📜

(๗) ๒. ยมกวคฺโค

๑. อวิชฺชาสุตฺตํ

๖๑. ‘‘ปุริมา , ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ อวิชฺชาย – ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ – ‘อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’ติ.

‘‘อวิชฺชมฺปาหํ [อวิชฺชมฺปหํ (สี. สฺยา.)], ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อวิชฺชาย? ‘ปฺจ นีวรณา’ติสฺส วจนียํ. ปฺจปาหํ, ภิกฺขเว, นีวรเณ สาหาเร วทามิ , โน อนาหาเร. โก จาหาโร ปฺจนฺนํ นีวรณานํ? ‘ตีณิ ทุจฺจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ? ‘อินฺทฺริยอสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยอสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยอสํวรสฺส? ‘อสตาสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. อสตาสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสตาสมฺปชฺสฺส? ‘อโยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. อโยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อโยนิโสมนสิการสฺส? ‘อสฺสทฺธิย’นฺติสฺส วจนียํ. อสฺสทฺธิยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสฺสทฺธิยสฺส? ‘อสทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. อสทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘อสปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ. เอวเมติสฺสา อวิชฺชาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ( ) [(คลคลายนฺเต) (สี.), (คฬคฬายนฺเต) (สฺยา.)] ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ, ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ [กุสฺสุพฺเภ (สี.), กุสุพฺเภ (สฺยา.), กุโสมฺเภ (ก.) อ. นิ. ๓.๙๖] ปริปูเรนฺติ. กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ [มหาโสมฺเภ (ก.)] ปริปูเรนฺติ, มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ, กุนฺนทิโย ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ, มหานทิโย ปริปูรา มหาสมุทฺทํ สาครํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา อวิชฺชาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘วิชฺชาวิมุตฺติมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร วิชฺชาวิมุตฺติยา? ‘สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติสฺส วจนียํ. สตฺตปาหํ, ภิกฺขเว, โพชฺฌงฺเค สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ? ‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. จตฺตาโรปาหํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺาเน สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ? ‘ตีณิ สุจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณํ สุจริตานํ? ‘อินฺทฺริยสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยสํวรสฺส? ‘สติสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. สติสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สติสมฺปชฺสฺส? ‘โยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. โยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร โยนิโสมนสิการสฺส? ‘สทฺธา’ติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธาย ? ‘สทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว , สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘สปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ สทฺธํ ปริปูเรติ, สทฺธา ปริปูรา โยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, โยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร สติสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, สติสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปูโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ สุจริตานิ ปริปูรานิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ปริปูรา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ปริปูรา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ, ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ, กุนฺนทิโย ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ, มหานทิโย ปริปูรา มหาสมุทฺทํ สาครํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ สทฺธํ ปริปูเรติ, สทฺธา ปริปูรา โยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, โยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร สติสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, สติสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปูโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ สุจริตานิ ปริปูรานิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ปริปูรา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ปริปูรา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูรี’’ติ. ปมํ.

๒. ตณฺหาสุตฺตํ

๖๒. ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปฺายติ ภวตณฺหาย – ‘อิโต ปุพฺเพ ภวตณฺหา นาโหสิ , อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ. เอวฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปฺายติ – ‘อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’ติ.

‘‘ภวตณฺหามฺปาหํ , ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร ภวตณฺหาย? ‘อวิชฺชา’ติสฺส วจนียํ. อวิชฺชมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อวิชฺชาย? ‘ปฺจ นีวรณา’ติสฺส วจนียํ. ปฺจ นีวรเณปาหํ, ภิกฺขเว, สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร ปฺจนฺนํ นีวรณานํ? ‘ตีณิ ทุจฺจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว , ทุจฺจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณนฺนํ ทุจฺจริตานํ? ‘อินฺทฺริยอสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยอสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ . โก จาหาโร อินฺทฺริยอสํวรสฺส? ‘อสตาสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. อสตาสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสตา สมฺปชฺสฺส? ‘อโยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. อโยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อโยนิโสมนสิการสฺส? ‘อสฺสทฺธิย’นฺติสฺส วจนียํ. อสฺสทฺธิยมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสฺสทฺธิยสฺส? ‘อสฺสทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. อสฺสทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อสฺสทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘อสปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ, อวิชฺชา ปริปูรา ภวตณฺหํ ปริปูเรติ; เอวเมติสฺสา ภวตณฺหาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรติ, ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูรา กุโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ , กุโสพฺภา ปริปูรา มหาโสพฺเภ ปริปูเรนฺติ, มหาโสพฺภา ปริปูรา กุนฺนทิโย ปริปูเรนฺติ, กุนฺนทิโย ปริปูรา มหานทิโย ปริปูเรนฺติ, มหานทิโย ปริปูรา มหาสมุทฺทํ สาครํ ปริปูเรนฺติ; เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อสปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ อสฺสทฺธิยํ ปริปูเรติ, อสฺสทฺธิยํ ปริปูรํ อโยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, อโยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร อสตาสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, อสตาสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยอสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยอสํวโร ปริปูโร ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ ปริปูรานิ ปฺจ นีวรเณ ปริปูเรนฺติ, ปฺจ นีวรณา ปริปูรา อวิชฺชํ ปริปูเรนฺติ, อวิชฺชา ปริปูรา ภวตณฺหํ ปริปูเรติ; เอวเมติสฺสา ภวตณฺหาย อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘วิชฺชาวิมุตฺติมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร วิชฺชาวิมุตฺติยา? ‘สตฺต โพชฺฌงฺคา’ติสฺส วจนียํ. สตฺตปาหํ, ภิกฺขเว, โพชฺฌงฺเค สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ? ‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติสฺส วจนียํ. จตฺตาโรปาหํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺาเน สาหาเร วทามิ, โน อนาหาเร. โก จาหาโร จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ? ‘ตีณิ สุจริตานี’ติสฺส วจนียํ. ตีณิปาหํ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ สาหารานิ วทามิ, โน อนาหารานิ. โก จาหาโร ติณฺณนฺนํ สุจริตานํ? ‘อินฺทฺริยสํวโร’ติสฺส วจนียํ. อินฺทฺริยสํวรมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร อินฺทฺริยสํวรสฺส? ‘สติสมฺปชฺ’นฺติสฺส วจนียํ. สติสมฺปชฺมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สติสมฺปชฺสฺส? ‘โยนิโสมนสิกาโร’ติสฺส วจนียํ. โยนิโสมนสิการมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร โยนิโสมนสิการสฺส? ‘สทฺธา’ติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธาย? ‘สทฺธมฺมสฺสวน’นฺติสฺส วจนียํ. สทฺธมฺมสฺสวนมฺปาหํ, ภิกฺขเว, สาหารํ วทามิ, โน อนาหารํ. โก จาหาโร สทฺธมฺมสฺสวนสฺส? ‘สปฺปุริสสํเสโว’ติสฺส วจนียํ.

‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ, สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูรํ สทฺธํ ปริปูเรติ, สทฺธา ปริปูรา โยนิโสมนสิการํ ปริปูเรติ, โยนิโสมนสิกาโร ปริปูโร สติสมฺปชฺํ ปริปูเรติ, สติสมฺปชฺํ ปริปูรํ อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ, อินฺทฺริยสํวโร ปริปูโร ตีณิ สุจริตานิ ปริปูเรติ, ตีณิ สุจริตานิ ปริปูรานิ จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรนฺติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ปริปูรา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ , สตฺต โพชฺฌงฺคา ปริปูรา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺติ; เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปริปพฺพเต ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ…เป… เอวเมตสฺส มหาสมุทฺทสฺส สาครสฺส อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูริ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สปฺปุริสสํเสโว ปริปูโร สทฺธมฺมสฺสวนํ ปริปูเรติ…เป… เอวเมติสฺสา วิชฺชาวิมุตฺติยา อาหาโร โหติ, เอวฺจ ปาริปูรี’’ติ. ทุติยํ.

๓. นิฏฺงฺคตสุตฺตํ

๖๓. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ นิฏฺํ คตา สพฺเพ เต ทิฏฺิสมฺปนฺนา. เตสํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส , โกลํโกลสฺส, เอกพีชิสฺส, สกทาคามิสฺส, โย จ ทิฏฺเว ธมฺเม อรหา – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ นิฏฺํ คตา, สพฺเพ เต ทิฏฺิสมฺปนฺนา. เตสํ ทิฏฺิสมฺปนฺนานํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ. ตติยํ.

๔. อเวจฺจปฺปสนฺนสุตฺตํ

๖๔. ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา, สพฺเพ เต โสตาปนฺนา. เตสํ โสตาปนฺนานํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา? สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส, โกลํโกลสฺส, เอกพีชิสฺส, สกทาคามิสฺส, โย จ ทิฏฺเว ธมฺเม อรหา – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา. กตเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา? อนฺตราปรินิพฺพายิสฺส, อุปหจฺจปรินิพฺพายิสฺส, อสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, สสงฺขารปรินิพฺพายิสฺส, อุทฺธํโสตสฺส อกนิฏฺคามิโน – อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา. เย เกจิ, ภิกฺขเว , มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา สพฺเพ เต โสตาปนฺนา. เตสํ โสตาปนฺนานํ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. ปมสุขสุตฺตํ

๖๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต มคเธสุ วิหรติ นาลกคามเก. อถ โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กึ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, สุขํ, กึ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘อภินิพฺพตฺติ โข, อาวุโส , ทุกฺขา, อนภินิพฺพตฺติ สุขา. อภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ – สีตํ อุณฺหํ ชิฆจฺฉา ปิปาสา อุจฺจาโร ปสฺสาโว อคฺคิสมฺผสฺโส ทณฺฑสมฺผสฺโส สตฺถสมฺผสฺโส าตีปิ มิตฺตาปิ สงฺคมฺม สมาคมฺม โรเสนฺติ. อภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ. อนภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺขํ – น สีตํ น อุณฺหํ น ชิฆจฺฉา น ปิปาสา น อุจฺจาโร น ปสฺสาโว น อคฺคิสมฺผสฺโส น ทณฺฑสมฺผสฺโส น สตฺถสมฺผสฺโส าตีปิ มิตฺตาปิ สงฺคมฺม สมาคมฺม น โรเสนฺติ. อนภินิพฺพตฺติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺข’’นฺติ. ปฺจมํ.

๖. ทุติยสุขสุตฺตํ

๖๖. เอกํ สมยํ อายสฺมา สาริปุตฺโต มคเธสุ วิหรติ นาลกคามเก. อถ โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สามณฺฑกานิ ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กึ นุ โข, อาวุโส, สาริปุตฺต, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย สุขํ, กึ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘อนภิรติ โข, อาวุโส, อิมสฺมึ ธมฺมวินเย ทุกฺขา, อภิรติ สุขา. อนภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ – คจฺฉนฺโตปิ สุขํ สาตํ นาธิคจฺฉติ, ิโตปิ… นิสินฺโนปิ… สยาโนปิ… คามคโตปิ… อรฺคโตปิ… รุกฺขมูลคโตปิ… สุฺาคารคโตปิ… อพฺโภกาสคโตปิ… ภิกฺขุมชฺฌคโตปิ สุขํ สาตํ นาธิคจฺฉติ. อนภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ ทุกฺขํ ปาฏิกงฺขํ.

‘‘อภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺขํ – คจฺฉนฺโตปิ สุขํ สาตํ อธิคจฺฉติ, ิโตปิ… นิสินฺโนปิ… สยาโนปิ… คามคโตปิ… อรฺคโตปิ… รุกฺขมูลคโตปิ… สุฺาคารคโตปิ… อพฺโภกาสคโตปิ… ภิกฺขุมชฺฌคโตปิ สุขํ สาตํ อธิคจฺฉติ. อภิรติยา, อาวุโส, สติ อิทํ สุขํ ปาฏิกงฺข’’นฺติ. ฉฏฺํ.

๗. ปมนฬกปานสุตฺตํ

๖๗. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ เยน นฬกปานํ นาม โกสลานํ นิคโม ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา นฬกปาเน วิหรติ ปลาสวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ –

‘‘วิคตถินมิทฺโธ [วิคตถีนมิทฺโธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสงฺโฆ. ปฏิภาตุ ตํ, สาริปุตฺต , ภิกฺขูนํ ธมฺมี กถา. ปิฏฺิ เม อาคิลายติ; ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี [หิริ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ … วีริยํ [วิริยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘อสฺสทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘อหิริโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘อโนตฺตปฺปี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘กุสีโต ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘ทุปฺปฺโ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘โกธโน ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘อุปนาหี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘ปาปิจฺโฉ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘ปาปมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ; ‘มิจฺฉาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, ปริหานเมตํ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ.

‘‘‘สทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘หิรีมา ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘โอตฺตปฺปี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อารทฺธวีริโย ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘ปฺวา ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อกฺโกธโน ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อนุปนาหี ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘อปฺปิจฺโฉ ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘กลฺยาณมิตฺโต ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมตํ; ‘สมฺมาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, อาวุโส, อปริหานเมต’’นฺติ.

อถ โข ภควา ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… ปฺา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา …เป… โน วุทฺธิ.

‘‘‘อสฺสทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, ปริหานเมตํ; อหิริโก… อโนตฺตปฺปี… กุสีโต… ทุปฺปฺโ… โกธโน… อุปนาหี… ปาปิจฺโฉ… ปาปมิตฺโต… ‘มิจฺฉาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, ปริหานเมตํ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ.

‘‘‘สทฺโธ ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, อปริหานเมตํ; หิรีมา… โอตฺตปฺปี… อารทฺธวีริโย… ปฺวา… อกฺโกธโน… อนุปนาหี… อปฺปิจฺโฉ… กลฺยาณมิตฺโต… ‘สมฺมาทิฏฺิโก ปุริสปุคฺคโล’ติ, สาริปุตฺต, อปริหานเมต’’นฺติ. สตฺตมํ.

๘. ทุติยนฬกปานสุตฺตํ

๖๘. เอกํ สมยํ ภควา นฬกปาเน วิหรติ ปลาสวเน. เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสินฺโน โหติ. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺตึ ภิกฺขูนํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตํ ภิกฺขุสงฺฆํ อนุวิโลเกตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ –

‘‘วิคตถินมิทฺโธ โข, สาริปุตฺต, ภิกฺขุสงฺโฆ. ปฏิภาตุ ตํ, สาริปุตฺต, ภิกฺขูนํ ธมฺมี กถา. ปิฏฺิ เม อาคิลายติ; ตมหํ อายมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควโต ปจฺจสฺโสสิ.

อถ โข ภควา จตุคฺคุณํ สงฺฆาฏึ ปฺาเปตฺวา ทกฺขิเณน ปสฺเสน สีหเสยฺยํ กปฺเปสิ ปาเท ปาทํ อจฺจาธาย สโต สมฺปชาโน อุฏฺานสฺํ มนสิ กริตฺวา. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส, ภิกฺขเว’’ติ! ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ… โสตาวธานํ นตฺถิ… ธมฺมธารณา นตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา นตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ นตฺถิ… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ… โสตาวธานํ นตฺถิ… ธมฺมธารณา นตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา นตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ นตฺถิ… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, อาวุโส, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ… โสตาวธานํ อตฺถิ… ธมฺมธารณา อตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา อตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ อตฺถิ… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, อาวุโส, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานี’’ติ.

อถ โข ภควา ปจฺจุฏฺาย อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อามนฺเตสิ – ‘‘สาธุ สาธุ, สาริปุตฺต! ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ หิรี นตฺถิ… โอตฺตปฺปํ นตฺถิ… ปฺา นตฺถิ… วีริยํ นตฺถิ… โสตาวธานํ นตฺถิ… ธมฺมธารณา นตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา นตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ นตฺถิ… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, กาฬปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หายเตว วณฺเณน หายติ มณฺฑเลน หายติ อาภาย หายติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… อปฺปมาโท นตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, หานิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน วุทฺธิ.

‘‘ยสฺส กสฺสจิ, สาริปุตฺต, สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ หิรี อตฺถิ… โอตฺตปฺปํ อตฺถิ… วีริยํ อตฺถิ… ปฺา อตฺถิ… โสตาวธานํ อตฺถิ… ธมฺมธารณา อตฺถิ… อตฺถูปปริกฺขา อตฺถิ… ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปตฺติ อตฺถิ… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานิ. เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ชุณฺหปกฺเข จนฺทสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วฑฺฒเตว วณฺเณน วฑฺฒติ มณฺฑเลน วฑฺฒติ อาภาย วฑฺฒติ อาโรหปริณาเหน; เอวเมวํ โข, สาริปุตฺต, ยสฺส กสฺสจิ สทฺธา อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ…เป… อปฺปมาโท อตฺถิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, ตสฺส ยา รตฺติ วา ทิวโส วา อาคจฺฉติ, วุทฺธิเยว ปาฏิกงฺขา กุสเลสุ ธมฺเมสุ โน ปริหานี’’ติ. อฏฺมํ.

๙. ปมกถาวตฺถุสุตฺตํ

๖๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – [ที. นิ. ๑.๑๗; ม. นิ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๐; ปาจิ. ๕๐๘] ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ [อิตฺถิกถํ ปุริสกถํ (ก.) ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒๓ ปสฺสิตพฺพํ] สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วาติ.

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโต เยน อุปฏฺานสาลา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ?

‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหราม, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วา’’ติ. ‘‘น โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลปุตฺตานํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตานํ, ยํ ตุมฺเห อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหเรยฺยาถ, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ เสนากถํ ภยกถํ ยุทฺธกถํ อนฺนกถํ ปานกถํ วตฺถกถํ สยนกถํ มาลากถํ คนฺธกถํ าติกถํ ยานกถํ คามกถํ นิคมกถํ นครกถํ ชนปทกถํ อิตฺถิกถํ สูรกถํ วิสิขากถํ กุมฺภฏฺานกถํ ปุพฺพเปตกถํ นานตฺตกถํ โลกกฺขายิกํ สมุทฺทกฺขายิกํ อิติภวาภวกถํ อิติ วาติ.

‘‘ทสยิมานิ , ภิกฺขเว, กถาวตฺถูนิ. กตมานิ ทส? อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฏฺิกถา, ปวิเวกกถา , อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปฺากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติาณทสฺสนกถาติ – อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส กถาวตฺถูนิ.

‘‘อิเมสํ เจ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ทสนฺนํ กถาวตฺถูนํ อุปาทายุปาทาย กถํ กเถยฺยาถ, อิเมสมฺปิ จนฺทิมสูริยานํ เอวํมหิทฺธิกานํ เอวํมหานุภาวานํ เตชสา เตชํ ปริยาทิเยยฺยาถ, โก ปน วาโท อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกาน’’นฺติ! นวมํ.

๑๐. ทุติยกถาวตฺถุสุตฺตํ

๗๐. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิสินฺนา สนฺนิปติตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ อนุยุตฺตา วิหรนฺติ, เสยฺยถิทํ – ราชกถํ โจรกถํ มหามตฺตกถํ…เป… อิติภวาภวกถํ อิติ วาติ.

‘‘ทสยิมานิ, ภิกฺขเว, ปาสํสานิ านานิ. กตมานิ ทส? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ โหติ, อปฺปิจฺฉกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘อปฺปิจฺโฉ ภิกฺขุ อปฺปิจฺฉกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺตุฏฺิกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘สนฺตุฏฺโ ภิกฺขุ สนฺตุฏฺิกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ ปวิวิตฺโต โหติ, ปวิเวกกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘ปวิวิตฺโต ภิกฺขุ ปวิเวกกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ อสํสฏฺโ โหติ, อสํสฏฺกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘อสํสฏฺโ ภิกฺขุ อสํสฏฺกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ อารทฺธวีริโย โหติ, วีริยารมฺภกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘อารทฺธวีริโย ภิกฺขุ วีริยารมฺภกถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ สีลสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, สมาธิสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘สมาธิสมฺปนฺโน ภิกฺขุ สมาธิสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ ปฺาสมฺปนฺโน โหติ, ปฺาสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘ปฺาสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ปฺาสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘วิมุตฺติสมฺปนฺโน ภิกฺขุ วิมุตฺติสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ.

‘‘อตฺตนา จ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา โหติ. ‘วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปนฺโน ภิกฺขุ วิมุตฺติาณทสฺสนสมฺปทากถฺจ ภิกฺขูนํ กตฺตา’ติ ปาสํสเมตํ านํ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ทส ปาสํสานิ านานี’’ติ. ทสมํ.

ยมกวคฺโค ทุติโย.

ตสฺสุทฺทานํ –

อวิชฺชา ตณฺหา นิฏฺา จ, อเวจฺจ ทฺเว สุขานิ จ;

นฬกปาเน ทฺเว วุตฺตา, กถาวตฺถูปเร ทุเวติ.