📜
(๑๗) ๒. ชาณุสฺโสณิวคฺโค
๑. พฺราหฺมณปจฺโจโรหณีสุตฺตํ
๑๖๗. เตน ¶ โข ปน สมเยน ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย ภควโต อวิทูเร เอกมนฺตํ ิโต โหติ.
อทฺทสา โข ภควา ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตํ นวํ โขมยุคํ นิวตฺถํ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิตํ. ทิสฺวาน ชาณุสฺโสณึ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาโต นวํ โขมยุคํ นิวตฺโถ อลฺลกุสมุฏฺึ อาทาย เอกมนฺตํ ิโต? กึ นฺวชฺช พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ? ‘‘ปจฺโจโรหณี, โภ โคตม, อชฺช พฺราหฺมณกุลสฺสา’’ติ ¶ .
‘‘ยถา กถํ ปน, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา ตทหุโปสเถ สีสํนฺหาตา นวํ โขมยุคํ นิวตฺถา อลฺเลน โคมเยน ปถวึ โอปฺุชิตฺวา หริเตหิ กุเสหิ ปตฺถริตฺวา อนฺตรา จ เวลํ อนฺตรา จ อคฺยาคารํ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. เต ตํ รตฺตึ ติกฺขตฺตุํ ¶ ปจฺจุฏฺาย ปฺชลิกา อคฺคึ นมสฺสนฺติ – ‘ปจฺโจโรหาม ภวนฺตํ, ปจฺโจโรหาม ภวนฺต’นฺติ. พหุเกน จ สปฺปิเตลนวนีเตน อคฺคึ สนฺตปฺเปนฺติ. ตสฺสา จ รตฺติยา อจฺจเยน ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน พฺราหฺมเณ สนฺตปฺเปนฺติ. เอวํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.
‘‘อฺถา โข, พฺราหฺมณ, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ¶ ปน, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ? สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.
‘‘เตน ¶ หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ปาณาติปาตสฺส โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ปาณาติปาตํ ปชหติ; ปาณาติปาตา ปจฺโจโรหติ.
…อทินฺนาทานสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย อทินฺนาทานํ ปชหติ; อทินฺนาทานา ปจฺโจโรหติ.
…กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปชหติ; กาเมสุมิจฺฉาจารา ปจฺโจโรหติ.
…มุสาวาทสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ¶ มุสาวาทํ ปชหติ; มุสาวาทา ปจฺโจโรหติ.
…ปิสุณาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม ¶ อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ปิสุณํ วาจํ ปชหติ; ปิสุณาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.
…ผรุสาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ผรุสํ วาจํ ปชหติ; ผรุสาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.
…สมฺผปฺปลาปสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย สมฺผปฺปลาปํ ปชหติ; สมฺผปฺปลาปา ปจฺโจโรหติ.
…อภิชฺฌาย ¶ โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย อภิชฺฌํ ปชหติ; อภิชฺฌาย ปจฺโจโรหติ.
…พฺยาปาทสฺส ¶ โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจาติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย พฺยาปาทํ ปชหติ; พฺยาปาทา ปจฺโจโรหติ.
…มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ. เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหตี’’ติ.
‘‘อฺถา โข, โภ โคตม, พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี โหติ, อฺถา จ ปน อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณี โหติ. อิมิสฺสา, โภ โคตม, อริยสฺส วินเย ปจฺโจโรหณิยา พฺราหฺมณานํ ปจฺโจโรหณี กลํ นาคฺฆติ โสฬสึ. อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ปมํ.
๒. อริยปจฺโจโรหณีสุตฺตํ
๑๖๘. ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, ปจฺโจโรหณึ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ ¶ . ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี? อิธ ¶ , ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘ปาณาติปาตสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย ปาณาติปาตํ ปชหติ; ปาณาติปาตา ปจฺโจโรหติ.
… ‘อทินฺนาทานสฺส โข ปาปโก วิปาโก – ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย อทินฺนาทานํ ปชหติ; อทินฺนาทานา ปจฺโจโรหติ.
… ¶ ‘กาเมสุมิจฺฉาจารสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปจฺโจโรหติ.
… ‘มุสาวาทสฺส ¶ โข ปาปโก วิปาโก…เป… มุสาวาทา ปจฺโจโรหติ.
… ‘ปิสุณาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก…เป… ปิสุณาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.
… ‘ผรุสาย วาจาย โข ปาปโก วิปาโก…เป… ผรุสาย วาจาย ปจฺโจโรหติ.
… ‘สมฺผปฺปลาปสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… สมฺผปฺปลาปา ปจฺโจโรหติ.
… ‘อภิชฺฌาย โข ปาปโก วิปาโก…เป… อภิชฺฌาย ปจฺโจโรหติ.
… ‘พฺยาปาทสฺส โข ปาปโก วิปาโก…เป… ¶ พฺยาปาทา ปจฺโจโรหติ.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘มิจฺฉาทิฏฺิยา โข ปาปโก วิปาโก ทิฏฺเ เจว ธมฺเม อภิสมฺปรายฺจา’ติ. โส อิติ ปฏิสงฺขาย มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ; มิจฺฉาทิฏฺิยา ปจฺโจโรหติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยา ปจฺโจโรหณี’’ติ. ทุติยํ.
๓. สงฺคารวสุตฺตํ
๑๖๙. [อ. นิ. ๑๐.๑๑๗] อถ ¶ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, โอริมํ ตีรํ, กึ ปาริมํ ตีร’’นฺติ? ‘‘ปาณาติปาโต โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, ปาณาติปาตา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อทินฺนาทานํ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, อทินฺนาทานา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. กาเมสุมิจฺฉาจาโร โอริมํ ตีรํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. มุสาวาโท โอริมํ ตีรํ, มุสาวาทา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ปิสุณา วาจา โอริมํ ตีรํ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ผรุสา วาจา โอริมํ ตีรํ, ผรุสาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. สมฺผปฺปลาโป โอริมํ ตีรํ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อภิชฺฌา โอริมํ ตีรํ, อนภิชฺฌา ปาริมํ ตีรํ. พฺยาปาโท โอริมํ ตีรํ, อพฺยาปาโท ปาริมํ ตีรํ. มิจฺฉาทิฏฺิ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.
‘‘อปฺปกา ¶ ¶ เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;
อถายํ ¶ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.
‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;
เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.
‘‘กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;
โอกา อโนกมาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.
‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;
ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.
‘‘เยสํ ¶ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;
อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;
ขีณาสวา ชุติมนฺโต, เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. ตติยํ;
๔. โอริมสุตฺตํ
๑๗๐. ‘‘โอริมฺจ, ภิกฺขเว, ตีรํ เทเสสฺสามิ ปาริมฺจ ตีรํ. ตํ สุณาถ…เป… กตมฺจ, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, กตมฺจ ปาริมํ ตีรํ? ปาณาติปาโต, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, ปาณาติปาตา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อทินฺนาทานํ โอริมํ ตีรํ, อทินฺนาทานา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. กาเมสุมิจฺฉาจาโร โอริมํ ตีรํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. มุสาวาโท โอริมํ ตีรํ, มุสาวาทา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ปิสุณา วาจา โอริมํ ตีรํ, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. ผรุสา วาจา โอริมํ ตีรํ, ผรุสาย วาจาย เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. สมฺผปฺปลาโป โอริมํ ตีรํ, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ปาริมํ ตีรํ. อภิชฺฌา โอริมํ ตีรํ, อนภิชฺฌา ปาริมํ ตีรํ. พฺยาปาโท โอริมํ ตีรํ, อพฺยาปาโท ปาริมํ ¶ ตีรํ. มิจฺฉาทิฏฺิ โอริมํ ตีรํ, สมฺมาทิฏฺิ ปาริมํ ตีรํ. อิทํ โข, ภิกฺขเว, โอริมํ ตีรํ, อิทํ ปาริมํ ตีรนฺติ.
‘‘อปฺปกา ¶ เต มนุสฺเสสุ, เย ชนา ปารคามิโน;
อถายํ อิตรา ปชา, ตีรเมวานุธาวติ.
‘‘เย จ โข สมฺมทกฺขาเต, ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน;
เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ, มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ.
‘‘กณฺหํ ¶ ธมฺมํ วิปฺปหาย, สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต;
โอกา อโนกมาคมฺม, วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ.
‘‘ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย, หิตฺวา กาเม อกิฺจโน;
ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ, จิตฺตกฺเลเสหิ ปณฺฑิโต.
‘‘เยสํ ¶ สมฺโพธิยงฺเคสุ, สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ;
อาทานปฏินิสฺสคฺเค, อนุปาทาย เย รตา;
ขีณาสวา ชุติมนฺโต, เต โลเก ปรินิพฺพุตา’’ติ. จตุตฺถํ;
๕. ปมอธมฺมสุตฺตํ
๑๗๑. [อ. นิ. ๑๐.๑๑๓] ‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม จ อนตฺโถ จ? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร, มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป, อภิชฺฌา, พฺยาปาโท, มิจฺฉาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อธมฺโม ¶ จ อนตฺโถ จ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี, มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี, อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท, สมฺมาทิฏฺิ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ธมฺโม จ อตฺโถ จ.
‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ อนตฺโถ จ; ธมฺโม จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา อนตฺถฺจ, ธมฺมฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. ทุติยอธมฺมสุตฺตํ
๑๗๒. ‘‘อธมฺโม ¶ จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ¶ ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อุฏฺายาสนา วิหารํ ปาวิสิ.
อถ ¶ โข เตสํ ภิกฺขูนํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’’ติ?
อถ ¶ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา มหากจฺจาโน พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติ.
อถ โข เต ภิกฺขู เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมึสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทึสุ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจุํ –
‘‘อิทํ โข โน, อาวุโส กจฺจาน, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ ¶ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.
‘‘เตสํ โน, อาวุโส, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ, ภิกฺขเว…เป… ตถา ¶ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน ¶ อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?
‘‘เตสํ ¶ โน, อาวุโส, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา มหากจฺจาโน พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ. วิภชตุ อายสฺมา มหากจฺจาโน’’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ปุริโส สารตฺถิโก สารํ คเวสี สารปริเยสนํ จรมาโน มหโต รุกฺขสฺส ติฏฺโต สารวโต อติกฺกมฺเมว มูลํ อติกฺกมฺม ขนฺธํ สาขาปลาเส สารํ ปริเยสิตพฺพํ มฺเยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ อายสฺมนฺตานํ สตฺถริ สมฺมุขีภูเต ตํ ภควนฺตํ อติสิตฺวา อมฺเห เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺฉิตพฺพํ มฺถ [มฺเถ (สี.), มฺเยฺยาถ (ก.)]. โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ ตุมฺเห ภควนฺตํเยว ¶ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โว ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
‘‘อทฺธา, อาวุโส กจฺจาน, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ¶ ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต. โส เจว ปเนตสฺส กาโล อโหสิ ยํ มยํ ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน ภควา พฺยากเรยฺย ตถา นํ ธาเรยฺยาม. อปิ จายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. วิภชตายสฺมา มหากจฺจาโน อครุํ กริตฺวา’’ติ.
‘‘เตน ¶ หาวุโส, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อถายสฺมา มหากจฺจาโน เอตทโวจ –
‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา ¶ อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.
‘‘กตโม, จาวุโส, อธมฺโม; กตโม จ ธมฺโม? กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ? ‘‘ปาณาติปาโต, อาวุโส, อธมฺโม; ปาณาติปาตา เวรมณี ธมฺโม; เย จ ปาณาติปาตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ปาณาติปาตา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘อทินฺนาทานํ, อาวุโส, อธมฺโม; อทินฺนาทานา เวรมณี ธมฺโม; เย จ อทินฺนาทานปจฺจยา อเนเก ¶ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ ¶ , อยํ อนตฺโถ; อทินฺนาทานา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจาโร, อาวุโส, อธมฺโม; กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ธมฺโม; เย จ กาเมสุมิจฺฉาจารปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มุสาวาโท, อาวุโส, อธมฺโม; มุสาวาทา เวรมณี ธมฺโม; เย จ มุสาวาทปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; มุสาวาทา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘ปิสุณา วาจา, อาวุโส, อธมฺโม; ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม; เย จ ปิสุณาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ปิสุณาย วาจาย เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘ผรุสา ¶ วาจา, อาวุโส, อธมฺโม; ผรุสาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม; เย จ ผรุสาวาจาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ผรุสาย วาจาย เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘สมฺผปฺปลาโป ¶ , อาวุโส, อธมฺโม; สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ธมฺโม; เย จ สมฺผปฺปลาปปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺผปฺปลาปา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ ¶ อตฺโถ.
‘‘อภิชฺฌา, อาวุโส, อธมฺโม; อนภิชฺฌา ธมฺโม; เย จ อภิชฺฌาปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; อนภิชฺฌาปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘พฺยาปาโท, อาวุโส, อธมฺโม; อพฺยาปาโท ธมฺโม; เย จ พฺยาปาทปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; อพฺยาปาทปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, อาวุโส, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘‘ยํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ ¶ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. อิมสฺส โข อหํ, อาวุโส, ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. อากงฺขมานา จ ปน ตุมฺเห, อาวุโส, ภควนฺตํเยว อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ. ยถา โน ภควา พฺยากโรติ ตถา นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ.
‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมึสุ ¶ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ¶ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –
‘‘ยํ โข โน, ภนฺเต, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา ¶ วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ.
‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ – ‘อิทํ โข โน, อาวุโส, ภควา สํขิตฺเตน อุทฺเทสํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภชิตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺโ – ‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ…เป… ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ. โก นุ โข อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภเชยฺยา’ติ?
‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, อมฺหากํ เอตทโหสิ – ‘อยํ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต, สมฺภาวิโต จ วิฺูนํ สพฺรหฺมจารีนํ. ปโหติ จายสฺมา มหากจฺจาโน อิมสฺส ภควตา สํขิตฺเตน อุทฺเทสสฺส อุทฺทิฏฺสฺส ¶ วิตฺถาเรน อตฺถํ อวิภตฺตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชิตุํ. ยํนูน มยํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาม. ยถา โน อายสฺมา มหากจฺจาโน พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’ติ.
‘‘อถ โข มยํ, ภนฺเต, เยนายสฺมา มหากจฺจาโน ¶ เตนุปสงฺกมิมฺหา; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตมตฺถํ อปุจฺฉิมฺหา. เตสํ โน, ภนฺเต, อายสฺมตา มหากจฺจาเนน อิเมหิ อกฺขเรหิ อิเมหิ ปเทหิ อิเมหิ พฺยฺชเนหิ อตฺโถ สุวิภตฺโต’’ติ.
‘‘สาธุ สาธุ, ภิกฺขเว! ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน. มหาปฺโ, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน. มํ เจปิ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ ปฏิปุจฺเฉยฺยาถ, อหมฺปิ เจตํ เอวเมวํ พฺยากเรยฺยํ ยถา ตํ มหากจฺจาเนน พฺยากตํ. เอโส เจว ตสฺส อตฺโถ. เอวฺจ นํ ธาเรยฺยาถา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. ตติยอธมฺมสุตฺตํ
๑๗๓. ‘‘อธมฺโม ¶ จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ ¶ . อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อธมฺโม, กตโม จ ธมฺโม; กตโม จ อนตฺโถ, กตโม จ อตฺโถ? ปาณาติปาโต, ภิกฺขเว, อธมฺโม; ปาณาติปาตา เวรมณี ธมฺโม; เย จ ปาณาติปาตปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; ปาณาติปาตา เวรมณิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘อทินฺนาทานํ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; อทินฺนาทานา เวรมณี ธมฺโม… กาเมสุมิจฺฉาจาโร, ภิกฺขเว ¶ , อธมฺโม; กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ธมฺโม… มุสาวาโท, ภิกฺขเว, อธมฺโม; มุสาวาทา เวรมณี ธมฺโม… ปิสุณา วาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม… ผรุสา วาจา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; ผรุสาย วาจาย เวรมณี ธมฺโม… สมฺผปฺปลาโป, ภิกฺขเว ¶ , อธมฺโม; สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ธมฺโม… อภิชฺฌา, ภิกฺขเว, อธมฺโม; อนภิชฺฌา ธมฺโม… พฺยาปาโท, ภิกฺขเว, อธมฺโม; อพฺยาปาโท ธมฺโม….
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ, ภิกฺขเว, อธมฺโม; สมฺมาทิฏฺิ ธมฺโม; เย จ มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อยํ อนตฺโถ; สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, อยํ อตฺโถ.
‘‘‘อธมฺโม จ, ภิกฺขเว, เวทิตพฺโพ ธมฺโม จ; อนตฺโถ จ เวทิตพฺโพ อตฺโถ จ. อธมฺมฺจ วิทิตฺวา ธมฺมฺจ, อนตฺถฺจ วิทิตฺวา อตฺถฺจ ยถา ธมฺโม ยถา อตฺโถ ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพ’นฺติ, อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฏิจฺจ วุตฺต’’นฺติ. สตฺตมํ.
๘. กมฺมนิทานสุตฺตํ
๑๗๔. ‘‘ปาณาติปาตมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘อทินฺนาทานมฺปาหํ ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘มุสาวาทมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘ปิสุณวาจมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘ผรุสวาจมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘สมฺผปฺปลาปมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘อภิชฺฌมฺปาหํ ¶ , ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘พฺยาปาทมฺปาหํ, ภิกฺขเว, ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ.
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิมฺปาหํ, ภิกฺขเว ¶ , ติวิธํ วทามิ – โลภเหตุกมฺปิ, โทสเหตุกมฺปิ, โมหเหตุกมฺปิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, โลโภ กมฺมนิทานสมฺภโว, โทโส กมฺมนิทานสมฺภโว, โมโห กมฺมนิทานสมฺภโว. โลภกฺขยา กมฺมนิทานสงฺขโย, โทสกฺขยา กมฺมนิทานสงฺขโย, โมหกฺขยา กมฺมนิทานสงฺขโย’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปริกฺกมนสุตฺตํ
๑๗๕. ‘‘สปริกฺกมโน ¶ อยํ, ภิกฺขเว, ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อปริกฺกมโน. กถฺจ, ภิกฺขเว, สปริกฺกมโน อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อปริกฺกมโน? ปาณาติปาติสฺส, ภิกฺขเว, ปาณาติปาตา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. อทินฺนาทายิสฺส, ภิกฺขเว, อทินฺนาทานา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. กาเมสุมิจฺฉาจาริสฺส, ภิกฺขเว, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. มุสาวาทิสฺส, ภิกฺขเว, มุสาวาทา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. ปิสุณวาจสฺส ¶ , ภิกฺขเว, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. ผรุสวาจสฺส, ภิกฺขเว, ผรุสาย วาจาย เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. สมฺผปฺปลาปิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี ปริกฺกมนํ โหติ. อภิชฺฌาลุสฺส, ภิกฺขเว, อนภิชฺฌา ปริกฺกมนํ โหติ. พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส [พฺยาปาทสฺส (สี. ปี. ก.), พฺยาปนฺนสฺส (สฺยา.)], ภิกฺขเว, อพฺยาปาโท ปริกฺกมนํ โหติ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺิ ปริกฺกมนํ โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, สปริกฺกมโน อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม อปริกฺกมโน’’ติ. นวมํ.
๑๐. จุนฺทสุตฺตํ
๑๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ ¶ สมยํ ภควา ปาวายํ [จมฺปายํ (ก. สี.) ที. นิ. ๒.๑๘๙ ปสฺสิตพฺพํ] วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเน. อถ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กสฺส โน ตฺวํ, จุนฺท, โสเจยฺยานิ โรเจสี’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา, ภนฺเต, ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา [เสวาลมาลกา (สี. สฺยา. ปี.)] อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺติ; เตสาหํ โสเจยฺยานิ โรเจมี’’ติ.
‘‘ยถา กถํ ปน, จุนฺท, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา. เต สาวกํ [สาวเก (สฺยา. ก.)] เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, กาลสฺเสว [สกาลสฺเสว (สฺยา.)] อุฏฺหนฺโตว [อุฏฺหนฺโต (สฺยา.), วุฏฺหนฺโตว (ปี. ก.)] สยนมฺหา ปถวึ อามเสยฺยาสิ; โน เจ ปถวึ อามเสยฺยาสิ, อลฺลานิ โคมยานิ อามเสยฺยาสิ; โน เจ อลฺลานิ ¶ โคมยานิ อามเสยฺยาสิ, หริตานิ ติณานิ อามเสยฺยาสิ; โน เจ หริตานิ ติณานิ อามเสยฺยาสิ, อคฺคึ ปริจเรยฺยาสิ; โน เจ อคฺคึ ปริจเรยฺยาสิ, ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺเสยฺยาสิ; โน เจ ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺเสยฺยาสิ, สายตติยกํ อุทกํ โอโรเหยฺยาสี’ติ. เอวํ โข, ภนฺเต, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา ¶ กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺติ; เตสาหํ โสเจยฺยานิ โรเจมี’’ติ.
‘‘อฺถา โข, จุนฺท, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปฺเปนฺติ, อฺถา จ ปน ¶ อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหตี’’ติ. ‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหติ? สาธุ เม, ภนฺเต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, จุนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ ¶ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ติวิธํ โข, จุนฺท, กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ; จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ; ติวิธํ มนสา อโสเจยฺยํ โหติ.
‘‘กถฺจ, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ? ‘‘อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ [ปาณภูเตสุ (ก.)].
‘‘อทินฺนาทายี โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา [นตฺถิ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ] ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา [นตฺถิ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ] ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ¶ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ [โส อชานํ วา อหํ ชานามีติ, ชานํ วา อหํ น ชานามีติ, อปสฺสํ วา อหํ ปสฺสามีติ, ปสฺสํ วา อหํ น ปสฺสามีติ (ปี. ก.) เอวมุปริปิ], โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ; อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ [โส อชานํ วา อหํ ชานามีติ, ชานํ วา อหํ น ชานามีติ, อปสฺสํ วา อหํ ปสฺสามีติ, ปสฺสํ วา อหํ น ปสฺสามีติ (ปี. ก.) เอวมุปริปิ]. อิติ อตฺตเหตุ ¶ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.
‘‘ปิสุณวาโจ โหติ. อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ ¶ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา [เภทาตา (ก.)], ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา, วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘ผรุสวาโจ โหติ. ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที; อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ.
‘‘กถฺจ, จุนฺท, ติวิธํ มนสา อโสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา [อภิชฺฌิตา (ก.) ม. นิ. ๑.๔๔๐ ปสฺสิตพฺพํ] โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ.
‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ [มา วา อเหสุํ อิติ วา ติ (สี. ปี. ก.)].
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ [นตฺเถตฺถ ปาเภโท] กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย ¶ อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, จุนฺท, มนสา ติวิธํ อโสเจยฺยํ โหติ.
‘‘อิเม ¶ ¶ โข, จุนฺท, ทส อกุสลกมฺมปถา [อกุสลา กมฺมปถา (?)]. อิเมหิ โข, จุนฺท, ทสหิ อกุสเลหิ กมฺมปเถหิ สมนฺนาคโต กาลสฺเสว อุฏฺหนฺโตว ¶ สยนมฺหา ปถวึ เจปิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปถวึ อามสติ, อสุจิเยว โหติ.
‘‘อลฺลานิ เจปิ โคมยานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ อลฺลานิ โคมยานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ.
‘‘หริตานิ เจปิ ติณานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ หริตานิ ติณานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ.
‘‘อคฺคึ เจปิ ปริจรติ, อสุจิเยว โหติ, โน เจปิ อคฺคึ ปริจรติ, อสุจิเยว โหติ.
‘‘ปฺชลิโก เจปิ อาทิจฺจํ นมสฺสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺสติ, อสุจิเยว โหติ.
‘‘สายตติยกํ เจปิ อุทกํ โอโรหติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ สายตติยกํ อุทกํ โอโรหติ, อสุจิเยว โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิเม, จุนฺท, ทส อกุสลกมฺมปถา อสุจีเยว [อสุจิจฺเจว (สฺยา.)] โหนฺติ อสุจิกรณา จ.
‘‘อิเมสํ ปน, จุนฺท, ทสนฺนํ อกุสลานํ กมฺมปถานํ สมนฺนาคมนเหตุ นิรโย ปฺายติ, ติรจฺฉานโยนิ ปฺายติ, เปตฺติวิสโย ปฺายติ, ยา วา [ยา จ (ก.)] ปนฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโย [ทุคฺคติ โหติ (สฺยา. ก.)].
‘‘ติวิธํ โข, จุนฺท, กาเยน โสเจยฺยํ โหติ; จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ; ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ.
‘‘กถํ ¶ , จุนฺท, ติวิธํ กาเยน โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.
‘‘อทินฺนาทานํ ¶ ปหาย, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ [ตํ นาทินฺนํ (ก. สี., ม. นิ. ๑.๔๔๑)] เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต ¶ โหติ ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส ¶ มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน โสเจยฺยํ โหติ.
‘‘กถฺจ, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.
‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, น อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘สมฺผปฺปลาปํ ¶ ปหาย, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที; นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, จุนฺท ¶ , จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , จุนฺท, ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌิตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ.
‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ [อิทํ ปทํ สี. สฺยา. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ, ตถา ม. นิ. ๑.๔๔๑] อพฺยาปชฺชา, อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.
‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ ¶ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ.
‘‘อิเม โข, จุนฺท, ทส กุสลกมฺมปถา. อิเมหิ โข, จุนฺท, ทสหิ กุสเลหิ กมฺมปเถหิ สมนฺนาคโต กาลสฺเสว อุฏฺหนฺโตว สยนมฺหา ปถวึ เจปิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปถวึ อามสติ, สุจิเยว โหติ.
‘‘อลฺลานิ เจปิ โคมยานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ อลฺลานิ โคมยานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ.
‘‘หริตานิ เจปิ ติณานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ หริตานิ ติณานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ.
‘‘อคฺคึ ¶ เจปิ ปริจรติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ อคฺคึ ปริจรติ, สุจิเยว โหติ.
‘‘ปฺชลิโก เจปิ อาทิจฺจํ นมสฺสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺสติ ¶ , สุจิเยว โหติ.
‘‘สายตติยกํ เจปิ อุทกํ โอโรหติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ สายตติยกํ อุทกํ โอโรหติ, สุจิเยว โหติ. ตํ กิสฺส เหตุ? อิเม, จุนฺท, ทส กุสลกมฺมปถา สุจีเยว โหนฺติ สุจิกรณา จ.
‘‘อิเมสํ ¶ ปน, จุนฺท, ทสนฺนํ กุสลานํ กมฺมปถานํ สมนฺนาคมนเหตุ เทวา ปฺายนฺติ, มนุสฺสา ปฺายนฺติ, ยา วา ปนฺาปิ กาจิ สุคติโย’’ติ [สุคติ โหตีติ (สฺยา.), สุคติ โหติ (ก.)].
เอวํ วุตฺเต จุนฺโท กมฺมารปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป… อุปาสกํ มํ, ภนฺเต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.
๑๑. ชาณุสฺโสณิสุตฺตํ
๑๗๗. อถ ¶ โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ชาณุสฺโสณิ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘มยมสฺสุ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นาม. ทานานิ เทม, สทฺธานิ กโรม – ‘อิทํ ทานํ เปตานํ าติสาโลหิตานํ อุปกปฺปตุ, อิทํ ทานํ เปตา าติสาโลหิตา ปริภฺุชนฺตู’ติ. กจฺจิ ตํ, โภ โคตม, ทานํ เปตานํ าติสาโลหิตานํ อุปกปฺปติ; กจฺจิ เต เปตา าติสาโลหิตา ตํ ทานํ ปริภฺุชนฺตี’’ติ? ‘‘าเน โข, พฺราหฺมณ, อุปกปฺปติ, โน อฏฺาเน’’ติ.
‘‘กตมํ ¶ ปน, โภ [กตมฺจ ปน โภ (สี. ปี.) กตมํ (สฺยา.)] โคตม, านํ, กตมํ อฏฺาน’’นฺติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก ¶ โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรยํ อุปปชฺชติ. โย เนรยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ [อิทํ (สฺยา.)] โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชติ. โย ติรจฺฉานโยนิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน ¶ โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ¶ ปฏิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โย มนุสฺสานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ น อุปกปฺปติ.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โย เทวานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทมฺปิ, พฺราหฺมณ, อฏฺานํ ยตฺถ ิตสฺส ¶ ตํ ทานํ อุปกปฺปติ.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เปตฺติวิสยํ อุปปชฺชติ. โย เปตฺติเวสยิกานํ สตฺตานํ อาหาโร, เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ, ยํ วา ปนสฺส อิโต อนุปฺปเวจฺฉนฺติ มิตฺตามจฺจา ¶ วา าติสาโลหิตา วา [มิตฺตา วา อมจฺจา วา าตี วา สาโลหิตา วา (สี. ปี.)], เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, เตน โส ตตฺถ ติฏฺติ. อิทํ โข, พฺราหฺมณ, านํ ยตฺถ ิตสฺส ตํ ทานํ อุปกปฺปตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน, โภ โคตม, โส เปโต าติสาโลหิโต ตํ านํ อนุปปนฺโน โหติ, โก ตํ ทานํ ปริภฺุชตี’’ติ? ‘‘อฺเปิสฺส, พฺราหฺมณ, เปตา าติสาโลหิตา ตํ านํ อุปปนฺนา โหนฺติ, เต ตํ ทานํ ปริภฺุชนฺตี’’ติ.
‘‘สเจ ปน, โภ โคตม, โส เจว เปโต าติสาโลหิโต ตํ านํ อนุปปนฺโน โหติ อฺเปิสฺส าติสาโลหิตา เปตา ตํ ¶ านํ อนุปปนฺนา โหนฺติ, โก ตํ ทานํ ปริภฺุชตี’’ติ? ‘‘อฏฺานํ โข เอตํ, พฺราหฺมณ, อนวกาโส ยํ ตํ านํ วิวิตฺตํ อสฺส อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา ยทิทํ เปเตหิ ¶ าติสาโลหิเตหิ. อปิ จ, พฺราหฺมณ, ทายโกปิ อนิปฺผโล’’ติ.
‘‘อฏฺาเนปิ ภวํ โคตโม ปริกปฺปํ วทตี’’ติ? ‘‘อฏฺาเนปิ โข อหํ, พฺราหฺมณ, ปริกปฺปํ วทามิ. อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, ปิสุณวาโจ โหติ, ผรุสวาโจ โหติ, สมฺผปฺปลาปี โหติ, อภิชฺฌาลุ โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ; โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ¶ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หตฺถีนํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส [มาลาคนฺธวิเลปนสฺส นานาลงฺการสฺส (ก.)].
‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา หตฺถีนํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ. โส ทาตา ¶ โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ…เป… คุนฺนํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ…เป… กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ [‘‘กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’ติ อยํ วาโร เกสุจิ สีหฬโปตฺถเกสุ น ทิสฺสตีติ อิงฺคลิสโปตฺถเก อโธลิปิ. ตํ ทสวารคณนาย สเมติ]. โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส.
‘‘ยํ ¶ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตี…เป. ¶ … มิจฺฉาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข ¶ โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ อนฺนสฺส ปานสฺส มาลานานาลงฺการสฺส.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ ลาภี โหติ มานุสกานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ.
‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺสานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน โส ตตฺถ ลาภี โหติ มานุสกานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ.
‘‘อิธ ปน, พฺราหฺมณ ¶ , เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ. โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ. โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. โส ตตฺถ ลาภี ¶ โหติ ทิพฺพานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ.
‘‘ยํ โข, พฺราหฺมณ, อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิโก, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. ยฺจ โข โส ทาตา โหติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํ, เตน ¶ โส ตตฺถ ลาภี โหติ ทิพฺพานํ ปฺจนฺนํ กามคุณานํ. อปิ จ, พฺราหฺมณ, ทายโกปิ อนิปฺผโล’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยาวฺจิทํ, โภ โคตม, อลเมว ทานานิ ทาตุํ, อลํ สทฺธานิ กาตุํ, ยตฺร หิ นาม ทายโกปิ ¶ อนิปฺผโล’’ติ. ‘‘เอวเมตํ, พฺราหฺมณ [เอวเมตํ พฺราหฺมณ เอวเมตํ พฺราหฺมณ (สี. สฺยา.)], ทายโกปิ หิ, พฺราหฺมณ, อนิปฺผโล’’ติ.
‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. เอกาทสมํ.
ชาณุสฺโสณิวคฺโค [ยมกวคฺโค (ก.)] ทุติโย.