📜

๒. อนุสฺสติวคฺโค

๑-๒. มหานามสุตฺตทฺวยวณฺณนา

๑๑-๑๒. ทุติยสฺส ปเม นานาวิหาเรหิ วิหรตนฺติ คิหีนํ นิพทฺโธ เอโก วิหาโร นาม นตฺถิ, ตสฺมา อมฺหากํ อนิพทฺธวิหาเรน วิหรนฺตานํ เกน วิหาเรน กตเรน นิพทฺธวิหาเรน วิหาตพฺพนฺติ ปุจฺฉติ. อาราธโกติ สมฺปาทโก ปริปูรโก. ธมฺมโสตสมาปนฺโน พุทฺธานุสฺสตึภาเวตีติ ธมฺมโสตสมาปนฺโน หุตฺวา พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวติ. ทุติเย คิลานา วุฏฺิโตติ คิลาโน หุตฺวา วุฏฺิโต.

๓. นนฺทิยสุตฺตวณฺณนา

๑๓. ตติเย กลฺยาณมิตฺเตติ สุมิตฺเต. เอวเมตฺถ กลฺยาณมิตฺตวเสน สงฺฆานุสฺสติ กถิตา. กพฬีการาหารภกฺขานนฺติ กามาวจรเทวานํ. อสมยวิมุตฺโตติ อสมยวิมุตฺติยา วิมุตฺโต ขีณาสโว.

๔. สุภูติสุตฺตวณฺณนา

๑๔. จตุตฺเถ โก นามายํ สุภูตี ภิกฺขูติ ชานนฺโตปิ สตฺถา กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉติ. สุทตฺตสฺส อุปาสกสฺส ปุตฺโตติ อนาถปิณฺฑิกํ สนฺธายาห. อนาถปิณฺฑิกสฺส หิ ปุตฺโต อตฺตโน จูฬปิตุ สนฺติเก ปพฺพชิโต, อถ นํ สุภูติตฺเถโร อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. สทฺธาปทาเนสูติ สทฺธานํ ปุคฺคลานํ อปทาเนสุ ลกฺขเณสุ.

๕. เมตฺตสุตฺตวณฺณนา

๑๕. ปฺจเม สุขํ สุปตีติ ยถา เสสชนา สมฺปริวตฺตมานา กากจฺฉมานา ทุกฺขํ สุปนฺติ, เอวํ อสุปิตฺวา สุขํ สุปติ. นิทฺทํ โอกฺกมนฺโตปิ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน วิย โหติ. สุขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ยถา อฺเ นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภมานา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺติ, เอวํ อปฺปฏิพุชฺฌิตฺวา วิกสมานํ วิย ปทุมํ สุขํ นิพฺพิกาโร ปฏิพุชฺฌติ. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสตีติ สุปินํ ปสฺสนฺโตปิ ภทฺทกเมว สุปินํ ปสฺสติ, เจติยํ วนฺทนฺโต วิย ปูชํ กโรนฺโต วิย จ ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จ โหติ. ยถา ปนฺเ อตฺตานํ โจเรหิ สมฺปริวาริตํ วิย วาเฬหิ อุปทฺทุตํ วิย ปปาเต ปตนฺตํ วิย จ ปสฺสนฺติ, น เอวํ ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ.

มนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ อุเร อามุกฺกมุตฺตาหาโร วิย สีเส ปิฬนฺธิตมาลา วิย จ มนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป. อมนุสฺสานํปิโย โหตีติ ยเถว มนุสฺสานํ, อมนุสฺสานมฺปิ ปิโย โหติ วิสาขตฺเถโร วิย. วตฺถุ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๘) เมตฺตากมฺมฏฺานนิทฺเทเส วิตฺถาริตเมว. เทวตา รกฺขนฺตีติ ปุตฺตมิว มาตาปิตโร เทวตา รกฺขนฺติ. นาสฺส อคฺคิวา วิสํ วา สตฺถํ วา กมตีติ เมตฺตาวิหาริสฺส กาเย อุตฺตราย อุปาสิกาย วิย อคฺคิ วา, สํยุตฺตภาณกจูฬสีวตฺเถรสฺเสว วิสํ วา, สํกิจฺจสามเณรสฺเสว สตฺถํ วา น กมติ นปฺปวิสติ, นาสฺส กายํ วิโกเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เธนุวตฺถุมฺปิ เจตฺถ กถยนฺติ. เอกา กิร เธนุ วจฺฉกสฺส ขีรธารํ มุฺจมานา อฏฺาสิ. เอโก ลุทฺทโก ‘‘ตํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ หตฺเถน สมฺปริวตฺเตตฺวา ทีฆทณฺฑํ สตฺตึ มุฺจิ. สา ตสฺสา สรีรํ อาหจฺจ ตาลปณฺณํ วิย วฏฺฏมานา คตา , เนว อุปจารพเลน น อปฺปนาพเลน, เกวลํ วจฺฉเก พลวหิตจิตฺตตาย. เอวํ มหานุภาวา เมตฺตา.

ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ เมตฺตาวิหาริโน ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ, นตฺถิ ตสฺส ทนฺธายิตตฺตํ. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ พนฺธนา ปวุตฺตตาลปกฺกํ วิย จสฺส วิปฺปสนฺนวณฺณํ มุขํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตีติ เมตฺตาวิหาริโน สมฺโมหมรณํ นาม นตฺถิ, อสมฺมูฬฺโห ปน นิทฺทํ โอกฺกมนฺโต วิย กาลํ กโรติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ เมตฺตาสมาปตฺติโต อุตฺตริ อรหตฺตํ อธิคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต อิโต จวิตฺวา สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชตีติ.

๖. อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา

๑๖. ฉฏฺเ ทสโมติ ชาติโคตฺตวเสน เจว สารปตฺตกุลคณนาย จ ทสเม าเน คณียติ, เตนสฺส ทสโมตฺเวว นามํ ชาตํ. อฏฺกนาคโรติ อฏฺกนครวาสี. กุกฺกุฏาราเมติ กุกฺกุฏเสฏฺินา การิเต อาราเม.

เตน ภควตา…เป… สมฺมทกฺขาโตติ เอตฺถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย โส ภควา สมตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพกิเลเส ภฺชิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, เตน ภควตา เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยํ ชานตา, หตฺถตเล ปิตํ อามลกํ วิย สพฺพเยฺยธมฺเม ปสฺสตา, อปิจ ปุพฺเพนิวาสาทีหิ ชานตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา ปสฺสตา, ตีหิ วา วิชฺชาหิ ฉหิ วา ปน อภิฺาหิ ชานตา, สพฺพตฺถ อปฺปฏิหเตน สมนฺตจกฺขุนา ปสฺสตา, สพฺพธมฺมชานนสมตฺถาย ปฺาย ชานตา, สพฺพสตฺตานํ จกฺขุวิสยาตีตานิ ติโรกุฏฺฏาทิคตานิ จาปิ รูปานิ อติวิสุทฺเธน มํสจกฺขุนา วา ปสฺสตา, อตฺตหิตสาธิกาย สมาธิปทฏฺานาย ปฏิเวธปฺาย ชานตา, ปรหิตสาธิกาย กรุณาปทฏฺานาย เทสนาปฺาย ปสฺสตา, อนฺตรายิกธมฺเม วา ชานตา, นิยฺยานิกธมฺเม ปสฺสตา, อรีนํ หตตฺตา อรหตา, สมฺมา สามํ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอวํ จตุเวสารชฺชวเสน จตูหิ การเณหิ โถมิเตน อตฺถิ นุ โข เอโก ธมฺโม อกฺขาโตติ.

อภิสงฺขตนฺติ กตํ อุปฺปาทิตํ. อภิสฺเจตยิตนฺติ เจตยิตํ กปฺปยิตํ. โสตตฺถ ิโตติ โส ตสฺมึ สมถวิปสฺสนาธมฺเม ิโต. ธมฺมราเคน ธมฺมนนฺทิยาติ ปททฺวเยนปิ สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค วุตฺโต. สมถวิปสฺสนาสุ หิ สพฺเพน สพฺพํ ฉนฺทราคํ ปริยาทิยิตุํ สกฺโกนฺโต อรหา โหติ, อสกฺโกนฺโต อนาคามี โหติ. โส สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราคสฺส อปฺปหีนตฺตา จตุตฺถชฺฌานเจตนาย สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตติ. อยํ อาจริยานํ สมานตฺถกถา.

วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘เตเนว ธมฺมราเคนาติ วจนโต อกุสเลน สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺตตี’’ติ. โส ‘‘สุตฺตํ อาหราหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อทฺธา อฺํ อปสฺสนฺโต อิทเมว อาหริสฺสติ. ตโต วตฺตพฺโพ ‘‘กิมฺปนิทํ สุตฺตํ นีตตฺถํ, อุทาหุ เนยฺยตฺถ’’นฺติ. อทฺธา ‘‘นีตตฺถ’’นฺติ วกฺขติ. ตโต วตฺตพฺโพ – เอวํ สนฺเต อนาคามิผลตฺถิเกน สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ ภวิสฺสติ, ฉนฺทราเค อุปฺปาทิเต อนาคามิผลํ ปฏิลทฺธํ ภวิสฺสติ, มา ‘‘สุตฺตํ เม ลทฺธ’’นฺติ ยํ วา ตํ วา ทีเปหิ. ปฺหํ กเถนฺเตน หิ อาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตฺวา อตฺถรสํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา กเถตุํ วฏฺฏติ. อกุสเลน หิ สคฺเค, กุสเลน จ อปาเย ปฏิสนฺธิ นาม นตฺถิ. วุตฺตฺเจตํ ภควตา –

‘‘น, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน, โทสเชน กมฺเมน, โมหเชน กมฺเมน เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย. อถ โข, ภิกฺขเว, โลภเชน กมฺเมน, โทสเชน กมฺเมน, โมหเชน กมฺเมน นิรโย ปฺายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ, เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย’’ติ (อ. นิ. ๖.๓๙) –

เอวํ สฺาเปตพฺโพ. สเจ สฺชานาติ, สฺชานาตุ. โน เจ สฺชานาติ, ‘‘คจฺฉ ปาโตว วิหารํ ปวิสิตฺวา ยาคุํ ปิวา’’ติ อุยฺโยเชตพฺโพ.

อยํ โข, คหปติ, เอกธมฺโม อกฺขาโตติ เอกํ ธมฺมํ ปุจฺฉิเตน ‘‘อยมฺปิ เอกธมฺโม อกฺขาโต, อยมฺปิ เอกธมฺโม อกฺขาโต’’ติ เอวํ ปุจฺฉาวเสน กถิตตฺตา เอกาทสปิ ธมฺมา เอกธมฺโม นาม กโต. อมตุปฺปตฺติอตฺเถน วา สพฺเพปิ เอกธมฺโมติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

นิธิมุขํคเวสนฺโตติ นิธึ ปริเยสนฺโต. สกิเทวาติ เอกปฺปโยเคเนว. กถํ ปน เอกปฺปโยเคเนว เอกาทสนฺนํ นิธีนํ อธิคโม โหตีติ? อิเธกจฺโจ อรฺเ ชีวิตวุตฺตึ คเวสมาโน จรติ. ตเมนํ อฺตโร อตฺถจรโก ทิสฺวา ‘‘กึ, โภ, จรสี’’ติ ปุจฺฉติ. โส ‘‘ชีวิตวุตฺตึ ปริเยสามี’’ติ อาห. อิตโร ‘‘เตน หิ สมฺม อาคจฺฉ, เอตํ ปาสาณํ ปวฏฺเฏหี’’ติ อาห. โส ตํ ปวฏฺเฏตฺวา อุปรูปริฏฺิตา วา กุจฺฉิยา กุจฺฉึ อาหจฺจ ิตา วา เอกาทส กุมฺภิโย ปสฺสติ. เอวํ เอกปฺปโยเคน เอกาทสนฺนํ อธิคโม โหติ.

อาจริยธนํ ปริเยสิสฺสนฺตีติ อฺติตฺถิยา หิ ยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ, ตสฺส สิปฺปุคฺคหณโต ปุเร วา ปจฺฉา วา อนฺตรนฺตรา วา เคหโต นีหริตฺวา ธนํ เทนฺติ. เยสํ เคเห นตฺถิ, เต าติสภาคโต ปริเยสนฺติ. เยสํ ตมฺปิ นตฺถิ, เต สภาคโต ปริเยสนฺติ. ตถา อลภมานา ภิกฺขมฺปิ จริตฺวา เทนฺติเยว. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.

กึ ปนาหนฺติ พาหิรกา ตาว อนิยฺยานิเกปิ สาสเน สิปฺปมตฺตทายกสฺส ธนํ ปริเยสนฺติ, อหํ ปน เอวํวิเธ นิยฺยานิกสาสเน เอกาทสวิธํ อมตุปฺปตฺติปฏิปทํ เทเสนฺตสฺส อาจริยสฺส ปูชํ กึ น กริสฺสามิ, กริสฺสามิเยวาติ วทติ. ปจฺเจกํ ทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทสีติ เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน เอเกกํ ทุสฺสยุคํ อทาสีติ อตฺโถ. สมุทาจารวจนํ ปเนตฺถ เอวรูปํ โหติ, ตสฺมา อจฺฉาเทสีติ วุตฺตํ. ปฺจสตํ วิหารนฺติ ปฺจสตคฺฆนิกํ ปณฺณสาลํ กาเรสีติ อตฺโถ.

๗. โคปาลสุตฺตวณฺณนา

๑๗. สตฺตเม ติสฺโส กถา เอกนาฬิกา จตุรสฺสา นิสินฺนวตฺติกาติ. ตตฺถ ปาฬึ วตฺวา เอเกกสฺส ปทสฺส อตฺถกถนํ เอกนาฬิกา นาม . อปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, อปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา, ปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวาติ จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถนํ จตุรสฺสา นาม. อปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, อปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนํ, ปณฺฑิตภิกฺขุํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนนฺติ อยํ นิสินฺนวตฺติกา นาม. อยํ อิธ สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณา.

เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหีติ เอกาทสหิ อคุณโกฏฺาเสหิ. โคคณนฺติ โคมณฺฑลํ. ปริหริตุนฺติ ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุํ. ผาตึ กาตุนฺติ วฑฺฒึ อาปาเทตุํ. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. น รูปฺู โหตีติ คณนโต วา วณฺณโต วา รูปํ น ชานาติ. คณนโต น ชานาติ นาม อตฺตโน คุนฺนํ สตํ วา สหสฺสํ วาติ สงฺขฺยํ น ชานาติ, โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา โคคณํ คเณตฺวา ‘‘อชฺช เอตฺตกา น ทิสฺสนฺตี’’ติ ทฺเว ตีณิ คามนฺตรานิ วา อฏวึ วา วิจรนฺโต น ปริเยสติ. อฺเสํ คาวีสุ อตฺตโน โคคณํ ปวิฏฺาสุปิ โคคณํ คเณตฺวา ‘‘อิมา เอตฺติกา คาโว น อมฺหาก’’นฺติ ยฏฺิยา โปเถตฺวา น นีหรติ. ตสฺส นฏฺา คาวิโย นฏฺาว โหนฺติ. ปรคาวิโย คเหตฺวา จรติ. โคสามิกา ทิสฺวา ‘‘อยํ เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ เธนู ทุหี’’ติ ตชฺเชตฺวา อตฺตโน คาวิโย คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺส โคคโณปิ ปริหายติ, ปฺจ โครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ. วณฺณโต น ชานาติ นาม ‘‘เอตฺติกา คาวี เสตา, เอตฺติกา รตฺตา, เอตฺติกา กาฬา, เอตฺติกา โอทาตา, เอตฺติกา กพรา, เอตฺติกา นีลา’’ติ น ชานาติ. โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.

น ลกฺขณกุสโลติ คาวีนํ สรีเร กตํ ธนุสตฺติสูลาทิเภทํ ลกฺขณํ น ชานาติ. โส คาวีสุ หฏาสุ วา ปลาตาสุ วา ‘‘อชฺช อสุกลกฺขณา อสุกลกฺขณา จ คาโว น ทิสฺสนฺตี’’ติ…เป… ปฺจโครสปริโภคโตปิ ปริพาหิโร โหติ.

น อาสาฏิกํ หาเรตาติ คุนฺนํ ขาณุกณฺฏกาทีหิ ปหฏฏฺาเนสุ วโณ โหติ. ตตฺถ นีลมกฺขิกา อณฺฑกานิ เปนฺติ, เตสํ อาสาฏิกาติ นามํ. ตานิ ทณฺฑเกน อปเนตฺวา เภสชฺชํ ทาตพฺพํ โหติ, พาโล โคปาลโก ตถา น กโรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตี’’ติ. ตสฺส คุนฺนํ วณา วฑฺฒนฺติ, คมฺภีรา โหนฺติ, ปาณกา กุจฺฉึ ปวิสนฺติ, คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณํ ขาทิตุํ น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ, โคณานํ ชโว หายติ, อุภเยสมฺปิ ชีวิตนฺตราโย โหติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.

น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ คุนฺนํ วุตฺตนเยเนว สฺชาโต วโณ เภสชฺชํ ทตฺวา วาเกน วา จีรเกน วา พนฺธิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตพฺโพ โหติ. พาลโคปาลโก ตํ น กโรติ. อถสฺส คุนฺนํ วเณหิ ยูสา ปคฺฆรนฺติ, ตา อฺมฺํ นิฆํสนฺติ. เตน อฺเสมฺปิ วณา ชายนฺติ. เอวํ คาโว เคลฺาภิภูตา เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น ธูมํ กตฺตา โหตีติ อนฺโตวสฺเส ฑํสมกสาทีนํ อุสฺสนฺนกาเล โคคเณ วชํ ปวิฏฺเ ตตฺถ ตตฺถ ธูโม กาตพฺโพ โหติ. อปณฺฑิตโคปาลโก ตํ น กโรติ, โคคโณ สพฺพรตฺตึ ฑํสาทีหิ อุปทฺทุโต นิทฺทํ อลภิตฺวา ปุนทิวเส อรฺเ ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขมูลาทีสุ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายติ. เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถมฺปิ สมนฺติ วา วิสมนฺติ วา สคาหนฺติ วา นิคฺคาหนฺติ วา น ชานาติ. โส อติตฺเถน คาวิโย โอตาเรติ. ตาสํ วิสมติตฺเถ ปาสาณาทีนิ อกฺกมนฺตีนํ ปาทา ภิชฺชนฺติ. สคาหํ คมฺภีรํ ติตฺถํ โอติณฺเณ กุมฺภีลาทโย คาโว คณฺหนฺติ, ‘‘อชฺช เอตฺติกา คาโว นฏฺา, อชฺช เอตฺติกา’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชนฺติ. เอวมสฺส โค คโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.

น ปีตํ ชานาตีติ ปีตมฺปิ อปีตมฺปิ น ชานาติ. โคปาลเกน หิ ‘‘อิมาย คาวิยา ปีตํ, อิมาย น ปีตํ, อิมาย ปานียติตฺเถ โอกาโส ลทฺโธ, อิมาย น ลทฺโธ’’ติ เอวํ ปีตาปีตํ ชานิตพฺพํ โหติ. อยํ ปน ทิวสภาเค อรฺเ โคคณํ รกฺขิตฺวา ‘‘ปานียํ ปาเยสฺสามี’’ติ นทึ วา ตฬากํ วา โอคาเหตฺวา คจฺฉติ. ตตฺถ มหาอุสภา จ อนุสภา จ พลวคาวิโย จ ทุพฺพลานิ เจว มหลฺลกานิ จ โครูปานิ สิงฺเคหิ วา ผาสุกาหิ วา ปหริตฺวา อตฺตโน โอกาสํ กตฺวา อูรุปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ยถากามํ ปิวนฺติ. อวเสสา โอกาสํ อลภมานา ตีเร ตฺวา กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวนฺติ วา อปีตา เอว วา โหนฺติ. อถ โส โคปาลโก ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปุน อรฺํ ปเวเสติ. ตตฺถ อปีตา คาวิโย ปิปาสาย สุสฺสมานา ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ น สกฺโกนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ. โคณานํ ชโว หายติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น วีถึ ชานาตีติ ‘‘อยํ มคฺโค สโม เขโม, อยํ วิสโม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย’’ติ น ชานาติ. โส สมํ เขมํ มคฺคํ วชฺเชตฺวา โคคณํ อิตรมคฺคํ ปฏิปาเทติ. ตตฺถ คาโว สีหพฺยคฺฆาทีนํ คนฺเธน โจรปริสฺสเยน จ อภิภูตา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา คีวํ อุกฺขิปิตฺวา ติฏฺนฺติ , เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทนฺติ, น ปานียํ ปิวนฺติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

โคจรกุสโล โหตีติ โคปาลเกน หิ โคจรกุสเลน ภวิตพฺพํ, ปฺจาหิกจาโร วา สตฺตาหิกจาโร วา ชานิตพฺโพ. เอกทิสาย โคคณํ จาเรตฺวา ปุนทิวเส ตตฺถ น จาเรตพฺโพ. มหตา หิ โคคเณน จิณฺณฏฺานํ เภริตลํ วิย สุทฺธํ โหติ นิตฺติณํ, อุทกมฺปิ อาลุลียติ. ตสฺมา ปฺจเม วา สตฺตเม วา ทิวเส ปุน ตตฺถ จาเรตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตเกน หิ ติณมฺปิ ปฏิวิรุหติ, อุทกมฺปิ ปสีทติ, อยํ ปน อิมํ ปฺจาหิกจารํ วา สตฺตาหิกจารํ วา น ชานาติ, ทิวเส ทิวเส รกฺขิตฏฺาเนเยว รกฺขติ. อถสฺส โคคโณ หริตติณํ น ลภติ, สุกฺขติณํ ขาทนฺโต กลลมิสฺสกํ อุทกํ ปิวติ. ตตฺถ คุนฺนํ ขีรํ ฉิชฺชติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

อนวเสสโทหี จ โหตีติ ปณฺฑิตโคปาลเกน หิ ยาว วจฺฉกสฺส มํสโลหิตํ สณฺาติ, ตาว เอกํ ทฺเว ถเน เปตฺวา สาวเสสโทหินา ภวิตพฺพํ. อยํ วจฺฉกสฺส กิฺจิ อนวเสเสตฺวา ทุหติ. ขีรปโก วจฺโฉ ขีรปิปาสาย สุสฺสติ, สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต กมฺปมาโน มาตุ ปุรโต ปติตฺวา กาลํ กโรนฺติ. มาตา ปุตฺตกํ ทิสฺวา, ‘‘มยฺหํ ปุตฺตโก อตฺตโน มาตุขีรํ ปาตุํ น ลภตี’’ติ ปุตฺตโสเกน เนว ยาวทตฺถํ ติณานิ ขาทิตุํ น ปานียํ ปาตุํ สกฺโกติ, ถเนสุ ขีรํ ฉิชฺชติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.

คุนฺนํ ปิติฏฺานํ กโรนฺตีติ โคปิตโร. คาโว ปริณายนฺติ ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ โคปริณายกา. เต นอติเรกปูชายาติ ปณฺฑิโต หิ โคปาลโก เอวรูเป อุสเภ อติเรกปูชาย ปูเชติ, ปณีตํ โคภตฺตํ เทติ, คนฺธปฺจงฺคุลิเกหิ มณฺเฑติ, มาลํ ปิฬนฺเธติ, สิงฺเคสุ สุวณฺณรชตโกสเก จ ธาเรติ, รตฺตึ ทีปํ ชาเลตฺวา เจลวิตานสฺส เหฏฺา สยาเปติ. อยํ ปน ตโต เอกสกฺการมฺปิ น กโรติ. อุสภา อติเรกปูชํ อลภมานา โคคณํ น รกฺขนฺติ, ปริสฺสยํ น วาเรนฺติ. เอวมสฺส โคคโณปิ ปริหายติ…เป… ปฺจโครสโตปิ ปริพาหิโร โหติ.

อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. น รูปฺู โหตีติ ‘‘จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ รูปํ ทฺวีหากาเรหิ น ชานาติ คณนโต วา สมุฏฺานโต วา. คณนโต น ชานาติ นาม – ‘‘จกฺขายตนํ โสตายตนํ ฆานายตนํ ชิวฺหากายรูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ, อิตฺถินฺทฺริยํ ปุริสินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺติ อากาสธาตุ อาโปธาตุ รูปสฺส ลหุตา, มุทุตา, กมฺมฺตา, อุปจโย, สนฺตติ, ชรตา, รูปสฺส อนิจฺจตา, กพฬีกาโร อาหาโร’’ติ (ธ. ส. ๖๕๗-๖๖๕) เอวํ ปาฬิยา อาคตา ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสาติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก คณนโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส คณนโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา อรูปํ ววตฺถเปตฺวา รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา ลกฺขณํ อาโรเปตฺวา กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน สีลสมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพาเนหิ น วฑฺฒติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ ปริพาหิโร โหติ , เอวเมวายํ อเสเขน สีลกฺขนฺเธน อเสเขน สมาธิปฺาวิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.

สมุฏฺานโตน ชานาติ นาม – ‘‘เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ทฺวิสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ ติสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ จตุสมุฏฺานํ, เอตฺตกํ นกุโตจิ สมุฏฺาตี’’ติ น ชานาติ. เสยฺยถาปิ โส โคปาลโก วณฺณโต คุนฺนํ รูปํ น ชานาติ, ตถูปโม อยํ ภิกฺขุ. โส สมุฏฺานโต รูปํ อชานนฺโต รูปํ ปริคฺคเหตฺวา…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น ลกฺขณกุสโล โหตีติ ‘‘กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต’’ติ เอวํ วุตฺตํ กุสลากุสลกมฺมํ ปณฺฑิตพาลลกฺขณนฺติ น ชานาติ. โส เอวํ อชานนฺโต พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวติ. พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต อเสวนฺโต กปฺปิยากปฺปิยํ กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ ครุกลหุกํ สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ การณาการณํ น ชานาติ. ตํ อชานนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ อิมสฺมึ สาสเน ยถาวุตฺเตหิ สีลาทีหิ น วฑฺฒติ. โส โคปาลโก วิย จ ปฺจหิ โครเสหิ, ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิโร โหติ.

น อาสาฏิกํ หาเรตา โหตีติ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺก’’นฺติ เอวํ วุตฺเต กามวิตกฺกาทโย น วิโนเทติ. โส อิมํ อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา วิตกฺกวสิโก หุตฺวา วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. โส ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น วณํ ปฏิจฺฉาเทตา โหตีติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทินา นเยน สพฺพารมฺมเณสุ นิมิตฺตํ คณฺหนฺโต ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทติ. โส วิวฏทฺวาโร วิจรนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น ธูมํ กตฺตา โหตีติ โส โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรติ, ธมฺมกถํ วา สรภฺํ วา อุปนิสินฺนกกถํ วา อนุโมทนํ วา น กโรติ, ตโต นํ มนุสฺสา ‘‘พหุสฺสุโต คุณวา’’ติ น ชานนฺติ. เต คุณาคุณํ อชานนฺโต จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคหํ น กโรนฺติ. โส ปจฺจเยหิ กิลมมาโน พุทฺธวจนํ สชฺฌายํ กาตุํ วตฺตปฏิวตฺตํ ปูเรตุํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

ติตฺถํ ชานาตีติ ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขู น อุปสงฺกมติ. อนุปสงฺกมนฺโต ‘‘อิทํ, ภนฺเต, พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพํ? อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถ? อิมสฺมึ าเน ปาฬิ กึ วทติ? อิมสฺมึ าเน อตฺโถ กึ ทีเปตี’’ติ เอวํ น ปริปุจฺฉติ น ปริปฺหติ, น ชานาเปตีติ อตฺโถ. ตสฺส เต เอวํ อปริปุจฺฉิตา อวิวฏฺเจว น วิวรนฺติ, ภาเชตฺวา น ทสฺเสนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ น อุตฺตานึ กโรนฺติ, อปากฏํ น ปากฏํ กโรนฺติ. อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสูติ อเนกวิธาสุ กงฺขาสุ เอกกงฺขมฺปิ น ปฏิวิโนเทนฺติ. กงฺขาเยว หิ กงฺขาานิยา ธมฺมา นาม. ตตฺถ เอกํ กงฺขมฺปิ น นีหรนฺตีติ อตฺโถ. โส เอวํ พหุสฺสุตติตฺถํ อนุปสงฺกมิตฺวา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ. ยถา วา โส โคปาลโก ติตฺถํ น ชานาติ, เอวํ อยมฺปิ ภิกฺขุ ธมฺมติตฺถํ น ชานาติ. อชานนฺโต อวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉติ, อาภิธมฺมิกํ อุปสงฺกมิตฺวา กปฺปิยากปฺปิยํ ปุจฺฉติ, วินยธรํ อุปสงฺกมิตฺวา รูปารูปปริจฺเฉทํ ปุจฺฉติ. เต อวิสเย ปุฏฺา กเถตุํ น สกฺโกนฺติ. โส อตฺตนา สกงฺโข กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

ปีตํ ชานาตีติ ยถา โส โคปาลโก ปีตาปีตํ น ชานาติ, เอวํ ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชํ น ชานาติ น ลภติ. สวนมยํ ปุฺกิริยวตฺถุํ นิสฺสาย อานิสํสํ น วินฺทติ, ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา สกฺกจฺจํ น สุณาติ, นิสินฺโน นิทฺทายติ, กถํ กเถติ, อฺวิหิตโก โหติ. โส สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อสฺสุณนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น วีถึ ชานาตีติ โส โคปาลโก มคฺคามคฺคํ วิย ‘‘อยํ โลกิโย, อยํ โลกุตฺตโร’’ติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อชานนฺโต โลกิยมคฺเค อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

น โคจรกุสโล โหตีติ โส โคปาลโก ปฺจาหิกสตฺตาหิกจาเร วิย จตฺตาโร สติปฏฺาเน ‘‘อิเม โลกิยา, อิเม โลกุตฺตรา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. อชานนฺโต สุขุมฏฺาเนสุ อตฺตโน าณํ จราเปตฺวา โลกิยสติปฏฺาเน อภินิวิสิตฺวา โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

อนวเสสโทหีโหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต อนวเสสํ ทุหติ. นิทฺเทสวาเร ปนสฺส อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺตีติ อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. เอตฺถ ทฺเว อภิหารา วาจาภิหาโร จ, ปจฺจยาภิหาโร จ. วาจาภิหาโร นาม มนุสฺสา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘วเทยฺยาถ, ภนฺเต, เยนตฺโถ’’ติ ปวาเรนฺติ. ปจฺจยาภิหาโร นาม วตฺถาทีนิ วา สปฺปินวนีตผาณิตาทีนิ วา คเหตฺวา ภิกฺขุสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต, ยาวตเกน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาตีติ ภิกฺขุ เตสุ ปจฺจเยสุ ปมาณํ น ชานาติ. ‘‘ทายกสฺส วโส เวทิตพฺโพ, เทยฺยธมฺมสฺส วโส เวทิตพฺโพ, อตฺตโน ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติ อิมินา นเยน ปมาณยุตฺตกํ อคฺคเหตฺวา ยํ อาหรนฺติ, ตํ สพฺพํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. มนุสฺสา วิปฺปฏิสาริโน น ปุน อภิหริตฺวา ปวาเรนฺติ. โส ปจฺจเยหิ กิลมนฺโต กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกติ…เป… ปริพาหิโร โหติ.

เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหตีติ โส โคปาลโก มหาอุสเภ วิย เถเร ภิกฺขู อิมาย อาวิ เจว รโห จ เมตฺตากายกมฺมาทิกาย อติเรกปูชาย น ปูเชติ. ตโต เถรา ‘‘อิเม อมฺเหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตี’’ติ นวเก ภิกฺขู ทฺวีหิ สงฺคเหหิ น สงฺคณฺหนฺติ, เนว ธมฺมสงฺคเหน สงฺคณฺหนฺติ, น อามิสสงฺคเหน, จีวเรน วา ปตฺเตน วา ปตฺตปริยาปนฺเนน วา วสนฏฺาเนน วา กิลมนฺเตปิ นปฺปฏิชคฺคนฺติ, ปาฬึ วา อฏฺกถํ วา ธมฺมกถาพนฺธํ วา คุฬฺหคนฺถํ วา น สิกฺขาเปนฺติ. นวกา เถรานํ สนฺติกา สพฺพโส อิเม ทฺเว สงฺคเห อลภมานา อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺาตุํ น สกฺโกนฺติ. ยถา ตสฺส โคปาลกสฺส โคคโณ น วฑฺฒติ, เอวํ สีลาทีหิ น วฑฺฒนฺติ. ยถา จ โส โคปาลโก ปฺจหิ โครเสหิ, เอวํ ปฺจหิ ธมฺมกฺขนฺเธหิ ปริพาหิรา โหนฺติ. สุกฺกปกฺโข กณฺหปกฺเข วุตฺตวิปลฺลาสวเสน โยเชตฺวา เวทิตพฺโพ.

อนุสฺสติวคฺโค ทุติโย.

มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย

เอกาทสกนิปาตสฺส สํวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ –

อายาจิโต สุมตินา เถเรน ภทนฺตโชติปาเลน;

กฺจิปุราทีสุ มยา ปุพฺเพ สทฺธึ วสนฺเตน.

วรตมฺพปณฺณิทีเป มหาวิหารมฺหิ วสนกาเลปิ;

ปากํ คเต วิย ทุเม วลฺชมานมฺหิ สทฺธมฺเม.

ปารํ ปิฏกตฺตยสาครสฺส คนฺตฺวา ิเตน สุมตินา;

ปริสุทฺธาชีเวนาภิยาจิโต ชีวเกนาปิ.

ธมฺมกถาย นิปุณปรมนิกายสฺสฏฺกถํ อารทฺโธ;

ยมหํ จิรกาลฏฺิติมิจฺฉนฺโต สาสนวรสฺส.

สา หิ มหาอฏฺกถาย สารมาทาย นิฏฺิตา เอสา;

จตุนวุติปริมาณาย ปาฬิยา ภาณวาเรหิ.

สพฺพาคมสํวณฺณนมโนรโถ ปูริโต จ เม ยสฺมา;

เอตาย มโนรถปูรณีติ นามํ ตโต อสฺสา.

เอกูนสฏฺิมตฺโต วิสุทฺธิมคฺโคปิ ภาณวาเรหิ;

อตฺถปฺปกาสนตฺถาย อาคมานํ กโต ยสฺมา.

ตสฺมา เตน สหายํ คาถาคณนานเยน อฏฺกถา;

ตีหาธิกทิยฑฺฒสตํ วิฺเยฺยา ภาณวารานํ.

ตีหาธิกทิยฑฺฒสตปฺปมาณมิติ ภาณวารโต เอสา;

สมยํ ปกาสยนฺตี มหาวิหาราธิวาสีนํ.

มูลฏฺกถาสารํ อาทาย มยา อิมํ กโรนฺเตน;

ยํ ปุฺมุปจิตํ เตน โหตุ โลโก สทา สุขิโตติ.

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยปฺปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหนสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุ สาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ปภินฺนปฏิสมฺภิทาปริวาเร ฉฬภิฺาทิปฺปเภทคุณปฺปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรานํ เถรวํสปฺปทีปานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน สุวิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ มโนรถปูรณี นาม องฺคุตฺตรนิกายฏฺกถา –

ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ จิตฺตวิสุทฺธิยา.

ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.

มโนรถปูรณี นาม

องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถา สพฺพากาเรน นิฏฺิตา.