📜
๒. มหาวคฺโค
๑. เวรฺชสุตฺตํ
๑๑. [ปารา. ๑ อาทโย] เอวํ ¶ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวรฺชายํ วิหรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล. อถ โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ¶ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วีติสาเรตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม – ‘น สมโณ โคตโม พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุฑฺเฒ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตตี’ติ. ตยิทํ, โภ โคตม, ตเถว. น หิ ภวํ โคตโม พฺราหฺมเณ ชิณฺเณ วุฑฺเฒ มหลฺลเก อทฺธคเต วโยอนุปฺปตฺเต อภิวาเทติ วา ปจฺจุฏฺเติ วา อาสเนน วา นิมนฺเตติ. ตยิทํ, โภ โคตม, น สมฺปนฺนเมวา’’ติ. ‘‘นาหํ ตํ, พฺราหฺมณ, ปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ยมหํ อภิวาเทยฺยํ วา ปจฺจุฏฺเยฺยํ วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยํ. ยฺหิ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต อภิวาเทยฺย ¶ วา ปจฺจุฏฺเยฺย วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺย, มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺยา’’ติ.
‘‘อรสรูโป ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อรสรูโป สมโณ โคตโม’ติ. เย เต, พฺราหฺมณ, รูปรสา สทฺทรสา คนฺธรสา รสรสา โผฏฺพฺพรสา, เต ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา [อนภาวกตา (สี. ปี.)] อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อรสรูโป สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ [วเทสิ (สี. ก.)].
‘‘นิพฺโภโค ¶ ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน ¶ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘นิพฺโภโค สมโณ โคตโม’ติ. เย เต, พฺราหฺมณ, รูปโภคา สทฺทโภคา คนฺธโภคา รสโภคา โผฏฺพฺพโภคา, เต ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘นิพฺโภโค สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.
‘‘อกิริยวาโท ¶ ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อกิริยํ วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อกิริยํ ¶ วทามิ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.
‘‘อุจฺเฉทวาโท ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, อุจฺเฉทํ วทามิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุจฺเฉทํ วทามิ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.
‘‘เชคุจฺฉี ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, ชิคุจฺฉามิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน; ชิคุจฺฉามิ อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ¶ สมาปตฺติยา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.
‘‘เวนยิโก ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม’ติ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ¶ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ วินยาย ธมฺมํ ¶ เทเสมิ. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.
‘‘ตปสฺสี ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม’ติ. ตปนียาหํ ¶ , พฺราหฺมณ, ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วทามิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. ยสฺส โข, พฺราหฺมณ, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘ตปสฺสี’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, พฺราหฺมณ, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติ.
‘‘อปคพฺโภ ภวํ โคตโม’’ติ! ‘‘อตฺถิ ขฺเวส, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม’ติ. ยสฺส โข, พฺราหฺมณ, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา ¶ , ตมหํ ‘อปคพฺโภ’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, พฺราหฺมณ ¶ , อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, พฺราหฺมณ, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม’ติ, โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสิ.
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณ, กุกฺกุฏิยา อณฺฑานิ อฏฺ วา ทส วา ทฺวาทส วา. ตานาสฺสุ กุกฺกุฏิยา สมฺมา อธิสยิตานิ สมฺมา ปริเสทิตานิ สมฺมา ปริภาวิตานิ. โย นุ โข เตสํ กุกฺกุฏจฺฉาปกานํ ปมตรํ ปาทนขสิขาย วา มุขตุณฺฑเกน วา อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา โสตฺถินา อภินิพฺภิชฺเชยฺย, กินฺติ สฺวาสฺส วจนีโย – ‘เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วา’’’ติ? ‘‘เชฏฺโ ติสฺส, โภ โคตม, วจนีโย. โส หิ เนสํ, โภ โคตม, เชฏฺโ โหตี’’ติ.
‘‘เอวเมวํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, อวิชฺชาคตาย ปชาย อณฺฑภูตาย ปริโยนทฺธาย อวิชฺชณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา เอโกว โลเก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ. อหฺหิ, พฺราหฺมณ ¶ , เชฏฺโ เสฏฺโ โลกสฺส. อารทฺธํ โข ปน เม, พฺราหฺมณ, วีริยํ อโหสิ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺคํ.
‘‘โส ¶ โข อหํ, พฺราหฺมณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรามิ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ¶ ปฏิสํเวเทมิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ.
‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ.
‘‘อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา ปเม ยาเม ปมา วิชฺชา อธิคตา; อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ปมา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว ¶ อณฺฑโกสมฺหา.
‘‘โส ¶ ¶ เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต สตฺตานํ จุตูปปาตาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต ¶ สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, อริยานํ อุปวาทกา, มิจฺฉาทิฏฺิกา, มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนาติ. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา, วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา, มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา, อริยานํ อนุปวาทกา, สมฺมาทิฏฺิกา, สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา. เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ.
‘‘อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา มชฺฌิเม ยาเม ทุติยา วิชฺชา อธิคตา; อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน, ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ทุติยา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหา.
‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ ¶ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต อาสวานํ ขยาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมสึ. โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ; ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ ¶ อาสวสมุทโย’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ, ‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ อพฺภฺาสึ. ตสฺส เม เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจิตฺถ. วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ อโหสิ. ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ อพฺภฺาสึ.
‘‘อยํ ¶ โข เม, พฺราหฺมณ, รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม ตติยา วิชฺชา อธิคตา; อวิชฺชา วิหตา วิชฺชา อุปฺปนฺนา; ตโม วิหโต อาโลโก อุปฺปนฺโน ¶ , ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต. อยํ โข เม, พฺราหฺมณ, ตติยา อภินิพฺภิทา อโหสิ กุกฺกุฏจฺฉาปกสฺเสว อณฺฑโกสมฺหา’’ติ.
เอวํ วุตฺเต เวรฺโช พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เชฏฺโ ภวํ โคตโม, เสฏฺโ ภวํ โคตโม. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ [นิกุชฺชิตํ (ก.)] วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน ¶ อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโต. เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปมํ.
๒. สีหสุตฺตํ
๑๒. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร [สนฺธาคาเร (ก.)] สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ.
เตน ¶ โข ปน สมเยน สีโห เสนาปติ นิคณฺสาวโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยํนูนาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต [นาถปุตฺโต (ก. สี.), นาตปุตฺโต (ก. สี.)] เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
‘‘กึ ¶ ¶ ปน ตฺวํ, สีห, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, สีห, โคตโม อกิริยวาโท, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. อถ โข สีหสฺส ¶ เสนาปติสฺส โย อโหสิ คมิยาภิสงฺขาโร [คมิกาภิสงฺขาโร (ก. สี.) มหาว. ๒๙๐] ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ.
ทุติยมฺปิ โข สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส…เป… ธมฺมสฺส…เป… สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ทุติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส…เป… สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ยํนูนาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน นิคณฺโ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺํ นาฏปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ.
‘‘กึ ปน ตฺวํ, สีห, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสสิ? สมโณ หิ, สีห, โคตโม อกิริยวาโท อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’ติ. ทุติยมฺปิ โข สีหสฺส เสนาปติสฺส โย อโหสิ คมิยาภิสงฺขาโร ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิ.
ตติยมฺปิ โข สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส…เป… ธมฺมสฺส…เป… สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ตติยมฺปิ โข สีหสฺส ¶ เสนาปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ โข โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ภวิสฺสติ, ตถา หิเม สมฺพหุลา อภิฺาตา อภิฺาตา ลิจฺฉวี สนฺถาคาเร สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกปริยาเยน พุทฺธสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, ธมฺมสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ, สงฺฆสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. กึ หิเม กริสฺสนฺติ นิคณฺา ¶ อปโลกิตา วา อนปโลกิตา วา? ยํนูนาหํ อนปโลเกตฺวาว นิคณฺเ [นิคณฺํ (สฺยา. ก.) มหาว. ๒๙๐ ปสฺสิตพฺพํ] ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกเมยฺยํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติ.
อถ ¶ โข สีโห เสนาปติ ปฺจมตฺเตหิ รถสเตหิ ทิวาทิวสฺส เวสาลิยา นิยฺยาสิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว อคมาสิ. อถ โข สีโห เสนาปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ ¶ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ. เย เต, ภนฺเต, เอวมาหํสุ – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ, กจฺจิ เต, ภนฺเต, ภควโต วุตฺตวาทิโน น จ ภควนฺตํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท [วาทานุปาโต (ก. สี. สฺยา.) อ. นิ. ๓.๕๘; ๕.๕] คารยฺหํ านํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ, ภนฺเต, ภควนฺต’’นฺติ.
‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ ¶ .
‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘อตฺถิ ¶ , สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘อตฺถิ ¶ , สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘อตฺถิ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสฺสาสโก สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ¶ ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, อกิริยํ วทามิ กายทุจฺจริตสฺส วจีทุจฺจริตสฺส มโนทุจฺจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ¶ อกิริยํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อกิริยวาโท สมโณ โคตโม, อกิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, กิริยํ วทามิ กายสุจริตสฺส วจีสุจริตสฺส มโนสุจริตสฺส; อเนกวิหิตานํ กุสลานํ ธมฺมานํ กิริยํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘กิริยวาโท สมโณ โคตโม, กิริยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, อุจฺเฉทํ วทามิ ราคสฺส โทสสฺส ¶ โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อุจฺเฉทํ วทามิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน ¶ วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทวาโท สมโณ โคตโม, อุจฺเฉทาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, ชิคุจฺฉามิ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน ¶ มโนทุจฺจริเตน; ชิคุจฺฉามิ อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เชคุจฺฉี สมโณ โคตโม, เชคุจฺฉิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺส โทสสฺส โมหสฺส; อเนกวิหิตานํ ¶ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘เวนยิโก สมโณ โคตโม, วินยาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? ตปนียาหํ, สีห, ปาปเก อกุสเล ธมฺเม วทามิ กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. ยสฺส โข, สีห, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘ตปสฺสี’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, สีห, ตปนียา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘ตปสฺสี สมโณ ¶ โคตโม, ตปสฺสิตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม ¶ จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? ยสฺส โข ¶ , สีห, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา, ตมหํ ‘อปคพฺโภ’ติ วทามิ. ตถาคตสฺส โข, สีห, อายตึ คพฺภเสยฺยา ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อปคพฺโภ สมโณ โคตโม, อปคพฺภตาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
‘‘กตโม จ, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสฺสาสโก สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’ติ? อหฺหิ, สีห, อสฺสาสโก ¶ ปรเมน อสฺสาเสน, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสมิ, เตน จ สาวเก วิเนมิ. อยํ โข, สีห, ปริยาโย, เยน มํ ปริยาเยน สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – ‘อสฺสาสโก สมโณ โคตโม, อสฺสาสาย ธมฺมํ เทเสติ, เตน จ สาวเก วิเนตี’’’ติ.
เอวํ วุตฺเต สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ¶ ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
‘‘อนุวิจฺจการํ โข, สีห, กโรหิ. อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’’ติ. ‘‘อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ, ยํ มํ ภควา เอวมาห – ‘อนุวิจฺจการํ โข, สีห, กโรหิ. อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. มฺหิ, ภนฺเต, อฺติตฺถิยา สาวกํ ลภิตฺวา เกวลกปฺปํ เวสาลึ ปฏากํ ปริหเรยฺยุํ – ‘สีโห อมฺหากํ เสนาปติ สาวกตฺตํ อุปคโต’ติ. อถ จ ปน ภควา เอวมาห – ‘อนุวิจฺจการํ, สีห, กโรหิ. อนุวิจฺจกาโร ตุมฺหาทิสานํ าตมนุสฺสานํ สาธุ โหตี’ติ. เอสาหํ, ภนฺเต, ทุติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
‘‘ทีฆรตฺตํ ¶ โข เต, สีห, นิคณฺานํ โอปานภูตํ กุลํ, เยน เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสี’’ติ. ‘‘อิมินาปาหํ, ภนฺเต, ภควโต ภิยฺโยโสมตฺตาย อตฺตมโน อภิรทฺโธ, ยํ มํ ภควา เอวมาห – ‘ทีฆรตฺตํ โข เต, สีห, นิคณฺานํ โอปานภูตํ กุลํ, เยน ¶ เนสํ อุปคตานํ ปิณฺฑกํ ทาตพฺพํ มฺเยฺยาสี’ติ. สุตํ เมตํ, ภนฺเต – ‘สมโณ โคตโม เอวมาห – มยฺหเมว ¶ ทานํ ทาตพฺพํ, มยฺหเมว สาวกานํ ทาตพฺพํ; มยฺหเมว ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ ทินฺนํ มหปฺผลํ; มยฺหเมว สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ, น อฺเสํ สาวกานํ ทินฺนํ มหปฺผล’นฺติ, อถ จ ปน มํ ภควา นิคณฺเสุปิ ทาเน ¶ สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)]. อปิ จ, ภนฺเต, มยเมตฺถ กาลํ ชานิสฺสาม. เอสาหํ, ภนฺเต, ตติยมฺปิ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ. อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
อถ โข ภควา สีหสฺส เสนาปติสฺส อนุปุพฺพึ กถํ [อนุปุพฺพิกถํ (สพฺพตฺถ)] กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ, กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา ภควา อฺาสิ สีหํ เสนาปตึ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมวํ สีหสฺส เสนาปติสฺส ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ.
อถ โข สีโห เสนาปติ ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ¶ ภตฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน.
อถ โข สีโห เสนาปติ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข สีโห เสนาปติ อฺตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส ¶ , ปวตฺตมํสํ ชานาหี’’ติ. อถ โข สีโห เสนาปติ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก นิเวสเน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต ¶ กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต! นิฏฺิตํ ภตฺต’’นฺติ.
อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สีหสฺส เสนาปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. เตน โข ปน ¶ สมเยน สมฺพหุลา นิคณฺา เวสาลิยํ รถิกาย รถิกํ [รถิยาย รถิยํ (พหูสุ)] สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ – ‘‘อชฺช สีเหน เสนาปตินา ถูลํ ปสุํ วธิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ภตฺตํ กตํ. ตํ สมโณ โคตโม ชานํ อุทฺทิสฺสกตํ มํสํ ปริภฺุชติ ปฏิจฺจกมฺม’’นฺติ.
อถ โข อฺตโร ปุริโส เยน สีโห เสนาปติ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สีหสฺส เสนาปติสฺส อุปกณฺณเก อาโรเจสิ – ‘‘ยคฺเฆ, ภนฺเต, ชาเนยฺยาสิ! เอเต สมฺพหุลา นิคณฺา เวสาลิยํ รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ – ‘อชฺช สีเหน เสนาปตินา ถูลํ ปสุํ วธิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ภตฺตํ กตํ. ตํ สมโณ โคตโม ชานํ อุทฺทิสฺสกตํ มํสํ ปริภฺุชติ ¶ ปฏิจฺจกมฺม’นฺติ. อลํ อยฺโย ทีฆรตฺตฺหิ เต อายสฺมนฺโต อวณฺณกามา พุทฺธสฺส อวณฺณกามา ธมฺมสฺส อวณฺณกามา สงฺฆสฺส. น จ ปเนเต อายสฺมนฺโต ชิริทนฺติ ตํ ภควนฺตํ อสตา ตุจฺฉา มุสา อภูเตน อพฺภาจิกฺขิตุํ; น จ มยํ ชีวิตเหตุปิ สฺจิจฺจ ปาณํ ชีวิตา โวโรเปยฺยามา’’ติ.
อถ โข สีโห เสนาปติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิ. อถ โข สีโห เสนาปติ ¶ ภควนฺตํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สีหํ เสนาปตึ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามีติ. ทุติยํ.
๓. อสฺสาชานียสุตฺตํ
๑๓. ‘‘อฏฺหิ ¶ , ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโท อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รฺโ ภทฺโท อสฺสาชานีโย อุภโต สุชาโต โหติ – มาติโต จ ปิติโต จ. ยสฺสํ ทิสายํ อฺเปิ ภทฺทา อสฺสาชานียา ชายนฺติ, ตสฺสํ ทิสายํ ชาโต โหติ. ยํ โข ปนสฺส โภชนํ เทนฺติ – อลฺลํ วา สุกฺขํ วา – ตํ สกฺกจฺจํเยว ปริภฺุชติ อวิกิรนฺโต. เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา อภินิสีทิตุํ วา อภินิปชฺชิตุํ วา. โสรโต โหติ ¶ สุขสํวาโส, น จ อฺเ อสฺเส อุพฺเพเชตา. ยานิ โข ปนสฺส โหนฺติ [ยานิ โข ปนสฺส ตานิ (สฺยา.)] สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ, ตานิ ยถาภูตํ สารถิสฺส อาวิกตฺตา โหติ. เตสมสฺส สารถิ ¶ อภินิมฺมทนาย วายมติ. วาหี โข ปน โหติ. ‘กามฺเ อสฺสา วหนฺตุ วา มา วา, อหเมตฺถ วหิสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ. คจฺฉนฺโต โข ปน อุชุมคฺเคเนว คจฺฉติ. ถามวา โหติ ยาว ชีวิตมรณปริยาทานา ถามํ อุปทํเสตา. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รฺโ ภทฺโท อสฺสาชานีโย ราชารโห โหติ ราชโภคฺโค, รฺโ องฺคนฺเตว สงฺขํ คจฺฉติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ ¶ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. ยํ โข ปนสฺส โภชนํ เทนฺติ – ลูขํ วา ปณีตํ วา – ตํ สกฺกจฺจํเยว ปริภฺุชติ อวิหฺมาโน. เชคุจฺฉี โหติ กายทุจฺจริเตน วจีทุจฺจริเตน มโนทุจฺจริเตน; เชคุจฺฉี โหติ อเนกวิหิตานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา. โสรโต โหติ สุขสํวาโส, น อฺเ ภิกฺขู อุพฺเพเชตา. ยานิ โข ปนสฺส โหนฺติ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ¶ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ, ตานิ ยถาภูตํ อาวิกตฺตา โหติ สตฺถริ วา วิฺูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ. เตสมสฺส สตฺถา วา วิฺู วา สพฺรหฺมจารี อภินิมฺมทนาย วายมติ. สิกฺขิตา โข ปน โหติ. ‘กามฺเ ¶ ภิกฺขู สิกฺขนฺตุ วา มา วา, อหเมตฺถ สิกฺขิสฺสามี’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทติ. คจฺฉนฺโต โข ปน อุชุมคฺเคเนว คจฺฉติ; ตตฺรายํ อุชุมคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธิ. อารทฺธวีริโย วิหรติ – ‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ, สรีเร อุปสุสฺสตุ มํสโลหิตํ; ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ, น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ…เป… อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ ¶ . ตติยํ.
๔. อสฺสขฬุงฺกสุตฺตํ
๑๔. ‘‘อฏฺ จ [อฏฺ (สฺยา.)], ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺเก [อสฺสขลุงฺเก (สี.)] เทเสสฺสามิ อฏฺ จ อสฺสโทเส, อฏฺ จ ปุริสขฬุงฺเก อฏฺ จ ปุริสโทเส. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตเม ¶ จ, ภิกฺขเว, อฏฺ อสฺสขฬุงฺกา อฏฺ จ อสฺสโทสา? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉโต ปฏิกฺกมติ, ปิฏฺิโต ¶ รถํ ปวตฺเตติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉา ลงฺฆติ, กุพฺพรํ หนติ, ติทณฺฑํ ภฺชติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา รถีสาย สตฺถึ อุสฺสชฺชิตฺวา รถีสํเยว อชฺโฌมทฺทติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อุมฺมคฺคํ คณฺหติ, อุพฺพฏุมํ รถํ กโรติ. เอวรูโปปิ ¶ , ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ลงฺฆติ ปุริมกายํ ปคฺคณฺหติ ปุริเม ปาเท. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ¶ โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อนาทิยิตฺวา สารถึ อนาทิยิตฺวา ปโตทลฏฺึ [ปโตทํ (สี. ปี.), ปโตทยฏฺึ (สฺยา. กํ.)] ทนฺเตหิ มุขาธานํ [มุขาานํ (ก.)] วิธํสิตฺวา ¶ เยน กามํ ปกฺกมติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต ¶ สารถินา เนว อภิกฺกมติ โน ปฏิกฺกมติ ตตฺเถว ขีลฏฺายี ิโต โหติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อสฺสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปุริเม จ ปาเท สํหริตฺวา ปจฺฉิเม จ ปาเท สํหริตฺวา [สงฺขริตฺวา (ก.)] ตตฺเถว จตฺตาโร ปาเท อภินิสีทติ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ อสฺสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อสฺสโทโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อสฺสขฬุงฺกา อฏฺ จ อสฺสโทสา.
[วิภ. ๙๕๖] ‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุริสขฬุงฺกา อฏฺ จ ปุริสโทสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘น สรามี’ติ อสติยา นิพฺเพเติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉโต ปฏิกฺกมติ, ปิฏฺิโต รถํ วตฺเตติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปุริสโทโส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกํเยว ¶ ปฏิปฺผรติ – ‘กึ นุ โข ตุยฺหํ พาลสฺส อพฺยตฺตสฺส ภณิเตน! ตฺวมฺปิ นาม ภณิตพฺพํ มฺสี’ติ! เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปจฺฉา ลงฺฆติ, กุพฺพรํ หนติ, ติทณฺฑํ ภฺชติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน โจทกสฺเสว ปจฺจาโรเปติ – ‘ตฺวํ โขสิ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตฺวํ ตาว ปมํ ปฏิกโรหี’ติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา รถีสาย สตฺถึ อุสฺสชฺชิตฺวา รถีสํเยว อชฺโฌมทฺทติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปุริสโทโส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อฺเนาฺํ ปฏิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อุมฺมคฺคํ คณฺหติ, อุพฺพฏุมํ รถํ กโรติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา ¶ โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน สงฺฆมชฺเฌ พาหุวิกฺเขปํ กโรติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว ¶ , อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ลงฺฆติ, ปุริมกายํ ปคฺคณฺหติ ปุริเม ปาเท; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจโม ปุริสโทโส.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน อนาทิยิตฺวา สงฺฆํ อนาทิยิตฺวา โจทกํ สาปตฺติโกว เยน กามํ ปกฺกมติ. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา อนาทิยิตฺวา สารถึ อนาทิยิตฺวา ปโตทลฏฺึ ทนฺเตหิ มุขาธานํ วิธํสิตฺวา เยน กามํ ปกฺกมติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ฉฏฺโ ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา โจทิยมาโน ‘เนวาหํ อาปนฺโนมฺหิ, น ปนาหํ อาปนฺโนมฺหี’ติ โส ตุณฺหีภาเวน สงฺฆํ วิเหเติ [วิเหเสติ (ปี. ก.)]. เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา เนว อภิกฺกมติ โน ปฏิกฺกมติ ตตฺเถว ขีลฏฺายี ิโต โหติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม ปุริสโทโส.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ภิกฺขุํ อาปตฺติยา โจเทนฺติ. โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ อาปตฺติยา ¶ โจทิยมาโน เอวมาห ¶ ¶ – ‘กึ นุ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อติพาฬฺหํ มยิ พฺยาวฏา ยาว [อิทํ ปทํ สีหฬโปตฺถเก นตฺถิ] อิทานาหํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสามี’ติ. โส สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติตฺวา เอวมาห – ‘อิทานิ โข ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อตฺตมนา โหถา’ติ? เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺโก ‘เปหี’ติ วุตฺโต, วิทฺโธ สมาโน โจทิโต สารถินา ปุริเม จ ปาเท สํหริตฺวา ปจฺฉิเม จ ปาเท สํหริตฺวา ตตฺเถว จตฺตาโร ปาเท อภินิสีทติ; ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมํ ปุคฺคลํ วทามิ. เอวรูโปปิ, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม ปุริสโทโส. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปุริสขฬุงฺกา อฏฺ จ ปุริสโทสา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. มลสุตฺตํ
๑๕. ‘‘อฏฺิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, มลานิ. กตมานิ อฏฺ? อสชฺฌายมลา, ภิกฺขเว, มนฺตา; อนุฏฺานมลา, ภิกฺขเว, ฆรา; มลํ, ภิกฺขเว, วณฺณสฺส โกสชฺชํ; ปมาโท, ภิกฺขเว, รกฺขโต มลํ; มลํ, ภิกฺขเว, อิตฺถิยา ทุจฺจริตํ; มจฺเฉรํ, ภิกฺขเว, ททโต มลํ; มลา, ภิกฺขเว, ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ; ตโต [ตโต จ (สฺยา. ปี.)], ภิกฺขเว, มลา มลตรํ อวิชฺชา ปรมํ มลํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ มลานี’’ติ.
‘‘อสชฺฌายมลา มนฺตา, อนุฏฺานมลา ฆรา;
มลํ วณฺณสฺส โกสชฺชํ, ปมาโท รกฺขโต มลํ.
‘‘มลิตฺถิยา ทุจฺจริตํ, มจฺเฉรํ ททโต มลํ;
มลา เว ปาปกา ธมฺมา, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ;
ตโต มลา มลตรํ, อวิชฺชา ปรมํ มล’’นฺติ. ปฺจมํ;
๖. ทูเตยฺยสุตฺตํ
๑๖. [จูฬว. ๓๔๗] ‘‘อฏฺหิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โสตา จ โหติ, สาเวตา จ, อุคฺคเหตา จ, ธาเรตา จ, วิฺาตา ¶ จ, วิฺาเปตา จ, กุสโล จ สหิตาสหิตสฺส, โน จ กลหการโก – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหติ. อฏฺหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต โสตา จ โหติ, สาเวตา จ, อุคฺคเหตา จ, ธาเรตา จ, วิฺาตา จ, วิฺาเปตา จ, กุสโล จ สหิตาสหิตสฺส, โน จ กลหการโก. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สาริปุตฺโต ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหตี’’ติ.
‘‘โย เว น พฺยถติ [น เวธติ (สี.), น พฺยาธติ (สฺยา. ปี.)] ปตฺวา, ปริสํ อุคฺควาทินึ [อุคฺควาทินํ (สี.), อุคฺคหวาทินํ (สฺยา. ปี.), อุคฺคตวาทินึ (ก.)];
น จ หาเปติ วจนํ, น จ ฉาเทติ สาสนํ.
‘‘อสนฺทิทฺธฺจ ¶ ภณติ [อสนฺทิทฺโธ จ อกฺขาติ (จูฬว. ๓๔๗)], ปุจฺฉิโต น จ กุปฺปติ;
ส เว ตาทิสโก ภิกฺขุ, ทูเตยฺยํ คนฺตุมรหตี’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. ปมพนฺธนสุตฺตํ
๑๗. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อากาเรหิ อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ. กตเมหิ อฏฺหิ? รุณฺเณน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; หสิเตน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; ภณิเตน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; อากปฺเปน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ ¶ ; วนภงฺเคน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; คนฺเธน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; รเสน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ; ผสฺเสน, ภิกฺขเว, อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหากาเรหิ ¶ อิตฺถี ปุริสํ พนฺธติ. เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุพทฺธา [สุพนฺธา (สี. สฺยา. ก.)], เย [เยว (สฺยา. ปี. ก.)] ผสฺเสน พทฺธา’’ติ [พนฺธาติ (สี. สฺยา. ก.)]. สตฺตมํ.
๘. ทุติยพนฺธนสุตฺตํ
๑๘. ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อากาเรหิ ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ. กตเมหิ อฏฺหิ? รุณฺเณน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; หสิเตน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; ภณิเตน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; อากปฺเปน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; วนภงฺเคน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; คนฺเธน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; รเสน, ภิกฺขเว ¶ , ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ; ผสฺเสน, ภิกฺขเว, ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหากาเรหิ ปุริโส อิตฺถึ พนฺธติ. เต, ภิกฺขเว, สตฺตา สุพทฺธา, เย ผสฺเสน พทฺธา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปหาราทสุตฺตํ
๑๙. เอกํ สมยํ ภควา เวรฺชายํ วิ หรติ นเฬรุปุจิมนฺทมูเล. อถ โข ปหาราโท อสุรินฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตํ โข ปหาราทํ อสุรินฺทํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘อปิ ¶ [กึ (ก.)] ปน, ปหาราท ¶ , อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อภิรมนฺติ, ภนฺเต, อสุรา มหาสมุทฺเท’’ติ. ‘‘กติ ปน, ปหาราท, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา [อพฺภุตธมฺมา (สฺยา. ก.) จูฬว. ๓๘๔ ปสฺสิตพฺพํ], เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อฏฺ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? มหาสมุทฺโท, ภนฺเต, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร ¶ , น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; อยํ [อยมฺปิ (ก.)], ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ [สํวตฺตติ (สฺยา.)]. ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว [ขิปฺปํเยว (สี.), ขิปฺปํเอว (ปี.), ขิปฺปฺเว (จูฬว. ๓๘๔)] ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ, ถลํ อุสฺสาเรติ; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภนฺเต, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา [ปตฺตา (ก., จูฬว. ๓๘๔)] ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ ¶ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, ภนฺเต, ยา จ [ยา กาจิ (สฺยา. ปี. ก.)] โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ ¶ อปฺเปนฺติ ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท พหุรตโน [ปหูตรตโน (ก.)] อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺลํ. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺลํ. อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท ¶ สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล [ติมิติมิงฺคลา ติมิรปิงฺคลา (สี.), ติมิติมิงฺคลา ติมิรมิงฺคลา (สฺยา. ปี.)] อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา. ยมฺปิ, ภนฺเต, มหาสมุทฺโท มหตํ ¶ ภูตานํ ¶ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา; สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ทฺวิโยชน… ติโยชน… จตุโยชน… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; อยํ, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภนฺเต ¶ , มหาสมุทฺเท อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺตีติ.
‘‘อปิ ปน, ภนฺเต, ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อภิรมนฺติ, ปหาราท, ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย’’ติ. ‘‘กติ ปน, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ? ‘‘อฏฺ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต ¶ ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, ยํ มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ¶ ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. ยมฺปิ, ปหาราท, มยา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺติ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ. ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ วาเหติ ถลํ อุสฺสาเรติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, โย โส ปุคฺคโล ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ ¶ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น เตน สงฺโฆ สํวสติ; ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ.
‘‘กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺนิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา สงฺโฆ จ เตน. ยมฺปิ, ปหาราท, โย โส ปุคฺคโล ¶ ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ อนฺโตปูติ อวสฺสุโต กสมฺพุชาโต, น ¶ เตน สงฺโฆ สํวสติ; ขิปฺปเมว นํ สนฺนิปติตฺวา อุกฺขิปติ; กิฺจาปิ โส โหติ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส สนฺนิสินฺโน, อถ โข โส อารกาว สงฺฆมฺหา สงฺโฆ จ เตน. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, ยา กาจิ มหานทิโย, เสยฺยถิทํ – คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, ตา มหาสมุทฺทํ ปตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘มหาสมุทฺโท’ ¶ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, จตฺตาโรเม วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา, เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ ตฺเวว [สมโณ สกฺยปุตฺติโย ตฺเวว (สฺยา. ก.)] สงฺขํ คจฺฉนฺติ. ยมฺปิ, ปหาราท, จตฺตาโรเม วณฺณา – ขตฺติยา, พฺราหฺมณา, เวสฺสา, สุทฺทา, เต ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา ชหนฺติ ปุริมานิ นามโคตฺตานิ, ‘สมณา สกฺยปุตฺติยา’ ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉนฺติ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, ยา จ โลเก สวนฺติโย มหาสมุทฺทํ อปฺเปนฺติ ยา จ อนฺตลิกฺขา ธารา ปปตนฺติ, น เตน มหาสมุทฺทสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. ยมฺปิ, ปหาราท, พหู เจปิ ภิกฺขู อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ¶ ปรินิพฺพายนฺติ, น เตน นิพฺพานธาตุยา อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายติ. อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ปหาราท, มหาสมุทฺโท เอกรโส โลณรโส; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส, วิมุตฺติรโส. ยมฺปิ ปหาราท ¶ , อยํ ธมฺมวินโย เอกรโส, วิมุตฺติรโส ¶ ; อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ รชตํ ชาตรูปํ โลหิตโก มสารคลฺลํ; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน. ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค. ยมฺปิ, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย พหุรตโน อเนกรตโน; ตตฺริมานิ รตนานิ, เสยฺยถิทํ – จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค; อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ปหาราท, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล ¶ อสุรา นาคา คนฺธพฺพา; สนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ทฺวิโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ติโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, จตุโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา, ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; เอวเมวํ โข, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ¶ ปฏิปนฺโน, อนาคามี อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน. ยมฺปิ, ปหาราท, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, สกทาคามี สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อนาคามี อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน, อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน; อยํ, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. อิเม โข, ปหาราท, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ ¶ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. อุโปสถสุตฺตํ
๒๐. [จูฬว. ๓๘๓; อุทา. ๔๕; กถา. ๓๔๖] เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต ภควา ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม, อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต ¶ , รตฺติ, นิกฺขนฺโต มชฺฌิโม ยาโม, จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ทุติยมฺปิ โข ภควา ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม, อุทฺธสฺเต อรุเณ, นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม, อุทฺธสฺตํ อรุณํ, นนฺทิมุขี รตฺติ; จิรนิสินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’ติ.
อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กํ นุ โข ภควา ปุคฺคลํ สนฺธาย เอวมาห – ‘อปริสุทฺธา, อานนฺท, ปริสา’’’ติ? อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน สพฺพาวนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสากาสิ. อทฺทสา โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ ทุสฺสีลํ ปาปธมฺมํ อสุจึ สงฺกสฺสรสมาจารํ ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตํ อสฺสมณํ สมณปฏิฺํ อพฺรหฺมจารึ พฺรหฺมจาริปฏิฺํ อนฺโตปูตึ อวสฺสุตํ กสมฺพุชาตํ มชฺเฌ ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสินฺนํ; ทิสฺวาน อุฏฺายาสนา เยน โส ปุคฺคโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุคฺคลํ ¶ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา. นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ – ‘‘อุฏฺเหาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา. นตฺถิ ¶ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ทุติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ. ตติยมฺปิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ เอตทโวจ ¶ – ‘‘อุฏฺเหาวุโส, ทิฏฺโสิ ภควตา. นตฺถิ เต ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาโส’’ติ. ตติยมฺปิ โข โส ปุคฺคโล ตุณฺหี อโหสิ.
อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปุคฺคลํ พาหายํ คเหตฺวา พหิทฺวารโกฏฺกา นิกฺขาเมตฺวา สูจิฆฏิกํ ทตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นิกฺขามิโต โส, ภนฺเต, ปุคฺคโล มยา. ปริสุทฺธา ปริสา. อุทฺทิสตุ, ภนฺเต, ภควา ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ. ‘‘อจฺฉริยํ, โมคฺคลฺลาน, อพฺภุตํ, โมคฺคลฺลาน! ยาว พาหา คหณาปิ นาม โส โมฆปุริโส อาคมิสฺสตี’’ติ!
อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, อุโปสถํ กเรยฺยาถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺยาถ. น ทานาหํ, ภิกฺขเว, อชฺชตคฺเค อุโปสถํ กริสฺสามิ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามิ. อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ ตถาคโต อปริสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิเสยฺย’’.
‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท ปโม ¶ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ…เป… (ยถา ปุริเม ตถา วิตฺถาเรตพฺโพ).
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล ¶ อสุรา นาคา คนฺธพฺพา. วสนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา ¶ . ยมฺปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา; วสนฺติ ¶ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ อตฺตภาวา; อยํ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุทฺเท อภิรมนฺติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. กตเม อฏฺ? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท อนุปุพฺพนินฺโน อนุปุพฺพโปโณ อนุปุพฺพปพฺภาโร, น อายตเกเนว ปปาโต; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา, น อายตเกเนว อฺาปฏิเวโธ; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ¶ ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ…เป… เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺโท มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – ติมิ ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล อสุรา นาคา คนฺธพฺพา, วสนฺติ มหาสมุทฺเท โยชนสติกาปิ อตฺตภาวา…เป… ปฺจโยชนสติกาปิ ¶ อตฺตภาวา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส. ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน…เป… อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, อยํ ธมฺมวินโย มหตํ ภูตานํ อาวาโส; ตตฺริเม ภูตา – โสตาปนฺโน โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺโน…เป… อรหา อรหตฺตาย ปฏิปนฺโน; อยํ, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม, ยํ ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เย ทิสฺวา ทิสฺวา ภิกฺขู อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อภิรมนฺตี’’ติ. ทสมํ.
มหาวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
เวรฺโช ¶ สีโห อาชฺํ, ขฬุงฺเกน มลานิ จ;
ทูเตยฺยํ ทฺเว จ พนฺธนา, ปหาราโท อุโปสโถติ.