📜
๔. ทานวคฺโค
๑. ปมทานสุตฺตํ
๓๑. [ที. นิ. ๓.๓๓๖] ‘‘อฏฺิมานิ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ทานานิ. กตมานิ อฏฺ? อาสชฺช ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘อทาสิ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘ทสฺสติ เม’ติ ทานํ เทติ, ‘สาหุ ทาน’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อหํ ปจามิ, อิเม น ปจนฺติ; นารหามิ ปจนฺโต อปจนฺตานํ ทานํ อทาตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิมํ เม ทานํ ททโต กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’ติ ทานํ เทติ, จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ทานานี’’ติ. ปมํ.
๒. ทุติยทานสุตฺตํ
[กถา. ๔๘๐] ‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ทานํ,
ธมฺมา เอเต สปฺปุริสานุยาตา;
เอตฺหิ มคฺคํ ทิวิยํ วทนฺติ,
เอเตน หิ คจฺฉติ เทวโลก’’นฺติ. ทุติยํ;
๓. ทานวตฺถุสุตฺตํ
๓๓. ‘‘อฏฺิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ทานวตฺถูนิ. กตมานิ อฏฺ? ฉนฺทา ทานํ เทติ, โทสา ทานํ เทติ, โมหา ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ, นารหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิมาหํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ ¶ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ, ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา ¶ โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ, จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ทานวตฺถูนี’’ติ. ตติยํ.
๔. เขตฺตสุตฺตํ
๓๔. ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคเต ¶ , ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหสฺสาทํ น ผาติเสยฺยํ [น ผาติเสยฺยนฺติ (สี. สฺยา. ก.), น ผาติเสยฺยา (กตฺถจิ)]. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต? อิธ, ภิกฺขเว, เขตฺตํ อุนฺนามนินฺนามิ จ โหติ, ปาสาณสกฺขริกฺจ โหติ, อูสรฺจ โหติ, น จ คมฺภีรสิตํ โหติ, น อายสมฺปนฺนํ โหติ, น อปายสมฺปนฺนํ โหติ, น มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, น มริยาทสมฺปนฺนํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหสฺสาทํ น ผาติเสยฺยํ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ น มหาชุติกํ น มหาวิปฺผารํ. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ? อิธ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา มิจฺฉาทิฏฺิกา โหนฺติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปา, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาอาชีวา, มิจฺฉาวายามา, มิจฺฉาสติโน, มิจฺฉาสมาธิโน. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ น มหาชุติกํ น มหาวิปฺผารํ.
‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหสฺสาทํ ¶ ผาติเสยฺยํ. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต? อิธ, ภิกฺขเว, เขตฺตํ อนุนฺนามานินฺนามิ จ โหติ, อปาสาณสกฺขริกฺจ โหติ, อนูสรฺจ โหติ, คมฺภีรสิตํ ¶ โหติ, อายสมฺปนฺนํ โหติ, อปายสมฺปนฺนํ โหติ, มาติกาสมฺปนฺนํ ¶ โหติ, มริยาทสมฺปนฺนํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหสฺสาทํ ผาติเสยฺยํ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ มหาชุติกํ มหาวิปฺผารํ. กถํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ? อิธ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา สมฺมาทิฏฺิกา โหนฺติ, สมฺมาสงฺกปฺปา, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺตา, สมฺมาอาชีวา, สมฺมาวายามา, สมฺมาสติโน, สมฺมาสมาธิโน. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคเตสุ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ มหาชุติกํ มหาวิปฺผาร’’นฺติ.
‘‘ยถาปิ ¶ เขตฺเต สมฺปนฺเน, ปวุตฺตา พีชสมฺปทา;
เทเว สมฺปาทยนฺตมฺหิ [สฺชายนฺตมฺหิ (ก.)], โหติ ธฺสฺส สมฺปทา.
‘‘อนีติสมฺปทา โหติ, วิรูฬฺหี ภวติ สมฺปทา;
เวปุลฺลสมฺปทา โหติ, ผลํ เว โหติ สมฺปทา.
‘‘เอวํ สมฺปนฺนสีเลสุ, ทินฺนา โภชนสมฺปทา;
สมฺปทานํ อุปเนติ, สมฺปนฺนํ หิสฺส ตํ กตํ.
‘‘ตสฺมา สมฺปทมากงฺขี, สมฺปนฺนตฺถูธ ปุคฺคโล;
สมฺปนฺนปฺเ ¶ เสเวถ, เอวํ อิชฺฌนฺติ สมฺปทา.
‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺเน, ลทฺธา จิตฺตสฺส สมฺปทํ;
กโรติ กมฺมสมฺปทํ, ลภติ จตฺถสมฺปทํ.
‘‘โลกํ ตฺวา ยถาภูตํ, ปปฺปุยฺย ทิฏฺิสมฺปทํ;
มคฺคสมฺปทมาคมฺม, ยาติ สมฺปนฺนมานโส.
‘‘โอธุนิตฺวา ¶ มลํ สพฺพํ, ปตฺวา นิพฺพานสมฺปทํ;
มุจฺจติ สพฺพทุกฺเขหิ, สา โหติ สพฺพสมฺปทา’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. ทานูปปตฺติสุตฺตํ
๓๕. [ที. นิ. ๓.๓๓๗] ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, ทานูปปตฺติโย. กตมา อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ ¶ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ [ปจฺจาสึสติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]. โส ปสฺสติ ขตฺติยมหาสาเล วา พฺราหฺมณมหาสาเล วา คหปติมหาสาเล วา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิเต สมงฺคีภูเต ปริจารยมาเน. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ ¶ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ [หีเนธิมุตฺตํ (สฺยา. ปี.) วิมุตฺตนฺติ อธิมุตฺตํ, วิมุตฺตนฺติ วา วิสฺสฏฺํ (ฏีกาสํวณฺณนา)], อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ ¶ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ‘จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เทวา ¶ ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ – ตาวตึสา เทวา…เป… ยามา เทวา… ตุสิตา เทวา… นิมฺมานรตี เทวา… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ ¶ , ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ¶ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ. ตสฺส สุตํ โหติ ¶ – ‘พฺรหฺมกายิกา เทวา ทีฆายุกา ¶ วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติ. กายสฺส เภทา ปรํ มรณา พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺส; วีตราคสฺส, โน สราคสฺส. อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วีตราคตฺตา. อิมา โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ทานูปปตฺติโย’’ติ. ปฺจมํ.
๖. ปฺุกิริยวตฺถุสุตฺตํ
๓๖. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปฺุกิริยวตฺถูนิ. กตมานิ ตีณิ? ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ [ปฺุกิริยวตฺถุํ (สี. ปี.) เอวมุปริปิ], สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ. อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ ปริตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ ปริตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ [ปฺุกิริยวตฺถุ (สฺยา.)] นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสโทภคฺยํ อุปปชฺชติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ มตฺตโส กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ มตฺตโส กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสโสภคฺยํ อุปปชฺชติ.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว ¶ , เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ ¶ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, จตฺตาโร มหาราชาโน ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, จาตุมหาราชิเก เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหนฺติ – ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน, ทิพฺเพหิ รูเปหิ, ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ, ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, ทิพฺเพหิ รเสหิ, ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา ตาวตึเส เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สุยาโม เทวปุตฺโต ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา ¶ , สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ยาเม เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร ¶ , ภิกฺขเว, สนฺตุสิโต เทวปุตฺโต ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ตุสิเต เทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, สุนิมฺมิโต เทวปุตฺโต ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, นิมฺมานรตีเทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา…เป… ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ.
‘‘อิธ ¶ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺจสฺส ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ อธิมตฺตํ กตํ โหติ, ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ นาภิสมฺโภติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, วสวตฺตี เทวปุตฺโต ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ ¶ กริตฺวา, สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุํ อติเรกํ กริตฺวา, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีเทเว ทสหิ าเนหิ อธิคณฺหาติ – ทิพฺเพน อายุนา, ทิพฺเพน วณฺเณน, ทิพฺเพน สุเขน, ทิพฺเพน ยเสน, ทิพฺเพน อาธิปเตยฺเยน, ทิพฺเพหิ รูเปหิ, ทิพฺเพหิ สทฺเทหิ, ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ, ทิพฺเพหิ รเสหิ, ทิพฺเพหิ โผฏฺพฺเพหิ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปฺุกิริยวตฺถูนี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สปฺปุริสทานสุตฺตํ
๓๗. ‘‘อฏฺิมานิ, ภิกฺขเว, สปฺปุริสทานานิ. กตมานิ อฏฺ? สุจึ ¶ เทติ, ปณีตํ เทติ, กาเลน เทติ, กปฺปิยํ เทติ, วิเจยฺย เทติ, อภิณฺหํ เทติ, ททํ จิตฺตํ ปสาเทติ, ทตฺวา อตฺตมโน โหติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺ สปฺปุริสทานานี’’ติ.
‘‘สุจึ ปณีตํ กาเลน, กปฺปิยํ ปานโภชนํ;
อภิณฺหํ ททาติ ทานํ, สุเขตฺเตสุ [สุเขตฺเต (สี. ปี.)] พฺรหฺมจาริสุ.
‘‘เนว [น จ (สี. ปี.)] วิปฺปฏิสาริสฺส, จชิตฺวา อามิสํ พหุํ;
เอวํ ทินฺนานิ ทานานิ, วณฺณยนฺติ วิปสฺสิโน.
‘‘เอวํ ยชิตฺวา เมธาวี, สทฺโธ มุตฺเตน เจตสา;
อพฺยาพชฺฌํ [อพฺยาปชฺฌํ (ก.) อ. นิ. ๔.๔๐; ๖.๓๗] สุขํ โลกํ, ปณฺฑิโต อุปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ;
๘. สปฺปุริสสุตฺตํ
๓๘. ‘‘สปฺปุริโส ¶ , ภิกฺขเว, กุเล ชายมาโน พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ – มาตาปิตูนํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุตฺตทารสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ ¶ , ทาสกมฺมกรโปริสสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, มิตฺตามจฺจานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุพฺพเปตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, รฺโ ¶ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, เทวตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาเมโฆ สพฺพสสฺสานิ สมฺปาเทนฺโต พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย [หิตาย…เป… (สฺยา. ก.)] โหติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริโส กุเล ชายมาโน พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ – มาตาปิตูนํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุตฺตทารสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ทาสกมฺมกรโปริสสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, มิตฺตามจฺจานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, ปุพฺพเปตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, รฺโ อตฺถาย หิตาย สุขาย ¶ โหติ, เทวตานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหติ, สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถาย หิตาย สุขาย โหตี’’ติ.
‘‘พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. ปี.)] วต อตฺถาย, สปฺปฺโ ฆรมาวสํ;
มาตรํ ปิตรํ ปุพฺเพ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.
‘‘ปูเชติ สหธมฺเมน, ปุพฺเพกตมนุสฺสรํ;
อนาคาเร ปพฺพชิเต, อปเจ พฺรหฺมจารโย [พฺรหฺมจาริโน (สฺยา.)].
‘‘นิวิฏฺสทฺโธ ปูเชติ, ตฺวา ธมฺเม จ เปสโล [เปสเล (ก.)];
รฺโ หิโต เทวหิโต, าตีนํ สขินํ หิโต.
‘‘สพฺเพสํ [สพฺเพสุ (ก.)] โส [ส (สฺยา. ปี. ก.)] หิโต โหติ, สทฺธมฺเม สุปฺปติฏฺิโต;
วิเนยฺย มจฺเฉรมลํ, ส โลกํ ภชเต สิว’’นฺติ. อฏฺมํ;
๙. อภิสนฺทสุตฺตํ
๓๙. ‘‘อฏฺิเม ¶ , ภิกฺขเว, ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา ¶ โสวคฺคิกา สุขวิปากา ¶ สคฺคสํวตฺตนิกา, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. กตเม อฏฺ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ปโม ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ทุติโย ปฺุาภิสนฺโท…เป… สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. อยํ, ภิกฺขเว, ตติโย ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
[กถา. ๔๘๐] ‘‘ปฺจิมานิ ¶ , ภิกฺขเว, ทานานิ มหาทานานิ อคฺคฺานิ รตฺตฺานิ วํสฺานิ โปราณานิ อสํกิณฺณานิ อสํกิณฺณปุพฺพานิ, น สํกิยนฺติ น สํกิยิสฺสนฺติ, อปฺปฏิกุฏฺานิ [อปฺปติกุฏฺานิ (สี.)] สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. กตมานิ ปฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทติ, อเวรํ เทติ, อพฺยาพชฺฌํ [อพฺยาปชฺฌํ (ก.) เอวมุปริปิ] เทติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ ทตฺวา อเวรํ ทตฺวา อพฺยาพชฺฌํ ทตฺวา อปริมาณสฺส อภยสฺส อเวรสฺส อพฺยาพชฺฌสฺส ภาคี โหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ ทานํ มหาทานํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกิยติ น สํกิยิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ ¶ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต ¶ โหติ…เป… มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ¶ อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทติ อเวรํ เทติ อพฺยาพชฺฌํ เทติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ ทตฺวา อเวรํ ทตฺวา อพฺยาพชฺฌํ ทตฺวา, อปริมาณสฺส อภยสฺส อเวรสฺส อพฺยาพชฺฌสฺส ภาคี โหติ. อิทํ, ภิกฺขเว, ปฺจมํ ทานํ มหาทานํ อคฺคฺํ รตฺตฺํ วํสฺํ โปราณํ อสํกิณฺณํ อสํกิณฺณปุพฺพํ, น สํกิยติ น สํกิยิสฺสติ, อปฺปฏิกุฏฺํ สมเณหิ พฺราหฺมเณหิ วิฺูหิ. อยํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺโม ปฺุาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท ¶ สุขสฺสาหาโร โสวคฺคิโก สุขวิปาโก สคฺคสํวตฺตนิโก, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, อฏฺ ปฺุาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา โสวคฺคิกา สุขวิปากา สคฺคสํวตฺตนิกา, อิฏฺาย กนฺตาย มนาปาย หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ทุจฺจริตวิปากสุตฺตํ
๔๐. ‘‘ปาณาติปาโต, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ¶ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส [สพฺพลหุโสติ สพฺพลหุโก (สฺยา. อฏฺ.)] ปาณาติปาตสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อปฺปายุกสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘อทินฺนาทานํ, ภิกฺขเว, อาเสวิตํ ภาวิตํ พหุลีกตํ นิรยสํวตฺตนิกํ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกํ เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกํ. โย สพฺพลหุโส อทินฺนาทานสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส โภคพฺยสนสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจาโร, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส สปตฺตเวรสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘มุสาวาโท ¶ , ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส มุสาวาทสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อภูตพฺภกฺขานสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘ปิสุณา ¶ , ภิกฺขเว, วาจา อาเสวิตา ภาวิตา พหุลีกตา นิรยสํวตฺตนิกา ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกา เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกา. โย สพฺพลหุโส ปิสุณาย วาจาย วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส มิตฺเตหิ เภทนสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘ผรุสา ¶ , ภิกฺขเว, วาจา อาเสวิตา ภาวิตา พหุลีกตา นิรยสํวตฺตนิกา ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกา เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกา. โย สพฺพลหุโส ผรุสาย วาจาย วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อมนาปสทฺทสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘สมฺผปฺปลาโป, ภิกฺขเว, อาเสวิโต ภาวิโต พหุลีกโต นิรยสํวตฺตนิโก ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิโก เปตฺติวิสยสํวตฺตนิโก. โย สพฺพลหุโส สมฺผปฺปลาปสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อนาเทยฺยวาจาสํวตฺตนิโก โหติ.
‘‘สุราเมรยปานํ, ภิกฺขเว ¶ , อาเสวิตํ ภาวิตํ พหุลีกตํ นิรยสํวตฺตนิกํ ติรจฺฉานโยนิสํวตฺตนิกํ เปตฺติวิสยสํวตฺตนิกํ. โย สพฺพลหุโส สุราเมรยปานสฺส วิปาโก, มนุสฺสภูตสฺส อุมฺมตฺตกสํวตฺตนิโก โหตี’’ติ. ทสมํ.
ทานวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ทานานิ วตฺถฺุจ, เขตฺตํ ทานูปปตฺติโย;
กิริยํ ทฺเว สปฺปุริสา, อภิสนฺโท วิปาโก จาติ.