📜
๓. คหปติวคฺโค
๑-๗. ปมอุคฺคสุตฺตาทิวณฺณนา
๒๑-๒๗. ตติยสฺส ปมทุติเยสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ. ตติเย ‘‘หตฺถโค’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘หตฺถโก’’ติ วุตฺตํ. โส หิ ราชปุริสานํ หตฺถโต ¶ ยกฺขสฺส หตฺถํ, ยกฺขสฺส หตฺถโต ภควโต หตฺถํ ¶ , ภควโต หตฺถโต ปุน ราชปุริสานํ หตฺถํ คตตฺตา นามโต หตฺถโก อาฬวโกติ ชาโต. เตนาห ‘‘อาฬวกยกฺขสฺส หตฺถโต หตฺเถหิ สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา หตฺถโกติ ลทฺธนาโม ราชกุมาโร’’ติ. จตุตฺถาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปมอุคฺคสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ทุติยพลสุตฺตวณฺณนา
๒๘. อฏฺเม ขีณาสวสฺส สพฺเพสํ สงฺขารานํ อนิจฺจตา อสมฺโมหวเสน กิจฺจโต มคฺคปฺาย สุปฺปฏิวิทฺธา, วิปสฺสนาย อารมฺมณกรณวเสนปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺายา’’ติ. อิเม กามาติ ทฺเวปิ กาเม วทติ. กิเลสวเสน อุปฺปชฺชมาโน หิ ปริฬาโห วตฺถุกามสนฺนิสฺสโย วตฺถุกามวิสโย วาติ ทฺเวปิ สปริฬาหฏฺเน องฺคารกาสุ วิยาติ ‘‘องฺคารกาสูปมา’’ติ วุตฺตา. อนฺโต วุจฺจติ ลามกฏฺเน ตณฺหา, พฺยนฺตํ วิคตนฺตํ ภูตนฺติ พฺยนฺติภูตนฺติ อาห ‘‘วิคตนฺตภูต’’นฺติ, นิตฺตณฺหนฺติ อตฺโถ.
ทุติยพลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อกฺขณสุตฺตวณฺณนา
๒๙. นวเม ยสฺมา มหิทฺธิกเปตา เทวาสุรานํ อาวาหํ คจฺฉนฺติ, วิวาหํ น คจฺฉนฺติ, ตสฺมา เปตฺติวิสเยเนว อสุรกาโย คหิโตติ เวทิตพฺโพ. เปตาสุรา ปน เปตา เอวาติ เตสํ เปเตหิ สงฺคโห อวุตฺตสิทฺโธว.
อกฺขณสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนุรุทฺธมหาวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา
๓๐. ทสเม ¶ อปฺปิจฺฉสฺสาติ น อิจฺฉสฺส. อภาวตฺโถ เหตฺถ อปฺปสทฺโท ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๑๑) วิย. ปจฺจเยสุ อปฺปิจฺโฉ ปจฺจยปฺปิจฺโฉ, จีวราทิปจฺจเยสุ อิจฺฉารหิโต. อธิคมปฺปิจฺโฉติ ฌานาทิอธิคมวิภาวเน อิจฺฉารหิโต ¶ . ปริยตฺติอปฺปิจฺโฉติ ปริยตฺติยํ พาหุสจฺจวิภาวเน อิจฺฉารหิโต. ธุตงฺคปฺปิจฺโฉติ ธุตงฺเคสุ อปฺปิจฺโฉ ธุตงฺคภาววิภาวเน อิจฺฉารหิโต. สนฺตคุณนิคุหเนนาติ อตฺตนิ สํวิชฺชมานานํ ฌานาทิคุณานฺเจว พาหุสจฺจคุณสฺส ธุตงฺคคุณสฺส จ นิคุหเนน ฉาทเนน. สมฺปชฺชตีติ นิปฺผชฺชติ สิชฺฌติ. โน มหิจฺฉสฺสาติ มหติยา อิจฺฉาย สมนฺนาคตสฺส โน สมฺปชฺชติ อนุธมฺมสฺสปิ อนิปฺผชฺชนโต. ปวิวิตฺตสฺสาติ ปกาเรหิ วิวิตฺตสฺส. เตนาห ‘‘กายจิตฺตอุปธิวิเวเกหิ วิวิตฺตสฺสา’’ติ. อารมฺภวตฺถุวเสนาติ ภาวนาภิโยควเสน เอกีภาโวว กายวิเวโกติ อธิปฺเปโต, น คณสงฺคณิกาภาวมตฺตนฺติ ทสฺเสติ. กมฺมนฺติ โยคกมฺมํ.
สตฺเตหิ กิเลเสหิ จ สงฺคณนํ สโมธานํ สงฺคณิกา, สา อารมิตพฺพฏฺเน อาราโม เอตสฺสาติ สงฺคณิการาโม, ตสฺส. เตนาห ‘‘คณสงฺคณิกาย เจวา’’ติอาทิ. อารทฺธวีริยสฺสาติ ปคฺคหิตวีริยสฺส. ตฺจ โข อุปธิวิเวเก นินฺนตาวเสน ‘‘อยํ ธมฺโม’’ติ วจนโต. เอส นโย อิตเรสุปิ. วิวฏฺฏนิสฺสิตํเยว หิ สมาธานํ อิธาธิปฺเปตํ, ตถา ปฺาปิ. กมฺมสฺส-กตปฺาย หิ ิโต กมฺมวเสน ภเวสุ นานปฺปกาโร อนตฺโถติ ชานนฺโต กมฺมกฺขยกรํ าณํ อภิปตฺเถติ, ตทตฺถฺจ อุสฺสาหํ กโรติ. มานาทโย สตฺตสนฺตานํ สํสาเร ปปฺเจนฺติ วิตฺถาเรนฺตีติ ปปฺจาติ อาห ‘‘ตณฺหามานทิฏฺิปปฺจรหิตตฺตา’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยเมว.
อนุรุทฺธมหาวิตกฺกสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
คหปติวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.