📜
๔. ปฏินิทฺเทสวารอตฺถวิภาวนา
๑. เทสนาหารวิภงฺควิภาวนา
๕. เอวํ ¶ หาราทโย สรูปโต อาจริเยน อุทฺเทสโต อุทฺทิฏฺา, นิทฺเทสโต จ นิทฺทิฏฺา, อมฺเหหิ จ าตา, อถ กสฺมา ปุน ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร’’ติอาทิโก อารทฺโธติ เจ? เวเนยฺยานํ ติวิธตฺตา. เวเนยฺยา หิ อติติกฺขปฺโ นาติติกฺขปฺโ มนฺทปฺโติ ติวิธา โหนฺติ. เตสฺหิ อติติกฺขปฺสฺสานุรูปํ หาราทโย อุทฺเทสโต อุทฺทิฏฺา, นาติติกฺขปฺสฺส อนุรูปํ นิทฺเทสโต นิทฺทิฏฺา, อิทานิ มนฺทปฺสฺสานุรูปํ หาราทโย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร’’ติอาทิโก วิภงฺควาโร อารทฺโธ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ หาราทโยสุขคฺคหณตฺถํ คาถาพนฺธวเสน สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ เตสุ หาเร ตาว ปฏินิทฺเทสวเสน วิภชิตุํ ‘ตตฺถ กตโม เทสนาหาโร’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕) วุตฺตํ.
ตตฺถ เย หาราทโย อุทฺเทสนิทฺเทเสสุ นิทฺทิฏฺา, ตตฺถ หาราทีสุ กตโม เทสนาหาโรติ เจ? ยา ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถา (เนตฺติ. ๔) วุตฺตา, สา อยํ คาถา นิทฺเทสวเสน เทสนาหาโร นาม, ตสฺส ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิ (เนตฺติ. ๔) นิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อยํ เทสนาหาโร กึ เทสยตี’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหารวิภงฺโค นามาติ โยชนา. ‘‘อยํ เทสนาหาโร กึ เทสยตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปุจฺฉํ เปตฺวา ‘‘อิมํ เทสยตี’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ เทสนาหาโร กึ เทสยติ? อสฺสาทํ อาทีนว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยํ เทสนาหาโร กึ เทสยตีติ เจ ¶ ? อสฺสาทํ เทสยติ สํวณฺเณติ วิตฺถาเรติ, อาทีนวํ เทสยติ…เป… วิตฺถาเรติ, นิสฺสรณํ เทสยติ…เป… วิตฺถาเรติ, ผลํ เทสยติ…เป… วิตฺถาเรติ, อุปายํ เทสยติ…เป… วิตฺถาเรติ, อาณตฺตึ เทสยติ สํวณฺเณติ วิตฺถาเรตีติ โยชโน.
เอตฺถ จ ‘‘อยํ เทสนาหาโร’’ติ สทฺโท ปุพฺพาปราเปกฺโขติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘‘อสฺสาทาทีนวตา’ติอาทิคาถายํ (เนตฺติ. ๔) ทสฺสิตา อิเม อสฺสาทาทโย กตฺถ สํวณฺเณตพฺเพ ปาฬิธมฺเม อาคตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘‘อสฺสาทาทีนวตา’ติอาทิคาถายํ (เนตฺติ. ๔) ทสฺสิตา อิเม อสฺสาทาทโย กตฺถ สํวณฺเณตพฺเพ ปาฬิธมฺเม อาคตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ ¶ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามี’’ติ ปฏิฺาตพฺเพ ปาฬิธมฺเม สํวณฺเณตพฺเพ เย อสฺสาทาทโย อาคตา, เต อยํ เทสนาหาโร เทสยตีติ อธิปฺปาโย.
ตตฺถ ธมฺมสทฺโท ปริยตฺติสจฺจสมาธิปฺาปกติปฺุาปตฺติเยฺยาทีสุ พหูสุ อตฺเถสุ ปวตฺโต, ตถาปิ อิธ ปริยตฺติธมฺเมเยว ปวตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อตฺถุทฺเทโส ปน อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕) วุตฺโต, ตสฺมา อิธ มยา น วุตฺโต. โว-กาโรปิ อุปโยคกรณปทปูรณสมฺปทานตฺเถสุ ทิสฺสติ จ, ตถาปิ อิธ สมฺปทานตฺเถวาติ ทฏฺพฺโพ. ภิกฺขนฺติ ยาจนฺติ สีลกฺขนฺธาทโย, ปจฺจเย วา กายวิฺตฺติยาติ ภิกฺขู, สํสาเร ภยํ อิกฺขนฺติ ปจฺจเวกฺขนฺตีติ วา ภิกฺขู. ภิกฺขเวติ เต ภิกฺขู อาลปติ, กิมตฺถายาติ อตฺตโน มุขาภิมุขํ กตฺวา ธมฺมสฺสวเน อติอุสฺสาหเน นิโยเชตุํ อาลปตีติ เวทิตพฺโพ.
ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ นาหํ อิสฺสรตาย ตุมฺเห อฺํ กิฺจิ กาเรยฺยามิ, ธมฺมํเยว เทเสสฺสามิ, เทเสนฺโต จ น อฺเสํ ธมฺมํ สุตฺวา สุตมยาณานุสาเรน เทเสสฺสามิ, อนาวรณาเณน สพฺพเยฺยธมฺเมสุ ปจฺจกฺขการิตาย อิทานิ มยาเยว ปวตฺติยมานํ ธมฺมํ อหํ เทเสสฺสามีติ ปฏิชานาติ. อาทิมฺหิ กลฺยาณํ อาทิกลฺยาณํ, อาทิ กลฺยาณเมตสฺสาติ วา อาทิกลฺยาณํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อาทิกลฺยาณาทโย เจตฺถ อตฺถกลฺยาณาทิวเสน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา. เตนาห – ‘‘สีเลน ¶ อาทิกลฺยาณํ, สมาธินา มชฺเฌกลฺยาณํ, ปฺาย ปริโยสานกลฺยาณํ. พุทฺธสุพุทฺธตาย วา อาทิกลฺยาณํ, ธมฺมสุธมฺมตาย มชฺเฌกลฺยาณํ, สงฺฆสุปฺปฏิปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาณํ. อถ วา อุคฺฆฏิตฺุวินยเนน อาทิกลฺยาณํ, วิปฺจิตฺุวินยเนน มชฺเฌกลฺยาณํ, เนยฺยปุคฺคลวินยเนน ปริโยสานกลฺยาณํ. อยเมวตฺโถ อิธาธิปฺเปโต’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕).
อรียติ ายตีติ อตฺโถ, อร-ธาตุยา นิปฺปริยายโต าณปฺปธาโน อารมฺมณิกจิตฺตุปฺปาโท อตฺโถ, านูปจารโต อตฺถสฺส าตพฺพสฺส อารมฺมณปจฺจยสตฺติ อตฺโถ, อิติ-สทฺเทน สาเยว สตฺติ ปรามสียติ, อารมฺมณปจฺจยสตฺติสหิโต อารมฺมณปจฺจยสงฺขาโต าตพฺโพ อตฺโถ ต-ปจฺจยสฺส อตฺโถติ ธาตุปจฺจยานํ อตฺถวิเสโส ทฏฺพฺโพ. อสติ ภวตีติ วา อตฺโถ, สห อตฺเถน โย ธมฺโม วตฺตตีติ โส ธมฺโม สาตฺโถ, อตฺเถน สมนฺนาคโต วา ธมฺโม สาตฺโถ, สงฺกาสนาทิฉอตฺถปทสมาโยคโต วา สาตฺโถ. อยเมวตฺโถ อิธาธิปฺเปโต เนตฺติวิสยตฺตา. สมฺปนฺนํ พฺยฺชนํ ยสฺส ธมฺมสฺสาติ สพฺยฺชโน. สิถิลธนิตทีฆรสฺสครุลหุสมฺพนฺธววตฺถิตวิมุตฺตนิคฺคหิตสมฺปนฺนตฺตา ¶ , อการนฺตาทิอิตฺถิลิงฺคาทิเอกวจนาทิสมฺปนฺนตฺตา, ปมาทเลขาทิรหิตตฺตา จ อวยโว สมฺปนฺโน ตํสมูหตฺตา ธมฺโม สมฺปนฺนพฺยฺชโน นาม, อกฺขราทิฉพฺยฺชนปทสมาโยคา วา สพฺยฺชโน. อยเมวตฺโถ อิธาธิปฺเปโต. อิมสฺมึ อยํ อูโน, โส เนตพฺโพ ปกฺขิปิตพฺโพติ อุปเนตพฺพาภาวโต เกวลปริปุณฺโณ, สีลกฺขนฺธสมาธิกฺขนฺธปฺากฺขนฺธ- วิมุตฺติกฺขนฺธวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธปาริปูริยา วา เกวลปริปุณฺโณ. อิธายํ อติเรโก, โส อปเนตพฺโพติ วตฺวา อปเนตพฺพาภาวโต ปริสุทฺโธ, จตุโรฆนิตฺถรณตฺถาย, โลกามิสนิรเปกฺขตาย ปวตฺติยมานตฺตา วา ปริสุทฺโธ. เสฏฺตฺตา พฺรหฺมจริยํ, พฺรหฺมานํ วา เสฏฺานํ อริยานํ จริยํ พฺรหฺมจริยํ, ปพฺพชฺชพฺรหฺมจริยมคฺคพฺรหฺมจริยสาสนพฺรหฺมจริยาทีสุ สาสนพฺรหฺมจริยํ ปกาสยิสฺสามิ, ปริทีปยิสฺสามีติ อตฺโถ.
‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ…เป… ปกาเสสฺสามี’’ติ ปฏิฺาตพฺเพ ปาฬิธมฺเม อาคเต อสฺสาทาทโย เทสนาหาโร เทสยติ สํวณฺเณติ ¶ วิตฺถาเรตีติ อาจริเยน สามฺวเสเนว วุตฺตํ, ตสฺมา เทสนาหาโร อิธ ปาฬิยํ อาคตํ อิมํ อสฺสาทํ เทสยติ, อิธ ปาฬิยํ อาคตํ อิมํ อาทีนวํ เทสยตีติอาทิ วิเสโส น วิฺาตพฺโพ, ‘‘กถํ วิฺาตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิธ ปาฬิยํ อาคโต อยํ อสฺสาโท, อิธ ปาฬิยํ อาคโต อยํ อาทีนโว’’ติ วิเสสํ นิยเมตฺวา อุปลกฺขณนเยน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท? กามํ กามยมานสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ วิสยวิสยิเภเทสุ อสฺสาเทสุ กตโม อสฺสาโท ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิยํ อาคโตติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌติ;
อทฺธา ปีติมโน โหติ, ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๒; มหานิ. ๑) –
อิธ ปาฬิคาถายํ โย วิสยภูโต อสฺสาโท อาคโต, โส อยํ อสฺสาเทตพฺโพ อสฺสาโท เทสนาหารสฺส วิสโยติ. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘เอวํ ภควตา เทสิโต, ปกาสิโต จ สาสนธมฺโม เยสํ อสฺสาทาทีนํ ทสฺสนวเสน ปวตฺโต, เต อสฺสาทาทโย เทสนาหารสฺส วิสยภูตา ยตฺถ ยตฺถ ปาเ สวิเสสํ ¶ วุตฺตา, ตโต ตโต นิทฺธาเรตฺวา อุทาหรณวเสน อิธาเนตฺวา ทสฺเสตุํ ‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕) วุตฺตํ.
ตตฺถ อสฺสาทียเตติ อสฺสาโท, อสฺสาเทตพฺโพ วตฺถุกาโม. กามียเตติ กาโม, วตฺถุกาโม จ. ตํ กามยตีติ กามยมาโน, สตฺโต. ตสฺส ปีติยา ยุตฺตํ มโน เอตสฺสาติ ปีติมโน. มนติ ชานาตีติอาทิวจนตฺเถน มจฺโจ. กามํ กามิตพฺพํ วตฺถุ กามยมานสฺส ตสฺส สตฺตสฺส เอตํ กามิตพฺพํ วตฺถุ สเจ สมิชฺฌติ, เอวํ สติ โส สตฺโต อทฺธา ปีติมโน โหติ. โย มจฺโจ ยํ วตฺถุํ อิจฺฉติ, ตํ วตฺถุํ โส มจฺโจ ลทฺธา อทฺธา ปีติมโน โหตีติ คาถายตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
‘‘กามํ ¶ …เป… ปีติมโน โหตี’’ติ เอตฺตกเมว อวตฺวา ‘‘ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา โลภนียํ วตฺถุํเยว ลทฺธา ปีติมโน น โหติ, อถ โข ปตฺเถตพฺพํ ปูเชตพฺพนฺติ สพฺพํ ลทฺธา มจฺโจ ปีติมโน จ โหตีติ อติเรกตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
วิสยภูโต อสฺสาเทตพฺโพ อสฺสาโท อิธ ปาฬิยํ คาถายํ อาคโตติ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ทุกฺขโทมนสฺสาทิเภเทสุ อาทีนเวสุ กตโม อาทีนโว กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม อาทีนโว? ตสฺส เจ กามยานสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ ทุกฺขโทมนสฺสาทีสุ อาทีนเวสุ กตโม อาทีนโว ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิยํ อาคโตติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘ตสฺส เจ กามยานสฺส, ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน;
เต กามา ปริหายนฺติ, สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๓; มหานิ. ๒) –
อิธ ปาฬิคาถายํ โย โทมนสฺสสงฺขาโต อาทีนโว อาคโต, โส อยํ โทมนสฺสสงฺขาโต อาทีนโว เทสนาหารสฺส วิสโยติ.
คาถายํ ปน กามยติ อิจฺฉตีติ กามยาโน. อถ วา ยายติ คจฺฉตีติ ยาโน, กาเมน ยาโน กามยาโน, ตสฺส. ฉนฺโท ชาโต ยสฺส โส ฉนฺทชาโต, ตสฺส. วิชฺฌียเตติ วิทฺโธ ¶ , สลฺลติ ปวิสตีติ สลฺโล, สลฺเลน วิทฺโธ สลฺลวิทฺโธ. กามํ กามยานสฺส ฉนฺทชาตสฺส ชนฺตุโน เย กามา ลภิตพฺพา, เต กามา เกนจิ อนฺตราเยน ยทา ปริหายนฺติ, ตทา โส ชนฺตุ รุปฺปติ. กีทิโสว รุปฺปติ? อโยมยสลฺลวิทฺโธ มิโค รุปฺปติ อิว, ปริหีนกาโม ชนฺตุ รุปฺปตีติ ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ‘‘รุปฺปตี’’ติวจเนน โทมนสฺสุปฺปตฺติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพา.
โทมนสฺสภูโต อาทีนโว อิธ ปาฬิยํ อาคโตติ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘มคฺคนิพฺพานวเสน ทุวิเธสุ นิสฺสรเณสุ กตมํ นิสฺสรณํ กตฺถ ปาฬิยํ อาคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ? โย กาเม ปริวชฺเชตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ¶ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ มคฺคนิพฺพานวเสน ทุวิเธสุ นิสฺสรเณสุ กตมํ นิสฺสรณํ ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคตนฺติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘โย กาเม ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว ปทา สิโร;
โสมํ วิสตฺติกํ โลเก, สโต สมติวตฺตตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๔; มหานิ. ๓) –
อิธ ปาฬิคาถายํ ยํ สมติวตฺตนกรณํ มคฺคสงฺขาตํ นิสฺสรณํ อาคตํ, ตํ อิทํ มคฺคสงฺขาตํ สมติวตฺตนกรณํ นิสฺสรณํ เทสนาหารสฺส วิสยนฺติ.
คาถายํ โยติ ฌานลาภี วา อริโย วา. กาเมติ วุตฺตปฺปกาโร วตฺถุกาโม. เตสุ ปวตฺตฉนฺทราคสฺส วิกฺขมฺภเนน วา สมุจฺฉินฺทเนน วา ปริวชฺเชติ. กึ ปริวชฺเชติ อิว วชฺเชติ? สปฺปสฺส สิโร สิรํ จกฺขุมา ปุริโส ทิสฺวา ปทา ปาเทน ปริวชฺเชติ อิว, เอวํ ปริวชฺเชติ. สโต สติสมฺปนฺโน โส ปุคฺคโล โลเก รูปาทีสุ วิสตฺติกํ อิมํ ตณฺหํ เยน มคฺเคน สมติวตฺตติ สํ สุฏฺุ อติกฺกมิตฺวา วตฺตติ, อิทํ มคฺคสงฺขาตํ สมติวตฺตนกรณํ เอกเทสํ นิสฺสรณํ นามาติ โยเชตพฺพํ. ‘‘ปาทา’’ติ วตฺตพฺเพ อาการสฺส รสฺสํ กตฺวา ‘‘ปทา’’ติ วุตฺตํ. ปาทาติ จ ปาเทน ยถา ‘‘อโมหภาวา อโมหภาเวนา’’ติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน ปาเทนา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕).
เอกเทโส วิสยสงฺขาโต อสฺสาโท อิธ ปาฬิยํ อาคโตติ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘เอกเทโส วิสยิสงฺขาโต อสฺสาโท กตฺถ ปาฬิยํ อาคโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ¶ กตโม อสฺสาโท? เขตฺตํ วตฺถุ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. อถ วา ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท? เขตฺตํ วตฺถุ’’นฺติอาทิ กสฺมา เอวํ อารทฺธํ, นนุ ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท? กามํ กามยมานสฺสา’’ติอาทินา อสฺสาโท วิภตฺโต? สจฺจํ, อสฺสาโท ปน ทุวิโธ วิสยวิสยิวเสน, ตสฺมึ วิสยสงฺขาโต อสฺสาโท ปุพฺเพ วิภตฺโต, อิทานิ วิสยิสงฺขาตํ อสฺสาทํ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท? เขตฺตํ วตฺถุ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ วิสยวิสยิเภเทสุ อสฺสาเทสุ กตโม อสฺสาโท ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิยํ อาคโตติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘เขตฺตํ วตฺถุํ ¶ หิรฺํ วา, ควาสฺสํ ทาสโปริสํ;
ถิโย พนฺธู ปุถู กาเม, โย นโร อนุคิชฺฌตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๕; มหานิ. ๔) –
อิธ ปาฬิคาถายํ โย อนุคิชฺฌนสงฺขาโต อสฺสาโท อาคโต, โส อยํ อนุคิชฺฌนสงฺขาโต วิสยิอสฺสาโท เทสนาหารสฺส วิสโยติ.
คาถายํ เขตฺตนฺติ ขิปียนฺติ พีชานิ เอตฺถ าเนติ เขตฺตํ. ขิปนฺตานํ ชนานํ ขิปนกิริยา ขิป-ธาตุยา มุขฺยตฺโถ, ขิปนกิริยาชนโก จิตฺตุปฺปาโท ผลูปจารตฺโถ, ตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยภูตสฺส เกทารสฺส วิรุฬฺหาปนสตฺติ ผลูปจารตฺโถ, อิติ-สทฺเทน สา วิรุฬฺหาปนสตฺติเยว ปรามสียติ, ตสฺสา สตฺติยา ปติฏฺํ เกทารสงฺขาตํ านํ ต-ปจฺจยตฺโถ. เอส นโย ตีสุ ปิฏเกสุ เอวรูเปสุ จ วจนตฺเถสุ ยถารหํ นีหริตฺวา คเหตพฺโพ. วปนฺติ ปติฏฺหนฺติ เอตฺถาติ วตฺถุ. อปรณฺณาทีนํ ปติฏฺหนํ วป-ธาตุยา มุขฺยตฺโถ, านสฺส ปติฏฺาปนสตฺติ ผลูปจารตฺโถ, อิติ-สทฺเทน สา ปติฏฺาปนสตฺติ ปรามสียติ. ตสฺสา สตฺติยา ปติฏฺฏฺานํ ต-ปจฺจยตฺโถ. เขตฺตํ ปน ปุพฺพณฺณวิรูหนฏฺานํ, วตฺถุ อปรณฺณวิรูหนฏฺานํ.
หิโนติ ปวตฺตติ ปีติโสมนสฺสนฺติ หิ, กึ ตํ? ปีติโสมนสฺสํ, ราติ ปวตฺเตติ ชาตรูปนฺติ รํ, กึ ตํ? ชาตรูปํ, หึ รนฺติ หิรํ, ทุติยาตปฺปุริสสมาโส. าเปติ โตเสตีติ ํ, กึ ตํ? ชาตรูปํ. หิรํ หุตฺวา ํ หิรฺํ, ปวตฺตมานํ ปีติโสมนสฺสํ ปวตฺเตตฺวา ชเน วิเสเสน โตเสตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. วา-สทฺโท วุตฺตาวุตฺตตฺถสมุจฺจยตฺโถ. คจฺฉนฺติ วิเสเสนาติ คาโว, รตฺตินฺทิวํ อสนฺติ ภกฺขนฺติ วิเสเสนาติ อสฺสา, คาโว จ อสฺสา จ ควาสฺสํ. ทาตพฺพํ ปมํ เทนฺตีติ ทา, อสนฺติ ภกฺขนฺตีติ อสา, ทตฺวา อสา ทาสา ¶ , สามิกานํ ทาตพฺพํ ปมํ ทตฺวา ปจฺฉา อสนฺติ ภกฺขนฺตีติ อตฺโถ. สามิเกหิ วา ทินฺนํ อสนฺติ ภกฺขนฺตีติ ทาสา, ทุกฺเขน กสิเรน อสนฺติ ปวตฺตนฺตีติ วา ทาสา,. มาตาปิตูนํ หทยํ ปุเรนฺตีติ ปุริสา, ปุรํ หิตํ วา อิสนฺติ คเวสนฺตีติ ปุริสา. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธจกฺกวตฺติภาวํ ปุเรติ กมฺมนฺติ ปุรํ, กึ ตํ? พลวกมฺมํ, ปุรํ อิสนฺติ สีเลนาติ วา ปุริสา. ปุริสา เอว หิ สมฺมาสมฺพุทฺธปจฺเจกพุทฺธจกฺกวตฺติภาวํ คจฺฉนฺติ. ‘‘ปุริ อุจฺจฏฺาเน เสนฺตีติ วา ปุริสา. ปุริสา ¶ หิ มาตูนํ ปิตุฏฺาเน ิตา’’ติ อิเม วจนตฺถา วุตฺตปฺปการา ยุตฺตาเยว อตฺถสมฺภวโต. ทาสา จ ปุริสา จ ทาสโปริสํ, มชฺเฌ วุทฺธิ. เอตฺถ จ ทาสคฺคหเณน ทาสีปิ คหิตา. ทาสา ทุกฺกฏชนา, ปุริสา สุขิตชนาติ วิเสโส ทฏฺพฺโพ. นฺติ ปติฏฺหนฺติ เอตฺถ มาตุคาเม ปุตฺตธีตาติ ถิโย. นรสทฺทสฺส วิคฺคหตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว.
เอกเทโส โทมนสฺสสงฺขาโต อาทีนโว อิธ ปาฬิคาถายํ อาคโตติ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ทุกฺขสงฺขาโต อาทีนโว กตฺถ ปาฬิยํ อาคโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม อาทีนโว? อพลา นํ พลียนฺตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. อถ วา ‘‘ตตฺถ กตโม อาทีนโว? อพลา นํ พลียนฺตี’’ติอาทิ กสฺมา เอวํ อารทฺธํ, นนุ ‘‘ตตฺถ กตโม อาทีนโว? ตสฺส เจ กามยานสฺสา’’ติอาทินา อาทีนโว วิภตฺโตติ? สจฺจํ, อาทีนโว ปน พหุวิโธ ทุกฺขโทมนสฺสาทิวเสน, ตสฺมึ พหุวิเธ อาทีนเว เอกเทโส โทมนสฺสสงฺขาโต อาทีนโว ปุพฺเพ วิภตฺโต, อิทานิ ทุกฺขสงฺขาตํ อาทีนวํ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อาทีนโว? อพลา นํ พลียนฺตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ ทุกฺขโทมนสฺสาทีสุ อาทีนเวสุ กตโม อาทีนโว ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคโตติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘อพลา นํ พลียนฺติ, มทฺทนฺเตนํ ปริสฺสยา;
ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ, นาวํ ภินฺนมิโวทก’’นฺติ. (สุ. นิ. ๗๗๖; มหานิ. ๕) –
อิธ ปาฬิคาถายํ โย ทุกฺขสงฺขาโต เอกเทโส อาทีนโว อาคโต, โส อยํ ทุกฺขสงฺขาโต เอกเทโส อาทีนโว เทสนาหารสฺส วิสโยติ.
คาถายํ นตฺถิ พลํ เอเตสํ กิเลสานนฺติ อพลา. กสฺมา กิเลสา อพลา โหนฺตีติ? กุสเลหิ ปหาตพฺพตฺตา. นรนฺติ เขตฺตาทิกาเม อนุคิชฺฌนฺตํ นรํ, สทฺธาพลาทิวิรหโต วา อพลํ ¶ ตํ นรํ พลียนฺติ อภิภวนฺติ. กิฺจาปิ กิเลสา กุสเลหิ ปหาตพฺพตฺตา อพลา โหนฺติ, ตถาปิ กามมนุคิชฺฌนฺตํ สทฺธาพลาทิวิรหิตํ อภิภวิตุํ สมตฺถา ภวนฺติ. มทฺทนฺเตนํ ปริสฺสยาติ กามคิทฺธํ กาเม ปริเยสนฺตํ, กามํ รกฺขนฺตฺจ ¶ เอนํ นรํ ปริ สมนฺตโต ปริปีเฬตฺวา อยนฺติ ปวตฺตนฺตีติ ปริสฺสยา, สีหพฺยคฺฆาทโย เจว กายทุจฺจริตาทโย จ มทฺทนฺติ. ตโต เตหิ ปริสฺสเยหิ อภิภูตํ นํ นรํ ชาติอาทิทุกฺขํ อนฺเวติ อนุคจฺฉติ. กิมิว อนฺเวติ? อุทกํ ภินฺนนาวํ อนฺเวติ อิว, เอวํ อนฺเวตีติ อตฺโถ.
เอกเทสํ มคฺคสงฺขาตํ นิสฺสรณํ อิธ ปาฬิคาถายํ อาคตนฺติ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหติ จ วิฺาตํ, ‘‘นิพฺพานสงฺขาตํ เอกเทสํ นิสฺสรณํ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ? ตสฺมา ชนฺตุ สทา สโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. อถ วา ‘‘ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ? ตสฺมา ชนฺตุ สทา สโต’’ติอาทิ กสฺมา เอวํ อารทฺธํ, นนุ ‘‘ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ? โย กาเม ปริวชฺเชตี’’ติอาทินา นิสฺสรณํ วิภตฺตนฺติ? สจฺจํ, นิสฺสรณํ ปน ทุวิธํ มคฺคนิพฺพานวเสน, ตตฺถ ทุวิเธ นิสฺสรเณ มคฺคสงฺขาตํ นิสฺสรณํ ปุพฺเพ วิภตฺตํ, อิทานิ นิพฺพานสงฺขาตํ นิสฺสรณํ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ? ตสฺมา ชนฺตุ สทา สโต’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ มคฺคนิพฺพาเนสุ นิสฺสรเณสุ เอกเทสํ นิพฺพานสงฺขาตํ นิสฺสรณํ ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคตนฺติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘ตสฺมา ชนฺตุ สทา สโต, กามานิ ปริวชฺชเย;
เต ปหาย ตเร โอฆํ, นาวํ สิตฺวาว ปารคู’’ติ. –
อิธ ปาฬิคาถายํ ยํ นิพฺพานสงฺขาตํ นิสฺสรณํ อาคตํ, อิทํ นิสฺสรณํ เทสนาหารสฺส วิสยนฺติ.
คาถายํ ตสฺมาติ ยสฺมา กามคิทฺธํ นรํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตสฺมา ชนฺตุ สทา สพฺพกาเล ปุพฺพรตฺตาปรรตฺเต ชาคริยานุโยเคน สโต สติสมฺปนฺโน หุตฺวา กามานิ กิเลสกาเม วิกฺขมฺภนวเสน วา สมุจฺเฉทวเสน วา ปริวชฺชเย ปริชเหยฺย. เต กาเม อริยมคฺเคน ปหาย จตุพฺพิธํ โอฆํ ตเรยฺย ตริตุํ สกฺกุเณยฺย. โก ตรติ อิว ตเรยฺย? นาวาสามิโก นาวํ ยํ ปวิสนฺตํ อุทกํ สิตฺวา พหิ สิฺจิตฺวา ลหุกาย นาวาย อปฺปกสิเรน ตริตฺวา ปารคู ปารํ คจฺฉติ อิว, เอวํ อตฺตนิ ปวตฺตํ กิเลสูทกํ สิฺจิตฺวา อริยมคฺเคน นีหริตฺวา ลหุเกน อตฺตภาเวน อนุปาทิเสสาย ¶ นิพฺพานธาตุยา นิพฺพาเนน ปารํ นิพฺพานํ สนฺตึ ¶ คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. อิทํ นิพฺพานํ กสฺมา นิสฺสรณํ โหติ? สพฺพสงฺขตนิสฺสรณโต นิสฺสรณํ นาม.
อิทํ นิสฺสรณํ อิธ ปาฬิธมฺเม อาคตนฺติ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ วิฺาตํ, ‘‘กตมํ ผลํ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ ผลํ? ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจาริ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ รกฺขนนิปฺผาทนมจฺจุตรณาทีสุ ผเลสุ กตมํ ผลํ ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคตนฺติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเล;
เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๒, ๑๐๓) –
อิธ ปาฬิคาถายํ ยํ อนตฺเถหิ ธมฺมสฺส รกฺขนผลํ อาคตํ, รกฺขาวหนสฺส อพฺภุทยสฺส ยฺจ นิปฺผาทนํ ผลํ อาคตํ, อิทํ รกฺขนนิปฺผาทนํ ผลํ เทสนาหารสฺส วิสยนฺติ.
คาถายํ ธมฺโมติ เยน ปุคฺคเลน โย ทานาทิปฺปเภโท ปฺุธมฺโม นิพฺพตฺติโต, โส ธมฺโม. ธมฺมจารึ ธมฺมนิพฺพตฺตกํ ตํ ปุคฺคลํ อนตฺเถหิ รกฺขติ. กิมิว? วสฺสกาเล เทเว วสฺสนฺเต สติ มหนฺตํ กุสเลน ธาเรตพฺพํ ฉตฺตํ ธาเรนฺตํ กุสลํ ตํ ชนํ วสฺสเตมนโต รกฺขติ ยถา, เอวํ รกฺขิตพฺโพ ธมฺโมปิ อตฺตสมฺมาปณิธาเนน อปฺปมตฺโต หุตฺวา สุฏฺุ ธมฺมํ รกฺขนฺตํเยว รกฺขติ, ตาทิโส ธมฺมจารีเยว ทุคฺคตึ น คจฺฉติ. เอโส อานิสํโส สุจิณฺเณ สุจิณฺณสฺส ธมฺเม ธมฺมสฺส อานิสํโสติ อตฺโถ.
เอกเทสํ ผลํ อิธ ปาฬิธมฺเม อาคตนฺติ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตโม อุปาโย กตฺถ ปาฬิยํ อาคโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาโย? สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺเสุ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมนิพฺพิทาทีสุ อุปาเยสุ กตโม อุปาโย ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคโตติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘สพฺเพ ¶ ¶ สงฺขารา ‘อนิจฺจา’ติ…เป…;
สพฺเพ ธมฺมา ‘อนตฺตา’ติ, ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติ. (ธ. ป. ๒๗๗-๒๗๙) –
อิธ ปาฬิคาถาสุ โย วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมนิพฺพิทาาณสงฺขาโต วิสุทฺธิยา อธิคมเหตุภาวโต มคฺโค อาคโต, อยํ อุปาโย เทสนาหารสฺส วิสโยติ.
คาถาสุ สพฺเพ นิรวเสสา กมฺมจิตฺโตตุอาหาเรหิ สงฺขริตา สงฺขตสงฺขารา หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจา อิติ ยทา ปฺาย ปสฺสติ, อถ อนิจฺเจ ทุกฺขสภาเว นิพฺพินฺทติ, เอโส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโม นิพฺพินฺทนาณสงฺขาโต ธมฺโม วิสุทฺธิยา มคฺโคติ. ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทีสุ สงฺขารานํ สงฺขตธมฺมภาโว ปจฺจยาการวิภงฺคฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส) วุตฺโตว, ตํ วิภงฺคฏฺกถํ อโนโลเกตฺวา เอกจฺเจ อาจริยา ‘‘วิปสฺสนาาณารมฺมณตฺตา เตภูมกธมฺมาเยวา’’ติ วทนฺติ, เอวํ สติ มคฺคผลธมฺมานํ นิจฺจาทิภาโว ภเวยฺย, ตสฺมา วิภงฺคฏฺกถานุรูโปว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ทุกฺขาติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภาเวน ทุกฺขา. อนตฺตาติ นิจฺจสารสุขสารอตฺตสารรหิตตฺตา อสารกฏฺเน อนตฺตา, อวสวตฺตนฏฺเน วา อนตฺตา.
เอกเทโส อุปาโย อิธ ปาฬิธมฺเม อาคโตติ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตมา อาณตฺติ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา อาณตฺติ? จกฺขุมา วิสมานีวา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติอาทิคาถายํ นิทฺทิฏฺาสุ ปาปทุจฺจริตปริวชฺชนาณตฺติกลฺยาณสุจริตจรณาณตฺติอาทีสุ กตมาณตฺติ ตตฺถ เตสุ ปาฬิธมฺเมสุ กตฺถ ปาฬิธมฺเม อาคตาติ ปุจฺฉิตฺวา –
‘‘จกฺขุมา วิสมานีว, วิชฺชมาเน ปรกฺกเม;
ปณฺฑิโต ชีวโลกสฺมึ, ปาปานิ ปริวชฺชเย’’ติ. (อุทา. ๔๓) –
อิธ ปาฬิธมฺเม ยา ปาปทุจฺจริตปริวชฺชนาณตฺติ อาคตา, อยํ ปาปทุจฺจริตปริวชฺชนาณตฺติ เทสนาหารสฺส วิสยาติ.
คาถายํ จกฺขุมา ปุริโส วิชฺชมาเน ปรกฺกเม อาวหิตํ สรีรํ อาวหนฺโตว หุตฺวา วิสมานิ ¶ ภูมิปฺปเทสานิ วา วิสเม หตฺถิอาทโย วา ¶ ปริวชฺเชติ อิว, เอวํ ชีวโลกสฺมึ ปณฺฑิโต ปาปานิ ลามกานิ ทุจฺจริตานิ ปริวชฺเชติ. อาณตฺติ นาม อาณารหสฺส ธมฺมราชสฺส ภควโต อาณา, สา พหุวิธา, ตสฺมา ‘‘กเรยฺย กลฺยาณ’’นฺติอาทิคาถายํ สุจริตจรณา อาณตฺติ.
‘‘อุเปถ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมํ สงฺฆฺจ ตาทินํ;
สมาทิยถ สีลานิ, ตํ โว อตฺถาย เหหิตี’’ติ. (เถรีคา. ๒๔๙-๒๕๐, ๒๘๙-๒๙๐) –
อาทีสุ คาถาสุ สรณคมนาณตฺติสีลสมาทานาณตฺติอาทิ อาคตาติ.
‘‘สฺุโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติอาทิ กสฺมา เอวํ อารทฺธํ, นนุ ‘‘ตตฺถ กตมํ ผลํ? ธมฺโม หเว’’ติอาทินา, ‘‘ตตฺถ กตโม อุปาโย? สพฺเพ สงฺขารา’’ติอาทินา, ‘‘ตตฺถ กตมา อาณตฺติ? จกฺขุมา’’ติอาทินา จ ผลูปายาณตฺติโย วิภตฺตาติ? สจฺจํ, วิสุํ วิสุํ ปน สุตฺเตสุ อาคตา ผลูปายาณตฺติโย วิภตฺตา, อิทานิ เอกโต อาคตา ผลูปายาณตฺติโย วิภชิตุํ ‘‘สฺุโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ สฺุโต โลกํ อเวกฺขสฺสูติ สพฺพมฺปิ สงฺขารโลกํ อตฺตโต สฺุโติ อวสวตฺติตาสลฺลกฺขณวเสน วา ตุจฺฉภาวสมนุปสฺสนวเสน วา ปสฺสาติ อิทํ ภควโต วจนํ วิธานภาวโต อาณตฺติ นาม. นิจฺจสารสุขสารอตฺตสาราทิรหิตตฺตา ‘‘โมฆราชา’’ติ อาลปติ, สทฺธาสีลสุตจาคาทิรหิตตฺตา วา โมโฆ.
‘‘สทา สโต’’ติ ปุคฺคลวเสน วุตฺตาย สติยา สฺุตาทสฺสนสฺส สมฺปชานเหตุภาวโต สติเยว อุปาโย, น สติมาติ เอตฺถ สตีติ อธิปฺปาโย.
อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจาติ เอตฺถ อตฺตานุทิฏฺิ นาม ‘‘รูปํ อตฺตา, รูปวา อตฺตา, รูปสฺมึ อตฺตา, อตฺตนิ รูป’’นฺติอาทิปฺปการา วีสติวตฺถุกา ทิฏฺิ. มคฺเคน อูหจฺจ สมุจฺฉินฺทิตฺวา เอวํ วุตฺตวิธินา มจฺจุตโร มจฺจุโน วิสยาติกฺกนฺโต สิยา ภเวยฺย. เอตฺถ ยํ มจฺจุวิสยํ ตรณํ อติกฺกมนํ, ตสฺส อติกฺกมนสฺส ยฺจ ปุพฺพภาคปฏิปทาสมฺปชฺชนํ, อิทํ ภควโต เทสนาย ¶ ผลํ เทสนาหารสฺส วิสยนฺติ อธิปฺปาโย. ปุพฺเพ วิสุํ วิสุํ ผลูปายาณตฺติโย วิภตฺตาปิ –
‘‘สฺุโต ¶ โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราช สทา สโต;
อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา’’ติ. (สุ. นิ. ๑๑๒๕; มหานิ. ๑๘๖; จูฬนิ. ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา ๑๔๔, โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๘) –
เอกคาถายํ ปุน เอกโต วิภชนโต ผลาทีสุ เอกโต ทสฺสิเตสุ สพฺพตฺถ สุตฺเตสุ วา สพฺพตฺถ คาถาสุ วา ผลาทโย ทสฺเสตพฺพา อสฺสาทาทโย วิย กตฺถจิ นิทฺธาเรตฺวาติ วิเสโส วิชานิตพฺโพ. เตนาห อฏฺกถาจริโย ‘‘ยถา ปน…เป… เอกโต อุทาหรณํ กตนฺติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕).
๖. เทสนาหารสฺส วิสยภูตา อสฺสาทาทโย ‘‘อิธ ปาฬิธมฺเม อยํ อสฺสาโท อาคโต, อิธ ปาฬิธมฺเม อยํ อาทีนโว อาคโต’’ติอาทินา วิเสสโต นิทสฺสนวเสน สรูปโต อาจริเยน วิภตฺตา, เต อสฺสาทาทโย ติณฺณํ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ ปุคฺคลานํ สามฺโต ภควา กึ นุ โข เทเสติ, อุทาหุ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส ยถาลาภํ กึ นุ เทเสตีติ อนุโยคสฺส สมฺภวโต อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมํ เทเสติ, อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมํ เทเสตีติ ปุคฺคลเภเทน อสฺสาทาทโย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ อสฺสาทาทีสุ. นิสฺสรณํ อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส ภควา เทเสติ, อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ อิเม ทฺเว วิปฺจิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส ภควา เทเสติ, อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ อิเม ตโย เนยฺยสฺส ปุคฺคลสฺส ภควา เทเสตีติ โยชนตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ อสฺสาทาทโย อุทาหรณวเสน สรูปโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ปุคฺคลวิภาเคน เทสนาวิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘ตตฺถ ภควา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.
ตตฺถ อุคฺฆฏิตฺุสฺสาติ อุคฺฆฏียเต ปฏิวิชฺฌียเต, ปียเต วา สปฺปเภโท วิตฺถาโร อตฺโถติ อุคฺฆฏิโต, ชานาตีติ ู, อุคฺฆฏิตํ อตฺถํ ู อุคฺฆฏิตฺู, อุทฺเทสมตฺเตเนว สปฺปเภทํ สวิตฺถารํ ¶ ปฏิวิชฺฌิตพฺพํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ. โย ปุคฺคโล อุทฺเทเสเนว อุทฺทิฏฺมตฺเตเนว อตฺถํ ตฺวา อตฺถสิทฺธิปฺปตฺโต โหติ, โส อุคฺฆฏิตฺู นาม.
วิปฺจียเต ¶ วิตฺถรียเต อตฺโถติ วิปฺจิโต, ตํ ชานาตีติ วิปฺจิตฺู. โย ปุคฺคโล นิทฺเทเสน นิทฺทิฏฺมตฺตเมว อตฺถํ ตฺวา อตฺถสิทฺธิปฺปตฺโต, โส วิปฺจิตฺู นาม.
ปฏินิทฺเทเสน อตฺโถ เนตพฺโพ ปาเปตพฺโพติ เนยฺโย. โย ปุคฺคโล ปฏินิทฺเทเสน วา ปฏิโลเมน วา วิภตฺตํ เอว อตฺถํ ตฺวา อตฺถสิทฺธิปฺปตฺโต, โส เนยฺโย นาม. นิสฺสรณเทสนาเยว อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปฏิเวธาภิสมโย สิทฺโธ โหติ, อาทีนวเทสนาย เจว นิสฺสรณเทสนาย จ วิปฺจิตฺุสฺส ปฏิเวธาภิสมโย สิทฺโธ โหติ, อสฺสาทเทสนาย จ อาทีนวเทสนาย จ นิสฺสรณเทสนาย จ เนยฺยสฺส ปฏิเวธาภิสมโย สิทฺโธ โหตีติ อธิปฺปาโย อิธ คเหตพฺโพ.
ปทปรโม ปเนตฺถ ปฏิเวธาภิสมยภชนาภาวโต น คหิโต. ตสฺมิฺจ อคฺคหิเต อสฺสาโท, อาทีนโว, นิสฺสรณํ, อสฺสาทาทีนวา, อสฺสาทนิสฺสรณานิ, อาทีนวนิสฺสรณานิ, อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานิ จาติ สตฺตสุ ปฏฺานนเยสุ ตติยฉฏฺสตฺตมาว คหิตา, อวเสสา จตฺตาโร นยา น คหิตา. เวเนยฺยวินยนาภาวโต หิ คหณาคหณํ ทฏฺพฺพํ. เวเนยฺยวินยฺจ เวเนยฺยานํ สนฺตาเน อริยมคฺคสฺสุปฺปาทนํ, น สาสนวินยนมตฺตํ, อริยมคฺคุปฺปาทนฺจ ยถาวุตฺเตหิ เอว ตีหิ ปทฏฺานนเยหิ สิชฺฌตีติ อิตเร นยา อิธ น วุตฺตา.
ยสฺมา ปน เปฏเก (เปฏโก. ๒๓) –
‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จ?
‘ยานิ กโรติ ปุริโส, ตานิ ปสฺสติ อตฺตนิ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปก’นฺติ.
‘‘ตตฺถ ยํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปจฺจนุโภติ, อยํ อสฺสาโท. ยํ ปาปการี ปาปํ ปจฺจนุโภติ, อยํ อาทีนโว.
‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา. กตเม อฏฺ? ‘ลาโภ’ติอาทิ (อ. นิ. ๘.๖). ตตฺถ ลาโภ ยโส สุขํ ปสํสา, อยํ อสฺสาโท. อลาโภ อยโส ทุกฺขํ นินฺทา, อยํ อาทีนโว.
‘‘ตตฺถ ¶ กตโม อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ?
‘สุโข ¶ วิปาโก ปฺุานํ, อธิปฺปาโย จ อิชฺฌติ;
ขิปฺปฺจ ปรมํ สนฺตึ, นิพฺพานมธิคจฺฉตี’ติ. –
อยํ อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ.
‘‘ทฺวตฺตึสิมานิ, ภิกฺขเว, มหาปุริสสฺส มหาปุริสลกฺขณานิ, เยหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวเยว คติโย ภวนฺติ…เป… วิวฏจฺฉโทติ สพฺพํ ลกฺขณสุตฺตํ (ที. นิ. ๓.๑๙๙) อยํ อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ.
‘‘ตตฺถ กตโม อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ?
‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา, ภารหาโร จ ปุคฺคโล;
ภาราทานํ ทุขํ โลเก, ภารนิกฺเขปนํ สุขํ.
‘นิกฺขิปิตฺวา ครุํ ภารํ, อฺํ ภารํ อนาทิย;
สมูลํ ตณฺหมพฺพุยฺห, นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต’ติ. (สํ. นิ. ๓.๒๒) –
อยํ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ.
‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ?
‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา, วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ;
ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย’ติ. (ม. นิ. ๒.๓๐๗; เถรคา. ๗๘๗; เปฏโก. ๒๓) –
อยํ อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา เตปิ นยา อิธ นิทฺธาเรตฺวา เวทิตพฺพา. ผลาทีสุปิ อยํ นโย ลพฺภติเยว.
ยสฺมา ¶ เปฏเก (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) – ‘‘ตตฺถ กตมํ ผลฺจ อุปาโย จ? ‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺปฺโ’ติ คาถา, อิทํ ผลฺจ อุปาโย จ.
‘‘ตตฺถ กตมํ ผลฺจ อาณตฺติ จ?
‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห’ติ. (อุทา. ๔๔) –
อิทํ ¶ ผลฺจ อาณตฺติ จ.
‘‘ตตฺถ กตโม อุปาโย จ อาณตฺติ จ?
‘กุมฺภูปมํ กายมิมํ วิทิตฺวา, นครูปมํ จิตฺตมิทํ เปตฺวา;
โยเธถ มารํ ปฺาวุเธน, ชิตฺจ รกฺเข อนิเวสโน สิยา’ติ. (ธ. ป. ๔๐) –
อยํ อุปาโย จ อาณตฺติ จา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา เอวํ ผลาทีนํ ทุกฺขวเสนาปิ อุทาหรณํ เวทิตพฺพํ.
‘‘อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมํ เทเสติ, อิมสฺส ปุคฺคลสฺส อิมํ เทเสตี’’ติ เยหิ ปุคฺคเลหิ อสฺสาทาทโย ยถารหํ อาจริเยน วิภตฺตา, เต ปุคฺคลา ยาหิ ปฏิปทาหิ ภินฺนา, ตา ปฏิปทา กิตฺติกา ภวนฺติ, ตาหิ ภินฺนา ปุคฺคลา จ กิตฺติกาติ วิจารณาย สมฺภวโต ตา ปฏิปทา, เต จ ปุคฺคลา เอตฺตกาติ คณนโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ อุคฺฆฏิตฺุอาทีสุ ปุคฺคเลสุ. เย ปุคฺคลา ยาหิ ปฏิปทาหิ ภินฺนา, ตา ปฏิปทา จตสฺโส ภวนฺติ, เต จ ปุคฺคลา จตฺตาโรติ โยชนา กาตพฺพา. กตมา จตสฺโส? ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, ทุกฺขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา, สุขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา, สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา จาติ จตสฺโส. กตเม จตฺตาโร? ตณฺหาจริโต มนฺโท ¶ ปุคฺคโล, ตณฺหาจริโต อุทตฺโต ปุคฺคโล, ทิฏฺิจริโต มนฺโท ปุคฺคโล, ทิฏฺิจริโต อุทตฺโต ปุคฺคโล จาติ จตฺตาโร.
ปฏิปทาภิฺาหิ กโต วิภาโคปิ ปฏิปทาหิ กโต วิภาโค นาม โหติ อวินาภาวโตติ มนสิ กตฺวา ‘‘จตสฺโส ปฏิปทาภิฺา’’ติ อวตฺวา ‘‘จตสฺโส ปฏิปทา’’ติ วุตฺตา. ตา ปเนตา สมถวเสนาปิ ภินฺนา, วิปสฺสนาวเสนาปิ ภินฺนา. กถํ สมถวเสน? ปถวีกสิณาทีสุ สพฺพปมํ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติอาทินา ปวตฺตมนสิการโต ปฏฺาย ยาว ฌานสฺส อุปจารํ อุปฺปชฺชติ, ตาว ปวตฺตา ปฺา สมถภาวนา ‘‘ปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ. อุปจารโต ปน ปฏฺาย ยาว อปฺปนา, ตาว ¶ ปวตฺตา ปฺา ‘‘อภิฺา’’ติ วุจฺจติ เหฏฺิมปฺาโต อธิคตปฺาภาวโต.
สา จ ปฏิปทา กสฺสจิ ทุกฺขา กิจฺฉา โหติ นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺมสมุทาจารคฺคหณตาย, กสฺสจิ ตทภาวโต สุขา อกิจฺฉา โหติ, อภิฺาปิ กสฺสจิ ทนฺธา อสีฆปฺปวตฺติ โหติ อวิสทาณตาย, กสฺสจิ ขิปฺปา สีฆปฺปวตฺติ โหติ วิสทาณตายาติ.
กถํ วิปสฺสนาวเสน? โย รูปารูปมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสนฺโต จตฺตาริ มหาภูตานิ ปริคฺคเหตฺวา อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ, อรูปํ ปริคฺคณฺหาติ, รูปารูปํ ปน ปริคฺคณฺหนฺโต ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริคฺคหเอตอุํ สกฺโกติ, ตสฺส ทุกฺขาปฏิปทา นาม โหติ. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส วิปสฺสนาปริวาเส มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. ตพฺพิปริยาเยน อิตรา ทฺเว โหนฺติ. วิปสฺสนาวเสน ปน ภินฺนาเยว ปฏิปทาภิฺาโย อิธ ทฏฺพฺพา อภิสมยาธิการตฺตา, อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ เยสํ ปุคฺคลานํ วเสน เทสนาวิภาโค ทสฺสิโต, เต ปุคฺคเล ปฏิปทาวิภาเคน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘จตสฺโส ปฏิปทา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๖) วุตฺตํ. โยชนานโย วุตฺตนยานุสาเรเนว เวทิตพฺโพ.
จตูหิ ปฏิปทาภิฺาหิ จตฺตาโร ปุคฺคลา สพฺเพว อนิยมโต วฏฺฏทุกฺขโต กึ นุ โข นิยฺยนฺติ, อุทาหุ ‘‘อิมาย ปฏิปทาภิฺาย อยํ ปุคฺคโล นิยฺยาติ, อิมาย ปฏิปทาภิฺาย อยํ ปุคฺคโล นิยฺยาตี’’ติ นิยมโต จ นิยฺยาตีติ วิจารณาย สมฺภวโต ‘‘อยํ ปุคฺคโล อิเมหิ นิสฺสเยหิ อุปนิสฺสยปจฺจยํ ลภิตฺวา อิมาย ปฏิปทาภิฺาย วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาตี’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตณฺหาจริโต มนฺโท’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ ตณฺหาจริโต มนฺโท ปุคฺคโล สติปฏฺาเนหิ นิสฺสเยหิ อุปนิสฺสยปจฺจยํ ลภิตฺวา สตินฺทฺริเยน สตินฺทฺริยาธิเกน อริยมคฺเคน ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาย วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาติ, ตณฺหาจริโต อุทตฺโต ปุคฺคโล ฌาเนหิ นิสฺสเยหิ อุปนิสฺสยปจฺจยํ ลภิตฺวา สมาธินฺทฺริเยน สมาธินฺทฺริยาธิเกน อริยมคฺเคน ทุกฺขาปฏิปทาขิปฺปาภิฺาย วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาติ ¶ , ทิฏฺิจริโต มนฺโท ปุคฺคโล สมฺมปฺปธาเนหิ นิสฺสเยหิ อุปนิสฺสยปจฺจยํ ลภิตฺวา วีริยินฺทฺริเยน วีริยินฺทฺริยาธิเกน อริยมคฺเคน สุขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาย วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาติ, ทิฏฺิจริโต อุทตฺโต ปุคฺคโล สจฺเจหิ นิสฺสเยหิ อุปนิสฺสยปจฺจยํ ลภิตฺวา ปฺินฺทฺริเยน ปฺินฺทฺริยาธิเกน อริยมคฺเคน สุขาปฏิปทาขิปฺปาภิฺาย วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยาตีติ โยชนา กาตพฺพา. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘จตฺตาโร ปุคฺคลาติ ยถาวุตฺตปฏิปทาวิภาเคเนว จตฺตาโร ปฏิปนฺนกปุคฺคลา, ตํ ปน ปฏิปทาวิภาคํ สทฺธึ เหตุปายผเลหิ ทสฺเสตุํ ‘ตณฺหาจริโต’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๖) –
วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาจริโตติ ตณฺหาย นิพฺพตฺติตํ จริตํ เอตสฺส ปุคฺคลสฺสาติ ตณฺหาจริโต. มนฺโทติ มนฺทิยาย อวิชฺชาย สมนฺนาคโตติ มนฺโท, โมหาธิกปุคฺคโล. อุทตฺโตติ อุทอตฺโต, อุฬารปฺโติ อตฺโถ. อุฬารํ ผลํ เทตีติ อุโท, โก โส? ปวิจโย, อตฺตนิ นิพฺพตฺโตติ อตฺโต, อุโท อตฺโต ยสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อุทตฺโตติ วจนตฺโถ กาตพฺโพ.
ปมาย ปฏิปทาย เหตุ นาม ตณฺหาจริตตา, มนฺทปฺตา จ, อุปาโย สตินฺทฺริยํ, สพฺพาสมฺปิ ผลํ นิยฺยานเมว. ทุติยาย ปฏิปทาย เหตุ นาม ตณฺหาจริตตา, อุทตฺตปฺตา จ, อุปาโย วีริยินฺทฺริยํ. ตติยาย ปฏิปทาย เหตุ นาม ทิฏฺิจริตตา, มนฺทปฺตา จ, อุปาโย สมาธินฺทฺริยํ. จตุตฺถิยา ปฏิปทาย เหตุ นาม ทิฏฺิจริตตา, อุทตฺตปฺตา จ, อุปาโย ปฺินฺทฺริยนฺติ เหตุปายผลานิ ทฏฺพฺพานิ.
เอตฺถ จ ทิฏฺิจริโต อุทตฺโต ปุคฺคโล อุคฺฆฏิตฺู นาม, ทิฏฺิจริโต มนฺโท เจว ตณฺหาจริโต อุทตฺโต จ วิปฺจิตฺู นาม, ตณฺหาจริโต มนฺโท ปุคฺคโล เนยฺโย นาม, ตสฺมา ‘‘ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺส ปุคฺคลสฺส นิสฺสรณํ เทสยตี’’ติอาทินา นเยน อุคฺฆฏิตฺุอาทิเวเนยฺยตฺตยสฺส เภททสฺสเนน นิสฺสรณํ เทสยติ, ‘‘อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ เทสยติ, อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ เทสยตี’’ติ เทสนาวิภาโค ทสฺสิโต. ‘‘ตตฺถ จตสฺโส ¶ ปฏิปทา’’ติอาทินา ปฏิปทาเภททสฺสเนน ‘‘ตณฺหาจริโต มนฺโท ปุคฺคโล, ตณฺหาจริโต อุทตฺโต ¶ ปุคฺคโล, ทิฏฺิจริโต มนฺโท ปุคฺคโล, ทิฏฺิจริโต อุทตฺโต ปุคฺคโล’’ติ จตุธา ภินฺนํ ตณฺหาจริตมนฺทาทิกํ ปุคฺคลจตุกฺกํ ทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
อิทานิ จตูหิ ปฏิปทาภิฺาหิ จตุธา ภินฺนํ ตณฺหาจริตมนฺทจตุกฺกํ อตฺถนยโยชนาย ทุติยาย วิสยํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อุโภ ตณฺหาจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาย สมาธิปฏิปกฺขตฺตา ตณฺหาจริตา มนฺทอุทตฺตา อุโภ ปุคฺคลา สมถปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนาย อุปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ราควิราคาย มคฺคปฺาย นิยฺยนฺติ เจโตวิมุตฺติยา เสกฺขผลภาวาย. สมฺมาทิฏฺิสหิเตเนว สมฺมาสมาธินา นิยฺยานํ ภวติ, น สมฺมาสมาธินา เอว, ตสฺมา ทิฏฺิจริตา มนฺทอุทตฺตา อุโภ ปุคฺคลา วิปสฺสนาปุพฺพงฺคเมน สมเถน อวิชฺชาวิราคาย มคฺคปฺาย นิยฺยนฺติ ปฺาวิมุตฺติยา อเสกฺขผลภาวายาติ จตฺตาโรปิ ปุคฺคลา ทุวิธาเยว ภวนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
ราควิราคายาติ รฺชตีติ ราโค, โส วิรชฺชติ เอตายาติ วิราคา, ราคสฺส วิราคา ราควิราคา, ตาย ราควิราคาย. เจโตติ จิตฺตปฺปเภเทน จ สมาธิ วุจฺจติ ยถา ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; มิ. ป. ๒.๑.๙.). ปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน ปฏิปกฺขโต วิมุจฺจตีติ วิมุตฺติ, เจตสา จิตฺเตน สมาธินา วิมุจฺจตีติ เจโตวิมุตฺติ, เจโต เอว วา วิมุตฺติ เจโตวิมุตฺติ, อนาคามิผลสมาธิ. อนาคามิปุคฺคโล หิ สมาธิสฺมึ ปริปูรการิตาย เจโตวิมุตฺติยา นิยฺยาติ. อวิชฺชาวิราคายาติ อวินฺทิยํ กายทุจฺจริตาทึ วินฺทตีติ อวิชฺชา, วินฺทิยํ วา กายสุจริตาทึ น วินฺทตีติ อวิชฺชา นิรุตฺตินเยน. วิรชฺชติ เอตายาติ วิราคา, อวิชฺชาย วิราคา อวิชฺชาวิราคา, ตาย อวิชฺชาวิราคาย. ปกาเรหิ ชานาตีติ ปฺา, วิมุจฺจตีติ วิมุตฺติ, ปฺาย วิมุจฺจตีติ ปฺาวิมุตฺติ, ปฺา เอว วา วิมุตฺติ ปฺาวิมุตฺติ, อรหตฺตผลปฺา, ตาย ปฺาวิมุตฺติยา.
‘‘เตสุ กตเม ปุคฺคลา เกน อตฺถนเยน หาตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพโต ‘‘ตตฺถ เย สมถปุพฺพงฺคมาหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ‘‘อุโภ ตณฺหาจริตา’’ติอาทินา วิภตฺเตสุ ปุคฺคเลสุ เย อุโภ ตณฺหาจริตา มนฺทอุทตฺตา ปุคฺคลา สมถ…เป… นิยฺยนฺติ, เต อุโภ ตณฺหาจริตา ¶ มนฺทอุทตฺตา ปุคฺคลา นนฺทิยาวฏฺเฏน นเยน หาตพฺพา คเมตพฺพา เนตพฺพา. เย อุโภ ทิฏฺิจริตา มนฺทอุทตฺตา ปุคฺคลา วิปสฺสนา…เป… สมเถน นิยฺยนฺติ, เต อุโภ ทิฏฺิจริตา ¶ มนฺทอุทตฺตา ปุคฺคลา สีหวิกฺกีฬิเตน นเยน หาตพฺพา คเมตพฺพา เนตพฺพาติ อตฺโถ.
๗. ‘‘ตตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทินา เทสนาหาเรน ทุกฺขาปฏิปทาเภเทน ตณฺหาจริตมนฺทาทิเภโท ปุคฺคโล วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ตสฺส วิภตฺตานนฺตรํ สฺวายํ เทสนาหาโร กตฺถ สํวณฺเณตพฺเพ ธมฺเม เกนจิ อากาเรน สมฺภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต ‘‘สฺวายํ หาโร กตฺถ สมฺภวตี’’ติอาทิมาห. นวมกฺขณสมฺปนฺนสฺส สตฺถา ยํ ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมึ สํวณฺเณตพฺเพ ธมฺเม ยา วีมํสาทิกา สุตมยาทิกา ติสฺโส ปฺา วิภตฺตา, ตาหิ ปฺาหิ เย อุคฺฆฏิตฺุอาทโย ตโย ปุคฺคลา วิภตฺตา, อิติ วิภตฺตากาเรน อยํ เทสนาหาโร สตฺถารา เทเสตพฺเพ ธมฺเม สมฺภวตีติ ทฏฺพฺโพ.
ตตฺถ สฺวายํ หาโรติ เทสนาหาเรน ปฏิปทาวิภาเคน เวเนยฺยปุคฺคลวิภาโค ทสฺสิโต, โส อยํ เทสนาหาโร. กตฺถ สมฺภวตีติ กตฺถ สํวณฺเณตพฺเพ ธมฺเม สํวณฺณนาภาเวน สมฺภวตีติ. ยสฺสาติ โย โส เวเนยฺโย ปจฺจนฺตชาทีหิ อฏฺหิ อกฺขเณหิ วิมุตฺโต, สวนธารณาทีหิ จ สมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคโต, ตสฺส เวเนยฺยสฺส. สตฺถาติ สเทวกํ โลกํ สาสติ อนุสาสตีติ สตฺถา. ธมฺมนฺติ เทสิตํ สํวณฺเณตพฺพํ ธมฺมํ. เทสยตีติ สงฺเขปนยวิตฺถารนเยหิ ภาสติ. อฺตโรติ ภควโต สาวเกสุ เอวํ ธมฺมํ เทเสตุํ สมตฺโถ สาวโก. ครุฏฺานิโยติ คารวสฺส านภูเตหิ สีลสุตจาคาทิคุณวิเสเสหิ ยุตฺโต มานิโต สทฺทหิตพฺพวจโน. สพฺรหฺมจารีติ สมํ, สห วา พฺรหฺมํ สตฺถุสาสนํ จรติ ปฏิปชฺชตีติ สพฺรหฺมจารี. สทฺธํ ลภติ ‘‘โย สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, โส สตฺถา สมฺมาสมฺพุทฺโธ โหตี’’ติ สตฺถริ, ‘‘สฺวากฺขาโต วตายํ ธมฺโม สาตฺโถ สพฺยฺชโน เอกนฺตปริปุณฺโณ เอกนฺตปริสุทฺโธ อตฺถาวโห หิตาวโห สุขาวโห ฌานมคฺคผลนิพฺพตฺตโก, อมฺเหหิ จ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ เทสิเต ธมฺเม จ อจลสทฺธํ ลภติ, สทฺทหนํ อตฺตโน สนฺตาเน ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทติ. ตถา ¶ ‘‘โย สาวโก ธมฺมํ เทเสติ, โส สาวโก สงฺเขปโต วา วิตฺถารโต วา ธมฺมํ เทเสตุํ สมตฺโถ วต ครุฏฺานิโย สพฺรหฺมจารี มานิโต สทฺทหิตพฺพวจโน’’ติ เทสเก สาวเก จ ‘‘ตาทิเสน สาวเกน เทสิโต โย ธมฺโม, โส ธมฺโม สาตฺโถ สพฺยฺชโน เอกนฺตปริปุณฺโณ เอกนฺตปริสุทฺโธ อตฺถาวโห หิตาวโห สุขาวโห ฌานมคฺคผลนิพฺพตฺตโก, อมฺเหหิ จ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ สาวเกน เทสิตธมฺเม จ สทฺธํ สทฺทหนํ อตฺตโน สนฺตาเน ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ.
ตตฺถาติ ตสฺมึ สทฺทหิตพฺเพ สตฺถารา เทสิตธมฺเม เจว สาวเกน เทสิตธมฺเม จ สทฺทหนฺตสฺส เวเนยฺยสฺส ¶ ยา วีมํสา, วีมํสนฺตสฺส ยา อุสฺสาหนา, อุสฺสหนฺตสฺส ยา ตุลนา, ตุลยนฺตสฺส ยา อุปปริกฺขา, สา อยํ วีมํสาทิกา ปฺา สทฺธานุสาเรน ปวตฺตนโต สุตมยี ปฺา นาม. ตตฺถ วีมํสนํ วิมํสา, ปาฬิยา, ปาฬิอตฺถสฺส จ วีมํสา. วีมํสตีติ วา วีมํสา, ปทํ ปทนฺตเรน, ปทตฺถํ ปทตฺถนฺตเรน วิจารณกา ปฺา. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุสฺสาหนาทีสุปิ ภาวสาธนกตฺตุสาธนานิ กาตพฺพานิ. อุสฺสาหนา จ อุสฺสาเหน อุปตฺถมฺภิกา ธมฺมสฺส ธารณปริจยสาธิกา ปฺา จ, น วีริยํ, เอตฺถ จ ยา สุตมตฺเตเยว ปวตฺตา, วีมํสาทิภาวํ อปฺปตฺตา นิวตฺตา, สา สุตมยี ปฺา น โหติ. ยา จ สุตฺวา วีมํสิตฺวา อุสฺสาหนาทิภาวํ อปฺปตฺตา นิวตฺตา, ยา จ สุตฺวา วีมํสิตฺวา อุสฺสหิตฺวา ตุลนาทิภาวํ อปฺปตฺตา นิวตฺตา, ยา จ สุตฺวา วีมํสิตฺวา อุสฺสหิตฺวา ตุลยิตฺวา อุปปริกฺขนภาวํ อปฺปตฺตา นิวตฺตา, สาปิ ปฺา น สุตมยี ปฺา โหตีติ ทฏฺพฺพา. ยา ปน สุตฺวา สทฺทหนฺตสฺส วีมํสา, วีมํสนฺตสฺส อุสฺสาหนา, อุสฺสหนฺตสฺส ตุลนา, ตุลยนฺตสฺส อุปปริกฺขา โหติ, อยํ สุตมยี ปฺา นาม โหตีติ ทฏฺพฺพา.
สุตมยี ปฺา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา จินฺตามยี ปฺา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต สุตมยิยา ปฺาย วิภชนานนฺตรํ จินฺตามยึ ปฺํ วิภชิตุํ ‘‘ตถา สุเตน นิสฺสเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตนฺติ สุยฺยเต ปริยตฺติธมฺโมติ สุโต, สวนํ ปริยตฺติธมฺมสฺสาติ วา สุตํ, ทุวิธมฺปิ สุตํ. นิสฺสเยน อุปนิสฺสายาติ อตฺโถ. อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ เจตํ ‘‘สุเตน นิสฺสเยนา’’ติ กรณวจนํ. เอตฺถ ปน ‘‘อิทํ ปาณาติปาตาทิวิรมนํ สีลนฏฺเน สีลํ, อยํ เอกคฺคตา สมาทหนฏฺเน สมาธิ ¶ , อิมานิ ภูตุปาทานิ รุปฺปนฏฺเน รูปานิ, อิเม ผสฺสาทโย นมนฏฺเน นามานิ, อิเม รูปาทโย ปฺจ ธมฺมา ราสฏฺเน ขนฺธา’’ติ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปีฬนาทิสภาวสฺส วีมํสนาภูตา ปฺา วีมํสา นาม. เตสํเยว สีลสมาธิอาทีนํ สีลติ ปติฏฺหติ เอตฺถาติ สีลนฺติอาทิวจนตฺถํ ปุจฺฉิตฺวา สภาคลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานํ ตุเลตฺวา วิย คหณปฺา ตุลนํ นาม. เตสํเยว สีลสมาธิอาทีนํ ธมฺมานํ สภาวลกฺขณํ อวิชหิตฺวา อนิจฺจตาทุกฺขตาทินมนรุปฺปนาทิสปฺปจฺจยสงฺขตาทิอากาเร วิตกฺเกตฺวา อุปปริกฺขณปฺา เอว อุปปริกฺขา นามาติ วิเสสโต ทฏฺพฺโพ. สุตธมฺมสฺส ธารณปริจยวเสน ปวตฺตนโต สุตมยี ปฺา อุสฺสาหนา ชาตา วิย น จินฺตามยี ปฺา จินฺติตสฺส ธารณปริจยวเสน อปฺปวตฺตนโตติ ‘‘อุสฺสาหนา’’ติ น วุตฺตํ.
สุตมยี ปฺา เจว จินฺตามยี ปฺา จ อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา ภาวนามยี ปฺา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต การณภูตานํ ทฺวินฺนํ สุตมยิจินฺตามยิปฺานํ ทสฺสนานนฺตรํ ¶ ผลภูตํ ภาวนามยึ ปฺํ วิภชนฺโต ‘‘อิมาหิ ทฺวีหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิมาหิ ทฺวีหิ ปฺาหีติ สุตมยิจินฺตามยิปฺาหิ การณภูตาหิ. สุตมยิปฺาย วา จินฺตามยิปฺาย วา อุภยตฺถ วา ิโตเยว โยคาวจโร วิปสฺสนํ อารภตีติ. มนสิการสมฺปยุตฺตสฺสาติ รูปารูเปสุ ปริคฺคหาทิวเสน สงฺขาเรสุ อนิจฺจตาทิวเสน มนสิกาเรน สมฺมา ปกาเรหิ ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺส. ทิฏฺิวิสุทฺธิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิมคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ- ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสมฺปาทเนน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกนฺตสฺส โยคาวจรสฺส สนฺตาเน าณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตํ ยํ อริยมคฺคาณํ นิพฺพานารมฺมณทสฺสนภูมิยํ วา ภาวนาภูมิยํ วา อุปฺปชฺชติ, อยํ ภาวนามยี ปฺาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทิปิ ปมมคฺคาณํ ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต ‘‘ทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ, ภาวนาวเสน ปน ปวตฺตนโต ‘‘ภาวนามยี ปฺา’’ติ เวทิตพฺพํ. ทสฺสนภูมีติ ปมมคฺคผลานิ, เสสานิ ‘‘ภาวนาภูมี’’ติ วุจฺจนฺติ.
๘. อมฺหากาจริย ตุมฺเหหิ ‘‘ยสฺส สตฺถา วา’’ติอาทินา สุตมยิปฺาทิกา วิภตฺตา, เอวํ สติ สุเตน วินา จินฺตามยี ปฺา นาม น ภเวยฺย, มหาโพธิสตฺตานํ ปน สุเตน วินา จินฺตามยี ปฺา โหตฺเววาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ตสฺมึ สงฺคเหตฺวา ปการนฺตเรน วิภชิตุํ ‘‘ปรโตโฆสา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ ปรโตโฆสาติ ปรโต ปวตฺโต เทสนาโฆโส ปจฺจโย เอติสฺสาติ ปรโตโฆสา. ปจฺจตฺตสมุฏฺิตาติ ปติ วิสุํ อตฺตนิเยว สมุฏฺิตา. โยนิโสมนสิการาติ เตสํ เตสํ จินฺเตตพฺพานํ รูปาทีนํ ธมฺมานํ รุปฺปนนมนาทิสภาวปริคฺคณฺหนาทินา อุปาเยน ปวตฺตมนสิการา จินฺตามยี ปฺา นาม, อิมินา สาวกาปิ สามฺโต คหิตา, ตถาปิ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํเยว วุตฺตตฺตา สาวกา อิธ คหิตา, ตสฺมา ปุริมนโย ยุตฺตตโร. ปรโตติ ธมฺมเทสกโต ปวตฺเตน ธมฺมเทสนาโฆเสน เหตุนา ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺจตฺตสมุฏฺิเตน, โยนิโสมนสิกาเรน จ เหตุนา ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, อยํ ภาวนาวเสน ปวตฺตนโต ภาวนามยี ปฺา นาม, อิมินา สาวกาปิ สามฺโต คหิตา, ตถาปิ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํเยว วุตฺตตฺตา สาวกา อิธ คหิตา, ตสฺมา ปุริมนโย ยุตฺตตโร. ปรโตติ ธมฺมเทสกโต ปวตฺเตน ธมฺมเทสนาโฆเสน เหตุนา ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺจตฺตสมุฏฺิเตน, โยนิโสมนสิกาเรน จ เหตุนา ยํ าณํ อุปฺปชฺชติ, อยํ ภาวนาวเสน ปวตฺตนโต ภาวนามยี ปฺา นามาติ วิภชิตฺวา ปณฺฑิเตหิ เยฺยาติ วิตฺถาเรน คมฺภีรตฺถํ าตุํ อิจฺฉนฺเตหิ ‘‘เอวํ ปฏิปทาวิภาเคนา’’ติอาทินา (เนตฺติ. อฏฺ. ๙) อฏฺกถาวจเนน ชานิตพฺโพ.
สุตมยิปฺาทิกา ¶ ติสฺโส ปฺา อาจริเยน นานานเยหิ วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘ตาสุ ยสฺส เอกา วา ทฺเว วา ปฺา อตฺถิ, โส ปุคฺคโล โกนาโม, ยสฺส เอกาปิ นตฺถิ, โส ปุคฺคโล โกนาโม’’ติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต ยสฺส อยํ ปฺา, อิมา วา อตฺถิ, โส ปุคฺคโล อิตฺถนฺนาโม, ยสฺส นตฺถิ, โส ปุคฺคโล อิตฺถนฺนาโมติ ปฏิปทาปฺาปฺปเภเทน ปุคฺคลํ วิภชิตุํ ‘‘ยสฺส อิมา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ยสฺส อติติกฺขปฺสฺส สุตมยี ปฺา เจว จินฺตามยี ปฺา จ อิมา ทฺเว ปฺา อตฺถิ, อยํ อติติกฺขปฺโ อุทฺเทสมตฺเตเนว ชานนโต อุคฺฆฏิตฺู นาม. ยสฺส นาติติกฺขปฺสฺส อุทฺเทสนิทฺเทเสหิ สุตมยี ปฺา อตฺถิ, จินฺตามยี ปฺา นตฺถิ, อยํ นาติติกฺขปฺโ อุทฺเทสนิทฺเทเสหิ ชานนโต วิปฺจิตฺู นาม. ยสฺส มนฺทปฺสฺส อุทฺเทสนิทฺเทเสหิ เนว สุตมยี ปฺา อตฺถิ, น จินฺตามยี ปฺา จ, อยํ มนฺทปฺโ ¶ อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทเสหิ ชานนโต นิรวเสสวิตฺถารเทสนาย เนตพฺพโต เนยฺโย นามาติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิทานิ ยทตฺถํ อิมา ปฺา อุทฺธฏา, ตเมว เวเนยฺยปุคฺคลวิภาคํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘ยสฺสา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. ๘) วุตฺตํ.
๙. ‘‘ตตฺถ ภควา อุคฺฆฏิตฺุสฺสา’’ติอาทินา เทสนํ วิภาเวติ, ‘‘ตตฺถ จตสฺโส ปฏิปทา’’ติอาทินา ปฏิปทาวิภาเคหิ, ‘‘สฺวายํ หาโร’’ติอาทินา าณวิภาเคหิ จ เทสนาภาชนํ เวเนยฺยตฺตยํ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘ยาย เทสนาปาฬิยา เทสนาหารํ โยเชตุํ ปุพฺเพ ‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’ติอาทินา เทสนาหารสฺส วิสยภาเวน ยา ปาฬิเทสนา นิกฺขิตฺตา, สา ปาฬิเทสนา เทสนาหาเรน นิทฺธาริเตสุ อสฺสาทาทีสุ อตฺเถสุ กิมตฺถํ เทสยตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมํ อตฺถํ เทสยตี’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สายํ ธมฺมเทสนา’’ติอาทิ อารทฺธํ.
ตตฺถ สายํ ธมฺมเทสนาติ ยา ธมฺมเทสนา อาทิกลฺยาณาทิกา ปุพฺเพ เทสนาหารสฺส วิสยภาเวน นิกฺขิตฺตา, สายํ ธมฺมเทสนา อสฺสาทาทีสุ กิมตฺถํ เทสยตีติ กเถตุกามตาย ปุจฺฉติ, ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ เทสยตี’’ติ วิสฺสชฺเชติ, ตานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺค’’นฺติ วุตฺตํ. ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺตินิวตฺตนุปายภาเวน อวิปรีตภาวโต ‘‘สจฺจานี’’ติ วุตฺตานิ.
ยสฺสํ เทสนายํ สจฺจานิ เทสนาหาเรน นิทฺธาริตานิ, สา เทสนา จตฺตาริ สจฺจานิ เทสยตีติ ¶ ยุตฺตํ โหตุ. ยสฺสํ เทสนายํ อสฺสาทาทโย นิทฺธาริตา, สา เทสนา จตฺตาริ สจฺจานิ เทสยตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. เหฏฺา จ อสฺสาทาทโย นิทฺธาริตา, ตสฺมา ‘‘อสฺสาทาทโย’’ติปิ วตฺตพฺพนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘อาทีนโว ผลฺจ ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เทสนาหาเรน สํวณฺณนานเยน เทสนายํ นิทฺธาริโต อาทีนโว เจว ผลฺจ ทุกฺขสจฺจํ โหติ, อสฺสาโท สมุทยสจฺจํ, นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, อุปาโย เจว อาณตฺติ จ มคฺคสจฺจํ โหติ, ตสฺมา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ เทสยตี’’ติ วตฺตพฺพเมวาติ.
ตณฺหาวชฺชา ¶ เตภูมกธมฺมา ทุกฺขํ, เต จ อนิจฺจาทีหิ ปีฬิตตฺตา อาทีนวาเยว. ผลนฺติ เทสนาย ผลํ โลกิยํ, น โลกุตฺตรํ, ตสฺมา ทุกฺขนฺติ วตฺตพฺพเมว. อสฺสาโทติ ตณฺหาสฺสาทสฺส คหิตตฺตา ‘‘อสฺสาโท สมุทโย’’ติ จ วตฺตพฺพํ. อสฺสาเทกเทโส ทุกฺขเมว, อสฺสาเทกเทโส ทุกฺขฺเจว สมุทโย จ. สห วิปสฺสนาย อริยมคฺโค จ ภควโต อาณตฺติ จ เทสนาย ผลาธิคมสฺส อุปายภาวโต ‘‘อุปาโย, อาณตฺติ จ มคฺโค’’ติ วุตฺตํ, นิสฺสรเณกเทโสปิ มคฺโคติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ ยา เทสนา วิเสสโต เทสยติ, กตมา สา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา วิเสสํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ อิทํ ธมฺมจกฺก’’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ วุจฺจมานํ ธมฺมจกฺกํ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ วิเสสโต เทสยตีติ โยชนา กาตพฺพา.
‘‘ยา เทสนา อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ วิเสสโต เทสยติ, ตสฺสา เทสนาย ธมฺมจกฺกภาวํ กึ ภควา อาหา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทิวจนโต (มหาว. ๑๔) ตณฺหาวชฺชํ ชาติอาทิกํ เตภูมกธมฺมชาตํ ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาเวน, ทุกฺขทุกฺขาทิภาเวน จ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. เมติ มยา ปวตฺติตนฺติ โยชนา. ภิกฺขเวติ สวเน อุสฺสาหํ ชเนตุํ อาลปติ. พาราณสิยนฺติ พาราณสีนครสฺส อวิทูเร. อิสิปตเนติ สีลกฺขนฺธาทีนํ อิสนโต คเวสนโต ‘‘อิสี’’ติ โวหริตานํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ปตนฏฺาเน. มิคทาเยติ มิคานํ อภยทานฏฺาเน การิเต อสฺสเมว.
อนุตฺตรนฺติ อุตฺตริตราภาเวน อนุตฺตรํ อนติสยํ. ธมฺมจกฺกนฺติ สติปฏฺานาทิเก สภาวธารณาทินา อตฺเถน ธมฺโม เจว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ อปฺปฏิเสธนียํ. กสฺมา? ชนกสฺส ภควโต ธมฺมิสฺสรตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺธตฺตา, ชฺสฺส จ อนุตฺตรตฺตา โกณฺฑฺาทีนฺเจว อฏฺารสพฺรหฺมโกฏิยา จ จตุสจฺจปฏิเวธสาธนโต จ. ‘‘เกน อปฺปฏิวตฺติย’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สมเณน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สมเณนาติ ปพฺพชฺชมตฺตูปคเตน ¶ . พฺราหฺมเณนาติ ชาติพฺราหฺมเณน. ปรมตฺถานฺหิ สมณพฺราหฺมณานํ ปฏิเสธเน จิตฺตุปฺปาทานุปฺปชฺชนมฺปิ นตฺถิ. เทเวนาติ ฉกามาวจรเทเวน. พฺรหฺมุนาติ รูปพฺรหฺมา คหิตา. ‘‘สมเณน วา ¶ …เป… พฺรหฺมุนา’’ติ เอตฺตกเมว อวตฺวา‘‘เกนจี’’ติ วุตฺตวจเนน อวเสสขตฺติยคหปติปริสชนา สงฺคหิตา. ตสฺมา ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสา อฏฺวิธาปิ ปฏิเสเธตุํ อสมตฺถาเยวาติ เวทิตพฺพา. โลกสฺมินฺติ สตฺตสมูเห ธมฺมจกฺกาธาเร.
‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ คาถานุรูปํ ธมฺมจกฺกสุตฺเต ปทานิ วิภชนฺโต ‘‘ตตฺถ อปริมาณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ธมฺมจกฺกเทสนายํ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓ อาทโย; ปฏิ. ม. ๒.๓๐). ‘‘อปริมาณา อกฺขรา อปริมาณา ปทา’’ติ อวตฺวา ‘‘อปริมาณา ปทา อปริมาณา อกฺขรา’’ติ อุปฺปฏิปาฏิวจเนหิ เยภุยฺเยน ปทสงฺคหิตานีติ ทสฺเสติ. ปทา, อกฺขรา, พฺยฺชนาติ จ ลิงฺควิปลฺลาสานีติ ทฏฺพฺพานิ. เอตสฺเสว อตฺถสฺสาติ วตฺตพฺพาการสฺส จตุสจฺจสงฺขาตสฺส อตฺถสฺเสว สงฺกาสนา ปกาสนา ปกาสนากาโร ปฺตฺตากาโรติ อาการวนฺตอาการสมฺพนฺเธ สามิวจนํ. สงฺกาสนากาโรติ จ สงฺกาสนียสฺส อตฺถสฺส อากาโร. เอส นโย เสเสสุปิ. อิติปีติ อิติ อิมินา ปกาเรนปิ, อิมินา ปกาเรนปิ อิทํ ชาติอาทิกํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.
อยนฺติ กามตณฺหาทิเภทา อยํ ตณฺหา. ทุกฺขสมุทโยติ ทุกฺขนิพฺพตฺตนสฺส เหตุภาวโต ทุกฺขสมุทโย. อยนฺติ สพฺพสงฺขตโต นิสฺสฏา อยํ อสงฺขตา ธาตุ. ทุกฺขนิโรโธติ ชาติอาทิปฺปเภทสฺส ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนนิโรธปจฺจยตฺตา ทุกฺขนิโรโธ. อยนฺติ สมฺมาทิฏฺาทิโก อฏฺงฺคิโก อริโย มคฺโค. ทุกฺขนิโรธภูตํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน คตตฺตา, ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา ปฏิปทาภาวโต จ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา. เสสํ วุตฺตนยเมว.
‘‘ตตฺถ อปริมาณา’’ติอาทินา พฺยฺชนปทอตฺถปทานิ วิภชิตฺวา เตสํ อฺมฺํ วิสยิวิสยภาเวน สมฺพนฺธภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ภควา กึ สามฺเหิ อกฺขราทีหิ สงฺกาเสติ วา ปกาเสติ วา, อุทาหุ ยถารหํ สงฺกาเสติ ปกาเสตีติอาทิวิจารณาย สมฺภวโต วิสยวิสยิภาเวน สมฺพนฺธภาวํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติ กสฺมา เอวํ วุตฺตํ, นนุ ‘‘ทุกฺขสจฺจ’’นฺติอาทีสุ ¶ ปเทเนว ทุกฺขสจฺจตฺถตฺตาทิโก สงฺกาสิตพฺโพติ? สจฺจํ, ปทาวยวสฺส ปน อกฺขรสฺส คหณมุเขเนว อกฺขรสมุทายสฺสปิ ปทสฺส ¶ คหณํ โหติ, ปเท คหิเต จ ทุกฺขสจฺจตฺถาทิกาวโพโธ โหตฺเวว, เอวํ สติ ปเทเนว สิชฺฌนโต อกฺขโร วิสุํ น คเหตพฺโพติ? น, ทุกฺขสจฺจตฺถาทิกาวโพธสฺส วิเสสุปฺปตฺติภาวโต. ทุ-อิติ อกฺขเรน หิ อเนกุปทฺทวาธิฏฺานภาเวน กุจฺฉิตตฺโถ คหิโต, ข-อิติ อกฺขเรน ธุวสุภสุขตฺตภาววิรเหน ตุจฺฉตฺโถติ เอวมาทิกาวโพธสฺส วิเสสุปฺปตฺติ ภวติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปทตฺถคหณสฺส วิเสสาธานํ ชายตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๙). ปทปริโยสาเน วากฺยปริโยสานาภาวโต อกฺขเรหิ สํขิตฺเตน ทีปิยมาโน อตฺโถ ปเทหิ ปกาสิโตวาติ วุตฺตํ ‘‘ปเทหิ ปกาเสตี’’ติ. วากฺยปริโยสาเน ปน สงฺกาสิโต ปกาสิโต อตฺโถ วิวริโต วิวโฏ กโตวาติ วุตฺตํ. ‘‘พฺยฺชเนหิ วิวรตี’’ติ. ปกาเรหิ จ วากฺยเภเท กเต โส อตฺโถ วิภตฺโต นามาติ วุตฺตํ ‘‘อากาเรหิ วิภชตี’’ติ. วากฺยาวยวานํ ปทานํ ปจฺเจกํ นิพฺพจนวิภาเค กเต โส อตฺโถ ปากโฏ กโตวาติ วุตฺตํ ‘‘นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกโรตี’’ติ. กตนิพฺพจเนหิ วากฺยาวยเวหิ วิตฺถารวเสน นิรวเสสโต เทสิเตหิ เวเนยฺยสตฺตานํ จิตฺเต ปริสมนฺตโต โตสนํ โหติ, ปฺาเตชนฺจาติ อาห ‘‘นิทฺเทเสหิ ปฺเปตี’’ติ.
‘‘ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทีสุ ‘‘ภควา เอวา’’ติ วา ‘‘อกฺขเรหิ เอวา’’ติ วา อวธารเณ โยชิเต ‘‘สาวโก น สงฺกาเสติ, ปทาทีหิ น สงฺกาเสตี’’ติ อตฺโถ ภเวยฺย, สาวโก จ สงฺกาเสติ, ปทาทีหิ จ สงฺกาเสติ. กตฺถ อวธารณํ โยเชตพฺพนฺติ เจ? ‘‘ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาเสติเยวา’’ติ อวธารณํ โยเชตพฺพํ. เอวฺหิ สติ สาวเกน สงฺกาสิโต วา ปทาทีหิ สงฺกาสิโต วา อตฺโถ สงฺคหิโต โหติ. อตฺถปทานฺจ อกฺขราทินานาวิสยตา สิทฺธา โหติ. เตน เอกานุสนฺธิเก สุตฺเต ฉเฬว อตฺถปทานิ นิทฺธาเรตพฺพานิ, อเนกานุสนฺธิเก สุตฺเต อนุสนฺธิเภเทน วิสุํ วิสุํ ฉ ฉ อตฺถปทานิ นิทฺธาเรตพฺพานิ.
‘‘ฉสุ ¶ พฺยฺชนปเทสุ กตเมน พฺยฺชนปเทน กตมํ กิจฺจํ สาเธตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมินา อิทํ กิจฺจํ, อิมินา อิทํ กิจฺจํ สาเธตี’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ จ ปเทหิ จ อุคฺฆเฏตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ อกฺขราทีสุ พฺยฺชนปเทสุ. อุคฺฆเฏตีติ อุคฺฆฏนกิจฺจํ สาเธตีติ อตฺโถ. กิฺจาปิ เทสนาว อุคฺฆฏนกิจฺจํ สาเธติ, ภควา ปน เทสนาชนกตฺตา อุคฺฆฏนกิจฺจํ สาเธตีติ วุจฺจติ. เสเสสุปิ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
‘‘อุคฺฆฏนกิจฺจสาธิกา เทสนาเยว กึ วิปฺจนวิตฺถารณกิจฺจสาธิกา เทสนาชนกตฺตา, อุทาหุ วิสุํ วิสุํ กิจฺจสาธิกา อฺา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต วิสุํ วิสุํ กิจฺจสาธิกา อฺา ¶ เทสนาติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ อุคฺฆฏนา อาที’’ติอาทิมาห. อถ วา ‘‘กตมา อุคฺฆฏนา, กตมา วิปฺจนา, กตมา วิตฺถารณา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ อุคฺฆฏนา อาที’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ อุคฺฆฏนาทิกิจฺจสาธิกาสุ เทสนาสุ. อุคฺฆฏนาติ อุคฺฆฏนกิจฺจสาธิกา เทสนา อาทิเทสนา โหติ. วิปฺจนาติ วิปฺจนกิจฺจสาธิกา เทสนา มชฺเฌเทสนา โหติ. วิตฺถารณาติ วิตฺถารณกิจฺจสาธิกา เทสนา ปริโยสานเทสนา โหตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
‘‘อุคฺฆฏิยนฺโต อุทฺทิสิยมาโน ปริยตฺติอตฺถภูโต ธมฺมวินโย กตมํ ปุคฺคลํ วิเนติ, วิปฺจิยนฺโต นิทฺทิสิยมาโน ปริยตฺติอตฺถภูโต ธมฺมวินโย กตมํ ปุคฺคลํ วิเนติ, วิตฺถาริยนฺโต ปฏินิทฺทิสิยมาโน ปริยตฺติอตฺถภูโต ธมฺมวินโย กตมํ ปุคฺคลํ วิเนตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โสยํ ธมฺมวินโย’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ ‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’ติอาทีนํ ฉนฺนํ พฺยฺชนปทานํ พฺยาปารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺถปทานํ พฺยาปารํ ทสฺเสตุํ ‘โสยํ ธมฺมวินโย’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๙) วุตฺตํ.
ตตฺถ อุคฺฆฏิยนฺโต อุทฺทิสิยมาโน อุทฺเทสปริยตฺติอตฺถภูโต โส อยํ ธมฺมวินโย อุคฺฆฏิตฺุปุคฺคลํ วิเนติ, เตน อุคฺฆฏิตฺุโน ปุคฺคลสฺส วินยเนน นํ อุคฺฆฏิยนฺตํ อุทฺทิสิยมานํ อุทฺเทสปริยตฺติอตฺถภูตํ วินยํ ‘‘อาทิกลฺยาโณ’’ติ อาหุ. วิปฺจิยนฺโต นิทฺทิสิยมาโน นิทฺเทสปริยตฺติอตฺถภูโต โส อยํ ธมฺมวินโย วิปฺจิตฺุปุคฺคลํ วิเนติ, เตน ¶ วิปฺจิตฺุปุคฺคลสฺส วินยเนน นํ วิปฺจิยนฺตํ นิทฺทิสิยมานํ นิทฺเทสปริยตฺติอตฺถภูตํ วินยํ ‘‘มชฺเฌกลฺยาโณ’’ติ อาหุ. วิตฺถาริยนฺโต ปฏินิทฺทิสิยมาโน ปฏินิทฺเทสปริยตฺติอตฺถภูโต โส อยํ ธมฺมวินโย เนยฺยํ ปุคฺคลํ วิเนติ วินยนํ ชเนติ, เตน เนยฺยสฺส ปุคฺคลสฺส วินยเนน นํ วิตฺถาริยนฺตํ ปฏินิทฺทิสิยมานํ ปฏินิทฺเทสปริยตฺติอตฺถภูตํ วินยํ ‘‘ปริโยสานกลฺยาโณ’’ติ อาหูติ โยชนตฺโถติ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทินา ฉนฺนํ ปทานํ พฺยาปาโร ทสฺสิโต, เอวํ สติ อตฺโถ นิพฺยาปาโร สิยา, อตฺโถ จ นิปฺปริยายโต สพฺยาปาโรเยวาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘โสยํ ธมฺมวินโย’’ติอาทิ. เอเตน อตฺโถเยว มุขฺยโต เวเนยฺยตฺตยสฺส วินยนกิจฺจํ สาเธติ, อตฺถวาจโก ปน สทฺโท านูปจารโต เวเนยฺยตฺตยสฺส วินยนกิจฺจํ สาเธตีติ ทสฺเสติ. ปทปรมสฺส ปน สจฺจปฺปฏิเวธสฺส ปติฏฺานาภาวโต โส อิธ น วุตฺโต. เสกฺขคฺคหเณน วา กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส วิย เนยฺยคฺคหเณน ปทปรมสฺส ปุคฺคลสฺสาปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ ¶ . อกฺขเรหีติอาทีสุ กรณตฺเถ กรณวจนํ, น เหตฺวตฺเถ. อกฺขราทีนฺหิ อุคฺฆฏนาทีนิ ปโยชนานิเยว โหนฺติ, น อุคฺฆฏนาทีนํ อกฺขราทีนิ ปโยชนานีติ ‘‘อนฺเนน วสตี’’ติอาทีสุ วิย น เหตุอตฺโถ คเหตพฺโพ. ตตฺถ หิ อนฺเนน เหตุนา วสติ, วสเนน เหตุนา อนฺนํ ลทฺธนฺติ วสนกิริยาย ผลํ วสนกิริยาย เหตุภาเวน คหิตํ. ‘‘อชฺเฌสเนน วสตี’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เตนาห ‘‘ยทตฺถา จ กิริยา, โส เหตู’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๙). ตตฺถ ยทตฺถาติ โส อนฺนาทิโก อตฺโถ ยสฺสา วสนาทิกิริยายาติ ยทตฺถา, วสนาทิกิริยา, โส อนฺนาทิโก อตฺโถ ตสฺสา วสนาทิกิริยาย เหตูติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๐. ‘‘ตตฺถ อปริมาณา ปทา’’ติอาทินา ‘‘ธมฺมํ โว ภิกฺขเว เทเสสฺสามี’’ติ อุทฺทิฏฺาย ปาฬิยา ทฺวาทสปทสมฺปตฺติสงฺขาตํ ติวิธกลฺยาณตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ฉอตฺถปทฉพฺยฺชนปทเภเทน สมฺปตฺติสงฺขาตํ อตฺถปทพฺยฺชนปทกลฺยาณตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ฉปฺปทานิ อตฺโถ’’ติอาทิมาห. อถ วา ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตานุรูปํ ‘‘ตตฺถ อปริมาณา’’ติอาทินา ‘‘ธมฺมํ โว ภิกฺขเว เทเสสฺสามี’’ติ อุทฺทิฏฺาย ปาฬิยา ทฺวาทสปทตา ¶ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ วุตฺตานุรูปํ ‘‘ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ จา’’ติอาทินา ตสฺสา ปาฬิยา ติวิธกลฺยาณตา ทสฺสิตา, ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธ’’นฺติ วุตฺตานุรูปํ ตสฺสา ปาฬิยา ฉอตฺถปทพฺยฺชนปทสมฺปนฺนตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ฉปฺปทานิ อตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ติสฺสํ เทสนาหารวิสยสงฺขาตายํ ปาฬิยํ ฉปฺปทานิ อตฺโถ. กตมานิ ฉปฺปทานิ? สงฺกาสนา, ปกาสนา, วิวรณา, วิภชนา, อุตฺตานีกมฺมํ, ปฺตฺติ อิมานิ ฉปฺปทานิ. อตฺโถ ยสฺส อตฺถิ ตสฺมา สาตฺถํ. ตตฺถาติ ติสฺสํ เทสนาหารวิสยสงฺขาตายํ ปาฬิยํ ฉปฺปทานิ พฺยฺชนํ. กตมานิ ฉปฺปทานิ? อกฺขรํ, ปทํ, พฺยฺชนํ, อากาโร, นิรุตฺติ, นิทฺเทโส อิมานิ ฉปฺปทานิ. พฺยฺชนํ ยสฺส อตฺถีติ สพฺยฺชนนฺติ โยชนา กาตพฺพา. เตนาติ ตสฺสา ปาฬิยา ติวิธกลฺยาณฉอตฺถปทสมฺปนฺนฉพฺยฺชนปทสมฺปนฺนฏฺเน, ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว…เป… สุทฺธ’’นฺติ ภควา อาหาติ อตฺโถ.
เกวลสทฺทสฺส สกลาทิอตฺถวาจกตฺตา อธิปฺเปตตฺถํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เกวลนฺติ โลกุตฺตรํ น มิสฺสํ โลกิเยหิ ธมฺเมหี’’ติ วุตฺตํ. ปริปุณฺณนฺติ อธิปฺเปตตฺเถ เอโกปิ อตฺโถ อูโน นตฺถิ, วาจกสทฺเทสุปิ อนตฺถโก เอโกปิ สทฺโท อธิโก นตฺถีติ ปริปุณฺณํ อนูนํ อนติเรกํ. ปริสุทฺธนฺติ สทฺทโทสอตฺถโทสาทิวิรหโต วา ปริสุทฺธํ, ราคาทิมลวิรหโต วา ปริโยทาตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิเสสานํ อุปฏฺิตฏฺานตฺตา ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ. นิคฺคตํ มลํ เอตสฺส ธมฺมสฺสาติ ¶ นิมฺมลํ. สทฺทโทสาทิวิรหโต วา ราคาทิวิรหโต วา สพฺพมเลหิ อปคตํ ปริ สมนฺตโต โอทาตนฺติ ปริโยทาตํ. อุปฏฺิตนฺติ อุปติฏฺนฺติ เอตฺถ สพฺพวิเสสาติ อุปฏฺิตํ ยถา ‘‘ปทกฺกนฺต’’นฺติ. ปทกฺกนฺตํ ปทกฺกนฺตฏฺานํ. วิสิสนฺติ มนุสฺสธมฺเมหีติ วิเสสา, สพฺเพ วิเสสา สพฺพวิเสสา, สพฺพโต วา วิเสสาติ สพฺพวิเสสา, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมา. เตสํ สพฺพวิเสสานํ อุปฏฺิตนฺติ โยชนา. อิทนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนพฺรหฺมจริยํ. ตถาคตสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปทนฺติ ตถาคตปทํ. ปทนฺติ จ ปฏิปตฺติคมเนน วา เทสนาคมเนน วา กิเลสคฺคหณํ. โอตฺถริตฺวา คมนฏฺานํ อิติปิ วุจฺจติ ปวุจฺจติ, ตถาคเตน โคจราเสวเนน วา ภาวนาเสวเนน วา นิเสวิตํ ภชิตํ อิติปิ วุจฺจติ, ตถาคตสฺส มหาวชิราณสพฺพฺุตฺาณทนฺเตหิ ¶ อารฺชิตํ อารฺชิตฏฺานํ อิติปิ วุจฺจติ, อโต ตถาคตปทาทิภาเวน วตฺตพฺพภาวโต เอตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ อิติ ปฺายติ. พฺรหฺมจริยนฺติ พฺรหฺมุโน สพฺพสตฺตุตฺตมสฺส ภควโต จริยํ, พฺรหฺมํ วา สพฺพเสฏฺํ จริยํ พฺรหฺมจริยํ. ปฺายตีติ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ ายตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘‘อิมสฺส สิกฺขตฺตยสฺส สงฺคหสฺส สาสนสฺส ปริปุณฺณภาวปริสุทฺธภาวสงฺขาตํ ตถาคตปทภาวํ!ตถาคตปทภาวํ, ตถาคตนิเสวิตภาวํ, ตถาคตอารฺชิตภาวํ, เตหิ ปกาเรหิ าปิตภาวํ กถํ มยํ นิกฺกงฺขา ชานิสฺสามา’’ติ วตฺตพฺพโต ‘‘เตนาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตพฺภาวทีปเกน ภควตา วุตฺเตน วจเนน ตุมฺเหหิ นิกฺกงฺเขหิ ชานิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
ยทิ ภควา อกฺขเรหิ จ ปเทหิ จ อุคฺฆเฏติ, พฺยฺชเนหิ จ อากาเรหิ จ วิปฺจยติ, นิรุตฺตีหิ จ นิทฺเทเสหิ จ วิตฺถาเรติ, เอวํ สติ อาจริเยน รจิเตน เทสนาหาเรน ปโยชนํ น ภวติ, เทสนาหาเรน น วินา ภควโต เทสนายเมว อตฺถสิชฺฌนโตติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘เกสํ อยํ ธมฺมเทสนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โยคีน’’นฺติ อาห. ตตฺถ โยคีนนฺติ ยุชฺชนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนายนฺติ โยคิโน, เตสํ โยคีนํ. เตน มยา รจิเตน เทสนาหาเรน สํวณฺณิตา อยํ วุตฺตปฺปการา ภควโต เทสนา อุคฺฆฏนาทิกิจฺจํ สาเธตีติ เทสนาหาโร โยคีนํ สาตฺถโกเยวาติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘เทสนาหารสฺส อสฺสาทาทิเทสนาหารภาโว เกน อมฺเหหิ ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห อายสฺมา…เป… เทสนาหาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน อสฺสาทาทิเทสนาหารภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘อสฺสาทาทีนวตา…เป… เทสนาหาโร’’ติ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน ตุมฺเหหิ เทสนาหารสฺส โยคีนํ อสฺสาทาทิเทสนาหารภาโว ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘กึ ¶ ปน เอตฺตาวตา เทสนาหาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต เทสนาหาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺสํ เทสนายํ อสฺสาทาทโย เยน เทสนาหาเรน นิทฺธาริตา, ตสฺสํ เทสนายํ ¶ โส เทสนาหาโร นิทฺธาเรตฺวา โยชิโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ.
อิติ เทสนาหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๒. วิจยหารวิภงฺควิภาวนา
๑๑. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน เทสนาหารวิภงฺเคน อสฺสาทาทโย สุตฺตตฺถา อาจริเยน วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต เทสนาหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม วิจโย หาโร’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม วิจโย หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ หาเรสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส วิจโย หาโร วิจยหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘ยํ ปุจฺฉิตฺจ วิสฺสชฺชิตฺจา’’ติอาทินิทฺเทสคาถาย อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อยํ วิจโย หาโร กึ วิจินตี’’ติอาทิโก สํวณฺณนาวิเสโส วิจยหารวิภงฺโค นามาติ โยชนา.
‘‘อยํ วิจโย หาโร กึ วิจินตี’’ติ อิมินา โย วิจโย วิจินิตพฺโพ, ตํ วิจยํ วิจินิตพฺพํ ปุจฺฉติ, ตสฺมา วิจินิตพฺพํ วิสยํ วิสุํ วิสุํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ปทํ วิจินติ, ปฺหํ วิจินตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘กึ วิจโย ปทวิจโย’’ติอาทึ อวตฺวา ‘‘กึ วิจินติ, ปทํ วิจินตี’’ติอาทิวจเนน วิจยสทฺทสฺส กตฺตุสาธนตฺถํ ทสฺเสติ. ตตฺถ ปทํ วิจินตีติ นววิธสฺส สุตฺตนฺตสฺส สพฺพํ ปทํ ยาว นิคมนา นามปทาทิชาติสทฺทาทิอิตฺถิลิงฺคาทิอาการนฺตาทิปมวิภตฺยนฺตาทิเอกวจนาทิวเสน วิจินติ. ปฺหํ วิจินตีติ อทิฏฺโชตนาทิสตฺตาธิฏฺานาทิสมฺมุติวิสยาทิอตีตวิสยาทิวเสน วิจินติ. วิสฺสชฺชนํ วิจินตีติ เอกํสพฺยากรณวิสฺสชฺชนาทิสาวเสสพฺยากรณวิสฺสชฺชนาทิ สอุตฺตรพฺยากรณ วิสฺสชฺชนาทิ โลกิยพฺยากรณวิสฺสชฺชนาทิวเสน วิจินติ. ปุพฺพาปรํ วิจินตีติ ¶ ปุพฺเพน อปรํ สํสนฺทิตฺวา ¶ วิจินติ. อสฺสาทํ วิจินตีติ อสฺสาทกตณฺหาทิอสฺสาเทตพฺพสุขาทิวเสน วิจินติ. อาทีนวํ วิจินตีติ ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขวเสน วา อนิฏฺานุภวนาทิอาทิอนฺตวนฺตตาทิสํกิเลสภาคิยาทิวเสน วา วิจินติ. นิสฺสรณํ วิจินตีติ มคฺควเสน วา นิพฺพานวเสน วา มคฺคสฺส วา อาคมวเสน, นิพฺพานสฺส อสงฺขตธาตุอาทิปริยายวเสน วา วิจินติ. ผลํ วิจินตีติ ธมฺมจรณสฺส ทุคฺคติคมนาภาเวน วา มจฺจุตรณาทินา วา เทสนาย ผลํ, เทสนานุสาเรน จรณสฺส ผลํ วิจินติ. อุปายํ วิจินตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสน ปวตฺตนนิพฺพิทาาณาทิวเสน วา สทฺธาสติวเสน วา วิสุทฺธิยา อุปายํ วิจินติ. อาณตฺตึ วิจินตีติ ปาปปริวชฺชนาณตฺติวเสน วา โลกสฺส สฺุตาเปกฺขนาณตฺติวเสน วา วิจินติ. อนุคีตึ วิจินตีติ วุตฺตานุคีติวเสน วา วุจฺจมานานุคีติวเสน วา อนุรูปํ คีตึ วิจินติ. สพฺเพ นว สุตฺตนฺเต วิจินตีติ สุตฺตเคยฺยาทิเก นว สุตฺเต อาหจฺจวจนวเสน วา อนุสนฺธิวจนวเสน วา นีตตฺถวจนวเสน วา เนยฺยตฺถวจนวเสน วา สํกิเลสภาคิยาทิวเสน วา วิจินติ.
กิฺจาปิ ปทวิจโย ปมํ วิภตฺโต, สุตฺตสฺส ปน อนุปทํ วิจินิตพฺพตาย อติภาริโย, น สุกโร ปทวิจโยติ ตํ อคฺคเหตฺวา ปฺหาวิจยวิสฺสชฺชนวิจเย ตาว วิภชนฺโต ‘‘ยถา กึ ภเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยถา กึ ภเวติ เยน ปกาเรน โส ปฺหาวิจโย ปวตฺเตตพฺโพ, ตํ ปการชาตํ กีทิสํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อายสฺมา อชิโต ปารายเน ภควนฺตํ ปฺหํ ยถา เยน ปกาเรน ปุจฺฉติ, ตถา เตน ปกาเรน ปฺหาวิจโย ปวตฺเตตพฺโพติ อตฺโถ. ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ. อชิโตติ พาวรีพฺราหฺมณสฺส ปริจารกภูตานํ โสฬสนฺนํ อฺตโร อชิโต. ปารายเนติ ปารํ นิพฺพานํ อยติ คจฺฉติ เอเตนาติ ปารายนํ, อชิตสุตฺตาทิโสฬสสุตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ.
‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, (อิจฺจายสฺมา อชิโต,)
เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;
กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึ สุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๐๓๘; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๕๗, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑) –
คาถาย ¶ ‘‘เกน ธมฺเมน โลโก อริยวชฺโช สตฺโต นิวุโต ปฏิจฺฉาทิโต, อิติ อายสฺมา อชิโต ¶ ปุจฺฉติ. เกน เหตุนา ยถาวุตฺตโลโก นปฺปกาสติ, อสฺส ยถาวุตฺตโลกสฺส กึ อภิเลปนํ อิติ ตฺวํ พฺรูสิ, ตสฺส ยถาวุตฺตโลกสฺส กึ มหพฺภยนฺติ ตฺวํ พฺรูสีติ ปุจฺฉตี’’ติ อตฺโถ.
อิติ อิมินา ปเภเทน จตฺตาริ อิมานิ คาถาปาทปทานิ ปุจฺฉิตานิ ปุจฺฉาวเสน วุตฺตานิ, ปุจฺฉิตตฺถทีปกานิ วา, ปธานวเสน ปน โส ‘‘เอโก ปฺโห’’ติ มโต, ยทิปิ จตุนฺนํ ปทานํ ปุจฺฉนวเสน ปวตฺตตฺตา จตุพฺพิโธติ วตฺตพฺโพ, าตุํ ปน อิจฺฉิตสฺส เอกสฺเสว อตฺถสฺส สมฺภวโต ‘‘เอโก ปฺโห’’ติ วุตฺตํ. ‘‘การณํ วเทหี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา การณมาห ‘‘เอกวตฺถุปริคฺคหา’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยทิปิ นิวารณาปกาสนาภิเลปนมหพฺภยสงฺขาตา จตฺตาโร อตฺถา ปุจฺฉายํ คหิตา, เอกสฺส ปน อภิเธยฺยตฺถสฺส คหณโต ‘เอโก ปฺโห’ติ ปธานวเสน คหิโตติ ทฏฺพฺโพ’’ติ. ‘‘เอกวตฺถุปริคฺคหณํ กถํ อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เอวฺหิ อาหา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ เอกวตฺถุปริคฺคหเณเนว ภควา หิ ยสฺมา อาห, อิติ ตสฺมา เอกวตฺถุปริคฺคหณํ ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ อิมินา โลกาธิฏฺานํ ปฏิจฺฉาทนํ ปุจฺฉติ, น นานาธมฺมาธิฏฺานํ. ‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ อิมินา โลกสฺเสว อปฺปกาสนํ ปุจฺฉติ, น นานาสภาวธมฺมสฺส. ‘‘กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี’’ติ อิมินา โลกสฺเสว อภิเลปนํ ปุจฺฉติ, น นานาสภาวธมฺมสฺส. ‘‘กึ สุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ อิมินา ตสฺเสว โลกสฺส มหพฺภยํ ปุจฺฉติ, น นานาสภาวธมฺมสฺส. ตสฺมา ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติอาทิปฺโห เอกาธิฏฺานนานาธิฏฺาเนสุ เอกาธิฏฺาโน, ธมฺมาธิฏฺานสตฺตาธิฏฺาเนสุ สตฺตาธิฏฺาโน, อทิฏฺโชตนาทีสุ อทิฏฺโชตนาปฺโหติอาทินา ยถาสมฺภวํ วิจินิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
‘‘ปฺหสฺส โย โลโก ‘อธิฏฺาโน’ติ คหิโต, โส โลโก ติวิโธ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘โลโก ติวิโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตโย วิธา เอตสฺส โลกสฺสาติ ติวิโธ. กิลิสฺสติ ราคาทิวเสน กามาวจรสตฺโตติ กิเลโส, กิเลโส จ โส โลโก ¶ จาติ กิเลสโลโก, กามาวจรสตฺโต. โส หิ ราคาทิกิเลสพหุลตาย กิเลสโลโกติ. ภวติ ฌานาภิฺาหิ พุทฺธีหีติ ภโว, ภโว จ โส โลโก จาติ ภวโลโก, รูปาวจรสตฺโต. โส หิ ฌานาทิพุทฺธีหิ ภวตีติ. อินฺทฺริเยน สมนฺนาคโตติ อินฺทฺริโย, อินฺทฺริโย จ โส โลโก จาติ อินฺทฺริยโลโก, อรูปาวจรสตฺโต. โส หิ อาเนฺชสมาธิพหุลตาย วิสุทฺธินฺทฺริโย โหตีติ โลกสมฺา ปริยาปนฺนธมฺมวเสน ปวตฺตา, ตสฺมา อริยา น คหิตาติ.
‘‘เกนสฺสุ ¶ นิวุโต โลโก’’ติอาทิคาถาย ปุจฺฉาวิจโย หาโร อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘วิสฺสชฺชนาวิจโย หาโร กตฺถ วิสฺสชฺชนาย วิภตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ วิสฺสชฺชนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติอาทิปุจฺฉายํ –
‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, (อชิตาติ ภควา,)
วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;
ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๐๓๙; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๕๘, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส) –
อยํ คาถา วิสฺสชฺชนาติ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ อวิชฺชาย นิวุโต โลโกติ กาฬปกฺขจตุทฺทสี, ฆนวนสณฺฑ, เมฆปฏลจฺฉาทน, อฑฺฒรตฺตีนํ วเสน จตุรงฺคสมนฺนาคเตน อนฺธกาเรน รถฆฏาทิ ปฏิจฺฉาทิโต วิย ธมฺมสภาวปฏิจฺฉาทนลกฺขณาย อวิชฺชาย สตฺตโลโก นิวุโต ปฏิจฺฉาทิโต. ‘‘อชิตา’’ติ จ อาลปนํ กตฺวา ภควา อาห. วิวิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉาย ปมาทเหตุ ยถาวุตฺตโลโก นปฺปกาสติ. ชปฺปํ ตณฺหํ ยถาวุตฺตโลกสฺส ‘‘อภิเลปน’’นฺติ อหํ พฺรูมีติ ภควา อาห, ทุกฺขํ ชาติอาทิวฏฺฏทุกฺขํ อสฺส ยถาวุตฺตโลกสฺส ‘‘มหพฺภย’’นฺติ อหํ พฺรูมีติ ภควา อชิตํ อาหาติ อตฺโถ.
‘‘อิมาย วิสฺสชฺชนาย กถํ วิจิเนยฺยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมานิ จตฺตาริ ปทานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมานิ จตฺตาริ ปทานีติ ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติอาทิปุจฺฉาคาถายํ วุตฺตานิ คาถาปทานิ. อิเมหิ จตูหิ ปเทหีติ ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ วิสฺสชฺชนาคาถายํ วุตฺเตหิ คาถาปเทหิ วิสฺสชฺชิตานิ. กถํ? ปมํ ปทํ ปเมน ปเทน, ทุติยํ ปทํ ¶ ทุติเยน ปเทน, ตติยํ ปทํ ตติเยน ปเทน, จตุตฺถํ ปทํ จตุตฺเถน ปเทน วิสฺสชฺชิตํ.
‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปมปฺเห‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ ปมา วิสฺสชฺชนา กตา, น อุปฺปฏิปาฏิยา. วิชฺชาย ปฏิปกฺขา อวิชฺชา, ตสฺมา อวิชฺชาย อชานโก โลโก ภเวยฺย. กถํ นิวุโต สทฺทหิตพฺโพติ อาห ‘‘นีวรเณหิ นิวุโต โลโก’’ติ. ยทิ เอวํ ‘‘นีวรเณน นิวุโต โลโก’’ติ วิสฺสชฺชนา กาตพฺพาติ โจทนํ มนสิ ¶ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา’’ติ. ‘‘สพฺพสตฺตานํ อวิชฺชานีวรณภาโว เกน วจเนน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘สพฺพสตฺตานํ, ภิกฺขเว, สพฺพปาณานํ สพฺพภูตานํ, ปริยายโต เอกเมว นีวรณํ วทามิ, ยทิทํ อวิชฺชา. อวิชฺชานีวรณา หิ สพฺเพ สตฺตา. สพฺพโสว ภิกฺขเว อวิชฺชาย นิโรธา จาคา ปฏินิสฺสคฺคา นตฺถิ สตฺตานํ นีวรณนฺติ วทามี’’ติ ยํ วจนํ ยถา เยน ปกาเรน ภควา อาห, ตถา เตน ปกาเรน วุตฺเตน เตน วจเนน ตุมฺเหหิ สพฺพสตฺตานํ อวิชฺชานีวรณภาโว สทฺทหิตพฺโพติ.
‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ ปเทน ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปมสฺเสว ปทสฺส วิสฺสชฺชนา น สิยา, ‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ ทุติยปทสฺสาปิ วิสฺสชฺชนา สิยาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘เตน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ ปเทน ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปมสฺส ปทสฺส วิสฺสชฺชนา ยุตฺตา ยุตฺตตรา โหติ, ยุตฺตตรตฺตา ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปฺเห ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ วิสฺสชฺชนาติ มยา วตฺตพฺพาเยวาติ อธิปฺปาโย.
‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ อิมสฺมึ ปฺเห ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตี’’ติ อยํ วิสฺสชฺชนา กาตพฺพา, วิวิจฺฉาย ปวตฺตตฺตา, ปมาทา จ โลโก นปฺปกาสตีติ อตฺโถ. อวิชฺชานีวรณาย นิวุโต โลโก นปฺปกาสตีติ วิสฺสชฺชนา กาตพฺพา, ‘‘กถํ วิวิจฺฉา ปมาทา โลโก นปฺปกาสตีติ วิสฺสชฺชนา กตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โย ปุคฺคโล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย ปุถุชฺชนภูโต ปุคฺคโล อวิชฺชานีวรเณหิ ¶ นิวุโต, โส ปุถุชฺชนภูโต ปุคฺคโล วิวิจฺฉาย วิวิจฺฉติ. ‘‘ยาย วิวิจฺฉาย วิวิจฺฉติ, สา วิวิจฺฉา กตมา นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘วิวิจฺฉา นาม วุจฺจติ วิจิกิจฺฉา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตาย กสฺมา นปฺปกาสตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โส วิจิกิจฺฉนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตาย วิจิกิจฺฉนฺโต โส ปุถุชฺชนภูโต ปุคฺคโล สทฺทหิตพฺเพสุ นาภิสทฺทหติ; สทฺทหิตพฺเพสุ น อภิสทฺทหนฺโต อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยาย อารภิตพฺพํ วีริยํ นารภติ; อนารภนฺโต โส ปุคฺคโล อิธ โลเก ปมาทมนุยุตฺโต วิหรตีติ, ปมาเทน วิหรนฺโต ปมตฺโต ปุคฺคโล สุกฺเก ธมฺเม น อุปฺปาทิยติ; อนุปฺปาทยนฺตสฺส ตสฺส ปุคฺคลสฺส เต สุกฺกา ธมฺมา อนุปฺปาทิยมานา หุตฺวา นปฺปกาสนฺติ ปกาสนวเสน น ปวตฺตนฺติ; ตสฺมา ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา โลโก นปฺปกาสตี’’ติ วิสฺสชฺชนา กาตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
‘‘ตาทิสสฺส ¶ สุกฺกธมฺมานํ อปฺปกาสนภาโว อมฺเหหิ เกน วจเนน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ –
‘‘ทูเร สนฺโต ปกาสนฺติ, หิมวนฺโตว ปพฺพโต;
อสนฺเตตฺถ น ทิสฺสนฺติ, รตฺตึ ขิตฺตา ยถา สรา;
เต คุเณหิ ปกาสนฺติ, กิตฺติยา จ ยเสน จา’’ติ. –
ยํ คาถาปาํ ภควา ยถา เยน อปฺปกาสนากาเรน อาห, ตถา เตน อปฺปกาสนากาเรน วุตฺเตน เตน คาถาปาเน ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส สุกฺกธมฺมานํ อปฺปกาสนภาโว ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพเยว, ตสฺมา ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา โลโก นปฺปกาสตี’’ติ วิสฺสชฺชนา กาตพฺพาวาติ อธิปฺปาโย.
คาถาตฺโถ ปน – หิมวนฺโต ปพฺพโต ทูเร ิโต ทูเร ิตานมฺปิ สจกฺขุกานํ ปุคฺคลานํ ปกาสติ อิว, เอวํ สนฺโต สปฺปุริสา ทูเร ิตานมฺปิ คุณวเสน ปวตฺตาย กิตฺติยา จ คุณวเสน ปวตฺเตหิ ยสปริโภคปริวาเรหิ จ ทูเร ิตานํ ปณฺฑิตานํ ปกาสนฺติ, รตฺติกาเล ขิตฺตา สรา อุสู น ทิสฺสนฺติ ยถา, เอตฺถ สตฺตโลเก วิวิจฺฉาปมาทานํ วเสน วิหรนฺโต อสนฺโต น ทิสฺสนฺติ. เย สนฺโต ปกาสนฺติ, เต สนฺโต คุเณหิ ปกาสนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เต คุเณหิ ปกาสนฺตี’’ติ วุตฺตํ ¶ . คุณา นาม อพฺภนฺตเร ชาตา, ‘‘กถํ คุเณหิ ปกาสนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กิตฺติยา จ ยเสน จา’’ติ วุตฺตํ. คุณานุภาเวน ปวตฺตาย กิตฺติยา จ คุณานุภาเวน ปวตฺเตน ยเสน จ ปกาสนฺตา ปุคฺคลา คุเณหิ ปกาสนฺตีติ วตฺตพฺพาวาติ.
ยทิ วิวิจฺฉาปมาทานํ วเสน นปฺปกาสติ, เอวํ สติ โลโก นิวุโต โหติ, ตสฺมา ปมสฺส ปทสฺสาปิ วิสฺสชฺชนา กาตพฺพาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘เตน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตนาติ ‘‘วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสตี’’ติ ปเทน ‘‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’’ติ ทุติยสฺส ปทสฺส วิสฺสชฺชนา ยุตฺตา ยุตฺตตราติ อตฺโถ. ปเทนาติ จ ปทตฺถฏฺเน วิสฺสชฺชนาติ อตฺโถ. ปทสฺสาติ ปทตฺถสฺส ปุจฺฉิตพฺพสฺสาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอส นโย เหฏฺา, อุปริ จ.
‘‘กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี’’ติ ปฺเห ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมี’’ติ วิสฺสชฺชนา ตสฺสา อชิเตน ทฏฺพฺพา. ‘‘กตมา ชปฺปา นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ชปฺปา นาม วุจฺจติ ตณฺหา’’ติ วุตฺตํ. สา ตณฺหา โลกํ อภิลิมฺปตีติ กถํ วิฺายตีติ โยชนา. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ. ตตฺถ ยถา เยน ตณฺหาย อภิเลปนภาเวน –
‘‘รตฺโต ¶ อตฺถํ น ชานาติ, รตฺโต ธมฺมํ น ปสฺสติ;
อนฺธํ ตมํ ตทา โหติ, ยํ ราโค สหเต นร’’นฺติ. –
ยํ คาถํ ภควา อาห, ตถา เตน อภิเลปนภาเวน วุตฺตาย ตาย คาถาย สา ตณฺหา โลกํ อภิลิมฺปตีติ วิฺายตีติ อธิปฺปาโย.
คาถายํ ปน – รชฺชติ สตฺโตติ รตฺโต, ราคสมงฺคีสตฺโต. การณํ ปฏิจฺจ อสติ ปวตฺตติ ผลนฺติ อตฺถํ, ผลํ. การณํ ผลํ ธาเรติ, ตํ การณํ ธมฺมํ นาม. อนฺธการํ อนฺธํ. ยนฺติ ยมฺหิ กาเล. ยนฺติ หิ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. ยมฺหิ กาเล ราโค นรํ ราคสมงฺคึ สหเต อภิภวติ, ตทา กาเล อนฺธํ อนฺธการํ ตมํ โหตีติ โยชนา. ราโค นรํ ยํ ยสฺมา สหเต, ตสฺมา อนฺธํ ตมํ ตทา โหตีติ วา, ราโค ยํ นรํ สหเต, ตสฺส นรสฺส อนฺธํ ตมํ ตทา โหตีติ วา, ราโค นรํ ยํ สหเต อภิภูยเต ยํ สหนํ อภิภวนํ นิปฺผาเทติ, ตํ สหนํ อภิภวนํ อนฺธํ อนฺธการํ ตมํ โหตีติ วา โยชนา.
‘‘ยทิ ¶ รตฺโต อตฺถาทิกํ น ชานาติ, เอวํ สติ กถํ ชปฺปาภิเลปนํ ภวตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สายํ ตณฺหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อารมฺมเณสุ อาสตฺติพหุลสฺส อาสงฺคพหุลสฺส ตณฺหาสมงฺคิสฺส ปุคฺคลสฺส สา อยํ ตณฺหา เอวํ พหุอาสงฺควเสน อภิชปฺปา ปริยุฏฺานฏฺายินี โหติ. อิติ กริตฺวา อิมินา การเณน ตตฺถ ตณฺหาย สตฺตโลโก เกนจิ สิเลเสน อภิลิตฺโต มกฺขิโต วิย ชปฺปาภิเลเปน อภิลิตฺโต นาม ภวตีติ โยชนา. ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ อปฺปกาสนสฺสปิ การณํ ภวติ, ตสฺมา ‘เกนสฺสุ นปฺปกาสตี’ติ ทุติยปทตฺถสฺสปิ วิสฺสชฺชนา สิยา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘ตสฺส โลกสฺส มหพฺภยํ กิ’’นฺติ อิมสฺมึ จตุตฺถปฺเห ‘‘อสฺส โลกสฺส ทุกฺขํ มหพฺภยํ ภเว’’ติ อยํ วิสฺสชฺชนา ตสฺสา อชิเตน ทฏฺพฺพา. ภายติ โลโก เอตสฺมาติ ภยํ, มหนฺตํ ภยํ มหพฺภยํ. ‘‘กติวิธํ ทุกฺข’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทุวิธํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ทฺเว วิธา อสฺส ทุกฺขสฺสาติ ทุวิธํ. ‘‘กตมํ ทุวิธํ ทุกฺข’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘กายิกฺจ เจตสิกฺจา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กตมํ กายิกํ, กตมํ เจตสิก’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ กายิกํ, อิทํ ทุกฺขํ ยํ เจตสิกํ, อิทํ โทมนสฺส’’นฺติ วุตฺตํ.
โรคาทิสตฺถาทิอนิฏฺรูปํ สตฺตโลกสฺส มหพฺภยํ ภเวยฺย, ‘‘กถํ ทุกฺขํ มหพฺภยํ ภเวติ สทฺทเหตพฺพ’’นฺติ ¶ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘สพฺเพ สตฺตา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺเพ สตฺตา ยถาวุตฺตสฺส ทุกฺขสฺส อุพฺพิชฺชนฺติ, ทุกฺเขน สมสมํ อฺํ ภยํ สตฺตานํ นตฺถิ, ทุกฺขโต อุตฺตริตรํ วา ปน ภยํ กุโต อตฺถิ. หิ ยสฺมา นตฺถิ, ตสฺมา ทุกฺขโต อฺสฺส ภยสฺส อภาวโต ‘‘ทุกฺขํ โลกสฺส มหพฺภย’’นฺติ วจนํ สทฺทหิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติอาทิวจเนน โรคาทิสตฺถาทิอนิฏฺรูปํ ทุกฺขมูลเมวาติ ทสฺเสติ. ‘‘กายิกเจตสิกวเสน ทุวิธํ ทุกฺขํ ทุกฺขเวทนาเยว, เอวํ สติ สงฺขารทุกฺขวิปริณามทุกฺขานํ มหพฺภยภาโว น อาปชฺเชยฺยา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ติสฺโส ทุกฺขตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘ติสฺโส ทุกฺขตา สพฺเพสํ สตฺตานํ สพฺพกาเลสุ อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กสฺสจิ น อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โลโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตาสุ ตีสุ ทุกฺขตาสุ. โลโกติ โภคสมฺปนฺโน เจว อปฺปาพาโธ ¶ จ สตฺตโลโก. โอธโส โอธิโส กทาจิ กรหจิ อตฺตูปกฺกมมูลาย ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจติ, กทาจิ ปรูปกฺกมมูลาย ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจติ, ตถา โอธโส โอธิโส กทาจิ กรหจิ ทีฆายุโก โลโก วิปริณามทุกฺขตาย มุจฺจติ, ‘‘เกน เหตุนา มุจฺจตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปุจฺฉํ เปตฺวา เหตุํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตฺตโลเก อปฺเปกจฺเจ อปฺปาพาธา โหนฺติ, เต โภคสมฺปนฺนตฺตา เจว อปฺปาพาธตฺตา จ ทุกฺขทุกฺขตาย มุจฺจนฺติ, วิเสสโต รูปาวจรสตฺตา มุจฺจนฺติ. อปฺเปกจฺเจ ทีฆายุกาปิ โหนฺติ, เต ทีฆายุกตฺตา วิปริณามทุกฺขตาย มุจฺจนฺติ; วิเสสโต อรูปาวจรสตฺตา มุจฺจนฺติ อรูปาวจรสตฺตานํ อุเปกฺขาสมาปตฺติพหุลตฺตา.
เตสํ ตาหิ ทุกฺขตาหิ มุจฺจนํ อเนกนฺติกํ โหติ, ตสฺมา ตาหิ อนติกฺกนฺตตฺตา อเนกนฺติกํ มุจฺจนํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ เอกนฺติกมุจฺจน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สงฺขารทุกฺขตาย ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขารทุกฺขตายาติ ทุกฺขเวทนาปิ สงฺขตตฺตา สงฺขารปริยาปนฺนา, ตาทิสาย สงฺขารทุกฺขตายาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. โลโกติ อรหา. อุปาทียติ วิปากกฺขนฺธจตุกฺกกฏตฺตารูปสงฺขาตํ ขนฺธปฺจกนฺติ อุปาทิ, อุปาทิเยว เสสํ อุปาทิเสสํ, ขนฺธปฺจกํ, ตํ นตฺถิ เอติสฺสา นิพฺพานธาตุยาติ อนุปาทิเสสา. อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ หุตฺวา มุจฺจติ, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ จายํ กรณนิทฺเทโส. นิพฺพานธาตูติ จ ขนฺธปฺจกสฺส นิพฺพายนมตฺตํ อธิปฺเปตํ, น อสงฺขตธาตุ. ตสฺมาติ สงฺขารทุกฺขตาย สกลโลกพฺยาปกภาเวน สพฺพโลกสงฺคาหกตฺตา วุตฺตปฺปการสงฺขารทุกฺขตาย สพฺพโลกสฺส ¶ ทุกฺขํ โหติ, อิติ กตฺวา สงฺขารทุกฺขตาย สพฺพโลกสฺส ทุกฺขภาวโต ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ ภควตา วุตฺตํ.
‘‘เวทนาปจฺจยา ตณฺหา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓, ๓๖; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕) วจนโต ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ ปเทน ‘‘กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสี’’ติ ตติยปทสฺสาปิ วิสฺสชฺชนา สิยาติ อาสงฺกภาวโต ‘‘เตน จ จตุตฺถสฺส ปทสฺส วิสฺสชฺชนา ยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เกน ยถากฺกมํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานํ ยุตฺตตรภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน ยถากฺกมํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานํ ยุตฺตตรตฺตา ยุตฺตตรชานนโก ภควา ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต ¶ โลโก’’ติอาทิมาห, ตสฺมา ยุตฺตตรภาโว ตุมฺเหหิ ชานิตพฺโพติ.
เอตฺถ จ โลกสฺส นีวรณาทีนิ อชานนฺเตน จ ติตฺถิยวาเทสุ สมยนฺตเรสุ ปริจเยน จ เตสุ สมยนฺตเรสุ เจว นีวรณาทีสุ จ สํสยปกฺขนฺเทน เอกํเสเนว สตฺตาธิฏฺาเนน ปุจฺฉิตพฺพตฺตา, เอกํเสเนว สตฺตาธิฏฺาเนน พฺยากาตพฺพตฺตา จ สตฺตาธิฏฺานา ปุจฺฉา กตาติ เวทิตพฺพา. สา จายํ ปุจฺฉา อชานนฺตสฺส ชานนตฺถาย, ชาตสํสยสฺส จ สํสยวิโนทนตฺถาย วิสฺสชฺเชตพฺพสฺส นีวรณาทิวิสยสฺส จตุพฺพิธตฺตา จตุพฺพิธา. นีวรณาทีนํ ปน วิสยานํ โลโก จ อาธารภาเวน คาถายํ วุตฺโตติ ‘‘เอโก ปฺโห ทสฺสิโต’’ติ อยเมตฺถ ปุจฺฉาวิจโย, วิสฺสชฺชนาวิจโย ปน ‘‘อทิฏฺโชตนา วิสฺสชฺชนา, วิมติจฺเฉทนา วิสฺสชฺชนา’’ติอาทินา ปุจฺฉาวิจเย วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
เอกาธาเร ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน วิจโย อาจริเยหิ วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘อเนกาธาเร ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเน โย วิจโย วิภชนารโห, โส วิจโย กถํ อมฺเหหิ วิฺายติ, อมฺหากํ วิฺาปนตฺถาย ตสฺมึ วิจยํ วิภชถา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต อเนกาธารํ ปุจฺฉํ ตาว นีหริตฺวา ทสฺเสตุํ –
‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, (อิจฺจายสฺมา อชิโต,)
โสตานํ กึ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๐; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๕๙, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๓) –
คาถมาห ¶ . คาถาตฺโถ ตาว ทฏฺพฺโพ. สวนฺตีติ สนฺทนฺติ, ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. สพฺพธีติ ตณฺหาทีนํ อารมฺมณภูเตสุ สพฺเพสุ รูปาทีสุ อายตเนสุ. โสตาติ ตณฺหาภิชฺฌาพฺยาปาทาทโย โสตา. อิจฺจายสฺมาติ อิติ เอวํ อายสฺมา อชิโต อาห. โสตานนฺติ ตณฺหาภิชฺฌาพฺยาปาทาทีนํ โสตานํ. กึ นิวารณนฺติ กึ กตมํ ธมฺมชาตํ อาวรณํ ภเว, กา กตมา ธมฺมชาติ รกฺขา ภเว. โสตานํ สํวรํ พฺรูหีติ โสตานํ ตณฺหาภิชฺฌาพฺยาปาทาทีนํ สํวรณํ อาวรณํ อิทํ ธมฺมชาตํ ภเวติ สพฺพสตฺตหิตตฺถํ อมฺหากํ ตฺวํ กเถหิ. เกน โสตา ¶ ปิธียเรติ เกน ปหายกธมฺเมน ตณฺหาภิชฺฌาพฺยาปาทาทโย โสตา ปณฺฑิเตหิ ปิธียเรติ ปุจฺฉตีติ ปุจฺฉิตานิ.
‘‘ปุจฺฉาวเสน กถิตาย ‘สวนฺติ…เป… ปิธียเร’ติ อิมาย คาถาย กิตฺตกานิ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ, กิตฺตกา ปฺหา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมานิ จตฺตาริ ปทานิ ปุจฺฉิตานิ, เต ทฺเว ปฺหา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตาย อิมิสฺสา คาถาย ยทิ จตฺตาริ ปทานิ สิยุํ, เอวํ สนฺเตสุ ปฺหาปิ จตุพฺพิธา สิยุํ, กสฺมา ‘ทฺเว’ติ วุตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กสฺมา? อิเม หิ พหฺวาธิวจเนน ปุจฺฉิตา’’ติ วุตฺตํ. อิเม เอตาย คาถาย คหิตา อตฺถา พหฺวาธิวจเนน ปุจฺฉิตา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สวนฺติ…เป… ปิธียเรติ พหูนิ วจนานิ อธิกิจฺจ ปวตฺตา สํวรสงฺขาตา สติ เจว ปิทหนเหตุภูตา ปฺา จาติ อิเม ทฺเว อตฺถาว ปุจฺฉิตา, ตสฺมา อตฺถวเสน ทฺเว ปฺหา วุตฺตา วา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉาย ทุวิธตฺถวิสยตา กถํ วุตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ปุจฺฉาย ทุวิธตฺถวิสยตํ วิวริตุํ ‘‘เอวํ สมาปนฺนสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํ สมาปนฺนสฺสาติ อิมาหิ ทุคฺคติเหตุภูตาหิ าติพฺยสนาทิสงฺขาตาหิ อาปทาหิ วา, ปาณวธาทีหิ อาปทาหิ วา, สมํ สห, สพฺพถา วา อยํ สตฺตโลโก อาปนฺโน อชฺโฌตฺถโฏ, เอวํ อชฺโฌตฺถฏสฺส วา สมาปนฺนสฺส. เอวํ สํกิลิฏฺสฺสาติ าติพฺยสนาทโย วา ปาณวธาทีนิ อาคมฺม ปวตฺเตหิ ทสหิ กิเลสวตฺถูหิ จ อยํ สตฺตโลโก สํกิลิฏฺโ, เอวํ สํกิลิฏฺสฺส จ โลกสฺสาติ สมาปนฺนสฺส อชฺโฌตฺถฏสฺส โลกสฺส โวทานํ วุฏฺานํ กึ กตมํ ธมฺมชาตํ ภเว. อิติ เอวฺหิ สจฺจํ อชิตสุตฺเต อาหาติ วิตฺถารตฺโถ, ปุจฺฉาย ทุวิธตฺถวิสยตา าตพฺพาติ อธิปฺปาโย.
‘‘กึ นุ โสตา สพฺพสฺส โลกสฺส สพฺพธิ สวนฺติ, อุทาหุ, เอกจฺจสฺเสวา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตาติ, อสมาหิตสฺส สวนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาทพหุลสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาทพหุลตฺตา รูปาทีสุ นานารมฺมเณสุ วิกฺขิตฺตจิตฺตสฺเสว โสตา สวนฺติ ปวตฺตนฺติ, น สมาหิตสฺส อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาทวิรหิตสฺสาติ ¶ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. ‘‘กตมา อภิชฺฌา, กตโม พฺยาปาโท, กตโม ปมาโท’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยา อภิชฺฌา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาเทสุ. ยา อภิชฺฌา, อยํ โลโภ, น อภิชฺฌายนมตฺตํ. โลโภ จ อกุสลมูลํ, น ลุพฺภนมตฺตํ. โย พฺยาปาโท ¶ , อยํ โทโส, น พฺยาปชฺชนมตฺตํ. โทโส จ อกุสลมูลํ, น ทูสนมตฺตํ. โย ปมาโท, อยํ โมโห, น สติวิปฺปวาสมตฺตํ. โมโห จ อกุสลมูลํ, น มูหนมตฺตํ. เอวํ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน อภิชฺฌาทีนํ อกุสลมูลตฺตา ยสฺส อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปมาทพหุลสฺส อสมาหิตสฺส ฉสุ รูปาทีสุ อายตเนสุ ตณฺหา สวนฺติ.
‘‘กติวิธา สา ตณฺหา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ฉนฺนํ รูปตณฺหาทีนํ ฉสุ รูปาทิอายตเนสุ สวนํ เกน จ วจเนน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สวตีติ จ โข, ภิกฺขเว…เป… ปฏิหฺตี’’ติ ยํ วจนํ ภควา ยถา เยน ปกาเรน อาห, ตถา เตน ปกาเรน วุตฺตนเยน วจเนน ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ จ จกฺขาทีนํ รูปตณฺหาทีนํ ฉนฺนํ โสตานํ ทฺวารภาเวน ปวตฺตตฺตา จกฺขาทโย นิสฺสิตูปจารวเสน สยํ สวนฺโต วิย ภควตา วุตฺตา. อิตีติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน สพฺพา สพฺพสฺมา จกฺขาทิทฺวารโต จ สวติ ปวตฺตติ. สพฺพถา สพฺพปฺปกาเรน ตณฺหายนมิจฺฉาภินิเวสนอุนฺนมนาทิปฺปกาเรน สวติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ‘‘กสฺมา สพฺพสฺมา จกฺขาทิทฺวารโต จ สวติ ปวตฺตติ, สพฺพปฺปกาเรน ตณฺหายนมิจฺฉาภินิเวสนอุนฺนมนาทิปฺปกาเรน สวนภาโว วิชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตนาติ อสมาหิตสฺส อภิชฺฌาพฺยาปาทาทีนํ จกฺขาทิทฺวารโต จ ตณฺหายนมิจฺฉาภินิเวสอุนฺนมนากาเรน ตณฺหาทิวเสน ปวตฺตนโต ปวตฺตชานนโก ภควา ‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา’’ติ อาห.
‘‘โสตานํ ‘กึ นิวารณ’นฺติ อิมินา กึ ปุจฺฉติ? โสตานํ อนุสยปฺปหานํ ปุจฺฉติ กึ? อุทาหุ วีติกฺกมปฺปหานํ ปุจฺฉตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โสตานํ กึ นิวารณนฺติ ปริยุฏฺานวิฆาตํ ปุจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ ปริยุฏฺานวิฆาตํ โวทานํ, อุทาหุ วุฏฺานํ กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิทํ โวทาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, ‘เกน โสตา ปิธียเร’ติ อิมินา กึ ปุจฺฉติ? โสตานํ ปริยุฏฺานํ ปุจฺฉติ กึ? อุทาหุ วีติกฺกมนํ, สมุคฺฆาฏํ วา ปุจฺฉติ กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา โสตานํ…เป… ปิธียเรติ อนุสยสมุคฺฆาฏํ ปุจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ อนุสยสมุคฺฆาฏํ โวทานํ กึ, อุทาหุ วุฏฺานํ กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิทํ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.
‘‘สวนฺติ ¶ ¶ สพฺพธิ โสตา’’ติอาทิปุจฺฉาวิจโย อาจริเยน วุตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต; ตาย ปุจฺฉาย ‘‘กตโม วิสฺสชฺชนวิจโย’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ วิสฺสชฺชนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุจฺฉายํ –
‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, (อชิตาติ ภควา,)
สติ เตสํ นิวารณํ;
โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๑ จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๖๐, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๔) –
คาถา วิสฺสชฺชนาติ ทฏฺพฺพา. ตสฺสํ คาถายํ อชิต โลกสฺมึ ยานิ โสตานิ สวนฺติ, เตสํ โสตานํ ยํ นิวารณํ, สา สติ โหติ; ตํ สตึ โสตานํ สํวรนฺติ อหํ พฺรูมิ; เอเต โสตา ปฺาย ปิธียเรติ โยชนา กาตพฺพา. ตตฺถ สตีติ วิปสฺสนาปฺาย สมฺปยุตฺตา สติ. ปฺายาติ มคฺคปฺาย. ปิธียเรติ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานวเสน ปิธียนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺติ.
‘‘สติ เตสํ นิวารณํ โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ ภควา อาห – ‘‘ยาย กายจิ สติยา โสตานํ สํวรณกิจฺจํ สิทฺธํ กึ, วิสิฏฺาย สติยา โสตานํ สํวรณกิจฺจํ สิทฺธํ กึ, กตมาย สติยา โสตานํ สํวรณกิจฺจํ สิทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘กายคตาย สติยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กายคตาย สติยาติ รูปกาเย คตํ เกสาทิกํ อนิจฺจาทิโต วิปสฺสิตฺวา ปวตฺตาย วิปสฺสนาาณสมฺปยุตฺตาย สติยา. ภาวิตายาติ กายคตํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต นิพฺพินฺทนโต วิรชฺชนโต นิโรธนโต ปฏินิสฺสชฺชนโต อนุปสฺสนาวเสน ภาวิตาย. เอวฺหิ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ; ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ ปชหติ; อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ ปชหติ; นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ ปชหติ; วิรชฺชนฺโต ราคํ ปชหติ; นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปชหติ; ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ. พหุลีกตายาติ ยถาวุตฺตปฺปกาเรน ทิวสมฺปิ มาสมฺปิ สํวจฺฉรมฺปิ สตฺตสํวจฺฉรมฺปิ พหุลีกตาย. จกฺขุนฺติ อภิชฺฌาทิปวตฺติทฺวารภาเวน ิตํ จกฺขุํ, นิคฺคหิตาคมํ ทฏฺพฺพํ. นาวิฺฉตีติ จกฺขุทฺวาเร ปวตฺตํ อภิชฺฌาทิสหิตํ จิตฺตสนฺตานํ, ตํสมงฺคีปุคฺคลํ วา นากฑฺฒติ, มนาปิเกสุ รูเปสุ นาวิฺฉตีติ โยชนา. อมนาปิเกสุ รูเปสุ น ปฏิหฺติ ¶ . กายคตาย สติยา ¶ ภาวิตาย พหุลีกตาย โสตํ นาวิฺฉติ. มนาปิเกสุ สทฺเทสุ…เป… อมนาปิเกสุ สทฺเทสุ น ปฏิหฺตีติ โยชนา ยถาสมฺภวโต กาตพฺพา.
‘‘เกน การเณน นาวิฺฉติ ปฏิหฺตี’’ติ ปุจฺฉติ, อินฺทฺริยานํ สํวุตนิวาริตตฺตา นาวิฺฉติ น ปฏิหฺตีติ วิสฺสชฺเชติ. ‘‘เกนารกฺเขน เต สํวุตนิวาริตา’’ติ ปุจฺฉติ, สติอารกฺเขน เต สํวุตนิวาริตาติ วิสฺสชฺเชติ. ‘‘สติอารกฺเขน สํวุตนิวาริตภาโว เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตนาติ ตสฺมา สติอารกฺเขน สํวุตนิวาริตตฺตา สํวุตนิวาริตชานนโก ภควา ‘‘สติ เตสํ นิวารณ’’นฺติ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน ตุมฺเหหิ สติอารกฺเขน สํวุตนิวาริตภาโว สทฺทหิตพฺโพติ ปุพฺพภาเค ปฺา สตฺยานุคาติ กิจฺจเมเวตฺถ อธิกนฺติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘สติ เตสํ นิวารณ’’นฺติ วิสฺสชฺชนสฺส วิตฺถารตฺโถ อาจริเยน วุตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ วิสฺสชฺชนสฺส วิตฺถารตฺโถ ‘‘กถํ อมฺเหหิ ชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ วิสฺสชฺชนสฺส วิตฺถารตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺาย อนุสยา ปหียนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺายาติ มคฺคปฺาย. อนุสยาติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนารหา กามราคานุสยาทโย. ปหียนฺติ สมุจฺเฉทวเสน อนุสเยสุ ปฺาย ปหีเนสุ ปริยุฏฺานาปิ อตฺถโต ปหียนฺติ. กิสฺส ปหีนตฺตา ‘‘ปหียนฺตี’’ติ วุจฺจติ? อนุสยสฺส ปหีนตฺตา ปริยุฏฺานา ปหียนฺตีติ วิสฺสชฺเชติ.
‘‘ตํ อนุสยปฺปหาเนน ปริยุฏฺานปฺปหานํ กึ วิย ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตํ ยถา ขนฺธวนฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขนฺธวนฺตสฺส รุกฺขสฺส กุทาลาทินา ภูมึ ขณิตฺวา อนวเสสมูลุทฺธรเณ กเต ตสฺส รุกฺขสฺส ปุปฺผผลปลฺลวงฺกุรสนฺตติปิ กุทาลาทินา สมุจฺฉินฺนาว ภวติ ยถา, เอวํ อรหตฺตมคฺคาเณน อนุสเยสุ ปหีเนสุ อนุสยานํ ปริยุฏฺานสนฺตติ สมุจฺฉินฺนา ปิทหิตา ปฏิจฺฉนฺนา ภวติ. เกน สมุจฺฉินฺนา ภวติ? ปฺาย มคฺคปฺาย สมุจฺฉินฺนา ภวตีติ อตฺถโยชนา ทฏฺพฺพา. ‘‘ปฺาย ปริจฺฉินฺนภาโว กถํ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ วจนโต อนุสยานํ ปริยุฏฺานสนฺตติยา ปฺาย ปริจฺฉินฺนภาโว ปณฺฑิเตหิ สทฺทหิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อิเมสุ ¶ ปฺหาวิสฺสชฺชเนสุ โสตานํ สํวรํ, ปิธานฺจ อชานนฺเตน วา สํสยิเตน วา สํวรปิธานานํ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ธมฺมาธิฏฺานา ปุจฺฉาติ ปุจฺฉาวิจโย เจว สติปฺานํ วิสฺสชฺเชตพฺพตฺตา ¶ ธมฺมาธิฏฺานํ วิสฺสชฺชนนฺติ วิสฺสชฺชนวิจโย จ เวทิตพฺโพ. เอเตสุ จ ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติอาทิโก ปฺโห นีวรณวิจิกิจฺฉาปมาทชปฺปานํ วเสน จตุพฺพิโธปิ โลกาธิฏฺานวเสน เอโก ปฺโหติ วุตฺโต, เอวํ สติ ‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา’’ติอาทิโกปิ ปฺโห สํวรปิธานานํ วเสน ทุวิโธปิ เอกตฺถวเสน คเหตฺวา เอกาธิฏฺานวเสน ‘‘เอโก ปฺโห’’ติ วตฺตพฺโพ, โสตานํ พหุภาวโต วา ‘‘พหุปฺโห’’ติ วตฺตพฺโพ; ตถา ปน อวตฺวา โสเต อนามสิตฺวา สํวรปิธานานํ วเสน ‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา’’ติอาทิมฺหิ ‘‘ทฺเว ปฺหา’’ติ วุตฺตา. ตทนุสาเรน ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติอาทิมฺหิปิ โลกํ อนามสิตฺวา นีวรณาทีนํ จตุนฺนํ วเสน ‘‘จตฺตาโร ปฺหา’’ติปิ วตฺตพฺพาติ อยํ นโย ทสฺสิโตติ นยทสฺสนํ ทฏฺพฺพํ.
เทสนากาเล วุตฺตธมฺมสฺส อนุสนฺธิมคฺคเหตฺวา อตฺตนา รจิตนิยาเมเนว ปุจฺฉิตปฺหสฺส เจว ปฺหํ อฏฺเปตฺวา, ปฏิฺฺจ อกตฺวา วิสฺสชฺชนสฺส จ วิจยหาโร อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘เทสนากาเล วุตฺตธมฺมสฺส อนุสนฺธึ คเหตฺวา ปุจฺฉิตปฺหสฺส เจว ตํ ปฺหํ เปตฺวา, ปฏิฺฺจ กตฺวา วิสฺสชฺชนสฺส จ โย วิจโย หาโร วิภตฺโต, โส วิจยหาโร กถํ อมฺเหหิ วิฺายติ, อมฺหากํ วิฺาปนตฺถาย ตสฺมึ วิจยํ วิภเชถา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต เตสุ วิเจตพฺพาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยานิ โสตานี’’ติอาทิคาถาย วิจยาการทสฺสนานนฺตรํ ‘‘ปฺา เจว สติ จา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ คาถาตฺโถ ตาว วิฺาตพฺโพ – ยาย ปฺาย อนุสยปฺปหาเนน โสตนิรุชฺฌนํ วุตฺตํ, ยาย สติยา จ ปริยุฏฺานปฺปหาเนน โสตนิรุชฺฌนํ วุตฺตํ, สายํ ปฺา เจว สายํ สติ จ ตาหิ ปฺาสตีหิ อเสสํ สหุปฺปนฺนํ นามฺเจว รูปฺจ, เอตํ สพฺพํ กตฺถ นิรุชฺฌมาเน อเสสํ อุปรุชฺฌตีติ มาริส เม มยา ปุฏฺโ ตฺวํ ภควา มยฺหํ เอตํ นิรุชฺฌนํ ปพฺรูหิ, อิติ อายสฺมา อชิโต ภควนฺตํ ปุจฺฉติ.
อชิต ตฺวํ ยเมตํ ปฺหํ ปุจฺฉิตํ นิรุชฺฌนํ มํ อปุจฺฉิ, อหํ เต ตว ตํ นิรุชฺฌนํ วทามิ. ยตฺถ วิฺาณนิโรเธ ปฺาสติสหิตํ นามฺจ รูปฺจ วิฺาณสฺส ¶ นิโรเธน สห เอกโต อเสสํ อุปรุชฺฌติ, เอตฺถ วิฺาณนิโรเธ เอตํ สพฺพํ วิฺาณนิโรเธน เอกโต เอกกฺขเณ อปุพฺพํ อจริมํ อุปรุชฺฌติ, เอตํ วิฺาณนิโรธํ ตสฺส นามรูปสฺส นิโรโธ นาติวตฺตติ, ตํ ตํ นามรูปนิโรธํ โส โส วิฺาณนิโรโธ นาติวตฺตตีติ.
‘‘ตสฺมึ ¶ ปฺเห อยํ อชิโต กึ ปุจฺฉติ? อุปรุชฺฌนเมว ปุจฺฉติ, อุทาหุ อฺํ ปุจฺฉตี’’ติ วตฺตพฺพโต ‘‘อยํ ปฺเห อนุสนฺธึ ปุจฺฉตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยนฺติ โย อายสฺมา อชิโต ปฺหํ อปุจฺฉีติ อยํ อชิโต. ปฺเหติ ‘‘ปฺา เจว สติ จา’’ติอาทิปฺเห. ยทิ อนุสนฺธึ ปุจฺฉติ, เอวํ สติ ‘‘กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉนํ อยุตฺตํ ภเวยฺยาติ? น, อนุสนฺธียติ เอเตน อุปนิรุชฺฌเนนาติ อนุสนฺธีติ อตฺถสมฺภวโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุสนฺธึ ปุจฺฉนฺโต กึ…เป… นิพฺพานธาตุ’’นฺติ. อนุสนฺธิปุจฺฉเนน อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยาปิ ปุจฺฉนโต ‘‘กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉนํ ยุตฺตเมว.
‘‘ยา อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ ปุจฺฉิตา, ตํ กตมาย ปฏิปทาย อธิคจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา จตุสจฺจกมฺมฏฺานภาวนาสงฺขาตํ ปฏิปทํ วิสเยน สห ทสฺเสตุํ ‘‘ตีณี สจฺจานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขตานีติ กมฺมาทิปจฺจเยหิ สเมจฺจ สมฺภูย ทุกฺขาทีนิ กรียนฺตีติ สงฺขตานิ. นิโรธธมฺมานีติ นิรุชฺฌนํ นิโรโธ, ธมฺโมปิ นิโรธธมฺโมว, ตสฺมา นิโรโธ ธมฺโม สภาโว เยสํ ทุกฺขาทีนนฺติ นิโรธธมฺมานีติ อตฺโถว คเหตพฺโพ. ตานิ ตีณิ สจฺจานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทุกฺขํ สมุทโย มคฺโค’’ติ วุตฺตํ. ตีณิ ทุกฺขสมุทยมคฺคสจฺจานิ สงฺขตานีติ วุตฺตานิ, ‘‘กึ นิโรธสจฺจ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิโรโธ อสงฺขโต’’ติ วุตฺตํ. อิธ ‘‘นิโรธธมฺโม’’ติปิ วตฺตพฺพํ. กมฺมาทิปจฺจเยหิ อสงฺขตตฺตา อสงฺขโต. อุปฺปาทนิโรธาภาวโต อนิโรธธมฺโม. ‘‘ปหายกปหาตพฺเพสุ สจฺเจสุ กตเมน ปหายเกน กตโม ปหาตพฺโพ, กตมาย ภูมิยา ปหีโน’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สมุทโย ทฺวีสุ ภูมีสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺวีสุ ภูมีสูติ ทสฺสนภาวนาภูมีสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามภวราโค. รูปราโคติ รูปภวราโค. อรูปราโคติ อรูปภวราโค. สํโยชนเภทโต ทส สํโยชนานิ ปหียนฺตีติ โยชนา.
๑๒. ปหาตพฺพสํโยชนานิ ¶ ทสฺสนภูมิภาวนาภูมิเภเทน วิภตฺตานิ, อมฺเหหิปิ าตานิ, ‘‘อินฺทฺริยเภทโต กถํ วิภตฺตานี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ตตฺถ ตีณี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ‘‘ปหาตพฺพสํโยชเนสุ กตมานิ สํโยชนานิ กตมํ อินฺทฺริยํ อตฺตโน ปหายกํ กตฺวา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ตีณี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อธิฏฺาย อตฺตโน ปหายกํ กตฺวา นิรุชฺฌนฺติ อนุปฺปาทวเสน. ‘‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยฺจ อฺินฺทฺริยฺจ สํโยชนานํ นิรุชฺฌนเหตุ โหตุ, อฺาตาวินฺทฺริยํ กิสฺส เหตู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ เยน อฺาตาวินฺทฺริเยน อรหา ‘‘เม ชาติ ขีณา’’ติ เอวํ ชานาติ, อิทํ ชานนเหตุ อฺาตาวินฺทฺริยํ ขเย ชาติกฺขเย อรหตฺตผเล ปวตฺตํ าณํ. ยํ เยน อฺาตาวินฺทฺริเยน อรหา ‘‘อิตฺถตฺตาย อปรํ น ภวิสฺสามี’’ติ ปชานาติ, อิทํ ปชานนเหตุ ¶ อฺาตาวินฺทฺริยํ. อนุปฺปาเท ปน อนุปฺปชฺชเน อรหตฺตผเล ปวตฺตํ าณํ อฺาตาวินฺทฺริยํ ชานนเหตุ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อินฺทฺริยาณานิ ปหายกานิ กตฺวา สํโยชนานิ นิรุชฺฌนฺติ, ‘‘ตานิ าณานิ กทา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ตตฺถ ยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ ปาปุณนฺตสฺส นิรุชฺฌตุ, อฺินฺทฺริยํ อรหตฺตํ ปาปุณนฺตสฺส นิรุชฺฌตุ, อฺาตาวินฺทฺริยํ กทา นิรุชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยฺจ ขเย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺเวติ กิจฺจเภเทน ทฺเว, สภาวโต ปน เอกาว.
‘‘ปชานนกิจฺจมฺปิ เอกเมว, กถํ ทฺเว สิยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารมฺมณปฺาเภเทน ทฺเว นามานิ ลพฺภนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สาติ ยา ปฺา ปุพฺพคาถายํ โสตปิธานกิจฺเจน วุตฺตา, สา ปฺา ปกาเรหิ ชานนสภาเวน ปฺา นาม. ยถาทิฏฺํ อารมฺมณํ อปิลาปนฏฺเน โอคาหนฏฺเน สติ นาม.
๑๓. ‘‘ปฺา เจว สติ จา’’ติ ปทสฺส อตฺโถ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘นามรูปฺจา’ติ ปทสฺส อตฺโถ กถํ อมฺเหหิ าตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา นามรูปํ วิภชนฺโต ‘‘ตตฺถ เย ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ กมฺมวิปากวฏฺฏเภเท ภวตฺตเย. ตตฺถาติ ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตนามรูปสมุทาเย. ปฺจินฺทฺริยานีติ จกฺขาทิปฺจินฺทฺริยานิ ¶ . วิฺาณสมฺปยุตฺตนฺติ สมฺปยุตฺตปจฺจยตฺตํ สนฺธาย น วุตฺตํ, ปจุรชนสฺส ปน อวิภชิตฺวา คหณียสภาวมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. วิภาคํ ชานนฺเตหิ ปน ‘‘นามํ วิฺาณสมฺปยุตฺตํ, รูปํ ปน น วิฺาณสมฺปยุตฺตํ, สหชาต’’นฺติ วิภชิตฺวา คเหตพฺพํ. ตสฺสาติ ปฺาสติสหิตสฺส นามรูปสฺส. นิโรธนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุํ.
ภควนฺตํ ปุจฺฉนฺโต อายสฺมา อชิโต ‘‘ปฺา เจว…เป… กตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ เอวํ ปารายเน อาห. ‘‘ปฺา เจวาติอาทิคาถาย ยา อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ ปุจฺฉิตา, สา อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ กตเมน อธิคเมน ปตฺตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา จตุริทฺธิปาทมุเขน อริยมคฺคาธิคมมุเขน ปตฺตพฺพา, จตุริทฺธิปาทภาวนาย จ จตฺตารินฺทฺริยานิ มูลภูตานิ, ตสฺมา มูลภูตานิ ตานิ จตฺตารินฺทฺริยานิ นิทฺธาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ สติ จ ปฺา จา’’ติอาทิมาห. กุสลากุสลธมฺมคติโย สมนฺเวสมานาย สติยา สิชฺฌมานาย เอกนฺเตน สมาธิ นิปฺผาเทตพฺโพ, สติคฺคหเณน จ ปริยุฏฺานปฺปหานํ คาถายํ อธิปฺเปตํ, ปริยุฏฺานปฺปหาเนน จ ¶ สมาธิกิจฺจํ ปากฏนฺติ อาห ‘‘สติ ทฺเว อินฺทฺริยานิ สตินฺทฺริยฺจ สมาธินฺทฺริยฺจา’’ติ. ปฺาย อนุสยสมุคฺฆาตํ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานสงฺขาเตน วีริเยน สิชฺฌติ, น วินา เตนาติ วุตฺตํ ‘‘ปฺา ทฺเว อินฺทฺริยานิ ปฺินฺทฺริยฺจ วีริยินฺทฺริยฺจา’’ติ.
อิเมสุ ยถาวุตฺเตสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ ปุพฺพภาเค วา มคฺคกฺขเณ วา สิชฺฌนฺเตสุ ตํสมฺปยุตฺตา ยา สทฺทหนา โอกปฺปนา สิทฺธา, อิทํ สทฺทหนโอกปฺปนสงฺขาตํ ธมฺมชาตํ สทฺธินฺทฺริยํ สิทฺธํ, ‘‘เตสุ มูลภูเตสุ อินฺทฺริเยสุ สิทฺเธสุ กตเมน อินฺทฺริเยน กตโม ธมฺโม สิทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมินา อยํ สิทฺโธติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ยา สทฺธาธิปเตยฺยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ สตฺยาทีสุ. สทฺธาธิปเตยฺยาติ ปจฺจยภูตาย สทฺธาย สิทฺโธ ฉนฺโท อธิปตีติ สทฺธาธิปติ, สทฺธาธิปตินา ปวตฺเตตพฺพา จิตฺเตกคฺคตาติ สทฺธาธิปเตยฺยา. ฉนฺทสมาธีติ ฉนฺทํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติโต สมาธิ วา ฉนฺทาธิปตินา สมฺปยุตฺโต ปุพฺพภาเค ปวตฺโต สมาธิ วา ฉนฺทสมาธิ, ปหานํ ปหานเหตุ โหตีติ โยชนา กาตพฺพา. ปหานนฺติ จ ปชหติ วิกฺขมฺภิตกิเลเส เอเตน ฉนฺทสมาธินาติ ปหานนฺติ กรณสาธนตฺโถ คเหตพฺโพ. ปฏิสงฺขานพเลนาติ ปริกมฺมพเลน. ภาวนาพเลนาติ มหคฺคตภาวนาพเลน.
‘‘โส ¶ ฉนฺทสมาธิ สยํ เกวโลว ปหาน’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ สมาหิเต จิตฺเต จิตฺตุปฺปาเท. ‘‘ตสฺมึ สมาหิเต จิตฺตุปฺปาเท อสฺสาสา’’ติอาทินา อสฺสาสาทิสีเสน อสฺสาสาทิชนกา วีริยสงฺขารา คหิตา, เต จ ยาว ภาวนาปาริปูรี, ตาว ปุนปฺปุนํ สรณโต จ สรา, ปุนปฺปุนํ สงฺกปฺปโต จ สงฺกปฺปา. โย ปน ‘‘สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา จา’’ติ เอวํ วุตฺตปฺปกาโร ปุริมโก ฉนฺทสมาธิ วา กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ตทงฺคปฺปหานตาย จ ปหานํ ปหานเหตุปธานํ วา, ‘‘อิเม วุตฺตปฺปการา สงฺขาราทโย กึ ภาเวนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิเม จ สงฺขารา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิเม สงฺขารา จ ตทุภยฺจ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ อิทฺธิปาทํ ภาเวตีติ โยชนา.
ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตนฺติ ฉนฺโท เอว อธิปติ ฉนฺทาธิปติ, ฉนฺทาธิปติสมาธิ. เตน วุตฺตํ ภควตา – ‘‘ฉนฺทํ เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธิ’’นฺติ (วิภ. ๔๓๒). ฉนฺทเหตุโก วา สมาธิ, ฉนฺทาทิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธิ, ฉนฺทาธิปติสฺส ปจฺจยุปฺปนฺโน สมาธีติ วุตฺตํ โหติ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา, ปธานสทฺเทน สงฺขตสงฺขาราทโย นิวตฺตาปิตา, ฉนฺทสมาธิ จ ปธานสงฺขารา จาติ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารา ¶ , เตหิ สมนฺนาคโต ฉนฺท…เป… สมนฺนาคโต, ตํ…เป… คตํ. อิชฺฌติ สมิชฺฌติ นิปฺปชฺชตีติ อิทฺธิ, โกฏฺาโส, อิทฺธิ เอว ปาโท โกฏฺาโสติ อิทฺธิปาโท, อิทฺธิปาทจตุตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา ตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ, ปชฺชติ เอเตนาติ ปาโท, อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท. อิทฺธิปาโทติ สามฺตฺถวเสน วุตฺโตปิ ‘‘ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ฉนฺทิทฺธิปาโทว คเหตพฺโพ, ตํ อิทฺธิปาทํ ตํ ฉนฺทิทฺธิปาทํ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อตฺโถ.
วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกฺขเณ ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ. วิราคนิสฺสิตนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิราคนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตํ, มคฺคกฺขเณ ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิราคนิสฺสิตํ ¶ , อารมฺมณโต นิสฺสรณวิราคนิสฺสิตํ. นิโรธนิสฺสิตนฺติ วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺคนิโรธนิสฺสิตํ, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณนิโรธนิสฺสิตํ, มคฺคกฺขเณ กิจฺจโต สมุจฺเฉทนิโรธนิสฺสิตํ, อารมฺมณโต นิสฺสรณนิโรธนิสฺสิตํ. โวสฺสคฺคปริณามินฺติ เอตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสคฺคปกฺขนฺทนโวสฺสคฺควเสน โวสฺสคฺโค ทุวิโธ. ตตฺถปิ วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค, นิพฺพานนินฺนภาเวน ปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโค, มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวเสน ปริจฺจาคโวสฺสคฺโค, อารมฺมณกรเณน นิพฺพานปกฺขนฺทนโวสฺสคฺโคติ วิภชิตฺวา คเหตพฺโพ. ยถาวุตฺตโวสฺสคฺคตฺถํ ปริณมติ, ปริณตํ วา ปริปจติ ปริปจนํ กโรตีติ โวสฺสคฺคปริณามี, ตํ โวสฺสคฺคปริณามึ.
ฉนฺทิทฺธิปาทภาวนากาโร อาจริเยน วุตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ วีริยิทฺธิปาทภาวนากาโร อมฺเหหิ วิชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ตตฺถ ยา วีริยาธิปเตยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรเนว วิฺเยฺโย. สํขิตฺตวเสน ปน ปิตํ ปาํ วิตฺถารโต เปสฺสามิ. กถํ? –
‘‘ตตฺถ ยา วีริยาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ วีริยสมาธิ. สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สฺาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ วีริยสมาธิ, กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ วีริยสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ ¶ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ.
‘‘ตตฺถ ยา จิตฺตาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ จิตฺตสมาธิ. สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สฺาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ จิตฺตสมาธิ, กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ จิตฺตสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามึ.
‘‘ตตฺถ ¶ ยา วีมํสาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา, อยํ วีมํสาสมาธิ, สมาหิเต จิตฺเต กิเลสานํ วิกฺขมฺภนตาย ปฏิสงฺขานพเลน วา ภาวนาพเลน วา, อิทํ ปหานํ. ตตฺถ เย อสฺสาสปสฺสาสา วิตกฺกวิจารา สฺาเวทยิตา สรสงฺกปฺปา, อิเม สงฺขารา. อิติ ปุริมโก จ วีมํสาสมาธิ กิเลสวิกฺขมฺภนตาย จ ปหานํ อิเม จ สงฺขารา, ตทุภยํ วีมํสาสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิตํ วิราคนิสฺสิตํ นิโรธนิสฺสิตํ โวสฺสคฺคปริณามิ’’นฺติ.
อยํ ปน วิเสโส – วีริยสมาธีติ วีริยํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติโต สมาธิ วา วีริยาธิปตินา สมฺปยุตฺโต ปุพฺพภาเค ปวตฺโต สมาธิ วา วีริยสมาธิ. จิตฺตสมาธีติ จิตฺตํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติโต สมาธิ วา จิตฺตาธิปตินา สมฺปยุตฺโต ปุพฺพภาเค ปวตฺโต สมาธิ วา จิตฺตสมาธิ. วีมํสาสมาธีติ วีมํสํ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺติโต สมาธิ วา วีมํสาธิปตินา สมฺปยุตฺโต ปุพฺพภาเค ปวตฺโต สมาธิ วา วีมํสาสมาธีติ.
สตฺติพลานุรูเปเนตฺถ สงฺเขปวณฺณนา กตา, คมฺภีราเณหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุรูเปน วิตฺถารโต วา คมฺภีรโต วา วิภชิตฺวา คเหตพฺพา.
๑๔. ‘‘ฉนฺทสมาธิ วีริยสมาธิ จิตฺตสมาธิ วีมํสาสมาธี’’ติ วุตฺโต, ‘‘เอวํ สติ วีมํสาสมาธิเยว าณมูลโก าณปุพฺพงฺคโม าณานุปริวตฺติ ภเวยฺย, อฺเ ตโย สมาธโย อฺาณมูลกา อฺาณปุพฺพงฺคมา อฺาณปวตฺติโย ภเวยฺยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา สพฺเพ สมาธโย าณมูลกาทโยเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺโพ สมาธิ าณมูลโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺโพ สมาธีติ ¶ ฉนฺทสมาธิ, วีริยสมาธิ, จิตฺตสมาธิ, วีมํสาสมาธีติ จตุพฺพิโธ สมาธิ. าณมูลโกติ เอกาวชฺชนวีถินานาวชฺชนวีถีสุ ปวตฺตํ อุปจาราณมูลโก. าณปุพฺพงฺคโมติ อธิคมาณํ ปุพฺพงฺคมํ อสฺสาติ าณปุพฺพงฺคโม. าณานุปริวตฺตีติ ปจฺจเวกฺขณาณํ อนุปริวตฺติ อสฺสาติ าณานุปริวตฺติ. อถ วา นานาวชฺชนูปจาราณํ วา ปฏิสนฺธิาณํ วา มูลํ อสฺสาติ าณมูลโก, อุปจาราณํ ปุพฺพงฺคมํ อสฺสาติ าณปุพฺพงฺคโม, อปฺปนาาณํ อนุปริวตฺติ อสฺสาติ าณานุปริวตฺติ ¶ . สพฺพํ วา อุปจาราณํ มูลํ อสฺสาติ าณมูลโก. อปฺปนาาณํ ปุพฺพงฺคมํ อสฺสาติ าณปุพฺพงฺคโม. อภิฺาาณํ อนุปริวตฺติ อสฺสาติ าณานุปริวตฺติ, อนุปริวตฺตนํ วา อนุปริวตฺติ, าณสฺส อนุปริวตฺติ าณานุปริวตฺติ, าณานุปริวตฺติ อสฺสาติ าณานุปริวตฺติ. าณํ ปน ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการเมว.
ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา ฉนฺทสมาธิอาทิจตุพฺพิธสมาธิสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณานุปริวตฺติภาเวน ปุเร อตีตาสุ ชาตีสุ อสงฺขฺเยยฺเยสุปิ สํวฏฺฏวิวฏฺเฏสุ อตฺตโน ขนฺธปฏิพทฺธสฺส, ปเรสํ ขนฺธปฏิพทฺธสฺส จ สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนํ ตถา ตถาวุตฺตสมาธิสฺส อนาคตํสาณานุปริวตฺติภาเวน ปจฺฉา อนาคตาสุ ชาตีสุ อสงฺขฺเยยฺเยสุปิ สํวฏฺฏวิวฏฺเฏสุ อตฺตโน ขนฺธปฏิพทฺธสฺส, ปเรสํ ขนฺธปฏิพทฺธสฺส จ สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเรติ ยถา ยถาวุตฺตสมาธิสฺส เจโตปริยาณานุปริวตฺติภาเวน อนาคเตสุ สตฺตสุเยว ทิวเสสุ ปรสตฺตานํเยว จิตฺตสฺส สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนํ, ตถา ตถาวุตฺตสมาธิสฺส ปุเร อตีเตสุ สตฺตสุเยว ทิวเสสุ ปรสตฺตานํเยว จิตฺตสฺส สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนนฺติ อตฺโถ.
ยถา ทิวา ตถา รตฺตินฺติ ยถา จกฺขุมนฺตานํ สตฺตานํ ทิวสภาเค สูริยาโลเกน อนฺธการสฺส วิทฺธํสิตตฺตา อาปาถคตํ จกฺขุวิฺเยฺยํ รูปํ มโนวิฺาเณนปิ สุวิฺเยฺยํ, ตถา รตฺติภาเค จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร วตฺตมาเน ยถาวุตฺตสมาธิสฺส ทิพฺพจกฺขุาณานุปริวตฺติภาเวน รูปายตนสฺส สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนํ. ยถา รตฺตึ ตถา ทิวาติ ยถา รตฺติภาเค จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร ยถาวุตฺตสมาธิสฺส ทิพฺพจกฺขุาณานุปริวตฺติภาเวน รูปายตนสฺส สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนํ, ตถา ทิวสภาเค สุขุมสฺส รูปายตนสฺส วา เกนจิ ปาการาทินา ติโรหิตสฺส รูปายตนสฺส วา อติทูรฏฺาเน ปวตฺตสฺส รูปายตนสฺส วา ยถาวุตฺตสมาธิสฺส ทิพฺพจกฺขุาณานุปริวตฺติภาเวน สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ยถา ¶ ยถาวุตฺตสมาธิสฺส ทิวสภาเค ทิพฺพโสตาณานุปริวตฺติภาเวน สุขุมสฺส สทฺทายตนสฺส วา เกนจิ ปาการาทินา ติโรหิตสฺส สทฺทายตนสฺส ¶ วา อติทูรฏฺาเน ปวตฺตสฺส สทฺทายตนสฺส วา สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนํ, ตถา รตฺติภาเคปิ ยถาวุตฺตสมาธิสฺส ทิพฺพโสตาณานุปริวตฺติภาเวน สุขุมสฺส สทฺทายตนสฺส วา เกนจิ ปาการาทินา ติโรหิตสฺส สทฺทายตนสฺส วา อติทูรฏฺาเน ปวตฺตสฺส สทฺทายตนสฺส วา สุฏฺุ ปฏิวิชฺฌนเมว, น ทุปฺปฏิวิชฺฌนนฺติ อยํ นโยปิ เนตพฺโพ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ –
‘‘ยถา ปุเรติ ยถา สมาธิสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณานุปริวตฺติภาเวนา’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘ยถา จ รูปายตเน วุตฺตํ, ตถา สมาธิสฺส ทิพฺพโสตาณานุปริวตฺติตาย สทฺทายตเน จ เนตพฺพ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๔).
‘‘าณมูลกาทิสมาธินา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณานุปริวตฺติภาวาทิสหิเตน กึ ภาเวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ วิวเฏนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิตีติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน. อปริโยนทฺเธนาติ นีวรณาทิวิคมเนน. สปฺปภาสํ จิตฺตนฺติ อิทฺธิปาทสมฺปยุตฺตํ มคฺคจิตฺตํ ภาเวติ. อิทฺธิปาทสมฺปยุตฺเต มคฺคจิตฺเต อุปฺปชฺชมาเน หิ มคฺคจิตฺตสหภูนิ กุสลานิ สทฺธินฺทฺริยวีริยินฺทฺริยสตินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยภูตานิ ปฺจินฺทฺริยานิ อุปฺปชฺชนฺติ. มคฺคจิตฺเต นิรุชฺฌมาเน อนุปฺปชฺชนภาเวน นิรุชฺฌนฺติ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา. เอวํ มคฺควิฺาณสฺส นิโรธา ปฺา จ สติ จ นิรุชฺฌตีติ โยชนา.
‘‘กสฺส วิฺาณสฺส นิโรธา นามรูปํ นิรุชฺฌตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นามรูปฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส นิโรธา นามรูปฺจ นิรุชฺฌตีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ‘‘วิฺาณสฺส นิโรธา ปฺา จ สติ จาติ วุตฺตานิ ปฺจินฺทฺริยานิ เอวํ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา นามรูปฺจ นิรุชฺฌติ, นิรุชฺฌมานํ ปน นามรูปํ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส นิโรธา นิรุชฺฌตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘นามรูปฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นามรูปฺจาติ มคฺเคน ตณฺหาอวิชฺชาทิเก อนุปจฺฉินฺเน อุปฺปชฺชนารหํ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, ภูตุปาทารูปฺจ. วิฺาณเหตุกนฺติ อุปฺปชฺชนารหํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ เหตุ อสฺส นามรูปสฺสาติ วิฺาณเหตุกํ. วิฺาณปจฺจยา นิพฺพตฺตนฺติ วิฺาเณน ปจฺจเยน นิพฺพตฺตํ. ตสฺสาติ อุปฺปชฺชนารหสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส. เหตูติ ตณฺหาอวิชฺชาทิโก กิเลโส. วิฺาณนฺติ อุปฺปชฺชนารหํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. อนาหารนฺติ อปฺปจฺจยํ. อนภินนฺทิตนฺติ กามตณฺหาทีหิ ¶ อนภินนฺทิตพฺพํ. อปฺปฏิสนฺธิกนฺติ ปุนพฺภวาภิสนฺทหนรหิตํ. นฺติ ตาทิสํ วิฺาณํ. อเหตูติ ¶ นตฺถิ เหตุสงฺขาตํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ อิมสฺส นามรูปสฺสาติ อเหตุ. อปฺปจฺจยนฺติ สหายวิรเหน นตฺถิ ปจฺจยา สงฺขารา อิมสฺสาติ อปฺปจฺจยํ. เอวํ ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส นิโรธา นามรูปฺจ นิรุชฺฌตีติ.
‘‘ปฺาสตีนฺเจว นามรูปสฺส จ วุตฺตปฺปกาเรน นิรุชฺฌนภาโว กถํ อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วตฺตพฺพากาเรน ปฺาสตีนฺเจว นามรูปสฺส จ นิรุชฺฌนภาวชานนโก ภควา ยถานิรุชฺฌนภาวทีปกํ ‘‘ยเมตํ…เป… เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌตี’’ติ คาถาวจนํ อาห. เตน คาถาวจเนน ตุมฺเหหิ มยา วุตฺโต นิรุชฺฌนภาโว สทฺทหิตพฺโพเยวาติ. เอตฺถาปิ ปฺาสตินามรูปานํ นิรุชฺฌนํ อชานนฺเตน ตตฺถ วา สํสยนฺเตน อชิเตน ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉาติ วา ทิฏฺสํสนฺทนา ปุจฺฉาติ วา ปฺาทีนํ อเนกตฺถตฺตา ธมฺมโต วา อเนกาธิฏฺานา ปุจฺฉาติ วา ธมฺมาธิฏฺานา ปุจฺฉา’’ติ วา อิจฺเจวมาทิปุจฺฉาวิจโย นิทฺธาเรตพฺโพ. ‘‘สรูปทสฺสนวิสฺสชฺชนนฺติ วา อเนกาธิฏฺานวิสฺสชฺชนนฺติ วา ธมฺมาธิฏฺานวิสฺสชฺชน’’นฺติ วา อิจฺเจวมาทิวิสฺสชฺชนวิจโย นิทฺธาเรตพฺโพ.
เอวํ สตฺตาธิฏฺานาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ เจว ธมฺมาธิฏฺานาทิปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ จ วิสุํ วิสุํ ทสฺเสตฺวา ปุจฺฉาวิจโย เจว วิสฺสชฺชนวิจโย จ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘สตฺตาธิฏฺานธมฺมาธิฏฺาเนสุ เอกโต ทสฺสิเตสุ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนสุ กถํ ปุจฺฉาวิจโย เจว วิสฺสชฺชนวิจโย จ อมฺเหหิ วิฺาตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สตฺตาธิฏฺานธมฺมาธิฏฺานํ ปุจฺฉํ นีหริตฺวา ตตฺถ วิจยํ วิภชนฺโต ‘‘เย จ สงฺขตธมฺมาเส’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘เอวํ อนุสนฺธิปุจฺฉมฺปิ ทสฺเสตฺวา เหฏฺา สตฺตาธิฏฺานา, ธมฺมาธิฏฺานา จ ปุจฺฉา วิสุํ วิสุํ ทสฺสิตาติ อิทานิ ตา สห ทสฺเสตุํ ‘‘เย จ สงฺขตธมฺมาเส’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๔) –
วุตฺตํ. ตสฺสายํ อตฺโถ – อิธ สาสเน เย อรหนฺโต สงฺขตธมฺมา โหนฺติ, ปุถู พหูเยว สตฺต ชนา เสกฺขา สีลาทิสิกฺขมานา โหนฺติ, เตสํ ¶ อรหนฺตาวฺเจว เสกฺขานฺจ อิริยํ ปฏิปตฺตึ เมํ มหา ปุฏฺโ นิปโก ตฺวํ ภควา ปพฺรูหิ มาริส อิติ อายสฺมา อชิโต ปุจฺฉนฺโต อาหาติ.
๑๕. ตสฺสํ คาถายํ ‘‘กิตฺตกานิ ปุจฺฉิตานี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปทตฺถานุรูปํ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมานิ ตีณิ ปทานิ ปุจฺฉิตานี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เย จ ¶ …เป… มาริสา’’ติ คาถายํ เย ปฺหา ปุจฺฉิตา, เต ปฺหา ตโย โหนฺติ, ‘‘กิสฺส เกน การเณน ตโย โหนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘กิสฺส…เป… โยเคนา’’ติ วุตฺตํ. เสกฺขา อริยา จ อเสกฺขา อริยา จ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ ปหานฺจาติ เสขาเสขวิปสฺสนาปุพฺพงฺคมปฺปหานานิ, เตสํ โยโคติ เสขา…เป… โยโค, เตน เสขา…เป… โยเคน. เอวํ ปุจฺฉาวิธินา หิ ยสฺมา ‘‘เย จ สงฺขตธมฺมาเส…เป… มาริสา’’ติ คาถมาห, ตสฺมา ตโย ปฺหา โหนฺตีติ ทฏฺพฺพา.
‘‘เย จ สงฺขตธมฺมาเส’’ติ อิมินา อเสกฺขานํ อรหตฺตํ ปุจฺฉติ, ‘‘เย จ เสกฺขา ปุถู อิธา’’ติ อิมินา เสกฺขาเสกฺขานํ เสกฺขสิกฺขนํ ปุจฺฉติ, ‘‘เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริสา’’ติ อิมินา เสกฺขาเสกฺขานํ วิปสฺสนา ปุพฺพภาเค ตทงฺคปฺปหานํ ปุจฺฉติ. ‘‘อทิฏฺโชตนา ปุจฺฉาติ วา ทิฏฺสํสนฺทนา ปุจฺฉาติ วา สตฺตาธิฏฺานา ปุจฺฉาติ วา อเนกาธิฏฺานา ปุจฺฉา’’ติ วา อิจฺเจวมาทิปุจฺฉาวิจโย นิทฺธาเรตพฺโพ.
สตฺตธมฺมาธิฏฺานํ ปุจฺฉํ นีหริตฺวา ปุจฺฉาวิจโย อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ตสฺสํ ปุจฺฉายํ กตมา วิสฺสชฺชนาคาถา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ วิสฺสชฺชนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถาติ ตสฺสํ คาถายํ. ‘‘กาเมสุ…เป… ปริพฺพเช’’ติ วิสฺสชฺชนาคาถา ภควตา วุตฺตา. กาเมสูติ กามียนฺตีติ กามา, เตสุ กาเมสุ. วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน ปณฺฑิเตหิ นาภิคิชฺเฌยฺย. มนสา นาวิโลสิยาติ อาวิลภาวกเร พฺยาปาทวิตกฺกาทโย เจว กายทุจฺจริตาทโย จ ธมฺเม ปชหนฺโต ปณฺฑิโต มนสา อนาวิโล สุปฺปสนฺโน ภเวยฺย. กุสโล สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺพธมฺมานํ อนิจฺจตาทินา ปริตุลิตตฺตา อนิจฺจตาทีสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ กุสโล เฉโก. สโตติ เกสาทีสุ สรตีติ สโต. ภิกฺขูติ สงฺขตธมฺเม ภยาทิโต อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. ปริพฺพเชติ ¶ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปหานภาเวน กิเลสกามวตฺถุกาเม ปริ สมนฺตโต วชฺเชยฺย.
ปุจฺฉาคาถายํ ‘‘นิปโก’’ติ ปเทน ปสํสิเตน ภควตา วิสฺสชฺชนาคาถา วุตฺตา, ตสฺส ภควโต เยน อนาวรณาเณน อุกฺกํสคเตน ปกฺกภาโว ทสฺสิโต, ตํ อนาวรณาณํ ตาว กายกมฺมาทิเภเทหิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควโต สพฺพํ กายกมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อนาวรณาเณน ชานิตฺวา กตํ สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคมํ าณานุปริวตฺติ. เอส นโย เสเสสุปิ. อตีเต อํเสติ อตีตภเว สปรกฺขนฺธาทิเก โกฏฺาเส อฺาเณน อปฺปฏิหตํ ภควโต ¶ าณทสฺสนํ. อนาคเต อํเสติ อนาคตภเว สปรกฺขนฺธาทิเก โกฏฺาเส. ปจฺจุปฺปนฺเน อํเสติ ปจฺจุปฺปนฺเน ภเว สปรกฺขนฺธาทิเก โกฏฺาเส.
‘‘าณทสฺสนสฺส กตรสฺมึ ปฏิฆาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปุจฺฉํ เปตฺวา ปฏิฆาตวิสยํ ทสฺเสตุํ ‘‘โก จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนภเว สปรกฺขนฺธาทิเก โกฏฺาเส อฺเสมฺปิ าณทสฺสนํ ภเวยฺย, ตทนุสาเรน อตีตานาคตโกฏฺาเสสุปิ กตรสฺมึ อฺเสํ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต ภเวยฺยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปุจฺฉํ เปตฺวา ปฏิฆาตวิสยํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โก จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ โก จาติ กฺว กตรสฺมึ สมเย อฺเสํ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต ภเวยฺยาติ ปุจฺฉิ.
อนิจฺเจ, ทุกฺเข, อนตฺตนิเย จ อฺเสํ อฺาณํ ยํ อทสฺสนํ อตฺถิ, อฺาณาทสฺสนสงฺขาโต สภาโว าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต ภวติ, น สปรกฺขนฺธาทิทสฺสนมตฺตปฏิฆาโต. เอเตน อนิจฺจโต ลกฺขณตฺตเย ปวตฺตสฺส าณทสฺสนสฺส อฺเสํ ทุรภิสมฺภวํ, ภควโต จ าณทสฺสนสฺส อฺเหิ อสาธารณตํ ทสฺเสติ. ภควโต หิ ลกฺขณตฺตยวิภาวเนน เวเนยฺยา จตุสจฺจปฺปฏิเวธํ ลภนฺติ. ‘‘ภควโต าณทสฺสนปฏิฆาตาภาเวน อฺเสฺจ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาตภาโว กตมาย อุปมาย อมฺหากํ ปากโฏ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต อุปมาย ปากฏํ กาตุํ ‘‘ยถา อิธา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิธ สตฺตโลเก จกฺขุมา ปุริโส อากาเส ตารกานิ ปสฺเสยฺย, คณนสงฺเกเตน ¶ ‘‘เอตฺตกานี’’ติ โน จ ชาเนยฺย ยถา, เอวํ อฺเสํ าณทสฺสนสฺส ปฏิฆาโต อยํ อฺาณทสฺสนสภาโว ภวติ.
ภควโต ปน ตถา อภาวโต เกนจิ อฺาเณน อทสฺสเนน อปฺปฏิหตํ าณทสฺสนํ ภวตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘ภควโต าณทสฺสนสฺส อปฺปฏิหตภาโว กสฺมา อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อนาวรณาณทสฺสนา หิ พุทฺธา ภควนฺโต’’ติ วุตฺตํ. ‘‘นิปกสฺส…เป… ภควโต อนาวรณาณํ กายกมฺมาทิเภเทหิ อาจริเยน วิภชิตฺวา ทสฺสิตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ปจฺฉา คาถาย ‘อิริย’นฺติ ปเทน ปุจฺฉิตา เสกฺขาเสกฺขปฏิปทา กถํ วิชานิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา เสกฺขาเสกฺขปฏิปทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ เสเขนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ วิสฺสชฺชเน. เสเขนาติ สิกฺขนสีเลน ปุคฺคเลน รชนีเยสุ รูปารมฺมณาทีสุ ธมฺเมสุ เคธา จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ, ปริยุฏฺานีเยสุ อาฆาตวตฺถูสุ โทสา จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ.
‘‘เตสุ ¶ เคธโทเสสุ กตมํ นิวาเรนฺโต ภควา วิสฺสชฺชนคาถายํ กตมํ ปทมาหา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยา อิจฺฉา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เคธโทเสสุ. อิจฺฉาติ ราคิจฺฉา. มุจฺฉาติ โลภโมหสหคตโมหมุจฺฉา. ปตฺถนาติ ราคปตฺถนา. ปิยายนาติ ตณฺหาปิยายนาว, น เมตฺตาปิยายนา. กีฬนาติ เคธกีฬนา. เอตานิ หิ เคธปริยายวจนานิ. ตํ เคธสงฺขาตํ อิจฺฉาทิกํ นิวาเรนฺโต ภควา ‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺยา’’ติ เอวํ วิสุํ วิสุํ ปกาเรน อาห.
ปริยุฏฺานวิฆาตํ โทสํ นิวาเรนฺโต ภควา ‘‘มนสานาวิโล สิยา’’ติ เอวํ วิสุํ วิสุํ ปกาเรน อาหาติ โยชนา. เคธโทสานํ วิสุํ วิสุํ นิวาเรนฺโต ภควา ทฺเว ปทานิ อาหาติ วุตฺตํ, ‘‘ตํ เกน อตฺเถน สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตถา หิ เสโข’’ติอาทิ วุตฺตํ. รชนีเยสุ อภิคิชฺฌนฺโต เสโข อนุปฺปนฺนํ โลภปธานํ กิเลสฺจ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ กิเลสฺจ ผาตึ อภิวฑฺฒนํ กโรติ, ปริยุฏฺานีเยสุ อาวิโล เสโข อนุปฺปนฺนํ โทสปธานํ กิเลสฺจ อุปฺปาเทติ, อุปฺปนฺนํ กิเลสฺจ ผาตึ วฑฺฒนํ กโรติ, อิติ อิมินา ปฏิกฺเขปอตฺเถน ตํ มม วจนํ สทฺทหิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
‘‘กึ ¶ ปน อนภิคิชฺฌนฺโต, อนาวิโล จ เสกฺโข อเคธโทสนิวารณเมว กโรติ, อุทาหุ อุตฺตริปิ ปฏิปทํ ปูเรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อุตฺตริปิ ปฏิปทํ ปูเรติเยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ปน อนาวิลสงฺกปฺโป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนาวิลสงฺกปฺโปติ นตฺถิ อาวิลกรา สงฺกปฺปา พฺยาปาทสงฺกปฺปวิหึสาสงฺกปฺปา เอตสฺสาติ อนาวิลสงฺกปฺโป, อิจฺฉาทิเคธสฺส อภาเวน อนภิคิชฺฌนฺโต วายมติ กุสลวายามํ ปวตฺเตติ. ‘‘กถํ วายมตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โสติ อุปริภาวนามคฺคภาวตฺถาย ปฏิปชฺชมาโน เสกฺโข. อนุปฺปนฺนานนฺติอาทีนํ อตฺโถ สกฺกา อฏฺกถาวจเนเนว (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๕-๑๖) ชานิตุนฺติ น วิภตฺโต.
๑๖. เยนาติ อสุภาทีนํ อนุสฺสรณลกฺขเณน อินฺทฺริเยน ตณฺหามยิตวตฺถูสุ กามตณฺหาย สหชาตํ วิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ อสุภาทิอนุสฺสรณลกฺขณํ อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. เยน มหคฺคตภาวปฺปตฺเตน อวิกฺเขเปน พฺยาปาทวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ อวิกฺเขปสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ. เยน สมฺมปฺปธาเนน วิหึสาวิตกฺกํ วาเรติ, อิทํ สมฺมปฺปธานสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ. เยน สมฺมาทิฏฺิสงฺขาเตน อินฺทฺริเยน อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน…เป… นาธิวาเสติ, อิทํ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. อิเมสุ จตูสุ อินฺทฺริเยสุ สห อุปฺปชฺชมานา ยา สทฺทหนา โอกปฺปนา ¶ อุปฺปชฺชติ, อนาวิลภาวโต อิทํ สทฺทหนสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สทฺธินฺทฺริยํ. อิมานิ เสกฺขสฺส ปฺจินฺทฺริยานิ.
เอกสฺมึเยว วิสเย เชฏฺกภาวํ น ปาปุเณยฺยุํ, อตฺตโน วิสเย เชฏฺกภาวํ ปาปุณิตุํ อรหนฺติ, ‘‘กตมํ อินฺทฺริยํ กตฺถ วิสเย เชฏฺกภาวํ ปวตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต อิทํ อินฺทฺริยํ อิมสฺมึ วิสเย ปวตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยํ กตฺถ ทฏฺพฺพ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ อินฺทฺริเยสุ จตูสุ โสตาปตฺติยงฺเคสุ สทฺธินฺทฺริยํ เชฏฺกภาวํ ปวตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ โยเชตพฺพํ. กึ นุ เสกฺโข ปฺินฺทฺริเยว อปฺปมตฺโต’ติ ภควตา วุตฺโต โถมิโต, อุทาหุ สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหีติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ ปฺจินฺทฺริยปมุเขหิ วุตฺโต โถมิโต โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ เสโข’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํ ปฺจินฺทฺริยานํ นิพฺพตฺติทสฺสเนน เสโข ปุคฺคโล ¶ สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ อปฺปมตฺโตติ ภควตา วุตฺโต โถมิโต อนาวิลตาย มนสาติ โยชนา. ‘‘เสกฺขสฺส อนาวิลตา เกน สทฺทหิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห ภควา มนสานาวิโล สิยา’’ติ วุตฺตํ. ภควตา ‘‘มนสานาวิโล สิยา’’ติ วุตฺตตฺตา เสกฺขสฺส อนาวิลตา ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพาติ.
๑๗. เสกฺขสฺส มตฺถกปฺปตฺตา ปฏิปทา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กถํ อเสกฺขสฺส มตฺถกปฺปตฺตา ปฏิปทา าตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา อเสกฺขสฺส มตฺถกปฺปตฺตํ ปฏิปทํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กุสโล สพฺพธมฺมาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพธมฺมานนฺติ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ มตฺถกปฺปตฺตาย ปฏิปทาย อเสกฺโข กุสโล เฉกตโรติ ภควตา วุตฺโต โถมิโต อนาวิลตาย มนสาติ. อเสกฺขสฺส สพฺพธมฺเมสุ ยํ โกสลฺลํ ทสฺเสตุกาโม, ตสฺส โกสลฺลสฺส วิสยภูเต สพฺพธมฺเม ตาว ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โลโก นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘สพฺพธมฺมาน’’นฺติ อิมินา วุตฺตธมฺมสงฺขาโต โลโก นาม กิเลสโลโก, ภวโลโก, อินฺทฺริยโลโกติ ติวิโธ โหตีติ โยชนา. ตตฺถ ปริตฺตธมฺมฏฺโ กิเลสชนนฏฺเน กิเลโส, กุสลาทิปวตฺตนฏฺเน โลโก จาติ กิเลสโลโก. มหคฺคตธมฺมฏฺโ ภวนฏฺเน ภโว, วุตฺตนเยน โลโก จาติ ภวโลโก. สทฺธินฺทฺริยาทิธมฺมฏฺโ อาธิปจฺจฏฺโยควเสน อินฺทฺริยภูโต หุตฺวา สทฺธินฺทฺริยาทิปตฺตนฏฺเน โลโก จาติ อินฺทฺริยโลโก.
‘‘ตีสุ โลเกสุ กตเมน กตโม สมุทาคจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สทฺธาทิอินฺทฺริยานิ โก นิพฺพตฺเตตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส อินฺทฺริยานิ นิพฺพตฺเตตี’’ติ วุตฺตํ ¶ . ตตฺถ โสติ โย ปุคฺคโล กิเลสโลกสงฺขาเต ปริตฺตธมฺเม, ภวโลกสงฺขาเต มหคฺคตธมฺเม จ ตํตํสมฺปาทนวเสน ิโต, โส ปุคฺคโล สทฺธินฺทฺริยาทีนิ อินฺทฺริยานิ อตฺตสนฺตาเน นิพฺพตฺเตติ.
‘‘อินฺทฺริเยสุ อตฺตสนฺตาเนสุ ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตาปนวเสน วุฑฺฒาปิยมาเนสุ กา ปฺา ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อินฺทฺริเยสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เนยฺยสฺสาติ อภิฺเยฺยสฺส. ปริฺาติ รูปารูปธมฺเม สลกฺขณโต, ปจฺจยโต ¶ จ ปริคฺคหาทิวเสน ปวตฺตปฺา. ‘‘สา ปริฺา กติวิเธน อุปปริกฺขิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สา ทุวิเธนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สา ปริฺา ทสฺสนปริฺาย จ ภาวนาปริฺาย จ ทุวิเธน วิฺูหิ อุปปริกฺขิตฺวา คเหตพฺพาติ. ทสฺสนปริฺายาติ จ ทสฺสนมคฺคปฺาชนิกาย าตปริฺายาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘ทสฺสนปริฺาติ าตปริฺา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๗). ภาวนาปริฺายาติ ภาวนามคฺคปฺาชนิกาย ตีรณปริฺาย สทฺธึ ปหานปริฺายาติ อตฺโถ.
‘‘สา ทุวิเธนา’ติอาทินา วุตฺโต อตฺโถ อติสงฺเขโป น สกฺกา วิฺาตุํ, วิตฺถาเรตฺวา กเถหี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยทา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทาติ พลววิปสฺสนุปฺปชฺชนกาเล. เสโขติ สิกฺขนสีลตาย กลฺยาณปุถุชฺชโน เจว โสตาปนฺนาทิโก จ. เยฺยนฺติ าตพฺพํ รูปาทิกํ สงฺขารํ. ปริชานาตีติ ปริคฺคหาทิาเณน ปริคฺคเหตฺวา ชานาติ นิพฺพิทาาณสหคเตน. ตสฺสาติ กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส เจว โสตาปนฺนาทิกสฺส จ. ทฺเว ธมฺมาติ กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส พลววิปสฺสนาธมฺโม เจว โสตาปนฺนาทิกสฺส จ พลววิปสฺสนาธมฺโม จ. ยถากฺกมํ ทสฺสนโกสลฺลํ โสตาปตฺติมคฺคาณฺเจว ภาวนาโกสลฺลํ สกทาคามิมคฺคาทิกฺจ สนฺตาเน ปวตฺตาปนวเสน คจฺฉนฺติ.
‘‘ปุพฺเพ ยํ าณํ ‘เนยฺยสฺส ปริฺา’ติ วุตฺตํ, ตํ าณํ กติวิเธน เวทิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตํ าณํ ปฺจวิเธน เวทิตพฺพํ…เป... สจฺฉิกิริยา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตาสุ วิปสฺสนาเภเทน ภินฺนาสุ ปฺจสุ อภิฺาทีสุ กตมา อภิฺา, กตมา ปริฺา, กตมํ ปหานํ, กตมา ภาวนา, กตมา สจฺฉิกิริยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ อภิฺาทีสุ. ยํ ธมฺมานํ สลกฺขเณ าณนฺติ รูปธมฺมานํ กกฺขฬาทิสลกฺขเณ, อรูปธมฺมานํ ผุสนาทิสลกฺขเณ อารมฺมณกรณวเสน ปวตฺตํ ยํ าณํ เหตุผลชานนเหตุชานนสงฺขาตา ธมฺมปฏิสมฺภิทา เจว เหตุผลชานนสงฺขาตา อตฺถปฏิสมฺภิทา จ ภวติ. อยํ สลกฺขเณน สทฺธึ เหตุผลชานนา ปฺา อภิฺา นาม.
เอวนฺติ ¶ ¶ วุตฺตปฺปกาเรน. อภิฺาาเณน อภิชานิตฺวา. ยา ปริชานนาติอาทีสุ ‘‘อิทํ อนวชฺชํ กุสลํ, อิทํ สาวชฺชํ อกุสลํ, อิทํ อกุสลวิปากชนกํ สาวชฺชํ, อิทํ กุสลวิปากชนกํ อนวชฺชํ, อิทํ สํกิลิฏฺํ กณฺหํ, อิทํ อสํกิลิฏฺํ สุกฺกํ, อิทํ กุสลํ อนวชฺชาทิกํ เสวิตพฺพํ, อิทํ อกุสลํ สาวชฺชาทิกํ น เสวิตพฺพ’’นฺติ เอวํ อนิจฺจาทิโต กลาปสมฺมสนาทิวเสน คหิตา สมฺมสิตา อิเม วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา สงฺขตธมฺมา อิทํ อุทยพฺพยาณาทิผลํ อานิสํสํ อนุกฺกเมน นิพฺพตฺตาเปนฺติ. ตนฺนิพฺพตฺตวิปสฺสนาย อุปฺปชฺชนโต อุปจารํ อุปฺปาเทนฺติ, เอวํ อนุกฺกเมน คหิตานํ ปวตฺติตานํ เตสํ อุทยพฺพยาณาทีนํ อยํ สจฺจานุโพธปฏิเวโธ อตฺโถติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยา ปริชานนา ปวตฺตา, สา อยํ ปริชานนา ปริฺา นามาติ โยเชตฺวา, เอวํ วุตฺตปฺปการาย ปริฺาปฺาย ปริชานิตฺวา ปหาตพฺพา, ภาเวตพฺพา, สจฺฉิกาตพฺพา จ ตโย ธมฺมา อวสิฏฺา ภวนฺติ. ‘‘เย อกุสลา, เต ปหาตพฺพา’’ติ ยา ปริชานนา ปฺา ปวตฺตา, อิทํ ปหานํ ปหานาณํ. ‘‘เย กุสลา, เต ภาเวตพฺพา’’ติ ยา ปริชานนา ปฺา ปวตฺตา, สา ภาวนาปฺา. ‘‘ยํ อสงฺขตํ, อิทํ สจฺฉิกิริย’’นฺติ ยา ปริชานนา ปฺา ปวตฺตา, สา สจฺฉิกิริยาปฺาติ โยเชตฺวา อฏฺกถาธิปฺปาเยน อวิรุทฺโธ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
อภิฺาทโย ปฺจวิธา ปฺา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘ตาหิ ปริฺาหิ ชานนฺโต ปุคฺคโล ‘กิ’นฺติ วุจฺจติ โถมียตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โย เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย ปุคฺคโล เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน ชานาติ, อยํ ชานนฺโต ปุคฺคโล ปจฺจยุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กุสลตฺตา เฉกตฺตา ‘‘อตฺถกุสโล’’ติ วุจฺจติ โถมียติ, ปจฺจยธมฺเมสุ กุสลตฺตา ‘‘ธมฺมกุสโล’’ติ จ จตุนฺนํ เอกตฺตาทีนํ นยานํ ยุตฺตตาย โกวิทตฺตา ‘‘กลฺยาณตากุสโล’’ติ จ ผลสมาปตฺตีสุ โกวิทตฺตา ‘‘ผลตากุสโล’’ติ จ วฑฺฒีสุ โกวิทตฺตา ‘‘อายกุสโล’’ติ จ อวฑฺฒีสุ โกวิทตฺตา ‘‘อปายกุสโล’’ติ จ อจฺจายิเก กิจฺเจ วา ภเย วา อุปฺปนฺเน สติ ตสฺส กิจฺจสฺส, ภยสฺส วา ติกิจฺฉนสมตฺเถ านุปฺปตฺติยการเณ โกวิทตฺตา ‘‘อุปายกุสโล’’ติ จ มหนฺเตสุ อภิกฺกมาทีสุ สติสมฺปชฺาย สมฺปนฺนตฺตา ‘‘มหตา โกสลฺเลน สมนฺนาคโต’’ติ จ วุจฺจติ โถมียติ. ‘‘ตสฺส ¶ อเสกฺขสฺส อตฺถาทีสุ กุสลภาโว กถํ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘กุสโล สพฺพธมฺมาน’’นฺติ วุตฺตตฺตา สทฺทหิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
‘‘กุสโล ¶ สพฺพธมฺมาน’’นฺติ ปทสฺส อตฺโถ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ ปทสฺส อตฺโถ กถํ อมฺเหหิ วิตฺถารโต วิฺาโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ‘‘สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ ภควตา วุตฺตํ, ‘‘กตฺถ ปวตฺเตน สติสหิเตน าเณน สมฺปนฺโน สโต กิมตฺถํ ปริพฺพเช’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิเมสุ ปวตฺเตน สติสหิตาเณน สมฺปนฺโน สโต อิมมตฺถํ ปริพฺพเช’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เตนาติ โย อภิกฺกมาทีสุ ปวตฺเตน สติสหิตาเณน สมนฺนาคโต สโต อเสกฺขภิกฺขุ, เตน อเสกฺขภิกฺขุนา ปรินิฏฺิตสิกฺขตฺตา อฺปโยชนาภาวโต ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ อภิกฺกนฺเต…เป… ตุณฺหีภาเวน สเตน สติสหิเตน สมฺปชาเนน าเณน วิหาตพฺพํ จตุอิริยาปถปริวตฺตนสงฺขาตํ วิหรณํ ปวตฺเตตพฺพํ.
‘‘ยา เสกฺขาเสกฺขปฏิปทา นิทฺทิฏฺา, อิมา เสกฺขาเสกฺขปฏิปทา สงฺเขปโต กติวิธา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมา ปฏิปทาสงฺขาตา จริยา สงฺเขปโต ปุคฺคลวเสน ทฺเวติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมา ทฺเว จริยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยา จริยา ภาเวตพฺพกุสลาทิเภเทน วา อตฺถโกสลฺลาทิเภเทน วา อภิกฺกมาทีสุ สติสมฺปชฺเภเทน วา นิทฺทิฏฺา, อิมา จริยา ทฺเวติ ภควตา อนฺุาตา อนุชานนวเสน เทสิตา, วิสุทฺธานํ อรหนฺตานํ เอกา จริยา, วิสุชฺฌนฺตานํ เสกฺขานํ เอกา จริยาติ ปุคฺคลวเสน ทฺเวติ ทฏฺพฺพา.
‘‘อเสกฺโขเยว กสฺมา ‘สโต อภิกฺกมตี’ติอาทินา วุจฺจติ โถมียติ, กลฺยาณปุถุชฺชโนปิ ‘สโต อภิกฺกมตี’ติอาทินา วุจฺจติ โถมียตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กตกิจฺจานิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อรหโต อินฺทฺริยานิ กตกิจฺจานิ, อินฺทฺริยานํ กตกิจฺจตฺตา ยํ ปุจฺฉํ ปุจฺฉิตพฺพํ, ตํ สพฺพํ จตุพฺพิธํ ทุกฺขสฺส ปริฺาภิสมเยน โพชฺฌิตพฺพํ…เป… นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาภิสมเยน โพชฺฌิตพฺพํ ภเว. จตุพฺพิธํ อิทํ โพชฺฌํ โพชฺฌิตพฺพํ โย อเสกฺโข สติเวปุลฺลปฺปตฺตตฺตา เอวํ ปริฺาภิสมยาทินา ชานาติ,อยํ ¶ อเสกฺโข นิปฺปริยาเยน ‘‘ราคสฺส ขยาย, โทสสฺส ขยาย, โมหสฺส ขยาย สโต อภิกฺกมติ, สโต ปฏิกฺกมตี’’ติ วุจฺจติ โถมียติ. เสกฺโขปิ ยถาวุตฺตํ โพชฺฌํ โพชฺฌิตพฺพํ อตฺตโน ปริฺาภิสมยาทินา ชานาติ, ตสฺมา ‘‘สโต…เป… โมหสฺสา’’ติ วุจฺจติ โถมียตีติ เวทิตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ‘‘เก วิสุชฺฌนฺตา? เสกฺขา’’ติ.
‘‘กสฺมา เสกฺขาเสกฺขานํ สติสมฺปชฺเน อภิกฺกมนาทิภาโว, ราคาทีนฺจ ขยภาโว ¶ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘เตนาห ภควา สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ. ‘‘ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ าณปุพฺพงฺคม’นฺติอาทินา (เนตฺติ. ๑๕) มนาปิเกสุ กาเมสุ นาภิคิชฺฌนภาโว, อมนาปิเกสุ กาเมสุ มนสา อนาวิลภาโว, สพฺพธมฺเมสุ กุสลภาโว, สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคตสฺส ปริพฺพชนภาโว อาจริเยน นิทฺทิฏฺโ, โส นาภิคิชฺฌนภาวาทิโก กสฺมา อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘เตนาห กาเมสุ…เป… ปริพฺพเช’’ติ. อิมิสฺสา คาถายปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจโย ปุพฺเพ เอกาธิฏฺานาทิธมฺมาธิฏฺานาทิวเสน วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
วิจยหารวิภงฺเค อชิตสุตฺตํ นีหริตฺวา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจโย อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม สุตฺตนฺตเรสุ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อชิตสุตฺเต ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจยนยานุสาเรน สุตฺตนฺตเรสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานิ นีหริตฺวา ปุจฺฉาวิจยวิสฺสชฺชนวิจยา โยเชตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ปุจฺฉิตพฺพํ, เอวํ วิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน –
เอตฺตาวตา จ มหาเถโร วิจยหารํ วิภชนฺโต อชิตสุตฺตวเสน ปุจฺฉาวิจยํ, วิสฺสชฺชนวิจยฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุตฺตนฺตเรสุปิ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจยานํ นยํ ทสฺเสนฺโต เอวํ ปุจฺฉิตพฺพํ, เอวํ วิสฺสชฺชิตพฺพ’นฺติ อาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๗) –
วุตฺตํ. ตตฺถ เอวนฺติ อชิตสุตฺเต (สุ. นิ. ๑๐๓๘ อาทโย; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๕๗, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑ อาทโย) วุตฺตปุจฺฉาวิจยานุสาเรน ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตสุตฺตํ นีหริตฺวา ปุจฺฉาวิจโย วิภเชตพฺโพ, เอวํ อชิตสุตฺเต (สุ. นิ. ๑๐๓๘ อาทโย; จูฬนิ. วตฺถุคาถา ๕๗ อาทโย, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑ อาทโย) วุตฺตวิสฺสชฺชนวิจยานุสาเรน สุตฺตนฺตเรสุปิ วิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตสุตฺตํ นีหริตฺวา วิสฺสชฺชนวิจโย วิภเชตพฺโพ.
ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจยา ¶ อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตโม สุตฺตอนุคีติวิจโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘สุตฺตสฺส จ อนุคีตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุตฺตสฺสาติ นีหริตสุตฺตสฺส. อนุคีตีติ สุตฺตนฺตรเทสนาสงฺขาตา อนุคีติ. อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ สมาเนตพฺพาติ ตสฺสา อนุคีติยา อตฺถโต, พฺยฺชนโต จ สํวณฺเณตพฺพสุตฺเตน สมานา สทิสี กาตพฺพา, ตสฺมึ วา สํวณฺณิยมานสุตฺเต อนุคีติ สุตฺตตฺถโต, พฺยฺชนโต จ สมาเนตพฺพา ¶ . ‘‘อตฺถโต อสมาเน โก นาม โทโส อาปชฺเชยฺยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อตฺถาปคตํ หิ พฺยฺชนํ สมฺผปฺปลาปํ ภวตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อตฺถโต อสมาเน โทโส วุตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, พฺยฺชนโต อสมาเน ปน โก นาม โทโส อาปชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทุนฺนิกฺขิตฺตสฺส ปทพฺยฺชนสฺส อตฺโถปิ ทุนฺนโย ภวตี’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา สโทสตฺตา อนุคีติยา วา สุตฺเตน อตฺถพฺยฺชนูเปตํ สงฺคายิตพฺพํ.
อนุคีติวิจโย อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม สุตฺตสฺส วิจโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สุตฺตฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุตฺตฺจาติ นิทฺธาริตสุตฺตฺจ. ‘‘อิทํ นิทฺธาริตสุตฺตํ นาม ภควตา วุตฺตํ อาหจฺจวจนํ กึ, อุทาหุ สงฺคายนฺเตหิ วุตฺตํ อนุสนฺธิวจนํ กิ’’นฺติ ปวิจินิตพฺพํ, ‘‘อิทํ นิทฺธาริตสุตฺตํ นีตตฺถํ กึ, อุทาหุ เนยฺยตฺถํ กิ’’นฺติ ปวิจินิตพฺพํ, ‘‘อิทํ นิทฺธาริตสุตฺตํ สํกิเลสภาคิยํ กึ, อุทาหุ วาสนาภาคิยํ กิ’’นฺติ ปวิจินิตพฺพํ, ‘‘อิทํ นิทฺธาริตสุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ กึ, อุทาหุ อเสกฺขภาคิยํ กิ’’นฺติ ปวิจินิตพฺพํ. เอวํ ปวิจินิตฺวา ยทิ อาหจฺจวจนํ ภเว, เอวํ สติ ‘‘อาหจฺจวจน’’นฺติ นิทฺธาเรตฺวา คเหตพฺพํ. ยทิ อเสกฺขสุตฺตํ ภเว, เอวํ สติ ‘‘อเสกฺขสุตฺต’’นฺติ นิทฺธาเรตฺวา คเหตพฺพํ, าตนฺติ อตฺโถ.
‘‘สุตฺตํ ปวิจินิตฺวา สุตฺตสฺส อตฺถภูตานิ สพฺพานิ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา กตฺถ ปเทเส ปสฺสิตพฺพานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปุจฺฉํ เปตฺวา อิมสฺมึ ปเทเส ปสฺสิตพฺพานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘กุหึ อิมสฺส สุตฺตสฺส สพฺพานิ…เป… ปริโยสาเน’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมสฺส สุตฺตสฺสาติ ยํ สุตฺตํ วิจินิตุํ นิทฺธาริตํ, อิมสฺส สุตฺตสฺส จตุสจฺจวินิมุตฺตสฺส สุตฺตตฺถสฺส อภาวโต สพฺพานิ สจฺจานิ ตสฺเสว สุตฺตสฺส อาทิมชฺฌปริโยสาเน ปสฺสิตพฺพานีติ อตฺโถ.
ยถาวุตฺตํ ¶ สุตฺตวิจยํ นิคเมนฺโต ‘‘เอวํ สุตฺตํ ปวิเจตพฺพ’’นฺติ อาห. ‘‘น ยถาวุตฺตปุจฺฉาทีนํ ปวิเจตพฺพภาโว อมฺเหหิ ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เตนาห…เป… อนุคีตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน ยถาวุตฺตปุจฺฉาทีนํ วิเจตพฺพภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘ยํ ปุจฺฉิตฺจ…เป… อนุคีตี’’ติอาทิกํ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน วิเจตพฺพภาโว ตุมฺเหหิ ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพวาติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘ยถาวุตฺตปฺปกาโร จ วิจโย หาโร ปริปุณฺโณ กึ, อุทาหุ อฺโปิ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺโพ อตฺถิ กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต วิจโย หาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุจฺฉาวิจยวิสฺสชฺชนวิจยปุพฺพาปรวิจยอนุคีติวิจยสุตฺตวิจยา ¶ สรูปโต วิภตฺตา, เตหิ อวเสโส อสฺสาทาทิวิจโยปิ ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺโต ยฺุชิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
อิติ วิจยหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๓. ยุตฺติหารวิภงฺควิภาวนา
๑๘. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน วิจยหารวิภงฺเคน ปทปฺหาทโย วิจิตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิจยหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ยุตฺติหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ยุตฺติหาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ หาเรสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ยุตฺติหาโร ยุตฺติหารวิภงฺโคติ ปุจฺฉิ. ‘‘สพฺเพสํ หาราน’’นฺติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ วุจฺจมาโน ‘‘อยํ ยุตฺติหาโร’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ยุตฺติหารวิภงฺโค นามาติ วิฺเยฺโย. เตน วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ กตโม ยุตฺติหาโรติอาทิ ยุตฺติหารวิภงฺโค’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๘). อยํ ยุตฺติหาโร กึ นาม สุตฺตตฺถํ ยุตฺตายุตฺติวเสน โยชยตีติ ยฺุชิตพฺพํ สุตฺตตฺถํ ¶ ปุจฺฉติ. สุตฺตตฺโถ ปน ทุวิโธ อตถากาเรน คยฺหมาโน, ตถากาเรน คยฺหมาโน อตฺโถติ. ตตฺถ อตถากาเรน คยฺหมาโนว อตฺโถ ยาถาวโต ยุตฺตินิทฺธารเณน โยเชตพฺโพ, อิตโร ปน ภูตกถนมตฺเตน โยเชตพฺโพ. ยสฺมา ปนายํ ยุตฺติคเวสนา นาม สํวณฺณนา มหาปเทเสหิ วินา น สมฺภวติ, ตสฺมา ยุตฺติหารํ วิภชนฺโต ตสฺส ยุตฺติหารสฺส ลกฺขณํ ปมํ อุปทิสิตุํ ‘‘จตฺตาโร มหาปเทสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มหาปเทสาติ มหนฺเต พุทฺธาทโย อปทิสิตฺวา วุตฺตานิ การณานิ, มหนฺตานิ วา ธมฺมสฺส อปเทสานิ ปติฏฺานานิ. อปทิสียเตติ อปเทโส, พุทฺโธ อปเทโส เอตสฺส การณสฺสาติ พุทฺธาปเทโส. เสเสสุปิ เอเสว นโย เนตพฺโพ. ‘‘พุทฺธสฺส สมฺมุขา เอตํ สุตฺตํ มยา สุต’’นฺติ วตฺวา อาภตสฺส คนฺถสฺส สุตฺตวินเยหิ สํสนฺทนํ ธมฺโม, อสํสนฺทนํ อธมฺโมติ วินิจฺฉยการณํ ¶ มหาปเทโสติ อธิปฺปาโย. ‘‘พุทฺธสฺส สมฺมุขา มยา อาภตํ, สงฺฆสฺส สมฺมุขา มยา อาภตํ, สมฺพหุลตฺเถรานํ สมฺมุขา มยา อาภตํ, เอกตฺเถรสฺส สมฺมุขา มยา อาภต’’นฺติ วตฺวา อาภตสฺส คนฺถสฺส ยานิ พฺยฺชนปทอตฺถปทานิ สนฺติ, ตานิ ปทพฺยฺชนานิ ภควตา เทสิเต สุตฺเต โอตรยิตพฺพานิ อนุปฺปเวสิตานิ, วินเย ราคาทิวินเย สนฺทสฺสยิตพฺพานิ สํสนฺเทตพฺพานิ. ธมฺมตายํ อุปนิกฺขิปิตพฺพานิ ปกฺขิปิตพฺพานิ. ยทิ สุตฺตตฺเถน, วินยตฺเถน, ธมฺมตาย จ อวิรุทฺธานิ โหนฺติ, เอวํ สติ ตว อาภตปทพฺยฺชนานิ ยุตฺตานีติ วินิจฺฉยนฺเตหิ วตฺวา คเหตพฺพานีติ อธิปฺปาโย.
สุตฺตวินยธมฺมตาสุ โอตรยิตพฺพานิ สนฺทสฺสยิตพฺพานิ อุปนิกฺขิปิตพฺพานีติ อาจริเยน วุตฺตานิ, ‘‘กตฺถ สุตฺเต, กตฺถ วินเย, กตฺถ ธมฺมตาย’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กตมสฺมึ สุตฺเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จตูสุ อริยสจฺเจสูติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ทสฺสนเกสุ สุตฺเตสุ. ราโค วินสฺสติ วูปสมติ เอเตน อสุภาทินาติ ราควินยํ, กึ ตํ? อสุภาทินิมิตฺตํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ ราควินโย, โก โส? อสุภาทินิมิตฺตทสฺสนโก สุตฺตนฺตวิเสโส. เอส นโย โทสวินโยติอาทีสุปิ. ปฏิจฺจสมุปฺปาโท นาม สสฺสตทิฏฺิอุจฺเฉททิฏฺึ วิวชฺเชตฺวา เอกตฺตนยาทีนํ ทีปเนน อวิชฺชาทิสงฺขาราทิสภาวธมฺมานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวทีปโกติ วุตฺตํ ‘‘กตมิสฺสํ ธมฺมตายํ อุปนิกฺขิปิตพฺพานิ? ปฏิจฺจสมุปฺปาเท’’ติ.
‘‘สุตฺตาทีสุ ¶ อวตรนฺเต สนฺทิสฺสนฺเต อวิโลเมนฺเต กึ น ชเนตี’’ติ วตฺตพฺพโต ‘‘จตูสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธาทีนํ สมฺมุขา มยา อาภต’’นฺติ วตฺวา อาภตคนฺโถ จตูสุ อริยสจฺเจสุ ยทิ อวตรติ, เอวํ สติ อาภตคนฺโถ อาสเว น ชเนติ. ราคาทิกิเลสวินเย ยทิ สนฺทิสฺสติ, เอวํ สติ อาภตคนฺโถ อาสเว น ชเนติ. ธมฺมตฺจ ยทิ น วิโลเมติ, เอวํ สติ อาภตคนฺโถ อาสเว น ชเนตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
‘‘กิมตฺถํ ยุตฺติหารวิภงฺเค จตฺตาโร มหาปเทสา อาภตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตูหิ มหาปเทเสหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาภตคนฺเถ ยํ ยํ อตฺถชาตํ, ยํ ยํ ธมฺมชาตํ วา จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชติ, ตํ ตํ อตฺถชาตํ วา ตํ ตํ ธมฺมชาตํ วา สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต คเหตพฺพํ. เยน เยน การเณน จ จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชติ, ตํ ตํ การณํ สํวณฺณนาวเสน สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต คเหตพฺพํ. ยถา ยถา ปกาเรน จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชติ, โส โส ปกาโร สํวณฺณนาวเสน สํวณฺเณตพฺพสุตฺเต คเหตพฺโพ. เอวํ คาหณตฺถํ จตฺตาโร มหาปเทสา อาภตาติ อตฺโถ.
๑๙. จตูหิ ¶ มหาปเทเสหิ ยุตฺตํ อวิรุทฺธํ ตํ ตํ อตฺถชาตํ คเหตพฺพนฺติ อาจริเยน วุตฺตํ, ‘‘กตฺถ เกน ยุตฺตินิทฺธารณํ กาตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺเห ปฺหํ ปุจฺฉิเตน ปุคฺคเลน ยุตฺตินิทฺธารณํ กาตพฺพนฺติ. ตตฺถ ปฺหนฺติ ปฺหิตพฺพํ สภาวธมฺมํ. ปุจฺฉิเตนาติ วิสฺสชฺเชตุํ สมตฺเถน ปณฺฑิตปุคฺคเลน. ปฺเหติ ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตปาเ. ปทานิ กติ กิตฺตกานิ โหนฺตีติ ปทโส ปมํ ปริโยคาหิตพฺพํ ยุตฺติหาเรน วิเจตพฺพํ วีมํสิตพฺพํ. ‘‘กถํ วิเจตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยทิ สพฺพานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพานิ ปทานีติ ปุจฺฉิตปาเ นิรวเสสานิ ปทานิ เอกํ สมานํ อตฺถํ ยทิ อภิวทนฺติ, เอวํ สติ อตฺถวเสน เอโก ปฺโห. เอส นโย เสเสสุปิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตทตฺถสฺเสกสฺส าตุํ อิจฺฉิตตฺตา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๙).
เอกนฺติ อตฺถวเสน เอกวิธํ ปฺหํ. อุปปริกฺขมาเนน ปุคฺคเลน อฺาตพฺพํ ทฬฺหํ ชานิตพฺพํ. ‘‘โก อาชานนากาโร’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อาชานนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ อิเม ธมฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘เย หิ ปริยตฺติธมฺมา ¶ สํวณฺเณตพฺพา, อิเม ปริยตฺติธมฺมา นานตฺถา โหนฺติ กึ, นานาพฺยฺชนา โหนฺติ กึ, อุทาหุ อิเมสํ ปริยตฺติธมฺมานํ เอโก อตฺโถ โหติ, พฺยฺชนเมว นานํ โหติ กิ’’นฺติ ยุตฺติโต วิเจตฺวา อฺาตพฺพนฺติ โยชนา. ‘‘ยถาวุตฺโต ปฺโห กึ ภเว’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ยถาวุตฺตํ ปฺหํ เอกเทสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา กึ ภเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ยถา สา’’ติอาทิมาห.
ตสฺสํ ปุจฺฉาคาถายํ – โจรฆาตเกน มนุสฺเสน โจโร อพฺภาหโต วิย เกน ธมฺเมน สตฺตโลโก สทา อพฺภาหโต, มาลุวลตาย อตฺตโน นิสฺสิตรุกฺโข ปริวาริโต อชฺโฌตฺถโฏ วิย เกน ธมฺเมน สตฺตโลโก สทา ปริวาริโต อชฺโฌตฺถโฏ, วิสปฺปีตขุรปฺเปน สลฺเลน โอติณฺโณ อนุปวิฏฺโ วิย เกน สลฺเลน สตฺตโลโก สทา โอติณฺโณ อนุปวิฏฺโ, กิสฺส เกน การเณน สตฺตโลโก สทา ธูปายิโต สนฺตาปิโตติ โยชนา.
‘‘อิมาย ปุจฺฉาคาถาย กิตฺตกานิ ปทานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุจฺฉิตานีติ ปุจฺฉิตตฺถานิ ปทานิ จตฺตาริ โหนฺติ. ‘‘กิตฺตกา ปฺหา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เต ตโย ปฺหา’’ติ วุตฺตํ.
ภควา เทวตาย หิ ยสฺมา วิสฺสชฺเชติ, อิติ ตสฺมา วิสฺสชฺชนโต ‘‘ตโยปฺหา’’ติ วิฺายติ. ‘‘กตมา วิสฺสชฺชนคาถา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –
‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต ¶ โลโก, ชราย ปริวาริโต;
ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณ, อิจฺฉาธูปายิโต สทา’’ติ. –
วุตฺตํ. ตสฺสํ วิสฺสชฺชนคาถายํ – โจรฆาตเกน มนุสฺเสน โจโร อพฺภาหโต วิย มจฺจุนา สตฺตโลโก สทา อพฺภาหโต, มาลุวลตาย อตฺตโน นิสฺสิตรุกฺโข ปริวาริโต อชฺโฌตฺถโฏ วิย ชราย สตฺตโลโก สทา ปริวาริโต อชฺโฌตฺถโฏ, วิสปฺปีตขุรปฺเปน สลฺเลน โอติณฺโณ อนุปวิฏฺโ วิย ตณฺหาสลฺเลน สตฺตโลโก สทา โอติณฺโณ อนุปวิฏฺโ, อิจฺฉาย สตฺตโลโก สทา ธูปายิโต สนฺตาปิโตติ โยชนา.
๒๐. ‘‘กตมํ มจฺจุ, กตมา ชรา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ชรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ติสฺสํ วิสฺสชฺชนคาถายํ. ทุติยปเท วุตฺตา ชรา จ ปมปเท ¶ วุตฺตํ มรณฺจ อิมานิ ทฺเว สงฺขตสฺส ขนฺธปฺจกสฺส สงฺขตลกฺขณานิ โหนฺติ, สงฺขตํ ขนฺธปฺจกํ มฺุจิตฺวา วิสุํ น อุปลพฺภตีติ อตฺโถ. ‘‘สงฺขตลกฺขณานํ ชรามรณานํ กถํ เภโท ชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ชรายํ ิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชรายํ ิตสฺส อฺถตฺตนฺติ ิตสฺส ขนฺธปฺปพนฺธสฺส ยํ อฺถตฺตํ, อยํ ปากฏชรา นาม, น ขณฏฺิติชรา. มรณํ วโยติ สมฺมุติมรณํ จุติเยว โหติ, น ขณิกมรณํ, น สมุจฺเฉทมรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓๘; อ. นิ. ๓.๔๗; กถา. ๒๑๔).
ยทิ ิตสฺเสว มรณํ สิยา, เอวํ สติ ชรามรณานํ นานตฺตํ ยุตฺตํ น สิยา, อยุตฺเต สติ ‘‘เต ตโย ปฺหา’’ติ วจนมฺปิ อยุตฺตเมวาติ วตฺตพฺพโต ‘‘ตตฺถ ชราย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ติสฺสํ วิสฺสชฺชนคาถายํ วุตฺตาย ชราย จ วุตฺตสฺส มรณสฺส จ อตฺถโต นานตฺตํ ยุตฺตํ.
‘‘เกน การเณน ยุตฺตํ, กถํ การเณน นานตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘คพฺภคตาปิ หิ มียนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ชรํ อปฺปตฺตา คพฺภคตาปิ สตฺตา หิ ยสฺมา มียนฺติ, ตสฺมา นานตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘คพฺภคตาปิ ชรปฺปตฺตา ภเวยฺยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘น จ เต ชิณฺณา ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ชรปฺปตฺตาปิ อชิณฺณตฺตา ชิณฺณชรํ อปฺปตฺตาว มียนฺติ, เอวํ อิธาธิปฺเปตสฺส ชิณฺณชราวิรหิตสฺส มรณสฺส สมฺภวโต อฺา ชรา, อฺํ มรณนฺติ าตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘น คพฺภคตานํเยว ชิณฺณชรํ อปฺปตฺตํ มรณํ อตฺถิ, อฺเสมฺปิ อตฺถี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ¶ ‘‘อตฺถิ จ เทวานํ มรณ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘เทวาปิ จิรกาลสมฺภวโต ชรํ ปตฺตา ภเวยฺยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘น จ เตสํ สรีรานิ ชีรนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ชรามรณานํ นานตฺเต การณํ เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา อฺมฺปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สกฺกเต วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชิณฺณชราย ปฏิกมฺมํ กาตุํ สกฺกเตว, มรณสฺส ปน ปฏิกมฺมสฺส กาตุํ น สกฺกเตว, อิมินาปิ การเณน ชรามรณานํ นานตฺตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพเมวาติ อตฺโถ. ‘‘น สกฺกเต มรณสฺส ปฏิกมฺมํ กาตุ’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อิทฺธิปาทภาวนาย วสีภาเว สติ สกฺกา มรณสฺสาปิ ปฏิกมฺมํ กาตุนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘อฺตฺเรว อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสยา’’ติ วุตฺตํ.
ชรามรณานํ ¶ อฺมฺํ นานาภาโว อาจริเยน ทสฺสิโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ ปน ตณฺหาย ชรามรเณหิ นานาภาโว’’ติ วตฺตพฺพโต เตหิ ตณฺหาย นานตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ ปนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตณฺหาย อวิชฺชมานายปิ ชีรนฺตาปิ มียนฺตาปิ วีตราคา ยสฺมา ทิสฺสนฺติ, ตสฺมา ตณฺหาย ชรามรเณหิ นานาภาโว สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ.
‘‘ตณฺหาย ชีรณภิชฺชนลกฺขณํ อตฺถีติ เตหิ ตณฺหาย อนฺตฺเต โก นาม โทโส สิยา’’ติ วตฺตพฺพโต โทสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชรามรณํ ยถา เยน ชีรณภิชฺชนลกฺขเณน ปากฏํ, เอวํ ชีรณภิชฺชนลกฺขเณน ตณฺหาปิ ปากฏา. ยทิ จ สิยา; เอวํ สนฺเต โยพฺพนฏฺาปิ สพฺเพ มาณวา วิคตตณฺหา สิยุํ, น จ วิคตตณฺหา, ตสฺมา นานาภาโว สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ. ตโต อฺโปิ โทโส อาปชฺเชยฺยาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จ ตณฺหา ทุกฺขสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชรามรณานํ ตณฺหาย อนฺตฺเต สติ ตณฺหาย ภวตณฺหาย ทุกฺขสมุทโย โหติ, เอวํ ชรามรณมฺปิ ทุกฺขสมุทโย สิยา. ยสฺมา น ชรามรณํ ทุกฺขสมุทโย, ตสฺมา ชรามรเณหิ ตณฺหาย นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
เตหิ ตาย อนฺตฺเต สติ เอวมฺปิ โทโส อาปชฺเชยฺยาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จ ตณฺหา มคฺควชฺฌา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตหิ ตาย อนฺตฺเต สติ ยถา ตณฺหา มคฺควชฺฌา โหติ, เอวํ ชรามรณมฺปิ มคฺควชฺฌํ สิยา. ยถา ชรามรณํ มคฺควชฺฌํ น โหติ, เอวํ ตณฺหาปิ มคฺควชฺฌา น สิยา, ตถา จ น โหติ ปหาตพฺพาปหาตพฺพภาวโต, ตสฺมาปิ ชรามรเณหิ ตณฺหาย นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
‘‘ยทิ ¶ จาติอาทินา วุตฺตาย ยุตฺติยา อุปปตฺติยา เอว ชรามรเณหิ ตณฺหาย อฺตฺตํ คเวสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา อฺเหิปิ การเณหิ คเวสิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมาย ยุตฺติยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมาย ยุตฺติยาติ ยา ยุตฺติ ‘‘ยทิ จา’’ติอาทินา วุตฺตาย อิมาย ยุตฺติยา อุปปตฺติยา. อฺมฺเหิ การเณหิ อฺเหิ อฺเหิ การณภูเตหิ อุปปตฺตีหิ ชรามรเณหิ ตณฺหาย อฺตฺตํ คเวสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ‘‘อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ยุตฺติยา, อตฺถโต จ อฺตฺตํ สนฺทิสฺสตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘ยทิ จ สนฺทิสฺสตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยุตฺติสมารุฬฺหํ อตฺถโต จ มรเณหิ ¶ ตณฺหาย จ อฺตฺตํ ยทิ จ สนฺทิสฺสติ, พฺยฺชนโตปิ อฺตฺตํ คเวสิตพฺพเมวาติ อตฺโถ.
‘‘กถํ พฺยฺชนโต อฺตฺตํ คเวสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สลฺโลติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘สลฺโล’’ติ วา ‘‘ธูปายน’’นฺติ วา ทฺวีหิ พฺยฺชเนหิ วุจฺจมานานํ อิเมสํ อิจฺฉาตณฺหาสงฺขาตานํ ธมฺมานํ อตฺถโต เอกตฺตํ สมานตฺตํ ยุชฺชติ, น อฺตฺตํ. ‘‘สลฺโล’’ติ วา ‘‘ธูปายน’’นฺติ วา ทฺวีหิ พฺยฺชเนหิ อวุจฺจมานานํ ชรามรณานํ ตณฺหาย เอกตฺตํ น ยุชฺชติ. ตเมวตฺถํ วิวริตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิจฺฉาย จ ตณฺหาย จ อตฺถโต อฺตฺตํ น ยุชฺชติ, เอกตฺตเมว ยุชฺชตีติ โยชนา. อิจฺฉาย จ ตณฺหาย จ ชีรณภิชฺชนสมฺภวโต ชรามรเณหิ ตณฺหาย เอกตฺตํ สิยา, ‘‘กสฺมา อฺตฺตํ ยุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพโต ‘‘ตณฺหาย อธิปฺปาเย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาย อธิปฺปาเย อปริปูรมาเน นวสุ อาฆาตวตฺถูสุ โกโธ จ อุปฺปชฺชติ, อุปนาโห จ อุปฺปชฺชติ. ชรามรเณสุ อปริปูรมาเนสุ นวสุ อาฆาตวตฺถูสุ โกโธ จ น อุปฺปชฺชติ, อุปนาโห จ น อุปฺปชฺชติ. อิติ อิมาย ยุตฺติยา ชราย จ มรณสฺส จ ตณฺหาย จ อตฺถโต อฺตฺตํ ยุชฺชติเยวาติ ทฏฺพฺพํ.
ยทิ อิจฺฉา ตณฺหาย อตฺถโต เอกตฺตํ ยุตฺตํ, เอวํ สติ กสฺมา ภควตา ‘‘มจฺจุนาพฺภาหโต โลโก’’ติอาทิคาถายํ ‘‘ตณฺหาสลฺเลน โอติณฺโณ, อิจฺฉาธูปายิโต สทา’’ติ ทฺวิธา วุตฺตาติ โจทนํ ปริหรนฺโต ‘‘ยํ ปนิทํ ภควตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อิจฺฉา’’ติปิ ‘‘ตณฺหา’’ติปิ ทฺวีหิ นาเมหิ ยํ ปนิทํ อภิลปิตํ ยํ ปนิทํ อภิลปนํ กตํ, อิทํ อภิลปนํ ภควตา พาหิรานํ อิจฺฉิตพฺพตสิตพฺพานํ วตฺถูนํ รูปาทิอารมฺมณานํ เภทานํ วเสน ‘‘อิจฺฉา’’ติปิ ‘‘ตณฺหา’’ติปิ ทฺวีหิ นาเมหิ อภิลปิตํ อภิลปนวเสน กตนฺติ เอกตฺตํ ยุตฺตเมว, น นานตฺตนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
‘‘นามวเสน ¶ ทฺวิธา วุตฺตานํ อิจฺฉาตณฺหาทีนํ เกน เอกตฺตํ ยุตฺตนฺติ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สพฺพาหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นานานามวเสน ปเภทา สพฺพา อิจฺฉาทิกา ตณฺหา อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณา หิ ยสฺมา ยุตฺตา, ตสฺมา นามวเสน ภินฺนานมฺปิ เอกลกฺขเณน เอกตฺตํ ยุตฺตนฺติ สทฺทหิตพฺพนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘กิมิว ยุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา สพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กฏฺคฺคิอาทิวเสน อเนโก สพฺโพอคฺคิ ¶ อุณฺหตฺตลกฺขเณน เอกลกฺขโณ ยถา, เอวํ อชฺโฌสานลกฺขเณน เอกลกฺขณาติ โยชนา. สพฺพสฺส อคฺคิโน อุปาทานวเสน อเนกานิ นามานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ ปากโฏ. อารมฺมณวเสน ตณฺหา อฺเหิ อฺเหิ นาเมหิ ภควตา อภิลปิตา, อุปาทานวเสน อคฺคิ อฺเหิ อฺเหิ นาเมหิ อภิลปิโตติ โยชนา กาตพฺพา.
‘‘วิสฺสชฺชนคาถายํ อาคตนาเมหิ เอว ตณฺหา อภิลปิตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อเนเกหิ นาเมหิ อภิลปิตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิจฺฉาอิติปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิจฺฉิตพฺพานิ อตฺถานิ รูปาทีนิ อารมฺมณานิ สตฺตา อิจฺฉนฺติ เอตายาติ อิจฺฉา. ตสนฺติ เอตายาติ ตณฺหา. สลฺลติ ปวิสติ วิสปฺปีตํ สลฺลํ วิยาติ สลฺลา, สนฺตาปํ ลาติ อาททาตีติ วา สลฺลา, สนฺตาปํ ลาติ ปวตฺเตตีติ วา สลฺลา. ธูปายติ สนฺตาเปติ ปริทหตีติ ธูปายนา. สรติ อากฑฺฒติ อวหรติ สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา, สรติ สลฺลตีติ วา สริตา. วิสรตีติ วิสตฺติกา. ปีติวเสน สิเนหตีติ สิเนโห. ตาสุ ตาสุ คตีสุ กิลมถํ อุปฺปาเทตีติ กิลมโถ. สตฺตา รูปาทิอารมฺมณานิ มฺนฺติ เอตายาติ มฺนา. ภวํ พนฺธตีติ พนฺโธ. อาสียเต ปตฺถียเตติ อาสา. อาสิยติ ปตฺเถตีติ วา อาสา. ปิปาสียเตติ ปิปาสา, อารมฺมณรสํ ปิปาสตีติ วา ปิปาสา. อภินนฺทียเตติ อภินนฺทนา, อภินนฺทตีติ วา อภินนฺทนา. วิตฺถารโต อฏฺกถาวเสน (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๐) เวทิตพฺโพ.
‘‘ตณฺหาย อิจฺฉาทิปฺปการวเสน อาลปิตภาโว เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถา จ เววจเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. เววจนหารวิภงฺเค ‘‘อาสา จ ปีหา…เป… เววจน’’นฺติ (เนตฺติ. ๓๗) ยา ตณฺหา ยถา เยน ปกาเรน วุตฺตา, ตถา เตน ปกาเรน วุตฺตาย ตณฺหาย อิจฺฉาทิปฺปการวเสน อาลปิตภาโว สทฺทหิตพฺโพ. ‘‘เววจนวิภงฺเค อาจริเยน วุตฺโตปิ ภควตา อวุตฺเต เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา เยน ปกาเรน ภควา ‘‘รูเป ติสฺสา’’ติอาทิกํ ยํ วจนมาห, ตถา เตน ปกาเรน วุตฺเตน เตน วจเนน สทฺทหิตพฺโพ วาติ. เอวํ ยุชฺชตีติ เอวํ วุตฺตนเยน อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถโต เอกตฺตา ¶ , ชราย ¶ จ มรณสฺส จ ตณฺหาย จ อตฺถโต อฺตฺตา จ ‘‘ตโย ปฺหา’’ติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ วจนํ ยุชฺชตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
๒๑. ‘‘เกนสฺสุพฺภาหโต โลโกติอาทิคาถาย ตโย ปฺหา วุตฺตา’’ติ ปฺหตฺตยภาเว ยุตฺติ อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา. ‘‘ตโต อฺเหิ ปกาเรหิ ยุตฺติ กถํ าตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต อฺเหิ ปกาเรหิปิ ยุตฺติคเวสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺโพ ทุกฺขูปจาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺโพ ทุกฺขูปจาโร กามตณฺหาสงฺขารมูลโกติ ยุชฺชติ, สพฺโพ นิพฺพิทูปจาโร กามตณฺหาปริกฺขารมูลโกติ น ยุชฺชติ. วจนตฺถโต ปน ทุกฺขสฺส อุปจาโร ปวตฺตีติ ทุกฺขูปจาโร. กามตณฺหาปจฺจยา ปวตฺโต สงฺขาโร มูลํ เอตสฺสาติ กามตณฺหาสงฺขารมูลโก. นิพฺพิทาย อุปจาโร ปวตฺตีติ นิพฺพิทูปจาโร. กามตณฺหาย ปริกฺขารภูโต วตฺถุกาโม มูลํ เอตสฺสาติ กามตณฺหาปริกฺขารมูลโกติ. ตตฺถ อนภิรติสงฺขาตา อุกฺกณฺา นิพฺพิทา กามตณฺหาปริกฺขารมูลิกา ยุชฺชติ, าณนิพฺพิทา กามตณฺหาปริกฺขารมูลิกา น ยุชฺชติ, ตสฺมา สพฺโพ นิพฺพิทูปจาโร กามตณฺหาปริกฺขารมูลโกติ น ปน ยุชฺชตีติ วุตฺตํ.
‘‘ปฺหตฺตยภาเว เจว ทุกฺขูปจารนิพฺพิทูปจาเร จ ยา ยุตฺติ อาจริเยน วิภตฺตา, สาว ยุตฺติ สลฺลกฺเขตพฺพา กึ, อุทาหุ อิมาย ยุตฺติยา อฺาปิ ยุตฺติ คเวสิตพฺพา กิ’’นฺติ วตฺตพฺพโต นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมายา’’ติอาทิมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปฺหตฺตยภาเว เจว ทุกฺขูปจารนิพฺพิทูปจาเร จ ยา ยุตฺติ มยา วิภตฺตา, อิมาย ยุตฺติยา อนุสาเรน อฺมฺเหิ การเณหิ เตสุ เตสุ ปาฬิปฺปเทเสสุ ยุตฺติปิ คเวสิตพฺพาติ.
‘‘อิทํ นยทสฺสนํ สํขิตฺตํ, น สกฺกา วิตฺถารโต คเวสิตุ’’นฺติ วตฺตพฺพโต ตํ นยทสฺสนํ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หิ ภควา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อสุภสฺส ชิคุจฺฉนียภาวโต ราคุปฺปาโท น ยุตฺโต, ตสฺมา ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อสุภเทสนา ราควินยาย ยุตฺตา. เมตฺตาย โทสปฏิปกฺขตฺตา โทสจริตสฺส ปุคฺคลสฺส เมตฺตาเทสนา โทสวินยาย ยุตฺตา. ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปฺาวิสยตฺตา โมหจริตสฺส ปุคฺคลสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนา โมหวินยาย ยุตฺตา. ‘‘ราคจริตสฺสาปิ เมตฺตาทิเทสนา ยุชฺเชยฺย สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยทิ ¶ หิ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ติพฺพกิเลสสฺส ราคจริตสฺส อธิปฺเปตตฺตา ตาทิสสฺส ปุคฺคลสฺส เมตฺตํ เจโตวิมุตฺตึ ยทิ เทเสยฺย, เอวํ สติ เมตฺตาวเสนปิ ราคุปฺปชฺชนโต เทสนา น ยุชฺชติ. สุขํ ปฏิปทํ วา ยทิ เทเสยฺย, เอวํ สติ ราคจริตสฺส ¶ ทุกฺขาปฏิปทายุชฺชนโต เทสนา น ยุชฺชติ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ ปหานํ วา ยทิปิ เทเสยฺย, เอวํ สติ ราคจริตสฺส อสุภานุปสฺสนํ วชฺเชตฺวา วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมสฺส ปหานสฺส ทุกฺกรโต เทสนา น ยุชฺชตีติ โยชนา.
‘‘ภควา ราคจริตสฺสา’’ติอาทินา นิรวเสสวเสน ยุตฺติ น วิภตฺตา, นยทสฺสนเมวาติ โย นโย ทสฺสิโต, เตน นเยน อฺาปิ คเวสิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ ยํ กิฺจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ราคสฺส ยํ กิฺจิ อนุโลมปฺปหานํ, โทสสฺส ยํ กิฺจิ อนุโลมปฺปหานํ, โมหสฺส ยํ กิฺจิ อนุโลมปฺปหานํ เทสิตํ, ตํ สพฺพํ อนุโลมปฺปหานํ ยตฺตกา ปาฬิปฺปเทสา าณสฺส ภูมิ, ตตฺตเกสุ วิจเยน หาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพนฺติ โยชนา.
‘‘ราคาทิปฺปหานวเสน ยุตฺติ คเวสิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต อฺเหิปิ เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารผลสมาปตฺตินวานุปุพฺพสมาปตฺติวสีภาเวหิ วิภชิตฺวา ยุตฺติคเวสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘เมตฺตาวิหาริสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เมตฺตาวิหาริสฺส เมตฺตาวิหารลาภิโน สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส เมตฺตาย พฺยาปาทปฏิปกฺขตฺตา พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ เทสนา น ยุชฺชตีติ จ, เมตฺตาวิหาริสฺส สโต พฺยาปาโท ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ เทสนา ยุชฺชติ. กรุณาวิหาริสฺส กรุณาวิหารลาภิโน สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส กรุณาย วิเหสาย ปฏิปกฺขตฺตา วิเหสา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, กรุณาวิหาริสฺส สโต วิเหสา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ เทสนา ยุชฺชติ. มุทิตาวิหาริสฺส มุทิตาวิหารลาภิโน สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส มุทิตาย อรติยา ปฏิปกฺขตฺตา อรติ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, มุทิตาวิหาริสฺส สโต อรติ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ เทสนา ยุชฺชติ. อุเปกฺขาวิหาริสฺส อุเปกฺขาวิหารลาภิโน สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส อุเปกฺขาย ราคสฺส ปฏิปกฺขตฺตา ราโค จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, อุเปกฺขาวิหาริสฺส สโต ราโค ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ เทสนา ยุชฺชติ.
อนิมิตฺตวิหาริสฺส ¶ อนิจฺจานุปสฺสนามุเขน ปฏิลทฺธผลสมาปตฺติวิหารลาภิโน สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส นิมิตฺตานุสาริ เตน เตเนว สงฺขารนิมิตฺตานุสาเรเนว นิจฺจาทีสุ ปหีเนน นิมิตฺเตน วิฺาณํ ปวตฺตตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, อนิมิตฺตานุปสฺสนาย นิจฺจาทิวิปลฺลาสปฏิปกฺขตฺตา อนิมิตฺตวิหาริสฺส สโต นิมิตฺตํ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ เทสนา ¶ ยุชฺชติ. ‘‘อสฺมี’’ติ มฺิตํ ขนฺธปฺจกํ อตฺตวิคตํ ‘‘อยํ ขนฺธปฺจโก อหํ อสฺมี’’ติ น สมนุปสฺสามิ, อถ จ ปน อสมนุปสฺสเน สติปิ ‘‘เม กึ อสฺมี’’ติ ‘‘กถํ อสฺมี’’ติ วิจิกิจฺฉา กถํกถาสลฺลํ จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, วิจิกิจฺฉาย ปหาเนกฏฺภาวโต ‘‘อยํ ขนฺธปฺจโก อหํ อสฺมี’’ติ อสมนุปสฺสนฺตสฺส วิจิกิจฺฉา กถํกถาสลฺลํ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตีติ เทสนา ยุชฺชติ.
‘‘ผลสมาปตฺติวเสเนว ยุตฺติ คเวสิตพฺพา กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ฌานสมาปตฺติวเสนปิ ยุตฺติ คเวสิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา ปน ปมํ ฌาน’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. อถ วา ‘‘ผลสมาปตฺติวิหาริสฺเสว ยุตฺติ คเวสิตพฺพา กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ฌานสมาปตฺติวเสนปิ ยุตฺติ คเวสิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา ปน ปมํ ฌาน’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยถา ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ผลสมาปตฺติวิหาริสฺส ยุตฺติ คเวสิตพฺพา, เอวํ ฌานสมาปตฺติวิหาริสฺสปิ ยุตฺติ คเวสิตพฺพา. กถํ? ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปมชฺฌานสมงฺคิโน สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส นีวรณวิกฺขมฺภนโต กามราคพฺยาปาทา วิเสสาย ทุติยชฺฌานาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, กามราคพฺยาปาทา ฌานสฺส หานาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา ยุชฺชติ. วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา อุปจารธมฺเมน สห ทุติยชฺฌานธมฺมา ฌานสฺส หานาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, วิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา วิเสสาย อุปริฌานตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา ยุชฺชติ.
ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส สโต สํวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส วิตกฺกวิจารสหคตา วา สฺามนสิการา อุปจารธมฺเมน สห ปมชฺฌานธมฺมา วิเสสาย อุปริฌานตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, วิตกฺกวิจารสหคตา สฺามนสิการา อวิตกฺกฌานสฺส หานาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา ยุชฺชติ. อุเปกฺขาสหคตา วา สฺามนสิการา อุปจารธมฺเมน สห จตุตฺถชฺฌานธมฺมา ฌานสฺส หานาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา น ยุชฺชติ, อุเปกฺขาสหคตา ¶ สฺามนสิการา วิเสสาย อุปริฌานตฺถาย สํวตฺตนฺตีติ เทสนา ยุชฺชติ. เสเสสุปิ อตฺถานุรูปํ โยชนา กาตพฺพา. ยถาวุตฺตสมาปตฺตีสุ วสีภาเวน ปริจิตํ กลฺลตาปริจิตํ จิตฺตํ นาม.
เอตฺตกเมว ยุตฺติคเวสนํ น กาตพฺพํ, นววิธสุตฺตนฺเตสุ ยถาลทฺธยุตฺติคเวสนมฺปิ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ สพฺเพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สพฺเพสํ หารานํ ยถาวุตฺตภูมิโคจรานํ วิจยหาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน โยเชตพฺพภาโว เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน โยเชตพฺพภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘สพฺเพส’’นฺติอาทิกํ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
อิติ ยุตฺติหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๔. ปทฏฺานหารวิภงฺควิภาวนา
๒๒. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ยุตฺติหารวิภงฺคภูเตน ปฺหาวิสฺสชฺชนาทีนํ ยุตฺตายุตฺตภาโว วิภตฺโต, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ยุตฺติหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปทฏฺานหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หาโร’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ หาเรสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ปทฏฺาโน หาโร ปทฏฺานหารวิภงฺโคติ ปุจฺฉติ. ‘‘ธมฺมํ เทเสสิ ชิโน’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อยํ ปทฏฺาโน หาโร’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ปทฏฺานหารวิภงฺโคติ วิฺเยฺโย. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หาโรติอาทิ ปทฏฺานหารวิภงฺโค’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๒). ‘‘อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน วิตฺถารภูโต ปทฏฺาโน หาโร ปิฏกตฺตเย เทสิเตสุ ธมฺเมสุ ¶ กึ นาม ธมฺมํ เทสยติ สํวณฺเณตี’’ติ ปุจฺฉํ เปตฺวา ‘‘อิทํ อาสนฺนการณํ อิมสฺส อาสนฺนผลสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ นิยเมตฺวา วิภชิตุํ ‘‘อยํ ปทฏฺาโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – สพฺเพสุ วิฺเยฺยธมฺเมสุ ยาถาวโต อสมฺปฏิเวโธ ลกฺขณํ เอติสฺสา อวิชฺชายาติ สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฏิเวธลกฺขณา, อวิชฺชา, ตสฺสา อวิชฺชาย อสุเภ ‘‘สุภ’’นฺติอาทิวิปลฺลาสา ปทฏฺานํ อาสนฺนการณํ. วิปลฺลาเส สติ อวิชฺชา วตฺตติ อุปรูปริ ชายติ น หายติ, ตสฺมา วิปลฺลาสา อวิชฺชาย ปทฏฺานํ อาสนฺนการณํ ภวนฺติ. อวิชฺชาย วฏฺฏมูลกตฺตา ตํ อาทึ กตฺวา ปทฏฺานํ วิภตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ตณฺหายปิ วฏฺฏมูลกตฺตา ตทนนฺตรํ ตณฺหาย ปทฏฺานํ วิภชิตุํ ‘‘อชฺโฌสานลกฺขณา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ ปิยรูปํ สาตรูปนฺติ ปิยสภาวํ สาตสภาวํ จกฺขาทิธมฺมชาตํ. ปิยนียสาตนีเย จกฺขาทิเก สติ ตณฺหา วตฺตติ อุปรูปริ ชายติ, ตสฺมา ปิยรูปํ สาตรูปํ ตณฺหาย ปทฏฺานํ อาสนฺนการณํ ภวติ.
อทินฺนาทาเน สติ โลโภ วตฺตติ, ตสฺมา อทินฺนาทานํ โลภสฺส ปทฏฺานํ ภวติ. อทินฺนาทานฺหิ เอกวารํ อุปฺปนฺนมฺปิ อนาทีนวทสฺสนโต โลภสฺส อาสนฺนการณํ ภวตฺเวว.
เกสาทีสุ อสุเภสุ ปวตฺตายปิ สุภสฺาย นีลาทิวณฺณทีฆาทิสณฺานหสนาทิพฺยฺชนคฺคหณลกฺขณตฺตา จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ อสํวโร สุภสฺาย ปทฏฺานํ ภวติ.
ทุกฺขทุกฺขาทีสุ ปวตฺตายปิ สุขสฺาย สาสวผสฺสูปคมนลกฺขณตฺตา รูปาทีสุ อสฺสาโท สุขสฺาย ปทฏฺานํ.
รูปกฺขนฺธาทีสุ อนิจฺเจสุ ปวตฺตายปิ นิจฺจสฺาย สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ อสมนุปสฺสนลกฺขณตฺตา รูปกฺขนฺธาทีสุ นิจฺจคฺคหณํ วิฺาณํ นิจฺจสฺาย ปทฏฺานํ.
อนิจฺจทุกฺขานตฺตสงฺขาเตสุ ขนฺธาทีสุ ปวตฺตายปิ อตฺตสฺาย อนิจฺจสฺาทุกฺขสฺานํ อสมนุปสฺสนลกฺขณตฺตา อหํมมาทิวเสน ปวตฺโต นามกาโย อตฺตสฺาย ปทฏฺานํ.
เอวํ ¶ อวิชฺชาทีนํ อกุสลปกฺขานํ ธมฺมานํ ปทฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตปฺปฏิปกฺขานํ วิชฺชาทีนํ ธมฺมานํ ปทฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพธมฺมสมฺปฏิเวธลกฺขณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ ปวตฺตาย วิชฺชาย สพฺพธมฺมสมฺปฏิเวธลกฺขณตฺตา สพฺพํ เนยฺยํ วิชฺชาย ปทฏฺานํ.
สมถสฺส จิตฺตวิกฺเขปสงฺขาตอุทฺธจฺจปฏิสํหรณสงฺขาตวิกฺขมฺภนลกฺขณตฺตา ปฏิภาคนิมิตฺตภูตา อสุภา สมถสฺส ปทฏฺานํ. อสุภาย หิ ตณฺหาปฏิปกฺขตฺตา, ตณฺหาย จ อภาเว สมโถ ติฏฺตีติ.
อทินฺนาทานา เวรมณิวเสน ปวตฺตสฺส อโลภสฺส อิจฺฉาวจรปฏิสํหรณลกฺขณตฺตา อทินฺนาทานา เวรมณี อโลภสฺส ปทฏฺานํ.
ปาณาติปาตา ¶ เวรมณิวเสน ปวตฺตสฺส อโทสสฺส อพฺยาปชฺชลกฺขณตฺตา ปาณาติปาตา เวรมณี อโทสสฺส ปทฏฺานํ.
สมฺมาปฏิปตฺติวเสน ปวตฺตสฺส อโมหสฺส วตฺถุอวิปฺปฏิปตฺติลกฺขณตฺตา สมฺมาปฏิปตฺติ อโมหสฺส ปทฏฺานํ.
นิพฺพิทาวเสน ปวตฺตาย อสุภสฺาย วินีลกวิปุพฺพกคหณลกฺขณตฺตา นิพฺพิทา อสุภสฺาย ปทฏฺานํ. นิพฺพิทาาเณน หิ อนภิรติ ปวตฺตติ, อนภิรติยา จ อสุภสฺา ิตาติ.
ทุกฺขเวทนาวเสน ปวตฺตาย ทุกฺขสฺาย สาสวผสฺสปริชานนลกฺขณตฺตา เวทนา ทุกฺขสฺาย ปทฏฺานํ.
อุปฺปาทวยวเสน ปวตฺตาย อนิจฺจสฺาย สงฺขตลกฺขณานํ ธมฺมานํ สมนุปสฺสนลกฺขณตฺตา อุปฺปาทวยา อนิจฺจสฺาย ปทฏฺานํ. อุปฺปาทวยฺหิ สมนุปสฺสิตฺวา อนิจฺจสฺา ปวตฺตา.
ธมฺมมตฺตสฺาวเสน ปวตฺตาย อนตฺตสฺาย สพฺพธมฺมอภินิเวสลกฺขณตฺตา ธมฺมสฺา อนตฺตสฺาย ปทฏฺานํ.
กามราคสฺส รูปาทิปฺจกามคุณารมฺมณตฺตา ปฺจ กามคุณา กามราคสฺส ปทฏฺานํ.
รูปสงฺขาเต กาเย อารพฺภ ปวตฺตสฺส รูปราคสฺส จกฺขาทิปฺจินฺทฺริยานํ อนุสาเรน ปวตฺตนโต ปฺจินฺทฺริยานิ รูปานิ รูปราคสฺส ปทฏฺานํ.
ภวนิกนฺติวเสน ปวตฺตสฺส ภวราคสฺส ฉฬายตนํ ปทฏฺานํ. นิพฺพตฺตภวานุปสฺสิตาติ ‘‘เอทิสํ อนิฏฺํ รูปํ มา นิพฺพตฺตตุ, เอทิสํ อิฏฺํ รูปํ นิพฺพตฺตตุ เอทิสี ¶ ทุกฺขา เวทนา มา นิพฺพตฺตตุ, เอทิสี สุขา เวทนา นิพฺพตฺตตู’’ติ เอวมาทินา ปกาเรน ปวตฺตา รูปาภินนฺทนา, สา ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ ปทฏฺานํ.
กมฺมสฺสกตฺาณสฺส ¶ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณานุคตตฺตา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณทสฺสนํ กมฺมสฺสกตฺาณสฺส ปทฏฺานํ.
โอกปฺปนํ ลกฺขณํ ยสฺสา สทฺธายาติ โอกปฺปนลกฺขณา สทฺธา. อธิมุตฺติ ปจฺจุปฏฺานํ ยสฺสา สทฺธายาติ อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา จ สทฺธา. อนาวิลํ ลกฺขณํ ยสฺส ปสาทสฺสาติ อนาวิลลกฺขโณติ ปสาโท. สมฺปสีทนํ ปจฺจุปฏฺานํ ยสฺส ปสาทสฺสาติ สมฺปสีทนปจฺจุปฏฺาโน จ ปสาโท. โส ปน ปสาโท สทฺธาย เอว อวตฺถาวิเสโสติ เวทิตพฺโพ. อเวจฺจปสาโท อภิปตฺถิยนลกฺขณาย สทฺธาย ปทฏฺานํ, โอกปฺปนลกฺขณา สทฺธา อนาวิลลกฺขณสฺส ปสาทสฺส ปทฏฺานํ, จตุพฺพิธํ สมฺมปฺปธานํ วีริยํ อารมฺภลกฺขณสฺส วีริยสฺส ปทฏฺานํ, กายาทิสติปฏฺานํ อปิลาปนลกฺขณาย สติยา ปทฏฺานํ, ฌานสหิตสฺส สมาธิสฺส เอกคฺคลกฺขณตฺตา วิตกฺกาทิฌานานิ สมาธิสฺส ปทฏฺานํ, ปฺาย กิจฺจปชานนอารมฺมณปชานนลกฺขณตฺตา สจฺจานิ ปฺาย ปทฏฺานํ.
‘‘เยสํ อวิชฺชาทีนํ ปทฏฺานานิ อาจริเยน วิภตฺตานิ, เต อวิชฺชาทโย กตเมสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เต อวิชฺชาทโยปิ อิเมสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อวิชฺชา อสฺสาทมนสิการลกฺขณสฺส อโยนิโสมนสิการสฺส ปทฏฺานํ. อวิชฺชาย หิ อาทีนวจฺฉาทนโต อโยนิโสมนสิกาโร ชาโตติ. สจฺจสมฺโมหนลกฺขณา อวิชฺชา ปฺุาปฺุาเนฺชาภิสงฺขารานํ ปทฏฺานํ, ปุนพฺภววิโรหนลกฺขณา เตภูมกเจตนา สงฺขารา วิปากวิฺาณสฺส ปทฏฺานํ, โอปปจฺจยิกสงฺขาเตน อุปปตฺติภวภาเวน นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ นามรูปสฺส ปทฏฺานํ, นามกายรูปกายสงฺฆาตลกฺขณํ นามรูปํ ฉฬายตนสฺส ปทฏฺานํ สหชาตาทิปจฺจยภาวโต, จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปวตฺตานํ ลกฺขณํ ฉฬายตนํ ฉพฺพิธสฺส ผสฺสสฺส ยถากฺกมํ ปทฏฺานํ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต, จกฺขุปสาทรูปารมฺมณํ จกฺขุวิฺาณาทิสนฺนิปาตลกฺขโณ ฉพฺพิโธ ผสฺโส, ตํ เวทนาย เตน ฉพฺพิเธน ผสฺเสน สหชาตาย ฉพฺพิธาย เวทนาย ยถากฺกมํ ปทฏฺานํ สหชาตาทิปจฺจยภาวโต, อิฏฺานุภวนอนิฏฺานุภวนอิฏฺานิฏฺานุภวนลกฺขณา ติวิธา เวทนา, ตํ ตณฺหาย ตาย ติวิธาย เวทนาย วเสน ปวตฺตาย ¶ ตณฺหาย ปทฏฺานํ อุปนิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต, สปรสนฺตาเนสุ อชฺโฌสานลกฺขณา ตณฺหา, ตํ อุปาทานสฺส ตาย ตณฺหาย วเสน ปวตฺตสฺส จตุพฺพิธสฺส อุปาทานสฺส ปทฏฺานํ อุปนิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต. ‘‘โส เวทนายา’’ติ จ ‘‘สา ตณฺหายา’’ติ จ ‘‘สา อุปาทานสฺสา’’ติ จ ปาเน ภวิตพฺพํ, ลิงฺควิปลฺลาสนิทฺเทโส วา สิยา.
ยํ ¶ อุปาทานํ โอปปจฺจยิกํ อุปปตฺติกฺขนฺธนิพฺพตฺตกํ, ตํ อุปาทานํ ทุวิธสฺส ภวสฺส ปทฏฺานํ. โย กมฺมภโว นามกายรูปกายสมฺภวนลกฺขโณ, โส กมฺมภโว ชาติยา ปทฏฺานํ. ยา อุปปตฺติภูตา ชาติ ขนฺธปาตุภาวลกฺขณา, ตํ สา ชาติ ชราย ปทฏฺานํ. ยา ชิณฺณชรา อุปธิกฺขนฺธปริปากลกฺขณา, ตํ สา ชิณฺณชรา มรณสฺส ปทฏฺานํ. ยมฺปิ ยสฺส สมฺมุติมรณํ ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทลกฺขณํ, ตมฺปิ ตสฺส สมฺมุติมรณํ โสกสฺส ปทฏฺานํ. ปิยสฺส มรณํ จินฺเตนฺตสฺส เยภุยฺเยน โสกุปฺปชฺชนโต โย โสโก าติอาทิปิเยสุ อุสฺสุกฺกการโก, ตํ โส โสโก ปริเทวสฺส ปทฏฺานํ. โย ปริเทโว ลาลปฺปการโก, ตํ โส ปริเทโว กายิกทุกฺขสฺส ปทฏฺานํ. ยํ กายิกํ ทุกฺขํ กายสมฺปีฬนลกฺขณํ, ตํ กายิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส ปทฏฺานํ. ยํ โทมนสฺสํ จิตฺตสมฺปีฬนลกฺขณํ, ตํ โทมนสฺสํ อุปายาสสฺส ปทฏฺานํ. โย อุปายาโส โอทหนการโก อวทหนการโก, ตํ โส อุปายาโส ภวสฺส อุปายาสสฺส นิสฺสยสนฺตานภวสฺส ปทฏฺานํ.
ภวสฺสาติ วุตฺตภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภวงฺคานิ กิเลโส ภวสฺส องฺคํ การณํ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏานิ ภวสงฺขาตานิ องฺคานิ อวยวานิ. ยทา ปจฺจุปฺปนฺนาทิกาเล สมคฺคานิ นิพฺพตฺตานิ ภวนฺติ, ตทา โส กิเลสวฏฺฏกมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏสงฺขาโต ธมฺมสมูโห ‘‘ภวสฺสา’’ติ เอตฺถ ภโวติ ทฏฺพฺโพ. ตํ ภวสงฺขาตํ กิเลสวฏฺฏกมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏตฺตยํ สํสารสฺส ปทฏฺานํ ปุริมํ ปุริมํ ชาตินิปฺผนฺนกิเลสาทิวฏฺเฏน สํสารสฺส อพฺโพจฺฉินฺนุปฺปชฺชนโต, โย อริยมคฺโค นิยฺยานิกลกฺขโณ, ตํ โส อริยมคฺโค นิโรธสฺส นิพฺพานสฺส ปทฏฺานํ สมฺปาปกเหตุภาวโต.
พหุสฺสุโต สพฺพสิสฺสาทีนํ ปติฏฺานตฺตา ติตฺถํ วิยาติ ติตฺถํ, ชานาตีติ ู, ติตฺถํ ูติ ติตฺถฺู, ติตฺถฺุโน ภาโว ติตฺถฺุตา, สมฺมาปยิรุปาสนา, สา ปีตฺุตาย ปทฏฺานํ. พหุสฺสุตสฺส หิ สมฺมาปยิรุปาสนาย ¶ ธมฺมูปสฺหิตํ ปาโมชฺชํ ชายติ, ปาโมชฺเชน จ กมฺมฏฺานพฺรูหนา ชายตีติ สปฺปายธมฺมสฺสวเนน ปีตึ ชานาตีติ ปีตฺู, ปีตฺุโน ภาโว ปีตฺุตา, กมฺมฏฺานสฺส พฺรูหนา, สา ปตฺตฺุตาย ปทฏฺานํ. กมฺมฏฺานพฺรูหนาย หิ ภาวนาปตฺตชานนตา ชายตีติ ปตฺตฺุตา. ภาวนาปตฺตชานนตา อตฺตฺุตาย ปทฏฺานํ. ภาวนาปตฺตชานนตาย หิ ปฺจหิ ปธานิยงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส อตฺตโน ชานนตา ชายตีติ อตฺตฺุตา ปุพฺเพกตปฺุตาย ปทฏฺานํ.
ปธานิยงฺเคสุ สมนฺนาคตตฺตชานนตาย หิ ปุพฺเพ ปฺุกรณํ ชาตํ, ปุพฺเพกตปฺุตา ปติรูปเทสวาสสฺส ปทฏฺานํ. ปุพฺเพ หิ กเตน ปฺุเน ปติรูปเทสวาโส ลทฺโธ, ปติรูปเทสวาโส สปฺปุริสูปนิสฺสยสฺส ¶ ปทฏฺานํ. ปติรูปเทสวาเสน หิ สปฺปุริสูปนิสฺสโย ลทฺโธ, สปฺปุริสูปนิสฺสโย อตฺตสมฺมาปณิธานสฺส ปทฏฺานํ. สปฺปุริสูปนิสฺสเยน หิ อตฺตสมฺมาปณิธานํ ชาตํ, อตฺตสมฺมาปณิธานํ สีลานํ ปทฏฺานํ. อตฺตสมฺมาปณิธาเนน หิ สีลานิ สมฺปติฏฺิตานิ, สีลานิ อวิปฺปฏิสารสฺส ปทฏฺานํ. อตฺตนิ หิ สมฺปติฏฺิตํ สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส วิปฺปฏิสาโร นตฺเถวาติ, อวิปฺปฏิสาเรน ปาโมชฺชํ ชายติ, ตสฺมา อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชสฺส ปทฏฺานํ. ปาโมชฺเชน ปีติ ชายติ, ตสฺมา ปาโมชฺชํ ปีติยา ปทฏฺานํ. ปีติยา ปสฺสทฺธิ ชายติ, ตสฺมา ปีติ ปสฺสทฺธิยา ปทฏฺานํ. ปสฺสทฺธิยา สุขํ ชายติ, ตสฺมา ปสฺสทฺธิ สุขสฺส ปทฏฺานํ. สุเขน สมาธิ ชายติ, ตสฺมา สุขํ สมาธิสฺส ปทฏฺานํ. สมาธินา ยถาภูตาณทสฺสนํ ชายติ, ตสฺมา สมาธิ ยถาภูตาณสฺส ปทฏฺานํ. ยถาภูตาณทสฺสเนน นิพฺพิทาาณํ ชายติ, ตสฺมา ยถาภูตาณทสฺสนํ นิพฺพิทาย ปทฏฺานํ. นิพฺพิทาย วิราโค ชายติ, ตสฺมา นิพฺพิทา วิราคสฺส ปทฏฺานํ. วิราเคน วิมุตฺติ ชายติ, ตสฺมา วิราโค วิมุตฺติยา ปทฏฺานํ. วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสนํ ชายติ, ตสฺมา วิมุตฺติ วิมุตฺติาณทสฺสนสฺส ปทฏฺานํ. เอวํ ยถาวุตฺตนเยน โย โกจิ ธมฺโม อุปนิสฺสโย โหติ, โย โกจิ ธมฺโม ปจฺจโย โหติ, สพฺโพ โส ธมฺโม อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส ปทฏฺานนฺติ ทฏฺพฺโพ.
‘‘อุปนิสฺสยธมฺมสฺส, ปจฺจยธมฺมสฺส วา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสฺส ปทฏฺานภาโว เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตนาติ ยสฺส กสฺสจิ อุปนิสฺสยธมฺมสฺส, ปจฺจยธมฺมสฺส จ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมสฺส ปทฏฺานภาเวน ¶ อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘ธมฺมํ เทเสติ ชิโน’’ติอาทิกํ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน เตสํ อุปนิสฺสยธมฺมปจฺจยธมฺมานํ ปทฏฺานภาโว สทฺทหิตพฺโพติ. ‘‘ยถาวุตฺโต ปทฏฺาโน หาโร ปริปุณฺโณ กึ, อุทาหุ อฺโ นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺโพ อตฺถิ กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ปทฏฺาโน หาโร’’ติ วุตฺตํ. อิธ ปาฬิยํ อวิภตฺตมฺปิ ยถาลาภวเสน ปทฏฺาโน หาโร นีหริตฺวา ยุตฺโต ยุชฺชิตพฺโพ, วิภชิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อิติ ปทฏฺานหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๕. ลกฺขณหารวิภงฺควิภาวนา
๒๓. เยน ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปทฏฺานวิภงฺเคน อวิชฺชาทีนํ ปทฏฺานานิ วิภตฺตานิ, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปทฏฺานหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ลกฺขณหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ-สทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺโตว. กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ลกฺขโณ หาโร ลกฺขณหารวิภงฺโคติ ปุจฺฉติ. ‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘เย ธมฺมา’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ลกฺขโณ หาโร ลกฺขณหารวิภงฺโค นามาติ วิฺเยฺโยติ. เตน วุตฺตํ –‘‘ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หาโรติอาทิ ลกฺขณหารวิภงฺโค นามา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓). อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน วิตฺถารภูโต ลกฺขโณ หาโร ปิฏกตฺตเย เทสิเตสุ ธมฺเมสุ กึ นาม ลกฺขิตพฺพํ ธมฺมํ ลกฺขียตีติ ปุจฺฉิตฺวา ปุจฺฉิเต ลกฺขณหารวิจเย ธมฺเม สงฺเขเปน ทสฺเสตุํ ‘‘เย ธมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เย ธมฺมาติ เย สมูหา ธมฺมา. เอกลกฺขณาติ สมานลกฺขณา. เตสํ ธมฺมานนฺติ สมานลกฺขณานํ เตสํ สมูหธมฺมานํ, นิทฺธารเณ เจตํ. เอกสฺมึ ธมฺเมติ สมานลกฺขเณ ¶ เอกสฺมึ ธมฺเม, ปาฬิยํ ภควตา วุตฺเต สติ วุตฺตธมฺมโต อวสิฏฺสมานลกฺขณา ธมฺมา สมานลกฺขเณน วุตฺตา ภวนฺตีติ อตฺโถ.
ลกฺขณหารวิสเย ธมฺเม วิตฺถารโต อิมสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อิเม สมานลกฺขณา ธมฺมาปิ วุตฺตา ภวนฺตีติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา กึ ภเว’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ยถา เยน ปกาเรน วุตฺตา ภวนฺติ, โส ปกาโร กึ ภเวติ ปุจฺฉติ. ยถา เยน ปกาเรน วุตฺตา ภวนฺติ, โส ปกาโร สมานลกฺขณาติ ภาโว ภเวติ อตฺโถ. กินฺติ ภควา อาห? ‘‘จกฺขุํ ภิกฺขเว’’ติอาทึ ภควา อาห. ‘‘จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อนวฏฺิต’’นฺติอาทิมฺหิ วุตฺเต ‘‘โสตํ, ภิกฺขเว, อนวฏฺิต’’นฺติอาทิวจนมฺปิ วุตฺตเมว ภวติ.
‘‘อนวฏฺิตาทิลกฺขเณน สมานลกฺขณตฺตา วา อชฺฌตฺติกายตนภาเวน สมานลกฺขณตฺตา วาติ อายตนวเสเนว เอกลกฺขณํ วตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ขนฺธวเสนปิ เอกลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อตีเต, ราธ, รูเป อนเปกฺโข โหติ, อนาคตํ รูปํ มา อภินนฺทิ ¶ , ปจฺจุปฺปนฺนสฺส รูปสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย จาคาย ปฏินิสฺสคฺคาย ปฏิปชฺชา’’ติ วุตฺเต ‘‘อตีตาย, ราธ, เวทนาย อนเปกฺโข โหติ, อนาคตํ เวทนํ มา อภินนฺทิ, ปจฺจุปฺปนฺนาย เวทนาย นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย จาคาย ปฏินิสฺสคฺคาย ปฏิปชฺชา’’ติอาทิ วุตฺตํ ภเว.
‘‘อนเปกฺขนียลกฺขเณน สมานลกฺขณตฺตา วา ขนฺธลกฺขเณน สมานลกฺขณตฺตา วาติ ขนฺธายตนวเสเนว เอกลกฺขณธมฺมา วตฺตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา สติปฏฺานวเสนาปิ วตฺตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา เยน เอกลกฺขณตฺเตน จ ภควา อาห, ตถา จ เตน เอกลกฺขณตฺเตน จ อวุตฺตาปิ ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺตีติ อตฺโถ. เย วิปสฺสกา ปุคฺคลา ปฺจสุ ขนฺเธสุ นิจฺจํ สุสมารทฺธา นิจฺจํ กายคตาสตึ ภาเวนฺติ, เต วิปสฺสกา อกิจฺจํ สุภสุขาทิกํ, กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ วา น เสวนฺติ, กิจฺเจ อสุภาสุขาทิเก, กายาทิเก วา สาตจฺจการิโน โหนฺตีติ ภควา อาหาติ โยชนา.
อิติสทฺทสฺส เจตฺถ เอกสฺส โลโป. อิติ เอวํ ‘‘เยสฺจา’’ติอาทิคาถาย เกสาทิเก กาเย คตาย ปวตฺตาย สติยา ภควตา สรูเปน ¶ วุตฺตาย วิชฺชมานาย ตทวเสสา เวทนาคตา สติ จ จิตฺตคตา สติ จ ธมฺมคตา สติ จ สติปฏฺานภาเวน เอกลกฺขณตฺเตน วุตฺตา ภวนฺตีติ สงฺเขปโต นิจฺจํ สุสมารทฺธา นิจฺจํ เวทนาคตา สติ จ…เป… นิจฺจํ จิตฺตคตา สติ จ…เป… นิจฺจํ ธมฺมคตา สตีติ วตฺตพฺพาติ.
‘‘สติปฏฺานวเสเนว เอกลกฺขณา ธมฺมา วตฺตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตถา ยํ กิฺจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ กิฺจิ รูปายตนํ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺํ, ยํ กิฺจิ สทฺทายตนํ โสตวิฺาเณน สุตํ, ยํ กิฺจิ คนฺธรสโผฏฺพฺพายตนํ ฆานวิฺาณาทิตฺตเยน วิฺาเณน มุตํ, อิติ เอวํ ทิฏฺาทิตฺตเย ภควตา สรูเปน วุตฺเต สติ ตทวเสสํ ยํ กิฺจิ วิฺาตํ ธมฺมารมฺมณปริยาปนฺนํ รูปํ ภควตา อาลมฺพิตพฺพภาเวน เอกลกฺขณตฺตา วุตฺตํ ภวตีติ อตฺโถ. อถ วา ยํ กิฺจิ รูปายตนํ ทิฏฺํ ภควตา วุตฺตํ, ตสฺมึ วุตฺเต สติ ตทวเสสํ สุตาทิกมฺปิ วุตฺตํ โหตีติ อาทิอตฺโถ วิสุํ วิสุํ โยเชตพฺโพ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทิฏฺํ วา สุตํ วา มุตํ วา’’ติ.
‘‘กายคตาย สติยา วุตฺตาย ตทวเสสา เวทนาคตาสติอาทโยเยว วตฺตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมาปิ วุตฺตา ภวนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถา เยน นิยฺยานิกลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺเตน จ ภควา อาห, ตถา เตน เอกลกฺขณตฺเตน จ ภควา อาห, ตถา เตน เอกลกฺขณตฺเตน จ วุตฺตา ภวนฺตีติ ¶ อตฺโถ. ‘‘ตสฺมา อภิชฺฌาโทมนสฺเสน อภิภูตตฺตา อิห มม สาสเน, ภิกฺขุ, ตฺวํ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา หุตฺวา โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ตทงฺคปฺปหาเนน วา วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน วา วิเนยฺย วินยิตฺวา กาเย เกสาทิรูปกาเย กายานุปสฺสี เกสาทิรูปกายานุปสฺสี หุตฺวา วิหราหี’’ติ ภควตา วุตฺเต สติ ‘‘ตสฺมาติห, ตฺวํ ภิกฺขุ, เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหราหิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ, ตสฺมาติห, ตฺวํ ภิกฺขุ, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหราหิ…เป… โทมนสฺสํ, ตสฺมาติห, ตฺวํ ภิกฺขุ, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหราหิ…เป… โทมนสฺส’’นฺติ วุตฺตํ ภวตีติ สงฺเขปตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิตฺถารตฺโถ ปน อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓) พหุธา วุตฺโตติ อมฺเหหิ น วิตฺถาริโต.
‘‘เอกสฺมึ ¶ สติปฏฺาเน วุตฺเต กสฺมา จตฺตาโร สติปฏฺานา วุตฺตา ภเวยฺยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อาตาปีติ วีริยินฺทฺริย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อาตาปี’’ติ อิมินา ปเทน กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปวตฺตํ วีริยินฺทฺริยํ วุตฺตํ. ‘‘สมฺปชาโน’’ติ ปเทน กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปวตฺตํ ปฺินฺทฺริยํ วุตฺตํ. ‘‘สติมา’’ติ ปเทน กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปวตฺตํ สตินฺทฺริยํ วุตฺตํ. ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ ปเทน กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปวตฺตํ สมาธินฺทฺริยํ วุตฺตํ, น กาเยเยว ปวตฺตํ. เอวํ ปกาเรน กาเย กายานุปสฺสิโน โยคาวจรสฺส จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ เจ วเทยฺย, เอวํ สติ จตุนฺนํ วีริยปฺาสติสมาธีนํ อินฺทฺริยานํ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ สาธกภาเวน เอกลกฺขณตฺตา สมานลกฺขณตฺตา ปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ โยชนา. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ – ‘‘จตุสติปฏฺานสาธเน อิเมสํ อินฺทฺริยานํ สภาวเภทาภาวโต สมานลกฺขณตฺตา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓).
๒๔. ‘‘เอวํ วุตฺเตปิ จตฺตาโร สติปฏฺานาเยว วตฺตพฺพา ภเวยฺยุํ, กถํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมา วตฺตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ เยน โยคาวจเรน ภาวิยมาเนสุ ตสฺส โยคาวจรสฺส จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. จตุนฺนํ สจฺจานํ พุชฺฌนํ โพธํ, อริยมคฺคาณํ, โพธํ คจฺฉนฺตีติ โพธงฺคมา. โพธสฺส อริยมคฺคาณสฺส ปกฺเข ภวาติ โพธิปกฺขิยา.
‘‘กุสลาเยว ธมฺมา เอกลกฺขณภาเวน นีหริตา กึ, อุทาหุ อกุสลาปิ ธมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เอวํ อกุสลาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กุสลา ธมฺมา เอกลกฺขณตฺเตน นิทฺธาริตา ¶ ยถา, เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺเตน นิทฺธาริตพฺพาเยวาติ อตฺโถ. ‘‘กถํ นิทฺธาเรตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปหาเนกฏฺภาเวน นิทฺธาเรตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ อาห. ตตฺถ เอกลกฺขณตฺตาติ ปหาเนกฏฺภาเวน สมานลกฺขณตฺตา. ‘‘กตมํ ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสู’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ จตูสุ…เป… ปริฺํ คจฺฉนฺตีติ กายาคตาสติปฏฺาเน โยคาวจเรน ภาวิยมาเน สติ เตน โยคาวจเรน อสุเภ เกสาทิเก รูปกาเย ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาโส ปหียติ, อสฺส โยคาวจรสฺส กพฬีการาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, ‘‘อาหารสมุทยา รูปสมุทโย’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕๖) วุตฺตตฺตา รูปกาเย ฉนฺทราคํ ปชหนฺตสฺส ตสฺส สมุทเย กพฬีการาหาเรปิ ฉนฺทราโค ปหียตีติ อตฺโถ. เวทนาคตาสติปฏฺาเน ภาวิยมาเน สติ ทุกฺเข ‘‘สุข’’นฺติ วิปลฺลาโส ปหียติ, อสฺส โยคาวจรสฺส ผสฺสาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ, ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; อุทา. ๑; วิภ. ๒๒๕) วุตฺตตฺตา เวทนาย ฉนฺทราคํ ปชหนฺตสฺส ตสฺส ปจฺจเย ผสฺสาหาเร ฉนฺทราโค ปหียติ. จิตฺตคตาสติปฏฺาเน ภาวิยมาเน อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาโส ปหียติ, อสฺส โยคาวจรสฺส วิฺาณาหาโร ปริฺํ คจฺฉติ. ธมฺมคตาสติปฏฺาเน ภาวิยมาเน อนตฺตนิ ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาโส ปหียติ, อสฺส โยคาวจรสฺส มโนสฺเจตนาหาโร ปริฺํ คจฺฉตีติ วิสุํ วิสุํ โยเชตฺวา เอเกกสฺมึ ปหาตพฺเพ วุตฺเต ตทวเสสา ปหาตพฺพา วุตฺตา ภวนฺติ ปหาตพฺพภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘อาหารา จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺตี’’ติ วจเน อาหาเรสุ ปวตฺตา กามราคโทสโมหา พฺยนฺตีกตา โหนฺตีติ อตฺโถ คหิโต. กพฬีการาหารฺหิ อารพฺภ ปวตฺเต กามราเค วิชฺชมาเน กพฬีการาหารสฺส วิชานนา นตฺเถว, ตสฺมึ กามราเค ปน ปหีเน ปริชานนา ภวตีติ. เสสาหารชานนมฺปิ เอเสว นโย. ยสฺส โยคาวจรสฺส สติปฏฺานา ภาวิตา, วิปลฺลาสา ปหีนา, อาหารปริชานนา อุปฺปนฺนา, โส โยคาวจโร อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวติ. สุภสฺิเต หิ กาเย กามุปาทานํ วิเสเสน ภวตีติ สุภสฺิโต กาโย กามุปาทานสฺส วตฺถุ, กายคตาย สติยา อนุสริตพฺโพ อสุภสฺิโต เกสาทิ กามุปาทานสฺส วตฺถุ น โหตฺเวว. สุขเวทนาย อสฺสาทวเสน ทิฏฺุปาทานํ ภวตีติ สุขสฺิตา เวทนา ทิฏฺุปาทานสฺส วตฺถุ, เวทนาคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา เวทนา ทิฏฺุปาทานสฺส วตฺถุ น โหตฺเวว. ‘‘จิตฺตํ นิจฺจ’’นฺติ ทิฏฺิคหณวเสน ตสฺส ตสฺส อตฺตโน สีลวตวเสน ปริสุทฺธีติ ปรามสนํ โหตีติ จิตฺตํ สีลพฺพตุปาทานสฺส ¶ วตฺถุ, จิตฺตคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพํ จิตฺตํ สีลพฺพตุปาทานสฺส ¶ วตฺถุ น โหตฺเวว. ธมฺเม นามรูปปริจฺเฉเทน ยถาภูตํ อปสฺสนฺตสฺส ธมฺเมสุ อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ธมฺมา อตฺตวาทุปาทานสฺส วตฺถุ, ธมฺมคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา ธมฺมา อตฺตวาทุปาทานสฺส วตฺถุ น โหนฺติ เอว. ตสฺมา จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวตีติ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
‘‘เยน โยคาวจเรน สติปฏฺานา ภาวิตา, โส โยคาวจโร อุปาทาเนหิเยว อนุปาทาโน ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา โยคาทีหิปิ วิสํยุตฺโต ภวตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘โยเคหิ จ วิสํยุตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โยเคหิ จาติ กามโยคภวโยคทิฏฺิโยคอวิชฺชาโยเคหิ จ. วิสํยุตฺโตติ ตทงฺคปฺปหานวิกฺขมฺภนปฺปหานสมุจฺเฉทปฺปหานวเสน วิคโต, วิมุตฺโต จ ภวตีติ อตฺโถ. สุภสฺิโต หิ รูปกาโย กามราคสฺส วตฺถุ โหติ, กายคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺโพ กาโย กามราคสฺส วตฺถุ น โหตฺเวว. ‘‘สุโข’’ติ วา ‘‘สุขเหตู’’ติ วา คหณีโย ภโว ภวราคสฺส วตฺถุ โหติ, เวทนาคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺโพ ภโว ภวราคสฺส วตฺถุ น โหติ. ‘‘อตฺตา’’ติ อภินิวิสิตพฺพํ จิตฺตํ ทิฏฺิโยคสฺส วตฺถุ โหติ, จิตฺตคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพํ จิตฺตํ ทิฏฺิโยคสฺส วตฺถุ น โหติ. วินิพฺโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา, ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย จ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา อวินิพฺภุชิตพฺพา, ธมฺมมตฺตตาย อปฺปฏิวิชฺฌิตพฺพา ธมฺมา อวิชฺชาโยคสฺส วตฺถุ โหนฺติ, ธมฺมคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา ธมฺมา อวิชฺชาโยคสฺส วตฺถุ น โหนฺติ. ตสฺมา จตุสติปฏฺานานุปสฺสโก ‘‘โยเคหิ จ วิสํยุตฺโต’’ติ วุตฺโต. อยํ นโย อาสเวหิ จ อนาสโว ภวติ, โอเฆหิ จ นิตฺถิณฺโณ ภวตีติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพ.
คนฺเถหิ จ วิปฺปยุตฺโต ภวตีติ เอตฺถ ปน สุภสฺิโต รูปกาโย อภิชฺฌากายคนฺถสฺส วตฺถุ, กายคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺโพ รูปกาโย อภิชฺฌากายคนฺถสฺส วตฺถุ น โหติ. ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ โหนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). เวทนาคตาย ¶ ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา เวทนา พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ น โหติ. ‘‘จิตฺตํ นิจฺจ’’นฺติ อภินิเวสวเสน สสฺสตสฺส ‘‘อตฺตโน สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสนํ โหติ, ตสฺมา ‘‘นิจฺจ’’นฺติ คหิตํ จิตฺตํ สีลพฺพตปรามาสกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺตคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพํ จิตฺตํ สีลพฺพตปรามาสสฺส วตฺถุ น โหติ. ธมฺมานํ สปฺปจฺจยนามรูปสภาวสฺส อทสฺสนโต ภวทิฏฺิวิภวทิฏฺิ โหติ, ตสฺมา ‘‘อิทํ สจฺจ’’นฺติ อภินิวิสิตพฺพา ธมฺมา อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺถสฺส วตฺถุ, ธมฺมคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา ¶ ธมฺมา อิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺถสฺส วตฺถุ น โหนฺติ, ตสฺมา จตุสติปฏฺานานุปสฺสโก ‘‘คนฺเถหิ จ วิปฺปยุตฺโต’’ติ วุตฺโต.
สุภสฺิโต จ กาโย ราคสลฺลสฺส วตฺถุ, กายคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺโพ กาโย ราคสลฺลสฺส วตฺถุ น โหติ. สุขสฺิตาย เวทนาย โทโส โหติ, ตสฺมา เวทนา โทสสลฺลสฺส วตฺถุ, เวทนาคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา เวทนา โทสสลฺลสฺส วตฺถุ น โหติ. ‘‘จิตฺตํ อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ‘‘อตฺตา เสยฺโย’’ติอาทิวเสน ปวตฺตสฺส มานสลฺลสฺส จิตฺตํ วตฺถุ, จิตฺตคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพํ จิตฺตํ มานสลฺลสฺส วตฺถุ น โหติ. ธมฺมานํ สปฺปจฺจยนามรูปสภาวสฺส อชานนโต ธมฺมา โมหสลฺลสฺส วตฺถุ, ธมฺมคตาย ปน สติยา อนุปสฺสิตพฺพา ธมฺมา โมหสลฺลสฺส วตฺถุ น โหนฺติ, ตสฺมา จตุสติปฏฺานานุปสฺสโก ‘‘สลฺเลหิ จ วิสลฺโล ภวตี’’ติ วุตฺโต.
‘‘อาหารา จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺตี’’ติ อาจริเยน วุตฺตํ, ‘‘กึ ปน อาหาราว อสฺส โยคาวจรสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺติ, อุทาหุ อฺเปี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา วิฺาณฏฺิติโย จ อสฺส โยคาวจรสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิฺาณฏฺิติโย จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. เยน โยคาวจเรน จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา, ตสฺส โยคาวจรสฺส กายเวทนาจิตฺตธมฺมาว ปริฺํ คจฺเฉยฺยุํ, น วิฺาณฏฺิติโยติ เจ วเทยฺย กายานุปสฺสนาทีหิ จ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปริฺาเตสุ สฺายปิ ปริฺาตพฺพภาวโต. สา หิ เวทนาจิตฺตสงฺขาเตน ธมฺเมสุ ปริฺาเตสุ อวินาภาวโต ปริฺาตาวาติ.
เยน ¶ จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา, โส โยคาวจโร อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน จ, โยเคหิ วิสํยุตฺโต จ, ขนฺเธหิ วิปฺปยุตฺโต จ, อาสเวหิ อนาสโว จ, โอเฆหิ นิตฺถิณฺโณ จ, สลฺเลหิ วิสลฺโล จ ภวตีติ วุตฺโต, ‘‘กึ ปน ตถาวิโธว โหติ, อุทาหุ อฺถาปี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อคติมฺปิ น คจฺฉตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อคติคมเนหิ จ น อคตึ คจฺฉตี’’ติ อาห. สุภาทิสฺิเต รูปกาเย อเปกฺขมาโน ปุคฺคโล ฉนฺทาคตึ คจฺฉตีติ สุภาทิสฺิโต รูปกาโย วิเสสโต ฉนฺทาคติยา วตฺถุ โหติ, กายานุปสฺสนาสติปฏฺาเนน ปน อนุปสฺสิตพฺโพ อสฺสาสปสฺสาสาทิโก กาโย ฉนฺทาคติยา วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนํ ภาเวนฺโต ปุคฺคโล ฉนฺทาคตึ น คจฺฉติ. สุขเวทนสฺสาทวเสน เวทยมาโน ตทภาเวน พฺยาปาทํ อาคจฺฉตีติ สุขเวทนา โทสาคติยา วตฺถุ โหติ, เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺาเนน ปน อนุปสฺสิตพฺพา เวทนา โทสาคติยา วตฺถุ น โหติ ¶ , ตสฺมา เวทนาสติปฏฺานภาวนํ ภาเวนฺโต ปุคฺคโล โทสาคตึ น คจฺฉติ. สนฺตติฆนวเสน ‘‘นิจฺจํ, ธุว’’นฺติ คหิตํ จิตฺตํ โมหสฺส วตฺถุ โหติ, จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺาเนน ปน อนุปสฺสิตพฺพํ จิตฺตํ โมหสฺส วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนํ ภาเวนฺโต ปุคฺคโล โทสาคตึ น คจฺฉติ. วิภชิตฺวา ธมฺมสภาวํ อชานนฺตสฺส ภยํ ชายตีติ วิภชิตฺวา อชานิยสภาวา ธมฺมา ภยสฺส วตฺถุ โหนฺติ, ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺาเนน ปน อนุปสฺสิตพฺพา วิภชิตฺวา ชานิตพฺพา ธมฺมา ราคสฺส วตฺถุ น โหนฺติ, ตสฺมา ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนํ ภาเวนฺโต ปุคฺคโล ภยาคตึ น คจฺฉติ. เอวํ ปหาตพฺพภาเวน เอกลกฺขเณ อกุสเลปิ ธมฺเม นีหริตฺวา อิทานิ นิคเมตุํ ‘‘เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺตี’’ติ ปุน วุตฺตํ.
ภาเวตพฺเพสุ ธมฺเมสุ เอกเทเสสุ วุตฺเต ตทวเสสาปิ ภาเวตพฺพา ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา นีหริตฺวา วตฺตพฺพา, ปหาตพฺเพสุปิ ธมฺเมสุ เอกเทเส วุตฺเต ตทวเสสาปิ ธมฺมา ปหาตพฺพา เอกลกฺขณตฺตา นีหริตฺวา วตฺตพฺพาติ อาจริเยน วุตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘อฺถาปิ ยทิ วตฺตพฺพา สิยุํ, เตปิ วทถา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต อฺเนปิ ปริยาเยน ลกฺขณหารสฺส อุทาหรณานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยตฺถ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ . ตตฺถ ยตฺถ ยสฺสํ รูเปกเทสเทสนายํ รูปินฺทฺริยํ รุปฺปนลกฺขณํ จกฺขุนฺทฺริยาทิชีวิตินฺทฺริยปริโยสานํ อฏฺวิธํ อินฺทฺริยํ รูเปกเทสํ ภควตา เทสิตํ. ตตฺเถว ตสฺสํ รูเปกเทสเทสนายํ รูปธาตุ รุปฺปนลกฺขณา จกฺขุธาตาทิโผฏฺพฺพธาตุปริโยสานา ทสวิธา รูปธาตุ รุปฺปนลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา เทสิตา. สพฺโพ รูปกฺขนฺโธ จ เทสิโต. รูปายตนํ รุปฺปนลกฺขณํ จกฺขายตนาทิโผฏฺพฺพายตนปริโยสานํ ทสวิธํ อายตนํ รุปฺปนลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา ภควตา เทสิตํ.
ยตฺถ วา ปน ยสฺสํ เวทเนกเทสเทสนายํ สุขา เวทนา ภควตา เทสิตา, ตตฺถ ตสฺสํ เวทเนกเทสเทสนายํ สุขินฺทฺริยฺจ เทสิตํ, โสมนสฺสินฺทฺริยฺจ เทสิตํ, ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจฺจ เทสิตํ สุขเวทนาภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ยตฺถ วา ปน ยสฺสํ เวทเนกเทสเทสนายํ ทุกฺขา เวทนา ภควตา เทสิตา, ตตฺถ ตสฺสํ เวทเนกเทสเทสนายํ ทุกฺขินฺทฺริยฺจ เทสิตํ โทมนสฺสินฺทฺริยฺจ เทสิตํ, ทุกฺขํ อริยสจฺจฺจ เทสิตํ ทุกฺขเวทนาภาเวน เอกลกฺขณตฺตา. ยตฺถ วา ปน ยสฺสํ เวทเนกเทสเทสนายํ อทุกฺขมสุขา เวทนา ภควตา เทสิตา, ตตฺถ ตสฺสํ เวทเนกเทสเทสนายํ อุเปกฺขินฺทฺริยฺจ เทสิตํ, สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท จ เทสิโตติ โยชนา กาตพฺพา.
ยสฺสํ ¶ เทสนายํ อทุกฺขมสุขา เวทนา เทสิตา, ตสฺสํ เทสนายํ อุเปกฺขินฺทฺริยํ เทสิตํ โหตุ สมานลกฺขณตฺตา, ‘‘เกน ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโต ภเวยฺยา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เกน การเณนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อทุกฺขมสุขายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย หิ ยสฺมา อวิชฺชา อนุเสติ, ตสฺมา อวิชฺชา เทสิตา โหติ. อวิชฺชาย จ เทสิตาย อวิชฺชามูลโก สพฺโพปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ เทสิโตว โหตีติ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ.
‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป… สมุทโย โหตี’’ติ อนุโลมวเสน ปวตฺโต โย ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโตติ อาจริเยน วุตฺโต, ‘‘ยทิ ตถา ปวตฺโต โส จ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโต, เอวํ สติ สพฺโพ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโต’’ติ น วตฺตพฺโพติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘โส จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย จ อนุโลมวเสน ปวตฺโต, โส จ สราคสโทสสโมหสํกิเลสปกฺเขน หาตพฺโพ. โย จ ¶ ปฏิโลมวเสน ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทิโก ปวตฺโต, โส จ วีตราควีตโทสวีตโมหอริยธมฺเมหิ หาตพฺโพ. โย จ อนุโลมปฏิโลมวเสน ปวตฺโต, โส จ ตทุภเยหิ หาตพฺโพ. ตสฺมา ‘‘สพฺโพ จ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโต’’ติ วตฺตพฺโพวาติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
‘‘เย ธมฺมา เอกลกฺขณา, เตสํ ธมฺมานํ เอกสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺตีติอาทินา (เนตฺติ. ๒๓) อาจริเยน ยา ลกฺขณหารโยชนา วุตฺตา, สาว กาตพฺพา, น อฺถา กาตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต อฺถาปิ ลกฺขณหารโยชนา กาตพฺพาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ เย ธมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เย ปถวีอาทโย รูปธมฺมา, เย ผสฺสาทโย อรูปธมฺมา สนฺธารณาทิกิจฺจโต สงฺฆฏฺฏนาทิกิจฺจโต เอกลกฺขณา, เตสํ รูปารูปธมฺมานํ เอกสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา รูปารูปธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติ. เย ปถวีอาทโย รูปธมฺมา, เย ผสฺสาทโย อรูปธมฺมา กกฺขฬาทิลกฺขณโต ผุสนาทิลกฺขณโต เอกลกฺขณา, เตสํ รูปารูปธมฺมานํ เอกสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา รูปารูปธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติ. เย ธมฺมา รุปฺปนสามฺโต นมนสามฺโต อนิจฺจาทิสามฺโต วา ขนฺธายตนาทิสามฺโต วา เอกลกฺขณา, เตสํ สงฺขตธมฺมานํ เอกสฺมึ สงฺขตธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติ. เย สงฺขตธมฺมา ภงฺคุปฺปาทโต สงฺขโต จุตูปปาตโต สมานนิโรธุปฺปาทสงฺขตโต วา จุตูปปาตโต เอกลกฺขณา, เตสํ สงฺขตธมฺมานํ เอกสฺมึ สงฺขตธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺา สงฺขตธมฺมา วุตฺตา ภวนฺตีติ อตฺถโยชนา กาตพฺพา.
กิจฺจโต จ ลกฺขณโต จาติอาทีสุ จ-สทฺเทน สหจรณสมานเหตุตาทโย สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา ¶ . สหจรณาทีสุ จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘นานตฺตกายนานตฺตสฺิโน (ที. นิ. ๓.๓๔๑, ๓๕๗, ๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๔), นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอาทีสุ สหจาริตาย สฺาสหคตา ธมฺมา นิทฺธาริตาติอาทินา วุตฺตเมว.
‘‘เอกสฺมึ ธมฺเม สรูปโต วุตฺเต เอกลกฺขณาทิโต อวสิฏฺธมฺมานมฺปิ วุตฺตภาโว เกน อมฺเหหิ ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เตนา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน อวสิฏฺธมฺมานมฺปิ วุตฺตภาเวน ‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธมฺเม’’ติอาทิกํ ยํ วจนํ อายสฺมา มหากจฺจาโน อาห, เตน วจเนน ตุมฺเหหิ อวสิฏฺานมฺปิ วุตฺตภาโว ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘เอตฺตาวตา จ ลกฺขณหาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ลกฺขโณ หาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺสํ ปาฬิยํ เอกสฺมึ ธมฺเม วุตฺเต อวสิฏฺธมฺมาปิ เยน ลกฺขณหาเรน นิทฺธาริตา, ตสฺสํ ปาฬิยํ โส ลกฺขโณ หาโร นิยุตฺโต นิทฺธาเรตฺวา โยชิโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ.
อิติ ลกฺขณหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๖. จตุพฺยูหหารวิภงฺควิภาวนา
๒๕. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ลกฺขณหารวิภงฺเคน สุตฺตตฺเถหิ สมานตฺถา วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ลกฺขณหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม จตุพฺยูหหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ. กตโมติ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส จตุพฺยูโห หาโร จตุพฺยูหหารวิภงฺโค นามาติ วิฺเยฺโย. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หาโรติ จตุพฺยูหหารวิภงฺโค’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๕). ‘‘อิมินา จตุพฺยูหหาเรน กตมสฺส ¶ เนรุตฺตาทโย คเวสิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘พฺยฺชเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ พฺยฺชเนนาติ จตุพฺยูหหารสฺส สุตฺตสฺส วิเสสโต พฺยฺชนวิจยภาวโต ‘‘พฺยฺชนา’’ติ โวหาริเตน อิมินา จตุพฺยูหหาเรน สุตฺตสฺส เนรุตฺตฺจ, สุตฺตสฺส อธิปฺปาโย จ, สุตฺตสฺส นิทานฺจ, สุตฺตสฺส ปุพฺพาปรสนฺธิ จ สํวณฺเณนฺเตหิ คเวสิตพฺโพติ อตฺโถ.
‘‘จตุพฺยูหหาเรน ¶ คเวสิตพฺเพสุ เนรุตฺตาทีสุ กตมํ สุตฺตสฺส คเวสิตพฺพํ เนรุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ เนรุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ตตฺถ เตสุ อิมินา จตุพฺยูหหาเรน คเวสิตพฺเพสุ เนรุตฺตาทีสุ กตมํ สุตฺตสฺส เนรุตฺตํ นิพฺพจนํ นามาติ เจ ปุจฺเฉยฺย? สุตฺตสฺส ยา นิรุตฺติ นิทฺธาเรตฺวา วุตฺตา สภาวปฺตฺติ คเวสิตพฺพา, อิทํ สภาวนิรุตฺติภูตํ นิพฺพจนํ เนรุตฺตํ นามาติ. ‘‘ยา นิรุตฺติ เนรุตฺตํ นามาติ วุตฺตา, กา ปน สา นิรุตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปทสํหิตา’’ติ วุตฺตํ. ปเทสุ สํหิตา ยุตฺตา ปทสํหิตา. ยถา ยถา สุตฺตตฺโถ วตฺตพฺโพ, ตถา ตถา ยา สภาวนิรุตฺติ ปวตฺตา, สา ปวตฺตา สภาวนิรุตฺติเยว นิรุตฺติ นามาติ โยชนา. ‘‘กา ปน สา สภาวนิรุตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา จ ‘‘ยํ ธมฺมานํ นามโส าณ’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ยาย การณภูตาย นามปฺตฺติยา ธมฺมานํ เนยฺยานํ นามโส ปถวีนามาทินา วา ผสฺสนามาทินา วา ขนฺธนามาทินา วา วิวิเธน นาเมน อตฺถธมฺมาทีสุ กุสลสฺส ปุคฺคลสฺส าณํ ปวตฺตติ, สา การณภูตา นามปฺตฺติ สภาวนิรุตฺติ นามาติ อตฺโถ. ยนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส, ยายาติ อตฺโถ. ‘‘ลิงฺคปกติธมฺมานํ นามโส ปวตฺตมานํ าณํ วิวริตฺวา กเถหี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยทา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ยทา หิ ภิกฺขูติอาทินา ‘ธมฺมานํ นามโส าณ’นฺติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๕) วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ อฏฺกถายํ วิภชิตฺวา วุตฺโตวาติ น วิจาริโต.
๒๖. เนรุตฺตํ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ ‘‘กตโม สุตฺเต คเวสิตพฺโพ ภควโต อธิปฺปาโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม อธิปฺปาโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ ปากโฏ. อปิจ ‘‘ธมฺโม หเว รกฺขตี’’ติอาทีสุ เยน ปุคฺคเลน อตฺตนา รกฺขิเตน ธมฺเมน รกฺขิตพฺพภาโว อิจฺฉิโต, โส ธมฺมํ รกฺขิสฺสตีติ ภควโต อธิปฺปาโย. โย ปุคฺคโล ทุคฺคติโต มุจฺจิตุกาโม, โส ธมฺมํ รกฺขิสฺสตีติ ภควโต อธิปฺปาโย.
โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหิโตติอาทีสุ โย โจโร ฆาตนโต มุจฺจิตุกาโม, โส โจรกมฺมํ น กริสฺสตีติ ภควโต อธิปฺปาโย. โย ปุคฺคโล อปายาทิทุกฺขโต มุจฺจิตุกาโม, โส ปาปกมฺมํ น กริสฺสตีติ ภควโต อธิปฺปาโย.
สุขกามานีติอาทีสุ ¶ ¶ เย ปุคฺคลา สุขํ อิจฺฉนฺติ, เต ปรหึสนโต วิวชฺชิสฺสนฺตีติ ภควโต อธิปฺปาโย.
มิทฺธี ยทา โหติ มหคฺฆโส จาติอาทีสุ เย ปุคฺคลา ปุนปฺปุนํ ปวตฺตมานชาติชรามรณโต มุจฺจิตุกามา, เต โภชเน มตฺตฺุโน ภวิสฺสนฺติ, สนฺตุฏฺา ภวิสฺสนฺติ, สุทฺธาชีวา ภวิสฺสนฺติ, ปาติโมกฺขสํวรสีลสมฺปนฺนา ภวิสฺสนฺติ, อตนฺทิโน ภวิสฺสนฺติ, วิปสฺสกา ภวิสฺสนฺติ, สคารวา สปฺปติสฺสา ภวิสฺสนฺตีติ ภควโต อธิปฺปาโย.
อปฺปมาโท อมตปทนฺติอาทีสุ เย ปุคฺคลา มจฺจุโน ภายนฺติ, นิพฺพานมิจฺฉนฺติ, เต ปุคฺคลา ทานสีลภาวนากมฺเมสุ อปฺปมตฺตา ภวิสฺสนฺตีติ ภควโต อธิปฺปาโย.
๒๗. สุตฺเต คเวสิตพฺโพ อธิปฺปาโย อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ วิฺาโต, ‘‘กตมํ สุตฺตสฺส คเวสิตพฺพํ นิทาน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ นิทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิทานนฺติ ผลํ นีหริตฺวา เทตีติ นิทานํ. กึ ตํ? การณํ. ธนิโยติ ธนวฑฺฒนการเณ นิยุตฺโตติ ธนิโย. โคปาลโกติ คาโว อิสฺสรภาเวน ปาเลติ รกฺขตีติ โคปาลโก. อุปธีหีติ ปุตฺตโคณาทีหิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๓). นรสฺสาติ ปุตฺติมนฺตสฺส วา โคปาลกสฺส วา นรสฺสาติ จ ปทฏฺานวเสน วา เยภุยฺยวเสน วา คาถายํ อาคตวเสน วา วุตฺตํ, นาริยาปิ อุปธีหิ นนฺทนา อตฺเถวาติ ทฏฺพฺพา.
อิมินา วตฺถุนาติ อุปธิสงฺขาเตน อิมินาว ปุตฺตควาทินา วตฺถุนา. วสติ ปวตฺตติ นนฺทนา เอตฺถ ปุตฺตโคณาทิเกติ วตฺถุ. นนฺทนํ นีหริตฺวา เทติ ปุตฺตโคณาทิกนฺติ นิทานนฺติ อตฺถํ คเหตฺวา ธนิโย ‘‘อุปธีหิ นรสฺส นนฺทนา’’ติ อาห. ภควา ปน ‘‘วสติ ปวตฺตติ โสจนา เอตฺถ ปุตฺตโคณาทิเกหิ วตฺถุ, โสจนํ นีหริตฺวา เทติ ปุตฺตโคณาทิกนฺติ นิทาน’’นฺติ อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘อุปธีหิ นรสฺส โสจนา’’ติ อาห. ปริคฺคหียเตติ ปริคฺคหํ. กึ ตํ? ปุตฺตโคณาทิกํ, ตํ ปริคฺคหํ ‘‘อุปธี’’ติ อาห, น กิเลสูปธิกายขนฺธูปธินฺติ.
อุปธีสูติ ขนฺธสงฺขาเตสุ กาเยสุ. กายํ ‘‘อุปธี’’ติ อาห, น ปุตฺตควาทิกํ, น ปริคฺคหํ.
พาหิเรสุ ¶ วตฺถูสูติ มณิกุณฺฑลปุตฺตทาราทีสุ วตฺถูสุ.
กามสุขนฺติ ¶ กามนีเยสุ อสฺสาทสุขวเสน ปวตฺตา ตณฺหา. พาหิรวตฺถุกาย ตณฺหายาติ กามนีเยสุ พาหิรวตฺถูสุ อสฺสาทสุขวเสน ปวตฺตาย ตณฺหาย.
อชฺฌตฺติกวตฺถุกายาติ รูปกายสงฺขาเต อชฺฌตฺติกวตฺถุมฺหิ อภินนฺทนวเสน ปวตฺตาย.
ปุน อชฺฌตฺติกวตฺถุกายาติ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาเต อชฺฌตฺติกวตฺถุมฺหิ สิเนหวเสน ปวตฺตาย.
คเวสิตพฺพํ นิทานํ วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตโม คเวสิตพฺโพ ปุพฺพาปรสนฺธี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตตฺถ กตโม ปุพฺพาปรสนฺธี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ เนรุตฺตาธิปฺปายนิทานปุพฺพาปรสนฺธีสุ. ยถาติ เยน อนฺธการาทินา สภาเวน ‘‘กามนฺธา…เป… มาตร’’นฺติ ยํ กามตณฺหํ ภควา อาห, อยํ กามตณฺหา ตถา เตน อนฺธการาทินา สภาเวน ‘‘กามนฺธา…เป… มาตร’’นฺติ คาถา วุตฺตาติ โยชนา.
คาถาตฺโถ ปน – กาเมตีติ กาโม, กามตณฺหา, กาเมน อตฺถสฺส อชานนตาย ธมฺมสฺส, อปสฺสนตาย จ อนฺธาติ กามนฺธา. กามตณฺหาสงฺขาเตน ชาเลน อตฺถธมฺมานํ อชานนาปสฺสเนน สฺฉนฺนา ปลิคุณฺิตาติ ชาลสฺฉนฺนา. ตณฺหาสงฺขาเตน ฉทเนน เตสํเยว อตฺถธมฺมานํ อชานนาปสฺสเนน ฉาทิตา ปิหิตาติ ตณฺหาฉทนฉาทิตา. อตฺถธมฺเมสุ ปมตฺตสงฺขาเตน ปมาเทน พนฺธเนน พทฺธา พนฺธิตพฺพา ปุคฺคลา ชรามรณํ อนฺเวนฺติ, กุมินามุเข ปวตฺตา มจฺฉา มรณํ อนฺเวนฺติ อิว จ, ขีรปโก วจฺโฉ มาตรํ อนฺเวติ อิว จ, ตถา ชรามรณํ อนฺเวนฺตีติ คเหตพฺโพ.
‘‘กามนฺธา…เป… มาตร’นฺติ ยาย เทสนาย, คาถาย วา กามตณฺหา วุตฺตา, สา เทสนา, คาถา วา กตเมน เทสนาภูเตน อปเรน ยุชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา อิมาย เทสนาย, คาถาย วา ยุชฺชตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สา กตเมนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สาติ ‘‘กามนฺธา…เป… อนฺเวนฺตี’’ติ เทสนา, คาถา วา. ปุพฺพาปเรนาติ ตโต เทสนาโต ปุพฺเพน เทสนาวจเนน, คาถาวจเนน วา อปเรน เทสนาวจเนน, คาถาวจเนน วา. ยุชฺชติ ยุชฺชนํ เอติ สเมตีติ ปุจฺฉติ.
ยถาติ ¶ เยน อนฺธกรณาทินา. ‘‘รตฺโต…เป… นร’’นฺติ ยํ คาถาวจนํ ภควา อาห, เตน คาถาวจเนน ตถา อนฺธกรณาทินา ยุชฺชตีติ โยชนา. คาถาตฺโถ ปน – รตฺโต รฺชนฺโต ปุคฺคโล อตฺถํ อตฺตหิตปโยชนํ ปรหิตปโยชนํ น ชานาติ. รตฺโต รฺชนฺโต ธมฺมํ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส ¶ เหตุํ ปฺาจกฺขุนา น ปสฺสติ. ราโค ยํ นรํ ยทา สหเต, ตทา ตสฺส นรสฺส อนฺธํ อนฺธการํ ตมํ อฺาณํ โหตีติ คเหตพฺโพ.
อิตีติ เอวํ. อนฺธตาย อนฺธกรณตาย สฺฉนฺนตาย สฺฉนฺนกรณตาย. สาเยว ตณฺหาติ ‘‘กามนฺธา…เป… มาตร’’นฺติ คาถาวจเนน ยา กามตณฺหา วุตฺตา, สาเยว กามตณฺหา. อภิลปิตาติ ‘‘รตฺโต…เป… นร’’นฺติ อปเรน คาถาวจเนน ภควตา โวหาริตา โวหรเณน าปิตา, อภิลปิตสฺส อตฺถสฺส สมานตา ปุพฺพเทสนา อปรเทสนาย ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘ทฺวีสุ คาถาสุ กตเมหิ ปเทหิ สาเยว ตณฺหา อภิลปิตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิเมหิ อภิลปิตาติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยฺจาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปมคาถายํ ‘‘กามนฺธา…เป… ฉาทิตา’’ติ ยฺจ ปทํ อาห, ทุติยคาถายฺจ ‘‘รตฺโต…เป… น ปสฺสตี’’ติ ยฺจ ปทํ อาห. ปริยุฏฺาเนหิ ปริยุฏฺานทีปเกหิ อิเมหิ ‘‘กามนฺธา…เป… ปสฺสตี’’ติ ปเทหิ สาเยว ปมคาถาย วุตฺตา กามตณฺหา จ ภควตา อภิลปิตา.
‘‘ยํ อนฺธการํ วุตฺตํ, กตมํ ตํ? ยา ตณฺหา โปโนภวิกา วุตฺตา, กตมา สา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ อนฺธการ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนฺธการํ ยํ อฺาณํ วุตฺตํ, อยํ ทุกฺขสมุทโย ภเว. ยา จ ตณฺหา โปโนภวิกา วุตฺตา, อยฺจ ทุกฺขสมุทโย ภเวติ โยชนา.
‘‘กามา’’ติ ยฺจ ปทํ ภควา อาห, เตน ปเทน อิเม กิเลสกามา วุตฺตา. ‘‘ชาลสฺฉนฺนา’’ติ ยฺจ ปทํ ภควา อาห, เตน ปเทน เตสํเยว กิเลสกามานํ ปโยเคน สมุทาจาเรน ปริยุฏฺานํ ภควา ทสฺเสติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ยสฺมึ สนฺตาเน ตณฺหา อุปฺปนฺนา, ตํ สนฺตานํ สํสารโต นิสฺสริตุํ อทตฺวา รูปารมฺมณาทีหิ ปโลภยมานา หุตฺวา จิตฺตํ กิเลเสหิ ปริยาทาย ติฏฺติ, ตสฺมา ตณฺหาย จิตฺตํ ปริยาทาย สนฺตาเน ติฏฺมานตฺตา. กิเลสวเสนาติ วีติกฺกมกิเลสวเสน. ปริยุฏฺานวเสนาติ ¶ วีติกฺกมนํ อปฺปตฺวา อุปฺปชฺชมานวเสน. เยติ วุตฺตปฺปการตณฺหาสหิตปุคฺคลสทิสา. เตติ เต ตณฺหาพนฺธนพทฺธา จ เอทิสกา จ ปุคฺคลา. ชรามรณํ อนฺเวนฺติ ชรามรณํ อติกฺกมิตุํ น สกฺกุณนฺติ. อยนฺติ ชรามรณานุปฺปวตฺติ ‘‘ชรามรณมนฺเวนฺตี’’ติ อิมินา วจเนน ภควตา ทสฺสิตาติ โยชนา.
‘‘กามนฺธา’’ติอาทิคาถาย เจว ‘‘รตฺโต’’ติอาทิคาถาย จ ปุพฺพาปรสนฺธิ อาจริเยน วิภตฺโต ¶ , อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ ‘ยสฺส ปปฺจา ิตี จา’ติอาทิคาถาสุ ปุพฺพาปรสนฺธิ อมฺเหหิ วิฺาตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ยสฺส ปปฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสา คาถาย – ยสฺส มุนิโน ปปฺจา ตณฺหามานทิฏฺี จ นตฺถิ, ตณฺหามานทิฏฺีหิ อภิสงฺขตา สงฺขารา จ นตฺถิ, ิตี อนุสยา ตณฺหา จ นตฺถิ, สนฺทานสทิสํ ตณฺหาปริยุฏฺานํ นตฺถิ, ปลิฆสทิโส โมโห จ นตฺถิ, โส มุนิ ปปฺจาทิกํ สพฺพํ วีติวตฺโต อติกฺกนฺโตติ วุจฺจติ. นิตฺตณฺหํ นิมานํ นิทิฏฺึ นิสนฺทานํ นิปลิฆํ โลเก จรนฺตํ ตํ มุนึ สเทวโก ตณฺหาสหิโต โลโก น วิชานาตีติ อตฺโถ.
คาถายํ ปปฺจาทโย ภควตา วุตฺตา, ‘‘กตเม เต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปปฺจา นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตโน อาธารปุคฺคลํ สํสาเร จิรํ ปปฺจนฺตาเปนฺตี ตณฺหามานทิฏฺิโย จ, ตาหิ ตณฺหามานทิฏฺีหิ สหชาตวเสน วา อุปตฺถมฺภนวเสน วา อภิสงฺขตา สงฺขารา จ ปปฺจา นาม. สนฺตาเน อปฺปหีนฏฺเน อนุสยา ตณฺหา สตฺตานํ ติฏฺนเหตุตฺตา ิตี นาม. ปวตฺตมานาย ตณฺหาย ยํ ปริยุฏฺานฺจ ฉตฺตึสตณฺหาย ชาลินิยา ยานิ วิจริตานิ จ วุตฺตานิ, อิทํ สพฺพํ อตฺตโน อาธารํ ปุคฺคลํ พนฺธนฏฺเน สนฺทานสทิสตฺตา สนฺทานํ นาม. โมโห อตฺตโน อาธารสฺส ปุคฺคลสฺส นิพฺพานนครปฺปเวสนสฺส ปฏิเสธกตฺตา ปลิฆสทิสตฺตา ปลิโฆ นาม. ‘‘ยสฺส ปปฺจาทโย นตฺถิ, โส กึ วีติวตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เย วุตฺตปฺปการา ปปฺจา สงฺขารา, ยา จ วุตฺตปฺปการา ิติ, ยํ วุตฺตปฺปการํ สนฺทานฺจ, ยํ วุตฺตปฺปการํ ปลิฆฺจ นตฺถีติ วุตฺตา, สพฺพํ เอตํ ปปฺจาทิกํ โย มุนิ สมติกฺกนฺโต, อยํ มุนิ ‘‘นิตฺตณฺโห’’ติ วุจฺจตีติ ทฏฺพฺโพ.
๒๘. ‘‘ยสฺส ปปฺจาติอาทิคาถายํ เย ปปฺจาทโย วุตฺตา, เตสุ ตณฺหามานทิฏฺิเหตุกา สงฺขารา กทา กติวิธํ ผลํ เทนฺติ, ตํสงฺขารสมฺปยุตฺตา ¶ ตณฺหา กทา กติวิธํ ผลํ เทตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ปริยุฏฺานสงฺขารา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปปฺจสงฺขาราทีสุ. ปริยุฏฺานสงฺขาราติ วีติกฺกมวเสน ปวตฺตา ปริยุฏฺานา อกุสลสงฺขารา เจตนา. ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีติ ทิฏฺเ ปสฺสิตพฺเพ ธมฺเม อตฺตภาเว เวทนียํ ผลํ เทตีติ ทิฏฺธมฺมเวทนียา, ทิฏฺเ ธมฺเม ผลํ เวเทตีติ วา ทิฏฺธมฺมเวทนียา. กา สา? อปทุสฺสนียาทีสุ อติทุสฺสนาทิวเสน ปวตฺตา ปมชวนเจตนา. อุปปชฺเช ผลํ เวเทตีติ อุปปชฺชเวทนียา, สตฺตมชวนเจตนา. อปราปริยาเย อตฺตภาเว ผลํ เวเทตีติ อปราปริยายเวทนียา, มชฺเฌ ปวตฺตา ปฺจ ชวนเจตนา. ติผลทานวเสน ติวิธา สงฺขารา. เอวํ อิมาย ติวิธาย สงฺขารเจตนาย สมฺปยุตฺตา ติวิธา ตณฺหา ติวิธํ ผลํ ทิฏฺเ วา ธมฺเม อตฺตภาเว ¶ , อุปปชฺเช วา อนนฺตรภเว, อปเร วา ปริยาเย ภเว เทติ นิพฺพตฺเตตีติ เอวํ ผลนิพฺพตฺตกสงฺขารํ วา ตํสมฺปยุตฺตํ ตณฺหํ วา ภควา อาห.
‘‘ยาย เทสนาย, คาถาย วา ผลนิพฺพตฺตกํ สงฺขารํ อาห, สา เทสนา, คาถา วา กตเมน เทสนาภูเตน วา อปเรน ยุชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ โลภปกตํ กมฺมํ กโรตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ‘‘ยสฺส…เป… โลโก’’ติ เทสนา จ ยา ‘‘ยํ โลภปกตํ กมฺมํ…เป… อปเร วา ปริยาเย’’ติ เทสนา จ วุตฺตา, ภควโต อิทํ เทสนาทฺวยํ อฺมฺํ ปุพฺพาปเรน ปุพฺพํ อปเรน อปรํ ปุพฺเพน ยุชฺชติ ยุชฺชนํ เอติ สเมติ, ยถา คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน, ยมุโนทกมฺปิ คงฺโคทเกน สํสนฺทติ สเมติ. ‘‘ยสฺส…เป… โลโก’’ติ เทสนา ‘‘ยํ โลภปกตํ…เป… ปริยาเย’’ติ เทสนาย สํสนฺทติ สเมติ, ‘‘ยํ โลภปกตํ…เป… ปริยาเย’’ติ เทสนาปิ ‘‘ยสฺส…เป… โลโก’’ติ เทสนาย สํสนฺทติ สเมตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘กถํ ยุชฺชตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ปริยุฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ทิฏฺธมฺมเวทนียาทิผลตฺตยนิพฺพตฺตกฏฺเน ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ.
ยํ ยํ สุตฺตํ ภควตา เทสิตํ ปุพฺพาปเรน ยุชฺชติ, ตํ ตํ สุตฺตมฺปิ นีหริตฺวา ปุพฺพาปรสํสนฺทนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สํสนฺทนากาโร วุตฺตนยานุสาเรน คเหตพฺโพ. ตตฺถาติ เตสุ ปริยุฏฺานสงฺขารตณฺหาวิจริเตสุ. ปริยุฏฺานนฺติ รูปารมฺมณาทีนิ อโยนิโสมนสิกาเรน อารพฺภ สตฺตสนฺตาเน ปวตฺตํ ตณฺหาจริตํ. ปฏิสงฺขานพเลนาติ ¶ อสุภานิจฺจาทิทสฺสนพเลน ตทงฺคปฺปหานวเสน ปหาตพฺพํ. สงฺขาราติ ทสฺสนปหาตพฺพา สงฺขารา. ทสฺสนพเลนาติ ทสฺสนสงฺขาตปมมคฺคาณพเลน ปหาตพฺพา. ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานีติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพตณฺหาวิจริเตหิ อวเสสานิ ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ. นิคฺคตา ตณฺหา ยสฺส โส นิตฺตณฺโห, นิตฺตณฺหสฺส ภาโว นิตฺตณฺหตา, กา สา? สอุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ.
ปปฺจสงฺขาราภินนฺทนตฺตยํ ยทิปิ อตฺถโต เอกํ สมานํ, เทสนาย ปน ปทกฺขราทีหิ วิเสโส อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘โยยํ ปุพฺพาปรสนฺธิ อาจริเยน วิภตฺโต, โสยํ กติวิโธ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส จายํ ปุพฺพาปโร สนฺธี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘น เกวลํ สุตฺตนฺตรสํสนฺทนเมว ปุพฺพาปรสนฺธิ, อถ โข อฺโปิ อตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘โส จาย’นฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๘). ตตฺถ อตฺถสนฺธีติ กิริยาการกาทิวเสน อตฺถสฺส อตฺเถน สนฺธิ. ปทสนฺธีติ นามปทาทิกสฺส ¶ นามปทาทิกนฺตเรน สนฺธิ. เทสนาสนฺธีติ วุตฺตปฺปการสฺส เทสนนฺตรสฺส วุตฺตปฺปกาเรน เทสนนฺตเรน สนฺธิ. นิทฺเทสสนฺธีติ นิทฺเทสนฺตรสฺส นิทฺเทสนฺตเรน สนฺธิ.
สนฺธิ จ นาม อตฺถาทโย มฺุจิตฺวา อฺโ สภาวธมฺโม นาม นตฺถิ, อตฺถาทีนฺจ ฉอตฺถปทาทีสุ อวโรธนโต ‘‘อตฺถสนฺธิ ฉปฺปทานี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อตฺถสนฺธิพฺยฺชนสนฺธโย อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา เทสนาสนฺธี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เทสนาสนฺธิ น จ ปถวิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น จ ปถวึ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี ฌายติ จาติ เอตฺถ ฌายี ฌานสมงฺคี ปุคฺคโล ปถวึ นิสฺสาย อาลมฺพิตฺวา น จ ฌายติ, สพฺพสงฺขารนิสฺสฏํ ปน นิพฺพานํ นิสฺสาย อาลมฺพิตฺวา ผลสมาปตฺตึ ฌายติ สมาปชฺชติ เอวาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น จ อาปนฺติอาทีสุปิ เอส นโย โยเชตพฺโพ. ผลสมาปตฺติสมงฺคี ปุคฺคโล หิ ปถวีอาทโย มฺุจิตฺวา นิพฺพานเมว อารพฺภ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชตีติ. เอตฺถ จ ปถวีอาทีหิ มหาภูเตหิ กามภวรูปภวา คหิตา รูปปฏิพทฺธวุตฺติตาย. อากาสานฺจายตนาทีหิปิ อรูปภโว คหิโต, ภวตฺตยํ วชฺเชตฺวา จ ¶ ฌายตีติ อธิปฺปาโย. ยทิ ปถวีอาทโย นิสฺสาย น ฌายี ฌายติ จ, เอวํ สติ อิธโลกสงฺขาตํ สตฺตสนฺตานํ วา ปรโลกสงฺขาตํ สตฺตสนฺตานํ วา อนินฺทฺริยสนฺตานํ วา นิสฺสาย ฌายี ฌายตีติ อาสงฺกนียตฺตา ตํ ปริหรนฺโต ‘‘น จ อิมํ โลก’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อิมํ โลกนฺติ อิธโลกสงฺขาโต ทิฏฺโ อตฺตภาโว สตฺตสนฺตาโน วุตฺโต, ตสฺมึ นิสฺสาย น ฌายติ ฌายี ฌายติ จ. ปรโลกนฺติ อิธโลกโต อฺโ ภวนฺตรสงฺขาโต สตฺตสนฺตาโน วุตฺโต, ตสฺมึ นิสฺสาย น จ ฌายติ ฌายี ฌายติ จ.
ยมิทํ อุภยนฺติอาทีสุ อิทํ อุภยํ อิธโลกปรโลกทฺวยํ อนฺตเรน วชฺเชตฺวา ยํ รูปายตนํ ทิฏฺํ, ตํ รูปายตนมฺปิ. ยํ สทฺทายตนํ สุตํ, ตํ สทฺทายตนมฺปิ. ยํ คนฺธายตนรสายตนโผฏฺพฺพายตนํ มุตํ, ตํ คนฺธายตนรสายตนโผฏฺพฺพายตนมฺปิ. ยํ อาโปธาตุ อากาสธาตุ ลกฺขณรูปํ โอชาสงฺขาตํ ธมฺมายตเนกเทสรูปํ วิฺาตํ, ตํ อาโปธาตาทิกํ ธมฺมายตเนกเทสรูปมฺปิ. ยํ วตฺถุ ปริเยสิตํ วา อปริเยสิตํ วา สนฺติเก ปตฺตํ, ตํ วตฺถุมฺปิ. ยํ วตฺถุ ปตฺตํ วา อปฺปตฺตํ วา ปริเยสิตํ ปริเยสนารหํ สุนฺทรํ, ตํ วตฺถุมฺปิ. ยํ วตฺถุ วิตกฺกิตํ วิตกฺกนวเสน อาลมฺพิตพฺพํ, ตํ วตฺถุมฺปิ. ยํ วตฺถุ วิจาริตํ อนุมชฺชนวเสน อาลมฺพิตพฺพํ, ตํ วตฺถุมฺปิ. ยํ วตฺถุ มนสา จิตฺเตเนว อนุจินฺติตํ อนุจินฺตนวเสน อาลมฺพิตพฺพํ, ตํ วตฺถุมฺปิ นิสฺสาย น ฌายติ ฌายี ฌายติ จาติ โยชนา กาตพฺพา.
เอตฺถ ¶ ทิฏฺาทิกํ พหิทฺธารูปเมว คเหตพฺพํ อนินฺทฺริยพทฺธรูปสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เตนาห อฏฺกถาจริโย – ‘‘ตทุภยวินิมุตฺโต อนินฺทฺริยพทฺโธ รูปสนฺตาโน’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๘). ‘‘ยทิ ฌายี ปุคฺคโล ยถาวุตฺเต ปถวีอาทโย นิสฺสาย น ฌายติ ฌายี ฌายติ จ, เอวํ สติ อยํ ฌายี ปุคฺคโล อิทํ นาม นิสฺสาย ฌายตีติ โลเก เกนจิ ายติ กึ, อุทาหุ น ายตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา น ายตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ สเทวเก โลเก’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายนฺโต อยํ ขีณาสวปุคฺคโล สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ยตฺถ กตฺถจิปิ อนิสฺสิเตน จิตฺเตน ฌายตีติ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ¶ ปชาย เกนจิ น ายตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. เตน วุตฺตํ –
‘‘นโม เต ปุริสาชฺ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต นาภิชานาม, กึ ตฺวํ นิสฺสาย ฌายสี’’ติ. (สํ. นิ. ๓.๗๙; เนตฺติ. ๑๐๔);
‘‘เกนจิ อวิฺายภาโว เกน สุตฺเตน วิภาเวตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมินา โคธิกสุตฺเตน (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) วิภาเวตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา มาโร ปาปิมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิทานิ ขีณาสวจิตฺตสฺส กตฺถจิปิ อนิสฺสิตภาวํ โคธิกสุตฺเตน (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) วกฺกลิสุตฺเตน (สํ. นิ. ๓.๘๗) จ วิภาเวตุํ ‘ยถา มาโร’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๘) วุตฺตํ. ตตฺถ ทานาทิปฺุการเก, ปฺุเ วา มาเรติ นิวาเรตีติ มาโร, อตฺตหิตปรหิเต มาเรตีติ วา มาโร. ปาปจิตฺตุปฺปาทวนฺตตาย ปาปิมา. ปุพฺพตฺตภาเว โคธสฺส ฆาตกตฺตา ‘‘โคธิโก’’ติ ลทฺธนามสฺส ปรินิพฺพายนฺตสฺส กุลปุตฺตสฺส ปรินิพฺพานโต อุทฺธํ ปฏิสนฺธาทิ วิฺาณํ สมนฺเวสนฺโต น ชานาติ น ปสฺสติ. ‘‘ปรจิตฺตชานนโก มาโร กสฺมา น ชานาตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โส โคธิโก หิ ยสฺมา ปปฺจาตีโต, ตสฺมา ตณฺหาปหาเนน ทิฏฺินิสฺสโยปิ อสฺส โคธิกสฺส ยสฺมา นตฺถิ, ตสฺมา จ น ชานาตีติ.
‘‘โคธิกสุตฺเตเนว วิภาเวตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘โคธิกสุตฺตวกฺกลิสุตฺเตหิ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา อนิสฺสิตภาโว วิภาวิโต, เอวํ สติ สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยา อนิสฺสิตภาโว เกน วิฺายตีติ อตฺโถ ภเวยฺยา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ตทาปิ น วิฺายติเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สเทวเกน โลเกนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สอุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายมานา อิเม ขีณาสวา กตฺถจิ อนิสฺสิตจิตฺตา ¶ ฌายนฺตีติ สเทวเกน โลเกน น ายนฺติ สมารเกน…เป… สเทวมนุสฺสาย น ายนฺตีติ โยชนา กาตพฺพา. อนิสฺสิตจิตฺตา น ายนฺตีติ เอตฺถ หิ น-กาโร จ ‘‘ฌายมานา’’ติ ปเท น สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘น ฌายมานา’’ติ อตฺถสฺส สมฺภวโต. ‘‘น ายนฺตี’’ติ ปน สมฺพนฺธิตพฺโพ ¶ เหฏฺา อฏฺกถายํ เอว ‘‘โลเก เกนจิปิ น ายตี’’ติ วุตฺตตฺตา. อยํ เทสนาสนฺธีติ โคธิกสุตฺตวกฺกลิสุตฺตานํ อฺมฺํ อตฺถวเสน สํสนฺทนา นิทฺธาริตา วิย ‘‘น จ ปถวึ นิสฺสายา’’ติอาทิเทสนาย จ ‘‘น จ อิมํ โลก’’นฺติอาทิเทสนาย จ ยาย เทสนาย อตฺถวเสน สํสนฺทนา นิทฺธาริตา, ตาย เทสนาย ยตฺถ กตฺถจิ ยํ กิฺจิ นิสฺสาย ฌายี น ฌายติ, นิพฺพานํ นิสฺสาย ฌายี ฌายตีติ อตฺถวเสน นิทฺธาริตา, อยํ สํสนฺทนา เทสนาสนฺธิ นามาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
เทสนาสนฺธิ อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา นิทฺเทสสนฺธี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา นิทฺเทสสนฺธีติ นิสฺสิตจิตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ จตูสุ อตฺถสนฺธิพฺยฺชนสนฺธิเทสนาสนฺธินิทฺเทสสนฺธีสุ ยา สนฺธิ ‘‘นิทฺเทสสนฺธี’’ติ อุทฺทิฏฺา, สา นิทฺเทสโต กตมาติ ปุจฺฉตีติ อตฺโถ. นิสฺสิตจิตฺตาติ ตณฺหาทิฏฺิสหชาตวเสน วา อุปนิสฺสยวเสน วา นิสฺสิตํ จิตฺตํ เยสํ ปุถุชฺชนานนฺติ นิสฺสิตจิตฺตา, ปุถุชฺชนา ปุคฺคลา นิทฺทิสิตพฺพา อิมาย เทสนาย ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา. ยทิ เทสนา ธมฺมาธิฏฺานา, เอวํ สติ นิสฺสิตํ จิตฺตํ เอตฺถ สุตฺตปฺปเทเสสุ เทสิตนฺติ นิสฺสิตจิตฺตา นิสฺสิตจิตฺตชานนตฺถาย เทสิตา สุตฺตปฺปเทสา. อนิสฺสิตํ จิตฺตํ เยสํ อริยปุคฺคลานนฺติ อนิสฺสิตจิตฺตา, อริยปุคฺคลา นิทฺทิสิตพฺพา อิมาย เทสนาย ปุคฺคลาธิฏฺานตฺตา. ธมฺมาธิฏฺานาย ปน อนิสฺสิตํ จิตฺตํ ยตฺถ สุตฺตปฺปเทเสสุ เทสิตนฺติ อนิสฺสิตจิตฺตา, อนิสฺสิตจิตฺตชานนตฺถาย เทสิตา สุตฺตปฺปเทสา.
‘‘นิสฺสิตจิตฺตา เกน นิทฺเทเสน นิทฺทิสิตพฺพา, อนิสฺสิตจิตฺตา เกน นิทฺเทเสน นิทฺทิสิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิสฺสิตจิตฺตา อกุสลปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อกุสลปกฺเขน นิทฺเทเสน นิทฺทิสิตพฺพา. กุสลปกฺเขนาติอาทีสุปิ เอส นโย โยเชตพฺโพ. อกุสลปกฺขสามฺกุสลปกฺขสามฺเหิ ทสฺเสตฺวา อกุสลวิเสสกุสลวิเสเสหิ ทสฺเสตุํ ‘‘นิสฺสิตจิตฺตา สํกิเลเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ นิทฺเทสสนฺธีติ อกุสลปกฺขาทิกสฺส ปุริมนิทฺเทสสฺส สํกิเลสาทิเกน ปจฺฉิเมน นิทฺเทเสน นิสฺสิตจิตฺตวเสน อยํ สํสนฺทนา จ นิทฺเทสสนฺธิ นาม. กุสลปกฺขาทิกสฺส ปุริมสฺส นิทฺเทสสฺส โวทานาทิเกน ปจฺฉิเมน นิทฺเทเสน อนิสฺสิตจิตฺตวเสน อยํ สํสนฺทนา จ นิทฺเทสสนฺธิ นามาติ วิภชิตฺวา เวทิตพฺพา.
‘‘จตุพฺยูหหารสฺส ¶ ¶ เนรุตฺตมธิปฺปายนิทานปุพฺพาปรสนฺธิปฺปเภเทน เจว อตฺถพฺยฺชนสนฺธินิทฺเทสสนฺธิเทสนาสนฺธิปฺปเภเทน จ วิภชิตพฺพภาโว เกน อมฺเหหิ ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตน ตถา วิภชิตพฺพภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘เนรุตฺตมธิปฺปาโย’’ติอาทิกํ (เนตฺติ. ๔ หารสงฺเขป) ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน ตุมฺเหหิ จตุพฺยูหหารสฺส ตถา วิภชิตพฺพภาโว ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘เอตฺตาวตา จ จตุพฺยูหหาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต จตุพฺยูโห หาโร’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺสํ ยสฺสํ ปาฬิยํ โย โย จตุพฺพิโธ, โส โส จตุพฺยูหหาโร จ ยถาลาภวเสน โยชิโต, ตสฺสํ ตสฺสํ ปาฬิยํ โส โส จตุพฺพิโธ จตุพฺยูหหาโร ตถา นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺโต โยชิโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อิติ จตุพฺยูหหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๗. อาวฏฺฏหารวิภงฺควิภาวนา
๒๙. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน จตุพฺยูหหารวิภงฺเคน เนรุตฺตาทโย วิภตฺตา, โส…เป… จตุพฺยูหหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม อาวฏฺโฏ หารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตตฺถ กตโม อาวฏฺโฏ หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส อาวฏฺโฏ หาโร อาวฏฺฏหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘เอกมฺหิ ปทฏฺาเน’’นฺติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส อาวฏฺฏหารวิภงฺโค นามาติ คหิโต. ‘‘ตตฺถ เทสนายํ ¶ เอกสฺมึ ปทฏฺาเน ¶ เทสนารุฬฺเห เสสกํ ปทฏฺานํ ปริเยสติ, ปริเยสิตฺวา กถํ ปฏิปกฺเข อาวฏฺเฏตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา –
‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน;
ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กฺุชโร’’ติ. –
คาถา วุตฺตา. อิธ คาถายํ เอกสฺมึ ปทฏฺาเน เทสนารุฬฺเห เสสกํ ปทฏฺานํ ปริเยสตีติ วุตฺตํ โหติ. คาถาตฺโถ ปน อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๙) วุตฺโต.
‘‘อารมฺภถา’ติอาทิคาถายํ กตรสฺมึ ปทฏฺาเน เทสนารุฬฺเห กตมํ เสสกํ ปทฏฺานํ ปริเยสตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถาติ วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ สามฺวเสน วุตฺตมฺปิ อารมฺภธาตุสงฺขาตํ วีริยํ นิกฺกมธาตุสงฺขาตสฺส วีริยสฺส ปทฏฺานํ, นิกฺกมธาตุสงฺขาตํ วีริยํ ปรกฺกมธาตุสงฺขาตสฺส วีริยสฺส ปทฏฺานํ, ปรกฺกมธาตุสงฺขาตํ วีริยํ สมถภาวนาสหิตสฺส วีริยสฺส ปทฏฺานนฺติอาทินา ปริเยสิตพฺพนฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘ยฺุชถา’’ติ อิมินา วุตฺตํ สมถภาวนาสหิตํ วีริยํ ‘‘พุทฺธสาสเน’’ติ อิมินา วุตฺตสฺส มหคฺคตสมาธิสฺส ปทฏฺานํ, เทสนารุฬฺหํ สุขาทิกํ เสสกมฺปิ ปทฏฺานํ ปริเยสิตพฺพํ. ‘‘ธุนาถ มจฺจุโน เสน’’นฺติ ปเทน คหิตํ วิปสฺสนาสหิตํ วีริยํ กิเลสธุนเน สมตฺถาย ปฺาย ปทฏฺานํ, เทสนารุฬฺหํ สมาธิอาทิกํ เสสกมฺปิ ปทฏฺานํ ปริเยสิตพฺพํ.
‘‘ยทิ ‘อารมฺภถา’ติอาทิกํ วุตฺตํ วีริยํ สามฺภูตานํ วีริยสมาธิปฺานํเยว ปทฏฺานํ สิยา, เอวํ สติ กถํ วฏฺฏมูลํ ฉินฺทิตฺวา วิวฏฺฏํ ปาเปสฺสนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ปุน ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถาติ วีริยินฺทฺริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อาธิปจฺจกิจฺจตาย ยุตฺตสฺสาปิ วีริยาธิกสฺส ปทฏฺานตฺตา อารภนฺตา โยคาวจรปุคฺคลา วฏฺฏมูลํ ฉินฺทิตฺวา วิวฏฺฏํ ปาเปนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิกา ปน ยสฺมา วีริยารมฺภวตฺถุอาทิเทสนา โหติ, ตสฺมา อารมฺภวตฺถุอาทีนิเยว สํวณฺณิตานิ ปทฏฺานนฺติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อิมานิ ปทฏฺานานิ เทสนา’’ติ. ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิกา ยถาวุตฺตปทฏฺานานิ เทสนา โหติ, น วีริยารมฺภวตฺถุอาทีนิ, ตสฺมา ปทฏฺานํเยว สํวณฺณิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เอวํ ¶ ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิเทสนาย ปทฏฺานวเสน อตฺโถ วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ ตสฺสาเยว เทสนาย ปฏิปกฺขวเสน อตฺโถ วิภชิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อยฺุชนฺตานํ วา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ โยเค ภาวนายํ อยฺุชนฺตานํ สตฺตานํ อปริปกฺกาณานํ โยเค โยคเหตุ วาสนาภาคิยวเสน อายตึ ชานนตฺถาย ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิเทสนา อารทฺธา. ยฺุชนฺตานํ ปริปกฺกาณานํ สตฺตานํ อารมฺเภ อารมฺภเหตุ ทิฏฺเว ธมฺเม ปริชานนตฺถาย ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิเทสนา อารทฺธา.
ตตฺถ เตสุ ยฺุชนฺตายฺุชนฺเตสุ ปริปกฺกาปริปกฺกาเณสุ เย อปริปกฺกาณา สตฺตา น ยฺุชนฺติ, เต อปริปกฺกาณา สตฺตา ปมาทมูลกา หุตฺวา โยเค ภาวนายํ เยน ปมาเทน น ยฺุชนฺติ, โส ปมาโท ตณฺหามูลโก ปมาโท, อวิชฺชามูลโก ปมาโทติ ทุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ ตสฺมึ ทุพฺพิเธ ปมาเท อฺาเณน นิวุโต อวิชฺชามูลโก สตฺโต เยน ปมาเทน เยฺยฏฺานํ ‘‘อิเม อุปฺปาทวยธมฺมา ปฺจกฺขนฺธา เยฺยฏฺานํ นามา’’ติ นปฺปชานาติ, อยํ อฺาณเหตุโก ปมาโท อวิชฺชามูลโก ปมาทา นาม. โย ปมาโท ตณฺหามูลโก, โส ปมาโท ติวิโธ อนุปฺปนฺนานํ โภคานํ อุปฺปาทาย ปริเยสนฺโต ตณฺหิโก สตฺโต ยํ ปมาทํ อาปชฺชติ, อยํ ปมาโท จ, อุปฺปนฺนานํ โภคานํ ิตตฺถาย รกฺขนฺโต ตณฺหิโก สตฺโต อารกฺขนิมิตฺตํ ยํ ปมาทํ อาปชฺชติ, อยํ ปมาโท จ, ิตํ โภคํ ปริภฺุชนฺโต ตณฺหิโก สตฺโต ปริโภคนิมิตฺตํ ยํ ปมาทํ อาปชฺชติ, อยํ ปมาโท จาติ ติวิโธ โหติ. อิติ โลเก อยํ ปมาโท จตุพฺพิโธ อวิชฺชาปทฏฺาโน เอกวิโธ ปมาโท, ตณฺหาปทฏฺาโน ติวิโธ ปมาโทติ จตุพฺพิโธ โหติ. ตตฺถ ตาสุ อวิชฺชาตณฺหาสุ นามกาโย ผสฺสาทินามสมูโห อวิชฺชาย ปทฏฺานํ, รูปกาโย ปถวีอาทิรูปสมูโห ตณฺหาย ปทฏฺานํ โหติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อารมฺภธาตุนิกฺกมธาตุสงฺขาตสฺส วีริยสฺส ปฏิปกฺโข จตุพฺพิโธ ปมาโท นิทฺธาเรตพฺโพ, นิทฺธาเรตฺวา เอกวิธสฺส ปมาทสฺส อวิชฺชา ปทฏฺานํ, ติวิธสฺส ปมาทสฺส ตณฺหา ปทฏฺานํ. อวิชฺชาย นามกาโย ปทฏฺานํ, ตณฺหาย รูปกาโย ปทฏฺานนฺติ ปฏิปกฺเข อาวฏฺเฏตฺวา ปทฏฺานํ ปริเยสิตพฺพนฺติ.
‘‘กสฺมา ¶ นามกาโย อวิชฺชาย ปทฏฺานํ ภวติ, รูปกาโย ตณฺหาย ปทฏฺานํ ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘รูปีสุ ภเวสุ อชฺโฌสานํ, อรูปีสุ สมฺโมโห’’ติ วุตฺตํ. รูปีสุ ภเวสุ รูปธมฺเมสุ อหํมมาทิวเสน อชฺโฌสานํ ตณฺหาภินิเวโส สตฺเตสุ ปติฏฺิโต ยสฺมา โหติ, ตสฺมา รูปกาโย ตณฺหาย ปทฏฺานํ ภวติ. อนมตคฺเค หิ สํสาเร อิตฺถิปุริสา อฺมฺรูปาภิรามา ภวนฺติ. อรูปีสุ ผสฺสาทีสุ สุขุมภาวโต สมฺโมโห สตฺเตสุ ปติฏฺิโต ยสฺมา โหติ, ตสฺมา นามกาโย อวิชฺชาย ปทฏฺานํ ภวตีติ โยชนา กาตพฺพา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – รูปกายนามกาเยสุ อารมฺมณกรณวเสน ตณฺหาย ¶ จ อวิชฺชาย จ อุปฺปชฺชนโต รูปกาโย ตณฺหาย ปทฏฺานํ, นามกาโย อวิชฺชาย ปทฏฺานนฺติ นีหริตพฺพาวาติ.
‘‘กตโม รูปกาโย, กตโม นามกาโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ รูปกาโย รูปกฺขนฺโธ, นามกาโย จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ รูปกายนามกาเยสุ รูปกาโย รูปสมูโห นาม รูปกฺขนฺโธ โหติ, นามกาโย นามสมูโห นาม จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธาติ. อิเม ปฺจกฺขนฺธา อวิชฺชาตณฺหานํ อารมฺมณตฺตา สอุปาทานา ภเวยฺยุํ, ‘‘กตเมน อุปาทาเนน สอุปาทานา ภวนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตเถว ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺเชตุํ ‘‘อิเม ปฺจกฺขนฺธา กตเมน อุปาทาเนน สอุปาทานา? ตณฺหาย จ อวิชฺชาย จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปาทานภูตาย ตณฺหาย จ อุปาทานภูตาย อวิชฺชาย จ อิเม ปฺจกฺขนฺธา สอุปาทานา นาม ภวนฺตีติ โยชนา กาตพฺพา.
‘‘กิตฺตกานิ อุปาทานานิ ตณฺหา นาม ภวนฺติ, กิตฺตกานิ อุปาทานานิ อวิชฺชา นาม ภวนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ตณฺหา ทฺเว’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตาสุ ตณฺหาอวิชฺชาสุ. กามุปาทานฺจ สีลพฺพตุปาทานฺจ ทฺเว อุปาทานานิ ตณฺหา นาม ภวนฺติ. ตณฺหาวเสน หิ ‘‘มม สีลํ, มม วต’’นฺติ ปรามสนํ ภวติ. ทิฏฺุปาทานฺจ อตฺตวาทุปาทานฺจ ทฺเว อุปาทานานิ อวิชฺชา นาม ภวนฺติ. อวิชฺชาวเสน หิ สสฺสตทิฏฺิ เจว อหํมมาทิทิฏฺิ จ ภวนฺติ. ‘‘อิเมหิ จตูหิ อุปาทาเนหิ สอุปาทานกฺขนฺธา จตูสุ สจฺเจสุ กิตฺตกํ สจฺจํ นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิเมหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เย โลกิยกฺขนฺธา สอุปาทานา ขนฺธา ภวนฺติ, อุปาทาเนน หิ ¶ อุปาทานานิปิ ภวนฺติ, อิทํ สอุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจํ นาม. ยานิ จตฺตาริ อุปาทานานิ ทุกฺขการณานิ ภวนฺติ, อยํ อุปาทานจตุกฺโก สมุทโย สมุทยสจฺจํ นาม ภวติ. ปฺจกฺขนฺธาติ สอุปาทานา ปฺจกฺขนฺธา ทุกฺขวตฺถุภาวโต ทุกฺขํ. เตสนฺติ สอุปาทานานํ ปฺจกฺขนฺธานํ. ธมฺมํ เทเสตีติ ‘‘อารมฺภถา’’ติอาทิกํ ธมฺมํ เวเนยฺยานุรูปํ ภควา เทเสติ. สามฺเน ปุพฺเพ วุตฺตมฺปิ อตฺถวเสน วิเสสํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺาย, สมุทยสฺส ปหานายา’’ติ วุตฺตํ.
๓๐. อารมฺภปฏิปกฺขภูตปมาทวเสน ปุริมสจฺจทฺวยํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘อิตรสจฺจทฺวยํ กถํ นิทฺธาริตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ตํ ทฺวยมฺปิ ปมาทมุเขเนว นิทฺธาริตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ โย ติวิโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ตณฺหามูลกอวิชฺชามูลเกสุ ปมาเทสุ. ตสฺสาติ ติวิธสฺส ตณฺหามูลกสฺส ปมาทสฺส. สมฺปฏิเวเธนาติ อสฺสาทาทีนํ ปริชานเนน. รกฺขณาติ อตฺตจิตฺตสฺส รกฺขณสงฺขาตา. ปฏิสํหรณาติ ‘‘ตสฺสา’’ติ ¶ อิมินา วุตฺตสฺส ปมาทสฺส ปฏิปกฺขภูเตน อปฺปมาทานนุโยเคน สํหรณา ยา เขปนา อตฺถิ, อยํ ปมาทสฺส ปฏิปกฺขภูเตน อปฺปมาทานุโยเคน ปวตฺตา เขปนสงฺขาตา ภาวนา สมโถ นามาติ ปมาทสฺส ปฏิปกฺขมุเขน ปุน อาวฏฺเฏตฺวา สมโถ นิทฺธาริโตติ.
‘‘โส สมโถ กถํ เกน อุปาเยน ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา อุปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กถนฺติ เกน อุปาเยน. ‘‘กาเมนฺตีติ กามา, กามียนฺตีติ วา กามา’’ติ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ กามานํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานํ อสฺสาทฺจ, ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๓๕) วจนโต อปฺปสฺสาทนียานํ กามานํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชมานํ อาทีนวฺจ. กามานนฺติ จ กมฺมตฺเถ สามิวจนํ. เตน วุตฺตํ –‘‘กาเม ปฏิจฺจา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๐). ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ, ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒) วจนโต นิสฺสรณนฺติ อิธ ปมชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. โวการนฺติ เอตฺถ ว-กาโร อาคโม, โอ-การํ ลามกภาวํ. อานิสํสนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีลาทิกํ. ยทา ชานาติ, ตทา เตน อุปาเยน สมโถ ภวตีติ อตฺโถ.
สมโถ ¶ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตมา วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา วิปสฺสนํ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ ยา วีมํสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา กามานํ อสฺสาทาทโย ยทา ชานาติ, ตทา สมโถ ภวตีติ วุตฺโต, ‘‘ตสฺมึ สมเถ ภวมาเน สติ กตมา ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยา วีมํสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ สมเถ ภวมาเน สติ อสฺสาทาทีนํ ยา อนิจฺจาทิวีมํสา อุปปริกฺขา ปฺา ภวติ, อยํ วีมํสา อุปปริกฺขา ปฺา วิเสเสน ปสฺสนโต วิปสฺสนา นาม. อถ วา ติวิธสฺส ตณฺหามูลกสฺส ปมาทสฺส สมฺปฏิเวเธน รกฺขณา ปฏิสํหรณา, อยํ สมโถติ อาจริเยน วุตฺโต, ‘‘กตมา วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยา วีมํสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ยถาวุตฺเต สมเถ สติ ยถาวุตฺตสฺส ปมาทสฺส อนิจฺจาทิวเสน ยา วีมํสา อุปปริกฺขา ปฺา อุปฺปนฺนา, อยํ วีมํสา อุปปริกฺขา ปฺา วิเสเสน ปสฺสนโต วิปสฺสนา นาม. วีมํสาว ทุพฺพลา, อุปปริกฺขา พลวตีติ วิเสโส.
สมโถ เจว วิปสฺสนา จ ทฺเว ธมฺมา อาจริเยน นิทฺธาริตา, ‘‘อิเม นิทฺธาริตา ทฺเว ธมฺมา กึ คจฺฉนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิเม ทฺเว’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมโถ สมถภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, วิปสฺสนา วิปสฺสนาภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ. ‘‘อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ภาวิยมาเนสุ กตเม โยคาวจเรน ปหียนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิเมสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมเถ ธมฺเม ภาวิยมาเน ตณฺหา ¶ โยคาวจเรน ปหียติ, วิปสฺสนาย ภาวิยมานาย อวิชฺชา โยคาวจเรน ปหียตีติ อิเม ทฺเว ปหาตพฺพา ธมฺมา ปหียนฺติ ตณฺหา เจว อวิชฺชา จ. ‘‘อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปหียมาเนสุ กตเม ธมฺมา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อุปาทานาทโยปิ นิรุชฺฌนฺตีติ สกลวฏฺฏทุกฺขนิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปหีเนสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตณฺหาย สมถภาวนาย ปหียมานาย, อวิชฺชาย วิปสฺสนาภาวนาย ปหียมานาย อิเมสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ทฺวีหิ ภาวนาหิ ปหีเนสุ กามุปาทานาทีนิ จตฺตาริ อุปาทานานิ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวเสน นิรุชฺฌนฺติ, น ภงฺคกฺขณวเสน.
เอตฺถาห – ‘‘ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ตณฺหาย ปหียมานาย อุปาทานานิ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วจนํ ยุตฺตํ โหตุ, กถํ อวิชฺชาย ปหียมานาย อุปาทานานิ นิรุชฺฌนฺตีติ? ‘‘ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ’’ติ ¶ ปาเ อวิชฺชาสหิตตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธติ อตฺถสมฺภวโต. ยถา หิ ตณฺหาสหิตาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, เอวํ อวิชฺชาสหิตาว ตณฺหา อุปาทานานํ ปจฺจโย โหตีติ อวิชฺชาสหิตตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธติ อตฺโถ สมฺภวตีติ คเหตพฺโพ. วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวเสน อุปาทานนิโรธา ตเถว ภวนิโรโธติ เอส นโย เสเสสุปิ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธติ เอตฺถาปิ ตณฺหาสหิตอวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธติอาทิโก คหิโตติ ทฏฺพฺโพ. อิตีติ เอวํ วิสภาคสภาคธมฺมานํ อาวฏฺฏนวเสน นิทฺธาริตานิ จ ปุริมกานิ ทฺเว สจฺจานิ จ, สมโถ จ วิปสฺสนา จ อิเม ทฺเว ธมฺมา มคฺโค จ มคฺคสจฺจฺจ, วฏฺฏนิโรโธ วฏฺฏนิโรธสจฺจฺจ นิพฺพานนฺติ จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาริตานิ.
‘‘วีริยปฏิปกฺขภูตสฺส ปมาทาทิธมฺมสฺส วเสน วา สภาคภูตสฺส ปมาทาทิธมฺมสฺส วเสน วา อาวฏฺเฏตฺวา จตุนฺนํ สจฺจานํ นิทฺธาริตพฺพภาโว อมฺเหหิ เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน ตถา นิทฺธาริตพฺพภาเวน ภควา ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติอาทิคาถาวจนํ อาห, เตน ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’’ติอาทิคาถาวจเนน ตถา จตุนฺนํ สจฺจานํ นิทฺธาริตพฺพภาโว ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถา’ติอาทินา โวทานปกฺขํเยว นิกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว โวทานปกฺขสฺส วิสภาคธมฺมสภาคธมฺมวเสเนว อาวฏฺเฏตฺวา จตุสจฺจนิทฺธารณํ กาตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สํกิเลสปกฺขมฺปิ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺเสว สํกิเลสสฺส วิสภาคธมฺมสภาคธมฺมวเสนปิ อาวฏฺเฏตฺวา จตุสจฺจนิทฺธารณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาปิ มูเล’’ติอาทิคาถาวจนมาห. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘เอวํ ¶ โวทานปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วิสภาคธมฺมวเสน, สภาคธมฺมวเสน จ อาวฏฺฏนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สํกิเลสปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส วิสภาคธมฺมวเสน, สภาคธมฺมวเสน จ อาวฏฺฏนํ ทสฺเสตุํ ‘ยถาปิ มูเล’ติ คาถมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๐) –
วุตฺตํ. คาถาตฺโถปิ อฏฺกถายํ วุตฺโต. ตถาปิ ยติโปตานํ อตฺถาย อฏฺกถานุสาเรเนว กถยิสฺสาม.
สมูโห ¶ รุกฺโข มูลติ ปติฏฺาติ เอเตน อวยเวน ภูมิภาเค ิเตนาติ มูลํ, กึ ตํ? ภูมิภาเค ิโต มูลสงฺขาโต รุกฺขาวยโว, ตสฺมึ มูเล. นตฺถิ อุปทฺทโว ผรสุเฉทาทิอนฺตราโย อสฺส มูลสฺสาติ อนุปทฺทโว. ทฬฺเหติ อุปทฺทวาภาเวน สภาวโต ถิเร สติ. ฉินฺทียตีติ ฉินฺโน, โก โส? ภูมิยํ ปติฏฺิตมูลสหิโต รุกฺขาวยโว, น ฉินฺทิตฺวา คหิโต รุกฺขาวยโว. รุหติ วฑฺฒตีติ รุกฺโข. โส จ ภูมิยํ ปติฏฺิตมูลสหิโต รุกฺขาวยโว รุกฺโขติ วุตฺโต ยถา ‘‘สมุทฺโท ทิฏฺโ’’ติ. ปุนเรว รูหตีติ ปุน องฺกุรุปฺปาทนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตณฺหานุสเยติ อตฺตภาวสงฺขาตสฺส รุกฺขสฺส มูเล. อนูหเตติ อรหตฺตมคฺคาเณน อนุปจฺฉินฺเน สติ อิทํ อตฺตภาวสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขเหตุ ปุนปฺปุนํ อพฺโพจฺฉินฺนํ นิพฺพตฺตติ น นิรุชฺฌติเยวาติ คาถาตฺโถ.
‘‘อิธ คาถายํ โย ตณฺหานุสโย อนูหตภาเวน ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺตนสฺส มูลนฺติ วุตฺโต, อยํ ตณฺหานุสโย กตมสฺสา ตณฺหาย อนุสโย’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘ตณฺหาย กามตณฺหาทิวเสน พหุวิธตฺตา ภวตณฺหาย อนุสโย’’ติ วิสฺสชฺเชติ ภวสฺสาทตณฺหาภาวโต. โย อนุสโย เอตสฺส ภวตณฺหาสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโย โหติ, อยํ อนุสโย อวิชฺชานุสโย โหติ. ‘‘อนุสโย พหุวิโธ, กสฺมา อวิชฺชานุสโยติ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา หิ ภวตณฺหา’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชาย ภวตณฺหาย ปจฺจยตฺตา อวิชฺชานุสโย สทฺทหิตพฺโพ. อวิชฺชาย หิ ภเวสุ อาทีนวสฺส อทสฺสนวเสน ภวสฺสาทตณฺหา ภวตีติ. อิเม ทฺเว กิเลสาติอาทิมฺหิ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา วิสภาคสภาคธมฺมาวฏฺฏนํ วิฺาตพฺพํ, สมถวิปสฺสนา ปน มคฺคสมฺปยุตฺตาว คเหตพฺพา.
‘‘สพฺพปาปสฺสา’’ติอาทิกสฺส อนุสนฺธฺยตฺโถ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๐) วุตฺโต. สพฺพปาปสฺสาติ กมฺมปถภาวปฺปตฺตาปตฺตสฺส นิรวเสสสฺส อกุสลสฺส. อกรณนฺติ สปรสนฺตาเนสุ อนุปฺปาทนํ ¶ . กุสลสฺสาติ กมฺมปถภาวปฺปตฺตาปตฺตสฺส เตภูมกกุสลสฺส เจว โลกุตฺตรกุสลสฺส จ. อุปสมฺปทาติ สนฺตาเน อุปฺปาทนวเสน สมฺปทา. สสฺส อตฺตโน จิตฺตนฺติ สจิตฺตํ, สจิตฺตสฺส ปริโยทาปนํ โวทานํ อรหตฺตผลุปฺปตฺติยาติ สจิตฺตปริโยทาปนํ ¶ . อรหตฺตมคฺคุปฺปาโท ปน ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติ ปเทน คหิโต. เอตํ อกรณาทิตฺตยทีปนํ พุทฺธานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ สาสนํ โอวาโทติ คาถาตฺโถ.
คาถายํ ยสฺส ปาปสฺส อกรณํ วุตฺตํ, ตํ ปาปํ ทุจฺจริตกมฺมปถวเสน วิภชิตุํ ‘‘สพฺพปาปํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โทสสมุฏฺานนฺติ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ, โลภสมุฏฺานมฺปิ ภวติ. โลภสมุฏฺานนฺติปิ เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ, โทสสมุฏฺานมฺปิ ภวติ. โมหสมุฏฺานมฺปิ ตเถว วุตฺตํ. โลภสมุฏฺานโทสสมุฏฺานมฺปิ สมฺภวตีติ ทฏฺพฺพํ. สพฺพปาโป ทุจฺจริตกมฺมปถปฺปเภเทน วิภตฺโต, ‘‘เอตฺตเกเนว วิภชิตพฺโพ, อุทาหุ อฺเน วิภชิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อฺเน อกุสลมูลอคติคมนเภเทนปิ วิภชิตุํ ‘‘ยา อภิชฺฌา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ ทุจฺจริตอกุสลกมฺมปถกมฺมวิภาเคน ‘สพฺพปาป’นฺติ เอตฺถ วุตฺตปาปํ วิภชิตฺวา อิทานิสฺส อกุสลมูลวเสน อคติคมนวิภาคมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘อกุสลมูล’นฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๐) อนุสนฺธฺยตฺโถ วุตฺโต. โมหวเสน สภาวํ อชานนฺตสฺส ภยสมฺภวโต ยํ ภยา จ โมหา จ อคตึ คจฺฉติ, อิทํ โมหสมุฏฺานนฺติ วุตฺตํ.
สพฺพปาโป อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตมํ สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตตฺถ โลโภ อสุภายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘เอตฺตาวตา ‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’นฺติ เอตฺถ ปาปํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส อกรณํ ทสฺเสนฺโต ‘โลโภ…เป… ปฺายา’ติ ตีหิ กุสลมูเลหิ ติณฺณํ อกุสลมูลานํ ปหานวเสน สพฺพปาปสฺส อกรณํ อนุปฺปาทนมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๐) –
วุตฺตํ. สุภาธิมุตฺตวเสน ปวตฺโต โลโภ อสุภาย อสุภภาวนาย ตถาปวตฺเตน อโลเภน ตทงฺควิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปหียติ, สตฺเตสุ กุชฺฌนทุสฺสนวเสน ปวตฺโต โทโส เมตฺตาย เมตฺตาภาวนาย ตถาปวตฺเตน อโทเสน จ ตทงฺควิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปหียติ, สตฺเตสุ เจว สงฺขาเรสุ จ มุยฺหนวเสน ปวตฺโต โมโห ปฺาย ¶ วิจารณปฺาย จ ภาวนามคฺคปฺาย จ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปหียติ.
‘‘ยทิ ¶ ตีหิ กุสลมูเลเหว อกุสลมูลานิ ปหียนฺติ, เอวํ สติ อุเปกฺขากรุณามุทิตา นิรตฺถกา ภเวยฺยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตถา โลโภ อุเปกฺขายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุเปกฺขายาติ ‘‘สพฺเพ สตฺตา กมฺมสฺสกา’’ติอาทินา ภาวิตาย อุเปกฺขาย. มุทิตา อรตึ วูปสเมตฺวา อรติยา มูลภูตํ โมหมฺปิ ปชหตีติ มนสิ กตฺวา ‘‘โมโห มุทิตาย ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อกุสลมูลานํ กุสลมูลาทีหิ ปหาตพฺพตฺตํ เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน ตถา ปหาตพฺพตฺเตน ภควา ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ วจนํ อาห, เตน ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ วจเนน ตถา ปหาตพฺพตฺตํ ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ.
๓๑. ‘‘เอตฺตาวตา จ สพฺพปาโป วิภตฺโต, ตสฺส อกรณฺจ วิภตฺตํ สิยา, เอวํ สติ อฏฺมิจฺฉตฺตานํ อกรณํ อนิวาริตํ สิยา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สพฺพปาปํ นาม อฏฺ มิจฺฉตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. มิจฺฉาสตีติ อนิจฺจาทีสุ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ อนุสฺสรณจินฺตนาทิวเสน ปวตฺตอกุสลปฺปวตฺติ.
สพฺพปาปสฺส อกรณํ พหุธา อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ วิฺาตํ, ‘‘กถํ กุสลสฺส สมฺปทา วิภชิตพฺพา วิฺาตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา กุสลสฺส สมฺปทํ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อฏฺสุ มิจฺฉตฺเตสุ ปหีเนสู’’ติอาทิมาห. อฏฺ สมฺมตฺตานีติ สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธีติ อฏฺสมฺมตฺตานิ วิสภาคปริวตฺตนธมฺมวเสน สมฺปชฺชนฺติ. อตีตสฺสาติ อตีเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธน เทสิตสฺส. วิปสฺสิโน หิ ภควโต อยํ ปาติโมกฺขุทฺเทสคาถา. จิตฺเต ปริโยทาปิเตติ จิตฺตปฏิพทฺธา ปฺจกฺขนฺธาปิ ปริโยทาปิตา ภวนฺติ. ‘‘จิตฺตปริโยทาปิเตน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปริโยทาปิตภาโว กถํ อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอวฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน ภควา ยํ ‘‘เจโตวิสุทฺธตฺถํ ภิกฺขเว ตถาคเต พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ วจนํ อาห, เตน ‘‘เจโต…เป… วุสฺสตี’’ติ วจเนน ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปริโยทาปนา กติวิธา ภวนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทุวิธา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมถวิปสฺสนาย ¶ นีวรณปฺปหานฺจ อริยมคฺคภาวนาย อนุสยสมุคฺฆาโต จาติ ปริโยทาปนสฺส ทุวิธตฺตา ปฺจกฺขนฺธา ปริโยทาปิตา ภวนฺตีติ อตฺโถ. ปหีนนีวรณานุสยา หิ ปุคฺคลา ปสาทนียวณฺณา โหนฺติ.
‘‘ปริโยทาปนสฺส กิตฺติกา ภูมิโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเว ปริโยทาปนภูมิโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’นฺติอาทิคาถาย เทสิเตสุ ธมฺเมสุ กตมํ ทุกฺขสจฺจํ, กตมํ สมุทยสจฺจํ ¶ , กตมํ มคฺคสจฺจํ, กตมํ นิโรธสจฺจ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยํ ปฏิเวเธนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ คาถาย เทสิเตสุ ธมฺเมสุ ยํ ขนฺธปฺจกํ ปฏิเวเธน ปริฺาภิสมเยน ปริโยทาเปติ, อิทํ ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจํ ภเว. ยโต ตณฺหาสํกิเลสโต ขนฺธปฺจกํ ปริโยทาเปติ, อยํ ตณฺหาสํกิเลโส สมุทโย สมุทยสจฺจํ. เยน อริยมคฺคงฺเคน ปริโยทาเปติ, อยํ อริยมคฺโค มคฺคสจฺจํ. ยํ อสงฺขตธาตุํ อธิคเตน ปุคฺคเลน ปริโยทาปิตํ, อยํ อสงฺขตธาตุธมฺโม นิโรโธ นิโรธสจฺจํ ภเว. อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ คาถาย เทสิตธมฺมานํ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน นิทฺธาริตานิ. ‘‘เตนาหา’’ติอาทิกสฺส อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทิคาถาย เทสิตานํ ธมฺมานํ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน จตฺตาริ สจฺจานิ อาจริเยน นิทฺธาริตานิ, อมฺเหหิ จ วิฺาตานิ.
‘‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเล;
เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี’ติ –
คาถาย เทสิตานํ ธมฺมานํ วิสภาคสภาคธมฺมานํ อาวฏฺฏนวเสน กถํ จตฺตาริ สจฺจานิ นิทฺธาริตานี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ธมฺโม หเว’’ติอาทิมาห. ตาย คาถาย เทสิเต ธมฺเม วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺโม นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ธมฺโม นามาติ ปฺุธมฺโม นาม. อินฺทฺริยสํวโรติ มนจฺฉฏฺินฺทฺริยสํวรสีลาทิโก สพฺโพ สํวโร. เตน วุตฺตํ –‘‘อินฺทฺริยสํวรสีเสน ¶ เจตฺถ สพฺพมฺปิ สีลํ คหิตนฺติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๑). จตฺตาโร อปายา ทุกฺกฏกมฺมการีนํ คติภูตตฺตา ทุคฺคติ. สพฺพา อุปปตฺติโย ปน ทุกฺขทุกฺขสงฺขารทุกฺขวิปริณามทุกฺขสมงฺคีนํ คติภูตตฺตา ทุคฺคติ นาม.
‘‘ตสฺมึ ทุวิเธ ธมฺเม อินฺทฺริยสํวรธมฺโม กตฺถ ิโต, กถํ สุจิณฺโณ, กุโต รกฺขตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยา สํวรสีเล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ทุวิเธ ธมฺเม. สํวรสีเล ิตา ยา อขณฺฑการิตา โหติ, อยํ อขณฺฑวเสน กาตพฺโพ สํวรสีเล ิโต สุฏฺุ อาจิณฺณปริจิณฺโณ ปฺุธมฺโม จตูหิ อปาเยหิ อตฺตโน อาธารํ อตฺตานํ รกฺขนฺตํ ปุคฺคลํ เอกนฺติกภาเวน รกฺขติ, อเนกนฺติกภาเวน ปน รกฺขิตมตฺโต ปฺุธมฺโมปิ รกฺขตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อปาเยหีติ จ ปธานวเสน วุตฺตํ, โรคาทิอนฺตรายโตปิ รกฺขติ. โรคาทิอนฺตราโย วา อยโต อปคตตฺตา อปายนฺโตคโธติ ทฏฺพฺโพ.
‘‘ตถา ¶ รกฺขตีติ เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอวํ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน ลกฺขณปการทสฺสนํ ภควา ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, สีลวโต คติโย เทวา จ มนุสฺสา จา’’ติ ยํ วจนํ อาห, เตน ‘‘ทฺเวมา…เป… มนุสฺสา จา’’ติ วจเนน ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘สํวรสีเล ิตสฺส อขณฺฑกาตพฺพสฺส สุจิณฺณสฺส ปฺุธมฺมสฺส อปาเยหิ รกฺขเณ เอกนฺติกภาโว เกน สุตฺเตน ทีเปตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอวฺจ นาฬนฺทาย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวฺจาติ อิมินา อิทานิ วุจฺจมาเนน ปกาเรนปิ วุตฺตปฺปกาโร อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นาฬนฺทายนฺติ นาฬนฺทนามเก นิคเม นิสินฺโน อสิพนฺธกนามสฺส ปุตฺโต คามณิ คามเชฏฺโก ภควนฺตํ เอตํ วุจฺจมานํ ‘‘พฺราหฺมณา, ภนฺเต’’ติอาทิวจนํ อโวจ.
พฺราหฺมณาติ พาหิรกา พฺราหฺมณา. ภนฺเตติ ภควนฺตํ คามณิ อาลปติ. ปจฺฉาภูมกาติ ปจฺฉิมทิสาย นิสินฺนกา. อุยฺยาเปนฺตีติ มนุสฺสโลกโต อุทฺธํ เทวโลกํ ยาเปนฺติ ปาเปนฺติ.
อิธสฺสาติ อิธโลเก อสฺส ภเวยฺย. ปุริโส ปาณาติปาตี…เป… มิจฺฉาทิฏฺิโก อสฺส ภเวยฺยาติ โยชนา. เสสํ ปาฬิโต เจว วุตฺตานุสาเรน จ เยฺยํ.
๓๒. ‘‘วิสภาคธมฺมสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน ¶ จตุนฺนํ สจฺจานํ นิทฺธาริตภาโว เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห มหากจฺจาโน เอกมฺหิ ปทฏฺาเน’’ติ วุตฺตํ.
‘‘เอตฺตาวตา จ อาวฏฺโฏ หาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต อาวฏฺโฏ หาโร’’ติ วุตฺตํ. ยสฺสํ ยสฺสํ ปาฬิยํ โย โย อาวฏฺโฏ หาโร ยถาลาภวเสน โยชิโต, ตสฺสํ ตสฺสํ ปาฬิยํ โส โส อาวฏฺโฏ หาโร ตถา นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺโต โยชิโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อิติ อาวฏฺฏหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรเนว คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๘. วิภตฺติหารวิภงฺควิภาวนา
๓๓. เยน ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน อาวฏฺฏหารวิภงฺเคน อาวฏฺเฏตพฺพา ปทฏฺานาทโย วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต อาวฏฺฏหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘ตตฺถ กตโม วิภตฺติหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม วิภตฺติหาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส วิภตฺติหาโร วิภตฺติหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘ธมฺมฺจ ปทฏฺานํ ภูมิฺจา’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘ทฺเว สุตฺตานี’’ติอาทิโก วิตฺถารภูโต สํวณฺณนาวิเสโส วิภตฺติหาโร วิภตฺติหารวิภงฺโค นามาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘เยสุ สุตฺเตสุ วุตฺตา ธมฺมปทฏฺานภูมิโย อิมินา วิภตฺติหาเรน วิภตฺตา, ตานิ สุตฺตานิ กิตฺตกานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตานิ สุตฺตานิ ปมํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทฺเว สุตฺตานิ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ วาสนาภาคิยนฺติ ปฺุภาวนา วาสนา นาม, วาสนาย ภาโค โกฏฺาโส วาสนาภาโค, วาสนาภาเค วาจกภาเวน นิยุตฺตํ ¶ สุตฺตนฺติ วาสนาภาคิยํ, กตมํ ตํ? ยสฺมึ สุตฺเต ตีณิ ปฺุกิริยวตฺถูนิ ภควตา เทสิตานิ, ตํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยํ. นิพฺเพธภาคิยนฺติ โลภกฺขนฺธาทีนํ นิพฺพิชฺฌนํ ปทาลนํ นิพฺเพโธ, นิพฺเพธสฺส ภาโค โกฏฺาโส นิพฺเพธภาโค, นิพฺเพธภาเค วาจกภาเวน นิยุตฺตํ สุตฺตนฺติ นิพฺเพธภาคิยํ, กตมํ ตํ? ยสฺมึ สุตฺเต เสกฺขาเสกฺขธมฺมา ภควตา เทสิตา, ตํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ.
‘‘เตสํ สุตฺตานํ ปฏิคฺคาหกา ปุคฺคลา ยาหิ ปฏิปทาหิ สมฺปชฺชนฺติ, ตา ปฏิปทา กิตฺติกา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเว ปฏิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทานสีลภาวนามยปฺุภาเค ภวา ปฏิปทาติ ปฺุภาคิยา. ผลภาเค ภวา ปฏิปทาติ ผลภาคิยา. ‘‘เยสุ สีเลสุ ิตา ปฏิคฺคาหกา ปฏิปชฺชนฺติ, ตานิ สีลานิ กิตฺตกานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเว สีลานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สํวรติ เอเตน สํวเรนาติ สํวโร, โส สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร, สติสํวโร, าณสํวโร, ขนฺติสํวโร, วีริยสํวโรติ ปฺจวิโธ. สพฺโพปิ ปาปสํวรณโต สํวโร, โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติฏฺานตฺตา สีลํ นาม. ปชหติ เอเตน ปหาตพฺเพติ ปหานํ, ปชหนํ วา ปหานํ, ตฺจ ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ, วิกฺขมฺภนปฺปหานํ, สมุจฺเฉทปฺปหานํ, ปฏิปสฺสทฺธิปฺปหานํ, นิสฺสรณปฺปหานนฺติ ปฺจวิธํ. ตตฺถ นิสฺสรณปฺปหานํ วชฺเชตฺวา จตุพฺพิธํ ปหานํ วุตฺตนเยน สีลํ นาม.
‘‘เตสุ ¶ สุตฺตาทีสุ ภควา กตมํ สุตฺตํ กตมาย ปฏิปทาย เทสยติ, กตรสฺมึ สีเล ิโต ปุคฺคโล กตเมน สีเลน พฺรหฺมจารี ภวตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ วาสนาภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ ตตฺถ ตาสุ ปฺุภาคิยาทิปฏิปทาสุ ปฺุภาคิยาย ปฏิปทาย ภควา ยสฺส ปุคฺคลสฺส เทสยติ, โส วาสนาภาคิยสุตฺตปฏิคฺคาหโก ปุคฺคโล ตตฺถ สํวรสีลาทีสุ สํวรสีเล ิโต หุตฺวา เตน สํวรสีลสงฺขาเตน พฺรหฺมจริเยน เสฏฺจริเยน พฺรหฺมจารี เสฏฺาจารปูรโก ภวติ. ตตฺถ เตสุ วาสนาภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ ตตฺถ ตาสุ ปฺุภาคิยาทิปฏิปทาสุ ผลภาคิยาย ปฏิปทาย ยสฺส ปุคฺคลสฺส ภควา เทสยติ, โส นิพฺเพธภาคิยสุตฺตปฏิคฺคาหโก ปุคฺคโล ตตฺถ สํวรสีลาทีสุ ปหานสีเล สมุจฺเฉทปฺปสฺสทฺธิปฺปหานวเสน ¶ ิโต หุตฺวา เตน ปหานสีลสงฺขาเตน วิเสสภูเตน มคฺคสงฺขาเตน พฺรหฺมจริเยน พฺรหฺมจารี ภวตีติ โยชนา กาตพฺพา.
‘‘วาสนาภาคิยสุตฺตาทีสุ กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ วาสนาภาคิยสุตฺตาทีสุ. ทานกถาติ สปฺปุริสทานทานผลอสปฺปุริสทานทานผลกถา. สีลกถาติ ปฺจสีลาทิสีลผลกถา. สคฺคกถาติ สคฺคสมฺปตฺติสุขกถา เจว สคฺเค นิพฺพตฺตาปกปฺุกถา จ. อาทีนโวติ อาทีนวทสฺสโก สุตฺตนฺโต. อานิสํโสติ อานิสํสทสฺสโก สุตฺตนฺโต. วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นามาติ โยชนา.
‘‘ตตฺถ กตม’’นฺติอาทีสุ อนุสนฺธฺยตฺโถ วุตฺตนโยว. ยา เทสนา จตุสจฺจปฺปกาสนา, สา เทสนา นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นามาติ โยชนา. เอวฺจ สติ วาสนาภาคิยสุตฺตสฺสปิ นิพฺเพธภาคิยสุตฺตภาโว อาปชฺเชยฺย จตุสจฺจปฺปกาสนโตติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘วาสนาภาคิเย สุตฺเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. วาสนาภาคิเย สุตฺเต ปชานนา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อริยมคฺคปทฏฺานภูตา ปฺา นตฺถิ, มคฺโค อริยมคฺโค นตฺถิ, ผลํ อริยผลํ นตฺถิ. นิพฺเพธภาคิเย สุตฺเต ปน ปชานนาทโย อตฺถิ, วาสนาภาคิเย สุตฺเต นตฺถิ. ‘‘ปชานนา’’ติอาทินา จตุสจฺจปฺปกาสนา ทานกถาทิกา นิพฺเพธภาคิเย สุตฺเต อนฺโตคธา, อิตรํเยว วาสนาภาคิยสุตฺตนฺติ นามาติ ทสฺเสติ. เยสุ สุตฺเตสุ วุตฺตา ธมฺมปทฏฺานภูมิโย วิภตฺตา, ตานิ สุตฺตานิ ทฺเวเยว น โหนฺติ, กสฺมา ‘‘ทฺเวเยว สุตฺตานิ นิทฺธาริตานี’’ติ เจ วเทยฺยุํ? อสงฺกรโต สุตฺเต วุตฺตานํ ธมฺมปทฏฺานภูมีนํ วิภชิตพฺพานํ สุวิฺเยฺยตฺตา. ‘‘ยทิ เอวํ สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺตานิปิ นิทฺธาริตานิ อสงฺกรตฺตา’’ติ เจ วเทยฺยุํ? โน นิทฺธาริตานิ, วาสนาภาคิยสุตฺเต นิทฺธาริเต สํกิเลสภาคิยสุตฺตมฺปิ นิทฺธาริตํ, สํกิเลสธมฺมโต นิสฺสฏฺธมฺมานํเยว วาสนาภาคิยธมฺมตฺตา นิพฺเพธภาคิยสุตฺเต จ นิทฺธาริเต อเสกฺขภาคิยสุตฺตมฺปิ นิทฺธาริตํ อนฺตฺตา.
‘‘เยสุ ¶ สุตฺเตสุ วุตฺตา ธมฺมปทฏฺานภูมิโย วิภตฺติหาเรน วิภตฺตา, ตานิ สุตฺตานิ กตเมน ผเลน โยชยิตพฺพานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานีติ ¶ ยถานิทฺธาริตานิ วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยสุตฺตานิ เจว ตํนิทฺธารเณน นิทฺธาริตานิ สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺตานิ จาติ จตฺตาริ สุตฺตานิ อิเมสํเยว จตุนฺนํ สุตฺตานํ เทสนาย นเยน นีเตน ผเลน สพฺพโต สพฺพภาเคน สํวรสีลปฺปหานสีเลน พฺรหฺมจริเยน โยชยิตพฺพานิ. โยเชนฺเตน จ สพฺพโต สพฺพภาเคน จ ปทาทิวิจเยน หาเรน สํวรสีลาทิกํ ผลํ วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน ยุตฺตํ ผลํ คเวสิตฺวา ‘‘อิทํ ผลํ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส ผลํ, อิทํ ผลํ อิมสฺส สุตฺตสฺส ผล’’นฺติ สุตฺตานิ วิสุํ วิสุํ ผเลน โยชยิตพฺพานีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘กิตฺตเกน ผเลน พฺรหฺมจริเยน โยเชตพฺพานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยาวติกา าณสฺส ภูมี’’ติ วุตฺตํ. ภควตา เทสิเตน วาสนาภาคิยสุตฺเตน สิทฺธา ยาวติกา ปฺุภาคิยา ปฏิปทาทโย วิภชนาณสฺส ภูมิ อารมฺมณา ภวิตุมรหนฺติ, ตาวติกาหิ ภูมีหิ วาสนาภาคิยสุตฺตํ โยชยิตพฺพํ. นิพฺเพธภาคิยสุตฺเตน สิทฺธา ยาวติกา ผลภาคิยา ปฏิปทาทโย วิภชนาณสฺส ภูมิ อารมฺมณา ภวิตุมรหนฺติ, ตาวติกาหิ ภูมีหิ นิพฺเพธภาคิยสุตฺตํ โยเชตพฺพํ. อิตรทฺวยมฺปิ สุตฺตํ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺพํ. เอเตน าณสฺส ภูมีนํ สุตฺตตฺถานํ พหุวิธตฺตํ ทสฺเสติ.
๓๔. วาสนาภาคิยสุตฺตาทีสุ วุตฺตา ธมฺมา วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยภาเวหิ อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กถํ สํกิเลสภาคิยอเสกฺขาภาคิยภาเวหิ อสาธารณาสาธารณภาเวหิ วิภชิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตเม ธมฺมา สาธารณา’’ติอาทิ อารทฺธํ. อฏฺกถาย ปน –
‘‘เอวํ วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยภาเวหิ ธมฺเม เอกเทเสน วิภชิตฺวา อิทานิ เตสํ กิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยภาเวหิ สาธารณาสาธารณภาเวหิ วิภชิตุํ ‘ตตฺถ กตเม ธมฺมา สาธารณา’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๔) –
วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เย ธมฺมา สุตฺเต วุตฺตา วิภตฺติหาเรน วิภชิตพฺพา, เตสุ ธมฺเมสุ กตเม ธมฺมา สาธารณาติ ปุจฺฉติ, ทฺเว ธมฺมา สาธารณาติ ¶ วิสฺสชฺเชติ. เต ทฺเว ธมฺเม สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘นามสาธารณา, วตฺถุสาธารณา จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ นามสาธารณาติ นาเมน นามปฺตฺติยา ¶ สาธารณา สมานา, ‘‘กุสลา’’ติ นาเมน เอกวีสติ จิตฺตุปฺปาทา สมานา, ‘‘อกุสลา’’ตฺยาทินาเมน ทฺวาทส จิตฺตุปฺปาทา สมานา, กุสลาทินามปฺตฺติวจเนน วจนียา อตฺถา กุสลาทินามสาธารณาติ วุตฺตา. เตน ฏีกายํ –
‘‘นามํ นามปฺตฺติ, ตํมุเขเนว สทฺทโต ตทตฺถาวคโม. สทฺเทน จ สามฺรูเปเนว ตถารูปสฺส อตฺถสฺส คหณํ, น วิเสสรูเปน. ตสฺมา สทฺทวจนียา อตฺถา สาธารณรูปนามายตฺตคหณียตาย นามสาธารณา วุตฺตา’’ติ –
วุตฺตํ. วตฺถุสาธารณาติ ปติฏฺานภูเตน วตฺถุนา สาธารณา. ยสฺมึ ปติฏฺานภูเต สนฺตาเน วา จิตฺตุปฺปาทาทิมฺหิ วา เย ธมฺมา ปวตฺตนฺติ, เต ธมฺมา เตน สนฺตาเนน วา วตฺถุนา เตน จิตฺตุปฺปาทาทินา วา สาธารณา สมานาติ อตฺโถ. เอกสนฺตาเน ปติตตฺตา ผุสนาทิสภาวโต ภินฺนาปิ วตฺถุสาธารณา สมานวตฺถุกาเยว ภวนฺตีติ วิภตฺติหาเรน วิภชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘กึ นามสาธารณวตฺถุสาธารณาเยว วิภชิตพฺพา, อฺํ วิภชิตพฺพํ นตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นามสาธารณวตฺถุสาธารเณหิ อฺํ ยํ วา ปน กิจฺจสาธารณปจฺจยสาธารณปฏิปกฺขาทิสาธารณมฺปิ ธมฺมชาตํ เอวํชาติยํ สาธารณชาติยํ, ตมฺปิ สพฺพํ วิจยหาเรน วิจินิตฺวา ยุตฺติหาเรน คเวสิตฺวา ยุตฺตํ สาธารณํ วิภตฺติหาเรน วิภชิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘เตสุ นามสาธารณาทีสุ กตเม นามสาธารณา, กตเม วตฺถุสาธารณา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตานํ สตฺตาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. มาตุฆาตกาทีนํ ฉนฺนํ มิจฺฉตฺตนิยตกมฺมกรานํ สตฺตานฺจ ทุคฺคติอเหตุกสุคติอเหตุกทุเหตุกติเหตุกานํ จตุนฺนํ ปุถุชฺชนานํ อนิยตกมฺมกรานํ สตฺตานฺจ สนฺตาเน ปวตฺตา ทสฺสนปหาตพฺพา กิเลสา ทสฺสนปหาตพฺพนามสาธารณา สมานา ภวนฺติ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามสนวเสน ภินฺนสภาวานมฺปิ ทสฺสนปหาตพฺพนามนาติวตฺตนโต. วุตฺตปฺปการานํ นิยตานิยตสตฺตานํ ¶ ทสฺสนปหาตพฺพานํ กิเลสานํ ปติฏฺานวตฺถุภาวโต วตฺถุสาธารณา จ สมานวตฺถุกาติ อตฺโถ. ปุถุชฺชนสฺส ทุคฺคติอเหตุกาทิจตุพฺพิธสตฺตสฺส, โสตาปนฺนสฺส จ สนฺตาเน ปวตฺตา กามราคพฺยาปาทา กิเลสา กามราคพฺยาปาทนามสาธารณา สมานา ภวนฺติ สกทาคามิมคฺคปฺปหาตพฺพอนาคามิมคฺคปฺปหาตพฺพวเสน ภินฺนสภาวานมฺปิ กามราคพฺยาปาทนามนาติวตฺตนโต. วุตฺตปฺปการสฺส ปุถุชฺชนสฺส, โสตาปนฺนสฺส จ กามราคพฺยาปาทานํ ปติฏฺานวตฺถุภาวโต วตฺถุสาธารณา สมานวตฺถุกาติ อตฺโถ จ คเหตพฺโพ. ปุถุชฺชนสฺส, อนาคามิสฺส จ สนฺตาเน ปวตฺตา อุทฺธํภาคิยา สํโยชนา อุทฺธมฺภาคิยนามสาธารณา สมานา ภวนฺติ รูปราคาทิวเสน ภินฺนสภาวานมฺปิ ¶ อุทฺธํภาคิยนามนาติวตฺตนโต. ปุถุชฺชนสฺส, อนาคามิสฺส จ อุทฺธํภาคิยานํ ปติฏฺานวตฺถุภาวโต วตฺถุสาธารณา สมานวตฺถุกาติ อตฺโถ จ คเหตพฺโพ. เตน วุตฺตํ ฏีกายํ – ‘‘ทสฺสนปหาตพฺพานฺหิ ยถา มิจฺฉตฺตนิยตสตฺตา ปวตฺติฏฺานํ, เอวํ อนิยตาปี’’ติ วุตฺตํ. สงฺเขปโต ปน สํกิเลสปกฺเข ปหาเนกฏฺา กิเลสา นามสาธารณา โหนฺติ, สหเชกฏฺา กิเลสา วตฺถุสาธารณาติ ทฏฺพฺพา.
สํกิเลสปกฺเข สาธารณา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กถํ โวทานปกฺเข สาธารณา วิภตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ กิฺจิ อริยสาวโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ กิฺจีติ สามฺวเสน วุตฺตา ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทิกา โลกิยา สมาปตฺติเยว คหิตา. อริยสาวโกติ อริยสฺส ภควโต สาวโก อริยสาวโกติ วตฺตพฺโพ, ฌานลาภี จ ผลฏฺโ จ ปุคฺคโล, น มคฺคฏฺโ. มคฺคฏฺโ หิ โลกิยํ ยํ กิฺจิ สมาปตฺตึ น สมาปชฺชติ. สพฺพา สา โลกิยสมาปตฺติ รูปาวจรา อรูปาวจรา ทิพฺพวิหาโร พฺรหฺมวิหาโร ปมชฺฌานสมาปตฺตีติ เอวมาทีหิ ปริยาเยหิ สาธารณา ตํสมงฺคีหิ วีตราคาวีตราเคหิ สาธารณา โลกิยสมาปตฺตินามนาติวตฺตนโต จ วีตราคาวีตราเคหิ สมาปชฺชิตพฺพโต จ. ‘‘อริยสาวโก จ โลกิยํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺโต โอธิโส โอธิโส สมาปชฺชติ, เอวํ สติ กถํ วีตราเคหิ สาธารณาติ สทฺทหิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สาธารณา หิ ธมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘กถํ เต โอธิโส คหิตา, อถ ¶ โอธิโส คเหตพฺพา, กถํ สาธารณาติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา ตํ วิโสเธนฺโต อาห – ‘สาธารณา หิ ธมฺมา เอวํ อฺมฺ’นฺติอาที’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ เอวํ วีตราคาวีตราเคหิ โอธิโส โอธิโส สมาปชฺชิตพฺพา ธมฺมา ปรํ ปรํ ปจฺฉา ปจฺฉา ปวตฺติยมานํ ธมฺมชาตํ สกํ สกํ ปุพฺเพ ปุพฺเพ ชาตํ ‘‘โลกิยสมาปตฺตี’’ติ นามํ นิยตวิสยํ อฺมฺํ หุตฺวา หิ ยสฺมา นาติวตฺตนฺติ, ตสฺมา สาธารณาติ สทฺทหิตพฺพา คเหตพฺพาติ อตฺโถ. ‘‘ปรํ ปรํ สมาปชฺชนฺโต กถํ นาติวตฺตตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา นาติวตฺตนํ ปากฏํ กาตุํ ‘‘โยปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โย อริยสาวโก วา อวีตราโค วา. อิเมหิ โลกิยสมาปตฺติธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, โส อริยสาวโก วา อวีตราโค วา ปรํ ปรํ สมาปชฺชนฺโตปิ ตํ ธมฺมํ โลกิยํ สมาปตฺติธมฺมํ นาติวตฺตติ, อฺํ อุปคนฺตฺวา นาติกฺกมตีติ อตฺโถ. เยหิ โลกิยสมาปตฺติธมฺเมหิ สมนฺนาคโต, อิเม โลกิยสมาปตฺติ ธมฺมา สาธารณาวาติ ทฏฺพฺพา.
‘‘วาสนาภาคิยาทิสุตฺเตสุ วุตฺตา เย ธมฺมา อิมินา วิภตฺติหาเรน วิภตฺตา, เยสุ ธมฺเมสุ กตเม ธมฺมา อสาธารณา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตเม ธมฺมา อสาธารณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ¶ เตสุ วิภชิตพฺเพสุ ธมฺเมสุ กตเม ธมฺมา อสาธารณาติ ปุจฺฉติ, ปุจฺฉิตฺวา ยาว เทสนํ อุปาทาย อสาธารณา ธมฺมา คเวสิตพฺพา, ‘‘เสกฺขาเสกฺขา’’ติ วา คเวสิตพฺพา, ‘‘ภพฺพาภพฺพา’’ติ วา คเวสิตพฺพา. อถ วา ยาว ‘‘เสกฺขาเสกฺขา ภพฺพาภพฺพา’’ติ เทสนา วุตฺตา, ตาว เทสนํ อุปาทาย อสาธารณา คเวสิตพฺพา. กถํ คเวสิตพฺพา? อริเยสุ เสกฺขาเสกฺขธมฺมวเสน ‘‘เสกฺขา’’ติ นามํ อเสกฺเขน อสาธารณํ, ‘‘อเสกฺขา’’ติ นามํ เสกฺเขน อสาธารณนฺติ วา, อนริเยสุ ‘‘ภพฺพา’’ติ นามํ อภพฺเพน อสาธารณํ, ‘‘อภพฺพา’’ติ นามํ ภพฺเพน อสาธารณนฺติ วา คเวสิตพฺพา. กามราคพฺยาปาทา สํโยชนา อปฺปหีนตฺตา อนุสยภาเวน อุปฺปชฺชนารหตฺตา อฏฺมกสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺส จ โสตาปนฺนสฺส ผลฏฺสฺส จ สาธารณา ภวนฺติ, ธมฺมตา ธมฺมสภาโว อสาธารโณ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อฏฺมกสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺตา โสตาปนฺนสฺส อสาธารณา, โสตาปนฺนสฺส ¶ โสตาปนฺนผลฏฺตา จ อฏฺมกสฺส โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺส อสาธารณา. อฏฺมกสฺส วา ปหียมานกิเลสตา โสตาปนฺนสฺส อสาธารณา, โสตาปนฺนสฺส ปหีนกิเลสตา จ อฏฺมกสฺส อสาธารณา’’ติ.
อุทฺธมฺภาคิยา สํโยชนา อปฺปหีนตฺตา อนุสยภาเวน อุปฺปชฺชนารหตฺตา อฏฺมกสฺส มคฺคฏฺภาเวน อฏฺมกสทิสสฺส อนาคามิมคฺคฏฺสฺส จ อนาคามิสฺส ผลฏฺสฺส จ สาธารณา, ธมฺมตา ธมฺมสภาโว อสาธารณา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อฏฺมกสฺส อนาคามิมคฺคฏฺตา อนาคามิสฺส ผลฏฺสฺส อสาธารณา, อนาคามิสฺส อนาคามิผลฏฺตา จ อฏฺมกสฺส อสาธารณา. อฏฺมกสฺส วา ปหียมานกิเลสตา อนาคามิสฺส อสาธารณา, อนาคามิสฺส ผลฏฺสฺส ปหีนกิเลสตา จ อฏฺมกสฺส อสาธารณา’’ติ. ‘‘มคฺคฏฺตา ผลฏฺตาย อสาธารณา, ผลฏฺตา จ มคฺคฏฺตาย อสาธารณา’’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สพฺเพสํ สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปุคฺคลานํ นามํ‘‘เสกฺขา’’ติ นามํ สาธารณํ. ธมฺมตา อสาธารณาติ จตุนฺนํ มคฺคฏฺานํ ตํตํมคฺคฏฺตา อฺมฺํ มคฺคฏฺานํ อสาธารณา. เหฏฺิมผลตฺตยฏฺานฺจ อสาธารณา, เหฏฺิมผลตฺตยฏฺานํ ตํตํผลฏฺตา จ อฺมฺํ ผลฏฺานํ อสาธารณา, จตุนฺนํ มคฺคฏฺานฺจ อสาธารณาติ อตฺโถ. ‘‘เสกฺขานํ ตํตํมคฺคฏฺตา ตํตํผลฏฺตาย อสาธารณา, ตํตํผลฏฺตา จ ตํตํมคฺคฏฺตาย อสาธารณา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. สพฺเพสํ ปฏิปนฺนกานนฺติ ผลตฺถาย ปฏิปชฺชนฺตีติ ปฏิปนฺนกา, เตสํ มคฺคสมงฺคีนํ จตุนฺนํ ปุคฺคลานํ นามํ ‘‘ปฏิปนฺนกา’’ติ นามํ สาธารณํ, ธมฺมตา ตํตํมคฺคฏฺตา อสาธารณา. สพฺเพสํ เสกฺขานํ สตฺตนฺนํ ปุคฺคลานํ เสกฺขานํ สีลํ สาธารณํ, ธมฺมตา ตํตํมคฺคฏฺผลฏฺตา อสาธารณาติ. วาสนาภาคิยสํกิเลสภาคิยสุตฺเตสุ วุตฺตา ทสฺสเนนปหาตพฺพาทโย เจว นิพฺเพธภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺเตสุ วุตฺตา เสกฺขาทโย จ ธมฺมา สาธารณาสาธารณเภเทน วิภตฺติหาเรน วิภชิตพฺพาติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
‘‘อฏฺมกสฺสา’’ติอาทินา ¶ อริเยสุ ปุคฺคเลสุ อสาธารณา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กถํ อนริเยสุ อสาธารณา วิภตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อริเยสุ วุตฺตนยานุสาเรน อนริเยสุปิ วิภชิตฺวา คเวสิตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ วิเสสานุปสฺสินา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ . อฏฺกถายํ ปน – ‘‘เอวํ ‘อฏฺมกสฺสา’ติอาทินา อริยปุคฺคเลสุ อสาธารณธมฺมํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสุ นยทสฺสนตฺถํ ‘เอวํ วิเสสานุปสฺสินา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ อริเยสุ วุตฺตนยานุสาเรน ภพฺพาภพฺเพสุ อนริเยสุ วิเสสานุปสฺสินา อสาธารณโต วิเสสํ อสาธารณํ อนุปสฺสินา คเวสเกน ปณฺฑิเตน ภพฺพาภพฺเพสุปิ หีนุกฺกฏฺมชฺฌิมํ อุปาทาย คเวสิตพฺพํ. กถํ? มาตุฆาตาทิวเสน ปวตฺตานํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตทิฏฺิสมฺปยุตฺตสตฺตมชวนจิตฺตุปฺปาทานํ มิจฺฉตฺตนิยตานํ ตํสมงฺคีนํ วา ตถาปวตฺตา ปมชวนจิตฺตุปาทาทโย อนิยตา ธมฺมา ปฏิฆสมฺปยุตฺตาทิภาเวน สาธารณา, มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา เอกจิตฺตุปฺปาทตฺตา อสาธารณา. ยถา หิ จิตฺตํ ‘‘จิตฺตสํสฏฺ’’นฺติ น วตฺตพฺพํ, เอวํ มิจฺฉตฺตนิยตาปิ ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตสาธารณา’’ติ น วตฺตพฺพา. มิจฺฉตฺตนิยเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกานํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตสตฺตมชวนจิตฺตุปฺปาทสมงฺคีนํ อนิยตา ทิฏฺิสมฺปยุตฺตปมชวนจิตฺตุปฺปาทาทโย ธมฺมา ทิฏฺิสมฺปยุตฺตาทิภาเวน สาธารณา, นิยตมิจฺฉาทิฏฺิ เอกจิตฺตุปฺปาทสมงฺคีภาวโต อสาธารณา. เตนาห อฏฺกถาจริโย –
‘‘มิจฺฉตฺตนิยตานํ อนิยตา ธมฺมา สาธารณ, มิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา อสาธารณา. มิจฺฉตฺตนิยเตสุปิ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกานํ อนิยตา ธมฺมา สาธารณา, นิยตมิจฺฉาทิฏฺิ อสาธารณาติ อิมินา นเยน วิเสสานุปสฺสินา เวทิตพฺพา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๔).
ตตฺถ ‘‘อิมินา นเยนา’’ติ อิมินา มิจฺฉตฺตนิยตานํ อุปฺปชฺชิตุํ ภพฺพา อนิยตา ธมฺมา สาธารณา, อุปฺปชฺชิตุํ อภพฺพา อนิยตา ธมฺมา อสาธารณาติ คหิตา. เตน วุตฺตํ ‘‘ภพฺพาภพฺพา’’ติ. ตถา หีนสฺส หีโน หีนภาเวน สาธารโณ, มชฺฌิมุกฺกฏฺา อสาธารณา. มชฺฌิมสฺส มชฺฌิโม สาธารโณ, หีนุกฺกฏฺา อสาธารณา. อุกฺกฏฺสฺส อุกฺกฏฺโ อุกฺกฏฺภาเวน สาธารโณ, หีนมชฺฌิมา อสาธารณาติปิ คเวสิตพฺพา. เตนาห – ‘‘หีนุกฺกฏฺมชฺฌิมํ อุปาทาย คเวสิตพฺพ’’นฺติ.
‘‘ตตฺถ กตเม ธมฺมา สาธารณา’’ติอาทินา นานาวิเธน วิภตฺติหารนเยน ธมฺมา วิภชิตฺวา ทสฺสิตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กถํ ภูมิปทฏฺานานิ วิภตฺติหารนเยน วิภชิตฺวา ทสฺสิตานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพภาวโต ธมฺมวิภชนานนฺตรํ ¶ ภูมิปทฏฺานานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ทสฺสนภูมี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทสฺสนภูมีติ ทสฺสนํ ภวติ เอตฺถ ปมมคฺเคติ ทสฺสนภูมิ, โสตาปตฺติมคฺโค ¶ . นิยามาวกฺกนฺติยาติ นิยมนํ นิยาโม, โก โส? สมฺปตฺตนิยาโม, อวกฺกนํ อวกฺกนฺติ, โสตาปตฺติผลํ, นิยามสฺส อวกฺกนฺติ นิยามาวกฺกนฺติ, ตาย. ทสฺสนภูมินามโก โสตาปตฺติมคฺโค นิยามาวกฺกนฺตินามกสฺส โสตาปตฺติผลสฺส ปตฺติยา ปทฏฺานํ. ปมมคฺคสมงฺคี ปุคฺคโล หิ นิยามํ โอกฺกมนฺโต นาม, ผลสมงฺคี ปน นิยามํ โอกฺกนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา นิยามาวกฺกนฺติสทฺเทน ปมผลุปฺปตฺติ คหิตา. ภาวนาภูมีติ อุปริมคฺคตฺตยํ. อุตฺตริกานนฺติ ตสฺส ตสฺส มคฺคสฺส อุปริปวตฺตานํ ตํตํผลานํ ปตฺติยา ปทฏฺานนฺติ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ.
ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา มนฺทปฺสฺส อุปฺปชฺชนโต สมถํ อาวหนฺตี หุตฺวา สมถสฺส ปทฏฺานํ โหติ, สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา าณาธิกสฺส อุปฺปชฺชนโต วิปสฺสนาวหนฺตี หุตฺวา วิปสฺสนาย ปทฏฺานํ, อวเสสา ทฺเว ปฏิปทาปิ นาติปฺสฺส อุปฺปชฺชนโต สมถสฺส ปทฏฺานนฺติ คเหตพฺพา. เตน อฏฺกถายํ วุตฺตํ – ‘‘อิตรา ปน ติสฺโสปิ ปฏิปทา สมถํ อาวหนฺตี’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๔). ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ สยเมว เอกนฺเตน ธมฺมสฺสวนสฺส ปทฏฺานํ น โหติ, วนฺทนยาจนปฺหาปุจฺฉนาทโยปิ ปทฏฺานํ โหนฺติ, ตสฺมา เตหิ การเณหิ สาธารณํ หุตฺวา ปรโตโฆสสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ปรโตโฆโส จ ธมฺมสฺสวนปฺหาวิสฺสชฺชนาทิวเสน ปวตฺโต. ทาตพฺพวตฺถุปริจฺจชนวนฺทนยาจนกาเลสุ หิ เยภุยฺเยน ธมฺมํ เทเสนฺติ, ปฺหาปุจฺฉนาทิกาเลสุ จ วิสฺสชฺเชนฺติ, ปฏิปุจฺฉสากจฺฉาทีนิ วา กโรนฺติ. สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ ปาโมชฺชปีติปสฺสทฺธิสุขสมาธีหิ ปทฏฺานภาเวน สาธารณํ หุตฺวา จินฺตามยิยา ปฺาย ปทฏฺานํ โหติ. สีลวนฺตสฺส หิ สีลํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปาโมชฺชาทโย โหนฺติ, สมาหิโต จ ธมฺมจินฺตเน สมตฺโถ โหติ.
ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถูติ ปุริมา ปุริมา สมถภาวนา เจว วิปสฺสนาภาวนา จ ปฺุกิริยวตฺถุทานสีลาทีหิ การเณหิ สาธารณํ หุตฺวา ภาวนามยิยา ปฺาย ปจฺฉิมาย ปจฺฉิมาย สมถภาวนาย เจว วิปสฺสนาภาวนาย จ ปทฏฺานํ. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ – ‘‘สาธารณนฺติ น พีชํ วิย องฺกุรสฺส, ทสฺสนภูมิอาทโย วิย นิยามาวกฺกนฺติอาทีนํ อาเวณิกํ ¶ , อถ โข สาธารณํ ตทฺการเณหิปี’’ติ. ‘‘ทานมยสีลมยภาวนามยปฺุกิริยวตฺถูนํ ปรโตโฆสจินฺตามยิภาวนามยิปฺานํ ปทฏฺานภาโว อาจริเยน วิภตฺโต, เอวํ สติ เตสํ ทานมยาทีนํ ยถากฺกมํ ปริยตฺติพาหุสจฺจกมฺมฏฺานานุโยคมคฺคสมฺมาทิฏฺีนํ ปทฏฺานภาโว น ภเวยฺยา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ตถาปวตฺตํ ปทฏฺานภาวมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ ปรโต จ โฆสสฺส สุตมยิยา จ ปฺายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘อิทานิ ¶ ยสฺมา ทานํ, สีลํ, โลกิยภาวนา จ น เกวลํ ยถาวุตฺตปรโตโฆสาทีนํเยว, อถ โข ยถากฺกมํ ปริยตฺติพาหุสจฺจกมฺมฏฺานานุโยคมคฺคสมฺมาทิฏฺีนมฺปิ ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา ตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘ทานมย’นฺติอาทินา เทสนํ วฑฺเฒสี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๔) –
วุตฺตํ. ตตฺถ ทานมยปฺุกิริยวตฺถุโน ปรโตโฆสสฺส สาธารณปทฏฺานภาโว เหฏฺา วุตฺตนเยน าตพฺโพ. ทานํ ปน ทตฺวา เทสนํ สุตฺวา สุตานุสาเรน วิตฺถาเรตฺวา จินฺเตนฺตสฺส ปวตฺตมานาย สุตมยิยา ปฺาย วนฺทนยาจนาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา ปทฏฺานํ โหติ. สีลมยปฺุกิริยวตฺถุโนปิ จินฺตามยิยา ปฺาย สาธารณปทฏฺานภาโว วุตฺโตเยว. ปริสุทฺธสีลํ ปน นิสฺสาย ‘‘ฌานํ นิพฺพตฺเตสฺสามิ, มคฺคผลํ นิพฺพตฺเตสฺสามี’’ติอาทินา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปวตฺตมานสฺส โยนิโสมนสิการสฺส ปาโมชฺชาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา ปทฏฺานํ โหติ. ภาวนามยปฺุกิริยวตฺถุโน ภาวนามยิยา ปฺาย สาธารณปทฏฺานภาโวปิ วุตฺโตเยว. สมถภาวนาสงฺขาตํ ปน ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วา ปริปากํ วิปสฺสนาภาวํเยว วา นิสฺสาย ปวตฺตมานาย สมฺมาทิฏฺิยา ปริสุทฺธสีลาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา ปทฏฺานํ โหติ.
ทานมยปฺุกิริยวตฺถุอาทีนํ ปรโตโฆสาทีนํ ปทฏฺานภาโว ปุนปฺปุนํ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ปติรูปเทสวาสาทโยปิ อิเมสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานานีติ ยถา วิภชิตพฺพา, อมฺเหหิ จ วิฺาตพฺพา, ตถา วิภชิตฺวา ทสฺเสถา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา เตปิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ปติรูปเทสวาโส’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ตถา ¶ ปติรูปเทสวาสาทโย กายวิเวกจิตฺตวิเวกาทีนํ การณํ โหนฺตีติ อิมํ นยํ ทสฺเสตุํ ‘ปติรูปเทสวาโส’ติอาทิมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๔) วุตฺตํ. ปติรูปเทสํ นิสฺสาย วสนฺตสฺส กายวิเวกจิตฺตวิเวกวฑฺฒนโต, สมาธิวฑฺฒนโต จ ปติรูปเทสวาโส กายจิตฺตวิเวกสฺส จ อุปจารสมาธิอปฺปนาสมาธิสฺส จ สีลาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา ปทฏฺานํ. สปฺปุริสูปนิสฺสโยติ สปฺปุริสสนฺตาเน ปวตฺโต ปยิรุปาสโต อาลมฺพิตพฺโพ ปสาโท, ตโต วา อุปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ปยิรุปาสนฺตานํ สนฺตาเน ปวตฺโต ปุพฺพปสาโท ยถาวิโธ สปฺปุริสูปนิสฺสโย ปยิรุปาสนฺตสฺส สทฺธาสมฺปนฺนสฺส รตนตฺตเย ติณฺณํ อเวจฺจปฺปสาทานํ รตนตฺตยคุณาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา ปทฏฺานํ, สมถสฺส ลภนนิมิตฺตทายกํ สปฺปุริสํ ปยิรุปาสิตฺวา เตน ทินฺนนเย ตฺวา ปวตฺเตตพฺพสฺส สมถสฺส สปฺปุริสูปนิสฺสโย สีลปาโมชฺชปีตาทีหิ ¶ สาธารณํ หุตฺวา ปทฏฺานํ. อตฺตสมฺมาปณิหิตสฺส ปาปชิคุจฺฉาทีนํ สมฺภวโต อตฺตสมฺมาปณิธานํ ชาติวยาทิปจฺจเวกฺขเณน สาธารณํ หุตฺวา หิริยา จ ปทฏฺานํ, อตฺตสมฺมาปณิหิตสฺส นิพฺพิทาทีนํ สมฺภวโต สีลาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา วิปสฺสนาย จ ปทฏฺานํ.
ตทงฺคาทิวเสน อกุสลปริจฺจาโค นิพฺพิทาาณาทีหิ สาธารณํ หุตฺวา กุสลวีมํสาย ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย ปฺาย จ อริยมคฺคสมาธินฺทฺริยสฺส จ ปทฏฺานํ. ธมฺมสฺวากฺขาตตา สฺวากฺขาตธมฺมสฺสวนานุสาเรน ปวตฺตกุสลมูลกา โลกิยโลกุตฺตรสมฺปตฺติ กุสลมูลโรปนา นาม, ตาย จ ตถาวิธกุสลมูลกาย ผลสมาปตฺติยา จ ปทฏฺานํ. สงฺฆสุปฺปฏิปนฺนตา สงฺฆสุฏฺุตาย สงฺฆสฺส อุปฏฺากานํ สุฏฺุภาวาย สปฺปติสฺสวาย วจนสมฺปฏิจฺฉนภาวาย ปทฏฺานํ. สตฺถุสมฺปทา สตฺถริ เจว ธมฺมาทีสุ จ คุณอชานนตาย อปฺปสนฺนานฺจ ปสาทาย ปสนฺนานฺจ อปฺปมตฺตกปสาทานฺจ ภิยฺโยภาวาย วฑฺฒนาย ปทฏฺานํ. อปฺปฏิหตปาติโมกฺขตา สงฺฆมชฺเฌ วา ปริสมชฺเฌ วา ทุมฺมงฺกูนํ ทุมฺมุขานํ ทุสฺสีลานํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหาย, เปสลานํ ปาติโมกฺขสํวราทิสีลสมฺปนฺนานํ ปุคฺคลานํ ผาสุวิหาราย จ ปทฏฺานํ โหติ. โหนฺโต ปน ยถานุรูเปหิ อฺเหิ การเณหิ สาธารณํ หุตฺวา โหตีติ เวทิตพฺโพ.
‘‘วาสนาภาคิยสุตฺตาทีสุ ¶ วุตฺตธมฺมภูมิปทฏฺานานํ วิภตฺติหาเรน วิภชิตพฺพภาโว อมฺเหหิ เกน ชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
‘‘เอตฺตาวตา จ วิภตฺติหาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต วิภตฺติหาโร’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ยตฺถ สุตฺเต เย เย ธมฺมาทโย วุตฺตา, ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเต วุตฺเตสุ เตสุ เตสุ ธมฺมาทีสุ ยถาลาภวเสน โย โย วิภตฺติหาโร โยชิโต, โส โส วิภตฺติหาโร นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺโต โยชิโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อิติ วิภตฺติหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรเนว คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควิภาวนา
๓๕. เยน ¶ เยน สํวณฺณาวิเสสภูเตน วิภตฺติหารวิภงฺเคน สุตฺเต วุตฺตา ธมฺมาทโย วิภตฺตา, โส สํวณฺณาวิเสสภูโต วิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปริวตฺตนหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ปริวตฺตโน หาโร ปริวตฺตนหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘กุสลากุสเล ธมฺเม’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺสา’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ปริวตฺตโน หาโร ปริวตฺตนหารวิภงฺโค นามาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต นิทฺทิฏฺสฺส กตมสฺส ภาวิตพฺพสฺส กุสลสฺส กตโม ปฏิปกฺโข, กถํ ปริวตฺเตตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมสฺส ภาวิตพฺพสฺส กุสลสฺส อยํ ปฏิปกฺโข, เอวํ ปหาตพฺพภาววเสน ปริวตฺเตตพฺโพติ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺสา’’ติอาทิมาห. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘ตตฺถ ยสฺมา สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต ยถานิทฺทิฏฺานํ กุสลากุสลธมฺมานํ ปฏิปกฺขภูเต อกุสลกุสลธมฺเม ปหาตพฺพภาวาทิวเสน นิทฺธารณํ ปฏิปกฺขโต ปริวตฺตนํ, ตสฺมา ‘สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวตี’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๕) –
วุตฺตํ. ปหายกสฺส หิ ธมฺมสฺส ปหาตพฺพภาววเสน นิทฺธารณํ, ปหาตพฺพสฺส จ ธมฺมสฺส ปหายกภาววเสน นิทฺธารณํ ปฏิปกฺขโต ปริวตฺตนํ นาม โหติ. ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิสฺสาติ สมฺมา สุนฺทรา ปสตฺถา ทิฏฺิ ยสฺส ปุคฺคลสฺสาติ สมฺมาทิฏฺิ. ปุคฺคลปทฏฺานา หิ อยํ เทสนา. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุริสปุคฺคลสฺสา’’ติ. สา ปน สมฺมาทิฏฺิ กมฺมกมฺมผลาทิสทฺทหนวเสน วา อนิจฺจาทิวิปสฺสนาวเสน วา มคฺคสมฺมาทสฺสนวเสน วา ปวตฺตา นิรวเสสาว คหิตา. ‘‘ยาย ภาวิตาย สมฺมาทิฏฺิยา ปหาตพฺพา มิจฺฉาทิฏฺิ นิชฺชิณฺณา ภวติ, ยทิ เกวลา มิจฺฉาทิฏฺิเยว นิชฺชิณฺณา ภวติ, เอวํ สติ ตทวเสสา อกุสลา ธมฺมา อชิณฺณา
ภเวยฺยุ’’นฺติ ¶ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เย จสฺส มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มิจฺฉาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลาเยว ธมฺมา จ อุปฺปชฺเชยฺยุํ อุปฺปชฺชนารหา ภเวยฺยุํ, เต จ อกุสลา ธมฺมา อสฺส สมฺมาทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส นิชฺชิณฺณา ปหาตพฺพารหา อนุปฺปชฺชนสภาวา โหนฺติ. เตนาห ภควา – ‘‘อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ’’ติ (อุทา. ๒; มหาว. ๑).
‘‘ยทิ สมฺมาทิฏฺิสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ, ตปฺปจฺจยา อกุสลธมฺมาเยว นิชฺชิณฺณา ภวนฺติ, เอวํ สติ สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา กุสลา ธมฺมา น สมฺภเวยฺยุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสฺส สมฺมาทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส อุปฺปชฺชนารหา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยา อเนเก กุสลา สมถวิปสฺสนา วา โพธิปกฺขิยา วา ธมฺมา สมฺภวนฺติ, อุปฺปนฺนา จ เต ธมฺมา อสฺส สมฺมาทิฏฺิสมฺปนฺนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส สนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนวเสน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ.
สมฺมาทิฏฺิยา ¶ ปฏิปกฺขานํ มิจฺฉาทิฏฺิยา, ตปฺปจฺจยานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปริวตฺตนภาโว อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ธมฺมสฺส ปฏิปกฺโข ธมฺโม กถํ ปริวตฺเตตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ปุริสปุคฺคลสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โยชนตฺถ อาทโย วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา. สมฺมา สุนฺทรา ปสตฺถา วาจา ยสฺส ปุคฺคลสฺสาติ สมฺมาวาโจ, ตสฺส สมฺมาวาจสฺส. ‘‘ปุริสปุคฺคลสฺสา’’ติอาทีนํ อตฺโถปิ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสสตฺโถสมฺมา อวิปรีตโต วิมุตฺติาณทสฺสนํ ยสฺส ปุคฺคลสฺสาติ สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสโน, ตสฺส สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนสฺส ปจฺจเวกฺขณาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส ปุริสปุคฺคลสฺส ‘‘อวิมุตฺตาว สมานา วิมุตฺตา มย’’นฺติ มิจฺฉาภินิเวสวเสน ปวตฺตํ มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนํ นิชฺชิณฺณํ วิคตํ ภวติ. ‘‘เย จสฺสา’’ติอาทีนํ อนุสนฺธฺยาทิโก วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
๓๖. ‘‘สมฺมาทิฏฺิสฺสาติอาทินา สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ กุสลานํ ปฏิปกฺขา มิจฺฉาทิฏฺาทิกาเยว อกุสลา ปหาตพฺพภาเวน ปริวตฺเตตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีนํ กุสลานํ ปฏิปกฺขา ปาณาติปาตาทิกาปิ อกุสลา ปหาตพฺพภาเวน ปริวตฺเตตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺส วา ปาณาติปาตา ปฏิวิรตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เอวํ สมฺมาทิฏฺิอาทิมุเขน มิจฺฉาทิฏฺิอาทึ ทสฺเสตฺวา ปุน ปาณาติปาตอทินฺนาทานกาเมสุมิจฺฉาจาราทิโต เวรมณิยาทีหิ ปาณาติปาตาทีนํ ปริวตฺตนํ ทสฺเสตุํ ‘ยสฺสา’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๖) วุตฺตํ. ตทงฺคาทิวเสนปหีโน โหติ. กาลวาทิสฺสาติ วทิตพฺพกาเล วทิตพฺพํ วทติ สีเลนาติ กาลวาที, ตสฺส.
‘‘ยถาวุตฺตปฺปกาเรเนว ¶ ปริวตฺเตตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อฺเน ปกาเรนปิ ปริวตฺเตตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย จ โข เกจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เย จ โข เกจีติอาทินา สมฺมาทิฏฺิอาทิมุเขเนว มิจฺฉาทิฏฺิอาทีหิ เอว ปริวตฺตนํ ปการนฺตเรน ทสฺเสตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๖) วุตฺตํ. ตตฺถ เกจิ มิจฺฉาทิฏฺิกมิจฺฉาสงฺกปฺปาทิกาเยว ปุคฺคลา ปเรสํ อริยานํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ครหนฺติ. สนฺทิฏฺิกา สนฺทิฏฺเ นิยุตฺตา, สหธมฺมิกา สห ธมฺเมน การเณน เย วตฺตนฺติ สหธมฺมิกา. คารยฺหา ครหิตพฺพากาเร ยุตฺตา ¶ . วาทา จ อนุวาทา จ วาทานุวาทา, เต ภวนฺโต สมฺมาทิฏฺิฺจ ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน ครหเณน. ปุชฺชา ปูชิตพฺพา จ น ภวนฺติ, ปาสํสา ปสํสิตพฺพา จ น ภวนฺติ. เอวนฺติอาทีสุ สมฺมาสงฺกปฺปํ วา สมฺมาวาจาทิกํ วา วิสุํ วิสุํ สมฺมาสงฺกปฺปฺจ เต ภวนฺโต ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน หิ เย มิจฺฉาสงฺกปฺปิกา, เต ภวนฺโต น ปุชฺชา จ ปาสํสา จ…เป… สมฺมาวิมุตฺติฺจ เต ภวนฺโต ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน หิ เย มิจฺฉาทิฏฺิวาจิกา, เต ภวนฺโต น ปุชฺชา จ ปาสํสา จ. สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนฺจ เต ภวนฺโต ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน หิ เย มิจฺฉาวิมุตฺติกา, เต ภวนฺโต น ปุชฺชา จ ปาสํสา จ. สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนฺจ เต ภวนฺโต ธมฺมํ ครหนฺติ. เตน หิ เย มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนิกา, เต ภวนฺโต น ปุชฺชา จ ปาสํสา จาติ โยชนา กาตพฺพา. ‘‘มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนา’’ติปิ ปาโ อตฺถิ.
‘‘อริยมคฺคสมฺมาทิฏฺาทีนํ ครหวเสเนว มิจฺฉาทิฏฺาทโย จ ปริวตฺเตตพฺพา, นาวเสสานํ ปสํสาวเสนา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา กามาทีนํ ปสํสาวเสนปิ กามานํ ปฏิปกฺขา เวรมณิยาทโยปิ ปริวตฺเตตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย จ โข เกจิ เอวมาหํสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ภฺุชิตพฺพา กามา, ปริภฺุชิตพฺพา กามา, อาเสวิตพฺพา กามา, นิเสวิตพฺพา กามาติ เอตฺถ กามียนฺเตติ กามาติ กมฺมสาธนวเสน วตฺถุกามา คหิตา, นาติปณีตา กามา ภฺุชิตพฺพา, อติปณีตา กามา ปริ สมนฺตโต ภฺุชิตพฺพา. อติปณีตตรา กามา อา ภุโส เสวิตพฺพา, นิยตา เสวิตพฺพา. ภาวยิตพฺพา กามา, พหุลีกาตพฺพา กามาติ เอตฺถ ปน กาเมนฺตีติ กามาติ กตฺตุสาธนวเสน กิเลสกามา คหิตา, ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทนวเสน ภาวยิตพฺพา วฑฺฒาเปตพฺพา ปวตฺเตตพฺพา กิเลสกามา, พหูนํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทนวเสน กาตพฺพา วฑฺฒาเปตพฺพา กิเลสกามาติ เย จ กามวสิกา ปุถุชฺชนา เกจิ เอวมาหํสุ เตสํ กามวสิกานํ ปุถุชฺชนานํ เกสฺจิ ตาทิเสหิ กาเมหิ เวรมณี กุสลเจตนา ปฏิปกฺขวเสน อธมฺโม อเสวิตพฺโพ นาม อาปชฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย คเหตพฺโพ.
อนฺตทฺวยวเสน ¶ ปริวตฺตนํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย วา ปน เกจี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตกิลมถานุโยโค ธมฺโมติ นิยฺยานิโกติ เย วา ปน ปฺจาตปาทิปฏิปนฺนกา ตตฺถิยา เอวมาหํสุ, เตสํ ปฺจาตปาทิปฏิปนฺนกานํ นิยฺยานิโก ธมฺโม มชฺฌิมาปฏิปทาสงฺขาโต วิปสฺสนาสหิโต อริยมคฺโค ¶ อธมฺโม อนิยฺยานิโก อภาเวตพฺโพ นาม อาปชฺเชยฺยาติ. สุขทุกฺขวเสนปิ ปริวตฺตนํ ทสฺเสตุํ ‘‘เย จ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ปาปํ นิชฺชราเปสฺสามา’’ติ อตฺตหึสนาทิวเสน ปฏิปนฺนกานํ ปวตฺโต สรีรตาปโน ทุกฺโข ธมฺโม นิยฺยานิโกติ.
เย จ ตถาปฏิปนฺนกา เกจิ เอวมาหํสุ, เตสํ ตถาปฏิปนฺนกานํ อนวชฺชปจฺจยปริโภควเสน ปวตฺโต สรีรทุกฺขูปสโม สุโข ธมฺโม อธมฺโม อปฺปวตฺเตตพฺโพ อาปชฺเชยฺยาติ.
อนฺตทฺวยาทิวเสน ปริวตฺตนํ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กถํ อสุภสฺาทิวเสน ปริวตฺเตตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เอวํ อสุภสฺาทิวเสน สุภสฺาทิกา ปริวตฺเตตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิทานิ อสุภสฺาทิมุเขน สุภสฺาทิปริวตฺตนํ ทสฺเสตุํ ‘ยถา วา ปนา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๖) วุตฺตํ. สพฺพสงฺขาเรสูติ เตภูมกสงฺขาเรสุ. อารทฺธวิปสฺสกสฺส หิ เตภูมกา ธมฺมา กิเลสาสุจิปคฺฆรณกตฺตา อสุภโต อุปฏฺหนฺติ.
‘‘ยทิ สรูปโตเยว อิเมสํ อิเม ปฏิปกฺขาติ อปริวตฺเตตพฺพา สิยุํ, เอวํ สติ นิรวเสสา จ ปฏิปกฺขา น สกฺกา ปริวตฺเตตุํ, กถํ สกฺกา ปริวตฺเตตุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ปริวตฺตนลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ยํ วา ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กุสลํ วา อกุสลํ วา ยํ ยํ ธมฺมํ ปริวตฺเตตุกาโม อาจริโย จิตฺเตน โรจยติ ทิฏฺิยา อุปคจฺฉติ, กุสลสฺส วา อกุสลสฺส วา ตสฺส ตสฺส รุจิกสฺส อุปคตสฺส ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโข, โส ปฏิปกฺขธมฺโม อสทฺธมฺโม อสฺส ธมฺมสฺส อนิฏฺโต ปจฺจนีกโต อชฺฌาปนฺโน ปริฺาโต. อิฏฺํ วา อนิฏฺํ วา ยํ ยํ ธมฺมํ ปริวตฺเตตุกาโม อาจริโย จิตฺเตน โรจยติ ทิฏฺิยา อุปคจฺฉติ, อิฏฺสฺส วา อนิฏฺสฺส วา ตสฺส ตสฺส รุจิกสฺส ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโข, โส ปฏิปกฺขธมฺโม อสฺส ธมฺมสฺส อนิฏฺโต ปจฺจนีกธมฺมโต อชฺฌาปนฺโน ปริฺาโต ภวตีติ ปริวตฺเตตุกาเมน อิจฺฉิตพฺพธมฺมานุรูปปฏิปกฺขวเสน ปริวตฺตนํ กาตพฺพนฺติ ปริวตฺตเน ปฏิปกฺขลกฺขณํ วุตฺตํ. เตน อฏฺกถายํ วุตฺตํ – ‘‘ปฏิปกฺขสฺส ลกฺขณํ วิภาเวตี’’ติ.
‘‘เอวํ ¶ ¶ วุตฺตปฺปการํ ปริวตฺตนํ อมฺเหหิ กถํ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘เอตฺตาวตา ปริวตฺโต หาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ปริวตฺตโน หาโร’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมึ สุตฺเต กุสลากุสเล นิทฺทิฏฺเ ปฏิปกฺขวเสน นีหริตฺวา ยถาสมฺภวํ โย โย ปริวตฺตโน หาโร นิยุตฺโต, ตสฺมึ สุตฺเต นิทฺทิฏฺเ ปฏิปกฺขวเสน นีหริตฺวา โส โส ปริวตฺตโน หาโร นิยุตฺโต นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺโต โยชิโตติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ ปริวตฺตนหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๐. เววจนหารวิภงฺควิภาวนา
๓๗. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปวตฺตนหารวิภงฺเคน ปริวตฺเตตพฺพา สุตฺตตฺถา วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปริวตฺตนหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม เววจนหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม เววจโน หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส เววจโน หาโร เววจนหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘เววจนานิ พหูนี’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘เอกํ ภควา ธมฺม’’นฺติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส เววจโน หาโร เววจนหารวิภงฺโค นามาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘ยานิ เววจนานิ นิทฺธาริตานิ, กตมานิ ตานิ เววจนานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา เอก’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอกํ วิฺาตพฺพํ ธมฺมํ สภาวธมฺมํ ปฺาเปตพฺพํ วา ธมฺมํ อฺมฺเหิ ยถา เยหิ ปกาเรหิ เจว เววจเนหิ จ ภควา นิทฺทิสติ, ตถาปการานิ เววจนานิ วิฺาตพฺพานีติ อตฺโถ. ‘‘ตานิ เววจนานิ กินฺติ ¶ ภควา อาหา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา ยํยํปการานิ เววจนานิ –
‘‘อาสา ¶ จ ปิหา จ อภินนฺทนา จ, อเนกธาตูสุ สรา ปติฏฺิตา;
อฺาณมูลปฺปภวา ปชปฺปิตา, สพฺพา มยา พฺยนฺติกตา สมูลิกา’’ติ. –
ภควา อาห, ตํตํปการานิ เววจนานิ วิฺาตพฺพานีติ อตฺโถ.
เอกสฺเสว ธมฺมสฺส อเนเกหิ ปริยายภูเตหิ เววจเนหิ นิทฺทิสเน ผลํ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๗) พหุธา วุตฺตํ, ตสฺมา อมฺเหหิ น ทสฺสิตํ. ‘‘กตมา อาสา, กตมา ปิหาที’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อาสา นาม วุจฺจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ภวิสฺสสฺส อตฺถสฺส อาสีสนา อวสฺสํ อาคมิสฺสตีติ ยา อาสา อสฺส อาสีสนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อาสีสนา ‘‘อาสา นามา’’ติ วุจฺจติ. วตฺตมานสฺส ยา ปตฺถนา อสฺส ปตฺถยนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, เสยฺยตรํ วา อฺํ ทิสฺวา ‘‘เอทิโส อหํ ภเวยฺย’’นฺติ ยา ปิหา อสฺส ปิหยนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, สา ปตฺถนา ‘‘ปิหา นามา’’ติ วุจฺจติ. อนาคตตฺถํ อารพฺภ ปวตฺตา ตณฺหา ‘‘อาสา’’ติ วุจฺจติ, อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถํ อารพฺภ ปวตฺตา ตณฺหา ‘‘ปิหา’’ติ วุจฺจติ, ตถาปิ ตณฺหาภาเวน เอกตฺตา เอโก ธมฺโมว อตฺถสฺส อิจฺฉิตสฺส นิปฺผตฺติ อตฺถนิปฺผตฺติ, ปฏิปาเลติ เอตาย ตณฺหายาติ ปฏิปาลนา, อตฺถนิปฺผตฺติยา ปฏิปาลนาติ อตฺถนิปฺผตฺติปฏิปาลนา. ยา ตณฺหา อสฺส ปาลยนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส อุปฺปชฺชติ, สา ตณฺหา ‘‘อภินนฺทนา’’ติ วุจฺจติ.
‘‘ยา อตฺถนิปฺผตฺติ ตณฺหาย ปฏิปาเลตพฺพา, กตมา สา อตฺถนิปฺผตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตํ อตฺถนิปฺผตฺตึ สตฺตโต วา สงฺขารโต วา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปิยํ วา าตึ, ปิยํ วา ธมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘าติ’’นฺติ อิมินา มิตฺตพนฺธวาทโยปิ คหิตา. ธมฺมํ ปน ปิยรูปารมฺมณาทิกํ ฉพฺพิธมฺปิ ยาย ตณฺหาย ตณฺหิโก อภินนฺทติ, สา ตณฺหา ‘‘อภินนฺทนา นามา’’ติ วุจฺจติ. ปฏิกฺกูลํ าตึ วา ธมฺมํ วา วิปลฺลาสวเสน อปฺปฏิกฺกูลํ าตึ วา ธมฺมํ วา สภาววเสน อปฺปฏิกฺกูลโต ยาย ตณฺหาย ตณฺหิโก อภินนฺทติ ¶ , สา ตณฺหา วา ‘‘อภินนฺทนา นามา’’ติ วุจฺจตีติ โยเชตฺวา อตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘ยาสุ อเนกาสุ ธาตูสุ วุตฺตปฺปการา ตณฺหา ‘สรา’ติ ภควตา วุตฺตา, กตมา ตา ธาตุโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตา ธาตุโย สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘ตาสุ ธาตูสุ กตมาย ธาตุยา กตมา สรา ปติฏฺิตา ปวตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมาย ธาตุยา อยํ สรา ปติฏฺิตา ปวตฺตาติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘สราติ เกจิ รูปาธิมุตฺตา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ตตฺถ เกจีติ สราสงฺขาตาย รูปตณฺหาย ตณฺหิกา ปุคฺคลา. รูปาธิมุตฺตาติ รูปธาตุสงฺขาเต อารมฺมเณ อธิมุตฺตา อชฺโฌสิตา. อิมินา ปเทน รูปตณฺหาสงฺขาตา สรา รูปธาตุยา ปติฏฺิตา ปวตฺตาติ คหิตา, ‘‘เกจิ สทฺทาธิมุตฺตา’’ติอาทีหิปิ สทฺทตณฺหาสงฺขาตาทโย สรา สทฺทธาตุยาทีสุ ปติฏฺิตา ปวตฺตา สราว คหิตา. เกจิ ธมฺมาธิมุตฺตาติ เอตฺถ ธมฺมคฺคหเณน จกฺขุธาตุโสตธาตุฆานธาตุชิวฺหาธาตุกายธาตุสตฺตวิฺาณธาตุธมฺมธาตุโย คหิตา, ตสฺมา อฏฺารส ธาตุโย ปติฏฺานภาเวน คหิตาปิ ฉพฺพิธาว คหิตาติ ทฏฺพฺพา. ‘‘รูปาธิมุตฺตาทีสุ กิตฺตกานิ ปทานิ ตณฺหาปกฺเข ตณฺหาย เววจนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เอตาทิสานิ เอตฺตกานิ ปทานิ ตณฺหาปกฺเข ตณฺหาเววจนานีติ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ยานิ ฉ เคหสิตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ รูปาทีสุ. ฉ เคหสิตานิ โทมนสฺสานีติ ฉสุ รูปาทีสุ ปวตฺตํ ตณฺหาเปมํ นิสฺสาย ปวตฺตานิ ฉ โทมนสฺสานิ. เอส นโย เสเสสุปิ. ‘‘ฉ อุเปกฺขา เคหสิตาปิ ภควตา วุตฺตา, กสฺมา น คหิตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยา ฉ อุเปกฺขา เคหสิตา, อยํ ทิฏฺิปกฺโข’’ติ วุตฺตํ, ทิฏฺิปกฺขตฺตา น คหิตาติ อตฺโถ.
๓๘. ‘‘กถํ วุตฺตปฺปการา ตณฺหา เอว คหิตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สาเยว ปตฺถนากาเรนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สา วุตฺตปฺปการา เอว ตณฺหา ปตฺถนากาเรน ปวตฺตนโต อาสาทิปริยาเยน วุตฺตา, รูปาทิอารมฺมณธมฺเมสุ นนฺทนโต ‘‘ธมฺมนนฺที’’ติ ปริยาเยน วุตฺตา, รูปาทิอารมฺมณธมฺเมสุ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปติ วิย อชฺโฌสาย ติฏฺนโต ‘‘ธมฺมชฺโฌสาน’’นฺติ ปริยาเยน วุตฺตา, ตสฺมา ตณฺหาย เววจนานิ โหนฺติ.
ตณฺหาย ¶ เววจนานิ อาจริเยน นิทฺทิฏฺานิ, อมฺเหหิ จ าตานิ, ‘‘กตมานิ จิตฺตสฺส เววจนานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘จิตฺตํ มโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อารมฺมณํ จินฺเตตีติ จิตฺตํ. มนติ ชานาตีติ มโน. วิชานาตีติ วิฺาณ’’นฺติอาทินา อตฺโถ ปกรเณสุ (ธ. ส. อฏฺ. ๕) วุตฺโตว, ตสฺมา อมฺเหหิ น วิตฺถาริโต. เววจนานิเยว อิมานิ อิมสฺส เววจนานีติ เอตฺตกานิเยว กถยิสฺสาม. ‘‘ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพล’’นฺติอาทีนิ ปฺาเววจนานิ.
‘‘อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทีนิ พุทฺธสฺส เววจนานิ. ‘‘ตานิ กตฺถ เทสิตานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา จ พุทฺธานุสฺสติยํ วุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. พุทฺธานุสฺสติเทสนายํ ยถา จ ยํยํปการํ ¶ เววจนํ ภควตา ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ…เป… ภควโต’’ติ วุตฺตํ, เอตํปการํ เววจนํ พุทฺธานุสฺสติยา เววจนํ พุทฺธสฺส เววจนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ยถา จ ธมฺมานุสฺสติยํ วุตฺต’’นฺติอาทีสุปิ เอวเมว โยชนา กาตพฺพา.
‘‘เตนาหา’’ติอาทฺยานุสนฺธฺยาทิอตฺโถ เจว ‘‘นิยุตฺโต เววจโน หาโร’’ติอานุสนฺธฺยาทิอตฺโถ จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
อิติ เววจนหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๑. ปฺตฺติหารวิภงฺควิภาวนา
๓๙. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน วิภงฺเคน เววจนานิ วิภตฺตานิ, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปฺตฺติหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺตฺติหาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ปฺตฺติหาโร ปฺตฺติหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘เอกํ ภควา ธมฺมํ ปฺตฺตีหิ วิวิธาหิ เทเสตี’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘ยา ปกติกถาย เทสนา’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ปฺตฺติหาโร ปฺตฺติหารวิภงฺโค นามาติ คเหตพฺโพ.
‘‘ยาหิ ¶ วิวิธาหิ ปฺตฺตีหิ เอกํ ธมฺมํ ภควา เทเสติ, กตมา ตา วิวิธา ปฺตฺติโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยา ปกติกถายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปกติกถายาติ อสฺสาทาทิปทตฺถวิเสสํ อนิทฺธาเรตฺวา อตฺถสภาเวน ปวตฺตาย กถาย สาธุกํ มนสิการธมฺมกถาย ยา เทสนา ยถาธิปฺเปตมตฺถํ เวเนยฺยสนฺตาเน นิกฺขิปติ ปติฏฺเปติ ปกาเรน าเปติ, ตสฺมา นิกฺเขปปฺตฺติ, ตาย ปฺตฺติยา ธมฺมํ เทเสตีติ อตฺโถ. ‘‘ยา ปฺตฺติ ‘ปกติกถาย ¶ เทสนา’ติ วุตฺตา, กตมา สา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘กา จ ปกติกถาย เทสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน –‘‘อิติ ‘ปกติกถาย เทสนา’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน วิภชิตุํ ‘กา จ ปกติกถาย เทสนา’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘จตฺตาริ สจฺจานี’ติอาทิมาหา’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๓๙) วุตฺตํ. ตตฺถ เทสนาเทเสตพฺพสฺส เภทภาเวปิ อเภโทปจาเรน ‘‘เทสนา จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ, จตุนฺนํ สจฺจานํ ปฺตฺติ เทสนา นามาติ อตฺโถ.
‘‘กถํ ตํ สจฺจปฺตฺตึ ภควา อาหา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา ภควา อาหา’’ติ วุตฺตํ. ยถา เยน ปกาเรน ภควา ยํ ยํ ปฺตฺตึ อาห, ตถา เตน ปกาเรน สา ปฺตฺติ ชานิตพฺพา. ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยํ ปฺตฺตึ ภควา อาห, อยํ ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ปฺตฺติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิกฺเขปปฺตฺติ, ฉนฺนํ ธาตูนํ นิกฺเขปปฺตฺติ, อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ นิกฺเขปปฺตฺติ, ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ นิกฺเขปปฺตฺติ, ทสนฺนํ อินฺทฺริยานํ นิกฺเขปปฺตฺตีติ โยชนา กาตพฺพา. ขนฺธธาตุอายตนินฺทฺริยานิ จ โลกิยาเนว. ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามตฺถตาสามฺเน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วุตฺตา. ทสนฺนํ อินฺทฺริยานนฺติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิปุริสชีวิตมนเวทนินฺทฺริยานํ ทสนฺนํ. อนุภวนลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตา เวทนินฺทฺริยํ เอกนฺติ คหิตํ, สทฺธินฺทฺริยาทีนิ ปน มคฺคปริยาปนฺนตฺตา น คหิตานิ.
กพฬีกาเรติ านูปจาเรน โวหริเต โอชาสงฺขาเต อาหาเร, ราโค อริยมคฺเคน อปฺปหาตพฺพตฺตา อนุสยวเสน, อาสาวเสน วา ปตฺถนาวเสน วา อตฺถิ นนฺที. อตฺถิ ตณฺหาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปติฏฺิตํ วิรุฬฺหนฺติ ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาปตฺติยา ปติฏฺิตตฺตา ปติฏฺิตฺเจว วิรุฬฺหฺจาติ คเหตพฺพํ. สงฺขารานนฺติ ปุนพฺภวนิพฺพตฺตกสฺส ภวสฺส อภินิพฺพตฺติเหตุกานํ ¶ สงฺขารานํ. ชาติชรามรณนฺติ อภินิพฺพตฺตนลกฺขณา ชาติ, น อุปฺปาโทว, ปริปากลกฺขณา ชรา, น ิติเยว, เภทนลกฺขณํ มรณํ, น ภงฺคเมว. เตน วุตฺตํ ‘‘สโสกํ สทรํ สอุปายาส’’นฺติ.
‘‘ผสฺเส เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร…เป… มโนสฺเจตนาย เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร…เป… วิฺาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค…เป… วทามี’’ติ อยํ ปฺตฺติ ทุกฺขสฺส จ สมุทยสฺส จ ปภวสฺส ปฺาปนโต ปภวปฺตฺติ นาม.
วฏฺฏวเสน ปฺตฺติเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ วิวฏฺฏวเสน ปฺตฺติเภโท ¶ วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร นตฺถิ ราโค’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘กพฬีกาเร…เป… อนุปายาสนฺติ วทามี’’ติ อยํ ปฺตฺติ ทุกฺขสฺส ปริฺาย จ ปฺาปนโต ปริฺาปฺตฺติ นาม, สมุทยสฺส ปหานสฺส จ ปฺาปนโต ปหานปฺตฺติ นาม, มคฺคสฺส ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม.
๔๐. วิวฏฺฏวเสน ปฺตฺติเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ สมฺมสนวเสน ปฺตฺติเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ…เป… ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ อยํ ปฺตฺติ มคฺคสฺส ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, ทุกฺขสฺส ปริฺาย จ ปฺาปนโต ปริฺาปฺตฺติ นาม, สมุทยสฺส ปหานสฺส จ ปฺาปนโต ปหานปฺตฺติ นาม, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม.
สมฺมสนวเสน ปฺตฺติเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ อุปาทานกฺขนฺธวเสน ปฺตฺติเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘รูปํ, ราธ, วิกิรถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘รูปํ, ราธ, วิกิรถ…เป… นิพฺพาน’’นฺติ อยํ ปฺตฺติ ตณฺหาสงฺขาตสฺส โรธสฺส นิโรธสฺส จ ปฺาปนโต นิโรธปฺตฺติ นาม, อสฺสาทสฺส นิพฺพิทาย จ ปฺาปนโต นิพฺพิทาปฺตฺติ นาม, ทุกฺขสฺส ปริฺาย จ ปฺาปนโต ปริฺาปฺตฺติ นาม, สมุทยสฺส ปหานสฺส จ ปฺาปนโต ปหานปฺตฺติ นาม, มคฺคสฺส ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม.
‘‘รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณานิ ¶ วิกิรนฺโต วิทฺธํเสนฺโต วิกีฬนิยํ กโรนฺโต ปฺาย ตณฺหากฺขยาย ปฏิปชฺชนฺโต กึ ปชานาตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาตีติ…เป… นิโรธคามินิปฏิปทาติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ อยํ ปฺตฺติ สจฺจานํ ปฏิเวธสฺส ปฺาปนโต ปฏิเวธปฺตฺติ นาม, ทสฺสนภูมิยา นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, มคฺคสฺส ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, โสตาปตฺติผลสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม. ‘‘โส ‘อิเม อาสวา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป… ‘อาสวา อเสสํ นิรุชฺฌนฺตี’ติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ อยํ ปฺตฺติ ขเยาณสฺส อุปฺปาทสฺส จ ปฺาปนโต อุปฺปาทปฺตฺติ นาม, อนุปฺปาเทาณสฺส โอกาสสฺส จ ¶ ปฺาปนโต โอกาสปฺตฺติ นาม, มคฺคสฺส ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, ทุกฺขสฺส ปริฺาย จ ปฺาปนโต ปริฺาปฺตฺติ นาม, สมุทยสฺส ปหานสฺส จ ปฺาปนโต ปหานปฺตฺติ นาม, วีริยินฺทฺริยสฺส อารมฺภสฺส จ ปฺาปนโต อารมฺภปฺตฺติ นาม, อาสาฏิกานํ อาหฏนาย จ ปฺาปนโต อาหฏนาปฺตฺติ นาม, ภาวนาภูมิยา นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อภินิฆาตสฺส จ ปฺาปนโต อภินิฆาตปฺตฺติ นาม.
๔๑. วฏฺฏวเสน วา วิวฏฺฏวเสน วา ธมฺมสมฺมสนวเสน วา อุปาทานกฺขนฺธวเสน วา ปชานนวเสน วา สจฺเจสุ นานาวิโธ ปฺตฺติเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ เตปริวฏฺฏวเสน สจฺเจสุ ปฺตฺติเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา เตปริวฏฺฏวเสน สจฺเจสุ ปฺตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม, ภิกฺขเว’’ติอาทิ อารทฺธํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘เอวํ วฏฺฏวิวฏฺฏมุเขน สมฺมสนอุปาทานกฺขนฺธมุเขเนว สจฺเจสุ ปฺตฺติวิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตปริวฏฺฏวเสน ทสฺเสตุํ ‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม ภิกฺขเว’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๑) วุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺเพ ปริชานนโต ปฏฺาย. อนนุสฺสุเตสูติ ปริชานนวเสน อนนุสฺสุเตสุ จตูสุ สจฺจธมฺเมสุ. จกฺขุนฺติ ปมํ นิพฺพานทสฺสนฏฺเน จกฺขุ นาม. ยถาสภาวโต กิจฺจปริชานนฏฺเน สจฺฉิกิริยปริชานนฏฺเน าณํ นาม. ยถาสภาวโต ¶ กิจฺจปริชานนาทีนํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปชานนฏฺเน ปฺา นาม. ตถา วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชา นาม. อาโลโกภาสกรณฏฺเน อาโลโก นาม. อิทํ จกฺขาทิกํ สพฺพํ ปฺาเววจนเมว. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม ภิกฺขเว…เป… อุทปาที’’ติ อยํ ปฺตฺติ สจฺจานํ เทสนาย ปฺาปนโต เทสนาปฺตฺติ นาม, สุตมยิยา ปฺาย นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม, ธมฺมจกฺกสฺส ปวตฺตนาย จ ปฺาปนโต ปวตฺตนาปฺตฺติ นาม.
‘‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ…เป… อุทปาที’’ติ อยํ ปฺตฺติ มคฺคสฺส ภาวนาย ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, จินฺตามยิยา ปฺาย นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, อฺินฺทฺริยสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม.
‘‘ตํ โข ปนิทํ ทุกฺขํ ปริฺาตํ…เป… อุทปาที’’ติ อยํ ปฺตฺติ มคฺคสฺส ภาวนาย ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, ภาวนามยิยา ปฺาย นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต ¶ นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, อฺาตาวิโน อินฺทฺริยสฺส สจฺฉิกิริยาย จ ปฺาปนโต สจฺฉิกิริยาปฺตฺติ นาม, ธมฺมจกฺกสฺส ปวตฺตนาย จ ปฺาปนโต ปวตฺตนาปฺตฺติ นาม.
เตปริวฏฺฏวเสน สจฺเจสุ นานาวิโธ ปฺตฺติเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ กุสลากุสลาทิวเสน เทสิตธมฺมสฺส ปฺตฺติเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ธมฺมจกฺกสุตฺเต ปฺตฺติเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ตุลมตุลฺจาติอาทิคาถาย กถํ ปฺตฺติเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตุลมตุลฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตุลียติ ปริจฺฉิชฺชียตีติ ตุลํ, กามาวจรกมฺมํ, นตฺถิ ตุลํ สทิสํ อฺํ โลกิยกมฺมํ อสฺส มหคฺคตกมฺมสฺสาติ อตุลํ, รูปารูปาวจรกมฺมํ. ปุนพฺภวํ สมฺภวติ เอเตน สงฺขาเรนาติ สมฺภโว, ตํ สมฺภวํ. ปุนพฺภวํ สงฺขโรตีติ ภวสงฺขาโร. อชฺฌตฺเต วิปสฺสนาวเสน รมตีติ อชฺฌตฺตรโต. สมถวเสน สมาธิยตีติ สมาหิโต. อตฺตนิ สมฺภวตีติ อตฺตสมฺภโว, ตํ อตฺตสมฺภวํ. มุนิ สมฺพุทฺโธ สมฺภวํ ภวสงฺขารํ ตุลฺจ อตุลฺจ อวสฺสชิ, อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต กวจํ อภินฺทิ อิว, เอวํ อตฺตสมฺภวํ อภินฺทิ ปทาลยีติ โยชนา กาตพฺพา. อถ วา มุนิ สมฺพุทฺโธ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจา ¶ ทุกฺขา อนตฺตา วิปริณามธมฺมา, นิพฺพานํ ปน นิจฺจํ สุขํ อสงฺขตํ อวิปริณามธมฺม’’นฺติ ตุลํ ตุลยนฺโต อตุลํ นิพฺพานํ ทิสฺวา สมฺภวํ ภวสงฺขารํ อริยมคฺเคน อวสฺสชิ. กถํ อวสฺสชิ? โส หิ มุนิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต จ หุตฺวา, สมถวเสน อุปจารปฺปนาสุ สมาหิโต จ หุตฺวา กวจํ อภินฺทิ อิว, เอวํ อตฺตสมฺภวํ อตฺตนิ สฺชาตํ กิเลสํ อภินฺทิ ปทาลยิ, กิเลสาภาเวน กมฺมฺจ ชหีติ คาถาตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘ตุลมตุลฺจ สมฺภว’’นฺติ ปฺตฺติ สพฺพธมฺมานํ อภิฺาย ปฺาปนโต อภิฺาปฺตฺติ นาม, ธมฺมปฏิสมฺภิทาย นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, ‘‘ภวสงฺขารมวสฺสชิ มุนี’’ติ ปฺตฺติ สมุทยสฺส ปริจฺจาคสฺส จ ปฺาปนโต ปริจฺจาคปฺตฺติ นาม, ทุกฺขสฺส ปริฺาย จ ปฺาปนโต ปริฺาปฺตฺติ นาม, ‘‘อชฺฌตฺตรโต สมาหิโต’’ติ ปฺตฺติ กายคตาย สติยา ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม, จิตฺเตกคฺคตาย ิติยา จ ปฺาปนโต ิติปฺตฺติ นาม, ‘‘อภินฺทิ กวจมิวตฺตสมฺภว’’นฺติ ปฺตฺติ จิตฺตสฺส อภินิพฺพิทาย จ ปฺาปนโต อภินิพฺพิทาปฺตฺติ นาม, สพฺพฺุตาย อุปาทานสฺส จ ปฺาปนโต อุปาทานปฺตฺติ นาม, อวิชฺชาณฺฑโกสานํ ปทาลนาย จ ปฺาปนโต ปทาลปฺตฺติ นาม, ‘‘ยถาวุตฺโต ปฺตฺติปฺปเภโท เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถาวุตฺตสฺส ปฺตฺติปฺปเภทสฺส ¶ สมฺภวโต ภควา ยํ ‘‘ตุลมตุล’’นฺติอาทิคาถมาห, ตถาสมฺภวโต ยถาวุตฺตาย คาถาย ยถาวุตฺโต ปฺตฺติปฺปเภโท สทฺทหิตพฺโพติ.
‘‘ตุลมตุลฺจา’’ติอาทิคาถายํ ปฺตฺติปฺปเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต.
‘โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ, กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย;
กามา หิ โลเก สงฺโคติ ตฺวา, เตสํ สตีมา วินยาย สิกฺเข’ติ. –
คาถายํ ปน กถํ ปฺตฺติเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โย ทุกฺขมทฺทกฺขี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โย อารทฺธวิปสฺสโก ชนฺตุ ยโตนิทานํ สพฺพํ เตภูมกํ ¶ เหตุผลํ ทุกฺขํ อทฺทกฺขิ, โส อารทฺธวิปสฺสโก ชนฺตุ กาเมสุ กถํ นเมยฺย นเมตุํ นารหติ. กามา โลเก ‘‘สงฺโค’’ติ หิ ยสฺมา ปสฺสิตพฺพา, ตสฺมา นเมตุํ นารหติ, อิติ เอตํ ทุกฺขภาวํ ทุกฺขเหตุภาวํ ตฺวา เตสํ กามานํ วินยาย วูปสมาย สติมา กายคตาสติสมฺปนฺโน ตีณิ สิกฺขานิ สิกฺเข สิกฺเขยฺยาติ คาถาตฺโถ สงฺเขเปน วิฺาตพฺโพ. อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๑) ปน วิตฺถาเรน สํวณฺณิโต.
‘‘โย ทุกฺข’’นฺติ ปฺตฺติ ทุกฺขสฺส เววจนสฺส จ ปริฺาย จ ปฺาปนโต เววจนปฺตฺติ, ปริฺาปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘ยโตนิทาน’’นฺติ ปฺตฺติ สมุทยสฺส ปภวสฺส จ ปหานสฺส จ ปฺาปนโต ปภวปฺตฺติ เจว ปหานปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘อทฺทกฺขี’’ติ ปฺตฺติ าณจกฺขุสฺส เววจนสฺส จ ปฏิเวธสฺส จ ปฺาปนโต เววจนปฺตฺติ เจว ปฏิเวธปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺยา’’ติ ปฺตฺติ กามตณฺหาย เววจนสฺส จ อนภินิวิสสฺส จ ปฺาปนโต เววจนปฺตฺติ เจว อนภินิเวสปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘กามา หิ โลเก สงฺโคติ ตฺวา’’ติ ปฺตฺติ กามานํ ปจฺจตฺถิกโต ทสฺสนสฺส จ ปฺาปนโต ทสฺสนปฺตฺติ นาม. กามา หิ อนตฺถชานนโต ปจฺจตฺถิกสทิสา.
‘‘กีทิสา หุตฺวา อนตฺถชนกา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘กามา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กามา ราคคฺคิอาทีหิ อนฺโตทยฺหนโต องฺคารกาสูปมา จ, ปูติภาวาปชฺชนโต มํสเปสูปมา จ, พหิ อฺเน ทยฺหนโต ปาวกกปฺปา ชลิตคฺคิกฺขนฺธูปมา จ, ปติฏฺานาภาวโต ปปาตูปมา จ, วิสสทิเสหิ โทสาทีหิ ปรหึสนโต อุรโคปมา จ. ‘‘เตสํ สตีมา’’ติ ปฺตฺติ ปหานาย อปจยสฺส จ ปฺาปนโต อปจยปฺตฺติ นาม, กายคตาย สติยา นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต ¶ นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, มคฺคสฺส ภาวนาย จ ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม. ‘‘วินยาย สิกฺเข’’ติ ปฺตฺติราควินยสฺส โทสวินยสฺส โมหวินยสฺส ปฏิเวธสฺส จ ปฺาปนโต ปฏิเวธปฺตฺติ นาม. ‘‘ชนฺตู’’ติ ปฺตฺติ โยคิสฺส เววจนสฺส จ ปฺาปนโต เววจนปฺตฺติ นาม.
‘‘ชนฺตูติ สามฺสตฺตวาจโก สทฺโท กสฺมา โยคิวาจโกติ วิฺาตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยทา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โยคี ยทา ยสฺมึ กาเล ¶ กามา สงฺโคติ ปชานาติ, ตทา ตสฺมึ กาเล โส โยคี กามานํ อนุปฺปาทาย กุสเล ธมฺเม กายคตาสติอาทีหิ อุปฺปาทยติ, โส กุสเล ธมฺเม อุปฺปาเทนฺโต โยคี อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย วายมติ กุสลวีริยํ กโรติ, ตสฺมา โยคีวาจโก ชนฺตุสทฺโทติ วิฺาตพฺโพ. ‘‘ชนฺตู’’ติ อยํ ปฺตฺติ อปฺปตฺตสฺส กุสลสฺส ฌานธมฺมาทิกสฺส ปตฺติยา วายามสฺส จ ปฺาปนโต วายามปฺตฺติ นาม, โอรมตฺติกาย อสนฺตุฏฺิยา นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม. ‘‘โส อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย วายมตี’’ติ อยํ ปฺตฺติ วายามปฺตฺติ, ‘‘เหตุโส อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา วายมตีติ ปฺตฺติ กตมา ปฺตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โส อุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมึ ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทิมฺหิ. ‘‘โส อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา วายมตี’’ติ อยํ ปฺตฺติ ภาวนาย อปฺปมาทสฺส จ ปฺาปนโต อปฺปมาทปฺตฺติ นาม, วีริยินฺทฺริยสฺส นิกฺเขปสฺส จ ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม, กุสลานํ ธมฺมานํ อารกฺขสฺส จ ปฺาปนโต อารกฺขปฺตฺติ นาม, อธิจิตฺตสิกฺขาย ิติยา จ ปฺาปนโต ิติปฺตฺติ นาม. ‘‘เกน ยถาวุตฺตปฺปกาโร ปฺตฺติปฺปเภโท สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทาน’’นฺติอาทิคาถาย ปฺตฺติปฺปเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต.
‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก, ภพฺพรูโปว ทิสฺสติ;
อุปธิพนฺธโน พาโล, ตมสา ปริวาริโต;
อสฺสิรี วิย ขายติ, ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจนนฺติ. –
คาถายํ ปน กถํ ปฺตฺติปฺปเภโท วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โมหสมฺพนฺธโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โมหสมฺพนฺธโนติ โมหเหตุเกหิ สํโยชเนหิ สมฺพนฺโธ. โลโกติ อปฺปหีนสํโยชโน สตฺตโลโก. ภพฺพรูโปว ¶ ทิสฺสตีติ อภพฺโพปิ อตฺตา ภพฺพรูโปว ภพฺพชาติโก วิย พาลานํ อวิปสฺสกานํ ทิสฺสติ. อุปธิพนฺธโนติ กิเลสูปธีหิ พนฺธิตพฺโพ. ยุ-ปจฺจโย หิ กมฺมตฺเถ วิหิโต. อุปธีสุ วา กิเลสานํ พนฺธนํ ยสฺส พาลสฺสาติ อุปธิพนฺธโน. ทฺเว อวฑฺฒิโย ลาติ คณฺหาตีติ พาโล. ตมสา สมฺโมเหน ปริวาริโต ปฏิจฺฉาทิโต ปณฺฑิตานํ วิปสฺสกานํ อสฺสิรี วิย สิรีวิรหิโต วิย ขายติ ¶ อุปฏฺาติ. ปสฺสโต ปฺาจกฺขุนา ปสฺสนฺตสฺส ปณฺฑิตสฺส กิฺจนํ นตฺถีติ สงฺเขปตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก’’ติ ปฺตฺติ โมหสีเสน คหิตานํ วิปลฺลาสานํ เทสนาย ปฺาปนโต เทสนาปฺตฺติ นาม. ‘‘ภพฺพรูโปว ทิสฺสตี’’ติ ปฺตฺติ โลกสฺส วิปรีตสฺส วิปรีตากาเรน อุปฏฺหนฺตสฺส ปฺาปนโต วิปรีตปฺตฺติ นาม. ‘‘อุปธิพนฺธโน พาโล’’ติ ปฺตฺติ ปาปกานํ อิจฺฉาวจรานํ ปภวสฺส ปฺาปนโต ปภวปฺตฺติ นาม. ‘‘อุปธิพนฺธโน พาโล’’ติ ปฺตฺติ ปริยุฏฺานานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ พนฺธนกิจฺจสฺส ปฺาปนโต กิจฺจปฺตฺติ นาม. ‘‘อุปธิพนฺธโน พาโล’’ติ ปฺตฺติ กิเลสานํ พนฺธนพลมูหนพลานํ ปฺาปนโต พลปฺตฺติ นาม. ‘‘อุปธิพนฺธโน พาโล’’ติ ปฺตฺติ สงฺขารานํ วิรุหนาย ปฺาปนโต วิรุหนาปฺตฺติ นาม. ‘‘ตมสา ปริวาริโต’’ติ ปฺตฺติ อวิชฺชนฺธการสฺส เทสนาย ปฺาปนโต เทสนาปฺตฺติ นาม, อวิชฺชนฺธการสฺส เววจนสฺส จ ปฺาปนโต เววจนปฺตฺติ นาม. ‘‘อสฺสิรี วิย ขายตี’’ติ ปฺตฺติ ทิพฺพจกฺขุสฺส ทสฺสนกิริยาย ปฺาปนโต ทสฺสนปฺตฺติ นาม. ‘‘อสฺสิรี วิย ขายตี’’ติ ปฺตฺติ ปฺาจกฺขุสฺส นิกฺเขปสฺส ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม. ‘‘ปสฺสโต นตฺถิ กิฺจน’’นฺติ ปฺตฺติ สตฺตานํ อริยานํ ปฏิเวธสฺส ปฺาปนโต ปฏิเวธปฺตฺติ นาม.
‘‘กตมํ กิฺจน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ราโค กิฺจน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ยถาวุตฺโต ปฺตฺติปฺปเภโท กถํ อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถาวุตฺตสฺส ปฺตฺติปฺปเภทสฺส สมฺภวโต ภควา ยํ ‘‘โมหสมฺพนฺธโน’’ติอาทิมาห, ตถาสมฺภวโต ตาย คาถาย ยถาวุตฺโต ปฺตฺติปฺปเภโท คาถานุสาเรน สทฺทหิตพฺโพ.
‘‘โมหสมฺพนฺธโน โลโก’’ติอาทิคาถาย ปฺตฺติปฺปเภโท อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาต’นฺติอาทิปาสฺส ปฺตฺติปฺปเภโท กถํ วิภตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว’’ติอาทิปาฬิมาห. ‘‘สา ปน ปาฬิ กิมตฺถํ ภควตา วุตฺตา’’ติ เจ ปุจฺเฉยฺย? ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา นิพฺพานํ นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อตฺถิ นิพฺพาน’’นฺติ ¶ วจนํ สสวิสาณวจนํ วิย อนตฺถํ, โวหารมตฺตเมตนฺติ วทนฺตานํ มิจฺฉาวาทํ ภฺชิตุํ ภควตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.
กุโตจิปิ ¶ อชาตตฺตา อภูตตฺตา อชาตํ อภูตํ. ปจฺจเยหิ อกตตฺตา อกตํ. สงฺขตาภาวโต อสงฺขตํ นิพฺพานํ อตฺถิ. เอตํ อชาตาทิกํ นิพฺพานํ โน เจ อภวิสฺส, เอวํ สติ นิสฺสรณํ น ปฺาเยถ, นิพฺพานสฺส จ อริยมคฺคผลานํ อารมฺมณตฺตา, มคฺคผลานฺจ กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทนโต ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต, สมุจฺฉินฺทเนน จ ติวิธสฺส วฏฺฏสฺส อปวฏฺฏนโต อชาตาทิกํ นิพฺพานํ อตฺถิเยวาติ ทฏฺพฺพํ.
‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ…เป… อสงฺขต’’นฺติ อยํ ปฺตฺติ นิพฺพานสฺส เทสนาปฺตฺติ จ นิพฺพานสฺส เววจนปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘นยิธ ชาตสฺส…เป… ปฺาเยถา’’ติ อยํ ปฺตฺติ สงฺขตสฺส เววจนปฺตฺติ จ สงฺขตสฺส อุปนยนปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘ยสฺมา จ…เป… อสงฺขต’’นฺติ อยํ ปฺตฺติ นิพฺพานสฺส เววจนปฺตฺติ จ นิพฺพานสฺส โชตนาปฺตฺติ จ โหติ. ‘‘ยสฺมา ชาตสฺส…เป… ปฺายตี’’ติ อยํ ปฺตฺติ นิพฺพานสฺส เววจนปฺตฺติ จ มคฺคสฺส สํสารโต นิยฺยานิกปฺตฺติ จ นิสฺสรณปฺตฺติ จ โหตีติ ปฺตฺติวิเสโส ปณฺฑิเตหิ นิทฺธาเรตฺวา คเหตพฺโพ.
‘‘ยถาวุตฺโต นิพฺพานสฺส ปฺตฺติปฺปเภโท เกน สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เตนาห อายสฺมา’’ติอาทฺยานุสนฺธฺยาทิอตฺโถ เจว ‘‘นิยุตฺโต ปฺตฺติหาโร’’ติ อนุสนฺธฺยาทิอตฺโถ จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
อิติ ปฺตฺติหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๒. โอตรณหารวิภงฺควิภาวนา
๔๒. เยน ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปฺตฺติหารวิภงฺเคน ปฺตฺติโย วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม โอตรโณ หารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม โอตรโณ หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ ¶ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส โอตรโณ หาโร โอตรณหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘โย จ ปฏิจฺจุปฺปาโท’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส โอตรโณ หาโร โอตรณหารวิภงฺโค นามาติ คเหตพฺโพ.
ตตฺถ ปาเ ‘‘กตเม ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทโย นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ นิทฺธาริเตหิ ธมฺเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมสฺมึ ปาเ อิเม ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทโย นิทฺธาเรตฺวา อิเมหิ นิทฺธาริเตหิ ธมฺเมหิ โอตรตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุทฺธนฺติ กามธาตุโต อุทฺธํ อุปริภาเค ปวตฺตาย รูปธาตุอรูปธาตุยา. อโธติ รูปธาตุโต เหฏฺาภาเค ปวตฺตาย กามธาตุยา. สพฺพธีติ สพฺพสฺมึ กามรูปอรูปธาตุมฺหิ. วิปฺปมุตฺโตติ ปฏิสนฺธิวเสน อปฺปวตฺตนโต วิปฺปมุตฺโต อเสกฺโข. อยํ เสกฺโข ทสฺสนมคฺเคน สกฺกายทิฏฺิยา สมุคฺฆาตตฺตา ‘‘อหํ อสฺมี’’ติ อนานุปสฺสี วิหรติ. เอวํ เสกฺขาย วิมุตฺติยา เจว อเสกฺขาย วิมุตฺติยา จ เสกฺโข เจว อเสกฺโข จ อติณฺณปุพฺพํ โอฆํ อปุนพฺภวาย วิมุตฺโต อุทตารีติ คาถาตฺโถ คเหตพฺโพ.
ตสฺมึ คาถาปาเ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อุทฺธนฺติ รูปธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุทฺธนฺติ มนุสฺสโลกโต อุทฺธํ จาตุมหาราชิกาทโยปิ คหิตาติ อตฺถสมฺภวโต ตํ นิวตฺเตตุํ ‘‘รูปธาตุ อรูปธาตู’’ติ วุตฺตํ. อโธติ มนุสฺสภวโต อโธ จตฺตาโร อปายภูมิโย จ คหิตาติ อตฺถสมฺภวโต ตํ นิวตฺเตตุํ ‘‘กามธาตู’’ติ วุตฺตํ. สพฺพธีติ จตุภูมิเกติ อตฺถสมฺภวโต ‘‘เตธาตุเก’’ติ วุตฺตํ. อยํ อเสกฺขา วิมุตฺตีติ วิมุตฺตสฺส อเสกฺขสฺส ยา วิราคตา อตฺถิ, อยมฺปิ วิราคตา อเสกฺขผลวิมุตฺติ. ‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติ ปาเ วุตฺตปฺปการา อยํ อเสกฺขา วิมุตฺติ นิทฺธาริตาติ อตฺโถ. นิทฺธาริตาย อเสกฺขาย วิมุตฺติยา ยานิ สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานิ นิทฺธาริตานิ, ตานิเยว อเสกฺขานิ ¶ ปฺจินฺทฺริยานิ ภวนฺติ. อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา อินฺทฺริเยหิ วิมุตฺติยา โอตรณา นาม ปเวสนา นาม.
ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชาย อุปการกตฺตา, ปฺาปทฏฺานตฺตา วา วิชฺชา ภวนฺติ. วิชฺชุปฺปาทา ตาทิสาย วิชฺชาย อุปฺปาทา อุปฺปาทเหตุโต ¶ อวิชฺชานิโรโธ อวิชฺชาย นิโรโธ โหติ…เป… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ, อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา นาม.
ตานิเยว อเสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ สทฺธาวีริเยหิ สีลสมฺภวโต, สติยา จ ปฺานุวตฺตกตฺตา. เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.
‘‘อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต’’ติ ปาเ นิทฺธาเรตฺวา โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสี’’ติ ปาเ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรเณหิ โอตรตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสีติ อยํ สกฺกายทิฏฺิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โย อยํ เสกฺโข ‘‘อหมสฺมี’’ติ นานุปสฺสี, ตสฺส เสกฺขสฺส สกฺกายทิฏฺิยา โย สมุคฺฆาโต อตฺถิ, ยา สมุคฺฆาตสงฺขาตา สมุคฺฆาตวิมุตฺติ เสกฺขา วิมุตฺติ โหติ, ตสฺสา เสกฺขาย วิมุตฺติยา ยานิ สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานิ นิทฺธาริตานิ, ตานิเยว เสกฺขานิ ปฺจินฺทฺริยานิ ภวนฺติ. อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา อินฺทฺริเยหิ โอตรณา นาม. เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.
๔๓. ‘‘อุทฺธํ อโธ’’ติอาทิคาถายํ โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติอาทิปาเ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถี’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิสฺสิตสฺส ปุคฺคลสฺส จลิตํ จลนํ อตฺถิ, อนิสฺสิตสฺส ปุคฺคลสฺส จลิตํ จลนํ นตฺถิ. จลิเต จลเน อสติ ปสฺสทฺธิ ภวติ, ปสฺสทฺธิยา สติ วิชฺชมานาย นติ น โหติ, นติยา อสติ อวิชฺชมานาย อาคติคติ น โหติ, อาคติคติยา อสติ อวิชฺชมานาย จุตูปปาโต น โหติ, จุตูปปาเต อสติ อวิชฺชมาเน อิธ ฉสุ อชฺฌตฺติกายตเนสุ อตฺตานํ เนว ปสฺสติ, หุรํ วา ฉสุ พาหิรายตเนสุ อตฺตานํ น ปสฺสติ, อุภยํ อนฺตเรน วชฺเชตฺวา ผสฺสาทิสมุทาเยสุ ธมฺเมสุ อตฺตานํ น ปสฺสติ, เอโสว ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ‘‘อวิชฺชานิโรธา’’ติอาทิโก ทุกฺขสฺส อนฺโต อวสานํ กโรตีติ อตฺโถ.
นิสฺสิตสฺส ¶ จลิตนฺติ เอตฺถ ‘‘นิสฺสโย กติวิโธ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิตนฺติ นิสฺสโย นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ทุวิเธสุ ตณฺหานิสฺสยทิฏฺินิสฺสเยสุ ¶ ยา เจตนา รตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา, อยํ เจตนาธมฺโม ตณฺหานิสฺสโย นาม. ยา เจตนา มูฬฺหสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา. อยํ เจตนาธมฺโม ทิฏฺินิสฺสโย นาม. สา ทุวิธา เจตนา ปน สงฺขารา นาม. สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ…เป… สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท นิทฺธาริโต. อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา ปฏิจฺจสมุปฺปาเทหิ โอตรณา นาม.
ตตฺถาติ ตสฺมึ ตณฺหานิสฺสยทิฏฺินิสฺสเย ยา เวทนา รตฺตสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา, อยํ สุขา เวทนา. ยา เจตนา สมฺมูฬฺหสฺส ปุคฺคลสฺส นิทฺธาริตา, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา. เยภุยฺเยน เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.
๔๔. ‘‘นิสฺสิตสฺส จลิต’’นฺติอาทิปาเ โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา.
‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา…เป…
ปิยํ น กยิราถ กุหิฺจิ โลเก’’ติ. –
คาถาปาเ ‘‘กตเม นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เย เกจิ โสกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เย เกจิ โสกา วา ยา กาจิ ปริเทวิตา วา อเนกรูปา ยา กาจิ ทุกฺขา วา โลกสฺมึ สมฺภวนฺติ. เอเต โสกาทโย ปิยํ ปฏิจฺจ ปภวนฺติ, ปิเย อสนฺเต เอเต โสกาทโย น ภวนฺติ. ตสฺมา ปิเย อสนฺเต โสกาทีนํ อภาวโต เยสํ วีตโสกานํ กุหิฺจิ โลเกปิ นตฺถิ, เต วีตโสกา สุขิโน ภวนฺติ. ตสฺมา วีตโสกานํ สุขสมฺปนฺนตฺตา อโสกํ วิรชํ ปตฺถยาโน สปฺปุริโส กุหิฺจิ โลเก ปิยํ น กยิราถาติ คาถาตฺโถ.
‘‘เย เกจิ โสกา ปริเทวิตา วา, ทุกฺขา จ โลกสฺมิมเนกรูปา ปิยํ ปฏิจฺจ ปภวนฺติ เอเต’’ติ เอตฺถ ปาเ ยา เวทนา นิทฺธาริตา, อยํ ทุกฺขา เวทนา. เสสา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพา.
‘‘เย เกจิ โสกา’’ติอาทิคาถาปาเ โอตรณา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา ¶ , ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติอาทิคาถาปาเ ‘‘กตเม ¶ นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ โอตรตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสํ คาถายํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว.
ตตฺถาติ ตสฺมึ ‘‘ปีติมโน โหตี’’ติ ปาเ ยา ปีติมนตา วุตฺตา นิทฺธาริตา, อยํ ปีติมนตา อนุนโย โหติ. ‘‘สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตี’’ติ ปาเ ยํ รุปฺปนํ อาห, อิทํ รุปฺปนํ ปฏิฆํ โหติ, อนุนโย จ ปฏิฆฺจ นิทฺธาริตาติ อตฺโถ.
‘‘อนุนเย จ ปฏิเฆ จ นิทฺธาริเต กตโม ธมฺโม นิทฺธาริโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อนุนโย ปฏิฆฺจ ปน ตณฺหาปกฺโข’’ติ วุตฺตํ. ตณฺหาปกฺโขติ ตณฺหาปกฺขตฺตา ตณฺหา นิทฺธาริตา. ‘‘อนุนโย ตณฺหาปกฺโข โหตุ, ปฏิฆํ ปน ตณฺหาปกฺขํ น สิยา’’ติ เจ วเทยฺย? ปฏิฆสฺส อตฺตสิเนหวเสน ปวตฺตนโต ปฏิฆมฺปิ ตณฺหาปกฺขํ โหติ. ‘‘ตณฺหาย นิทฺธาริตาย กตโม นิทฺธาริโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตณฺหาย จ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทสนฺนํ รูปายตนานํ ตณฺหาย ปทฏฺานตฺตา ทส รูปานิ อายตนานิ นิทฺธาริตานิ. อยํ วุตฺตปฺปการา โอตรณา อายตเนหิ โอตรณา นาม. สุตฺเต อาคตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทโย เตน สํวณฺณนาวิเสเสน นเยน นิทฺธาริตา, สุตฺตตฺถมุเขน วา นิทฺธาริตา, เตน…เป… นเยน นิทฺธาริเตสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีสุ โย สํวณฺณนานยวิเสโส ตทตฺถวาจกวเสน วา ตทตฺถาปกวเสน วา โอตรติ ปวิสติ สโมสรติ, โส สํวณฺณนานยวิเสโส โอตรโณ หาโร นามาติ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. เสเสสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน โอตรณา คเหตพฺพา. ‘‘เตนาห อายสฺมา’’ติอาทฺยานุสนฺธฺยาทิอตฺโถ เจว ‘‘นิยุตฺโต โอตรโณ หาโร’’ติ อนุสนฺธฺยาทิอตฺโถ จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
อิติ โอตรณหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๓. โสธนหารวิภงฺควิภาวนา
๔๕. เยน ¶ ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน โอตรณหารวิภงฺเคน โอตเรตพฺพา สุตฺตตฺถา วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม โสธนหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม โสธโน หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส โสธโน หาโร โสธนหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘วิสฺสชฺชิตมฺหิ ปฺเห’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘ยถา อายสฺมา อชิโต’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส โสธนหารวิภงฺโค นามาติ คเหตพฺโพ. ‘‘กถํ ตตฺถ ปฺเห โสธโน หาโร วิฺาตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถา อายสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา เยน ปกาเรน อายสฺมา อชิโต ปารายเน ภควนฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉติ, ตถา เตน ปกาเรน วิสฺสชฺชิตมฺหิ ปฺเห อยํ โสธโน หาโร วิฺาตพฺโพติ. ‘‘นิยเมตฺวา วิภเชหี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา นิยเมตฺวา วิภชิตุํ ‘‘เกนสฺสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. คาถาตฺโถ วุตฺโตว.
‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;
กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ. –
ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตคาถายฺจ –
‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, (อชิตาติ ภควา,)
วิวิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;
ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ. –
วิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตคาถายฺจาติ อิมาสุ ทฺวีสุ คาถาสุ ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ อิมินา ปเทน ปฺเห ปุจฺฉิเต ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ อิมินา ปเทน ภควา ‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก’’ติ ปทํ ตทตฺเถ อฺาณสํสยาทิมลานํ อปนยเนน โสเธติ. ตทตฺเถ หิ วิสฺสชฺชิเต อฺาณสํสยาทีนํ อภาวโต อตฺโถ โสธิโต นาม, อตฺเถ จ โสธิเต ปทมฺปิ โสธิตํเยว. เตนาห อฏฺกถายํ – ‘‘ตทตฺถสฺส วิสฺสชฺชนโต’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๕), ฏีกายฺจ ‘‘ตพฺพิสยอฺาณสํสยาทิมลาปนยเนน โสเธตี’’ติ วุตฺตํ. โน จ อารมฺภนฺติ ปุจฺฉิตุํ อารภิตพฺพํ ¶ สพฺพคาถาปทํ, คาถาตฺถํ วา, าตุํ อิจฺฉิตสฺส สพฺพสฺส อตฺถสฺส วิสฺสชฺชนวเสน อปริโยสิตตฺตา ¶ ภควา ‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก’’ติ เอตฺตเกเนว ปเทน โสเธติ. เสเสสุปิ เอส นโย.
‘‘กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ อิมินา ปเทน ปฺเห ปุจฺฉิเต ‘‘ทุกฺขมสฺส มหพฺภย’’นฺติ ปเทน ภควตา อารมฺโภ าตุํ อิจฺฉิโต อตฺโถ สุทฺโธ โสธิโต โหติ. เสสคาถาสุปิ เอเสว นโย.
ยตฺถ ปฺเห เอวํ นิรวเสสวิสฺสชฺชนวเสน อารมฺโภ สุทฺโธ โสธิโต ภวติ, โส ปฺโห วิสฺสชฺชิโต โสธิโต ภวติ. ยตฺถ ปฺเห เอวํ นิรวเสสวิสฺสชฺชนวเสน อารมฺโภ ยาว อสุทฺโธ อโสธิโต ภวติ, ตาว โส ปฺโห วิสฺสชฺชิโต โสธิโต น ภวตีติ โยชนา. ‘‘เตนาหา’’ติอาทฺยานุสนฺธฺยาทฺยตฺโถ เจว ‘‘นิยุตฺโต โสธโน หาโร’’ติ อนุสนฺธฺยาทฺยตฺโถ จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
อิติ โสธนหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๔. อธิฏฺานหารวิภงฺควิภาวนา
๔๖. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน วิภงฺเคน ปฺหาทโย โสธิตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม อธิฏฺานหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม อธิฏฺาโน หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ปฏินิทฺเทสโต อธิฏฺาโน หาโร อธิฏฺานหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘เอกตฺตตาย ธมฺมา, เยปิ จ เวมตฺตตาย นิทฺทิฏฺา’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘เย ตตฺถ นิทฺทิฏฺา, ตถา เต ธารยิตพฺพา’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส อธิฏฺานหารวิภงฺโค นามาติ คเหตพฺโพ.
‘‘เย ¶ ธมฺมา สุตฺเตสุ เอกตฺตตาย จ เวมตฺตตาย จ นิทฺทิฏฺา, เต ธมฺมา กึ ปน ตเถว ธารยิตพฺพา ¶ , อุทาหุ อฺถาปิ วิกปฺปยิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เย ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ สุตฺตนฺเตสุ เย ทุกฺขสจฺจาทโย ธมฺมา เอกตฺตตาย จ เวมตฺตตาย จ นิทฺทิฏฺา, เต ทุกฺขสจฺจาทโย ธมฺมา ตถา เอกตฺตตาย จ เวมตฺตตาย จ ธารยิตพฺพา อุปลกฺขิตพฺพา, น อฺถา วิกปฺปยิตพฺพา.
‘‘สามฺกปฺปนาย โวหารภาเวน อนวฏฺานโต กตมา เอกตฺตตา, กตมา เวมตฺตตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทุกฺขนฺติ เอกตฺตตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุกฺขนฺติ ชาติอาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา ทุกฺขสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ ทุกฺขสามฺตา ทุกฺขสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺข’’นฺติ ปุจฺฉิตา ‘‘ชาติ ทุกฺขา, ชรา ทุกฺขา…เป... วิฺาณํ ทุกฺข’’นฺติ ชาติอาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา ทุกฺขวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ ทุกฺขวิเสสตา ทุกฺขสฺส เวมตฺตตา นาม. ตตฺถาติ เย ทุกฺขาทโย ธมฺมา สุตฺเต วุตฺตา, ตตฺถ เตสุ ทุกฺขาทีสุ อตฺเถสุ.
ทุกฺขสมุทโยติ ‘‘ตณฺหา โปโนภวิกา’’ติ วิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา สมุทยสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ สมุทยสามฺตา สมุทยสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม สมุทโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ยายํ ตณฺหา…เป… วิภวตณฺหา’’ติ วิเสสํ อเปกฺขิตฺวา ยา สมุทยวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ สมุทยวิเสสตา สมุทยสฺส เวมตฺตตา นาม.
ทุกฺขนิโรโธติ ‘‘ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ’’ติ วิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา นิโรธสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ นิโรธสามฺตา นิโรธสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย’’ติ วิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา นิโรธวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ นิโรธวิเสสตา นิโรธสฺส เวมตฺตตา นาม.
ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทาติ? ปฏิปทาติ สมฺมาทิฏฺิอาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา นิโรธคามินิปฏิปทาสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ นิโรธคามินิปฏิปทาสามฺตา มคฺคสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อยเมว อริโย…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ สมฺมาทิฏฺิอาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา วิเสสทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทตา วุตฺตา, สา อยํ วิเสสทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทตา มคฺคสฺส เวมตฺตตา นาม.
มคฺโคติ นิรยคามิมคฺคาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา สามฺมคฺคตา วุตฺตา, สา อยํ สามฺมคฺคตา ¶ มคฺคสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม มคฺโค’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นิรยคามี มคฺโค…เป… นิพฺพานคามี มคฺโค’’ติ นิรยคามิมคฺคาทิวิเสสํ อเปกฺขิตฺวา ยา วิเสสมคฺคตา วุตฺตา, สา อยํ วิเสสมคฺคตา มคฺคสฺส เวมตฺตตา นาม.
นิโรโธติ ปฏิสงฺขานิโรธาทิวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา ยา สามฺนิโรธตา วุตฺตา, สา อยํ สามฺนิโรธตา นิโรธสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม นิโรโธ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปฏิสงฺขานิโรโธ…เป… สพฺพกิเลสนิโรโธ’’ติ ปฏิสงฺขานิโรธาทิวิเสสํ อเปกฺขิตฺวา ยา วิเสสนิโรธตา วุตฺตา, สา อยํ วิเสสนิโรธตา นิโรธสฺส เวมตฺตตา นาม.
รูปนฺติ จาตุมหาภูติกาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา สามฺรูปตา วุตฺตา, สา อยํ สามฺรูปตา รูปสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมํ รูป’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จาตุมหาภูติกํ…เป… วาโยธาตุยา จิตฺตํ วิราเชตี’’ติ จาตุมหาภูติกาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา วิเสสรูปตา วุตฺตา, สา อยํ วิเสสรูปตา รูปสฺส เวมตฺตตา นาม.
๔๘. อวิชฺชาติ ทุกฺเขอฺาณาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา อวิชฺชาสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ อวิชฺชาสามฺตา อวิชฺชาย เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ…เป… อวิชฺชาลงฺฆี โมโห อกุสลมูล’’นฺติ ทุกฺเขอฺาณาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา อวิชฺชาวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ อวิชฺชาวิเสสตา อวิชฺชาย เวมตฺตตา นาม.
วิชฺชาติ ทุกฺเขาณาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา วิชฺชาสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ วิชฺชาสามฺตา วิชฺชาย เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา วิชฺชา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ…เป… ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ ทุกฺเขาณาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา ¶ วิชฺชาวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ วิชฺชาวิเสสตา วิชฺชาย เวมตฺตตา นาม.
สมาปตฺตีติ สฺาสมาปตฺยาทิวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา ยา สามฺสมาปตฺติตา วุตฺตา, สา สามฺสมาปตฺติตา สมาปตฺติยา เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา สมาปตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สฺาสมาปตฺติ อสฺาสมาปตฺติ…เป… นิโรธสมาปตฺตี’’ติ สฺาสมาปตฺยาทิวิเสสํ อเปกฺขิตฺวา ยา วิเสสสมาปตฺติตา วุตฺตา, สา อยํ วิเสสสมาปตฺติตา สมาปตฺติยา เวมตฺตตา นาม.
ฌายีติ ¶ เสกฺขฌายีอาทิวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา ยา ฌายีสามฺตา วุตฺตา, สา ฌายีสามฺตา ฌายิโน เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม ฌายี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺถิ เสกฺโข ฌายี, อตฺถิ อเสกฺโข ฌายี…เป… ปฺุตฺตโร ฌายี’’ติ เสกฺขฌายีอเสกฺขฌายีอาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา ฌายีวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ ฌายีวิเสสตา ฌายิโน เวมตฺตตา นาม.
สมาธีติ สรณสมาธฺยาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา สมาธิสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ สมาธิสามฺตา สมาธิโน เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม สมาธี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สรโณ สมาธิ, อรโณ สมาธิ…เป… มิจฺฉาสมาธิ, สมฺมาสมาธี’’ติ สรณสมาธฺยาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา สมาธิวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ สมาธิวิเสสตา สมาธิโน เวมตฺตตา นาม.
ปฏิปทาติ อาคาฬฺหปฏิปทาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา ปฏิปทาสามฺตา วุตฺตา, อยํ ปฏิปทาสามฺตา ปฏิปทาย เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิปทา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาคาฬฺหปฏิปทา, นิชฺฌามปฏิปทา…เป… สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา’’ติ อาคาฬฺหปฏิปทาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา ปฏิปทาวิเสสตา วุตฺตา, สา อยํ ปฏิปทาวิเสสตา ปฏิปทาย เวมตฺตตา นาม.
กาโยติ นามกายาทิวิเสสมนเปกฺขิตฺวา ยา กายสามฺตา วุตฺตา, สา อยํ กายสามฺตา กายสฺส เอกตฺตตา นาม. ‘‘ตตฺถ กตโม กาโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นามกาโย รูปกาโย…เป… อยํ นามกาโย’’ติ นามกายาทิวิเสสมเปกฺขิตฺวา ยา กายวิเสสตา ¶ วุตฺตา, สา อยํ กายวิเสสตา กายสฺส เวมตฺตตา นามาติ โยชนา กาตพฺพา. ปทตฺถาทิโก วิเสโส อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๗) วิตฺถารโต วุตฺโต.
วุตฺตปฺปการสฺส ทุกฺขสมุทยาทิกสฺส ธมฺมสฺส เอกตฺตตาทิลกฺขณํ นิคมนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ โย ธมฺโม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวนฺติ อิมินา มยา วุตฺเตน ‘‘ทุกฺขนฺติ เอกตฺตตา. ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ? ชาติ ทุกฺขา, ชรา ทุกฺขา’’ติอาทิวจเนน. โย ธมฺโมติ โย โกจิ ชาติชราพฺยาธฺยาทิวิเสสธมฺโม. ยสฺส ธมฺมสฺสาติ ตโต ชาติอาทิวิเสสธมฺมโต อฺสฺส ชราทิวิเสสธมฺมสฺส. สมานภาโวติ ชาติอาทิวิเสสธมฺเมน ชราทิวิเสสธมฺมสฺส ทุกฺขภาเวน สมานภาโว. ตสฺส ธมฺมสฺสาติ ชราทิวิเสสธมฺมสฺส. เอกตฺตตายาติ ทุกฺขสมุทยตาทิสมานตาย ¶ ทุกฺขสมุทยาทิภาวานํ เอกีภาเวน. เอกีภวตีติ ชาติอาทิวิเสสเภเทน อเนโกปิ ‘‘ทุกฺขสมุทโย’’ติอาทินา เอกสทฺทาภิเธยฺยตาย เอกีภวติ. เยน เยน วา ปน วิลกฺขโณ, เตน เตน เวมตฺตํ คจฺฉติ. ยสฺส ชาติอาทิธมฺมสฺส เยน เยน อภินิพฺพตฺตนปริปาจนาทิสภาเวน โย ชาติอาทิธมฺโม ชราทิธมฺเมน วิลกฺขโณ วิสทิโส โหติ, ตสฺส ชาติอาทิธมฺมสฺส เตน เตน อภินิพฺพตฺตนปริปาจนาทิสภาเวน โส ชาติอาทิธมฺโม ชราทิธมฺเมน เวมตฺตตํ วิสทิสตฺตํ คจฺฉติ, ทุกฺขสมุทยาทิภาเวน สมาโนปิ ชาติอาทิธมฺโม ชราทิธมฺมสฺส วิสิฏฺตํ คจฺฉตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ทุกฺขสมุทยาทิธมฺมสฺส เอกตฺตเวมตฺตตา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘ตาย เอกตฺตเวมตฺตตาย กตฺถ ปุจฺฉิเต สติ อธิฏฺานํ วีมํสิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา สุตฺตาทิเก ปุจฺฉิเต สติ วีมํสิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ สุตฺเต วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวํ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน สุตฺเต วา ปุจฺฉิเต, เวยฺยากรเณ วา ปุจฺฉิเต, คาถายํ วา ปุจฺฉิตายํ สติ อธิฏฺานํ วีมํสิตพฺพํ. ‘‘กึ วีมํสิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺเฉยฺย ‘‘เอกตฺตตาย ปุจฺฉติ กึ, อุทาหุ เวมตฺตตาย ปุจฺฉติ กิ’’นฺติ วีมํสิตพฺพนฺติ โยชนา. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘อิทานิ ตาว เอกตฺตเวมตฺตตาวิสเย นิโยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘สุตฺเต วา เวยฺยากรเณ วา’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๘) วุตฺตํ. ‘‘กถํ ปุจฺฉิตํ, กถํ วิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยทิ เอกตฺตตายา’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. ‘‘เตนาหา’’ติอาทฺยานุสนฺธฺยาทิโก จ ‘‘นิยุตฺโต อธิฏฺาโน หาโร’’ติ อิมสฺส อนุสนฺธฺยาทิโก จ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.
อิติ อธิฏฺานหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๕. ปริกฺขารหารวิภงฺควิภาวนา
๔๙. เยน ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน วิภงฺเคน ทุกฺขสจฺจาทีนํ เอกตฺตตาทโย วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปริกฺขารหารวิภงฺโค นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปริกฺขาโร หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ปริกฺขาโร หาโร ปริกฺขารหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ ชนยนฺตี’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘โย ธมฺโม ยํ ธมฺมํ ชนยติ, ตสฺส โส ปริกฺขาโร’’ติอาทิโก ปริกฺขารภูตสฺส เหตุโน เจว ปจฺจยสฺส จ วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส ปริกฺขารวิภงฺโค นาม.
‘‘กตโม สํวณฺเณตพฺโพ ปริกฺขาโร’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โย ธมฺโม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย เหตุปจฺจยปฺปกาโร ธมฺโม ยํ ผลภูตํ ธมฺมํ ชนยติ ชเนติ, ตสฺส ผลธมฺมสฺส โส เหตุปจฺจยปฺปกาโร ธมฺโม ปริกฺขาโร นาม. ‘‘กึลกฺขโณ ปริกฺขาโร’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา ลกฺขณวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘กึลกฺขโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘ตตฺถ ‘โย ธมฺโม ยํ ธมฺมํ ชนยติ, ตสฺส โส ปริกฺขาโร’ติ สงฺเขปโต ปริกฺขารลกฺขณํ วตฺวา ตํ วิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘กึลกฺขโณ’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๙) วุตฺตํ. ‘‘กิตฺตกา ธมฺมา ชนยนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเว ธมฺมา ชนยนฺติ เหตุ จ ปจฺจโย จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘เหตุปิ การณํ, ปจฺจโยปิ การณํ ¶ , ตสฺมา การณาเยว เกน ลกฺขเณน ทฺวิธา วุตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กึลกฺขโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ชนิตพฺพผลโต อฺเหิ ผเลหิ อสาธารณลกฺขโณ เหตุ, สพฺพผเลหิ สาธารณลกฺขโณ ปจฺจโย, อิมินา วิเสสลกฺขเณน ทฺวิธา วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. ‘‘สาธารณาสาธารณวิเสโส กีทิโส ภเว’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา กึ ภเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ยถา องฺกุรสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา โย สาธารณาสาธารณวิเสโส อตฺถิ, ตถา โส สาธารณาสาธารณวิเสโส กึ วิย ภเวติ อตฺโถ. องฺกุรสฺส นิพฺพตฺติยา พีชํ อสาธารณํ ยถา, ตถา เหตุ ผลสฺส นิพฺพตฺติยา อสาธารโณ ภเว. ปถวี จ อาโป จ องฺกุรสฺส นิพฺพตฺติยา สาธารณา ภวนฺติ ยถา, ตถา ปจฺจโย ผลสฺส นิพฺพตฺติยา สาธารโณ ภเว. สพฺพผลสฺส ปจฺจยตฺตา องฺกุรสฺส พีชํ อสาธารณํ ชนกํ เหตุ. ‘‘กถํ ปถวี, อาโป จ สาธารณา ชนกาติ สทฺทหิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘องฺกุรสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมํ สมานํ ผลํ ภวาเปตีติ สภาโว, โก โส? พีชํ เหตุเยว. ‘‘กึ เหตุปจฺจยานํ วิเสโส พีชงฺกุโรปมาเยว ทสฺเสตพฺโพ, อุทาหุ อฺูปมายปิ ทสฺเสตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา อฺาย อุปมายปิ ¶ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิมาย อุปมายปิ เหตุปจฺจยานํ วิเสโส วิชานิตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
พีชงฺกุราทีสุ พาหิเรสุ ปริกฺขารภูตานํ เหตุปจฺจยานํ วิเสโส อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ อชฺฌตฺติเกสุ วิภตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อยฺหิ สํสาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ‘‘พาหิเรสุ ปริกฺขารภูโต เหตุปจฺจโย ยุตฺโต โหตุ, กถํ อชฺฌตฺติเกสุ ยุตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อยฺหิ สํสาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘เอวํ พาหิรํ เหตุปจฺจยวิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อชฺฌตฺติกํ ทสฺเสตุํ ‘อยฺหิ สํสาโร’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๙) วุตฺตํ. เหตุปจฺจเยหิ สห สํสาโร ภวตีติ สเหตุปจฺจโย. อยํ สํสาโร หิ ยสฺมา สเหตุปจฺจโย หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตสฺมา อชฺฌตฺติเกปิ ปริกฺขารภูโต เหตุปจฺจโย ยุตฺโตเยวาติ ทฏฺพฺโพติ อธิปฺปาโย.
โส ¶ อิมสฺส สํสารสฺส สเหตุปจฺจยตฺตํ ยทิ ภควตา วุตฺตํ, เอวํ สติ อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺพํ, ‘‘กถํ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอวฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวนฺติ อิมินา อวิชฺชาทินา เหตุปจฺจเยน สพฺโพ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท สํสาโรติ นิพฺพตฺโตติ ภควตา สํสารสฺส สเหตุปจฺจยตฺตํ วุตฺตํ, ตสฺมา สทฺทหิตพฺพํ. อวิชฺชาทโย สงฺขาราทีนํ ปจฺจโย โหตุ, ‘‘กตโม อวิชฺชาย เหตู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ อวิชฺชา อวิชฺชาย เหตู’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กตโม อวิชฺชาย ปจฺจโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อโยนิโส มนสิกาโร ปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กตมา อวิชฺชา กตมาย อวิชฺชาย เหตู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปุริมิกา อวิชฺชา ปจฺฉิมิกาย อวิชฺชาย เหตู’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กตมา ปุริมิกา อวิชฺชา กตมา ปจฺฉิมิกา อวิชฺชา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อวิชฺชาปริยุฏฺานสฺส เหตุภูโต ปุริโม อวิชฺชานุสโย สมนนฺตโรว กึ, อุทาหุ ปรมฺปรเหตุปิ โหตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘พีชงฺกุโร วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พีชงฺกุโรติ พีชานํ องฺกุโรติ พีชงฺกุโร, พีชานํ สมนนฺตรเหตุตาย องฺกุโร นิพฺพตฺตติ วิย. ยตฺถ รุกฺขาทิเก ยํ ผลํ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมึ รุกฺขาทิเก นิพฺพตฺตสฺส อสฺส ผลสฺส อิทํ พีชํ ปน ปรมฺปรเหตุตาย เหตุภูตํ ภวติ.
‘‘พีชํ ปน เอกํเยว โหติ, กถํ ทฺวิธา วตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทุวิโธ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ, สมนนฺตรกาลปรมฺปรกาลเภเทน เหตุปิ ทุวิโธ โหติเยวาติ อตฺโถ. พีชภูโต เหตุ ทุวิโธ ยถา, เอวํ อวิชฺชาย เหตุภูโต อวิชฺชานุสโยปิ สมนนฺตรเหตุ จ ปรมฺปรเหตุ จาติ กาลเภเทน ทุวิโธ ภวติ, สมนนฺตโร อวิชฺชานุสโย สมนนฺตรสฺส อวิชฺชาปริยุฏฺานสฺส สมนนฺตรเหตุ ¶ โหติ. ปุริมตโร อวิชฺชานุสโย ปจฺฉิมตรสฺส อวิชฺชาปริยุฏฺานสฺส ปรมฺปรเหตุ โหติ. อิติ พีชภูโต อสาธารโณ เหตุ, ปถวีอาปาทิโก สาธารโณ ปจฺจโยติ วิเสโส ปากโฏ ยถา, เอวํ อวิชฺชานุสโย อสาธารโณ เหตุ, อโยนิโสมนสิกาโร สาธารโณ ปจฺจโยติ วิเสโส ทฏฺพฺโพ.
‘‘เอตฺตเกเนว เหตุปจฺจยานํ วิเสโส วตฺตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถา วา ปน ถาลกฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘ยถา วา ปนาติอาทินาปิ ¶ เหตุปจฺจยวิภาคเมว ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ปทีปสฺส ปจฺจยภูตํ ถาลกฺจ วฏฺฏิ จ เตลฺจ ปทีปสฺส สภาวเหตุ สมานเหตุ น โหตีติ โยชนา. ‘‘ปทีปสฺส ปจฺจยภูตมฺปิ ถาลกาทิกํ สภาวเหตุ น โหตีติ กสฺมา สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘น หิ สกฺกา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปทีปสฺส ปจฺจยภูตํ อนคฺคิกํ อคฺคิรหิตํ ถาลกฺจ วฏฺฏิฺจ เตลฺจ ทีเปตุํ ชาเลตุํ หิ ยสฺมา น สกฺกา, ตสฺมา ปุริโม ปทีโป ปจฺฉิมสฺส ปทีปสฺส สภาวเหตุ โหติ วิย, เอวํ ถาลกาทิกํ สภาวเหตุ น โหติ. อิติ เอวํปกาโร สภาโว สมาโน ปทีโป เหตุ โหติ ยถา, ปรภาโว อสมาโน ถาลกาทิโก ปจฺจโย โหติ ยถา จ, ตถา อชฺฌตฺติโก สภาโว เหตุ โหติ, พาหิโร อสมาโน ปจฺจโย โหติ. ชนโก อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานสฺส เหตุ โหติ, ปริคฺคาหโก อุปตฺถมฺภโก ปจฺจโย โหติ. อฺเหิ ผเลหิ อสาธารโณ เหตุ โหติ, สพฺเพหิ ผเลหิ สาธารโณ ปจฺจโย โหตีติ โยเชตฺวา ปทีโปปมายปิ เหตุปจฺจยานํ ปากโฏ วิเสโส ทฏฺพฺโพติ อธิปฺปาโย.
เหตุปจฺจยปฺปเภทํ การณํ ปริกฺขาโรติ อาจริเยน วุตฺตํ, ตสฺส การณสฺส การณภาโว จ ผลาเปกฺโข โหติ, ตสฺมา ‘‘โย การณภาโว เยนากาเรน โหติ, กตโม โส การณภาโว, กตโม โส อากาโร’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา จ ‘‘ยํ ผลํ เยน วิเสเสน โหติ, กตมํ ตํ ผลํ, กตโม โส วิเสโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา จ ‘‘การณผลานํ โย สมฺพนฺโธ โหติ, กตโม โส สมฺพนฺโธ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา จ ตํ สพฺพํ วิภาเวตุํ ‘‘อวุปจฺเฉทตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยมนุสนฺธฺยตฺโถ จ อฏฺกถายํ ‘‘อิทานิ ยสฺมา การณํ ‘ปริกฺขาโร’ติ วุตฺตํ, การณภาโว จ ผลาเปกฺขาย, ตสฺมา การณสฺส โย การณภาโว ยถา จ โส โหติ, ยฺจ ผลํ, โย จ ตสฺส วิเสโส, โย จ การณผลานํ สมฺพนฺโธ, ตํ สพฺพํ วิภาเวตุํ ‘อวุปจฺเฉทตฺโถ’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๙) อิมินา วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ.
ตตฺถ อวุปจฺฉินฺนสฺส เหตุปจฺจยสงฺขาตสฺส การณสฺส โย อนุปจฺเฉทตฺโถ อตฺถิ, โส อนุปจฺเฉทตฺโถ ¶ สนฺตติอตฺโถ โหติ ผเลน สมฺพนฺธตฺตา ¶ , ยฺจ การณํ อตฺตโน ผลสฺส ชนกํ อุปตฺถมฺภกํ หุตฺวา นิรุชฺฌติ, โส อนุปจฺฉินฺโน เอว นาม โหตีติ. ยฺจ ผลํ อฺสฺส การณํ หุตฺวา นิรุชฺฌติ, ตสฺมึ อนุปจฺฉินฺเน ตสฺส จ สนฺตติอตฺโถ โหติ. ยํ ปน ผลํ อฺสฺส ผลสฺส การณํ อหุตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ อุปจฺฉินฺนํ โหติ, ยถา ตํ อรหโต จุติจิตฺตนฺติ. การณโต นิพฺพตฺตสฺส ผลสฺส โย นิพฺพตฺติอตฺโถ อตฺถิ, โส นิพฺพตฺติอตฺโถ ผลตฺโถ โหติ. ปฏิสนฺธิกฺขนฺธานํ โย ปฏิสนฺธิอตฺโถ ปฏิสนฺทหนตฺโถ อตฺถิ, โส ปฏิสนฺธิอตฺโถ ปุนพฺภวตฺโถ ปุนพฺภวนตฺโถ โหติ. กิเลสานํ โย ปลิโพธตฺโถ สนฺตาเน อุปฺปชฺชนตฺโถ อตฺถิ, โส ปลิโพธตฺโถ ปริยุฏฺานตฺโถ โหติ. กิเลสานํ มคฺเคน โย อสมุคฺฆาตตฺโถ อตฺถิ, โส อสมุคฺฆาตตฺโถ อนุสยตฺโถ โหติ. อวิชฺชาย จตุนฺนํ สจฺจานํ โย อสมฺปฏิเวธตฺโถ อตฺถิ, โส อสมฺปฏิเวธตฺโถ อวิชฺชตฺโถ โหติ. อรหตฺตมคฺเคน โย อปริฺาตตฺโถ อตฺถิ, โส อปริฺาตตฺโถ วิฺาณสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส พีชตฺโถ โหติ.
เอตฺตาวตา การณภาโว จ การณากาโร จ ผลฺจ ผลวิเสโส จ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม ปรมฺปรเหตุปจฺจยตฺโถ, กตโม จ สมฺพนฺธตฺโถ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยตฺถ อวุปจฺเฉโท’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยตฺถ ยสฺสํ รูปารูปปวตฺติยํ อวุปจฺฉินฺนสฺส เหตุปจฺจยปฺปเภทสฺส การณสฺส โย อวุปจฺเฉโท อตฺถิ, โส อวุปจฺเฉโท ตตฺถ ติสฺสํ รูปารูปปวตฺติยํ สนฺตติ โหติ. ยตฺถ ยสฺสํ รูปารูปปวตฺติยํ ยา สนฺตติ อตฺถิ, สา สนฺตติตตฺถ รูปารูปปวตฺติยํ นิพฺพตฺติ โหตีติอาทินา โยเชตฺวา ปรมฺปรเหตุอาทิโก วิฺาตพฺโพ.
สีลกฺขนฺโธติ ปริสุทฺธสีลกฺขนฺโธ. สมาธิกฺขนฺธสฺสาติ มหคฺคตกฺขนฺธสฺส, สมาธิปฏฺาโน หิ มหคฺคตธมฺโม. ปฺากฺขนฺโธติ มคฺคผลปฺาปธานกฺขนฺโธ. โส หิ วิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาตสฺส ปจฺจเวกฺขณาณกฺขนฺธสฺส ปจฺจโย โหติ. ติตฺถฺุตาทีนํ อตฺโถ ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนายํ วุตฺโตว.
สภาโว เหตูติ อาจริเยน วุตฺโต, ‘‘กีทิโส โส สภาโว เหตู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยถา วา ปน จกฺขฺุจ ปฏิจฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ . จกฺขุวิฺาณํ จกฺขฺุจ จกฺขุนฺทฺริยฺจ ปฏิจฺจ นิสฺสยํ กตฺวา รูเป ปฏิจฺจ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ จกฺขาทีสุ จกฺขุนฺทฺริยํ อาธิปเตยฺยปจฺจยตาย อินฺทฺริยปจฺจยตาย จกฺขุวิฺาณสฺส ปจฺจโย, รูปารมฺมณํ ปุเรชาตารมฺมณปจฺจยตาย ¶ ปจฺจโย, อาโลโก สนฺนิสฺสยตาย อุปนิสฺสยตาย ปจฺจโย โหติ. โส ปจฺจโย โหนฺโต ผเลน จกฺขุวิฺาเณน อสมานตฺตา สภาโว เหตุ น โหติ, ปจฺจโย จ โหติ มนสิกาโร. กิริยมโนธาตุ ปน ผเลน จกฺขุวิฺาเณน วิฺาณภาเวน สมานตฺตา สภาโว เหตุ โหติ ยถา, เอวํ สงฺขารา นามกฺขนฺธภาเวน สมานตฺตา วิฺาณสฺส ปจฺจยา โหนฺตา สภาโว เหตุ โหนฺติ. วิฺาณํ นามรูเปน เอกสนฺตติวเสน สมานตฺตา นามรูปสฺส ปจฺจโย โหนฺตํ สภาโว เหตุ โหติ. อิมินา นเยน ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺสา’’ติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ วุตฺตปฺปกาโร เหตุ, ปจฺจโย ชนโก, อุปตฺถมฺภโก จ โย โกจิ อุปนิสฺสโย พลวปจฺจโย โหติ, สพฺโพ โส เหตุปจฺจโย ชนกอุปตฺถมฺภโก ชนิตพฺพุปตฺถมฺภิยสฺส ผลสฺส ปริกฺขรณโต อภิสงฺขรณโต นิปฺปริยายโต ปริกฺขาโร นาม.
‘‘วุตฺตปฺปกาโร เหตุปจฺจโย ปริกฺขาโร นามาติ เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน การณภูเตน สพฺพสฺส เหตุปจฺจยสฺส ปริกฺขารภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ ชนยนฺตี’’ติ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน สทฺทหิตพฺโพ, ‘‘เย ธมฺมา ยํ ธมฺมํ ชนยนฺตี’’ติ วจนํ นิสฺสาย ตุมฺเหหิ สลฺลกฺเขตพฺโพติ อธิปฺปาโย.
‘‘เอตฺตโกว ปริกฺขาโร หาโร ยฺุชิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ปริกฺขาโร หาโร’’ติ วุตฺตํ, โย โย ปริกฺขาโร หาโร ยฺุชิตพฺโพ, โส โส ปริกฺขาโร หาโร นีหริตฺวา ยุตฺโต ยฺุชิตพฺโพติ.
อิติ ปริกฺขารหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.
๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควิภาวนา
๕๐. เยน ¶ ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปริกฺขารหารวิภงฺเคน สุตฺตตฺถานํ เหตุปจฺจโย วิภตฺโต, โส…เป… วิภงฺโค ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม สมาโรปนหารวิภงฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม สมาโรปโน หาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ นิทฺทิฏฺเสุ โสฬสสุ เทสนาหาราทีสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส สมาโรปโน หาโร สมาโรปนหารวิภงฺโค นามาติ ปุจฺฉติ. ‘‘เย ธมฺมา ยํมูลา’’ติอาทินิทฺเทสสฺส อิทานิ มยา วุจฺจมาโน ‘‘เอกสฺมึ ปทฏฺาเน ยตฺตกานิ ปทฏฺานานิ โอตรนฺตี’’ติอาทิโก วิตฺถารสํวณฺณนาวิเสโส สมาโรปนหารวิภงฺโค นาม.
‘‘กิตฺตเก ปทฏฺาเน สุตฺเต วุตฺเต กิตฺตกานิ ปทฏฺานานิ สมาโรปยิตพฺพานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เอกสฺมึ ปทฏฺาเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกสฺมึ ปทฏฺาเน สุตฺเต วุตฺเต สติ อวุตฺตานิ ยตฺตกานิ ปทฏฺานานิ โอตรนฺติ สโมสรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ อวุตฺตานิ ปทฏฺานานิ สุตฺเต วุตฺตานิ วิย นิทฺธารณวเสน อาเนตฺวา เทสนาย อาโรปยิตพฺพานิ. ‘‘กานิ วิย สมาโรปยิตพฺพานี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยถา อาวฏฺเฏ’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาวฏฺเฏ หาเร เอกสฺมึ ปทฏฺาเน สุตฺเต วุตฺเต สติ สุตฺเต อวุตฺตานิ พหุกานิ ปทฏฺานานิ โอตรนฺติ, ตานิ พหุกานิ ปทฏฺานานิ ปริเยสิตพฺพานิ ยถา, เอวํ สมาโรปเน หาเรปิ พหุกานิ ปทฏฺานานิ เทสนาย สมาโรปยิตพฺพานีติ อตฺโถ.
‘‘เกวลํ ปน ปทฏฺานวเสเนว สมาโรปนา กาตพฺพา กึ, อุทาหุ อฺวเสนาปิ สมาโรปนา กาตพฺพา กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา อฺวเสนาปิ สมาโรปนา กาตพฺพา; ตสฺมา สมาโรปนา จตุพฺพิธา กาตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ สมาโรปนา จตุพฺพิธา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ตาสุ สมาโรปยิตพฺพสมาโรปนาสุ ปทฏฺานํ ปทฏฺานสมาโรปนา, เววจนํ เววจนสมาโรปนา, ภาวนา ภาวนาสมาโรปนา, ปหานํ ปหานสมาโรปนา, อิติ อิมินา ปเภเทน สมาโรปนา จตุพฺพิธา กาตพฺพา.
‘‘ตาสุ จตุพฺพิธาสุ สมาโรปนาสุ กตมา ปทฏฺานสมาโรปนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา ปทฏฺานสมาโรปนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ¶ กตมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺเต วุตฺเตน ปทฏฺาเนน สุตฺเต อวุตฺตานํ ปทฏฺานานํ สมาโรปนา กตมาติ ปุจฺฉติ.
สพฺพปาปสฺส ¶ อกุสลสฺส ยํ อกรณํ อกรณเหตุ สาสนํ อตฺถิ, เอตํ สาสนํ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท โหติ, อถ วา อกรณํ อกรณตฺถาย ยํ สาสนํ อตฺถิ, เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ โอวาโท โหติ, น ยสฺส กสฺสจิ สาสนนฺติ อตฺโถ. อกรณนฺติ หิ สมฺปทานตฺเถ ปวตฺตํ ปจฺจตฺตวจนํ ยถา ‘‘กิสฺส อตฺถาย กิมตฺถ’’นฺติ. กุสลสฺส สมฺปทา สมฺปทาย ยํ สาสนํ อตฺถิ, เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ. สจิตฺตปริโยทาปนํ สจิตฺตปริโยทาปนตฺถํ ยํ สาสนํ อตฺถิ, เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ โหติ.
อิติ เอวํปกาเรน วุตฺตสฺส ตสฺส สาสนสฺส กึ ปทฏฺานนฺติ วิเสสสฺส วิเสสปทฏฺานํ ปุน ปุจฺฉติ. อิทํ สุจริตตฺตยํ สาสนสฺส โอวาทสฺส ปทฏฺานํ สุจริตตฺตเยน เหตุนา สาสนตฺตาติ ทฏฺพฺพํ ยถา ‘‘อนฺเนน วสตี’’ติอาทิ. ‘‘สุจริตตฺตเย ปทฏฺาเน วุตฺเต กตมํ ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยํ กายิกฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ขนฺธตฺตยํ สาสนสฺส ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพํ, ‘‘ขนฺธตฺตเย ปทฏฺาเน สมาโรปยิเต กตมํ สมาโรปยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สีลกฺขนฺโธ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ สมถวิปสฺสนาทฺวยํ สาสนสฺส ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพํ. ‘‘สมถวิปสฺสนาทฺวเย ปทฏฺาเน สมาโรปยิเต กตมํ ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สมถสฺส ผล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ผลทฺวยํ สาสนสฺส ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพํ.
สาสนสฺส ปทฏฺานานิ สมาโรปยิตพฺพานีติ อาจริเยน นิทฺธาเรตฺวา วิภตฺตานิ, อมฺเหหิ จ าตานิ, ‘‘อิทานิ กตมสฺส กตมํ ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘วนํ วนถสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ กามคุณปฺจกํ วนํ ตณฺหาภูตสฺส วนถสฺส ปทฏฺานํ ตณฺหาวตฺถุภาวโต, ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา นิมิตฺตคฺคาหสงฺขาตํ อิทํ วนํ ‘‘อโห จกฺขุ, อโห โสตํ, อโห ฆานํ, อโห ชิวฺหา, อโห กาโย’’ติ เตสํ เตสํ องฺคปจฺจงฺคานํ อนุพฺยฺชนคฺคาหสงฺขาตสฺส วนถสฺส ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพํ. อปริฺาตํ ทฺวาทสายตนสงฺขาตํ อิทํ วนํ สํโยชนสงฺขาตสฺส วนถสฺส ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพํ, อายตนํ ปฏิจฺจ สํโยชนุปฺปชฺชนโต ¶ อนุสยสงฺขาตํ อิทํ วนํ ปริยุฏฺานสงฺขาตสฺส วนถสฺส ปทฏฺานํ สมาโรปยิตพฺพํ. ‘‘ปฺจกามคุณาทีนํ วนภาโว จ ตณฺหาทีนํ วนถภาโว จ เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน ปฺจกามคุณาทีนํ วนภาเวน จ ตณฺหาทีนํ วนถภาเวน จ ภควา ‘‘เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจา’’ติ ยํ วจนํ อาห, เตน ภควโต วจเนน วจนานุสาเรน สทฺทหิตพฺโพติ. อยนฺติ อยํ ‘‘เอกสฺมึ ปทฏฺาเน’’ติอาทิสํวณฺณนา. ปทฏฺาเนนาติ เอเกเกน ปทฏฺาเนน. สมาโรปนาติ ตทฺปทฏฺานานํ สมาโรปนา ¶ . สมาโรเปนฺติ สมาโรปยิตพฺพานิ เอตาย สํวณฺณนายาติ สมาโรปนาติ วิคฺคโหติ. (๑)
๕๑. ปทฏฺาเนน สมาโรปนา อาจริเยน นิทฺทิฏฺา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา เววจเนน สมาโรปนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา เววจเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตาสุ จตูสุ ปทฏฺานสมาโรปนาทีสุ สมาโรปนาสุ เววจเนน เอเกเกน โรตทฺเววจนานํ สมาโรปนา กตมาติ ปุจฺฉติ. ‘‘ราควิราคา’’ติ จ ‘‘เจโตวิมุตฺตี’’ติ จ ‘‘เสกฺขผล’’นฺติ จ อิทํ วจนตฺตยํ อนาคามิผลตฺถตฺตา อนาคามิผลสฺส เววจนํ. ‘‘อวิชฺชาวิราคา’’ติ จ ‘‘ปฺาวิมุตฺตี’’ติ จ ‘‘อเสกฺขผล’’นฺติ จ อิทํ วจนตฺตยํ อรหตฺตผลตฺถตฺตา อรหตฺตผลสฺส เววจนํ. อิมินา นเยน เสเสสุ โยชนา กาตพฺพา. (๒)
เววจเนน สมาโรปนา อาจริเยน นิทฺทิฏฺา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา ภาวนาย สมาโรปนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา ภาวนายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตาสุ จตูสุ ปทฏฺานสมาโรปนาทีสุ กตมาย เทสิตาย ภาวนาย กตเมสานํ อเทสิตานํ ภาวนาโรปนา กตมาติ ปุจฺฉติ. ยถา เยน ปกาเรน ยํ ภาวนํ ภควา ‘‘ตสฺมาติห, ตฺวํ ภิกฺขุ, กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ, อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙, ๓๗๑, ๓๙๕, ๔๑๕) อาห, ตถา เตน ปกาเรน ตาย ภาวนาย ตทฺภาวนาปิ สมาโรปยิตพฺพาติ อตฺโถ.
‘‘ตสฺมาติหา’’ติอาทิปาเ ¶ ‘‘กึ ภาวนํ ภควา อาหา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อาตาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อาตาปี’’ติ วจเนน วีริยินฺทฺริยํ ภควา อาห. ‘‘สมฺปชาโน’’ติ วจเนน ปฺินฺทฺริยํ ภควา อาห. ‘‘สติมา’’ติ วจเนน สตินฺทฺริยํ อาห. ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ วจเนน สมาธินฺทฺริยํ อาห. ‘‘เอวํ วุตฺเต กตมา ภาวนา สมาโรปยิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เอวํ กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ วุตฺตาย วีริยินฺทฺริยาทิภาวนาย จตฺตาโร สติปฏฺานา สมาโรปยิตพฺพาติ อตฺโถ. เกน การเณน ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ ปุจฺฉติ. จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยภาเวน, ภาเวตพฺพภาเวน วา เอกลกฺขณตฺตา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ วิสฺสชฺเชติ. ‘‘เตสุ สมาโรปิเตสุ กตเม สมาโรปยิตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘จตูสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ สมาโรปยิตพฺเพสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ สมาโรปยิตพฺพาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอวเมว สมาโรปยิตพฺพา.
ภาวนาย ¶ สมาโรปนา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตมา ปหาเนน สมาโรปนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตาสุ จตูสุ ปทฏฺานสมาโรปนาทีสุ กตเมน เทสิเตน ปหาเนน กตเมสํ อเทสิตานํ ปหานานํ กตมา สมาโรปนาติ ปุจฺฉติ. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหรนฺโต อสุเภ ‘สุภ’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหตี’’ติ เทสิเตน ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหาเนน กพฬีการาหารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสกามุปาทานปฺปหานาทโยปิ สมาโรปยิตพฺพา.
‘‘เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี วิหรนฺโต ทุกฺเข ‘สุข’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหตี’’ติ เทสิเตน ‘‘สุข’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหาเนน ผสฺสาหารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสภวุปาทานปฺปหานาทโยปิ สมาโรปยิตพฺพา.
‘‘จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี วิหรนฺโต อนิจฺเจ ‘นิจฺจ’นฺติ วิปลฺลาสํ ปชหตี’’ติ เทสิเตน ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหาเนน วิฺาณาหารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสทิฏฺุปาทานปฺปหานาทโยปิ สมาโรปยิตพฺพา.
‘‘ธมฺเมสุ ¶ ธมฺมานุปสฺสี วิหรนฺโต อนตฺตนิ ‘อตฺตา’ติ วิปลฺลาสํ ปชหตี’’ติ เทสิเตน ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสปฺปหาเนน มโนสฺเจตนาหารปริฺาย? มโนสฺเจตนาหารปริฺาย ปริพนฺธกิเลสอตฺตวาทุปาทานปฺปหานาทโยปิ สมาโรปยิตพฺพาติ อธิปฺปาโย. (๔)
ปหานหาโร ปน ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนายํ วุตฺโตเยวาติ อิธ น วทาม.
‘‘สุตฺเต เทสิเตน เอเกเกน ปทฏฺานาทิเกน อเทสิตานํ ปทฏฺานาทีนํ สมาโรปนภาโว เกน อมฺเหหิ วิชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาห อายสฺมา’’ติอาทิมาห. เตน ตถา สมาโรปนภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน –
‘‘เย ธมฺมา ยํมูลา, เย เจกตฺถา ปกาสิตา มุนินา;
เต สมาโรปยิตพฺพา, เอส สมาโรปโน หาโร’’ติ –
ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน วจนานุสาเรน ตถา สมาโรปนภาโว ตุมฺเหหิ วิชานิตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘กึ ¶ ปน เอตฺตาวตา สมาโรปโน หาโร ปริปุณฺโณ, อฺโ นิยุตฺโต นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต สมาโรปโน หาโร’’ติ วุตฺตํ. สุตฺเต เทสิเตน นเยน ปทฏฺานาทิเกน อเทสิตานิ ปทฏฺานานิ สมาโรปยิตพฺพานิ ภวนฺติ, เตน เตน ปทฏฺานาทิเกน อเทสิตานํ ปทฏฺานาทีนํ สมาโรปโน หาโร นิยุตฺโต นิทฺธาเรตฺวา ยฺุชิตพฺโพติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อิติ สมาโรปนหารวิภงฺเค สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพ.
อิเม ยถาวุตฺตา โสฬส สํวณฺณนาวิเสสา สํวณฺเณตพฺพตฺเถสุ อฺาณสํสยานํ หรณโต อปนยนโต หารา นามาติ.
นิฏฺิตา หารวิภงฺควารวิภาวนา.
๑. เทสนาหารสมฺปาตวิภาวนา
๕๒. เยน ¶ เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน เทสนาหารวิภงฺคาทิหารวิภงฺเคน อสฺสาทาทโย นานาสุตฺตตฺถา วิภตฺตา, โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต เทสนาหารวิภงฺคาทิหารวิภงฺโค ปริปุณฺโณ.
‘‘โสฬส หารา ปมํ, ทิสาโลจนโต ทิสา วิโลเกตฺวา;
สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ตีหิ นิทฺทิเส สุตฺต’’นฺติ. (เนตฺติ. ๔ นยสงฺเขป) –
คาถา นิทฺเทสวาเร อาจริเยน วุตฺตา, ตสฺสา คาถาย นิทฺเทโส หารวิภงฺควารสฺส อาทิมฺหิ น วิภตฺโต, ‘‘กุหิฺจิ วิภตฺโต, หารสมฺปาเต วา วิภตฺโต กึ, อุทาหุ นยสมุฏฺานหาเร วา วิภตฺโต ¶ กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘หารสมฺปาเต วิภตฺโต’’ติ ตุมฺเหหิ ทฏฺพฺโพติ วิฺาปนตฺถํ ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
อถ วา สุปริกมฺมกตภูมิสทิเสสุ สํวณฺเณตพฺเพสุ นานาสุตฺตปฺปเทเสสุ นานาวณฺณสุคนฺธปุปฺผสทิเส โสฬส หาเร สํวณฺณนาภาเวน โยเชตฺวา โสฬส หารา อาจริเยน วิภตฺตา, ตถา สุสิกฺขิตสิปฺปาจริยสุวิจาริตชมฺพุนทาภรณสทิเสสุ สํวณฺเณตพฺเพสุ นานาสุตฺตปฺปเทเสสุ นานาวิธรํสิชาลวิวิธมณิรตนสทิเส โสฬส หาเร สํวณฺณนาภาเวน โยเชตฺวาว โสฬส หารา วิภตฺตา, มหาปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ปปฺปฏโกชสฺส ขาทาปนํ อติทุกฺกรํ วิย, นานาวิเธสุ สํวณฺเณตพฺเพสุ สุตฺตปฺปเทเสสุ ปรมตฺโถชาย โสฬสหิ หาเรหิ อติทุกฺกรขาทาปนสทิสํ วิฺาปนํ กโรนฺเตน จ โยชนิกมธุคณฺฑํ ปีเฬตฺวา สุมธุรสสฺส ปายาปนํ อติทุกฺกรํ วิย นานาวิเธสุ สํวณฺเณตพฺเพสุ สุตฺตปฺปเทเสสุ ปรมตฺถมธุรสสฺส โสฬสหิ หาเรหิ อติทุกฺกรํ ปายาปนสทิสํ วิฺาปนํ กโรนฺเตน จ อาจริเยน อเนเกสุ สํวณฺเณตพฺพสุตฺตปฺปเทเสสุ โสฬส หาเร สํวณฺณนาภาเวน โยเชตฺวา โสฬส หารา วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘นานาวิธสุตฺตปฺปเทเสสุ เต สํวณฺณนาภาเวน โยเชตฺวา โสฬส หารา วิภตฺตา กึ ¶ , อุทาหุ เอกสฺมิมฺปิ สํวณฺเณตพฺพสุตฺตปฺปเทเส สํวณฺณนาภาเวน โยเชตฺวา โสฬส หารา วิภตฺตา กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา เอกสฺมิมฺปิ สํวณฺเณตพฺพสุตฺตปฺปเทเส สํวณฺณนาภาเวน โยเชตฺวา โสฬส หารา วิภตฺตาเยวาติ ตถา วิภชนฺโต ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติอาทิกํ หารสมฺปาตวารํ อาห.
นนุ หารสมฺปาตวารํ กเถตุกาเมน อาจริเยน ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหารสมฺปาโต’’ติอาทิวจนํ วตฺตพฺพํ, อถ กสฺมา ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติอาทิ วตฺตพฺพนฺติ เจ? นิทฺเทเส วุตฺตํ ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติอาทิกํ คาถํ หารวิภงฺควาโร นปฺปโยเชติ วิปฺปกิณฺณวิสยตฺตา จ นยวิจารสฺส จ อนฺตริตตฺตา. หารสมฺปาตวาโร ปน ตํ คาถํ ปโยเชติ อวิกิณฺณวิสยตฺตา. ตสฺมา ตํ คาถํ ปจฺจามสิตฺวา หารสมฺปาตวาเร ตสฺสา คาถาย นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพติ วิฺาปนตฺถํ ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติอาทิ วตฺตพฺพํเยวาติ. อฏฺกถายํ ปน –
เอวํ สุปริกมฺมกตาย ภูมิยา นานาวณฺณานิ มุตฺตปุปฺผานิ ปกิรนฺโต วิย, สุสิกฺขิตสิปฺปาจริยวิจาริเตสุ สุรตฺตสุวณฺณาลงฺกาเรสุ นานาวิธรํสิชาลสมุชฺชลานิ วิวิธานิ มณิรตนานิ พนฺธนฺโต วิย, มหาปถวึ ปริวตฺเตตฺวา ปปฺปฏโกชํ ขาทาเปนฺโต วิย ¶ , โยชนิกมธุคณฺฑํ ปีเฬตฺวา สุมธุรสํ ปาเยนฺโต วิย จ อายสฺมา มหากจฺจาโน นานาสุตฺตปฺปเทเส อุทาหรนฺโต โสฬส หาเร วิภชิตฺวา อิทานิ เต เอกสฺมึเยว สุตฺเต โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต หารสมฺปาตวารํ อารภิ. อารภนฺโต จ ยายํ นิทฺเทสวาเร –
‘‘โสฬส หารา ปมํ, ทิสาโลจนโต ทิสา วิโลเกตฺวา;
สงฺขิปิย องฺกุเสน หิ, นเยหิ ตีหิ นิทฺทิเส สุตฺต’’นฺติ. –
คาถา วุตฺตา. ยสฺมา ตํ หารวิภงฺควาโร นปฺปโยเชติ วิปฺปกิณฺณวิสยตฺตา, นยวิจารสฺส จ อนฺตริตตฺตา. อเนเกหิ สุตฺตปฺปเทเสหิ หารานํ วิภาคทสฺสนเมว หิ หารวิภงฺควาโร. หารสมฺปาตวาโร ปน ตํ ปโยเชติ เอกสฺมึเยว สุตฺตปฺปเทเส ¶ โสฬส หาเร โยเชตฺวาว ตทนนฺตรํ นยสมุฏฺานสฺส กถิตตฺตา. ตสฺมา ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติ คาถํ ปจฺจามสิตฺวา ‘‘ตสฺสา นิทฺเทโส กุหึ ทฏฺพฺโพ? หารสมฺปาเตติ อาหา’’ติ –
วุตฺตํ. คาถาตฺโถ นิทฺเทสวิภาวนายํ วุตฺโตว. ‘‘โสฬส…เป… สุตฺต’’นฺติ ยา คาถา นิทฺเทเส อาจริเยน วุตฺตา, ตสฺสา คาถาย นิทฺเทโส กุหึ ทฏฺพฺโพ, หารวิภงฺคสฺส อาทิมฺหิ อาจริเยน น วิภตฺโต, หารสมฺปาเต วา ปจฺจามสิตฺวา วิภตฺโตติ ทฏฺพฺโพ กึ, อุทาหุ นยสมุฏฺาเน วา ปจฺจามสิตฺวา วิภตฺโตติ ทฏฺพฺโพ กินฺติ ปุจฺฉติ. หารสมฺปาเต ปจฺจามสิตฺวา วิภตฺโตติ ทฏฺพฺโพติ วิสฺสชฺชนา.
หารสมฺปาเต ตสฺสา คาถาย นิทฺเทโส ทฏฺพฺโพติ อาจริเยน วุตฺโต, โส หารสมฺปาโต เทสนาหารสมฺปาตเภเทน โสฬสวิโธ, ‘‘ตตฺถ กตโม หารสมฺปาโต เทสนาหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมสฺมึ สุตฺเต สํวณฺเณตพฺเพ สํวณฺณนาภาเวน มยา วิภชิยมาโน หารสมฺปาตภูโต สํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหารสมฺปาโต นามาติ ตถา วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม เทสนาหารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ โสฬสวิเธ เทสนาหารสมฺปาตาทิเก หารสมฺปาเต. กตโม หารสมฺปาตภูโต สํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ.
‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตน, มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จ;
ถินมิทฺธาภิภูเตน, วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ. –
สุตฺเต ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนาติ กึเทสยตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปมาทํ เทสยตี’’ติอาทิสํวณฺณนาวิเสโส ¶ เทสนาหารสมฺปาโต นามาติ วุตฺตํ โหติ. คาถาตฺโถ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๒) วิภตฺโต. โยชนตฺโถ ปน อรกฺขิเตน จิตฺเตน อรกฺขิตจิตฺตสมงฺคี ปุคฺคโล มารสฺส มจฺจุโน วสํ คจฺฉติ. มิจฺฉาทิฏฺิหเตน วิปลฺลาเสน วิปลฺลาสสมงฺคี ปุคฺคโล มารสฺส วสํ คจฺฉติ. ถินมิทฺธาภิภูเตน สสงฺขาริกจิตฺเตน กุสีตจิตฺเตน ตํจิตฺตสมงฺคี ปุคฺคโล มารสฺส กิเลสาทิมารสฺส วสํ คจฺฉตีติ.
‘‘อรกฺขิเตน ¶ จิตฺเตนา’ติ ปเทน เทสิตํ ตํ ปมาทธมฺมชาตํ กสฺส ปท’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตํ มจฺจุโน ปท’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน เทสิโต อตฺโถ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จาติ สุตฺตปฺปเทเสน เทสิโต อตฺโถ กถํ วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เยน วิปลฺลาเสน ยทา อนิจฺเจ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปสฺสติ, ตทา ปวตฺโต โส วิปลฺลาโส ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหตํ นามา’’ติ วุจฺจติ. ‘‘โส ปน วิปลฺลาโส กึลกฺขโณ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา ‘‘วิปรีตคฺคาหลกฺขโณ วิปลฺลาโส’’ติ วุตฺตํ.
วิปรีตคฺคาหลกฺขโณติ อสุภาทีนํเยว สุภาทิวิปรีตคฺคาหลกฺขโณ วิปลฺลาโส ‘‘วิปลฺลาสยตี’’ติ การิตตฺถสมฺภวโต. กึ วิปลฺลาโส วิปรีตคฺคาหลกฺขโณ? โส วิปลฺลาโส สฺํ วิปลฺลาสยติ, จิตฺตมฺปิ วิปลฺลาสยติ, ทิฏฺิมฺปิ วิปลฺลาสยติ. อิติ ตโย ธมฺเม วิปลฺลาสยตีติ วิปลฺลาเสตพฺพานํ ติวิธตฺตา วิปลฺลาสาปิ ติวิธา โหนฺติ. เตสุ สฺาวิปลฺลาโส มุทุโก ทุพฺพโล สุภาทิวเสน อุปฏฺิตาการคฺคหณมตฺตตฺตา, จิตฺตวิปลฺลาโส สฺาวิปลฺลาสโต พลวา สุภาทิวเสน อุปฏฺหนฺตานํ รูปกฺขนฺธาทีนํ สุภาทิวเสน สนฺนิฏฺานํ กตฺวา คหณโต. ทิฏฺิวิปลฺลาโส สฺาวิปลฺลาสจิตฺตวิปลฺลาเสหิ พลวตโร, ยํ ยํ อารมฺมณํ สุภาทิอากาเรน อุปฏฺาติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ สสฺสตาทิวเสน อภินิวิสิตฺวา คหณโต. ตสฺมา สฺาวิปลฺลาโส ปมํ วุตฺโต, ตทนนฺตรํ จิตฺตวิปลฺลาโส, ตทนนฺตรํ ทิฏฺิวิปลฺลาโส วุตฺโต. วิตฺถารโต ปน เอเกกสฺส สุภสุขอตฺตนิจฺจคฺคหณวเสน จตุพฺพิธตฺตา ทฺวาทสวิธา โหนฺติ.
วิปลฺลาสา อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘กตเม วิปลฺลาสปวตฺติฏฺานวิสยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา อิมานิ อตฺตภาววตฺถูนิ วิปลฺลาสปวตฺติฏฺานวิสยานีติ ทสฺเสตุํ ‘‘โส กุหึ วิปลฺลาสยติ จตูสุ อตฺตภาววตฺถูสู’’ติ วุตฺตํ. จตูสุ รูปกายเวทนาจิตฺตธมฺมสงฺขาเตสุ อตฺตภาววตฺถูสุ โส สพฺโพ วิปลฺลาโส สฺาจิตฺตทิฏฺิโย วิปลฺลาสยติ. ‘‘กถํ สมนุปสฺสนฺตสฺส วิปลฺลาสยตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. โย ปุคฺคโล รูปํ วา อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ อตฺตานํ วา อตฺตโต สมนุปสฺสติ ¶ , อตฺตนิ รูปํ วา อตฺตโต สมนุปสฺสติ. รูปสฺมึ อตฺตานํ วา อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เอวํ ตสฺส สมนุปสฺสนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส วิปลฺลาโส รูปกาเย สฺาจิตฺตทิฏฺิโย วิปลฺลาสยติ. เอเสว นโย เวทนาทีสุปิ.
‘‘เตสุ รูปกายาทีสุ กตมํ กตมสฺส วิปลฺลาสสฺส วตฺถู’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เอวํ ปวตฺตมานสฺส วิปลฺลาสสฺส อิทํ อิมสฺส วตฺถูติ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ รูปาทีสุ จตูสุ ปมํ วิปลฺลาสวตฺถุ รูปํ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ เอวํ ปวตฺตมานสฺส วิปลฺลาสสฺส วตฺถุ โหตีติ วิภชิตฺวา คเหตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. เอวํ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติอาทิปฺปกาเรน วิปลฺลาสา จตุพฺพิธา ภวนฺติ.
อิทํ อิมสฺส วตฺถูติ อาจริเยน วิภชิตฺวา ทสฺสิตา, อมฺเหหิ จ าตา, ‘‘เตสํ วิปลฺลาสานํ กตเม มูลการณธมฺมา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเว ธมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. จิตฺตสฺส สํกิเลสา, ตณฺหา จ อวิชฺชา จ – อิเม ทฺเว ธมฺมา วิปลฺลาสานํ มูลการณภูตา ภวนฺติ.
‘‘อิเม ทฺเว ธมฺมา เอกโต วิปลฺลาสานํ มูลการณํ กึ โหนฺติ, อุทาหุ วิสุํ วิสุ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา วิสุํ วิสุํ วิภชิตุํ ‘‘ตณฺหานิวุต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อวิชฺชารหิตา ตณฺหา นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ตณฺหาอวิชฺชานิวุต’’นฺติ วตฺตพฺพนฺติ? น, ตณฺหาย สาติสยปจฺจยตฺตา. สาติสยาย หิ ตณฺหาย อสุเภปิ ‘‘สุภ’’นฺติ, ทุกฺเขปิ ‘‘สุข’’นฺติ สมนุปสฺสนฺติ. ‘‘ตณฺหา จ อวิชฺชา จา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘อวิชฺชานิวุต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, กสฺมา ‘‘ทิฏฺินิวุต’’นฺติ วุตฺตนฺติ? อวิชฺชาย ทิฏฺิ ภวตีติ ทิฏฺิสีเสน อวิชฺชํ คเหตฺวา ‘‘ทิฏฺินิวุต’’นฺติ วุตฺตํ, อวิชฺชานิวุตนฺติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ‘‘อวิชฺชานิวุต’’นฺติ วุตฺเต ปน ทิฏฺิรหิตา อวิชฺชาปิ คหิตา สิยา, ทิฏฺิสหิตาย หิ อวิชฺชาย อนิจฺเจปิ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ, อนตฺตนิเยปิ ‘‘อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสนฺติ.
‘‘กถํ ตณฺหามูลโก วิปลฺลาโส ปวตฺโต, กถํ ทิฏฺิสหิตาวิชฺชามูลโก วิปลฺลาโส ปวตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย ทิฏฺิวิปลฺลาโส’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ตณฺหามูลกทิฏฺิสหิตาวิชฺชามูลเกสุ. ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ ทิฏฺิสหิตาวิชฺชามูลกวิปลฺลาโส. อตีตํ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติ อทพฺพภูโตปิ ทพฺพภูโต วิย วุตฺโต. ตณฺหาวิปลฺลาโสติ ทิฏฺิสหิตตณฺหามูลโก วิปลฺลาโส อนาคตํ ¶ รูปํ ทิฏฺิภินนฺทนวเสน อภินนฺทตีติ. เอวํ อตีตสมนุปสฺสนอนาคตาภินนฺทนเภเทน ¶ ปวตฺติวิเสโส ทฏฺพฺโพ. ‘‘จิตฺตสฺส สํกิเลโส ตณฺหาอวิชฺชาเยว ทฺเว ธมฺมา น โหนฺติ, อถ โข ทส กิเลสาปิ, กสฺมา ทฺเวเยว วุตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเว ธมฺมา จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตณฺหา จ อวิชฺชา จ – อิเม ทฺเวเยว ธมฺมา ปรมสาวชฺชสฺส วิปลฺลาสสฺส มูลการณตฺตา. ตาหิ ตณฺหาอวิชฺชาหิ วิสุชฺฌนฺตํ จิตฺตํ สพฺเพหิ กิเลเสหิ วิสุชฺฌติ, ตสฺมา จ วิเสสโต จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา โหนฺตีติ ทฺเว ธมฺมา วุตฺตา. น หิ ตาสุ ตณฺหาอวิชฺชาสุ อรหตฺตมคฺเคน ปหีนาสุ โกจิ สํกิเลโส อปฺปหีโน นาม นตฺถีติ.
‘‘วุตฺตปฺปการา ตณฺหาอวิชฺชา วุตฺตปฺปการานํ วิปลฺลาสานํเยว มูลการณํ โหนฺติ กึ, อุทาหุ สกลสฺส วฏฺฏสฺสาปิ มูลการณํ โหนฺติ กิ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา วุตฺตปฺปการา ตณฺหาอวิชฺชา วุตฺตปฺปการานํ มูลการณํ โหนฺติ ยถา, เอวํ สกลสฺส วฏฺฏสฺสาปิ มูลการณํ โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เตส’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เยสํ ปุคฺคลานํ จิตฺตํ อรกฺขิตํ, มิจฺฉาทิฏฺิหตฺจ โหติ, เตสํ ปุคฺคลานํ. เยสํ อวิชฺชานีวรณานํ ตณฺหาสํโยชนานํ ปุพฺพโกฏิ น ปฺายติ, เตหิ อวิชฺชานีวรเณหิ ตณฺหาสํโยชเนหิ สํสาเร สนฺธาวนฺตานํ สํสรนฺตานํ ปุคฺคลานํ สกึ นิรยํ มารวสคมเนน สนฺธาวนํ สํสรณํ โหติ, สกึ ติรจฺฉานโยนึ สนฺธาวนํ สํสรณํ โหติ, สกึ เปตฺติวิสยํ สนฺธาวนํ สํสรณํ โหติ, สกึ อสุรกายํ สนฺธาวนํ สํสรณํ โหติ, สกึ เทเว สนฺธาวนํ สํสรณํ โหติ, สกึ มนุสฺเส สนฺธาวนํ สํสรณํ โหตีติ อตฺโถ.
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จา’’ติ สุตฺตปฺปเทเสน เทสิโต อตฺโถ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘ถินมิทฺธาภิภูเตนาติ สุตฺตปฺปเทเสน เทสิโต อตฺโถ กถํ วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ถินมิทฺธาภิภูเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. จิตฺตสฺส วิฺาณกฺขนฺธสฺส ยา อกลฺลตา อกมฺมนิยตา อตฺถิ, อิทํ อกลฺลตฺตํ อกมฺมนิยตฺตํ ถินํ นาม. ยํ กายสฺส ลีนตฺตํ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยลีนตฺตํ อตฺถิ, อิทํ กายสฺส ลีนตฺตํ มิทฺธํ นามาติ ถินมิทฺธสรูปเมว วุตฺตํ. เตหิ ถินมิทฺเธหิ จิตฺตสฺส อภิภูตภาวาทิโก ปน สุวิฺเยฺยตฺตา น วุตฺโต, อวุตฺเตปิ เยสํ ปุคฺคลานํ จิตฺตํ ¶ ถินมิทฺเธหิ อภิภูตํ, เตสํ ปุคฺคลานํ เตน จิตฺเตน จิตฺตสีเสน สํโยชเนน สํสาเร มารวสคมเนน สนฺธาวนํ สํสรณํ ปริโยสานสภาโว วิตฺถาเรตฺวา คเหตพฺโพ.
‘‘วสํ มารสฺส คจฺฉตีติ สุตฺตปฺปเทเสน เทสิโต อตฺโถ กถํ วิภตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ กิเลสมารสฺสาติ กิเลโส ทานาทิปฺุเ มาเรติ นิวาเรตีติ อตฺเถน มาโรติ กิเลสมาโร. อิมินา กิเลสมารํ นิสฺสาย ปวตฺตตฺตา อภิสงฺขารมารขนฺธมารมจฺจุมารา ¶ จ คหิตา, จ-สทฺเทน วา คหิตาติ เวทิตพฺพา. สตฺตมารสฺสาติ เทวปุตฺตมารสฺส. อถ วา ‘‘เทวปุตฺตมารสฺสา’’ติ อวตฺวา ‘‘สตฺตมารสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา โย โย ราชโจราทิโก ทานาทีนิ วา อิสฺสริยโภคาทีนิ วา มาเรติ, โส โส ราชโจราทิโกปิ คหิโต, ตสฺมา ยสฺส กสฺสจิ สตฺตมารสฺสาติ อตฺโถ. วสนฺติ อิจฺฉํ โลภํ อธิปฺปายํ รุจึ อากงฺขํ อาณํ อาณตฺตึ. คจฺฉตีติ อุปคจฺฉติ อุเปติ อนุวตฺตติ อนุคจฺฉติ นาติกฺกมตีติ อตฺโถ. ‘‘กสฺมา วสํ คจฺฉตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โย สตฺโต อรกฺขิตจิตฺเตน จ มิจฺฉาทิฏฺิหตจิตฺเตน จ ถินมิทฺธาภิภูตจิตฺเตน จ สมนฺนาคโต โหติ, โส สตฺโต อวิชฺชานีวรณาทีหิ นิวุโต หุตฺวา สํสาราภิมุโข หิ ยสฺมา โหติ, น วิสงฺขาราภิมุโข, ตสฺมา มารสฺส วสํ คจฺฉตีติ อตฺโถ.
‘‘อรกฺขิเตนาติอาทิกสฺส ยสฺส สุตฺตสฺส อตฺโถ วิภตฺโต, เตน ‘อรกฺขิเตนา’ติอาทิเกน สุตฺเตน กิตฺตกานิ สจฺจานิ เทสิตานี’’ติวตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิมานิ ภควตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อรกฺขิเตนา’’ติอาทิสุตฺเตน ภควตา อิมานิ ทฺเว สจฺจานิ เทสิตานิ ทุกฺขํ, สมุทโย จาติ. กถํ เทสิตานิ? อภิธมฺมนิสฺสิตาย กถาย เจว สุตฺตนฺตนิสฺสิตาย กถาย จ เทสิตานิ. ตาสุ กถาสุ อภิธมฺมนิสฺสิตาย กถาย เทสิเต สติ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ อิมินา ปเทน อรกฺขิตํ รตฺตมฺปิ จิตฺตํ, อรกฺขิตํ ทุฏฺมฺปิ จิตฺตํ, อรกฺขิตํ มูฬฺหมฺปิ จิตฺตํ ภควตา เทสิตํ าปิตํ. ตตฺถ รตฺตจิตฺตํ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทวเสน อฏฺวิธํ, ทุฏฺจิตฺตํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทวเสน ทุพฺพิธํ, มูฬฺหจิตฺตํ โมมูหจิตฺตุปฺปาทวเสน ทุพฺพิธนฺติ เวทิตพฺพํ. อิเมสฺหิ จิตฺตุปฺปาทานํ วเสน ยา จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ อคุตฺติ อนารกฺขา อุปฺปนฺนา, ตาย อคุตฺติยา อนารกฺขาย จิตฺตํ อรกฺขิตํ โหติ ผลูปจาเรนาติ.
‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหเตนา’’ติ ¶ อิมินา ปเทน มิจฺฉาทิฏฺิสํสฏฺํ จิตฺตํ เทสิตํ, ตํ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทวเสน จตุพฺพิธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตฺหิ มิจฺฉาทิฏฺิยา สํสฏฺภาเวน มิจฺฉาทิฏฺิวสานุคตตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิหตํ นามาติ. ‘‘ถินมิทฺธาภิภูเตนา’’ติ อิมินา ปเทน ถินมิทฺเธน สํสฏฺํ จิตฺตํ เทสิตํ, ตํ สสงฺขาริกจิตฺตุปฺปาทวเสน ปฺจวิธนฺติ เวทิตพฺพํ. ตฺหิ ถินมิทฺเธน สํสฏฺภาเวน ถินมิทฺธวสานุคตตฺตา ถินมิทฺธาภิภูตํ นามาติ เอวํ เย ทฺวาทสากุสลา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ ‘‘กตเม ธมฺมา อกุสลา? ยสฺมึ สมเย อกุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๓๖๕) วิตฺถารโต วตฺตพฺพา, เต ทฺวาทสากุสลจิตฺตุปฺปาทา ตีหิ ปเทหิ ภควตา เทสิตาติ เวทิตพฺพา. ‘‘มารสฺสา’’ติ ปเทน ปฺจ มารา คหิตา. เตสุ กิเลสมาโร ¶ ‘‘จตฺตาโร อาสวา, จตฺตาโร โอฆา, จตฺตาโร โยคา, จตฺตาโร คนฺถา, จตฺตาริ อุปาทานานิ, อฏฺ นีวรณา, ทส กิเลสา’’ติ (ธ. ส. ๑๑๐๒ อาทโย) เทสิโต. อภิสงฺขารมาโร ปน ‘‘กุสลา เจตนา (วิภ. ๒๒๖) อกุสลา เจตนา (วิภ. ๒๒๖) กุสลํ กมฺมํ อกุสลํ กมฺม’’นฺติอาทินา เทสิโต. ขนฺธมาโร ปน ‘‘อตฺตภาโว ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทินา เทสิโต. มจฺจุมาโร ปน ‘‘จุติ จวนตา’’ติอาทินา (วิภ. ๑๙๓) เทสิโต. เอวํ ตาเวตฺถ อภิธมฺมนิสฺสิตาย กถาย เทสิโต อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
สุตฺตนฺตนิสฺสิตาย ปน กถาย เทสิเต สติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยฺชนคฺคาหี, ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชติ, น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ…เป… โสตินฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ… ฆานินฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ… ชิวฺหินฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ… กายินฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชติ… มนินฺทฺริเย น สํวรํ อาปชฺชตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๔๗) เอวํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ยํ ฉทฺวาริกจิตฺตํ วุตฺตํ, ตํ ฉทฺวาริกจิตฺตํ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ อิมินา ปเทน เทสิตํ. ยา มิจฺฉาทิฏฺิโย ปุพฺพนฺตกปฺปนวเสน วา อปรนฺตกปฺปนวเสน วา ปุพฺพนฺตาปรนฺตกปฺปนวเสน วา มิจฺฉา อภินิวิสนฺตสฺส อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วา ‘‘อสสฺสโต โลโก’’ติ วา ‘‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา อุปฺปนฺนา, ตาหิ ¶ ทิฏฺีหิ วา, ยา จ ทิฏฺิโย ‘‘อิมา จตฺตาโร สสฺสตวาทา…เป… ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา’’ติ พฺรหฺมชาลสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๓๐ อาทโย) วุตฺตา, ตาหิ ทิฏฺีหิ วา สมฺปยุตฺตํ ยํ จิตฺตํ ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหเตน จา’’ติ อิมินา ปเทน เทสิตํ.
‘‘ถินํ นาม จิตฺตสฺส อกมฺมฺตา, มิทฺธํ นาม เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺส อกมฺมฺตา’’ติ วา ‘‘ถินํ อนุสฺสาหสํสีทนํ, มิทฺธํ อุสฺสาหสตฺติวิฆาโต’’ติ วา ยานิ ถินมิทฺธานิ วุตฺตานิ, เตหิ ถินมิทฺเธหิ ยํ จิตฺตํ อภิภูตํ อชฺโฌตฺถฏํ, ตํ จิตฺตํ ‘‘ถินมิทฺธาภิภูเตนา’’ติ อิมินา ปเทน เทสิตํ.
‘‘วโส นาม อิจฺฉา โลโภ อธิปฺปาโย รุจิ อากงฺขา อาณา อาณตฺตี’’ติ โย วโส วุตฺโต, โส วโส ‘‘วส’’นฺติ อิมินา ปเทน เทสิโต. ‘‘ปฺจ มารา – ขนฺธมาโร อภิสงฺขารมาโร มจฺจุมาโร เทวปุตฺตมาโร กิเลสมาโร’’ติ โย มาโร วุตฺโต, โส มาโร ‘‘มารสฺสา’’ติ อิมินา เทสิโต. ‘‘คจฺฉติ, อุปคจฺฉติ, อุเปติ, อนุวตฺตติ, อนุคจฺฉติ, นาติกฺกมตี’’ติ ¶ โย ปุคฺคโล วุตฺโต, โส ปุคฺคโล ‘‘คจฺฉตี’’ติ อิมินา เทสิโตติ. เอวํ เทสิเตสุ ธมฺเมสุ อกุสลา สมุทยสจฺจํ, ‘‘วสํ มารสฺส คจฺฉตี’’ติ อิมินา ปเทน เย ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อุปาทาย ปฺตฺโต ปุคฺคโล วุตฺโต, เต ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขสจฺจนฺติ ทฺเว สจฺจานิ เทสิตานิ. ‘‘กิมตฺถาย ทฺเว สจฺจานิ เทสิตานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เตสํ ภควา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตสํ ทฺวินฺนํ สจฺจานํ ปริฺาย จ ปหานาย จ ‘‘อรกฺขิเตนา’’ติอาทิ ธมฺมํ ภควา เทเสติ, ตานิ ทฺเว สจฺจานิ ‘‘อรกฺขิเตนา’’ติอาทิเกน าเปตีติ อตฺโถ.
‘‘เตสุ ทฺวีสุ สจฺเจสุ กสฺส สจฺจสฺส ปริฺาย, กสฺส สจฺจสฺส ปหานาย เทเสตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทุกฺขสฺส ปริฺาย, สมุทยสฺส ปหานายา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปริฺาปหาเนหิ กตมานิ สจฺจานิ เทสิตานี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เยน จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เยน อรหตฺตมคฺเคน ปริชานาติ, เยน อรหตฺตมคฺเคน ปชหติ จ, อยํ อรหตฺตมคฺโค มคฺคสจฺจํ นาม. ยํ นิพฺพานธมฺมํ อารพฺภ ตณฺหาย, อวิชฺชาย จ ปหานํ ชาตํ, อยํ นิพฺพานธมฺโม นิโรโธ นิโรธสจฺจํ นามาติ. เอวํ จตฺตาริ สจฺจานิ ภควตา เทสิตานิ.
‘‘จตุนฺนํ ¶ สจฺจานํ เทสิตภาโว เกน วิฺาตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตสุ จตูสุ สจฺเจสุ สมุทยสจฺเจน อสฺสาโท คหิโต, ทุกฺขสจฺเจน อาทีนโว คหิโต, มคฺคสจฺจนิโรธสจฺเจหิ นิสฺสรณํ คหิตํ, สมุทยปฺปหานวเสน สพฺพคติปชหนํ ชาตํ, สพฺพคติปชหนํ ผลนฺติ คหิตํ. เยน รกฺขิตจิตฺตตาทิเกน สพฺพคติปชหนํ ชาตํ, โส รกฺขิตจิตฺตตาทิโก อุปาโยติ คหิโต, อรกฺขิตจิตฺตตาทิกสฺส ปฏิเสธนมุเขน รกฺขิตจิตฺตตาทิกสฺส นิโยชนํ ภควโต อาณตฺตีติ คหิตนฺติ เทสนาหาเรน นานาสุตฺเตสุ ทสฺสิตา อสฺสาทาทโย ‘‘อรกฺขิเตนา’’ติอาทิเก เอกสฺมึเยว สุตฺเต นีหริตฺวา ทสฺสิตา.
‘‘อสฺสาทาทีนํ นีหริตฺวา ทสฺสิตภาโว เกน วิฺาตพฺโพ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ เยน สํวณฺณนาวิเสเสน นานาสุตฺเตสุ อสฺสาทาทโย นีหริตฺวา ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหารวิภงฺโค นาม. เยน สํวณฺณนาวิเสเสน เอกสฺมึเยว สุตฺเต อสฺสาทาทโย นีหริตฺวา ทสฺสิตา, โส สํวณฺณนาวิเสโส เทสนาหารสมฺปาโต นามาติ วิเสโส ทฏฺพฺโพ.
‘‘เอตฺตโกว เทสนาหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต เทสนาหารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เอเกกสฺมึเยว สุตฺเต อสฺสาทาทโย เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน เทสนาหารสมฺปาเตน นีหริตฺวา ¶ ยถารหํ ทสฺสิตา, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต เทสนาหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คหิโต.
อิติ เทสนาหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๒. วิจยหารสมฺปาตวิภาวนา
๕๓. เยน ¶ เทสนาหารสมฺปาเตน อสฺสาทาทโย อาจริเยน วิภตฺตา, อมฺเหหิ จ าตา, โส เทสนาหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม วิจยหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม วิจโย หารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ เทสนาหารสมฺปาตาทีสุ โสฬสสุ หารสมฺปาเตสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส วิจยหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ. อิเมสุ ธมฺเมสุ อยํ ธมฺโม เยน สํวณฺณนาวิเสเสน วิจยิตพฺโพ, โส สํวณฺณนาวิเสโส วิจยหารสมฺปาโต นามาติ นิยเมตฺวา วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ ตณฺหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘เอวํ เทสนาหารสมฺปาตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิจยหารสมฺปาตํ ทสฺเสนฺโต ยสฺมา เทสนาหารปทตฺถวิจโย วิจยหาโร, ตสฺมา เทสนาหาเร วิปลฺลาสเหตุภาเวน นิทฺธาริตาย ตณฺหาย กุสลาทิวิภาคปวิจยมุเขน วิจยหารสมฺปาตํ ทสฺเสตุํ ‘ตตฺถ ตณฺหา ทุวิธา’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๓) –
วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติอาทิสุตฺตตฺเถ เทสนาหารสมฺปาเตน สํวณฺณิเต อกุสลธมฺเม ‘‘ตณฺหา’’ติ นิทฺธาริตา สพฺพตณฺหา. กุสลาปีติ จตุภูมเก กุสเล อุทฺทิสฺส ปวตฺตา ตณฺหาปิ. อกุสลาปีติ อกุสลธมฺเม อุทฺทิสฺส ปวตฺตา ตณฺหาปีติ ทุวิธา โหตีติ วิจยิตพฺพา. เตน วุตฺตํ ฏีกายํ – ‘‘กุสลธมฺมารมฺมณาติ กุสลธมฺเม อุทฺทิสฺส ปวตฺตมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เตสํ อารมฺมณปจฺจยตํ, อิธ ‘กุสลา ธมฺมา’ติ โลกุตฺตรธมฺมานมฺปิ อธิปฺเปตตฺตา’’ติ.
‘‘กุสลา ¶ ตณฺหา กึคามินี, อกุสลา ตณฺหา กึ คามินี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อกุสลา สํสารคามินี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อถ วา ‘‘กตโม กุสลากุสลตณฺหานํ วิเสโส’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อกุสลา สํสารคามินี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตณฺหา นาม สํสารคามินี โหตุ, กถํ อปจยคามินี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปหานตณฺหา’’ติ วุตฺตํ, ปหานสฺส เหตุภูตา ตณฺหา ปหานตณฺหาติ อตฺโถ, ปหาตพฺพตณฺหํ อาคมฺม ยํ ปหานํ ปวตฺเตตพฺพํ, เตน ปวตฺเตตพฺเพน ปหาเนน อปจยํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ.
‘‘กึ ¶ ปน ตณฺหาเยว กุสลากุสลาติ ทุพฺพิธา, อุทาหุ อฺโปิ กุสลากุสลาติ ทุพฺพิโธ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘มาโนปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘กตโม มาโน กุสโล, กตโม มาโน อกุสโล’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ยํ มานํ นิสฺสาย มานํ ปชหติ, อยํ มาโน กุสโล. โย ปน มาโน ทุกฺขํ นิพฺพตฺตยติ, อยํ มาโน อกุสโล’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ มานํ…เป… กุสโลติ ยํ มานํ นิสฺสาย อุปนิสฺสาย ปหานํ ปวตฺติตํ, เตน ปหาเนน สนฺตาเน อุปฺปชฺชนารหํ มานํ ปชหติ, อยํ อุปนิสฺสยปจฺจยภูโต มาโน ผลูปจาเรน กุสโล. โย ปน…เป… อกุสโลติ โย ปน มาโน ปรหึสนาทิวเสน ปวตฺตมาโน หุตฺวา อตฺตโน จ ปรสฺส จ ทุกฺขํ นิพฺพตฺตยติ, อยํ มาโน อกุสโลติ วิจยิตฺวา เวทิตพฺโพ.
‘‘สํสาราปจยคามินีสุ ตาสุ ตณฺหาสุ กตมา อปจยคามินี ตณฺหา กุสลา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘กุสลา’’ติ วุตฺตาย ตณฺหาย สรูปํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ยํ เนกฺขมฺมสิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตาสุ สํสาราปจยคามินีสุ ตณฺหาภูตาสุ กุสลากุสลาสุ. อยํ ตณฺหา กุสลาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘อริยา ปุคฺคลา สนฺตํ อายตนํ ยํ อริยผลธมฺมํ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ, ตํ อายตนํ อริยผลธมฺมํ อหํ กุทาสฺสุ สจฺฉิกตฺวา วิหริสฺส’’นฺติ ปตฺถยนฺตสฺส ตสฺส กุลปุตฺตสฺส ตสฺมึ อริยผเล ปิหา อุปฺปชฺชติ, ปิหาปจฺจยา ยํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ โทมนสฺสํ ‘‘เนกฺขมฺมสิต’’นฺติ วุจฺจติ. อยํ อริยผเล ปิหาสงฺขาตา ตณฺหา กุสลา อนวชฺชา อนวชฺชอริยผลธมฺมํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตตฺตาติ วิจยิตพฺพํ.
‘‘กถํ ปวตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ราควิราคา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ ปตฺตพฺพา. ตทารมฺมณา ตํ เจโตวิมุตฺตึ อาคมฺม ปวตฺตา ตณฺหา กุสลา อนวชฺชา, ยา อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺติ ปตฺตพฺพา, ตทารมฺมณา ตํ ปฺาวิมุตฺตึ อาคมฺม ปวตฺตา ตณฺหา กุสลา อนวชฺชาติ วิจยิตพฺพา. ตาย ปฺาวิมุตฺติยา วเสน ภควตา –
‘‘ตสฺมา ¶ รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;
สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;
ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ. (อุทา. ๓๒; เนตฺติ. ๓๑, ๖๕, ๗๘) –
คาถายํ ¶ ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ ปทํ วุตฺตํ, ‘‘ตสฺสา ปฺาวิมุตฺติยา โย ปวิจโย กาตพฺโพ, กตโม โส ปวิจโย’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺสา โก ปวิจโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสา ปฺาวิมุตฺติยา โก ปวิจโยติ เจ ปุจฺเฉยฺย ‘‘อฏฺ มคฺคงฺคานิ – สมฺมาทิฏฺิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธี’’ติ ปวิจโย เวทิตพฺโพ. ‘‘โส ปวิจโย กตฺถ ทฏฺพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส กตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โส ปฺาวิมุตฺติยา ปวิจโย กตฺถ กสฺมึ ธมฺเม ทฏฺพฺโพติ ปุจฺฉติ. จตุตฺเถ ฌาเน ปารมิตาย อุกฺกํสคตาย จตุตฺถชฺฌานภาวนาย โส ปวิจโย ทฏฺพฺโพ.
‘‘จตุตฺเถ ฌาเน ปารมิตายา’’ติ วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘จตุตฺเถ หิ ฌาเน’’ติอาทิ วุตฺตํ. โย โส จตุตฺถชฺฌานลาภี ปุคฺคโล จตุตฺเถ ฌาเน ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ อนงฺคณํ วิคตูปกฺกิเลสํ มุทุ กมฺมนิยํ ิตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ, อิติ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ จิตฺตํ ภาวยติ, โส จตุตฺถชฺฌานลาภี ปุคฺคโล ตตฺถ จตุตฺเถ ฌาเน อฏฺวิธํ วิชฺชาจรณํ อธิคจฺฉติ. กตมํ อฏฺวิธํ? ฉ อภิฺา, ทฺเว จ วิเสเส วา อธิคจฺฉตีติ โยชนา. อิทฺธิวิธาทโย ปฺจ, โลกิยาภิฺา เจว อรหตฺตมคฺคปฺา จาติ ฉ อภิฺา. มโนมยิทฺธิ เจว วิปสฺสนาาณฺจาติ ทฺเว จ วิเสสา โหนฺติ.
‘‘ตํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ กุโต ปริสุทฺธํ…เป… กุโต อาเนฺชปฺปตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตํ จิตฺตํ ยโต ปริสุทฺธ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตํ จิตฺตํ ยโต อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาวโต ปริสุทฺธํ, ตโต อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาวโต ปริโยทาตํ โหติ. สุขาทีนํ ปจฺจยฆาเตน ยโต วีตราคาทิอนงฺคณภาวโต อนงฺคณํ, ตโต วีตราคาทิอนงฺคณภาวโต วิคตูปกฺกิเลสํ. ยโต สุภาวิตภาวโต มุทุ, ตโต สุภาวิตภาวโต กมฺมนิยํ. ยโต ปริสุทฺธาทีสุ ิตภาวโต ิตํ, ตโต ปริสุทฺธาทีสุ ิตภาวโต อาเนฺชปฺปตฺตํ โหตีติปิ โยชนา ยุตฺตา อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๓) ยุคฬโต อาคตตฺตา. สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาโอภาเสหิ ปริคฺคหิตภาวโต อาเนฺชปฺปตฺตํ. สทฺธาย หิ ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ ปฏิปกฺเข อสฺสทฺธิเย น อิฺชติ น จลติ, วีริเยน ปริคฺคหิตํ ¶ จิตฺตํ ปฏิปกฺเข โกสชฺเช น อิฺชติ, สติยา ปริคฺคหิตํ ¶ จิตฺตํ ปฏิปกฺเข ปมาเท น อิฺชติ, สมาธินา ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ ปฏิปกฺเข อุทฺธจฺเจ น อิฺชติ, ปฺาย ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ ปฏิปกฺขาย อวิชฺชาย น อิฺชติ, โอภาสคตํ จิตฺตํ กิเลสนฺธกาเร น อิฺชติ. อิติ อิเมหิ ฉหิ ธมฺเมหิ ปริคฺคหิตํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ อาเนฺชปฺปตฺตํ โหติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตตฺตา จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ ฉนฺนํ อภิฺาาณานฺจ มโนมยิทฺธิวิปสฺสนาาณานฺจ อธิคมูปาโย โหติ, ตสฺมา โส ปฺาวิมุตฺติปริจโย จตุตฺถชฺฌาเน ทฏฺพฺโพเยวาติ สงฺเขปตฺโถ. วิตฺถารโต ปน อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๓) ‘‘ตตฺถ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวนา’’ติอาทินา วา ‘‘อปโร นโย’’ติอาทินา วา วุตฺโตเยวาติ อมฺเหหิ น วุตฺโต.
‘‘เยสํ ราคาทิองฺคณานํ อภาเวน อนงฺคณํ, เยสํ อภิชฺฌาทิอุปกฺกิเลสานํ อภาเวน วิคตูปกฺกิเลสํ, ยาย จิตฺตสฺส ิติยา อภาเวน ิตํ, อิฺชนาย อภาเวน อาเนฺชปฺปตฺตํ, เต ราคาทิองฺคณาทโย กตมาย ปกฺขา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ องฺคณา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ราคาทิองฺคณาทีสุ องฺคณา จ ราคาทิองฺคณา จ อุปกฺกิเลสา อภิชฺฌาทิอุปกฺกิเลสา จ สนฺติ, ตทุภยํ ราคาทิองฺคณอภิชฺฌาทิอุปกฺกิเลสทฺวยํ ตณฺหาปกฺโข ราคาทิองฺคณานํ ตณฺหาสภาวตฺตา, อภิชฺฌาทิอุปกฺกิเลสานฺจ ตณฺหาย อนุโลมตฺตา. ยา อิฺชนา ผนฺทนา ยา จ จิตฺตสฺส อฏฺิติ อนวฏฺานํ อตฺถิ, อยํ อิฺชนา อฏฺิติ ทิฏฺิปกฺโข อิฺชนาย จ อฏฺิติยา จ มิจฺฉาภินิเวสเหตุภาวโตติ ปวิจโย กาตพฺโพ.
‘‘กึ ปน จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตตฺตาเยว ฉนฺนํ อภิฺาาณานฺจ มโนมยิทฺธิวิปสฺสนาาณานฺจ อธิคมูปาโย โหตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘จตฺตาริ อินฺทฺริยานี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺส จตุตฺถชฺฌานลาภิโน, ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อิติ จตฺตารินฺทฺริยานิ จตุตฺถชฺฌาเน นิรุชฺฌนฺติ, ตสฺส จตุตฺถชฺฌานลาภิโน อุเปกฺขินฺทฺริยํ อวสิฏฺํ ภวติ, ตสฺมาปิ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ วุตฺตปฺปการานํ อฏฺนฺนํ าณานํ อธิคมูปาโย โหติ, โส จ อธิคมูปายภาโว จิณฺณวสีภาวสฺเสว ภเวยฺย, กถํ จตุตฺถชฺฌานมตฺตลาภิโน จิณฺณวสีภาโว สิยา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา โส จตุตฺถชฺฌานลาภี จตุตฺถชฺฌาเนเยว อฏฺตฺวา อรูปสมาปตฺติโยปิ ¶ เอวํ กตฺวา นิพฺพตฺเตติ ภาเวติ, ตสฺมา จิณฺณวสีภาโว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘โส อุปริมํ สมาปตฺติ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๓) วิตฺถารโต วุตฺโต, ตสฺมา โยชนมตฺตํ กริสฺสาม.
โส รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานลาภี โยคาวจโร รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติโต อุปริมํ อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ ¶ สนฺตโต สนฺตตรโต มนสิ กโรติ. ยถาวุตฺตํ อุปริมํ สมาปตฺตึ สนฺตโต มนสิ กโรโต ตสฺส จตุตฺถชฺฌานลาภิโน โยคาวจรสฺส จตุตฺถชฺฌาเน สฺา สฺาปธานา สมาปตฺติ โอฬาริกา วิย หุตฺวา สณฺหติ, ปฏิฆสฺา จ อุกฺกณฺา อนภิรติ หุตฺวา สณฺหติ, โส ยถาวุตฺเตน วิธินา มนสิ กโรนฺโต โยคาวจโร สพฺพโส นิรวเสสโต รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘‘อากาสํ อนนฺต’’นฺติ มนสิ กตฺวา ปวตฺตมานํ อากาสานฺจายตนสมาปตฺตึ สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. รูปสฺา รูปาวจรสฺา ปฺจวิธอภิฺาภินีหาโร โหติ. นานตฺตสฺา นานารมฺมเณสุ โวกาโร อกุสโล ปวตฺตติ. เอวํ รูปาวจรชฺฌาเน อาทีนวทสฺสี หุตฺวา ตา รูปสฺานานตฺตสฺาโย อารมฺมเณ สมติกฺกมติ, อสฺส โยคาวจรสฺส ปฏิฆสฺา จ อพฺภตฺถํ คจฺฉติ. เอวํ อิมินา วุตฺตนเยน สมติกฺกเมน สมาหิตสฺส, สนฺตวุตฺตินา อรูปาวจรสมาธินา สมาหิตสฺส โยคาวจรสฺส โอภาโส รูปาวจรชฺฌาโนภาโส อนฺตรธายติ. รูปานํ กสิณรูปานํ ฌานจกฺขุนา ทสฺสนฺจ อนฺตรธายตีติ โยชนา.
‘‘เยน สมาธินา สมาหิตสฺส, สมาหิตสฺส โอภาโส จ รูปานํ ทสฺสนฺจ อนฺตรธายติ, โส สมาธิ กิตฺตเกหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต, กถํ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส สมาธี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โส สมาธีติ เยน รูปารูปาวจรสมาธินา สมาหิโต, โส ทุวิโธปิ สมาธิ อนภิชฺฌาพฺยาปาทวีริยารมฺเภหิ ตีหิ อุปการกงฺเคหิ จ ปสฺสทฺธิสตีหิ ทฺวีหิ ปริกฺขารงฺเคหิ จ อวิกฺขิตฺเตน เอเกน สภาวงฺเคน จ ฉหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโตติ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ ปุนปฺปุนํ จินฺเตตพฺโพ สลฺลกฺเขตพฺโพ ¶ . ‘‘กถํ กตฺถ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อนภิชฺฌาสหคตํ เม มานสํ สพฺพโลเก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เตสุ ฉสุ องฺเคสุ กิตฺตโก สมโถ, กิตฺตกา วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา เอตฺตโก สมโถ, เอตฺตกา วิปสฺสนาติ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ ยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๕๔. ‘‘ปฺาวิมุตฺตี’’ติ วุตฺตสฺส อรหตฺตผลสฺส สมาธิสฺส สมถวิปสฺสนาสงฺขาตา ปุพฺพภาคปฏิปทา สมาธิมุเขน อาจริเยน วิภตฺตา, ‘‘ตาย ปฏิปทาย ลภิตพฺโพ อรหตฺตผลสมาธิ กิตฺตเกน เวทิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส สมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. โย อรหตฺตผลสมาธิ สมถวิปสฺสนาปฏิปทาย ลภิตพฺโพ, โส อรหตฺตผลสมาธิ ปฺจวิเธน าณทสฺสเนน เวทิตพฺโพ.
‘‘กถํ ปฺจวิธาณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อยํ สมาธี’’ติอาทิ ¶ วุตฺตํ. อยํ อรหตฺตผลสมาธิ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ ผลสมาปตฺติสุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข โหติ, อิติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อสฺส อรหโต ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวติ. อยํ อรหตฺตผลสมาธิ อายตึ สมาปชฺชิตพฺพสฺส อรหตฺตผลสมาธิสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยตฺตา อายตึ สุขวิปาโก โหติ, อิติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส…เป… ภวติ. อยํ อรหตฺตผลสมาธิ กิเลสอรีหิ อารกตฺตา อริโย, กามามิสวฏฺฏามิสโลกามิสานํ อภาวโต นิรามิโส จ โหติ, อิติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส…เป… ภวติ. อยํ อรหตฺตผลสมาธิ อกาปุริเสหิ สมฺมาสมฺพุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกพุทฺเธหิ เสวิตพฺพตฺตา อกาปุริสเสวิโต โหติ, อิติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส…เป… ภวติ. อยํ อรหตฺตผลสมาธิ องฺคสนฺตกิเลสทรถสนฺตตฺตา สนฺโต เจว ทิวสมฺปิ สมาปชฺชนฺตสฺส อติตฺติกรณโต ปณีโต จ ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลเสน อรหตา ปุคฺคเลน ลทฺธตฺตา ปฏิปฺปสฺสทฺธิลทฺโธ จ อรหตฺตมคฺคสมาธิสงฺขาเตน เอโกทิภาเวน อธิคตตฺตา เอโกทิภาวาธิคโต จ สสงฺขาเรน สปโยเคน อธิคตตฺตา, นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺเม นิคฺคยฺห อนธิคตตฺตา, อฺเ กิเลเส วาเรตฺวา อนธิคตตฺตา, อรหตฺตมคฺคผลภาเวเนว ปวตฺตตฺตา นสสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต โหติ, อิติ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อสฺส อรหโต ปจฺจตฺตเมว าณทสฺสนํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวตีติ ปฺจวิเธน าณทสฺสเนน โส อรหตฺตผลสมาธิ วิจยิตฺวา เวทิตพฺโพติ.
‘‘ปจฺจุปฺปนฺนสุขาทีสุ ¶ สมาธีสุ กิตฺตโก สมโถ, กิตฺตกา วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมโถ, วิปสฺสนาติ จ อรหตฺตผลสมถวิปสฺสนาว อธิปฺเปตา, น ปุพฺพภาคสมถวิปสฺสนาติ. อรหตฺตผลสมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพติ อาจริเยน วุตฺโต, ‘‘ตสฺส อรหตฺตผลสมาธิสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทายํ วุตฺโต สมาธิ กิตฺตเกน เวทิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส สมาธิ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. โย รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานสมาธิ ปุพฺพภาคปฏิปทายํ วุตฺโต, โส รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานสมาธิ ปฺจวิเธน ปกาเรน เวทิตพฺโพ. ‘‘กตเมนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ปีติผรณตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา โหติ. ปมทุติยตติยชฺฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา โหติ. จตุตฺถชฺฌาเน เจโตปริยปฺา เจโตผรณตา โหติ. ทิพฺพจกฺขุปฺา อาโลกผรณตา โหติ. ฌานํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปวตฺตมานปฺา ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ โหติ. อิติ ปฺจวิเธน ปฺาปกาเรน วิจยิตฺวา เวทิตพฺโพติ. ‘‘เตสุ ปฺจวิเธสุ ปกาเรสุ กิตฺตโก สมโถ, กิตฺตกา วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จ ปีติผรโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๕๕. สมฺปโยควเสน สมาธิ อาจริเยน วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กถํ อารมฺมณวเสน ¶ วิภตฺโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทส กสิณายตนานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิเมหิ ทสหิ อารมฺมเณหิ กสิเณหิปิ สมาธิ วิจินิตฺวา เวทิตพฺโพติ. ‘‘เตสุ ทสสุ กิตฺตโก สมโถ, กิตฺตกา วิปสฺสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กสิณนฺติ จ กสิณมณฺฑลมฺปิ ปริกมฺมมฺปิ ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ ตสฺมึ ปฏิภาคนิมิตฺเต อุปฺปนฺนชฺฌานมฺปิ วุจฺจติ, อิธ ปน สสมฺปยุตฺตชฺฌานเมว อธิปฺเปตํ.
‘‘กึ ปน วุตฺตปฺปกาโร สมาธิเยว สมถวิปสฺสนาย โยเชตพฺโพ, อุทาหุ อฺโปิ โยเชตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา สติปฏฺานาทิปุพฺพภาคปฏิปทาเภเทน อเนกเภทภินฺโน นิรวเสโส อริยมคฺโคปิ วิจยิตฺวา โยเชตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ สพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอวนฺติ มยา วุตฺตนเยน วุตฺตนยานุสาเรน สพฺโพ นิรวเสโส สติปฏฺานาทิปุพฺพภาคปฏิปทาเภเทน อเนกเภทภินฺโน อริโย มคฺโค โยเชตพฺโพ. กถํ? เยน เยน อนภิชฺฌาทิอากาเรน ปจฺจุปฺปนฺนสุขตาทิอากาเรน ¶ สมาธิ มยา วุตฺโต, เตน เตน อนภิชฺฌาทิอากาเรน ปจฺจุปฺปนฺนสุขตาทิอากาเรน โย โย อริยมคฺโค สมเถน โยเชตุํ สมฺภวติ, โส โส อริยมคฺโค สมเถน วิจยิตฺวา โยชยิตพฺโพ. โย โย อริยมคฺโค วิปสฺสนาย โยเชตุํ สมฺภวติ, โส โส อริยมคฺโค วิปสฺสนาย โยชยิตฺวา โยชยิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
‘‘เยหิ สมถาธิฏฺาเนหิ วิปสฺสนาธมฺเมหิ โยชยิตพฺโพ, เต สมถาธิฏฺานา วิปสฺสนาธมฺมา กตเมหิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เต ตีหิ ธมฺเมหิ สงฺคหิตา อนิจฺจตาย ทุกฺขตาย อนตฺตตายา’’ติ วุตฺตํ, เต สมถาธิฏฺานา วิปสฺสนาธมฺมา ‘‘อนิจฺจตาย ปฺาย ทุกฺขตาย ปฺาย อนตฺตตาย ปฺายา’’ติ ตีหิ อนุปสฺสนาธมฺเมหิ สงฺคหิตา คณฺหิตาติ อตฺโถ. อนิจฺจตาทินา สหจรณโต อนุปสฺสนาปฺาปิ ‘‘อนิจฺจตา ทุกฺขตา อนตฺตตา’’ติ วุจฺจติ.
‘‘โย โยคี ปุคฺคโล สมถาธิฏฺานํ วิปสฺสนํ ภาวยมาโน โหติ, โส โยคี ปุคฺคโล กึ ภาวยตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยมาโน’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สมถวิปสฺสนาทีนิ ภาวยมาโน ปุคฺคโล ราคจริโต โทสจริโต โมหจริโตติ ติวิโธ, ‘‘ตตฺถ กตโม ปุคฺคโล กตเมน กตเมน วิโมกฺขมุเขน นิยฺยาติ, กตมายํ กตมายํ สิกฺขนฺโต, กตมํ กตมํ ปชหนฺโต, กตมํ กตมํ อนุปคจฺฉนฺโต, กตมํ กตมํ ปริชานนฺโต, กตมํ กตมํ ปวาเหนฺโต, กตมํ กตมํ นิทฺธุนนฺโต, กตมํ กตมํ วเมนฺโต, กตมํ กตมํ นิพฺพาเปนฺโต, กตมํ กตมํ อุปฺปาเฏนฺโต, กตมํ กตมํ วิชเฏนฺโต นิยฺยาตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ¶ ‘‘ราคจริโต ปุคฺคโล’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อิทานิ เยสํ ปุคฺคลานํ ยตฺถ สิกฺขนฺตานํ วิเสสโต นิยฺยานมุขานิ, เยสฺจ กิเลสานํ ปฏิปกฺขภูตานิ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ, เตหิ สทฺธึ ตานิ ทสฺเสตุํ ‘ราคจริโต’ติอาทิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถปิ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๕) วุตฺโตเยว.
‘‘กสฺมา ¶ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยนฺโต ตโย ขนฺเธ ภาวยตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สฺุตวิโมกฺขมุข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ วิโมกฺขมุเขสุ. สฺุตวิโมกฺขมุขํ ปฺากฺขนฺโธ อนตฺตานุปสฺสนาย ปฺาปธานตฺตา. อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ สมาธิกฺขนฺโธ อนิจฺจานุปสฺสนาย สมาธิปธานตฺตา. อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ สีลกฺขนฺโธ ทุกฺขานุปสฺสนาย สีลปธานตฺตา. อิติ ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ ติณฺณํ ขนฺธานํ สงฺคหิตตฺตา ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ ภาวยนฺโต โส โยคี ปุคฺคโล ตโย ขนฺเธ ภาวยติเยวาติ ปฺาปธานาทิภาโว อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๕) วุตฺโต. ตโย ขนฺเธ ภาวยนฺโต อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาวยติ. ‘‘กสฺมา ภาวยตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ยา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ติณฺณํ ขนฺธานํ อริยอฏฺงฺคิกมคฺคภาโว วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ ชานิโต, ‘‘กถํ สมถวิปสฺสนาภาโว ชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ติณฺณํ ขนฺธานํ สมถวิปสฺสนาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ สีลกฺขนฺโธ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘โย โยคี ปุคฺคโล สมถวิปสฺสนํ ภาเวติ, ตสฺส โยคิโน ปุคฺคลสฺส ภวงฺคานิ กตมํ ภาวนํ คจฺฉนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โย สมถวิปสฺสนํ ภาเวติ, ตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กาโย จ จิตฺตฺจ ทฺเว ภวงฺคานิ อุปปตฺติภวสฺส องฺคานิ ภาวนํ วฑฺฒนํ คจฺฉนฺติ. สีลฺจ สมาธิ จ ทฺเว ปทานิ ทฺเว ปาทา ภวนิโรธคามินี ปฏิปทา ภาวนํ วฑฺฒนํ คจฺฉนฺติ.
‘‘กถํ คจฺฉนฺตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โส โหติ ภิกฺขู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภาวิตกาโยติ ภาวิโต กาโย กายอาภิสมาจาริโก, กายสํวโร วา เยน ภิกฺขุนาติ ภาวิตกาโย. เสเสสุปิ เอส นโย. กาเย กายอาภิสมาจาริเก, กายสํวเร วา ภาวิยมาเน สติ สมฺมากมฺมนฺโต, สมฺมาวายาโม จ ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ กายสมาจารสีลตฺตา. สีเล วาจาสํวรอาชีวสํวรวเสน ปวตฺเต สีเล ภาวิยมาเน สติ สมฺมาวาจา จ สมฺมาอาชีโว จ ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ วาจาทิสํวรสีลตฺตา. จิตฺเต จิตฺตสํวรวเสน ปวตฺเต จิตฺเต ภาวิยมาเน สติ สมฺมาสติ จ สมฺมาสมาธิ จ ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ จิตฺตสํวรสีลตฺตา. ปฺาย ภาวิยมานาย สติ ¶ สมฺมาทิฏฺิ จ สมฺมาสงฺกปฺโป ¶ จ ทฺเว ธมฺมา ภาวนํ คจฺฉนฺติ สมานตฺตา, อุปการกตฺตา จ. สมฺมาสงฺกปฺเปน หิ ปุนปฺปุนํ สงฺกปฺปนฺตสฺส ปฺา วฑฺฒตีติ.
‘‘สมฺมากมฺมนฺโต จ สมฺมาวายาโม จ ทฺเว ธมฺมา กายวเสเนว วิภตฺตา วิเจตพฺพา กึ, อุทาหุ จิตฺตวเสน วิภตฺตา วิเจตพฺพา กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จ สมฺมากมฺมนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. กายสุจริตเจตนาภูโต โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, ตํสหิโต โย จ สมฺมาวายาโม สิยา กายิโก, วิรติภูโต โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, ตํสหิโต โย จ สมฺมาวายาโม สิยา เจตสิโก, ตตฺถ เตสุ กายิกเจตสิกภูเตสุ สมฺมากมฺมนฺตสมฺมาวายาเมสุ โย สมฺมากมฺมนฺตสมฺมาวายาโม กายสงฺคโห, โส สมฺมากมฺมนฺตสมฺมาวายาโม กาเย กายอาภิสมาจาริเก, กายสํวเร วา ภาวิเต สติ ภาวนํ คจฺฉติ. โย สมฺมากมฺมนฺตสมฺมาวายาโม จิตฺตสงฺคโห, โส สมฺมากมฺมนฺตสมฺมาวายาโม จิตฺเต จิตฺตสํวเร ภาวิเต สติ ภาวนํ คจฺฉตีติ โยชนา.
‘‘สมถวิปสฺสนํ ภาวยนฺโต โส โยคี ปุคฺคโล กิตฺตกํ อธิคมํ คจฺฉตี’’ติ วิจยิตพฺพตฺตา ‘‘โส สมถวิปสฺสนํ ภาวยนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺจวิธํ อริยมคฺคาธิคมํ ทสฺเสตุํ ‘‘ขิปฺปาธิคโม จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๕) วิภตฺโต. ‘‘เกน กตโม อธิคโม โหตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สมเถนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๕๖. ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติอาทิสุตฺตตฺโถ เวเนยฺยานํ อรหตฺตผลวิมุตฺติมุเขน อาจริเยน วิจยิโต วิภตฺโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘เทสกสฺส ทสพลสมนฺนาคตสฺส ทส พลานิ กถํ วิจยิตพฺพานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย เทสยติ, โส ทสพลสมนฺนาคโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน –
‘‘อิติ มหาเถโร ‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’ติ คาถาย วเสน อรหตฺตผลวิมุตฺติมุเขน วิจยหารสมฺปาตํ นิทฺทิสนฺโต, เทสนากุสลตาย อเนเกหิ สุตฺตปฺปเทเสหิ ตสฺสา ปุพฺพภาคปฏิปทาย ภาวนาวิเสสานํ ภาวนานิสํสานฺจ วิภชนวเสน นานปฺปการโต วิจยหารํ ทสฺเสตฺวา, อิทานิ ทสนฺนํ ¶ ตถาคตพลานมฺปิ วเสน ตํ ทสฺเสตุํ ‘ตตฺถ โย เทสยตี’ติอาทิมาหา’’ติ –
วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ สมถวิปสฺสนํ ภาวยนฺเตสุ สาสิตพฺพสาสเกสุ. ทสพลสมนฺนาคโต โย ¶ เทสโก สตฺถา ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติอาทิธมฺมํ เทเสติ, โอวาเทน สาวเก น วิสํวาทยติ, ตสฺส เทสกสฺส สตฺถุโน ทส พลานิ วิจยิตพฺพานีติ โยชนา.
‘‘กินฺติ เทเสตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส ติวิธ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตสุ ทสสุ ตถาคตพเลสุ านาฏฺานาณํ ปมํ ตถาคตพลํ นาม, ‘‘ตํ พลํ กถํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส ตถา โอวทิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺโถ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๖) วุตฺโต, ปาฬิวเสนปิ ปากโฏ. ‘‘เอตํ านํ น วิชฺชตี’’ติ ชานนํ อฏฺานาณํ นาม, ‘‘เอตํ านํ วิชฺชตี’’ติ ชานนํ านาณํ นามาติ านาฏฺานานํ ชานนาณํ ปมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. (๑)
๕๗. านาฏฺานาณํ ปมํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ วิภตฺตํ อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กถํ สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณํ ทุติยตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ านาฏฺานตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อยํ ปฏิปทา อิมสฺมึ ภเว คามินี, อยํ ปฏิปทา อิมสฺมึ ภเว คามินี’’ติ สพฺพตฺถ คามินิยา ปฏิปทาย ชานนาณํ สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณํ นามาติ สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณํ ทุติยํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. (๒)
๕๙. สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาณํ ทุติยํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กถํ อเนกธาตุนานาธาตุาณํ ตติยํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อยํ ธาตุ จ อยํ ธาตุ จ อเนกธาตุ นาม, อยํ ธาตุ จ อยํ ธาตุ จ นานาธาตุ นามา’’ติ อเนกธาตุนานาธาตูนํ ชานนาณํ อเนกธาตุนานาธาตุาณํ นามาติ อเนกธาตุนานาธาตุาณํ ตติยํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ. (๓)
๖๐. อเนกธาตุนานาธาตุาณํ ¶ ตติยํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กถํ สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตาาณํ จตุตฺถํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ อเนกธาตุนานาธาตุกสฺส โลกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อิเม สตฺตา เอวํ อธิมุตฺตา, อิเม สตฺตา เอวํ อธิมุตฺตา’’ติ สตฺตานํ อธิมุจฺจนานํ ชานนาณํ สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตาาณํ นามาติ สตฺตานํ นานาธิมุตฺติกตาาณํ จตุตฺถํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ. (๔)
สตฺตานํ ¶ นานาธิมุตฺติกตาาณํ จตุตฺถํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กถํ วิปากเวมตฺตตาาณํ ปฺจมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ เต ยถาธิมุตฺตา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ อธิมุตฺตานํ สตฺตานํ อิทํ กมฺมํ กณฺหํ, อิมสฺส กณฺหกมฺมสฺส อยํ วิปาโก. อิทํ กมฺมํ สุกฺกํ, อิมสฺส สุกฺกกมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ เอวมาทีหิ วิปากานํ นานตฺตชานนาณํ วิปากเวมตฺตตาาณํ นามาติ วิปากเวมตฺตตาาณํ ปฺจมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ.
๖๒. วิปากเวมตฺตตาาณํ ปฺจมํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กถํ ฌานานํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานาณํ ฉฏฺํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ ตถา สมาทินฺนาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ สมาทินฺนานํ กมฺมานํ ฌานานํ วิโมกฺขานํ สมาธีนํ สมาปตฺตีนํ อยํ สํกิเลโส, อิทํ โวทานํ, อิทํ วุฏฺานํ, เอวํ สํกิลิสฺสติ, เอวํ โวทายติ, เอวํ วุฏฺหตี’’ติ ฌานานํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานานํ อนาวรณาณํ ฌานานํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานาณํ นามาติ ฌานานํ สํกิเลสโวทานวุฏฺานาณํ ฉฏฺํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ. (๕)
๖๓. ฌานานํ สํกิเลสาณํ ฉฏฺํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ, ‘‘กถํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตาาณํ สตฺตมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ ตสฺเสว สมาธิสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เอวํ อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยานิ, เอวํ อกมฺปิยฏฺเน พลานี’’ติ ชานเนน สห ‘‘อยํ มุทินฺทฺริโย, อยํ มชฺฌินฺทฺริโย, อยํ ติกฺขินฺทฺริโย’’ติ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยพลานํ อมุทุมชฺฌาธิมตฺตตาชานนาณํอมุทุมชฺฌาธิมตฺตตาชานนาณํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตาาณํ นามาติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตเวมตฺตตาาณํ สตฺตมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ. (๖)
๖๔. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ¶ สตฺตมํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ, ‘‘กถํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ อฏฺมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพํ, กถํ ทิพฺพจกฺขุาณํ นวมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ ตตฺถ ยํ อเนกวิหิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เอกํ ชาติ’’นฺติอาทินา ชาติวเสน วา ‘‘เอวํนาโม’’ติอาทินา นามโคตฺตวณฺณาหารสุขทุกฺขปฏิสํเวทนาย ปริยนฺตวเสน วา สาการสฺส สอุทฺเทสสฺส อเนกวิหิตปุพฺเพนิวาสสฺส ตํตํภวสฺส อเสสโต ชานนาณํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ นามาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ อฏฺมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ. (๗)
จวมานอุปปชฺชมานหีนปณีตสุวณฺณทุพฺพณฺณสุคตทุคฺคตยถากมฺมูปคานํ ¶ สตฺตานํ อเสสโต จุตูปปาตานํ ชานนาณํ ทิพฺพจกฺขุาณํ นามาติ ทิพฺพจกฺขุาณํ นวมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ. (๘-๙)
ปุพฺเพนิวาสาทิอฏฺมนวมํ ตถาคตพลํ อาจริเยน วิจยิตํ วิภตฺตํ, ‘‘กถํ สพฺพาสวกฺขยาณํ ทสมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อิติ ตตฺถ ย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. โพธิมูเล สํกิเลสมารนิหนํ าณํ อุปฺปนฺนํ, อิทํ กิเลสมารนิหนํ าณํ สพฺพาสวกฺขยาณํ นามาติ สพฺพาสวกฺขยาณํ ทสมํ ตถาคตพลํ วิจยิตพฺพนฺติ อยํ สงฺเขปตฺโถ. วิตฺถารโต ปน ปาฬิโต จ อฏฺกถาโต จ ยติโปตานมฺปิ ปากโฏ ภเวยฺยาติ มฺิตฺวา น ทสฺสิโต.(๑๐)
‘‘เอตฺตโกว วิจยหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต วิจโย หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เย เย สุตฺตปฺปเทสตฺถา วุตฺตา, เต เต สุตฺตปฺปเทสตฺถา เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน วิจยหารสมฺปาเตน วิจยิตพฺพา, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิจยหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นีหริตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ วิจยหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๓. ยุตฺติหารสมฺปาตวิภาวนา
๖๕. เยน ¶ เยน วิจยหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา อาจริเยน วิจยิตพฺพา, อมฺเหหิ จ าตา, โส วิจยหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ยุตฺติหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ยุตฺติหารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘เอวํ นานานเยหิ วิจยหารสมฺปาตํ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ ยุตฺติหารสมฺปาตาทีนิ ทสฺเสตุํ ‘ตตฺถ กตโม ยุตฺติหารสมฺปาโต’ติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๖๕) วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ เทสนาหารสมฺปาตาทีสุ ¶ โสฬสสุ หารสมฺปาเตสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ยุตฺติหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ, ปุจฺฉิตฺวา ยสฺมึ สุตฺตปฺปเทเส วุตฺตานํ อตฺถานํ ยุตฺติภาโว วิจาเรตพฺโพ, ตํ สุตฺตปฺปเทสํ นีหริตุํ –
‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร;
สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพยํ;
ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขุ, สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ. (อุทา. ๓๒; เนตฺติ. ๓๑, ๗๘) –
วุตฺตํ. ตสฺสํ คาถายํ ตสฺมา อรกฺขิตจิตฺตสฺส มารวสานุคตตฺตา สติสํวรอินฺทฺริยสํวราทิวเสน ภิกฺขุ รกฺขิตจิตฺโต อสฺส ภเวยฺย, ตสฺมา กามวิตกฺกาทิมิจฺฉาสงฺกปฺปโคจรสฺส มารวสานุคตตฺตา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน ภิกฺขุ สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร อสฺส ภเวยฺย, ตสฺมา มิจฺฉาทิฏฺิหตจิตฺตสฺส มารวสานุคตตฺตา โยนิโสมนสิกาเรน ภิกฺขุ อุทยพฺพยํ ตฺวาน สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร อสฺส ภเวยฺย, ตสฺมา ถินมิทฺเธน หตจิตฺตสฺส มารวสานุคตตฺตา วีริยวเสน ภิกฺขุ ถินมิทฺธาภิภู อสฺส ภเวยฺย, ตาทิโส ภิกฺขุ สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห ชหิสฺสตีติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
‘‘ตสฺสํ คาถายํ กถํ ยุตฺติภาโว วิจาเรตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. รกฺขิตจิตฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร ภวิสฺสตีติ อตฺโถ ยุชฺชติ เอว, โน น ยุชฺชติ. มิจฺฉาสงฺกปฺปานมฺปิ ชหิตตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร หุตฺวา วิหรนฺโต อุทยพฺพยํ ปฏิวิชฺฌิสฺสตีติ อตฺโถ ยุชฺชติ สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขารสฺส อุทยพฺพยานุปสฺสนาสมฺภวโต. อุทยพฺพยํ ปฏิวิชฺฌนฺโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหิสฺสตีติ อตฺโถ ¶ ยุชฺชติ อุทยพฺพยานุปสฺสนานุกฺกเมน อริยมคฺคสมฺภวโต. สพฺพา ทุคฺคติโย ชหนฺโต สพฺพานิ ทุคฺคติวินิปาตภยานิ สมติกฺกมิสฺสตีติ อตฺโถ ยุชฺชติ สพฺเพสํ ทุคฺคติวินิปาตภยานํ อนุปฺปชฺชนโต.
‘‘เอตฺตโกว ยุตฺติหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ยุตฺติหารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ยุตฺติหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถานํ ยุตฺติภาโว วิจาเรตพฺโพ ¶ , โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ยุตฺติหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ ยุตฺติหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๔. ปทฏฺานหารสมฺปาตวิภาวนา
๖๖. เยน เยน ยุตฺติหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถานํ ยุตฺติภาโว อาจริเยน วิภาวิโต, อมฺเหหิ จ าโต, โส ยุตฺติหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปทฏฺานหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปทฏฺาโน หารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉติ.
ปุจฺฉิตฺวา ยสฺมึ สุตฺตปฺปเทเส วุตฺตานิ ปทฏฺานานิ นีหริตานิ, ตํ สุตฺตปฺปเทสํ นีหริตุํ ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโรติ คาถา’’ติ วุตฺตา. คาถาตฺโถ วุตฺโตว. ‘‘กตเม คาถาตฺถา กตเมสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ สุตฺตปฺปเทสสฺส อตฺถภูตา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺานํ นาม สุจริตปาริปูริยา อาสนฺนการณตฺตา. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ สุตฺตปฺปเทสสฺส อตฺถภูตา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย สมฺมาสงฺกปฺปา สมถสฺส ปทฏฺานํ นาม กามจฺฉนฺทอาทินีวรณวิกฺขมฺภนสฺส อาสนฺนการณตฺตา. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ สุตฺตปฺปเทสสฺส อตฺถภูตา กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฏฺิ จ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนสมฺมาทิฏฺิ ¶ จ วิปสฺสนาย ปทฏฺานํ นาม อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ วิเสสการณตฺตา. ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ สุตฺตปฺปเทสสฺส อตฺถภูตา อุทยพฺพยานุปสฺสนาปฺา ทสฺสนภูมิยา ปทฏฺานํ นาม ปมมคฺคาธิคมสฺส อาสนฺนการณตฺตา. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขู’’ติ สุตฺตปฺปเทสสฺส อตฺถภูตํ ถินมิทฺธาภิภวนํ วีริยสฺส ปทฏฺานํ นาม อาสนฺนการณตฺตา. ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ สุตฺตปฺปเทสสฺส อตฺถภูตา ปหาตพฺพชหนภาวนาย อริยมคฺคภาวนาย ปทฏฺานํ นาม ปหาตพฺพปฺปหาเนน อริยมคฺคภาวนาปาริปูริสมฺภวโต.
‘‘เอตฺตโกว ¶ ปทฏฺานหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ปทฏฺาโน หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปทฏฺานหารสมฺปาตภูเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถานิ ปทฏฺานานิ นีหริตานิ, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปทฏฺานหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ ปทฏฺานหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๕. ลกฺขณหารสมฺปาตวิภาวนา
๖๗. เยน เยน ปทฏฺานหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถานิ ปทฏฺานานิ อาจริเยน นิทฺธาริตานิ, อมฺเหหิ จ าตานิ, โส ปทฏฺานหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ลกฺขณหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ เทสนาหารสมฺปาตาทีสุ โสฬสสุ หารสมฺปาเตสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส ลกฺขณหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ.
‘‘กตเมหิ สุตฺตตฺเถหิ สมานลกฺขณา กตเม ธมฺมา คหิตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ สุตฺตปฺปเทเสน วุตฺตํ อิทํ รกฺขณํ สตินฺทฺริยํ คหิตํ, สตินฺทฺริเย ¶ คหิเต สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานิ คหิตานิ ภวนฺติ อินฺทฺริยฏฺเน สมานลกฺขณตฺตา. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ สุตฺตปฺปเทเสน วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ คหิตา, สมฺมาทิฏฺิยา คหิตาย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค คหิโต ภวติ. ตํ กิสฺส เหตูติ การณํ ปุจฺฉติ. ปุจฺฉิตฺวา การณมาห ‘‘สมฺมาทิฏฺิโต หี’’ติอาทินา. สมฺมาทิฏฺิเหตุโต สมฺมาสงฺกปฺโป หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาสงฺกปฺปโต สมฺมาวาจา หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาวาจาโต สมฺมากมฺมนฺโต หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมากมฺมนฺตโต สมฺมาอาชีโว หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาอาชีวโต สมฺมาวายาโม หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาวายามโต สมฺมาสติหิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาสติโต ¶ สมฺมาสมาธิ หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาสมาธิโต สมฺมาวิมุตฺติ หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, สมฺมาวิมุตฺติโต สมฺมาวิมุตฺติาณทสฺสนํ หิ ยสฺมา ปภวติ, ตสฺมา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค คหิโต ภวตีติ.
‘‘เอตฺตโกว ลกฺขณหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ลกฺขโณ หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ลกฺขณหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา สมานลกฺขเณน คหิตา ภวนฺติ, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ลกฺขณหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คหิโตติ.
อิติ ลกฺขณหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๖. จตุพฺยูหหารสมฺปาตวิภาวนา
๖๘. เยน เยน ลกฺขณหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา สมานลกฺขเณน คหิตา, โส ลกฺขณหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม จตุพฺยูหหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม จตุพฺยูโห หารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ เทสนาหารสมฺปาตาทีสุ โสฬสสุ หารสมฺปาเตสุ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส จตุพฺยูหหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ.
‘‘กตมสฺมึ ¶ สุตฺเต กตเม นิรุตฺยาธิปฺปายนิทานปุพฺพาปรานุสนฺธโย นิทฺธาริตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ สุตฺตปฺปเทเส ‘‘รกฺขียเต รกฺขิต’’นฺติ นิรุตฺตึ ‘‘ปริปาลียตี’’ติ อิมินา ปริยาเยน ทสฺเสติ, อิติสทฺทสฺส อาทฺยตฺถตฺตา ‘‘จินฺเตตีติ จิตฺตํ, อตฺตโน สนฺตานํ จิโนตีติ จิตฺตํ, ปจฺจเยหิ จิตนฺติ จิตฺตํ, จิตฺตวิจิตฺตฏฺเน จิตฺตํ, จิตฺตกรณฏฺเน จิตฺตํ, รกฺขิตํ จิตฺตํ ยสฺสาติ รกฺขิตจิตฺโต. สมฺมา สงฺกปฺเปตีติ สมฺมาสงฺกปฺโป, คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิยาติ โคจโร, สมฺมาสงฺกปฺโป โคจโร อสฺสาติ สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร. สมฺมา ปสฺสตีติ สมฺมาทิฏฺิ, สมฺมาทิฏฺิ ปุเรกฺขาโร ¶ อสฺสาติ สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร. ชานาตีติ ตฺวาน. อุทโย จ วโย จ อุทยพฺพยํ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ, อภิภวตีติ อภิภู, ถินมิทฺธํ อภิภูติ ถินมิทฺธาภิภู. ภิกฺขตีติ ภิกฺขู’’ติ นิรุตฺติปิ นีหริตา. เตนาห – ‘‘อิติ-สทฺโท อาทฺยตฺโถ’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๖๘). เอสา วุตฺตปฺปการา ปฺตฺติ นิรุตฺติ นามาติ นีหริตา.
อิธ สุตฺตปฺปเทเส ภควโต โก อธิปฺปาโยติ เจ ปุจฺเฉยฺย, เย สปฺปุริสา สพฺพาหิ ทุคฺคตีหิ ปริมุจฺจิตุกามา ภวิสฺสนฺติ, เต สปฺปุริสา ธมฺมจาริโน รกฺขิตจิตฺตา ภวิสฺสนฺตีติ อยํ อธิปฺปาโย. เอตฺถ ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติอาทิสุตฺตปฺปเทเส ภควโต อธิปฺปาโยติ นีหริตพฺโพ.
‘‘กตมํ นิทาน’’นฺติ เจ ปุจฺเฉยฺย, โกกาลิโก สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ เถเรสุ จิตฺตํ อรกฺขิตฺวา ปโทสยิตฺวา มหาปทุมนิรเย ยสฺมา อุปปนฺโน, ยสฺมา ภควา จ สติอารกฺเขน สมนฺนาคโต สพฺพา ทุคฺคติโย ชหติ, ตสฺมา จ สพฺพา ทุคฺคติโย ชหิตุกาโม ภิกฺขุ สปฺปุริโส รกฺขิตจิตฺโต อสฺส ภเวยฺยาติ นิทานํ นีหริตพฺพํ.
‘‘กตโม ปุพฺพาปรสนฺธี’’ติ เจ ปุจฺเฉยฺย, สุตฺตมฺหิ ‘‘สติยา จิตฺตํ รกฺขิตพฺพ’’นฺติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, เตน ปุพฺพวจเนน อยํ ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส…เป… สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ สุตฺตปฺปเทโส อนุสนฺธิ สํสนฺทติ สเมตีติ ปุพฺพปรานุสนฺธิ นิทฺธาริตพฺโพติ.
‘‘เอตฺตโกว ¶ จตุพฺยูหหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต จตุพฺยูโห หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน จตุพฺยูหหารสมฺปาเตน นิรุตฺยาธิปฺปายนิทานปุพฺพาปรานุสนฺธิ นิทฺธาริตพฺโพ, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต จตุพฺยูหหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ จตุพฺยูหหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๗. อาวฏฺฏหารสมฺปาตวิภาวนา
๖๙. เยน ¶ เยน จตุพฺยูหหารสมฺปาเตน นิรุตฺยาธิปฺปายนิทานปุพฺพาปรานุสนฺธโย วิภตฺตา, โส จตุพฺยูหหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม อาวฏฺฏหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส อาวฏฺฏหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ.
‘‘กตเม สุตฺตตฺถา กถํ อาวฏฺเฏตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เนกฺขมฺมสงฺกปฺปสงฺขาตสมฺมาสงฺกปฺปพหุโล กสิณาทิวเสน, อวิหึสาสงฺกปฺปสงฺขาตสมฺมาสงฺกปฺปพหุโล เมตฺตาทิวเสน อธิคตาย จิตฺเตกคฺคตาย จิตฺตํ เปนฺโต สํกิเลสโต รกฺขิตจิตฺโต นาม โหติ, ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺส, สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ อิมินา รกฺขิตจิตฺเต วุตฺเต สติ ยา เอกคฺคตา อาวฏฺเฏตพฺพา, สา อยํ เอกคฺคตา สมโถ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ อิมินา สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาเร วุตฺเต สติ ยา ปฺา อาวฏฺเฏตพฺพา, สา อยํ ปฺา วิปสฺสนา. ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ อิมินา อุทยพฺพยาณสมนฺนาคเต วุตฺเต สติ ยา ทุกฺขปริชานนา อาวฏฺเฏตพฺพา, สา อยํ ทุกฺขปริชานนา ทุกฺขปริฺา. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขู’’ติ อิมินา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ยํ ถินมิทฺธาภิภวนํ วุตฺตํ, อิทํ ถินมิทฺธาภิภวนํ สมุทยปฺปหานํ. ‘‘สมฺมา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ อิมินา โย สพฺพทุคฺคติชหนสงฺขาโต อนุปฺปาโท วุตฺโต, โส อยํ อนุปฺปาโท ¶ นิโรโธ. อิติ ทุกฺขปริฺาย ปริฺเตพฺพํ ทุกฺขสจฺจํ อาวฏฺเฏตพฺพํ, สมุทยปฺปหาเนน ปหาตพฺพํ สมุทยสจฺจํ อาวฏฺเฏตพฺพํ, นิโรเธน นิโรธสจฺจํ อาวฏฺเฏตพฺพํ, สมถวิปสฺสนาหิ มคฺคสจฺจํ อาวฏฺเฏตพฺพนฺติ อิมานิ จตฺตาริ สจฺจานิ อาวฏฺเฏตพฺพานีติ.
‘‘เอตฺตโกว อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต อาวฏฺโฏ หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน อาวฏฺฏหารสมฺปาเตน สมถาทโย อาวฏฺเฏตพฺพา ¶ , โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต อาวฏฺฏหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ อาวฏฺฏหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๘. วิภตฺติหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๐. เยน เยน อาวฏฺฏหารสมฺปาเตน สุตฺตตฺถา อาวฏฺเฏตพฺพา, โส อาวฏฺฏหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม วิภตฺติหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม วิภตฺติหารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กตโม สํวณฺณนาวิเสโส วิภตฺติหารสมฺปาโต นามาติ ปุจฺฉติ.
‘‘กตเม สุตฺตตฺถา กตฺถ วิภตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ‘‘ตสฺมา…เป… โคจโร’’ติ คาถา วุตฺตา, ติสฺสํ คาถายํ วุตฺโต กุสลปกฺโข ธมฺโม กุสลปกฺเขน ธมฺเมน สติสํวโร ธมฺโม นิทฺทิสิตพฺโพ วิภชิตพฺโพ, อกุสลปกฺเขน ธมฺเมน นิทฺทิสิตพฺโพ วิภชิตพฺโพ.
กถํ? ‘‘รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ปเทน วุตฺโต กุสลปกฺโข สติสํวโร ธมฺโม ‘‘จกฺขุทฺวารสํวโร…เป… มโนทฺวารสํวโร’’ติ ฉพฺพิเธน กุสลปกฺเขน ธมฺเมน นิทฺทิสิตพฺโพ วิภชิตพฺโพ. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺโป’’ติ ปเทน วุตฺโต กุสลปกฺโข สมฺมาสงฺกปฺโป ธมฺโม ‘‘เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป อพฺยาปาท-สงฺกปฺโป อวิหึสาสงฺกปฺโป’’ติ ติวิเธน กุสลปกฺเขน ธมฺเมน ¶ วิภชิตพฺโพ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ ปเทน วุตฺตา กุสลปกฺขา ธมฺมชาติ ‘‘ทุกฺเข าณํ, ทุกฺขสมุทเย าณํ, ทุกฺขนิโรเธ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทาย าณํ, ปุพฺพนฺเต าณํ, อปรนฺเต าณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต าณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ าณ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๓) อฏฺวิเธน กุสลปกฺเขน ธมฺเมน วิภชิตพฺพา. ‘‘ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ ปเทน วุตฺตํ กุสลปกฺขอุทยพฺพยาณํ ธมฺมชาตํ ปฺาสวิเธน อุทยพฺพยาเณน กุสลปกฺเขน วิภชิตพฺพํ. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู’’ติ ปเทน วุตฺตํ ถินมิทฺธาภิภวนํ กุสลปกฺขํ ธมฺมชาตํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคาภิภวนํ ¶ สกทาคามิมคฺคาภิภวนํ อนาคามิมคฺคาภิภวนํ อรหตฺตมคฺคาภิภวน’’นฺติ จตุพฺพิเธน กุสลปกฺเขน วิภชิตพฺพํ.
สติสํวโร กุสลปกฺโข ‘‘โลกิโย สติสํวโร, โลกุตฺตโร สติสํวโร’’ติ ทุพฺพิเธน วิภชิตพฺโพติ. โลกิโย สติสํวโร กามาวจโรวาติ เอกวิเธน วิภชิตพฺโพ. โลกุตฺตรา สติสํวโร ‘‘ทสฺสนภูมิ, ภาวนาภูมี’’ติ ทุพฺพิเธน วิภชิตพฺโพ. กามาวจโร สติสํวโร ‘‘กายานุปสฺสนาสติสํวโร เวทนานุปสฺสนาสติสํวโร จิตฺตานุปสฺสนาสติสํวโร ธมฺมานุปสฺสนาสติสํวโร’’ติ จตุพฺพิเธน วิภชิตพฺโพ. โลกุตฺตโร สติสํวโรปิ ตถา จตุพฺพิเธน วิภชิตพฺโพ. สมฺมาสงฺกปฺปสมฺมาทิฏฺิโยปิ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุพฺพิธาทิเภเทน วิภชิตพฺพา. ปทฏฺาเนนปิ ปทฏฺานหารสมฺปาเต วุตฺตนเยน วิภชิตพฺพา.
อกุสลปกฺเขน ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ ปเทน วุตฺโต อสํวโร ‘‘จกฺขุอสํวโร …เป… กายอสํวโร, โจปนกายอสํวโร, วาจาอสํวโร, มโนอสํวโร’’ติ อฏฺวิเธน วิภชิตพฺโพ. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิหเตนา’’ติ ปเทน คหิโต มิจฺฉาสงฺกปฺโป ‘‘กามวิตกฺโก พฺยาปาทวิตกฺโก วิหึสาวิตกฺโก’’ติ ติวิเธน วิภชิตพฺโพ. ‘‘มิจฺฉาทิฏฺี’’ติ ปเทน วุตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิ ‘‘ทุกฺเข อฺาณํ…เป…อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณ’’นฺติ อฏฺวิเธน วิภชิตพฺพา, ทฺวาสฏฺิทิฏฺิวิเธนปิ วิภชิตพฺพา. ถินมิทฺธํ ปฺจวิเธน สสงฺขาริกวิเธน วิภชิตพฺพํ.
‘‘เอตฺตโกว วิภตฺติหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต วิภตฺติหารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน วิภตฺติหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา วิภตฺตา, โส โส ¶ สํวณฺณนาวิเสสภูโต วิภตฺติหารสมฺปาโต นิยุตฺโตติ ยถารห นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ วิภตฺติหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๙. ปริวตฺตนหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๑. เยน ¶ เยน วิภตฺติหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา วิภตฺตา, โส วิภตฺติหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปริวตฺตนหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปริวตฺตโน หารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘กตเม สุตฺตปฺปเทสตฺถา กถํ ปริวตฺเตตพฺพา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ‘‘ตสฺมา…เป… โคจโร’’ติ คาถา วุตฺตา, ตาย คาถาย ยา สมถวิปสฺสนา นิทฺธาริตา, ตาย สมถวิปสฺสนาย ภาวิตาย อกุสลานํ นิโรโธ ผลํ ปโยชนํ โหติ, ปริฺาตํ ทุกฺขํ โหติ, สมุทโย ปหีโน โหติ, มคฺโค ภาวิโต โหตีติ ปริวตฺเตตพฺโพ. ปฏิปกฺเขน ปน สมถวิปสฺสนาย อภาวิตาย อกุสลานํ อนิโรโธ, อปริฺาตํ ทุกฺขํ, สมุทโย อปฺปหีโน, มคฺโค อภาวิโต โหตีติ ปริวตฺเตตพฺโพ.
‘‘เอตฺตโกว ปริวตฺตนหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ปริวตฺตโน หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปริวตฺตนหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา ปริวตฺเตตพฺพา, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปริวตฺตนหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นีหริตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ ปริวตฺตนหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๑๐. เววจนหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๒. เยน ¶ เยน ปริวตฺตนหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา ปริวตฺเตตพฺพา, โส ปริวตฺตโน หารสมฺปาโตติ ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม เววจโน หารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม เววจโน หารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘กตเมสํ ¶ สุตฺตปฺปเทสตฺถานํ, สุตฺตปทานํ วา กตมานิ เววจนานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ‘‘ตสฺมา…เป… โคจโร’’ติ คาถา วุตฺตา, ตาย คาถาย ‘‘รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ปเทน วุตฺตสฺส จิตฺตสฺส, ‘‘รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ จิตฺตสฺส ปทสฺส วา ‘‘จิตฺตํ…เป… วิชานิตตฺต’’นฺติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ เววจนํ, ‘‘มานสํ หทย’’นฺติอาทิวจนมฺปิ (ธ. ส. ๑๗, ๖๓) จิตฺตสฺส เววจนํ. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ เอตฺถ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ‘‘เนกฺขมฺมสงฺกปฺโป อพฺยาปาทสงฺกปฺโป อวิหึสาสงฺกปฺโป’’ติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ เววจนํ, ‘‘ตกฺโก วิตกฺโก’’ติอาทิ (ธ. ส. ๗) วจนมฺปิ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส เววจนํ. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร’’ติ เอตฺถ สมฺมาทิฏฺิปทสฺส ‘‘สมฺมาทิฏฺิ นาม ปฺาสตฺถํ ปฺาขคฺโค ปฺารตนํ ปฺาปโตโท ปฺาปาสาโท’’ติ ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ เววจนํ, ‘‘ปฺา ปชานนา วิจโย’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๖) วจนมฺปิ สมฺมาทิฏฺิปทสฺส เววจนํ. ‘‘ถินํ ถิยนา ถิยิตตฺตํ จิตฺตสฺส, จิตฺตสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา โอนาโห ปริโยนาโห อนฺโตสงฺโกโจ’’ติ (ธ. ส. ๑๑๖๒-๑๑๖๓) ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ ถินสฺส เววจนํ. ‘‘กายสฺส อกลฺลตา อกมฺมฺตา กายาลสิยํ โสปฺปํ สุปนา สุปฺปิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๑๖๓) ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ มิทฺธสฺส เววจนํ. ‘‘ภิกฺขโก ภิกฺขู’’ติอาทิกํ (ปารา. ๔๕; วิภ. ๕๑๐) ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ ภิกฺขุปทสฺส เววจนํ. ‘‘ทุคฺคติ อปาโย วินิปาโต วฏฺฏทุกฺขํ สํสาโร’’ติอาทิกํ ยํ วจนํ วุตฺตํ, อิทํ วจนํ ทุคฺคติปทสฺส เววจนํ. อิติ เววจนานิ นีหริตานิ.
‘‘เอตฺตโกว เววจนหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต เววจโน หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน เววจนหารสมฺปาเตน เววจนานิ นีหริตานิ, โส โส ¶ สํวณฺณนาวิเสสภูโต เววจนหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถาสมฺภวํ นีหริตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คหิโตติ.
อิติ เววจนหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๑๑. ปฺตฺติหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๓. เยน ¶ เยน เววจนหารสมฺปาเตน เววจนานิ นิทฺธาริตานิ, โส เววจนหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม ปฺตฺติหารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม ปฺตฺติหารสมฺปาโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘กตมา สุตฺตปฺปเทสภูตา ปฺตฺติ กตเมสํ ธมฺมานํ ปฺตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ปฺตฺติ สติยา ปทฏฺานสฺส รกฺขิตพฺพสฺส จิตฺตสฺส ปฺาปนโต สติยา ปทฏฺานปฺตฺติ นาม. สติยา หิ รกฺขิตพฺพํ จิตฺตํ สติยา ปทฏฺานํ อธิฏฺานํ นาม. เตนาห อฏฺกถายํ – ‘‘อธิฏฺหิตฺวา รกฺขนฺติยา สติยา รกฺขิยมานํ จิตฺตํ ตสฺสา อธิฏฺานํ วิย โหตี’’ติ. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ ปฺตฺติ สมถสฺส ภาวนาย ปฺาปนโต สมถสฺส ภาวนาปฺตฺติ นาม. ‘‘สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขาโร, ตฺวาน อุทยพฺพย’’นฺติ ปฺตฺติ ทสฺสนภูมิยา นิกฺเขปสฺส ปฺาปนโต นิกฺเขปปฺตฺติ นาม. ‘‘ถินมิทฺธาภิภู ภิกฺขู’’ติ สมุทยสฺส อนวเสสปฺปหานสฺส ปฺาปนโต อนวเสสปฺปหานปฺตฺติ นาม. ‘‘สพฺพา ทุคฺคติโย ชเห’’ติ ปฺตฺติ มคฺคสฺส อริยมคฺคสฺส ภาวนาย ปฺาปนโต ภาวนาปฺตฺติ นาม.
‘‘เอตฺตโกว ปฺตฺติหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต ปฺตฺติหารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน ปฺตฺติหารสมฺปาเตน ปฺตฺติปฺปเภทา นิทฺธาริตา, โส โส ¶ สํวณฺณนาวิเสสภูโต ปฺตฺติหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ ปฺตฺติหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
๑๒. โอตรณหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๔. เยน ¶ เยน ปฺตฺติหารสมฺปาเตน ปฺตฺติปฺปเภทา นิทฺธาริตา, โส ปฺตฺติหารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ, ‘‘กตโม โอตรโณ หารสมฺปาโต’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตโม โอตรโณ หารสมฺปาโต’’ติอาทิมาห.
‘‘ตตฺถ ติสฺสํ คาถายํ กตมานิ อินฺทฺริยานิ นิทฺธาเรตฺวา กตเมหิ นิทฺธาริเตหิ ธมฺเมหิ โอตรตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยา ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติอาทิคาถา วุตฺตา, ติสฺสํ คาถายํ ‘‘ตสฺมา…เป… ปุเรกฺขาโร’’ติ สุตฺตปฺปเทเสน สมฺมาทิฏฺิ คหิตา, สมฺมาทิฏฺิยา คหิตาย ปฺจินฺทฺริยานิ สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานิ คหิตานิ ภวนฺติ.
ตานิเยว สทฺธาทิปฺจินฺทฺริยานิ วิชฺชาย อุปการตฺตา วา ปทฏฺานตฺตา วา วิชฺชา ภวนฺติ, วิชฺชุปฺปาทา ตาทิสาย วิชฺชาย อุปฺปาทา อุปฺปาทเหตุโต อวิชฺชานิโรโธ สมฺภวติ, อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ สมฺภวติ…เป… ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ สมฺภวตีติ. อยํ โอตรณา ปฏิจฺจสมุปฺปาเทน ปฺจินฺทฺริยานํ โอตรณา นาม.
ตานิเยว ปฺจินฺทฺริยานิ สีลกฺขนฺเธน สมาธิกฺขนฺเธน ปฺากฺขนฺเธน ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ ภวนฺติ สทฺธาวีริเยหิ สีลสมฺภวโต, สติยา จ ปฺานุวตฺตกตฺตา. อยํ โอตรณา ขนฺเธหิ ปฺจินฺทฺริยานํ โอตรณา นาม.
ตานิเยว ปฺจินฺทฺริยานิ สงฺขารปริยาปนฺนานิ ภวนฺติ. เย สงฺขารา อนาสวา ภวนฺติ, ภวงฺคา ภวเหตู โน ภวนฺติ, เต อนาสวา สงฺขารา ธมฺมธาตุสงฺคหิตา ภวนฺติ ธมฺมธาตุยา อนฺโตคธตฺตา. อยํ โอตรณา ธาตูหิ ปฺจินฺทฺริยานํ โอตรณา นาม.
สา ¶ อนาสวา ธมฺมธาตุ ธมฺมายตนปริยาปนฺนา ภวติ, ยํ อายตนํ อนาสวํ ภวติ, ภวงฺคํ ภวเหตุ โน ภวติ. อยํ โอตรณา อายตเนหิ ธมฺมธาตุยา โอตรณา นาม.
‘‘เอตฺตโกว โอตรโณ หารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต โอตรโณ หารสมฺปาโต’’ติ ¶ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน โอตรณหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา โอตริตพฺพา, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต โอตรโณ หารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
อิติ โอตรณหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา รจิตา
วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน…เป… คเหตพฺโพติ.
อิโต ปฏฺาย ‘‘ตตฺถ กตโม’’ติอาทิอนุสนฺธฺยตฺโถ จ ปริโยสาเน ‘‘นิยุตฺโต’’ติอาทิอนุสนฺธฺยตฺโถ จ วุตฺตนยานุสาเรเนว วิฺาตพฺโพ. กตฺถจิ กตฺถจิ ปาเ อปากฏํเยว ยถาพลํ กถยิสฺสาม.
๑๓. โสธนหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๕. ยตฺถาติ ยสฺมึ ปฺเห. อารมฺโภ อตฺโถ สุทฺโธ ปริปุณฺโณ, โส ปฺโห นิรวเสสโต วิสฺสชฺชิโต ภวติ. ยตฺถ ปฺเห ปน อารมฺโภ อตฺโถ น สุทฺโธ อปริปุณฺโณ โกจิ วิสฺสชฺเชตพฺโพ อวสิฏฺโ, โส ปฺโห ตาว วิสฺสชฺชิโต น ภวติ.
๑๕. ปริกฺขารหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๗. ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ปเทน โย สติสํวโร วุตฺโต, อยํ สติสํวโร สมถสฺส ปริกฺขาโร. ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร’’ติ ปเทน โย สมฺมาสงฺกปฺโป วุตฺโต, โส สมฺมาสงฺกปฺโป วิปสฺสนาย ปริกฺขาโรติ วิภชิตฺวา โยเชตพฺโพ.
๑๖. สมาโรปนหารสมฺปาตวิภาวนา
๗๘. ‘‘ตสฺมา ¶ ¶ รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ ปเทน ยํ รกฺขิตจิตฺตํ วุตฺตํ, ตํ รกฺขิตจิตฺตํ ติณฺณํ สุจริตานํ กมฺมานํ ปทฏฺานํ. สมฺมาทิฏฺิยา ภาวิตาย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวิโต ภวติ เอกโต ภาวิตพฺพตฺตา, ปทฏฺานการณตฺตา จ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺมาทิฏฺิโต หี’’ติอาทิ. ยสฺส อรหโต สมาธิวิมุตฺติ ภวติ, อยํ อรหา อนุปาทิเสโส ปุคฺคโล, อยํ สมาธิวิมุตฺติ อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ.
‘‘เทสนาหารสมฺปาตาทิโก หารสมฺปาโต เยน โสฬสปฺปเภทภาเวน สุตฺตปฺปเทสตฺเถ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิโต, โสฬสปฺปเภทภาโว เกน อมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน โสฬสปฺปเภทภาเวน อายสฺมา มหากจฺจาโน ‘‘โสฬส…เป… สุตฺต’’นฺติ ยํ วจนํ อาห, เตน วจเนน โสฬสปฺปเภทภาโว ตุมฺเหหิ สทฺทหิตพฺโพ.
‘‘เอตฺตโกว หารสมฺปาโต ปริปุณฺโณ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺโต หารสมฺปาโต’’ติ วุตฺตํ. เยน เยน สํวณฺณนาวิเสสภูเตน เทสนาหารสมฺปาเตน สุตฺตปฺปเทสตฺถา นิทฺธาริตา, โส โส สํวณฺณนาวิเสสภูโต เทสนาหารสมฺปาตาทิหารสมฺปาโต นิยุตฺโต ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพ, อฏฺกถายฺจ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๓, ๗๖) ตถา นิทฺธาเรตฺวา ยุชฺชิโตติ.
อิติ เทสนาหารสมฺปาตาทิหารสมฺปาเต สตฺติพลานุรูปา
รจิตา วิภาวนา นิฏฺิตา.
ปณฺฑิเตหิ ปน อฏฺกถาฏีกานุสาเรน คมฺภีรตฺโถ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา คเหตพฺโพติ.