📜

๓. คหปติวคฺโค

๑. ปมอุคฺคสุตฺตํ

๒๑. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ . ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ [อพฺภุตธมฺเมหิ (สฺยา. ก.)] สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ ธาเรถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ –

‘‘อฏฺหิ โข ตฺวํ, คหปติ, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเม เต, คหปติ, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เยหิ ตฺวํ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ชานามิ – กตเมหิ อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโตติ. อปิ จ, ภนฺเต, เย เม อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ, ตํ สุโณหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก เอตทโวจ – ‘‘ยทาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ ปมํ ทูรโตว อทฺทสํ; สห ทสฺสเนเนว เม, ภนฺเต , ภควโต จิตฺตํ ปสีทิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ’’.

‘‘โส โข อหํ, ภนฺเต, ปสนฺนจิตฺโต ภควนฺตํ ปยิรุปาสึ. ตสฺส เม ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ , เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา มํ ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมวํ โข เม ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ตตฺเถว พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ อคมาสึ, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ จ สิกฺขาปทานิ สมาทิยึ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, จตสฺโส โกมาริโย ปชาปติโย อเหสุํ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน ตา ปชาปติโย เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ตา ปชาปติโย เอตทวจํ – ‘มยา โข, ภคินิโย, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ สิกฺขาปทานิ สมาทินฺนานิ [สมาทิณฺณานิ (สี. ก.)]. ยา อิจฺฉติ สา อิเธว โภเค จ ภุฺชตุ ปุฺานิ จ กโรตุ, สกานิ วา าติกุลานิ คจฺฉตุ. โหติ วา ปน ปุริสาธิปฺปาโย, กสฺส โว ทมฺมี’ติ? เอวํ วุตฺเต สา, ภนฺเต, เชฏฺา ปชาปติ มํ เอตทโวจ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส มํ, อยฺยปุตฺต, ปุริสสฺส เทหี’ติ. อถ โข อหํ, ภนฺเต, ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ปชาปตึ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ภิงฺคารํ คเหตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส โอโณเชสึ. โกมารึ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารํ ปริจฺจชนฺโต นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม, ภนฺเต, กุเล โภคา. เต จ โข อปฺปฏิวิภตฺตา สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ยํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภิกฺขุํ ปยิรุปาสามิ; สกฺกจฺจํเยว ปยิรุปาสามิ, โน อสกฺกจฺจํ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘โส เจ, ภนฺเต, เม อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ; สกฺกจฺจํเยว สุโณมิ, โน อสกฺกจฺจํ. โน เจ เม โส อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ, อหมสฺส ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข เม, ภนฺเต ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘อนจฺฉริยํ โข ปน มํ, ภนฺเต, เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘สฺวากฺขาโต, คหปติ, ภควตา ธมฺโม’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตา เทวตา เอวํ วทามิ – ‘วเทยฺยาถ วา เอวํ โข ตุมฺเห เทวตา โน วา วเทยฺยาถ, อถ โข สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’ติ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อุนฺนตึ [อุณฺณตึ (ก.) ธ. ส. ๑๑๒๑; วิภ. ๘๔๓, ๘๔๕ ปสฺสิตพฺพํ] – ‘มํ วา เทวตา อุปสงฺกมนฺติ, อหํ วา เทวตาหิ สทฺธึ สลฺลปามี’ติ. อยํ โข เม, ภนฺเต, สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ, นาหํ เตสํ กิฺจิ อตฺตนิ อปฺปหีนํ สมนุปสฺสามิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ. อิเม โข เม, ภนฺเต, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ. น จ โข อหํ ชานามิ – กตเมหิ จาหํ [กตเมหิปหํ (สี.), กตเมหิปาหํ (ปี. ก.)] อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ.

อถ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ยาวตโก อโหสิ อุคฺเคน คหปตินา เวสาลิเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ยถา ตํ อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺย, อิเมเหว โข, ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุคฺโค คหปติ เวสาลิโก มยา พฺยากโต. อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ เวสาลิกํ ธาเรหี’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยอุคฺคสุตฺตํ

๒๒. เอกํ สมยํ ภควา วชฺชีสุ วิหรติ หตฺถิคาเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ หตฺถิคามกํ ธาเรถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคสฺส คหปติโน หตฺถิคามกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุคฺคํ คหปตึ หตฺถิคามกํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ – ‘‘อฏฺหิ โข ตฺวํ, คหปติ, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเม เต, คหปติ, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา, เยหิ ตฺวํ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ?

‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ชานามิ – กตเมหิ อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโตติ. อปิ จ, ภนฺเต, เย เม อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ, ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, คหปตี’’ติ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน หตฺถิคามกสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก เอตทโวจ – ‘‘ยทาหํ, ภนฺเต, นาควเน ปริจรนฺโต ภควนฺตํ ปมํ ทูรโตว อทฺทสํ; สห ทสฺสเนเนว เม, ภนฺเต, ภควโต จิตฺตํ ปสีทิ, สุรามโท จ ปหียิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘โส โข อหํ, ภนฺเต, ปสนฺนจิตฺโต ภควนฺตํ ปยิรุปาสึ. ตสฺส เม ภควา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ. ยทา มํ ภควา อฺาสิ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ, สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ. เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย; เอวเมวํ โข เม ตสฺมึเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’นฺติ. โส โข อหํ, ภนฺเต, ทิฏฺธมฺโม ปตฺตธมฺโม วิทิตธมฺโม ปริโยคาฬฺหธมฺโม ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปตฺโต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ตตฺเถว พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ อคมาสึ, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ จ สิกฺขาปทานิ สมาทิยึ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ทุติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, จตสฺโส โกมาริโย ปชาปติโย อเหสุํ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เยน ตา ปชาปติโย เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ตา ปชาปติโย เอตทวจํ – ‘มยา โข, ภคินิโย, พฺรหฺมจริยปฺจมานิ สิกฺขาปทานิ สมาทินฺนานิ. ยา อิจฺฉติ สา อิเธว โภเค จ ภุฺชตุ ปุฺานิ จ กโรตุ, สกานิ วา าติกุลานิ คจฺฉตุ. โหติ วา ปน ปุริสาธิปฺปาโย, กสฺส โว ทมฺมี’ติ? เอวํ วุตฺเต สา, ภนฺเต, เชฏฺา ปชาปติ มํ เอตทโวจ – ‘อิตฺถนฺนามสฺส มํ, อยฺยปุตฺต, ปุริสสฺส เทหี’ติ. อถ โข อหํ, ภนฺเต, ตํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา วาเมน หตฺเถน ปชาปตึ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ภิงฺคารํ คเหตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส โอโณเชสึ. โกมารึ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ทารํ ปริจฺจชนฺโต นาภิชานามิ จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ตติโย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม, ภนฺเต, กุเล โภคา. เต จ โข อปฺปฏิวิภตฺตา สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, จตุตฺโถ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘ยํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภิกฺขุํ ปยิรุปาสามิ; สกฺกจฺจํเยว ปยิรุปาสามิ, โน อสกฺกจฺจํ. โส เจ เม อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ; สกฺกจฺจํเยว สุโณมิ, โน อสกฺกจฺจํ. โน เจ เม โส อายสฺมา ธมฺมํ เทเสติ, อหมสฺส ธมฺมํ เทเสมิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ปฺจโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘อนจฺฉริยํ โข ปน, ภนฺเต, สงฺเฆ นิมนฺติเต เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘อสุโก, คหปติ, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต อสุโก ปฺาวิมุตฺโต อสุโก กายสกฺขี อสุโก ทิฏฺิปฺปตฺโต [ทิฏฺปฺปตฺโต (ก.)] อสุโก สทฺธาวิมุตฺโต อสุโก ธมฺมานุสารี อสุโก สทฺธานุสารี อสุโก สีลวา กลฺยาณธมฺโม อสุโก ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติ. สงฺฆํ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ปริวิสนฺโต นาภิชานามิ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺโต – ‘อิมสฺส วา โถกํ เทมิ อิมสฺส วา พหุก’นฺติ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, สมจิตฺโตว เทมิ. อยํ โข เม, ภนฺเต, ฉฏฺโ อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘อนจฺฉริยํ โข ปน มํ, ภนฺเต, เทวตา อุปสงฺกมิตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘สฺวากฺขาโต, คหปติ, ภควตา ธมฺโม’ติ. เอวํ วุตฺเต อหํ, ภนฺเต, ตา เทวตา เอวํ วเทมิ – ‘วเทยฺยาถ วา เอวํ โข ตุมฺเห เทวตา โน วา วเทยฺยาถ, อถ โข สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม’ติ. น โข ปนาหํ, ภนฺเต, อภิชานามิ ตโตนิทานํ จิตฺตสฺส อุนฺนตึ – ‘มํ ตา เทวตา อุปสงฺกมนฺติ, อหํ วา เทวตาหิ สทฺธึ สลฺลปามี’ติ. อยํ โข เม, ภนฺเต, สตฺตโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ.

‘‘สเจ โข ปนาหํ, ภนฺเต, ภควโต ปมตรํ กาลํ กเรยฺยํ, อนจฺฉริยํ โข ปเนตํ ยํ มํ ภควา เอวํ พฺยากเรยฺย – ‘นตฺถิ ตํ สํโยชนํ เยน สํยุตฺโต อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก ปุน อิมํ โลกํ อาคจฺเฉยฺยา’ติ. อยํ โข เม, ภนฺเต, อฏฺโม อจฺฉริโย อพฺภุโต ธมฺโม สํวิชฺชติ. อิเม โข เม, ภนฺเต, อฏฺ อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ. น จ โข อหํ ชานามิ – กตเมหิ จาหํ อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ.

‘‘อถ โข โส ภิกฺขุ อุคฺคสฺส คหปติโน หตฺถิคามกสฺส นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. อถ โข โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ยาวตโก อโหสิ อุคฺเคน คหปตินา หตฺถิคามเกน สทฺธึ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! ยถา ตํ อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก สมฺมา พฺยากรมาโน พฺยากเรยฺย, อิเมเหว โข ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุคฺโค คหปติ หตฺถิคามโก มยา พฺยากโต. อิเมหิ จ ปน, ภิกฺขุ, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อุคฺคํ คหปตึ หตฺถิคามกํ ธาเรหี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปมหตฺถกสุตฺตํ

๒๓. เอกํ สมยํ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สตฺตหิ , ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถ. กตเมหิ สตฺตหิ? สทฺโธ หิ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; หิรีมา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; โอตฺตปฺปี, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; พหุสฺสุโต, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; จาควา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, สตฺตหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.

อถ โข อฺตโร ภิกฺขุ ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน หตฺถกสฺส อาฬวกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข หตฺถโก อาฬวโก เยน โส ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข หตฺถกํ อาฬวกํ โส ภิกฺขุ เอตทโวจ –

‘‘สตฺตหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเมหิ สตฺตหิ? ‘สทฺโธ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา…เป… หิริมา… โอตฺตปฺปี… พหุสฺสุโต… จาควา… ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก’ติ. อิเมหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, สตฺตหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’’ติ. ‘‘กจฺจิตฺถ, ภนฺเต, น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’ติ? ‘‘น เหตฺถ, อาวุโส , โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ยเทตฺถ น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’ติ.

อถ โข โส ภิกฺขุ หตฺถกสฺส อาฬวกสฺส นิเวสเน ปิณฺฑปาตํ คเหตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ . อถ โข โส ภิกฺขุ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน หตฺถกสฺส อาฬวกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมึ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทึ. อถ โข, ภนฺเต, หตฺถโก อาฬวโก เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อหํ, ภนฺเต, หตฺถกํ อาฬวกํ เอตทวจํ – ‘สตฺตหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต. กตเมหิ สตฺตหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา…เป… หิริมา… โอตฺตปฺปี… พหุสฺสุโต… จาควา… ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโกติ. อิเมหิ โข ตฺวํ, อาวุโส, สตฺตหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภควตา พฺยากโต’ติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต, ภนฺเต, หตฺถโก มํ เอตทโวจ – ‘กจฺจิตฺถ, ภนฺเต, น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’ติ? ‘น เหตฺถ, อาวุโส, โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’ติ. ‘สาธุ, ภนฺเต, ยเทตฺถ น โกจิ คิหี อโหสิ โอทาตวสโน’’’ติ.

‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขุ! อปฺปิจฺโฉ โส, ภิกฺขุ, กุลปุตฺโต . สนฺเตเยว อตฺตนิ กุสลธมฺเม น อิจฺฉติ ปเรหิ ายมาเน [ปฺาปยมาเน (ก.)]. เตน หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมินาปิ อฏฺเมน อจฺฉริเยน อพฺภุเตน ธมฺเมน สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรหิ, ยทิทํ อปฺปิจฺฉตายา’’ติ. ตติยํ.

๔. ทุติยหตฺถกสุตฺตํ

๒๔. เอกํ สมยํ ภควา อาฬวิยํ วิหรติ อคฺคาฬเว เจติเย. อถ โข หตฺถโก อาฬวโก ปฺจมตฺเตหิ อุปาสกสเตหิ ปริวุโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข หตฺถกํ อาฬวกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘มหตี โข ตฺยายํ, หตฺถก, ปริสา. กถํ ปน ตฺวํ, หตฺถก, อิมํ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหาสี’’ติ? ‘‘ยานิมานิ, ภนฺเต, ภควตา เทสิตานิ [อ. นิ. ๔.๓๒; ที. นิ. ๓.๓๑๓] จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ, เตหาหํ [เตนาหํ (สี.)] อิมํ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหามิ. อหํ, ภนฺเต, ยํ ชานามิ – ‘อยํ ทาเนน สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ ทาเนน สงฺคณฺหามิ; ยํ ชานามิ – ‘อยํ เปยฺยวชฺเชน สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ เปยฺยวชฺเชน สงฺคณฺหามิ; ยํ ชานามิ – ‘อยํ อตฺถจริยาย สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ อตฺถจริยาย สงฺคณฺหามิ; ยํ ชานามิ – ‘อยํ สมานตฺตตาย สงฺคเหตพฺโพ’ติ, ตํ สมานตฺตตาย สงฺคณฺหามิ. สํวิชฺชนฺติ โข ปน เม, ภนฺเต, กุเล โภคา. ทลิทฺทสฺส โข โน ตถา โสตพฺพํ มฺนฺตี’’ติ. ‘‘สาธุ สาธุ, หตฺถก! โยนิ โข ตฺยายํ, หตฺถก, มหตึ ปริสํ สงฺคเหตุํ. เย หิ เกจิ, หตฺถก, อตีตมทฺธานํ มหตึ ปริสํ สงฺคเหสุํ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหตึ ปริสํ สงฺคเหสุํ. เยปิ หิ เกจิ, หตฺถก, อนาคตมทฺธานํ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหิสฺสนฺติ , สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหิสฺสนฺติ. เยปิ หิ เกจิ, หตฺถก, เอตรหิ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหนฺติ, สพฺเพ เต อิเมเหว จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ มหตึ ปริสํ สงฺคณฺหนฺตี’’ติ.

อถ โข หตฺถโก อาฬวโก ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ . อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต หตฺถเก อาฬวเก ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อฏฺหิ, ภิกฺขเว, อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถ. กตเมหิ อฏฺหิ? สทฺโธ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; สีลวา, ภิกฺขเว…เป… หิรีมา… โอตฺตปฺปี… พหุสฺสุโต… จาควา… ปฺวา, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก; อปฺปิจฺโฉ, ภิกฺขเว, หตฺถโก อาฬวโก. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺหิ อจฺฉริเยหิ อพฺภุเตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ หตฺถกํ อาฬวกํ ธาเรถา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. มหานามสุตฺตํ

๒๕. เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม. อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มหานาโม สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, อุปาสโก โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ; เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม , อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ; เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตนาว สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ [สมาทาเปติ (?)]; อตฺตนาว สีลสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนาว จาคสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ จาคสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนาว ภิกฺขูนํ ทสฺสนกาโม โหติ, โน ปรํ ภิกฺขูนํ ทสฺสเน สมาทเปติ; อตฺตนาว สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ, โน ปรํ สทฺธมฺมสฺสวเน สมาทเปติ; อตฺตนาว สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ, โน ปรํ ธมฺมธารณาย สมาทเปติ; อตฺตนาว สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ, โน ปรํ อตฺถูปปริกฺขาย สมาทเปติ; อตฺตนาว อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ? ‘‘ยโต โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตนา จ สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ จาคสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ภิกฺขูนํ ทสฺสนกาโม โหติ, ปรฺจ ภิกฺขูนํ ทสฺสเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ, ปรฺจ สทฺธมฺมสฺสวเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ, ปรฺจ ธมฺมธารณาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ, ปรฺจ อตฺถูปปริกฺขาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, มหานาม, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ. ปฺจมํ.

๖. ชีวกสุตฺตํ

๒๖. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ ชีวกมฺพวเน. อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, อุปาสโก โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ; เอตฺตาวตา โข ชีวก, อุปาสโก โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, อุปาสโก ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ; เอตฺตาวตา โข, ชีวก, อุปาสโก สีลวา โหตี’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตนาว สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, โน ปรํ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ…เป… อตฺตนาว อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรํ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตายา’’ติ.

‘‘กิตฺตาวตา ปน, ภนฺเต, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ? ‘‘ยโต โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตนา จ สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สทฺธาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปรฺจ จาคสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ภิกฺขูนํ ทสฺสนกาโม โหติ, ปรฺจ ภิกฺขูนํ ทสฺสเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สทฺธมฺมํ โสตุกาโม โหติ, ปรฺจ สทฺธมฺมสฺสวเน สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ ธารณชาติโก โหติ, ปรฺจ ธมฺมธารณาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สุตานํ ธมฺมานํ อตฺถูปปริกฺขิตา โหติ, ปรฺจ อตฺถูปปริกฺขาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ, ปรฺจ ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติยา สมาทเปติ. เอตฺตาวตา โข, ชีวก, อุปาสโก อตฺตหิตาย จ ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมพลสุตฺตํ

๒๗. ‘‘อฏฺิมานิ , ภิกฺขเว, พลานิ. กตมานิ อฏฺ? รุณฺณพลา, ภิกฺขเว, ทารกา, โกธพลา มาตุคามา, อาวุธพลา โจรา, อิสฺสริยพลา ราชาโน, อุชฺฌตฺติพลา พาลา, นิชฺฌตฺติพลา ปณฺฑิตา, ปฏิสงฺขานพลา พหุสฺสุตา, ขนฺติพลา สมณพฺราหฺมณา – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ พลานี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยพลสุตฺตํ

๒๘. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, สาริปุตฺต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ? ‘‘อฏฺ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘กตมานิ อฏฺ? [อ. นิ. ๑๐.๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๔๔] อิธ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺติภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺติภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา…เป… ปฺจินฺทฺริยานิ ภาวิตานิ โหนฺติ สุภาวิตานิ…เป… สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา…เป… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ.

‘‘อิมานิ โข, ภนฺเต, อฏฺ ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ. อฏฺมํ.

๙. อกฺขณสุตฺตํ

๒๙. ‘‘‘ขณกิจฺโจ โลโก, ขณกิจฺโจ โลโก’ติ, ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน ภาสติ, โน จ โข โส ชานาติ ขณํ วา อกฺขณํ วา. อฏฺิเม, ภิกฺขเว, อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสาย. กตเม อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต; อยฺจ ปุคฺคโล นิรยํ อุปปนฺโน โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา, ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต; อยฺจ ปุคฺคโล ติรจฺฉานโยนึ อุปปนฺโน โหติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล เปตฺติวิสยํ อุปปนฺโน โหติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล อฺตรํ ทีฆายุกํ เทวนิกายํ อุปปนฺโน โหติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ อวิฺาตาเรสุ มิลกฺเขสุ [มิลกฺขูสุ (สฺยา. ก.) ที. นิ. ๓.๓๕๘], ยตฺถ นตฺถิ คติ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํ…เป… ปฺจโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ มิจฺฉาทิฏฺิโก วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมา ปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว…เป… อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ , โส จ โหติ ทุปฺปฺโ ชโฬ เอฬมูโค อปฺปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. อยํ, ภิกฺขเว, สตฺตโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อนุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. ธมฺโม จ น เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปฺวา อชโฬ อเนฬมูโค ปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. อยํ, ภิกฺขเว, อฏฺโม อกฺขโณ อสมโย พฺรหฺมจริยวาสาย. ‘อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ อกฺขณา อสมยา พฺรหฺมจริยวาสาย’’’.

‘‘เอโกว โข, ภิกฺขเว, ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสาย. กตโม เอโก? อิธ, ภิกฺขเว, ตถาคโต จ โลเก อุปฺปนฺโน โหติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. ธมฺโม จ เทสิยติ โอปสมิโก ปรินิพฺพานิโก สมฺโพธคามี สุคตปฺปเวทิโต. อยฺจ ปุคฺคโล มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ ปจฺจาชาโต โหติ, โส จ โหติ ปฺวา อชโฬ อเนฬมูโค ปฏิพโล สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถมฺาตุํ. อยํ, ภิกฺขเว, เอโกว ขโณ จ สมโย จ พฺรหฺมจริยวาสายา’’ติ.

‘‘มนุสฺสลาภํ [มนุสฺสโลกํ (สฺยา.)] ลทฺธาน, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต;

เย ขณํ นาธิคจฺฉนฺติ, อตินาเมนฺติ เต ขณํ.

‘‘พหู หิ อกฺขณา วุตฺตา, มคฺคสฺส อนฺตรายิกา;

กทาจิ กรหจิ โลเก, อุปฺปชฺชนฺติ ตถาคตา.

‘‘ตยิทํ [ตสฺสิทํ (ก.)] สมฺมุขีภูตํ, ยํ โลกสฺมึ สุทุลฺลภํ;

มนุสฺสปฏิลาโภ จ, สทฺธมฺมสฺส จ เทสนา;

อลํ วายมิตุํ ตตฺถ, อตฺตกาเมน [อตฺถกาเมน (สี. สฺยา. ก.)] ชนฺตุนา.

‘‘กถํ วิชฺา สทฺธมฺมํ, ขโณ เว [โว (สฺยา.)] มา อุปจฺจคา;

ขณาตีตา หิ โสจนฺติ, นิรยมฺหิ สมปฺปิตา.

‘‘อิธ เจ นํ วิราเธติ, สทฺธมฺมสฺส นิยามตํ [นิยามิตํ (สฺยา.)];

วาณิโชว อตีตตฺโถ, จิรตฺตํ [จิรนฺตํ (ก.)] อนุตปิสฺสติ.

‘‘อวิชฺชานิวุโต โปโส, สทฺธมฺมํ อปราธิโก;

ชาติมรณสํสารํ, จิรํ ปจฺจนุโภสฺสติ.

‘‘เย จ ลทฺธา มนุสฺสตฺตํ, สทฺธมฺเม สุปฺปเวทิเต;

อกํสุ สตฺถุ วจนํ, กริสฺสนฺติ กโรนฺติ วา.

‘‘ขณํ ปจฺจวิทุํ โลเก, พฺรหฺมจริยํ อนุตฺตรํ;

เย มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ, ตถาคตปฺปเวทิตํ.

‘‘เย สํวรา จกฺขุมตา, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา;

เตสุ [เตสํ (ก.)] คุตฺโต สทา สโต, วิหเร อนวสฺสุโต.

‘‘สพฺเพ อนุสเย เฉตฺวา, มารเธยฺยปรานุเค;

เต เว ปารงฺคตา [ปารคตา (สี. สฺยา. ปี.)] โลเก, เย ปตฺตา อาสวกฺขย’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. อนุรุทฺธมหาวิตกฺกสุตฺตํ

๓๐. เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อนุรุทฺโธ เจตีสุ วิหรติ ปาจีนวํสทาเย. อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส; สนฺตุฏฺสฺสายํ ธมฺโม , นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส; ปวิวิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส; อารทฺธวีริยสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส; อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ [อุปฏฺิตสติสฺสายํ (สี. สฺยา. ปี.)] ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส [มุฏฺสติสฺส (สี. สฺยา. ปี.)]; สมาหิตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส; ปฺวโต อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’’ติ.

อถ โข ภควา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย; เอวเมวํ – ภคฺเคสุ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย อนฺตรหิโต เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส สมฺมุเข ปาตุรโหสิ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. อายสฺมาปิ โข อนุรุทฺโธ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ

นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘สาธุ สาธุ, อนุรุทฺธ! สาธุ โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, (ยํ ตํ มหาปุริสวิตกฺกํ) [สตฺต มหาปุริสวิตกฺเก (สี. ปี.) ที. นิ. ๓.๓๕๘] วิตกฺเกสิ – ‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส; สนฺตุฏฺสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส; ปวิวิตฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส; อารทฺธวีริยสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส; อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส; สมาหิตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส; ปฺวโต อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’ติ. เตน หิ ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิมมฺปิ อฏฺมํ มหาปุริสวิตกฺกํ วิตกฺเกหิ – ‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’’’ติ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว [ยาวเท (สํ. นิ. ๒.๑๕๒)] อากงฺขิสฺสสิ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ , ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ, ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหริสฺสสิ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวทิสฺสสิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, ตโต ตฺวํ, อนุรุทฺธ, ยาวเทว อากงฺขิสฺสสิ, สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสสิ.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา นานารตฺตานํ ทุสฺสานํ ทุสฺสกรณฺฑโก ปูโร; เอวเมวํ เต ปํสุกูลจีวรํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา สาลีนํ โอทโน วิจิตกาฬโก อเนกสูโป อเนกพฺยฺชโน; เอวเมวํ เต ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา กูฏาคารํ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ นิวาตํ ผุสิตคฺคฬํ ปิหิตวาตปานํ; เอวเมวํ เต รุกฺขมูลเสนาสนํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ , เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา ปลฺลงฺโก โคนกตฺถโต ปฏิกตฺถโต ปฏลิกตฺถโต กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณ [กาทลิ… ปจฺจตฺถรโณ (สี.)] สอุตฺตรจฺฉโท อุภโตโลหิตกูปธาโน; เอวเมวํ เต ติณสนฺถารกสยนาสนํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส.

‘‘ยโต โข ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อิเม จ อฏฺ มหาปุริสวิตกฺเก วิตกฺเกสฺสสิ, อิเมสฺจ จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี ภวิสฺสสิ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ตโต ตุยฺหํ, อนุรุทฺธ, เสยฺยถาปิ นาม คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา นานาเภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ; เอวเมวํ เต ปูติมุตฺตเภสชฺชํ ขายิสฺสติ สนฺตุฏฺสฺส วิหรโต รติยา อปริตสฺสาย ผาสุวิหาราย โอกฺกมนาย นิพฺพานสฺส. เตน หิ ตฺวํ, อนุรุทฺธ, อายติกมฺปิ วสฺสาวาสํ อิเธว เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย วิหเรยฺยาสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมวํ – เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย อนฺตรหิโต ภคฺเคสุ สุํสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเย ปาตุรโหสีติ. นิสีทิ ภควา ปฺตฺเต อาสเน. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อฏฺ โข, ภิกฺขเว, มหาปุริสวิตกฺเก เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ…เป… กตเม จ, ภิกฺขเว, อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา? อปฺปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺส; สนฺตุฏฺสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺส; ปวิวิตฺตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺส; อารทฺธวีริยสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺส; อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺส; สมาหิตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺส; ปฺวโต อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺส; นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’’.

‘‘‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ , ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิจฺโฉ สมาโน ‘อปฺปิจฺโฉติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, สนฺตุฏฺโ สมาโน ‘สนฺตุฏฺโติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, ปวิวิตฺโต สมาโน ‘ปวิวิตฺโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, อารทฺธวีริโย สมาโน ‘อารทฺธวีริโยติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, อุปฏฺิตสฺสติ สมาโน ‘อุปฏฺิตสฺสตีติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, สมาหิโต สมาโน ‘สมาหิโตติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, ปฺวา สมาโน ‘ปฺวาติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ, นิปฺปปฺจาราโม สมาโน ‘นิปฺปปฺจาราโมติ มํ ชาเนยฺยุ’นฺติ น อิจฺฉติ. ‘อปฺปิจฺฉสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มหิจฺฉสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สนฺตุฏฺสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน. ‘สนฺตุฏฺสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสนฺตุฏฺสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปวิวิตฺตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต ภวนฺติ อุปสงฺกมิตาโร ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย ราชาโน ราชมหามตฺตา ติตฺถิยา ติตฺถิยสาวกา. ตตฺร ภิกฺขุ วิเวกนินฺเนน จิตฺเตน วิเวกโปเณน วิเวกปพฺภาเรน วิเวกฏฺเน เนกฺขมฺมาภิรเตน อฺทตฺถุ อุยฺโยชนิกปฏิสํยุตฺตํเยว กถํ กตฺตา [ปวตฺตา (ก.)] โหติ. ‘ปวิวิตฺตสฺสายํ , ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม สงฺคณิการามสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อารทฺธวีริยสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ. ‘อารทฺธวีริยสฺสายํ , ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม กุสีตสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ , ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม มุฏฺสฺสติสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สติมา โหติ ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต, จิรกตมฺปิ จิรภาสิตมฺปิ สริตา อนุสฺสริตา. ‘อุปฏฺิตสฺสติสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม, มุฏฺสฺสติสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘สมาหิตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ‘สมาหิตสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อสมาหิตสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘ปฺวโต อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปฺาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา. ‘ปฺวโต อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.

‘‘‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ , ภิกฺขเว, ธมฺโม นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปปฺจนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ. ‘นิปฺปปฺจารามสฺสายํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นิปฺปปฺจรติโน, นายํ ธมฺโม ปปฺจารามสฺส ปปฺจรติโน’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ.

อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อายติกมฺปิ วสฺสาวาสํ ตตฺเถว เจตีสุ ปาจีนวํสทาเย วิหาสิ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เอโก วูปกฏฺโ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรสฺเสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภฺาสิ. อฺตโร จ ปนายสฺมา อนุรุทฺโธ อรหตํ อโหสีติ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อรหตฺตปฺปตฺโต ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –

[เถรคา. ๙๐๑-๙๐๓] ‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สตฺถา โลเก อนุตฺตโร;

มโนมเยน กาเยน, อิทฺธิยา อุปสงฺกมิ.

‘‘ยถา เม อหุ สงฺกปฺโป, ตโต อุตฺตริ เทสยิ;

นิปฺปปฺจรโต พุทฺโธ, นิปฺปปฺจํ อเทสยิ.

‘‘ตสฺสาหํ ธมฺมมฺาย, วิหาสึ สาสเน รโต;

ติสฺโส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติ. ทสมํ;

คหปติวคฺโค ตติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

ทฺเว อุคฺคา ทฺเว จ หตฺถกา, มหานาเมน ชีวโก;

ทฺเว พลา อกฺขณา วุตฺตา, อนุรุทฺเธน เต ทสาติ.