📜

๕. อุโปสถวคฺโค

๑-๘. สํขิตฺตูโปสถสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๑-๔๘. ปฺจมสฺส ปมาทีสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ. ฉฏฺเ (สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑๖๕) ปฺจ องฺคานิ เอตสฺสาติ ปฺจงฺคํ, ปฺจงฺคเมว ปฺจงฺคิกํ, ตสฺส ปฺจงฺคิกสฺส. มหตี ททฺทรี วีณาวิเสโสปิ อาตตเมวาติ ‘‘จมฺมปริโยนทฺเธสู’’ติ วิเสสนํ กตํ. เอกตลตูริยํ กุมฺภถุนททฺทริกาทิ. อุภยตลํ เภริมุทิงฺคาทิ. จมฺมปริโยนทฺธํ หุตฺวา วินิพทฺธํ อาตตวิตตํ. สพฺพโส ปริโยนทฺธํ นาม จตุรสฺสอมฺพณํ ปณวาทิ จ. โคมุขีอาทีนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วํสาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺขาทีนํ สงฺคโห. สมฺมาทีติ สมฺมตาฬกํสตาฬสิลาสลากตาฬาทิ. ตตฺถ สมฺมตาฬํ นาม ทนฺตมยตาฬํ. กํสตาฬํ โลหมยํ. สิลามยํ อโยปตฺเตน จ วาทนตาฬํ สิลาสลากตาฬํ. สุมุจฺฉิตสฺสาติ สุฏฺุ ปฏิยตฺตสฺส. ปมาเณติ นาติทฬฺหนาติสิถิลสงฺขาเต มชฺฌิเม มุจฺฉนาปมาเณ. เฉโกติ ปฏุ ปฏฺโ. โส จสฺส ปฏุภาโว มโนหโรติ อาห ‘‘สุนฺทโร’’ติ. รฺเชตุนฺติ ราคํ อุปฺปาเทตุํ. ขมเตวาติ โรจเตว. น นิพฺพินฺทตีติ น ตชฺเชติ, โสตสุขภาวโต ปิยายิตพฺโพว โหติ.

ภตฺตารํ นาติมฺตีติ สามิกํ มุฺจิตฺวา อฺํ มนสาปิ น ปตฺเถติ. อุฏฺาหิกาติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนา. อนลสาติ นิกฺโกสชฺชา. สงฺคหิตปริชฺชนาติ สมฺมานนาทีหิ เจว ฉณาทีสุ เปเสตพฺพ-ปิยภณฺฑาทิปณฺณาการเปสนาทีหิ จ สงฺคหิตปริชนา. อิธ ปริชโน นาม สามิกสฺส เจว อตฺตโน จ าติชโน. สมฺภตนฺติ กสิวณิชฺชาทีนิ กตฺวา อาภตธนํ. สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถานิ.

สํขิตฺตูโปสถสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙-๑๐. ปมอิธโลกิกสุตฺตาทิวณฺณนา

๔๙-๕๐. นวเม อิธโลกวิชยายาติ อิธโลกวิชินนตฺถาย อภิภวตฺถาย. โย หิ ทิฏฺธมฺมิกํ อนตฺถํ ปริวชฺชนวเสน อภิภวติ, ตโต เอว ตทตฺถํ สมฺปาเทติ, โส อิธโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ ปจฺจตฺถิกนิคฺคณฺหนโต สทตฺถสมฺปาทนโต จ. เตนาห ‘‘อยํส โลโก อารทฺโธ โหตี’’ติ. (ปสํสาวหโต ตยิทํ ปสํสาวหนํ กิตฺติสทฺเทน อิธโลเก สทฺทานํ จิตฺตโตสนวิทฺเธยฺยภาวาปาทเนน จ โหตีติ ทฏฺพฺพํ.) สุสํวิหิตกมฺมนฺโตติ ยาคุภตฺตปจนกาลาทีนิ อนติกฺกมิตฺวา ตสฺส ตสฺส สาธุกํ กรเณน สุฏฺุ สํวิหิตกมฺมนฺโต. ปรโลกวิชยายาติ ปรโลกสฺส วิชินนตฺถาย อภิภวตฺถาย. โย หิ สมฺปรายิกํ อนตฺถํ ปริวชฺชนวเสน อภิภวติ, ตโต เอว ตทตฺถํ สมฺปาเทติ, โส ปรโลกวิชยาย ปฏิปนฺโน นาม โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.

ปมอิธโลกิกสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

อุโปสถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปมปณฺณาสกํ นิฏฺิตํ.

๒. ทุติยปณฺณาสกํ