📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
องฺคุตฺตรนิกาโย
เอกาทสกนิปาตปาฬิ
๑. นิสฺสยวคฺโค
๑. กิมตฺถิยสุตฺตํ
๑. [อ. นิ. ๑๐.๑] เอวํ ¶ ¶ เม สุตํ – เอกํ ¶ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิมตฺถิยานิ, ภนฺเต, กุสลานิ สีลานิ กิมานิสํสานี’’ติ? ‘‘อวิปฺปฏิสารตฺถานิ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานี’’ติ.
‘‘อวิปฺปฏิสาโร ¶ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’? ‘‘อวิปฺปฏิสาโร โข, อานนฺท, ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส’’.
‘‘ปาโมชฺชํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํสํ’’? ‘‘ปาโมชฺชํ โข, อานนฺท, ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ’’.
‘‘ปีติ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’? ‘‘ปีติ โข, อานนฺท, ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา’’.
‘‘ปสฺสทฺธิ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’? ‘‘ปสฺสทฺธิ โข, อานนฺท, สุขตฺถา สุขานิสํสา’’.
‘‘สุขํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํสํ’’? ‘‘สุขํ โข, อานนฺท, สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ’’.
‘‘สมาธิ ¶ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’? ‘‘สมาธิ โข, อานนฺท, ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส’’ ¶ .
‘‘ยถาภูตาณทสฺสนํ ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยํ กิมานิสํสํ’’? ‘‘ยถาภูตาณทสฺสนํ โข, อานนฺท, นิพฺพิทตฺถํ นิพฺพิทานิสํสํ’’.
‘‘นิพฺพิทา, ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิยา กิมานิสํสา’’? ‘‘นิพฺพิทา โข, อานนฺท, วิราคตฺถา วิราคานิสํสา ¶ ’’.
‘‘วิราโค ปน, ภนฺเต, กิมตฺถิโย กิมานิสํโส’’? ‘‘วิราโค โข, อานนฺท, วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส.
‘‘อิติ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ, อวิปฺปฏิสาโร ¶ ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา, สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถํ นิพฺพิทานิสํสํ, นิพฺพิทา วิราคตฺถา วิราคานิสํสา, วิราโค วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส. อิติ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ อนุปุพฺเพน อคฺคาย ปเรนฺตี’’ติ. ปมํ.
๒. เจตนากรณียสุตฺตํ
๒. [อ. นิ. ๑๐.๒] ‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส น เจตนาย กรณียํ – ‘อวิปฺปฏิสาโร เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อวิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ.
‘‘อวิปฺปฏิสาริสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปาโมชฺชํ เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ อวิปฺปฏิสาริสฺส ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ.
‘‘ปมุทิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปีติ เม อุปฺปชฺชตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปมุทิตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘ปีติมนสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘กาโย เม ¶ ปสฺสมฺภตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ.
‘‘ปสฺสทฺธกายสฺส ¶ , ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘สุขํ เวทิยามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ.
‘‘สุขิโน, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘จิตฺตํ เม สมาธิยตู’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ.
‘‘สมาหิตสฺส ¶ , ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ยถาภูตํ ชานามิ ปสฺสามี’ติ. ธมฺมตา เอสา ¶ , ภิกฺขเว, ยํ สมาหิโต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ.
‘‘ยถาภูตํ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต น เจตนาย กรณียํ – ‘นิพฺพินฺทามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ.
‘‘นิพฺพินฺนสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘วิรชฺชามี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ นิพฺพินฺโน วิรชฺชติ.
‘‘วิรตฺตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘วิมุตฺติาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรมี’ติ. ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ วิรตฺโต วิมุตฺติาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, วิราโค วิมุตฺติาณทสฺสนตฺโถ วิมุตฺติาณทสฺสนานิสํโส, นิพฺพิทา วิราคตฺถา วิราคานิสํสา, ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทตฺถํ นิพฺพิทานิสํสํ, สมาธิ ยถาภูตาณทสฺสนตฺโถ ยถาภูตาณทสฺสนานิสํโส, สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ, ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา, ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา, ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ, อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺโถ ปาโมชฺชานิสํโส, กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฏิสารตฺถานิ อวิปฺปฏิสารานิสํสานิ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมา ธมฺเม ¶ อภิสนฺเทนฺติ, ธมฺมา ธมฺเม ปริปูเรนฺติ อปารา ปารํ คมนายา’’ติ. ทุติยํ.
๓. ปมอุปนิสาสุตฺตํ
๓. [อ. นิ. ๕.๒๔; ๑๐.๓] ‘‘ทุสฺสีลสฺส, ภิกฺขเว, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร. อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ. ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ. ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ. ปสฺสทฺธิยา อสติ ¶ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ ¶ โหติ สุขํ. สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ. สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ. ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิสา ¶ โหติ นิพฺพิทา. นิพฺพิทาย อสติ นิพฺพิทาวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ วิราโค. วิราเค อสติ วิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ, ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ, สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน ¶ โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย สติ นิพฺพิทาสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ วิราโค, วิราเค สติ วิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ตติยํ.
๔. ทุติยอุปนิสาสุตฺตํ
๔. ตตฺร ¶ ¶ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติ [ภิกฺขโวติ (สี. สฺยา. ปี.) เอวํ สพฺพตฺถ อ. นิ. ๑๐.๔]. ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํ. อายสฺมา สาริปุตฺโต เอตทโวจ –
‘‘ทุสฺสีลสฺส ¶ , อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ, ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ, สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ นิพฺพิทา ¶ , นิพฺพิทาย อสติ นิพฺพิทาวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ วิราโค, วิราเค อสติ วิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ, ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ, สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย สติ นิพฺพิทาสมฺปนฺนสฺส ¶ ¶ อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ วิราโค, วิราเค สติ วิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร ¶ สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. จตุตฺถํ.
๕. ตติยอุปนิสาสุตฺตํ
๕. [อ. นิ. ๑๐.๕] ตตฺร ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท ภิกฺขู อามนฺเตสิ…เป… ‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช อสติ ปาโมชฺชวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปีติ, ปีติยา อสติ ปีติวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา อสติ ปสฺสทฺธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ สุขํ, สุเข อสติ สุขวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิสา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย อสติ นิพฺพิทาวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ วิราโค, วิราเค อสติ วิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร อสติ อวิปฺปฏิสารวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ, ปาโมชฺเช สติ ปาโมชฺชสมฺปนฺนสฺส ¶ อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ ปีติ, ปีติยา สติ ปีติสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา ¶ โหติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ ปสฺสทฺธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ สุขํ, สุเข สติ สุขสมฺปนฺนสฺส ¶ อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ, สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตาณทสฺสนํ, ยถาภูตาณทสฺสเน สติ ยถาภูตาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนา โหติ นิพฺพิทา, นิพฺพิทาย สติ นิพฺพิทาสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ วิราโค, วิราเค สติ วิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ.
‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโน. ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ ¶ , ตโจปิ… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูรึ คจฺฉติ. เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ อวิปฺปฏิสาโร, อวิปฺปฏิสาเร สติ อวิปฺปฏิสารสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ปาโมชฺชํ…เป… วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ. ปฺจมํ.
๖. พฺยสนสุตฺตํ
๖. ‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, านเมตํ อวกาโส ยํ โส เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺย.
กตเมสํ เอกาทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ, อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ ¶ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ วา, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ – โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, านเมตํ อวกาโส ยํ โส อิเมสํ เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ นิคจฺเฉยฺย. [( ) เอตฺถนฺตเร ปาโ สี. สฺยา. กํ. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ]
‘‘โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ น นิคจฺเฉยฺย.
กตเมสํ ¶ เอกาทสนฺนํ? อนธิคตํ นาธิคจฺฉติ, อธิคตา ปริหายติ, สทฺธมฺมสฺส น โวทายนฺติ, สทฺธมฺเมสุ วา อธิมานิโก โหติ, อนภิรโต วา พฺรหฺมจริยํ จรติ, อฺตรํ วา สํกิลิฏฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺตติ, คาฬฺหํ วา โรคาตงฺกํ ผุสติ, อุมฺมาทํ วา ปาปุณาติ จิตฺตกฺเขปํ วา, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ ¶ นิรยํ อุปปชฺชติ – โย โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อกฺโกสโก ปริภาสโก อริยูปวาโท สพฺรหฺมจารีนํ, อฏฺานเมตํ อนวกาโส ยํ โส อิเมสํ เอกาทสนฺนํ พฺยสนานํ อฺตรํ พฺยสนํ น นิคจฺเฉยฺยา’’ติ. ฉฏฺํ.
๗. สฺาสุตฺตํ
๗. อถ ¶ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สิยา นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสาติ?
‘‘สิยา, อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี ¶ อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส ¶ , น ปรโลเก ปรโลกสฺี ¶ อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส; สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.
‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี ¶ อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสาติ.
‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส, น อาปสฺมึ อาโปสฺี อสฺส, น เตชสฺมึ เตโชสฺี อสฺส, น วายสฺมึ วาโยสฺี อสฺส, น อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺี อสฺส, น วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺี ¶ อสฺส, น อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺี อสฺส, น เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺี อสฺส, น อิธโลเก อิธโลกสฺี อสฺส, น ปรโลเก ปรโลกสฺี อสฺส, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ ¶ กตฺวา เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธึ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สิยา ¶ นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี ปน อสฺสาติ. ‘‘สิยา, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.
‘‘ยถา กถํ ปนาวุโส สาริปุตฺต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ¶ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส ¶ , สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ?
‘‘อิธ, อาวุโส อานนฺท, ภิกฺขุ เอวํสฺี โหติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อาวุโส อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา เนว ปถวิยํ ปถวิสฺี อสฺส…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ น สฺี อสฺส, สฺี จ ปน อสฺสา’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส! ยตฺร หิ นาม สตฺถุ เจว สาวกสฺส จ อตฺเถน อตฺโถ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ สเมสฺสติ น วิคฺคยฺหิสฺสติ, ยทิทํ อคฺคปทสฺมึ! อิทานาหํ, อาวุโส, ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ¶ เอตมตฺถํ อปุจฺฉึ. ภควาปิ เม เอเตหิ อกฺขเรหิ เอเตหิ ปเทหิ เอเตหิ พฺยฺชเนหิ เอตมตฺถํ พฺยากาสิ, เสยฺยถาปิ อายสฺมา สาริปุตฺโต. อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยตฺร หิ นาม สตฺถุ เจว สาวกสฺส จ อตฺเถน อตฺโถ พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ สเมสฺสติ น วิคฺคยฺหิสฺสติ, ยทิทํ อคฺคปทสฺมิ’’นฺติ! สตฺตมํ.
๘. มนสิการสุตฺตํ
๘. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘สิยา ¶ นุ โข, ภนฺเต, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย, น โสตํ มนสิ กเรยฺย, น สทฺทํ มนสิ กเรยฺย, น ¶ ฆานํ มนสิ กเรยฺย, น คนฺธํ มนสิ กเรยฺย, น ชิวฺหํ มนสิ กเรยฺย, น รสํ มนสิ กเรยฺย, น กายํ มนสิ กเรยฺย, น โผฏฺพฺพํ มนสิ กเรยฺย, น ปถวึ มนสิ กเรยฺย, น อาปํ มนสิ กเรยฺย, น เตชํ มนสิ กเรยฺย, น วายํ มนสิ กเรยฺย, น อากาสานฺจายตนํ มนสิ ¶ กเรยฺย, น วิฺาณฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อากิฺจฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น เนวสฺานาสฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อิธโลกํ มนสิ กเรยฺย, น ปรโลกํ มนสิ กเรยฺย, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ?
‘‘สิยา, อานนฺท, ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย, น โสตํ มนสิ กเรยฺย, น สทฺทํ มนสิ กเรยฺย, น ฆานํ มนสิ กเรยฺย, น คนฺธํ มนสิ กเรยฺย, น ชิวฺหํ มนสิ กเรยฺย, น รสํ มนสิ กเรยฺย, น กายํ มนสิ กเรยฺย, น โผฏฺพฺพํ มนสิ กเรยฺย, น ปถวึ มนสิ กเรยฺย, น อาปํ มนสิ กเรยฺย, น เตชํ มนสิ ¶ กเรยฺย, น วายํ มนสิ กเรยฺย, น อากาสานฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น วิฺาณฺจายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อากิฺจฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น เนวสฺานาสฺายตนํ มนสิ กเรยฺย, น อิธโลกํ มนสิ กเรยฺย, น ปรโลกํ มนสิ กเรยฺย, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ.
‘‘ยถา กถํ ปน, ภนฺเต, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ ¶ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ?
‘‘อิธานนฺท, ภิกฺขุ เอวํ มนสิ กโรติ – ‘เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. เอวํ โข, อานนฺท, สิยา ภิกฺขุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ ยถา น จกฺขุํ มนสิ กเรยฺย, น รูปํ มนสิ กเรยฺย…เป… ยมฺปิทํ ¶ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ น มนสิ กเรยฺย; มนสิ จ ปน กเรยฺยา’’ติ. อฏฺมํ.
๙. สทฺธสุตฺตํ
๙. เอกํ สมยํ ภควา นาติเก วิหรติ คิฺชกาวสเถ ¶ . อถ โข อายสฺมา สทฺโธ เยน ¶ ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ สทฺธํ ภควา เอตทโวจ –
‘‘อาชานียฌายิตํ โข, สทฺธ, ฌาย; มา ขฬุงฺกฌายิตํ [อาชานียชฺฌายิตํ โข สทฺธ ฌายถ, มา ขฬุงฺกชฺฌายิตํ (สี. ปี.)]. กถฺจ, ขฬุงฺกฌายิตํ โหติ? อสฺสขฬุงฺโก หิ ¶ , สทฺธ, โทณิยา พทฺโธ [พนฺโธ (สฺยา. ก.)] ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ, สทฺธ, อสฺสขฬุงฺกสฺส โทณิยา พทฺธสฺส เอวํ โหติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ [กมฺมสฺสาหํ (ก.)] ปฏิกโรมี’ติ. โส โทณิยา พทฺโธ ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. เอวเมวํ โข, สทฺธ, อิเธกจฺโจ ปุริสขฬุงฺโก อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โส กามราคํเยว อนฺตรํ กตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อวชฺฌายติ, พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. โส วิจิกิจฺฉํเยว อนฺตรํ กตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ ¶ อวชฺฌายติ. โส ปถวิมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อาปมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, เตชมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, วายมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อากาสานฺจายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, วิฺาณฺจายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อากิฺจฺายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, เนวสฺานาสฺายตนมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, อิธโลกมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, ปรโลกมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย ฌายติ. เอวํ โข, สทฺธ, ปุริสขฬุงฺกฌายิตํ โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , สทฺธ ¶ , อาชานียฌายิตํ โหติ? ภทฺโร หิ, สทฺธ, อสฺสาชานีโย โทณิยา พทฺโธ น ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ภทฺรสฺส หิ, สทฺธ, อสฺสาชานียสฺส โทณิยา พทฺธสฺส เอวํ โหติ – ‘กึ นุ โข มํ อชฺช อสฺสทมฺมสารถิ การณํ กาเรสฺสติ, กิมสฺสาหํ ปฏิกโรมี’ติ. โส โทณิยา พทฺโธ น ‘ยวสํ ยวส’นฺติ ฌายติ. ภทฺโร หิ, สทฺธ, อสฺสาชานีโย ยถา อิณํ ยถา พนฺธํ ยถา ชานึ ยถา กลึ เอวํ ปโตทสฺส อชฺโฌหรณํ สมนุปสฺสติ. เอวเมวํ โข, สทฺธ, ภทฺโร ปุริสาชานีโย อรฺคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สฺุาคารคโตปิ น กามราคปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส ¶ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ, น พฺยาปาทปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… น ถินมิทฺธปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… น อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ… น วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺิเตน เจตสา วิหรติ น วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. โส เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ, น อาปํ นิสฺสาย ฌายติ, น เตชํ นิสฺสาย ฌายติ, น วายํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากาสานฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น วิฺาณฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากิฺจฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น เนวสฺานาสฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อิธโลกํ ¶ นิสฺสาย ฌายติ, น ปรโลกํ นิสฺสาย ฌายติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ; ฌายติ จ ปน. เอวํ ¶ ฌายิฺจ ปน, สทฺธ, ภทฺรํ ปุริสาชานียํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อารกาว นมสฺสนฺติ –
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ.
เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สทฺโธ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กถํ ฌายี ปน, ภนฺเต, ภทฺโร ปุริสาชานีโย [ปุริสาชานีโย ฌายติ, โส (สี. สฺยา. ปี.), ปุริสาชานีโย, โส (ก.)] เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ, น อาปํ นิสฺสาย ฌายติ, น เตชํ นิสฺสาย ฌายติ, น วายํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากาสานฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น วิฺาณฺจายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อากิฺจฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น เนวสฺานาสฺายตนํ นิสฺสาย ฌายติ, น อิธโลกํ นิสฺสาย ฌายติ ¶ , น ปรโลกํ นิสฺสาย ฌายติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ; ฌายติ จ ปน? กถํ ฌายิฺจ ปน, ภนฺเต, ภทฺรํ ปุริสาชานียํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อารกาว นมสฺสนฺติ –
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ.
‘‘อิธ, สทฺธ, ภทฺรสฺส ปุริสาชานียสฺส ปถวิยํ ปถวิสฺา วิภูตา โหติ, อาปสฺมึ อาโปสฺา ¶ วิภูตา โหติ, เตชสฺมึ เตโชสฺา วิภูตา โหติ, วายสฺมึ วาโยสฺา วิภูตา โหติ, อากาสานฺจายตเน อากาสานฺจายตนสฺา ¶ วิภูตา โหติ, วิฺาณฺจายตเน วิฺาณฺจายตนสฺา วิภูตา ¶ โหติ, อากิฺจฺายตเน อากิฺจฺายตนสฺา วิภูตา โหติ, เนวสฺานาสฺายตเน เนวสฺานาสฺายตนสฺา วิภูตา โหติ, อิธโลเก อิธโลกสฺา วิภูตา โหติ, ปรโลเก ปรโลกสฺา วิภูตา โหติ, ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตตฺราปิ สฺา วิภูตา โหติ. เอวํ ฌายี โข, สทฺธ, ภทฺโร ปุริสาชานีโย เนว ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ…เป… ยมฺปิทํ ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ; ฌายติ จ ปน. เอวํ ฌายิฺจ ปน, สทฺธ, ภทฺรํ ปุริสาชานียํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อารกาว นมสฺสนฺติ –
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต นาภิชานาม, ยมฺปิ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ. นวมํ;
๑๐. โมรนิวาปสุตฺตํ
๑๐. เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ โมรนิวาเป ปริพฺพาชการาเม. ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติ. ‘‘ภทนฺเต’’ติ ¶ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ. ภควา เอตทโวจ –
‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ตีหิ? อเสเขน สีลกฺขนฺเธน, อเสเขน สมาธิกฺขนฺเธน ¶ , อเสเขน ปฺากฺขนฺเธน – อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ.
‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ตีหิ ¶ ? อิทฺธิปาฏิหาริเยน, อาเทสนาปาฏิหาริเยน, อนุสาสนีปาฏิหาริเยน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ ¶ โหติ, อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ.
‘‘อปเรหิปิ, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ตีหิ? สมฺมาทิฏฺิยา, สมฺมาาเณน, สมฺมาวิมุตฺติยา – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ.
‘‘ทฺวีหิ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. กตเมหิ ทฺวีหิ? วิชฺชาย, จรเณน – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ทฺวีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อจฺจนฺตนิฏฺโ โหติ อจฺจนฺตโยคกฺเขมี อจฺจนฺตพฺรหฺมจารี อจฺจนฺตปริโยสาโน เสฏฺโ เทวมนุสฺสานํ. พฺรหฺมุนา เปสา, ภิกฺขเว, สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา –
‘‘ขตฺติโย เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’’ติ [ที. นิ. ๑.๒๗๗; สํ. นิ. ๑.๑๘๒; ๒.๒๔๕].
‘‘สา โข ปเนสา, ภิกฺขเว, สนงฺกุมาเรน คาถา ภาสิตา สุภาสิตา, โน ทุพฺภาสิตา; อตฺถสํหิตา ¶ , โน อนตฺถสํหิตา; อนุมตา มยา. อหมฺปิ, ภิกฺขเว, เอวํ วทามิ –
‘‘ขตฺติโย ¶ เสฏฺโ ชเนตสฺมึ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโ เทวมานุเส’’ติ. ทสมํ;
นิสฺสยวคฺโค [นิสฺสายวคฺโค (สฺยา. กํ.)] ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
กิมตฺถิยา ¶ เจตนา ตโย, อุปนิสา พฺยสเนน จ;
ทฺเว สฺา มนสิกาโร, สทฺโธ โมรนิวาปกนฺติ.