูปเก ¶ วาติ ติณโปตฺถกรูเป วา. ทูเร กณฺเฑ ปาเตตีติ ทูเรปาตี. อวิราธิตํ วิชฺฌตีติ อกฺขณเวธี. ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตนฺติ อิธ รูปํ น คหิตํ. กสฺมา? สมติกฺกนฺตตฺตา. อยฺหิ เหฏฺา รูปาวจรชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา รูปํ อติกฺกมิตฺวา อรูปาวจรสมาปตฺตึ สมาปนฺโนติ สมถวเสนาปิ อเนน รูปํ สมติกฺกนฺตํ, เหฏฺา รูปํ สมฺมสิตฺวา ตํ อติกฺกมฺม อิทานิ อรูปํ สมฺมสตีติ วิปสฺสนาวเสนาปิ อเนน รูปํ อติกฺกนฺตํ. อารุปฺเป ปน สพฺพโสปิ รูปํ นตฺถีติ ตํ สนฺธายปิ รูปํ น คหิตํ. อถ เนวสฺานาสฺายตนํ กสฺมา น คหิตนฺติ? สุขุมตฺตา. ตสฺมิฺหิ จตฺตาโรปิ อรูปกฺขนฺธา สุขุมา น สมฺมสนูปคา. เตเนวาห – ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ยาวตา สฺาสมาปตฺติ ตาวตา อฺาปฏิเวโธ’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวตา สจิตฺตกสมาปตฺติ นาม อตฺถิ, ตาวตา โอฬาริเก ธมฺเม สมฺมสโต อฺาปฏิเวโธ โหติ, อรหตฺตํ ¶ สมฺปชฺชติ. เนวสฺานาสฺายตนํ ปน สุขุมตฺตา สฺาสมาปตฺตีติ น วุจฺจติ. ฌายีเหเตติ ฌายีหิ ฌานาภิรเตหิ เอตานิ. วุฏฺหิตฺวาติ ตโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย. สมกฺขาตพฺพานีติ สมฺมา อกฺขาตพฺพานิ, ‘‘สนฺตานิ ปณีตานี’’ติ เอวํ เกวลํ อาจิกฺขิตพฺพานิ โถเมตพฺพานิ วณฺเณตพฺพานีติ.
๖. อานนฺทสุตฺตวณฺณนา
๓๗. ฉฏฺเ สมฺพาเธติ ปฺจกามคุณสมฺพาเธ. โอกาสาธิคโมติ โอกาสสฺส อธิคโม. สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ สตฺตานํ วิสุทฺธึ ปาปนตฺถาย. สมติกฺกมายาติ สมติกฺกมนตฺถาย. อตฺถงฺคมายาติ อตฺถํ คมนตฺถาย. ายสฺส อธิคมายาติ สหวิปสฺสนกสฺส มคฺคสฺส อธิคมนตฺถาย ¶ . นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายาติ อปจฺจยนิพฺพานสฺส ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. ตเทว นาม จกฺขุํ ภวิสฺสตีติ ตฺเว ปสาทจกฺขุ อสมฺภินฺนํ ภวิสฺสติ. เต รูปาติ ตเทว รูปารมฺมณํ อาปาถํ อาคมิสฺสติ. ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสตีติ ตฺจ รูปายตนํ น ชานิสฺสติ. เสเสสุปิ ¶ เอเสว นโย.
อุทายีติ กาฬุทายิตฺเถโร. สฺีเมว นุ โขติ สจิตฺตโกเยว นุ โข. มกาโร ปทสนฺธิมตฺตํ. กึสฺีติ กตรสฺาย สฺี หุตฺวา. สพฺพโส ¶ รูปสฺานนฺติ อิทํ กสฺมา คณฺหิ, กึ ปมชฺฌานาทิสมงฺคิโน รูปาทิปฏิสํเวทนา โหตีติ? น โหติ, ยาว ปน กสิณรูปํ อารมฺมณํ โหติ, ตาว รูปํ สมติกฺกนฺตํ นาม น โหติ. อสมติกฺกนฺตตฺตา ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺขิสฺสติ. สมติกฺกนฺตตฺตา ปน ตํ นตฺถิ นาม โหติ, นตฺถิตาย ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ อิทเมว คณฺหิ.
ชฏิลวาสิกาติ ชฏิลนครวาสินี. น จาภินโตติอาทีสุ ราควเสน น อภินโต, โทสวเสน น อปนโต. สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน กิเลเส นิคฺคณฺหิตฺวา วาเรตฺวา ิโต, กิเลสานํ ปน ฉินฺนนฺเต อุปฺปนฺโนติ น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. วิมุตฺตตฺตา ิโตติ กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตาเยว ิโต. ิตตฺตา สนฺตุสิโตติ ิตตฺตาเยว สนฺตุฏฺโ นาม ชาโต. สนฺตุสิตตฺตา ¶ โน ปริตสฺสตีติ สนฺตุฏฺตฺตาเยว ปริตาสํ นาปชฺชติ. อยํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ กึ ผโลติ อิมินา อยํ เถรี ตาลผลฺเว คเหตฺวา ‘‘อิทํ ผลํ กึ ผลํ นามา’’ติ ปุจฺฉมานา วิย อรหตฺตผลสมาธึ คเหตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ กึ ผโล วุตฺโต ภควตา’’ติ ปุจฺฉติ. อฺาผโล วุตฺโตติ อฺา วุจฺจติ อรหตฺตํ, อรหตฺตผลสมาธิ นาเมโส วุตฺโต ภควตาติ อตฺโถ. เอวํสฺีปีติ อิมาย อรหตฺตผลสฺาย สฺีปิ ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตีติ เอวํ อิมสฺมึ สุตฺเต อรหตฺตผลสมาธิ กถิโตติ.
๗. โลกายติกสุตฺตวณฺณนา
๓๘. สตฺตเม โลกายติกาติ โลกายตวาทกา. สตตนฺติ สทา. สมิตนฺติ นิรนฺตรํ. ติฏฺเตตนฺติ ติฏฺตุ เอตํ, มา เอตํ ปฏฺเปถ, โก โว เอเตน อตฺโถ. ธมฺมํ โว พฺราหฺมณา เทเสสฺสามีติ อหํ โว จตุสจฺจธมฺมํ เทเสสฺสามิ.
ทฬฺหธมฺโมติ ¶ ทฬฺหธนุํ คเหตฺวา ิโต. ธนุคฺคโหติ อิสฺสาโส. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ. ทฺวิสหสฺสถามํ นาม ยสฺส อาโรปิตสฺส ¶ ชิยาพทฺโธ ¶ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปฺปมาณา อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. สิกฺขิโตติ ทส ทฺวาทส วสฺสานิ อาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺโป. กตหตฺโถติ เอโก สิปฺปเมว อุคฺคณฺหาติ, กตหตฺโถ น โหติ อยํ ปน กตหตฺโถ จิณฺณวสิภาโว. กตูปาสโนติ ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺโป. ลหุเกน อสเนนาติ อนฺโต สุสิรํ กตฺวา ตูลาทีหิ ปูเรตฺวา กตลกฺขปริกมฺเมน สลฺลหุกกณฺเฑน. เอวํ กตฺหิ เอกอุสภคามี ทฺเว อุสภานิปิ คจฺฉติ…เป… อฏฺุสภคามี โสฬส อุสภานิปิ คจฺฉติ. อปฺปกสิเรนาติ นิทฺทุกฺเขน. อติปาเตยฺยาติ อติกฺกเมยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา โส ธนุคฺคโห ตํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ ฉายํ สีฆเมว อติกฺกาเมติ, เอวํ สกลจกฺกวาฬํ สีฆํ สีฆํ อติกฺกมนสมตฺเถน ชเวน สมนฺนาคโต. สนฺธาวนิกายาติ ปทสา ธาวเนน. เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติ.
๘. เทวาสุรสงฺคามสุตฺตวณฺณนา
๓๙. อฏฺเม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสีติ ปจฺจุปฏฺิโต อโหสิ. สงฺคาเมยฺยามาติ สงฺคามํ กเรยฺยาม ยุชฺเฌยฺยาม. อปยึสุเยวาติ ปลายึสุเยว. อุตฺตเรนาภิมุขาติ อุตฺตรามุขา หุตฺวา. อภิยนฺเต วาติ ¶ อนุพนฺธนฺติเยว. ภีรุตฺตานคเตนาติ ภีรุตฺตานํ ภยนิวารณํ ปติฏฺานํ คเตน. อกรณียาติ ยุทฺเธน กิฺจิ อกตฺตพฺพา. กสฺมา ปน เนสํ สงฺคาโม โหตีติ? อสุรา หิ ปุพฺเพ ตาวตึสวาสิโน, เต จิตฺตปาฏลิยา ปุปฺผนกาเล ทิพฺพปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ อนุสฺสรนฺติ. ตโต อุปฺปนฺนโกธา ‘‘คณฺหถ เทเว’’ติ สมฺมุขสมฺมุขฏฺาเนเนว สิเนรุํ อภิรุหนฺติ, เทวาปิ นิกฺขมนฺติ. เตสํ โคปาลกทารกานํ อฺมฺํ ทณฺฑเกหิ ปหรณสทิสํ ยุทฺธํ โหติ. สกฺโก เทวราชา เหฏฺา ปฺจสุ าเนสุ อารกฺขํ เปตฺวา อุปริ เทวปุรํ ปริวาเรตฺวา อตฺตสทิสา วชิรหตฺถา ปฏิมา ปาเปสิ. อสุรา เหฏฺา ปฺจ านานิ ปฏิพาหิตฺวา อภิรุฬฺหา อินฺทปฏิมาโย ทิสฺวา นิวตฺติตฺวา อสุรปุรเมว คจฺฉนฺติ.
ทกฺขิเณนาภิมุขาติ ทกฺขิณามุขา หุตฺวา. อปทํ วธิตฺวาติ นิปฺปทํ นิรวเสสํ วธิตฺวา. อทสฺสนํ คโตติ มาโรปิ วฏฺฏปาทกํ กตฺวา รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ ¶ สมาปนฺนสฺส จิตฺตํ ชานาติ, ตเทว วิปสฺสนาปาทกํ กตฺวา สมาปนฺนสฺส จิตฺตํ ชานาติ. อรูปาวจรสมาปตฺติ ปน ¶ วฏฺฏปาทา วา โหตุ วิปสฺสนาปาทา ¶ วา, ตํ สมาปนฺนสฺส มาโร จิตฺตํ น ชานาติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต’’ติ.
๙. นาคสุตฺตวณฺณนา
๔๐. นวเม อารฺกสฺสาติ อรฺวาสิโน. โคจรปสุตสฺสาติ โคจรคฺคหณตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส. หตฺถิกลภาติ มหนฺตา มหนฺตา นาคา. หตฺถิจฺฉาปาติ ตรุณโปตกา. โอภคฺโคภคฺคนฺติ นาเมตฺวา นาเมตฺวา ปิตํ. โอคาหํ โอติณฺณสฺสาติ โอคาหิตพฺพตฺตา โอคาหนฺติ ลทฺธนามํ อุทกติตฺถํ โอติณฺณสฺส. โอคาหา อุตฺติณฺณสฺสาติ อุทกติตฺถโต อุตฺติณฺณสฺส. วูปกฏฺโติ วูปกฏฺโ หุตฺวา. อิทานิ ยสฺมา ทสพลสฺส หตฺถินาเคน กิจฺจํ นตฺถิ, สาสเน ปน ตํสริกฺขกํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ อิทมาหฏํ, ตสฺมา ตํ ปุคฺคลํ ทสฺเสนฺโต เอวเมว โขติอาทิมาห.
๑๐. ตปุสฺสสุตฺตวณฺณนา
๔๑. ทสเม มลฺเลสูติ มลฺลรฏฺเ. อิเธว ตาว ตฺวํ, อานนฺท, โหตีติ อิธ ภควา ‘‘ตปุสฺสคหปติโน อิธ ิเตน อานนฺเทน สทฺธึ กถาสลฺลาโป ภวิสฺสติ, ตโตนิทานํ อหํ มหนฺตํ ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามี’’ติ ตฺวา อาห. อุปสงฺกมีติ โส กิร ภุตฺตปาตราโส ‘‘ทสพลสฺส อุปฏฺานํ ¶ คมิสฺสามี’’ติ นิกฺขมนฺโต ทูรโตว เถรํ ทิสฺวา เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ. ปปาโต วิย ขายติ, ยทิทํ เนกฺขมฺมนฺติ ยมิทํ ปพฺพชฺชาสงฺขาตํ เนกฺขมฺมํ, ตํ อมฺหากํ มหาปปาโต วิย โอคาหิตฺวา อุปฏฺาติ. เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ อารมฺมณวเสน ปกฺขนฺทติ, ตเทว อารมฺมณํ กตฺวา ปสีทติ, ตเทว ปติฏฺาติ, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ วิมุจฺจติ. ‘เอตํ สนฺต’นฺติ ปสฺสโตติ เอตํ เนกฺขมฺมํ สนฺตํ วิคตทรถปริฬาหนฺติ เอวํ ปสฺสนฺตานํ ภิกฺขูนํ. พหุนา ชเนน วิสภาโคติ ตยิทํ พหุนา มหาชเนน สทฺธึ ภิกฺขูนํ วิสภาคํ, อสทิสนฺติ อตฺโถ.
กถาปาภตนฺติ กถามูลํ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตีติ ตสฺส เอวํ วิตกฺเกนฺตสฺสาปิ มยฺหํ ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ น โอตรติ. ‘‘เอตํ ¶ สนฺต’’นฺติ ปสฺสโตติ ‘‘สาธุ ¶ เนกฺขมฺม’’นฺติ ปริวิตกฺกนวเสน ‘‘เอตํ เนกฺขมฺมํ สนฺต’’นฺติ ปสฺสนฺตสฺสปิ. อนาเสวิโตติ น อาเสวิโต น ผสฺสิโต น สจฺฉิกโต. อธิคมฺมาติ อธิคนฺตฺวา ปตฺวา สจฺฉิกตฺวา. ตมาเสเวยฺยนฺติ ตํ อานิสํสํ เสเวยฺยํ ภเชยฺยํ. ยํ ¶ เมติ เยน การเณน มยฺหํ. อธิคมฺมาติ อธิคนฺตฺวา. สฺวาสฺส เม โหติ อาพาโธติ โส มยฺหํ อาพาธนฏฺเน อาพาโธ โหติ. อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทตีติ อวิตกฺกวิจาเร ทุติยชฺฌาเน อารมฺมณวเสน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ. วิตกฺเกสูติ วิตกฺกวิจาเรสุ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มหาวคฺโค จตุตฺโถ.