📜

(๒๑) ๑. กรชกายวคฺโค

๑. ปมนิรยสคฺคสุตฺตํ

๒๑๑. ‘‘ทสหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ [นตฺเถตฺถ ปาเภโท].

‘‘อทินฺนาทายี โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุ มิจฺฉาจารี โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ.

‘‘มุสาวาที โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาโจ โหติ – อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที, วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาโจ โหติ – ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที, อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ.

‘‘อภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มม อสฺสา’ติ.

‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ.

‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา…เป… อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ.

‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ – ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ. อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที, สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที, อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.

‘‘อนภิชฺฌาลุ โหติ . ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มม อสฺสา’ติ.

‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.

‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกฏทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ปมํ.

๒. ทุติยนิรยสคฺคสุตฺตํ

๒๑๒. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ.

‘‘อทินฺนาทายี โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ… มุสาวาที โหติ… ปิสุณวาโจ โหติ… ผรุสวาโจ โหติ … สมฺผปฺปลาปี โหติ… อภิชฺฌาลุ โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ…เป… สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ… มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ… ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ… อนภิชฺฌาลุ โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ…เป… เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ทุติยํ.

๓. มาตุคามสุตฺตํ

๒๑๓. ‘‘ทสหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตี โหติ…เป… อทินฺนาทายี โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ… มุสาวาที โหติ… ปิสุณวาโจ โหติ… ผรุสวาโจ โหติ… สมฺผปฺปลาปี โหติ… อภิชฺฌาลุ โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ…เป… อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ… มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ… ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ… อนภิชฺฌาลุ โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ… อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติ. ตติยํ.

๔. อุปาสิกาสุตฺตํ

๒๑๔. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตินี โหติ…เป… มิจฺฉาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ นิรเย.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา โหติ…เป… สมฺมาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา ยถาภตํ นิกฺขิตฺตา เอวํ สคฺเค’’. จตุตฺถํ.

๕. วิสารทสุตฺตํ

๒๑๕. ‘‘ทสหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา อวิสารทา อคารํ อชฺฌาวสติ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตินี โหติ… อทินฺนาทายินี โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารินี โหติ… มุสาวาทินี โหติ… ปิสุณาวาจา โหติ… ผรุสวาจา โหติ… สมฺผปฺปลาปินี โหติ… อภิชฺฌาลุนี โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺตา โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา อวิสารทา อคารํ อชฺฌาวสติ.

‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา วิสารทา อคารํ อชฺฌาวสติ. กตเมหิ ทสหิ? ปาณาติปาตา ปฏิวิรตา โหติ… อทินฺนาทานา ปฏิวิรตา โหติ… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรตา โหติ… มุสาวาทา ปฏิวิรตา โหติ… ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรตา โหติ… ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรตา โหติ… สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรตา โหติ… อนภิชฺฌาลุนี โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺตา โหติ… สมฺมาทิฏฺิกา โหติ…. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา อุปาสิกา วิสารทา อคารํ อชฺฌาวสตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. สํสปฺปนียสุตฺตํ

๒๑๖. ‘‘สํสปฺปนียปริยายํ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมปริยายํ เทเสสฺสามิ. ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สํสปฺปนียปริยาโย ธมฺมปริยาโย? กมฺมสฺสกา, ภิกฺขเว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, ยํ กมฺมํ กโรนฺติ – กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา – ตสฺส ทายาทา ภวนฺติ.

‘‘อิธ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ, อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ. โส สํสปฺปติ กาเยน, สํสปฺปติ วาจาย, สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส ชิมฺหํ กายกมฺมํ โหติ, ชิมฺหํ วจีกมฺมํ, ชิมฺหํ มโนกมฺมํ, ชิมฺหา คติ, ชิมฺหุปปตฺติ.

‘‘ชิมฺหคติกสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ชิมฺหุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตทุกฺขา นิรยา ยา วา สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ. กตมา จ สา, ภิกฺขเว, สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ? อหิ วิจฺฉิกา สตปที นกุลา พิฬารา มูสิกา อุลูกา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ ติรจฺฉานโยนิกา สตฺตา มนุสฺเส ทิสฺวา สํสปฺปนฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ. ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อทินฺนาทายี โหติ…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ… มุสาวาที โหติ… ปิสุณวาโจ โหติ… ผรุสวาโจ โหติ… สมฺผปฺปลาปี โหติ… อภิชฺฌาลุ โหติ… พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ…เป… สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. โส สํสปฺปติ กาเยน, สํสปฺปติ วาจาย, สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส ชิมฺหํ กายกมฺมํ โหติ, ชิมฺหํ วจีกมฺมํ, ชิมฺหํ มโนกมฺมํ, ชิมฺหา คติ, ชิมฺหุปปตฺติ .

‘‘ชิมฺหคติกสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ชิมฺหุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตทุกฺขา นิรยา ยา วา สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ. กตมา จ สา, ภิกฺขเว, สํสปฺปชาติกา ติรจฺฉานโยนิ ? อหิ วิจฺฉิกา สตปที นกุลา พิฬารา มูสิกา อุลูกา, เย วา ปนฺเปิ เกจิ ติรจฺฉานโยนิกา สตฺตา มนุสฺเส ทิสฺวา สํสปฺปนฺติ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ, ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ. กมฺมสฺสกา, ภิกฺขเว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, ยํ กมฺมํ กโรนฺติ – กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา – ตสฺส ทายาทา ภวนฺติ.

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ. โส น สํสปฺปติ กาเยน, น สํสปฺปติ วาจาย, น สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส อุชุ กายกมฺมํ โหติ, อุชุ วจีกมฺมํ, อุชุ มโนกมฺมํ, อุชุ คติ, อุชุปปตฺติ.

‘‘อุชุคติกสฺส โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, อุชุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตสุขา สคฺคา ยานิ วา ปน ตานิ อุจฺจากุลานิ ขตฺติยมหาสาลกุลานิ วา พฺราหฺมณมหาสาลกุลานิ วา คหปติมหาสาลกุลานิ วา อฑฺฒานิ มหทฺธนานิ มหาโภคานิ ปหูตชาตรูปรชตานิ ปหูตวิตฺตูปกรณานิ ปหูตธนธฺานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ. ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ… มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ… ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ… สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ… อนภิชฺฌาลุ โหติ… อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ… สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ…เป… เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. โส น สํสปฺปติ กาเยน, น สํสปฺปติ วาจาย, น สํสปฺปติ มนสา. ตสฺส อุชุ กายกมฺมํ โหติ, อุชุ วจีกมฺมํ, อุชุ มโนกมฺมํ, อุชุ คติ, อุชุปปตฺติ.

‘‘อุชุคติกสฺส โข ปน อหํ, ภิกฺขเว, อุชุปปตฺติกสฺส ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ – เย วา เอกนฺตสุขา สคฺคา ยานิ วา ปน ตานิ อุจฺจากุลานิ ขตฺติยมหาสาลกุลานิ วา พฺราหฺมณมหาสาลกุลานิ วา คหปติมหาสาลกุลานิ วา อฑฺฒานิ มหทฺธนานิ มหาโภคานิ ปหูตชาตรูปรชตานิ ปหูตวิตฺตูปกรณานิ ปหูตธนธฺานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ภูตา ภูตสฺส อุปปตฺติ โหติ. ยํ กโรติ เตน อุปปชฺชติ. อุปปนฺนเมนํ ผสฺสา ผุสนฺติ. เอวมหํ, ภิกฺขเว, ‘กมฺมทายาทา สตฺตา’ติ วทามิ.

‘‘กมฺมสฺสกา , ภิกฺขเว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฏิสรณา, ยํ กมฺมํ กโรนฺติ – กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา – ตสฺส ทายาทา ภวนฺติ. อยํ โข โส, ภิกฺขเว, สํสปฺปนียปริยาโย ธมฺมปริยาโย’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมสฺเจตนิกสุตฺตํ

๒๑๗. ‘‘นาหํ , ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา [อปฺปฏิสํวิทิตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)] พฺยนฺตีภาวํ วทามิ. ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา [อุปปชฺชํ วา (ก.) อ. นิ. ๖.๖๓ ปสฺสิตพฺพํ, อุปปชฺช วา (ม. นิ. ๓.๓๐๓)] อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา [อกุสลํ สฺเจตนิกํ ทุกฺขุทฺรยํ ทุกฺขวิปากํ (ก.)] โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ ลุทฺโท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิฏฺโ อทยาปนฺโน สพฺพปาณภูเตสุ.

‘‘อทินฺนาทายี โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา…เป… อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ , ตถารูปาสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ? อิธ , ภิกฺขเว, เอกจฺโจ มุสาวาที โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณวาโจ โหติ. อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที, วคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสวาโจ โหติ. ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฏุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา. อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที, อนิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวตึ อนตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ, ตํ อภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต, ยํ ปรสฺส ตํ มม อสฺสา’ติ.

‘‘พฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ.

มิจฺฉาทิฏฺิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ…เป. … เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธ กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ [… สฺเจตนิกเหตุ (ก.)] วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปณฺณโก มณิ อุทฺธํขิตฺโต เยน เยเนว ปติฏฺาติ สุปฺปติฏฺิตํเยว ปติฏฺาติ ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธกายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตีติ.

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ…เป….

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรฺคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติ.

‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ. ยา ตา มาตุรกฺขิตา …เป… อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ. สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา าติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุฏฺโ ‘เอหมฺโภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติ.

‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺทึ, สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.

‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ อนภิชฺฌาลุ โหติ. ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌาตา โหติ – ‘อโห วต, ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติ.

‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต โหติ อปฺปทุฏฺมนสงฺกปฺโป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชา อนีฆา, สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติ.

‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺํ…เป… เย อิมฺจ โลกํ ปรฺจ โลกํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธกายกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อปณฺณโก มณิ อุทฺธํขิตฺโต เยน เยเนว ปติฏฺาติ สุปฺปติฏฺิตํเยว ปติฏฺาติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธกายกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; ติวิธมโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ. ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามี’’ติ. สตฺตมํ. [อฏฺกถายํ ปน อฏฺมสุตฺตมฺปิ เอตฺเถว ปริยาปนฺนํ วิย สํวณฺณนา ทิสฺสติ]

๘. ทุติยสฺเจตนิกสุตฺตํ

๒๑๘. ‘‘นาหํ , ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกา ทุกฺขุทฺรยา ทุกฺขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธ กายกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ, จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺต…เป… ติวิธมโนกมฺมนฺตสนฺโทสพฺยาปตฺติ อกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย . น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ตตฺร โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ; ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา กายกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘กถฺจ , ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, จตุพฺพิธา วจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ .

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ติวิธา มโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติ กุสลสฺเจตนิกา สุขุทฺรยา สุขวิปากา โหติ.

‘‘ติวิธกายกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ; จตุพฺพิธวจีกมฺมนฺตสมฺปตฺติ…เป… ติวิธมโนกมฺมนฺตสมฺปตฺติกุสลสฺเจตนิกาเหตุ วา, ภิกฺขเว, สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ…เป…. [อุปปชฺชนฺติ. (สฺยา. ก.) ตถา สติ ‘‘นาหํ ภิกฺขเว สฺเจตนิกาน’’ มิจฺจาทินา วุจฺจมานวจเนน สห เอกสุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เปยฺยาเลน ปน ปุริมสุตฺเต วิย นิคมนํ ทสฺสิตํ] อฏฺมํ.

๙. กรชกายสุตฺตํ

๒๑๙. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา พฺยนฺตีภาวํ วทามิ, ตฺจ โข ทิฏฺเว ธมฺเม อุปปชฺเช วา อปเร วา ปริยาเย. น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมานํ กตานํ อุปจิตานํ อปฺปฏิสํเวทิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ วทามิ.

‘‘ส โข โส, ภิกฺขเว, อริยสาวโก เอวํ วิคตาภิชฺโฌ วิคตพฺยาปาโท อสมฺมูฬฺโห สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ [จตุตฺถึ (?)]. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.

‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘ปุพฺเพ โข เม อิทํ จิตฺตํ ปริตฺตํ อโหสิ อภาวิตํ, เอตรหิ ปน เม อิทํ จิตฺตํ อปฺปมาณํ สุภาวิตํ. ยํ โข ปน กิฺจิ ปมาณกตํ กมฺมํ, น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ น ตํ ตตฺราวติฏฺตี’ติ .

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ทหรตคฺเค เจ โส อยํ [เจ อยํ (สฺยา.)] กุมาโร เมตฺตํ เจโตวิมุตฺตึ ภาเวยฺย, อปิ นุ โข [อปิ นุ โส (?)] ปาปกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘อกโรนฺตํ โข ปน ปาปกมฺมํ อปิ นุ โข ทุกฺขํ ผุเสยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. อกโรนฺตฺหิ, ภนฺเต, ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’’ติ!

‘‘ภาเวตพฺพา โข ปนายํ, ภิกฺขเว, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา. อิตฺถิยา วา, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส วา นายํ กาโย อาทาย คมนีโย. จิตฺตนฺตโร อยํ, ภิกฺขเว , มจฺโจ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยํ โข เม อิทํ กิฺจิ ปุพฺเพ อิมินา กรชกาเยน ปาปกมฺมํ กตํ, สพฺพํ ตํ อิธ เวทนียํ; น ตํ อนุคํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, เมตฺตา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิตาย สํวตฺตติ, อิธ ปฺสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริ [อุตฺตรึ (สี. สฺยา. ปี.)] วิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโต.

‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา… มุทิตาสหคเตน เจตสา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ ตถา ทุติยํ ตถา ตติยํ ตถา จตุตฺถํ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติ.

‘‘โส เอวํ ปชานาติ – ‘ปุพฺเพ โข เม อิทํ จิตฺตํ ปริตฺตํ อโหสิ อภาวิตํ, เอตรหิ ปน เม อิทํ จิตฺตํ อปฺปมาณํ สุภาวิตํ. ยํ โข ปน กิฺจิ ปมาณกตํ กมฺมํ , น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ น ตํ ตตฺราวติฏฺตี’ติ.

‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ทหรตคฺเค เจ โส อยํ กุมาโร อุเปกฺขํ เจโตวิมุตฺตึ ภาเวยฺย, อปิ นุ โข ปาปกมฺมํ กเรยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’.

‘‘อกโรนฺตํ โข ปน ปาปกมฺมํ อปิ นุ โข ทุกฺขํ ผุเสยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต. อกโรนฺตฺหิ, ภนฺเต, ปาปกมฺมํ กุโต ทุกฺขํ ผุสิสฺสตี’’ติ!

‘‘ภาเวตพฺพา โข ปนายํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เจโตวิมุตฺติ อิตฺถิยา วา ปุริเสน วา. อิตฺถิยา วา, ภิกฺขเว, ปุริสสฺส วา นายํ กาโย อาทาย คมนีโย. จิตฺตนฺตโร อยํ, ภิกฺขเว, มจฺโจ. โส เอวํ ปชานาติ – ‘ยํ โข เม อิทํ กิฺจิ ปุพฺเพ อิมินา กรชกาเยน ปาปกมฺมํ กตํ, สพฺพํ ตํ อิธ เวทนียํ; น ตํ อนุคํ ภวิสฺสตี’ติ. เอวํ ภาวิตา โข, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิตาย สํวตฺตติ, อิธ ปฺสฺส ภิกฺขุโน อุตฺตริ วิมุตฺตึ อปฺปฏิวิชฺฌโต’’ติ. นวมํ.

๑๐. อธมฺมจริยาสุตฺตํ

๒๒๐. [อ. นิ. ๒.๑๖] อถ โข อฺตโร พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยนมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘โก ปน, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย เยนมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘น โข อหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ. สาธุ เม ภวํ โคตโม ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถาหํ อิมสฺส โภโต โคตมสฺส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชาเนยฺย’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ ; ภาสิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจสฺโสสิ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘ติวิธา โข, พฺราหฺมณ, กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ; จตุพฺพิธา วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ; ติวิธา มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน อธมฺมจริยา วิสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย อธมฺมจริยา วิสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ , พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา อธมฺมจริยาวิสมจริยา โหติ. เอวํ อธมฺมจริยาวิสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.

‘‘ติวิธา พฺราหฺมณ, กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ; จตุพฺพิธา วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ; ติวิธา มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา กาเยน ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, จตุพฺพิธา วาจาย ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ.

‘‘กถฺจ, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ…เป… เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ติวิธา มนสา ธมฺมจริยาสมจริยา โหติ. เอวํ ธมฺมจริยาสมจริยาเหตุ โข, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺตี’’ติ.

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ. ทสมํ.

กรชกายวคฺโค ปโม.