📜

(๙) ๔. เถรวคฺโค

๑. วาหนสุตฺตํ

๘๑. เอกํ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. อถ โข อายสฺมา วาหโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา วาหโน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรตี’’ติ?

‘‘ทสหิ โข, วาหน, ธมฺเมหิ ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. กตเมหิ ทสหิ? รูเปน โข, วาหน, ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ, เวทนาย โข, วาหน…เป… สฺาย โข, วาหน… สงฺขาเรหิ โข, วาหน… วิฺาเณน โข, วาหน… ชาติยา โข, วาหน… ชราย โข, วาหน… มรเณน โข, วาหน… ทุกฺเขหิ โข, วาหน… กิเลเสหิ โข, วาหน, ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรติ. เสยฺยถาปิ, วาหน, อุปฺปลํ วา ปทุมํ วา ปุณฺฑรีกํ วา อุทเก ชาตํ อุทเก สํวฑฺฒํ อุทกา ปจฺจุคฺคมฺม ิตํ อนุปลิตฺตํ อุทเกน; เอวเมวํ โข, วาหน, อิเมหิ ทสหิ ธมฺเมหิ ตถาคโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต วิปฺปมุตฺโต วิมริยาทีกเตน เจตสา วิหรตี’’ติ. ปมํ.

๒. อานนฺทสุตฺตํ

๘๒. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ภควา เอตทโวจ –

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อสฺสทฺโธ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ทุสฺสีโล สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อปฺปสฺสุโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ทุพฺพโจ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ปาปมิตฺโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘กุสีโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘มุฏฺสฺสติ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อสนฺตุฏฺโ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘ปาปิจฺโฉ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘มิจฺฉาทิฏฺิโก สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อิเมหิ ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สทฺโธ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สีลวา สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘พหุสฺสุโต สุตธโร สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สุวโจ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘กลฺยาณมิตฺโต สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อารทฺธวีริโย สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อุปฏฺิตสฺสติ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สนฺตุฏฺโ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อปฺปิจฺโฉ สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘สมฺมาทิฏฺิโก สมาโน อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชติ.

‘‘โส วตานนฺท, ภิกฺขุ ‘อิเมหิ ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ทุติยํ.

๓. ปุณฺณิยสุตฺตํ

๘๓. อถ โข อายสฺมา ปุณฺณิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ปุณฺณิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย เยน อปฺเปกทา ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ อปฺเปกทา นปฺปฏิภาตี’’ติ?

‘‘สทฺโธ จ, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ โหติ, โน จ อุปสงฺกมิตา; เนว ตาว ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. ยโต จ โข, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ อุปสงฺกมิตา จ, เอวํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ.

‘‘สทฺโธ จ, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ โหติ อุปสงฺกมิตา จ, โน จ ปยิรุปาสิตา…เป… ปยิรุปาสิตา จ, โน จ ปริปุจฺฉิตา… ปริปุจฺฉิตา จ, โน จ โอหิตโสโต ธมฺมํ สุณาติ… โอหิตโสโต จ ธมฺมํ สุณาติ, โน จ สุตฺวา ธมฺมํ ธาเรติ… สุตฺวา จ ธมฺมํ ธาเรติ, โน จ ธาตานํ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ… ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ โน จ อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหติ… อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ, โน จ กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา… กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, โน จ สนฺทสฺสโก โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ, เนว ตาว ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ.

‘‘ยโต จ โข, ปุณฺณิย, ภิกฺขุ สทฺโธ จ โหติ, อุปสงฺกมิตา จ, ปยิรุปาสิตา จ, ปริปุจฺฉิตา จ, โอหิตโสโต จ ธมฺมํ สุณาติ, สุตฺวา จ ธมฺมํ ธาเรติ, ธาตานฺจ ธมฺมานํ อตฺถํ อุปปริกฺขติ, อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน จ โหติ, กลฺยาณวาโจ จ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺาย อเนลคฬาย อตฺถสฺส วิฺาปนิยา, สนฺทสฺสโก จ โหติ สมาทปโก สมุตฺเตชโก สมฺปหํสโก สพฺรหฺมจารีนํ – เอวํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาติ. อิเมหิ โข, ปุณฺณิย , ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตา [สมนฺนาคโต (ก.)][เอกนฺตํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาตีติ (สฺยา.)] เอกนฺตปฏิภานา [เอกนฺตปฏิภานํ (สี.)] ตถาคตํ ธมฺมเทสนา โหตี’’ติ [เอกนฺตํ ตถาคตํ ธมฺมเทสนา ปฏิภาตีติ (สฺยา.)]. ตติยํ.

๔. พฺยากรณสุตฺตํ

๘๔. ตตฺร โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ [วิสินํ (สี. อฏฺ.)] อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ?

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘โกธโน โข อยมายสฺมา; โกธปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. โกธปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อุปนาหี โข ปน อยมายสฺมา; อุปนาหปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อุปนาหปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มกฺขี โข ปน อยมายสฺมา; มกฺขปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. มกฺขปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปฬาสี โข ปน อยมายสฺมา; ปฬาสปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. ปฬาสปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อิสฺสุกี โข ปน อยมายสฺมา; อิสฺสาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อิสฺสาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มจฺฉรี โข ปน อยมายสฺมา; มจฺเฉรปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. มจฺเฉรปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สโ โข ปน อยมายสฺมา; สาเยฺยปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. สาเยฺยปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มายาวี โข ปน อยมายสฺมา; มายาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. มายาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปาปิจฺโฉ โข ปน อยมายสฺมา; อิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อิจฺฉาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สติ [มุฏฺสฺสติ (สี. สฺยา.)] โข ปน อยมายสฺมา อุตฺตริ กรณีเย โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตรา โวสานํ อาปนฺโน. อนฺตรา โวสานคมนํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม อปฺปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม ปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. จตุตฺถํ.

๕. กตฺถีสุตฺตํ

๘๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหาจุนฺโท เจตีสุ วิหรติ สหชาติยํ. ตตฺร โข อายสฺมา มหาจุนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาจุนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหาจุนฺโท เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ…เป… อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา ขณฺฑการี ฉิทฺทการี สพลการี กมฺมาสการี น สนฺตตการี น สนฺตตวุตฺติ สีเลสุ. ทุสฺสีโล โข อยมายสฺมา. ทุสฺสิลฺยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อสฺสทฺโธ โข ปน อยมายสฺมา; อสฺสทฺธิยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อปฺปสฺสุโต โข ปน อยมายสฺมา อนาจาโร; อปฺปสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ .

‘ทุพฺพโจ โข ปน อยมายสฺมา; โทวจสฺสตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปาปมิตฺโต โข ปน อยมายสฺมา; ปาปมิตฺตตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุสีโต โข ปน อยมายสฺมา; โกสชฺชํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มุฏฺสฺสติ โข ปน อยมายสฺมา; มุฏฺสฺสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุหโก โข ปน อยมายสฺมา; โกหฺํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺภโร โข ปน อยมายสฺมา; ทุพฺภรตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุปฺปฺโ โข ปน อยมายสฺมา; ทุปฺปฺตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, สหายโก สหายกํ เอวํ วเทยฺย – ‘ยทา เต, สมฺม, ธเนน [พนฺโธ (ก.)] ธนกรณียํ อสฺส, ยาเจยฺยาสิ มํ [ยาจิสฺสสิ มํ (สี.), ปเวเทยฺยาสิ มํ (สฺยา.), ปราเชยฺยาปิ มํ (ก.)] ธนํ. ทสฺสามิ เต ธน’นฺติ. โส กิฺจิเทว ธนกรณีเย สมุปฺปนฺเน สหายโก สหายกํ เอวํ วเทยฺย – ‘อตฺโถ เม, สมฺม, ธเนน. เทหิ เม ธน’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘เตน หิ, สมฺม, อิธ ขนาหี’ติ. โส ตตฺร ขนนฺโต นาธิคจฺเฉยฺย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘อลิกํ มํ, สมฺม, อวจ; ตุจฺฉกํ มํ, สมฺม, อวจ – อิธ ขนาหี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นาหํ ตํ, สมฺม, อลิกํ อวจํ, ตุจฺฉกํ อวจํ. เตน หิ, สมฺม, อิธ ขนาหี’ติ. โส ตตฺรปิ ขนนฺโต นาธิคจฺเฉยฺย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘อลิกํ มํ, สมฺม, อวจ, ตุจฺฉกํ มํ, สมฺม, อวจ – อิธ ขนาหี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นาหํ ตํ, สมฺม, อลิกํ อวจํ, ตุจฺฉกํ อวจํ . เตน หิ, สมฺม, อิธ ขนาหี’ติ. โส ตตฺรปิ ขนนฺโต นาธิคจฺเฉยฺย. โส เอวํ วเทยฺย – ‘อลิกํ มํ, สมฺม, อวจ, ตุจฺฉกํ มํ, สมฺม, อวจ – อิธ ขนาหี’ติ. โส เอวํ วเทยฺย – ‘นาหํ ตํ, สมฺม, อลิกํ อวจํ, ตุจฺฉกํ อวจํ. อปิ จ อหเมว อุมฺมาทํ ปาปุณึ เจตโส วิปริยาย’นฺติ.

‘‘เอวเมวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – ‘อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ ตติยํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ จตุตฺถํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากาสานฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปิ, อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา กตฺถี โหติ วิกตฺถี อธิคเมสุ – อหํ ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามิปิ…เป… อหํ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชามิปิ วุฏฺหามิปี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘ทีฆรตฺตํ โข อยมายสฺมา ขณฺฑการี ฉิทฺทการี สพลการี กมฺมาสการี, น สนฺตตการี น สนฺตตวุตฺติ สีเลสุ. ทุสฺสีโล โข อยมายสฺมา; ทุสฺสิลฺยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อสฺสทฺโธ โข ปน อยมายสฺมา; อสฺสทฺธิยํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ .

‘อปฺปสฺสุโต โข ปน อยมายสฺมา อนาจาโร; อปฺปสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺพโจ โข ปน อยมายสฺมา; โทวจสฺสตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ปาปมิตฺโต โข ปน อยมายสฺมา; ปาปมิตฺตตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุสีโต โข ปน อยมายสฺมา; โกสชฺชํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘มุฏฺสฺสติ โข ปน อยมายสฺมา; มุฏฺสฺสจฺจํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กุหโก โข ปน อยมายสฺมา; โกหฺํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุพฺภโร โข ปน อยมายสฺมา; ทุพฺภรตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ทุปฺปฺโ โข ปน อยมายสฺมา; ทุปฺปฺตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม อปฺปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม ปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ปฺจมํ.

๖. อธิมานสุตฺตํ

๘๖. เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากสฺสโป ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป. ตตฺร โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา มหากสฺสโป เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อฺํ พฺยากโรติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ. ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติ. โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘อธิมานิโก โข อยมายสฺมา อธิมานสจฺโจ, อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี, อกเต กตสฺี, อนธิคเต อธิคตสฺี. อธิมาเนน อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กึ นุ โข อยมายสฺมา นิสฺสาย อธิมานิโก อธิมานสจฺโจ, อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี, อกเต กตสฺี, อนธิคเต อธิคตสฺี. อธิมาเนน อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ , วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘พหุสฺสุโต โข ปน อยมายสฺมา สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา. ตสฺมา อยมายสฺมา อธิมานิโก อธิมานสจฺโจ, อปฺปตฺเต ปตฺตสฺี, อกเต กตสฺี, อนธิคเต อธิคตสฺี. อธิมาเนน อฺํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ.

‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –

‘อภิชฺฌาลุ โข ปน อยมายสฺมา; อภิชฺฌาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อภิชฺฌาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘พฺยาปนฺโน โข ปน อยมายสฺมา; พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. พฺยาปาทปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ถินมิทฺโธ โข ปน อยมายสฺมา; ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. ถินมิทฺธปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘อุทฺธโต โข ปน อยมายสฺมา; อุทฺธจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. อุทฺธจฺจปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘วิจิกิจฺโฉ โข ปน อยมายสฺมา; วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติ. วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘กมฺมาราโม โข ปน อยมายสฺมา กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต. กมฺมารามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘ภสฺสาราโม โข ปน อยมายสฺมา ภสฺสรโต ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต. ภสฺสารามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘นิทฺทาราโม โข ปน อยมายสฺมา นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต. นิทฺทารามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สงฺคณิการาโม โข ปน อยมายสฺมา สงฺคณิกรโต สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต. สงฺคณิการามตา โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ.

‘สติ โข ปน อยมายสฺมา อุตฺตริ กรณีเย โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตรา โวสานํ อาปนฺโน. อนฺตรา โวสานคมนํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’.

‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม อปฺปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธมฺเม ปหาย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ านเมตํ วิชฺชตี’’ติ. ฉฏฺํ.

๗. นปฺปิยสุตฺตํ

๘๗. ตตฺร โข ภควา กาลงฺกตํ ภิกฺขุํ [กลนฺทกํ ภิกฺขุํ (สี.), กาฬกภิกฺขุํ (สฺยา.)] อารพฺภ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิกรณิโก โหติ, อธิกรณสมถสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิกรณิโก โหติ อธิกรณสมถสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สิกฺขากาโม โหติ, สิกฺขาสมาทานสฺส [สิกฺขากามสฺส (ก.)] น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สิกฺขากาโม โหติ สิกฺขาสมาทานสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหติ, อิจฺฉาวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหติ อิจฺฉาวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ, โกธวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โกธโน โหติ โกธวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ, มกฺขวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มกฺขี โหติ มกฺขวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สโ โหติ , สาเยฺยวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ สโ โหติ สาเยฺยวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มายาวี โหติ, มายาวินยสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มายาวี โหติ มายาวินยสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ น นิสามกชาติโก โหติ, ธมฺมนิสนฺติยา น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ น นิสามกชาติโก โหติ ธมฺมนิสนฺติยา น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปฏิสลฺลีโน โหติ, ปฏิสลฺลานสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปฏิสลฺลีโน โหติ ปฏิสลฺลานสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ น ปฏิสนฺถารโก [ปฏิสนฺธารโก (ก.)] โหติ, ปฏิสนฺถารกสฺส น วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ น ปฏิสนฺถารโก โหติ ปฏิสนฺถารกสฺส น วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม น ปิยตาย น ครุตาย น ภาวนาย น สามฺาย น เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘เอวรูปสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ [ครุกเรยฺยุํ (สี. สฺยา.)] มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี น เจว สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา.)] น มาเนนฺติ น ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อปฺปหีเน สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อสฺสขฬุงฺกสฺส กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ มนุสฺสา อาชานียฏฺาเน เปยฺยุํ, อาชานียโภชนฺจ โภเชยฺยุํ, อาชานียปริมชฺชนฺจ ปริมชฺเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ มนุสฺสา น เจว อาชานียฏฺาเน เปนฺติ น จ อาชานียโภชนํ โภเชนฺติ น จ อาชานียปริมชฺชนํ ปริมชฺชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู มนุสฺสา ตานิ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ อปฺปหีนานิ สมนุปสฺสนฺติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน กิฺจาปิ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี น เจว สกฺกโรนฺติ น ครุํ กโรนฺติ น มาเนนฺติ น ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อปฺปหีเน สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อธิกรณิโก โหติ, อธิกรณสมถสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อธิกรณิโก โหติ อธิกรณสมถสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตาย ครุตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขากาโม โหติ, สิกฺขาสมาทานสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สิกฺขากาโม โหติ สิกฺขาสมาทานสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตาย ครุตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิจฺโฉ โหติ, อิจฺฉาวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อปฺปิจฺโฉ โหติ อิจฺฉาวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกธโน โหติ, โกธวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกธโน โหติ โกธวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมกฺขี โหติ, มกฺขวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ อมกฺขี โหติ มกฺขวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสโ โหติ, สาเยฺยวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสโ โหติ สาเยฺยวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมายาวี โหติ, มายาวินยสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อมายาวี โหติ มายาวินยสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ นิสามกชาติโก โหติ, ธมฺมนิสนฺติยา วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธมฺมานํ นิสามกชาติโก โหติ ธมฺมนิสนฺติยา วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลีโน โหติ, ปฏิสลฺลานสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลีโน โหติ ปฏิสลฺลานสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม…เป… เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปฏิสนฺถารโก โหติ, ปฏิสนฺถารกสฺส วณฺณวาที. ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปฏิสนฺถารโก โหติ ปฏิสนฺถารกสฺส วณฺณวาที, อยมฺปิ ธมฺโม ปิยตาย ครุตาย ภาวนาย สามฺาย เอกีภาวาย สํวตฺตติ.

‘‘เอวรูปสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, ภทฺทสฺส อสฺสาชานียสฺส กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ มนุสฺสา อาชานียฏฺาเน เปยฺยุํ, อาชานียโภชนฺจ โภเชยฺยุํ, อาชานียปริมชฺชนฺจ ปริมชฺเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ มนุสฺสา อาชานียฏฺาเน จ เปนฺติ อาชานียโภชนฺจ โภเชนฺติ อาชานียปริมชฺชนฺจ ปริมชฺชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู มนุสฺสา ตานิ สาเยฺยานิ กูเฏยฺยานิ ชิมฺเหยฺยานิ วงฺเกยฺยานิ ปหีนานิ สมนุปสฺสนฺติ.

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน กิฺจาปิ น เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย – ‘อโห วต มํ สพฺรหฺมจารี สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุ’นฺติ, อถ โข นํ สพฺรหฺมจารี สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ มาเนนฺติ ปูเชนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถาหิสฺส, ภิกฺขเว, วิฺู สพฺรหฺมจารี เต ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน สมนุปสฺสนฺตี’’ติ. สตฺตมํ.

๘. อกฺโกสกสุตฺตํ

๘๘. ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสกปริภาสโก อริยูปวาที สพฺรหฺมจารีนํ านเมตํ อวกาโส [อฏฺานเมตํ อนวกาโส (สี. สฺยา. ปี.)] ยํ โส ทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺย [น นิคจฺเฉยฺย (สี. สฺยา. ปี.)]. กตเมสํ ทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ. โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสกปริภาสโก อริยูปวาที สพฺรหฺมจารีนํ, านเมตํ อวกาโส ยํ โส อิเมสํ ทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺยา’’ติ. อฏฺมํ.

๙. โกกาลิกสุตฺตํ

๘๙. [สํ. นิ. ๑.๑๘๑; สุ. นิ. โกกาลิกสุตฺต] อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปาปิจฺฉา, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

ทุติยมฺปิ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ เม, ภนฺเต, ภควา สทฺธายิโก ปจฺจยิโก, อถ โข ปาปิจฺฉาว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

ตติยมฺปิ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิฺจาปิ เม, ภนฺเต, ภควา สทฺธายิโก ปจฺจยิโก, อถ โข ปาปิจฺฉาว สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ. ‘‘มา เหวํ, โกกาลิก, มา เหวํ, โกกาลิก! ปสาเทหิ, โกกาลิก , สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ.

อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. อจิรปกฺกนฺตสฺส จ โกกาลิกสฺส ภิกฺขุโน สาสปมตฺตีหิ ปีฬกาหิ สพฺโพ กาโย ผุโฏ อโหสิ. สาสปมตฺติโย หุตฺวา มุคฺคมตฺติโย อเหสุํ, มุคฺคมตฺติโย หุตฺวา กลายมตฺติโย อเหสุํ, กลายมตฺติโย หุตฺวา โกลฏฺิมตฺติโย อเหสุํ, โกลฏฺิมตฺติโย หุตฺวา โกลมตฺติโย อเหสุํ, โกลมตฺติโย หุตฺวา อามลกมตฺติโย อเหสุํ, อามลกมตฺติโย หุตฺวา (ติณฺฑุกมตฺติโย อเหสุํ, ติณฺฑุกมตฺติโย หุตฺวา,) [สํ. นิ. ๑.๑๘๑; สุ. นิ. โกกาลิกสุตฺต นตฺถิ] เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย อเหสุํ, เพฬุวสลาฏุกมตฺติโย หุตฺวา พิลฺลมตฺติโย อเหสุํ, พิลฺลมตฺติโย หุตฺวา ปภิชฺชึสุ, ปุพฺพฺจ โลหิตฺจ ปคฺฆรึสุ. โส สุทํ กทลิปตฺเตสุ เสติ มจฺโฉว วิสคิลิโต.

อถ โข ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา [ตุทุปฺปจฺเจกพฺรหฺมา (สี. ปี.), ตุทิ ปจฺเจกพฺรหฺมา (สฺยา.), ตุริ ปจฺเจกพฺรหฺมา (ก.) สํ. นิ. ๑.๑๘๐] เยน โกกาลิโก ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เวหาเส ตฺวา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘ปสาเทหิ, โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ. เปสลา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา’’ติ. ‘‘โกสิ ตฺวํ, อาวุโส’’ติ? ‘‘อหํ ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา’’ติ. ‘‘นนุ ตฺวํ, อาวุโส, ภควตา อนาคามี พฺยากโต, อถ กิฺจรหิ อิธาคโต? ปสฺส ยาวฺจ เต อิทํ อปรทฺธ’’นฺติ.

อถ โข ตุรู ปจฺเจกพฺรหฺมา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี ชายเต มุเข;

ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.

‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;

วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.

‘‘อปฺปมตฺตโก อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหตฺตโร กลิ;

โย สุคเตสุ มนํ ปทูสเย.

‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสติ ปฺจ จ อพฺพุทานิ;

ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ.

อถ โข โกกาลิโก ภิกฺขุ เตเนว อาพาเธน กาลมกาสิ. กาลงฺกโต จ โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปชฺชติ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา.

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โกกาลิโก, ภนฺเต , ภิกฺขุ กาลงฺกโต. กาลงฺกโต จ, ภนฺเต, โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ. อิทํ วตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิ.

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺตึ พฺรหฺมา สหมฺปติ อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. เอกมนฺตํ ิโต โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ มํ เอตทโวจ – ‘โกกาลิโก, ภนฺเต, ภิกฺขุ กาลงฺกโต; กาลงฺกโต จ, ภนฺเต, โกกาลิโก ภิกฺขุ ปทุมํ นิรยํ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’ติ. อิทมโวจ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา สหมฺปติ. อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายี’’ติ.

เอวํ วุตฺเต อฺตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กีว ทีฆํ นุ โข, ภนฺเต, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณ’’นฺติ? ‘‘ทีฆํ โข, ภิกฺขุ, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณํ. น ตํ สุกรํ สงฺขาตุํ – ‘เอตฺตกานิ วสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตานีติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ วสฺสสตสหสฺสานีติ วา’’’ติ.

‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, อุปมํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘สกฺกา, ภิกฺขู,’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห ตโต ปุริโส วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน เอกเมกํ ติลํ อุทฺธเรยฺย . ขิปฺปตรํ โข โส, ภิกฺขุ, วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห อิมินา อุปกฺกเมน ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย, น ตฺเวว เอโก อพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก นิรพฺพุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ นิรพฺพุทา นิรยา, เอวเมโก อพโพ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อพพา นิรยา, เอวเมโก อฏโฏ นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อฏฏา นิรยา, เอวเมโก อหโห นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อหหา นิรยา, เอวเมโก กุมุโท นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ กุมุทา นิรยา, เอวเมโก โสคนฺธิโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ โสคนฺธิกา นิรยา, เอวเมโก อุปฺปลโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ อุปฺปลกา นิรยา, เอวเมโก ปุณฺฑรีโก นิรโย. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, วีสติ ปุณฺฑรีกา นิรยา, เอวเมโก ปทุโม นิรโย. ปทุมํ โข ปน, ภิกฺขุ, นิรยํ โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา’’ติ. อิทมโวจ ภควา. อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส, กุารี ชายเต มุเข;

ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.

‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;

วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.

‘‘อปฺปมตฺตโก อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;

สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหตฺตโร กลิ;

โย สุคเตสุ มนํ ปทูสเย.

‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสติ ปฺจ จ อพฺพุทานิ;

ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ. นวมํ;

๑๐. ขีณาสวพลสุตฺตํ

๙๐. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กติ นุ โข, สาริปุตฺต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ?

‘‘ทส, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ. กตมานิ ทส? [อ. นิ. ๘.๒๘; ปฏิ. ม. ๒.๔๔] อิธ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ , ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน องฺคารกาสูปมา กามา ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺา โหนฺติ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภารํ วิเวกฏฺํ เนกฺขมฺมาภิรตํ พฺยนฺตีภูตํ สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา…เป… จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา …เป… ปฺจินฺทฺริยานิ… ปฺจ พลานิ ภาวิตานิ โหนฺติ สุภาวิตานิ… สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา โหนฺติ สุภาวิตา… อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต. ยมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต โหติ สุภาวิโต, อิทมฺปิ, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลํ โหติ, ยํ พลํ อาคมฺม ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’ติ.

‘‘อิมานิ โข, ภนฺเต, ทส ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน พลานิ, เยหิ พเลหิ สมนฺนาคโต ขีณาสโว ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปฏิชานาติ – ‘ขีณา เม อาสวา’’’ติ. ทสมํ.

เถรวคฺโค จตุตฺโถ.

ตสฺสุทฺทานํ –

วาหนานนฺโท ปุณฺณิโย, พฺยากรํ กตฺถิมานิโก;

นปิยกฺโกสโกกาลิ, ขีณาสวพเลน จาติ.