📜

๙. เมตฺตสุตฺตวณฺณนา

นิกฺเขปปฺปโยชนํ

อิทานิ นิธิกณฺฑานนฺตรํ นิกฺขิตฺตสฺส เมตฺตสุตฺตสฺส วณฺณนากฺกโม อนุปฺปตฺโต. ตสฺส อิธ นิกฺเขปปฺปโยชนํ วตฺวา ตโต ปรํ –

‘‘เยน วุตฺตํ ยทา ยตฺถ, ยสฺมา เจเตส ทีปนา;

นิทานํ โสธยิตฺวาสฺส, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ’’.

ตตฺถ ยสฺมา นิธิกณฺเฑน ทานสีลาทิปุฺสมฺปทา วุตฺตา, สา จ สตฺเตสุ เมตฺตาย กตาย มหปฺผลา โหติ ยาว พุทฺธภูมึ ปาเปตุํ สมตฺถา, ตสฺมา ตสฺสา ปุฺสมฺปทาย อุปการทสฺสนตฺถํ, ยสฺมา วา สรเณหิ สาสเน โอตริตฺวา สิกฺขาปเทหิ สีเล ปติฏฺิตานํ ทฺวตฺตึสากาเรน ราคปฺปหานสมตฺถํ, กุมารปฺเหน โมหปฺปหานสมตฺถฺจ กมฺมฏฺานํ ทสฺเสตฺวา, มงฺคลสุตฺเตน ตสฺส ปวตฺติยา มงฺคลภาโว อตฺตรกฺขา จ, รตนสุตฺเตน ตสฺสานุรูปา ปรรกฺขา, ติโรกุฏฺเฏน รตฺตนสุตฺเต วุตฺตภูเตสุ เอกจฺจภูตทสฺสนํ วุตฺตปฺปการาย ปุฺสมฺปตฺติยา ปมชฺชนฺตานํ วิปตฺติ จ, นิธิกณฺเฑน ติโรกุฏฺเฏ วุตฺตวิปตฺติปฏิปกฺขภูตา สมฺปตฺติ จ ทสฺสิตา, โทสปฺปหานสมตฺถํ ปน กมฺมฏฺานํ อทสฺสิตเมว, ตสฺมา ตํ โทสปฺปหานสมตฺถํ กมฺมฏฺานํ ทสฺเสตุํ อิทํ เมตฺตสุตฺตํ อิธ นิกฺขิตฺตํ. เอวฺหิ สุปริปูโร โหติ ขุทฺทกปาโติ อิทมสฺส อิธ นิกฺเขปปฺปโยชนํ.

นิทานโสธนํ

อิทานิ ยายํ –

‘‘เยน วุตฺตํ ยทา ยตฺถ, ยสฺมา เจเตส ทีปนา;

นิทานํ โสธยิตฺวาสฺส, กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ. –

มาติกา นิกฺขิตฺตา, ตตฺถ อิทํ เมตฺตสุตฺตํ ภควตาว วุตฺตํ, น สาวกาทีหิ, ตฺจ ปน ยทา หิมวนฺตปสฺสโต เทวตาหิ อุพฺพาฬฺหา ภิกฺขู ภควโต สนฺติกํ อาคตา, ตทา สาวตฺถิยํ เตสํ ภิกฺขูนํ ปริตฺตตฺถาย กมฺมฏฺานตฺถาย จ วุตฺตนฺติ เอวํ ตาว สงฺเขปโต เอเตสํ ปทานํ ทีปนา นิทานโสธนา เวทิตพฺพา.

วิตฺถารโต ปน เอวํ เวทิตพฺพา – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ อุปกฏฺาย วสฺสูปนายิกาย, เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา นานาเวรชฺชกา ภิกฺขู ภควโต สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วสฺสํ อุปคนฺตุกามา ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺติ. ตตฺร สุทํ ภควา ราคจริตานํ สวิฺาณกอวิฺาณกวเสน เอกาทสวิธํ อสุภกมฺมฏฺานํ, โทสจริตานํ จตุพฺพิธํ เมตฺตาทิกมฺมฏฺานํ, โมหจริตานํ มรณสฺสติกมฺมฏฺานาทีนิ, วิตกฺกจริตานํ อานาปานสฺสติปถวีกสิณาทีนิ, สทฺธาจริตานํ พุทฺธานุสฺสติกมฺมฏฺานาทีนิ, พุทฺธิจริตานํ จตุธาตุววตฺถานาทีนีติ อิมินา นเยน จตุราสีติสหสฺสปฺปเภทจริตานุกูลานิ กมฺมฏฺานานิ กเถติ.

อถ โข ปฺจมตฺตานิ ภิกฺขุสตานิ ภควโต สนฺติเก กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สปฺปายเสนาสนฺจ โคจรคามฺจ ปริเยสมานานิ อนุปุพฺเพน คนฺตฺวา ปจฺจนฺเต หิมวนฺเตน สทฺธึ เอกาพทฺธํ นีลกาจมณิสนฺนิภสิลาตลํ สีตลฆนจฺฉายนีลวนสณฺฑมณฺฑิตํ มุตฺตาชาลรชตปฏฺฏสทิสวาลุกากิณฺณภูมิภาคํ สุจิสาตสีตลชลาสยปริวาริตํ ปพฺพตมทฺทสํสุ. อถ เต ภิกฺขู ตตฺเถกรตฺตึ วสิตฺวา ปภาตาย รตฺติยา สรีรปริกมฺมํ กตฺวา ตสฺส อวิทูเร อฺตรํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. คาโม ฆนนิเวสนสนฺนิวิฏฺกุลสหสฺสยุตฺโต, มนุสฺสา เจตฺถ สทฺธา ปสนฺนา เต ปจฺจนฺเต ปพฺพชิตทสฺสนสฺส ทุลฺลภตาย ภิกฺขู ทิสฺวา เอว ปีติโสมนสฺสชาตา หุตฺวา เต ภิกฺขู โภเชตฺวา ‘‘อิเธว, ภนฺเต, เตมาสํ วสถา’’ติ ยาจิตฺวา ปฺจ ปธานกุฏิสตานิ กาเรตฺวา ตตฺถ มฺจปีปานียปริโภชนียฆฏาทีนิ สพฺพูปกรณานิ ปฏิยาเทสุํ.

ภิกฺขู ทุติยทิวเส อฺํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสึสุ. ตตฺถปิ มนุสฺสา ตเถว อุปฏฺหิตฺวา วสฺสาวาสํ ยาจึสุ. ภิกฺขู ‘‘อสติ อนฺตราเย’’ติ อธิวาเสตฺวา ตํ วนสณฺฑํ ปวิสิตฺวา สพฺพรตฺตินฺทิวํ อารทฺธวีริยา ยามฆณฺฑิกํ โกฏฺเฏตฺวา โยนิโสมนสิการพหุลา วิหรนฺตา รุกฺขมูลานิ อุปคนฺตฺวา นิสีทึสุ. สีลวนฺตานํ ภิกฺขูนํ เตเชน วิหตเตชา รุกฺขเทวตา อตฺตโน อตฺตโน วิมานา โอรุยฺห ทารเก คเหตฺวา อิโต จิโต วิจรนฺติ. เสยฺยถาปิ นาม ราชูหิ วา ราชมหามตฺเตหิ วา คามกาวาสํ คเตหิ คามวาสีนํ ฆเรสุ โอกาเส คหิเต ฆรมนุสฺสกา ฆรา นิกฺขมิตฺวา อฺตฺร วสนฺตา ‘‘กทา นุ คมิสฺสนฺตี’’ติ ทูรโตว โอโลเกนฺติ, เอวเมว เทวตา อตฺตโน อตฺตโน วิมานานิ ฉฑฺเฑตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺติโย ทูรโตว โอโลเกนฺติ ‘‘กทา นุ ภทนฺตา คมิสฺสนฺตี’’ติ. ตโต เอวํ สมจินฺเตสุํ ‘‘ปมวสฺสูปคตา ภิกฺขู อวสฺสํ เตมาสํ วสิสฺสนฺติ, มยํ ปน ตาว จิรํ ทารเก คเหตฺวา โอกฺกมฺม วสิตุํ น สกฺโกม, หนฺท มยํ ภิกฺขูนํ ภยานกํ อารมฺมณํ ทสฺเสมา’’ติ. ตา รตฺตึ ภิกฺขูนํ สมณธมฺมกรณเวลาย ภึสนกานิ ยกฺขรูปานิ นิมฺมินิตฺวา ปุรโต ปุรโต ติฏฺนฺติ, เภรวสทฺทฺจ กโรนฺติ. ภิกฺขูนํ ตานิ รูปานิ ทิสฺวา ตฺจ สทฺทํ สุตฺวา หทยํ ผนฺทิ, ทุพฺพณฺณา จ อเหสุํ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา. เตน เต ภิกฺขู จิตฺตํ เอกคฺคํ กาตุํ นาสกฺขึสุ, เตสํ อเนกคฺคจิตฺตานํ ภเยน จ ปุนปฺปุนํ สํวิคฺคานํ สติ สมฺมุสฺสิ, ตโต เตสํ มุฏฺสตีนํ ทุคฺคนฺธานิ อารมฺมณานิ ปโยเชสุํ, เตสํ เตน ทุคฺคนฺเธน นิมฺมถิยมานมิว มตฺถลุงฺคํ อโหสิ, คาฬฺหา สีสเวทนา อุปฺปชฺชึสุ, น จ ตํ ปวตฺตึ อฺมฺสฺส อาโรเจสุํ.

อเถกทิวสํ สงฺฆตฺเถรสฺส อุปฏฺานกาเล สพฺเพสุ สนฺนิปติเตสุ สงฺฆตฺเถโร ปุจฺฉิ ‘‘ตุมฺหากํ, อาวุโส, อิมํ วนสณฺฑํ ปวิฏฺานํ กติปาหํ อติวิย ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ อโหสิ ปริโยทาโต, วิปฺปสนฺนานิ จ อินฺทฺริยานิ, เอตรหิ ปนตฺถ กิสา ทุพฺพณฺณา อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, กึ โว อิธ อสปฺปาย’’นฺติ. ตโต เอโก ภิกฺขุ อาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, รตฺตึ อีทิสฺจ อีทิสฺจ เภรวารมฺมณํ ปสฺสามิ จ สุณามิ จ, อีทิสฺจ คนฺธํ ฆายามิ, เตน เม จิตฺตํ น สมาธิยตี’’ติ, เอเตเนว อุปาเยน สพฺเพว เต ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. สงฺฆตฺเถโร อาห – ‘‘ภควตา, อาวุโส, ทฺเว วสฺสูปนายิกา ปฺตฺตา, อมฺหากฺจ อิทํ เสนาสนํ อสปฺปายํ, อายามาวุโส, ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา อฺํ สปฺปายเสนาสนํ ปุจฺฉามา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู เถรสฺส ปฏิสฺสุณิตฺวา สพฺเพว เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อนุปลิตฺตตฺตา กุเลสุ กฺจิ อนามนฺเตตฺวา เอว เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกมึสุ. อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภควโต สนฺติกํ อาคมึสุ.

ภควา เต ภิกฺขู ทิสฺวา เอตทโวจ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อนฺโตวสฺสํ จาริกา จริตพฺพาติ มยา สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, กิสฺส ตุมฺเห จาริกํ จรถา’’ติ. เต ภควโต สพฺพมาโรเจสุํ. ภควา อาวชฺเชนฺโต สกลชมฺพุทีเป อนฺตมโส จตุปาทปีกฏฺานมตฺตมฺปิ เตสํ สปฺปายเสนาสนํ นาทฺทส. อถ เต ภิกฺขู อาห – ‘‘น, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ อฺํ สปฺปายเสนาสนํ อตฺถิ, ตตฺเถว ตุมฺเห วิหรนฺตา อาสวกฺขยํ ปาปุณิสฺสถ, คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ตเมว เสนาสนํ อุปนิสฺสาย วิหรถ, สเจ ปน เทวตาหิ อภยํ อิจฺฉถ, อิมํ ปริตฺตํ อุคฺคณฺหถ. เอตฺหิ โว ปริตฺตฺจ กมฺมฏฺานฺจ ภวิสฺสตี’’ติ อิทํ สุตฺตมภาสิ.

อปเร ปนาหุ – ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ตเมว เสนาสนํ อุปนิสฺสาย วิหรถา’’ติ อิทฺจ วตฺวา ภควา อาห – ‘‘อปิจ โข อารฺเกน ปริหรณํ าตพฺพํ. เสยฺยถิทํ – สายํ ปาตํ กรณวเสน ทฺเว เมตฺตา ทฺเว ปริตฺตา ทฺเว อสุภา ทฺเว มรณสฺสตี อฏฺมหาสํเวควตฺถุสมาวชฺชนฺจ, อฏฺ มหาสํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณํ จตฺตาริ อปายทุกฺขานีติ, อถ วา ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺข’’นฺติ. เอวํ ภควา ปริหรณํ อาจิกฺขิตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ เมตฺตตฺถฺจ ปริตฺตตฺถฺจ วิปสฺสนาปาทกชฺฌานตฺถฺจ อิทํ สุตฺตมภาสีติ. เอวํ วิตฺถารโตปิ ‘‘เยน วุตฺตํ ยทา ยตฺถ, ยสฺมา เจ’’ติ เอเตสํ ปทานํ ทีปนา นิทานโสธนา เวทิตพฺพา.

เอตฺตาวตา จ ยา สา ‘‘เยน วุตฺตํ ยทา ยตฺถ, ยสฺมา เจเตส ทีปนา. นิทานํ โสธยิตฺวา’’ติ มาติกา ปิตา, สา สพฺพากาเรน วิตฺถาริตา โหติ.

ปมคาถาวณฺณนา

. อิทานิ ‘‘อสฺส กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ วุตฺตตฺตา เอวํ กตนิทานโสธนสฺส อสฺส สุตฺตสฺส อตฺถวณฺณนา อารพฺภเต. ตตฺถ กรณียมตฺถกุสเลนาติ อิมิสฺสา ปมคาถาย ตาว อยํ ปทวณฺณนา – กรณียนฺติ กาตพฺพํ, กรณารหนฺติ อตฺโถ. อตฺโถติ ปฏิปทา, ยํ วา กิฺจิ อตฺตโน หิตํ, ตํ สพฺพํ อรณียโต อตฺโถติ วุจฺจติ, อรณียโต นาม อุปคนฺตพฺพโต. อตฺเถ กุสเลน อตฺถกุสเลน อตฺถเฉเกนาติ วุตฺตํ โหติ. นฺติ อนิยมิตปจฺจตฺตํ. นฺติ นิยมิตอุปโยคํ, อุภยมฺปิ วา ยํ ตนฺติ ปจฺจตฺตวจนํ. สนฺตํ ปทนฺติ อุปโยควจนํ, ตตฺถ ลกฺขณโต สนฺตํ, ปตฺตพฺพโต ปทํ, นิพฺพานสฺเสตํ อธิวจนํ. อภิสเมจฺจาติ อภิสมาคนฺตฺวา. สกฺโกตีติ สกฺโก, สมตฺโถ ปฏิพโลติ วุตฺตํ โหติ. อุชูติ อชฺชวยุตฺโต. สุฏฺุ อุชูติ สุหุชุ. สุขํ วโจ ตสฺมินฺติ สุวโจ. อสฺสาติ ภเวยฺย. มุทูติ มทฺทวยุตฺโต. น อติมานีติ อนติมานิ.

อยํ ปเนตฺถ อตฺถวณฺณนา – กรณียมตฺถกุสเลน, ยนฺตํ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจาติ เอตฺถ ตาว อตฺถิ กรณียํ, อตฺถิ อกรณียํ. ตตฺถ สงฺเขปโต สิกฺขตฺตยํ กรณียํ. สีลวิปตฺติ, ทิฏฺิวิปตฺติ, อาจารวิปตฺติ, อาชีววิปตฺตีติ เอวมาทิ อกรณียํ. ตถา อตฺถิ อตฺถกุสโล, อตฺถิ อนตฺถกุสโล. ตตฺถ โย อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา น อตฺตานํ สมฺมา ปโยเชติ, ขณฺฑสีโล โหติ, เอกวีสติวิธํ อเนสนํ นิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปติ. เสยฺยถิทํ – เวฬุทานํ ปตฺตทานํ ปุปฺผทานํ ผลทานํ ทนฺตกฏฺทานํ มุโขทกทานํ สินานทานํ จุณฺณทานํ มตฺติกาทานํ จาฏุกมฺยตํ มุคฺคสูปฺยตํ ปาริภฏยตํ ชงฺฆเปสนิกํ เวชฺชกมฺมํ ทูตกมฺมํ ปหิณคมนํ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑํ ทานานุปฺปทานํ วตฺถุวิชฺชํ นกฺขตฺตวิชฺชํ องฺควิชฺชนฺติ. ฉพฺพิเธ จ อโคจเร จรติ. เสยฺยถิทํ – เวสิยาโคจเร วิธวถุลฺลกุมาริกปณฺฑกภิกฺขุนีปานาคารโคจเรติ. สํสฏฺโ จ วิหรติ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ อนนุโลมิเกน คิหิสํสคฺเคน, ยานิ วา ปน ตานิ กุลานิ อสฺสทฺธานิ อปฺปสนฺนานิ อโนปานภูตานิ อกฺโกสกปริภาสกานิ อนตฺถกามานิ อหิตอผาสุกโยคกฺเขมกามานิ ภิกฺขูนํ…เป… อุปาสิกานํ, ตถารูปานิ กุลานิ เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ. อยํ อนตฺถกุสโล.

โย ปน อิมสฺมึ สาสเน ปพฺพชิตฺวา อตฺตานํ สมฺมา ปโยเชติ, อเนสนํ ปหาย จตุปาริสุทฺธิสีเล ปติฏฺาตุกาโม สทฺธาสีเสน ปาติโมกฺขสํวรํ สติสีเสน อินฺทฺริยสํวรํ วีริยสีเสน อาชีวปาริสุทฺธึ, ปฺาสีเสน ปจฺจยปฏิเสวนํ ปูเรติ. อยํ อตฺถกุสโล.

โย วา สตฺตาปตฺติกฺขนฺธโสธนวเสน ปาติโมกฺขสํวรํ, ฉทฺวาเร ฆฏฺฏิตารมฺมเณสุ อภิชฺฌาทีนํ อนุปฺปตฺติวเสน อินฺทฺริสํวรํ, อเนสนปริวชฺชนวเสน วิฺุปฺปสตฺถพุทฺธพุทฺธสาวกวณฺณิตปจฺจยปฏิเสวเนน จ อาชีวปาริสุทฺธึ, ยถาวุตฺตปจฺจเวกฺขณวเสน ปจฺจยปฏิเสวนํ, จตุอิริยาปถปริวตฺตเน สาตฺถกตาทิปจฺจเวกฺขณวเสน สมฺปชฺฺจ โสเธติ. อยมฺปิ อตฺถกุสโล.

โย วา ยถา อูโสทกํ ปฏิจฺจ สํกิลิฏฺํ วตฺถํ ปริโยทาปยติ, ฉาริกํ ปฏิจฺจ อาทาโส, อุกฺกามุขํ ปฏิจฺจ ชาตรูปํ, ตถา าณํ ปฏิจฺจ สีลํ โวทายตีติ ตฺวา าโณทเกน โธวนฺโต สีลํ ปริโยทาเปติ. ยถา จ กิกี สกุณิกา อณฺฑํ, จมรี มิโค วาลธึ, เอกปุตฺติกา นารี ปิยํ เอกปุตฺตกํ, เอกนยโน ปุริโส ตํ เอกนยนฺจ รกฺขติ, ตถา อติวิย อปฺปมตฺโต อตฺตโน สีลกฺขนฺธํ รกฺขติ, สายํ ปาตํ ปจฺจเวกฺขมาโน อณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ น ปสฺสติ. อยมฺปิ อตฺถกุสโล.

โย วา ปน อวิปฺปฏิสารกเร สีเล ปติฏฺาย กิเลสวิกฺขมฺภนปฏิปทํ ปคฺคณฺหาติ, ตํ ปคฺคณฺหิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กโรติ, กสิณปริกมฺมํ กตฺวา สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตติ. อยมฺปิ อตฺถกุสโล.

โย วา ปน สมาปตฺติโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ อตฺถกุสลานํ อคฺโค. ตตฺถ เย อิเม ยาว อวิปฺปฏิสารกเร สีเล ปติฏฺาเนน ยาว วา กิเลสวิกฺขมฺภนปฏิปทายปคฺคหเณน วณฺณิตา อตฺถกุสลา, เต อิมสฺมึ อตฺเถ อตฺถกุสลาติ อธิปฺเปตา. ตถา วิธา จ เต ภิกฺขู. เตน ภควา เต ภิกฺขู สนฺธาย เอกปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ‘‘กรณียมตฺถกุสเลนา’’ติ อาห.

ตโต ‘‘กึ กรณีย’’นฺติ เตสํ สฺชาตกงฺขานํ อาห ‘‘ยนฺตํ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจา’’ติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ตํ พุทฺธานุพุทฺเธหิ วณฺณิตํ สนฺตํ นิพฺพานปทํ ปฏิเวธวเสน อภิสเมจฺจ วิหริตุกาเมน ยํ กรณียนฺติ. เอตฺถ จ นฺติ อิมสฺส คาถาปทสฺส อาทิโต วุตฺตเมว กรณียนฺติ อธิการโต อนุวตฺตติ, ตํ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจาติ. อยํ ปน ยสฺมา สาวเสสปาโ อตฺโถ, ตสฺมา วิหริตุกาเมนาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อถ วา สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจาติ อนุสฺสวาทิวเสน โลกิยปฺาย นิพฺพานปทํ ‘‘สนฺต’’นฺติ ตฺวา ตํ อธิคนฺตุกาเมน ยนฺตํ กรณียนฺติ อธิการโต อนุวตฺตติ, ตํ กรณียมตฺถกุสเลนาติ เอวมฺเปตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อถ วา ‘‘กรณียมตฺถกุสเลนา’’ติ วุตฺเต ‘‘กิ’’นฺติ จินฺเตนฺตานํ อาห ‘‘ยนฺตํ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจา’’ติ. ตสฺเสวํ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ – โลกิยปฺาย สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ ยํ กรณียํ กาตพฺพํ, ตํ กรณียํ, กรณารหเมว ตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

กึ ปน ตนฺติ ? กิมฺํ สิยา อฺตฺร ตทธิคมุปายโต, กามฺเจตํ กรณารหฏฺเน สิกฺขตฺตยทีปเกน อาทิปเทเนว วุตฺตํ. ตถา หิ ตสฺส อตฺถวณฺณนายํ อโวจุมฺหา ‘‘อตฺถิ กรณียํ, อตฺถิ อกรณียํ. ตตฺถ สงฺเขปโต สิกฺขตฺตยํ กรณีย’’นฺติ. อติสงฺเขเปน เทสิตตฺตา ปน เตสํ ภิกฺขูนํ เกหิจิ วิฺาตํ, เกหิจิ น วิฺาตํ. ตโต เยหิ น วิฺาตํ, เตสํ วิฺาปนตฺถํ ยํ วิเสสโต อารฺเกน ภิกฺขุนา กาตพฺพํ, ตํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘สกฺโก อุชู จ สุหุชู จ, สุวโจ จสฺส มุทุ อนติมานี’’ติ อิมํ ตาว อุปฑฺฒคาถมาห.

กึ วุตฺตํ โหติ? สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ วิหริตุกาโม, โลกิยปฺาย วา ตํ อภิสเมจฺจ ตทธิคมาย ปฏิปชฺชมาโน อารฺโก ภิกฺขุ ทุติยจตุตฺถปธานิยงฺคสมนฺนาคเมน กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺโข หุตฺวา สจฺจปฺปฏิเวธาย ปฏิปชฺชิตุํ สกฺโก อสฺส, ตถา กสิณปริกมฺมวตฺตสมาทานาทีสุ อตฺตโน ปตฺตจีวรปฺปฏิสงฺขรณาทีสุ จ ยานิ ตานิ สพฺรหฺมจารีนํ อุจฺจาวจานิ กึ กรณียานิ, เตสุ อฺเสุ จ เอวรูเปสุ สกฺโก อสฺส ทกฺโข อนลโส สมตฺโถ. สกฺโก โหนฺโตปิ จ ตติยปธานิยงฺคสมนฺนาคเมน อุชุ อสฺส. อุชุ โหนฺโตปิ จ สกึ อุชุภาเวน ทหรกาเล วา อุชุภาเวน สนฺโตสํ อนาปชฺชิตฺวา ยาวชีวํ ปุนปฺปุนํ อสิถิลกรเณน สุฏฺุตรํ อุชุ อสฺส. อสตาย วา อุชุ, อมายาวิตาย สุหุชุ. กายวจีวงฺกปฺปหาเนน วา อุชุ, มโนวงฺกปฺปหาเนน สุหุชุ. อสนฺตคุณสฺส วา อนาวิกรเณน อุชุ, อสนฺตคุเณน อุปฺปนฺนสฺส ลาภสฺส อนธิวาสเนน สุหุชุ. เอวํ อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌาเนหิ ปุริมทฺวยตติยสิกฺขาหิ ปโยคาสยสุทฺธีหิ จ อุชุ จ สุหุชุ จ อสฺส.

น เกวลฺจ อุชุ จ สุหุชุ จ, อปิจ ปน สุวโจ จ อสฺส. โย หิ ปุคฺคโล ‘‘อิทํ น กตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺโต ‘‘กึ เต ทิฏฺํ, กึ เต สุตํ, โก เม สุตฺวา วทสิ, กึ อุปชฺฌาโย อาจริโย สนฺทิฏฺโ สมฺภตฺโต วา’’ติ วเทติ, ตุณฺหีภาเวน วา ตํ วิเหเสติ, สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วา น ตถา กโรติ, โส วิเสสาธิคมสฺส ทูเร โหติ. โย ปน โอวทิยมาโน ‘‘สาธุ, ภนฺเต สุฏฺุ วุตฺตํ, อตฺตโน วชฺชํ นาม ทุทฺทสํ โหติ, ปุนปิ มํ เอวรูปํ ทิสฺวา วเทยฺยาถ อนุกมฺปํ อุปาทาย, จิรสฺสํ เม ตุมฺหากํ สนฺติกา โอวาโท ลทฺโธ’’ติ วทติ, ยถานุสิฏฺฺจ ปฏิปชฺชติ, โส วิเสสาธิคมสฺส อวิทูเร โหติ. ตสฺมา เอวํ ปรสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา กโรนฺโต สุวโจ จ อสฺส.

ยถา จ สุวโจ, เอวํ มุทุ อสฺส. มุทูติ คหฏฺเหิ ทูตคมนปหิณคมนาทีสุ นิยุชฺชมาโน ตตฺถ มุทุภาวํ อกตฺวา ถทฺโธ หุตฺวา วตฺตปฏิปตฺติยํ สกลพฺรหฺมจริเย จ มุทุ อสฺส สุปริกมฺมกตสุวณฺณํ วิย ตตฺถ ตตฺถ วินิโยคกฺขโม. อถ วา มุทูติ อภากุฏิโก อุตฺตานมุโข สุขสมฺภาโส ปฏิสนฺถารวุตฺติ สุติตฺถํ วิย สุขาวคาโห อสฺส. น เกวลฺจ มุทุ, อปิจ ปน อนติมานี อสฺส, ชาติโคตฺตาทีหิ อติมานวตฺถูหิ ปเร นาติมฺเยฺย, สาริปุตฺตตฺเถโร วิย จณฺฑาลกุมารกสเมน เจตสา วิหเรยฺยาติ.

ทุติยคาถาวณฺณนา

. เอวํ ภควา สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ วิหริตุกามสฺส ตทธิคมาย วา ปฏิปชฺชมานสฺส วิเสสโต อารฺกสฺส ภิกฺขุโน เอกจฺจํ กรณียํ วตฺวา ปุน ตตุตฺตริปิ วตฺตุกาโม ‘‘สนฺตุสฺสโก จา’’ติ ทุติยคาถมาห.

ตตฺถ ‘‘สนฺตุฏฺี จ กตฺุตา’’ติ เอตฺถ วุตฺตปฺปเภเทน ทฺวาทสวิเธน สนฺโตเสน สนฺตุสฺสตีติ สนฺตุสฺสโก. อถ วา ตุสฺสตีติ ตุสฺสโก, สเกน ตุสฺสโก, สนฺเตน ตุสฺสโก, สเมน ตุสฺสโกติ สนฺตุสฺสโก. ตตฺถ สกํ นาม ‘‘ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสายา’’ติ เอวํ อุปสมฺปทมณฺฑเล อุทฺทิฏฺํ อตฺตนา จ สมฺปฏิจฺฉิตํ จตุปจฺจยชาตํ, เตน สุนฺทเรน วา อสุนฺทเรน วา สกฺกจฺจํ วา อสกฺกจฺจํ วา ทินฺเนน ปฏิคฺคหณกาเล ปริโภคกาเล จ วิการํ อทสฺเสตฺวา ยาเปนฺโต ‘‘สเกน ตุสฺสโก’’ติ วุจฺจติ. สนฺตํ นาม ยํ ลทฺธํ โหติ อตฺตโน ‘วิชฺชมานํ , เตน สนฺเตเนว ตุสฺสนฺโต ตโต ปรํ น ปตฺเถนฺโต อตฺริจฺฉตํ ปชหนฺโต ‘‘สนฺเตน ตุสฺสโก’’ติ วุจฺจติ. สมํ นาม อิฏฺานิฏฺเสุ อนุนยปฏิฆปฺปหานํ, เตน สเมน สพฺพารมฺมเณสุ ตุสฺสนฺโต ‘‘สเมน ตุสฺสโก’’ติ วุจฺจติ.

สุเขน ภรียตีติ สุภโร, สุโปโสติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ ภิกฺขุ มนุสฺเสหิ สาลิมํโสทนาทีนํ ปตฺเต ปูเรตฺวา ทินฺเนปิ ทุมฺมุขภาวํ อนตฺตมนภาวเมว จ ทสฺเสติ, เตสํ วา สมฺมุขาว ตํ ปิณฺฑปาตํ ‘‘กึ ตุมฺเหหิ ทินฺน’’นฺติ อปสาเทนฺโต สามเณรคหฏฺาทีนํ เทติ, เอส ทุพฺภโร. เอตํ ทิสฺวา มนุสฺสา ทูรโตว ปริวชฺเชนฺติ ‘‘ทุพฺภโร ภิกฺขุ น สกฺกา โปเสตุ’’นฺติ . โย ปน ยํ กิฺจิ ลูขํ วา ปณีตํ วา อปฺปํ วา พหุํ วา ลภิตฺวา อตฺตมโน วิปฺปสนฺนมุโข หุตฺวา ยาเปติ, เอส สุภโร. เอตํ ทิสฺวา มนุสฺสา อติวิย วิสฺสตฺถา โหนฺติ, ‘‘อมฺหากํ ภทนฺโต สุภโร, โถกโถเกนาปิ ตุสฺสติ, มยเมว นํ โปเสสฺสามา’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา โปเสนฺติ. เอวรูโป อิธ สุภโรติ อธิปฺเปโต.

อปฺปํ กิจฺจมสฺสาติ อปฺปกิจฺโจ, น กมฺมารามตาภสฺสารามตาสงฺคณิการามตาทิอเนกกิจฺจพฺยาวโฏ, อถ วา สกลวิหาเร นวกมฺมสงฺฆปริโภคสามเณรอารามิกโวสาสนาทิกิจฺจวิรหิโต, อตฺตโน เกสนขจฺเฉทนปตฺตจีวรกมฺมาทึ กตฺวา สมณธมฺมกิจฺจปโร โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

สลฺลหุกา วุตฺติ อสฺสาติ สลฺลหุกวุตฺติ. ยถา เอกจฺโจ พหุภณฺโฑ ภิกฺขุ ทิสาปกฺกมนกาเล พหุํ ปตฺตจีวรปจฺจตฺถรณเตลคุฬาทึ มหาชเนน สีสภารกฏิภาราทีหิ อุพฺพหาเปตฺวา ปกฺกมติ, เอวํ อหุตฺวา โย อปฺปปริกฺขาโร โหติ, ปตฺตจีวราทิอฏฺสมณปริกฺขารมตฺตเมว ปริหรติ, ทิสาปกฺกมนกาเล ปกฺขี สกุโณ วิย สมาทาเยว ปกฺกมติ , เอวรูโป อิธ สลฺลหุกวุตฺตีติ อธิปฺเปโต. สนฺตานิ อินฺทฺริยานิ อสฺสาติ สนฺตินฺทฺริโย, อิฏฺารมฺมณาทีสุ ราคาทิวเสน อนุทฺธตินฺทฺริโยติ วุตฺตํ โหติ. นิปโกติ วิฺู วิภาวี ปฺวา, สีลานุรกฺขณปฺาย จีวราทิวิจารณปฺาย อาวาสาทิสตฺตสปฺปายปริชานนปฺาย จ สมนฺนาคโตติ อธิปฺปาโย.

น ปคพฺโภติ อปฺปคพฺโภ, อฏฺฏฺาเนน กายปาคพฺภิเยน จตุฏฺาเนน วจีปาคพฺภิเยน อเนเกน าเนน มโนปาคพฺภิเยน จ วิรหิโตติ อตฺโถ.

อฏฺฏฺานํ กายปาคพฺภิยํ (มหานิ. ๘๗) นาม สงฺฆคณปุคฺคลโภชนสาลาชนฺตาฆรนฺหานติตฺถภิกฺขาจารมคฺคอนฺตรฆรปฺปเวสเนสุ กาเยน อปฺปติรูปกรณํ. เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ สงฺฆมชฺเฌ ปลฺลตฺถิกาย วา นิสีทติ ปาเท ปาทโมทหิตฺวา วาติ เอวมาทิ. ตถา คณมชฺเฌ จตุปริสสนฺนิปาเต, ตถา วุฑฺฒตเร ปุคฺคเล. โภชนสาลายํ ปน วุฑฺฒานํ อาสนํ น เทติ, นวานํ อาสนํ ปฏิพาหติ. ตถา ชนฺตาฆเร, วุฑฺเฒ เจตฺถ อนาปุจฺฉา อคฺคิชาลนาทีนิ กโรติ. นฺหานติตฺเถ จ ยทิทํ ‘‘ทหโร วุฑฺโฒติ ปมาณํ อกตฺวา อาคตปฏิปาฏิยา นฺหายิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ อนาทิยนฺโต ปจฺฉา อาคนฺตฺวา อุทกํ โอตริตฺวา วุฑฺเฒ จ นเว จ พาเธติ. ภิกฺขาจารมคฺเค ปน อคฺคาสนอคฺโคทกอคฺคปิณฺฑตฺถํ วุฑฺฒานํ ปุรโต ปุรโต ยาติ, พาหาย พาหํ ปหรนฺโต. อนฺตรฆรปฺปเวสเน วุฑฺฒานํ ปมตรํ ปวิสติ, ทหเรหิ กายกีฬนํ กโรตีติ เอวมาทิ.

จตุฏฺานํ วจีปาคพฺภิยํ (มหานิ. ๘๗) นาม สงฺฆคณปุคฺคลอนฺตรฆเรสุ อปฺปติรูปวาจานิจฺฉารณํ. เสยฺยถิทํ – อิเธกจฺโจ สงฺฆมชฺเฌ อนาปุจฺฉา ธมฺมํ ภาสติ, ตถา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร คเณ วุฑฺฒตเร ปุคฺคเล จ, ตตฺถ มนุสฺเสหิ ปฺหํ ปุฏฺโ วุฑฺฒตรํ อนาปุจฺฉา วิสฺสชฺเชติ, อนฺตรฆเร ปน ‘‘อิตฺถนฺนาเม กึ อตฺถิ, กึ ยาคุ อุทาหุ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, กึ เม ทสฺสสิ, กึ อชฺช ขาทิสฺสามิ, กึ ภุฺชิสฺสามิ, กึ ปิวิสฺสามี’’ติ เอวมาทึ ภาสติ.

อเนกฏฺานํ มโนปาคพฺภิยํ (มหานิ. ๘๗) นาม เตสุ เตสุ าเนสุ กายวาจาหิ อชฺฌาจารํ อนาปชฺชิตฺวาปิ มนสา เอว กามวิตกฺกาทินานปฺปการํ อปฺปติรูปวิตกฺกนํ.

กุเลสฺวนนุคิทฺโธติ ยานิ ตานิ กุลานิ อุปสงฺกมติ, เตสุ ปจฺจยตณฺหาย วา อนนุโลมิกคิหิสํสคฺควเสน วา อนนุคิทฺโธ, น สหโสกี, น สหนนฺที, น สุขิเตสุ สุขิโต, น ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโต, น อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ อตฺตนา วา อุยฺโยคมาปชฺชิตาติ วุตฺตํ โหติ. อิมิสฺสาย จ คาถาย ยํ ‘‘สุวโจ จสฺสา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ อสฺสาติ วจนํ, ตํ สพฺพปเทหิ สทฺธึ สนฺตุสฺสโก จ อสฺส, สุภโร จ อสฺสาติ เอวํ โยเชตพฺพํ.

ตติยคาถาวณฺณนา

. เอวํ ภควา สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ วิหริตุกามสฺส ตทธิคมาย วา ปฏิปชฺชิตุกามสฺส วิเสสโต อารฺกสฺส ภิกฺขุโน ตทุตฺตริปิ กรณียํ อาจิกฺขิตฺวา อิทานิ อกรณียมฺปิ อาจิกฺขิตุกาโม ‘‘น จ ขุทฺทมาจเร กิฺจิ, เยน วิฺู ปเร อุปวเทยฺยุ’’นฺติ อิมํ อุปฑฺฒคาถมาห.

ตสฺสตฺโถ – เอวมิมํ กรณียํ กโรนฺโต ยํ ตํ กายวจีมโนทุจฺจริตํ ขุทฺทํ ลามกนฺติ วุจฺจติ, ตํ น จ ขุทฺทํ สมาจเร, อสมาจรนฺโต จ น เกวลํ โอฬาริกํ, กินฺตุ กิฺจิ น สมาจเร, อปฺปมตฺตกมฺปิ อณุมตฺตกมฺปิ น สมาจเรติ วุตฺตํ โหติ.

ตโต ตสฺส สมาจาเร สนฺทิฏฺิกเมวาทีนวํ ทสฺเสติ ‘‘เยน วิฺู ปเร อุปวเทยฺยุ’’นฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อวิฺู ปเร อปฺปมาณํ. เต หิ อนวชฺชํ วา สาวชฺชํ กโรนฺติ, อปฺปสาวชฺชํ วา มหาสาวชฺชํ. วิฺู เอว ปน ปมาณํ. เต หิ อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสนฺติ, วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสนฺติ. ตสฺมา ‘‘วิฺู ปเร’’ติ วุตฺตํ.

เอวํ ภควา อิมาหิ อฑฺฒเตยฺยาหิ คาถาหิ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ วิหริตุกามสฺส ตทธิคมาย วา ปฏิปชฺชิตุกามสฺส วิเสสโต อารฺกสฺส, อารฺกสีเสน จ สพฺเพสมฺปิ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา วิหริตุกามานํ กรณียากรณียเภทํ กมฺมฏฺานูปจารํ วตฺวา อิทานิ เตสํ ภิกฺขูนํ ตสฺส เทวตาภยสฺส ปฏิฆาตาย ปริตฺตตฺถํ วิปสฺสนาปาทกชฺฌานวเสน กมฺมฏฺานตฺถฺจ ‘‘สุขิโนว เขมิโน โหนฺตู’’ติอาทินา นเยน เมตฺตกถํ กเถตุมารทฺโธ.

ตตฺถ สุขิโนติ สุขสมฺปนฺนา. เขมิโนติ เขมวนฺโต, อภยา นิรุปทฺทวาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺเพติ อนวเสสา. สตฺตาติ ปาณิโน. สุขิตตฺตาติ สุขิตจิตฺตา. เอตฺถ จ กายิเกน สุเขน สุขิโน, มานเสน สุขิตตฺตา, ตทุภเยนาปิ สพฺพภยุปทฺทววิคเมน วา เขมิโนติ เวทิตพฺโพ. กสฺมา ปน เอวํ วุตฺตํ? เมตฺตาภาวนาการทสฺสนตฺถํ. เอวฺหิ เมตฺตา ภาเวตพฺพา ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิโน โหนฺตู’’ติ วา, ‘‘เขมิโน โหนฺตู’’ติ วา, ‘‘สุขิตตฺตา โหนฺตู’’ติ วา.

จตุตฺถคาถาวณฺณนา

. เอวํ ยาว อุปจารโต อปฺปนาโกฏิ, ตาว สงฺเขเปน เมตฺตาภาวนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโตปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย เกจี’’ติ คาถาทฺวยมาห. อถ วา ยสฺมา ปุถุตฺตารมฺมเณ ปริจิตํ จิตฺตํ น อาทิเกเนว เอกตฺเต สณฺาติ อารมฺมณปฺปเภทํ ปน อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา กเมน สณฺาติ, ตสฺมา ตสฺส ตสถาวราทิทุกติกปฺปเภเท อารมฺมเณ อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา สณฺานตฺถมฺปิ ‘‘เย เกจี’’ติ คาถาทฺวยมาห. อถ วา ยสฺมา ยสฺส ยํ อารมฺมณํ วิภูตํ โหติ, ตสฺส ตตฺถ จิตฺตํ สุขํ ติฏฺติ, ตสฺมา เตสํ ภิกฺขูนํ ยสฺส ยํ วิภูตํ อารมฺมณํ, ตสฺส ตตฺถ จิตฺตํ สณฺาเปตุกาโม ตสถาวราทิทุกติการมฺมณเภททีปกํ ‘‘เย เกจี’’ติ อิมํ คาถาทฺวยมาห.

เอตฺถ หิ ตสถาวรทุกํ ทิฏฺาทิฏฺทุกํ ทูรสนฺติกทุกํ ภูตสมฺภเวสิทุกนฺติ จตฺตาโร ทุเก, ทีฆาทีหิ จ ฉหิ ปเทหิ มชฺฌิมปทสฺส ตีสุ อณุกปทสฺส จ ทฺวีสุ ติเกสุ อตฺถสมฺภวโต ทีฆรสฺสมชฺฌิมติกํ มหนฺตาณุกมชฺฌิมติกํ ถูลาณุกมชฺฌิมติกนฺติ ตโย ติเก จ ทีเปติ. ตตฺถ เย เกจีติ อนวเสสวจนํ. ปาณา เอว ภูตา ปาณภูตา. อถ วา ปาณนฺตีติ ปาณา, เอเตน อสฺสาสปสฺสาสปฺปฏิพทฺเธ ปฺจโวการสตฺเต คณฺหาติ. ภวนฺตีติ ภูตา, เอเตน เอกโวการจตุโวการสตฺเต คณฺหาติ. อตฺถีติ สนฺติ สํวิชฺชนฺติ.

เอวํ ‘‘เย เกจิ ปาณภูตตฺถี’’ติ อิมินา วจเนน ทุกติเกหิ สงฺคเหตพฺเพ สพฺพสตฺเต เอกโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺเพปิ เต ตสา วา ถาวรา ว นวเสสาติ อิมินา ทุเกน สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติ.

ตตฺถ ตสนฺตีติ ตสา, สตณฺหานํ สภยานฺเจตํ อธิวจนํ. ติฏฺนฺตีติ ถาวรา, ปหีนตณฺหาภยานํ อรหตํ เอตํ อธิวจนํ. นตฺถิ เตสํ อวเสสนฺติ อนวเสสา, สพฺเพปีติ วุตฺตํ โหติ. ยฺจ ทุติยคาถาย อนฺเต วุตฺตํ, ตํ สพฺพทุกติเกหิ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘เย เกจิ ปาณภูตตฺถิ ตสา วา ถาวรา วา อนวเสสา, อิเมปิ สพฺเพ สตฺตา ภวนฺตุ สุขิตตฺตา. เอวํ ยาว ภูตา วา สมฺภเวสี วา, อิเมปิ สพฺเพ สตฺตา ภวนฺตุ สุขิตตฺตา’’ติ.

อิทานิ ทีฆรสฺสมชฺฌิมาทิติกตฺตยทีปเกสุ ทีฆา วาติอาทีสุ ฉสุ ปเทสุ ทีฆาติ ทีฆตฺตภาวา นาคมจฺฉโคธาทโย. อเนกพฺยามสตปฺปมาณาปิ หิ มหาสมุทฺเท นาคานํ อตฺตภาวา อเนกโยชนปฺปมาณา จ มจฺฉโคธาทีนํ อตฺตภาวา โหนฺติ. มหนฺตาติ มหนฺตตฺตภาวา ชเล มจฺฉกจฺฉปาทโย, ถเล หตฺถินาคาทโย, อมนุสฺเสสุ ทานวาทโย . อาห จ ‘‘ราหุคฺคํ อตฺตภาวีน’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๑๕). ตสฺส หิ อตฺตภาโว อุพฺเพเธน จตฺตาริ โยชนสหสฺสานิ อฏฺ จ โยชนสตานิ, พาหู ทฺวาทสโยชนสตปริมาณา, ปฺาสโยชนํ ภมุกนฺตรํ, ตถา องฺคุลนฺตริกา, หตฺถตลานิ ทฺเว โยชนสตานีติ. มชฺฌิมาติ อสฺสโคณมหึสสูกราทีนํ อตฺตภาวา. รสฺสกาติ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ วามนาทโย ทีฆมชฺฌิเมหิ โอมกปฺปมาณา สตฺตา. อณุกาติ มํสจกฺขุสฺส อโคจรา ทิพฺพจกฺขุวิสยา อุทกาทีสุ นิพฺพตฺตา สุขุมตฺตภาวา สตฺตา อูกาทโย วา. อปิจ เย ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ มหนฺตมชฺฌิเมหิ ถูลมชฺฌิเมหิ จ โอมกปฺปมาณา สตฺตา, เต อณุกาติ เวทิตพฺพา. ถูลาติ ปริมณฺฑลตฺตภาวา สิปฺปิกสมฺพุกาทโย สตฺตา.

ปฺจมคาถาวณฺณนา

. เอวํ ตีหิ ติเกหิ อนวเสสโต สตฺเต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘ทิฏฺา วา เย ว อทิฏฺา’’ติอาทีหิ ตีหิ ทุเกหิปิ เต สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติ.

ตตฺถ ทิฏฺาติ เย อตฺตโน จกฺขุสฺส อาปาถมาคตวเสน ทิฏฺปุพฺพา. อทิฏฺาติ เย ปรสมุทฺทปรเสลปรจกฺกวาฬาทีสุ ิตา. ‘‘เย วา ทูเร วสนฺติ อวิทูเร’’ติ อิมินา ปน ทุเกน อตฺตโน อตฺตภาวสฺส ทูเร จ อวิทูเร จ วสนฺเต สตฺเต ทสฺเสติ, เต อปททฺวิปทวเสน เวทิตพฺพา. อตฺตโน หิ กาเย วสนฺตา สตฺตา อวิทูเร, พหิกาเย วสนฺตา สตฺตา ทูเร. ตถา อนฺโตอุปจาเร วสนฺตา อวิทูเร, พหิอุปจาเร วสนฺตา ทูเร. อตฺตโน วิหาเร คาเม ชนปเท ทีเป จกฺกวาเฬ วสนฺตา อวิทูเร, ปรจกฺกวาเฬ วสนฺตา ทูเร วสนฺตีติ วุจฺจนฺติ.

ภูตาติ ชาตา อภินิพฺพตฺตา. เย ภูตา เอว, น ปุน ภวิสฺสนฺตีติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ, เตสํ ขีณาสวานํ เอตํ อธิวจนํ. สมฺภวเมสนฺตีติ สมฺภเวสี. อปฺปหีนภวสํโยชนตฺตา อายติมฺปิ สมฺภวํ เอสนฺตานํ เสขปุถุชฺชนานเมตํ อธิวจนํ. อถ วา จตูสุ โยนีสุ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา ยาว อณฺฑโกสํ วตฺถิโกสฺจ น ภินฺทนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม, อณฺฑโกสํ วตฺถิโกสฺจ ภินฺทิตฺวา พหิ นิกฺขนฺตา ภูตา นาม . สํเสทชา โอปปาติกา จ ปมจิตฺตกฺขเณ สมฺภเวสี นาม, ทุติยจิตฺตกฺขณโต ปภุติ ภูตา นาม. เยน วา อิริยาปเถน ชายนฺติ, ยาว ตโต อฺํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม, ตโต ปรํ ภูตาติ.

ฉฏฺคาถาวณฺณนา

. เอวํ ภควา ‘‘สุขิโน วา’’ติอาทีหิ อฑฺฒเตยฺยาหิ คาถาหิ นานปฺปการโต เตสํ ภิกฺขูนํ หิตสุขาคมปตฺถนาวเสน สตฺเตสุ เมตฺตาภาวนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อหิตทุกฺขานาคมปตฺถนาวเสนาปิ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น ปโร ปรํ นิกุพฺเพถา’’ติ. เอส โปราโณ ปาโ, อิทานิ ปน ‘‘ปรํ หี’’ติปิ ปนฺติ, อยํ น โสภโน.

ตตฺถ ปโรติ ปรชโน. ปรนฺติ ปรชนํ. น นิกุพฺเพถาติ น วฺเจยฺย. นาติมฺเถาติ น อติกฺกมิตฺวา มฺเยฺย. กตฺถจีติ กตฺถจิ โอกาเส, คาเม วา คามเขตฺเต วา าติมชฺเฌ วา ปูคมชฺเฌ วาติอาทิ. นฺติ เอตํ. กฺจีติ ยํ กฺจิ ขตฺติยํ วา พฺราหฺมณํ วา คหฏฺํ วา ปพฺพชิตํ วา สุขิตํ วา ทุกฺขิตํ วาติอาทิ. พฺยาโรสนา ปฏิฆสฺาติ กายวจีวิกาเรหิ พฺยาโรสนาย จ มโนวิกาเรน ปฏิฆสฺาย จ. ‘‘พฺยาโรสนาย ปฏิฆสฺายา’’ติ หิ วตฺตพฺเพ ‘‘พฺยาโรสนา ปฏิฆสฺา’’ติ วุจฺจติ, ยถา ‘‘สมฺมทฺาย วิมุตฺตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สมฺมทฺา วิมุตฺตา’’ติ, ยถา จ ‘‘อนุปุพฺพสิกฺขาย อนุปุพฺพกิริยาย อนุปุพฺพปฏิปทายา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อนุปุพฺพสิกฺขา อนุปุพฺพกิริยา อนุปุพฺพปฏิปทา’’ติ. นาฺมฺสฺส ทุกฺขมิจฺเฉยฺยาติ อฺมฺสฺส ทุกฺขํ น อิจฺเฉยฺย . กึ วุตฺตํ โหติ? น เกวลํ ‘‘สุขิโน วา เขมิโน วา โหนฺตู’’ติอาทิมนสิการวเสเนว เมตฺตํ ภาเวยฺย, กินฺตุ ‘‘อโหวต โย โกจิ ปรปุคฺคโล ยํ กฺจิ ปรปุคฺคลํ วฺจนาทีหิ นิกตีหิ น นิกุพฺเพถ, ชาติอาทีหิ จ นวหิ มานวตฺถูหิ กตฺถจิ ปเทเส กฺจิ ปรปุคฺคลํ นาติมฺเยฺย, อฺมฺสฺส จ พฺยาโรสนาย วา ปฏิฆสฺาย วา ทุกฺขํ น อิจฺเฉยฺยา’’ติ เอวมฺปิ มนสิกโรนฺโต ภาเวยฺยาติ.

สตฺตมคาถาวณฺณนา

. เอวํ อหิตทุกฺขานาคมปตฺถนาวเสน อตฺถโต เมตฺตาภาวนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตเมว อุปมาย ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มาตา ยถา นิยํปุตฺต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ยถา มาตา นิยํ ปุตฺตํ อตฺตนิ ชาตํ โอรสํ ปุตฺตํ, ตฺจ เอกปุตฺตเมว อายุสา อนุรกฺเข, ตสฺส ทุกฺขาคมปฺปฏิพาหนตฺถํ อตฺตโน อายุมฺปิ จชิตฺวา ตํ อนุรกฺเข, เอวมฺปิ สพฺพภูเตสุ อิทํ เมตฺตาขฺยํ มานสํ ภาวเย, ปุนปฺปุนํ ชนเย วฑฺฒเย, ตฺจ อปริมาณสตฺตารมฺมณวเสน เอกสฺมึ วา สตฺเต อนวเสสผรณวเสน อปริมาณํ ภาวเยติ.

อฏฺมคาถาวณฺณนา

. เอวํ สพฺพากาเรน เมตฺตาภาวนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺเสว วฑฺฒนํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เมตฺตฺจ สพฺพโลกสฺมี’’ติ.

ตตฺถ มิชฺชติ ตายติ จาติ มิตฺโต, หิตชฺฌาสยตาย สินิยฺหติ, อหิตาคมโต รกฺขติ จาติ อตฺโถ. มิตฺตสฺส ภาโว เมตฺตํ. สพฺพโลกสฺมีติ อนวเสเส สตฺตโลเก. มนสิ ภวนฺติ มานสํ. ตฺหิ จิตฺตสมฺปยุตฺตตฺตา เอวํ วุตฺตํ. ภาวเยติ วฑฺฒเย. น อสฺส ปริมาณนฺติ อปริมาณํ, อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตาย เอวํ วุตฺตํ. อุทฺธนฺติ อุปริ, เตน อรูปภวํ คณฺหาติ. อโธติ เหฏฺา, เตน กามภวํ คณฺหาติ. ติริยนฺติ เวมชฺฌํ, เตน รูปภวํ คณฺหาติ. อสมฺพาธนฺติ สมฺพาธวิรหิตํ, ภินฺนสีมนฺติ วุตฺตํ โหติ. สีมา นาม ปจฺจตฺถิโก วุจฺจติ, ตสฺมิมฺปิ ปวตฺตนฺติ อตฺโถ. อเวรนฺติ เวรวิรหิตํ , อนฺตรนฺตราปิ เวรเจตนาปาตุภาววิรหิตนฺติ อตฺโถ. อสปตฺตนฺติ วิคตปจฺจตฺถิกํ. เมตฺตาวิหารี หิ ปุคฺคโล มนุสฺสานํ ปิโย โหติ, อมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, นาสฺส โกจิ ปจฺจตฺถิโก โหติ, เตนสฺส ตํ มานสํ วิคตปจฺจตฺถิกตฺตา อสปตฺตนฺติ วุจฺจติ. ปริยายวจนฺหิ เอตํ, ยทิทํ ปจฺจตฺถิโก สปตฺโตติ. อยํ อนุปทโต อตฺถวณฺณนา.

อยํ ปเนตฺถ อธิปฺเปตตฺถทีปนา – ยทิทํ ‘‘เอวมฺปิ สพฺพภูเตสุ มานสํ ภาวเย อปริมาณ’’นฺติ วุตฺตํ, ตฺเจตํ อปริมาณํ เมตฺตํ มานสํ สพฺพโลกสฺมึ ภาวเย วฑฺฒเย, วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ คมเย ปาปเย. กถํ? อุทฺธํ อโธ จ ติริยฺจ, อุทฺธํ ยาว ภวคฺคา, อโธ ยาว อวีจิโต, ติริยํ ยาว อวเสสทิสา. อุทฺธํ วา อารุปฺปํ, อโธ กามธาตุํ, ติริยํ รูปธาตุํ อนวเสสํ ผรนฺโต. เอวํ ภาเวนฺโตปิ จ ตํ ยถา อสมฺพาธํ อเวรํ อสปตฺตฺจ โหติ, ตถา สมฺพาธเวรสปตฺตานํ อภาวํ กโรนฺโต ภาวเย. ยํ วา ตํ ภาวนาสมฺปทํ ปตฺตํ สพฺพตฺถ โอกาสโลกวเสน อสมฺพาธํ, อตฺตโน ปเรสุ อาฆาตปฺปฏิวินยเนน อเวรํ, อตฺตนิ จ ปเรสํ อาฆาตวินยเนน อสปตฺตํ โหติ. ตํ อสมฺพาธมเวรมสปตฺตํ อปริมาณํ เมตฺตํ มานสํ อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาติ ติวิธปริจฺเฉเท สพฺพโลกสฺมึ ภาวเย วฑฺฒเยติ.

นวมคาถาวณฺณนา

. เอวํ เมตฺตาภาวนาย วฑฺฒนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ ภาวนมนุยุตฺตสฺส วิหรโต อิริยาปถนิยมาภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ติฏฺํ จรํ…เป… อธิฏฺเยฺยา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เอวเมตํ เมตฺตํ มานสํ ภาเวนฺโต โส ‘‘นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธายา’’ติอาทีสุ วิย อิริยาปถนิยมํ อกตฺวา ยถาสุขํ อฺตรฺตรอิริยาปถพาธนวิโนทนํ กโรนฺโต ติฏฺํ วา จรํ วา นิสินฺโน วา สยาโน วา ยาวตา วิคตมิทฺโธ อสฺส, อถ เอตํ เมตฺตาฌานสตึ อธิฏฺเยฺย.

อถ วา เอวํ เมตฺตาภาวนาย วฑฺฒนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วสีภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ติฏฺํ จร’’นฺติ. วสิปฺปตฺโต หิ ติฏฺํ วา จรํ วา นิสินฺโน วา สยาโน วา ยาวตา อิริยาปเถน เอตํ เมตฺตาฌานสตึ อธิฏฺาตุกาโม โหติ, อถ วา ติฏฺํ วา จรํ วา…เป… สยาโน วาติ น ตสฺส านาทีนิ อนฺตรายกรานิ โหนฺติ, อปิจ โข ยาวตา เอตํ เมตฺตาฌานสตึ อธิฏฺาตุกาโม โหติ, ตาวตา วิคตมิทฺโธ หุตฺวา อธิฏฺาติ, นตฺถิ ตสฺส ตตฺถ ทนฺธายิตตฺตํ. เตนาห ‘‘ติฏฺํ จรํ นิสินฺโน ว, สยาโน ยาวตาสฺส วิตมิทฺโธ. เอตํ สตึ อธิฏฺเยฺยา’’ติ.

ตสฺสายมธิปฺปาโย – ยํ ตํ ‘‘เมตฺตฺจ สพฺพโลกสฺมิ, มานสํ ภาวเย’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยถา ภาเวยฺย, ยถา านาทีสุ ยาวตา อิริยาปเถน านาทีนิ วา อนาทิยิตฺวา ยาวตา เอตํ เมตฺตาฌานสตึ อธิฏฺาตุกาโม อสฺส, ตาวตา วิคตมิทฺโธว หุตฺวา เอตํ สตึ อธิฏฺเยฺยาติ.

เอวํ เมตฺตาภาวนาย วสีภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตํ สตึ อธิฏฺเยฺยา’’ติ ตสฺมึ เมตฺตาวิหาเร นิโยเชตฺวา อิทานิ ตํ วิหารํ ถุนนฺโต อาห ‘‘พฺรหฺมเมตํ วิหารมิธมาหู’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยฺวายํ ‘‘สุขิโน วา เขมิโน วา โหนฺตู’’ติอาทิ กตฺวา ยาว ‘‘เอตํ สตึ อธิฏฺเยฺยา’’ติ วณฺณิโต เมตฺตาวิหาโร. เอตํ จตูสุ ทิพฺพพฺรหฺมอริยอิริยาปถวิหาเรสุ นิทฺโทสตฺตา อตฺตโนปิ ปเรสมฺปิ อตฺถกรตฺตา จ อิธ อริยสฺส ธมฺมวินเย พฺรหฺมวิหารมาหุ เสฏฺวิหารมาหูติ, ยโต สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ ติฏฺํ จรํ นิสินฺโน วา สยาโน วา ยาวตาสฺส วิคตมิทฺโธ, เอตํ สตึ อธิฏฺเยฺยาติ.

ทสมคาถาวณฺณนา

๑๐. เอวํ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ นานปฺปการโต เมตฺตาภาวนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา เมตฺตา สตฺตารมฺมณตฺตา อตฺตทิฏฺิยา อาสนฺนา โหติ, ตสฺมา ทิฏฺิคหนนิเสธนมุเขน เตสํ ภิกฺขูนํ ตเทว เมตฺตาฌานํ ปาทกํ กตฺวา อริยภูมิปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺิฺจ อนุปคฺคมฺมา’’ติ อิมาย คาถาย เทสนํ สมาเปสิ.

ตสฺสตฺโถ – ยฺวายํ ‘‘พฺรหฺมเมตํ วิหารมิธมาหู’’ติ สํวณฺณิโต เมตฺตาฌานวิหาโร, ตโต วุฏฺาย เย ตตฺถ วิตกฺกวิจาราทโย ธมฺมา, เต เตสฺจ วตฺถาทิอนุสาเรน รูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา อิมินา นามรูปปริจฺเฉเทน ‘‘สุทฺธสงฺขารปุฺโชยํ, นยิธ สตฺตูปลพฺภตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; มหานิ. ๑๘๖) เอวํ ทิฏฺิฺจ อนุปคฺคมฺม อนุปุพฺเพน โลกุตฺตรสีเลน สีลวา หุตฺวา โลกุตฺตรสีลสมฺปยุตฺเตเนว โสตาปตฺติมคฺคสมฺมาทิฏฺิสฺิเตน ทสฺสเนน สมฺปนฺโน, ตโต ปรํ โยปายํ วตฺถุกาเมสุ เคโธ กิเลสกาโม อปฺปหีโน โหติ, ตมฺปิ สกทาคามิอนาคามิมคฺเคหิ ตนุภาเวน อนวเสสปฺปหาเนน จ กาเมสุ เคธํ วิเนยฺย วินยิตฺวา วูปสเมตฺวา น หิ ชาตุ คพฺภเสยฺยํ ปุน เรติ เอกํเสเนว ปุน คพฺภเสยฺยํ น เอติ. สุทฺธาวาเสสุ นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺเถว อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา ปรินิพฺพาตีติ.

เอวํ ภควา เทสนํ สมาเปตฺวา เต ภิกฺขู อาห – ‘‘คจฺฉถ, ภิกฺขเว, ตสฺมึเยว วนสณฺเฑ วิหรถ, อิมฺจ สุตฺตํ มาสสฺส อฏฺสุ ธมฺมสฺสวนทิวเสสุ ฆณฺฑึ อาโกเฏตฺวา อุสฺสาเรถ, ธมฺมกถํ กโรถ สากจฺฉถ อนุโมทถ, อิทเมว กมฺมฏฺานํ อาเสวถ ภาเวถ พหุลีกโรถ, เตปิ โว อมนุสฺสา ตํ เภรวารมฺมณํ น ทสฺเสสฺสนฺติ, อฺทตฺถุ อตฺถกามา หิตกามา ภวิสฺสนฺตี’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา อุฏฺายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ตถา อกํสุ. เทวตาโย จ ‘‘ภทนฺตา อมฺหากํ อตฺถกามา หิตกามา’’ติ ปีติโสมนสฺสชาตา หุตฺวา สยเมว เสนาสนํ สมฺมชฺชนฺติ, อุณฺโหทกํ ปฏิยาเทนฺติ , ปิฏฺิปริกมฺมํ ปาทปริกมฺมํ กโรนฺติ, อารกฺขํ สํวิทหนฺติ. เตปิ ภิกฺขู ตเมว เมตฺตํ ภาเวตฺวา ตเมว จ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา สพฺเพ ตสฺมึเยว อนฺโตเตมาเส อคฺคผลํ อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา มหาปวารณาย วิสุทฺธิปวารณํ ปวาเรสุนฺติ.

เอวมฺปิ อตฺถกุสเลน ตถาคเตน,

ธมฺมิสฺสเรน กถิตํ กรณียมตฺถํ;

กตฺวานุภุยฺย ปรมํ หทยสฺส สนฺตึ,

สนฺตํ ปทํ อภิสเมนฺติ สมตฺตปฺา.

ตสฺมา หิ ตํ อมตมพฺภุตมริยกนฺตํ,

สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ วิหริตุกาโม;

วิฺู ชโน วิมลสีลสมาธิปฺา-

เภทํ กเรยฺย สตตํ กรณียมตฺถนฺติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทกปา-อฏฺกถาย

เมตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

เอตฺตาวตา จ ยํ วุตฺตํ –

‘‘อุตฺตมํ วนฺทเนยฺยานํ, วนฺทิตฺวา รตนตฺตยํ;

ขุทฺทกานํ กริสฺสามิ, เกสฺจิ อตฺถวณฺณน’’นฺติ.

ตตฺถ สรณสิกฺขาปททฺวตฺตึสาการกุมารปฺหมงฺคลสุตฺตรตนสุตฺตติโรกุฏฺฏนิธิกณฺฑเมตฺตสุตฺตวเสน นวปฺปเภทสฺส ขุทฺทกปาสฺส ตาว อตฺถวณฺณนา กตา โหติ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘อิมํ ขุทฺทกปาสฺส, กโรนฺเตนตฺถวณฺณนํ;

สทฺธมฺมฏฺิติกาเมน, ยํ ปตฺตํ กุสลํ มยา.

ตสฺสานุภาวโต ขิปฺปํ, ธมฺเม อริยปฺปเวทิเต;

วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ, ปาปุณาตุ อยํ ชโน’’ติ.

ปรมวิสุทฺธสทฺธาพุทฺธิวีริยคุณปฺปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชวมทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมยสมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติธมฺมปฺปเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน ฉมหาเวยฺยากรเณนฉมหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ฉฬภิฺาปฏิสมฺภิทาทิปฺปเภทคุณปฺปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม สุปฺปติฏฺิตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน กตา อยํ ปรมตฺถโชติกา นาม ขุทฺทกปาวณฺณนา –

ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;

ทสฺเสนฺตี กุลปุตฺตานํ, นยํ สีลาทิสุทฺธิยา.

ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;

โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.

ปรมตฺถโชติกาย ขุทฺทก-อฏฺกถาย

ขุทฺทกปาวณฺณนา นิฏฺิตา.