📜

๕. อุโปสถวคฺโค

๑. สงฺขิตฺตูโปสถสุตฺตํ

๔๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, ภิกฺขเว, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ , ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน [อิมินาปิ องฺเคน (สี. ปี.) อ. นิ. ๓.๗๑] อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ทุติเยน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจาริโน อาราจาริโน วิรตา เมถุนา คามธมฺมา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี อาราจารี [อนาจารี (ก.)] วิรโต เมถุนา คามธมฺมา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ตติเยน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรตา สจฺจวาทิโน สจฺจสนฺธา เถตา ปจฺจยิกา อวิสํวาทโก โลกสฺส. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา จตุตฺเถน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานํ ปหาย สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปฺจเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต เอกภตฺติกา รตฺตูปรตา วิรตา วิกาลโภชนา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ เอกภตฺติโก รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ฉฏฺเน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานํ ปหาย นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรตา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานํ ปหาย นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา สตฺตเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ.

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ , อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ . เอวํ อุปวุตฺโถ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร’’ติ. ปมํ.

๒. วิตฺถตูโปสถสุตฺตํ

๔๒. ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต , ภิกฺขเว, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป….

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, ภิกฺขเว, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร .

‘‘กีวมหปฺผโล โหติ กีวมหานิสํโส กีวมหาชุติโก กีวมหาวิปฺผาโร? เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ [ปหูตสตฺตรตนานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) อ. นิ. ๓.๗๑ ปาฬิยา ฏีกายํ ทสฺสิตปาฬิเยว. ตทฏฺกถาปิ ปสฺสิตพฺพา] อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย, เสยฺยถิทํ – องฺคานํ มคธานํ กาสีนํ โกสลานํ วชฺชีนํ มลฺลานํ เจตีนํ วงฺคานํ กุรูนํ ปฺจาลานํ มจฺฉานํ [มชฺชานํ (ก.)] สูรเสนานํ อสฺสกานํ อวนฺตีนํ คนฺธารานํ กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ [เอกํ (ก.)] กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, ภิกฺขเว, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว [รตฺติทิโว (ก.)]. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ วสฺสสตานิ, ตาวตึสานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ ตาวตึสานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ, ยามานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ทฺเว วสฺสสหสฺสานิ ยามานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ยามานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ จตฺตาริ วสฺสสตานิ, ตุสิตานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ จตฺตาริ วสฺสสหสฺสานิ ตุสิตานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตุสิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ อฏฺ วสฺสสตานิ, นิมฺมานรตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ อฏฺ วสฺสสหสฺสานิ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิมฺมานรตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, ภิกฺขเว, มานุสกานิ โสฬส วสฺสสตานิ, ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.

‘‘ปาณํ น หฺเ [หาเน (สี.), เหน (ก.) อ. นิ. ๓.๗๑] น จทินฺนมาทิเย,

มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,

รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร [คนฺธมาธเร (ก.)],

มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,

พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,

โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;

ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,

นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.

‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,

มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;

สิงฺคีสุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,

ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.

‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส อุโปสถสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.

‘‘ตสฺมา หิ นารี จ นโร จ สีลวา,

อฏฺงฺคุเปตํ อุปวสฺสุโปสถํ;

ปุฺานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,

อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ทุติยํ;

๓. วิสาขาสุตฺตํ

๔๓. [อ. นิ. ๓.๗๑] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต โข, วิสาเข, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, วิสาเข, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ , อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’’’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป….

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, วิสาเข, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร.

‘‘กีวมหปฺผโล โหติ, กีวมหานิสํโส, กีวมหาชุติโก, กีวมหาวิปฺผาโร? เสยฺยถาปิ, วิสาเข, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย, เสยฺยถิทํ – องฺคานํ มคธานํ กาสีนํ โกสลานํ วชฺชีนํ มลฺลานํ เจตีนํ วงฺคานํ กุรูนํ ปฺจาลานํ มจฺฉานํ สูรเสนานํ อสฺสกานํ อวนฺตีนํ คนฺธารานํ กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, วิสาเข, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย.

‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย . อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยํ , วิสาเข, มานุสกํ วสฺสสตํ, ตาวตึสานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน วสฺสสหสฺสํ ตาวตึสานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ตาวตึสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยานิ, วิสาเข, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ…เป… จตฺตาริ วสฺสสตานิ…เป… อฏฺ วสฺสสตานิ…เป… โสฬส วสฺสสตานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว . ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, วิสาเข, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, วิสาเข, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.

‘‘ปาณํ น หฺเ น จทินฺนมาทิเย,

มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,

รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร,

มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,

พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,

โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;

ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,

นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.

‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,

มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;

สิงฺคีสุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,

ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.

‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส อุโปสถสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.

‘‘ตสฺมา หิ นารี จ นโร จ สีลวา,

อฏฺงฺคุเปตํ อุปวสฺสุโปสถํ;

ปุฺานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,

อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ตติยํ;

๔. วาเสฏฺสุตฺตํ

๔๔. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ. อถ โข วาเสฏฺโ อุปาสโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วาเสฏฺํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, วาเสฏฺ, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ…เป… อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ.

เอวํ วุตฺเต วาเสฏฺโ อุปาสโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปิยา เม, ภนฺเต, าติสาโลหิตา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, ปิยานมฺปิ เม อสฺส าติสาโลหิตานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, ขตฺติยา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา…เป… เวสฺสา … สุทฺทา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ.

‘‘เอวเมตํ, วาเสฏฺ, เอวเมตํ, วาเสฏฺ! สพฺเพ เจปิ, วาเสฏฺ, ขตฺติยา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส ขตฺติยานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สพฺเพ เจปิ, วาเสฏฺ, พฺราหฺมณา…เป… เวสฺสา… สุทฺทา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, สพฺเพสมฺปิสฺส สุทฺทานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. สเทวโก เจปิ, วาเสฏฺ, โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ [อุปวเสยฺย (?)], สเทวกสฺสปิสฺส [สเทวกสฺส (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๔.๑๙๓; ม. นิ. ๓.๖๔ ปสฺสิตพฺพํ] โลกสฺส สมารกสฺส สพฺรหฺมกสฺส สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย. อิเม เจปิ, วาเสฏฺ, มหาสาลา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวเสยฺยุํ, อิเมสมฺปิสฺส มหาสาลานํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย ( ) [(สเจ เจเตยฺยุํ) กตฺถจิ อตฺถิ. อ. นิ. ๔.๑๙๓ ปสฺสิตพฺพํ]. โก ปน วาโท มนุสฺสภูตสฺสา’’ติ! จตุตฺถํ.

๕. โพชฺฌสุตฺตํ

๔๕. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข โพชฺฌา อุปาสิกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โพชฺฌํ อุปาสิกํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺงฺคสมนฺนาคโต, โพชฺเฌ, อุโปสโถ อุปวุตฺโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร. กถํ อุปวุตฺโถ จ, โพชฺเฌ, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร? อิธ , โพชฺเฌ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ยาวชีวํ อรหนฺโต ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา นิหิตทณฺฑา นิหิตสตฺถา ลชฺชี ทยาปนฺนา, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปิโน วิหรนฺติ. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรามิ. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา ปเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ…เป….

‘‘‘ยาวชีวํ อรหนฺโต อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรตา นีจเสยฺยํ กปฺเปนฺติ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อหํ ปชฺช อิมฺจ รตฺตึ อิมฺจ ทิวสํ อุจฺจาสยนมหาสยนํ ปหาย อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต นีจเสยฺยํ กปฺเปมิ – มฺจเก วา ติณสนฺถารเก วา. อิมินาปงฺเคน อรหตํ อนุกโรมิ, อุโปสโถ จ เม อุปวุตฺโถ ภวิสฺสตี’ติ. อิมินา อฏฺเมน องฺเคน สมนฺนาคโต โหติ. เอวํ อุปวุตฺโถ โข, โพชฺเฌ, อฏฺงฺคสมนฺนาคโต อุโปสโถ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส มหาชุติโก มหาวิปฺผาโร.

‘‘กีวมหปฺผโล โหติ, กีวมหานิสํโส, กีวมหาชุติโก, กีวมหาวิปฺผาโร? เสยฺยถาปิ, โพชฺเฌ, โย อิเมสํ โสฬสนฺนํ มหาชนปทานํ ปหูตรตฺตรตนานํ อิสฺสริยาธิปจฺจํ รชฺชํ กาเรยฺย, เสยฺยถิทํ – องฺคานํ มคธานํ กาสีนํ โกสลานํ วชฺชีนํ มลฺลานํ เจตีนํ วงฺคานํ กุรูนํ ปฺจาลานํ มจฺฉานํ สูรเสนานํ อสฺสกานํ อวนฺตีนํ คนฺธารานํ กมฺโพชานํ, อฏฺงฺคสมนฺนาคตสฺส อุโปสถสฺส เอตํ กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. ตํ กิสฺส เหตุ? กปณํ, โพชฺเฌ, มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย.

‘‘ยานิ, โพชฺเฌ, มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ, จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจ วสฺสสตานิ จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธาย’’’.

‘‘ยํ, โพชฺเฌ, มานุสกํ วสฺสสตํ…เป… ตานิ, โพชฺเฌ, มานุสกานิ ทฺเว วสฺสสตานิ…เป… จตฺตาริ วสฺสสตานิ…เป… อฏฺ วสฺสสตานิ…เป… โสฬส วสฺสสตานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ เอโส เอโก รตฺตินฺทิโว. ตาย รตฺติยา ตึสรตฺติโย มาโส. เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร. เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ อายุปฺปมาณํ. านํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, วิชฺชติ ยํ อิเธกจฺโจ อิตฺถี วา ปุริโส วา อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ อุปวสิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. อิทํ โข ปเนตํ, โพชฺเฌ, สนฺธาย ภาสิตํ – ‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพํ สุขํ อุปนิธายา’’’ติ.

‘‘ปาณํ น หฺเ น จทินฺนมาทิเย,

มุสา น ภาเส น จ มชฺชโป สิยา;

อพฺรหฺมจริยา วิรเมยฺย เมถุนา,

รตฺตึ น ภุฺเชยฺย วิกาลโภชนํ.

‘‘มาลํ น ธาเร น จ คนฺธมาจเร,

มฺเจ ฉมายํ ว สเยถ สนฺถเต;

เอตฺหิ อฏฺงฺคิกมาหุโปสถํ,

พุทฺเธน ทุกฺขนฺตคุนา ปกาสิตํ.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา,

โอภาสยํ อนุปริยนฺติ ยาวตา;

ตโมนุทา เต ปน อนฺตลิกฺขคา,

นเภ ปภาสนฺติ ทิสาวิโรจนา.

‘‘เอตสฺมึ ยํ วิชฺชติ อนฺตเร ธนํ,

มุตฺตา มณิ เวฬุริยฺจ ภทฺทกํ;

สิงฺคีสุวณฺณํ อถ วาปิ กฺจนํ,

ยํ ชาตรูปํ หฏกนฺติ วุจฺจติ.

‘‘อฏฺงฺคุเปตสฺส อุโปสถสฺส,

กลมฺปิ เต นานุภวนฺติ โสฬสึ;

จนฺทปฺปภา ตารคณา จ สพฺเพ.

‘‘ตสฺมา หิ นารี จ นโร จ สีลวา,

อฏฺงฺคุเปตํ อุปวสฺสุโปสถํ;

ปุฺานิ กตฺวาน สุขุทฺรยานิ,

อนินฺทิตา สคฺคมุเปนฺติ าน’’นฺติ. ปฺจมํ;

๖. อนุรุทฺธสุตฺตํ

๔๖. เอกํ สมยํ ภควา โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทิวาวิหารํ คโต โหติ ปฏิสลฺลีโน. อถ โข สมฺพหุลา มนาปกายิกา เทวตา เยนายสฺมา อนุรุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข ตา เทวตา อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, ยาทิสกํ วณฺณํ อากงฺขาม ตาทิสกํ วณฺณํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สรํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สรํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สุขํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สุขํ านโส ปฏิลภาม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตมา’’ติ.

อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว นีลา อสฺสุ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา’’ติ. อถ โข ตา เทวตา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส จิตฺตมฺาย สพฺพาว นีลา อเหสุํ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา.

อถ โข อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว ปีตา อสฺสุ…เป… สพฺพาว โลหิตกา อสฺสุ… สพฺพาว โอทาตา อสฺสุ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา’’ติ. อถ โข ตา เทวตา อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส จิตฺตมฺาย สพฺพาว โอทาตา อเหสุํ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา.

อถ โข ตา เทวตา เอกา จ [โก (สี.), เอกาว (สฺยา. ปี.)] คายิ เอกา จ [เอกา ปน (สี.), เอกาว (สฺยา. ปี.)] นจฺจิ เอกา จ [เอกา (สี.), เอกาว (สฺยา. ปี.)] อจฺฉรํ วาเทสิ. เสยฺยถาปิ นาม ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส [ตุริยสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] สุวินีตสฺส สุปฺปฏิปตาฬิตสฺส กุสเลหิ สุสมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ; เอวเมวํ ตาสํ เทวตานํ อลงฺการานํ สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปิ.

อถ โข ตา เทวตา ‘‘น ขฺวยฺโย อนุรุทฺโธ สาทิยตี’’ติ [สาทยตีติ (สทฺทนีติธาตุมาลา)] ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ทิวาวิหารํ คโต โหมิ ปฏิสลฺลีโน. อถ โข, ภนฺเต, สมฺพหุลา มนาปกายิกา เทวตา เยนาหํ เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. เอกมนฺตํ ิตา โข, ภนฺเต, ตา เทวตา มํ เอตทโวจุํ – ‘มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, ยาทิสกํ วณฺณํ อากงฺขาม ตาทิสกํ วณฺณํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สรํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สรํ านโส ปฏิลภาม; ยาทิสกํ สุขํ อากงฺขาม ตาทิสกํ สุขํ านโส ปฏิลภาม. มยํ, ภนฺเต อนุรุทฺธ, มนาปกายิกา นาม เทวตา อิเมสุ ตีสุ าเนสุ อิสฺสริยํ กาเรม วสํ วตฺเตมา’ติ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว นีลา อสฺสุ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา’ติ. อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา มม จิตฺตมฺาย สพฺพาว นีลา อเหสุํ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา.

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอตทโหสิ – ‘อโห วติมา เทวตา สพฺพาว ปีตา อสฺสุ…เป… สพฺพาว โลหิตกา อสฺสุ…เป… สพฺพาว โอทาตา อสฺสุ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา’ติ . อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา มม จิตฺตมฺาย สพฺพาว โอทาตา อเหสุํ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา.

‘‘อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา เอกา จ คายิ เอกา จ นจฺจิ เอกา จ อจฺฉรํ วาเทสิ. เสยฺยถาปิ นาม ปฺจงฺคิกสฺส ตูริยสฺส สุวินีตสฺส สุปฺปฏิปตาฬิตสฺส กุสเลหิ สุสมนฺนาหตสฺส สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ; เอวเมวํ ตาสํ เทวตานํ อลงฺการานํ สทฺโท โหติ วคฺคุ จ รชนีโย จ กมนีโย จ เปมนีโย จ มทนีโย จ. อถ ขฺวาหํ, ภนฺเต, อินฺทฺริยานิ โอกฺขิปึ.

‘‘อถ โข, ภนฺเต, ตา เทวตา ‘น ขฺวยฺโย อนุรุทฺโธ สาทิยตี’ติ ตตฺเถวนฺตรธายึสุ. กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘อฏฺหิ โข, อนุรุทฺธ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, อนุรุทฺธ, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี.

‘‘เย เต ภตฺตุ ครุโน [คุรุโน (ก.)] โหนฺติ – มาตาติ วา ปิตาติ วา สมณพฺราหฺมณาติ วา – เต สกฺกโรติ, ครุํ กโรติ [ครุกโรติ (สี. สฺยา. ปี.)], มาเนติ, ปูเชติ, อพฺภาคเต จ อาสโนทเกน ปฏิปูเชติ.

‘‘เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย [ตตฺรูปายาย (สี.), อ. นิ. ๔.๓๕; ๑๑.๑๔] วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ.

‘‘โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตฺจ กตโต ชานาติ อกตฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน [ปจฺจเยน (สฺยา.), ปจฺจตฺตํเสน (ก.) อ. นิ. ๕.๓๓] สํวิภชติ.

‘‘ยํ ภตฺตุ อาหรติ ธนํ วา ธฺํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกา.

‘‘อุปาสิกา โข ปน โหติ พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตา.

‘‘สีลวตี โข ปน โหติ – ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา, อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา, มุสาวาทา ปฏิวิรตา, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา.

‘‘จาควตี โข ปน โหติ. วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา [มุตฺตจาคี (สฺยา.)] ปยตปาณินี [ปยตปาณิ (สี.), ปยตปาณี (สฺยา. ปี. ก.)] โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา.

‘‘อิเมหิ โข, อนุรุทฺธ, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

ตํ สพฺพกามทํ [ตํ สพฺพกามหรํ (สี. สฺยา. ปี.) สพฺพกามหรํ (อ. นิ. ๕.๓๓] โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา [อุฏฺายิกา (ก.)] อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต [มนาปกายิกา (สี. ก.)] เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ;

๗. ทุติยวิสาขาสุตฺตํ

๔๗. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา…เป… เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺหิ โข, วิสาเข, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี…เป….

‘‘จาควตี โข ปน โหติ. วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา. อิเมหิ โข, วิสาเข, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

ตํ สพฺพกามทํ โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต [มนาปกายิกา (สี. ก.)] เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. สตฺตมํ;

๘. นกุลมาตาสุตฺตํ

๔๘. เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุํสุมารคิเร [สุํสุมารคิเร (สี. สฺยา. ปี.)] เภสกฬาวเน มิคทาเย. อถ โข นกุลมาตา คหปตานี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา…เป…. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข นกุลมาตรํ คหปตานึ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อฏฺหิ โข, นกุลมาเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. กตเมหิ อฏฺหิ? อิธ, นกุลมาเต, มาตุคาโม ยสฺส มาตาปิตโร ภตฺตุโน เทนฺติ อตฺถกามา หิเตสิโน อนุกมฺปกา อนุกมฺปํ อุปาทาย ตสฺส โหติ ปุพฺพุฏฺายินี ปจฺฉานิปาตินี กิงฺการปฏิสฺสาวินี มนาปจารินี ปิยวาทินี.

‘‘เย เต ภตฺตุ ครุโน โหนฺติ – มาตาติ วา ปิตาติ วา สมณพฺราหฺมณาติ วา – เต สกฺกโรติ ครุํ กโรติ มาเนติ ปูเชติ, อพฺภาคเต จ อาสโนทเกน ปฏิปูเชติ.

‘‘เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ.

‘‘โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตฺจ กตโต ชานาติ อกตฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน สํวิภชติ.

‘‘ยํ ภตฺตา อาหรติ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกา.

‘‘อุปาสิกา โข ปน โหติ พุทฺธํ สรณํ คตา ธมฺมํ สรณํ คตา สงฺฆํ สรณํ คตา.

‘‘สีลวตี โข ปน โหติ – ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตา…เป….

‘‘จาควตี โข ปน โหติ วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา.

‘‘อิเมหิ โข, นกุลมาเต, อฏฺหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนาปกายิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

‘‘โย นํ ภรติ สพฺพทา, นิจฺจํ อาตาปิ อุสฺสุโก;

ตํ สพฺพกามทํ โปสํ, ภตฺตารํ นาติมฺติ.

‘‘น จาปิ โสตฺถิ ภตฺตารํ, อิสฺสาวาเทน โรสเย;

ภตฺตุ จ ครุโน สพฺเพ, ปฏิปูเชติ ปณฺฑิตา.

‘‘อุฏฺาหิกา อนลสา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘ยา เอวํ วตฺตติ นารี, ภตฺตุ ฉนฺทวสานุคา;

มนาปา นาม เต [มนาปกายิกา (สี.)] เทวา, ยตฺถ สา อุปปชฺชตี’’ติ. อฏฺมํ;

๙. ปมอิธโลกิกสุตฺตํ

๔๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป…. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วิสาขํ มิคารมาตรํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘จตูหิ โข, วิสาเข, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ, สงฺคหิตปริชโน, ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘กถฺจ , วิสาเข, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา – อุณฺณาติ วา กปฺปาสาติ วา – ตตฺถ ทกฺขา โหติ อนลสา ตตฺรุปายาย วีมํสาย สมนฺนาคตา อลํ กาตุํ อลํ สํวิธาตุํ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน – ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา – เตสํ กตฺจ กตโต ชานาติ อกตฺจ อกตโต ชานาติ, คิลานกานฺจ พลาพลํ ชานาติ ขาทนียํ โภชนียฺจสฺส ปจฺจํเสน สํวิภชติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ยํ ภตฺตุ อมนาปสงฺขาตํ ตํ ชีวิตเหตุปิ น อชฺฌาจรติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ยํ ภตฺตา อาหรติ ธนํ วา ธฺํ วา รชตํ วา ชาตรูปํ วา ตํ อารกฺเขน คุตฺติยา สมฺปาเทติ, ตตฺถ จ โหติ อธุตฺตี อเถนี อโสณฺฑี อวินาสิกา. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ. อิเมหิ โข, วิสาเข, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ.

‘‘จตูหิ โข , วิสาเข, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปนฺโน โหติ, จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ , วิสาเข, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธึ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ , วิสาเข, มาตุคาโม ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ , วิสาเข, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ มุตฺตจาคา ปยตปาณินี โวสฺสคฺครตา ยาจโยคา ทานสํวิภาครตา. เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, วิสาเข, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, วิสาเข, มาตุคาโม ปฺวา โหติ…เป… เอวํ โข, วิสาเข, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ. อิเมหิ โข, วิสาเข, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหตี’’ติ.

‘‘สุสํวิหิตกมฺมนฺตา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, วทฺู วีตมจฺฉรา;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, ยสฺสา วิชฺชนฺติ นาริยา;

ตมฺปิ สีลวตึ อาหุ, ธมฺมฏฺํ สจฺจวาทินึ.

‘‘โสฬสาการสมฺปนฺนา, อฏฺงฺคสุสมาคตา;

ตาทิสี สีลวตี อุปาสิกา;

อุปปชฺชติ เทวโลกํ มนาป’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. ทุติยอิธโลกิกสุตฺตํ

๕๐. ‘‘จตูหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ , ภิกฺขเว, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ, สงฺคหิตปริชโน, ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม เย เต ภตฺตุ อพฺภนฺตรา กมฺมนฺตา…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สุสํวิหิตกมฺมนฺโต โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม โย โส ภตฺตุ อพฺภนฺตโร อนฺโตชโน…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สงฺคหิตปริชโน โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ยํ ภตฺตุ อมนาปสงฺขาตํ ตํ ชีวิตเหตุปิ น อชฺฌาจรติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ภตฺตุ มนาปํ จรติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ยํ ภตฺตา อาหรติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมฺภตํ อนุรกฺขติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, อยํส โลโก อารทฺโธ โหติ.

‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหติ. กตเมหิ จตูหิ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปนฺโน โหติ, จาคสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺโธ โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สทฺธาสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สีลสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ…เป… เอวํ โข , ภิกฺขเว, มาตุคาโม จาคสมฺปนฺโน โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปฺวา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปฺาสมฺปนฺโน โหติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน โหติ, ปรโลโก อารทฺโธ โหตี’’ติ.

‘‘สุสํวิหิตกมฺมนฺตา, สงฺคหิตปริชฺชนา;

ภตฺตุ มนาปํ จรติ, สมฺภตํ อนุรกฺขติ.

‘‘สทฺธา สีเลน สมฺปนฺนา, วทฺู วีตมจฺฉรา;

นิจฺจํ มคฺคํ วิโสเธติ, โสตฺถานํ สมฺปรายิกํ.

‘‘อิจฺเจเต อฏฺ ธมฺมา จ, ยสฺสา วิชฺชนฺติ นาริยา;

ตมฺปิ สีลวตึ อาหุ, ธมฺมฏฺํ สจฺจวาทินึ.

‘‘โสฬสาการสมฺปนฺนา, อฏฺงฺคสุสมาคตา;

ตาทิสี สีลวตี อุปาสิกา, อุปปชฺชติ เทวโลกํ มนาป’’นฺติ. ทสมํ;

อุโปสถวคฺโค ปฺจโม.

ตสฺสุทฺทานํ –

สํขิตฺเต วิตฺถเต วิสาเข, วาเสฏฺโ โพชฺฌาย ปฺจมํ;

อนุรุทฺธํ ปุน วิสาเข, นกุลา อิธโลกิกา ทฺเวติ.

ปมปณฺณาสกํ สมตฺตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ