📜
๔. ทานวคฺโค
๑-๔. ปมทานสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๑-๓๔. จตุตฺถสฺส ¶ ปเม อาสชฺชาติ ยสฺส เทติ, ตสฺส อาคมนเหตุ เตน สมาคมนิมิตฺตํ. ภยาติ ภยเหตุ. นนุ ภยํ นาม ลทฺธกามตาราคาทโย วิย เจตนาย อวิสุทฺธิกรํ, ตํ กสฺมา อิธ คหิตนฺติ? นยิทํ ตาทิสํ โวหารภยาทึ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ อทายโก อการโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. อทาสิ เมติ ยํ ปุพฺเพ กตํ อุปการํ จินฺเตตฺวา ¶ ทียติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทสฺสติ เมติ ปจฺจุปการาสีสาย ยํ ทียติ, ตํ สนฺธาย วทติ. สาหุ ทานนฺติ ทานํ นาเมตํ ปณฺฑิตปฺตฺตนฺติ สาธุสมาจาเร ตฺวา เทติ. อลงฺการตฺถนฺติ อุปโสภนตฺถํ. ทานฺหิ ทตฺวา ตํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปาโมชฺชปีติโสมนสฺสาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, โลภโทสอิสฺสามจฺเฉราทโยปิ วิทูรี ภวนฺติ. อิทานิ ทานํ อนุกูลธมฺมปริพฺรูหเนน ปจฺจนีกธมฺมวิทูรีกรเณน จ ภาวนาจิตฺตสฺส อุปโสภนาย จ ปริกฺขาราย จ โหตีติ ‘‘อลงฺการตฺถฺเจว ปริกฺขารตฺถฺจ เทตี’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ทานฺหิ จิตฺตํ มุทุํ กโรตี’’ติอาทิ. มุทุจิตฺโต โหติ ลทฺธา ทายเก ‘‘อิมินา มยฺหํ สงฺคโห กโต’’ติ, ทาตาปิ ลทฺธริ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุภินฺนมฺปิ จิตฺตํ มุทุํ กโรตี’’ติ.
อทนฺตทมนนฺติ อทนฺตา อนสฺสวาปิสฺส ทาเนน ทนฺตา อสฺสวา โหนฺติ, วเส วตฺตนฺติ. อทานํ ทนฺตทูสกนฺติ อทานํ ปุพฺเพ ทนฺตานํ อสฺสวานมฺปิ วิฆาตุปฺปาทเนน จิตฺตํ ทูเสติ. อุนฺนมนฺติ ทายกา ปิยํวทา จ ปเรสํ ครุจิตฺตีการฏฺานตาย. นมนฺติปฏิคฺคาหกา ทาเนน ปิยวาจาย จ ลทฺธสงฺคหาสงฺคาหกานํ.
จิตฺตาลงฺการทานเมว อุตฺตมํ อนุปกฺกิลิฏฺตาย สุปริสุทฺธตาย คุณวิเสสปจฺจยตาย จ. ทุติยาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
ปมทานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ทานูปปตฺติสุตฺตวณฺณนา
๓๕. ปฺจเม ¶ ทานปจฺจยาติ ทานการณา, ทานมยปฺุสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตาติ อตฺโถ. อุปปตฺติโยติ มนุสฺเสสุ เทเวสุ จ นิพฺพตฺติโย. เปตีติ เอกวารเมว อนุปฺปชฺชิตฺวา ยถา อุปริ เตเนวากาเรน ปวตฺตติ, เอวํ เปติ. ตเทว จสฺส อธิฏฺานนฺติ อาห ‘‘ตสฺเสว เววจน’’นฺติ. วฑฺเฒตีติ พฺรูเหติ น หาเปติ. วิมุตฺตนฺติ อธิมุตฺตํ, นินฺนํ โปณํ ปพฺภารนฺติ อตฺโถ. วิมุตฺตนฺติ วา วิสฺสฏฺํ. นิปฺปริยายโต อุตฺตริ นาม ปณีตํ มชฺเฌปิ หีนมชฺฌิมวิภาคสฺส ลพฺภนโตติ วุตฺตํ ‘‘อุตฺตริ อภาวิตนฺติ ตโต อุปริมคฺคผลตฺถาย อภาวิต’’นฺติ. สํวตฺตติ ตถาปณิหิตํ ทานมยํ จิตฺตํ. ยํ ปน ปาฬิยํ ‘‘ตฺจ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตํ ตตฺรุปปตฺติยา วิพนฺธกรทุสฺสีลฺยาภาวทสฺสนปรํ ทฏฺพฺพํ, น ทานมยสฺส ปฺุสฺส เกวลสฺส ตํสํวตฺตนตาทสฺสนปรนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมุจฺฉินฺนราคสฺสาติ สมุจฺฉินฺนกามราคสฺส. ตสฺส หิ ¶ สิยา พฺรหฺมโลเก อุปปตฺติ, น สมุจฺฉินฺนภวราคสฺส. วีตราคคฺคหเณน เจตฺถ กาเมสุ วีตราคตา อธิปฺเปตา, ยาย พฺรหฺมโลกูปปตฺติ สิยา. เตนาห ‘‘ทานมตฺเตเนวา’’ติอาทิ. ยทิ เอวํ ทานํ ตตฺถ กิมตฺถิยนฺติ อาห ‘‘ทานํ ปนา’’ติอาทิ. ทาเนน มุทุจิตฺโตติ พทฺธาฆาเต เวริปุคฺคเลปิ อตฺตโน ทานสมฺปฏิจฺฉเนน มุทุภูตจิตฺโต.
ทานูปปตฺติสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปฺุกิริยวตฺถุสุตฺตวณฺณนา
๓๖. ฉฏฺเ ปุชฺชภวผลํ นิพฺพตฺเตนฺติ, อตฺตโน สนฺตานํ ปุนนฺตีติ วา ปฺุานิ จ ตานิ เหตุปจฺจเยหิ กตฺตพฺพโต กิริยา จาติ ปฺุกิริยา, ตาเยว จ เตสํ เตสํ ปิยมนาปตาทิอานิสํสานํ วตฺถุภาวโต ปฺุกิริยวตฺถูนิ.
อนุจฺฉินฺนภวมูลสฺส อนุคฺคหวเสน, ปูชาวเสน วา อตฺตโน เทยฺยธมฺมสฺส ปรสฺส ปริจฺจาคเจตนา ทียติ เอเตนาติ ทานํ, ทานเมว ทานมยํ. ปทปูรณมตฺตํ มย-สทฺโท. จีวราทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕), อนฺนาทีสุ วา ¶ ทสสุ ทานวตฺถูสุ, รูปาทีสุ วา ฉสุ อารมฺมเณสุ ตํ ตํ เทนฺตสฺส เตสํ อุปฺปาทนโต ปฏฺาย ปุพฺพภาเค ปริจฺจาคกาเล ปจฺฉา โสมนสฺสจิตฺเตน อนุสฺสรเณ จาติ ตีสุ กาเลสุ ปวตฺตเจตนา ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ นาม.
นิจฺจสีลอุโปสถสีลาทิวเสน ปฺจ อฏฺ ทส วา สีลานิ สมาทิยนฺตสฺส ‘‘สีลปูรณตฺถํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วิหารํ คจฺฉนฺตสฺส ปพฺพชนฺตสฺส, มโนรถํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ‘‘ปพฺพชิโต วตมฺหิ สาธุ สุฏฺู’’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส, สทฺธาย ปาติโมกฺขํ ปริปูเรนฺตสฺส, ปฺาย จีวราทิเก ปจฺจเย ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส, สติยา อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ จกฺขุทฺวาราทีนิ สํวรนฺตสฺส, วีริเยน อาชีวํ โสเธนฺตสฺส จ ปวตฺตเจตนา สีลติ, สีเลตีติ วา สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ นาม.
ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) วุตฺเตน วิปสฺสนามคฺเคน จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตสฺส, โสตํ…เป… ฆานํ…เป… ชิวฺหํ…เป… กายํ…เป… รูเป…เป… ธมฺเม…เป… จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ…เป… จกฺขุสมฺผสฺสํ ¶ …เป… มโนสมฺผสฺสํ…เป… จกฺขุสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… มโนสมฺผสฺสชํ เวทนํ…เป… ชรามรณํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตสฺส ยา เจตนา, ยา จ ปถวีกสิณาทีสุ สพฺพาสุ อฏฺตฺตึสาย อารมฺมเณสุ ปวตฺตา ฌานเจตนา, ยา จ อนวชฺเชสุ กมฺมายตนสิปฺปายตนวิชฺชาฏฺาเนสุ ปริจยมนสิการาทิวเสน ปวตฺตา เจตนา, สพฺพา สา ภาเวติ เอตายาติ ภาวนามยํ วุตฺตนเยน ปฺุกิริยวตฺถุ จาติ ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ.
เอกเมกฺเจตฺถ ยถารหํ ปุพฺพภาคโต ปฏฺาย กโรนฺตสฺส กายกมฺมํ โหติ. ตทตฺถํ วาจํ นิจฺฉาเรนฺตสฺส วจีกมฺมํ. กายงฺคํ วาจงฺคฺจ อโจเปตฺวา มนสา จินฺตยนฺตสฺส มโนกมฺมํ. อนฺนาทีนิ เทนฺตสฺส จาปิ ‘‘อนฺนทานาทีนิ เทมี’’ติ วา, ทานปารมึ อาวชฺเชตฺวา วา ทานกาเล ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ. ยถา หิ เกวลํ ‘‘อนฺนทานาทีนิ เทมี’’ติ ทานกาเล ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ, เอวํ ‘‘อิทํ ทานมยํ สมฺมาสมฺโพธิยา ปจฺจโย โหตู’’ติ ทานปารมึ อาวชฺเชตฺวา ทานกาเลปิ ทานสีเสเนว ปวตฺติตตฺตา. วตฺตสีเส ตฺวา ททนฺโต ‘‘เอตํ ทานํ นาม มยฺหํ ¶ กุลวํสเหตุ ปเวณิจาริตฺต’’นฺติ จาริตฺตสีเสน วา เทนฺโต จาริตฺตสีลตฺตา สีลมยํ. ขยโต วยโต สมฺมสนํ ปฏฺเปตฺวา ททโต ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ. ยถา หิ เทยฺยธมฺมปริจฺจาควเสน วตฺตมานาปิ ทานเจตนา วตฺตสีเส ตฺวา ททโต สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ โหติ ปุพฺพาภิสงฺขารสฺส อปรภาเค เจตนาย จ ตถาปวตฺตตฺตา.
ปฺุกิริยวตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗-๘. สปฺปุริสทานสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๗-๓๘. สตฺตเม วิเจยฺย เทตีติ เอตฺถ ทฺเว วิจินนานิ ทกฺขิเณยฺยวิจินนํ, ทกฺขิณาวิจินนฺจ. เตสุ วิปนฺนสีเล อิโต พหิทฺธา ปฺจนวุติ ปาสณฺฑเภเท จ ทกฺขิเณยฺเย ปหาย สีลาทิคุณสมฺปนฺนานํ สาสเน ปพฺพชิตานํ ทานํ ทกฺขิเณยฺยวิจินนํ นาม. ลามกลามเก ปจฺจเย อปเนตฺวา ปณีตปณีเต วิจินิตฺวา เตสํ ทานํ ทกฺขิณาวิจินนํ นาม. เตนาห ‘‘อิมสฺส ทินฺนํ มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’’ติอาทิ. อฏฺเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
สปฺปุริสทานสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙-๑๐. อภิสนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา
๓๙-๔๐. นวเม ¶ ปฺุาภิสนฺทาติ ปฺุนทิโย. กุสลาภิสนฺทาติ กุสลานํ ปวาหา. สุขสฺสาหาราติ สุขปจฺจยา. อคฺคานีติ าตตฺตา อคฺคฺานิ. จิรรตฺตํ าตตฺตา รตฺตฺานิ. อริยานํ สาธูนํ วํสานีติ าตตฺตา วํสฺานิ. โปราณานํ อาทิปุริสานํ เอตานีติ โปราณานิ. สพฺพโส เกนจิปิ ปกาเรน สาธูหิ น กิณฺณานิ น ขิตฺตานิ ฉฑฺฑิตานีติ อสํกิณฺณานิ. อยฺจ นโย เนสํ ยถา อตีเต, เอวํ เอตรหิ อนาคเต จาติ อาห ‘‘อสํกิณฺณปุพฺพานิ น สํกิยนฺติ น สํกิยิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต เอว อปฺปฏิกุฏฺานิ. น หิ กทาจิ วิฺู สมณพฺราหฺมณา หึสาทิปาปธมฺมํ อนุชานนฺติ. อปริมาณานํ สตฺตานํ อภยํ เทตีติ สพฺเพสุ ¶ ภูเตสุ นิหิตทณฺฑตฺตา สกลสฺสปิ สตฺตกายสฺส ภยาภาวํ เทติ. อเวรนฺติ เวราภาวํ. อพฺยาพชฺฌนฺติ นิทฺทุกฺขตํ. เอวเมตฺถ สงฺเขปโต ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพา. ทสเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
อภิสนฺทสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทานวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.