📜
(๑๐) ๕. อุปาลิวคฺโค
๑. กามโภคีสุตฺตํ
๙๑. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ทสยิเม ¶ , คหปติ, กามโภคี สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม ทส? อิธ, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน; อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ [น อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ] น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ¶ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน; อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน ¶ , คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน; อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ; ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ ¶ ; ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ; ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน ¶ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ, น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ. เต จ โภเค คถิโต [คธิโต (ก.) อ. นิ. ๓.๑๒๔ ปสฺสิตพฺพํ] มุจฺฉิโต ¶ อชฺโฌสนฺโน [อชฺฌาปนฺโน (สพฺพตฺถ) อ. นิ. ๓.๑๒๔ สุตฺตวณฺณนา ฏีกา โอโลเกตพฺพา] อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ¶ ปริภฺุชติ.
‘‘อิธ ปน, คหปติ, เอกจฺโจ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน; ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ. เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ตีหิ าเนหิ คารยฺโห. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ¶ คารยฺโห. ‘น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ าเนหิ คารยฺโห.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน, อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรตี’ติ อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส.
‘‘ตตฺร ¶ , คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสน ¶ , อธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี เอเกน าเนน คารยฺโห ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ¶ ปีเณตี’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห, อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี เอเกน าเนน ปาสํโส ตีหิ าเนหิ คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. ‘น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส อิเมหิ ตีหิ าเนหิ คารยฺโห.
‘‘ตตฺร ¶ , คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห ¶ . ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ ¶ , คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนปิ อสาหเสนปิ, ธมฺมาธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา สาหเสนปิ อสาหเสนปิ อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ตีหิ าเนหิ ปาสํโส เอเกน ¶ าเนน คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อธมฺเมน โภเค ปริเยสติ สาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน ปาสํโส. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ปาสํโส อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี เอเกน าเนน ปาสํโส ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห. ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส. ‘น อตฺตานํ สุเขติ น ปีเณตี’ติ, อิมินา ปเมน าเนน คารยฺโห. ‘น สํวิภชติ ¶ น ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิมินา เอเกน าเนน ปาสํโส อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ คารยฺโห.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรติ, อยํ, คหปติ ¶ , กามโภคี ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘น สํวิภชติ น ปฺุานิ กโรตี’ติ อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. อยํ ¶ , คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ ปาสํโส อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห.
‘‘ตตฺร, คหปติ ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ, เต จ โภเค คถิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌสนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี ตีหิ าเนหิ ปาสํโส เอเกน าเนน คารยฺโห. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน ¶ าเนน ปาสํโส. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน ปาสํโส. ‘เต จ โภเค คถิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌสนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชตี’ติ ¶ , อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ปาสํโส อิมินา เอเกน าเนน คารยฺโห.
‘‘ตตฺร, คหปติ, ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ, เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ, อยํ, คหปติ, กามโภคี จตูหิ าเนหิ ปาสํโส. ‘ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสนา’ติ, อิมินา ปเมน าเนน ปาสํโส. ‘อตฺตานํ สุเขติ ปีเณตี’ติ, อิมินา ทุติเยน าเนน ปาสํโส. ‘สํวิภชติ ปฺุานิ กโรตี’ติ, อิมินา ตติเยน าเนน ปาสํโส. ‘เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชตี’ติ, อิมินา จตุตฺเถน าเนน ปาสํโส. อยํ, คหปติ, กามโภคี อิเมหิ จตูหิ าเนหิ ปาสํโส.
‘‘อิเม โข, คหปติ, ทส กามโภคี สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. อิเมสํ โข, คหปติ, ทสนฺนํ กามโภคีนํ ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน ¶ โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ปฺุานิ กโรติ, เต จ โภเค ¶ อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ, อยํ อิเมสํ ทสนฺนํ กามโภคีนํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (ก. สี.) อ. นิ. ๔.๙๕; ๕.๑๘๑; สํ. นิ. ๓.๖๖๒] จ อุตฺตโม จ ปวโร จ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ควา ขีรํ, ขีรมฺหา ทธิ, ทธิมฺหา นวนีตํ, นวนีตมฺหา สปฺปิ, สปฺปิมฺหา สปฺปิมณฺโฑ. สปฺปิมณฺโฑ ตตฺถ อคฺคมกฺขายติ.
เอวเมวํ โข ¶ , คหปติ, อิเมสํ ทสนฺนํ กามโภคีนํ ยฺวายํ กามโภคี ธมฺเมน โภเค ปริเยสติ อสาหเสน, ธมฺเมน โภเค ปริเยสิตฺวา อสาหเสน อตฺตานํ สุเขติ ปีเณติ สํวิภชติ ¶ ปฺุานิ กโรติ, เต จ โภเค อคถิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชติ, อยํ อิเมสํ ทสนฺนํ กามโภคีนํ อคฺโค จ เสฏฺโ จ ปาโมกฺโข [โมกฺโข (ก. สี.) อ. นิ. ๕.๑๘๑] จ อุตฺตโม จ ปวโร จา’’ติ. ปมํ.
๒. ภยสุตฺตํ
๙๒. [อ. นิ. ๙.๒๗; สํ. นิ. ๕.๑๐๒๔] อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ภควา เอตทโวจ –
‘‘ยโต, โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, จตูหิ จ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, อริโย จสฺส าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ, โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต. โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’ติ.
‘‘กตมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ? ยํ ¶ , คหปติ, ปาณาติปาตี ปาณาติปาตปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ [เนว ทิฏฺธมฺมิกํ] ภยํ เวรํ ปสวติ น สมฺปรายิกมฺปิ [น สมฺปรายิกํ] ภยํ เวรํ ปสวติ น เจตสิกมฺปิ [น เจตสิกํ (สี. สฺยา. ปี.)] ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส เอวํ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ ¶ .
‘‘ยํ ¶ , คหปติ, อทินฺนาทายี…เป… กาเมสุมิจฺฉาจารี… มุสาวาที… สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺายี สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานปจฺจยา ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรโต เนว ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ น สมฺปรายิกมฺปิ ภยํ เวรํ ปสวติ น เจตสิกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา ปฏิวิรตสฺส เอวํ ¶ ตํ ภยํ เวรํ วูปสนฺตํ โหติ. อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ.
‘‘กตเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ; ธมฺเม อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’ติ; สงฺเฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – ‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’ติ; อริยกนฺเตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ ¶ ‘อขณฺเฑหิ อจฺฉิทฺเทหิ อสพเลหิ อกมฺมาเสหิ ภุชิสฺเสหิ วิฺุปฺปสตฺเถหิ อปรามฏฺเหิ ¶ สมาธิสํวตฺตนิเกหิ’. อิเมหิ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ.
‘‘กตโม จสฺส อริโย าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ? อิธ, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘อิติ อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ; อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชติ; อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ; อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌติ, ยทิทํ – อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ; อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ…เป… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส ¶ นิโรโธ โหตี’ติ. อยฺจสฺส อริโย าโย ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ.
‘‘ยโต โข, คหปติ, อริยสาวกสฺส อิมานิ ปฺจ ภยานิ เวรานิ วูปสนฺตานิ โหนฺติ, อิเมหิ จ จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต โหติ, อยฺจสฺส อริโย าโย ¶ ปฺาย สุทิฏฺโ โหติ สุปฺปฏิวิทฺโธ ¶ , โส อากงฺขมาโน อตฺตนาว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย – ‘ขีณนิรโยมฺหิ ขีณติรจฺฉานโยนิ ขีณเปตฺติวิสโย ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโต; โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. ทุติยํ.
๓. กึทิฏฺิกสุตฺตํ
๙๓. เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ทิวา ทิวสฺส สาวตฺถิยา นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ตาว ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อกาโล ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียา ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.
อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ. อทฺทสํสุ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อฺมฺํ สณฺาเปสุํ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ, มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อารามํ อาคจฺฉติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก. ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา สาวตฺถิยํ ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร อนาถปิณฺฑิโก คหปติ. อปฺปสทฺทกามา ¶ โข ปน เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.
อถ ¶ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ ¶ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ¶ เอตทโวจุํ – ‘‘วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิโก สมโณ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภนฺเต, ภควโต สพฺพํ ทิฏฺึ ชานามี’’ติ.
‘‘อิติ กิร ตฺวํ, คหปติ, น สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพํ ทิฏฺึ ชานาสิ; วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิกา ภิกฺขู’’ติ? ‘‘ภิกฺขูนมฺปิ โข อหํ, ภนฺเต, น สพฺพํ ทิฏฺึ ชานามี’’ติ.
‘‘อิติ กิร ตฺวํ, คหปติ, น สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพํ ทิฏฺึ ชานาสิ นปิ ภิกฺขูนํ สพฺพํ ทิฏฺึ ชานาสิ; วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิโกสิ ตุว’’นฺติ? ‘‘เอตํ โข, ภนฺเต, อมฺเหหิ น ทุกฺกรํ พฺยากาตุํ ยํทิฏฺิกา มยํ. อิงฺฆ ตาว อายสฺมนฺโต ยถาสกานิ ทิฏฺิคตานิ พฺยากโรนฺตุ, ปจฺฉาเปตํ อมฺเหหิ น ทุกฺกรํ ภวิสฺสติ พฺยากาตุํ ยํทิฏฺิกา มย’’นฺติ.
เอวํ วุตฺเต อฺตโร ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’’ติ.
อฺตโรปิ โข ¶ ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’’ติ.
อฺตโรปิ โข ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ – ‘‘ยฺวายํ, ภนฺเต, อายสฺมา เอวมาห – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’ติ ¶ , อิมสฺส อยมายสฺมโต ทิฏฺิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วา. สา โข ปเนสา ทิฏฺิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต.
‘‘โยปายํ ¶ , ภนฺเต, อายสฺมา เอวมาห – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺสาปิ อยมายสฺมโต ทิฏฺิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วา. สา โข ปเนสา ทิฏฺิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต.
‘‘โยปายํ, ภนฺเต, อายสฺมา เอวมาห – ‘อนฺตวา โลโก ¶ …เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺสาปิ อยมายสฺมโต ทิฏฺิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วา. สา โข ปเนสา ทิฏฺิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ เอตทโวจุํ – ‘‘พฺยากตานิ โข, คหปติ, อมฺเหหิ สพฺเพเหว ยถาสกานิ ทิฏฺิคตานิ. วเทหิ, คหปติ, กึทิฏฺิโกสิ ตุว’’นฺติ? ‘‘ยํ โข, ภนฺเต, กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ‘ยํ ทุกฺขํ ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวํทิฏฺิโก อหํ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘ยํ ¶ โข, คหปติ, กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ ตเทว ตฺวํ, คหปติ, อลฺลีโน, ตเทว ตฺวํ, คหปติ, อชฺฌุปคโต’’ติ.
‘‘ยํ โข, ภนฺเต, กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํ. ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. ‘ยํ ทุกฺขํ ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, นเมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สุทิฏฺํ ¶ . ตสฺส จ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานามี’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เต ปริพฺพาชเก ตุณฺหีภูเต มงฺกุภูเต ปตฺตกฺขนฺเธ อโธมุเข ปชฺฌายนฺเต อปฺปฏิภาเน วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ยาวตโก อโหสิ เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ. ‘‘สาธุ สาธุ, คหปติ! เอวํ โข เต, คหปติ, โมฆปุริสา กาเลน กาลํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตพฺพา’’ติ.
อถ โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปตึ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ¶ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต อนาถปิณฺฑิเก คหปติมฺหิ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วสฺสสตุปสมฺปนฺโน [ภิกฺขุ ทีฆรตฺตํ อเวธิ ธมฺโม (สฺยา.)] อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, โสปิ เอวเมวํ อฺติตฺถิเย ปริพฺพาชเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺเหยฺย ยถา ตํ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา นิคฺคหิตา’’ติ. ตติยํ.
๔. วชฺชิยมาหิตสุตฺตํ
๙๔. เอกํ ¶ สมยํ ภควา จมฺปายํ วิหรติ คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร. อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ ทิวา ทิวสฺส จมฺปาย นิกฺขมิ ภควนฺตํ ¶ ทสฺสนาย. อถ โข วชฺชิยมาหิตสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ตาว ภควนฺตํ ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีโน ภควา. มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อกาโล ทสฺสนาย. ปฏิสลฺลีนา มโนภาวนียาปิ ภิกฺขู. ยํนูนาหํ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติ.
อถ ¶ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ เยน อฺติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ.
อทฺทสํสุ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา วชฺชิยมาหิตํ คหปตึ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อฺมฺํ สณฺาเปสุํ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภนฺโต โหนฺตุ. มา โภนฺโต สทฺทมกตฺถ. อยํ วชฺชิยมาหิโต คหปติ อาคจฺฉติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก. ยาวตา โข ปน ¶ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา จมฺปายํ ปฏิวสนฺติ, อยํ เตสํ อฺตโร วชฺชิยมาหิโต คหปติ. อปฺปสทฺทกามา โข ปน เต อายสฺมนฺโต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโน. อปฺเปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มฺเยฺยา’’ติ.
อถ โข เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํ. อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ เยน เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข วชฺชิยมาหิตํ คหปตึ เต อฺติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ ¶ กิร, คหปติ, สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี’’ติ? ‘‘น โข, ภนฺเต, ภควา สพฺพํ ตปํ ครหติ นปิ สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทติ. คารยฺหํ โข, ภนฺเต, ภควา ครหติ ¶ , ปสํสิตพฺพํ ปสํสติ. คารยฺหํ โข ปน, ภนฺเต, ภควา ครหนฺโต ปสํสิตพฺพํ ปสํสนฺโต วิภชฺชวาโท ภควา. น โส ภควา เอตฺถ เอกํสวาโท’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อฺตโร ปริพฺพาชโก วชฺชิยมาหิตํ คหปตึ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, คหปติ, ยสฺส ตฺวํ สมณสฺส โคตมสฺส วณฺณํ ภาสติ, สมโณ โคตโม เวนยิโก อปฺปฺตฺติโก’’ติ? ‘‘เอตฺถปาหํ, ภนฺเต, อายสฺมนฺเต วกฺขามิ สหธมฺเมน – ‘อิทํ กุสล’นฺติ, ภนฺเต, ภควตา ปฺตฺตํ; ‘อิทํ อกุสล’นฺติ, ภนฺเต, ภควตา ปฺตฺตํ. อิติ กุสลากุสลํ ภควา ปฺาปยมาโน สปฺตฺติโก ภควา; น โส ภควา เวนยิโก อปฺปฺตฺติโก’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา ¶ มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฏิภานา นิสีทึสุ. อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ เต ปริพฺพาชเก ตุณฺหีภูเต มงฺกุภูเต ปตฺตกฺขนฺเธ อโธมุเข ปชฺฌายนฺเต อปฺปฏิภาเน วิทิตฺวา อุฏฺายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ ยาวตโก อโหสิ เตหิ อฺติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิ.
‘‘สาธุ สาธุ, คหปติ! เอวํ ¶ โข เต, คหปติ, โมฆปุริสา กาเลน กาลํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตพฺพา. นาหํ, คหปติ, สพฺพํ ตปํ ตปิตพฺพนฺติ วทามิ; น จ ปนาหํ, คหปติ, สพฺพํ ตปํ น ตปิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺพํ สมาทานํ สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, คหปติ, สพฺพํ สมาทานํ น สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺพํ ปธานํ ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ; น ปนาหํ, คหปติ, สพฺพํ ปธานํ น ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺโพ ปฏินิสฺสคฺโค ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ. น ปนาหํ, คหปติ, สพฺโพ ปฏินิสฺสคฺโค น ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ; นาหํ, คหปติ, สพฺพา วิมุตฺติ วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามิ; น ปนาหํ, คหปติ, สพฺพา วิมุตฺติ น วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, คหปติ, ตปํ ตปโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ ตปํ น ตปิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส คหปติ, ตปํ ตปโต อกุสลา ¶ ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา ¶ อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ ตปํ ตปิตพฺพนฺติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, คหปติ, สมาทานํ สมาทิยโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ สมาทานํ น สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, สมาทานํ สมาทิยโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปํ สมาทานํ สมาทิตพฺพนฺติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, คหปติ, ปธานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปํ ปธานํ น ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, ปธานํ ปทหโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ ¶ , เอวรูปํ ปธานํ ปทหิตพฺพนฺติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ ¶ , คหปติ, ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏินิสฺสชฺชโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูโป ปฏินิสฺสคฺโค น ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, ปฏินิสฺสคฺคํ ปฏินิสฺสชฺชโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูโป ปฏินิสฺสคฺโค ปฏินิสฺสชฺชิตพฺโพติ วทามิ.
‘‘ยฺหิ, คหปติ, วิมุตฺตึ วิมุจฺจโต อกุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, กุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, เอวรูปา วิมุตฺติ น วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามิ. ยฺจ ขฺวสฺส, คหปติ, วิมุตฺตึ วิมุจฺจโต อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ, กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺติ, เอวรูปา วิมุตฺติ วิมุจฺจิตพฺพาติ วทามี’’ติ.
อถ โข วชฺชิยมาหิโต คหปติ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.
อถ โข ภควา อจิรปกฺกนฺเต วชฺชิยมาหิเต คหปติมฺหิ ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺโข อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, โสปิ เอวเมวํ อฺติตฺถิเย ¶ ปริพฺพาชเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺเหยฺย ยถา ตํ วชฺชิยมาหิเตน คหปตินา นิคฺคหิตา’’ติ. จตุตฺถํ.
๕. อุตฺติยสุตฺตํ
๙๕. อถ ¶ โข อุตฺติโย ปริพฺพาชโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุตฺติโย ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก, อิทเมว ¶ สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, อุตฺติย, มยา – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘กึ ปน, โภ โคตม, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา ¶ … น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, อุตฺติย, มยา – สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปน, โภ โคตม, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ¶ นุ โข, โภ โคตม, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว ¶ สจฺจํ โมฆมฺนฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน ¶ – ‘เอตมฺปิ โข, อุตฺติย, อพฺยากตํ มยา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ. อถ กิฺจรหิ โภตา โคตเมน พฺยากต’’นฺติ?
‘‘อภิฺาย โข อหํ, อุตฺติย, สาวกานํ ธมฺมํ เทเสมิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยายา’’ติ.
‘‘ยํ ปเนตํ ภวํ โคตโม อภิฺาย สาวกานํ ธมฺมํ เทเสสิ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, สพฺโพ วา [สพฺโพ จ (ก.)] เตน โลโก นียติ [นียิสฺสติ (สี.), นิยฺยาสฺสติ (สฺยา.), นิยฺยํสฺสติ (ปี.)] อุปฑฺโฒ วา ติภาโค วา’’ติ [ติภาโค วาติ ปเทหิ (ก.)]? เอวํ วุตฺเต ภควา ตุณฺหี อโหสิ.
อถ ¶ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มา เหวํ โข อุตฺติโย ปริพฺพาชโก ปาปกํ ทิฏฺิคตํ ปฏิลภิ – ‘สพฺพสามุกฺกํสิกํ วต เม สมโณ โคตโม ปฺหํ ปุฏฺโ สํสาเทติ, โน วิสฺสชฺเชติ, น นูน วิสหตี’ติ. ตทสฺส อุตฺติยสฺส ปริพฺพาชกสฺส ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อุตฺติยํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘เตนหาวุโส อุตฺติย, อุปมํ เต กริสฺสามิ. อุปมาย มิเธกจฺเจ วิฺู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติ. เสยฺยถาปิ, อาวุโส อุตฺติย, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ [ทฬฺหุทฺทาปํ (สี. ปี.)] ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ. ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี อฺาตานํ นิวาเรตา าตานํ ¶ ปเวเสตา. โส ตสฺส นครสฺส สมนฺตา อนุปริยายปถํ อนุกฺกมติ. อนุปริยายปถํ อนุกฺกมมาโน น ปสฺเสยฺย ปาการสนฺธึ วา ปาการวิวรํ ¶ วา, อนฺตมโส พิฬารนิกฺขมนมตฺตมฺปิ. โน จ ขฺวสฺส เอวํ าณํ โหติ – ‘เอตฺตกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ. อถ ¶ ขฺวสฺส เอวเมตฺถ โหติ – ‘เย โข เกจิ โอฬาริกา ปาณา อิมํ นครํ ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา, สพฺเพ เต อิมินา ทฺวาเรน ปวิสนฺติ วา นิกฺขมนฺติ วา’ติ.
‘‘เอวเมวํ โข, อาวุโส อุตฺติย, น ตถาคตสฺส เอวํ อุสฺสุกฺกํ โหติ – ‘สพฺโพ วา เตน โลโก นียติ, อุปฑฺโฒ วา, ติภาโค วา’ติ. อถ โข เอวเมตฺถ ตถาคตสฺส โหติ – ‘เย โข เกจิ โลกมฺหา นียึสุ วา นียนฺติ วา นียิสฺสนฺติ วา, สพฺเพ เต ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สุปฺปติฏฺิตจิตฺตา, สตฺต โพชฺฌงฺเค ยถาภูตํ ภาเวตฺวา. เอวเมเต [เอวเมเตน (ก.)] โลกมฺหา นียึสุ วา นียนฺติ วา นียิสฺสนฺติ วา’ติ. ยเทว โข ตฺวํ [ยเทว ขฺเวตฺถ (ก.)], อาวุโส อุตฺติย, ภควนฺตํ ปฺหํ [อิมํ ปฺหํ (สฺยา. ก.)] อปุจฺฉิ ตเทเวตํ ปฺหํ ภควนฺตํ อฺเน ปริยาเยน อปุจฺฉิ. ตสฺมา เต ตํ ภควา น พฺยากาสี’’ติ. ปฺจมํ.
๖. โกกนุทสุตฺตํ
๙๖. ‘‘เอกํ ¶ ¶ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห วิหรติ ตโปทาราเม. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ตโปทา เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ. ตโปทาย [ตโปเท (ก.)] คตฺตานิ ปริสิฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโน ¶ . โกกนุโทปิ โข ปริพฺพาชโก รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺาย เยน ตโปทา เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิฺจิตุํ.
อทฺทสา โข โกกนุโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กฺเวตฺถ [โก เตตฺถ (สี.), กฺวตฺถ (ปี. ก.)], อาวุโส’’ติ? ‘‘อหมาวุโส, ภิกฺขู’’ติ.
‘‘กตเมสํ, อาวุโส, ภิกฺขูน’’นฺติ? ‘‘สมณานํ, อาวุโส, สกฺยปุตฺติยาน’’นฺติ.
‘‘ปุจฺเฉยฺยาม มยํ อายสฺมนฺตํ กิฺจิเทว เทสํ, สเจ อายสฺมา โอกาสํ กโรติ ปฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉาวุโส, สุตฺวา เวทิสฺสามา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, โภ, ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ [เอวํทิฏฺิโก (สฺยา.)] ภว’’นฺติ ¶ ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘กึ ปน, โภ, ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’’นฺติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘กึ นุ โข, โภ, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ¶ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’’นฺติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’’นฺติ.
‘‘เตน ¶ หิ ภวํ น ชานาติ, น ปสฺสตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, น ชานามิ น ปสฺสามิ. ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี’’ติ ¶ .
‘‘‘กึ นุ โข, โภ, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.
‘‘‘กึ ปน, โภ, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภว’นฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺิ – อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.
‘‘กึ นุ โข, โภ, อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺนฺติ – เอวํทิฏฺิ ภวนฺติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส ¶ , เอวํทิฏฺิ – เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ วเทสิ.
‘‘‘เตน หิ ภวํ น ชานาติ น ปสฺสตี’ติ, อิติ ปุฏฺโ สมาโน – ‘น โข อหํ, อาวุโส, น ชานามิ น ปสฺสามิ. ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี’ติ วเทสิ. ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ?
‘‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ โข, อาวุโส, ทิฏฺิคตเมตํ. ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ โข, อาวุโส, ทิฏฺิคตเมตํ. อนฺตวา โลโก…เป… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ¶ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’นฺติ ¶ โข, อาวุโส, ทิฏฺิคตเมตํ.
‘‘ยาวตา ¶ , อาวุโส, ทิฏฺิ [ทิฏฺิคตา (สพฺพตฺถ)] ยาวตา ทิฏฺิฏฺานํ ทิฏฺิอธิฏฺานํ ทิฏฺิปริยุฏฺานํ ทิฏฺิสมุฏฺานํ ทิฏฺิสมุคฺฆาโต [ยาวตา ทิฏฺิฏฺาน อธิฏฺาน ปริยุฏฺาน สมุฏฺาน สมุคฺฆาโต (สี. ปี.)], ตมหํ ชานามิ ตมหํ ปสฺสามิ. ตมหํ ชานนฺโต ตมหํ ปสฺสนฺโต กฺยาหํ วกฺขามิ – ‘น ชานามิ น ปสฺสามี’ติ? ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี’’ติ.
‘‘โก นาโม อายสฺมา, กถฺจ ปนายสฺมนฺตํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺตี’’ติ? ‘‘‘อานนฺโท’ติ โข เม, อาวุโส, นามํ. ‘อานนฺโท’ติ จ ปน มํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺตี’’ติ. ‘‘มหาจริเยน วต กิร, โภ, สทฺธึ มนฺตยมานา น ชานิมฺห – ‘อายสฺมา อานนฺโท’ติ. สเจ หิ มยํ ชาเนยฺยาม – ‘อยํ อายสฺมา อานนฺโท’ติ, เอตฺตกมฺปิ โน นปฺปฏิภาเยยฺย [นปฺปฏิภาเสยฺยาม (ก.) นปฺปฏิภาเสยฺย (พหูสุ) ม. นิ. ๓.๒๑๖ ปสฺสิตพฺพํ]. ขมตุ จ เม อายสฺมา อานนฺโท’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. อาหุเนยฺยสุตฺตํ
๙๗. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
‘‘กตเมหิ ¶ ทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ ¶ .
‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย. เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ ¶ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา.
‘‘กลฺยาณมิตฺโต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวงฺโก.
‘‘สมฺมาทิฏฺิโก โหติ สมฺมาทสฺสเนน สมนฺนาคโต.
‘‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ; พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ¶ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ [ปริมสติ (สี.)] ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.
‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ.
‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ. สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ; สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.
‘‘อเนกวิหิตํ ¶ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ¶ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ¶ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ; ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.
‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ – ‘อิเม วต โข โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน ¶ สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.
‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ¶ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ. สตฺตมํ.
๘. เถรสุตฺตํ
๙๘. ‘‘ทสหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต เถโร ภิกฺขุ ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, ผาสุเยว วิหรติ. กตเมหิ ทสหิ? เถโร โหติ รตฺตฺู จิรปพฺพชิโต, สีลวา โหติ ¶ …เป… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, พหุสฺสุโต โหติ…เป… ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺโธ, อุภยานิ โข ปนสฺส ปาติโมกฺขานิ วิตฺถาเรน สฺวาคตานิ โหนฺติ สุวิภตฺตานิ สุปฺปวตฺตีนิ สุวินิจฺฉิตานิ สุตฺตโส อนุพฺยฺชนโส, อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโล โหติ, ธมฺมกาโม โหติ ปิยสมุทาหาโร อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺโช, สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตรจีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรน, ปาสาทิโก โหติ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺเต [อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺโต (ก.)] สุสํวุโต อนฺตรฆเร นิสชฺชาย, จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, อาสวานฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเมหิ ¶ โข, ภิกฺขเว, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ¶ เถโร ภิกฺขุ ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, ผาสุเยว วิหรตี’’ติ. อฏฺมํ.
๙. อุปาลิสุตฺตํ
๙๙. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ¶ . เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิตุ’’นฺติ.
‘‘ทุรภิสมฺภวานิ หิ โข [ทุรภิสมฺภวานิ โข (สี. ปี.)], อุปาลิ, อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ. ทุกฺกรํ ปวิเวกํ ทุรภิรมํ. เอกตฺเต หรนฺติ มฺเ มโน วนานิ สมาธึ อลภมานสฺส ภิกฺขุโน. โย โข, อุปาลิ, เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ สมาธึ อลภมาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิสฺสามี’ติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘สํสีทิสฺสติ วา อุปฺลวิสฺสติ วา’ติ [อุปฺปิลวิสฺสติ วา (สี. สฺยา. ปี.)].
‘‘เสยฺยถาปิ, อุปาลิ, มหาอุทกรหโท. อถ อาคจฺเฉยฺย หตฺถินาโค สตฺตรตโน วา อฑฺฒฏฺรตโน [อฏฺรตโน (สี. ปี.)] วา. ตสฺส เอวมสฺส – ‘ยํนูนาหํ อิมํ อุทกรหทํ โอคาเหตฺวา กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ. กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา นฺหตฺวา [นหาตฺวา (สี. ปี.), นฺหาตฺวา (สฺยา.)] จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน กามํ ปกฺกเมยฺย’นฺติ. โส ตํ อุทกรหทํ โอคาเหตฺวา กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺย ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺย; กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ¶ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน กามํ ปกฺกเมยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? มหา, อุปาลิ [มหา หุปาลิ (สี. ปี.)], อตฺตภาโว คมฺภีเร คาธํ วินฺทติ.
‘‘อถ อาคจฺเฉยฺย สโส วา พิฬาโร วา. ตสฺส เอวมสฺส – ‘โก ¶ จาหํ, โก จ หตฺถินาโค! ยํนูนาหํ อิมํ อุทกรหทํ โอคาเหตฺวา กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีเฬยฺยํ ¶ ; กณฺณสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา ปิฏฺิสํโธวิกมฺปิ ขิฑฺฑํ กีฬิตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา เยน กามํ ปกฺกเมยฺย’นฺติ. โส ตํ อุทกรหทํ สหสา อปฺปฏิสงฺขา ปกฺขนฺเทยฺย. ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘สํสีทิสฺสติ วา อุปฺลวิสฺสติ วา’ติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตุ? ปริตฺโต, อุปาลิ, อตฺตภาโว คมฺภีเร คาธํ น วินฺทติ. เอวเมวํ โข, อุปาลิ, โย เอวํ วเทยฺย – ‘อหํ สมาธึ อลภมาโน อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวิสฺสามี’ติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘สํสีทิสฺสติ วา อุปฺลวิสฺสติ วา’ติ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อุปาลิ, ทหโร กุมาโร มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก สเกน มุตฺตกรีเสน กีฬติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, นนฺวายํ เกวลา ปริปูรา พาลขิฑฺฑา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ส โข โส, อุปาลิ, กุมาโร อปเรน สมเยน วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ยานิ กานิจิ กุมารกานํ กีฬาปนกานิ ภวนฺติ, เสยฺยถิทํ – วงฺกกํ [วงฺกํ (สี. ปี.)] ฆฏิกํ โมกฺขจิกํ จิงฺคุลกํ [ปิงฺคุลิกํ (สฺยา.), จิงฺกุลกํ (ก.)] ปตฺตาฬฺหกํ รถกํ ธนุกํ, เตหิ กีฬติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, นนฺวายํ ขิฑฺฑา ปุริมาย ขิฑฺฑาย อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘ส โข โส, อุปาลิ, กุมาโร อปเรน สมเยน วุทฺธิมนฺวาย อินฺทฺริยานํ ปริปากมนฺวาย ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจาเรติ จกฺขุวิฺเยฺเยหิ รูเปหิ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ ¶ รชนีเยหิ, โสตวิฺเยฺเยหิ สทฺเทหิ… ฆานวิฺเยฺเยหิ คนฺเธหิ… ชิวฺหาวิฺเยฺเยหิ รเสหิ… กายวิฺเยฺเยหิ โผฏฺพฺเพหิ ¶ อิฏฺเหิ กนฺเตหิ มนาเปหิ ปิยรูเปหิ กามูปสํหิเตหิ รชนีเยหิ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, นนฺวายํ ขิฑฺฑา ปุริมาหิ ขิฑฺฑาหิ อภิกฺกนฺตตรา จ ปณีตตรา จา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
[ที. นิ. ๑.๑๙๐; ม. นิ. ๒.๒๓๓] ‘‘อิธ ¶ โข ปน โว [โวติ นิปาตมตฺตํ (อฏฺ.)], อุปาลิ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา. โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณึ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติ. โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ.
‘‘ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต. โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ. โส ¶ เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา. นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ. ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ.
‘‘โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ ¶ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.
‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.
‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี; อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติ.
‘‘อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี ¶ วิรโต เมถุนา คามธมฺมา.
‘‘มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสนฺโธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺส.
‘‘ปิสุณํ ¶ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทาย. อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา, สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที; สมคฺคกรณึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต โหติ. ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา โหติ.
‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที, นิธานวตึ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวตึ อตฺถสํหิตํ.
‘‘โส ¶ พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ. เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต, วิรโต วิกาลโภชนา. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต โหติ, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺานา ปฏิวิรโต โหติ, อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฏิวิรโต โหติ ¶ , ชาตรูปรชตปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกธฺปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อามกมํสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อิตฺถิกุมาริกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทาสิทาสปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, อเชฬกปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, กุกฺกุฏสูกรปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, หตฺถิควสฺสวฬวปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, เขตฺตวตฺถุปฏิคฺคหณา ปฏิวิรโต โหติ, ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฏิวิรโต โหติ, กยวิกฺกยา ปฏิวิรโต โหติ, ตุลากูฏกํสกูฏมานกูฏา ปฏิวิรโต โหติ ¶ , อุกฺโกฏนวฺจนนิกติสาจิโยคา ปฏิวิรโต โหติ, เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฏิวิรโต โหติ.
‘‘โส สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน. เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ, เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติ. เอวเมวํ ภิกฺขุ สนฺตุฏฺโ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ¶ ปิณฺฑปาเตน. เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ. โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
‘‘โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี. ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิฺาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหี ¶ . ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฏิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ. โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฏิสํเวเทติ.
‘‘โส ¶ อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม สมฺปชานการี โหติ, คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติ.
‘‘โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน ¶ อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต, อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชฺเ สมนฺนาคโต วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ. โส อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา.
‘‘โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ. พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ. ถินมิทฺธํ ปหาย วิคตถินมิทฺโธ วิหรติ อาโลกสฺี สโต ¶ สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต ¶ , อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ. วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิจฺโฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติ.
‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปฺาย ทุพฺพลีกรเณ, วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ¶ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ ¶ .
‘‘ปุน ¶ จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ…เป….
ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิมมฺปิ ¶ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป….
‘‘สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ…เป….
‘‘สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม ‘สนฺตเมตํ ปณีตเมต’นฺติ ¶ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิมมฺปิ ¶ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ ¶ , โน จ โข ตาว อนุปฺปตฺตสทตฺถา วิหรนฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, อุปาลิ, ภิกฺขุ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. ตํ กึ มฺสิ, อุปาลิ, ‘นนฺวายํ วิหาโร ปุริเมหิ วิหาเรหิ อภิกฺกนฺตตโร จ ปณีตตโร จา’’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’.
‘‘อิมมฺปิ โข, อุปาลิ, มม สาวกา อตฺตนิ ธมฺมํ สมฺปสฺสมานา อรฺวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวนฺติ, อนุปฺปตฺตสทตฺถา จ วิหรนฺติ. อิงฺฆ ตฺวํ, อุปาลิ, สงฺเฆ วิหราหิ. สงฺเฆ เต วิหรโต ผาสุ ภวิสฺสตี’’ติ. นวมํ.
๑๐. อภพฺพสุตฺตํ
๑๐๐. ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ทส? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มานํ – อิเม โข ภิกฺขเว, ทส ธมฺเม อปฺปหาย อภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ.
‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุํ. กตเม ทส? ราคํ, โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปฬาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มานํ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ทส ธมฺเม ปหาย ภพฺโพ อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ. ทสมํ.
อุปาลิวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
กามโภคี ¶ ภยํ ทิฏฺิ, วชฺชิยมาหิตุตฺติยา;
โกกนุโท อาหุเนยฺโย, เถโร อุปาลิ อภพฺโพติ.
ทุติยปณฺณาสกํ สมตฺตํ.
๓. ตติยปณฺณาสกํ