📜

๓. นิทฺเทสวารอตฺถวิภาวนา

โสฬสหารนิทฺเทสวิภาวนา

. หาราทีสุ สมุทายสฺส เนตฺติปฺปกรณสฺส อุทฺเทโส อุทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม นิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อุทฺทิฏฺเ หาราทโย นิทฺทิสิตุํ ‘‘ตตฺถ สงฺเขปโต เนตฺตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ อุทฺทิฏฺเ หาราทโย นิทฺทิสิตุํ ‘ตตฺถ สงฺเขปโต’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔) วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ‘‘ตตฺถ กตเม โสฬส หารา? เทสนา วิจโย’’ติอาทิอุทฺเทสปาเ. สงฺเขปโตติ สมาสโต. เนตฺตีติ เนตฺติปฺปกรณํ. กิตฺติตาติ กถิตา, อิทานิ นิทฺเทสโต กเถสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ.

.

‘‘อสฺสาทาทีนวตา, นิสฺสรณมฺปิ จ ผลํ อุปาโย จ.

อาณตฺตี จ ภควโต, โยคีนํ เทสนาหาโร’’ติ. –

คาถายํ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน สุตฺเต อาคตา อสฺสาโทปิ อาทีนวตา อาทีนโวปิ นิสฺสรณมฺปิ ผลมฺปิ อุปาโยปิ โยคีนํ อตฺถาย ภควโต อาณตฺติปิ อิเม ธมฺมา ทสฺสิตา สํวณฺณิตา สํวณฺณนาวเสน าปิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหาโร นามาติ อตฺถโยชนา.

วจนตฺถาทโย อฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺตาว, ตสฺมา กิฺจิมตฺตเมว กเถสฺสามิ. อสฺสาทียเตติ อสฺสาโท, โก โส? สุขํ, โสมนสฺสํ, อิฏฺารมฺมณภูตา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา จ. อสฺสาเทติ เอตายาติ วา อสฺสาโท, โก โส? ตณฺหา, วิปลฺลาสา จ. วิปลฺลาสวเสน หิ เอกจฺเจ สตฺตา อนิฏฺมฺปิ อารมฺมณํ อิฏฺากาเรน อสฺสาเทนฺติ.

อาภุสํ กมฺเมน ทีนํ ทุกฺขาทิ หุตฺวา วาติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว, ทุกฺขาทิ. อถ วา อติวิย อาทีนํ กปณํ หุตฺวา วาติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว, กปณมนุสฺโส, ตถาภาวา จ เตภูมกา ธมฺมา อนิจฺจตาทิโยคโต.

นิสฺสรติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, อริยมคฺโค. นิสฺสรตีติ วา นิสฺสรณํ, นิพฺพานํ. ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. นิสฺสรณเภโท อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔ หารสงฺเขป) พหุธา วุตฺโตว.

ผลติ ปวตฺตตีติ ผลํ, เทสนาย ผลํ. ยทิปิ เทสนา ผลนิปฺผาทิกา น โหติ, ตถาปิ ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปุฺสมฺภารา สมฺภวนฺติ, ปุฺสมฺภารเหตุโต ผลํ ปวตฺตํ, ตสฺมา เทสนาย ผลํ นามาติ. กตมํ ตํ? เทวมนุสฺเสสุ อายุวณฺณสุขพลยสปริวารอธิปเตยฺยอุปธิสมฺปตฺติจกฺกวตฺติสิริเทวรชฺช- สิริจตุสมฺปตฺติจกฺกสีลสมาธิสมฺปทา วิชฺชาภิฺา ปฏิสมฺภิทา สาวกโพธิปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธิโย.

ปจฺจยสามคฺคึ อุปคนฺตฺวา อยติ ปวตฺตติ ผลํ เอเตนาติ อุปาโย, โก โส? อริยมคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา. ปุริมา ปฏิปทา หิ ปจฺฉิมาย ปฏิปทาย อธิคมูปาโย, ปรมฺปราย มคฺคนิพฺพานาธิคมสฺส จ อุปาโย. เกจิ ‘‘มคฺโคปิ อุปาโย’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน นิพฺพานเมว นิสฺสรณนฺติ วุตฺตํ สิยา. ‘‘เต ปหาย ตเร โอฆนฺติ อิทํ นิสฺสรณ’’นฺติ (เนตฺติ. ๕) ปน อริยมคฺคสฺส นิสฺสรณภาวํ วกฺขติ, ตสฺมา เกสฺจิ วาโท น คเหตพฺโพ.

อาณตฺตีติ อาณารหสฺส ภควโต เวเนยฺยานํ หิตสิทฺธิยา ‘‘เอวํ สมฺมาปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชาหิ, มิจฺฉาปฏิปตฺตึ มา ปฏิปชฺชาหี’’ติ วิธานํ อาณาปนํ อาณตฺติ นาม.

ยุชฺชนฺติ ปยุชฺชนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาสูติ โยคิโน, เวเนยฺยา, เตสํ โยคีนํ อตฺถายาติ วจนเสสํ นีหริตฺวา โยชนา กาตพฺพา. สุตฺเต อาคตานํ สพฺเพสํ อสฺสาทาทีนํ เอกเทสาคตานมฺปิ นีหริตฺวา สพฺเพสํ วิภชนสํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหาโรติ นิทฺเทสโต คเหตพฺโพ, โส จ วิภชนากาโร เทสนาหารวิภงฺเค (เนตฺติ. ๕) อาคมิสฺสตีติ อิธ น ทสฺสิโตติ.

เทสนาหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม วิจยหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘ยํ ปุจฺฉิตฺจ วิสฺสชฺชิตฺจ, สุตฺตสฺส ยา จ อนุคีติ.

สุตฺตสฺส โย ปวิจโย, หาโร วิจโยติ นิทฺทิฏฺโ’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ สุตฺตสฺส ยํ ปุจฺฉิตฺจ ยา ปุจฺฉา วิจยมานา จ สุตฺตสฺส ยํ วิสฺสชฺชิตฺจ ยา วิสฺสชฺชนา วิจยมานา จ สุตฺตสฺส โย ปทาทิวิจโย, อสฺสาทาทิวิจโย จ อตฺถิ, เต วุตฺตปฺปการา วิจยมานา ปุจฺฉาทโย เยน สํวณฺณนาวิเสเสน วิจิยนฺติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส วิจโย หาโรติ นิทฺทิฏฺโติ อตฺถโยชนา กาตพฺพา.

ปุจฺฉียเต ปุจฺฉิตํ. วิสฺสชฺชียเต วิสฺสชฺชิตนฺติ ภาวสาธนตฺโถ ทฏฺพฺโพ, น กมฺมสาธนตฺโถ. เตน วุตฺตํ ฏีกายํ ‘‘ภาวตฺเถ โตติ อาห – ‘วิสฺสชฺชิตนฺติ วิสฺสชฺชนา’’’ติ.

‘‘สุตฺตสฺสา’’ติ นิยมิตตฺตา สํวณฺณนาวเสน อฏฺกถายํ อาคตํ น คเหตพฺพนฺติ ทฏฺพฺพํ. โส วิจโย หาโร อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔ หารสงฺเขป) วุตฺโตว. กถํ? –

‘‘อยํ ปุจฺฉา อทิฏฺโชตนา ทิฏฺสํสนฺทนา วิมติจฺเฉทนา อนุมติปุจฺฉา กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา สตฺตาธิฏฺานา ธมฺมาธิฏฺานา เอกาธิฏฺานา อเนกาธิฏฺานา สมฺมุติวิสยา ปรมตฺถวิสยา อตีตวิสยา อนาคตวิสยา ปจฺจุปฺปนฺนวิสยา’’ติอาทินา ปุจฺฉาวิจโย เวทิตพฺโพ. ‘‘อิทํ วิสฺสชฺชนํ เอกํสพฺยากรณํ วิภชฺชพฺยากรณํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณํ ปนํ สาวเสสํ นิรวเสสํ สอุตฺตรํ นิรุตฺตรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติอาทินา วิสฺสชฺชนวิจโย.

‘‘อยํ ปุจฺฉา อิมินา สเมติ, เอเตน น สเมตี’’ติ ปุจฺฉิตตฺถํ อาเนตฺวา, วิจโย ปุพฺเพนาปรํ สํสนฺทิตฺวา จ วิจโย ปุพฺพาปรวิจโย. ‘‘อยํ อนุคีติ วุตฺตตฺถสงฺคหา อวุตฺตตฺถสงฺคหา ตทุภยตฺถสงฺคหา กุสลตฺถสงฺคหา อกุสลตฺถสงฺคหา’’ติอาทินา อนุคีติวิจโย. อสฺสาทาทีสุ สุขเวทนาย ‘‘อิฏฺารมฺมณานุภวนลกฺขณา’’ติอาทินา, ตณฺหาย ‘‘อารมฺมณคฺคหณลกฺขณา’’ติอาทินา, วิปลฺลาสานํ ‘‘วิปรีตคฺคหณลกฺขณา’’ติอาทินา, อวสิฏฺานํ เตภูมกธมฺมานํ ‘‘ยถาสกลกฺขณา’’ติอาทินา สพฺเพสฺจ ทฺวาวีสติยา ติเกสุ, ทฺวาจตฺตาลีสาธิเก จ ทุกสเต ลพฺภมานปทวเสน ตํตํอสฺสาทตฺถวิเสสนิทฺธารณํ อสฺสาทวิจโย.

ทุกฺขเวทนาย ‘‘อนิฏฺานุภวนลกฺขณา’’ติอาทินา, ทุกฺขสจฺจานํ ‘‘ปฏิสนฺธิลกฺขณา’’ติอาทินา, อนิจฺจตาทีนํ อาทิอนฺตวนฺตตาย อนิจฺจนฺติกตาย จ ‘‘อนิจฺจา’’ติอาทินา สพฺเพสฺจ โลกิยธมฺมานํ สํกิเลสภาคิยหานภาคิยตาทิวเสน อาทีนววุตฺติยา โอการนิทฺธารเณน อาทีนววิจโย. นิสฺสรณปเท อริยมคฺคสฺส อาคมนโต กายานุปสฺสนาทิปุพฺพภาคปฏิปทาวิภาควิเสสนิทฺธารณวเสน, นิพฺพานสฺส ยถาวุตฺตปริยายวิภาควิเสสนิทฺธารณวเสนาติ เอวํ นิสฺสรณวิจโย. ผลาทีนํ ตํตํสุตฺตเทสนาย สาเธตพฺพผลสฺส ตทุปายสฺส ตตฺถ ตตฺถ สุตฺตวิธิวจนสฺส จ วิภาคนิทฺธารณวเสน วิจโย เวทิตพฺโพ. เอวํ ปทปุจฺฉาวิสฺสชฺชนปุจฺฉาปุพฺพาปรานุคีตีนํ, อสฺสาทาทีนฺจ วิเสสนิทฺธารณวเสเนว วิจยลกฺขโณ ‘‘วิจโย หาโร’’ติ เวทิตพฺโพติ –

เอวํ วุตฺโตว.

วิสฺสชฺชนวิเสโส ปน ฏีกายํ วุตฺโต. กถํ? –

‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘อาม, จกฺขุ อนิจฺจเมวา’’ติ เอกนฺตโต วิสฺสชฺชนํ เอกํสพฺยากรณํ, ‘‘อฺินฺทฺริยํ ภาเวตพฺพํ, สจฺฉิกาตพฺพฺจา’’ติ ปุฏฺเ ‘‘มคฺคปริยาปนฺนํ ภาเวตพฺพํ, ผลปริยาปนฺนํ สจฺฉิกาตพฺพ’’นฺติ วิภชิตฺวา วิสฺสชฺชนํ วิภชฺชพฺยากรณํ, ‘‘อฺินฺทฺริยํ กุสล’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘กึ อนวชฺชฏฺโ กุสลตฺโถ, อุทาหุ สุขวิปากฏฺโ’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณํ, ‘‘สสฺสโต อตฺตา, อสสฺสโต วา’’ติ วุตฺเต ‘‘อพฺยากตเมต’’นฺติอาทินา อวิสฺสชฺชนํ ปนํ, ‘‘กึ ปเนเต ‘กุสลา’ติ วา ‘ธมฺมา’ติ วา เอกตฺถา, อุทาหุ นานตฺถา’’ติ อิทํ ปุจฺฉนํ สาวเสสํ. วิสฺสชฺชนสฺส ปน สาวเสสโต เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน เทสนายํ เวทิตพฺพา. อปาฏิหีรกํ สอุตฺตรํ สปฺปาฏิหีรกํ นิรุตฺตรํ, เสสํ วิจยหารนิทฺเทเส สุวิฺเยฺยเมวาติ –

วุตฺโตว. สํวณฺณนาสุ วุตฺโต อตฺโถ อนากุโล ปากโฏ ยติโปเตหิ วิฺาโต, โส สพฺพตฺถ อมฺเหหิ น วิภตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.

วิจยหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ยุตฺติหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘สพฺเพสํ หารานํ, ยา ภูมี โย จ โคจโร เตสํ.

ยุตฺตายุตฺตปริกฺขา, หาโร ยุตฺตีติ นิทฺทิฏฺโ’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ สพฺเพสํ โสฬสนฺนํ หารานํ ยา ภูมิ ปวตฺตนฏฺานภูตํ พฺยฺชนํ, โย โคจโร สุตฺตตฺโถ จ อตฺถิ, เตสํ ภูมิสงฺขาตพฺยฺชนโคจรสงฺขาตสุตฺตตฺถานํ ยา ยุตฺตายุตฺตปริกฺขา ยุตฺตายุตฺตีนํ วิจารณา สํวณฺณนา กตา, โส ยุตฺติอยุตฺติปริกฺขาวิจารณสงฺขาโต สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘ยุตฺติ หาโร’’ติ นิทฺทิฏฺโติ อตฺถโยชนา.

เตสํ หารานํ ภูมิภูตสฺส สุตฺเต อาคตสฺส พฺยฺชนสฺส ยุตฺติภาโว ทุวิโธ สภาวนิรุตฺติภาโว, อธิปฺเปตตฺถวาจกภาโว จ. โคจรภูตสฺส ปน สุตฺเต อาคตสฺส ยุตฺติภาโว สุตฺตวินยธมฺมตาหิ อวิโลมนํ. อยุตฺติภาโว วุตฺตวิปริยาเยน คเหตพฺโพ.

ยุตฺติหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ปทฏฺานหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘ธมฺมํ เทเสติ ชิโน, ตสฺส จ ธมฺมสฺส ยํ ปทฏฺานํ.

อิติ ยาว สพฺพธมฺมา, เอโส หาโร ปทฏฺาโน’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ ธมฺมนฺติ ยํ กิฺจิ กุสลาทิธมฺมํ สุตฺเต ชิโน เทเสติ, ตสฺส สุตฺเต ชิเนน เทสิตสฺส กุสลาทิธมฺมสฺส ยฺจ ปทฏฺานํ นิทฺธาเรตพฺพํ, ตํ ตํ ปทฏฺานฺจาติ เอวํ วุตฺตนเยน ยาว ยตฺตกา สพฺเพ ธมฺมา สุตฺเต ชิเนน เทสิตา, ตตฺตกานํ สพฺเพสํ ธมฺมานํ ยฺจ ปทฏฺานํ นิทฺธาเรตพฺพํ, ตสฺส จ ปทฏฺานสฺส ยฺจ ปทฏฺานํ นิทฺธาเรตพฺพํ, ตํ ตํ ปทฏฺานฺจ, อิติ เอวํ วุตฺตนเยน ยาว ยตฺตกา สพฺเพ ปทฏฺานธมฺมา นิทฺธาเรตพฺพาว, ตตฺตกานิ สพฺพานิ ธมฺมปทฏฺานานิ ยถานุรูปํ นิทฺธาเรตฺวา เยน สํวณฺณนาวิเสเสน กถิตานิ, เอโส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘ปทฏฺาโน หาโร’’ติ นิทฺทิฏฺโติ อตฺถโยชนา.

สุตฺเต เทสิตกุสลธมฺมสฺส โยนิโสมนสิการสทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิ ปทฏฺานํ, สุตฺเต เทสิตอกุสลธมฺมสฺส อโยนิโสมนสิการอสทฺธมฺมสฺสวนอสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิ ปทฏฺานํ, อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส ยถารหํ กุสลากุสลาพฺยากตา ปทฏฺานนฺติอาทินา นิทฺธาเรตพฺพนฺติ.

ปทฏฺานหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ลกฺขณหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม, เย ธมฺมา เอกลกฺขณา เกจิ.

วุตฺตา ภวนฺติ สพฺเพ, โส หาโร ลกฺขโณ นามา’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ เอกธมฺเม สุตฺเต ภควตา วุตฺตมฺหิ, อฏฺกถายํ นิทฺธาริเต วา สติ เตน ธมฺเมน เย เกจิ ธมฺมา เอกลกฺขณา ภวนฺติ, สพฺเพ เต ธมฺมา สุตฺเต สรูปโต อวุตฺตาปิ สมานลกฺขณตาย สํวณฺเณตพฺพภาเวน อาเนตฺวา เยน สํวณฺณนาวิเสเสน วุตฺตา ภวนฺติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘ลกฺขโณ นาม หาโร’’ติ นิทฺทิฏฺโติ อตฺถโยชนา.

เอกํ สมานํ ลกฺขณํ เอเตสนฺติ เอกลกฺขณา, สมานลกฺขณา, สหจาริตาย วา สมานกิจฺจตาย วา สมานเหตุตาย วา สมานผลตาย วา สมานารมฺมณตาย วา อวุตฺตาปิ นิทฺธาริตาติ. กถํ ? – ‘‘นานตฺตกายานานตฺตสฺิโน (ที. นิ. ๓.๓๔๑, ๓๕๗, ๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๔), นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอาทีสุ สหจาริตาย สฺาย สหคตา ธมฺมา นิทฺธาริตา. ‘‘ททํ มิตฺตานิ คนฺถตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๙) สมานกิจฺจตา, ปิยวจนอตฺถจริยา สมานตฺถตาปิ นิทฺธาริตา, ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) สมานเหตุตาย สฺาทโยปิ นิทฺธาริตา, ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) สมานผลตาย ตณฺหุปาทานาทโยปิ นิทฺธาริตา, ‘‘รูปํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชตี’’ติอาทีสุ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔) สมานารมฺมณตาย ตํสมฺปยุตฺตา เวทนาทโยปิ นิทฺธาริตา, นิทฺธาเรตฺวา วตฺตพฺพาติ อตฺโถติ. วิตฺถาโร วิภงฺควาเร (เนตฺติ. ๒๓) อาคมิสฺสติ.

ลกฺขโณ หาโร นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม จตุพฺยูโห หาโร’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘เนรุตฺตมธิปฺปาโย , พฺยฺชนมถ เทสนานิทานฺจ;

ปุพฺพาปรานุสนฺธี, เอโส หาโร จตุพฺยูโห’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ เนรุตฺตํ สุตฺตปทนิพฺพจนฺจ พุทฺธานํ ตสฺส ตสฺส สุตฺตสฺส เทสกานํ, สาวกานํ วา อธิปฺปาโย จ อตฺถพฺยฺชเนน พฺยฺชนมุเขน เทสนานิทานฺจ ปุพฺพาปเรน อนุสนฺธิ จ เอเต นิรุตฺตาทโย เยน สํวณฺณนาวิเสเสน วิภาวียนฺติ, เอโส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘จตุพฺยูโห หาโร’’ติ นิทฺทิฏฺโ. เทสนาปวตฺตินิมิตฺตํ เทสกสฺส อชฺฌาสยาทิ เทสนานิทานํ นาม. จตุพฺยูหหารสฺส พหุวิสยตฺตา วิภงฺเค (เนตฺติ. ๒๕ อาทโย) ลกฺขณสมฺปตฺตึ กตฺวา กถยิสฺสาม.

จตุพฺยูหหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม อาวฏฺฏหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘เอกมฺหิ ปทฏฺาเน, ปริเยสติ เสสกํ ปทฏฺานํ;

อาวฏฺฏติ ปฏิปกฺเข, อาวฏฺโฏ นาม โส หาโร’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ ปรกฺกมธาตุอาทีนํ ปทฏฺาเน เอกมฺหิ อารมฺภธาตุอาทิเก เทสนารุฬฺเห สติ วิสภาคตาย วา เสสกํ ปทฏฺานํ ปริเยสติ , เทสนาย สรูปโต อคฺคหเณน วา เสสกํ ปทฏฺานํ ปริเยสติ, เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ปริเยสิตฺวา โยเชนฺโต เทสนํ ปมาทาทีนํ ปทฏฺานภูเต โกสชฺชาทิเก ปฏิปกฺเข อาวฏฺฏติ อาวฏฺฏาเปติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘อาวฏฺโฏ หาโร นามา’’ติ นิทฺทิฏฺโติ อตฺถโยชนา.

‘‘ปฏิปกฺเข’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ, เสเสปิ สภาเค อาวฏฺฏนโต. น หิ อารมฺภธาตุอาทิเก เทสนารุฬฺเห สติ ตปฺปฏิปกฺเข โกสชฺชาทิเกเยว เทสนํ อาวฏฺเฏติ, อถ โข อวเสสวีริยารมฺภาทิเกปิ เทสนํ อาวฏฺเฏตีติ.

อาวฏฺฏหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม วิภตฺติหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘ธมฺมฺจ ปทฏฺานํ, ภูมิฺจ วิภชเต อยํ หาโร.

สาธารเณ อสาธารเณ จ เนยฺโย วิภตฺตี’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ กุสลาทิวเสน อเนกวิธํ สภาวธมฺมฺจ ทานสีลาทิปทฏฺานฺจ ‘‘ทสฺสนภูมิ ภาวนาภูมี’’ติ เอวมาทิกํ ภูมิฺจ สาธารเณ จ อสาธารเณ จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน วิภชเต, โส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘วิภตฺติ หาโร’’ติ เนยฺโยติ อตฺถโยชนา.

‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตา กุสลา วาสนาภาคิยา, อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตา กุสลา นิพฺเพธภาคิยา’’ตฺยาทินา, ‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต วุตฺตา อกุสลา กิเลสภาคิยา’’ตฺยาทินา ธมฺมฺจ, ‘‘อิทํ สีลํ อิมสฺส มหคฺคตวิเสสสฺส ปทฏฺานํ, อิทํ สีลํ อิทํ ฌานํ อิมสฺส โลกุตฺตรสฺส ปทฏฺาน’’นฺตฺยาทินา ปทฏฺานฺจ, ‘‘ทสฺสนปหาตพฺพสฺส ปุถุชฺชโน ภูมิ, ภาวนาปหาตพฺพสฺส โสตาปนฺนาทโย ภูมิ’’ตฺยาทินา ภูมิฺจ, ‘‘กามราคพฺยาปาทา ปุถุชฺชนโสตาปนฺนานํ สาธารณา’’ตฺยาทินา สาธารเณ จ, ‘‘กามราคพฺยาปาทา อนาคามิอรหนฺตานํ อสาธารณา’’ตฺยาทินา อสาธารเณ จ เยน วิภชติ, โส วิภตฺติ หาโร นามาติอาทินา (เนตฺติ. ๓๓-๓๔) วิตฺถาเรตฺวา วิภชนากาโร คเหตพฺโพ.

วิภตฺติหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ปริวตฺตนหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

.

‘‘กุสลากุสเล ธมฺเม, นิทฺทิฏฺเ ภาวิเต ปหีเน จ.

ปริวตฺตติ ปฏิปกฺเข, หาโร ปริวตฺตโน นามา’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ สุตฺเต ภาวิเต ภาวิตพฺเพ กุสเล อนวชฺชธมฺเม นิทฺทิฏฺเ กถิเต, สํวณฺณิเต วา ปหีเน ปหาตพฺเพ อกุสเล สาวชฺชธมฺเม นิทฺทิฏฺเ กถิเต, สํวณฺณิเต วา เตสํ ธมฺมานํ ปฏิปกฺเข วิปรีตธมฺเม เยน สํวณฺณนาวิเสเสน ปริวตฺตติ ปริวตฺเตติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘ปริวตฺตโน หาโร นามา’’ติ เวทิตพฺโพติ อตฺถโยชนา.

‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวตี’’ติอาทินา จ ‘‘ยสฺส วา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺส ปาณาติปาโต ปหีโน’’ติอาทินา จ ‘‘ภุฺชิตพฺพา กามา …เป… กาเมหิ เวรมณี เตสํ อธมฺโม’’ติอาทินา จ ปฏิปกฺเข ปริวตฺตนภาวํ วิภงฺควาเร (เนตฺติ. ๓๕ อาทโย) วกฺขตีติ น วิตฺถาริตา.

ปริวตฺตนหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม เววจนหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๐.

‘‘เววจนานิ พหูนิ ตุ, สุตฺเต วุตฺตานิ เอกธมฺมสฺส.

โย ชานาติ สุตฺตวิทู, เววจโน นาม โส หาโร’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ เอกธมฺมสฺส ปทตฺถสฺส สุตฺเต วุตฺตานิ ตุ วุตฺตานิ เอว, พหูนิ ตุ พหูนิ เอว เววจนานิ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน โย สุตฺตวิทู ชานาติ, ชานิตฺวา เอกสฺมึเยว ปทตฺเถ โยเชติ, ตสฺส สุตฺตวิทุโน โส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘เววจโน นาม หาโร’’ติ นิทฺทิฏฺโติ อตฺถโยชนา.

เอตฺถ จ โย โส-สทฺทา อสมานตฺถา จ โหนฺตีติ ‘‘โย สุตฺตวิทู’’ติ วตฺวา ‘‘โส สํวณฺณนาวิเสโส’’ติ วุตฺตนฺติ. ‘‘ภควา’’ติ ปทสฺส เอกสฺมึเยว อตฺเถ ภควติ ‘‘อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา, ผลนิปฺผตฺติคโต เวสารชฺชปฺปตฺโต อธิคตปฏิสมฺภิโท จตุโยควิปฺปหีโน อคติคมนวีติวตฺโต อุทฺธฏสลฺโล นิรุฬฺหวโณ มทฺทิตกณฺฏโก นิพฺพาปิตปริยุฏฺาโน พนฺธนาตีโต คนฺถวินิเวโน อชฺฌาสยวีติวตฺโต ภินฺนนฺธกาโร จกฺขุมา โลกธมฺมสมติกฺกนฺโต อนุโรธวิโรธวิปฺปยุตฺโต อิฏฺานิฏฺเสุ ธมฺเมสุ อสงฺเขปคโต พนฺธนาติวตฺโต ปิตสงฺคาโม อภิกฺกนฺตตโร อุกฺกาธโร อาโลกกโร ปชฺโชตกโร ตโมนุโท รณฺชโห อปริมาณวณฺโณ อปฺปเมยฺยวณฺโณ อสงฺเขยฺยวณฺโณ อาภงฺกโร ปภงฺกโร ธมฺโมภาสปชฺโชตกโร’’ติ (เนตฺติ. ๓๘) เอวมาทีนิ พหูนิ เววจนานิ โยชิตานิ. วิตฺถาโร วิภงฺควาเร (เนตฺติ. ๓๗ อาทโย) อาคมิสฺสติ.

เววจนหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ปฺตฺติหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๑.

‘‘เอกํ ภควา ธมฺมํ, ปฺตฺตีหิ วิวิธาหิ เทเสติ.

โส อากาโร เยฺโย, ปฺตฺตี นาม โส หาโร’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ ภควา เอกํ ขนฺธาทิธมฺมํ วิวิธาหิ นิกฺเขปปฺปภวปฺตฺตาทีหิ ปฺตฺตีหิ เยน ปฺาเปตพฺพากาเรน เทเสติ, โส ปฺาเปตพฺพากาโร เยน สํวณฺณนาวิเสเสน วิภาวิโต, โส สํวณฺณนาวิเสโส ‘‘ปฺตฺติ หาโร นามา’’ติ เยฺโยติ อตฺถโยชนา.

ตตฺถ วิวิธาหิ ปฺตฺตีหิ นิกฺเขปปฺตฺติปภวปฺตฺติปริฺาปฺตฺติปหานปฺตฺติ- ภาวนาปฺตฺติสจฺฉิกิริยาปฺตฺตินิโรธปฺตฺตินิพฺพิทาปฺตฺตีติ เอวมาทิปฺตฺตีหิ เอกปทตฺถสฺเสว ปฺาเปตพฺพาการวิภาวนาลกฺขโณ สํวณฺณนาวิเสโส ปฺตฺติ หาโร นามาติ.

ตตฺถ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ อยํ ปฺตฺติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ, ฉนฺนํ ธาตูนํ, อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ, ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ, ทสนฺนํ อินฺทฺริยานํ นิกฺเขปปฺตฺติ.

‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค, อตฺถิ นนฺที, อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรุฬฺหํ. ยตฺถ ปติฏฺิตํ วิฺาณํ วิรุฬฺหํ, อตฺถิ ตตฺถ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ. ยตฺถ อตฺถิ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ, อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๔; กถา. ๒๙๖) เอวมาทิ ปภวปฺตฺติ ทุกฺขสฺส จ สมุทยสฺส จาติ.

‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร นตฺถิ ราโค, นตฺถิ นนฺที, นตฺถิ ตณฺหา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๔; กถา. ๒๙๖) เอวมาทิ ปริฺาปฺตฺติ ทุกฺขสฺส, ‘‘ปหานปฺตฺติ สมุทยสฺส, ภาวนาปฺตฺติ มคฺคสฺส, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นิโรธสฺสา’’ติ จ ‘‘นิกฺเขปปฺตฺติ สุตมยิยา ปฺาย, สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส, ปวตฺตนาปฺตฺติ ธมฺมจกฺกสฺสา’’ติ เอวมาทิวิตฺถาโร วิภงฺเค (เนตฺติ. ๓๙ อาทโย) อาคมิสฺสตีติ.

ปณฺณตฺติหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม โอตรณหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๒.

‘‘โย จ ปฏิจฺจุปฺปาโท, อินฺทฺริยขนฺธา จ ธาตุอายตนา.

เอเตหิ โอตรติ โย, โอตรโณ นาม โส หาโร’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ โย ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จ เย อินฺทฺริยขนฺธา จ ยานิ ธาตุอายตนานิ จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นิทฺธาริตานิ, เอเตหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทินฺทฺริยขนฺธธาตายตเนหิ, สุตฺเต อาคตปทตฺถมุเขน นิทฺธาริยมาเนหิ จ โย สํวณฺณนาวิเสโส โอตรติ โอคาหติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิเก ตตฺถ วาจกวเสน, ตตฺถ าปกวเสน วา อนุปวิสติ, โส สํวณฺณนาวิเสโส โอตรโณ หาโร นามาติ อตฺถโยชนา.

ตตฺถ อินฺทฺริยขนฺธาติ อินฺทฺริยานิ จ ขนฺธา จาติ อินฺทฺริยขนฺธา. ธาตุอายตนาติ ธาตุโย จ อายตนานิ จ ธาตุอายตนา. กถํ โอตรโณ? ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติอาทิ (เนตฺติ. ๔๒) ปาโ.

อุทฺธนฺติ รูปธาตุ จ อรูปธาตุ จ. อโธติ กามธาตุ. สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโตติ เตธาตุเก อยํ อเสกฺขาวิมุตฺติ. ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อยํ อินฺทฺริเยหิ โอตรณา.

ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชา, วิชฺชุปฺปาทา อวิชฺชานิโรโธ…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ, อยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา.

ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ สีลกฺขนฺเธน สมาธิกฺขนฺเธน ปฺากฺขนฺเธน, อยํ ขนฺเธหิ โอตรณา.

ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ สงฺขารปริยาปนฺนานิ เย สงฺขารา อนาสวา, โน จ ภวงฺคา, เต สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา, อยํ ธาตูหิ โอตรณา.

สา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา, ยํ อายตนํ อนาสวํ, โน จ ภวงฺคํ, อยํ อายตเนหิ โอตรณาติ เอวมาทีหิ วิภงฺเค (เนตฺติ. ๔๒ อาทโย) อาคมิสฺสตีติ.

โอตรณหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม โสธนหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๓.

‘‘วิสฺสชฺชิตมฺหิ ปฺเห, คาถายํ ปุจฺฉิตา ยมารพฺภ.

สุทฺธาสุทฺธปริกฺขา, หาโร โส โสธโน นามา’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ ติสฺสํ คาถายํ อารุฬฺเห ปฺเห าตุมิจฺฉิเต อตฺเถ ภควตา วิสฺสชฺชนคาถายํ วิสฺสชฺชิตมฺหิ ยํ สุตฺตตฺถํ อารพฺภ อธิกิจฺจ สา คาถา ปุจฺฉิตา ปุจฺฉนตฺถาย ปิตา, ตสฺส สุตฺตตฺถสฺส เยน สํวณฺณนาวิเสเสน สุทฺธาสุทฺธปริกฺขา วิจารณา ภเว, โส สํวณฺณนาวิเสโส โสธโน หาโร นามาติ อตฺถโยชนา.

กถํ? ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ ปทํ โสธิตํ, อารมฺโภ น โสธิโต. ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตี’’ติ ปทํ โสธิตํ, อารมฺโภ น โสธิโต. ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมี’’ติ ปทํ โสธิตํ, อารมฺโภ น โสธิโต. ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ ปทฺจ โสธิตํ, อารมฺโภ จ โสธิโตติ. เอวํ ปทาทีนํ โสธิตาโสธิตภาววิจาโร หาโร โสธโน นาม. วิตฺถารโต ปน วิภงฺเค (เนตฺติ. ๔๕ อาทโย) อาคมิสฺสตีติ.

โสธนหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม อธิฏฺานหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๔.

‘‘เอกตฺตตาย ธมฺมา, เยปิ จ เวมตฺตตาย นิทฺทิฏฺา.

เต น วิกปฺปยิตพฺพา, เอโส หาโร อธิฏฺาโน’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ เย ทุกฺขสจฺจาทโย ธมฺมา เอกตฺตตาย สามฺเนปิ จ เวมตฺตตาย วิเสเสนปิ นิทฺทิฏฺา, เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นิทฺทิฏฺา ทุกฺขสจฺจาทโย ธมฺมา น วิกปฺปยิตพฺพา สามฺวิเสสกปฺปนาย โวหารภาเวน อนวฏฺานโต, กาลทิสาวิเสสาทีนํ วิย อเปกฺขาสิทฺธิโต จ, เอโส สํวณฺณนาวิเสโส อธิฏฺาโน หาโรติ อตฺถโยชนา.

ตตฺถ เอกตฺตตายาติ เอกสฺส สมานสฺส ภาโว เอกตฺตํ, เอกตฺตเมว เอกตฺตตา, ตาย. เอกสทฺโท เจตฺถ สมานตฺถวาจโก, น สงฺขฺยาวาจโกติ. เวมตฺตตายาติ วิสิฏฺา มตฺตา วิมตฺตา, วิมตฺตา เอว เวมตฺตํ, เวมตฺตสฺส ภาโว เวมตฺตตา, ตาย. ยถา หิ ‘‘อชฺช สฺเว’’ติ วุจฺจมานา กาลวิเสสา อนวฏฺิตา ภวนฺติ, ‘‘ปุริมา ทิสา, ปจฺฉิมา ทิสา’’ติ วุจฺจมานา ทิสาวิเสสา, เอวํ สามฺวิเสสา จ อตฺถสฺส สภาวาติ. ตถา หิ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วุจฺจมานํ ชาติอาทึ อเปกฺขาย สามฺํ สมานมฺปิ สจฺจาเปกฺขาย วิเสโส โหติ. เอส นโย สมุทยสจฺจาทีสุปีติ. ‘‘ทุกฺข’’นฺติ เอกตฺตตา. ‘‘ชาติ ทุกฺขา, ชรา ทุกฺขา, มรณํ ทุกฺข’’นฺติ เอวมาทิ เวมตฺตตา. ‘‘ทุกฺขสมุทโย’’ติ เอกตฺตตา, ‘‘ตณฺหา โปโนภวิกา นนฺทีราคสหคตา’’ติ เอวมาทิ เวมตฺตตาติ เอวมาทิ วิตฺถาโร วิภงฺเค (เนตฺติ. ๔๖ อาทโย) อาคมิสฺสตีติ.

อธิฏฺานหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ปริกฺขารหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๕.

‘‘เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ, ชนยนฺติปฺปจฺจยา ปรมฺปรโต.

เหตุมวกฑฺฒยิตฺวา, เอโส หาโร ปริกฺขาโร’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ อวิชฺชาทิกา เย ปจฺจยธมฺมา สงฺขาราทิกํ ยํ ผลธมฺมํ ปจฺจยา สหชาตปจฺจเยน ปรมฺปรโต ปรมฺปรปจฺจยภาเวน ชนยนฺติ, ตสฺส สงฺขาราทิผลสฺส ปจฺจยํ ปริกฺขารภูตํ ปุริมุปฺปนฺนํ อวิชฺชาทิกํ อสาธารณํ ชนกํ เหตุํ, อโยนิโสมนสิการาทิกํ สาธารณํ ปจฺจยเหตุฺจ อวกฑฺฒยิตฺวา สุตฺตโต นิทฺธาเรตฺวา โย สํวณฺณนาวิเสโส ปริกฺขารสํวณฺณนาภาเวน ปวตฺโต, เอโส สํวณฺณนาวิเสโส ปริกฺขาโร หาโร นามาติ อตฺถโยชนา. อวิชฺชาทโย หิ อวิชฺชาทีนํ อสาธารณเหตู ภวนฺติ, อโยนิโสมนสิการาทโย สาธารณปจฺจยา. เตนาห – ‘‘อสาธารณลกฺขโณ เหตุ, สาธารณลกฺขโณ ปจฺจโย’’ติ, ‘‘อวิชฺชา อวิชฺชาย เหตุ, อโยนิโสมนสิกาโร ปจฺจโย’’ติอาทิกํ (เนตฺติ. ๔๙) วิภงฺควจนฺจ.

ปริกฺขารหารนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม สมาโรปนหารนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๖.

‘‘เย ธมฺมา ยํมูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา.

เต สมาโรปยิตพฺพา, เอส สมาโรปโน หาโร’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ เย สีลาทโย ธมฺมา ยํมูลา เยสํ สมาธิอาทีนํ มูลา, เต สีลาทโย ธมฺมา เตสํ สมาธิอาทีนํ ปทฏฺานภาเวน สํวณฺณนาวิเสเสน สมาโรปยิตพฺพา, เย จ ราควิราคเจโตวิมุตฺติเสกฺขผลกามธาตุสมติกฺกมนาทิสทฺทา อนาคามิผลตฺถตาย เอกตฺถา สมานตฺถาติ พุทฺธมุนินา ปกาสิตา, เต ราค…เป… ติกฺกมนาทิสทฺทา อฺมฺเววจนภาเวน สมาโรปยิตพฺพา, เอโส สํวณฺณนาวิเสโส สมาโรปโน หาโร นามาติ อตฺถโยชนา.

เอตฺถ จ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสฺส ปริยายนฺตรวิภาวนาปาริปูรี กถิตา, ภาวนาปาริปูรี จ ปหาตพฺพสฺส ปหาเนน โหตีติ ภาวนาสมาโรปนปหานสมาโรปนาปิ ทสฺสิตาติ จตุพฺพิโธ สมาโรปโน ปทฏฺานสมาโรปโน, เววจนสมาโรปโน, ภาวนาสมาโรปโน, ปหานสมาโรปโนติ.

ตตฺถ กายิกสุจริตํ, วาจสิกสุจริตฺจ สีลกฺขนฺโธ, มโนสุจริเต อนภิชฺฌา, อพฺยาปาโท จ สมาธิกฺขนฺโธ, สมฺมาทิฏฺิ ปฺากฺขนฺโธ. สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺธสฺส ปทฏฺานํ, สมาธิกฺขนฺโธ ปฺากฺขนฺธสฺส ปทฏฺานํ. สีลกฺขนฺโธ, สมาธิกฺขนฺโธ จ สมถสฺส ปทฏฺานํ, ปฺากฺขนฺโธ วิปสฺสนาย ปทฏฺานํ. สมโถ ราควิราคเจโตวิมุตฺติยา ปทฏฺานํ, วิปสฺสนา อวิชฺชาวิราคปฺาวิมุตฺติยา ปทฏฺานนฺติ เอวมาทิ ปทฏฺานสมาโรปโน. ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผลํ, อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อเสกฺขผลํ, อิทํ เววจนํ. ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อนาคามิผลํ, อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ อคฺคผลํ อรหตฺตํ, อิทํ เววจนํ. ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ กามธาตุสมติกฺกมนํ, อวิชฺชาวิราคา เจโตวิมุตฺติ เตธาตุสมติกฺกมนํ, อิทํ เววจนํ. ปฺินฺทฺริยํ, ปฺาพลํ, อธิปฺาสิกฺขา, ปฺากฺขนฺโธติ เอวมาทิ เววจนนฺติ เอวมาทิ เววจนสมาโรปโน. กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ เอวมาทิ ภาวนาสมาโรปโน. กาเย กายานุปสฺสี วิหรนฺโต อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหติ, กพฬีกาโร จสฺส อาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, กามุปาทาเนน จ อนุปาทาโน ภวติ, กามโยเคน จ วิสํยุตฺโต ภวติ, อภิชฺฌากายคนฺเถน จ วิปฺปยุชฺชติ, กามาสเวน จ อนาสโว ภวติ, กาโมฆฺจ อุตฺติณฺโณ ภวติ, ราคสลฺเลน จ วิสลฺโล ภวติ, รูปูปิกา จสฺส วิฺาณฏฺิติ ปริฺํ คจฺฉติ , รูปธาตุยํ จสฺส ราโค ปหีโน ภวติ, น จ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, เวทนาสูติ เอวมาทิ ปหานสมาโรปโนติ เอวมาทิ สมาโรปโน หาโร นิยุตฺโตติ.

อิติ สตฺติพลานุรูปา รจิตา.

โสฬสหารนิทฺเทสวิภาวนา นิฏฺิตา.

นยนิทฺเทสวิภาวนา

๑๗. หารนิทฺเทสา นิทฺทิฏฺา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตเม นยนิทฺเทสา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตณฺหฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา เอวํ อุทฺเทสกฺกเมเนว หาเร นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ นเย นิทฺทิสิตุํ ‘‘ตณฺหฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย สํวณฺณนาวิเสโส สุตฺเต อาคตํ ตณฺหฺจ อวิชฺชฺจ อตฺถโต นิทฺธารณวเสน คหิตํ ตณฺหฺจ อวิชฺชฺจ สํกิเลสปกฺขํ เนติ, สุตฺเต อาคเตน สมเถน, สุตฺเต อาคตาย วิปสฺสนาย อตฺถโต นิทฺธารณวเสน วา คหิเตน สมเถน, คหิตาย วิปสฺสนาย โวทานปกฺขํ เนติ, นยนฺโต จ สจฺเจหิ โยเชตฺวา เนติ, อยํ สํวณฺณนาวิเสโส โส นนฺทิยาวฏฺโฏ นโย นามาติ อตฺถโยชนา.

เอตฺถ จ อตฺถนยสฺส ภูมิ, สํวณฺณนา จ คาถายํ ‘‘นโย’’ติ วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘สํวณฺณนาวิเสโส’’ติ วุตฺตํ. น หิ อตฺถนโย สํวณฺณนา, จตุสจฺจปฏิเวธสฺส อนุรูโป ปุพฺพภาเค อนุคาหณนโย อตฺถนโยว. ตสฺส ปน อตฺถนยสฺส ยา สํวณฺณนา อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ วเสน ตณฺหาทิมุเขน นยภูมิรจนา ปวตฺตา, ตสฺส สํวณฺณนาว นยโวหาโร กโตติ วิตฺถารโต หารสมฺปาเต (เนตฺติ. ๗๘-๗๙) อาคมิสฺสติ.

นนฺทิยาวฏฺฏนยนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ติปุกฺขลนยนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๘.

‘‘โย อกุสเล สมูเลหิ, เนติ กุสเล จ กุสลมูเลหิ.

ภูตํ ตถํ อวิตถํ, ติปุกฺขลํ ตํ นยํ อาหู’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ โย สํวณฺณนาวิเสโส อกุสเล สมูเลหิ อตฺตโน อกุสลสฺส ตีหิ โลภาทีหิ มูเลหิ สํกิเลสปกฺขํ เนติ, กุสเล จ กุสลมูเลหิ ตีหิ อโลภาทีหิ โวทานปกฺขํ เนติ, นยนฺโต จ ภูตํ กุสลากุสลํ เนติ, น อภูตํ มายามรีจิอาทโย วิย, ตถํ กุสลากุสลํ เนติ, น ฆฏาทโย วิย สมฺมุติสจฺจมตฺตํ, อวิตถํ กุสลากุสลํ เนติ, น วิตถํ. กุสลากุสลานํ สภาวโต วิชฺชมานตฺตา ภูตา ปรมตฺถสจฺจตฺตา ตถา, อกุสลสฺส อิฏฺวิปากตาภาวโต, กุสลสฺส จ อนิฏฺวิปากตาภาวโต วิปาเก สติ อวิสํวาทกตฺตา อวิตถา ภวนฺติ, กุสลากุสลา หิ เอเตสํ ติณฺณํ ‘‘ภูตํ, ตถํ, อวิตถ’’นฺติ ปทานํ กุสลากุสลวิเสสนตา ทฏฺพฺพา.

อถ วา อกุสลมูเลหิ อกุสลานิ, กุสลมูเลหิ จ กุสลานิ นยนฺโต อยํ นโย ภูตํ ตถํ อวิตถํ เนติ จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา โยเชติ. ทุกฺขาทีนิ หิ พาธกาทิภาวโต อฺถาภาวาภาเวน ภูตานิ, สจฺจสภาวตฺตา ตถานิ, อวิสํวาทนโต อวิตถานิ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานี’’ติ สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐; ปฏิ. ม. ๒.๘). อกุสลาทิสุตฺตตฺถสฺส จตุสจฺจโยชนมุเขน นยนลกฺขณํ ตํ สํวณฺณนาวิเสสํ ติปุกฺขลํ นยนฺติ อาหูติ อตฺถโยชนา.

ตตฺถ ตีหิ เหตูหิ ปุกฺขโล โสภโนติ ติปุกฺขโล อกุสลาทิโก อตฺถนโย สํวณฺณนาวิเสโสติ านูปจารโต ติปุกฺขลนโย นามาติ. วิตฺถาโร ปน หารสมฺปาเต (เนตฺติ. ๘๗-๘๘) อาคมิสฺสติ.

ติปุกฺขลนยนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม สีหวิกฺกีฬิตนยนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๑๙.

‘‘โย เนติ วิปลฺลาเสหิ, กิเลเส อินฺทฺริเยหิ สทฺธมฺเม.

เอตํ นยํ นยวิทู, สีหวิกฺกีฬิตํ อาหู’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ตตฺถ โย สํวณฺณนาวิเสโส สุตฺเต วุตฺเตหิ วิปลฺลาเสหิ กิเลเส สํกิเลสปกฺขํ เนติ, สุตฺเต วุตฺเตหิ อินฺทฺริเยหิ สทฺธมฺเม โวทานปกฺขํ เนติ, เอตํ สํวณฺณนาวิเสสํ นยวิทู สทฺธมฺมนยโกวิทา, อตฺถนยกุสลา เอว วา สีหวิกฺกีฬิตํ นยนฺติ อาหูติ อตฺถโยชนา.

ตตฺถ วิปลฺลาเสหีติ อสุเภ สุภํ, ทุกฺเข สุขํ, อนิจฺเจ นิจฺจํ, อนตฺตนิ อตฺตาติ จตูหิ วิปลฺลาเสหิ. อินฺทฺริเยหีติ สทฺธาทีหิ อินฺทฺริเยหิ. สทฺธมฺเมติ ปฏิปตฺติปฏิเวธสทฺธมฺเม. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมว. วิตฺถาโร ปน หารสมฺปาเต (เนตฺติ. ๘๖-๘๗) อาคมิสฺสตีติ.

สีหวิกฺกีฬิตนยนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ทิสาโลจนนยนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๒๐.

‘‘เวยฺยากรเณสุ หิ เย, กุสลากุสลา ตหึ ตหึ วุตฺตา.

มนสา โวโลกยเต, ตํ ขุ ทิสาโลจนํ อาหู’’ติ. –

คาถา วุตฺตา. ‘‘สีหโลจนํ อาหู’’ติ ปาโ ลิขิโต, โส ปน น เถรสฺส ปาโติ ทฏฺพฺโพ ภินฺนลกฺขณตฺตา. ตตฺถ ตหึ ตหึ เวยฺยากรเณสุ เย กุสลากุสลา นยสฺส ทิสาภูตา ธมฺมา วุตฺตา, เต กุสลากุสเล นยสฺส ทิสาภูตธมฺเม อพหิ อพฺภนฺตรํ จิตฺเต เอว ยํ โอโลกนํ กโรติ, ตํ โอโลกนํ ขุ โอโลกนํ เอว ทิสาโลจนนฺติ อาหูติ อตฺถโยชนา.

ตตฺถ เวยฺยากรเณสูติ ตสฺส ตสฺส อตฺถนยสฺส โยชนตฺถํ กเตสุ สุตฺตสฺส อตฺถวิสฺสชฺชเนสุ. กุสลาติ โวทานิยา. อกุสลาติ สํกิเลสิกา. วุตฺตาติ สุตฺตโต นิทฺธาเรตฺวา กถิตา. โอโลกยเตติ เต กุสลาทิธมฺเม จิตฺเตเนว ‘‘อยํ ปมา ทิสา, อยํ ทุติยา ทิสา’’ติอาทินา ตสฺส ตสฺส นยสฺส ทิสาภาเวน อุปปริกฺขติ, วิจาเรตีติ อตฺโถ. ขูติ อวธารณตฺเถ นิปาโต, เตน ทิสาโลจนนโย โกจิ อตฺถวิเสโส น โหตีติ ทสฺเสตีติ.

๒๑. ทิสาโลจนนยนิทฺเทโส นิทฺทิฏฺโ. อมฺเหหิ จ าโต. ‘‘กตโม องฺกุสนยนิทฺเทโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โอโลเกตฺวา’’ติอาทิคาถา วุตฺตา. ตตฺถ ตํตํนยทิสาภูเต สพฺเพ กุสลากุสเล ทิสาโลจเนน โอโลเกตฺวา อุกฺขิปิย สุตฺตโต อุทฺธริตฺวา ยํ สมาเนติ ยํ สมานยนํ กโรติ, อยํ สมานยนสงฺขาโต นโย องฺกุโส นโย นามาติ อตฺถโยชนา.

เอตฺถ จ องฺกุโส นาม หตฺถีนํ อิจฺฉิตฏฺานํ อานยนการณภูโต วชิราทิมโย ติกฺขคฺโค อุชุวงฺกภูโต ทพฺพสมฺภารวิเสโส, อยมฺปิ นโย องฺกุโส วิยาติ อตฺเถน องฺกุโส. เอเตน หิ นเยน อิจฺฉิตํ สุตฺตตฺถํ นยตีติ. มุขฺยโต ปน องฺเก วิชฺฌนฏฺาเน อุทฺธโฏ อสติ อนฺโต ปวิสตีติ องฺกุโส. องฺกสทฺทูปปทอุปุพฺพอสธาตุ อปจฺจโยติ. อยมฺปิ นโย โกจิปิ อตฺถวิเสโส น โหตีติ.

โสฬส หารนิทฺเทสา เจว ปฺจ นยนิทฺเทสา จ อาจริเยน นิทฺทิฏฺา. อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต กึ โสฬส หารา ปมํ โยเชตพฺพา, อุทาหุ นยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๒๒.

‘‘โสฬส หารา ปมํ, ทิสาโลจนโต ทิสา วิโลเกตฺวา.

สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ติหิ นิทฺทิเส สุตฺต’’นฺติ. –

คาถมาห. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ หาเร, นเย จ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เนสํ โยชนกฺกมํ ทสฺเสนฺโต ‘โสฬส หารา ปม’นฺติอาทิมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๒) วุตฺตํ. ตตฺถ โสฬส หารา พฺยฺชนปริเยฏฺิภาวโต สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต สํวณฺณนาภาเวน ปมํ โยเชตพฺพา, โยเชนฺเตน นิทฺทิฏฺา หารานุกฺกเมเนว โยเชตพฺพา, น อุปฺปฏิปาฏิยา. หารสํวณฺณนานุกฺกเมน สํวณฺเณตพฺพํ ปมํ สํวณฺเณตฺวา ปจฺฉา ทิสาโลจเนน โอโลเกตฺวา องฺกุสนเยน เนตฺวา ตีหิ อตฺถนเยหิ นิทฺทิเสติ อธิปฺปาโย.

อิติ สตฺติพลานุรูปา รจิตา

นยนิทฺเทสวิภาวนา นิฏฺิตา.

ทฺวาทสปทวิภาวนา

เนตฺติวิสยํ สาสนวรสงฺขาตํ สํวณฺเณตพฺพสุตฺตํ เยสํ พฺยฺชนปทานํ, อตฺถปทานฺจ วเสน ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ สงฺคหวาเร วุตฺตํ, ‘‘กตมานิ ตานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สรูปโต นิทฺทิสิตุํ –

๒๓.

‘‘อกฺขรํ ปทํ พฺยฺชนํ, นิรุตฺติ ตเถว นิทฺเทโส.

อาการฉฏฺวจนํ, เอตฺตาว พฺยฺชนํ สพฺพํ.

๒๔.

สงฺกาสนา ปกาสนา, วิวรณา วิภชนุตฺตานีกมฺมปฺตฺติ.

เอเตหิ ฉหิ ปเทหิ, อตฺโถ กมฺมฺจ นิทฺทิฏฺ’’นฺติ. –

คาถาทฺวยํ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิทานิ เยสํ พฺยฺชนปทานํ, อตฺถปทานฺจ วเสน ‘ทฺวาทส ปทานิ ‘สุตฺต’นฺติ วุตฺตํ, ตานิ ปทานิ นิทฺทิสิตุํ ‘อกฺขรปท’นฺติอาทิมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓) วุตฺตํ.

ตตฺถ เกนฏฺเน อกฺขรนฺติ? อกฺขรฏฺเน อสฺจรณฏฺเน. อการาทิวณฺโณ หิ อการาทิโต อิการาทิปริยายํ นกฺขรติ, น สฺจรติ, น สงฺกมติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘อปริโยสิเต ปเท วณฺโณ อกฺขรํ ปริยายวเสน อกฺขรณโต อสฺจรณโต’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓). อปริโยสิเต ปเทติ จ วิภตฺยนฺตภาวํ อปฺปตฺเต ทฺวิติจตุกฺขรวนฺเตสุ ปเทสุ เอกทฺวิติกฺขรมตฺเตเยว อกฺขรํ นาม, ปริโยสิเต ปทํเยว, น อกฺขรนฺติ อธิปฺปาโย. ปทํ ปน ปเวสนโต อตฺถวเสน ปริยายํ สฺจรนฺตํ วิย โหติ, น เอวํ อการาทิวณฺโณ อเววจนตฺตา. ‘‘มา เอวํ มฺสี’’ติอาทีสุ วา เอกกฺขรปทา มา-การาทิ อกฺขรํ นาม, วิภตฺยนฺตํ ปทํ ปน ปทเมว โหติ.

ปชฺชติ อตฺโถ เอเตนาติ ปทํ. ตํ นามาขฺยาโตปสคฺคนิปาตปฺปเภเทน จตุพฺพิธํ. ตตฺถ ทพฺพปธานํ ‘‘ผสฺโส เวทนา จิตฺต’’นฺติ เอวมาทิกํ นามปทํ. ตตฺถ หิ ทพฺพมาวิภูตรูปํ, กิริยา อนาวิภูตรูปา. กิริยาปธานํ ‘‘ผุสติ เวทยติ วิชานาตี’’ติ เอวมาทิกํ อาขฺยาตปทํ นาม. ตตฺถ หิ ผุสนาทิกิริยา อาวิภูตรูปา, ทพฺพมนาวิภูตรูปํ. กิริยาวิเสสโพธเหตุภูตํ ป-อุป-อิติเอวมาทิกํ อุปสคฺคปทํ นาม. ‘‘จิรปฺปวาสึ (ธ. ป. ๒๑๙) อุปวุตฺถ’’นฺติ (อ. นิ. ๓.๗๑; สุ. นิ. ๔๐๕) เอวมาทีสุ หิ ป-อุปาทิสทฺทา วสนาทิกิริยาย วิโยคาทิวิสิฏฺตํ ทีเปนฺติ. วจนตฺโถ ปน นามปทอาขฺยาตปททฺวยํ อุปคนฺตฺวา ตสฺส ปททฺวยสฺส อตฺถํ สชฺชนฺตีติ อุปสคฺคาติ ทฏฺพฺโพ. กิริยาย เจว ทพฺพสฺส จ สรูปวิเสสปกาสนเหตุภูตํ ‘‘เอวํ, อิตี’’ติ เอวมาทิกํ นิปาตปทํ อสฺสปิ สํวณฺณนายปิ อิจฺฉิตตฺตา, อกฺขเรน ปน กถํ คหิโตติ เจ? อกฺขเรหิ สุยฺยมาเนหิ สุณนฺตานํ วิเสสวิธานสฺส กตตฺตา ปทปริโยสาเน ปทตฺถสมฺปฏิปตฺติ โหติ. ตสฺมา อกฺขเรนปิ อตฺถากาโร คหิโตวาติ เวทิตพฺโพ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสติ, ปเทหิ ปกาเสติ, อกฺขเรหิ จ ปเทหิ จ อุคฺฆเฏตี’’ติ (เนตฺติ. ๙) จ.

วิวรณา วิตฺถารณา. วิภชนา จ อุตฺตานีกมฺมฺจ ปฺตฺติ จ วิภชนุตฺตานีกมฺมปฺตฺตีติ สมาหาเร อยํ ทฺวนฺทสมาโส. ตตฺถ วิภาคกรณํ วิภชนํ นาม. พฺยฺชนากาเรหิ โย อตฺถากาโร นิทฺทิสิยมาโน, โส อตฺถากาโร วิวรณวิภชนาติ ทฺวีหิ อตฺถปเทหิ นิทฺทิสิโต. ปากฏกรณํ อุตฺตานีกมฺมํ นาม. ปกาเรหิ าปนํ ปฺตฺติ. นิรุตฺตินิทฺเทสสงฺขาเตหิ พฺยฺชนปเทหิ ปกาสิยมาโน โย อตฺถากาโร อตฺถิ, โส อตฺถากาโร อุตฺตานีกมฺมปฺตฺตีหิ ปฏินิทฺทิสิโต. เอเตหิ สงฺกาสนาทีหิ ฉหิ อตฺถปเทหิ อตฺโถ สุตฺตตฺโถ คหิโต, กมฺมฺจ อุคฺฆฏนาทิกมฺมฺจ นิทฺทิฏฺนฺติ อตฺโถ. เยน สุตฺตตฺเถน อุคฺฆฏิตฺุโน จิตฺตสนฺตานสฺส สมฺโพธนกิริยาสงฺขาตสฺส อุคฺฆฏนกมฺมสฺส นิพฺพตฺติ ภเว, โส สุตฺตตฺโถ สงฺกาสนาปกาสนากาโร โหติ. เยน สุตฺตตฺเถน วิปฺจิตฺุโน จิตฺตสนฺตานสฺส โพธนกิริยาสงฺขาตสฺส วิปฺจนกมฺมสฺส นิพฺพตฺติ, โส สุตฺตตฺโถ วิวรณาวิภชนากาโร โหติ. เยน สุตฺตตฺเถน เนยฺยสฺส จิตฺตสนฺตานสฺส ปโพธนกิริยาสงฺขาตสฺส นยกมฺมสฺส นิพฺพตฺติ, โส สุตฺตตฺโถ อุตฺตานีกมฺมปฺตฺตากาโร โหตีติ ทฏฺพฺโพ. เตนาห อฏฺกถาจริโย ‘‘สุตฺตตฺเถน หิ เทสนาย ปวตฺติยมาเนน อุคฺฆฏิตฺุอาทิเวเนยฺยานํ จิตฺตสนฺตานสฺส ปโพธนกิริยานิพฺพตฺติ, โส จ สุตฺตตฺโถ สงฺกาสนาทิอากาโร’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๔).

‘‘ยถาวุตฺเตหิ ตีหิ อตฺถนเยหิ เจว ฉหิ อตฺถปเทหิ อยุตฺโตปิ อตฺโถ กึ โกจิ อตฺถิ, อุทาหุ สพฺโพ อตฺโถ ยุตฺโต เอวา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –

๒๕.

‘‘ตีณิ จ นยา อนูนา, อตฺถสฺส จ ฉปฺปทานิ คณิตานิ.

นวหิ ปเทหิ ภควโต, วจนสฺสตฺโถ สมายุตฺโต’’ติ. –

คาถมาห. ตตฺถ ตีณีติ ลิงฺควิปลฺลาสนิทฺเทโส, ตโยติ ปน ปกติลิงฺคนิทฺเทโส วตฺตพฺโพ. คณิตา อนูนา ตโย อตฺถสฺส นยา จ คณิตานิ อนูนานิ ฉ อตฺถสฺส ปทานิ จ นิทฺทิฏฺานิ, นิทฺทิฏฺเหิ จ อตฺถปเทหิ ภควโต วจนสฺส สพฺโพ อตฺโถ สมายุตฺโตว อยุตฺโต โกจิ อตฺโถ นตฺถีติ โยชนา กาตพฺพา. อตฺถสฺสาติ สุตฺตตฺถสฺส. นยาติ เนตฺติอตฺถนยา. ปทานีติ เนตฺติอตฺถปทานิ.

๒๖. เย หาราทโย นิทฺทิฏฺา, เต หาราทโย สมฺปิณฺเฑตฺวา เนตฺติปฺปกรณสฺส ปทตฺเถ สุขคฺคหณตฺถํ คณนวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถสฺส สมูหสฺส อวยวภูตานิ นวเภทานิ อตฺถปทานิ สุตฺตพฺยฺชนสฺส อตฺถสฺส ปริเยฏฺิสงฺขาตาย สํวณฺณนาย คณนโต จตุวีสติ พฺยฺชนปทานิ โหนฺติ, อตฺถปทพฺยฺชนปทภูตํ อุภยํ สงฺเขปยโต สมฺปิณฺฑยโต เตตฺตึสา เตตฺตึสวิธา เอตฺติกา เตตฺตึสวิธาว เนตฺตีติ โยชนา.

ตตฺถ นวปฺปทานีติ ตโย อตฺถนยา, ฉ อตฺถปทานิ จ. จตุพฺพีสาติ โสฬส หารา, ฉ พฺยฺชนปทานิ, ทฺเว ทิสาโลจนนยองฺกุสนยา จาติ เอวํ เตตฺตึสวิธา จ เนตฺติ นาม, อิโต วินิมุตฺโต อฺโ โกจิ เนตฺติปทตฺโถ นตฺถีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

‘‘เอวํ เตตฺตึสปทตฺถาย เนตฺติยา หารนยานํ กตโม เทสนาหารวิจยหาโร’’ติอาทิ เทสนากฺกเมเนว สิทฺโธ, เอวํ สิทฺเธ สติปิ ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติ อารมฺโภ ‘‘สพฺเพปิเม หารา เจว นยา จ อิมินา ทสฺสิตกฺกเมเนว สํวณฺเณตพฺเพสุ สุตฺเตสุ สํวณฺณนาวเสน โยเชตพฺพา, น อุปฺปฏิปาฏิยา’’ติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. ทีปนวจนสวนานุสาเรน าเปติ, ตสฺมา เอวํ กโม ทสฺสิโต, อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานิ ธมฺมเทสนาย นิสฺสยานิ, ผลฺจ ธมฺมเทสนาย ผลํ, อุปาโย จ ธมฺมเทสนาย อุปาโย, อาณตฺติ จ ธมฺมเทสนาย สรีรํ. เทสนาหารสฺส ตาสํ อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณผลุปายาณตฺตีนํ วิภาวนสภาวตฺตา.

นิทฺธารเณน วินาปิ ปกติยา สพฺพสํวณฺเณตพฺพสุตฺเตสุ อนรูปาติ สุวิฺเยฺยตฺตา, สํวณฺณนาวิเสสานํ วิจยหาราทีนํ นิสฺสยภาวโต จ ปมํ เทสนาหาโร ทสฺสิโต.

ปทปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาปุจฺฉาปทานุคีตีหิ สทฺธึ เทสนาหารปทตฺถานํ อสฺสาทาทีนํ ปวิจยภาวโต เทสนาหารานนฺตรํ วิจโย หาโร.

วิจยหาเรน ปวิจิตานํ อตฺถานํ ยุตฺตายุตฺติวิจารณภาวโต วิจยหารานนฺตรํ ยุตฺติ หาโร.

ปทฏฺานหารสฺส ยุตฺตายุตฺตานํเยว อตฺถานํ อุปปตฺติอนุรูปํ การณปรมฺปราย นิทฺธารณตฺตา ยุตฺติหารานนฺตรํ ปทฏฺานหาโร.

ยุตฺตายุตฺตานํ การณปรมฺปราย ปริคฺคหิตสภาวานํเยว จ ธมฺมานํ อวุตฺตานมฺปิ สมานลกฺขณตาย คหณลกฺขณตฺตาย ปทฏฺานหารานนฺตรํ ลกฺขณหาโร.

ลกฺขณหาเรน อตฺถโต สุตฺตนฺตรโต นิทฺธาริตานมฺปิ ธมฺมานํ นิพฺพจนาทีนิ วตฺตพฺพานิ, น สุตฺเต สรูปโต อาคตธมฺมานํเยวาติ ทสฺสนตฺถํ ลกฺขณหารานนฺตรํ จตุพฺยูโห หาโร. เอวฺหิ นิรวเสสโต อตฺถาวโพโธ โหติ.

จตุพฺยูเหน หาเรน วุตฺเตหิ นิพฺพจนาธิปฺปายนิทาเนหิ สทฺธึ สุตฺเต ปทตฺถานํ สุตฺตนฺตรสํสนฺทนสงฺขาเต ปุพฺพาปรวิจาเร ทสฺสิเต เตสํ สุตฺตปทตฺถานํ สภาควิสภาคธมฺมนฺตราวฏฺฏนํ สุเขน สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ จตุพฺยูหหารานนฺตรํ อาวฏฺโฏ หาโร. สุตฺตนฺตรสํสนฺทนสฺส หิ สภาควิสภาคธมฺมนฺตราวฏฺฏนยสฺส อุปายภาวโต ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติอาทิคาถาย (สํ. นิ. ๑.๑๘๕; เนตฺติ. ๒๙; เปฏโก. ๓๘) อารมฺภนนิกฺกมนพุทฺธสาสนโยคธุนเนหิ วีริยสมาธิปฺินฺทฺริยานิ นิทฺธาเรตฺวา เตสุ อารมฺภนนิกฺกมนพุทฺธสาสนโยคธุนเนสุ อนนุโยคสฺส มูลํ ปมาโทติ สุตฺตนฺตเร ทสฺสิโต ปมาโท อาวฏฺฏิโตติ.

อาวฏฺเฏน หาเรน สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏเนน ปโยชิเต สาธารณาสาธารณวเสน สํกิเลสโวทานธมฺมานํ ปทฏฺานโต เจว ภูมิโต จ วิภาโค สกฺกา สุเขน โยเชตุนฺติ อาวฏฺฏหารานนฺตรํ วิภตฺติ หาโร.

วิภตฺติหาเรน สํกิเลสโวทานธมฺมานํ วิภาเค กเต สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต อาคตา ธมฺมา อกสิเรน ปฏิปกฺขโต ปริวตฺเตตุํ สกฺกาติ วิภตฺติหารานนฺตรํ ปริวตฺตนหาโร. วิภตฺติหาเรน หิ ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติ (เนตฺติ. ๓๕) ปฏิวิภตฺตสภาเว เอว ธมฺเม ปริวตฺตนหารวิภงฺเค อุทาหรียิสฺสติ.

ปริวตฺตนหาเรน ปฏิปกฺขโต ปริวตฺติตาปิ ธมฺมา ปริยายวจเนหิ โพเธตพฺพา, น สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต อาคตธมฺมาเยวาติ ทสฺสนตฺถํ ปริวตฺตนหารานนฺตรํ เววจนหาโร.

เววจนหาเรน ปริยายโต ปกาสิตานํ ธมฺมานํ ปเภทโต ปฺตฺติวเสน วิภชนํ สุเขน สกฺกา าตุนฺติ เววจนหารานนฺตรํ ปฺตฺติ หาโร.

ปฺตฺติหาเรน ปภวปริฺาทิปฺตฺติวิภาคมุเขน ปฏิจฺจสมุปฺปาทสจฺจาทิธมฺมวิภาเค กเต สุตฺเต อาคตธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิมุเขน อวตรณํ สกฺกา ทสฺเสตุนฺติ ปฺตฺติหารานนฺตรํ โอตรโณ หาโร.

โอตรเณน หาเรน ธาตายตนาทีสุ โอตาริตานํ สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต ปทตฺถานํ ปุจฺฉารมฺภโสธนํ สกฺกา สุเขน สมฺปาเทตุนฺติ โอตรณหารานนฺตรํ โสธโน หาโร.

โสธเนน หาเรน สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต ปทปทตฺเถสุ วิโสธิเตสุ ตตฺถ ตตฺถ เอกตฺตตาย วา เวมตฺตตาย วา ลพฺภมานสามฺวิเสสภาโว สุกโร โหตีติ ทสฺเสตุํ โสธนหารานนฺตรํ อธิฏฺาโน หาโร.

สามฺวิเสสภูเตสุ สาธารณาสาธารเณสุ ธมฺเมสุ อธิฏฺาเนน หาเรน ปเวทิเตสุ ปริกฺขารสงฺขาตสฺส สาธารณาสาธารณรูปสฺส ปจฺจยเหตุราสิสฺส ปเภโท สุวิฺเยฺโยติ อธิฏฺานหารานนฺตรํ ปริกฺขาโร หาโร.

อสาธารเณ, สาธารเณ จ การเณ ปริกฺขาเรน หาเรน ทสฺสิเต ตสฺส อตฺตโน ผเลสุ การณากาโร, เตสํ เหตุผลานํ ปเภทโต เทสนากาโร, ภาเวตพฺพปหาตพฺพธมฺมานํ ภาวนาปหานานิ จ นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมานานิ สมฺมา สํวณฺเณตพฺพสุตฺตสฺส อตฺถํ ตถตฺตาวโพธาย สํวตฺตนฺตีติ ปริกฺขารหารานนฺตรํ สมาโรปโน หาโร ทสฺสิโต โหติ. อิทํ หารานํ ทสฺสนานุกฺกมการณํ ทฏฺพฺพํ.

อุทฺเทโส อุคฺฆฏิตฺุโน อุปการาย สํวตฺตติ ยถา, เอวํ นนฺทิยาวฏฺฏนโย อุคฺฆฏิตฺุโน อุปการาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ปมํ นนฺทิยาวฏฺฏนโย ทสฺสิโต. นิทฺเทโส วิปฺจิตฺุโน อุปการาย สํวตฺตติ ยถา, เอวํ ติปุกฺขลนโย วิปฺจิตฺุโน อุปการาย สํวตฺตติ, ตสฺมา นนฺทิยาวฏฺฏนยานนฺตรํ ติปุกฺขลนโย. ปฏินิทฺเทโส เนยฺยสฺส อุปการาย สํวตฺตติ ยถา, เอวํ สีหวิกฺกีฬิตนโย เนยฺยสฺส อุปการาย สํวตฺตติ . ตสฺมา ติปุกฺขลานนฺตรํ สีหวิกฺกีฬิตนโย ทสฺสิโตติ ติณฺณํ อตฺถนยานํ ทสฺสนานุกฺกโม เวทิตพฺโพ. อตฺถนยานํ ทิสาภูตาย ภูมิยา อาโลเกตฺวา เตสํ ตสฺสา ทิสาย ภูมิยา สมานยนํ โหติ. น หิ สกฺกา อโนโลเกตฺวา สมาเนตุนฺติ ทิสาโลจนนยํ ทสฺเสตฺวา องฺกุสนโย ทสฺสิโต. โปตฺถการุฬฺหาวเฉกา สพฺพาสุ ทิสาสุ หตฺถิคมนฏฺานํ โอโลเกตฺวา องฺกุเสน อิจฺฉิตฏฺานํ สมานยนฺติ. เกจิ อจฺเฉกา อโนโลเกตฺวา วินยนฺติ. เตสํ นยนมตฺตเมว, น สมานยนํ. เอวเมว ปณฺฑิตา สุตฺตตฺถํ วณฺเณนฺตา มนสาว โอโลเกตฺวาว นยา เนตพฺพาติ ทฏฺพฺพา.

สมุฏฺานสํวณฺณนา อธิปฺปายสํวณฺณนา ปทตฺถสํวณฺณนา วิธิอนุวาทสํวณฺณนา นิคมนสํวณฺณนาติ วา, ปโยชนสํวณฺณนา ปิณฺฑตฺถสํวณฺณนา อนุสนฺธิสํวณฺณนา โจทนาสํวณฺณนา ปริหารสํวณฺณนาติ วา, อุโปคฺฆาฏสํวณฺณนา ปทวิคฺคหสํวณฺณนา ปทตฺถจาลนสํวณฺณนา ปจฺจุปฏฺานสํวณฺณนาติ วา, ตถา เอกนาฬิกากถา จตุรสฺสกถา นิสินฺนวตฺติกากถาติ วา อาคตา.

ตตฺถ สมุฏฺานํ นิทานเมว. วิธิอนุวาโท วิเสสวจนเมว. อุโปคฺฆาโฏ นิทานเมว. จาลนา โจทนาเยว. ปจฺจุปฏฺานํ ปริหาโรว.

ปาฬึ วตฺวา เอเกกปทสฺส อตฺถกถนสงฺขาตา สํวณฺณนา เอกนาฬิกากถา นาม.

ปฏิปกฺขํ ทสฺเสตฺวา ปฏิปกฺขสฺส อุปมํ ทสฺเสตฺวา สปกฺขํ ทสฺเสตฺวา สปกฺขสฺส อุปมํ ทสฺเสตฺวา กถนสงฺขาตา สํวณฺณนา จตุรสฺสกถา นาม.

วิสภาคธมฺมวเสเนว ปริโยสานํ คนฺตฺวา ปุน สภาคธมฺมวเสเนว ปริโยสานคมนสงฺขาตา สํวณฺณนา นิสินฺนวตฺติกากถา นาม.

ตา สพฺพา สํวณฺณนาโยปิ เทสนาหาราทีสุ เนตฺติสํวณฺณนาสุ อนฺโตคธาเยว. เตนาห ‘‘ยตฺตกา หิ สุตฺตสฺส สํวณฺณนาวิเสสา, สพฺเพ เต เนตฺติอุปเทสายตฺตา’’ติ. เอวํ เอตฺตาวตา เอตปรมตา ทฏฺพฺพา . เหตุผลภูมิอุปนิสาสภาควิสภาคลกฺขณนยาทโย ปน อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔ ทฺวาทสปท) วิตฺถารโต วุตฺตาติ น วิตฺถารยิสฺสามีติ.

อิติ สตฺติพลานุรูปา รจิตา

นิทฺเทสวารอตฺถวิภาวนา นิฏฺิตา.