📜
๔. มหาวคฺโค
๑. อนุปุพฺพวิหารสุตฺตํ
๓๒. [ที. นิ. ๓.๓๔๔, ๓๕๙] ‘‘นวยิเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, อนุปุพฺพวิหารา. กตเม นว? [เอตฺถ สี. ปี. โปตฺถเกสุ ‘‘อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ ติอาทินา วิตฺถเรน ปาโ ทิสฺสติ] ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌานํ, ตติยํ ฌานํ, จตุตฺถํ ฌานํ, อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตนํ, สฺาเวทยิตนิโรโธ – อิเม โข, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพวิหารา’’ติ. ปมํ.
๒. อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติสุตฺตํ
๓๓. ‘‘นวยิมา, ภิกฺขเว [นว ภิกฺขเว (?)], อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ…เป… กตมา จ, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย? ยตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ, เย จ กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ¶ ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ, เก จ กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส ¶ , ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. เอตฺถ กามา นิรุชฺฌนฺติ, เต จ กาเม นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, เย จ วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, เก จ วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย ¶ – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺถ วิตกฺกวิจารา นิรุชฺฌนฺติ, เต จ วิตกฺกวิจาเร นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ ปีติ นิรุชฺฌติ, เย จ ปีตึ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ ปีติ นิรุชฺฌติ, เก จ ปีตึ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ¶ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺถ ปีติ นิรุชฺฌติ, เต จ ปีตึ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา ¶ วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ อุเปกฺขาสุขํ นิรุชฺฌติ, เย จ อุเปกฺขาสุขํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ อุเปกฺขาสุขํ นิรุชฺฌติ, เก จ อุเปกฺขาสุขํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; เอตฺถ อุเปกฺขาสุขํ นิรุชฺฌติ, เต จ อุเปกฺขาสุขํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย ¶ อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ รูปสฺํ [ยตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌนฺติ, เย จ รูปสฺา (สี. สฺยา. ปี.)] นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌติ ¶ , เก จ รูปสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ รูปสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ รูปสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ ¶ อากาสานฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ อากาสานฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ อากาสานฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ อากาสานฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ อากาสานฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ อากาสานฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ วิฺาณฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ¶ ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ วิฺาณฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ ¶ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ วิฺาณฺจายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ วิฺาณฺจายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย ¶ ; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ อากิฺจฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ อากิฺจฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ ¶ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ อากิฺจฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ อากิฺจฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย.
‘‘ยตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เย จ เนวสฺานาสฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ, ‘อทฺธา เต ¶ อายสฺมนฺโต นิจฺฉาตา นิพฺพุตา ติณฺณา ปารงฺคตา ตทงฺเคนา’ติ วทามิ. ‘กตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เก จ เนวสฺานาสฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา นิโรเธตฺวา วิหรนฺติ – อหเมตํ น ชานามิ อหเมตํ น ปสฺสามี’ติ, อิติ โย เอวํ วเทยฺย, โส เอวมสฺส วจนีโย – ‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสฺา นิรุชฺฌติ, เต จ เนวสฺานาสฺายตนสฺํ นิโรเธตฺวา ¶ นิโรเธตฺวา วิหรนฺตี’ติ. อทฺธา, ภิกฺขเว, อสโ อมายาวี ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺเทยฺย อนุโมเทยฺย; ‘สาธู’ติ ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา นมสฺสมาโน ปฺชลิโก ปยิรุปาเสยฺย. อิมา โข, ภิกฺขเว, นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย’’ติ. ทุติยํ.
๓. นิพฺพานสุขสุตฺตํ
๓๔. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘สุขมิทํ, อาวุโส, นิพฺพานํ. สุขมิทํ ¶ , อาวุโส, นิพฺพาน’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ ¶ ปเนตฺถ, อาวุโส สาริปุตฺต, สุขํ ยเทตฺถ นตฺถิ เวทยิต’’นฺติ? ‘‘เอตเทว ขฺเวตฺถ, อาวุโส, สุขํ ยเทตฺถ นตฺถิ เวทยิตํ. ปฺจิเม, อาวุโส, กามคุณา. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา, โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา ¶ อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา – อิเม โข, อาวุโส, ปฺจ กามคุณา. ยํ โข, อาวุโส, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อิทํ วุจฺจตาวุโส, กามสุขํ.
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา ¶ สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ ¶ . สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต ¶ ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ ¶ , อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต ¶ รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ ¶ . สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ ¶ , อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม, นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺส เจ, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ, สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เต อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส โหติ อาพาโธ. โย โข ปนาวุโส, อาพาโธ ทุกฺขเมตํ วุตฺตํ ภควตา. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพานํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อิมินาปิ โข เอตํ, อาวุโส, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา สุขํ นิพฺพาน’’นฺติ. ตติยํ.
๔. คาวีอุปมาสุตฺตํ
๓๕. ‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. ตสฺสา เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ. สา ปุริมํ ปาทํ น สุปฺปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉิมํ ปาทํ อุทฺธเรยฺย. สา น เจว อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺเฉยฺย, น จ อขาทิตปุพฺพานิ ติณานิ ขาเทยฺย, น จ อปีตปุพฺพานิ ปานียานิ ปิเวยฺย; ยสฺมึ จสฺสา ปเทเส ิตาย เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ ¶ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ ¶ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ ตฺจ ปเทสํ น โสตฺถินา ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ สา, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ พาโล อพฺยตฺโต อเขตฺตฺู อกุสโล วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; โส ตํ นิมิตฺตํ น อาเสวติ น ภาเวติ น พหุลีกโรติ น สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหเรยฺย’นฺติ. โส น สกฺโกติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส น สกฺโกติ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อุภโต ภฏฺโ อุภโต ปริหีโน, เสยฺยถาปิ สา คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ’’’.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เขตฺตฺู กุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. ตสฺสา เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ ¶ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ. สา ปุริมํ ปาทํ สุปฺปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉิมํ ปาทํ อุทฺธเรยฺย. สา อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺย, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ¶ ขาเทยฺย, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย. ยสฺมึ จสฺสา ปเทเส ิตาย เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ ตฺจ ปเทสํ โสตฺถินา ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ สา, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา เขตฺตฺู กุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เขตฺตฺู กุสโล วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ ¶ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส ทุติยํ ฌานํ อนภิหึสมาโน วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหเรยฺยํ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทยฺยํ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ ตติยํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส ตติยํ ฌานํ อนภิหึสมาโน ปีติยา จ วิราคา…เป… ¶ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส จตุตฺถํ ฌานํ อนภิหึสมาโน สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส อากาสานฺจายตนํ ¶ อนภิหึสมาโน สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ¶ …เป… อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส วิฺาณฺจายตนํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส อากิฺจฺายตนํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส ¶ วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส เนวสฺานาสฺายตนํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ ¶ สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส สฺาเวทยิตนิโรธํ อนภิหึสมาโน สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.
‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตํ ตเทว สมาปตฺตึ สมาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ, ตสฺส มุทุ จิตฺตํ โหติ กมฺมฺํ. มุทุนา กมฺมฺเน จิตฺเตน อปฺปมาโณ สมาธิ โหติ สุภาวิโต. โส อปฺปมาเณน สมาธินา สุภาวิเตน ยสฺส ยสฺส อภิฺาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ ¶ อภินินฺนาเมติ ¶ อภิฺาสจฺฉิกิริยาย ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภเวยฺยํ, เอโกปิ หุตฺวา พหุธา อสฺสํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก อสฺสํ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ทิพฺพาย ¶ โสตธาตุยา…เป… สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชาเนยฺยํ, สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโทสํ วา จิตฺตํ สโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ วีตโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโมหํ วา จิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส ¶ สเจ อากงฺขติ – ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน.
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. ฌานสุตฺตํ
๓๖. ‘‘ปมมฺปาหํ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ ¶ ; ทุติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; ตติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; จตุตฺถมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; อากาสานฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; วิฺาณฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; อากิฺจฺายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; เนวสฺานาสฺายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ; สฺาเวทยิตนิโรธมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามิ.
‘‘‘ปมมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต ¶ อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ [ปติฏฺาเปติ (สฺยา.), ปฏิปาเทติ (ก.) ม. นิ. ๒.๑๓๓ ปสฺสิตพฺพํ]. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา [ปติฏฺาเปตฺวา (สฺยา.), ปฏิปาเทตฺวา (ก.)] อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา [ปทาลิตา (ก.) อ. นิ. ๓.๑๓๔; ๔.๑๘๑]; เอวเมวํ โข ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ ¶ . โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘ปมมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘ทุติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย…เป… ตติยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย… ‘จตุตฺถมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต ¶ โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา ¶ ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา, ทุกฺขสฺส จ ปหานา, ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ รูปคตํ เวทนาคตํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘จตุตฺถมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘อากาสานฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ฌานํ นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ. กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ ¶ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘อากาสานฺจายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘‘วิฺาณฺจายตนมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, นิสฺสาย…เป… อากิฺจฺายตนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ¶ . กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ¶ ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อิสฺสาโส วา อิสฺสาสนฺเตวาสี วา ติณปุริสรูปเก วา มตฺติกาปฺุเช วา โยคฺคํ กริตฺวา, โส อปเรน สมเยน ทูเรปาตี จ โหติ อกฺขณเวธี จ มหโต จ กายสฺส ปทาเลตา; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส ยเทว ตตฺถ โหติ เวทนาคตํ สฺาคตํ สงฺขารคตํ วิฺาณคตํ, เต ธมฺเม อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต คณฺฑโต สลฺลโต อฆโต อาพาธโต ปรโต ปโลกโต สฺุโต อนตฺตโต สมนุปสฺสติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ ¶ จิตฺตํ ปฏิวาเปติ. โส เตหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปฏิวาเปตฺวา อมตาย ธาตุยา จิตฺตํ อุปสํหรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. โส ตตฺถ ิโต อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ. โน เจ อาสวานํ ขยํ ปาปุณาติ, เตเนว ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. ‘อากิฺจฺายตนมฺปาหํ, นิสฺสาย อาสวานํ ขยํ วทามี’ติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ยาวตา สฺาสมาปตฺติ ตาวตา อฺาปฏิเวโธ. ยานิ จ โข อิมานิ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย ทฺเว อายตนานิ – เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ จ สฺาเวทยิตนิโรโธ ¶ จ, ฌายีเหเต ¶ , ภิกฺขเว, สมาปตฺติกุสเลหิ สมาปตฺติวุฏฺานกุสเลหิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺหิตฺวา สมฺมา อกฺขาตพฺพานีติ วทามี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. อานนฺทสุตฺตํ
๓๗. เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเม. ตตฺร โข อายสฺมา อานนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม ¶ อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย. ตเทว นาม จกฺขุํ ภวิสฺสติ เต รูปา ตฺจายตนํ ¶ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ [ปฏิสํเวทยติ (ก.)]. ตเทว นาม โสตํ ภวิสฺสติ เต สทฺทา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ. ตเทว นาม ฆานํ ภวิสฺสติ เต คนฺธา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ. สาว นาม ชิวฺหา ภวิสฺสติ เต รสา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสติ. โสว นาม กาโย ภวิสฺสติ เต โผฏฺพฺพา ตฺจายตนํ โน ปฏิสํเวทิสฺสตี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘สฺีเมว นุ โข, อาวุโส อานนฺท, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ อุทาหุ อสฺี’’ติ? ‘‘สฺีเมว โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ, โน อสฺี’’ติ.
‘‘กึสฺี ปนาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตี’’ติ? ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํสฺีปิ โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ ¶ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํสฺีปิ โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทติ.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํสฺีปิ โข ¶ , อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตี’’ติ.
‘‘เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมยํ สาเกเต วิหรามิ อฺชนวเน มิคทาเย. อถ โข, อาวุโส, ชฏิลวาสิกา [ชฏิลคาหิยา (สี. ปี.), ชฑิลภาคิกา (สฺยา.)] ภิกฺขุนี ¶ เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิตา โข, อาวุโส, ชฏิลวาสิกา ภิกฺขุนี มํ เอตทโวจ – ‘ยายํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ น จาภินโต น จาปนโต น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต [สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตวโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.), สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฏ (ก.) อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๗; ที. นิ. ๓.๓๕๕], วิมุตฺตตฺตา ิโต, ิตตฺตา สนฺตุสิโต, สนฺตุสิตตฺตา โน ปริตสฺสติ. อยํ, ภนฺเต อานนฺท, สมาธิ กึผโล วุตฺโต ภควตา’’’ติ?
‘‘เอวํ วุตฺเต, โสหํ, อาวุโส, ชฏิลวาสิกํ ภิกฺขุนึ เอตทโวจํ – ‘ยายํ, ภคินิ, สมาธิ น จาภินโต น จาปนโต น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต, วิมุตฺตตฺตา ิโต, ิตตฺตา สนฺตุสิโต, สนฺตุสิตตฺตา โน ปริตสฺสติ. อยํ, ภคินิ, สมาธิ อฺาผโล วุตฺโต ภควตา’ติ. เอวํสฺีปิ โข, อาวุโส, ตทายตนํ โน ปฏิสํเวเทตี’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. โลกายติกสุตฺตํ
๓๘. อถ โข ทฺเว โลกายติกา พฺราหฺมณา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต พฺราหฺมณา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘ปูรโณ, โภ โคตม, กสฺสโป สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ – ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส ¶ จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ¶ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส เอวมาห – ‘อหํ อนนฺเตน าเณน อนนฺตํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ ¶ วิหรามี’ติ. อยมฺปิ ¶ [อยมฺปิ หิ (สฺยา. ก.)], โภ โคตม, นิคณฺโ นาฏปุตฺโต สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี อปริเสสํ าณทสฺสนํ ปฏิชานาติ – ‘จรโต จ เม ติฏฺโต จ สุตฺตสฺส จ ชาครสฺส จ สตตํ สมิตํ าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิต’นฺติ. โส [โสปิ (?)] เอวมาห – ‘อหํ อนนฺเตน าเณน อนนฺตํ โลกํ ชานํ ปสฺสํ วิหรามี’ติ. อิเมสํ, โภ โคตม, อุภินฺนํ าณวาทานํ อุภินฺนํ อฺมฺํ วิปจฺจนีกวาทานํ โก สจฺจํ อาห โก มุสา’’ติ?
‘‘อลํ, พฺราหฺมณา! ติฏฺเตตํ – ‘อิเมสํ อุภินฺนํ าณวาทานํ อุภินฺนํ อฺมฺํ วิปจฺจนีกวาทานํ โก สจฺจํ อาห โก มุสา’ติ. ธมฺมํ โว, พฺราหฺมณา, เทเสสฺสามิ, ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข เต พฺราหฺมณา ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘เสยฺยถาปิ, พฺราหฺมณา, จตฺตาโร ปุริสา จตุทฺทิสา ิตา ปรเมน ชเวน จ สมนฺนาคตา ปรเมน จ ปทวีติหาเรน. เต เอวรูเปน ชเวน สมนฺนาคตา อสฺสุ, เสยฺยถาปิ นาม ทฬฺหธมฺมา [ทฬฺหธมฺโม (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๔.๔๕; ม. นิ. ๑.๑๑๖ จ, ตํสํวณฺณนาฏีกาโย จ โมคฺคลฺลานพฺยากรณฺจ โอโลเกตพฺพา] ธนุคฺคโห สิกฺขิโต กตหตฺโถ กตูปาสโน ลหุเกน อสเนน อปฺปกสิเรน ติริยํ ตาลจฺฉายํ [ตาลจฺฉาตึ (สี. สฺยา. ปี.), ตาลจฺฉาทึ (ก.) อ. นิ. ๔.๔๕; ม. นิ. ๑.๑๖๑ ปสฺสิตพฺพํ] อติปาเตยฺย; เอวรูเปน จ ปทวีติหาเรน, เสยฺยถาปิ นาม ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโม สมุทฺโท อถ ปุรตฺถิมาย ทิสาย ิโต ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’ติ. โส อฺตฺเรว อสิตปีตขายิตสายิตา อฺตฺร อุจฺจารปสฺสาวกมฺมา อฺตฺร นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา ¶ วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ อนฺตรา กาลํ ¶ กเรยฺย. อถ ปจฺฉิมาย ทิสาย…เป… อถ อุตฺตราย ทิสาย… อถ ทกฺขิณาย ทิสาย ิโต ปุริโส เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’ติ. โส อฺตฺเรว อสิตปีตขายิตสายิตา อฺตฺร อุจฺจารปสฺสาวกมฺมา อฺตฺร ¶ นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ อนฺตรา กาลํ กเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, พฺราหฺมณา, เอวรูปาย สนฺธาวนิกาย โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ. น จาหํ, พฺราหฺมณา, อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิ.
‘‘ปฺจิเม, พฺราหฺมณา, กามคุณา อริยสฺส วินเย โลโกติ วุจฺจติ. กตเม ปฺจ? จกฺขุวิฺเยฺยา ¶ รูปา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา; โสตวิฺเยฺยา สทฺทา…เป… ฆานวิฺเยฺยา คนฺธา… ชิวฺหาวิฺเยฺยา รสา… กายวิฺเยฺยา โผฏฺพฺพา อิฏฺา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา; อิเม โข, พฺราหฺมณา, ปฺจ กามคุณา อริยสฺส วินเย โลโกติ วุจฺจติ.
‘‘อิธ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม, โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ ¶ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ. อหมฺปิ หิ [อหมฺปิ (สี. ปี.)], พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ. อหมฺปิ หิ, พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ ¶ . อหมฺปิ หิ, พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ ¶ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา ¶ , ‘ภิกฺขุ โลกสฺส อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ’. ตมฺเ เอวมาหํสุ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’ติ. อหมฺปิ หิ, พฺราหฺมณา, เอวํ วทามิ – ‘อยมฺปิ โลกปริยาปนฺโน, อยมฺปิ อนิสฺสโฏ โลกมฺหา’’’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, พฺราหฺมณา, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณา, ‘ภิกฺขุ โลกสฺส ¶ อนฺตมาคมฺม โลกสฺส อนฺเต วิหรติ ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. เทวาสุรสงฺคามสุตฺตํ
๓๙. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห [สมุปพฺพูฬฺโห (สี. ปี.)] อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม อสุรา ชินึสุ, เทวา ปราชยึสุ [ปราชิยึสุ (สี. สฺยา. ก.)]. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, เทวา [เทวา ภีตา (ปี.)] อปยึสุเยว [อปยํสฺเวว (สี.)] อุตฺตเรนาภิมุขา, อภิยึสุ [อภิยํสุ (สี.)] อสุรา. อถ โข, ภิกฺขเว, เทวานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข อสุรา. ยํนูน มยํ ทุติยมฺปิ อสุเรหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวา อสุเรหิ สงฺคาเมสุํ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อสุราว ชินึสุ, เทวา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, เทวา อปยึสุเยว อุตฺตเรนาภิมุขา, อภิยึสุ อสุรา’’.
อถ โข, ภิกฺขเว, เทวานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข อสุรา. ยํนูน มยํ ตติยมฺปิ อสุเรหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ¶ เทวา อสุเรหิ สงฺคาเมสุํ. ตติยมฺปิ โข ¶ , ภิกฺขเว, อสุราว ชินึสุ, เทวา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, เทวา ภีตา เทวปุรํเยว ปวิสึสุ. เทวปุรคตานฺจ ปน [ปุน (ก.)], ภิกฺขเว, เทวานํ เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ มยํ เอตรหิ ¶ อตฺตนา วิหราม อกรณียา อสุเรหี’ติ. อสุรานมฺปิ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ เทวา เอตรหิ อตฺตนา วิหรนฺติ อกรณียา อมฺเหหี’ติ.
‘‘ภูตปุพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภิกฺขเว, สงฺคาเม เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, อสุรา อปยึสุเยว ทกฺขิเณนาภิมุขา, อภิยึสุ เทวา. อถ โข, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข เทวา. ยํนูน มยํ ทุติยมฺปิ เทเวหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อสุรา เทเวหิ สงฺคาเมสุํ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, อสุรา อปยึสุเยว ทกฺขิเณนาภิมุขา, อภิยึสุ เทวา’’.
อถ โข, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ – ‘อภิยนฺเตว โข เทวา. ยํนูน มยํ ตติยมฺปิ เทเวหิ สงฺคาเมยฺยามา’ติ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อสุรา เทเวหิ สงฺคาเมสุํ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เทวา ชินึสุ, อสุรา ปราชยึสุ. ปราชิตา จ, ภิกฺขเว, อสุรา ภีตา อสุรปุรํเยว ปวิสึสุ. อสุรปุรคตานฺจ ปน, ภิกฺขเว, อสุรานํ เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ มยํ เอตรหิ อตฺตนา วิหราม อกรณียา ¶ เทเวหี’ติ. เทวานมฺปิ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ อสุรา เอตรหิ อตฺตนา วิหรนฺติ อกรณียา อมฺเหหี’ติ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานาหํ เอตรหิ อตฺตนา วิหรามิ ¶ อกรณีโย มารสฺสา’ติ ¶ . มารสฺสาปิ, ภิกฺขเว, ปาปิมโต เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ ภิกฺขุ เอตรหิ อตฺตนา วิหรติ อกรณีโย มยฺห’’’นฺติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ¶ ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานาหํ เอตรหิ อตฺตนา วิหรามิ อกรณีโย มารสฺสา’ติ. มารสฺสาปิ, ภิกฺขเว, ปาปิมโต เอวํ โหติ – ‘ภีรุตฺตานคเตน โข ทานิ ภิกฺขุ เอตรหิ อตฺตนา วิหรติ, อกรณีโย มยฺห’’’นฺติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อนฺตมกาสิ มารํ, อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’’นฺติ.
‘‘ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ ¶ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ‘ภิกฺขุ อนฺตมกาสิ มารํ, อปทํ วธิตฺวา มารจกฺขุํ อทสฺสนํ คโต ปาปิมโต ติณฺโณ โลเก วิสตฺติก’’’นฺติ. อฏฺมํ.
๙. นาคสุตฺตํ
๔๐. ‘‘ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส โคจรปสุตสฺส หตฺถีปิ หตฺถินิโยปิ หตฺถิกลภาปิ หตฺถิจฺฉาปาปิ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ติณคฺคานิ ฉินฺทนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส โคจรปสุตสฺส หตฺถีปิ หตฺถินิโยปิ หตฺถิกลภาปิ หตฺถิจฺฉาปาปิ โอภคฺโคภคฺคํ สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. ยสฺมึ ¶ , ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส โอคาหํ โอติณฺณสฺส หตฺถีปิ หตฺถินิโยปิ หตฺถิกลภาปิ หตฺถิจฺฉาปาปิ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา โสณฺฑาย อุทกํ อาโลเฬนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ. ยสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส ¶ นาคสฺส โอคาหา อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ, เตน, ภิกฺขเว, อารฺิโก นาโค อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติ.
‘‘ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข เอตรหิ อากิณฺโณ วิหรามิ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ ¶ . ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ [ขาทิตํ (สฺยา. ก.) มหาว. ๔๖๗ ปสฺสิตพฺพํ], อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ [โอคาหาปิ จ (สฺยา. ก.) มหาว. ๔๖๗ ปสฺสิตพฺพํ] เม อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ. ยํนูนาหํ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหรติ, อจฺฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทติ, โอภคฺโคภคฺคฺจสฺส สาขาภงฺคํ ¶ น ขาทนฺติ [น โอภคฺโคภคฺคฺจ สาขาภงฺค ขาทติ (สฺยา. ก.)], อนาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวติ, โอคาหา จสฺส อุตฺติณฺณสฺส น หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ.
‘‘ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย อารฺิกสฺส นาคสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ วิหาสึ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกลเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทึ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทึสุ, อาวิลานิ จ ปานียานิ อปายึ, โอคาหา [เอตฺถ ปิสทฺโท สพฺพตฺถปิ นตฺถิ] จ เม อุตฺติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย อคมํสุ. โสหํ เอตรหิ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหรามิ, อจฺฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคฺจ เม สาขาภงฺคํ น ขาทนฺติ, อนาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ เม อุตฺติณฺณสฺส น หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺตี’ติ. โส โสณฺฑาย สาขาภงฺคํ ภฺชิตฺวา สาขาภงฺเคน กายํ ปริมชฺชิตฺวา อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรติ [กณฺฑุํ สํหนฺติ (สี. ปี.) กณฺฑุํ สํหนติ (สฺยา.), เอตฺถ กณฺฑุวนทุกฺขํ วิเนตีติ อตฺโถ],.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ภิกฺขุ อากิณฺโณ วิหรติ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ¶ ติตฺถิยสาวเกหิ, ตสฺมึ, ภิกฺขเว, สมเย ภิกฺขุสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โข เอตรหิ อากิณฺโณ วิหรามิ ภิกฺขูหิ ภิกฺขุนีหิ อุปาสเกหิ ¶ อุปาสิกาหิ รฺา ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ. ยํนูนาหํ เอโก คณสฺมา วูปกฏฺโ วิหเรยฺย’นฺติ. โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ¶ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ ¶ . โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรติ [กณฺฑุํ สํหนฺติ (สี. ปี.), กณฺฑุํ สํหนติ (สฺยา.), เอตฺถ กณฺฑุวนสทิสํ ฌานปฏิปกฺขํ กิเลสทุกฺขํ วิเนตีติ อตฺโถ]. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรติ.
‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ ¶ สํหรติ. สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ… สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ ¶ ¶ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. โส อตฺตมโน โสณฺฑํ สํหรตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. ตปุสฺสสุตฺตํ
๔๑. เอกํ ¶ สมยํ ภควา มลฺเลสุ วิหรติ อุรุเวลกปฺปํ นาม มลฺลานํ นิคโม. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อุรุเวลกปฺปํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อุรุเวลกปฺเป ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิเธว ตาว ตฺวํ, อานนฺท, โหหิ, ยาวาหํ มหาวนํ อชฺโฌคาหามิ ทิวาวิหารายา’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข ภควา มหาวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิ.
อถ โข ตปุสฺโส คหปติ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ตปุสฺโส คหปติ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ –
‘‘มยํ, ภนฺเต อานนฺท, คิหี กามโภคิโน กามารามา กามรตา กามสมฺมุทิตา. เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ คิหีนํ กามโภคีนํ กามารามานํ กามรตานํ กามสมฺมุทิตานํ ¶ ปปาโต วิย ขายติ, ยทิทํ เนกฺขมฺมํ. สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ‘อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทหรานํ ทหรานํ ภิกฺขูนํ เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’ [ปสฺสตํ (?)]. ตยิทํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ภิกฺขูนํ พหุนา ชเนน วิสภาโค, ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ.
‘‘อตฺถิ ¶ โข เอตํ, คหปติ, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อายาม, คหปติ, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสาม. ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ.
‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข ตปุสฺโส คหปติ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ตปุสฺเสน คหปตินา สทฺธึ ¶ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อยํ ¶ , ภนฺเต, ตปุสฺโส คหปติ เอวมาห – ‘มยํ, ภนฺเต อานนฺท, คิหี กามโภคิโน กามารามา กามรตา กามสมฺมุทิตา, เตสํ โน ภนฺเต, อมฺหากํ คิหีนํ กามโภคีนํ กามารามานํ กามรตานํ กามสมฺมุทิตานํ ปปาโต วิย ขายติ, ยทิทํ เนกฺขมฺมํ’. สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ‘อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทหรานํ ทหรานํ ภิกฺขูนํ เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตยิทํ, ภนฺเต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ภิกฺขูนํ พหุนา ชเนน วิสภาโค ยทิทํ เนกฺขมฺม’’’นฺติ.
‘‘เอวเมตํ, อานนฺท, เอวเมตํ, อานนฺท! มยฺหมฺปิ โข, อานนฺท, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ – ‘สาธุ เนกฺขมฺมํ ¶ , สาธุ ปวิเวโก’ติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘กาเมสุ โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, เนกฺขมฺเม จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต ¶ . ตสฺมา เม เนกฺขมฺเม จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ [พหุลีกเรยฺยํ (สี. สฺยา. ปี.)], เนกฺขมฺเม อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, เนกฺขมฺเม อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนกฺขมฺเม จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ ¶ . เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ¶ ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ¶ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘วิตกฺเกสุ โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, อวิตกฺเก จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ ¶ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อวิตกฺเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ วิตกฺเกสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, อวิตกฺเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อวิตกฺเก จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน วิตกฺเกสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, อวิตกฺเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อวิตกฺเก จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหเรยฺยํ สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทยฺยํ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, นิปฺปีติเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย ¶ , เยน เม นิปฺปีติเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ปีติยา โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, นิปฺปีติเก จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม นิปฺปีติเก จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ ¶ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ ปีติยา อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ ¶ พหุลํ กเรยฺยํ, นิปฺปีติเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม นิปฺปีติเก จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน ปีติยา อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, นิปฺปีติเก อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, นิปฺปีติเก จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส ¶ โข อหํ, อานนฺท, ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม ปีติสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘อุเปกฺขาสุเข โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, อทุกฺขมสุเข จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ ¶ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ อุเปกฺขาสุเข อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ ¶ พหุลํ กเรยฺยํ, อทุกฺขมสุเข อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ ¶ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน อุเปกฺขาสุเข อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ อทุกฺขมสุเข อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อทุกฺขมสุเข จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สุขสฺส จ ปหานา…เป… ¶ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม อุเปกฺขาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ¶ เม อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘รูเปสุ โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ อพหุลีกโต, อากาสานฺจายตเน จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ¶ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ รูเปสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, อากาสานฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน รูเปสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, อากาสานฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากาสานฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ¶ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม รูปสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส ¶ มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ¶ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘อากาสานฺจายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ อพหุลีกโต, วิฺาณฺจายตเน จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ อากาสานฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ ¶ กเรยฺยํ, วิฺาณฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน อากาสานฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, วิฺาณฺจายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, วิฺาณฺจายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ ¶ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย ¶ ; เอวเมวสฺส เม อากาสานฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิฺจีติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘วิฺาณฺจายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, อากิฺจฺายตเน จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ ¶ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ วิฺาณฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, อากิฺจฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ¶ ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม อากิฺจฺายตเน ¶ จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน วิฺาณฺจายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, อากิฺจฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อากิฺจฺายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม วิฺาณฺจายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ ¶ – ‘โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย, เยน เม เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘อากิฺจฺายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, เนวสฺานาสฺายตเน ¶ จ อานิสํโส อนธิคโต, โส จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ อากิฺจฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, เนวสฺานาสฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส ¶ โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน อากิฺจฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ, เนวสฺานาสฺายตเน อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เนวสฺานาสฺายตเน จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ¶ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, อิมินา วิหาเรน วิหรโต อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ. เสยฺยถาปิ, อานนฺท, สุขิโน ทุกฺขํ อุปฺปชฺเชยฺย ยาวเทว อาพาธาย; เอวเมวสฺส เม อากิฺจฺายตนสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ. สฺวสฺส เม โหติ อาพาโธ.
‘‘ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘ยํนูนาหํ เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. ตสฺส ¶ มยฺหํ, อานนฺท, สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน เม สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’? ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘เนวสฺานาสฺายตเน โข เม อาทีนโว อทิฏฺโ, โส จ เม อพหุลีกโต, สฺาเวทยิตนิโรเธ จ อานิสํโส อนธิคโต, โส ¶ จ เม อนาเสวิโต. ตสฺมา เม สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ นปฺปสีทติ น สนฺติฏฺติ น วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, เอตทโหสิ – ‘สเจ โข อหํ เนวสฺานาสฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลํ กเรยฺยํ, สฺาเวทยิตนิโรเธ อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสเวยฺยํ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ เม สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺเทยฺย ปสีเทยฺย สนฺติฏฺเยฺย วิมุจฺเจยฺย เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต’. โส โข อหํ, อานนฺท, อปเรน สมเยน เนวสฺานาสฺายตเน อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ พหุลมกาสึ ¶ , สฺาเวทยิตนิโรเธ อานิสํสํ อธิคมฺม ตมาเสวึ. ตสฺส มยฺหํ, อานนฺท, สฺาเวทยิตนิโรเธ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฏฺติ วิมุจฺจติ เอตํ สนฺตนฺติ ปสฺสโต. โส โข อหํ, อานนฺท, สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ, ปฺาย จ เม ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขยํ อคมํสุ.
‘‘ยาวกีวฺจาหํ ¶ , อานนฺท, อิมา นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย น เอวํ อนุโลมปฏิโลมํ สมาปชฺชิมฺปิ วุฏฺหิมฺปิ, เนว ตาวาหํ, อานนฺท, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. ยโต จ โข อหํ, อานนฺท, อิมา นว อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย เอวํ อนุโลมปฏิโลมํ ¶ สมาปชฺชิมฺปิ วุฏฺหิมฺปิ, อถาหํ, อานนฺท, สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย ‘อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’ติ ปจฺจฺาสึ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ – ‘อกุปฺปา เม เจโตวิมุตฺติ [วิมุตฺติ (ก. สี. ก.)], อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ. ทสมํ.
มหาวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว วิหารา จ นิพฺพานํ, คาวี ฌาเนน ปฺจมํ;
อานนฺโท พฺราหฺมณา เทโว, นาเคน ตปุสฺเสน จาติ.