📜
๘. นิธิกณฺฑสุตฺตวณฺณนา
นิกฺเขปการณํ
อิทานิ ¶ ยทิทํ ติโรกุฏฺฏานนฺตรํ ‘‘นิธึ นิเธติ ปุริโส’’ติอาทินา นิธิกณฺฑํ นิกฺขิตฺตํ, ตสฺส –
‘‘ภาสิตฺวา ¶ นิธิกณฺฑสฺส, อิธ นิกฺเขปการณํ;
อฏฺุปฺปตฺติฺจ ทีเปตฺวา, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ’’.
ตตฺถ อิธ นิกฺเขปการณํ ตาวสฺส เอวํ เวทิตพฺพํ. อิทฺหิ นิธิกณฺฑํ ภควตา อิมินา อนุกฺกเมน อวุตฺตมฺปิ ยสฺมา อนุโมทนวเสน วุตฺตสฺส ติโรกุฏฺฏสฺส มิถุนภูตํ, ตสฺมา อิธ นิกฺขิตฺตํ. ติโรกุฏฺเฏน วา ปฺุวิรหิตานํ วิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิมินา กตปฺุานํ สมฺปตฺติทสฺสนตฺถมฺปิ อิทํ อิธ นิกฺขิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทมสฺส อิธ นิกฺเขปการณํ.
สุตฺตฏฺุปฺปตฺติ
อฏฺุปฺปตฺติ ปนสฺส – สาวตฺถิยํ กิร อฺตโร กุฏุมฺพิโก อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค. โส จ สทฺโธ โหติ ปสนฺโน, วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติ. โส เอกสฺมึ ทิวเส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ เทติ. เตน จ สมเยน ราชา ธนตฺถิโก โหติ, โส ตสฺส สนฺติเก ปุริสํ เปเสสิ ‘‘คจฺฉ, ภเณ, อิตฺถนฺนามํ กุฏุมฺพิกํ อาเนหี’’ติ. โส คนฺตฺวา ตํ กุฏุมฺพิกํ อาห ‘‘ราชา ตํ คหปติ อามนฺเตตี’’ติ. กุฏุมฺพิโก สทฺธาทิคุณสมนฺนาคเตน ¶ เจตสา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสนฺโต อาห ‘‘คจฺฉ, โภ ปุริส, ปจฺฉา อาคมิสฺสามิ, อิทานิ ตาวมฺหิ นิธึ นิเธนฺโต ิโต’’ติ. อถ ภควา ภุตฺตาวี ปวาริโต ตเมว ปฺุสมฺปทํ ปรมตฺถโต นิธีติ ทสฺเสตุํ ตสฺส กุฏุมฺพิกสฺส อนุโมทนตฺถํ ‘‘นิธึ นิเธติ ปุริโส’’ติ อิมา คาถาโย อภาสิ. อยมสฺส อฏฺุปฺปตฺติ.
เอวมสฺส ¶ –
‘‘ภาสิตฺวา นิธิกณฺฑสฺส, อิธ นิกฺเขปการณํ;
อฏฺุปฺปตฺติฺจ ทีเปตฺวา, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ’’.
ปมคาถาวณฺณนา
๑. ตตฺถ นิธึ นิเธติ ปุริโสติ นิธียตีติ นิธิ, ปียติ รกฺขียติ โคปียตีติ อตฺโถ. โส จตุพฺพิโธ ถาวโร, ชงฺคโม, องฺคสโม, อนุคามิโกติ. ตตฺถ ถาวโร นาม ภูมิคตํ วา เวหาสฏฺํ วา หิรฺํ วา ¶ สุวณฺณํ วา เขตฺตํ วา วตฺถุ วา, ยํ วา ปนฺมฺปิ เอวรูปํ อิริยาปถวิรหิตํ, อยํ ถาวโร นิธิ. ชงฺคโม นาม ทาสิทาสํ หตฺถิควสฺสวฬวํ อเชฬกํ กุกฺกุฏสูกรํ ยํ วา ปนฺมฺปิ เอวรูปํ อิริยาปถปฏิสํยุตฺตํ. อยํ ชงฺคโม นิธิ องฺคสโม นาม กมฺมายตนํ, สิปฺปายตนํ, วิชฺชาฏฺานํ, พาหุสจฺจํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ เอวรูปํ สิกฺขิตฺวา คหิตํ องฺคปจฺจงฺคมิว อตฺตภาวปฺปฏิพทฺธํ, อยํ องฺคสโม นิธิ. อนุคามิโก นาม ทานมยํ ปฺุํ สีลมยํ ภาวนามยํ ธมฺมสฺสวนมยํ ธมฺมเทสนามยํ, ยํ วา ปนฺมฺปิ เอวรูปํ ปฺุํ ตตฺถ ตตฺถ อนุคนฺตฺวา วิย อิฏฺผลมนุปฺปเทติ, อยํ อนุคามิโก นิธิ. อิมสฺมึ ปน าเน ถาวโร อธิปฺเปโต.
นิเธตีติ เปติ ปฏิสาเมติ โคเปติ. ปุริโสติ มนุสฺโส. กามฺจ ปุริโสปิ อิตฺถีปิ ปณฺฑโกปิ นิธึ นิเธติ, อิธ ปน ปุริสสีเสน เทสนา กตา, อตฺถโต ปน เตสมฺปิ อิธ สโมธานํ ทฏฺพฺพํ. คมฺภีเร โอทกนฺติเกติ โอคาเหตพฺพฏฺเน คมฺภีรํ, อุทกสฺส อนฺติกภาเวน โอทกนฺติกํ. อตฺถิ คมฺภีรํ น โอทกนฺติกํ ชงฺคเล ภูมิภาเค สติกโปริโส อาวาโฏ วิย, อตฺถิ โอทกนฺติกํ น คมฺภีรํ นินฺเน ปลฺลเล เอกทฺวิวิทตฺถิโก อาวาโฏ วิย, อตฺถิ คมฺภีรฺเจว โอทกนฺติกฺจ ¶ ชงฺคเล ภูมิภาเค ยาว อิทานิ อุทกํ อาคมิสฺสตีติ, ตาว ขโต อาวาโฏ วิย. ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘คมฺภีเร โอทกนฺติเก’’ติ. อตฺเถ กิจฺเจ สมุปฺปนฺเนติ อตฺถา อนเปตนฺติ อตฺถํ, อตฺถาวหํ หิตาวหนฺติ วุตฺตํ โหติ. กาตพฺพนฺติ กิจฺจํ, กิฺจิเทว กรณียนฺติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺปนฺนํ เอว สมุปฺปนฺนํ, กตฺตพฺพภาเวน อุปฏฺิตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมึ อตฺเถ กิจฺเจ สมุปฺปนฺเน. อตฺถาย เม ภวิสฺสตีติ นิธานปฺปโยชนนิทสฺสนเมตํ. เอตทตฺถฺหิ โส นิเธติ ‘‘อตฺถาวเห กิสฺมิฺจิเทว กรณีเย สมุปฺปนฺเน อตฺถาย เม ภวิสฺสติ, ตสฺส เม กิจฺจสฺส นิปฺผตฺติยา ภวิสฺสตี’’ติ. กิจฺจนิปฺผตฺติเยว หิ ตสฺส กิจฺเจ สมุปฺปนฺเน อตฺโถติ เวทิตพฺโพ.
ทุติยคาถาวณฺณนา
เอวํ ¶ นิธานปฺปโยชนํ ทสฺเสนฺโต อตฺถาธิคมาธิปฺปายํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนตฺถาปคมาธิปฺปายํ ทสฺเสตุมาห –
๒. ‘‘ราชโต ¶ วา ทุรุตฺตสฺส, โจรโต ปีฬิตสฺส วา.
อิณสฺส วา ปโมกฺขาย, ทุพฺภิกฺเข อาปทาสุ วา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ‘‘อตฺถาย เม ภวิสฺสตี’’ติ จ ‘‘อิณสฺส วา ปโมกฺขายา’’ติ จ เอตฺถ วุตฺเตหิ ทฺวีหิ ภวิสฺสติปโมกฺขาย-ปเทหิ สทฺธึ ยถาสมฺภวํ โยเชตฺวา เวทิตพฺโพ.
ตตฺถายํ โยชนา – น เกวลํ อตฺถาย เม ภวิสฺสตีติ เอว ปุริโส นิธึ นิเธติ, กินฺตุ ‘‘อยํ โจโร’’ติ วา ‘‘ปารทาริโก’’ติ วา ‘‘สุงฺกฆาตโก’’ติ วา เอวมาทินา นเยน ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ ทุรุตฺตสฺส เม สโต ราชโต วา ปโมกฺขาย ภวิสฺสติ, สนฺธิจฺเฉทาทีหิ ธนหรเณน วา, ‘‘เอตฺตกํ หิรฺสุวณฺณํ เทหี’’ติ ชีวคฺคาเหน วา โจเรหิ เม ปีฬิตสฺส สโต โจรโต วา ปโมกฺขาย ภวิสฺสติ. สนฺติ เม อิณายิกา, เต มํ ‘‘อิณํ เทหี’’ติ โจเทสฺสนฺติ, เตหิ เม โจทิยมานสฺส อิณสฺส วา ปโมกฺขาย ภวิสฺสติ. โหติ โส สมโย, ยํ ทุพฺภิกฺขํ โหติ ทุสฺสสฺสํ ทุลฺลภปิณฺฑํ, ตตฺถ น สุกรํ อปฺปธเนน ยาเปตุํ, ตถาวิเธ อาคเต ทุพฺภิกฺเข วา เม ภวิสฺสติ ¶ . ยถารูปา อาปทา อุปฺปชฺชนฺติ อคฺคิโต วา อุทกโต วา อปฺปิยทายาทโต วา, ตถารูปาสุ วา อุปฺปนฺนาสุ อาปทาสุ เม ภวิสฺสตีติปิ ปุริโส นิธึ นิเธตีติ.
เอวํ อตฺถาธิคมาธิปฺปายํ อนตฺถาปคมาธิปฺปายฺจาติ ทฺวีหิ คาถาหิ ทุวิธํ นิธานปฺปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเมว ทุวิธํ ปโยชนํ นิคเมนฺโต อาห –
‘‘เอตทตฺถาย โลกสฺมึ, นิธิ นาม นิธียตี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ยฺวายํ ‘‘อตฺถาย เม ภวิสฺสตี’’ติ จ ‘‘ราชโต วา ทุรุตฺตสฺสา’’ติ เอวมาทีหิ จ อตฺถาธิคโม อนตฺถาปคโม จ ทสฺสิโต. เอตทตฺถาย เอเตสํ นิปฺผาทนตฺถาย อิมสฺมึ ¶ โอกาสโลเก โย โกจิ หิรฺสุวณฺณาทิเภโท นิธิ นาม นิธียติ ปียติ ปฏิสามียตีติ.
ตติยคาถาวณฺณนา
อิทานิ ¶ ยสฺมา เอวํ นิหิโตปิ โส นิธิ ปฺุวตํเยว อธิปฺเปตตฺถสาธโก โหติ, น อฺเสํ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทีเปนฺโต อาห –
๓. ‘‘ตาวสฺสุนิหิโต สนฺโต, คมฺภีเร โอทกนฺติเก.
น สพฺโพ สพฺพทา เอว, ตสฺส ตํ อุปกปฺปตี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – โส นิธิ ตาว สุนิหิโต สนฺโต, ตาว สุฏฺุ นิขณิตฺวา ปิโต สมาโนติ วุตฺตํ โหติ. กีว สุฏฺูติ? คมฺภีเร โอทกนฺติเก, ยาว คมฺภีเร โอทกนฺติเก นิหิโตติ สงฺขํ คจฺฉติ, ตาว สุฏฺูติ วุตฺตํ โหติ. น สพฺโพ สพฺพทา เอว, ตสฺส ตํ อุปกปฺปตีติ เยน ปุริเสน นิหิโต, ตสฺส สพฺโพปิ สพฺพกาลํ น อุปกปฺปติ น สมฺปชฺชติ, ยถาวุตฺตกิจฺจกรณสมตฺโถ น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. กินฺตุ โกจิเทว กทาจิเทว อุปกปฺปติ, เนว วา อุปกปฺปตีติ. เอตฺถ จ นฺติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต ทฏฺพฺโพ ‘‘ยถา ตํ อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๘-๑๙; ๓.๑๕๔) วิย. ลิงฺคเภทํ วา กตฺวา ‘‘โส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ต’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ หิ วุจฺจมาเน โส อตฺโถ สุขํ พุชฺฌตีติ.
จตุตฺถปฺจมคาถาวณฺณนา
เอวํ ¶ ‘‘น สพฺโพ สพฺพทา เอว, ตสฺส ตํ อุปกปฺปตี’’ติ วตฺวา อิทานิ เยหิ การเณหิ น อุปกปฺปติ, ตานิ ทสฺเสนฺโต อาห –
๔. ‘‘นิธิ วา านา จวติ, สฺา วาสฺส วิมุยฺหติ.
นาคา วา อปนาเมนฺติ, ยสฺมา วาปิ หรนฺติ นํ.
๕. ‘‘อปฺปิยา วาปิ ทายาทา, อุทฺธรนฺติ อปสฺสโต’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – ยสฺมึ าเน สุนิหิโต โหติ นิธิ, โส วา นิธิ ตมฺหา านา จวติ อเปติ วิคจฺฉติ, อเจตโนปิ สมาโน ปฺุกฺขยวเสน อฺํ านํ คจฺฉติ. สฺา วา อสฺส วิมุยฺหติ, ยสฺมึ าเน นิหิโต นิธิ, ตํ น ชานาติ, อสฺส ปฺุกฺขยโจทิตา นาคา วา ตํ นิธึ อปนาเมนฺติ อฺํ านํ คเมนฺติ. ยกฺขา วาปิ หรนฺติ เยนิจฺฉกํ อาทาย ¶ คจฺฉนฺติ. อปสฺสโต วา อสฺส อปฺปิยา วา ทายาทา ภูมึ ขณิตฺวา ตํ นิธึ อุทฺธรนฺติ. เอวมสฺส เอเตหิ านา จวนาทีหิ การเณหิ โส นิธิ น อุปกปฺปตีติ.
เอวํ านา จวนาทีนิ โลกสมฺมตานิ อนุปกปฺปนการณานิ วตฺวา อิทานิ ยํ ตํ เอเตสมฺปิ การณานํ มูลภูตํ เอกฺเว ปฺุกฺขยสฺิตํ การณํ, ตํ ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘ยทา ปฺุกฺขโย โหติ, สพฺพเมตํ วินสฺสตี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ยสฺมึ สมเย โภคสมฺปตฺตินิปฺผาทกสฺส ปฺุสฺส ขโย โหติ, โภคปาริชฺุสํวตฺตนิกมปฺุโมกาสํ กตฺวา ิตํ โหติ, อถ ยํ นิธึ นิเธนฺเตน นิหิตํ หิรฺสุวณฺณาทิธนชาตํ, สพฺพเมตํ วินสฺสตีติ.
ฉฏฺคาถาวณฺณนา
เอวํ ภควา เตน เตน อธิปฺปาเยน นิหิตมฺปิ ยถาธิปฺปายํ อนุปกปฺปนฺตํ นานปฺปกาเรหิ นสฺสนธมฺมํ โลกสมฺมตํ นิธึ วตฺวา อิทานิ ยํ ปฺุสมฺปทํ ปรมตฺถโต นิธีติ ทสฺเสตุํ ตสฺส กุฏุมฺพิกสฺส อนุโมทนตฺถมิทํ นิธิกณฺฑมารทฺธํ, ตํ ทสฺเสนฺโต อาห –
๖. ‘‘ยสฺส ทาเนน สีเลน, สํยเมน ทเมน จ.
นิธี สุนิหิโต โหติ, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทานนฺติ ‘‘ทานฺจ ธมฺมจริยา จา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ. สีลนฺติ กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. ปฺจงฺคทสงฺคปาติโมกฺขสํวราทิ วา สพฺพมฺปิ สีลํ อิธ สีลนฺติ อธิปฺเปตํ. สํยโมติ สํยมนํ สํยโม, เจตโส นานารมฺมณคตินิวารณนฺติ วุตฺตํ โหติ, สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. เยน สํยเมน สมนฺนาคโต ‘‘หตฺถสํยโต, ปาทสํยโต, วาจาสํยโต, สํยตุตฺตโม’’ติ เอตฺถ สํยตุตฺตโมติ วุตฺโต. อปเร อาหุ ‘‘สํยมนํ สํยโม, สํวรณนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ, อินฺทฺริยสํวรสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ทโมติ ทมนํ, กิเลสูปสมนนฺติ วุตฺตํ โหติ, ปฺาเยตํ อธิวจนํ. ปฺา หิ กตฺถจิ ปฺาตฺเวว ¶ วุจฺจติ ‘‘สุสฺสูสา ลภเต ปฺ’’นฺติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๘). กตฺถจิ ธมฺโมติ ‘‘สจฺจํ ธมฺโม ธิติ จาโค’’ติ เอวมาทีสุ. กตฺถจิ ทโมติ ‘‘ยทิ สจฺจา ทมา จาคา, ขนฺตฺยา ภิยฺโย น วิชฺชตี’’ติอาทีสุ.
เอวํ ทานาทีนิ ตฺวา อิทานิ เอวํ อิมิสฺสา คาถาย สมฺปิณฺเฑตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ – ยสฺส อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ทาเนน สีเลน สํยเมน ทเมน จาติ อิเมหิ จตูหิ ธมฺเมหิ ยถา หิรฺเน สุวณฺเณน มุตฺตาย มณินา วา ธนมโย นิธิ เตสํ สุวณฺณาทีนํ เอกตฺถ ปกฺขิปเนน นิธียติ, เอวํ ปฺุมโย นิธิ เตสํ ทานาทีนํ เอกจิตฺตสนฺตาเน เจติยาทิมฺหิ วา วตฺถุมฺหิ สุฏฺุ กรเณน สุนิหิโต โหตีติ.
สตฺตมคาถาวณฺณนา
เอวํ ภควา ‘‘ยสฺส ทาเนนา’’ติ อิมาย คาถาย ปฺุสมฺปทาย ปรมตฺถโต นิธิภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยตฺถ นิหิโต, โส นิธิ สุนิหิโต โหติ, ตํ วตฺถุํ ทสฺเสนฺโต อาห –
๗. ‘‘เจติยมฺหิ จ สงฺเฆ วา, ปุคฺคเล อติถีสุ วา.
มาตริ ปิตริ จาปิ, อโถ เชฏฺมฺหิ ภาตรี’’ติ.
ตตฺถ จยิตพฺพนฺติ เจติยํ, ปูเชตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ, จิตตฺตา วา เจติยํ. ตํ ปเนตํ เจติยํ ติวิธํ โหติ ปริโภคเจติยํ ¶ , อุทฺทิสฺสกเจติยํ, ธาตุกเจติยนฺติ. ตตฺถ โพธิรุกฺโข ปริโภคเจติยํ, พุทฺธปฏิมา อุทฺทิสฺสกเจติยํ, ธาตุคพฺภถูปา สธาตุกา ธาตุกเจติยํ. สงฺโฆติ พุทฺธปฺปมุขาทีสุ โย โกจิ. ปุคฺคโลติ คหฏฺปพฺพชิเตสุ โย โกจิ. นตฺถิ อสฺส ติถิ, ยมฺหิ วา ตมฺหิ ทิวเส อาคจฺฉตีติ อติถิ. ตงฺขเณ อาคตปาหุนกสฺเสตํ อธิวจนํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เอวํ เจติยาทีนิ ตฺวา อิทานิ เอวํ อิมิสฺสา คาถาย สมฺปิณฺเฑตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพ – โย โส นิธิ ‘‘สุนิหิโต โหตี’’ติ วุตฺโต, โส อิเมสุ วตฺถูสุ สุนิหิโต โหติ. กสฺมา? ทีฆรตฺตํ ¶ อิฏฺผลานุปฺปทานสมตฺถตาย. ตถา หิ อปฺปกมฺปิ เจติยมฺหิ ทตฺวา ทีฆรตฺตํ อิฏฺผลลาภิโน โหนฺติ. ยถาห –
‘‘เอกปุปฺผํ ¶ ยชิตฺวาน, อสีติกปฺปโกฏิโย;
ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, ปุปฺผทานสฺสิทํ ผล’’นฺติ จ.
‘‘มตฺตาสุขปริจฺจาคา, ปสฺเส เจ วิปุลํ สุข’’นฺติ จ. (ธ. ป. ๒๙๐);
เอวํ ทกฺขิณาวิสุทฺธิเวลามสุตฺตาทีสุ วุตฺตนเยน สงฺฆาทิวตฺถูสุปิ ทานผลวิภาโค เวทิตพฺโพ. ยถา จ เจติยาทีสุ ทานสฺส ปวตฺติ ผลวิภูติ จ ทสฺสิตา, เอวํ ยถาโยคํ สพฺพตฺถ ตํ ตํ อารภิตฺวา จาริตฺตวาริตฺตวเสน สีลสฺส, พุทฺธานุสฺสติวเสน สํยมสฺส, ตพฺพตฺถุกวิปสฺสนามนสิการปจฺจเวกฺขณวเสน ทมสฺส จ ปวตฺติ ตสฺส ตสฺส ผลวิภูติ จ เวทิตพฺพา.
อฏฺมคาถาวณฺณนา
เอวํ ภควา ทานาทีหิ นิธียมานสฺส ปฺุมยนิธิโน เจติยาทิเภทํ วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอเตสุ วตฺถูสุ สุนิหิตสฺส ตสฺส นิธิโน คมฺภีเร โอทกนฺติเก นิหิตนิธิโต วิเสสํ ทสฺเสนฺโต อาห –
๘. ‘‘เอโส ¶ นิธิ สุนิหิโต, อเชยฺโย อนุคามิโก.
ปหาย คมนีเยสุ, เอตํ อาทาย คจฺฉตี’’ติ.
ตตฺถ ปุพฺพปเทน ตํ ทานาทีหิ สุนิหิตนิธึ นิทฺทิสติ ‘‘เอโส นิธิ สุนิหิโต’’ติ. อเชยฺโยติ ปเรหิ เชตฺวา คเหตุํ น สกฺกา, อจฺเจยฺโยติปิ ปาโ, ตสฺส อจฺจิตพฺโพ อจฺจนารโห หิตสุขตฺถิเกน อุปจิตพฺโพติ อตฺโถ. เอตสฺมิฺจ ปาเ เอโส นิธิ อจฺเจยฺโยติ สมฺพนฺธิตฺวา ปุน ‘‘กสฺมา’’ติ อนุโยคํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ยสฺมา สุนิหิโต อนุคามิโก’’ติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิตรถา หิ สุนิหิตสฺส อจฺเจยฺยตฺตํ วุตฺตํ ภเวยฺย, น จ สุนิหิโต อจฺจนีโย. อจฺจิโต เอว หิ โสติ. อนุคจฺฉตีติ อนุคามิโก, ปรโลกํ คจฺฉนฺตมฺปิ ตตฺถ ตตฺถ ผลทาเนน น วิชหตีติ อตฺโถ.
ปหาย ¶ คมนีเยสุ เอตํ อาทาย คจฺฉตีติ มรณกาเล ปจฺจุปฏฺิเต สพฺพโภเคสุ ปหาย คมนีเยสุ เอตํ นิธึ อาทาย ปรโลกํ คจฺฉตีติ อยํ กิร เอตสฺส อตฺโถ. โส ปน น ยุชฺชติ. กสฺมา? โภคานํ ¶ อคมนียโต. ปหาตพฺพา เอว หิ เต เต โภคา, น คมนียา, คมนียา ปน เต เต คติวิเสสา. ยโต ยทิ เอส อตฺโถ สิยา, ปหาย โภเค คมนีเยสุ คติวิเสเสสุ อิติ วเทยฺย. ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – ‘‘นิธิ วา านา จวตี’’ติ เอวมาทินา ปกาเรน ปหาย มจฺจํ โภเคสุ คจฺฉนฺเตสุ เอตํ อาทาย คจฺฉตีติ. เอโส หิ อนุคามิกตฺตา ตํ นปฺปชหตีติ.
ตตฺถ สิยา ‘‘คมนีเยสูติ เอตฺถ คนฺตพฺเพสูติ อตฺโถ, น คจฺฉนฺเตสู’’ติ. ตํ น เอกํสโต คเหตพฺพํ. ยถา หิ ‘‘อริยา นิยฺยานิกา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๑) เอตฺถ นิยฺยนฺตาติ อตฺโถ, น นิยฺยาตพฺพาติ, เอวมิธาปิ คจฺฉนฺเตสูติ อตฺโถ, น คนฺตพฺเพสูติ.
อถ วา ยสฺมา เอส มรณกาเล กสฺสจิ ทาตุกาโม โภเค อามสิตุมฺปิ น ลภติ, ตสฺมา เตน เต โภคา ปุพฺพํ กาเยน ¶ ปหาตพฺพา, ปจฺฉา วิหตาเสน เจตสา คนฺตพฺพา, อติกฺกมิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ปุพฺพํ กาเยน ปหาย ปจฺฉา เจตสา คมนีเยสุ โภเคสูติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปุริมสฺมึ อตฺเถ นิทฺธารเณ ภุมฺมวจนํ, ปหาย คมนีเยสุ โภเคสุ เอกเมเวตํ ปฺุนิธิวิภวํ ตโต นีหริตฺวา อาทาย คจฺฉตีติ. ปจฺฉิเม อตฺเถ ภาเวนภาวลกฺขเณ ภุมฺมวจนํ. โภคานฺหิ คมนียภาเวน เอตสฺส นิธิสฺส อาทาย คมนียภาโว ลกฺขียตีติ.
นวมคาถาวณฺณนา
เอวํ ภควา อิมสฺส ปฺุนิธิโน คมฺภีเร โอทกนฺติเก นิหิตนิธิโต วิเสสํ ทสฺเสตฺวา ปุน อตฺตโน ภณฺฑคุณสํวณฺณเนน กยชนสฺส อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อุฬารภณฺฑวาณิโช วิย อตฺตนา เทสิตปฺุนิธิคุณสํวณฺณเนน ตสฺมึ ปฺุนิธิมฺหิ เทวมนุสฺสานํ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อาห –
๙. ‘‘อสาธารณมฺเสํ, อโจราหรโณ นิธิ.
กยิราถ ธีโร ปฺุานิ, โย นิธิ อนุคามิโก’’ติ.
ตตฺถ ¶ อสาธารณมฺเสนฺติ อสาธารโณ อฺเสํ, มกาโร ปทสนฺธิกโร ‘‘อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ¶ สมฺปยุตฺตา’’ติอาทีสุ วิย. น โจเรหิ อาหรโณ อโจราหรโณ, โจเรหิ อาทาตพฺโพ น โหตีติ อตฺโถ. นิธาตพฺโพติ นิธิ. เอวํ ทฺวีหิ ปเทหิ ปฺุนิธิคุณํ สํวณฺเณตฺวา ตโต ทฺวีหิ ตตฺถ อุสฺสาหํ ชเนติ ‘‘กยิราถ ธีโร ปฺุานิ, โย นิธิ อนุคามิโก’’ติ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา ปฺุานิ นาม อสาธารโณ อฺเสํ, อโจราหรโณ จ นิธิ โหติ. น เกวลฺจ อสาธารโณ อโจราหรโณ จ นิธิ, อถ โข ปน ‘‘เอโส นิธิ สุนิหิโต, อเชยฺโย อนุคามิโก’’ติ เอตฺถ วุตฺโต โย นิธิ อนุคามิโก. โส จ ยสฺมา ปฺุานิเยว, ตสฺมา กยิราถ กเรยฺย ธีโร พุทฺธิสมฺปนฺโน ธิติสมฺปนฺโน จ ปุคฺคโล ปฺุานีติ.
ทสมคาถาวณฺณนา
เอวํ ภควา คุณสํวณฺณเนน ปฺุนิธิมฺหิ เทวมนุสฺสานํ อุสฺสาหํ ชเนตฺวา อิทานิ เย อุสฺสหิตฺวา ปฺุนิธิกิริยาย สมฺปาเทนฺติ, เตสํ โส ยํ ผลํ เทติ, ตํ สงฺเขปโต ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘เอส เทวมนุสฺสานํ, สพฺพกามทโท นิธี’’ติ.
อิทานิ ¶ ยสฺมา ปตฺถนาย ปฏิพนฺธิตสฺส สพฺพกามททตฺตํ, น วินา ปตฺถนํ โหติ. ยถาห –
‘‘อากงฺเขยฺย เจ คหปตโย ธมฺมจารี สมจารี ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ ยํ โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี’’ (ม. นิ. ๑.๔๔๒).
เอวํ ‘‘อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส ธมฺมจารี สมจารี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๒).
ตถา ¶ จาห –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺธาย สมนฺนาคโต โหติ, สีเลน, สุเตน, จาเคน, ปฺาย สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺส เอวํ โหติ ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ ¶ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ. โส ตํ จิตฺตํ ปทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติ. ตสฺส เต สงฺขารา จ วิหารา จ เอวํ ภาวิตา เอวํ พหุลีกตา ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๖๑) เอวมาทิ.
ตสฺมา ตํ ตถา ตถา อากงฺขปริยายํ จิตฺตปทหนาธิฏฺานภาวนาปริกฺขารํ ปตฺถนํ ตสฺส สพฺพกามททตฺเต เหตุํ ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘ยํ ยเทวาภิปตฺเถนฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ.
เอกาทสมคาถาวณฺณนา
๑๑. อิทานิ ยํ ตํ สพฺพํ เอเตน ลพฺภติ, ตํ โอธิโส โอธิโส ทสฺเสนฺโต ‘‘สุวณฺณตา สุสรตา’’ติ เอวมาทิคาถาโย อาห.
ตตฺถ ปมคาถาย ตาว สุวณฺณตา นาม สุนฺทรจฺฉวิวณฺณตา กฺจนสนฺนิภตฺตจตา, สาปิ เอเตน ปฺุนิธินา ลพฺภติ. ยถาห –
‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ…เป… ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน อกฺโกธโน อโหสิ อนุปายาสพหุโล, พหุมฺปิ วุตฺโต สมาโน นาภิสชฺชิ ¶ น กุปฺปิ น พฺยาปชฺชิ น ปติตฺถียิ, น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตฺวากาสิ, ทาตา จ อโหสิ สุขุมานํ มุทุกานํ อตฺถรณานํ ปาวุรณานํ โขมสุขุมานํ กปฺปาสิก…เป… โกเสยฺย…เป… กมฺพลสุขุมานํ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… อิตฺถตฺตํ อาคโต สมาโน อิมํ มหาปุริสลกฺขณํ ปฏิลภติ. สุวณฺณวณฺโณ โหติ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๑๘).
สุสรตา นาม พฺรหฺมสฺสรตา กรวีกภาณิตา, สาปิ เอเตน ลพฺภติ. ยถาห –
‘‘ยมฺปิ ¶ , ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ…เป… ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต อโหสิ, ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา…เป… ตถารูปึ วาจํ ภาสิตา อโหสิ. โส ตสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา…เป… อิตฺถตฺตํ ¶ อาคโต สมาโน อิมานิ ทฺเว มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ. ปหุตชิวฺโห จ โหติ พฺรหฺมสฺสโร จ กรวีกภาณี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๓๖).
สุสณฺานาติ สุฏฺุ สณฺานตา, สมจิตวฏฺฏิตยุตฺตฏฺาเนสุ องฺคปจฺจงฺคานํ สมจิตวฏฺฏิตภาเวน สนฺนิเวโสติ วุตฺตํ โหติ. สาปิ เอเตน ลพฺภติ. ยถาห –
‘‘ยมฺปิ, ภิกฺขเว, ตถาคโต ปุริมํ ชาตึ…เป… ปุพฺเพ มนุสฺสภูโต สมาโน พหุชนสฺส อตฺถกาโม อโหสิ หิตกาโม ผาสุกาโม โยคกฺเขมกาโม ‘กินฺติ เม สทฺธาย วฑฺเฒยฺยุํ, สีเลน สุเตน จาเคน ปฺาย ธนธฺเน เขตฺตวตฺถุนา ทฺวิปทจตุปฺปเทหิ ปุตฺตทาเรหิ ทาสกมฺมกรโปริเสหิ าตีหิ มิตฺเตหิ พนฺธเวหิ วฑฺเฒยฺยุ’นฺติ, โส ตสฺส กมฺมสฺส…เป… สมาโน อิมานิ ตีณิ มหาปุริสลกฺขณานิ ปฏิลภติ, สีหปุพฺพฑฺฒกาโย จ โหติ จิตนฺตรํโส จ สมวฏฺฏกฺขนฺโธ ¶ จา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๒๔) เอวมาทิ.
อิมินา นเยน อิโต ปเรสมฺปิ อิมินา ปฺุนิธินา ปฏิลาภสาธกานิ สุตฺตปทานิ ตโต ตโต อาเนตฺวา วตฺตพฺพานิ. อติวิตฺถารภเยน ตุ สํขิตฺตํ, อิทานิ อวเสสปทานํ วณฺณนํ กริสฺสามิ.
สุรูปตาติ เอตฺถ สกลสรีรํ รูปนฺติ เวทิตพฺพํ ‘‘อากาโส ปริวาริโต รูปํตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๖) วิย, ตสฺส รูปสฺส สุนฺทรตา สุรูปตา นาติทีฆตา นาติรสฺสตา นาติกิสตา นาติถูลตา นาติกาฬตา นจฺโจทาตตาติ วุตฺตํ โหติ. อาธิปจฺจนฺติ อธิปติภาโว, ขตฺติยมหาสาลาทิภาเวน สามิกภาโวติ อตฺโถ. ปริวาโรติ อคาริกานํ สชนปริชนสมฺปตฺติ, อนคาริกานํ ปริสสมฺปตฺติ, อาธิปจฺจฺจ ¶ ปริวาโร จ อาธิปจฺจปริวาโร. เอตฺถ จ สุวณฺณตาทีหิ สรีรสมฺปตฺติ, อาธิปจฺเจน โภคสมฺปตฺติ, ปริวาเรน สชนปริชนสมฺปตฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ ยํ ตํ ‘‘ยํ ยเทวาภิปตฺเถนฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ วุตฺตํ, ตตฺถ อิทมฺปิ ตาว ปมํ โอธิโส วุตฺตสุวณฺณตาทิ สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ เวทิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
ทฺวาทสมคาถาวณฺณนา
๑๒. เอวมิมาย ¶ คาถาย ปฺุานุภาเวน ลภิตพฺพํ รชฺชสมฺปตฺติโต โอรํ เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทุภยรชฺชสมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปเทสรชฺช’’นฺติ อิมํ คาถมาห.
ตตฺถ ปเทสรชฺชนฺติ เอกทีปมฺปิ สกลํ อปาปุณิตฺวา ปถวิยา เอกเมกสฺมึ ปเทเส รชฺชํ. อิสฺสรภาโว อิสฺสริยํ, อิมินา ทีปจกฺกวตฺติรชฺชํ ทสฺเสติ. จกฺกวตฺติสุขํ ปิยนฺติ อิฏฺํ กนฺตํ มนาปํ จกฺกวตฺติสุขํ. อิมินา จาตุรนฺตจกฺกวตฺติรชฺชํ ทสฺเสติ. เทเวสุ รชฺชํ เทวรชฺชํ, เอเตน มนฺธาตาทีนมฺปิ มนุสฺสานํ เทวรชฺชํ ทสฺสิตํ โหติ. อปิ ทิพฺเพสูติ อิมินา เย เต ทิวิ ภวตฺตา ‘‘ทิพฺพา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสุ ทิพฺเพสุ กาเยสุ อุปฺปนฺนานมฺปิ เทวรชฺชํ ทสฺเสติ. สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ ยํ ตํ ‘‘ยํ ยเทวาภิปตฺเถนฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ ¶ วุตฺตํ, ตตฺถ อิทมฺปิ ทุติยํ โอธิโส ปเทสรชฺชาทิ สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ เวทิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
เตรสมคาถาวณฺณนา
๑๓. เอวมิมาย คาถาย ปฺุานุภาเวน ลภิตพฺพํ เทวมนุสฺสรชฺชสมฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ทฺวีหิ คาถาหิ วุตฺตํ สมฺปตฺตึ สมาสโต ปุรกฺขตฺวา นิพฺพานสมฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘มานุสฺสิกา จ สมฺปตฺตี’’ติ อิมํ คาถมาห.
ตสฺสายํ ปทวณฺณนา – มนุสฺสานํ อยนฺติ มานุสฺสี, มานุสฺสี เอว มานุสฺสิกา. สมฺปชฺชนํ สมฺปตฺติ. เทวานํ โลโก เทวโลโก. ตสฺมึ เทวโลเก. ยาติ อนวเสสปริยาทานํ, รมนฺติ เอตาย อชฺฌตฺตํ อุปฺปนฺนาย พหิทฺธา วา อุปกรณภูตายาติ รติ, สุขสฺส สุขวตฺถุโน เจตํ ¶ อธิวจนํ. ยาติ อนิยตวจนํ จสทฺโท ปุพฺพสมฺปตฺติยา สห สมฺปิณฺฑนตฺโถ. นิพฺพานํเยว นิพฺพานสมฺปตฺติ.
อยํ ปน อตฺถวณฺณนา – ยา เอสา ‘‘สุวณฺณตา’’ติอาทีหิ ปเทหิ มานุสฺสิกา จ สมฺปตฺติ เทวโลเก จ ยา รติ วุตฺตา, สา จ สพฺพา, ยา จายมปรา สทฺธานุสาริภาวาทิวเสน ปตฺตพฺพา นิพฺพานสมฺปตฺติ, สา จาติ อิทํ ตติยมฺปิ โอธิโส สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ.
อถ ¶ วา ยา ปุพฺเพ สุวณฺณตาทีหิ อวุตฺตา ‘‘สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ เอวมาทินา (อ. นิ. ๙.๒๑) นเยน นิทฺทิฏฺา ปฺาเวยฺยตฺติยาทิเภทา จ มานุสฺสิกา สมฺปตฺติ, อปรา เทวโลเก จ ยา ฌานาทิรติ, ยา จ ยถาวุตฺตปฺปการา นิพฺพานสมฺปตฺติ จาติ อิทมฺปิ ตติยํ โอธิโส สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ. เอวมฺเปตฺถ อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา.
จุทฺทสมคาถาวณฺณนา
๑๔. เอวมิมาย คาถาย ปฺุานุภาเวน ลภิตพฺพํ สทฺธานุสารีภาวาทิวเสน ปตฺตพฺพํ นิพฺพานสมฺปตฺติมฺปิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตวิชฺชอุภโตภาควิมุตฺตภาววเสนปิ ปตฺตพฺพํ ตเมว ตสฺส อุปายฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘มิตฺตสมฺปทมาคมฺมา’’ติ อิมํ คาถมาห.
ตสฺสายํ ปทวณฺณนา – สมฺปชฺชติ เอตาย คุณวิภูตึ ปาปุณาตีติ สมฺปทา, มิตฺโต เอว สมฺปทา มิตฺตสมฺปทา, ตํ มิตฺตสมฺปทํ ¶ . อาคมฺมาติ นิสฺสาย. โยนิโสติ อุปาเยน. ปยฺุชโตติ โยคานุฏฺานํ กโรโต. วิชานาติ เอตายาติ วิชฺชา, วิมุจฺจติ เอตาย, สยํ วา วิมุจฺจตีติ วิมุตฺติ, วิชฺชา จ วิมุตฺติ จ วิชฺชาวิมุตฺติโย, วิชฺชาวิมุตฺตีสุ วสีภาโว วิชฺชาวิมุตฺติวสีภาโว.
อยํ ปน อตฺถวณฺณนา – ยฺวายํ มิตฺตสมฺปทมาคมฺม สตฺถารํ วา อฺตรํ วา ครุฏฺานิยํ สพฺรหฺมจารึ นิสฺสาย ตโต โอวาทฺจ อนุสาสนิฺจ คเหตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปตฺติยา โยนิโส ปยฺุชโต ปุพฺเพนิวาสาทีสุ ตีสุ วิชฺชาสุ ‘‘ตตฺถ กตมา วิมุตฺติ? จิตฺตสฺส จ อธิมุตฺติ นิพฺพานฺจา’’ติ (ธ. ส. ๑๓๘๑) เอวํ อาคตาย อฏฺสมาปตฺตินิพฺพานเภทาย วิมุตฺติยา จ ตถา ตถา อทนฺธายิตตฺเตน ¶ วสีภาโว, อิทมฺปิ จตุตฺถํ โอธิโส สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ.
ปนฺนรสมคาถาวณฺณนา
๑๕. เอวมิมาย คาถาย ปุพฺเพ กถิตวิชฺชาวิมุตฺติวสีภาวภาคิยปฺุานุภาเวน ลภิตพฺพํ เตวิชฺชอุภโตภาควิมุตฺตภาววเสนปิ ปตฺตพฺพํ นิพฺพานสมฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา วิชฺชาวิมุตฺติวสีภาวปฺปตฺตา เตวิชฺชา อุภโตภาควิมุตฺตาปิ สพฺเพ ปฏิสมฺภิทาทิคุณวิภูตึ ลภนฺติ, อิมาย ปฺุสมฺปทาย จ ตสฺสา คุณวิภูติยา ปทฏฺานวเสน ¶ ตถา ตถา สาปิ ลพฺภติ, ตสฺมา ตมฺปิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิสมฺภิทา วิโมกฺขา จา’’ติ อิมํ คาถมาห.
‘‘ยโต สมฺมา กเตน ยา จายํ ธมฺมตฺถนิรุตฺติปฏิภาเนสุ ปเภทคตา ปฺา ปฏิสมฺภิทา’’ติ วุจฺจติ, เย จิเม ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๑๒๙; ๓.๓๓๙) นเยน อฏฺ วิโมกฺขา, ยา จายํ ภควโต สาวเกหิ ปตฺตพฺพา สาวกสมฺปตฺติสาธิกา สาวกปารมี, ยา จ สยมฺภุภาวสาธิกา ปจฺเจกโพธิ, ยา จ สพฺพสตฺตุตฺตมภาวสาธิกา พุทฺธภูมิ, อิทมฺปิ ปฺจมํ โอธิโส สพฺพเมเตน ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ.
โสฬสมคาถาวณฺณนา
๑๖. เอวํ ภควา ยํ ตํ ‘‘ยํ ยเทวาภิปตฺเถนฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ อิมาหิ ปฺจหิ คาถาหิ โอธิโส โอธิโส ทสฺเสตฺวา ¶ อิทานิ สพฺพเมวิทํ สพฺพกามททนิธิสฺิตํ ปฺุสมฺปทํ ปสํสนฺโต ‘‘เอวํ มหตฺถิกา เอสา’’ติ อิมาย คาถาย เทสนํ นิฏฺเปสิ.
ตสฺสายํ ปทวณฺณนา – เอวนฺติ อตีตตฺถนิทสฺสนํ. มหนฺโต อตฺโถ อสฺสาติ มหตฺถิกา, มหโต อตฺถาย สํวตฺตตีติ วุตฺตํ โหติ, มหิทฺธิกาติปิ ปาโ. เอสาติ อุทฺเทสวจนํ, เตน ‘‘ยสฺส ทาเนน สีเลนา’’ติ อิโต ปภุติ ยาว ‘‘กยิราถ ธีโร ปฺุานี’’ติ วุตฺตํ ปฺุสมฺปทํ อุทฺทิสติ. ยทิทนฺติ อภิมุขกรณตฺเถ นิปาโต, เตน เอสาติ อุทฺทิฏฺํ นิทฺทิสิตุํ ยา เอสาติ อภิมุขํ กโรติ. ปฺุานํ สมฺปทา ปฺุสมฺปทา ¶ . ตสฺมาติ การณวจนํ. ธีราติ ธิติมนฺโต. ปสํสนฺตีติ วณฺณยนฺติ. ปณฺฑิตาติ ปฺาสมฺปนฺนา. กตปฺุตนฺติ กตปฺุภาวํ.
อยํ ปน อตฺถวณฺณนา – อิติ ภควา สุวณฺณตาทึ พุทฺธภูมิปริโยสานํ ปฺุสมฺปทานุภาเวน อธิคนฺตพฺพมตฺถํ วณฺณยิตฺวา อิทานิ ตเมวตฺถํ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต เตเนวตฺเถน ยถาวุตฺตปฺปการาย ปฺุสมฺปทาย มหตฺถิกตฺตํ ถุนนฺโต อาห – เอวํ มหโต อตฺถสฺส อาวหเนน มหตฺถิกา เอสา, ยทิทํ มยา ‘‘ยสฺส ทาเนน สีเลนา’’ติอาทินา นเยน เทสิตา ปฺุสมฺปทา, ตสฺมา มาทิสา สตฺตานํ หิตสุขาวหาย ธมฺมเทสนาย อกิลาสุตาย ยถาภูตคุเณน จ ธีรา ปณฺฑิตา ‘‘อสาธารณมฺเสํ, อโจราหรโณ นิธี’’ติอาทีหิ อิธ วุตฺเตหิ ¶ จ, อวุตฺเตหิ จ ‘‘มา, ภิกฺขเว, ปฺุานํ ภายิตฺถ, สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ, ยทิทํ ปฺุานี’’ติอาทีหิ (อ. นิ. ๗.๖๒; อิติวุ. ๒๒; เนตฺติ. ๑๒๑) วจเนหิ อเนกาการโวการํ กตปฺุตํ ปสํสนฺติ, น ปกฺขปาเตนาติ.
เทสนาปริโยสาเน โส อุปาสโก พหุชเนน สทฺธึ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ, รฺโ จ ปเสนทิโกสลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสิ, ราชา อติวิย ตุฏฺโ หุตฺวา ‘‘สาธุ, คหปติ, สาธุ โข ตฺวํ ¶ , คหปติ, มาทิเสหิปิ อนาหรณียํ นิธึ นิเธสี’’ติ สํราเธตฺวา มหตึ ปูชมกาสีติ.
ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปา-อฏฺกถาย
นิธิกณฺฑสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.