📜
๒. นาถวคฺโค
๑-๔. เสนาสนสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑-๑๔. ทุติยสฺส ปเม นาติทูรนฺติ โคจรฏฺานโต อฑฺฒคาวุตโต โอรภาคตาย นาติทูรํ. นาจฺจาสนฺนนฺติ ปจฺฉิเมน ปมาเณน โคจรฏฺานโต ปฺจธนุสติกตาย น อติอาสนฺนํ. ตาย จ ปน นาติทูรนาจฺจาสนฺนตาย โคจรฏฺานปฏิปริสฺสยาทิรหิตมคฺคตาย จ คมนสฺส จ อาคมนสฺส จ ยุตฺตรูปตฺตา คมนาคมนสมฺปนฺนํ. ทิวสภาเค มหาชนสํกิณฺณตาภาเวน ทิวา อปฺปากิณฺณํ. อภาวตฺโถ หิ อยํ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีสุ วิย. รตฺติยํ มนุสฺสสทฺทาภาเวน รตฺตึ อปฺปสทฺทํ. สพฺพทาปิ ชนสนฺนิปาตนิคฺโฆสาภาเวน อปฺปนิคฺโฆสํ.
อปฺปกสิเรนาติ ¶ อกสิเรน สุเขเนว. สีลาทิคุณานํ ถิรภาวปฺปตฺติยา เถรา. สุตฺตเคยฺยาทิ พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. ตมุคฺคหธารเณน สมฺมเทว ครูนํ สนฺติเก อาคมิตภาเวน จ อาคโต ปริยตฺติธมฺมสงฺขาโต อาคโม เอเตสนฺติ อาคตาคมา. สุตฺตาภิธมฺมสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺส ธารเณน ธมฺมธรา. วินยสฺส ธารเณน วินยธรา. เตสํ ธมฺมวินยานํ มาติกาย ธารเณน มาติกาธรา. ตตฺถ ตตฺถ ธมฺมปริปุจฺฉาย ปริปุจฺฉติ. อตฺถปริปุจฺฉาย ปริปฺหติ วีมํสติ วิจาเรติ. อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถติ ปริปุจฺฉาปริปฺหาการทสฺสนํ. อวิวฏฺเจว ปาฬิยา อตฺถํ ปเทสนฺตรปาฬิทสฺสเนน อาคมโต วิวรนฺติ. อนุตฺตานีกตฺจ ยุตฺติวิภาวเนน อุตฺตานึ กโรนฺติ. กงฺขาานิเยสุ ธมฺเมสุ สํสยุปฺปตฺติยา เหตุตาย คณฺิฏฺานภูเตสุ ปาฬิปฺปเทเสสุ ยาถาวโต วินิจฺฉยปฺปทาเนน กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ.
เอตฺถ ¶ จ นาติทูรํ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนนฺติ เอกํ องฺคํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺตึ อปฺปสทฺทํ, อปฺปนิคฺโฆสนฺติ เอกํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสนฺติ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส…เป… ปริกฺขาราติ เอกํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา…เป… กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺตีติ เอกํ. เอวํ ปฺจ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ.
เสนาสนสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๖. อปฺปมาทสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๕-๑๖. ปฺจเม การาปกอปฺปมาโท นาม ‘‘อิเม อกุสลา ธมฺมา ปหาตพฺพา, อิเม กุสลา ธมฺมา อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ ตํตํปริวชฺเชตพฺพวชฺชนสมฺปาเทตพฺพสมฺปาทนวเสน ปวตฺโต อปฺปมาโท. เอสาติ อปฺปมาโท. โลกิโยว น โลกุตฺตโร. อยฺจาติ จ เอสาติ จ อปฺปมาทเมว วทติ. เตสนฺติ จาตุภูมกธมฺมานํ. ปฏิลาภกตฺเตนาติ ปฏิลาภาปนกตฺเตน.
ชงฺคลานนฺติ ชงฺคลจารีนํ. ชงฺคล-สทฺโท เจตฺถ ขรภาวสามฺเน ปถวีปริยาโย, น อนุปฏฺานวิทูรเทสวาจี. เตนาห ‘‘ปถวีตลจารีน’’นฺติ. ปทานํ วุจฺจมานตฺตา ‘‘สปาทกปาณาน’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. สโมธานนฺติ อนฺโตคธภาวํ. เตนาห ‘‘โอธานํ ปกฺเขป’’นฺติ. ‘‘อุปกฺเขป’’นฺติปิ ปนฺติ, อุปเนตฺวา ปกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. วสฺสิกาย ปุปฺผํ วสฺสิกํ ยถา ‘‘อามลกิยา ผลํ อามลก’’นฺติ. มหาตลสฺมินฺติ อุปริปาสาเท. ฉฏฺํ อุตฺตานเมว.
อปฺปมาทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. ปมนาถสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๗-๑๘. สตฺตเม ¶ เยหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ธมฺมสรณตาย ธมฺเมเนว นาถติ อาสีสติ อภิภวตีติ นาโถ วุจฺจติ, เต ¶ ตสฺส นาถภาวกรา ธมฺมา นาถกรณาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘อตฺตโน สนาถภาวกรา ปติฏฺกราติ อตฺโถ’’ติ. ตตฺถ อตฺตโน ปติฏฺกราติ ยสฺส นาถภาวกรา, ตสฺส อตฺตโน ปติฏฺาวิธายิโน. อปฺปติฏฺโ อนาโถ, สปฺปติฏฺโ สนาโถติ ปติฏฺตฺโถ นาถ-สทฺโท. กลฺยาณคุณโยคโต กลฺยาณาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺนา’’ติ อาห. มิชฺชนลกฺขณา เมตฺตา เอตสฺส อตฺถีติ มิตฺโต. โส วุตฺตนเยน กลฺยาโณ อสฺส อตฺถีติ ตสฺส อตฺถิตามตฺตํ กลฺยาณมิตฺตปเทน วุตฺตํ. อสฺส เตน สพฺพกาลํ อวิชหิตวาโสติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กลฺยาณสหาโย’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เตวสฺสา’’ติ. เต เอว กลฺยาณมิตฺตา อสฺส ภิกฺขุโน. สห อยนโตติ สห ปวตฺตนโต. อสโมธาเน จิตฺเตน, สโมธาเน ปน จิตฺเตน เจว กาเยน จ สมฺปวงฺโก. สุขํ วโจ เอตสฺมึ อนุกูลคาหิมฺหิ อาทรคารววติ ปุคฺคเลติ สุวโจ. เตนาห ‘‘สุเขน วตฺตพฺโพ’’ติอาทิ. ขโมติ ขนฺโต. ตเมวสฺส ขมภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘คาฬฺเหนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วามโตติ มิจฺฉา, อโยนิโส วา คณฺหาติ. ปฏิปฺผรตีติ ปฏาณิกภาเวน ติฏฺติ. ปทกฺขิณํ คณฺหาตีติ สมฺมา, โยนิโส วา คณฺหาติ.
อุจฺจาวจานีติ วิปุลขุทฺทกานิ. ตตฺรุปคมนิยายาติ ตตฺร ตตฺร มหนฺเต ขุทฺทเก จ กมฺเม สาธนวเสน อุปาเยน อุปคจฺฉนฺติยา, ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส นิปฺผาทเน สมตฺถายาติ อตฺโถ. ตตฺรุปายายาติ วา ตตฺร ตตฺร กมฺเม สาเธตพฺเพ อุปายภูตาย.
ธมฺเม อสฺส กาโมติ ธมฺมกาโมติ พฺยธิกรณานมฺปิ พาหิรตฺโถ สมาโส โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. กาเมตพฺพโต วา ปิยายิตพฺพโต กาโม, ธมฺโม. ธมฺโม กาโม อสฺสาติ ธมฺมกาโม. ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปิยายตีติ อตฺโถ’’ติ. สมุทาหรณํ กถนํ สมุทาหาโร, ปิโย สมุทาหาโร เอตสฺสาติ ปิยสมุทาหาโร. สยฺจาติ เอตฺถ จ-สทฺเทน ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ ปทํ อนุกฑฺฒติ. เตน สยฺจ สกฺกจฺจํ เทเสตุกาโม โหตีติ โยชนา. อภิธมฺโม สตฺต ปกรณานิ ‘‘อธิโก อภิวิสิฏฺโ จ ปริยตฺติธมฺโม’’ติ กตฺวา. วินโย อุภโตวิภงฺคา ¶ วินยนโต กายวาจานํ. อภิวินโย ขนฺธกปริวารา วิเสสโต อาภิสมาจาริกธมฺมกิตฺตนโต. อาภิสมาจาริกธมฺมปาริปูริวเสเนว หิ อาทิพฺรหฺมจริยกธมฺมปาริปูรี. ธมฺโม เอว ปิฏกทฺวยสฺสปิ ปริยตฺติธมฺมภาวโต. มคฺคผลานิ อภิธมฺโม ‘‘นิพฺพานธมฺมสฺส ¶ อภิมุโข’’ติ กตฺวา. กิเลสวูปสมกรณํ ปุพฺพภาคิยา ติสฺโส สิกฺขา สงฺเขปโต วิวฏฺฏนิสฺสิโต สมโถ วิปสฺสนา จ. อุฬารปาโมชฺโชติ พลวปาโมชฺโช. การณตฺเถติ นิมิตฺตตฺเถ. กุสลธมฺมนิมิตฺตํ หิสฺส วีริยารมฺโภ. เตนาห ‘‘เตสํ อธิคมตฺถายา’’ติ. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ วา นิปฺผาเทตพฺเพ ภุมฺมํ ยถา ‘‘เจตโส อวูปสเม อโยนิโสมนสิการปทฏฺาน’’นฺติ. อฏฺเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ปมนาถสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปมอริยาวาสสุตฺตวณฺณนา
๑๙. นวเม อริยานํ เอว อาวาสาติ อริยาวาสา อนริยานํ ตาทิสานํ อสมฺภวโต. อริยาติ เจตฺถ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ขีณาสวา คหิตา. เต จ ยสฺมา เตหิ สพฺพกาลํ อวิชหิตวาสา เอว, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เต อาวสึสุ อาวสนฺติ อาวสิสฺสนฺตี’’ติ. ตตฺถ อาวสึสูติ นิสฺสาย อาวสึสุ. ปฺจงฺควิปฺปหีนตาทโย หิ อริยานํ อปสฺสยา. เตสุ ปฺจงฺควิปฺปหานปจฺเจกสจฺจปโนทนเอสนาโอสฏฺานิ, ‘‘สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, อธิวาเสติ ปริวชฺเชติ วิโนเทตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๒.๑๖๘; อ. นิ. ๑๐.๒๐) วุตฺเตสุ อปสฺเสเนสุ วิโนทนฺจ มคฺคกิจฺจาเนว, อิตเร มคฺเคน จ สมิชฺฌนฺตีติ.
ปมอริยาวาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทุติยอริยาวาสสุตฺตวณฺณนา
๒๐. ทสเม กสฺมา ปน ภควา กุรุสุ วิหรนฺโต อิมํ สุตฺตํ อภาสีติ อาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ. กุรุรฏฺํ กิร ตทา ตนฺนิวาสิสตฺตานํ โยนิโสมนสิการวนฺตตาทินา ¶ เยภุยฺเยน สุปฺปฏิปนฺนตาย ปุพฺเพ จ กตปฺุตาพเลน วา ตทา อุตุอาทิสมฺปตฺติยุตฺตเมว อโหสิ. เกจิ ปน ‘‘ปุพฺเพ ปวตฺตกุรุวตฺตธมฺมานุฏฺานวาสนาย อุตฺตรกุรุ วิย เยภุยฺเยน อุตุอาทิสมฺปนฺนเมว โหติ. ภควโต กาเล สาติสยํ อุตุสปฺปายาทิยุตฺตํ รฏฺํ อโหสี’’ติ วทนฺติ. ตตฺถ ภิกฺขู ภิกฺขุนิโย อุปาสกา อุปาสิกาโย อุตุปจฺจยาทิสมฺปนฺนตฺตา ตสฺส รฏฺสฺส สปฺปายอุตุปจฺจยเสวเนน นิจฺจํ กลฺลสรีรา กลฺลจิตฺตา จ โหนฺติ. เต จิตฺตสรีรกลฺลตาย อนุคฺคหิตปฺาพลา คมฺภีรกถํ ปฏิคฺคเหตุํ สมตฺถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิสฺสิตานํ ¶ คมฺภีรปฺานฺจ การกา โหนฺติ. เตนาห ‘‘กุรุรฏฺวาสิโน ภิกฺขู คมฺภีรปฺาการกา’’ติอาทิ.
ยุตฺตปฺปยุตฺตาติ สติปฏฺานภาวนาย ยุตฺตา เจว ปยุตฺตา จ. ตสฺมิฺหิ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖) ชนปเท จตสฺโส ปริสา ปกติยาว สติปฏฺานภาวนานุโยคมนุยุตฺตา วิหรนฺติ, อนฺตมโส ทาสกมฺมกรปริชนาปิ สติปฏฺานปฺปฏิสํยุตฺตเมว กถํ กเถนฺติ. อุทกติตฺถสุตฺตกนฺตนฏฺานาทีสุปิ นิรตฺถกกถา นาม นปฺปวตฺตติ. สเจ กาจิ อิตฺถี, ‘‘อมฺม, ตฺวํ กตรํ สติปฏฺานภาวนํ มนสิ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิตา ‘‘น กิฺจี’’ติ วทติ, ตํ ครหนฺติ ‘‘ธีรตฺถุ ตว ชีวิตํ, ชีวมานาปิ ตฺวํ มตสทิสา’’ติ. อถ นํ ‘‘มา ทานิ ปุน เอวมกาสี’’ติ โอวทิตฺวา อฺตรํ สติปฏฺานํ อุคฺคณฺหาเปนฺติ. ยา ปน ‘‘อหํ อสุกํ สติปฏฺานํ นาม มนสิ กโรมี’’ติ วทติ, ตสฺสา ‘‘สาธุ สาธู’’ติ สาธุการํ ทตฺวา ‘‘ตว ชีวิตํ สุชีวิตํ, ตฺวํ นาม มนุสฺสตฺตํ ปตฺตา, ตวตฺถาย สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติอาทีหิ ปสํสนฺติ. น เกวลฺเจตฺถ มนุสฺสชาติกาเยว สติปฏฺานมนสิการยุตฺตา, เต นิสฺสาย วิหรนฺตา ติรจฺฉานคตาปิ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – เอโก กิร นฏโก สุวโปตกํ คเหตฺวา สิกฺขาเปนฺโต วิจรติ. โส ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ อุปนิสฺสาย วสิตฺวา คมนกาเล สุวโปตกํ ปมุสฺสิตฺวา คโต. ตํ สามเณริโย คเหตฺวา ปฏิชคฺคึสุ, ‘‘พุทฺธรกฺขิโต’’ติ จสฺส นามํ อกํสุ. ตํ เอกทิวสํ ปุรโต นิสินฺนํ ทิสฺวา มหาเถรี อาห ‘‘พุทฺธรกฺขิตา’’ติ. กึ, อยฺโยติ. อตฺถิ เต โกจิ ภาวนามนสิกาโรติ? นตฺถยฺเยติ. อาวุโส ¶ , ปพฺพชิตานํ สนฺติเก วสนฺเตน นาม วิสฺสฏฺอตฺตภาเวน ภวิตุํ น วฏฺฏติ, โกจิเทว มนสิกาโร อิจฺฉิตพฺโพ, ตฺวํ ปน อฺํ น สกฺขิสฺสสิ, ‘‘อฏฺิ อฏฺี’’ติ สชฺฌายํ กโรหีติ. โส เถริยา โอวาเท ตฺวา ‘‘อฏฺิ อฏฺี’’ติ สชฺฌายนฺโต จรติ.
ตํ เอกทิวสํ ปาโตว โตรณคฺเค นิสีทิตฺวา พาลาตปํ ตปมานํ เอโก สกุโณ นขปฺชเรน อคฺคเหสิ. โส ‘‘กิริ กิรี’’ติ สทฺทมกาสิ. สามเณริโย สุตฺวา, ‘‘อยฺเย, พุทฺธรกฺขิโต สกุเณน คหิโต, โมเจม น’’นฺติ เลฑฺฑุอาทีนิ คเหตฺวา อนุพนฺธิตฺวา โมเจสุํ. ตํ อาเนตฺวา ปุรโต ปิตํ เถรี อาห, ‘‘พุทฺธรกฺขิต, สกุเณน คหิตกาเล กึ จินฺเตสี’’ติ. อยฺเย, น อฺํ จินฺเตสึ, ‘‘อฏฺิปฺุโชว อฏฺิปฺุชํ คเหตฺวา คจฺฉติ, กตรสฺมึ าเน วิปฺปกิริสฺสตี’’ติ เอวํ, อยฺเย, อฏฺิปฺุชเมว จินฺเตสินฺติ. สาธุ สาธุ, พุทฺธรกฺขิต ¶ , อนาคเต ภวกฺขยสฺส เต ปจฺจโย ภวิสฺสตีติ. เอวํ ตตฺถ ติรจฺฉานคตาปิ สติปฏฺานมนสิการยุตฺตา.
ทีฆนิกายาทีสุ มหานิทานาทีนีติ ทีฆนิกาเย มหานิทานํ (ที. นิ. ๒.๙๕ อาทโย) สติปฏฺานํ (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย) มชฺฌิมนิกาเย สติปฏฺานํ (ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) สาโรปมํ (ม. นิ. ๑.๓๐๗ อาทโย) รุกฺโขปมํ รฏฺปาลํ มาคณฺฑิยํ อาเนฺชสปฺปายนฺติ (ม. นิ. ๓.๖๖ อาทโย) เอวมาทีนิ.
าณาทโยติ าณฺเจว ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา จ. เตนาห ‘‘าณนฺติ วุตฺเต’’ติอาทิ. าณสมฺปยุตฺตจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ เตหิ วินา สมฺปชานตาย อสมฺภวโต. มหาจิตฺตานีติ อฏฺปิ มหากิริยจิตฺตานิ ลพฺภนฺติ ‘‘สตตวิหารา’’ติ วจนโต าณุปฺปตฺติปจฺจยรหิตกาเลปิ ปวตฺติโชตนโต. ทส จิตฺตานีติ อฏฺ มหากิริยจิตฺตานิ หสิตุปฺปาทโวฏฺพฺพนจิตฺเตหิ สทฺธึ ทส จิตฺตานิ ลพฺภนฺติ. อรชฺชนาทุสฺสนวเสน ปวตฺติ เตสมฺปิ สาธารณาติ. ‘‘อุเปกฺขโก วิหรตี’’ติ วจนโต ฉฬงฺคุเปกฺขาวเสน อาคตานํ อิเมสํ สตตวิหารานํ โสมนสฺสํ กถํ ลพฺภตีติ อาห ‘‘อาเสวนวเสน ลพฺภตี’’ติ. กิฺจาปิ ขีณาสโว อิฏฺานิฏฺเปิ อารมฺมเณ มชฺฌตฺโต วิย พหุลํ อุเปกฺขโก วิหรติ อตฺตโน ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนโต. กทาจิ ปน ตถา เจโตภิสงฺขาราภาเว ยํ ตํ สภาวโต อิฏฺํ อารมฺมณํ ¶ , ตตฺถ ยาถาวสภาวคฺคหณวเสนปิ อรหโต จิตฺตํ โสมนสฺสสหคตํ หุตฺวา ปวตฺตเตว, ตฺจ โข ปุพฺพาเสวนวเสน. เตน วุตฺตํ ‘‘อาเสวนวเสน ลพฺภตี’’ติ. อารกฺขกิจฺจํ สาเธติ สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา. จรโตติอาทินา นิจฺจสมาทานํ ทสฺเสติ, ตํ วิกฺเขปาภาเวน ทฏฺพฺพํ.
ปพฺพชฺชูปคตาติ ยํ กิฺจิ ปพฺพชฺชํ อุปคตา, น สมิตปาปา. โภวาทิโนติ ชาติมตฺตพฺราหฺมเณ วทติ. ปาเฏกฺกสจฺจานีติ เตหิ เตหิ ทิฏฺิคติเกหิ ปาฏิเยกฺกํ คหิตานิ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ อภินิวิฏฺานิ ทิฏฺิสจฺจาทีนิ. ตานิปิ หิ ‘‘อิทเมว สจฺจ’’นฺติ คหณํ อุปาทาย ‘‘สจฺจานี’’ติ โวหรียนฺติ. เตนาห ‘‘อิทเมวา’’ติอาทิ. นีหฏานีติ อตฺตโน สนฺตานโต นีหริตานิ อปนีตานิ. คหิตคฺคหณสฺสาติ อริยมคฺคาธิคมโต ปุพฺเพ คหิตสฺส ทิฏฺิคฺคาหสฺส. วิสฺสฏฺภาวเววจนานีติ อริยมคฺเคน สพฺพโส ปริจฺจาคภาวสฺส อธิวจนานิ.
นตฺถิ เอตาสํ วโย เวกลฺลนฺติ อวยาติ อาห ‘‘อนูนา’’ติ, อนวเสโสติ อตฺโถ. เอสนาติ ¶ กาเมสนาทโย. มคฺคสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ กถิตา ราคาทีนํ ปหีนภาวทีปนโต. ปจฺจเวกฺขณผลํ กถิตนฺติ ปจฺจเวกฺขณมุเขน อริยผลํ กถิตํ. อธิคเต หิ อคฺคผเล สพฺพโส ราคาทีนํ อนุปฺปาทธมฺมตํ ปชานาติ, ตฺจ ปชานนํ ปจฺจเวกฺขณาณนฺติ.
ทุติยอริยาวาสสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
นาถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.