📜
๒. อนุสฺสติวคฺโค
๑-๔. ปมมหานามสุตฺตาทิวณฺณนา
๑๑-๑๔. ทุติยสฺส ¶ ปมาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ. ตติเย กพฬีการาหารภกฺขานนฺติ กพฬีการาหารูปชีวีนํ. โก ปน เทวานํ อาหาโร, กา อาหารเวลาติ? สพฺเพสมฺปิ กามาวจรเทวานํ สุธา อาหาโร. สา เหฏฺิเมหิ เหฏฺิเมหิ อุปริมานํ อุปริมานํ ปณีตตมา โหติ, ตํ ยถาสกํ ทิวสวเสเนว ทิวเส ทิวเส ภฺุชนฺติ. เกจิ ปน ‘‘พิฬารปทปฺปมาณํ สุธาหารํ ภฺุชนฺติ, โส ชิวฺหาย ปิตมตฺโต ยาว เกสคฺคนขคฺคา กายํ ผรติ, เตสํเยว ทิวสวเสน ¶ สตฺต ทิวเส ยาปนสมตฺโถ โหตี’’ติ วทนฺติ. อสมยวิมุตฺติยา วิมุตฺโตติ มคฺควิโมกฺเขน วิมุตฺโต. อฏฺนฺนฺหิ สมาปตฺตีนํ สมาปชฺชนสฺส สมโยปิ อตฺถิ ตสฺส อสมโยปิ, มคฺควิโมกฺเขน ปน วิมุจฺจนสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถิ. ยสฺส สทฺธา พลวตี, วิปสฺสนา จ อารทฺธา, ตสฺส คจฺฉนฺตสฺส ติฏฺนฺตสฺส นิสีทนฺตสฺส นิปชฺชนฺตสฺส ขาทนฺตสฺส ภฺุชนฺตสฺส จ มคฺคผลปฺปฏิเวโธ นาม น โหตีติ น วตฺตพฺพํ. อิติ มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺตสฺส สมโย วา อสมโย วา นตฺถีติ มคฺควิโมกฺโข อสมยวิมุตฺติ นาม. จตุตฺเถ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ปมมหานามสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. เมตฺตาสุตฺตวณฺณนา
๑๕. ปฺจเม เสสชนาติ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา อลาภิโน. สมฺปริวตฺตมานาติ ทกฺขิเณเนว ปสฺเสน อสยิตฺวา สพฺพโส ปริวตฺตมานา. กากจฺฉมานาติ ฆุรุฆุรุปสฺสาสวเสน วิสฺสรํ กโรนฺตา. สุขํ สุปตีติ เอตฺถ ทุวิธา สุปนา สยเน ปิฏฺิปฺปสารณลกฺขณา กิริยามยจิตฺเตหิ อโวกิณฺณภวงฺคปฺปวตฺติลกฺขณา จ. ตตฺถายํ อุภยตฺถาปิ สุขเมว สุปติ. ยสฺมา สณิกํ นิปชฺชิตฺวา องฺคปจฺจงฺคานิ สโมธาย ปาสาทิเกน อากาเรน สยติ, นิทฺโทกฺกมเนปิ ฌานํ สมาปนฺโน วิย โหติ. เตนาห ‘‘เอวํ อสุปิตฺวา’’ติอาทิ.
นิทฺทากาเล สุขํ อลภิตฺวา ทุกฺเขน สุตฺตตฺตา เอว ปฏิพุชฺฌนกาเล สรีรเขเทน นิตฺถุนนํ ¶ วิชมฺภนํ อิโต จิโต จ วิปริวตฺตนฺจ โหตีติ อาห ‘‘นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภนฺตา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺตี’’ติ. อยํ ปน สุเขน สุตฺตตฺตา สรีรเขทาภาวโต นิตฺถุนนาทิวิรหิโตว ปฏิพุชฺฌติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ อปฺปฏิพุชฺฌิตฺวา’’ติอาทิ. สุขปฺปฏิโพโธ จ สรีรวิการาภาเวนาติ อาห ‘‘สุขํ นิพฺพิการ’’นฺติ.
ภทฺทกเมว สุปินํ ปสฺสตีติ อิทํ อนุภูตปุพฺพวเสน เทวตูปสํหารวเสน จสฺส ภทฺทกเมว สุปินํ โหติ, น ปาปกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เจติยํ วนฺทนฺโต วิยา’’ติอาทิ. ธาตุกฺโขภเหตุกมฺปิ จสฺส พหุลํ ภทฺทกเมว สิยา เยภุยฺเยน จิตฺตชรูปานุคุณตาย อุตุอาหารชรูปานํ.
อุเร ¶ อามุกฺกมุตฺตาหาโร วิยาติ คีวาย พนฺธิตฺวา อุเร ลมฺพิตมุตฺตาหาโร วิยาติ เกหิจิ ตํ เอกาวลิวเสน วุตฺตํ สิยา, อเนกรตนาวลิสมูหภูโต ปน มุตฺตาหาโร อํสปฺปเทสโต ปฏฺาย ยาว กฏิปฺปเทสสฺส เหฏฺาภาคา ปลมฺพนฺโต อุเร อามุกฺโกเยว นาม โหติ.
วิสาขตฺเถโร วิยาติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๘) โส กิร ปาฏลิปุตฺเต กุฏุมฺพิโย อโหสิ. โส ตตฺเถว วสมาโน อสฺโสสิ ‘‘ตมฺพปณฺณิทีโป กิร เจติยมาลาลงฺกโต กาสาวปชฺโชโต, อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺาเนเยเวตฺถ สกฺกา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา, อุตุสปฺปายํ เสนาสนสปฺปายํ ปุคฺคลสปฺปายํ ธมฺมสฺสวนสปฺปายนฺติ สพฺพเมตฺถ สุลภ’’นฺติ. โส อตฺตโน โภคกฺขนฺธํ ปุตฺตทารสฺส นิยฺยาเตตฺวา ทุสฺสนฺเต พทฺเธน เอกกหาปเณเนว ฆรา นิกฺขมิตฺวา สมุทฺทตีเร นาวํ อุทิกฺขมาโน เอกํ มาสํ วสิ. โส โวหารกุสลตาย อิมสฺมึ าเน ภณฺฑํ กิณิตฺวา อสุกสฺมึ วิกฺกิณนฺโต ธมฺมิกาย วณิชฺชาย เตเนวนฺตรมาเสน สหสฺสํ อภิสํหริ. อิติ อนุปุพฺเพน มหาวิหารํ คนฺตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจติ. โส ปพฺพาชนตฺถาย สีมํ นีโต ตํ สหสฺสตฺถวิกํ โอวฏฺฏิกนฺตเรน ภูมิยํ ปาเตสิ. ‘‘กิเมต’’นฺติ จ วุตฺเต ‘‘กหาปณสหสฺสํ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา, ‘‘อุปาสก, ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย น สกฺกา วิจาเรตุํ, อิทาเนว นํ วิจาเรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘วิสาขสฺส ปพฺพชฺชฏฺานํ อาคตา มา ริตฺตหตฺถา คมึสู’’ติ มฺุจิตฺวา สีมามาฬเก วิกฺกิริตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺโน. โส ปฺจวสฺโส หุตฺวา ทฺเวมาติกา ปคุณา กตฺวา อตฺตโน สปฺปายํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา เอเกกสฺมึ วิหาเร จตฺตาโร จตฺตาโร มาเส สมปวตฺตวาสํ วสมาโน จริ. เอวํ จรมาโน –
‘‘วนนฺตเร ¶ ิโต เถโร, วิสาโข คชฺชมานโก;
อตฺตโน คุณเมสนฺโต, อิมมตฺถํ อภาสถ.
‘‘ยาวตา อุปสมฺปนฺโน, ยาวตา อิธ มาคโต;
เอตฺถนฺตเร ขลิตํ นตฺถิ, อโห ลาโภ เต มาริสา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๘);
โส จิตฺตลปพฺพตวิหารํ คจฺฉนฺโต ทฺเวธาปถํ ปตฺวา ‘‘อยํ นุ โข มคฺโค, อุทาหุ อย’’นฺติ จินฺตยนฺโต อฏฺาสิ. อถสฺส ปพฺพเต อธิวตฺถา เทวตา ¶ หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘เอโส มคฺโค’’ติ ทสฺเสติ. โส จิตฺตลปพฺพตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺถ จตฺตาโร มาเส วสิตฺวา ‘‘ปจฺจูเส คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิปชฺชิ. จงฺกมสีเส มณิลรุกฺเข อธิวตฺถา เทวตา โสปานผลเก นิสีทิตฺวา ปโรทิ. เถโร ‘‘โก เอโส’’ติ อาห. อหํ, ภนฺเต, มณิลิยาติ. กิสฺส โรทสีติ? ตุมฺหากํ คมนํ ปฏิจฺจาติ. มยิ อิธ วสนฺเต ตุมฺหากํ โก คุโณติ? ตุมฺเหสุ, ภนฺเต, อิธ วสนฺเตสุ อมนุสฺสา อฺมฺํ เมตฺตํ ปฏิลภนฺติ, เต ทานิ ตุมฺเหสุ คเตสุ กลหํ กริสฺสนฺติ, ทุฏฺุลฺลมฺปิ กถยิสฺสนฺตีติ. เถโร ‘‘สเจ มยิ อิธ วสนฺเต ตุมฺหากํ ผาสุวิหาโร โหติ, สุนฺทร’’นฺติ วตฺวา อฺเปิ จตฺตาโร มาเส ตตฺเถว วสิตฺวา ปุน ตเถว คมนจิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. เทวตาปิ ปุน ตเถว ปโรทิ. เอเตเนว อุปาเยน เถโร ตตฺเถว วสิตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายีติ. เอวํ ธมตฺตาวิหารี ภิกฺขุ อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ.
พลวปิยจิตฺตตายาติ อิมินา พลวปิยจิตฺตตามตฺเตนปิ สตฺถํ น กมติ, ปเคว เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ ทสฺเสติ. ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ, เกนจิ ปริปนฺเถน ปริหีนชฺฌานสฺส พฺยาปาทสฺส ทูรสมุสฺสาริตภาวโต ขิปฺปเมว สมาธิยติ, ‘‘อาสวานํ ขยายา’’ติ เกจิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. เอตฺถ จ กิฺจาปิ อิโต อฺกมฺมฏฺานวเสน อธิคตชฺฌานานมฺปิ สุขสุปนาทโย อานิสํสา ลพฺภนฺติ. ยถาห –
‘‘สุขํ สุปนฺติ มุนโย, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตา;
สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ, สทา โคตมสาวกา’’ติ. (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๒๕๘); จ อาทิ –
ตถาปิเม อานิสํสา พฺรหฺมวิหารลาภิโน อนวเสสา ลพฺภนฺติ พฺยาปาทาทีนํ อุชุวิปจฺจนีกภาวโต พฺรหฺมวิหารานํ. เตเนวาห ‘‘นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส, ยทิทํ เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’ติอาทิ ¶ (ที. นิ. ๓.๓๒๖; อ. นิ. ๖.๑๓). พฺยาปาทาทิวเสน จ สตฺตานํ ทุกฺขสุปนาทโยติ ตปฺปฏิปกฺขภูเตสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ สิทฺเธสุ สุขสุปนาทโย หตฺถคตา เอว โหนฺตีติ.
เมตฺตาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา
๑๖. ฉฏฺเ ¶ เพลุวคามเกติ เวสาลิยา ทกฺขิณปสฺเส อวิทูเร เพลุวคามโก นาม อตฺถิ, ตํ โคจรคามํ กตฺวาติ อตฺโถ. สารปฺปตฺตกุลคณนายาติ มหาสารมหปฺปตฺตกุลคณนาย. ทสเม าเนติ อฺเ อฺเติ ทสคณนฏฺาเน. อฏฺกนคเร ชาโต ภโวติ อฏฺกนาคโร. กุกฺกุฏาราโมติ ปาฏลิปุตฺเต กุกฺกุฏาราโม, น โกสมฺพิยํ.
ปกตตฺถปฺปฏินิทฺเทโส ต-สทฺโทติ ตสฺส ‘‘ภควตา’’ติอาทีหิ ปเทหิ สมานาธิกรณภาเวน วุตฺตสฺส เยน อภิสมฺพุทฺธภาเวน ภควา ปกโต อธิคโต สุปากโฏ จ, ตํ อภิสมฺพุทฺธภาวํ สทฺธึ อาคมนียปฏิปทาย อตฺถภาเวเนว ทสฺเสนฺโต ‘‘โย โส…เป… อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ อาห. สติปิ าณทสฺสนสทฺทานํ อิธ ปฺาเววจนภาเว เตน เตน วิเสเสน เนสํ วิสยวิเสเส ปวตฺติทสฺสนตฺถํ อสาธารณาณวิเสสวเสน, วิชฺชาตฺตยวเสน, วิชฺชาภิฺานาวรณวเสน, สพฺพฺุตฺาณมํสจกฺขุวเสน ปฏิเวธเทสนาาณวเสน จ ตทตฺถํ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสํ เตส’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อาสยานุสยํ ชานตา อาสยานุสยาเณน, สพฺพเยฺยธมฺมํ ปสฺสตา สพฺพฺุตานาวรณาเณหิ. ปุพฺเพนิวาสาทีหีติ ปุพฺเพนิวาสาสวกฺขยาเณหิ. ปฏิเวธปฺายาติ อริยมคฺคปฺาย. เทสนาปฺาย ปสฺสตาติ เทเสตพฺพธมฺมานํ เทเสตพฺพปฺปการํ โพธเนยฺยปุคฺคลานฺจ อาสยานุสยจริตาธิมุตฺติอาทิเภทํ ธมฺมํ เทสนาปฺาย ยาถาวโต ปสฺสตา. อรีนนฺติ กิเลสารีนํ, ปฺจวิธมารานํ วา สาสนสฺส วา ปจฺจตฺถิกานํ อฺติตฺถิยานํ. เตสํ ปน หนนํ ปาฏิหาริเยหิ อภิภวนํ อปฺปฏิภานตากรณํ อชฺฌุเปกฺขณฺจ. เกสิวินยสุตฺตฺเจตฺถ นิทสฺสนํ. ตถา านาฏฺานาทีนิ ชานตา. ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปสฺสตา. สวาสนานมาสวานํ ขีณตฺตา อรหตา. อภิฺเยฺยาทิเภเท ธมฺเม อภิฺเยฺยาทิโต อวิปรีตาวโพธโต สมฺมาสมฺพุทฺเธน.
อถ วา ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณตาย ชานตา. กายกมฺมาทิวเสน ติณฺณมฺปิ กมฺมานํ ¶ าณานุปริวตฺติโต นิสมฺมการิตาย ปสฺสตา. ทวาทีนมฺปิ อภาวสาธิกาย ปหานสมฺปทาย อรหตา. ฉนฺทาทีนํ ¶ อหานิเหตุภูตาย อกฺขยปฏิภานสาธิกาย สพฺพฺุตาย สมฺมาสมฺพุทฺเธนาติ เอวํ ทสพลอฏฺารสอาเวณิกพุทฺธธมฺมวเสนปิ โยชนา กาตพฺพา.
อภิสงฺขตนฺติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ อภิสมฺมุขภาเวน สเมจฺจ สมฺภุยฺย กตํ. สฺวาสฺส กตภาโว อุปฺปาทเนน เวทิตพฺโพ, น อุปฺปนฺนสฺส ปฏิสงฺขรเณนาติ อาห ‘‘อุปฺปาทิต’’นฺติ. เต จสฺส ปจฺจยา เจตนาปธานาติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิต’’นฺติ วุตฺตนฺติ ‘‘เจตยิตํ กปฺปยิต’’นฺติ อตฺถมาห. อภิสงฺขตํ อภิสฺเจตยิตนฺติ จ ฌานสฺส ปาตุภาวทสฺสนมุเขน วิทฺธํสนภาวํ อุลฺลิงฺเคติ. ยฺหิ อหุตฺวา สมฺภวติ, ตํ หุตฺวา ปฏิเวติ. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘ยํ โข ปนา’’ติอาทิ. สมถวิปสฺสนาธมฺเม ิโตติ เอตฺถ สมถธมฺเม ิตตฺตา สมาหิโต วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทโย ปชหนฺโต อนุกฺกเมน ตํ อนุโลมาณํ ปาเปตา หุตฺวา วิปสฺสนฺนาธมฺเม ิโต. สมถวิปสฺสนาสงฺขาเตสุ ธมฺเมสุ รฺชนฏฺเน ราโค. นนฺทนฏฺเน นนฺที. ตตฺถ สุขุมา อเปกฺขา วุตฺตา. ยา นิกนฺตีติ วุจฺจติ.
เอวํ สนฺเตติ เอวํ ยถารุตวเสเนว อิมสฺส สุตฺตปทสฺส อตฺเถ คเหตพฺเพ สติ. สมถวิปสฺสนาสุ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพติ อนาคามิผลํ อนิพฺพตฺเตตฺวา ตทตฺถาย สมถวิปสฺสนาปิ อนิพฺพตฺเตตฺวา เกวลํ ตตฺถ ฉนฺทราโค กตฺตพฺโพ ภวิสฺสติ. กสฺมา? เตสุ สมถวิปสฺสนาสงฺขาเตสุ ธมฺเมสุ ฉนฺทราคมตฺเตน อนาคามินา ลทฺธพฺพสฺส อลทฺธอนาคามิผเลนปิ ลทฺธพฺพตฺตา. ตถา สติ เตน อนาคามิผลมฺปิ ลทฺธพฺพเมว โหติ. เตนาห ‘‘อนาคามิผลํ ปฏิลทฺธํ ภวิสฺสตี’’ติ. สภาวโต รสิตพฺพตฺตา อวิปรีโต อตฺโถ เอว อตฺถรโส.
อฺาปิ กาจิ สุคติโยติ วินิปาติเก สนฺธายาห. อฺาปิ กาจิ ทุคฺคติโยติ อสุรกายมาห.
อปฺปํ ยาจิเตน พหุํ เทนฺเตน อุฬารปุริเสน วิย เอกํ ธมฺมํ ปุจฺฉิเตน ‘‘อยมฺปิ เอกธมฺโม’’ติ กถิตตฺตา เอกาทสปิ ธมฺมา ปุจฺฉาวเสน เอกธมฺโม นาม ชาโต ปจฺเจกํ วากฺยปริสมาปนาเยน. ปุจฺฉาวเสนาติ ‘‘อตฺถิ นุ โข, ภนฺเต อานนฺท, เตน…เป… สมฺมาสมฺพุทฺเธน เอกธมฺโม สมฺมทกฺขาโต’’ติ เอวํ ¶ ปวตฺตปุจฺฉาวเสน. อมตุปฺปตฺติอตฺเถนาติ อมตภาวสฺส อุปฺปตฺติเหตุตาย, สพฺพานิปิ กมฺมฏฺานานิ เอกรสาปิ อมตาธิคมสฺส ปฏิปตฺติยาติ ¶ อตฺโถ. เอวเมตฺถ อคฺคผลภูมิ อนาคามิผลภูมีติ ทฺเวว ภูมิโย สรูปโต อาคตา, นานนฺตริยตาย ปน เหฏฺิมาปิ ทฺเว ภูมิโย อตฺถโต อาคตา เอวาติ ทฏฺพฺพาติ. ปฺจ สตานิ อคฺโฆ เอตสฺสาติ ปฺจสตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
อฏฺกนาครสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. โคปาลสุตฺตวณฺณนา
๑๗. สตฺตเม ติสฺโส กถาติ ติสฺโส อฏฺกถา, ติวิธา สุตฺตสฺส อตฺถวณฺณนาติ อตฺโถ. เอเกกํ ปทํ นาฬํ มูลํ เอติสฺสาติ เอวํสฺิตา เอกนาฬิกา. เอเกกํ วา ปทํ นาฬํ อตฺถนิคฺคมนมคฺโค เอติสฺสาติ เอกนาฬิกา. เตนาห ‘‘เอเกกสฺส ปทสฺส อตฺถกถน’’นฺติ. จตฺตาโร อํสา ภาคา อตฺถสลฺลกฺขณูปายา เอติสฺสาติ จตุรสฺสา. เตนาห ‘‘จตุกฺกํ พนฺธิตฺวา กถน’’นฺติ. นิยมโต นิสินฺนสฺส อารทฺธสฺส วตฺโต สํวตฺโต เอติสฺสา อตฺถีติ นิสินฺนวตฺติกา, ยถารทฺธสฺส อตฺถสฺส วิสุํ วิสุํ ปริโยสาปิกาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปณฺฑิตโคปาลกํ ทสฺเสตฺวา’’ติอาทิ. เอเกกสฺสปิ ปทสฺส ปิณฺฑตฺถทสฺสนวเสน พหูนํ ปทานํ เอกชฺฌํ อตฺถํ อกเถตฺวา เอกเมกสฺส ปทสฺส อตฺถวณฺณนา อยํ สพฺพตฺถ ลพฺภติ. จตุกฺกํ พนฺธิตฺวาติ กณฺหปกฺเข อุปโมปเมยฺยทฺวยํ, ตถา สุกฺกปกฺเขติ อิทํ จตุกฺกํ โยเชตฺวา. อยํ เอทิเสสุ เอว สุตฺเตสุ ลพฺภติ. ปริโยสานคมนนฺติ เกจิ ตาว อาหุ ‘‘กณฺหปกฺเข อุปมํ ทสฺเสตฺวา อุปมา จ นาม ยาวเทว อุปเมยฺยสมฺปฏิปาทนตฺถาติ อุปเมยฺยตฺถํ อาหริตฺวา สํกิเลสปกฺขนิทฺเทโส จ โวทานปกฺขวิภาวนตฺถายาติ สุกฺกปกฺขมฺปิ อุปโมปเมยฺยวิภาเคน อาหริตฺวา สุตฺตตฺถสฺส ปริโยสาปนํ. กณฺหปกฺเข อุปเมยฺยํ ทสฺเสตฺวา ปริโยสานคมนาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ. อปเร ปน ‘‘กณฺหปกฺเข, สุกฺกปกฺเข จ ตํตํอุปมูปเมยฺยตฺถานํ วิสุํ วิสุํ ปริโยสาเปตฺวาว กถนํ ปริโยสานคมน’’นฺติ วทนฺติ. อยนฺติ นิสินฺนวตฺติกา. อิธาติ อิมสฺมึ โคปาลกสุตฺเต. สพฺพาจริยานํ อาจิณฺณาติ สพฺเพหิปิ ปุพฺพาจริเยหิ อาจริตา สํวณฺณิตา, ตถา เจว ปาฬิ ปวตฺตาติ.
องฺคียนฺติ ¶ อวยวภาเวน ายนฺตีติ องฺคานิ, โกฏฺาสา. ตานิ ปเนตฺถ ยสฺมา สาวชฺชสภาวานิ, ตสฺมา อาห ‘‘องฺเคหีติ อคุณโกฏฺาเสหี’’ติ. โคมณฺฑลนฺติ โคสมูหํ. ปริหริตุนฺติ รกฺขิตุํ. ตํ ปน ปริหรณํ ปริคฺคเหตฺวา วิจรณนฺติ อาห ‘‘ปริคฺคเหตฺวา วิจริตุ’’นฺติ. วฑฺฒินฺติ คุนฺนํ พหุภาวํ พหุโครสตาสงฺขาตํ ปริวุทฺธึ. ‘‘เอตฺตกมิท’’นฺติ รูปียตีติ ¶ รูปํ, ปริมาณปริจฺเฉโทปิ สรีรรูปมฺปีติ อาห ‘‘คณนโต วา วณฺณโต วา’’ติ. น ปริเยสติ วินฏฺภาวสฺเสว อชานนโต. นีลาติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน เสตสพลาทิวณฺณํ สงฺคณฺหาติ.
ธนุสตฺติสูลาทีติ เอตฺถ อิสฺสาสาจริยานํ คาวีสุ กตํ ธนุลกฺขณํ. กุมารภตฺติคณานํ คาวีสุ กตํ สตฺติลกฺขณํ. อิสฺสรภตฺติคณานํ คาวีสุ กตํ สูลลกฺขณนฺติ โยชนา. อาทิ-สทฺเทน รามวาสุเทวคณาทีนํ คาวีสุ กตํ ผรสุจกฺกาทิลกฺขณํ สงฺคณฺหาติ.
นีลมกฺขิกาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, ขุทฺทกมกฺขิกา เอว วา. สฏติ รุชติ เอตายาติ สาฏิกา, สํวฑฺฒา สาฏิกา อาสาฏิกา. เตนาห ‘‘วฑฺฒนฺตี’’ติอาทิ. หาเรตาติ อปเนตา.
วาเกนาติ วากปฏฺเฏน. จีรเกนาติ ปิโลติเกน. อนฺโตวสฺเสติ วสฺสกาลสฺส อพฺภนฺตเร. นิคฺคาหนฺติ สุสุมาราทิคฺคาหรหิตํ. ปีตนฺติ ปานียสฺส ปีตภาวํ. สีหพฺยคฺฆาทิปริสฺสเยน สาสงฺโก สปฺปฏิภโย.
ปฺจ อหานิ เอกสฺสาติ ปฺจาหิโก, โส เอว วาโรติ, ปฺจาหิกวาโร. เอวํ สตฺตาหิกวาโรปิ เวทิตพฺโพ. จิณฺณฏฺานนฺติ จริตฏฺานํ โคจรคฺคหิตฏฺานํ.
ปิติฏฺานนฺติ ปิตรา กาตพฺพฏฺานํ, ปิตรา กาตพฺพกิจฺจนฺติ อตฺโถ. ยถารุจึ คเหตฺวา คจฺฉนฺตีติ คุนฺนํ รุจิอนุรูปํ โคจรภูมึ วา นทิปารํ วา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ. โคภตฺตนฺติ กปฺปาสฏฺิกาทิมิสฺสํ โคภฺุชิตพฺพํ ภตฺตํ. ภตฺตคฺคหเณเนว ยาคุปิ สงฺคหิตา.
ทฺวีหากาเรหีติ วุตฺตํ อาการทฺวยํ ทสฺเสตุํ ‘‘คณนโต วา สมุฏฺานโต วา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ปาฬิยํ อาคตาติ ‘‘อุปจโย สนฺตตี’’ติ ชาตึ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา หทยวตฺถุํ อคฺคเหตฺวา ทสายตนานิ ปฺจทส ¶ สุขุมรูปานีติ เอวํ รูปกณฺฑปาฬิยํ (ธ. ส. ๖๖๖) อาคตา. ปฺจวีสติ รูปโกฏฺาสาติ สลกฺขณโต อฺมฺสงฺกราภาวโต รูปภาคา. รูปโกฏฺาสาติ วา วิสุํ วิสุํ อปฺปวตฺติตฺวา กลาปภาเวเนว ปวตฺตนโต รูปกลาปา. โกฏฺาสาติ จ อํสา อวยวาติ อตฺโถ. โกฏฺนฺติ วา สรีรํ, ตสฺส อํสา เกสาทโย โกฏฺาสาติ อฺเปิ อวยวา โกฏฺาสา วิย โกฏฺาสา.
เสยฺยถาปีติอาทิ ¶ อุปมาสํสนฺทนํ. ตตฺถ รูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ ยถาวุตฺตํ รูปํ สลกฺขณโต าเณน ปริคฺคณฺหิตฺวา. อรูปํ ววตฺถเปตฺวาติ ตํ รูปํ นิสฺสาย อารมฺมณฺจ กตฺวา ปวตฺตมาเน เวทนาทิเก จตฺตาโร ขนฺเธ อรูปนฺติ ววตฺถเปตฺวา. รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ ปุน ตตฺถ ยํ รูปฺปนลกฺขณํ, ตํ รูปํ. ตทฺํ อรูปํ. อุภยวินิมุตฺตํ กิฺจิ นตฺถิ อตฺตา วา อตฺตนิยํ วาติ เอวํ รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวา. ตทุภยฺจ อวิชฺชาทินา ปจฺจเยน สปจฺจยนฺติ ปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา, อนิจฺจตาทิลกฺขณํ อาโรเปตฺวา โย กลาปสมฺมสนาทิกฺกเมน กมฺมฏฺานํ มตฺถกํ ปาเปตุํ น สกฺโกติ, โส น วฑฺฒตีติ โยชนา.
เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานนฺติ จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ, กายายตนํ, อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสินฺทฺริยํ, ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อฏฺวิธํ กมฺมวเสน; กายวิฺตฺติ, วจีวิฺตฺตีติ อิทํ ทฺวยํ จิตฺตวเสนาติ เอตฺตกํ รูปํ เอกสมุฏฺานํ. สทฺทายตนเมกํ อุตุจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานํ. รูปสฺส ลหุตา, มุทุตา, กมฺมฺตาติ เอตฺตกํ รูปํ อุตุจิตฺตาหารวเสน ติสมุฏฺานํ. รูปายตนํ, คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฏฺพฺพายตนํ, อากาสธาตุ, อาโปธาตุ, กพฬีกาโร อาหาโรติ เอตฺตกํ รูปํ อุตุจิตฺตาหารกมฺมวเสน จตุสมุฏฺานํ. อุปจโย, สนฺตติ, ชรตา, รูปสฺส อนิจฺจตาติ เอตฺตกํ รูปํ น กุโตจิ สมุฏฺาตีติ น ชานาติ. สมุฏฺานโต รูปํ อชานนฺโตติอาทีสุ วตฺตพฺพํ ‘‘คณนโต รูปํ อชานนฺโต’’ติอาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
กมฺมลกฺขโณติ อตฺตนา กตํ ทุจฺจริตกมฺมํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ กมฺมลกฺขโณ, พาโล. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? ทุจฺจินฺติตจินฺตี โหติ, ทุพฺภาสิตภาสี, ทุกฺกฏกมฺมการี ¶ . อิมานิ โข…เป… ลกฺขณานี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๖; อ. นิ. ๓.๓). อตฺตนา กตํ สุจริตกมฺมํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ กมฺมลกฺขโณ, ปณฺฑิโต. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? สุจินฺติตจินฺตี โหติ, สุภาสิตภาสี, สุกตกมฺมการี. อิมานิ โข…เป… ปณฺฑิตลกฺขณานี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๓; อ. นิ. ๓.๓). เตนาห ‘‘กุสลากุสลกมฺมํ ปณฺฑิตพาลลกฺขณ’’นฺติ.
พาเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิเต น เสวตีติ ยํ พาลปุคฺคเล วชฺเชตฺวา ปณฺฑิตเสวนํ อตฺถกาเมน กาตพฺพํ, ตํ น กโรติ. ตถาภูตสฺส จ อยมาทีนโวติ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘พาเล วชฺเชตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ ภควตา ‘‘อิทํ โว กปฺปตี’’ติ อนฺุาตํ, ตทนุโลมฺเจ, ตํ ¶ กปฺปิยํ. ยํ ‘‘อิทํ โว น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตทนุโลมฺเจ, ตํ อกปฺปิยํ. ยํ โกสลฺลสมฺภูตํ, ตํ กุสลํ, ตปฺปฏิปกฺขํ อกุสลํ. ตเทว สาวชฺชํ, กุสลํ อนวชฺชํ. อาปตฺติโต อาทิโต ทฺเว อาปตฺติกฺขนฺธา ครุกํ, ตทฺํ ลหุกํ. ธมฺมโต มหาสาวชฺชํ ครุกํ, อปฺปสาวชฺชํ ลหุกํ. สปฺปฏิการํ สเตกิจฺฉํ, อปฺปฏิการํ อเตกิจฺฉํ. ธมฺมตานุคตํ การณํ, อิตรํ อการณํ. ตํ อชานนฺโตติ กปฺปิยากปฺปิยํ, ครุก-ลหุกํ, สเตกิจฺฉาเตกิจฺฉํ อชานนฺโต สุวิสุทฺธํ กตฺวา สีลํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ. กุสลากุสลํ, สาวชฺชานวชฺชํ, การณาการณํ อชานนฺโต ขนฺธาทีสุ อกุสลตาย รูปารูปปริคฺคหมฺปิ กาตุํ น สกฺโกติ, กุโต ตสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺฒนา. เตนาห ‘‘กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วฑฺเฒตุํ น สกฺโกตี’’ติ.
โควณสทิเส อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺถ ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต มิจฺฉาวิตกฺกา อาสาฏิกา วิยาติ อาสาฏิกาติ อาห ‘‘อกุสลวิตกฺกํ อาสาฏิกํ อหาเรตฺวา’’ติ.
‘‘คณฺโฑติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๐๓; อ. นิ. ๘.๕๖; ๙.๑๕) วจนโต ฉหิ วณมุเขหิ วิสฺสนฺทมานยูโส คณฺโฑ วิย ปิโลติกาขณฺเฑน ฉทฺวาเรหิ วิสฺสนฺทมานกิเลสาสุจิ อตฺตภาววโณ สติสํวเรน ปิทหิตพฺโพ, อยํ ปน เอวํ น กโรตีติ อาห ‘‘ยถา โส โคปาลโก วณํ น ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ สํวรํ น สมฺปาเทตี’’ติ.
ยถา ¶ ธูโม อินฺธนํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชมาโน สณฺโห สุขุโม, ตํ ตํ วิวรํ อนุปวิสฺส พฺยาเปนฺโต สตฺตานํ ฑํสมกสาทิปริสฺสยํ วิโนเทติ, อคฺคิชาลาสมุฏฺานสฺส ปุพฺพงฺคโม โหติ, เอวํ ธมฺมเทสนาาณสฺส อินฺธนภูตํ รูปารูปธมฺมชาตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชมานา สณฺหา สุขุมา ตํ ตํ ขนฺธนฺตรํ อายตนนฺตรฺจ อนุปวิสฺส พฺยาเปติ, สตฺตานํ มิจฺฉาวิตกฺกาทิปริสฺสยํ วิโนเทติ, าณคฺคิชาลาสมุฏฺาปนสฺส ปุพฺพงฺคโม โหติ, ตสฺมา ธูโม วิยาติ ธูโมติ อาห ‘‘โคปาลโก ธูมํ วิย ธมฺมเทสนาธูมํ น กโรตี’’ติ. อตฺตโน สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา นิสินฺนสฺส กาตพฺพา ตทนุจฺฉวิกา ธมฺมกถา อุปนิสินฺนกกถา. กตสฺส ทานาทิปฺุสฺส อนุโมทนกถา อนุโมทนา. ตโตติ ธมฺมกถาทีนํ อกรณโต. ‘‘พหุสฺสุโต คุณวาติ น ชานนฺตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ? นนุ อตฺตโน ชานาปนตฺถํ ธมฺมกถาทิ น กาตพฺพเมวาติ? สจฺจํ น กาตพฺพเมว, สุทฺธาสเยน ปน ธมฺเม กถิเต ตสฺส คุณชานนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. เตนาห ภควา –
‘‘นาภาสมานํ ¶ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;
ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธช’’นฺติ.
ตรนฺติ โอตรนฺติ เอตฺถาติ ติตฺถํ, นทิตฬากาทีนํ นหานปานาทิอตฺถํ โอตรณฏฺานํ. ยถา ปน ตํ อุทเกน โอติณฺณสตฺตานํ สรีรมลํ ปวาเหติ, ปริสฺสมํ วิโนเทติ, วิสุทฺธึ อุปฺปาเทติ, เอวํ พหุสฺสุตา อตฺตโน สมีปํ โอติณฺณสตฺตานํ ธมฺโมทเกน จิตฺตมลํ ปวาเหนฺติ, ปริสฺสมํ วิโนเทนฺติ, วิสุทฺธึ อุปฺปาเทนฺติ, ตสฺมา เต ติตฺถํ วิยาติ ติตฺถํ. เตนาห ‘‘ติตฺถภูเต พหุสฺสุตภิกฺขู’’ติ. พฺยฺชนํ กถํ โรเปตพฺพนฺติ, ภนฺเต, อิทํ พฺยฺชนํ อยํ สทฺโท กถํ อิมสฺมึ อตฺเถ โรเปตพฺโพ, เกน ปกาเรน อิมสฺส อตฺถสฺส วาจโก ชาโต. ‘‘นิรูเปตพฺพ’’นฺติ วา ปาโ, นิรูเปตพฺพํ อยํ สภาวนิรุตฺติ กถเมตฺถ นิรูฬฺหาติ อธิปฺปาโย. อิมสฺส ภาสิตสฺส โก อตฺโถติ สทฺทตฺถํ ปุจฺฉติ. อิมสฺมึ าเนติ อิมสฺมึ ปาฬิปฺปเทเส. ปาฬิ กึ วทตีติ ภาวตฺถํ ปุจฺฉติ. อตฺโถ กึ ทีเปตีติ ภาวตฺถํ วา? สงฺเกตตฺถํ วา. น ปริปุจฺฉตีติ วิมติจฺเฉทนปุจฺฉาวเสน สพฺพโส ปุจฺฉํ น กโรติ. น ปริปฺหตีติ ปริ ปริ อตฺตโน าตุํ อิจฺฉํ น อาจิกฺขติ, น วิภาเวติ. เตนาห ‘‘น ชานาเปตี’’ติ. เตติ พหุสฺสุตภิกฺขู. วิวรณํ นาม อตฺถสฺส วิภชิตฺวา ¶ กถนนฺติ อาห ‘‘ภาเชตฺวา น เทเสนฺตี’’ติ. อนุตฺตานีกตนฺติ าเณน อปากฏีกตํ คุยฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ. น อุตฺตานึ กโรนฺตีติ สิเนรุปาทมูเล วาลิกํ อุทฺธรนฺโต วิย ปถวีสนฺธาโรทกํ วิวริตฺวา ทสฺเสนฺโต วิย จ อุตฺตานํ น กโรนฺติ.
เอวํ ยสฺส ธมฺมสฺส วเสน พหุสฺสุตา ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุตฺตา ปริยายโต. อิทานิ ตเมว ธมฺมํ นิปฺปริยายโต ‘‘ติตฺถ’’นฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ธมฺโม หิ ตรนฺติ โอตรนฺติ เอเตน นิพฺพานํ นาม ตฬากนฺติ ‘‘ติตฺถ’’นฺติ วุจฺจติ. เตนาห ภควา สุเมธภูโต –
‘‘เอวํ กิเลสมลโธวํ, วิชฺชนฺเต อมตนฺตเฬ;
น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส อมตนฺตเฬ’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๑๔) –
ธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺโสตรณติตฺถภูตสฺส โอตรณาการํ อชานนฺโต ‘‘ธมฺมติตฺถํ น ชานาตี’’ติ วุตฺโต.
ปีตาปีตนฺติ ¶ โคคเณ ปีตํ อปีตฺจ โครูปํ น ชานาติ, น วินฺทติ. อวินฺทนฺโต หิ ‘‘น ลภตี’’ติ วุตฺโต. ‘‘อานิสํสํ น วินฺทตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อวินฺทนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมสฺสวนคฺคํ คนฺตฺวา’’ติอาทิมาห.
อยํ โลกุตฺตโรติ ปทํ สนฺธายาห ‘‘อริย’’นฺติ. ปจฺจาสตฺติาเยน อนนฺตรสฺส หิ วิปฺปฏิเสโธ วา. อริยสทฺโท วา นิทฺโทสปริยาโย ทฏฺพฺโพ. อฏฺงฺคิกนฺติ จ วิสุํ เอกชฺฌฺจ อฏฺงฺคิกํ อุปาทาย คเหตพฺพํ, อฏฺงฺคตา พาหุลฺลโต จ. เอวฺจ กตฺวา สตฺตงฺคสฺสปิ อริยมคฺคสฺส สงฺคโห สิทฺโธ โหติ.
จตฺตาโร สติปฏฺาเนติอาทีสุ อวิเสเสน สติปฏฺานา วุตฺตา. ตตฺถ กายเวทนาจิตฺตธมฺมารมฺมณา สติปฏฺานา โลกิยา, ตตฺถ สมฺโมหวิทฺธํสนวเสน ปวตฺตา นิพฺพานารมฺมณา โลกุตฺตราติ เอวํ ‘‘อิเม โลกิยา, อิเม โลกุตฺตรา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ.
อนวเสสํ ทุหตีติ ปฏิคฺคหเณ มตฺตํ อชานนฺโต กิสฺมิฺจิ ทายเก สทฺธาหานิยา, กิสฺมิฺจิ ปจฺจยหานิยา อนวเสสํ ทุหติ. วาจาย อภิหาโร วาจาภิหาโร. ปจฺจยานํ อภิหาโร ปจฺจยาภิหาโร.
‘‘อิเม ¶ อมฺเหสุ ครุจิตฺตีการํ น กโรนฺตี’’ติ อิมินา นวกานํ ภิกฺขูนํ สมฺมาปฏิปตฺติยา อภาวํ ทสฺเสติ อาจริยุปชฺฌาเยสุ ปิตุเปมสฺส อนุปฏฺาปนโต, เตน จ สิกฺขาคารวตาภาวทีปเนน สงฺคหสฺส อภาชนภาวํ, เตน เถรานํ เตสุ อนุคฺคหาภาวํ. น หิ สีลาทิคุเณหิ สาสเน ถิรภาวปฺปตฺตา อนนุคฺคเหตพฺเพ สพฺรหฺมจารี อนุคฺคณฺหนฺติ, นิรตฺถกํ วา อนุคฺคหํ กโรนฺติ. เตนาห ‘‘นวเก ภิกฺขู’’ติอาทิ. ธมฺมกถาพนฺธนฺติ ปเวณิอาคตํ ปกิณฺณกธมฺมกถามคฺคํ. สจฺจสตฺตปฺปฏิสนฺธิปจฺจยาการปฺปฏิสํยุตฺตํ สฺุตาทีปนํ คุฬฺหคนฺถํ. วุตฺตวิปลฺลาสวเสนาติ ‘‘น รูปฺู’’ติอาทีสุ วุตฺตสฺส ปฏิเสธสฺส ปฏิกฺเขปวเสน อคฺคหณวเสน. โยเชตฺวาติ ‘‘รูปฺู โหตีติ คณนโต วา วณฺณโต วา รูปํ ชานาตี’’ติอาทินา, ‘‘ตสฺส โคคโณปิ น ปริหายติ, ปฺจโครสปริโภคโตปิ น ปริพาหิโร โหตี’’ติอาทินา จ อตฺถํ โยเชตฺวา. เวทิตพฺโพติ ตสฺมึ ตสฺมึ ปเท ยถารหํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
โคปาลสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ¶ มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
เอกาทสกนิปาตวณฺณนาย อนุตฺตานตฺถทีปนา สมตฺตา.
นิฏฺิตา จ มโนรถปูรณิยา องฺคุตฺตรนิกาย-อฏฺกถาย
อนุตฺตานตฺถปทวณฺณนา.
นิคมนกถาวณฺณนา
มหาอฏฺกถาย ¶ สารนฺติ องฺคุตฺตรมหาอฏฺกถาย สารํ. เอกูนสฏฺิมตฺโตติ โถกํ อูนภาวโต มตฺตสทฺทคฺคหณํ. มูลฏฺกถาสารนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตองฺคุตฺตรมหาอฏฺกถาย สารเมว อนุนิคมวเสน วทติ. อถ วา มูลฏฺกถาสารนฺติ โปราณฏฺกถาสุ อตฺถสารํ. เตเนทํ ทสฺเสติ – องฺคุตฺตรมหาอฏฺกถาย อตฺถสารํ อาทาย อิมํ มโนรถปูรณึ กโรนฺโต เสสมหานิกายานมฺปิ มูลฏฺกถาสุ อิธ วินิโยคกฺขมํ อตฺถสารํ อาทาย เอวมกาสินฺติ. มหาวิหาราธิวาสีนนฺติ จ อิทํ ปุริมปจฺฉิมปเทหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘มหาวิหาราธิวาสีนํ สมยํ ปกาสยนฺตี, มหาวิหาราธิวาสีนํ มูลฏฺกถาสารํ อาทายา’’ติ. เตนาติ ปฺุเน. โหตุ สพฺโพ สุขี โลโกติ กามาวจราทิวิภาโค สพฺโพ สตฺตโลโก ยถารหํ โพธิตฺตยาธิคมวเสน สมฺปตฺเตน นิพฺพานสุเขน สุขี สุขิโต โหตูติ สเทวกสฺส โลกสฺส อจฺจนฺตํ สุขาธิคมาย อตฺตโน ปฺุํ ปริณาเมติ.
เอตฺตาวตา สมตฺตาว, สพฺพโส วณฺณนา อยํ;
วีสติยา สหสฺเสหิ, คนฺเถหิ ปริมาณโต.
โปราณานํ กถามคฺค-สารเมตฺถ ยโต ิตํ;
ตสฺมา สารตฺถมฺชูสา, อิติ นาเมน วิสฺสุตา.
อชฺเฌสิโต นรินฺเทน, โสหํ ปรกฺกมพาหุนา;
สทฺธมฺมฏฺิติกาเมน, สาสนุชฺโชตการินา.
เตเนว การิเต รมฺเม, ปาสาทสตมณฺฑิเต;
นานาทุมคณากิณฺเณ, ภาวนาภิรตาลเย.
สีตลูทกสมฺปนฺเน ¶ , วสํ เชตวเน อิมํ;
อตฺถพฺยฺชนสมฺปนฺนํ, อกาสึ สาธุสมฺมตํ.
ยํ สิทฺธํ อิมินา ปฺุํ, ยํ จฺํ ปสุตํ มยา;
เอเตน ปฺุกมฺเมน, ทุติเย อตฺตสมฺภเว.
ตาวตึเส ปโมเทนฺโต, สีลาจารคุเณ รโต;
อลคฺโค ปฺจกาเมสุ, ปตฺวาน ปมํ ผลํ.
อนฺติเม ¶ อตฺตภาวมฺหิ, เมตฺเตยฺยํ มุนิปุงฺควํ;
โลกคฺคปุคฺคลํ นาถํ, สพฺพสตฺตหิเต รตํ.
ทิสฺวาน ตสฺส ธีรสฺส, สุตฺวา สทฺธมฺมเทสนํ;
อธิคนฺตฺวา ผลํ อคฺคํ, โสเภยฺยํ ชินสาสนํ.
สทา รกฺขนฺตุ ราชาโน, ธมฺเมเนว อิมํ ปชํ;
นิรตา ปฺุกมฺเมสุ, โชเตนฺตุ ชินสาสนํ.
อิเม จ ปาณิโน สพฺเพ, สพฺพทา นิรุปทฺทวา;
นิจฺจํ กลฺยาณสงฺกปฺปา, ปปฺโปนฺตุ อมตํ ปทนฺติ.
องฺคุตฺตรฏีกา สมตฺตา.