📜
๔. อุปาลิวคฺโค
๑. อุปาลิสุตฺตํ
๓๑. อถ ¶ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺ’’นฺติ?
‘‘ทส โข, อุปาลิ, อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺํ. กตเม ทส? สงฺฆสุฏฺุตาย, สงฺฆผาสุตาย, ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหาราย, ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย, สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตาย, อปฺปสนฺนานํ ปสาทาย, ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวาย, สทฺธมฺมฏฺิติยา, วินยานุคฺคหาย – อิเม โข, อุปาลิ, ทส อตฺถวเส ปฏิจฺจ ตถาคเตน สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺ’’นฺติ. ปมํ.
๒. ปาติโมกฺขฏฺปนาสุตฺตํ
๓๒. ‘‘กติ ¶ นุ โข, ภนฺเต, ปาติโมกฺขฏฺปนา’’ติ? ‘‘ทส โข, อุปาลิ, ปาติโมกฺขฏฺปนา. กตเม ทส? ปาราชิโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ ¶ , ปาราชิกกถา วิปฺปกตา โหติ, อนุปสมฺปนฺโน ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน ¶ โหติ, อนุปสมฺปนฺนกถา วิปฺปกตา โหติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตกกถา วิปฺปกตา โหติ, ปณฺฑโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, ปณฺฑกกถา วิปฺปกตา โหติ, ภิกฺขุนิทูสโก ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุนิทูสกกถา วิปฺปกตา โหติ – อิเม โข, อุปาลิ, ทส ปาติโมกฺขฏฺปนา’’ติ. ทุติยํ.
๓. อุพฺพาหิกาสุตฺตํ
๓๓. [จูฬว. ๒๓๑] ‘‘กติหิ ¶ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ; ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ [สตฺถา สพฺยฺชนา (สี.) เอวมุปริปิ] เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโร; ปฏิพโล โหติ อุโภ อตฺถปจฺจตฺถิเก สฺาเปตุํ ปฺาเปตุํ นิชฺฌาเปตุํ เปกฺเขตุํ ปสาเทตุํ; อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโล ¶ โหติ – อธิกรณํ ชานาติ; อธิกรณสมุทยํ ชานาติ; อธิกรณนิโรธํ ¶ ชานาติ; อธิกรณนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ชานาติ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อุพฺพาหิกาย สมฺมนฺนิตพฺโพ’’ติ. ตติยํ.
๔. อุปสมฺปทาสุตฺตํ
๓๔. ‘‘กติหิ ¶ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรตึ วูปกาเสตุํ วา ¶ วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิจิตฺเต สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิปฺาย สมาทเปตุํ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. นิสฺสยสุตฺตํ
๓๕. ‘‘กติหิ ¶ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ¶ ทาตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรตึ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล…เป… อธิจิตฺเต… อธิปฺาย สมาทเปตุํ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติ. ปฺจมํ.
๖. สามเณรสุตฺตํ
๓๖. ‘‘กติหิ ¶ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ. กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺาตุํ วา อุปฏฺาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรตึ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิจิตฺเต ¶ สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิปฺาย สมาทเปตุํ. อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺาเปตพฺโพ’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สงฺฆเภทสุตฺตํ
๓๗. ‘‘‘สงฺฆเภโท สงฺฆเภโท’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ? ‘‘อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ¶ ทีเปนฺติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ ¶ , ปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ อวกสฺสนฺติ อปกสฺสนฺติ อาเวนิ [อาเวนึ (จูฬว. ๓๕๒) อาเวณิ, อาเวณิกํ (ตตฺเถว อโธลิปิ)] กมฺมานิ กโรนฺติ อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อุปาลิ, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ. สตฺตมํ.
๘. สงฺฆสามคฺคีสุตฺตํ
๓๘. [จูฬว. ๓๕๓] ‘‘‘สงฺฆสามคฺคี ¶ สงฺฆสามคฺคี’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ? ‘‘อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ น อวกสฺสนฺติ น อปกสฺสนฺติ น อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺติ น อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อุปาลิ, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. ปมอานนฺทสุตฺตํ
๓๙. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘‘สงฺฆเภโท สงฺฆเภโท’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ ¶ ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ…เป… ปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ อวกสฺสนฺติ อปกสฺสนฺติ อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺติ อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ.
‘‘สมคฺคํ ปน, ภนฺเต, สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา กึ โส ปสวตี’’ติ? ‘‘กปฺปฏฺิกํ, อานนฺท, กิพฺพิสํ ปสวตี’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, กปฺปฏฺิกํ กิพฺพิส’’นฺติ? ‘‘กปฺปํ, อานนฺท, นิรยมฺหิ ปจฺจตีติ –
‘‘อาปายิโก ¶ เนรยิโก, กปฺปฏฺโ สงฺฆเภทโก;
วคฺครโต อธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา ปธํสติ;
สงฺฆํ สมคฺคํ ภินฺทิตฺวา [เภตฺวาน (สี. สฺยา.), ภิตฺวาน (ก.) จูฬว. ๓๕๔; อิติวุ. ๑๘; กถาว. ๖๕๗] กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจตี’’ติ. นวมํ;
๑๐. ทุติยอานนฺทสุตฺตํ
๔๐. ‘‘‘สงฺฆสามคฺคี ¶ สงฺฆสามคฺคี’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติ. กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขู อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ ¶ , วินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปฺตฺตํ ตถาคเตน อปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ปฺตฺตํ ตถาคเตน ปฺตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ. เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ ¶ น อวกสฺสนฺติ น อปกสฺสนฺติ น อาเวนิ กมฺมานิ กโรนฺติ น อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ. เอตฺตาวตา โข, อานนฺท, สงฺโฆ สมคฺโค โหตี’’ติ.
‘‘ภินฺนํ ปน, ภนฺเต, สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวา กึ โส ปสวตี’’ติ? ‘‘พฺรหฺมํ, อานนฺท, ปฺุํ ปสวตี’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมํ ปฺุ’’นฺติ? ‘‘กปฺปํ, อานนฺท, สคฺคมฺหิ โมทตีติ –
‘‘สุขา ¶ สงฺฆสฺส สามคฺคี, สมคฺคานฺจ อนุคฺคโห;
สมคฺครโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสติ;
สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวาน, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ. ทสมํ;
อุปาลิวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ –
อุปาลิ ปนา อุพฺพาโห, อุปสมฺปทนิสฺสยา;
สามเณโร จ ทฺเว เภทา, อานนฺเทหิ ปเร ทุเวติ.