📜
๑. สรณตฺตยวณฺณนา
พุทฺธวิภาวนา
อิทานิ ¶ ยํ วุตฺตํ ‘‘พุทฺธํ สรณคมนํ, คมกฺจ วิภาวเย’’ติ, ตตฺถ สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณนิมิตฺตานุตฺตรวิโมกฺขาธิคมปริภาวิตํ ขนฺธสนฺตานมุปาทาย, ปฺตฺติโต สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานํ วา สจฺจาภิสมฺโพธิมุปาทาย ปฺตฺติโต สตฺตวิเสโส พุทฺโธ. ยถาห –
‘‘พุทฺโธติ ¶ โย โส ภควา สยมฺภู อนาจริยโก ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปตฺโต, พเลสุ จ วสีภาว’’นฺติ (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๑).
อยํ ตาว อตฺถโต พุทฺธวิภาวนา.
พฺยฺชนโต ปน ‘‘พุชฺฌิตาติ พุทฺโธ, โพเธตาติ พุทฺโธ’’ติ เอวมาทินา นเยน เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘พุทฺโธติ เกนฏฺเน พุทฺโธ? พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ, สพฺพฺุตาย พุทฺโธ, สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธ, อนฺเนยฺยตาย พุทฺโธ, วิกสิตาย ¶ พุทฺโธ, ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธ, นิรุปกฺกิเลสสงฺขาเตน พุทฺโธ, เอกนฺตวีตราโคติ พุทฺโธ, เอกนฺตวีตโทโสติ พุทฺโธ, เอกนฺตวีตโมโหติ พุทฺโธ, เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ พุทฺโธ, เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธ, เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ พุทฺโธ, อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภา พุทฺโธ. พุทฺโธติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ, น ปิตรา กตํ, น ภาตรา กตํ, น ภคินิยา กตํ, น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ, น าติสาโลหิเตหิ กตํ, น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ, น เทวตาหิ กตํ, วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา สจฺฉิกา ¶ ปฺตฺติ ยทิทํ พุทฺโธ’’ติ (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒).
เอตฺถ จ ยถา โลเก อวคนฺตา อวคโตติ วุจฺจติ, เอวํ พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ. ยถา ปณฺณโสสา วาตา ปณฺณสุสาติ วุจฺจนฺติ, เอวํ โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ. สพฺพฺุตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมพุชฺฌนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธติ สพฺพธมฺมโพธนสมตฺถาย พุทฺธิยา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. อนฺเนยฺยตาย พุทฺโธติ อฺเน อโพธิโต สยเมว พุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. วิกสิตาย พุทฺโธติ นานาคุณวิกสนโต ปทุมมิว วิกสนฏฺเน พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธติ เอวมาทีหิ จิตฺตสงฺโกจกรธมฺมปหานโต ¶ นิทฺทากฺขยวิพุทฺโธ ปุริโส วิย สพฺพกิเลสนิทฺทากฺขยวิพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ. เอกายนมคฺคํ คโตติ พุทฺโธติ พุทฺธิยตฺถานํ คมนตฺถปริยายโต ยถา มคฺคํ คโตปิ ปุริโส คโตติ วุจฺจติ, เอวํ เอกายนมคฺคํ คตตฺตาปิ พุทฺโธติ วุจฺจตีติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ พุทฺโธติ น ปเรหิ พุทฺธตฺตา พุทฺโธ, กินฺตุ สยเมว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺธตฺตา พุทฺโธติ วุตฺตํ โหติ ¶ . อพุทฺธิวิหตตฺตา พุทฺธิปฏิลาภา พุทฺโธติ พุทฺธิ พุทฺธํ โพโธติ ปริยายวจนเมตํ. ตตฺถ ยถา นีลรตฺตคุณโยคโต ‘‘นีโล ปโฏ, รตฺโต ปโฏ’’ติ วุจฺจติ, เอวํ พุทฺธิคุณโยคโต พุทฺโธติ าเปตุํ วุตฺตํ โหติ. ตโต ปรํ พุทฺโธติ เนตํ นามนฺติ เอวมาทิ อตฺถมนุคตา อยํ ปฺตฺตีติ โพธนตฺถํ วุตฺตนฺติ เอวรูเปน นเยน สพฺเพสํ ปทานํ พุทฺธสทฺทสฺส สาธนสมตฺโถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อยํ พฺยฺชนโตปิ พุทฺธวิภาวนา.
สรณคมนคมกวิภาวนา
อิทานิ สรณคมนาทีสุ หึสตีติ สรณํ, สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุกฺขํ ทุคฺคตึ ปริกฺกิเลสํ หึสติ วิธมติ นีหรติ นิโรเธตีติ อตฺโถ. อถ วา หิเต ปวตฺตเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ พุทฺโธ, ภวกนฺตารา อุตฺตรเณน อสฺสาสทาเนน จ ธมฺโม, อปฺปกานมฺปิ การานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สงฺโฆ. ตสฺมา อิมินาปิ ปริยาเยน ตํ รตนตฺตยํ สรณํ. ตปฺปสาทตคฺครุตาหิ วิหตวิทฺธํสิตกิเลโส ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺโต อปรปฺปจฺจโย วา จิตฺตุปฺปาโท สรณคมนํ. ตํสมงฺคี สตฺโต ตํ สรณํ คจฺฉติ, วุตฺตปฺปกาเรน จิตฺตุปฺปาเทน ‘‘เอส เม สรณํ, เอส เม ปรายณ’’นฺติ เอวเมตํ อุเปตีติ อตฺโถ ¶ . อุเปนฺโต จ ‘‘เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม, ธมฺมฺจ, อุปาสเก โน ภควา ธาเรตู’’ติ ตปุสฺสภลฺลิกาทโย ¶ วิย สมาทาเนน วา, ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) มหากสฺสปาทโย วิย สิสฺสภาวูปคมเนน วา, ‘‘เอวํ วุตฺเต พฺรหฺมายุ พฺราหฺมโณ อุฏฺายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ภควา เตนฺชลึ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ ‘นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. นโม ตสฺส…เป… สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’’ติ ¶ (ม. นิ. ๒.๓๘๘) พฺรหฺมายุอาทโย วิย ตปฺโปณตฺเตน วา, กมฺมฏฺานานุโยคิโน วิย อตฺตสนฺนิยฺยาตเนน วา, อริยปุคฺคลา วิย สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน วาติ อเนกปฺปการํ วิสยโต กิจฺจโต จ อุเปติ.
อยํ สรณคมนสฺส คมกสฺส จ วิภาวนา.
เภทาเภทผลทีปนา
อิทานิ ‘‘เภทาเภทํ ผลฺจาปิ, คมนียฺจ ทีปเย’’ติ วุตฺตานํ เภทาทีนํ อยํ ทีปนา, เอวํ สรณคตสฺส ปุคฺคลสฺส ทุวิโธ สรณคมนเภโท – สาวชฺโช จ อนวชฺโช จ. อนวชฺโช กาลกิริยาย, สาวชฺโช อฺสตฺถริ วุตฺตปฺปการปฺปวตฺติยา, ตสฺมิฺจ วุตฺตปฺปการวิปรีตปฺปวตฺติยา. โส ทุวิโธปิ ปุถุชฺชนานเมว. พุทฺธคุเณสุ อฺาณสํสยมิจฺฉาาณปฺปวตฺติยา อนาทราทิปฺปวตฺติยา จ เตสํ สรณํ สํกิลิฏฺํ โหติ. อริยปุคฺคลา ปน อภินฺนสรณา เจว อสํกิลิฏฺสรณา จ โหนฺติ. ยถาห ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๗๖; ม. นิ. ๓.๑๒๘; วิภ. ๘๐๙). ปุถุชฺชนา ตุ ยาวเทว สรณเภทํ น ปาปุณนฺติ, ตาวเทว อภินฺนสรณา. สาวชฺโชว เนสํ สรณเภโท, สํกิเลโส จ อนิฏฺผลโท โหติ. อนวชฺโช อวิปากตฺตา อผโล, อเภโท ปน ผลโต อิฏฺเมว ผลํ เทติ.
ยถาห –
‘‘เยเกจิ ¶ พุทฺธํ สรณํ คตาเส, น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;
ปหาย มานุสํ เทหํ, เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ. นิ. ๑.๓๗);
ตตฺร ¶ จ เย สรณคมนุปกฺกิเลสสมุจฺเฉเทน สรณํ คตา, เต อปายํ น คมิสฺสนฺติ. อิตเร ปน สรณคมเนน น คมิสฺสนฺตีติ เอวํ คาถาย อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
อยํ ตาว เภทาเภทผลทีปนา.
คมนียทีปนา
คมนียทีปนายํ โจทโก อาห – ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอตฺถ โย พุทฺธํ สรณํ คจฺฉติ, เอส พุทฺธํ วา คจฺเฉยฺย สรณํ วา, อุภยถาปิ จ เอกสฺส วจนํ นิรตฺถกํ. กสฺมา? คมนกิริยาย กมฺมทฺวยาภาวโต. น เหตฺถ ‘‘อชํ คามํ เนตี’’ติอาทีสุ วิย ทฺวิกมฺมกตฺตํ อกฺขรจินฺตกา อิจฺฉนฺติ.
‘‘คจฺฉเตว ปุพฺพํ ¶ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิส’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๕๙; ๓.๘๗) วิย สาตฺถกเมวาติ เจ? น, พุทฺธสรณานํ สมานาธิกรณภาวสฺสานธิปฺเปตโต. เอเตสฺหิ สมานาธิกรณภาเว อธิปฺเปเต ปฏิหตจิตฺโตปิ พุทฺธํ อุปสงฺกมนฺโต พุทฺธํ สรณํ คโต สิยา. ยฺหิ ตํ พุทฺโธติ วิเสสิตํ สรณํ, ตเมเวส คโตติ. ‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตม’’นฺติ (ธ. ป. ๑๙๒) วจนโต สมานาธิกรณตฺตเมวาติ เจ? น, ตตฺเถว ตพฺภาวโต. ตตฺเถว หิ คาถาปเท เอตํ พุทฺธาทิรตนตฺตยํ สรณคตานํ ภยหรณตฺตสงฺขาเต สรณภาเว อพฺยภิจรณโต ‘‘เขมมุตฺตมฺจ สรณ’’นฺติ อยํ สมานาธิกรณภาโว อธิปฺเปโต, อฺตฺถ ตุ คมิสมฺพนฺเธ สติ สรณคมนสฺส อปฺปสิทฺธิโต อนธิปฺเปโตติ อสาธกเมตํ. ‘‘เอตํ ¶ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ เอตฺถ คมิสมฺพนฺเธปิ สรณคมนปสิทฺธิโต สมานาธิกรณตฺตเมวาติ เจ? น ปุพฺเพ วุตฺตโทสปฺปสงฺคโต. ตตฺราปิ หิ สมานาธิกรณภาเว สติ เอตํ พุทฺธธมฺมสงฺฆสรณํ ปฏิหตจิตฺโตปิ อาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺเจยฺยาติ เอวํ ปุพฺเพ วุตฺตโทสปฺปสงฺโค เอว สิยา, น จ โน โทเสน อตฺถิ อตฺโถติ อสาธกเมตํ. ยถา ‘‘มมฺหิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๒๙) เอตฺถ ภควโต กลฺยาณมิตฺตสฺส อานุภาเวน ปริมุจฺจมานา สตฺตา ‘‘กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ปริมุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตา. เอวมิธาปิ พุทฺธธมฺมสงฺฆสฺส สรณสฺสานุภาเวน มุจฺจมาโน ‘‘เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ วุตฺโตติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
เอวํ สพฺพถาปิ น พุทฺธสฺส คมนียตฺตํ ยุชฺชติ, น สรณสฺส, น อุภเยสํ, อิจฺฉิตพฺพฺจ ¶ คจฺฉามีติ นิทฺทิฏฺสฺส คมกสฺส คมนียํ, ตโต วตฺตพฺพา เอตฺถ ยุตฺตีติ. วุจฺจเต –
พุทฺโธเยเวตฺถ คมนีโย, คมนาการทสฺสนตฺถํ ตุ ตํ สรณวจนํ, พุทฺธํ สรณนฺติ คจฺฉามิ. เอส เม สรณํ, เอส เม ปรายณํ, อฆสฺส, ตาตา, หิตสฺส จ วิธาตาติ ¶ อิมินา อธิปฺปาเยน เอตํ คจฺฉามิ ภชามิ เสวามิ ปยิรุปาสามิ, เอวํ วา ชานามิ พุชฺฌามีติ. เยสฺหิ ธาตูนํ คติอตฺโถ พุทฺธิปิ เตสํ อตฺโถติ. อิติ-สทฺทสฺส อปฺปโยคา อยุตฺตมิติ เจ? ตํ น. ตตฺถ สิยา – ยทิ เจตฺถ เอวมตฺโถ ภเวยฺย, ตโต ‘‘อนิจฺจํ รูปํ อนิจฺจํ รูปนฺติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๕๕, ๘๕) วิย อิติ-สทฺโท ปยุตฺโต สิยา, น จ ปยุตฺโต, ตสฺมา อยุตฺตเมตนฺติ. ตฺจ น, กสฺมา? ตทตฺถสมฺภวา. ‘‘โย จ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ คโต’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ป. ๑๙๐) วิย อิธาปิ อิติ-สทฺทสฺส อตฺโถ สมฺภวติ, น จ วิชฺชมานตฺถสมฺภวา อิติ-สทฺทา สพฺพตฺถ ปยุชฺชนฺติ, อปฺปยุตฺตสฺสาเปตฺถ ปยุตฺตสฺส วิย อิติ-สทฺทสฺส อตฺโถ วิฺาตพฺโพ อฺเสุ จ เอวํชาติเกสุ, ตสฺมา อโทโส เอว โสติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺช’’นฺติอาทีสุ (มหาว. ๓๔) สรณสฺเสว คมนียโต ยํ วุตฺตํ ‘‘คมนาการทสฺสนตฺถํ ตุ สรณวจน’’นฺติ, ตํ น ยุตฺตมิติ เจ. ตํ ¶ นายุตฺตํ. กสฺมา? ตทตฺถสมฺภวา เอว. ตตฺราปิ หิ ตสฺส อตฺโถ สมฺภวติ, ยโต ปุพฺพสทิสเมว อปฺปยุตฺโตปิ ปยุตฺโต วิย เวทิตพฺโพ. อิตรถา หิ ปุพฺเพ วุตฺตโทสปฺปสงฺโค เอว สิยา, ตสฺมา ยถานุสิฏฺเมว คเหตพฺพํ.
อยํ คมนียทีปนา.
ธมฺมสงฺฆสรณวิภาวนา
อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘ธมฺมํ สรณมิจฺจาทิ, ทฺวเยเปส นโย มโต’’ติ เอตฺถ วุจฺจเต – ยฺวายํ ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอตฺถ อตฺถวณฺณนานโย วุตฺโต, ‘‘ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามี’’ติ เอตสฺมิมฺปิ ปททฺวเย เอโสว เวทิตพฺโพ. ตตฺราปิ หิ ธมฺมสงฺฆานํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ วิภาวนมตฺตเมว อสทิสํ, เสสํ วุตฺตสทิสเมว. ยโต ยเทเวตฺถ อสทิสํ, ตํ วุจฺจเต – มคฺคผลนิพฺพานานิ ธมฺโมติ เอเก. ภาวิตมคฺคานํ สจฺฉิกตนิพฺพานานฺจ อปาเยสุ อปตนภาเวน ธารณโต ปรมสฺสาสวิธานโต จ มคฺควิราคา เอว อิมสฺมึ อตฺเถ ธมฺโมติ อมฺหากํ ขนฺติ, อคฺคปฺปสาทสุตฺตฺเจว สาธกํ. วุตฺตฺเจตฺถ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา ¶ , อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ เอวมาทิ ¶ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐).
จตุพฺพิธอริยมคฺคสมงฺคีนํ จตุสามฺผลสมธิวาสิตขนฺธสนฺตานานฺจ ปุคฺคลานํ สมูโห ทิฏฺิสีลสงฺฆาเตน สํหตตฺตา สงฺโฆ. วุตฺตฺเจตํ ภควตา –
‘‘ตํ กึ มฺสิ, อานนฺท, เย โว มยา ธมฺมา อภิฺา เทสิตา, เสยฺยถิทํ, จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ปสฺสสิ โน ตฺวํ, อานนฺท, อิเมสุ ธมฺเมสุ ทฺเวปิ ภิกฺขู นานาวาเท’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓).
อยฺหิ ปรมตฺถสงฺโฆ สรณนฺติ คมนีโย. สุตฺเต จ ‘‘อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ ¶ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔, ๑๘๑) วุตฺโต. เอตํ ปน สรณํ คตสฺส อฺสฺมิมฺปิ ภิกฺขุสงฺเฆ วา ภิกฺขุนิสงฺเฆ วา พุทฺธปฺปมุเข วา สงฺเฆ สมฺมุติสงฺเฆ วา จตุวคฺคาทิเภเท เอกปุคฺคเลปิ วา ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเต วนฺทนาทิกิริยาย สรณคมนํ เนว ภิชฺชติ น สํกิลิสฺสติ, อยเมตฺถ วิเสโส. วุตฺตาวเสสนฺตุ อิมสฺส ทุติยสฺส จ สรณคมนสฺส เภทาเภทาทิวิธานํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ตาว ‘‘ธมฺมํ สรณมิจฺจาทิ, ทฺวเยเปส นโย มโต’’ติ เอตสฺส วณฺณนา.
อนุปุพฺพววตฺถานการณนิทฺเทโส
อิทานิ อนุปุพฺพววตฺถาเน, การณฺจ วินิทฺทิเสติ เอตฺถ เอเตสุ จ ตีสุ สรณวจเนสุ สพฺพสตฺตานํ อคฺโคติ กตฺวา ปมํ พุทฺโธ, ตปฺปภวโต ตทุปเทสิตโต จ อนนฺตรํ ธมฺโม, ตสฺส ธมฺมสฺส อาธารกโต ตทาเสวนโต จ อนฺเต สงฺโฆ. สพฺพสตฺตานํ วา หิเต นิโยชโกติ กตฺวา ปมํ พุทฺโธ, ตปฺปภวโต สพฺพสตฺตหิตตฺตา อนนฺตรํ ธมฺโม, หิตาธิคมาย ปฏิปนฺโน อธิคตหิโต จาติ กตฺวา อนฺเต สงฺโฆ สรณภาเวน ววตฺถเปตฺวา ปกาสิโตติ เอวํ อนุปุพฺพววตฺถาเน การณฺจ วินิทฺทิเส.
อุปมาปกาสนา
อิทานิ ¶ ยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘สรณตฺตยเมตฺจ, อุปมาหิ ปกาสเย’’ติ ¶ , ตมฺปิ วุจฺจเต – เอตฺถ ปน ปุณฺณจนฺโท วิย พุทฺโธ, จนฺทกิรณนิกโร วิย เตน เทสิโต ธมฺโม, ปุณฺณจนฺทกิรณสมุปฺปาทิตปีณิโต โลโก วิย สงฺโฆ. พาลสูริโย วิย พุทฺโธ, ตสฺส รสฺมิชาลมิว วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโม, เตน วิหตนฺธกาโร โลโก วิย สงฺโฆ. วนทาหกปุริโส วิย พุทฺโธ, วนทหนคฺคิ วิย กิเลสวนทหโน ธมฺโม, ทฑฺฒวนตฺตา เขตฺตภูโต วิย ภูมิภาโค ทฑฺฒกิเลสตฺตา ปฺุกฺเขตฺตภูโต สงฺโฆ. มหาเมโฆ วิย พุทฺโธ, สลิลวุฏฺิ วิย ธมฺโม, วุฏฺินิปาตูปสมิตเรณุ วิย ชนปโท อุปสมิตกิเลสเรณุ สงฺโฆ. สุสารถิ ¶ วิย พุทฺโธ, อสฺสาชานียวินยูปาโย วิย ธมฺโม, สุวินีตสฺสาชานียสมูโห วิย สงฺโฆ. สพฺพทิฏฺิสลฺลุทฺธรณโต สลฺลกตฺโต วิย พุทฺโธ, สลฺลุทฺธรณูปาโย วิย ธมฺโม, สมุทฺธฏสลฺโล วิย ชโน สมุทฺธฏทิฏฺิสลฺโล สงฺโฆ. โมหปฏลสมุปฺปาฏนโต วา สาลากิโย วิย พุทฺโธ, ปฏลสมุปฺปาฏนุปาโย วิย ธมฺโม, สมุปฺปาฏิตปฏโล วิปฺปสนฺนโลจโน วิย ชโน สมุปฺปาฏิตโมหปฏโล วิปฺปสนฺนาณโลจโน สงฺโฆ. สานุสยกิเลสพฺยาธิหรณสมตฺถตาย วา กุสโล เวชฺโช วิย พุทฺโธ, สมฺมา ปยุตฺตเภสชฺชมิว ธมฺโม, เภสชฺชปโยเคน สมุปสนฺตพฺยาธิ วิย ชนสมุทาโย สมุปสนฺตกิเลสพฺยาธานุสโย สงฺโฆ.
อถ วา สุเทสโก วิย พุทฺโธ, สุมคฺโค วิย เขมนฺตภูมิ วิย จ ธมฺโม, มคฺคปฺปฏิปนฺโน เขมนฺตภูมิปฺปตฺโต วิย สงฺโฆ. สุนาวิโก วิย พุทฺโธ, นาวา วิย ธมฺโม, ปารปฺปตฺโต สมฺปตฺติโก วิย ชโน สงฺโฆ. หิมวา วิย พุทฺโธ, ตปฺปภโวสธมิว ธมฺโม, โอสธูปโภเคน นิรามโย วิย ชโน สงฺโฆ. ธนโท วิย พุทฺโธ, ธนํ วิย ธมฺโม, ยถาธิปฺปายํ ลทฺธธโน วิย ชโน สมฺมาลทฺธอริยธโน สงฺโฆ. นิธิทสฺสนโก วิย ¶ พุทฺโธ, นิธิ วิย ธมฺโม, นิธิปฺปตฺโต วิย ชโน สงฺโฆ.
อปิจ อภยโท วิย วีรปุริโส พุทฺโธ, อภยมิว ธมฺโม, สมฺปตฺตาภโย วิย ชโน อจฺจนฺตสพฺพภโย สงฺโฆ. อสฺสาสโก วิย พุทฺโธ, อสฺสาโส วิย ธมฺโม, อสฺสตฺถชโน วิย สงฺโฆ. สุมิตฺโต วิย พุทฺโธ, หิตูปเทโส วิย ธมฺโม, หิตูปโยเคน ปตฺตสทตฺโถ วิย ชโน สงฺโฆ. ธนากโร วิย พุทฺโธ, ธนสาโร วิย ธมฺโม, ธนสารูปโภโค วิย ชโน สงฺโฆ. ราชกุมารนฺหาปโก วิย พุทฺโธ, สีสนฺหานสลิลํ วิย ธมฺโม, สุนฺหาตราชกุมารวคฺโค วิย สทฺธมฺมสลิลสุนฺหาโต สงฺโฆ. อลงฺการการโก วิย พุทฺโธ, อลงฺกาโร วิย ธมฺโม, อลงฺกตราชปุตฺตคโณ ¶ วิย สทฺธมฺมาลงฺกโต สงฺโฆ. จนฺทนรุกฺโข วิย พุทฺโธ, ตปฺปภวคนฺโธ วิย ธมฺโม, จนฺทนุปโภเคน สนฺตปริฬาโห วิย ชโน สทฺธมฺมูปโภเคน สนฺตปริฬาโห สงฺโฆ. ทายชฺชสมฺปทานโก วิย ปิตา พุทฺโธ, ทายชฺชํ วิย ธมฺโม, ทายชฺชหโร ปุตฺตวคฺโค วิย สทฺธมฺมทายชฺชหโร สงฺโฆ. วิกสิตปทุมํ ¶ วิย พุทฺโธ, ตปฺปภวมธุ วิย ธมฺโม, ตทุปโภคีภมรคโณ วิย สงฺโฆ. เอวํ สรณตฺตยเมตฺจ, อุปมาหิ ปกาสเย.
เอตฺตาวตา จ ยา ปุพฺเพ ‘‘เกน กตฺถ กทา กสฺมา, ภาสิตํ สรณตฺตย’’นฺติอาทีหิ จตูหิ คาถาหิ อตฺถวณฺณนาย มาติกา นิกฺขิตฺตา, สา อตฺถโต ปกาสิตา โหตีติ.
ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปา-อฏฺกถาย
สรณตฺตยวณฺณนา นิฏฺิตา.