📜
(๑๒) ๒. ปจฺโจโรหณิวคฺโค
๑-๔. ปมอธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๓-๖. ทุติยสฺส ¶ ปมทุติยานิ อุตฺตานตฺถานิ. ตติเย ชานํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาเณน ชานิตพฺพํ สพฺพํ ชานาติ เอว. น หิ ปเทสาเณ ¶ ิโต ชานิตพฺพํ สพฺพํ ชานาติ. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน หิ อวิเสสคฺคหเณน จ ‘‘ชาน’’นฺติ อิมินา นิรวเสสํ เยฺยชาตํ ปริคฺคยฺหตีติ ตพฺพิสยาย ชานนกิริยาย สพฺพฺุตฺาณเมว กรณํ ภวิตุํ ยุตฺตํ, ปกรณวเสน ‘‘ภควา’’ติ สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน จ อยมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ. ปสฺสิตพฺพเมว ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุปฺาจกฺขุธมฺมจกฺขุพุทฺธจกฺขุสมนฺตจกฺขุสงฺขาเตหิ าณจกฺขูหิ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ เอว. อถ วา ชานํ ชานาตีติ ยถา อฺเ สวิปลฺลาสา กามรูปปริฺาวาทิโน ชานนฺตาปิ วิปลฺลาสวเสน ชานนฺติ, น เอวํ ภควา. ภควา ปน ปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชานนฺโต ชานาติ เอว, ทิฏฺิทสฺสนสฺส อภาวา ปสฺสนฺโต ปสฺสติเยวาติ อตฺโถ. จกฺขุ วิย ภูโตติ ทสฺสนปริณายกฏฺเน จกฺขุ วิย ภูโต. ยถา หิ จกฺขุ สตฺตานํ ทสฺสนตฺถํ ปริเณติ สาเธติ, เอวํ โลกสฺส ยาถาวทสฺสนสาธนโตปิ ทสฺสนกิจฺจปริณายกฏฺเน จกฺขุ วิย ภูโต, ปฺาจกฺขุมยตฺตา วา สยมฺภุาเณน ปฺาจกฺขุํ ภูโต ปตฺโตติ วา จกฺขุภูโต.
าณสภาโวติ วิทิตกรณฏฺเน าณสภาโว. อวิปรีตสภาวฏฺเน ปริยตฺติธมฺมปฺปวตฺตนโต วา หทเยน จินฺเตตฺวา วาจาย นิจฺฉาริตธมฺมมโยติ ธมฺมภูโต. เตนาห ‘‘ธมฺมสภาโว’’ติ. ธมฺมา วา โพธิปกฺขิยา เตหิ อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต, อนฺสาธารณํ วา ธมฺมํ ปตฺโต อธิคโตติ ธมฺมภูโต. เสฏฺฏฺเน พฺรหฺมภูโตติ อาห ‘‘เสฏฺสภาโว’’ติ. อถ วา พฺรหฺมา วุจฺจติ มคฺโค, เตน อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต, ตฺจ สยมฺภุาเณน ปตฺโตติ พฺรหฺมภูโต. จตุสจฺจธมฺมํ วทตีติ วตฺตา. จิรํ สจฺจปฺปฏิเวธํ ปวตฺเตนฺโต วทตีติ ปวตฺตา. อตฺถํ นีหริตฺวาติ ทุกฺขาทิอตฺถํ ตตฺถาปิ ปีฬนาทิอตฺถํ อุทฺธริตฺวา. ปรมตฺถํ วา นิพฺพานํ ปาปยิตา นินฺเนตา. อมตาธิคมปฏิปตฺติเทสนาย อมตสจฺฉิกิริยํ สตฺเตสุ อุปฺปาเทนฺโต อมตํ ททาตีติ อมตสฺส ทาตา. โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตทายตฺตภาวโต ธมฺมสามี. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ปมอธมฺมสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๔๒. สงฺคารวสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑๗-๑๕๔. ปฺจเม ¶ ¶ อปฺปกาติ โถกา, น พหู. อถายํ อิตรา ปชาติ ยา ปนายํ อวเสสา ปชา สกฺกายทิฏฺิตีรเมว อนุธาวติ, อยเมว พหุตราติ อตฺโถ. สมฺมทกฺขาเตติ สมฺมา อกฺขาเต สุกถิเต. ธมฺเมติ ตว เทสนาธมฺเม. ธมฺมานุวตฺติโนติ ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตทนุจฺฉวิกํ ปฏิปทํ ปูเรตฺวา มคฺคผลสจฺฉิกรเณน ธมฺมานุวตฺติโน. มจฺจุโน านภูตนฺติ กิเลสมารสงฺขาตสฺส มจฺจุโน นิวาสฏฺานภูตํ. สุทุตฺตรํ ตริตฺวา ปารเมสฺสนฺตีติ เย ชนา ธมฺมานุวตฺติโน, เต เอตํ สุทุตฺตรํ ทุรติกฺกมํ มารเธยฺยํ ตริตฺวา อติกฺกมิตฺวา นิพฺพานปารํ คมิสฺสนฺติ.
กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหายาติ กายทุจฺจริตาทิเภทํ อกุสลํ ธมฺมํ ชหิตฺวา. สุกฺกํ ภาเวถาติ ปณฺฑิโต ภิกฺขุ อภินิกฺขมนโต ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา กายสุจริตาทิเภทํ สุกฺกํ ธมฺมํ ภาเวยฺย. โอกา อโนกมาคมฺมาติ โอกํ วุจฺจติ อาลโย, อโนกํ วุจฺจติ อนาลโย. อาลยโต นิกฺขมิตฺวา อนาลยสงฺขาตํ นิพฺพานํ ปฏิจฺจ อารพฺภ.
ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺยาติ ยสฺมึ อนาลยสงฺขาเต วิเวเก นิพฺพาเน อิเมหิ สตฺเตหิ ทุรภิรมํ, ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย. ทุวิเธปิ กาเมติ วตฺถุกามกิเลสกาเม. จิตฺตกฺเลเสหีติ ปฺจหิ นีวรเณหิ อตฺตานํ ปริโยทเปยฺย โวทาเปยฺย, ปริโสเธยฺยาติ อตฺโถ.
สมฺโพธิยงฺเคสูติ สมฺโพชฺฌงฺเคสุ. สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตนฺติ สมฺมา เหตุนา นเยน จิตฺตํ สุฏฺุ ภาวิตํ วฑฺฒิตํ. ชุติมนฺโตติ อานุภาววนฺโต, อรหตฺตมคฺคาณชุติยา ขนฺธาทิเภเท ธมฺเม โชเตตฺวา ิตาติ อตฺโถ. เต โลเก ปรินิพฺพุตาติ เต อิมสฺมึ ขนฺธาทิโลเก ปรินิพฺพุตา นาม อรหตฺตปฺปตฺติโต ปฏฺาย กิเลสวฏฺฏสฺส เขปิตตฺตา สอุปาทิเสเสน, จริมจิตฺตนิโรเธน ขนฺธวฏฺฏสฺส เขปิตตฺตา อนุปาทิเสเสน จาติ ทฺวีหิ ปรินิพฺพาเนหิ ปรินิพฺพุตา, อนุปาทาโน วิย ปทีโป อปณฺณตฺติกภาวํ คตาติ อตฺโถ.
อิโต ปรํ ยาว ตติโย ปณฺณาสโก, ตาว อุตฺตานตฺถเมว.
สงฺคารวสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.
๔. จตุตฺถปณฺณาสกํ
๑๕๕-๑๖๖. จตุตฺถสฺส ¶ ¶ ปมวคฺโค อุตฺตานตฺโถเยว.
๑-๔๔. พฺราหฺมณปจฺโจโรหณีสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๖๗-๒๑๐. ทุติเย จ ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ. ทสเม ปจฺฉาภูมิวาสิโนติ ปจฺจนฺตเทสวาสิโน. เสวาลมาลิกาติ ปาโตว อุทกํ โอโรหิตฺวา เสวาลฺเจว อุปฺปลาทีนิ จ คเหตฺวา อตฺตโน อุทกสุทฺธิกภาวชานนตฺถฺเจว ‘‘โลกสฺส จ อุทเกน สุทฺธิ โหตี’’ติ อิมสฺส อตฺถสฺส ชานนตฺถฺจ มาลํ กตฺวา ปิลนฺธนกา. อุทโกโรหกาติ ปาโต มชฺฌนฺเห สายนฺเห จ อุทกโอโรหณกา. เตนาห ‘‘สายตติยกํ อุทโกโรหณานุโยคมนุยุตฺตา’’ติ. เอกาทสมาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ. จตุตฺเถ ปณฺณาสเก นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
พฺราหฺมณปจฺโจโรหณีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.