📜
(๑๒) ๒. ปจฺโจโรหณิวคฺโค
๑. ปมอธมฺมสุตฺตํ
๑๑๓. [อ. นิ. ๑๐.๑๗๑] ‘‘อธมฺโม ¶ ¶ จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ? มิจฺฉาทิฏฺิ, มิจฺฉาสงฺกปฺโป, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺโต, มิจฺฉาอาชีโว, มิจฺฉาวายาโม, มิจฺฉาสติ, มิจฺฉาสมาธิ, มิจฺฉาาณํ, มิจฺฉาวิมุตฺติ – อยํ ¶ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ, สมฺมาวิมุตฺติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ.
‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ปมํ.
๒. ทุติยอธมฺมสุตฺตํ
๑๑๔. ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา ¶ อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
‘‘กตโม ¶ จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม, กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ?
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป ¶ , ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาสงฺกปฺปปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาวาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวาจา ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวาจาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉากมฺมนฺโต, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมากมฺมนฺโต ธมฺโม; เย จ มิจฺฉากมฺมนฺตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ ¶ อนตฺโถ; สมฺมากมฺมนฺตปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาอาชีโว, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาอาชีโว ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาอาชีวปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาอาชีวปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาวายาโม, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวายาโม ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวายามปจฺจยา ¶ อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวายามปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาสติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาสติปจฺจยา อเนเก ปาปกา ¶ อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาสติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาสมาธิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสมาธิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาสมาธิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาสมาธิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาาณํ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาาณํ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาาณปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาาณปจฺจยา ¶ จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาวิมุตฺติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวิมุตฺติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ทุติยํ.
๓. ตติยอธมฺมสุตฺตํ
๑๑๕. ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ ¶ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ¶ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ ¶ . อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ?
อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม [ปุจฺเฉยฺยาม (สี. สฺยา. ปี.) ม. นิ. ๑.๒๐๒ ปสฺสิตพฺพํ]. ยถา โน อายสฺมา อานนฺโท พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ.
อถ ¶ โข เต ภิกฺขู เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา ¶ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส อานนฺท, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.
‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน ¶ อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?
‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา อานนฺโท พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ¶ ธาเรสฺสามา’ติ. วิภชตุ อายสฺมา อานนฺโท’’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , อาวุโส, ปุริโส สารตฺถิโก สารคเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต อติกฺกมฺเมว มูลํ อติกฺกมฺม ขนฺธํ สาขาปลาเส สารํ ปริเยสิตพฺพํ มฺเยฺย; เอวํสมฺปทมิทํ อายสฺมนฺตานํ สตฺถริ สมฺมุขีภูเต ตํ ภควนฺตํ อติสิตฺวา อมฺเห เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ มฺถ. โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ, จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ตุมฺเห ภควนฺตํเยว ¶ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ¶ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
‘‘อทฺธาวุโส อานนฺท, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ มยํ ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม, ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาม. อปิ จายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. วิภชตายสฺมา อานนฺโท อครุํ กตฺวา’’ติ.
‘‘เตนหาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ¶ ปจฺจสฺโสสุํ. อถายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –
‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.
กตโม จาวุโส, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม, กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ?
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา ¶ อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม… มิจฺฉาวาจา, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาวาจา ธมฺโม ¶ … มิจฺฉากมฺมนฺโต, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมากมฺมนฺโต ธมฺโม… มิจฺฉาอาชีโว, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาอาชีโว ¶ ธมฺโม… มิจฺฉาวายาโม, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาวายาโม ธมฺโม… มิจฺฉาสติ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาสติ ธมฺโม… มิจฺฉาสมาธิ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาสมาธิ ธมฺโม… มิจฺฉาาณํ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาาณํ ธมฺโม….
มิจฺฉาวิมุตฺติ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาวิมุตฺติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘อยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน ¶ อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว ภควา พฺยากโรติ [พฺยากเรยฺย (สฺยา.)] ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘ยํ โข โน ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิชฺชิตพฺพ’นฺติ.
‘‘เตสํ ¶ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน ¶ อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ¶ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?
‘‘เตสํ ¶ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา อานนฺโท สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา อานนฺโท อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา อานนฺโท พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ.
‘‘อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิมฺหา; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตมตฺถํ อปุจฺฉิมฺหา. เตสํ โน, ภนฺเต, อายสฺมตา อานนฺเทน อิเมหิ อากาเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ อตฺโถ สุวิภตฺโต’’ติ [วิภตฺโตติ (?) เอวเมว หิ อฺเสุ อีทิสสุตฺเตสุ ทิสฺสติ].
‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขเว! ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, อานนฺโท. มหาปฺโ, ภิกฺขเว, อานนฺโท. มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ เจตํ เอวเมวํ [อหมฺปิ ตํ เอวเมวํ (ม. นิ. ๑.๒๐๕)] พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ อานนฺเทน พฺยากตํ. เอโส เจว ตสฺส [เอโส เจเวตสฺส (ม. นิ. ๑.๒๐๕)] อตฺโถ เอวฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ. ตติยํ.
๔. อชิตสุตฺตํ
๑๑๖. อถ โข อชิโต ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา ¶ เอกมนฺตํ นิสีทิ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อชิโต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘อมฺหากํ ¶ , โภ โคตม, ปณฺฑิโต นาม สพฺรหฺมจารี. เตน ปฺจมตฺตานิ จิตฺตฏฺานสตานิ จินฺติตานิ, เยหิ อฺติตฺถิยา อุปารทฺธาว ชานนฺติ [อุปารทฺธา ปชานนฺติ (สี.)] อุปารทฺธสฺมา’’ติ [อุปารทฺธมฺหาติ (สี. ปี.)].
อถ ¶ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ธาเรถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตวตฺถูนี’’ติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา ภาเสยฺย, ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อธมฺมิเกน วาเทน อธมฺมิกํ วาทํ อภินิคฺคณฺหาติ อภินิปฺปีเฬติ, เตน จ อธมฺมิกํ ปริสํ รฺเชติ. เตน สา อธมฺมิกา ปริสา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา โหติ – ‘ปณฺฑิโต วต, โภ, ปณฺฑิโต วต, โภ’ติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อธมฺมิเกน วาเทน ธมฺมิกํ วาทํ อภินิคฺคณฺหาติ อภินิปฺปีเฬติ, เตน จ อธมฺมิกํ ปริสํ รฺเชติ. เตน สา อธมฺมิกา ปริสา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา โหติ – ‘ปณฺฑิโต วต, โภ, ปณฺฑิโต วต, โภ’ติ.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อธมฺมิเกน วาเทน ธมฺมิกฺจ วาทํ อธมฺมิกฺจ วาทํ อภินิคฺคณฺหาติ อภินิปฺปีเฬติ, เตน จ อธมฺมิกํ ปริสํ รฺเชติ. เตน สา อธมฺมิกา ปริสา อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา โหติ – ‘ปณฺฑิโต วต, โภ, ปณฺฑิโต วต, โภ’ติ.
‘‘อธมฺโม ¶ ¶ จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม, กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ? มิจฺฉาทิฏฺิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา ¶ อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาสงฺกปฺโป, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม… มิจฺฉาวาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวาจา ธมฺโม… มิจฺฉากมฺมนฺโต, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมากมฺมนฺโต ธมฺโม… มิจฺฉาอาชีโว, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาอาชีโว ธมฺโม ¶ … มิจฺฉาวายาโม, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวายาโม ธมฺโม… มิจฺฉาสติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาสติ ธมฺโม… มิจฺฉาสมาธิ, ภิกฺขเว อธมฺโม; สมฺมาสมาธิ ธมฺโม… มิจฺฉาาณํ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาาณํ ธมฺโม ¶ .
‘‘มิจฺฉาวิมุตฺติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาวิมุตฺติ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ ¶ , อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. สงฺคารวสุตฺตํ
๑๑๗. [อ. นิ. ๑๐.๑๖๙] อถ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, โอริมํ ตีรํ, กึ ปาริมํ ตีร’’นฺติ? ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาสงฺกปฺโป โอริมํ ตีรํ, สมฺมาสงฺกปฺโป ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาวาจา โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวาจา ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉากมฺมนฺโต โอริมํ ตีรํ, สมฺมากมฺมนฺโต ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาอาชีโว โอริมํ ตีรํ, สมฺมาอาชีโว ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาวายาโม โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวายาโม ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาสติ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาสติ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาสมาธิ โอริมํ ¶ ตีรํ, สมฺมาสมาธิ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาาณํ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาาณํ ปาริมํ ตีรํ; มิจฺฉาวิมุตฺติ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวิมุตฺติ ปาริมํ ตีรนฺติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ¶ ปาริมํ ตีรนฺติ.
‘‘อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;
อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.
‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;
เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.
‘‘กณฺหํ ¶ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;
โอกา อโนกมาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.
‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;
ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.
‘‘เยสํ ¶ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;
อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;
ขีณาสวา ชุติมนฺโต [ชุตีมนฺโต (สี.)], เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. ปฺจมํ;
๖. โอริมตีรสุตฺตํ
๑๑๘. ‘‘โอริมฺจ, ภิกฺขเว, ตีรํ เทเสสฺสามิ ปาริมฺจ ตีรํ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, กตมฺจ ปาริมํ ตีรํ? มิจฺฉาทิฏฺิ โอริมํ ตีรํ ¶ , สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ…เป… มิจฺฉาวิมุตฺติ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาวิมุตฺติ ปาริมํ ตีรํ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.
‘‘อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;
อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.
‘‘เย ¶ จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;
เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.
‘‘กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;
โอกา อโนก มาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.
‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;
ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.
‘‘เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;
อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;
ขีณาสวา ชุติมนฺโต, เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. ฉฏฺํ;
๗. ปมปจฺโจโรหณีสุตฺตํ
๑๑๙. เตน ¶ โข ปน สมเยน ชาณุสฺโสณิ [ชานุสฺโสนิ (ก. สี.), ชานุสฺโสณิ (ก. สี.), ชาณุโสณิ (ก.)] พฺราหฺมโณ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต [สีสํนหาโต (สี. ปี.), สีสนฺหาโต (สฺยา.)] นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ ¶ อาทาย ภควโต อวิทูเร เอกมนฺตํ ิโต โหติ.
อทฺทสา โข ภควา ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตํ นวํ โขมยุคํ นิวตฺถํ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิตํ. ทิสฺวาน ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิโต ¶ ? กึ นฺวชฺช [กึ นุ อชฺช (สฺยา.), กึ นุ โข อชฺช (ปี.), กึ นุ ขฺวชฺช (ก.)] พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ [พฺราหฺมณ พฺรหฺมกุสลสฺสาติ (ก.)]? ‘‘ปจฺโจโรหณี, โภ โคตม, อชฺช พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ [พฺรหฺมกุสลสฺสาติ (ก.)].
‘‘ยถา กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตา นวํ โขมยุคํ นิวตฺถา อลฺเลน โคมเยน ปถวึ โอปฺุชิตฺวา หริเตหิ กุเสหิ ปตฺถริตฺวา [ปวิตฺถาเรตฺวา (ก.)] อนฺตรา จ เวลํ ¶ อนฺตรา จ อคฺยาคารํ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. เต ตํ รตฺตึ ติกฺขตฺตุํ ปจฺจุฏฺาย ปฺชลิกา อคฺคึ นมสฺสนฺติ – ‘ปจฺโจโรหาม ภวนฺตํ, ปจฺโจโรหาม ภวนฺต’นฺติ. พหุเกน จ สปฺปิเตลนวนีเตน อคฺคึ สนฺตปฺเปนฺติ. ตสฺสา จ รตฺติยา อจฺจเยน ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน พฺราหฺมเณ สนฺตปฺเปนฺติ. เอวํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.
‘‘อฺถา โข, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ? สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.
‘‘เตน ¶ หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อิธ ¶ , พฺราหฺมณ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ.
… มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปชหติ; มิจฺฉาสงฺกปฺปา ปจฺโจโรหติ.
… มิจฺฉาวาจาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวาจํ ปชหติ; มิจฺฉาวาจาย ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส ¶ โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ; มิจฺฉากมฺมนฺตา ¶ ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉาอาชีวสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ; มิจฺฉาอาชีวา ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉาวายามสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวายามํ ปชหติ; มิจฺฉาวายามา ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉาสติยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาสตึ ปชหติ; มิจฺฉาสติยา ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉาสมาธิสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาสมาธึ ปชหติ; มิจฺฉาสมาธิมฺหา ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉาาณสฺส ¶ โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาาณํ ปชหติ; มิจฺฉาาณมฺหา ปจฺโจโรหติ.
‘มิจฺฉาวิมุตฺติยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวิมุตฺตึ ปชหติ; มิจฺฉาวิมุตฺติยา ปจฺโจโรหติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.
‘‘อฺถา, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ. อิมิสฺสา จ, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณิยา พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. อภิกฺกนฺตํ ¶ , โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. ทุติยปจฺโจโรหณีสุตฺตํ
๑๒๐. ‘‘อริยํ ¶ โว, ภิกฺขเว, ปจฺโจโรหณึ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ… กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ¶ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส โข ปาปโก วิปาโก… มิจฺฉาวาจาย โข… มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส โข… มิจฺฉาอาชีวสฺส โข… มิจฺฉาวายามสฺส โข… มิจฺฉาสติยา โข… มิจฺฉาสมาธิสฺส โข… มิจฺฉาาณสฺส โข… มิจฺฉาวิมุตฺติยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาวิมุตฺตึ ปชหติ; มิจฺฉาวิมุตฺติยา ปจฺโจโรหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปุพฺพงฺคมสุตฺตํ
๑๒๑. ‘‘สูริยสฺส, ภิกฺขเว, อุทยโต เอตํ ปุพฺพงฺคมํ เอตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ยทิทํ – อรุณุคฺคํ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, กุสลานํ ธมฺมานํ เอตํ ปุพฺพงฺคมํ เอตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ยทิทํ – สมฺมาทิฏฺิ. สมฺมาทิฏฺิกสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกปฺโป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺโต ¶ ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ ¶ , สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาาณํ ปโหติ, สมฺมาาณิสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. อาสวกฺขยสุตฺตํ
๑๒๒. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺติ. กตเม ทส? สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ, สมฺมาสมาธิ, สมฺมาาณํ ¶ , สมฺมาวิมุตฺติ – อิเม โข ¶ , ภิกฺขเว, ทส ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา อาสวานํ ขยาย สํวตฺตนฺตี’’ติ. ทสมํ.
ปจฺโจโรหณิวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ตโย อธมฺมา อชิโต, สงฺคารโว จ โอริมํ;
ทฺเว เจว ปจฺโจโรหณี, ปุพฺพงฺคมํ อาสวกฺขโยติ.