📜

(๗) ๒. ภูมิจาลวคฺโค

๑. อิจฺฉาสุตฺตวณฺณนา

๖๑. สตฺตมสฺส ปเม ปวิวิตฺตสฺสาติ กายวิเวเกน วิวิตฺตสฺส. นิรายตฺตวุตฺติโนติ กตฺถจิ อนายตฺตวุตฺติโน วิปสฺสนากมฺมิกสฺส. ลาภายาติ จตุปจฺจยลาภาย. โสจี จ ปริเทวี จาติ โสกี จ ปริเทวี จ. โสจิจฺจ ปริเทวิจฺจาติปิ ปาโ. จุโต จ สทฺธมฺมาติ ตํขณํเยว วิปสฺสนาสทฺธมฺมา จุโต. อิมสฺมึ สุตฺเต วฏฺฏวิวฏฺฏํ กถิตํ.

๒. อลํสุตฺตวณฺณนา

๖๒. ทุติเย อลํ อตฺตโน อลํ ปเรสนฺติ อตฺตโน จ ปเรสฺจ หิตปฏิปตฺติยํ สมตฺโถ ปริยตฺโต อนุจฺฉวิโก. ขิปฺปนิสนฺตีติ ขิปฺปํ อุปธาเรติ, ขนฺธธาตุอายตนาทีสุ กถิยมาเนสุ เต ธมฺเม ขิปฺปํ ชานาตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ สุตฺเต สมถวิปสฺสนา กถิตา. ปุคฺคลชฺฌาสเยน ปน เทสนาวิลาเสน เจตํ มตฺถกโต ปฏฺาย เหฏฺา โอตรนฺตํ กถิตนฺติ.

๓. สํขิตฺตสุตฺตวณฺณนา

๖๓. ตติเย เอวเมวาติ นิกฺการเณเนว. ยถา วา อยํ ยาจติ, เอวเมว. โมฆปุริสาติ มูฬฺหปุริสา ตุจฺฉปุริสา. อชฺเฌสนฺตีติ ยาจนฺติ. อนุพนฺธิตพฺพนฺติ อิริยาปถานุคมเนน อนุพนฺธิตพฺพํ มํ น วิชหิตพฺพํ มฺนฺติ. อาชานนตฺถํ อปสาเทนฺโต เอวมาห. เอส กิร ภิกฺขุ โอวาเท ทินฺเนปิ ปมาทเมว อนุยุฺชติ, ธมฺมํ สุตฺวา ตตฺเถว วสติ, สมณธมฺมํ กาตุํ น อิจฺฉติ. ตสฺมา ภควา เอวํ อปสาเทตฺวา ปุน ยสฺมา โส อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน , ตสฺมา ตํ โอวทนฺโต ตสฺมาติห เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพนฺติอาทิมาห. ตตฺถ อชฺฌตฺตํ เม จิตฺตํ ิตํ ภวิสฺสติ สุสณฺิตํ, น จ อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสนฺตีติ อิมินา ตาวสฺส โอวาเทน นิยกชฺฌตฺตวเสน จิตฺเตกคฺคตามตฺโต มูลสมาธิ วุตฺโต.

ตโต ‘‘เอตฺตเกเนว สนฺตุฏฺึ อนาปชฺชิตฺวา เอวํ โส สมาธิ วฑฺเฒตพฺโพ’’ติ ทสฺเสตุํ ยโต โข เต ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ จิตฺตํ ิตํ โหติ สุสณฺิตํ, น จ อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺติ, ตโต เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ‘‘เมตฺตา เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา ภวิสฺสติ…เป… สุสมารทฺธา’’ติ เอวมสฺส เมตฺตาวเสน ภาวนํ วฑฺเฒตฺวา ปุน ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ พหุลีกโต, ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ อิมํ สมาธึ สวิตกฺกสวิจารมฺปิ ภาเวยฺยาสีติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ยทา เต ภิกฺขุ อยํ มูลสมาธิ เอวํ เมตฺตาวเสน ภาวิโต โหติ, ตทา ตฺวํ ตาวตเกนปิ ตุฏฺึ อนาปชฺชิตฺวาว อิมํ มูลสมาธึ อฺเสุปิ อารมฺมเณสุ จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ ปาปยมาโน ‘‘สวิตกฺกสวิจารมฺปี’’ติอาทินา นเยน ภาเวยฺยาสีติ.

เอวํ วตฺวา จ ปน อวเสสพฺรหฺมวิหารปุพฺพงฺคมมฺปิสฺส อฺเสุ อารมฺมเณสุ จตุกฺกปฺจกชฺฌานภาวนํ กเรยฺยาสีติ ทสฺเสนฺโต ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘‘กรุณา เม เจโตวิมุตฺตี’’ติอาทิมาห. เอวํ เมตฺตาปุพฺพงฺคมํ จตุกฺกปฺจกชฺฌานภาวนํ ทสฺเสตฺวา ปุน กายานุปสฺสนาทิปุพฺพงฺคมํ ทสฺเสตุํ ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต เต ภิกฺขุ เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติอาทึ วตฺวา ยโต โข เต ภิกฺขุ อยํ สมาธิ เอวํ ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, ตโต ตฺวํ ภิกฺขุ เยน เยเนว คคฺฆสีติอาทิมาห. ตตฺถ คคฺฆสีติ คมิสฺสสิ. ผาสุํเยวาติ อิมินา อรหตฺตํ ทสฺเสติ. อรหตฺตปฺปตฺโต หิ สพฺพิริยาปเถสุ ผาสุ วิหรติ นาม.

๔. คยาสีสสุตฺตวณฺณนา

๖๔. จตุตฺเถ เอตทโวจาติ อตฺตโน ปธานภูมิยํ อุปฺปนฺนํ วิตกฺกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาโรเจตุํ – ‘‘ปุพฺพาหํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิวจนํ อโวจ. โอภาสนฺติ ทิพฺพจกฺขุาโณภาสํ. าณทสฺสนนฺติ ทิพฺพจกฺขุภูตํ าณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. สนฺนิวุตฺถปุพฺพนฺติ เอกโต วสิตปุพฺพํ. อิมสฺมึ ปน สุตฺเต ทิพฺพจกฺขุาณํ, อิทฺธิวิธาณํ, เจโตปริยาณํ, ยถากมฺมุปคาณํ, อนาคตํสาณํ, ปจฺจุปฺปนฺนํสาณํ, อตีตํสาณํ, ปุพฺเพนิวาสาณนฺติ อิมานิ ตาว อฏฺ าณานิ ปาฬิยํเยว อาคตานิ, เตหิ ปน สทฺธึ วิปสฺสนาาณานิ จตฺตาริ มคฺคาณานิ, จตฺตาริ ผลาณานิ, จตฺตาริ ปจฺจเวกฺขณาณานิ, จตฺตาริ ปฏิสมฺภิทาาณานิ ฉ อสาธารณาณานีติ เอตานิ าณานิ สโมธาเนตฺวา กเถนฺเตน เอวํ อิทํ สุตฺตํ กถิตํ นาม โหติ.

๕. อภิภายตนสุตฺตวณฺณนา

๖๕. ปฺจเม อภิภายตนานีติ อภิภวนการณานิ. กึ อภิภวนฺติ? ปจฺจนีกธมฺเมปิ อารมฺมณานิปิ. ตานิ หิ ปฏิปกฺขภาเวน ปจฺจนีกธมฺเม อภิภวนฺติ, ปุคฺคลสฺส าณุตฺตริยตาย อารมฺมณานิ. อชฺฌตฺตํ รูปสฺีติอาทีสุ ปน อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมวเสน อชฺฌตฺตํ รูปสฺี นาม โหติ. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกาย วา กโรติ. ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. ตํ ปน สุนีลกํ สุปีตกํ สุโลหิตกํ สุโอทาตํ น โหติ, อวิสุทฺธเมว โหติ.

เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺเสวํ ปริกมฺมํ อชฺฌตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ, นิมิตฺตํ ปน พหิทฺธา, โส เอวํ อชฺฌตฺตํ ปริกมฺมสฺส พหิทฺธา จ อปฺปนาย วเสน ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. ปริตฺตานีติ อวฑฺฒิตานิ. สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ สุวณฺณานิ วา โหนฺตุ ทุพฺพณฺณานิ วา, ปริตฺตวเสเนว อิทํ อภิภายตนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตานิ อภิภุยฺยาติ ยถา นาม สมฺปนฺนคฺคหณิโก กฏจฺฉุมตฺตํ ภตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘กึ เอตฺถ ภุฺชิตพฺพํ อตฺถี’’ติ สํกฑฺฒิตฺวา เอกกพฬเมว กโรติ, เอวเมว าณุตฺตริโก ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กิเมตฺถ ปริตฺตเก อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ อตฺถิ, นายํ มม ภาโร’’ติ ตานิ รูปานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ. ชานามิ ปสฺสามีติ อิมินา ปนสฺส อาโภโค กถิโต. โส จ โข สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺส, น อนฺโตสมาปตฺติยํ. เอวํสฺี โหตีติ อาโภคสฺายปิ ฌานสฺายปิ เอวํสฺี โหติ. อภิภวนสฺา หิสฺส อนฺโตสมาปตฺติยมฺปิ อตฺถิ, อาโภคสฺา ปน สมาปตฺติโต วุฏฺิตสฺเสว.

อปฺปมาณานีติ วฑฺฒิตปฺปมาณานิ, มหนฺตานีติ อตฺโถ. อภิภุยฺยาติ เอตฺถ จ ปน ยถา มหคฺฆโส ปุริโส เอกํ ภตฺตวฑฺฒิตกํ ลภิตฺวา ‘‘อฺาปิ โหตุ, อฺาปิ โหตุ, กึ เอสา มยฺหํ กริสฺสตี’’ติ น ตํ มหนฺตโต ปสฺสติ, เอวเมว าณุตฺตโร ปุคฺคโล วิสทาโณ ‘‘กึ เอตฺถ สมาปชฺชิตพฺพํ, นยิทํ อปฺปมาณํ, น มยฺหํ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถี’’ติ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ, สห นิมิตฺตุปฺปาทเนเวตฺถ อปฺปนํ ปาเปตีติ อตฺโถ.

อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อลาภิตาย วา อนตฺถิกตาย วา อชฺฌตฺตรูเป ปริกมฺมสฺาวิรหิโต.

เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตีติ ยสฺส ปริกมฺมมฺปิ นิมิตฺตมฺปิ พหิทฺธา อุปฺปนฺนํ, โส เอวํ พหิทฺธา ปริกมฺมสฺส เจว อปฺปนาย จ วเสน ‘‘อชฺฌตฺตํ อรูปสฺี เอโก พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. เสสเมตฺถ จตุตฺถาภิภายตเน จ วุตฺตนยเมว. อิเมสุ ปน จตูสุ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตวเสน อาคตํ, อปฺปมาณํ โมหจริตวเสน, สุวณฺณํ โทสจริตวเสน, ทุพฺพณฺณํ ราคจริตวเสน. เอเตสฺหิ เอตานิ สปฺปายานิ. สา จ เนสํ สปฺปายตา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๔๓) จริยนิทฺเทเส วุตฺตา.

ปฺจมอภิภายตนาทีสุ นีลานีติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน วุตฺตํ. นีลวณฺณานีติ วณฺณวเสน. นีลนิทสฺสนานีติ นิทสฺสนวเสน. อปฺายมานวิวรานิ อสมฺภินฺนวณฺณานิ เอกนีลาเนว หุตฺวา ทิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นีลนิภาสานีติ อิทํ ปน โอภาสวเสน วุตฺตํ, นีโลภาสานิ นีลปฺปภายุตฺตานีติ อตฺโถ. เอเตน เนสํ สุวิสุทฺธตํ ทสฺเสติ. วิสุทฺธวณฺณวเสเนว หิ อิมานิ อภิภายตนานิ วุตฺตานิ. ‘‘นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วา’’ติอาทิกํ ปเนตฺถ กสิณกรณฺจ ปริกมฺมฺจ อปฺปนาวิธานฺจ สพฺพํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) วิตฺถารโต วุตฺตเมวาติ.

๖. วิโมกฺขสุตฺตวณฺณนา

๖๖. วิโมกฺขาติ เกนฏฺเน วิโมกฺขา? อธิมุจฺจนฏฺเน. โก ปนายํ อธิมุจฺจนฏฺโ นาม? ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, อารมฺมเณ จ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺโ, ปิตุองฺเก วิสฺสฏฺงฺคปจฺจงฺคสฺส ทารกสฺส สยนํ วิย อนิคฺคหิตภาเวน นิราสงฺกตาย อารมฺมเณ ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ปนตฺโถ ปจฺฉิเม วิโมกฺเข นตฺถิ, ปุริเมสุ วิโมกฺเขสุ อตฺถิ.

รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ เอตฺถ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ นีลกสิณาทิวเสน อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตทสฺสตฺถีติ รูปี. พหิทฺธาปิ นีลกสิณาทีนิ รูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธวตฺถุเกสุ กสิเณสุ อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส ปุคฺคลสฺส จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว อุปฺปาทิตชฺฌานสฺส รูปาวจรชฺฌานานิ ทสฺสิตานิ.

สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ อิมินา สุวิสุทฺเธสุ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ฌานานิ ทสฺสิตานิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนาย ‘‘สุภ’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน สุวิสุทฺธํ สุภํ กสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา วิหรติ, โส ยสฺมา ‘‘สุภนฺติ อธิมุตฺโต โหตี’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา เอวํ เทสนา กตา. ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปน –

‘‘กถํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข? อิธ ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ …เป… วิหรติ. เมตฺตาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. กรุณาสหคเตน…เป… มุทิตาสหคเตน …เป… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ…เป… วิหรติ. อุเปกฺขาย ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกูลา โหนฺติ. เอวํ สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตีติ วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒) วุตฺตํ.

สพฺพโส รูปสฺานนฺติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๗๖-๒๗๗) วุตฺตเมว. อยํ อฏฺโม วิโมกฺโขติ อยํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ สพฺพโส วิสฺสฏฺตฺตา วิมุตฺตตฺตา อฏฺโม อุตฺตโม วิโมกฺโข นาม.

๗-๘. อนริยโวหารสุตฺตวณฺณนา

๖๗-๖๘. สตฺตเม อนริยโวหาราติ น อริยกถา สโทสกถา. ยาหิ เจตนาหิ เต โวหาเร โวหรนฺติ, ตาสํ เอตํ นามํ. อฏฺเม วุตฺตปฏิปกฺขนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๙. ปริสาสุตฺตวณฺณนา

๖๙. นวเม ขตฺติยปริสาติ ขตฺติยานํ ปริสานํ สนฺนิปาโต สมาคโม. เอส นโย สพฺพตฺถ. อเนกสตํ ขตฺติยปริสนฺติ พิมฺพิสารสมาคม-าติสมาคม-ลิจฺฉวิสมาคมาทิสทิสํ, อฺเสุ จกฺกวาเฬสุปิ ลพฺภเตว. สลฺลปิตปุพฺพนฺติ อาลาปสลฺลาโป กตปุพฺโพ. สากจฺฉาติ ธมฺมสากจฺฉาปิ สมาปชฺชิตปุพฺพา. ยาทิสโก เตสํ วณฺโณติ เต โอทาตาปิ โหนฺติ กาฬาปิ มงฺคุรจฺฉวีปิ, สตฺถา สุวณฺณวณฺโณ. อิทํ ปน สณฺานํ ปฏิจฺจ กถิตํ. สณฺานมฺปิ จ เกวลํ เตสํ ปฺายติเยว. น ปน ภควา มิลกฺขสทิโส โหติ, นาปิ อามุตฺตมณิกุณฺฑโล, พุทฺธเวเสเนว นิสีทติ. เตปิ อตฺตโน สมานสณฺานเมว ปสฺสนฺติ. ยาทิสโก เตสํ สโรติ เต ฉินฺนสฺสราปิ โหนฺติ คคฺคสฺสราปิ กากสฺสราปิ, สตฺถา พฺรหฺมสฺสโรว. อิทํ ปน ภาสนฺตรํ สนฺธาย กถิตํ. สเจปิ หิ สตฺถา ราชาสเน นิสินฺโน กเถติ, ‘‘อชฺช ราชา มธุเรน กเถตี’’ติ เนสํ โหติ. กเถตฺวา ปกฺกนฺเต ปน ภควติ ปุน ราชานํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘โก นุ โข อย’’นฺติ วีมํสา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ โก นุ โข อยนฺติ ‘‘อิมสฺมึ าเน อิทาเนว มาคธภาสาย สีหฬภาสาย มธุเรน อากาเรน กเถนฺโต โก นุ โข อยํ อนฺตรหิโต, กึ เทโว อุทาหุ มนุสฺโส’’ติ เอวํ วีมํสนฺตาปิ น ชานนฺตีติ อตฺโถ. กิมตฺถํ ปเนวํ อชานนฺตานํ ธมฺมํ เทเสตีติ? วาสนตฺถาย. เอวํ สุโตปิ หิ ธมฺโม อนาคเต ปจฺจโย โหตีติ อนาคตํ ปฏิจฺจ เทเสติ. อเนกสตํ พฺราหฺมณปริสนฺติอาทินํ โสณทณฺฑสมาคมาทิวเสน เจว อฺจกฺกวาฬวเสน จ สมฺภโว เวทิตพฺโพ.

๑๐. ภูมิจาลสุตฺตวณฺณนา

๗๐. ทสเม นิสีทนนฺติ อิธ จมฺมขณฺฑํ อธิปฺเปตํ. อุเทนํ เจติยนฺติ อุเทนยกฺขสฺส วสนฏฺาเน กตวิหาโร วุจฺจติ. โคตมกาทีสุปิ เอเสว นโย. ภาวิตาติ วฑฺฒิตา. พหุลีกตาติ ปุนปฺปุนํ กตา. ยานีกตาติ ยุตฺตยานํ วิย กตา. วตฺถุกตาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตา. อนุฏฺิตาติ อธิฏฺิตา. ปริจิตาติ สมนฺตโต จิตา สุวฑฺฒิตา. สุสมารทฺธาติ สุฏฺุ สมารทฺธา.

อิติ อนิยเมน กเถตฺวา ปุน นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ตถาคตสฺส โขติอาทิมาห. เอตฺถ กปฺปนฺติ อายุกปฺปํ. ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ยํ มนุสฺสานํ อายุปฺปมาณํ, ตํ ปริปุณฺณํ กโรนฺโต ติฏฺเยฺย. กปฺปาวเสสํ วาติ ‘‘อปฺปํ วา ภิยฺโย’’ติ วุตฺตวสฺสสตโต อติเรกํ วา. มหาสีวตฺเถโร ปนาห – ‘‘พุทฺธานํ อฏฺาเน คชฺชิตํ นาม นตฺถิ, ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชิตฺวา มรณนฺติกเวทนํ วิกฺขมฺเภนฺโต ภทฺทกปฺปเมว ติฏฺเยฺย. กสฺมา ปน น ิโตติ? อุปาทินฺนกสรีรํ นาม ขณฺฑิจฺจาทีหิ อภิภุยฺยติ, พุทฺธา จ ขณฺฑิจฺจาทิภาวํ อปฺปตฺวา ปฺจเม อายุโกฏฺาเส พหุชนสฺส ปิยมนาปกาเลเยว ปรินิพฺพายนฺติ. พุทฺธานุพุทฺเธสุ จ มหาสาวเกสุ ปรินิพฺพุเตสุ เอกเกเนว ขาณุเกน วิย าตพฺพํ โหติ ทหรสามเณรปริวาเรน วา, ตโต ‘อโห พุทฺธานํ ปริสา’ติ หีเฬตพฺพตํ อาปชฺเชยฺย. ตสฺมา น ิโต’’ติ. เอวํ วุตฺเตปิ โย ปน วุจฺจติ ‘‘อายุกปฺโป’’ติ, อิทเมว อฏฺกถาย นิยามิตํ.

ยถา ตํ มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโตติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา มาเรน ปริยุฏฺิตจิตฺโต อชฺโฌตฺถฏจิตฺโต อฺโปิ โกจิ ปุถุชฺชโน ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว นาสกฺขิ ปฏิวิชฺฌิตุนฺติ อตฺโถ. มาโร หิ ยสฺส สพฺเพน สพฺพํ ทฺวาทส วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, ตสฺส จิตฺตํ ปริยุฏฺาติ. เถรสฺส จ จตฺตาโร วิปลฺลาสา อปฺปหีนา, เตนสฺส มาโร จิตฺตํ ปริยุฏฺาสิ. โส ปน จิตฺตปริยุฏฺานํ กโรนฺโต กึ กโรตีติ? เภรวํ รูปารมฺมณํ วา ทสฺเสติ, สทฺทารมฺมณํ วา สาเวติ. ตโต สตฺตา ตํ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิวฏมุขา โหนฺติ, เตสํ มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา หทยํ มทฺทติ, ตโต วิสฺาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. เถรสฺส ปเนส มุเข หตฺถํ ปเวเสตุํ กึ สกฺขิสฺสติ, เภรวารมฺมณํ ปน ทสฺเสสิ. ตํ ทิสฺวา เถโร นิมิตฺโตภาสํ นปฺปฏิวิชฺฌิ. ภควา ชานนฺโตเยว กิมตฺถํ ยาว ตติยํ อามนฺเตสีติ? ปรโต ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต ภควา’’ติ ยาจิเต ‘‘ตุยฺเหเวตํ ทุกฺกฏํ, ตุยฺเหเวตํ อปรทฺธ’’นฺติ โทสาโรปเนน โส กตนุกรณตฺถํ.

มาโร ปาปิมาติ เอตฺถ สตฺเต อนตฺเถ นิโยเชนฺโต มาเรตีติ มาโร. ปาปิมาติ ตสฺเสว เววจนํ . โส หิ ปาปธมฺมสมนฺนาคตตฺตา ‘‘ปาปิมา’’ติ วุจฺจติ. กณฺโห, อนฺตโก, นมุจิ, ปมตฺตพนฺธูติปิ ตสฺเสว นามานิ. ภาสิตา โข ปเนสาติ อยฺหิ ภควโต สมฺโพธิปตฺติยา อฏฺเม สตฺตาเห โพธิมณฺเฑเยว อาคนฺตฺวา ‘‘ภควา ยทตฺถํ ตุมฺเหหิ ปารมิโย ปูริตา, โส โว อตฺโถ อนุปฺปตฺโต, ปฏิวิทฺธํ สพฺพฺุตฺาณํ, กึ เต โลกวิจารเณนา’’ติ วตฺวา ยถา อชฺช, เอวเมว ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต ภควา’’ติ ยาจิ. ภควา จสฺส ‘‘น ตาวาห’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ปฏิกฺขิปิ. ตํ สนฺธาย – ‘‘ภาสิตา โข ปเนสา, ภนฺเต’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ วิยตฺตาติ มคฺควเสน พฺยตฺตา, ตเถว วินีตา, ตถา วิสารทา. พหุสฺสุตาติ เตปิฏกวเสน พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. ตเมว ธมฺมํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมธรา. อถ วา ปริยตฺติพหุสฺสุตา เจว ปฏิเวธพหุสฺสุตา จ. ปริยตฺติปฏิเวธธมฺมานํเยว ธารณโต ธมฺมธราติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺนาติ อริยธมฺมสฺส อนุธมฺมภูตํ วิปสฺสนาธมฺมํ ปฏิปนฺนา. สามีจิปฺปฏิปนฺนาติ อนุจฺฉวิกปฏิปทํ ปฏิปนฺนา. อนุธมฺมจาริโนติ อนุธมฺมํ จรณสีลา. สกํ อาจริยกนฺติ อตฺตโน อาจริยวาทํ. อาจิกฺขิสฺสนฺตีติอาทีนิ สพฺพานิ อฺมฺเววจนานิ. สหธมฺเมนาติ สเหตุเกน สการเณน วจเนน. สปฺปาฏิหาริยนฺติ ยาว นิยฺยานิกํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสนฺติ.

พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขาตฺตยสงฺคหิตํ สกลํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. อิทฺธนฺติ สมิทฺธํ ฌานสฺสาทวเสน. ผีตนฺติ วุทฺธิปตฺตํ สพฺพปาลิผุลฺลํ วิย อภิฺาสมฺปตฺติวเสน. วิตฺถาริกนฺติ วิตฺถตํ ตสฺมึ ตสฺมึ ทิสาภาเค ปติฏฺิตวเสน. พาหุชฺนฺติ พหูหิ าตํ ปฏิวิทฺธํ มหาชนาภิสมยวเสน. ปุถุภูตนฺติ สพฺพากาเรน ปุถุลภาวปฺปตฺตํ. กถํ? ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิตนฺติ, ยตฺตกา วิฺุชาติกา เทวา เจว มนุสฺสา จ อตฺถิ, สพฺเพหิ สุฏฺุ ปกาสิตนฺติ อตฺโถ. อปฺโปสฺสุกฺโกติ นิราลโย. ตฺวฺหิ ปาปิม อฏฺมสตฺตาหโต ปฏฺาย ‘‘ปรินิพฺพาตุ ทานิ, ภนฺเต ภควา, ปรินิพฺพาตุ สุคโต’’ติ วิรวนฺโต อาหิณฺฑิตฺถ. อชฺช ทานิ ปฏฺาย วิคตุสฺสาโห โหหิ, มา มยฺหํ ปรินิพฺพานตฺถํ วายามํ กโรหีติ วทติ.

สโต สมฺปชาโน อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชีติ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺชิ ปชหิ. ตตฺถ น ภควา หตฺเถน เลฑฺฑุํ วิย อายุสงฺขารํ โอสฺสชิ, เตมาสมตฺตเมว ปน ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ปรํ น สมาปชฺชิสฺสามีติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอสฺสชี’’ติ. อุสฺสชีติปิ ปาโ. มหาภูมิจาโลติ มหนฺโต ปถวีกมฺโป. ตทา กิร ทสสหสฺสี โลกธาตุ กมฺปิตฺถ. ภึสนโกติ ภยชนโก. เทวทุนฺทุภิโย จ ผลึสูติ เทวเภริโย ผลึสุ, เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชิ, อกาลวิชฺชุลตา นิจฺฉรึสุ, ขณิกวสฺสํ วสฺสีติ วุตฺตํ โหติ.

อุทานํ อุทาเนสีติ กสฺมา อุทาเนสิ? โกจิ นาม วเทยฺย ‘‘ภควา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อนุพนฺธิตฺวา ‘ปรินิพฺพาตุ, ภนฺเต’ติ อุปทฺทุโต ภเยน อายุสงฺขารํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ, ตสฺโสกาโส มา โหตุ, ภีตสฺส หิ อุทานํ นาม นตฺถีติ ปีติเวควิสฺสฏฺํ อุทานํ อุทาเนสิ.

ตตฺถ สพฺเพสํ โสณสิงฺคาลาทีนมฺปิ ปจฺจกฺขภาวโต ตุลิตํ ปริจฺฉินฺนนฺติ ตุลํ. กึ ตํ? กามาวจรกมฺมํ. น ตุลํ, น วา ตุลํ สทิสมสฺส อฺํ โลกิยํ กมฺมํ อตฺถีติ อตุลํ. กึ ตํ? มหคฺคตกมฺมํ. อถ วา กามาวจรํ รูปาวจรํ ตุลํ, อรูปาวจรํ อตุลํ. อปฺปวิปากํ วา ตุลํ, พหุวิปากํ อตุลํ. สมฺภวนฺติ สมฺภวเหตุภูตํ, ราสิการกํ ปิณฺฑการกนฺติ อตฺโถ. ภวสงฺขารนฺติ ปุนพฺภวสงฺขารณกํ. อวสฺสชีติ วิสฺสชฺเชสิ. มุนีติ พุทฺธมุนิ. อชฺฌตฺตรโตติ นิยกชฺฌตฺตรโต. สมาหิโตติ อุปจารปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิโต. อภินฺทิ กวจมิวาติ กวจํ วิย อภินฺทิ. อตฺตสมฺภวนฺติ อตฺตนิ สฺชาตํ กิเลสํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สวิปากฏฺเน สมฺภวํ, ภวาภิสงฺขรณฏฺเน ภวสงฺขารนฺติ จ ลทฺธนามํ ตุลาตุลสงฺขาตํ โลกิยกมฺมฺจ โอสฺสชิ, สงฺคามสีเส มหาโยโธ กวจํ วิย อตฺตสมฺภวํ กิเลสฺจ อชฺฌตฺตรโต หุตฺวา สมาหิโต หุตฺวา อภินฺทีติ.

อถ วา ตุลนฺติ ตุเลนฺโต ตีเรนฺโต. อตุลฺจ สมฺภวนฺติ นิพฺพานฺเจว สมฺภวฺจ. ภวสงฺขารนฺติ ภวคามิกมฺมํ. อวสฺสชิ มุนีติ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา, ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิพฺพานํ นิจฺจ’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๗-๓๘) นเยน ตุลยนฺโต พุทฺธมุนิ ภเว อาทีนวํ, นิพฺพาเน จ อานิสํสํ ทิสฺวา ตํ ขนฺธานํ มูลภูตํ ภวสงฺขารํ กมฺมํ ‘‘กมฺมกฺขยาย สํวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๑; อ. นิ. ๔.๒๓๒-๒๓๓) เอวํ วุตฺเตน กมฺมกฺขยกเรน อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กถํ? อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต, อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภวํ. โส หิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต, สมถวเสน สมาหิโตติ เอวํ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย สมถวิปสฺสนาพเลน กวจมิว อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ, อตฺตนิ สมฺภวตฺตา ‘‘อตฺตสมฺภว’’นฺติ ลทฺธนามํ สพฺพกิเลสชาลํ อภินฺทิ. กิเลสาภาเวน จ กตํ กมฺมํ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อวสฺสฏฺํ นาม โหตีติ เอวํ กิเลสปฺปหาเนน กมฺมํ ปชหิ. ปหีนกิเลสสฺส จ ภยํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา อภีโตว อายุสงฺขารํ โอสฺสชฺชิ, อภีตภาวาปนตฺถฺจ อุทานํ อุทาเนสีติ เวทิตพฺโพ.

ยํ มหาวาตาติ เยน สมเยน ยสฺมึ วา สมเย มหาวาตา. วายนฺตีติ อุปกฺเขปกวาตา นาม อุฏฺหนฺติ, เต วายนฺตา สฏฺิสหสฺสาธิกนวโยชนสตสหสฺสพหลํ อุทกสนฺธารกวาตํ อุปจฺฉินฺทนฺติ, ตโต อากาเส อุทกํ ภสฺสติ, ตสฺมึ ภสฺสนฺเต ปถวี ภสฺสติ, ปุน วาโต อตฺตโน พเลน อนฺโตธมฺมกรเณ วิย อุทกํ อาพนฺธิตฺวา คณฺหาติ, ตโต อุทกํ อุคฺคจฺฉติ, ตสฺมึ อุคฺคจฺฉนฺเต ปถวี อุคฺคจฺฉติ. เอวํ อุทกํ กมฺปิตํ ปถวึ กมฺเปติ. เอตฺจ กมฺปนํ ยาวชฺชกาลาปิ โหติเยว, พหุภาเวน ปน โอคจฺฉนุคฺคจฺฉนํ น ปฺายติ.

มหิทฺธิกา มหานุภาวาติ อิชฺฌนสฺส มหนฺตตาย มหิทฺธิกา, อนุภวิตพฺพสฺส มหนฺตตาย มหานุภาวา. ปริตฺตาติ ทุพฺพลา. อปฺปมาณาติ พลวา. โส อิมํ ปถวึ กมฺเปตีติ โส อิทฺธึ นิพฺพตฺเตตฺวา สํเวเชนฺโต มหาโมคฺคลฺลาโน วิย, วีมํสนฺโต วา มหานาคตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺโย สงฺฆรกฺขิตสามเณโร วิย ปถวึ กมฺเปติ. สงฺกมฺเปตีติ สมนฺตโต กมฺเปติ. สมฺปกมฺเปตีติ ตสฺเสว เววจนํ. อิติ อิเมสุ อฏฺสุ ปถวิกมฺเปสุ ปโม ธาตุโกเปน, ทุติโย อิทฺธานุภาเวน, ตติยจตุตฺถา ปุฺเตเชน, ปฺจโม าณเตเชน, ฉฏฺโ สาธุการทานวเสน, สตฺตโม การุฺสภาเวน, อฏฺโม อาโรทเนน. มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเต จ ตโต นิกฺขมนฺเต จ มหาสตฺเต ตสฺส ปุฺเตเชน ปถวี อกมฺปิตฺถ, อภิสมฺโพธิยํ าณเตชาภิหตา หุตฺวา อกมฺปิตฺถ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน สาธุการภาวสณฺิตา สาธุการํ ททมานา อกมฺปิตฺถ, อายุสงฺขารโอสฺสชฺชเน การุฺสภาวสณฺิตา จิตฺตสงฺโขภํ อสหมานา อกมฺปิตฺถ, ปรินิพฺพาเน อาโรทนเวคตุนฺนา หุตฺวา อกมฺปิตฺถ. อยํ ปนตฺโถ ปถวิเทวตาย วเสน เวทิตพฺโพ. มหาภูตปถวิยา ปเนตํ นตฺถิ อเจตนตฺตา. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

ภูมิจาลวคฺโค สตฺตโม.