📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
เนตฺติวิภาวินี
คนฺถารมฺภกถา
ยชิตพฺพํ ¶ ¶ ยชิตฺวาน, นมิตพฺพํ นมามหํ;
ยชนาทฺยานุภาเวน, อนฺตราเย ชหํ สทา.
เยน ยา รจิตา เนตฺติ, เยน สา อนุโมทิตา;
เยหิ สํวณฺณนา กตา, เตสานุภาวนิสฺสิโต.
กิฺจิ กิฺจิ สริตฺวาน, ลีนาลีนานุสนฺธฺยาทึ;
กริสฺสํ ชินสุตฺตานํ, หิตํ เนตฺติวิภาวนํ.
อปฺปเมยฺยคุโณ ¶ มหาธมฺมราชวฺหโย ภเว;
อจฺฉริโย อพฺภุโต โย, โพธิสมฺภารปูรโณ.
นานารฏฺิสฺสริสฺสโร, เสฏฺโ สาสนปคฺคโห;
ปาสํสราชปาสํโส, นราจินฺเตยฺยจินฺตโก.
จินฺติตการโก ราชา, สิรฏฺิมาลปาลโก;
อเชยฺยเชยฺยโก มหาเจตฺยาทิการโก สทา.
อสฺสามจฺเจน พฺยตฺเตน, ชินจกฺกหิตตฺถินา;
อนนฺตสุตินาเมน, สกฺกจฺจํ อภิยาจิโต.
กามํ สํวณฺณนา กตา, เถราสเภหิ คมฺภีรา;
คมฺภีรตฺตา ตุ ชานิตุํ, ชินปุตฺเตหิ ทุกฺกรา.
ตสฺมา ¶ ยาจิตานุรูเปน, กริสฺสํ สาทรํ สุณ;
สิสฺสสิกฺขนยานุคํ, โยตฺตํ เนตฺติวิภาวนนฺติ.
๑. สงฺคหวารอตฺถวิภาวนา
ตตฺถ ยสฺส สิกฺขตฺตยสงฺคหสฺส นวงฺคสฺส สตฺถุสาสนวรสฺส อตฺถสํวณฺณนํ ยํ เนตฺติปฺปกรณํ กาตุกาโม, ตสฺส เนตฺติปฺปกรณสฺส นิสฺสยํ วิสยภูตํ สํวณฺเณตพฺพสหิตํ, สํวณฺเณตพฺพํ เอว วา สโลกปาเลน ติโลเกน สทา ปูเชตพฺพสฺส เจว นมสฺสิตพฺพสฺส จ นรุตฺตมสฺส สตฺถุโน สาสนวรํ วิทูเหว าตพฺพํ. เอตํ สาสนวรํ ตาว ทสฺเสนฺโต ตํชนเกน, ตํวิชานกวิทูหิ จ นิยเมตุํ, รตนตฺตยคุณปริทีปนฺจ กาตุํ –
‘‘ยํ โลโก ปูชยเต, สโลกปาโล สทา นมสฺสติ จ;
ตสฺเสต สาสนวรํ, วิทูหิ เยฺยํ นรวรสฺสา’’ติ. – ปมคาถมาห;
อิมาย ¶ หิ ปมคาถาย ‘‘เอตํ สาสนวรํ เยฺย’’นฺติ เอตฺตกเมว เอกนฺตโต กรณวิเสสภาเวน อธิปฺเปตํ. เอเตเนว วิเสสกรเณน เอกนฺตาธิปฺเปตเนตฺติวิสยสาสนวรสฺส ทสฺสิตตฺตา. เอกนฺตาธิปฺเปตสาสนวรเมว เนตฺติสํวณฺณนาย สํวณฺเณตพฺพตฺตา วิสยํ เตเนว วกฺขติ อฏฺกถาจริโย –
‘‘เอตํ อิทานิ อมฺเหหิ วิภชิตพฺพหารนยปฏฺานวิจารณวิสยภูตํ สาสนํ อาทิกลฺยาณตาทิคุณสมฺปตฺติยา วรํ อคฺคํ อุตฺตมํ นิปุณาณโคจรตาย ปณฺฑิตเวทนียเมวา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา) จ,
‘‘เอตํ ติวิธมฺปิ ‘สาสนวร’นฺติ ปเทน สงฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ ยํ ปมํ, ตํ อิตเรสํ อธิคมูปาโยติ สพฺพสาสนมูลภูตํ, อตฺตโน ปกรณสฺส จ วิสยภูตํ ปริยตฺติสาสนเมวา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา) จ,
‘‘อิทานิ ¶ ยํ วุตฺตํ ‘สาสนวรํ วิทูหิ เยฺย’นฺติ, ตตฺถ เนตฺติสํวณฺณนาย วิสยภูตํ ปริยตฺติธมฺมเมว ปการนฺตเรน นิยเมตฺวา ทสฺเสตุ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา) จ.
ตตฺถ ปริยตฺติสาสนสฺสาปิ มูลํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สพฺพสาสนมูลภูต’’นฺติ. เอเตน กมฺมสาธเนนปิ อธิปฺเปตตฺเถ สิทฺเธ นานาวิธสาธกวจนํ นานาวาทานํ อโนกาสกรณตฺถาย กตํ. สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณา ปน สาสนสฺส วิเสสเทสกนรวรสทฺเทน วา ปริทีปกตฺถภาเวน วา ทีปิตา อวินาภาวโต. สาสนวรสฺส ปน ชนกสมฺพนฺธิเปกฺขตฺตา ‘‘นรวรสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เตน จ อคฺคปุคฺคโล สาสนวรชนโก วาจกตฺถสมฺพนฺธิภาเวน วุตฺโต. อนฺสาธารณมหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิคุณวิเสสา ปน ชนกสมฺพนฺธิภูตสฺส นรสฺส วิเสสเกนวรสทฺเทน วา ปริทีปกตฺถภาเวน วา ทีปิโต.
กึ นุ โส สาสนวรชนโก นรวโร ปรมตฺโถว, อุทาหุ ปูชนีโย เจว นมสฺสนีโย จาติ วุตฺตํ ‘‘ยํ โลโก…เป… นมสฺสติ จา’’ติ, เตน สาสนวรชนโก นรวโร ปรมตฺโถว น โหติ, อถ โข สโลกปาเลน โลเกน สทา สพฺพกาเลสุ ปูชนีโย เจว นมสฺสนีโย จาติ วิเสสิโต โถมิโตติ.
เอตฺถ ¶ จ ปูชนนมสฺสนเจตนาวาจเกน วา ปูชนนมสฺสนสทฺเทน ผลูปจารตฺโถ ปฺุมหตฺตสงฺขาโต ปูชนียภาโว เจว อาสวกฺขยาณปทฏฺานสพฺพฺุตฺาณาทิคุณสงฺขาโต นมสฺสนียภาโว จ ทีปกตฺถภาเวน ปริคฺคเหตฺวา ทีปิโต. เตนาห อฏฺกถาจริโย ‘‘ภควโต สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนียวนฺทนียภาโว, อคฺคปุคฺคลภาโว จ วุจฺจมาโน คุณวิสิฏฺตํ ทีเปตี’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา).
ตาทิสสฺส นรวรสฺส ตาทิสํ สาสนวรํ กึ เยน เกนจิ วิฺเยฺยนฺติ วุตฺตํ ‘‘วิทูหี’’ติ. เตน ติปิฏกธรา อริยภูตา ปณฺฑิตา วาจกตฺถภาเวน คหิตา, สุปฺปฏิปนฺนตาทิสงฺฆคุณา ปน วนฺทธาตุวจเนน วา ทีปกตฺถภาเวน วา ทีปิตาติ. เอวํ ปริคฺคเหตฺวา ทีปิเต รตนตฺตยคุเณ สนฺธาย ‘‘เอวํ ปมคาถาย สาติสยํ รตนตฺตยคุณปริทีปนํ กตฺวา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา) วกฺขติ, น คาถาย นิรวเสสตฺเถ. ตตฺถ ¶ เอวนฺติ เอวํ สาสนวรทสฺสนภูตาย ปมคาถายาติ อตฺโถว ทฏฺพฺโพ. อปเร ปนาจริยา ‘‘อิมาย ปมคาถาย เอกนฺตโต อธิปฺเปตานาธิปฺเปตวจนานิ เจว วาจกตฺถทีปกตฺถวิเสสานิ จ สุฏฺุ อวิจาเรตฺวา ‘เอวํ ปมคาถาย สาติสยํ รตนตฺตยคุณปริทีปนํ กตฺวา’ติ วจนจฺฉายํ นิสฺสาย สาติสยํ รตนตฺตยคุณปริทีปนํ กาตุํ ‘ยํ โลโกตฺยาทิมาหา’ติ จ สาติสยรตนตฺตยคุเณ ทสฺเสนฺโต ‘ยํ โลโกตฺยาทิมาหา’ติ’’ จ วทนฺติ. เตสํ วาโท อมฺหากํ นกฺขมติ. การณํ ปน มยา เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน าตพฺพนฺติ อยํ ปทานุกฺกมานุรูปานุสนฺธฺยตฺโถ.
อถ วา เอกํ สมยํ ชมฺพุวนสณฺเฑ นิสีทิตฺวา สิสฺสานํ หิตํ จินฺเตนฺโต, อตฺตโน อภินีหารสมฺปตฺตึ ปสฺสนฺโต, สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปสํสิโต, มหากจฺจายโน สตฺถารา อนุโมทิตํ สาสนายตฺตํ นวงฺคสฺสตฺถวณฺณนํ โสฬสหาราทิอเนกตฺถวิธํ เนตฺติปฺปกรณํ อารภนฺโต, ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิมาห. ยทิ เอวํ ยถาวุตฺตปฺปการํ เนตฺติปฺปกรณภูตํ โสฬสหาราตฺยาทิกํ อารภิตพฺพํ, ตํ อนารภิตฺวา กสฺมา เนตฺติปฺปกรณโต พหิภูตํ ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิกํ อารภิตพฺพํ, เสยฺยถาปิ อมฺพํ ปุฏฺโ ลพุชํ พฺยากเรยฺย, ลพุชํ ปุฏฺโ อมฺพํ พฺยากเรยฺย, เอวเมว เนตฺติปฺปกรณมารภนฺโต อฺํ อารภตีติ? ตถาปิ ยสฺส ยถาวุตฺตสฺส สาสนวรสฺส อตฺถสํวณฺณนํ ยํ เนตฺติปฺปกรณํ กาตุกาโม ยสฺส เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยภูตํ สํวณฺเณตพฺพสหิตํ, สํวณฺเณตพฺพํ เอว วา ตํ สาสนวรํ ตาว ทสฺเสนฺโต ตํชนเกน, ตํวิชานกวิทูหิ จ นิยเมตุํ, รตนตฺตยคุณปริทีปนฺจ กาตุํ ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิมาห. อยํ ลีนนฺตรโจทนาสหิโต อนุสนฺธฺยตฺโถ.
‘‘ยํ ¶ โลโก ปูชยเต, สโลกปาโล สทา นมสฺสติ จ;
ตสฺเสต สาสนวรํ, วิทูหิ เยฺยํ นรวรสฺสา’’ติ. –
นิคฺคหิตโลปํ กตฺวา รจิตา คาถา อริยาสามฺลกฺขเณน สมฺปนฺนา. กถํ? ปุพฺพฑฺเฒ ตึส มตฺตา, อปรฑฺเฒ สตฺตวีส มตฺตา. สมฺปิณฺฑิตา สตฺตปฺาส มตฺตาว ภวนฺติ. อกฺขรานํ ปน อิมิสฺสํ คาถายํ สตฺตตึส. เตสุ ครุกฺขรา วีสติ, ลหุกฺขรา สตฺตรส ภวนฺติ. ‘‘ตสฺเสตํ สาสนวร’’นฺติ ปน สานุนาสิกํ วิรุชฺฌติ.
ตตฺถ ¶ นิทฺเทสตฺโถ อฏฺกถานุสาเรน วิชานิตพฺโพ. สโลกปาโล สพฺโพ สตฺตโลโก สกฺกจฺจํ สพฺพฺุตฺาณาทิอเนกคุณานุสฺสรเณน วา ปูเชตพฺพปูชเนน วา ปฏิปตฺติปูชเนน วา สทา สพฺพกาเลสุ สกฺกจฺจํ ยํ นรวรํ ปูชยเต เจว นมสฺสติ จ, ตสฺส ปูเชตพฺพสฺส เจว นมสฺสิตพฺพสฺส จ สตฺถุโน นรวรสฺส ติโลกคฺคสฺส มยา สํวณฺเณตพฺพสหิตํ, สํวณฺเณตพฺพํ เอว วา วิทูเหว เยฺยํ าตพฺพํ. นิปุณาณโคจรํ เอตํ มยา พุทฺธิยํ ปิตํ สาสนวรํ มยา อารภิตพฺพสฺส เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยนฺติ ปมํ ชานิตพฺพํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูตํ เนตฺติปฺปกรณํ อหํ อารภิสฺสามิ, ตํ ตุมฺเห สาธโว สุณาถ มนสิ กโรถาติ สมุทายโยชนา, อวยวโยชนาปิ กาตพฺพา.
กถํ? ‘‘สโลกปาโล โลโก’’ติ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน โยชนา. โลกปาโล วชฺเชตฺวา อวเสโส โลโก จ น โหติ, อถ โข โลกปาลสหิโต โลโกติ วิเสเสติ. ‘‘โลโก ปูชยเต เจว นมสฺสติ จา’’ติ กตฺตุการกอาขฺยาตกิริยาภาเวน โยชนา ‘‘โย กโรติ, ส กตฺตา’’ติ วุตฺตตฺตา. โย โลโก การโก, โส กตฺตา โหตุ. โย โลโก ปูชยเต เจว นมสฺสติ จ, กถํ โส กตฺตาติ? ‘‘โย กโรติ, ส กตฺตา’’ติ สุตฺตสฺส ‘‘โย กโรติ กิริยํ นิปฺผาเทติ, โส กิริยานิปฺผาทโก กตฺตา’’ติ อตฺถสมฺภวโต สยนภฺุชนาทิสพฺพกิริยานิปฺผาทโก กตฺตาเยว โหติ. อยฺจ โลโก ปูชนนมสฺสนกิริยานิปฺผาทโกเยวาติ. กถํ อยํ โลโก กิริยานิปฺผาทโกติ? ‘‘โลโก’’ติ สตฺตปฺตฺติยา ปรมตฺถโต อวิชฺชมานายปิ ปฺาเปตพฺโพ สนฺตาเน ปวตฺตมาโน หทยวตฺถุนิสฺสิโต จิตฺตุปฺปาโท คเหตพฺโพ, โส ยถารหํ เหตาธิปติสหชาตาทิปจฺจเยน ปจฺจโย นิปฺผาทโก ภเว. เอวํ โลกสฺส กตฺตุการกภาโว วิชานิตพฺโพติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน โยชนา. เอส นโย ตีสุ ปิฏเกสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ.
‘‘ยํ ¶ นรวรํ ปูชยเต เจว นมสฺสติ จา’’ติ กมฺมการกอาขฺยาตกิริยาภาเวน โยชนา ‘‘ยํ กโรติ, ตํ กมฺม’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ยํ กาตพฺพํ, ตํ กมฺมํ โหตุ. ยํ ปูชยติ เจว นมสฺสติ จ, กถํ ตํ กมฺมนฺติ? ‘‘ยํ ¶ กโรติ, ตํ กมฺม’’นฺติ สุตฺตสฺส ‘‘ยํ กโรติ กิริยาย สมฺพชฺฌติ, กิริยาย สมฺพชฺฌิตพฺพํ กมฺม’’นฺติ อตฺถสมฺภวโต กรณวาจกวจนียาทิสพฺพกิริยาย สมฺพชฺฌิตพฺพํ กมฺมํ โหตฺเวว. อยฺจ นรวโร ปูชนนมสฺสนกิริยาย วาจกวจนียภาเวน สมฺพชฺฌิตพฺโพเยวาติ. กถํ อยํ นรวโร วจนีโยติ? ปูชนนมสฺสนเจตนาย อารมฺมณกรณวเสน นรวโร วจนีโย, เจตนา วาจกา, เอวํ วาจกวจิตพฺพภาโว โหตฺเวว. ‘‘ยํ นรวร’’นฺติ ปฺตฺติยา ปรมตฺถโต อวิชฺชมานายปิ ปฺาเปตพฺโพ สนฺตานวเสน ปวตฺตมาโน โลกิยโลกุตฺตรคุณสหิโต ขนฺธปฺจโก วุตฺโต, โส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, เจตนา ปจฺจยุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน โยชนา. เอส นโย ตีสุ ปิฏเกสุ เอวรูเปสุ าเนสุ.
‘‘ตสฺส นรวรสฺสา’’ติ วิเสสนวิเสสิตพฺพภาเวน โยชนา. นรวโร นาม นิมนฺติตพฺพาทิโก น โหติ, อถ โข ปูเชตพฺโพ นมสฺสิตพฺโพ เอวาติ วิเสเสติ. ตสฺส ปูเชตพฺพสฺส เจว นมสฺสิตพฺพสฺส จ นรวรสฺส สาสนวรนฺติ ชฺชนกภาเวน โยชนา. สาสนวรํ นาม ปจฺเจกพุทฺธสาวกพุทฺธราชราชาทีนํ สาสนวรํ น โหติ, ปูเชตพฺพสฺส เจว นมสฺสิตพฺพสฺส จ นรวรสฺส ติโลกสฺเสว สาสนวรนฺติ นิยเมติ.
‘‘วิทูหิ เยฺย’’นฺติ กตฺตุการกกิตกิริยาภาเวน โยชนา. กตฺตุภาโว เหฏฺา วุตฺโตว. ‘‘วิทูหี’’ติ สตฺตปฺตฺติยา ปรมตฺถโต อวิชฺชมานายปิ ปฺาเปตพฺโพ สนฺตาเน ปวตฺตมาโน สาสนวเร สมฺโมหธํสกาณสหิโต หทยวตฺถุนิสฺสิโต จิตฺตุปฺปาโท วุตฺโต, โส ยถารหํ เหตาธิปติสหชาตาทิปจฺจเยน ปจฺจโย นิปฺผาทโก ภเว. า-อิติธาตุยา อตฺถภูตํ าณํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ นิปฺผาเทยฺยํ ภเว, เอวํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน โยชนา.
‘‘เยฺยํ สาสนวร’’นฺติ วิเสสนวิเสสฺยภาเวน โยชนา. สาสนวรํ นาม น เยน เกนจิ เยฺยํ, อถ โข วิทูเหว สณฺหสุขุมาเณน เยฺยํ สาสนวรนฺติ วิเสเสติ.
‘‘เอตํ สาสนวร’’นฺติ วิเสสนวิเสสฺยภาเวน โยชนา. สาสนวรํ นาม มยา พุทฺธิยํ อฏฺปิตํ อปฺปวตฺเตตพฺพํ โหติ, มยา อิทานิ เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยภาเวน พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานํ เปตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพํ สาสนวรนฺติ ¶ วิเสเสติ. เอตํ สาสนวรํ เนตฺติปฺปกรณสฺส ¶ วิสยนฺติ โยชนา กาตพฺพา. เตนาห ‘‘เอตํ อิทานิ อมฺเหหิ วิภชิตพฺพหารนยปฏฺานวิจารณวิสยภูตํ สาสน’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา). อิจฺเจวํ เนตฺติยา ปมคาถาย สงฺเขเปน โยชนตฺโถ สมตฺโต.
ตตฺถ ยนฺติ อนิยมนรวรสฺส สตฺถุโน วาจกํ ปโยควนฺตสพฺพนามํ. อนิยโม จ ปูชนนมสฺสนกิริยาย อนิยมิตตฺตา วุตฺโต, น นรวรโต อฺสตฺตสฺส สมฺภวโตติ. เอส นโย เสสานิยเตสุปิ ตีสุ ปิฏเกสุ. โลกิยนฺติ เอตฺถ ปฺุาปฺุานิ, ตพฺพิปาโก จาติ โลโก.เอตฺถ สตฺตนิกาเย ปฺุาปฺุานิ โลกิยนฺติ ปวตฺตนฺติ, ตพฺพิปาโก จ โลกิยติ ปวตฺตติ, อิติ สตฺตนิกายสฺส ปฺุาปฺุานํ, ตพฺพิปากสฺส จ ปวตฺตนสฺส อาธารภาวโต ‘‘เอตฺถา’’ติปเทน นิทฺทิฏฺโ สตฺตนิกาโย โลโกนาม. ปูชยเตติ วิคฺคหวิรหิตํ อาขฺยาตปทํ, สกฺกจฺจํ ปูชนํ กโรติ.
โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกปาลา, ปฺุาปฺุานฺเจว ตพฺพิปากสฺส จ ปวตฺตนาธารตฺตา โลกา จ. เก เต? จตฺตาโร มหาราชาโน, อินฺทยมวรุณกุเวรา วา, ขตฺติยจตุมหาราชสกฺกสุยามสนฺตุสิตสุนิมฺมิตปรนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺมาทโย วา. ปาลนฺเจตฺถ อิสฺสริยาธิปจฺเจน ตํตํสตฺตโลกสฺส อฺมฺวิเหสนนิวารณาทิอาณาปวตฺตาปนยสปริวารฏฺานนฺตราทินิยฺยาทนา, สห โลกปาเลหิ โย วตฺตตีติ สโลกปาโล. อถ วา เย หิโรตฺตปฺปา โลกํ ปาเลนฺติ, อิติ ปาลนโต เต หิโรตฺตปฺปา โลกปาลา. เตนาห ภควา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๒.๙; อิติวุ. ๔๒). โลกปาเลหิ หิโรตฺตปฺเปหิ สมนฺนาคโต โลโก สโลกปาโล นาม. หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน หิ สปฺปุริโส โลโก สกฺกจฺจํ สทา สพฺพกาเลสุ ปูชยติ เจว นมสฺสติ จ ปาปหิริชิคุจฺฉนโต, ธมฺมจฺฉนฺทวนฺตตาย จ.
อฺเ ปน ปูเชนฺตา นมสฺสนฺตาปิ กทาจิเยว ปูเชนฺติ นมสฺสนฺติ, น สพฺพทาติ. สทาติ ปูชนนมสฺสนกาลวาจกวิคฺคหวิรหิตํ วิกปฺปนามํ, สพฺพนามํ วา. นมสฺสตีติ วิคฺคหวิรหิตํ อาขฺยาตปทํ, สกฺกจฺจํ นมสฺสนํ กโรติ. ตสฺเสตาติ ¶ เอตฺถ ตสฺสาติ นิยมวาจกํ ปโยควนฺตสพฺพนามํ วิคฺคหวิรหิตเมว. นิยโม จ ปูชนนมสฺสนกิริยาย วิเสสิโต. ตสฺมา ตสฺส ปูชนนมสฺสนกิริยาย นิยมิตพฺพสฺส ปูเชตพฺพสฺส นมสฺสิตพฺพสฺส นรวรสฺสาติ อตฺโถ ยุตฺโตว. เสสนิยเมสุ อฺเสุปิ เอเสว นโย. เอตนฺติ อาจริเยน วิภชิตพฺพหารนยปฏฺานวิจารณวิสยภูตสฺส ¶ สาสนวรปรามสนํ ปโยควนฺตสพฺพนามํ วิคฺคหวิรหิตํ.
สาสติ เอเตนาติ สาสนํ, เอเตน นววิธสุตฺตนฺเตน, นววิธสุตฺตนฺตสหิเตน วา วเรน สพฺเพน สมตฺเถ เวเนยฺเย ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ติวิธยานมุเขน ยถารหํ สตฺเต สาสติ อนุสาสติ วิเนติ. อิติ สาสนานุสาสนกิริยานุสาเรน เวเนยฺยสตฺตานํ ชานนปฏิปชฺชนาธิคมสฺส การณกรณตฺตา ‘‘เอเตนา’’ติ ปเทน นิทฺทิฏฺํ นววิธสุตฺตนฺตํ, นววิธสุตฺตนฺตสหิตํ วา วรํ สพฺพํ สาสนํ นาม. นววิธสุตฺตนฺตเทสนาย หิ เวเนยฺยานํ ชานนํ ปุริมชานเนน ปจฺฉิมชานนํ, ชานเนน ปฏิปชฺชเนน ปจฺฉิมปฏิปชฺชเนน อธิคโม, ปุริมาธิคเมน ปจฺฉิมาธิคโม โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สทฺธา สีลํ สุตํ จาโค ปฺา สทฺธาย สีลสฺส สุตสฺส จาคสฺส ปฺายา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) จ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปริกมฺมํ ปมสฺส ฌานสฺส’’ตฺยาทิ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) จ. สาสธาตุยา เทสนาสทฺโท จ ตํชนโก เทสนาาณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาโท จ มุขฺยตฺโถ, ตํอุปนิสฺสยปจฺจยา เวเนยฺยานํ อตฺถชานนปฏิปชฺชนอธิคมนาทิ การณูปจารตฺโถ, ‘‘เอเตนา’’ติ ปเทน วุตฺตาย สาสนภูตาย นามปฺตฺติยา กรณสตฺติสงฺขาตา อุปนิสฺสยปจฺจยสตฺติ ผลูปจารตฺโถ. อิติ-สทฺโทปิ ตเมว นามปฺตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจยสตฺตึ เหตุภาเวน ปรามสติ, ตสฺสา สตฺติยา อาธารภูตา นามปฺตฺติ ยุ-ปจฺจยตฺโถ. เอเสว นโย ตีสุ ปิฏเกสุ เอวรูเปสุ าเนสุ.
เอกนฺตนิยฺยานฏฺเน, อนฺสาธารณคุณตาย จ อุตฺตมฏฺเน วรํ อุตฺตมํ, ปริยตฺติสาสนมฺหิ ผลนิยฺยาทนโต, มคฺคนิยฺยานเหตุภาวโต จ นิยฺยานฏฺเน, สาวกาทีหิ อชนิยตฺตา อสาธารณฏฺเน จ อุตฺตมฏฺเน วรํ, วริตพฺพนฺติ วา วรํ. ยถาวุตฺตสฺส สาสนสฺส ปณฺฑิเตหิ อภิปตฺถิตสมิทฺธิเหตุตาย วริตพฺพตฺตา ปตฺเถตพฺพตฺตา สาสนวรํ นาม, ยถาวุตฺตฏฺเน วา สาสนฺจ ตํ วรฺจาติ สาสนวรํ. จ-สทฺเทน สตฺติเภทํ, ตํ-สทฺเทน อตฺถาเภทํ เทสฺเสติ.
วิทนฺตีติ ¶ วิทู. เย ปณฺฑิตา ยถาสภาวโต กมฺมกมฺมผลานิ, กุสลาทิเภเท จ ธมฺเม วิทนฺติ, อิติ วิทนโต เต ปณฺฑิตา วิทู นาม, เตหิ. าตพฺพนฺติ เยฺยํ. า-ธาตุยา นิปฺปริยายโต อารมฺมณิกํ าณํ วุตฺตํ, านูปจารโต สาสนวรสฺส อารมฺมณปจฺจยภาโว ทสฺสิโต, อิติ-สทฺเทน อารมฺมณปจฺจยภาโว ปรามสิโต. ตสฺส อิติ-สทฺเทน ปรามสิตพฺพสฺส อารมฺมณปจฺจยภาวสฺส อาธารํ สาสนวรํ ณฺย-ปจฺจยตฺโถติ ทฏฺพฺพํ. าณํ อรหตีติ วา เยฺยํ, วิทูนํ าณํ ชานนํ อารมฺมณภาเวน อรหตีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ นเย ตทฺธิตปทํ ทฏฺพฺพํ.
นรติ ¶ เนตีติ นโร. โย ปุริโส อตฺตานํ อิตฺถีนํ อุจฺจฏฺานํ นรติ เนติ, อิติ นรนโต นยนโต โส ปุริโส นโร นาม. โส หิ ปุตฺตภูโตปิ มาตุยา ปิตุฏฺาเน ติฏฺติ, กนิฏฺภาตุภูโตปิ เชฏฺภคินีนํ ปิตุฏฺาเน ติฏฺติ. อถ วา นริตพฺโพ เนตพฺโพติ นโร. โส หิ ชาตกาลโต ปฏฺาย ยาว อตฺตโน สภาเวน อตฺตานํ ธาเรตุํ สมตฺโถ น โหติ, ตาว ปเรหิ เนตพฺโพ, น ตถา อฺโ ติรจฺฉานาทิโกติ. เอตฺถ ปน สตฺถุวิสยตาย นรติ เวเนยฺยสตฺเตติ นโรติ อตฺโถ อธิปฺเปโต. สตฺถา หิ สตฺเต อปายาทิโต สุคตึ วา มคฺคผลนิพฺพานํ วา เนตีติ. สพฺพฺุตฺาณาทิอเนกคุณสมนฺนาคตตฺตา วโร อุตฺตโม, วริตพฺโพ ปตฺเถตพฺโพติ วา วโร, ติโลกคฺโค. ปกติยา อุจฺจฏฺานฏฺโ นโร คุณุตฺตเมน สมนฺนาคโต วโร, นโร จ โส วโร จาติ นรวโร. จ-ต-สทฺทานํ อตฺถเภโท วุตฺโตว, วิเสสนปรปทสมาโสยํ. เยน วุตฺตํ ‘‘อคฺคปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา). อฺเ ปน ‘‘นรานํ, นเรสุ วา วโรติ นรวโร’’ติ วทนฺติ, ตํ วจนํ ‘‘อคฺคปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา) อฏฺกถาวจเนน วิรุชฺฌติ มฺเ. ตสฺส นรวรสฺสาติ. อิจฺเจวํ เนตฺติปฺปกรณสฺส อาทิคาถาย สมาเสน จ วจนตฺโถ สมตฺโต.
สรูปตฺโถ โยชนตฺถวจนตฺถานุสาเรน วิชานิตพฺโพ. ตถาปิ วิสุํ สุฏฺุ ชานนตฺถาย ปุน วตฺตพฺโพ. ‘‘ย’’นฺติ ปทสฺส อนฺสาธารณสพฺพฺุตฺาณาทิอเนกคุณสมฺปนฺโน สโลกปาเลน โลเกน ปูเชตพฺโพ เจว นมสฺสิตพฺโพ จ สาสนวรเทสโก ติโลกคฺโค สรูปตฺโถ. ‘‘โลโก’’ติ ปทสฺส ยถาวุตฺตโลกปาลสหิโต สทฺธาจาคาทิสมฺปนฺโน ¶ สพฺพสตฺตโลโก สรูปตฺโถ. โลกสทฺโท เอกวจนยุตฺโตปิ ชาติสทฺทตฺตา นิรวเสสโต สตฺเต สงฺคณฺหาติ ยถา ‘‘มหาชโน’’ติ. กามฺเจตฺถ โลกสทฺโท ‘‘โลกวิทู’’ตฺยาทีสุ สงฺขารภาชเนสุปิ ปวตฺโต, ปูชนนมสฺสนกิริยาสาธนตฺตา ปน สตฺตโลเกว วาจกภาเวน ปวตฺโตติ. เตนาห ‘‘ปูชนกิริยาโยคฺยภูตตาวเสนา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา).
ปูชยเตติ เอตฺถ ปูชนกิริยาย มุขฺยโต ปูชนสงฺขาโต ปูเชนฺตานํ จิตฺตุปฺปาโท สรูปตฺโถ, ผลูปจาเรน ตํจิตฺตุปฺปาทสฺส อารมฺมณปกตูปนิสฺสยภูตา วุตฺตปฺปการา สพฺเพ พุทฺธคุณา สรูปตฺถา. เต-วิภตฺติปจฺจยสฺส ปูชนกิริยาสาธโก วุตฺตปฺปกาโร โลโก จ สรูปตฺโถ, เอวํ สติ อตฺถเภทาภาวโต ทฺวีสุ วาจเกสุ เอโกว วาจโก วตฺตพฺโพ, กสฺมา เอกสฺมึ อตฺเถ ทฺเว วาจกา วุตฺตาติ? นายํ โทโส ทฺวินฺนํ วาจกานํ สามฺวิเสสวาจกตฺตา. โลกสทฺโท หิ ปูชนกิริยาสาธโก, อฺกิริยาสาธโก จ วทตีติ สามฺวาจโก จ โหติ. ปูชยเต-สทฺโท โลกปูชนอิตฺถิปูชนปุริสปูชนติรจฺฉานปูชนาทิกิริยาสาธกฺจ วทตีติ สามฺวาจโก ¶ . ตสฺมา ปูชยเต-สทฺโท โลกสทฺทสฺส สรูปตฺโถ, ปูชนกิริยาสาธโก จ น อฺกิริยาสาธโกติ นิยเมติ. โลกสทฺโท จ ปูชยเตสทฺทสฺส สรูปตฺโถ ปูชนกิริยาสาธโก. โลโก ปน ปูชนกิริยาสาธโก อิตฺถิปุริสติรจฺฉานาทิโกติ นิยเมติ. ตีสุ ปิฏเกสุ อฺเสุปิ เอวรูเปสุ าเนสุ เอเสว นโย.
‘‘สโลกปาโล’’ติ ปทสฺส ยถาวุตฺตเสฏฺโลกปาลสหคโต, ปูชนนมสฺสนกิริยาสาธโก จ สตฺตนิกาโย สรูปตฺโถ. ‘‘สทา’’ติ ปทสฺส รตฺติทิวสกาโล อตีตภควโต ธรมานกาโล ตโต ปรกาโล อภินีหารโต ยาว สาสนนฺตรธานา กาโล ตโต ปรกาโล สรูปตฺโถ. โส ปน อนาคตพุทฺธุปฺปชฺชนกาโล อตีตสมฺมาสมฺพุทฺเธ อิทานิ ปูชยนฺติ นมสฺสนฺติ วิย ปูชยิสฺสติ เจว นมสฺสิสฺสติ จ. นมสฺสตีติ เอตฺถ นมสฺสนกิริยาย มุขฺยโต นมสฺสนสงฺขาโต จิตฺตุปฺปาโท สรูปตฺโถ, ผลูปจาเรน ตํจิตฺตุปฺปาทสฺส อารมฺมณปกตูปนิสฺสยภูตา วุตฺตปฺปการา สพฺเพ พุทฺธคุณา สรูปตฺโถ. ติ-วิภตฺติปจฺจยสฺส ¶ นมสฺสนกิริยาสาธโก ยถาวุตฺตสตฺตนิกาโย โลโก จ สรูปตฺโถ, อตฺถเภทาภาเวปิ ทฺวินฺนํ วาจกานํ ปวตฺตภาโว เหฏฺา วุตฺโตว. ‘‘จา’’ติ ปทสฺส อิเธกจฺโจ ปูเชนฺโตปิ น นมสฺสติ, นมสฺสนฺโตปิ น ปูเชติ จ, อยํ ปน สตฺตนิกาโย โลโก ปูชยติ เจว นมสฺสติ จาติ สมุจฺจยตฺโถ สรูปตฺโถ.
ตสฺสาติ เอตฺถ ตํ-สทฺทสฺส สพฺพฺุตฺาณาทิอเนกคุณสมนฺนาคโต ปูเชตพฺโพ นมสฺสิตพฺโพ ติโลกคฺโค สตฺถา สรูปตฺโถ, ฉฏฺีวิภตฺติยา ชนกสฺส นรวรสฺส ชฺเน สาสนวเรน สมฺพนฺโธ ปธานสรูปตฺโถ, ชฺสาสนวรสฺส ชนเกน นรวเรน สมฺพนฺโธ อปธานสรูปตฺโถ. ตีสุ ปิฏเกสุ เอวรูเปสุ อฺเสุปิ เอเสว นโย.
‘‘เอต’’นฺติ ปทสฺส อาจริเยน วิภชิตพฺพหารนยปฏฺานวิจารณวิสยภูตํ สาสนํ สรูปตฺโถ. ‘‘สาสนวร’’นฺติ ปทสฺสาปิ ตเมว สรูปตฺโถ, เอตํ สาสนวรํ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธเภเทน ติวิธมฺปิ ปริยตฺติสาสนเมว สพฺพสาสนมูลภูตตฺตา, เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยภูตตฺตา จ วิเสสโต อธิปฺเปตํ ตสฺส มูลภูตภาวโต วินยสํวณฺณนาทีสุ พหูปกาเรน ทสฺสิโตติ อมฺเหหิ น วตฺตพฺโพ. วทนฺโตปิ อฺํ รจิตพฺพํ รจิตุํ อสมตฺโถว หุตฺวา วทตีติ คหิตพฺโพ วเทยฺย.
ตํ ปน ปริยตฺติสาสนํ วิมุตฺติรสวเสน เอกวิธํ, ธมฺมวินยวเสน ทุวิธํ, วินยปิฏกสุตฺตนฺตปิฏกอภิธมฺมปิฏกวเสน ติวิธํ ¶ , อาณาเทสนาโวหารเทสนาปรมตฺถเทสนาวเสน ติวิธํ, ยถาปราธสาสนายถานุโลมสาสนายถาธมฺมสาสนาเภเทนปิ ติวิธํ, สํวราสํวรกถาทิฏฺิวินิเวนกถานามรูปปริจฺเฉทกถาเภเทนปิ ติวิธํ. เอตฺถ จ เทสนา เทสกาธีนา, สาสนํ สาสิตพฺพายตฺตํ, กถา กเถตพฺพตฺถาเปกฺขาติ วิเสโส. ทีฆนิกาโย, มชฺฌิมนิกาโย, สํยุตฺตนิกาโย, องฺคุตฺตรนิกาโย, ขุทฺทกนิกาโยติ นิกายเภเทน ปน ปฺจวิธํ; สุตฺตเคยฺยเวยฺยากรณคาถาอุทานอิติวุตฺตกชาตกอพฺภุตธมฺมเวทลฺลเภเทน ปน นววิธํ; ธมฺมกฺขนฺธเภเทน ปน จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺสวิธํ; ‘‘สํกิเลสภาคิยวาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยอเสกฺขภาคิยาติ อมิสฺสานิ จตฺตาริ; สํกิเลสภาคิยวาสนาภาคิยสํกิเลสภาคิยนิพฺเพธ ภาคิยสํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยวาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยาติ มิสฺสกทุกานิ จตฺตาริ; สํกิเลสภาคิยวาสนาภาคิยอเสกฺขภาคิยสํกิเลสภาคิยวาสนา ภาคิยนิพฺเพธภาคิยาติ ¶ มิสฺสกติกานิ ทฺเว; ตณฺหาสํกิเลสทิฏฺิสํกิเลสทุจฺจริตสํกิเลสตณฺหาโวทานภาคิยทิฏฺิว- อุทานภาคิยทุจฺจริตโวทานภาคิยาติฉา’’ติ (เนตฺติ. ๘๙) โสฬสนฺนํ สุตฺตานํ เภเทน โสฬสวิธํ; ‘‘โลกิยโลกุตฺตรโลกิยโลกุตฺตรสตฺตาธิฏฺานธมฺมาธิฏฺานสตฺตธมฺมาธิฏฺานาณเยฺย- าณเยฺยทสฺสนภาวนาทสฺสนภาวนาสกวจนปรวจนสกวจนปรวจน วิสฺสชฺชนียอวิสฺสชฺชนียวิสฺสชฺชนียอวิสฺสชฺชนียกมฺมวิปากกมฺมวิปากกุสล อกุสลกุสลากุสลอนฺุาตปฏิกฺขิตฺตอนฺุาตปฏิกฺขิตฺตถวสฺส เภเทน อฏฺวีสติวิธ’’นฺติ (เนตฺติ. ๑๑๒) เอวมาทิพหุวิธํ ปริยตฺติสาสนํ เนตฺติปฺปกรณสฺส วิเสสโต วิสยํ. ตสฺส วิสยภาเว สติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสงฺขาตํ สาสนทฺวยมฺปิ ตมฺมูลกตฺตา วิสยํ โหติ ปริยายโตติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘วิทูหี’’ติ ปทสฺส ยถาวุตฺตสาสนวรสฺส สปรสนฺตานปวตฺตนปวตฺตาปนาทิวเสน วิชานนสมตฺโถ สณฺหสุขุมาณาทิคุณสมฺปนฺโน กลฺยาณปุถุชฺชนโสตาปนฺนาทิโก ปุคฺคโล สรูปตฺโถ. ‘‘เยฺย’’นฺติ ปทสฺส ตาทิเสหิ วิทูหิ สณฺหสุขุมาณาทินา วิชานิตพฺพํ สาสนวรํ สรูปตฺโถ. ‘‘นรวรสฺสา’’ติ ปทสฺส เอกวิธาทิเภทสฺส สาสนวรสฺส ชนโก อเนกคุณสมฺปนฺโน ติโลกคฺโค สรูปตฺโถ. อิจฺเจวํ เนตฺติยา อาทิคาถาย สรูปตฺโถ สงฺเขเปน วิชานิตพฺโพ.
เอวํ ตสฺสา อนุสนฺธฺยาทีนํ ชานิตพฺพภาเว สติปิ อชานนฺโต วิย ปุจฺฉิตฺวา โทสํ อาโรเปตฺวา ปริหารวเสนาปิ คมฺภีราธิปฺปายสฺส อนากุลสฺส วิเสสชานนํ ภวิสฺสติ. ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา โทสํ โรเปตฺวา ปริหารวเสน คมฺภีราธิปฺปายํ สมฺปิณฺเฑตฺวา กถยิสฺสํ. อมฺหากาจริย กิมตฺถํ ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิมาห? เนตฺติปฺปกรณํ กาตุํ. เอวํ สติ เนตฺติปฺปกรณภูตํ ‘‘โสฬสหารา เนตฺติ’’ตฺยาทิกํ เอว วตฺตพฺพํ, กสฺมา ตํ อวตฺวา ตโต เนตฺติปฺปกรณโต อฺํ ‘‘ยํ โลโก ปูชยเต’’ตฺยาทิมาห. เสยฺยถาปิ สมุทฺทํ คจฺฉนฺโต หิมวนฺตํ คจฺฉติ, หิมวนฺตํ คจฺฉนฺโต ¶ สมุทฺทํ คจฺฉติ, เอวเมว เนตฺติปฺปกรณํ กโรนฺโต ¶ สาสนวรทสฺสนํ กโรตีติ? สจฺจํ, ตถาปิ ยสฺส สํวณฺณนํ เนตฺติปฺปกรณํ กาตุกาโม ตํ สาสนวรํ ปมํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิมาห. เอวํ สติ ‘‘เอตํ สาสนวร’’นฺติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, กสฺมา ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิ วุตฺตนฺติ? ตํ สาสนวรํ ชนเกน นรวเรน นิยเมตฺวา โถเมตุํ วุตฺตํ. ตถาปิ ‘‘ตสฺส นรวรสฺสา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ, กสฺมา ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิ วุตฺตนฺติ? ตํ ชนกํ นรวรํ โลกปาเลน โลกเสฏฺเน สทฺธึ สพฺเพน โลเกน ปูชนียนมสฺสนียภาเวน โถเมตุํ ‘‘ยํ โลโก’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ปูเชนฺตาปิ วนฺทิตฺวา ปูเชนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปูชยเต’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ? ตถาปิ เกจิ เกสฺจิ ปูชาสกฺการาทีนิ กโรนฺตาปิ เตสํ อปากฏคุณตาย นมกฺการํ น กโรนฺติ. เอวํ ภควโต ยถาภูตอพฺภุคฺคตสทฺทตาย ปน ภควนฺตํ ปูเชตฺวาปิ วนฺทติเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘นมสฺสติ จา’’ติ วุตฺตํ. ปูเชนฺโต, นมสฺสนฺโต จ น กทาจิเยว, อถ โข สพฺพกาลนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘สทา’’ติ วุตฺตํ. ตาทิสสฺส นรวรสฺส ตาทิสํ สาสนวรํ สณฺหสุขุมาณสมฺปนฺเนหิ วิทูเหว สุขุมาเณเนว เยฺยนฺติ สาสนวรํ โถเมตุํ ‘‘วิทูหิ เยฺย’’นฺติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ ‘‘ปูชยเต, นมสฺสตี’’ติ เอเตหิ ปูชนนมสฺสนกิริยาย เหตุภูตา สพฺพฺุตฺาณาทโย อเนเก โลกิยโลกุตฺตรคุณา ปกาสิตา โหนฺติ เต คุเณ อาคมฺม สพฺพโลกสฺส ปูชนนมสฺสนเจตนาย ปวตฺตนโต. เตสุ หิ กิฺจิ สรูปโต, กิฺจิ อนุมานโต สาริปุตฺตตฺเถราทโย อนุสฺสรนฺติ, ปูเชนฺติ, นมสฺสนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุสฺสเรถ สมฺพุทฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙). เอกเทสคุณาปิ ปูชารหา นมสฺสนารหา, กสฺมา สพฺเพปิ คุณา ปกาสิตาติ? สพฺพคุณทสฺสเนน โพธิสมฺภารสมฺภรณมหากรุณาโยคสงฺขาตเหตุาณปหาน- อานุภาวรูปกายสมฺปตฺติสงฺขาตผลหิตชฺฌาสยินฺทฺริย- ปากกาลาคมนเทสนาาณสงฺขาตสตฺตุ- ปการสมฺปทาวเสน โถมนา ทสฺสิตา. เตน อตฺตหิตปฏิปตฺติ, ปรหิตปฏิปตฺติ จ นิรุปกฺกิเลสูปคมนาปคมนฺจ โลกสมฺานุปปวตฺติ, ตทนติธาวนฺจ จรณสมฺปตฺติ, วิชฺชาสมฺปตฺติ จ อตฺตาธิปติตา, ธมฺมาธิปติตา จ โลกนาถอตฺตนาถตา จ ปุพฺพการิกตฺุตา จ อปรนฺตปตา, อนตฺตนฺตปตา จ พุทฺธกรณธมฺมพุทฺธภาวสิทฺธิ จ ปรตารณอตฺตตารณฺจ ¶ สตฺตานุคฺคหจิตฺตตา, ธมฺมวิรตฺตจิตฺตตา จ ปกาสิตา ภวนฺติ. เตน สพฺพปฺปกาเรน อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยตาอุตฺตมปูชนียนมสฺสนียภาวปูชนนมสฺสนกิริยาย จ เขตฺตงฺคตภาวํ ปกาเสติ. เตน ปูชนกนมสฺสนกานํ ยถิจฺฉิตพฺพปโยชนสมฺปตฺติ ปกาสิตาติ สพฺพคุณา ปกาสิตาติ.
อาทิกลฺยาณตาทิคุณสมฺปตฺติยา ¶ วรํ อคฺคํ อุตฺตมํ, นิปุณาณโคจรตาย ปณฺฑิตเวทนียฺจ, ตสฺมา ‘‘วรํ เยฺย’’นฺติ วจเนหิ สฺวากฺขาตตาทโย สพฺเพ ธมฺมคุณา ปกาสิตา. อริยสจฺจปฏิเวเธน สมุคฺฆาตกิเลสสมฺโมหาเยว ปรมตฺถโต ปณฺฑิตา พาลฺยาทิสมติกฺกมนโต, ตสฺมา ภาวิตโลกุตฺตรมคฺคา, สจฺฉิกตสามฺผลา จ ปุคฺคลา วิเสสโต ‘‘วิทู’’ติ วุจฺจนฺติ. เต หิ ยถาวุตฺตสาสนวรํ อวิปรีตโต าตุํ, เนตฺุจ สปรสนฺตาเน สกฺกุณนฺติ. ตสฺมา เย สุปฺปฏิปนฺนตาทโย อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ สํวณฺณิตา, เต อริยสงฺฆคุณาปิ นิรวเสสโต ‘‘วิทูหี’’ติ ปเทน ปกาสิตาติ. เอวํ เนตฺติยา ปมคาถาย ‘‘เอตํ สาสนวร’’นฺติ ปเทน สาสนตฺตยํ สงฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ อิตเรสํ ทฺวินฺนํ อธิคมูปายภาวโต สพฺพสาสนมูลภูตสฺส, อตฺตโน เนตฺติปฺปกรณสฺส จ วิสยภูตสฺส ปริยตฺติสาสนวรสฺส ทสฺสนมุเขน สพฺเพ รตนตฺตยคุณาปิ โถมนาวเสน นยโตว ปกาสิตา โหนฺติ. นยโต หิ ทสฺสิตา สพฺเพ คุณา นิรวเสสา คหิตา ภวนฺติ, น สรูปโต. เตนาห ภควนฺตํ เปตฺวา ปฺวนฺตานํ อคฺคภูโต ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถโรปิ พุทฺธคุณปริจฺเฉทนมนุยุตฺโต ‘‘อปิจ เม ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) ภควตาปิ –
‘‘เอวํ อจินฺติยา พุทฺธา, พุทฺธธมฺมา อจินฺติยา;
อจินฺติเย ปสนฺนานํ, วิปาโก โหติ อจินฺติโย’’ติ. (อป. เถร ๑.๑.๘๒; เนตฺติ. ๙๕) –
คาถา วุตฺตา. ตตฺถ พุทฺธธมฺมาติ พุทฺธคุณา. อมฺหากํ ปน ยาวชีวํ รตนตฺตยคุณปริทีปเน อติอุสฺสาหนฺตานมฺปิ สรูปโต นีหริตฺวา ทสฺเสตุํ อสมตฺถภาโว ปเคว ปณฺฑิเตหิ เวทิตพฺโพติ.
อิจฺเจวํ ¶ –
‘‘ยํ โลโก ปูชยเต, สโลกปาโล สทา นมสฺสติ จ;
ตสฺเสต สาสนวรํ, วิทูหิ เยฺยํ นรวรสฺสา’’ติ. –
นิคฺคหิตโลปวเสน วุตฺตาย คาถาย สงฺเขเปน กถิโต อนุสนฺธฺยาทิโก สมตฺโตติ.
‘‘ยํ โลโก ปูชยเต, ส โลกปาโล สทา นมสฺสติ จ;
ตํ ตสฺส สาสนวรํ, วิทูหิ เยฺยํ นรวรสฺสา’’ติ. –
คาถํ ¶ อปเร ปนฺติ. ตสฺสาปิ อนุสนฺธฺยตฺโถ วุตฺตนโยว. โยชนตฺโถ ปน วิเสโส. ตตฺถ หิ สโลกปาโล โลโก ยสฺส สตฺถุโน นรวรสฺส ยํ สาสนวรํ สํวณฺเณตพฺพสหิตํ, สํวณฺเณตพฺพํ เอว วา ปูชยเต เจว นมสฺสติ จ, ตสฺส โลกปาลสฺส สตฺถุโน ตํ ปูเชตพฺพํ, นมสฺสิตพฺพฺจ วิทูเหว วิฺาตพฺพํ, เอตํ สาสนวรํ เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยนฺติ คเหตพฺพนฺติ โยชนา. โยชนากาโรปิ เหฏฺา วุตฺตนโยว.
วิคฺคหตฺโถปิ วิเสโส. อิมสฺมิฺหิ นเย โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกปาลา, ยถาวุตฺตจตุมหาราชาทโย. เตหิ โลกปาเลหิ สหิตํ สพฺพโลกํ ปาเลติ โลกคฺคนายกตฺตาติ โลกปาโลติ ภควาปิ โลกปาลสทฺเทน วุตฺโต. โส หิ ‘‘ตสฺสา’’ติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน ปรามสียติ, ตสฺมา ตสฺส โลกปาลสฺส สตฺถุโน นรวรสฺสาติ อตฺโถ คหิโต. ยทิ เอวํ โลกปาโล คุณีภูโต อปธาโน ปธานภูตํ โลกํ วิเสเสตฺวา วินิวตฺโต, กถํ ตํ-สทฺเทน ปรามสียตีติ? โลกวิเสสโก สมาโนปิ สาสนวราเปกฺขตาย ชนกสามิภาเวน สมฺพนฺธิวิเสสภูตตฺตา ปธานภูโต วิย ปรามสียตีติ. ภควา สาสนวรสฺส สามิภาเวน คหิโต. กถํ สาสนวรสฺส สามี ภควา สาสนวรํ ปูชยตีติ? น จายํ วิโรโธ. พุทฺธา หิ ภควนฺโต ธมฺมครุโน, เต สพฺพกาลํ ธมฺมมปจยมานาว วิหรนฺตีติ. พุทฺธานฺหิ ธมฺมครุธมฺมาปจยมานภาโว ‘‘ยํนูนาหํ…เป… ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๑) วุตฺโต, ตสฺมา โลกปาโล ภควา สาสนวรํ ¶ ปูชยตีติ ทฏฺพฺโพ. เอวํ สติ โลกปาโล ภควา สาสนวรํ ปูชยตีติ อตฺโถ ยุตฺโต โหตุ, กถํ โลกปาโล ภควา สาสนวรํ นมสฺสตีติ ยุตฺโตติ? ยุตฺโตว ‘‘นมสฺสตี’’ติ ปทสฺส ครุกรเณน ตนฺนินฺนโปณปพฺภาโรติ อตฺถสฺสาปิ ลพฺภนโต. ภควา หิ ธมฺมครุตาย สพฺพกาลํ ธมฺมนินฺนโปณปพฺภารภาเวน วิหรตีติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ เหฏฺา วุตฺตนเยน วา สํวณฺณนาสุ วุตฺตนเยน วา าตพฺพนฺติ อมฺเหหิ น วิตฺถารียติ.
เอวํ ปมคาถาย ‘‘สาสนวร’’นฺติ ปเทน ติวิธมฺปิ สาสนํ สงฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ ปริยตฺติสาสนเมว อตฺตโน เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยํ นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวาทส ปทานิ’’ตฺยาทิมาห. อถ วา ปมคาถาย รตนตฺตยโถมเนน สห เนตฺติปฺปกรณตาวิสยํ สาสนวรํ อาจริเยน ทสฺสิตํ, ‘‘ตสฺส สาสนวรํ กึ สพฺพํเยว เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยํ, อุทาหุ ปริยตฺติสาสนเมวา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปริยตฺติสาสนภูตํ สุตฺตเมวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘สาสนวร’’นฺติ สามฺเน วุตฺตมฺปิ ปริยตฺติสุตฺตเมว สาสนวรนฺติ ¶ คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘ตํ ปน กติวิธ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทฺวาทส ปทานี’’ติ วุตฺตํ, สงฺเขปโต ปเภเทน ทฺวาทสวิธนฺติ อตฺโถ. ปเภทโต ทฺวาทสวิธมฺปิ พฺยฺชนปทอตฺถปทโต ปน ทุวิธเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ สพฺพํ พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺมึ ทฺวเย เอกเมว สรูปโต เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยนฺติ วิฺเยฺยํ, อุทาหุ อุภย’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อุภยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ วิฺเยฺยํ อุภย’’นฺติ วุตฺตํ. วจนวจนียภาเวน สมฺพนฺเธ ยสฺมึ พฺยฺชเน, อตฺเถ จ ‘‘สุตฺต’’นฺติ โวหาโร ปวตฺโต, ตํ อุภยํ สรูปโต เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยนฺติ วิฺเยฺยนฺติ อตฺโถ. ‘‘กินฺติ วิฺเยฺย’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โก อตฺโถ, พฺยฺชนํ กตม’’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ฉพฺยฺชนปทฉอตฺถปทเภเทน ทฺวาทสวิธํ พฺยฺชนปทอตฺถปทวเสน ทุวิธํ สพฺพปริยตฺติสงฺขาตํ สุตฺตํ มม เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยํ สาสนวรนฺติ าตพฺพํ. สรูปโต ปุจฺฉิตฺวา อตฺถปทํ, พฺยฺชนปทฺจ สรูปโต าตพฺพนฺติ.
เอวํ ปมคาถาย ‘‘สาสนวร’’นฺติ วุตฺตสฺส สุตฺตสฺส ปริยตฺติภาวฺเจว อตฺถปทพฺยฺชนปทภาเวน เวทิตพฺพตฺตฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส สุตฺตสฺส ปวิจยูปายํ ¶ เนตฺติปฺปกรณํ ปทตฺถวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘โสฬสหารา’’ตฺยาทิมาห. อถ วา ทุติยคาถาย เนตฺติปฺปกรณสฺส วิสยํ สาสนวรํ นิยเมตฺวา ทสฺสิตํ, ‘‘เนตฺติ นาม กตมา, กติวิธา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เนตฺตินาม เอตฺติกาติ สงฺเขปโต ทสฺเสตุํ ‘‘โสฬสหารา’’ตฺยาทิมาห. ตตฺถ ตสฺส สาสนสฺส สุตฺตสฺส อตฺถปริเยฏฺิ เนตฺติสํวณฺณนา มยา มหากจฺจายเนน นิทฺทิฏฺา เนตฺติ นาม โสฬสหารสมุทายา ปฺจนยสมุทายา อฏฺารสมูลปทสมุทายาติ วิชานิตพฺพาติ.
เต หาราทโย เกนฏฺเน เนตฺติ นาม? เวเนยฺยสตฺเต อริยธมฺมํ เนตีติ เนตฺตีติ เอวมาทิ อตฺโถ สํวณฺณนาสุ (เนตฺติ. อฏฺ. คนฺถารมฺภกถา) วุตฺโตว. อิมาย ตติยคาถายปิ ‘‘มหากจฺจาเนน นิทฺทิฏฺา’’ติ ปาโ สุนฺทโร. ‘‘มหากจฺจายเนน นิทฺทิฏฺา’’ติ วา ปาโ, น สุนฺทโร. ลกฺขณฺหิ มยา เหฏฺา วุตฺตนฺติ. ‘‘โสฬสหาราทิสมุทายา เนตฺตี’’ติ วุตฺตา, เต หารา สุตฺตสฺส พฺยฺชนวิจโย วา โหนฺติ, อตฺถวิจโย วา, นยา จ พฺยฺชนวิจโย วา โหนฺติ, อตฺถวิจโย วาติ วิจารณายํ สติ ‘‘อิเม อิมสฺส วิจโย’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘หารา พฺยฺชนวิจโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ หารา สุตฺตสฺส พฺยฺชนวิจโย โหนฺติ, น อตฺถวิจโย โสฬสหารานํ มูลปทนิทฺธารณํ วชฺเชตฺวา พฺยฺชนมุเขเนว สํวณฺณนาภาวโต. ตโย ปน นยา สุตฺตสฺส อตฺถวิจโย โหนฺติ, ติณฺณํ นยานํ มูลปทสงฺขาตอวิชฺชาทิสภาวธมฺมนิทฺธารณมุเขเนว สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนาภาวโตติ.
‘‘ตํ ¶ อุภยํ สุตฺเต สํวณฺณนาภาเวน เกนจิ กตฺถจิเยว โยเชตพฺพํ, อุทาหุ สพฺพถา สพฺพตฺถ โยชิต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต ตํ อุภยํ สพฺพตฺถ สุตฺเตสุ สพฺพถา โยชิตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุภยํ ปริคฺคหีต’’นฺติ วุตฺตํ. หารา เจว นยา จ อุภยํ สุตฺตสฺส อตฺถนิทฺธารณวเสน ปริโต สมนฺตโต คหิตํ สพฺพถา สุตฺเตสุ โยชิตนฺติ.
‘‘หาราทิสมุทายภูตํ เนตฺติสงฺขาตํ สุตฺตํ กถํ สํวณฺเณตพฺพํ สุตฺตํ สํวณฺเณตี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต วุตฺตํ ‘‘วุจฺจติ สุตฺตํ ยถาสุตฺต’’นฺติ. เนตฺติสงฺขาตํ สํวณฺณนาสุตฺตํ สํวณฺเณตพฺพสุตฺตานุรูปํ ยถา เยน เยน เทสนาหาเรน วา อฺเน วา สํวณฺเณตพฺพํ, เตน เตน วุจฺจติ สํวณฺเณตีติ ¶ อตฺโถ. อถ วา ‘‘เนตฺติสงฺขาตํ สุตฺตํ กิตฺตกํ สํวณฺเณตพฺพํ สุตฺตํ สํวณฺเณตี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต วุตฺตํ ‘‘วุจฺจติ สุตฺตํ ยถาสุตฺต’’นฺติ. ตตฺถ ยถาสุตฺตํ ยํ ยํ สุตฺตํ ภควตา วุตฺตํ, ตํ ตํ สพฺพํ สุตฺตํ เนตฺติสงฺขาตํ สุตฺตํ วุจฺจติ วทติ อสฺสาทาทีนวทสฺสนวเสน สํวณฺเณตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เนตฺตินเยน หิ สํวณฺเณตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นาม สุตฺตํ นตฺถี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. สงฺคหวารวณฺณนา).
‘‘ยํ ยํ ภควตา เทสิตํ สุตฺตํ เนตฺติสํวณฺณนาย สํวณฺณิตํ, สา สํวณฺเณตพฺพา เทสนา จ วิฺเยฺยา, อุทาหุ เทสิตพฺพฺจา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ยา เจว เทสนา’’ตฺยาทิมาห. ยา เจว เทสนา ปาฬิ สํวณฺณิตา, สา จ, ตาย เทสนาย เทสิตํ ยํ ธมฺมชาตํ, ตฺจ อุภยํ วิมุตฺตายตนเทสนาสีเสน ปริจยํ กโรนฺเตหิ เอกนฺเตน วิฺเยฺยํ อุภยสฺเสว อนุปาทิเสสปรินิพฺพานปริโยสานานํ สมฺปตฺตีนํ เหตุภาวโต. ‘‘ตสฺส อุภยสฺส วิชานเน สาเธตพฺเพ สาเธตพฺพสฺส วิชานนสฺส เหตุภูตา กตมา อนุปุพฺพี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต วุตฺตํ ‘‘ตตฺรา’’ตฺยาทิ. ตตฺถ ตตฺร วิชานเน สาเธตพฺเพ สุตฺตาทินวงฺคสฺส สาสนสฺส อตฺถปริเยสนา อตฺถวิจารณา หารนยานํ อยํ อนุปุพฺพี วิชานนสฺส สาเธตพฺพสฺส เหตุภูตา อนุปุพฺพี นามาติ อตฺโถ. อถ วา ตสฺส อุภยสฺส วิชานเน สาเธตพฺเพ สุตฺตาทินวงฺคสฺส สาสนสฺส อตฺถปริเยสนาย อตฺถวิจารณาย อยํ อนุปุพฺพี วิชานนสฺส สาเธตพฺพสฺส เหตุภูตา อนุปุพฺพี นามาติ. อถ วา วกฺขมานาย หารนยานุปุพฺพิยา นววิธสุตฺตนฺตปริเยสนา วิชานนสฺส เหตุภูตาติ เวทิตพฺพา. เตนากาเรเนว อฏฺกถายํ ติธา วุตฺตาติ.
สงฺคหวารสฺส อตฺถวิภาวนา นิฏฺิตา.