📜
(๖) ๑. โคตมีวคฺโค
๑-๓. โคตมีสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๑-๕๓. ฉฏฺสฺส ¶ ¶ ปเม (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๔๐๒) โคตมีติ โคตฺตํ. นามกรณทิวเส ปนสฺสา ลทฺธสกฺการา พฺราหฺมณา ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘สเจ อยํ ธีตรํ ลภิสฺสติ, จกฺกวตฺติรฺโ มเหสี ภวิสฺสติ. สเจ ปุตฺตํ ลภิสฺสติ, จกฺกวตฺติราชา ภวิสฺสตีติ อุภยถาปิ มหตีเยวสฺสา ปชา ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อถสฺสา ‘‘มหาปชาปตี’’ติ นามํ อกํสุ. เตนาห ‘‘ปุตฺตปชาย เจว ธีตุปชาย จ มหนฺตตฺตา เอวํลทฺธนามา’’ติ.
‘‘อตฺตทณฺฑา ภยํ ชาตํ, ชนํ ปสฺสถ เมธคํ;
สํเวคํ กิตฺตยิสฺสามิ, ยถา สํวิชิตํ มยา’’ติ. (สุ. นิ. ๙๔๑; มหานิ. ๑๗๐) –
อาทินา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ กเถสิ. ตํตํปโลภนกิริยา กายวาจาหิ ปรกฺกมนฺติโย อุกฺกณฺนฺตูติ สาสนํ เปเสนฺติ นามาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สาสนํ เปเสตฺวา’’ติ. กุณาลทหนฺติ กุณาลทหตีรํ. อนภิรตึ วิโนเทตฺวาติ อิตฺถีนํ โทสทสฺสนมุเขน กามานํ โวการสํกิเลสวิภาวเนน อนภิรตึ วิโนเทตฺวา.
อาปาทิกาติ สํวทฺธกา, ตุมฺหากํ หตฺถปาเทสุ กิจฺจํ อสาเธนฺเตสุ หตฺเถ จ ปาเท จ วฑฺเฒตฺวา ปฏิชคฺคิตาติ อตฺโถ. โปสิกาติ ทิวสสฺส ทฺเว ตโย วาเร นหาเปตฺวา โภเชตฺวา ปาเยตฺวา ตุมฺเห โปเสสิ. ถฺํ ปาเยสีติ นนฺทกุมาโร กิร โพธิสตฺตโต กติปาเหเนว ทหโร, ตสฺมึ ชาเต มหาปชาปตี อตฺตโน ปุตฺตํ ธาตีนํ ทตฺวา สยํ โพธิสตฺตสฺส ธาติกิจฺจํ สาธยมานา อตฺตโน ถฺํ ปาเยสิ. ตํ สนฺธาย เถโร เอวมาห. ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพฺเ ¶ ิโต. มณฺฑนกชาติโกติ อลงฺการสภาโว. ตตฺถ โกจิ ตรุโณปิ ยุวา น โหติ ยถา อติตรุโณ. โกจิ ยุวาปิ มณฺฑนกชาติโก น โหติ ยถา อุปสนฺตสภาโว, อาลสิยพฺยสนาทีหิ วา อภิภูโต. อิธ ปน ทหโร ¶ เจว ยุวา จ มณฺฑนกชาติโก จ อธิปฺเปโต, ตสฺมา เอวมาห. อุปฺปลาทีนิ มณฺฑนกชาติโก จ โลกสมฺมตตฺตา วุตฺตานิ.
มาตุคามสฺส ปพฺพชิตตฺตาติ อิทํ ปฺจวสฺสสตโต อุทฺธํ อฏฺตฺวา ปฺจสุเยว วสฺสสเตสุ สทฺธมฺมฏฺิติยา การณนิทสฺสนํ. ปฏิสมฺภิทาปเภทปฺปตฺตขีณาสววเสเนว วุตฺตนฺติ เอตฺถ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตขีณาสวคฺคหเณน ฌานานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ. น หิ นิชฺฌานกานํ สพฺพปฺปการสมฺปตฺติ อิชฺฌตีติ วทนฺติ. สุกฺขวิปสฺสกขีณาสววเสน วสฺสสหสฺสนฺติอาทินา จ ยํ วุตฺตํ, ตํ ขนฺธกภาณกานํ มเตน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วินยฏฺกถายมฺปิ (จูฬว. อฏฺ. ๔๐๓) อิมินาว นเยน วุตฺตํ.
ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๖๑) ปน ‘‘ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตหิ วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสิ, ฉฬภิฺเหิ วสฺสสหสฺสํ, เตวิชฺเชหิ วสฺสสหสฺสํ, สุกฺขวิปสฺสเกหิ วสฺสสหสฺสํ, ปาติโมกฺเขน วสฺสสหสฺสํ อฏฺาสี’’ติ วุตฺตํ. อิธาปิ สาสนนฺตรธานกถายํ (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๐) ‘‘พุทฺธานฺหิ ปรินิพฺพานโต วสฺสสหสฺสเมว ปฏิสมฺภิทา นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกนฺติ, ตโต ปรํ ฉ อภิฺา, ตโต ตาปิ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา ติสฺโส วิชฺชา นิพฺพตฺเตนฺติ, คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ตาปิ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา สุกฺขวิปสฺสกา โหนฺติ. เอเตเนว อุปาเยน อนาคามิโน, สกทาคามิโน, โสตาปนฺนา’’ติ วุตฺตํ.
สํยุตฺตนิกายฏฺกถายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๖) ปน ‘‘ปมโพธิยฺหิ ภิกฺขู ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตา อเหสุํ. อถ กาเล คจฺฉนฺเต ปฏิสมฺภิทา ปาปุณิตุํ น สกฺขึสุ, ฉฬภิฺา อเหสุํ. ตโต ฉ อภิฺา ปตฺตุํ อสกฺโกนฺตา ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณึสุ. อิทานิ กาเล คจฺฉนฺเต ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺตา อาสวกฺขยมตฺตํ ปาปุณิสฺสนฺติ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา อนาคามิผลํ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา สกทาคามิผลํ, ตมฺปิ อสกฺโกนฺตา โสตาปตฺติผลํ, คจฺฉนฺเต กาเล โสตาปตฺติผลมฺปิ ปตฺตุํ น สกฺขิสฺสนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา เจตํ สพฺพํ อฺมฺปฺปฏิวิรุทฺธํ, ตสฺมา เตสํ เตสํ ภาณกานํ มตเมว อาจริเยน ตตฺถ ตตฺถ ทสฺสิตนฺติ คเหตพฺพํ. อฺถา หิ อาจริยสฺเสว ปุพฺพาปรวิโรธปฺปสงฺโค สิยาติ.
ตานิเยวาติ ¶ ตานิเยว ปฺจวสฺสสหสฺสานิ. ปริยตฺติมูลกํ สาสนนฺติ อาห ‘‘น หิ ปริยตฺติยา ¶ อสติ ปฏิเวโธ อตฺถี’’ติอาทิ. ปริยตฺติยา หิ อนฺตรหิตาย ปฏิปตฺติอนฺตรธายติ, ปฏิปตฺติยา อนฺตรหิตาย อธิคโม อนฺตรธายติ. กึการณา? อยฺหิ ปริยตฺติ ปฏิปตฺติยา ปจฺจโย โหติ, ปฏิปตฺติ อธิคมสฺส. อิติ ปฏิปตฺติโตปิ ปริยตฺติเยว ปมาณํ. ทุติยตติเยสุ นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
โคตมีสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔-๕. ทีฆชาณุสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๔-๕๕. จตุตฺเถ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๒๖๕) เอเกน โภเค ภฺุเชยฺยาติ เอเกน โกฏฺาเสน โภเค ภฺุเชยฺย, วินิภฺุเชยฺย วาติ อตฺโถ. ทฺวีหิ กมฺมนฺติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ กสิวณิชฺชาทิกมฺมํ ปโยเชยฺย. นิธาเปยฺยาติ จตุตฺถโกฏฺาสํ นิเธตฺวา เปยฺย, นิทหิตฺวา ภูมิคตํ กตฺวา เปยฺยาติ อตฺโถ. อาปทาสุ ภวิสฺสตีติ กุลานฺหิ น สพฺพกาลํ เอกสทิสํ วตฺตติ, กทาจิ ราชอคฺคิโจรทุพฺภิกฺขาทิวเสน อาปทา อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา เอวํ อาปทาสุ อุปฺปนฺนาสุ ภวิสฺสตีติ เอกํ โกฏฺาสํ นิธาเปยฺยาติ วุตฺตํ. อิเมสุ ปน จตูสุ โกฏฺาเสสุ กตรํ โกฏฺาสํ คเหตฺวา กุสลํ กาตพฺพนฺติ? ‘‘โภเค ภฺุเชยฺยา’’ติ วุตฺตโกฏฺาสํ. ตโต คณฺหิตฺวา หิ ภิกฺขูนมฺปิ กปณทฺธิกานมฺปิ ทานํ ทาตพฺพํ, เปสการนฺหาปิตาทีนมฺปิ เวตนํ ทาตพฺพํ. สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกาทีนํ ทานวเสน เจว, อธิวตฺถเทวตาทีนํ เปตพลิวเสน, นฺหาปิตาทีนํ เวตนวเสน จ วินิโยโคปิ อุปโยโค เอว.
อเปนฺติ คจฺฉนฺติ, อเปนฺตา วา เอเตหีติ อปายา, อปายา เอว มุขานิ ทฺวารานีติ อปายมุขานิ. วินาสทฺวารานีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปฺจเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ทีฆชาณุสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๘. ภยสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๖-๕๘. ฉฏฺเ ¶ คพฺภวาโส อิธ อุตฺตรปทโลเปน คพฺโภ วุตฺโตติ อาห ‘‘คพฺโภติ คพฺภวาโส’’ติ. สตฺตมฏฺมานิ อุตฺตานตฺถานิ.
ภยสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖-๑๐. ปุคฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา
๕๙-๖๐. นวเม ¶ ทานํ ททนฺตานนฺติ ทกฺขิเณยฺยํ อุทฺทิสฺส ทานํ เทนฺตานํ. อุปธี วิปจฺจนฺติ เอเตน, อุปธีสุ วา วิปจฺจติ, อุปธโย วา วิปากา เอตสฺสาติ อุปธิวิปากํ. สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ อริยสงฺเฆ ทินฺนํ วิปฺผารฏฺานํ โหติ, วิปุลผลนฺติ อตฺโถ. ทสเม นตฺถิ วตฺตพฺพํ.
ปุคฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
โคตมีวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.