📜
๓. มหาวคฺโค
๑. สีหนาทสุตฺตวณฺณนา
๒๑. ตติยสฺส ¶ ปเม วิสมคเตติ วิสมฏฺาเนสุ โคจเรสุ คเต. สงฺฆาตํ อาปาเทสินฺติ ฆาตํ วธํ ปาเปสึ. ตสฺส หิ อุสฺสนฺนเตชตาย ขุทฺทเกสุ ปาเณสุ อนุกมฺปา โหติ. ตสฺมา เย ปฏิสตฺตุภาเวน ¶ สณฺาตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, เย ทุพฺพลา ปลายิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต ปลายิสฺสนฺตีติ สีหนาทํ นทิตฺวาว โคจราย ปกฺกมติ. ตถาคตสฺเสตํ อธิวจนนฺติ ยทิ หิ สหนตาย หนนตาย จ สีโห, ตถาคโต ¶ หิ สพฺพานิ จ อิฏฺานิฏฺานิ สหติ, สพฺพปรปฺปวาทิโน จ วาทานํ นิมฺมถเนน หนติ. อิทมสฺส โหติ สีหนาทสฺมินฺติ อยมสฺส สีหนาโท.
ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปฺุสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตสฺส พลํ กายพลํ าณพลํ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘กาลาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;
คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ.
อิมานิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาลาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาลาวกสฺส หตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ กาลาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ, ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ, ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ, ตํ เอกสฺส ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส มงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส เหมสฺส. ยํ ทสนฺนํ เหมานํ, ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ทสนฺนํ อุโปสถานํ, ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ, ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส. นารายนสงฺฆาตพลนฺติปิ อิทเมว ¶ วุจฺจติ ¶ . ตเทตํ ปกติหตฺถิคณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสานํ, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.
าณพลํ ปน ปาฬิยํ ตาว อาคตเมว. ทสพลาณํ, มชฺฌิเม อาคตํ จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทาณํ, สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ สตฺตสตฺตติ าณานีติ, เอวํ อฺานิปิ อเนกานิ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.
อาสภํ ¶ านนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ. อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสมฺปกมฺปิโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมาโน จ ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ.
ปริสาสูติ ¶ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ นทติ, อภีตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. ตตฺรายํ อุปมา – ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ ¶ สกฺกาโย’’ติอาทินา นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.
พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสิฏฺํ. จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. ตํ ปเนตํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺเจว เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว มหาโพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรโต วา ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาสิโกณฺฑฺสฺส โสตาปตฺติมคฺคา ปวตฺตมานํ, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. เตสุ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ.
อิทานิ ¶ เยหิ ทสหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ตถาคโต อาสภํ านํ ปฏิชานาติ, ตานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ กตมานิ ทส? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต านฺจ านโตติอาทิมาห. ตตฺถ านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ¶ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ, ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา ‘‘เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านํ. เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺาน’’นฺติ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. อภิธมฺเม ปเนตํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ าณ’’นฺติอาทินา (วิภ. ๘๐๙) นเยน วิตฺถาริตเมว. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺสาติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.
กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว ¶ เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ, กมฺมํ เหตุ. อิมสฺส ปน าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘อตฺเถกจฺจานิ ปาปกานิ กมฺมสมาทานานิ คติสมฺปตฺติปฏิพาฬฺหานิ น วิปจฺจนฺตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๐) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ¶ ฆาเตนฺเตสุ ‘‘อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินี’’ติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ชานาติ. อิมสฺสปิ จ าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส สพฺพตฺถคามินึ ปฏิปทํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต อยํ มคฺโค อยํ ปฏิปทา นิรยคามินีติ ปชานาตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๑๑) นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
อเนกธาตุนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ธาตูนํ วิลกฺขณตาย นานปฺปการธาตุํ. โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ¶ อเนกธาตุนานาธาตุโลกํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต ขนฺธนานตฺตํ ปชานาตี’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว.
นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนาทีหิ อธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตํ ยถาภูตํ าณํ? อิธ ตถาคโต ปชานาติ สนฺติ สตฺตา หีนาธิมุตฺติกา’’ติอาทินา นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว.
ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต อฺเสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ, เวเนยฺยวเสน ทฺวิธา วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ ¶ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ. อิมสฺสาปิ าณสฺส วิตฺถารกถา ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ าณํ ¶ ? อิธ ตถาคโต สตฺตานํ อาสยํ ปชานาตี’’ติ (วิภ. ๘๑๔) อาทินา นเยน อภิธมฺเม อาคตาเยว.
ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตํ ปคุณชฺฌานฺเจว ภวงฺคผลสมาปตฺติโย จ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺเคน ปน สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ, ผลสมาปตฺติยา นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาย จ ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. อิทมฺปิ าณํ ‘‘ตตฺถ กตมํ ตถาคตสฺส ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนํ สํกิเลสํ โวทานํ วุฏฺานํ ยถาภูตํ าณํ? ฌายีติ จตฺตาโร ฌายี, อตฺเถกจฺโจ ฌายี สมฺปตฺตึเยว สมานํ วิปตฺตีติ ปจฺเจตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๒๘) นเยน อภิธมฺเม วิตฺถาริตเมว. สพฺพาณานํ ¶ วิตฺถารกถาย วินิจฺฉโย สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย วุตฺโต, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติทิพฺพจกฺขุาณกถา วิสุทฺธิมคฺเค วิตฺถาริตา, อาสวกฺขยกถา เหฏฺา วุตฺตาเยวาติ.
ตตฺถ ¶ ปรวาทีกถา โหติ ‘‘ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ าณํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโท’’ติ. ตํ น ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ, สพฺพฺุตฺาณํ ตมฺปิ ตโต อวเสสมฺปิ ชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมวิปากนฺตรเมว, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตการณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ, เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ ¶ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.
อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ทสพลาณํ นาเมตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกอวิจารํ, กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ, โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ. ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ, ‘‘ตโต ปรานิ ทฺเว อวิตกฺกอวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจาร’’นฺติ วกฺขติ ¶ . ตถา ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ทฺเว รูปาวจรานิ, อวสาเน เอกํ โลกุตฺตร’’นฺติ วกฺขติ. ‘‘สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว โลกิยเมวา’’ติ วกฺขติ.
เอวเมตฺถ อนุปทวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ โลกิยสมฺมาทิฏฺิฏฺานาทิทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิฏฺานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ ติเหตุกปฺปฏิสนฺธิทสฺสนโต, สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาเณน กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ อานนฺตริยกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวมนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยาวิเสสํ ปสฺสติ ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ นานาธิมุตฺติกตาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ. อเถวํ ทิฏฺาธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺติาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตา ¶ ปน เต สเจ ทูเร โหนฺติ, อถ ฌานาทิาเณน ฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน เต ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติภวํ, ทิพฺพจกฺขานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปติ จิตฺตวิเสสํ ¶ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินานุกฺกเมน อิมานิ พลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๒. อธิวุตฺติปทสุตฺตวณฺณนา
๒๒. ทุติเย ¶ เย เต ธมฺมาติ เย เต ทสพลาณํ สพฺพฺุตฺาณธมฺมา. อธิวุตฺติปทานนฺติ อธิวจนปทานํ, ขนฺธายตนธาตุธมฺมานนฺติ อตฺโถ. อธิวุตฺติโยติ หิ อธิวจนานิ วุจฺจนฺติ, เตสํ เย ปทภูตา เทสนาย ปทฏฺานตฺตา. อตีตา พุทฺธาปิ หิ เอเต ธมฺเม กถยึสุ, อนาคตาปิ เอเตว กถยิสฺสนฺติ. ตสฺมา ขนฺธาทโย อธิวุตฺติปทานิ นาม. เตสํ อธิวุตฺติปทานํ. อถ วา ภูตมตฺถํ อภิภวิตฺวา ยถาสภาวโต อคฺคเหตฺวา วตฺตนโต อธิวุตฺติโยติ ทิฏฺิโย วุจฺจนฺติ, อธิวุตฺตีนํ ปทานิ อธิวุตฺติปทานิ, ทิฏฺิทีปกานิ วจนานีติ อตฺโถ. เตสํ อธิวุตฺติปทานํ ทิฏฺิโวหารานํ. อภิฺา สจฺฉิกิริยายาติ ชานิตฺวา ปจฺจกฺขกรณตฺถาย. วิสารโทติ าณโสมนสฺสปฺปตฺโต. ตตฺถาติ เตสุ ธมฺเมสุ เตสํ เตสํ ตถา ตถา ธมฺมํ เทเสตุนฺติ เตสํ เตสํ ทิฏฺิคติกานํ วา อิตเรสํ วา อาสยํ ตฺวา ตถา ตถา ธมฺมํ เทเสตุํ. หีนํ วา หีนนฺติ สฺสตีติ หีนํ วา ธมฺมํ ‘‘หีโน ธมฺโม’’ติ ชานิสฺสติ. าเตยฺยนฺติ าตพฺพํ. ทฏฺเยฺยนฺติ ทฏฺพฺพํ. สจฺฉิกเรยฺยนฺติ สจฺฉิกาตพฺพํ. ตตฺถ ¶ ตตฺถ ยถาภูตาณนฺติ เตสุ เตสุ ธมฺเมสุ ยถาสภาวาณํ. อิมินา สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสติ. เอวํ สพฺพฺุตฺาณํ ทสฺเสตฺวา ปุน ทสพลาณํ ทสฺเสนฺโต ทสยิมานีติอาทิมาห. ทสพลาณมฺปิ หิ ตตฺถ ตตฺถ ยถาภูตาณเมวาติ.
๓. กายสุตฺตวณฺณนา
๒๓. ตติเย อาปนฺโน โหติ กฺจิเทว เทสนฺติ กฺจิ อาปตฺติโกฏฺาสํ อาปนฺโน โหติ. อนุวิจฺจาติ อนุปวิสิตฺวา ปริโยคาเหตฺวา. กายทุจฺจริตนฺติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ. วจีทุจฺจริตนฺติ ¶ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. ปาปิกา อิสฺสาติ ลามิกา อุสูยา. ปฺาย ทิสฺวาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา ปหาตพฺพา. อิชฺฌตีติ สมิชฺฌติ. อุปวาสสฺสาติ นิสฺสาย อุปสงฺกมิตฺวา วสนฺตสฺส. อภิภุยฺยาติ อชฺโฌตฺถริตฺวา ¶ มทฺทิตฺวา. อิรียตีติ วตฺตติ. อิมสฺมึ สุตฺเต สหวิปสฺสนาย มคฺโค กถิโต.
๔. มหาจุนฺทสุตฺตวณฺณนา
๒๔. จตุตฺเถ ชานามิมํ ธมฺมนฺติ อิมินา าณวาทสฺส วทนากาโร วุตฺโต. ภาวิตกาโยมฺหีติอาทีหิ ภาวนาวาทสฺส. ตติยวาเร ทฺเวปิ วาทา เอกโต วุตฺตา, ตโยปิ เจเต อรหตฺตเมว ปฏิชานนฺติ. อฑฺฒวาทํ วเทยฺยาติ อฑฺโฒหมสฺมีติ วาทํ วเทยฺย. อุปนีหาตุนฺติ นีหริตฺวา ทาตุํ.
๕. กสิณสุตฺตวณฺณนา
๒๕. ปฺจเม สกลฏฺเน กสิณานิ, ตทารมฺมณานํ ธมฺมานํ เขตฺตฏฺเน อธิฏฺานฏฺเน วา อายตนานีติ กสิณายตนานิ. อุทฺธนฺติ ¶ อุปริ คคณตลาภิมุขํ. อโธติ เหฏฺา ภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลํ วิย สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ, เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรติ อาโลกมิว รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ อุทฺธํ อโธ ติริย’’นฺติ. อทฺวยนฺติ อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ น อฺํ, เอวเมว ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ. นตฺถิ ตสฺส อฺกสิณสมฺเภโทติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน วุตฺตํ. ตฺหิ เจตสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ, ‘‘อยมสฺส อาทิ, อิทํ มชฺฌ’’นฺติ ปมาณํ น คณฺหาติ. วิฺาณกสิณนฺติ เจตฺถ กสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺตวิฺาณํ. ตตฺถ กสิณวเสน กสิณุคฺฆาฏิมากาเส, กสิณุคฺฆาฏิมากาสวเสน ตตฺถ ปวตฺตวิฺาเณ อุทฺธํอโธติริยตา เวทิตพฺพา. อยเมตฺถ สงฺเขโป, กมฺมฏฺานภาวนานเยน ปเนตานิ ปถวีกสิณาทีนิ วิตฺถารโต วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๑ อาทโย) วุตฺตาเนว.
๖. กาฬีสุตฺตวณฺณนา
๒๖. ฉฏฺเ ¶ ¶ กุมาริปฺเหสูติ กุมารีนํ มารธีตานํ ปุจฺฉาสุ. อตฺถสฺส ¶ ปตฺตึ หทยสฺส สนฺตินฺติ ทฺวีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตเมว กถิตํ. เสนนฺติ ราคาทิกิเลสเสนํ. ปิยสาตรูปนฺติ ปิยชาติเกสุ จ สาตชาติเกสุ จ วตฺถูสุ อุปฺปชฺชนโต เอวํลทฺธนามํ. เอโกหํ ฌายํ สุขมนุโพธินฺติ เอวํ กิเลสเสนํ ชินิตฺวา อหํ เอกโกว ฌายนฺโต สุขํ อนุพุชฺฌึ สจฺฉิอกาสึ. สกฺขินฺติ สกฺขิภาวปฺปตฺตํ ธมฺมสกฺขึ. น สมฺปชฺชติ เกนจิ เมติ มยฺหํ เกนจิ สทฺธึ มิตฺตธมฺโม นาม นตฺถิ. ปถวีกสิณสมาปตฺติปรมา โข, ภคินิ, เอเก สมณพฺราหฺมณา อตฺโถติ อภินิพฺพตฺเตสุนฺติ ปถวีกสิณสมาปตฺติปรโม อุตฺตโม อตฺโถติ คเหตฺวา อภินิพฺพตฺเตสุํ. ยาวตา โข, ภคินิ, ปถวีกสิณสมาปตฺติปรมตาติ ยตฺตกา ปถวีกสิณสมาปตฺติยา อุตฺตมโกฏิ. ตทภิฺาสิ ภควาติ ตํ ภควา อภิฺาปฺาย อภิฺาสิ. อสฺสาทมทฺทสาติ สมุทยสจฺจํ อทฺทส. อาทีนวมทฺทสาติ ทุกฺขสจฺจํ อทฺทส. นิสฺสรณมทฺทสาติ นิโรธสจฺจํ อทฺทส. มคฺคามคฺคาณทสฺสนมทฺทสาติ มคฺคสจฺจํ อทฺทส. อตฺถสฺส ปตฺตีติ เอเตสํ จตุนฺนํ สจฺจานํ ทิฏฺตฺตา อรหตฺตสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ปตฺติ, สพฺพทรถปริฬาหวูปสนฺตตาย หทยสฺส สนฺตีติ.
๗. ปมมหาปฺหสุตฺตวณฺณนา
๒๗. สตฺตเม อภิชานาถาติ อภิชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา วิหรถ. อภิฺายาติ ¶ อภิชานิตฺวา. อิธาติ อิมาย. ธมฺมเทสนาย วา ธมฺมเทสนนฺติ ยทิทํ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนาย สทฺธึ อมฺหากํ ธมฺมเทสนํ, อมฺหากํ วา ธมฺมเทสนาย สทฺธึ สมณสฺส โคตมสฺส ธมฺมเทสนํ อารพฺภ นานากรณํ วุจฺเจถ, ตํ กึ นามาติ วทนฺติ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. อิติ เต มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณํ วิย สาสเนน สทฺธึ อตฺตโน ลทฺธึ วจนมตฺเตน สมธุรํ ปยึสุ. เนว อภินนฺทึสูติ ‘‘เอวเมต’’นฺติ น สมฺปฏิจฺฉึสุ. นปฺปฏิกฺโกสึสูติ ‘‘น อิทํ เอว’’นฺติ นปฺปฏิเสเธสุํ. กสฺมา? เต กิร ‘‘ติตฺถิยา นาม อนฺธสทิสา ชานิตฺวา วา อชานิตฺวา วา กเถยฺยุ’’นฺติ นาภินนฺทึสุ.
น ¶ สมฺปายิสฺสนฺตีติ สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. อุตฺตริ จ วิฆาตนฺติ อสมฺปาทนโต ¶ อุตฺตริมฺปิ ทุกฺขํ อาปชฺชิสฺสนฺติ. สมฺปาเทตฺวา กเถตุํ อสกฺโกนฺตานฺหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. ยถา ตํ, ภิกฺขเว, อวิสยสฺมินฺติ เอตฺถ จ ตนฺติ นิปาตมตฺตํ. ยถาติ การณวจนํ, ยสฺมา อวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิตา โหนฺตีติ อตฺโถ. อิโต วา ปน สุตฺวาติ อิโต วา ปน มม สาสนโต สุตฺวา. อิโตติ ตถาคตโตปิ ตถาคตสาวกโตปิ. อาราเธยฺยาติ ปริโตเสยฺย, อฺถา อาราธนํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ.
เอกธมฺเมติ ¶ เอกสฺมึ ธมฺเม. อิมินา อุทฺเทโส ทสฺสิโต. ปรโต กตมสฺมึ เอกธมฺเมติ อิมินา ปฺโห ทสฺสิโต. สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ อิทํ ปเนตฺถ เวยฺยากรณํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สมฺมา นิพฺพินฺทมาโนติอาทีสุ ปน สมฺมา เหตุนา นเยน นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺโต อุกฺกณฺนฺโต, วิราคานุปสฺสนาย วิรชฺชนฺโต, ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย มุจฺจนสฺส อุปายํ กตฺวา วิมุจฺจมาโน, อธิโมกฺขวเสน วา วิมุจฺจมาโน สนฺนิฏฺานํ กุรุมาโนติ อตฺโถ. อุทยพฺพเยหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปุพฺพนฺตาปรนฺตทสฺสเนน สมฺมา ปริยนฺตทสฺสาวี. สมฺมทตฺถํ อภิสเมจฺจาติ สมฺมา สภาคตฺถํ าเณน อภิสมาคนฺตฺวา. ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตีติ สกลวฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตํ ปริวฏุมํ กโร โหติ.
สพฺเพ สตฺตาติ กามภวาทีสุ เอกโวการภวาทีสุ จ สพฺพภเวสุ สพฺเพ สตฺตา. อาหารฏฺิติกาติ อาหารโต ิติ เอเตสนฺติ อาหารฏฺิติกา. อิติ สพฺพสตฺตานมฺปิ ิติเหตุ อาหาโร นาม เอโก ธมฺโม, ตสฺมึ เอกธมฺเม. นนุ จ เอวํ สนฺเต ยํ วุตฺตํ – ‘‘อสฺสตฺตา เทวา อเหตุกา อนาหารา อผสฺสกา’’ติอาทิ (วิภ. ๑๐๑๗), ตํ วิรุชฺฌตีติ. น วิรุชฺฌติ. เตสฺหิ ฌานํ อาหาโร โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, อาหารา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๑) อิทํ วิรุชฺฌตีติ. อิทมฺปิ น วิรุชฺฌติ. เอตสฺมิฺหิ สุตฺเต นิปฺปริยาเยน อาหารลกฺขณา ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตา, อิธ ปน ปริยาเยน ปจฺจโย ¶ อาหาโรติ วุตฺโต. สพฺพธมฺมานฺหิ ปจฺจโย ลทฺธุํ วฏฺฏติ. โส จ ยํ ยํ ผลํ ชเนติ, ตํ ตํ อาหรติ นาม. ตสฺมา อาหาโรติ วุจฺจติ. เตเนวาห – ‘‘อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก ¶ จ, ภิกฺขเว, อวิชฺชาย อาหาโร? ปฺจ นีวรณาติสฺส วจนีย’’นฺติ (อ. นิ. ๑๐.๖๑). อยํ อิธ อธิปฺเปโต. เอตสฺมิฺหิ ปจฺจยาหาเร คหิเต ปริยายาหาโรปิ นิปฺปริยายาหาโรปิ สพฺโพ คหิโตว โหติ.
ตตฺถ ¶ อสฺีภเว ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. อนุปฺปนฺเน หิ พุทฺเธ ติตฺถายตเน ปพฺพชิตา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตโต วุฏฺาย ‘‘ธิ จิตฺตํ, ธิ วเตตํ จิตฺตํ, จิตฺตสฺส นาม อภาโวเยว สาธุ. จิตฺตฺหิ นิสฺสาย วธพนฺธาทิปจฺจยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ. จิตฺเต อสติ นตฺเถต’’นฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา อสฺีภเว นิพฺพตฺตนฺติ. โย ยสฺส อิริยาปโถ มนุสฺสโลเก ปณิหิโต อโหสิ, โส เตน อิริยาปเถน นิพฺพตฺติตฺวา จิตฺตรูปสทิโส หุตฺวา ปฺจ กปฺปสตานิ ติฏฺติ. เอตฺตกํ อทฺธานํ สยิโต วิย โหติ. เอวรูปานมฺปิ สตฺตานํ ปจฺจยาหาโร ลพฺภติ. เต หิ ยํ ฌานํ ภาเวตฺวา นิพฺพตฺตา, ตเทว เนสํ ปจฺจโย โหติ. ยถา ชิยาเวเคน ขิตฺตสโร ยาว ชิยาเวโค อตฺถิ, ตาว คจฺฉติ. เอวํ ยาว ฌานปจฺจโย อตฺถิ, ตาว ติฏฺนฺติ. ตสฺมึ นิฏฺิเต ขีณเวโค วิย สโร ปตนฺติ. จวนกาเล จ เตสํ โส รูปกาโย อนฺตรธายติ, กามาวจรสฺา อุปฺปชฺชติ, เตน สฺุปฺปาเทน เต เทวา ตมฺหา กายา จุตาติ ปฺายนฺติ.
เย ปน เต เนรยิกา เนว วุฏฺานผลูปชีวี, น ปฺุผลูปชีวีติ วุตฺตา, เตสํ โก อาหาโรติ? เตสํ กมฺมเมว อาหาโร ¶ . กึ ปฺจ อาหารา อตฺถีติ? ปฺจ, น ปฺจาติ อิทํ น วตฺตพฺพํ, นนุ ‘‘ปจฺจโย อาหาโร’’ติ วุตฺตเมตํ. ตสฺมา เยน กมฺเมน นิรเย นิพฺพตฺตนฺติ, ตเทว เตสํ ิติปจฺจยตฺตา อาหาโร โหติ. ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘น จ ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐, ๒๖๘; อ. นิ. ๓.๓๖).
กพฬีการาหารํ อารพฺภาปิ เจตฺถ วิวาโท น กาตพฺโพ. มุเข อุปฺปชฺชนเขโฬปิ หิ เตสํ อาหารกิจฺจํ สาเธติ. เขโฬ หิ นิรเย ทุกฺขเวทนีโย หุตฺวา ปจฺจโย โหติ, สคฺเค สุขเวทนิโย. อิติ กามภเว นิปฺปริยาเยน จตฺตาโร อาหารา, รูปารูปภเวสุ เปตฺวา อสฺเ ¶ เสสานํ ตโย, อสฺานฺเจว อวเสสานฺจ ปจฺจยาหาโรติ อิมินา อากาเรน สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ จตฺตาโร อาหาโร โย วา ปน โกจิ ปจฺจยาหาโร ทุกฺขสจฺจํ, อาหารสมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปฺปชานนา ปฺา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ จตุสจฺจวเสน สพฺพวาเรสุ โยชนา กาตพฺพา.
๘. ทุติยมหาปฺหสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม ¶ กชงฺคลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. กชงฺคลาติ กชงฺคลาวาสิโน. มหาปฺเหสูติ มหนฺตอตฺถปริคฺคาหเกสุ ปฺเหสุ. ยถา เมตฺถ ขายตีติ ยถา เม เอตฺถ อุปฏฺาติ. สมฺมา สุภาวิตจิตฺโตติ เหตุนา นเยน สุฏฺุ ภาวิตจิตฺโต. เอโส เจว ตสฺส อตฺโถติ กิฺจาปิ ภควตา ‘‘จตฺตาโร ธมฺมา’’ติอาทโย ปฺหา ‘‘จตฺตาโร อาหารา’’ติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชิตา, ยสฺมา ปน จตูสุ อาหาเรสุ ปริฺาเตสุ จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ, เตสุ จ ภาวิเตสุ จตฺตาโร อาหารา ปริฺาตาว โหนฺติ. ตสฺมา เทสนาวิลาเสน พฺยฺชนเมเวตฺถ นานํ, อตฺโถ ปน เอโกเยว. อินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอโส ¶ เจว ตสฺส อตฺโถ’’ติ. อตฺถโต หิ อุภยมฺเปตํ มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณมิว โหติ.
๙. ปมโกสลสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ยาวตาติ ยตฺตกา. กาสิโกสลาติ กาสิโกสลชนปทา. อตฺเถว อฺถตฺตนฺติ ิตสฺส อฺถตฺตํ อตฺถิเยว. อตฺถิ วิปริณาโมติ มรณมฺปิ อตฺถิเยว. ตสฺมิมฺปิ นิพฺพินฺทตีติ ตสฺมิมฺปิ สมฺปตฺติชาเต อุกฺกณฺติ. อคฺเค วิรชฺชตีติ สมฺปตฺติยา อคฺเค โกสลราชภาเว วิรชฺชติ. ปเคว หีนสฺมินฺติ ปมตรํเยว หีเน อิตฺตรมนุสฺสานํ ปฺจ กามคุณชาเต.
มโนมยาติ ฌานมเนน นิพฺพตฺตา. พาราณเสยฺยกนฺติ พาราณสิยํ อุปฺปนฺนํ. ตตฺถ กิร กปฺปาโสปิ มุทุ, สุตฺตกนฺติกาโยปิ ตนฺตวายาปิ เฉกา, อุทกมฺปิ สุจิ สินิทฺธํ. อุภโตภาควิมฏฺนฺติ ทฺวีสุปิ ปสฺเสสุ มฏฺํ มุทุ ¶ สินิทฺธํ ขายติ. จตสฺโส ปฏิปทา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกา กถิตา. สฺาสุ ปมา กามาวจรสฺา, ทุติยา รูปาวจรสฺา, ตติยา โลกุตฺตรสฺา, จตุตฺถา อากิฺจฺายตนสฺา. ยสฺมา ปน สา สฺา อคฺคาติ อาคตา, ตโต ปรํ สฺาปฺตฺติ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อคฺคนฺติ วุตฺตา.
พาหิรกานนฺติ สาสนโต พหิทฺธา ปวตฺตานํ. โน ¶ จสฺสํ โน จ เม สิยาติ สเจ อหํ อตีเต น ภวิสฺสํ, เอตรหิปิ เม อยํ อตฺตภาโว น สิยา. น ภวิสฺสามิ น เม ภวิสฺสตีติ ¶ สเจปิ อนาคเต น ภวิสฺสามิ, น จ เม กิฺจิ ปลิโพธชาตํ ภวิสฺสติ. อคฺเค วิรชฺชตีติ อุจฺเฉททิฏฺิยํ วิรชฺชติ. อุจฺเฉททิฏฺิ หิ อิธ นิพฺพานสฺส สนฺตตาย อคฺคนฺติ ชาตา.
ปรมตฺถวิสุทฺธินฺติ อุตฺตมตฺถวิสุทฺธึ. เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา เอตํ อธิวจนํ. อากิฺจฺายตนฺหิ วิปสฺสนาปทฏฺานตฺตา อคฺคํ นาม ชาตํ, เนวสฺานาสฺายตนํ ทีฆายุกตฺตา. ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานนฺติ อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว ปรมนิพฺพานํ. อนุปาทา วิโมกฺโขติ จตูหิ อุปาทาเนหิ อคฺคเหตฺวา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. อรหตฺตสฺเสตํ นามํ. ปริฺนฺติ สมติกฺกมํ. ตตฺถ ภควา ปมชฺฌาเนน กามานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, อรูปาวจเรหิ รูปานํ ปริฺํ ปฺาเปติ, อนุปาทานิพฺพาเนน เวทนานํ ปริฺํ ปฺาเปติ. นิพฺพานฺหิ สพฺพเวทยิตปฺปหานตฺตา เวทนานํ ปริฺา นาม. อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ อปจฺจยปรินิพฺพานํ. อิทํ ปน สุตฺตํ กเถนฺโต ภควา อนภิรติปีฬิตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ทิสฺวา เตสํ อนภิรติวิโนทนตฺถํ กเถสิ. เตปิ อนภิรตึ วิโนเทตฺวา เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา โสตาปนฺนา หุตฺวา อปรภาเค วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ.
๑๐. ทุติยโกสลสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม อุยฺโยธิกา นิวตฺโต โหตีติ ยุทฺธโต นิวตฺโต โหติ. ลทฺธาธิปฺปาโยติ ¶ มหาโกสลรฺา กิร พิมฺพิสารสฺส ธีตรํ เทนฺเตน ทฺวินฺนํ รชฺชานํ อนฺตเร สตสหสฺสุฏฺาโน กาสิคาโม นาม ธีตุ ทินฺโน ¶ . อชาตสตฺตุนา ปิตริ มาริเต มาตาปิสฺส รฺโ วิโยคโสเกน นจิรสฺเสว มตา. ตโต ราชา ปเสนทิโกสโล ‘‘อชาตสตฺตุนา มาตาปิตโร มาริตา, มม ปิตุ สนฺตโก คาโม’’ติ ตสฺสตฺถาย อฏฺฏํ กโรติ, อชาตสตฺตุปิ ‘‘มม มาตุ สนฺตโก’’ติ ตสฺส คามสฺสตฺถาย. ทฺเวปิ มาตุลภาคิเนยฺยา จตุรงฺคินึ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ยุชฺฌึสุ. ตตฺถ ปเสนทิโกสโล ทฺเว วาเร อชาตสตฺตุนา ปราชิโต นครเมว ปาวิสิ. ตติยวาเร ‘‘กถํ นุ โข เม ชโย ภเวยฺยา’’ติ อุปสฺสุติวเสน ยุชฺฌิตพฺพาการํ ตฺวา พฺยูหํ รจยิตฺวา อุโภหิ ปสฺเสหิ ปริกฺขิปิตฺวา อชาตสตฺตุํ คณฺหิ. ตาวเทว ชยาธิปฺปายสฺส ลทฺธตฺตา ลทฺธาธิปฺปาโย นาม อโหสิ.
เยน ¶ อาราโม เตน ปายาสีติ พหินคเร ชยขนฺธาวารํ นิเวเสตฺวา ‘‘ยาว นครํ อลงฺกโรนฺติ, ตาว ทสพลํ วนฺทิสฺสามิ. นครํ ปวิฏฺกาลโต ปฏฺาย หิ ปปฺโจ โหตี’’ติ อมจฺจคณปริวุโต เยนาราโม เตน ปายาสิ, อารามํ ปาวิสิ. กสฺมึ กาเล ปาวิสีติ? ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺตานํ ภิกฺขูนํ โอวาทํ ทตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธ คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ภิกฺขุสงฺเฆ จ โอวาทํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ คเต. จงฺกมนฺตีติ กสฺมึ สมเย จงฺกมนฺติ? ปณีตโภชนปจฺจยสฺส ถินมิทฺธสฺส วิโนทนตฺถํ, ทิวา ปธานิกา วา เต. ตาทิสานฺหิ ปจฺฉาภตฺตํ จงฺกมิตฺวา นฺหตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปตฺวา ¶ นิสชฺช สมณธมฺมํ กโรนฺตานํ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. เย เต ภิกฺขูติ โส กิร ‘‘กหํ สตฺถา กหํ สุคโตติ ปริเวเณน ปริเวณํ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปวิสิสฺสามี’’ติ วิโลเกนฺโต อรฺหตฺถี วิย มหาจงฺกเม จงฺกมมาเน ปํสุกูลิเก ภิกฺขู ทิสฺวา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ทสฺสนกามาติ ปสฺสิตุกามา. วิหาโรติ คนฺธกุฏึ สนฺธาย อาหํสุ. อตรมาโนติ อตุริโต, สณิกํ ปทปมาณฏฺาเน ปทํ นิกฺขิปนฺโต วตฺตํ กตฺวา สุสมฺมฏฺํ มุตฺตชาลสินฺทุวารสทิสํ วาลุกํ อวินาเสนฺโตติ อตฺโถ. อาลินฺทนฺติ ปมุขํ. อคฺคฬนฺติ กวาฏํ. อุกฺกาสิตฺวาติ อุกฺกาสิตสทฺทํ กตฺวา. อาโกเฏหีติ อคฺคนเขน อีสกํ กฺุจิกาฉิทฺทสมีเป โกเฏหีติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวารํ กิร อติอุปริ อมนุสฺสา, อติเหฏฺา ทีฆชาติกา โกเฏนฺติ. ตถา อโกเฏตฺวา มชฺเฌ ฉิทฺทสมีเป โกเฏตพฺพนฺติ อิทํ ทฺวารโกฏนวตฺตนฺติ ¶ วทนฺติ. วิวริ ภควา ทฺวารนฺติ น ภควา อุฏฺาย ทฺวารํ วิวรติ, วิวรตูติ ปน หตฺถํ ปสาเรติ. ตโต ‘‘ภควา ตุมฺเหหิ อเนกกปฺปโกฏีสุ ทานํ ททมาเนหิ น สหตฺถา ทฺวารวิวรณกมฺมํ กต’’นฺติ สยเมว ทฺวารํ วิวฏํ. ตํ ปน ยสฺมา ภควโต มเนน วิวฏํ, ตสฺมา ‘‘วิวริ ภควา ทฺวาร’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
เมตฺตูปหารนฺติ ¶ เมตฺตาสมฺปยุตฺตํ กายิกวาจสิกอุปหารํ. กตฺุตนฺติ อยฺหิ ราชา ปุพฺเพ ถูลสรีโร อโหสิ, โทณปากํ ภฺุชติ. อถสฺส ภควา ทิวเส ทิวเส โถกํ โถกํ หาปนตฺถาย –
‘‘มนุชสฺส สทา สตีมโต,
มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน;
ตนุกสฺส ¶ ภวนฺติ เวทนา,
สณิกํ ชีรติ อายุปาลย’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๔) –
อิมํ โอวาทํ อทาสิ. โส อิมสฺมึ โอวาเท ตฺวา ทิวเส ทิวเส โถกํ โถกํ หาเปตฺวา อนุกฺกเมน นาฬิโกทนปรมตาย สณฺาสิ, คตฺตานิปิสฺส ตนูนิ ถิรานิ ชาตานิ. ตํ ภควตา กตํ อุปการํ สนฺธาย ‘‘กตฺุตํ โข อหํ, ภนฺเต, กตเวทิตํ สมฺปสฺสมาโน’’ติ อาห. อริเย าเยติ สหวิปสฺสนเก มคฺเค. วุทฺธสีโลติ วฑฺฒิตสีโล. อริยสีโลติ อโปถุชฺชนิเกหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต. กุสลสีโลติ อนวชฺเชหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต. อารฺโกติ ชายมาโนปิ อรฺเ ชาโต, อภิสมฺพุชฺฌมาโนปิ อรฺเ อภิสมฺพุทฺโธ, เทววิมานกปฺปาย คนฺธกุฏิยา วสนฺโตปิ อรฺเเยว วสีติ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
มหาวคฺโค ตติโย.