📜
สาสนปฏฺานวิภาวนา
๘๙. ‘‘ตตฺถ กตมํ นยสมุฏฺาน’’นฺติอาทินา อาจริเยน สพฺพถา นยสมุฏฺานํ ปิตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘โสฬสหารปฺจนยอฏฺารสมูลปเทสุ อฏฺารส มูลปทา กถํ วิภตฺตา, กุหึ อมฺเหหิ ทฏฺพฺพา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ¶ ‘‘ตตฺถ อฏฺารส มูลปทา กุหึ ทฏฺพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสหารปฺจนยอฏฺารสมูลปเทสุ อฏฺารส มูลปทา เกน ปเทน อาจริเยน วิภตฺตา, กุหึ อมฺเหหิ วิตฺถารโต ทฏฺพฺพาติ ปุจฺฉติ. อฏฺารส มูลปทา สาสนปฏฺาเน มยา วิภตฺตา, ตุมฺเหหิ จ วิตฺถารโต สาสนปฏฺาเน ทฏฺพฺพาติ วิสฺสชฺเชติ. วิภตฺตาเยว หิ อฏฺารส มูลปทา ทฏฺพฺพา ภวนฺติ. อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๘๙) ปน –
‘‘เอวํ สพฺพถา นยสมุฏฺานํ วิภชิตฺวา อิทานิ สาสนปฏฺานํ วิภชนฺโต ยสฺมา สงฺคหวาราทีสุ มูลปเทเหว ปฏฺานํ สงฺคเหตฺวา สรูปโต น ทสฺสิตํ, ตสฺมา ยถา มูลปเทหิ ปฏฺานํ นิทฺธาเรตพฺพํ, เอวํ ปฏฺานโตปิ มูลปทานิ นิทฺธาเรตพฺพานีติ ทสฺสนตฺถํ ‘อฏฺารส มูลปทา กุหึ ทฏฺพฺพา? สาสนปฏฺาเน’ติ อาหา’’ติ –
วุตฺตํ. สาสนปฏฺาเน อฏฺารส มูลปทา ทฏฺพฺพาติ อาจริเยน วุตฺตา, ‘‘กตมํ ตํ สาสนปฏฺาน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ สาสนปฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ อฏฺารสมูลปทสาสนปฏฺาเนสุ กตมํ ตํ สาสนปฏฺานนฺติ อิทานิ มยา นิทฺธาริยมานํ ภควตา เทสิตํ ¶ สํกิเลสภาคิยาทิสุตฺตํ สาสนปฏฺานํ นามาติ วิสฺสชฺเชติ. สาสนนฺติ ปริยตฺติสาสนํ. ปฏฺานนฺติ ตสฺส ปริยตฺติสาสนสฺส สํกิเลสภาคิยตาทีหิ ปกาเรหิ านํ ปวตฺตนํ ปฏฺานํ, ตํทีปนสุตฺตํ ปน อิธ ปฏฺานํ นาม. เตน วุตฺตํ – ‘‘สํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทิ. อถ วา สาสนนฺติ อธิสีลอธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขตฺตยํ สาสนํ นาม, ตํ สิกฺขตฺตยํ ปติฏฺหติ เอเตน สํกิเลสาทินาติ ปฏฺานํ, สิกฺขตฺตยสฺส สาสนสฺส ปฏฺานนฺติ สาสนปฏฺานํ. ตทาธารภูตํ สุตฺตมฺปิ านฺยูปจารโต สาสนปฏฺานํ นาม. ตํ สาสนปฏฺานสุตฺตํ สรูปโต ทสฺเสตุํ –
‘‘สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ, นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ, วาสนาภาคิยฺจ ¶ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ, ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ทิฏฺิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, ตณฺหาโวทานภาคิยํ สุตฺตํ, ทิฏฺิโวทานภาคิยํ สุตฺตํ, ทุจฺจริตโวทานภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ –
วุตฺตํ. ‘‘เตสุ สุตฺเตสุ เย สํกิเลสาทโย ภควตา วุตฺตา, เตสุ สํกิเลสาทีสุ สํกิเลโส กิตฺตโก’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ สํกิเลโส ติวิโธ ตณฺหาสํกิเลโส ทิฏฺิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโส’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ สุตฺตนฺเตสุ สํกิเลสาทีสุ ธมฺเมสุ. ‘‘ติวิเธ ตสฺมึ สํกิเลเส ตณฺหาสํกิเลโส กตเมน กุสเลน วิสุชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลโส สมเถน วิสุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ติวิเธ ตณฺหาสํกิเลสาทิเก. ‘‘โส สมโถ ขนฺเธสุ กตโม ขนฺโธ’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘โส สมโถ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทิฏฺิสํกิเลโส เกน วิสุชฺฌตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ทิฏฺิสํกิเลโส วิปสฺสนาย วิสุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สา วิปสฺสนา กตโม ขนฺโธ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สา วิปสฺสนา ปฺากฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทุจฺจริตสํกิเลโส เกน วิสุชฺฌตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทุจฺจริตสํกิเลโส สุจริเตน วิสุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตํ สุจริตํ กตโม ขนฺโธ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตํ สุจริตํ สีลกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ตสฺมึ สีเล ิตสฺส ปุคฺคลสฺส กึ ภวตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺส สีเล ปติฏฺิตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สีเล สุจริตสงฺขาเต สีลกฺขนฺเธ ปติฏฺิตสฺส ตสฺส สีลวนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส ภเวสุ กามภวรูปารูปภเวสุ อาสตฺติ ภวปตฺถนา ยทิ อุปฺปชฺชติ, เอวํสายนฺติ เอวํ อสฺส อยนฺติ ปทจฺเฉโท. เอวํ สติ อสฺส สีเล ¶ ปติฏฺิตสฺส อยํ อาสตฺติ ภวปตฺถนา สมถวิปสฺสนาภาวนามยปฺุกิริยวตฺถุ จ ภวติ, จ-สทฺเทน ทานมยสีลมยปฺุกิริยวตฺถุ จ ภวตีติ อตฺโถ สงฺคหิโต. ตตฺราติ เตสุ กามภวรูปารูปภเวสุ อุปปตฺติยา สํวตฺตตีติ.
‘‘สํกิเลสาทโย เยหิ สุตฺเตหิ ทสฺสิตา, ตานิ สุตฺตานิ กิตฺตกานี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสาธารณานิ สํกิเลสภาคิยสุตฺตวาสนาภาคิยสุตฺตนิพฺเพธภาคิยสุตฺตอเสกฺขภาคิยสุตฺตานิ จตฺตาริ สุตฺตานิ ภวนฺติ, สาธารณานิ ¶ สํกิเลสภาคิยวาสนาภาคิยสุตฺต, สํกิเลสภาคิยนิพฺเพธภาคิยสุตฺต, สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺต, วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยสุตฺตานิ กตานิ มิสฺสิตานิ จตฺตาริ ภวนฺติ. อิติ อฏฺ สุตฺตานิ ภวนฺติ. ตานิเยว วุตฺตปฺปการานิ อฏฺ สุตฺตานิ ภวนฺติ. สาธารณานิ วาสนาภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺตนิพฺเพธภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺต- สํกิเลสภาคิยวาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยสุตฺตสํกิเลส- ภาคิยวาสนาภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺต- สํกิเลสภาคิยนิพฺเพธภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺต- วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺต- สํกิเลสภาคิยวาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺต- เนวสํกิเลสภาคิยนวาสนา- ภาคิยนนิพฺเพธภาคิยนอเสกฺขภาคิยสุตฺตานิ กตานิ มิสฺสิตานิ อฏฺ สุตฺตานิ ภวนฺตีติ โสฬส สุตฺตานิ ภวนฺติ. เตสุ โสฬสสุตฺเตสุ จตฺตาริ เอกกานิ สุตฺตานิ จ จตฺตาริ ทุกานิ สุตฺตานิ จ ทฺเว ติกานิ จ ปาฬิยํ อาคตานิ, ทฺเว ทุกานิ สุตฺตานิ จ ทฺเว ติกานิ จ ทฺเว จตุกฺกานิ สุตฺตานิ จ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๘๙) อาคตานิ.
‘‘ยทิ ปฏฺานนเยน วุตฺตปฺปการานิ โสฬส สุตฺตานิเยว วิภตฺตานิ, เอวํ สติ สุตฺตเคยฺยาทินววิธํ สกลํ ปริยตฺติสาสนํ ปฏฺานนเยน อวิภตฺตํ ภเวยฺยา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อิเมหิ โสฬสหิ สุตฺเตหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฏฺานนเยน วิภตฺเตหิ โสฬสหิ อิเมหิ สุตฺเตหิ นววิธํ สกลํ ปริยตฺติสุตฺตํ ปฏฺานนเยน วิภตฺตํเยว หุตฺวา ภินฺนํ ภวติ. สํกิเลสภาคิยาทิปเภทาย คาถาย คาถา อนุมินิตพฺพา, สํกิเลสภาคิยาทิปเภเทน เวยฺยากรเณน เวยฺยากรณํ อนุมินิตพฺพํ. สํกิเลสภาคิยาทิปเภเทน สุตฺเตน สุตฺตํ อนุมินิตพฺพํ ภวติเยวาติ.
๙๐. ‘‘เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ กตมํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นามาติ ปุจฺฉติ.
‘‘กามนฺธา ¶ ¶ ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;
ปมตฺตพนฺธนาพทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเข;
ชรามรณมนฺเวนฺติ, วจฺโฉ ขีรปโกว มาตร’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตํ สํกิเลสภาเค วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. เย สตฺตา กามนฺธา กาเมน อนฺธา ชาลสฺฉนฺนา ตณฺหาฉทเนน ฉาทิตา, ปมตฺตพนฺธนาย พทฺธา พนฺธิตพฺพา, เต สตฺเต ชรามรณํ อนฺเวติ, ยถา ตํ กุมินามุเข เย มจฺฉา คหิตา, เต มจฺเฉ ชรามรณํ อนฺเวติ อิว, เอวํ เต สตฺเต ชรามรณํ อนฺเวติ. ขีรปโก วจฺโฉ มาตรํ อนฺเวติ อิว, เอวํ เต สตฺเต ชรามรณํ อนฺเวตีติ โยชนา กาตพฺพา. อถ วา ขีรปโก วจฺโฉ มาตรํ อนฺเวติ อิว, กุมินามุเข คหิตา มจฺฉา ชรามรณํ อนฺเวนฺติ อิว จ, เอวํ เย สตฺตา กามนฺธา ปมตฺตพนฺธนาย พนฺธิตพฺพา, เต สตฺตา ชรามรณํ อนฺเวนฺตีติ โยชนา.
‘‘อิทํ สุตฺตํเยวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา –
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อคติคมนานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, โทสาคตึ คจฺฉติ, โมหาคตึ คจฺฉติ, ภยาคตึ คจฺฉติ, อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อคติคมนานิ. อิทมโวจ ภควา, อิทํ วตฺวาน สุคโต, อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา, โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;
นิหียติ ตสฺส ยโส, กาฬปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ. –
อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตนฺติ –
วุตฺตํ. ฉนฺทา ฉนฺทเหตุนา โทสา โทสเหตุนา ภยา ภยเหตุนา โมหา โมหเหตุนา โย ราชาทิโก โย วินยธราทิโก วา ธมฺมํ สปฺปุริสธมฺมํ อติวตฺตติ อติกฺกมิตฺวา วตฺตติ, ตสฺส ราชาทิโน วา ตสฺส วินยธราทิโน วา ยโส กิตฺติ จ ปริวาโร จ โภโค จ นิหียติ. จนฺทิมา กาฬปกฺเข ปภาย นิหียติ อิว, เอวํ นิหียตีติ โยชนา.
‘‘เอตฺตกํเยวา’’ติ ¶ ¶ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา…เป… จกฺกํว วหโต ปทนฺติ อิทํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อตฺโถ ปากโฏ. อฏฺกถายมฺปิ วิภตฺโต.
‘‘มิทฺธี ยทา โหติ มหคฺฆโส จ, นิทฺทายิตา สมฺปริวตฺตสายี;
มหาวราโหว นิวาปปุฏฺโ, ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโท’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาเค วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. นิวาปปุฏฺโ มหาวราโห คามสูกโร นิทฺทายิตา สุปนสีโล สมฺปริวตฺตสายี โหติ อิว, เอวํ โย มนฺโท สตฺโต ยทา มหคฺฆโส โหติ, โส มนฺโท สตฺโต มิทฺธี ถินมิทฺธาภิภูโต หุตฺวา นิทฺทายิตา มุทุผสฺสสยเน มุทุหตฺเถหิ ปรามสิโต สมฺปริวตฺตสายี ปุนปฺปุนํ คพฺภํ อุเปตีติ โยชนา.
‘‘อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ, ตตุฏฺาย ตเมว ขาทติ;
เอวํ อติโธนจารินํ, สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคติ’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อยสา อยโต สมุฏฺิตํ ชาตมลํ ตตุฏฺาย ตโต อยโต อุฏฺหิตฺวา ตเมว อยํ ขาทติ อิว, เอวํ อติโธนจารินํ อติกฺกมิตฺวา โธนจาริปุคฺคลํ สานิ สยํ กตานิ อกุสลกมฺมานิ ทุคฺคตึ นยนฺตีติ โยชนา.
‘‘โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต, สกมฺมุนา หฺติ พชฺฌเต จ;
เอวํ อยํ เปจฺจ ปชา ปรตฺถ, สกมฺมุนา หฺติ พชฺฌเต จา’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. สนฺธิมุเข ราชปุริสาทีหิ คหิโต โจโร สกมฺมุนา อตฺตนา กเตน โจรกมฺเมน หฺติ จ พชฺฌเต จ ยถา, เอวํ อยํ ปาปการินี ปชา ปรตฺถ ปรโลเก เปจฺจ สกมฺมุนา สยํ กเตน อกุสลกมฺมุนา สตฺถาทีหิ หฺติ จ อทฺทุพนฺธนาทีหิ พชฺฌเต จาติ โยชนา.
‘‘สุขกามานิ ¶ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน วิหึสติ;
อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส น ลภเต สุข’’นฺติ. –
อิทํ ¶ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อตฺตโน สุขํ เอสาโน เอสมาโน โย สตฺโต อฺานิ สุขกามานิ ภูตานิ ทณฺเฑน วิหึสติ, โส หึสโก สตฺโต ปรโลเก เปจฺจ สุขํ น ลภตีติ โยชนา.
‘‘คุนฺนํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.
‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺํ ทุกฺขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. นทึ ตรมานานํ คุนฺนํ ปุงฺคโว ชิมฺหํ เจ คจฺฉติ, เอวํ เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ สพฺพา ตา คาวิโย ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ ยถา, เอวเมว มนุสฺเสสุ โย ราชา เสฏฺสมฺมโต, โส ราชา อธมฺมํ จรติ, เอวํ รฺเ อธมฺมํ จรนฺเต สติ อิตรา ปชา ปเคว ปมเมว อธมฺมํ จรติ. ราชา อธมฺมิโก เจ โหติ, เอวํ รฺเ อธมฺมิเก สติ สพฺพํ รฏฺํ ทุกฺขํ เสตีติ โยชนา.
‘‘สุกิจฺฉรูปา วติเม มนุสฺสา, กโรนฺติ ปาปํ อุปธีสุ รตฺตา;
คจฺฉนฺติ เต พหุชนสนฺนิวาสํ, นิรยํ อวีจึ กฏุกํ ภยานก’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. เย มนุสฺสา อุปธีสุ กามคุณูปธีสุ รตฺตา ราคาภิภูตา หุตฺวา ปาปํ อกุสลกมฺมํ กโรนฺติ, อิเม ปาปกมฺมกรา มนุสฺสา สุกิจฺฉรูปา วต สุฏฺุ กิจฺฉาปนฺนรูปา วต ภวนฺติ, เต ปาปกมฺมกรา มนุสฺสา กฏุกํ ภยานกํ พหุชนสนฺนิวาสํ นิรยํ อวีจึ คจฺฉนฺตีติ โยชนา.
‘‘ผลํ เว กทลึ หนฺติ, ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬํ;
สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ, คพฺโภ อสฺสตรึ ยถา’’ติ. –
อิทํ ¶ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. ผลํ กทลิยา ผลํ กทลึ เว เอกนฺเตน หนฺติ ยถา, ผลํ เวฬุํ เว เอกนฺเตน หนฺติ ยถา, ผลํ นฬํ เว เอกนฺเตน หนฺติ ยถา, คพฺโภ อสฺสตรึ ¶ มาตรํ เว เอกนฺเตน หนฺติ ยถา, เอวํ สกฺกาโร กาปุริสํ เว เอกนฺเตน หนฺตีติ โยชนา.
‘‘โกธมกฺขครุ ภิกฺขุ, ลาภสกฺการคารโว;
สุเขตฺเต ปูติพีชํว, สทฺธมฺเม น วิรูหตี’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. สุเขตฺเต สุนฺทเร เขตฺเตปิ ขิตฺตํ ปูติพีชํ น รุหติ อิว, เอวํ โย ภิกฺขุ ลาภสกฺการคารโว โกธํ กุชฺฌนลกฺขณํ โกธํ, มกฺขํ ปรคุณสีลมกฺขนลกฺขณํ มกฺขฺจ ครุํ กตฺวา จรติ, โส จรนฺโต ภิกฺขุ สทฺธมฺมสฺมึ น รุหตีติ โยชนา.
๙๑. ‘‘อิธาหํ, ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺตํ เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ…เป… อิติ เม สุต’’นฺติ อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. ภิกฺขเว อิธ สาสเน, โลเก วา อหํ เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺจิตฺตํ มม เจตสา ตสฺส เจโต จิตฺตํ ปริจฺจ ปริจฺฉินฺทิตฺวา พุทฺธจกฺขุนา เอวํ ปชานามิ. ‘‘กถํ ปชานามี’’ติ เจ ปุจฺเฉยฺย, ยฺจ ปฏิปทํ ปฏิปนฺโน, ยฺจ มคฺคํ สมารุฬฺโห อยํ ปุคฺคโล ยถา ยาย ทุปฺปฏิปทาย เยน ทุมฺมคฺเคน อิริยติ ปวตฺตติ, ตาย ทุปฺปฏิปทาย เตน ทุมฺมคฺเคน อิมมฺหิ อิมสฺมึ สมเย ทุปฺปฏิปชฺชนกาเล อยํ ทุปฺปฏิปนฺนํ ปฏิปนฺโน ทุมฺมคฺคสมารุฬฺโห ปุคฺคโล เจ กาลํ กเรยฺย, เอวํ สติ อาภตํ วตฺถุ นิกฺขิตฺตํ ยถา, เอวํ นิรเย นิกฺขิตฺโต. ตํ กิสฺส เหตุ? ภิกฺขเว อสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตํ ปทุฏฺํ ปโทสิตํ หิ ยสฺมา โหติ, ตสฺมา นิกฺขิตฺโต. เอวํ อิธ สาสเน, โลเก วา เจโตปโทสเหตุ จ ปน เอกจฺเจ สตฺตา ปุคฺคลา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ อุปปชฺชนฺตีติ ปชานามีติ. เอตมตฺถํ ภควา อโวจ. ตตฺถ ตสฺมึ สุตฺเต เอตํ ‘‘ปทุฏฺจิตฺตํ ตฺวาน…เป… นิรยํ โส อุปปชฺชตี’’ติ คาถาวจนํ อิติ เอวํ วุจฺจติ.
สตฺถา อิธ สาสเน, โลเก วา ปทุฏฺจิตฺตํ เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ตฺวาน ภิกฺขูนํ สนฺติเก เอตมตฺถํ พฺยากาสิ. อิมมฺหิ อิมสฺมึ สมเย อยํ ปุคฺคโล เจ กาลํ กยิราถ, เอวํ สติ ปทุฏฺจิตฺตสมงฺคี หิ นิรยสฺมึ อุปปชฺเชยฺย, ปุคฺคลสฺส จิตฺตํ ปทูสิตํ หิ ยสฺมา โหติ, ตสฺมา อุปปชฺเชยฺย, เจโตปโทสเหตุ ¶ สตฺตา ทุคฺคตึ คจฺฉนฺติ อาภตํ วตฺถุํ นิกฺขิเปยฺย ยถา, เอวเมวํ ¶ ตถาวิโธ ทุปฺปฺโ โส ปโทสจิตฺโต ปุคฺคโล กายสฺส เภทา ปรํ มรณา นิรยํ อุปปชฺชตีติ อยมฺปิ อตฺโถ ภควตา วุตฺโต, อิติ เม มยา สุตนฺติ โยชนา.
‘‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;
มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.
‘‘สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสถ กโรถ วา;
น โว ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุเปจฺจปิ ปลายต’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. สปฺปุริสา ตุมฺเห ทุกฺขสฺส ชาติทุกฺขชราทุกฺขพฺยาธิทุกฺขมรณทุกฺขอปายทุกฺข- อตีตวฏฺฏมูลกทุกฺขอนาคตวฏฺฏมูลกทุกฺขปจฺจุปฺปนฺนาหารมูลกทุกฺขาติ อฏฺวิธสฺส ทุกฺขสฺส สเจ ภายถ, โว ตุมฺเหหิ ทุกฺขํ ตถา อฏฺวิธํ ทุกฺขํ สเจ อปฺปิยํ, เอวํ สติ อาวิ วา ยทิ รโห วา ปาปกํ กมฺมํ มากตฺถ มา อกตฺถ. สปฺปุริสา ตุมฺเห อาวิ วา ยทิ รโห วา ปาปกํ กมฺมํ สเจ กริสฺสถ วา สเจ กโรถ วา, เอวํ สติ อุเปจฺจปิ สฺจิจฺจาปิ ปลายตํ ปลายนฺตานํ โว ตุมฺหากํ ทุกฺขา อฏฺวิธา ทุกฺขโต ปมุตฺติ มุจฺจนํ นตฺเถวาติ โยชนา.
‘‘อธมฺเมน ธนํ ลทฺธา, มุสาวาเทน จูภยํ;
มเมติ พาลา มฺนฺติ, ตํ กถํ นุ ภวิสฺสติ.
‘‘อนฺตรายา สุ ภวิสฺสนฺติ, สมฺภตสฺส วินสฺสติ;
มตา สคฺคํ น คจฺฉนฺติ, นนุ เอตฺตาวตา หตา’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. เย พาลา อธมฺเมน จ มุสาวาเทน จ ธนํ สวิฺาณาวิฺาณํ สพฺพํ ลภิตพฺพํ ธนํ ลทฺธา อุภยํ ธนํ ‘‘มม ธน’’นฺติ มฺนฺติ, เตสํ พาลานํ ตํ อุภยํ ธนํ กถํ เกน นุ ปกาเรน ภวิสฺสติ, อธมฺเมน สมฺภตตฺตา จิรฏฺิติกํ น โหติ. อนฺตรายา ราชนฺตรายาทโย อนฺตรายา เตสํ พาลานํ ภวิสฺสนฺติ. เยน อธมฺมโวหาราทิเกน ยํ ธนํ สมฺภตํ, อสฺส อธมฺมโวหาราทิกสฺส ตํ สมฺภตํ ธนํ วินสฺสติ. มตา มรนฺตา เต พาลา สคฺคํ สุคตึ น คจฺฉนฺติ. สุคติ หิ โสภเนหิ โภเคหิ อคฺโคติ ‘‘สคฺโค’’ติ ¶ อธิปฺเปตา ¶ . เอตฺตาวตา เอตฺตเกน ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ อตฺตหิตานํ หายเนน เต พาลา หตา วินฏฺา ภวนฺติ นนูติ โยชนา.
‘‘กถํ ขณติ อตฺตานํ, กถํ มิตฺเตหิ ชีรติ;
กถํ วิวฏฺฏเต ธมฺมา, กถํ สคฺคํ น คจฺฉติ’’.
‘‘โลภา ขณติ อตฺตานํ, ลุทฺโธ มิตฺเตหิ ชีรติ;
โลภา วิวฏฺฏเต ธมฺมา, โลภา สคฺคํ น คจฺฉตี’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. โยชนตฺโถ ปากโฏ.
‘‘จรนฺติ พาลา ทุมฺเมธา, อมิตฺเตเนว อตฺตนา;
กโรนฺตา ปาปกํ กมฺมํ, ยํ โหติ กฏุกปฺผลํ.
‘‘น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ, ยํ กตฺวา อนุตปฺปติ;
ยสฺส อสฺสุมุโข โรทํ, วิปากํ ปฏิเสวตี’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. ทุมฺเมธา นิปฺปฺา พาลา อมิตฺเตน ปาปกํ กมฺมํ กตํ อิว, เอวํ อตฺตนา กฏุกปฺผลํ ยํ กมฺมํ กตํ โหติ, ตํ ปาปกํ กตํ กมฺมํ กโรนฺตา จรนฺติ. ยํ กมฺมํ กตฺวา กโรนฺโต ปจฺฉา อนุตปฺปติ, ตํ กตํ กมฺมํ น สาธุ. ยสฺส กมฺมสฺส วิปากํ โรทํ รุทนฺโต อสฺสุมุโข ปฏิเสวติ, ตํ กตํ กมฺมํ น สาธูติ โยชนา.
‘‘ทุกฺกรํ ทุตฺติติกฺขฺจ…เป… อวีตราโค’’ติ อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. สุตฺตตฺโถ อฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺโต.
‘‘อปฺปเมยฺยํ ปมินนฺโต, โกธ วิทฺวา วิกปฺปเย;
อปฺปเมยฺยํ ปมายินํ, นิวุตํ ตํ มฺเ อกิสฺสว’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อิธ สาสเน อปฺปเมยฺยํ อปฺปเมยฺยคุณํ ขีณาสวํ ปุคฺคลํ ‘‘อยํ ขีณาสโว ปุคฺคโล เอตฺตกสีโล เอตฺตกสมาธิ เอตฺตกปฺโ’’ติ ปมินนฺโต โก ปุถุชฺชโน ¶ วิกปฺปเย. อปฺปเมยฺยํ ขีณาสวปุคฺคลํ ปมายินํ ปมายนฺตํ ตํ ปุถุชฺชนํ อยํ นิวุตํ อวกุชฺชปฺํ อกิสฺสวํ อปฺนฺติ มฺเ มฺามีติ โยชนา.
‘‘ปุริสสฺส ¶ หิ ชาตสฺส, กุารี ชายเต มุเข;
ยาย ฉินฺทติ อตฺตานํ, พาโล ทุพฺภาสิตํ ภณํ.
‘‘น หิ สตฺถํ สุนิสิตํ, วิสํ หลาหลํ อิว;
เอวํ วิรทฺธํ ปาเตติ, วาจา ทุพฺภาสิตา ยถา’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. ทุพฺภาสิตํ อริยูปวาทสงฺขาตํ ผรุสวาจํ ภณํ ภณนฺโต พาโล ทุฏฺโ ปุริโส ยาย กุารีสทิสิยา ทุพฺภาสิตวาจาย อตฺตานํ ฉินฺทติ, สา กุารีสทิสี ทุพฺภาสิตวาจา ชาตสฺส ปุริสสฺส มุเข ชายเต ชายติ, สา ทุพฺภาสิตวาจา มุเข ชายติ อิว, เอวํ สุนิสิตํ สตฺถํ มุเข น ชายติ, ยถา หลาหลํ วิสํ มุเข น ชายติ, ทุพฺภาสิตา วาจา อปาเยสุ วิรทฺธํ ปุคฺคลํ ปาเตติ ยถา, เอวํ สุนิสิตํ สตฺถํ อปาเยสุ น ปาเตติ, หลาหลํ วิสํ อปาเยสุ น ปาเตตีติ โยชนา.
‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ, ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย;
วิจินาติ มุเขน โส กลึ, กลินา เตน สุขํ น วินฺทติ.
‘‘อปฺปมตฺโต อยํ กลิ, โย อกฺเขสุ ธนปราชโย;
สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนา, อยเมว มหนฺตตโร กลิ;
โย สุคเตสุ มนํ ปโทสเย.
‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานํ, ฉตฺตึสตี ปฺจ จ อพฺพุทานิ;
ยมริยครหี นิรยํ อุเปติ, วาจํ มนฺจ ปณิธาย ปาปก’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. โย ปุคฺคโล นินฺทิยํ ทุจฺจรํ ทุสฺสีลํ ปุคฺคลํ ปสํสติ, โส ปสํสโก ปุคฺคโล มุเขน กลึ วิจินาติ อุปจินาติ, เตน กลินา สุขํ น วินฺทติ. โย สุจารี สีลวา ปุคฺคโล ปสํสิโย โหติ, ตํ วา สุจารึ วา สีลวนฺตํ ปุคฺคลํ ¶ โย ปุคฺคโล ¶ นินฺทติ, โส นินฺทนฺโต ปุคฺคโล มุเขน กลึ วิจินาติ อุปจินาติ, เตน กลินา สุขํ น วินฺทติ.
อตฺตนา สหาปิ สพฺพสฺส ธนสฺส วเสนปิ อกฺเขสุ โย ธนปราชโย ภวติ, อยํ กลิ อยํ ธนปราชโย อปฺปมตฺโต โหติ. โย ปุคฺคโล สุคเตสุ มนํ ปโทสเย, ตสฺส ปุคฺคลสฺส โย กลิ ภวติ, อยเมว กลิ มหนฺตตโร โหติ.
กสฺมา? วาจฺจ มนฺจ ปณิธาย อริยครหี ปุคฺคโล ยํ กาลํ ปาปกํ นิรยํ อุเปติ, โส กาโล ‘‘สตํ สหสฺสานํ นิรพฺพุทานฺจ ฉตฺตึส นิรพฺพุทานิ จ ปฺจ อพฺพุทานิ จ ยสฺมึ กาเล คณียนฺตี’’ติ เตน กาเลน สโม โหติ, ตสฺมา มหนฺตตโร โหตีติ โยชนา.
‘‘โย โลภคุเณ อนุยุตฺโต…เป…
คจฺฉสิ โข ปปตํ จิรรตฺต’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นาม. โย ปุคฺคโล โลภคุเณ อนุยุตฺโต อนุ ปุนปฺปุนํ ยุตฺโต โหติ, โส ปุคฺคโล อฺเ ปุคฺคเล วจสา ปริภาสติ, อสฺสทฺโธ กทริโย อวทฺู พุทฺธานํ โอวาทฺู น โหติ, มจฺฉรี เปสุณิยํ เปสุณิยสฺมึ อนุยุตฺโต โหติ.
มุขทุคฺค มุขวิสม วิภูต วิคตภูต อนริย ภูนหุ พุทฺธิวินาสก ปาปก ทุกฺกฏการิ ปุริสนฺต ปุริสลามก กลิ อลกฺขิ อวชาตปุตฺต ตฺวํ เนรยิโก อสิ. อิธ อิทานิ พหุภาณี มา โหหิ.
อหิตาย รชํ อตฺตนิ มา อากิรสิ มา ปกฺขิปสิ. กิพฺพิสการิ ตฺวํ สนฺเต ขีณาสเว ปุคฺคเล ครหสิ, พหูนิ ทุจฺจริตานิ กมฺมานิ จรสิ, จริตฺวา ตฺวํ จิรรตฺตํ รจนวิรหิตํ ปปตํ นรกํ นิรยํ คจฺฉสิ โข เอกํเสนาติ โยชนา.
นานาวิธํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นามาติ ¶ ปุจฺฉติ. ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา…เป… ฉายาว อนปายินี’’ติ อิทํ วาสนาภาเค ปฺุภาเค วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อตฺโถ ปากโฏ.
๙๓. ‘‘มหานาโม ¶ สกฺโก ภควนฺตํ เอตทโวจ…เป… อปาปิกา กาลงฺกิริยา’’ติ อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาเค ปฺุภาเค วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อตฺโถ ปากโฏ.
‘‘สุขกามานิ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน น หึสติ;
อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส ลภเต สุข’’นฺติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อตฺโถ ปากโฏ.
‘‘คุนฺนํ เจ ตรมานานํ…เป… ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก’’ติ อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อตฺโถ ปากโฏ.
๙๔. ‘‘ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป… เอวํ ปชานาตี’’ติ อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนา…เป… สุตฺตํ นาม. อตฺโถ ปากโฏ.
‘‘กสฺมา ภควา ชนปทจาริกํ จรตี’’ติ ปุจฺเฉยฺย, สตฺตหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต ชนปทจาริกํ จรนฺติ. กตเมหิ สตฺตหิ? เทสนฺตรคตานํ เวเนยฺยานํ วินยนตฺถํ, ตตฺร ิตานํ อุสฺสุกฺกสมุปฺปาทนตฺถํ, สาวกานํ เอกสฺมึ าเน นิพทฺธวาสนิวารณตฺถํ, อตฺตโน จ ตตฺถ นิพทฺธวาเส อนาสงฺคทสฺสนตฺถํ, สมฺพุทฺธวสิตฏฺานตาย เทสานํ เจติยภาวสมฺปาทนตฺถํ, พหูนํ สตฺตานํ ทสฺสนูปสงฺกมนาทีหิ ปฺุโฆปฺปสวนตฺถํ, อวุฏฺิอาทิอุปทฺทวูปสมนตฺถฺจาติ อิเมหิ สตฺตหิ การเณหิ พุทฺธา ภควนฺโต ชนปทจาริกํ จรนฺตีติ ชนปทจรณการณํ เวทิตพฺพํ.
‘‘เอกปุปฺผํ จชิตฺวาน, สหสฺสํ กปฺปโกฏิโย;
เทเว เจว มนุสฺเส จ, เสเสน ปรินิพฺพุโต’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. สหสฺสํ กปฺปโกฏิโยติ สหสฺสํ อตฺตภาวโต โกฏิโย.
‘‘อสฺสตฺเถ ¶ หริโตภาเส, สํวิรูฬฺหมฺหิ ปาทเป;
เอกํ พุทฺธคตํ สฺํ, อลภึหํ ปติสฺสโต.
‘‘อชฺช ตึสํ ตโต กปฺปา, นาภิชานามิ ทุคฺคตึ;
ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉิกตา, ตสฺสา สฺาย วาสนา’’ติ. –
อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. หริโตภาเสติ หริตโอภาเส. อลภึหนฺติ อหํ อลภึ.
‘‘ปิณฺฑาย ¶ โกสลํ ปุรํ…เป… วิปาโก โหติ อจินฺติโย’’ติ อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. อคฺคปุคฺคโล อนุกมฺปโก ตณฺหานิฆาตโก มุนิ สมฺพุทฺโธ ปุเรภตฺตํ ปิณฺฑาย ปิณฺฑํ ปฏิคฺคณฺหิตุํ โกสลํ ปุรํ ปาวิสิ.
ยสฺส ปุริสสฺส หตฺเถ สพฺพปุปฺเผหิ อลงฺกโต วฏํสโก ปุปฺผวฏํสโกว อตฺถิ, โส อยํ ปุริโส ราชมคฺเคน โกสลปุรํ ปวิสนฺตํ ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ เทวมานุสปูชิตํ สมฺพุทฺธํ อทฺทส, ทิสฺวา หฏฺโ จิตฺตํ ปสาเทสิ; ปสาเทตฺวา สมฺพุทฺธํ อุปสงฺกมิ.
อุปสงฺกมิตฺวา โส อยํ ปสนฺโน หุตฺวา สุรภึ วณฺณวนฺตํ มโนรมํ ตํ วฏํสกํ สมฺพุทฺธสฺส เสหิ ปาณีภิ อุปนาเมสิ.
ตโต พุทฺธสฺส ลปนนฺตรา ลปนสฺส วทนสฺส อนฺตรา อคฺคิสิขา วณฺณา สหสฺสรํสิ โอกฺกา ปภา นิกฺขมิ, อพฺภา วิชฺชุ นิกฺขมติ อิว, เอวํ อานนา สหสฺสรํสิ นิกฺขมิตฺวา อาทิจฺจพนฺธุโน สีเส ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กริตฺวาน ปริวฏฺเฏตฺวา มุทฺธนิ อนฺตรธายถ.
อานนฺโท อจฺฉริยํ อพฺภุตํ โลมหํสนํ อิทํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา จีวรํ เอกํสํ กริตฺวา เอตํ อพฺรวิ – ‘‘มหามุนิ, สิตกมฺมสฺส เหตุ โก? ตํ เหตุํ พฺยากโรหิ, ธมฺมาโลโก ภวิสฺสตี’’ติ.
ยสฺส ภควโต สพฺพธมฺเมสุ าณํ สทา ปวตฺตติ, กงฺขาวิตรโณ มุนิ โส ภควา กงฺขึ เวมติกํ ¶ อานนฺทํ เถรํ เอตํ อพฺรวิ. อานนฺท, โย โสปุริโส มยิ จิตฺตํ ปสาทยิ, โส ปุริโส จตุราสีติกปฺปานิ ทุคฺคตึ น คมิสฺสติ, เทเวสุ เทวโสภคฺคํ ทิพฺพํ รชฺชํ ปสาสิตฺวา มนุเชสุ รฏฺเ สกลรฏฺเ มนุชินฺโท ราชา ภวิสฺสติ. โส ปุริโส จริมํ ปพฺพชิตฺวา, ธมฺมตํ สจฺฉิกตฺวา จ ธุตราโค วฏํสโก นาม ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสติ.
ตถาคเต วา สมฺมาสมฺพุทฺเธ วา ปจฺเจกสมฺพุทฺเธ วา ตสฺส ตถาคตสฺส สาวเก วา จิตฺเต ปสนฺนมฺหิ ทกฺขิณา อปฺปกา นาม นตฺถิ.
พุทฺธา เอวํ เอตฺตกาติ อจินฺติยา ภวนฺติ. พุทฺธธมฺมา พุทฺธคุณา เอวํ เอตฺตกาติ อจินฺติยา ภวนฺติ, อจินฺติเย ปสนฺนานํ วิปาโก ปฺุวิปาโก เอวํ เอตฺตโกติ อจินฺติโย โหตีติ เอตํ อพฺรวีติ โยชนา.
๙๖. ‘‘อิธาหํ ¶ , ภิกฺขเว, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ…เป… อยมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต ภควตา อิติ เม สุต’’นฺติ อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. ภิกฺขเว, อิธ อิมสฺมึ สาสเน อหํ เอกจฺจํ ปุคฺคลํ เอวํ มม เจตสา เอกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส เจโต จิตฺตํ ปริจฺจ พุทฺธจกฺขุนา เอวํ ปชานามิ, ยถา เยน ปกาเรน อยํ ปุคฺคโล ยฺจ ทานาทิปฏิปทํ ปฏิปนฺโน, ยฺจ ทสฺสนาทิมคฺคํ สมารุฬฺโห หุตฺวา ตํ ปฏิปทํ, มคฺคฺจ อิริยติ ปวตฺเตติ, อิมมฺหิ อิมสฺมิฺจ สมเย อยํ ปุคฺคโล เจ กาลํ กเรยฺย, เอวํ สติ อาภตํ วตฺถุํ นิกฺขิปติ ยถา, เอวํ ตาย ปฏิปทาย เตน มคฺเคน สคฺเค อตฺตนิกฺขิตฺโต ภเว. ตํ กิสฺส เหตุ? ภิกฺขเว, อสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตํ หิ ยสฺมา ปสนฺนํ ปสาทิตํ, ตสฺมา นิกฺขิตฺโต ภเว. อิธ สาสเน, โลเก วา เอกจฺเจ สตฺตา ปุคฺคลา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ เจโตปสาทเหตุ โข ปน อุปปชฺชนฺตีติ เอวํ อหํ ปชานามีติ ภควา เอตมตฺถํ อโวจ. ตตฺถ ตสฺมึ อตฺเถ สงฺคหวเสน ปวตฺตํ เอตํ ‘‘ปสนฺนจิตฺตํ ตฺวาน…เป… สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ คาถาวจนํ วุจฺจติ. อยมฺปิ อตฺโถ ภควตา วุตฺโต, อิติ เม มยา สุตนฺติ โยชนา.
‘‘สุวณฺณจฺฉทนํ นาวํ…เป… เอตาทิสํ กตปฺุา ลภิ’’นฺติ อิทํ สุตฺตมฺปิ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม. นาริ เทวธีตา สุวณฺณจฺฉทนํ สุวณฺณาลงฺกาเรหิ ฉาทิตํ นาวํ อารุยฺห ติฏฺสิ, โปกฺขรณึ เทวโปกฺขรณึ โอคาหสิ, ปทุมํ ปาณินา ฉินฺทสิ.
เทวเต ¶ เกน กมฺเมน เต ตว ตาทิโส วณฺโณ ตาทิโส อานุภาโว ตาทิสี ชุติ ภวติ, เทวเต เต ตว เย เกจิ โภคา มนสา อิจฺฉิตา ภวนฺติ, เต โภคา จ เกน กมฺเมน อุปฺปชฺชนฺติ. เทวเต เม ปุจฺฉิตา ตฺวํ สํส สํสาหิ อิทํ สพฺพํ กิสฺส กมฺมสฺส จ ผลนฺติ สกฺโก ปุจฺฉติ.
เทวราเชน ปุจฺฉิตา สา เทวธีตา อตฺตมนา หุตฺวา ปฺหํ ปุฏฺา สกฺกสฺส พฺยากาสิ. เทวราชา อทฺธานํ ทีฆมคฺคํ ปฏิปนฺนา อหํ ยสสฺสิโน กสฺสปสฺส ภควโต มโนรมํ ถูปํ อทฺทสฺสํ, ทิสฺวา ตตฺถ ถูเป จิตฺตํ ปสาเทสึ. ปสนฺนาหํ เสหิ ปาณีหิ ปทุมปุปฺเผหิ ปูเชสึ. ตสฺเสว กมฺมสฺส อิทํ สพฺพํ ผลํ วิปาโก ภเว. กตปฺุาหํ เอตาทิสํ ผลํ อลภินฺติ สกฺกสฺส พฺยากาสิ. อิติ เม สุตนฺติ มหาโมคฺคลฺลาโน วทตีติ โยชนา.
‘‘ยถานิทฺธาริตสุตฺตานิเยว ¶ วาสนาภาคิยสุตฺตานิ ปริปุณฺณานี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทานกถา สีลกถา สคฺคกถา ปฺุกถา ปฺุวิปากกถาติ อิทํ วาสนาภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยาย เทสนาย ทานฺจ ทานผลฺจ ทสฺสิตํ, สา เทสนา ทานกถา นาม. ยาย เทสนาย สีลฺจ สีลผลฺจ ทสฺสิตํ, สา เทสนา สีลกถา นาม. ยาย เทสนาย สคฺคา จ สคฺเคสุ นิพฺพตฺตาปกฺจ กมฺมํ ทสฺสิตํ, สา สคฺคกถา นาม. ยาย เทสนาย ทานสีลภาวนาทิวเสน ทสวิธํ ปฺุกมฺมํ ทสฺสิตํ, สา ปฺุกถา นาม. ยาย เทสนาย ตาทิสสฺส ปฺุกมฺมสฺส วิวิโธ อยํ วิปาโก อิมสฺส ปฺุสฺส วิปาโกติ นิยเมตฺวา ทสฺสิโต, สา ปฺุวิปากกถา นาม.
ทสพลธรานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อุทฺทิสฺสกเตสุ สรีรธาตุํ อพฺภนฺตเร เปตฺวา ปํสูหิ กเตสุ ถูเปสุ เย นรา ปสนฺนา, เต นรา ตตฺถ ถูเป การํ ปฺุํ กตฺวา สคฺเคสุ อุปฺปชฺชิตฺวา ปโมทนฺตีติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ วา…เป… สุตฺตํ.
๙๗. เทวปุตฺตสรีรวณฺณา เทวปุตฺตสรีรสทิสวณฺณา สุภคสณฺิติ โสภคฺคยุตฺตสณฺานา สพฺเพ ชนา อุทเกน ปํสุํ เตเมตฺวา ถูปํ วฑฺเฒถ, โส อยํ ถูโป กสฺส ปุคฺคลสฺส ถูโปติ ปุจฺฉติ.
สุคตฺเต สุนฺทรคตฺเต เทวเต ตสฺมึ ถูเป ปสนฺนา อิเม เทวมนุชา การํ ปฺุํ กโรนฺตา หุตฺวา ชรามรณโต ¶ ปมุจฺจเร. โส อยํ ถูโป มเหสิโน ทสพลธมฺมธาริโน สุคตสฺส ถูโปติ เวทิตพฺโพติ อาหาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ วา…เป… สุตฺตํ.
ยาหํ ยา อหํ มเหสิโน ถูปํ จตฺตาริ อุปฺปลานิ จ มาลฺจ อภิโรปยึ, เตน มยา กตํ ตํ ปฺุํ อุฬารํ วต อาสิ อโหสิ. ตโต กปฺปโต อชฺช กปฺปา ตึสํ ธรนฺติ สตฺถุโน ถูปํ ปูเชตฺวา ตตฺตกานิ ทุคฺคตึ น ชานามิ, วินิปาตํ น คจฺฉามีติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ วา…เป… สุตฺตํ.
อหํ พาตฺตึสลกฺขณธรสฺส พาตฺตึสลกฺขณธเรน สมฺปนฺนสฺส วิชิตวิชยสฺส โลกนาถสฺส ถูปํ อปูเชสึ, ปูเชตฺวา สตสหสฺสํ กปฺเป อายุกปฺเป ปมุทิโต อาสึ. มยา ยํ ปฺุํ ปสุตํ, เตน ปฺุเน วินิปาตํ อนาคนฺตุน อนาคนฺตฺวา เทวโสภคฺคํ สมฺปตฺตึ จ เทวรชฺชานิ จ ตานิ อการึ ¶ . อถ วา เทวโสภคฺคฺจ มยา การิตํ, รชฺชานิ จ มยา การิตานิ.
อทนฺตทมกสฺส สาสเน ยํ จกฺขุ ปฺาจกฺขุ ปณิหิตํ, ตถา จิตฺตํ ยํ วิมุตฺตจิตฺตํ ปณิหิตํ, ตํ สพฺพํ ปฺาจกฺขุ วิมุตฺตจิตฺตํ เม มยา ลทฺธํ, อหํ วิธุตลตาสงฺขาตตณฺหา หุตฺวา วิมุตฺตจิตฺตา ผลวิมุตฺตจิตฺตสมฺปนฺนา อมฺหีติ อโวจาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ วา…เป… สุตฺตํ.
๙๘. วิมุตฺตจิตฺเต ผลวิมุตฺตจิตฺตสมฺปนฺเน อขิเล ปฺจเจโตขีลรหิเต อนาสเว อรณวิหาริมฺหิ อรณวิหารสีเล อสงฺคมานเส อลคฺคมานเส ปจฺเจกพุทฺธสฺมึ สามากปตฺโถทนมตฺตเมว ทกฺขิณํ อทาสึ.
ตสฺมึ ปจฺเจกพุทฺเธ อุตฺตมํ ธมฺมํ ปจฺเจกโพธิธมฺมํ โอกปฺปยึ ‘‘โส อุตฺตโม ธมฺโม อตฺถี’’ติ สทฺทหึ. เอวํ อริยวิหาเรน วิหารีหิ ปจฺเจกพุทฺเธหิ เม มม สงฺคโม กโต สิยา ภเว, กุทาสุปิ จ อหํ อเปกฺขวา มา ภเวยฺยนฺติ มานสํ ตสฺมิฺจ ธมฺเม ปณิเธสึ ‘‘อิมินา ปจฺเจกพุทฺเธน ลทฺธธมฺมํ อหมฺปิ สจฺฉิกเรยฺย’’นฺติ จิตฺตํ ปณิทหึ.
ตสฺเสว ปจฺเจกพุทฺเธ กตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ ทีฆายุเกสุ อมเมสุ ‘‘มม ปริคฺคโห’’ติ ปริคฺคหาภาเวน อปริคฺคเหสุ วิเสสคามีสุ อหีนคามีสุ กุรูสุ อุตฺตรกุรูสุ ปาณีสุ สตฺเตสุ สหสฺสกฺขตฺตุํ อุปปชฺชถ อุปปชฺชึ.
ตสฺเสว ¶ กมฺมสฺส วิปากโต วิจิตฺรมาลาภรณานุเลปีสุ ยสสฺสีสุ ปริวารวนฺเตสุ ติทโส เทโว อหํ วิสิฏฺกายูปคโต หุตฺวา สหสฺสกฺขตฺตุํ อุปปชฺชถ.
ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากโต อหํ วิมุตฺตจิตฺโต อขีโล อนาสโว หุตฺวา หิตาหิตาสีหิ กุสลากุสลวีติวตฺเตหิ อนฺติมเทหธาริภิ อิเมหิ ปจฺเจกพุทฺเธหิ, พุทฺธสาวเกหิ วา เม มม สมาคโม อาสิ.
‘‘สีลวโต ยํ อิจฺฉิตํ, ตํ สมิชฺฌเต’’ติ อิมํ วจนํ ตถาคโต ชิโน ปจฺจกฺขํ กตฺวา อวจ โข, ยถา ยถา เยน เยน ปกาเรน เม มนสา วิจินฺติตํ, ตถา ตถา เตน เตน ปกาเรน สมิทฺธํ ภวติ. อยํ ภโว อนฺติโม ภโวติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ วา…เป… สุตฺตํ.
เอกตึสมฺหิ ¶ กปฺปมฺหิ ชิโน อเนโช อนนฺตทสฺสี ‘‘สิขี’’ติ อิตินามโก อุปฺปชฺชิ. ตสฺสาปิ ภควโต ราชา ภาตา สิขิทฺเธ จ สิขี อิตินามเก พุทฺเธ จ ตสฺส ภควโต ธมฺเม จ อภิปฺปสนฺโน โลกวินายกมฺหิ ปรินิพฺพุเต สติ เทวาติเทวสฺส นรุตฺตมสฺส มเหสิโน วิปุลํ มหนฺตํ สมนฺตโต คาวุติกํ ถูปํ อกาสึ.
ตสฺมึ ถูเป พลึ ปูชาพลึ อภิหารี มนุสฺโส ชาติสุมนํ ปคฺคยฺห ปหฏฺโ ปูเชสิ. อสฺส มนุสฺสสฺส เอกํ ปุปฺผํ วาเตน ปหริตํ หุตฺวา ปติตํ. อหํ ตํ ปติตํ เอกํ ปุปฺผํ คเหตฺวา ตสฺเสว ปุปฺผสามิกสฺส อทาสึ.
โส มนุสฺโส ปุปฺผสามิโก อภิปฺปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา มํ ‘‘ตฺวเมว เอตํ เอกํ ปุปฺผํ ปูชา’’ติ อทาสิ. ททาสีติ เอตฺถ ท-กาโร อาคโม. อหํ ตํ เอกํ ปุปฺผํ คเหตฺวา พุทฺธํ พุทฺธคุณํ ปุนปฺปุนํ อนุสฺสรนฺโต ยสฺมึ กปฺเป อภิโรปยึ, ตโต กปฺปโต อชฺช กปฺปา ตึสํ อเหสุํ. เตสุ กปฺเปสุ ทุคฺคตึ นาภิชานามิ, วินิปาตฺจ น คจฺฉามิ, อิทํ ผลํ ถูปปูชาย ผลนฺติ อโวจาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ วา…เป… สุตฺตํ.
พฺรหฺมทตฺตสฺส พฺรหฺมทตฺตนามกสฺส ราชิโน กปิลํ นาม นครํ สุวิภตฺตํ ภาคโต สุฏฺุ วิภตฺตํ, มหาปถํ มหาปถสมฺปนฺนํ อากิณฺณํ, นานาชาติเกหิ มนุสฺเสหิ ปริปุณฺณํ, อิทฺธํ ผีตฺจ อาสิ.
ปฺจาลานํ ¶ ตตฺถ ปุรุตฺตเม อหํ กุมฺมาสํ วิกฺกิณึ, โส อหํ ยสสฺสินํ อุปริฏฺํ อุปสมีเป ิตํ อริฏฺํ นาม สมฺพุทฺธํ ปจฺเจกพุทฺธํ อทฺทสึ, ทิสฺวา หฏฺโ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา นรุตฺตมํ อริฏฺํ เม เคหสฺมึ ยํ ธุวภตฺตํ วิชฺชถ วิชฺชิ, เตน ธุวภตฺเตน นิมนฺเตสึ.
ยโต จ ยสฺมึ กาเล จ กตฺติโก ยสฺสํ ปนฺนรสีปุณฺโณ, สา ปุณฺณมาสี ปนฺนรสี อุปฏฺิตา, ตโต จ ตสฺมึ กาเล จ อหํ นวํ ทุสฺสยุคํ คยฺห อริฏฺสฺส อริฏฺนามกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส อุปนาเมสึ.
นรุตฺตโม อนุกมฺปโก การุณิโก ตณฺหานิฆาตโก มุนิ ปจฺเจกพุทฺโธ ปสนฺนจิตฺตํ มํ ตฺวาน ปฏิคฺคณฺหิ.
อหํ ¶ กลฺยาณํ พุทฺธวณฺณิตํ กมฺมํ กริตฺวาน เทเว จ มนุสฺเส จ สนฺธาวิตฺวา ตโต จุโต พาราณสิยํ นคเร อฑฺเฒ กุลสฺมึ เสฏฺิสฺส เอกปุตฺตโก อุปฺปชฺชึ, ปาเณหิ จ ปิยตโร อาสึ.
ตโต จ ตสฺมึ กาเล วิฺุตํ ปตฺโต หุตฺวา เทวปุตฺเตน โจทิโต อหํ ปาสาทา โอรุหิตฺวาน สมฺพุทฺธํ ภควนฺตํ โคตมํ อุปสงฺกมึ.
โส สมฺพุทฺโธ ภควา โคตโม อนุกมฺปาย เม ธมฺมํ อเทเสสิ. ทุกฺขํ ทุกฺขสจฺจฺจ ทุกฺขสมุปฺปาทํ สมุทยสจฺจฺจ ทุกฺขสฺส อติกฺกมํ นิโรธสจฺจฺจ อริยํ อฏฺงฺคิกํ ทุกฺขูปสมคามินํ มคฺคํ มคฺคสจฺจฺจ อิติ จตฺตาริ สจฺจานิ เทสิตานิ, ตทุปฺปาทกํ ธมฺมํ มุนิ ภควา โคตโม อเทสยิ.
อหํ ตสฺส ภควโต โคตมสฺส วจนํ สุตฺวา สาสเน รโต หุตฺวา วิหรึ, อหํ รตฺตินฺทิวํ อตนฺทิโต หุตฺวา สมถํ ปฏิวิชฺฌึ.
อชฺฌตฺตฺจ เย อาสวา, พหิทฺธา จ เย อาสวา มคฺเคน สมุจฺฉินฺนา อาสุํ, สพฺเพ เต อาสวา เม มม วิชฺชึสุ, ปุน น จ อุปฺปชฺชเร.
ทุกฺขํ ‘‘ปริยนฺตกตํ ยสฺส ทุกฺขสฺสา’’ติ ปริยนฺตกตํ อาสิ, อยํ สมุสฺสโย ชาติมรณสํสาโร ¶ จริโม อนฺติโม อาสิ, อิทานิ อิมสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ ปุนพฺภโว มม นตฺถีติ อโวจาติ โยชนา. ยํ นานาวิธํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ อุทาหรณวเสน นิทฺธาริตํ, อิทํ นานาวิธํ สุตฺตํ วาสนาภาเค ปฺุโกฏฺาเส วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
นานาวิธํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นามาติ ปุจฺฉติ.
อุทฺธํ พฺรหฺมโลเก อโธ กามาวจเร ภเว สพฺพธิ สพฺเพสุ ภเวสุ วิปฺปมุตฺโต อรหา ‘‘อยํ นาม ธมฺโม อหํ อสฺมี’’ติ อนานุปสฺสี, เอวํ วิมุตฺโต อรหา อติณฺณปุพฺพํ โอฆํ อปุนพฺภวาย อุทตาริ อุตฺติณฺโณติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาเค เสกฺขธมฺเม วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ ¶ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สีลวโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. อานนฺท, สีลวโต ปุคฺคลสฺส ‘‘กินฺติ เม มม อวิปฺปฏิสาโร ชาเยยฺย ปวตฺเตยฺยา’’ติ เจตนา น กรณียา น กาตพฺพา. อานนฺท, สีลวโต อวิปฺปฏิสาโร ยํ ชาเยยฺย ปวตฺเตยฺย, เอสา อวิปฺปฏิสารสฺส ชายนา ปวตฺตนา ธมฺมตา ภวติ. อานนฺท, อวิปฺปฏิสารินา ปุคฺคเลน ‘‘กินฺติ เม มม ปาโมชฺชํ ชาเยยฺย ปวตฺเตยฺยา’’ติ เจตนา น กรณียา, อานนฺท, อวิปฺปฏิสาริโน ปุคฺคลสฺส ปาโมชฺชํ ยํ ชาเยยฺย ปวตฺเตยฺย, เอสา ปาโมชฺชสฺส ชายนา ปวตฺตนา ธมฺมตา. เสเสสุปิ อิมสฺส โยชนานยานุสาเรน โยชนานโย คเหตพฺโพ. อิทํ สุตฺตมฺปิ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
อาตาปิโน กิเลสานํ อาตาเปน สมฺมปฺปธาเนน สมนฺนาคตสฺส ฌายโต ฌายนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส พาหิตปาปสฺส ขีณาสวสฺส ธมฺมา อนุโลมปจฺจยาการปฏิเวธสาธกา โพธิปกฺขิยธมฺมา ยทา ยสฺมึ กาเล หเว เอกนฺเตน ปาตุภวนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ วา ธมฺมา จตุอริยสจฺจธมฺมา ปาตุภวนฺติ ปกาสยนฺติ อภิสมยวเสน ปากฏา โหนฺติ. อถ วา ปาตุภวนกาเล อสฺส อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส ขีณาสวสฺส สพฺพา กงฺขา วปยนฺติ อปคจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺติ. กสฺมา? สเหตุธมฺมํ อวิชฺชาทิเกน เหตุนา สห ปวตฺตํ สงฺขาราทิกํ สุเขน อสมฺมิสฺสํ ทุกฺขกฺขนฺธธมฺมํ ยโต ยสฺมา ปชานาติ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌติ ¶ , ตโต ตสฺมา วปยนฺติ อปคจฺฉนฺติ นิรุชฺฌนฺตีติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
ทุติยคาถายํ ปน ปจฺจยานํ ขยํ ขยสงฺขาตํ นิพฺพานํ ยโต ยสฺมา อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ, ตโต ตสฺมา สพฺพาปิ กงฺขา วปยนฺตีติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
ติสฺส, ตฺวํ กึ นุ กุชฺฌสิ? มา กุชฺฌิ, ติสฺส, เต ตว อกฺโกโธ อกุชฺฌนํ วรํ อุตฺตมํ, หิ สจฺจํ, ติสฺส, ตยา โกธมานมกฺขวินยตฺถํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ นูติ ภควา อโวจาติ โยชนา.
อารฺํ อารฺกํ ปํสุกูลิกํ อฺาตฺุเฉน อฺาตอนภิลกฺขิตฆรปฏิปาฏิยา ตฺวา อฺุเฉน ปิณฺฑปาตจรณวีริเยน ลทฺเธน มิสฺสกโภชเนน ยาเปนฺตํ นนฺทํ กทา กาเล อหํ ปสฺเสยฺยนฺติ อโวจาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
โคตม ¶ , กึสุ กตมํ เฉตฺวา วธิตฺวา วธนฺโต โกธปริฬาเหน อปริทยฺหมาโน หุตฺวา สุขํ เสติ สยติ, กึสุ กตมํ เฉตฺวา วธิตฺวา วธนฺโต โกธวินาเสน วินฏฺโทมนสฺโส หุตฺวา น โสจติ, โคตม, ตฺวํ กิสฺส เอกธมฺมสฺส วธํ วธนํ โรเจสีติ พฺราหฺมโณ ปุจฺฉติ.
พฺราหฺมณ, โกธํ กุชฺฌนํ เฉตฺวา วธิตฺวา วธนฺโต โกธปริฬาเหน อปริทยฺหมาโน หุตฺวา สุขํ เสติ สยติ, โกธํ กุชฺฌนํ เฉตฺวา วธิตฺวา วธนฺโต โกธวินาเสน วินฏฺโทมนสฺโส หุตฺวา น โสจติ, วิสมูลสฺส วิสสทิสสฺส ทุกฺขสฺส มูลภูตสฺส มธุรคฺคสฺส มธุรสงฺขาตสฺส สุขปริโยสานสฺส โกธสฺส กุชฺฌนสฺส วธํ วธนํ อริยา พุทฺธาทโย ปุคฺคลา ปสํสนฺติ. หิ สจฺจํ ตํ โกธํ กุชฺฌนํ เฉตฺวา วธิตฺวา วธนฺโต โกธวินาเสน วินฏฺโทมนสฺโส หุตฺวา เสติ สยตีติ โยชนา. มธุรคฺคสฺสาติ จ มธุรํ เจตสิกสุขํ อสฺสาทอคฺคํ ปริโยสานํ อสฺส โกธสฺสาติ มธุรคฺโคติ สมาโส เวทิตพฺโพ. กุชฺฌนฺตสฺส หิ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ปหริตฺวา ปริโยสาเน เจตสิกสุขสฺสาโท อุปฺปชฺชตีติ. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
โคตม, หนนฺโต ธีโร อุปฺปติตํ กึสุ กตมํ หเน หเนยฺย. วิโนเทนฺโต ธีโร ชาตํ กึสุ ¶ กตมํ วิโนทเย วิโนทเยยฺย. ปชหนฺโต ธีโร กึ จ กตมํ ปชเห ปชเหยฺย. ธีรสฺส กิสฺส ธมฺมสฺส อภิสมโย สุโขติ เทวตา ปุจฺฉติ.
เทวปุตฺต, หนนฺโต ธีโร อุปฺปติตํ โกธํ กุชฺฌนํ หเน หเนยฺย. วิโนเทนฺโต ธีโร ชาตํ ราคํ วิโนทเย วิโนทเยยฺย. ปชหนฺโต ธีโร อวิชฺชํ ปชเห ปชเหยฺย. สจฺจธมฺมสฺส อภิสมโย สุโขติ ภควา อโวจาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ.
๑๐๑. ภควา สตฺติยา โอมฏฺโ อุปริโต ยาว เหฏฺา วิทฺโธ ปุริโส สตฺติปฺปหานาย วีริยํ อารภติ วิย, อคฺคินา มตฺถเก ฑยฺหมาโน อาทิตฺตสิโร ปุริโส อคฺคินิพฺพาปนตฺถาย วีริยํ อารภติ อิว, เอวํ กามราเคน ฑยฺหมาโน ภิกฺขุ กามราคปฺปหานาย กามราควิกฺขมฺภนาย อปฺปมตฺโต วายมมาโน สโต สติสมฺปนฺโน หุตฺวา ปริพฺพเช วิหเรยฺยาติ เทวตา กเถสิ.
ภควา ¶ ปน ‘‘สมุจฺเฉทปฺปหานาย วีริยํ อารภียตี’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘สตฺติยา วิย โอมฏฺโ’’ติอาทิมาห. เทวปุตฺต, สตฺติยา โอมฏฺโ ปุริโส สตฺติปฺปหานาย วีริยํ อารภติ วิย, อคฺคินา มตฺถเก ฑยฺหมาโน อาทิตฺตสิโร ปุริโส อคฺคินิพฺพาปนตฺถาย วีริยํ อารภติ อิว, เอวํ สกฺกายทิฏฺิยา อภิภูโต ภิกฺขุ สกฺกายทิฏฺิยา ปหานาย มคฺเคน สมุจฺเฉทปฺปหานาย อปฺปมตฺโต วายมมาโน สโต สติสมฺปนฺโน หุตฺวา ปริพฺพเช วิหเรยฺยาติ ภควา อโวจาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
สพฺเพ นิจยา โภคา ขยนฺตา ขยปริโยสานา ภวนฺติ, สพฺเพ สมุสฺสยา ธมฺมา ปตนนฺตา ปตนปริโยสานา ภวนฺติ, สพฺเพสํ สตฺตานํ มรณมาคมฺม สพฺเพสํ สตฺตานํ ชีวิตํ อทฺธุวํ ภวติ, อิติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ ภยํ ภยเหตุํ มรณํ สมฺมุติมรณํ อเปกฺขมาโน ปณฺฑิโต สุขาวหานิ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสุขาวหานิ ปฺุานิ ทานสีลภาวนามยปฺุานิ กยิราถาติ เทวตา อโวจ.
เทวปุตฺต, สพฺเพ นิจยา โภคา ขยนฺตา ขยปริโยสานา, สพฺเพ สมุสฺสยา ธมฺมา ปตนนฺตา ปตนปริโยสานา, สพฺเพสํ สตฺตานํ มรณมาคมฺม สพฺเพสํ สตฺตานํ ชีวิตํ อทฺธุวํ, อิติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ ภยํ ภยเหตุํ มรณํ อเปกฺขมาโน สนฺติเปกฺโข สพฺพสงฺขารุปสมํ นิพฺพานํ อเปกฺขมาโน ¶ ปณฺฑิโต โลกามิสํ กามคุณํ ปชเห ปชเหยฺยาติ ภควา อโวจาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
มาวิธ เยสํ มุนีนํ จิตฺตํ ฌานรตํ ฌาเน รตํ โหติ, เต มุนโย สุขํ สยนฺติ น โสจนฺติ. ปฺวา มคฺคปฺวา สุสมาหิโต อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต นิพฺพานํ เปสิตจิตฺโต ปุคฺคโล ทุตฺตรํ โอฆํ สํสาโรฆํ ตรติ.
กามสฺาย วิรโต วิคตจิตฺโต โย ขีณาสโว สพฺพสํโยชนาตีโต อรหตฺตมคฺเคน สพฺเพ สํโยชเน อตีโต นนฺทิภวปริกฺขีโณ อโหสิ, โส ขีณาสโว คมฺภีเร สํสารณฺณเว น สีทตีติ โยชนา. นนฺทิสงฺขาตา ตณฺหา จ กามภวรูปภวอรูปภวา จ นนฺทิภวา, นนฺทิภวา ปริกฺขีณา ยสฺส ขีณาสวสฺสาติ นนฺทิภวปริกฺขีโณติ สมาโส เวทิตพฺโพ. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
อรหตํ ¶ อรหนฺตานํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ ธมฺมํ สุจริตาทิเภทฺจ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยเภทฺจ ธมฺมํ โย ปณฺฑิโต สทฺทหาโน สทฺทหนฺโต หุตฺวา นิพฺพานปฺปตฺติยา อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ หุตฺวา สุสฺสูสํ สุสฺสูสนฺโต ภเว, โส ปณฺฑิโต ปฺํ โลกิยโลกุตฺตรปฺํ ลภเต ลภติ.
โย วีริยวา ปุคฺคโล ปติรูปเทสการี เทสกาลาทีนิ อหาเปตฺวา โลกิยโลกุตฺตรธมฺมปติรูปํ อธิคมูปายํ กโรติ, ธุรวา เจตสิกวีริเยน อนิกฺขิตฺตธุโร อุฏฺาตา กายิกวีริยวเสน อุฏฺานสมฺปนฺโน โหติ, โส วีริยวา ปุคฺคโล ธนํ โลกิยโลกุตฺตรธนํ วินฺทเต อธิคจฺฉติ. สจฺเจน วจีสจฺเจน จ ปรมตฺถสจฺเจน จ พุทฺธาทิโก สจฺจธมฺเม ิโต สปฺปุริโส กิตฺตึ ปปฺโปติ. ททํ ททนฺโต ยํ กิฺจิ อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ จตุสงฺคหวตฺถุํ ททนฺโต สงฺคหนฺโต สปฺปุริโส มิตฺตานิ เอกนฺตมิตฺตานิ คนฺถติ สมฺปาเทติ, เอวํ จตูหิ สจฺจธมฺมธิติจาเคหิ สมนฺนาคโต โส สปฺปุริโส อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ เปจฺจ คนฺตฺวา เอกนฺเตน โสกการณสฺส อภาวโต น โสจตีติ โยชนา.
โคตม, สพฺพคนฺถปฺปหีโน ตีหิ ภเวหิ วิปฺปมุตฺโต สโต สติสมฺปนฺโน ตฺวํ, สมโณ, อฺํ เทวมนุสฺสาทิกํ ยํ อนุสาสสิ ยํ อนุสาสนํ กโรสิ, ตํ อนุสาสนํ สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส ¶ ตีหิ ภเวหิ วิปฺปมุตฺตสฺส สมณสฺส เต ตว น สาธูติ สกฺกนามโก มารปกฺขิโก ยกฺโข คาถาย อชฺฌภาสิ.
‘‘สกฺก สกฺกนามก ยกฺข อนุกมฺปิเตน ปุริเสน สทฺธึ เยน เกนจิ วณฺเณน การเณน สํวาโส เอกสฺมึ าเน สหวาโส ชายติ, ตํ อนุกมฺปิตพฺพํ สหวาสคตํ ปุริสํ สปฺปฺโ มนสา อนุกมฺปิตุํ น อรหติ อนุกมฺปิตุํเยว อรหติ. ยา อนุกมฺปา กรุณา, ยา อนุทฺทยา เมตฺตา, มุทิตา จ อุปฺปนฺนา, ตาย อนุกมฺปาย กรุณาย, ตาย อนุทฺทยาย เมตฺตาย มุทิตาย จ สมุสฺสาหิเตน ปสนฺเนน มนสา โย สปฺปฺโ สปฺปุริโส อฺํ เทวมนุสฺสาทิกํ ยํ อนุสาสติ ยํ อนุสาสนํ กโรติ, โส สปฺปฺโ สปฺปุริโส เตน อนุสาสเนน สํยุตฺโต กามจฺฉนฺทาทีนํ สํโยชนานํ วเสน อนนุโลมสํโยเคน สํยุตฺโต น โหตีติ ภควา อโวจาติ โยชนา.
๑๐๒. สมณ ¶ , ราโค จ โทโส จ อิเม ทฺเว ธมฺมา กุโตนิทานา, กึนิทานา, กึปจฺจยา ภวนฺติ, อรติ จ รติ จ โลมหํโส จ อิเม ตโย กุโตชา กุโต ภวนฺติ? กุมารกา ธงฺกํ กากํ คเหตฺวา ปาเท ทีฆสุตฺตเกน พนฺธิตฺวา สุตฺตโกฏึ องฺคุลิยํ เวเตฺวา โอสชนฺติ อิว, เอวํ มโนวิตกฺกา กุโต สมุฏฺาย จิตฺตํ โอสชนฺตีติ สูจิโลมยกฺโข ภควนฺตํ ปุจฺฉิ.
ราโค จ โทโส จ อิเม ทฺเว ธมฺมา อิโตนิทานา อิโต อตฺตภาวโต นิทานา ชายนฺติ; อรติ จ รติ จ โลมหํโส จ อิเม ตโย อิโตชา อิโต อตฺตโต ภวนฺติ; กุมารกา ธงฺกํ กากํ คเหตฺวา ปาเท ทีฆสุตฺตเกน พนฺธิตฺวา สุตฺตโกฏึ องฺคุลิยํ เวเตฺวา โอสชนฺติ อิว, เอวํ มโนวิตกฺกา อิโต อตฺตภาวโต สมุฏฺาย จิตฺตํ โอสชนฺติ.
นิคฺโรธสฺส ขนฺธชา ปาโรหา สาขาสุ ชายนฺติ อิว, วเน รุกฺขํ นิสฺสาย ชาตา มาลุวา ลตา ตํ รุกฺขํ อชฺโฌตฺถริตฺวา วิตตา โอตตวิตตา ติฏฺติ อิว, เอวํ, ยกฺข, ตฺวํ สุโณหิ สฺเนหชา ตณฺหาสฺเนหโต ชาตา อตฺตสมฺภูตา อตฺตนิ สมฺภูตา ปุน อเนกปฺปการา มโนวิตกฺกา ปาปมโนวิตกฺกา เจว ตํสมฺปยุตฺตกิเลสา จ กาเมสุ วตฺถุกาเมสุ วิสตฺตา ลคฺคา สํสิพฺพิตา ิตา.
เย ปณฺฑิตา ‘‘ยํ นิทานํ อสฺส อตฺตภาวสฺสา’’ติ ยโตนิทานํ นํ กิเลสคหนํ สมุทยสจฺจํ ¶ ปชานนฺติ, เต ปณฺฑิตา อตฺตภาวสงฺขาตสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส นิทานภูตํ นํ กิเลสคหนํ สมุทยสจฺจํ มคฺคสจฺเจน วิโนเทนฺติ. อปุนพฺภวาย อปุนภวสงฺขาตาย นิโรธสจฺจตฺถาย อติณฺณปุพฺพํ อนมตคฺเค สํสาเร สุปิเนนาปิ อติณฺณปุพฺพํ ทุตฺตรํ อิมํ โอฆํ จตุพฺพิธํ สํกิเลโสฆํ ตรนฺตีติ ภควา อโวจาติ โยชนา.
‘‘ภควา, สมณธมฺมสฺส กรณํ นาม ทุกฺกรํ, ภควา, สมณธมฺมสฺส กรณํ นาม สุทุกฺกรํ สุฏฺุตรํ ทุกฺกร’’นฺติ เอโก กุลปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กตฺวา อริยภูมึ อปฺปตฺวา กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺโต, โส เทวปุตฺโต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห. กามท, สีลสมาหิตา ิตตฺตา ิตสภาวา สตฺต เสกฺขา ปุคฺคลา ทุกฺกรํ วาปิ สมณธมฺมํ กโรนฺติ. อนคาริยุเปตสฺส อนคาริยํ นิคฺเคหภาวํ อุปคตสฺส ปพฺพชิตสฺส ¶ ตุฏฺิ จตุปจฺจยสนฺโตโส สุขาวหา โหตี’’ติ ภควา อโวจ.
‘‘ภควา, ยทิทํ ยา เอสา ตุฏฺิ สุขาวหา, เอสา ตุฏฺิ ทุลฺลภา’’ติ โส เทวปุตฺโต อาห. ‘‘กามท, เยสํ เสกฺขานํ มโน ทิวา จ รตฺโต จ ภาวนาย รโต จิตฺตวูปสเม รโต, เต เสกฺขา ทุลฺลภํ วาปิ ตุสฺสนํ ลภนฺตี’’ติ ภควา อโวจ.
‘‘ภควา, ยทิทํ ยํ อิทํ จิตฺตํ ภาวนาย รตํ, ตํ จิตฺตํ ทุสฺสมาทห’’นฺติ โส เทวปุตฺโต อาห. ‘‘กามท, เย อริยา อินฺทฺริยูปสเม รตฺตินฺทิวํ รตา, เต อริยา ทุสฺสมาทหํ วาปิ จิตฺตํ สมาทหนฺติ, กามท, เต อริยา มจฺจุโน ชาลํ กิเลสชาลํ เฉตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตี’’ติ ภควา อโวจ.
‘‘ภควา, โย มคฺโค ปุพฺพภาคปฏิปทาวเสน วิสโม, โส มคฺโค ทุคฺคโม’’ติ โส เทวปุตฺโต อาห. ‘‘กามท, อริยา ทุคฺคเม วิสเม วาปิ มคฺคํ คจฺฉนฺติ, อนริยา วิสเม มคฺเค อวํสิรา ปปตนฺติ, อริยานํ โส มคฺโค สโมว ภเว, น อสโม. หิ สจฺจํ วิสเม วิสตฺตกาเย อริยา สมา ภวนฺตี’’ติ ภควา อโวจาติ โยชนา.
๑๐๓. ยํ เชตวนํ อิสิสงฺฆนิเสวิตํ ธมฺมราเชน อาวุตฺถํ, อิทํ ตํ เชตวนํ มม ปีติสฺชนนํ ปีติยา สฺชนนํ กรํ หิ กรํ เอว.
กมฺมํ มคฺคเจตนากมฺมฺจ วิชฺชา มคฺคปฺา จ ธมฺโม สมาธิ เจว สมาธิปกฺขิโก จ ¶ ธมฺโม สีลํ, สีเล ิตสฺส ชีวิตํ อุตฺตมํ, เอเตน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สตฺตา สุชฺฌนฺติ, โคตฺเตน วา ธเนน วา สตฺตา น สุชฺฌนฺติ.
ตสฺมา มคฺเคเนว สตฺตานํ วิสุชฺฌนโต อตฺตโน อตฺถํ สมฺปสฺสํ ปสฺสนฺโต ปณฺฑิโต โปโส โยนิโส อุปาเยน ธมฺมํ โพธิปกฺขิยธมฺมํ วิจิเน วิจิเนยฺย, เอวํ วิจินเน สติ ตตฺถ อริยมคฺเค วิจินนฺโต ปุคฺคโล สุชฺฌติ.
สาริปุตฺโต สีเลน จ อุปสเมน จ ปารงฺคโต อิว, เอวํ โยปิ ภิกฺขุ สีเลน จ อุปสเมน จ ปารงฺคโต, โส ภิกฺขุ เอตาว ปรโม สาริปุตฺตสทิโสว สิยาติ อนาถปิณฺฑิกนาโม เทวปุตฺโต ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อาหาติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
อตีตํ ¶ อตีตกฺขนฺธปฺจกํ ตณฺหาทิฏฺีหิ นานฺวาคเมยฺย, อนาคตํ อนาคตกฺขนฺธปฺจกํ ตณฺหาทิฏฺีหิ นปฺปฏิกงฺเข น ปตฺเถยฺย. ยํ ยสฺมา อตีตํ ปหีนํ นิรุทฺธํ อตฺถงฺคตํ, ตสฺมา อตีตสฺส ปหีนตฺตา นิรุทฺธตฺตา อตฺถงฺคตตฺตา นานฺวาคเมยฺย. ยํ ยสฺมา อนาคตํ อปฺปตฺตํ, ตสฺมา น ปฏิกงฺเข.
ปจฺจุปฺปนฺนํ ขนฺธปฺจกํ วยธมฺมํ ยตฺถ ยตฺถ สนฺตาเน วา, ยตฺถ ยตฺถ อรฺาทีสุ วา อุปฺปนฺนํ, ตตฺถ ตตฺถ สนฺตาเน วา, ตตฺถ ตตฺถ อรฺาทีสุ วา นํ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมํ ยาหิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ วิปสฺสติ, ตาหิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิพฺพานํ ราคาทีหิ อสํหีรํ อสํกุปฺปํ ภวติ, ตํ นิพฺพานํ วิปสฺสโก ปุคฺคโล วิทฺวา นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปนฺโต หุตฺวา อนุพฺรูหเย วฑฺเฒยฺย.
อาตปฺปํ สํกิเลสานํ อาตปนฺตํ วีริยํ อชฺเชว กิจฺจํ กาตพฺพํ, สุเว ชีวิตํ วา มรณํ วา โก ชฺา ชาเนยฺย, ‘‘สุเว วา ทานาทิปฺุํ ชานิสฺสามี’’ติ จิตฺตํ อนุปฺปาเทตฺวา ‘‘อชฺเชว กริสฺสามี’’ติ เอวํ วีริยํ กาตพฺพํ. หิ สจฺจํ มรณการณภาวตาย อหิวิจฺฉิกวิสสตฺถาทิอเนกาย เสนาย วเสน มหาเสเนน เตน มจฺจุนา สทฺธึ มิตฺตสนฺถวากาเรน วา ลฺชทาเนน วา สงฺครํ นตฺถีติ.
เอวํ ¶ มนสิ กตฺวา วิหารึ วิหรนฺตํ อาตาปึ อโหรตฺตํ อตนฺทิตํ อนลสํ อุฏฺาหกํ สปฺปุริสํ ‘‘ภทฺเทกรตฺโต’’ติ สนฺโต มุนิ เว เอกนฺเตน อาจิกฺขเต อาจิกฺขติเยวาติ โยชนา.
‘‘จตฺตาริมานิ ภิกฺขเว’’ตฺยาทิสุตฺตํ ปาฬิโต จ อฏฺกถาโต จ ปากฏํ.
๑๐๔. นานาวิธํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นามาติ ปุจฺฉติ.
ยสฺส อุตฺตมปุริสสฺส จิตฺตํ เสลูปมํ ิตํ โลกธมฺมวาเตหิ นานุกมฺปติ, รชนีเยสุ ลาภาทีสุ วิรตฺตํ ภเว, โส อุตฺตมปุริโส โกปเนยฺเย ¶ อลาภาทิเก น กุปฺปติ, ตสฺส อุตฺตมปุริสสฺส จิตฺตํ เอวํ อนิจฺจตาทินา ภาวิตํ, นํ ภาวิตจิตฺตํ อุตฺตมปุริสํ วีติกฺกนฺตโลกธมฺมเหตุกํ ทุกฺขํ กุโต เอสฺสตีติ โยชนา. อิทํ สุตฺตํ อเสกฺขภาเค วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นาม. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ เวทิตพฺโพ.
‘‘อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ อิทเมวา’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘อายสฺมโต จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
โย พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺมตฺตา พาหิตปาปธมฺโม ภเว, โส พฺราหฺมโณ นิคฺคตหุํหุํกตฺตา นิหุํหุงฺโก ภเว, นิคฺคตกิเลสกสาวตฺตา นิกฺกสาโว ภเว, สีลสํวเรน สํยตจิตฺตตาย ยตตฺโต ภเว, โย พฺราหฺมโณ จตุมคฺคาณเวเทหิ อนฺตํ นิพฺพานํ คตตฺตา เวทนฺตคู ภเว, ธมฺเมน วุสิตพฺรหฺมจริยตฺตา วุสิตพฺรหฺมจริโย ภเว. ยสฺส พฺราหฺมณสฺส กุหิฺจิ โลเก อุสฺสทา ราคุสฺสโท โทสุสฺสโท โมหุสฺสโท มานุสฺสโท ทิฏฺุสฺสโท นตฺถิ, โส พฺราหฺมโณ พฺรหฺมวาทํ ‘‘อหํ พฺราหฺมโณมฺหี’’ติ วาจํ วเทยฺยาติ ภควา อโวจาติ โยชนา.
เย พุทฺธา ปาปเก อกุสเล ธมฺเม พาหิตฺวา สทา จรนฺติ สตา สติสมฺปนฺนา ขีณสํโยชนา, เต พุทฺธา โลกสฺมึ พฺราหฺมณาติ เว เอกนฺเตน กถียนฺตีติ อโวจาติ โยชนา.
ยตฺถ นิพฺพาเน อาโป จ ปถวี จ เตโช จ วาโย จ น คาธติ น ปติฏฺหติ, ตตฺถ ¶ นิพฺพาเน สุกฺกา คหา เจว ตารกา จ น โชตนฺติ, ตตฺถ นิพฺพาเน อาทิจฺโจ นปฺปกาสติ, ตตฺถ นิพฺพาเน จนฺทิมา น ภาติ, ตตฺถ นิพฺพาเน ตโม น วิชฺชติ.
โย พฺราหฺมโณ อตฺตนา สยํ มุนิ โมเนน ยทา ตํ นิพฺพานํ อเวทิ วินฺทติ ปฏิลภติ ปฏิวิชฺฌติ, อถ ปฏิวิชฺฌนกฺขเณ โส พฺราหฺมโณ รูปา รูปธมฺมโต จ อรูปา อรูปธมฺมโต จ สุขทุกฺขา สุขทุกฺขโต จ ปมุจฺจตีติ อโวจาติ โยชนา.
ยกฺข, โย พฺราหฺมโณ สเกสุ สกอตฺตภาเวสุ ธมฺเมสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สจฺเจสุ, ธมฺเมสุ จ ปารคู โหติ, อถ ปารคมนกฺขเณ โส พฺราหฺมโณ เอตํ อชกลาปกํ ตยา วุตฺตํ เอตํ ปิสาจํ กิเลสปิสาจฺจ ¶ , ตยา กตํ อกฺกุลฺจ อกฺกุลํ, ปกฺกุลกรณํ อติวตฺตตีติ อโวจาติ โยชนา.
โย ภิกฺขุ อายนฺตึ อาคจฺฉนฺตึ ปุราณทุติยิกํ ภริยํ วา, อฺํ อาคจฺฉนฺตึ อิตฺถึ วา จิตฺเตน น อภินนฺทติ, ปกฺกมนฺตึ ปุราณทุติยิกํ ภริยํ วา, อฺํ ปกฺกมนฺตึ อิตฺถึ วา จิตฺเตน น โสจติ, สงฺคา ปฺจวิธโตปิ สงฺคโต มุตฺตํ สงฺคามชึ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘พฺราหฺมณ’’นฺติ อหํ วทามีติ อโวจาติ โยชนา.
เอตฺถ นทิยํ พหุชโน นฺหายติ, โส พหุชโน นฺหายโก อุทเกน อุทกนฺหาเนน สุจี น โหติ. ยมฺหิ ปุคฺคเล สจฺจํ, สจฺจโต เสสธมฺโม จ อตฺถิ, โส ปุคฺคโล สุจี จ โหติ, โส ปุคฺคโล พฺราหฺมโณ จ โหตีติ อโวจาติ โยชนา; สุจิอสุจิภาโว ฏีกายํ วิตฺถารโต วุตฺโตว.
อาตาปิโน ฌายโต ยสฺส พฺราหฺมณสฺส ธมฺมา สจฺจธมฺมา ยทา หเว เอกนฺเตน ปาตุภวนฺติ, ตทา ธมฺมานํ ปาตุภวนกฺขเณ โส พฺราหฺมโณ มารเสนํ วิธูปยํ วิธูปยนฺโต ติฏฺติ. ‘‘กิมิวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สูริโยว โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. สูริโย อนฺตลิกฺขํ โอภาสยนฺโต ติฏฺติ อิว, เอวํ ติฏฺตีติ โยชนา.
โย ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ สพฺพานิ จตฺตาริ โยคานิ อุปาติวตฺโต สกิฺจเน โลเก อกิฺจโน อิริยติ จตุพฺพิธอิริยาปถํ วตฺเตติ. อปหานธมฺมํ เกนจิ มคฺเคน อปฺปหานสภาวํ อปฺปตฺตกาเยน อปฺปตฺตํ เตวิชฺชปตฺตํ, อิริยมานํ สนฺตินฺทฺริยํ ตํ ปํสุกูลิกํ ภิกฺขุํ ตุมฺเห ปสฺสถ.
อาชานิยํ ¶ ปุริสอาชานียํ ชาติพลนิเสธํ ‘‘อหํ ชาติพฺราหฺมโณ’’ติ ชาติมตฺตเกน ปวตฺตมานพลนิเสธกํ ตํ ปํสุกูลิกํ ภิกฺขุํ สมฺพหุลา อุฬารา เทวตา พฺรหฺมํ วิมานํ อุปสงฺกมิตฺวา อิธ สาสเน, พฺรหฺมวิมาเน วา ปสนฺนจิตฺตา หุตฺวา นมสฺสนฺติ. นิธาติ จ เอตฺถ น-กาโร อาคโม.
ปุริสาชฺ เต ตว อมฺหากํ นโม อตฺถุ, ปุริสุตฺตม เต ตว อมฺหากํ นโม อตฺถุ, ยสฺส เต ตว นิสฺสยํ มยํ นาภิชานาม, โส ตฺวํ กึ ปุคฺคลํ นิสฺสาย ฌายสีติ อโวจุนฺติ โยชนา.
เย ¶ ภิกฺขู กาเลน กาลํ ธมฺมสฺสวนวเสน จิรรตฺตํ สเมติกา ภวนฺติ, อิเม ภิกฺขู สหายา โหนฺติ วต. เนสํ สหายานํ ภิกฺขูนํ ธมฺเม พุทฺธปฺปเวทิเต ธมฺเม สทฺธมฺโม สเมติ.
กปฺปิเนน อริยปฺปเวทิเต ธมฺเม สุวินีตา เต สหายกา ภิกฺขู สวาหินึ มารํ เชตฺวา อนฺติมํ เทหํ อตฺตภาวํ ธาเรนฺตีติ อโวจาติ โยชนา.
สิถิลํ วีริยํ อารพฺภ สพฺพทุกฺขปฺปโมจนํ อิทํ นิพฺพานํ โยคาวจเรน น อธิคนฺตพฺพํ, อปฺเปน อปฺปเกน ถามสา อิทํ นิพฺพานํ น อธิคนฺตพฺพํ.
อยฺจ โยคาวจโร ภิกฺขุ ทหโร, โย ปุริโส สวาหินึ มารํ เชตฺวา อนฺติมํ เทหํ อตฺตภาวํ ธาเรติ, โส อยํ ปุริโส โส อุตฺตมปุริโสวาติ อโวจาติ โยชนา. ‘‘ปุริโส’’ติ วตฺตพฺเพ ฉนฺทานุรกฺขณวเสน ‘‘โปริโส’’ติ วุตฺตํ.
โมฆราช, ทุพฺพณฺณโก ลูขจีวโร สทา สโต สติสมฺปนฺโน ขีณาสโว จ วิสํยุตฺโต จ กตกิจฺโจ จ อนาสโว จ เตวิชฺโช จ อิทฺธิปฺปตฺโต จ เจโตปริยายโกวิโท จ โส ภิกฺขุ สวาหินึ มารํ เชตฺวา อนฺติมํ เทหํ ธาเรตีติ อโวจาติ โยชนา.
๑๐๕. ‘‘ตถาคโต’’ติอาทีสุ โยชนา ปากฏา. อิทํ สุตฺตํ อเสกฺขภาเค วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นาม.
๑๐๖. นานาวิธํ ¶ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ นามาติ ปุจฺฉติ.
ฉนฺนํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา ฉนฺนํ ฉาเทนฺตํ ภิกฺขุํ ทุกฺกฏาทิวสฺโส อติวสฺสติ, วิวฏํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วิวฏํ เทเสนฺตํ อาจิกฺขนฺตํ ภิกฺขุํ ทุกฺกฏาทิวสฺโส นาติวสฺสติ, ตสฺมา ฉนฺนสฺส อติวสฺสนโต จ วิวฏสฺส นาติวสฺสนโต จ ฉนฺนํ ฉาทิตพฺพํ อาปตฺตึ วิวเรถ เทเสถ อาโรเจถ ¶ , เอวํ วิวรเณ สติ ตํ วิวรนฺตํ ภิกฺขุํ ทุกฺกฏาทิวสฺโส นาติวสฺสตีติ โยชนา.
‘‘อิมสฺมึ สุตฺเต กิตฺตเกน สํกิเลโส ทสฺสิโต, กิตฺตเกน วาสนา ทสฺสิตา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ฉนฺนมติวสฺสตี’’ติ สํกิเลโส, ‘วิวฏํ นาติวสฺสตี’ติ วาสนา, ‘ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’ติ อยํ สํกิเลโส จ วาสนา จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ฉนฺนมติวสฺสตี’’ติ เอตฺตเกน สํกิเลโส ทสฺสิโต. ‘‘วิวฏํ นาติวสฺสตี’’ติ เอตฺตเกน วาสนา ทสฺสิตา. ‘‘ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสตี’’ติ เอตฺตเกน อยํ สํกิเลโส จ ทสฺสิโต, อยํ วาสนา จ ทสฺสิตา. อิทํ ‘‘ฉนฺนํ…เป... วสฺสตี’’ติ สุตฺตํ สํกิเลสภาเค วิสเย จ วาสนาภาเค วิสเย จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
‘‘สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตฺตาโรเม มหาราชา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ กตเม ปุคฺคลา สํกิเลสภาคิยา, กตเม ปุคฺคลา วาสนาภาคิยา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จ ปุคฺคโล’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ จตูสุ ตโมตมปรายณาทีสุ ปุคฺคเลสุ. ตสฺสตฺโถ ปากโฏ. อิทํ ‘‘จตฺตาโรเม’’ติอาทิกํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิเยสุ ทฺวีสุ ปุคฺคเลสุ จ วาสนาภาคิเยสุ ทฺวีสุ ปุคฺคเลสุ จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
นานาวิธํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตตฺถ กตมํ ¶ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
อยสํ ยํ พนฺธนฺจ ทารุชํ ยํ พนฺธนฺจ ปพฺพชํ ยํ พนฺธนฺจ โลเก อตฺถิ, ตํ อยสาทิพนฺธนํ ‘‘ทฬฺหํ พนฺธน’’นฺติ ธีรา พุทฺธาทโย ปณฺฑิตปุริสา น อาหุ. มณิกุณฺฑเลสุ จ ปุตฺเตสุ จ ทาเรสุ จ ยา สารตฺตรตฺตา พลวราครตฺตา อเปกฺขา โลเก วิชฺชติ, ตํ สารตฺตรตฺตอเปกฺขาสงฺขาตํ ราคพนฺธนํ ‘‘ทฬฺหํ พนฺธน’’นฺติ ธีรา ปณฺฑิตปุริสา อาหุ. อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ สารตฺตรตฺตอเปกฺขาสงฺขาโต อกุสลธมฺโม สํกิเลโส ทสฺสิโต.
‘‘เกน ¶ นิพฺเพโธ ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ธีรา ปณฺฑิตปุริสา เอตํ ราคพนฺธนํ ‘‘ทฬฺหํ พนฺธน’’นฺติ อาหุ. เอตํ ราคพนฺธนํ โอหารินํ เหฏฺา อปายํ อวหรณํ โหติ, สิถิลํ พนฺธนฏฺาเน ฉวิอาทีนิ อโกเปตตฺตา สิถิลํ โหติ, ทุปฺปมฺุจํ โลภวเสน เอกวารมฺปิ อุปฺปนฺนสฺส ราคพนฺธนสฺส ทุมฺโมจยตฺตา ทุปฺปมฺุจํ โหติ, ปณฺฑิตปุริสา เอตมฺปิ วุตฺตปฺปการํ ราคพนฺธนมฺปิ มคฺเคน เฉตฺวาน อนเปกฺขิโน หุตฺวา กามสุขํ ปหาย ปริพฺพชนฺติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ มคฺโค นิพฺเพโธ ทสฺสิโต. อิทํ ‘‘อยส’’นฺติอาทิกํ สุตฺตํ ราคาทิสํกิเลสภาเค วิสเย จ วาสนาภาเค วิสเย จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
๑๐๗. ภิกฺขเว, ยฺจ เจเตติ ยฺจ เจตนํ นิพฺพตฺเตติ, ยฺจ ปกปฺเปติ ยฺจ ปกปฺปนํ กโรติ, ยฺจ อนุเสติ ยฺจ อนุสยนํ ภวติ, เอตํ เจตนํ เอตํ ปกปฺปนํ เอตํ อนุสยนํ วิฺาณสฺส ิติยา อารมฺมณํ ปจฺจโย โหติ. อารมฺมเณ ปจฺจเย สติ ตสฺส อภิสงฺขาร วิฺาณสฺส ปติฏฺา โหติ. ตสฺมึ อภิสงฺขารวิฺาเณ ปติฏฺิเต วิรุฬฺเห สติ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ วิฺาณาทินิพฺพตฺติ โหติ. อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติยา สติ อายตึ ชาติชรามรณํ สมฺภวติ. อายตึ โสก…เป… สมุทโย โหติ.
ภิกฺขเว, เจ โน เจเตติ, เจ โน ปกปฺเปติ, อถ ตถาปิ เจ อนุเสติ อนุสยนํ ภวติ, เอวํ สติ เอตํ อนุสยนํ วิฺาณสฺส อภิสงฺขารวิฺาณสฺส อารมฺมณํ ปจฺจโย โหติ…เป… สมุทโย โหติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ วุตฺตปฺปกาโร เจตยนาทิโก อกุสลธมฺโม สํกิเลโส ทสฺสิโต.
‘‘เกน ¶ นิพฺเพโธ ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยโต จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขเว, ยโต จ อริยมคฺคิโก เนว เจเตติ, โน จ ปกปฺเปติ, โน จ อนุเสติ, เอตํ อเจตยนํ เอตํ อกปฺปนํ เอตํ อนนุสยนํ วิฺาณสฺส อภิสงฺขารวิฺาณสฺส อารมฺมณํ ปจฺจโย น โหติ…เป… อายตึ ชาติชรามรณํ นิรุชฺฌติ, อายตึ โสก…เป… ยาสา นิรุชฺฌนฺติ…เป… นิโรโธ โหติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ อริยมคฺโค นิพฺเพโธ ทสฺสิโต. อิทํ ‘‘ยฺจ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ สุตฺตํ ¶ สํกิเลสภาเค วิสเย จ นิพฺเพธภาเค วิสเย จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
๑๐๘. นานาวิธํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
ภิกฺขเว, อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน สมุทฺโท ชลสาครสมุทฺโท ‘‘สมุทฺโท สมุทฺโท’’ติ ภาสติ. เกนฏฺเน ภาสติ? ทุปฺปูรณฏฺเน จ สํสรณฏฺเน จ ทุรติกฺกมนฏฺเน จ สมุทฺโทติ ภาสติ. เอวํ สติ, ภิกฺขเว, เอโส ชลสาครสมุทฺโท อริยสฺส ภควโต วินเย วุตฺตปฺปการฏฺเน สมุทฺโท น โหติ. ภิกฺขเว, เอโส ชลสาครสมุทฺโท มหา อุทกราสิ มหา อุทกณฺณโว โหติ. ภิกฺขเว, จกฺขุ ปุริสสฺส สมุทฺโท โหติ, ตสฺส จกฺขุสฺส รูปมโย รูปายตนมโย เวโค. เกนฏฺเน? ปถวิโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา นีลาทิรูปารมฺมณํ สโมสรนฺตมฺปิ ทุปฺปูรณฏฺเน จ อนมตคฺเค สํสาเร สํสรณฏฺเน จ ทุรติกฺกมนฏฺเน จ จกฺขุเมว สมุทฺโท โหติ. นีลาทิรูปายตนสฺส อปฺปเมยฺยสฺส อปฺปเมยฺเยน อูมิมเยน เวเคน สํสรณฏฺเน นีลาทิรูปเมว เวโค โหติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ จกฺขุ สมุทฺโท รูปมโย เวโค จ สํกิเลโส สํกิเลสเหตุ ทสฺสิโต.
‘‘เกน อเสกฺโข ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โย ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ อรหตฺตผเล ิโต โย อรหา รูปมยํ ตํ เวคํ สหติ มนาเป รูเป ราคํ, อมนาเป รูเป โทสํ, อสมเปกฺขเน โมหํ อนุปฺปาเทนฺโต หุตฺวา อุเปกฺขกภาเวน สหติ, อยํ อรหา, ภิกฺขเว, สอูมึ สาวฏฺฏํ สคหํ สรกฺขสํ จกฺขุสมุทฺทํ อตรีติ วุจฺจติ, ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณติ วุจฺจติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ อรหตฺตผลภูโต อเสกฺโข ทสฺสิโต.
‘‘โสตํ ¶ ¶ ภิกฺขเว’’ติอาทีสุปิ อิมินา นเยน ยถาสมฺภวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทํ ‘‘สมุทฺโท’’ติอาทิกํ สุตฺตํ สํกิเลสภาเค วิสเย จ อเสกฺขภาเค วิสเย จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ฉยิเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขเว, โลกสฺมึ สตฺตานํ อนยาย อนตฺถาย ปาณีนํ พฺยาพาธาย อิเม มยา วุจฺจมานา พฬิสา ฉ ภวนฺติ. กตเม ฉ? ภิกฺขเว, จกฺขุวิฺเยฺยา จกฺขุวิฺาเณน วิฺเยฺยา อิฏฺา กนฺตา กามนียา มนาปา มนวฑฺฒกา ปิยรูปา ปิยสภาวา กามูปสํหิตา กิเลสกามสหิตา รชนียา รูปา นีลาทิรูปารมฺมณา สนฺติ, ตํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ ภิกฺขุ เจ อภินนฺทติ สปฺปีติกตณฺหาย อภิมุโข นนฺทติ, เจ อภิวทติ ‘‘อโห สุขํ อโห สุข’’นฺติ วทาเปนฺติยา ตณฺหายนวเสน อภิวทติ, เจ อชฺโฌสาย ติฏฺติ คิลิตฺวา วิย ปรินิฏฺเปตฺวา ติฏฺติ, เอวํ สติ, ภิกฺขเว, อยํ ภิกฺขุ ‘‘คิลิตพฬิโส…เป… ปาปิมโต’’ติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ นีลาทิเภเทน อเนกวิธตฺตา ‘‘รูปา อิฏฺา…เป… รชนียา’’ติ พหุวจนนิทฺเทโส กโตปิ รูปายตนรูปารมฺมณภาเวน จ จกฺขุวิฺเยฺยภาเวน จ เอกวิธตํ อนติวตฺตนโต ‘‘ต’’นฺติ เอกวจนนิทฺเทโส กโตติ เวทิตพฺโพ. ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, โสตวิฺเยฺยา’’ติอาทีสุปิ อิมินา นเยน ยถาสมฺภวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ จกฺขุวิฺเยฺยาทิโก ฉพฺพิโธ พฬิโส สํกิเลโส กิเลสเหตุ ทสฺสิโต.
‘‘เกน อเสกฺโข ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สนฺติ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อเภทิ ภินฺทิ, ปริเภทิ ปริสมนฺตโต ภินฺทิ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ อรหตฺตผลภูโต อเสกฺโข ทสฺสิโต. อิทํ ‘‘ฉยิเม’’ติอาทิกํ สุตฺตํ วุตฺตนเยน สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
๑๐๙. นานาวิธํ สํกิเลสภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
อยํ ¶ โลโก สตฺตโลโก สนฺตาปชาโต าติพฺยสนาทิวเสน ชาตโสกสนฺตาโป เจว ราคาทิวเสน ¶ ชาตปริฬาหสนฺตาโป จ ผสฺสปเรโต อเนเกหิ ทุกฺขสมฺผสฺเสหิ อภิภูโต โรทํ โรทนฺโต วทติ. กินฺติ วทติ? อตฺตนา ผุฏฺํ ทุกฺขํ อภาวิตกายตาย อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต หุตฺวา ‘‘อโห ทุกฺขํ, อีทิสํ ทุกฺขํ มยฺหํ สตฺตุโนปิ มา โหตู’’ติอาทินา โรทนฺโต วิลปนฺโต วทติ, ‘‘กสฺมา เอวํ วทตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อตฺตโต เยน เยน หิ มฺนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอเต สตฺตา เยน เยน กามชฺโฌสาทินา ปกาเรน อตฺตโต ทุกฺขสฺส ปฏิการํ มฺนฺติ, ตโต ปการโต อฺถา อฺเน ปกาเรน ตํ ทุกฺขํ ติกิจฺฉิตพฺพํ หิ ยสฺมา โหติ.
อฺถาภาวีติ ยสฺมา โรทํ โรทนฺโต วทติ, เยน เยน วา ปรวิหึสาทิปกาเรน อตฺตโน วฑฺฒึ มฺนฺติ อาสีสนฺติ, ตโต ปการโต อฺถา อวฑฺฒิ เอว โหติ. ตํ อาสีสิตพฺพํ อฺถาภาวิ อวฑฺฒิตภาวิ เอว หิ ยสฺมา โหติ, ตสฺมา มฺิตพฺพสฺส อาสีสิตพฺพสฺส อฺถา ภวนสีลตฺตา โรทํ โรทนฺโต วทติ, อยํ สตฺตโลโก โรทนฺโต จ หุตฺวา วทติ. ‘‘กิ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ภวสตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภวสตฺโต กามภวาทีสุ สตฺโต วิสตฺโต โลโก ภวเมว กามภวาทิภวเมว อภินนฺทติ. ยํ ภวํ อภินนฺทติ, ตํ ชรามรณาทิอเนกพฺยสนานุพนฺธตฺตา ภยานกฏฺเน ภยํ โหติ. ยสฺส ยโต ชรามรณาทิโต ภายติ, ตํ ชรามรณาทิทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต ทุกฺขํ ทุกฺขาธิฏฺานํ โหติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ สนฺตาปาทิโก สํกิเลโส สํกิเลสเหตุ ทสฺสิโต.
สํกิเลโส ทสฺสิโต, ‘‘เกน นิพฺเพโธ ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ภววิปฺปหานาย โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภววิปฺปหานาย โข ปน กามภวาทิกสฺส ภวสฺส ปชหนตฺถาย เอว อิทํ มยา อธิคตํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ พฺรหฺมจริยภูโต มคฺโค นิพฺเพโธ ทสฺสิโต.
‘‘ภววิปฺปหานายา’’ติอาทินา เอกนฺเตน นิยฺยานิกมคฺโค นิพฺเพโธ อาจริเยน ทสฺสิโต, อมฺเหหิ จ าโต, ‘‘กตโม อนิยฺยานิกมคฺโค’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘เย หิ เกจิ สมณา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. หิ-สทฺโท วาจาสิลิฏฺตฺโถ. เย เกจิ สมณา วา เย เกจิ พฺราหฺมณา วา ภเวน ¶ รูปภเวน ภวสฺส กามภวสฺส วิปฺปโมกฺขํ อาหํสุ, ภเวน อรูปภเวน ภวสฺส กามภวสฺส เจว รูปภวสฺส จ วิปฺปโมกฺขํ อาหํสุ, สพฺเพ เต สมณา วา สพฺเพ เต พฺราหฺมณา วา ภวสฺมา วุตฺตปฺปการภวโต อวิปฺปมุตฺตา ภวนฺตีติ อหํ วทามิ.
‘‘รูปภวาทินา ¶ เย จ กามภวาทิภวสฺส วิปฺปโมกฺขํ อาหํสู’’ติ วตฺตพฺพตฺตา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณํ อาหํสูติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เย วา ปน เกจิ สมณา วา เย วา ปน เกจิ พฺราหฺมณา วา วิภเวน อุจฺเฉททิฏฺิยา ภวสฺส สํสารภวสฺส นิสฺสรณํ อาหํสุ, สพฺเพ เต สมณา วา สพฺเพ เต พฺราหฺมณา วา ภวสฺมา สํสารภวโต อนิสฺสฏาว โหนฺตีติ อหํ วทามิ. ‘‘กสฺมา อนิสฺสฏา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา อนิสฺสฏการณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปธึ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ทุกฺขํ สํสารทุกฺขํ อุปธึ ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธโย ปฏิจฺจ หิ ยสฺมา สมฺโภติ, ตสฺมา อนิสฺสฏา โหนฺติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ มิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาโต สํกิเลโส ทสฺสิโต.
เย หิ ‘‘เกจี’’ติอาทินา สํกิเลโส ทสฺสิโต, ‘‘เกน นิพฺเพโธ ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สพฺพุปาทานกฺขยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพุปาทานกฺขยา อริยมคฺคโต ทุกฺขสฺส สํสารทุกฺขสฺส สมฺภโว นตฺถิ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ อริยมคฺโค นิพฺเพโธ ทสฺสิโต.
‘‘วุตฺตปฺปการา อฺสุตฺตปฺปเทเสนปิ ทสฺสิโต’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘โลกมิม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปุถู วิสุํ วิสุํ อวิชฺชาย ปเรตํ อภิภูตํ ภูตรตํ ภูเตสุ อิตฺถิปุริเสสุ อฺมฺรตํ ภูตํ ขนฺธปฺจกํ ภเวหิ อปริมุตฺตํ อิมํ โลกํ มม จิตฺต ตฺวํ ปสฺส. เย เกจิ ภวา อิตฺตรขณา วา ภวา, ทีฆายุกา วา ภวา, สาตวนฺโต วา ภวา, อสาตวนฺโต วา ภวา ปฺจกฺขนฺธา สพฺพธิ ‘‘อุทฺธํ อโธ ติริย’’นฺติ อิเมสุ สพฺเพสุ สพฺพตฺถตาย สพฺพตฺถภาเวน อเหสุํ, สพฺเพ เต วุตฺตปฺปการา ภวา นิจฺจธุวรหิตตฺตา อนิจฺจา สมฺปีฬิตตฺตา ทุกฺขา วิปริณามภาวโต วิปริณามธมฺมา อเหสุํ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ อวิชฺชาทิโก สํกิเลโส ทสฺสิโต.
‘‘โลกมิม’’นฺติอาทินา สํกิเลโส ทสฺสิโต, ‘‘เกน นิพฺเพโธ ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอวเมต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน เอตํ ขนฺธปฺจกํ ¶ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย สสฺส อตฺตโน มคฺคปฺาย, วิปสฺสนาปฺาย วา ปสฺสโต ปสฺสนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส ภวตณฺหา ปหียติ, สมฺมปฺปฺาย ยถาภูตํ ขนฺธปฺจกํ ปสฺสนฺโต วิภวํ อุจฺเฉททิฏฺึ นาภินนฺทติ น ปตฺเถติ. ตสฺส ปุคฺคลสฺส สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา อเสสวิราคนิโรโธ อเสสวิราคสงฺขาเตน มคฺเคน นิโรโธ นิรุชฺฌนํ นิพฺพานํ นิพฺพุติ โหติ. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ มคฺโค นิพฺเพโธ ทสฺสิโต.
‘‘เอวเมต’’นฺติอาทินา ¶ นิพฺเพโธ ทสฺสิโต, ‘‘เกน อเสกฺโข ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตสฺส นิพฺพุตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตณฺหาทิฏฺินิพฺพุตสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน อนุปาทา กิเลสาภิสงฺขารานํ อนุปฺปาทนโต อคฺคหณโต ปุนพฺภโว น โหติ, เอวํภูเตน อริยปุคฺคเลน ปุพฺเพ อตฺตานํ อภิภูโต ปฺจวิโธ มาโร วิชิโต อโหสิ, อเนน อริยปุคฺคเลน ปฺจหิ มาเรหิ สงฺคาโม วิชิโต, สงฺคาเม, อิฏฺานิฏฺาทีสุ วา ตาที ตาทิลกฺขณปฺปตฺโต อริยปุคฺคโล สพฺพภวานิ อุปจฺจคา อติกฺกนฺโตว ชาโต. อิติ อิมินา สุตฺตปฺปเทเสน อยํ อเสกฺโข ทสฺสิโต. อิทํ วุตฺตปฺปการํ ‘‘อยํ โลโก’’ติอาทิกํ สุตฺตํ สํกิเลสภาเค วิสเย จ นิพฺเพธภาเค วิสเย จ อเสกฺขภาเค วิสเย จ วาจกาปกภาเวน เอกเทสวเสน ปวตฺตนโต สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ นาม.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตฺตาโรเม’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนฺธปุถุชฺชโน สํสารโสตสฺส อนุกูลภาเวน คจฺฉนโต อนุโสตคามี นาม, กลฺยาณปุถุชฺชโน สํสารโสตสฺส นิพฺพิทานุปสฺสนาทีหิ ปฏิกฺกูลวเสน ปวตฺตนโต ปฏิโสตคามี นาม, เสกฺโข อจลปฺปสาทาทิสมนฺนาคเมน ิตสภาวตฺตา ิตตฺโต นาม, อเสกฺโข สํสารปารงฺคตวเสน ติฏฺนโต ‘‘ถเล ติฏฺตี’’ติ วุจฺจติ.
‘‘เตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ กตโม ปุคฺคโล สํกิเลสภาคิยาที’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ตตฺถ โยย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๑๑๐. นานาวิธํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
อภิชาติโย ¶ ปุคฺคลา ฉ สํวิชฺชนฺติ โลกสฺมึ, กณฺเห นีเจ กุเล นิพฺพตฺโต กณฺหาภิชาติโก, กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา วา กณฺโห กณฺหาภิชาติโก หุตฺวา กณฺหํ กาฬกํ ทสวิธํ ทุสฺสีลฺยธมฺมํ อภิชายติ ปสวติ, เอโส ปุคฺคโล อตฺถิ. วุตฺตปฺปกาเรน กณฺโห กณฺหาภิชาติโก หุตฺวา สุกฺกํ ทสวิธํ กุสลธมฺมํ อภิชายติ, เอโส ปุคฺคโล อตฺถิ. กณฺโห กณฺหาภิชาติโก หุตฺวา อกณฺหํ อสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ อจฺจนฺตทิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธติ, เอโส ปุคฺคโล อตฺถิ. วุตฺตวิปริยาเยน ตโย ปุคฺคลา ชานิตพฺพา.
‘‘เตสุ ¶ กตเม ปุคฺคลา สํกิเลสภาคิยา’’ติอาทินา วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตฺตาริมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๑๑. นานาวิธํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
มานุสตฺตํ มนุสฺสภาวํ ลทฺธาน กิจฺจํ, อกิจฺจฺจ ทฺเว ภวนฺติ, ทฺเว กิจฺจานิเยว กตฺตพฺพานิ. เตนาห อฏฺกถาจริโย (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๑๑) ‘‘กตฺตพฺพ’’นฺติ ทสฺเสติ. ‘‘กตมํ กตฺตพฺพํ กิจฺจ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา กตฺตพฺพกิจฺจํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุกิจฺจํ เจวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺุานิ จ กตฺตพฺพตฺตา สุกิจฺจํ เอว, สํโยชนวิปฺปหานํ วา กตฺตพฺพตฺตา สุกิจฺจํ นามาติ โยชนา.
‘‘ตตฺถ สุตฺเต กตเมน กตโม ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘สุกิจฺจํเจว ปฺุานีติ วาสนา, สํโยชนวิปฺปหานํ วาติ นิพฺเพโธ’’ติ วุตฺโต.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฺุานิ กริตฺวานา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺุานิ กริตฺวาน กตปฺุา ปุคฺคลา สคฺคา สคฺคโต สคฺคํเยว วชนฺติ. สํโยชนปฺปหานา อริยา ชรามรณา ชรามรณโต วิปฺปมุจฺจนฺติ.
‘‘ตตฺถ สุตฺเต กตเมน กตโม ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฺุานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปฺุา’ติ วาสนา, ‘สํโยชนปฺปหานา, ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี’ติ นิพฺเพโธ’’ติ วุตฺตํ.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ ¶ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทฺเวมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘กตเมน กตโม ทสฺสิโต’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โย…เป… อยํ นิพฺเพโธ’’ติ วุตฺตํ.
นานาวิธํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ ¶ , ‘‘กตมํ ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ตณฺหาสํกิเลสภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ตณฺหาปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพํ, พหุวิสยตฺตา นิยเมตฺวาน นิทฺธาเรสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘เกน ปกาเรน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตีหิ ตณฺหาหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภวตณฺหายาติ รูปภวตณฺหาย. วิภวตณฺหายาติ อรูปภวตณฺหาย. เยน เยน วา ปน วตฺถุนา ตณฺหาปเภทอุจฺเฉทาทิวตฺถุนา อชฺโฌสิตา ภวตณฺหาทิวเสน อชฺโฌสิตา, เตน เตน ปกาเรน ตณฺหาทินา วา ตณฺหาปเภทอุจฺเฉทาทิวตฺถุนา วา ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพํ.
ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ตณฺหาปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพนฺติ อาจริเยน วุตฺตํ, อมฺเหหิ จ ลกฺขิตํ, ‘‘ทิฏฺิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ เกน ปกฺเขน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ทิฏฺิสํกิเลสภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เยน เยน วา ปน วตฺถุนาติ ทิฏฺิปฺปเภทอมราวิกฺเขปาทิวตฺถุนา.
ทิฏฺิสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺิปกฺเขเนว นิทฺทิสิตพฺพนฺติ อาจริเยน วุตฺตํ, อมฺเหหิ จ ลกฺขิตํ, ‘‘ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ เกน ปกาเรน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ทุจฺจริตสํกิเลสภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตเถว วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ตณฺหาโวทานภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ‘‘ทิฏฺิโวทานภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ‘‘ทุจฺจริตโวทานภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
๑๑๒. ยสฺมึ สาสนปฏฺาเน อฏฺารส มูลปทา ทฏฺพฺพา, ตํ สาสนปฏฺานํ โสฬสหิ สํกิเลสภาคิยาทีหิ สุตฺเตหิ เอกเทสนิทฺธารณวเสน วิภชิตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กึ ปน ตํ สาสนปฏฺานํ เตหิ โสฬสหิ เอว สํกิเลสภาคิยาทีหิ วิภชิตพฺพํ, อุทาหุ อฺเหิ สุตฺเตหิปิ วิภชิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา อฺเหิ อฏฺวีสสุตฺเตหิปิ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตเม อฏฺารส มูลปทา? โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ ¶ . ‘‘ยทิ อฺเหิปิ อฏฺวีสสุตฺเตหิ วิภชิตพฺพํ, เอวํ สติ ‘โลกิย’นฺติอาทิวจนเมว วตฺตพฺพํ, กสฺมา ‘ตตฺถ กตเม อฏฺารส มูลปทา’ติ วุตฺตา’’ติ เจ? ตสฺส สาสนปฏฺานวิภาโค อฏฺารสหิ มูลปเทหิ สงฺคหิโต, อฏฺารส มูลปทาปิ วิภชิเต สาสนปฏฺาเน ทฏฺพฺพา, ตสฺมา มูลปทา วิภตฺตาเยว. ตานิ มูลปทานิ วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตเม อฏฺารส มูลปทา’’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๑๒) ปน –
‘‘เอวํ ¶ โสฬสวิเธน สาสนปฏฺานํ นานาสุตฺเตหิ อุทาหรณวเสน วิภชิตฺวา อิทานิ อฏฺวีสติวิเธน สาสนปฏฺานํ ทสฺเสนฺเตน ยสฺมา อยมฺปิ ปฏฺานวิภาโค มูลปเทหิ สงฺคหิโต, น อิมสฺสาปิ เตหิ อสงฺคหิโต ปเทโส อตฺถิ, ตสฺมา มูลปทํ, วิภชิตพฺพตฺจ ทสฺเสตุํ ‘ตตฺถ กตเม อฏฺารส มูลปทา’ติ ปุจฺฉาย วเสน มูลปทานิ อุทฺธริตฺวา ‘โลกิยํ โลกุตฺตร’นฺติอาทินา นว ติกา, ถโว จาติ อฏฺวีสติวิธํ สาสนปฏฺานํ อุทฺทิฏฺ’’นฺติ –
วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โสฬสหารปฺจกนยอฏฺารสมูลปเทสุ กตมานิ ปทานิ มูลปทานิ โหนฺตีติ ปุจฺฉติ. โลเก นิยุตฺโต สภาวธมฺโมติ โลกิโย, โลเก วา วิทูหิ วิทิโต สภาโวติปิ โลกิโย, โลกิโย สภาวธมฺโม อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส อตฺถีติ ตํ วิเสสสุตฺตํ โลกิยํ นาม. เอส นโย ‘‘โลกุตฺตร’’นฺติอาทีสุปิ เวทิตพฺโพ. ชานาตีติ าณํ, าณํ อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส อตฺถีติ าณํ. าตพฺพาติ เยฺยา, เยฺยา อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส อตฺถีติ เยฺยํ. เอเสว นโย – ‘‘าณฺจ เยฺยฺจา’’ติ เอตฺถาปิ เวทิตพฺโพ. นิพฺพานํ ปมํ ปสฺสตีติ ทสฺสนํ, ปมมคฺคาณํ, ทสฺสนํ อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส อตฺถีติ ทสฺสนํ. ภาวนา อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส ปาฬิยา อตฺถีติ ภาวนา. ‘‘ทสฺสนฺจ ภาวนา จา’’ติ เอตฺถาปิ เอส นโย เวทิตพฺโพ. สสฺส อตฺตโน วจนนฺติ สกํ, สกํ วจนํ สกวจนํ, ภควโต วจนนฺติ อตฺโถ. ปรสฺส วจนํ ปรวจนํ. วิสฺสชฺชนีโย อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส อตฺถีติ วิสฺสชฺชนียํ. นตฺถิ วิสฺสชฺชนีโย อสฺส วิเสสสุตฺตสฺสาติ อวิสฺสชฺชนียํ. กมฺมํ อสฺส วิเสสสุตฺตสฺส อตฺถีติ กมฺมํ. วิปาโก อสฺส ปาสฺส อตฺถีติ วิปาโก ¶ . เสเสสุปิ อสฺสตฺถิอตฺโถ คเหตพฺโพ. อถ วา โลกิยาทิอตฺโถ มุขฺยตฺโถ, ตํวาจกสุตฺตมฺปิ านฺยูปจาเรน วุตฺตํ. พุทฺธาทีนํ คุเณ อภิตฺถวติ เอเตน สุตฺตปฺปเทเสนาติ ถโว, สุตฺตปฺปเทโส.
‘‘เตสุ อฏฺวีสติวิเธสุ โลกิยาทีสุ สาสนปฏฺานสุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ โลกิยํ สุตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ โลกิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ อฏฺวีสติวิเธสุ โลกิยาทีสุ สาสนปฏฺานสุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ โลกิยํ สาสนปฏฺานํ สุตฺตนฺติ ปุจฺฉติ.
ภิกฺขเว, เธนุยา ถเนหิ นิกฺขนฺตํ สชฺชุขีรํ นิกฺขนฺตกฺขเณ น มุจฺจติ น ปริณมติ ขีรภาวํ ปชหิตฺวา ทธิภาวํ น ปาปุณาติ, ตกฺกาทิอมฺพิลสมาโยคโต ปจฺฉา ขีรภาวํ ปชหติ ทธิภาวํ ปาปุณาติ อิว, เอวํ เยน พาเลน ปาปํ ยํ กมฺมํ กตํ, ตํ กมฺมํ กรณกฺขเณ ¶ ตสฺส พาลสฺส อปายทุกฺขาทินิพฺพตฺตาปนวเสน น วิปจฺจติ. ทุติเย ปน วา ตติยาทิมฺหิ วา อตฺตภาเว วิปจฺจติ. ภสฺมจฺฉนฺโน ฉาริกาย ปฏิจฺฉนฺโน ปาวโก อคฺคิ อกฺกนฺตํ ชนํ อกฺกมนกฺขเณ น ฑหติ. ฉาริกํ ปน ตาเปตฺวา กาลนฺตเร ฑหติ อิว, เอวํ เยน พาเลน ปาปํ ยํ กมฺมํ กตํ, ตํ กมฺมํ กรณกฺขเณ ตํ พาลํ อปายทุกฺขาทินิพฺพตฺตาปนวเสน ฑหาเปนฺตํ หุตฺวา น อนฺเวติ. ทุติเย วา ตติยาทิมฺหิ วา อตฺตภาเว อปายทุกฺขาทินิพฺพตฺตาปนวเสน ฑหาเปนฺตํ หุตฺวา ฑหนฺตํ ตํ พาลํ ตํ อนฺเวตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘น หิ…เป… ปาวโก’’ติ สุตฺตํ โลกิเย อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต โลกิยํ นาม.
‘‘เอตฺตกเมว โลกิย’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตฺตาริมานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺโถ ปากโฏ. อิทํ ‘‘จตฺตาริมานิ…เป… กาฬปกฺเขว จนฺทิมา’’ติ สุตฺตํ โลกิเย อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต โลกิยํ นาม.
‘‘เอวํ ทุวิธํเยว โลกิย’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อฏฺิเม, ภิกฺขเว, โลกธมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺโถ ปากโฏ. อิทํ ‘‘อฏฺิเม’’ติอาทิกํ สุตฺตํ โลกิเยสุ อฏฺวิเธสุ อตฺเถสุ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต โลกิยํ นาม.
นานาวิธํ โลกิยํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สุตฺตํ โลกุตฺตร’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ โลกุตฺตร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ ¶ . อิโต ปเรสุปิ เอส นโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถาติ เตสุ อฏฺวีสติวิเธสุ โลกิยาทีสุ สุตฺเตสุ.
เฉเกน สารถินา สุทนฺตา อสฺสา สมถงฺคตา ยถา, เอวํ ปหีนมานสฺส ปหีนนววิธมานสฺส ยสฺส อนาสวสฺส ภิกฺขุโน อินฺทฺริยานิ ฉพฺพิธานิ จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ สมถงฺคตานิ. ตาทิโน ตาทิลกฺขเณน สมนฺนาคตสฺส อนาสวสฺส ตสฺส ภิกฺขุโน เทวาปิ มนุสฺสาปิ ปิหยนฺตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ยสฺสินฺทฺริยานี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ โลกุตฺตเร อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต โลกุตฺตรํ นาม.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฺจิมานิ ภิกฺขเว อินฺทฺริยานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ‘‘ปฺจิมานี’’ติอาทิกํ สุตฺตมฺปิ โลกุตฺตเร อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต โลกุตฺตรํ นาม. (๑)
‘‘ลทฺธาน ¶ มานุสตฺตํ ทฺเว, กิจฺจํ อกิจฺจเมว จา’’ติอาทิกา ทฺเว คาถา วุตฺตา. อิห คาถาสุ ‘‘สุกิจฺจํ เจว ปฺุานี’’ติ ยํ คาถาปทฺจ ‘‘ปฺุานิ กริตฺวาน, สคฺคา สคฺคํ วชนฺติ กตปฺุา’’ติ ยํ คาถาปทฺจ วุตฺตํ, อิทํ คาถาปทํ โลกิเย อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต โลกิยํ นาม.
อิห คาถาสุ ‘‘สํโยชนวิปฺปหานํ วา’’ติ ยํ คาถาปทฺจ ‘‘สํโยชนวิปฺปหานา, ชรามรณา วิปฺปมุจฺจนฺตี’’ติ ยํ คาถาปทฺจ วุตฺตํ, อิทํ คาถาปทํ วุตฺตนเยน โลกุตฺตรํ นาม. อิทํ ‘‘ลทฺธานา’’ติอาทิกํ วุตฺตปฺปกาเรน โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ.
ภิกฺขเว, วิฺาเณ อาหาเร อาหารปฏิพทฺเธ ฉนฺทราเค สติ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหติ. ‘‘วิฺาเณ…เป… โหตี’’ติ อิทํ วุตฺตนเยน โลกิยํ นาม. ‘‘วิฺาเณ…เป… นิโรโธ’’ติ อิทํ สุตฺตํ โลกุตฺตรํ นาม. อิทํ ‘‘วิฺาเณ เจ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ สุตฺตํ โลกิเย อตฺเถ จ โลกุตฺตเร อตฺเถ จ เอกเทสวเสน วาจกาปกวเสน ปวตฺตนโต โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ. (๒)
๑๑๓. สตฺตโลเก สพฺพา ทิสา อนุปริคมฺม กฺวจิ ทิสายํ เจตสา อตฺตนา อตฺตโต ปิยตรํ อฺํ เนว อชฺฌคา, อตฺตาว ปิยตโร ยถา ¶ , เอวํ ปเรสํ สตฺตานํ ปุถุ วิสุํ วิสุํ อตฺตาว ปิโย ปิยตโร, ตสฺมา อตฺตโนว ปิยตรตฺตา อตฺตกาโม อตฺตโน หิตกาโม ปณฺฑิโต สตฺตโลโก อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา ปรํ น หึเส น หึเสยฺยาติ โยชนา. อิทํ ‘‘สพฺพา ทิสา’’ติอาทิกํ สุตฺตํ สตฺเตสุ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต สตฺตาธิฏฺานํ นาม.
เย เกจิ ขีณาสวา ปุคฺคลา ภูตาว น ภวิสฺสนฺติ, สพฺเพ เต ขีณาสวา ปุคฺคลา เทหํ อตฺตภาวํ ปหาย นิพฺพานํ คมิสฺสนฺติ. เย จ ปุถุชฺชนาทโย สตฺตา ปุนพฺภเวสุ ภวิสฺสนฺติ, สพฺเพ เต ปุถุชฺชนาทโย สตฺตา เทหํ อตฺตภาวํ ปหาย ปรโลกํ คมิสฺสนฺติ, ตํ สพฺพชานึ สพฺพสฺส สตฺตสฺส หานึ มรณํ, วินาสํ วา กุสโล โย ปุคฺคโล วิชานาติ, โส กุสโล ปุคฺคโล ตํ สพฺพชานึ วิทิตฺวา อาตาปิโย พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาติ โยชนา. อิทํ ‘‘เย เกจี’’ติอาทิกํ วุตฺตนเยน สตฺตาธิฏฺานํ.
สตฺตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กลฺยาณมิตฺตํ ยาวชีวํ กุสเลน ปุคฺคเลน น วิชหิตพฺพํ. กตเมหิ สตฺตหิ? ปริสุทฺธสีลสมฺปตฺติปริสุทฺธทิฏฺิสมฺปตฺตีหิ สมนฺนาคตตฺตา ปิโย จ ปิยายิตพฺโพ ¶ จ โหติ, ปาสาณฉตฺตํ วิย ครุ จ โหติ, สมฺภาเวตพฺพตาย ภาวนีโย จ โหติ, ‘‘กาเลน วทามิ, โน อกาเลนา’’ติอาทิเก ปฺจธมฺเม อตฺตนิ อุปฏฺาเปตฺวา สพฺรหฺมจารีนํ วา สิสฺสานํ วา วินิจฺฉยอุลฺลุมฺปนโอวาททานภาเว ตฺวา วตฺตา จ โหติ, สพฺรหฺมจารีหิ วา สิสฺสาทีหิ วา วุจฺจมาโน สุวโจ หุตฺวา เตสํ วจนกฺขโม จ โหติ, สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิคมฺภีรํ วา อฺํ คมฺภีรํ วา กถํ กตฺตา จ โหติ, ธมฺมวินยาทิวเสเนว ทีปนโต อฏฺาเน จ น นิโยชโก โหติ. อิเมหิ สตฺตหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ กลฺยาณมิตฺตํ ยาวชีวํ น วิชหิตพฺพํ. อิทํ ‘‘สตฺตหี’’ติอาทิวจนํ ภควา อโวจ. อิทํ ‘‘สตฺตหี’’ติอาทิกํ วจนํ สุคโต วตฺวา อถาปรํ เอตํ คาถาวจนํ สตฺถา อโวจ. กึ อโวจ?
‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;
คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, น จฏฺาเน นิโยชโก;
ตํ มิตฺตํ มิตฺตกาเมน, ยาวชีวมฺปิ เสวิย’’นฺติ. –
เอตํ ¶ คาถาวจนํ สตฺถา อโวจาติ โยชนา. ‘‘น จ อฏฺานโยชโก’’ติ ปาโ อตฺถิ. อิทํ ‘‘สตฺตหี’’ติอาทิกํ วจนํ สตฺตาธิฏฺานํ.
โลเก ยํ กามสุขฺจ ยํ อิทํ ทิวิยํ สุขฺจ อตฺถิ, เอเต กามสุขทิวิยสุขา ตณฺหากฺขยสุขสฺส โสฬสึ กลํ น อคฺฆนฺตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ยฺจา’’ติอาทิกํ สุตฺตํ ธมฺมาธิฏฺานํ.
ยตฺถ นิพฺพาเน ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ อโสกํ วิรชํ เขมํ ตํ นิพฺพานํ สุสุขํ วตาติ โยชนา. อิทํ ‘‘สุสุข’’นฺติอาทิกํ สุตฺตมฺปิ ธมฺมาธิฏฺานํ. (๓)
ตีสุ ภเวสุ สตฺตานํ ชนนโต ตณฺหาสงฺขาตํ มาตรฺจ, ปิตรํ นิสฺสาย มานสฺส อุปฺปชฺชนโต มานสงฺขาตํ ปิตรฺจ, รฏฺเ โลโก รฏฺิสฺสรํ ราชานํ ภชติ วิย ทฺวินฺนํ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺีนํ สพฺพทิฏฺิคเตหิ ภชนียตฺตา สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิสงฺขาเต ขตฺติเย ทฺเว ราชาโน จ, อายสาธโก ปุริโส รฏฺเ อตฺถํ อนุจรติ อิว นนฺทิราคสฺส ทฺวาทสายตเน อนุจรณโต นนฺทิราคสงฺขาเตน อนุจรเณน สห ปวตฺตนฏฺานํ ทฺวาทสายตนสงฺขาตํ รฏฺฺจ ขีณาสโว โย พฺราหฺมโณ หนติ, โส พฺราหฺมโณ หนฺตฺวา อนีโฆ นิทฺทุกฺโข หุตฺวา ยาตีติ โยชนา. อิห ‘‘มาตร’’นฺติอาทิคาถายํ ¶ ‘‘มาตรํ…เป… หนฺตฺวา’’ติ อิทํ คาถาวจนํ ธมฺมาธิฏฺานํ. ‘‘อนีโฆ ยาติ พฺราหฺมโณ’’ติ อิทํ คาถาวจนํ สตฺตาธิฏฺานํ. อิทํ ‘‘มาตร’’นฺติอาทิกํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ.
‘‘จตฺตาโรเม ภิกฺขเว อิทฺธิปาทา’’ติ อิทํ สุตฺตปฺปเทสวจนํ ธมฺมาธิฏฺานํ. โส จตูหิ อิทฺธิปาเทหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กาเยปิ กรชกาเยปิ จิตฺตํ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ สโมทหติ ปกฺขิปติ, โส ปุคฺคโล ทิสฺสมานกาเยน คนฺตุกาโม กรชกายคติกํ ปาทกชฺฌานจิตฺตํ อธิฏฺหติ. จิตฺเตปิ ปาทกชฺฌานจิตฺเตปิ กายํ กรชกายํ สโมทหติ ปกฺขิปติ, โส ปุคฺคโล สีฆํ อฺํ คนฺตุกาโม ปาทกชฺฌานจิตฺตคติกํ กรชกายํ อธิฏฺหติ. กาเย กรชกาเย สุขสฺฺจ สุขวิหารสฺฺจ ลหุสฺฺจ ลหุคมนสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา อฺํ คมเนยฺยํ อิจฺฉิตฏฺานํ เอกจิตฺตกฺขเณเนว จ คนฺตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิทํ ‘‘โส’’ติอาทิกํ สุตฺตปฺปเทสวจนํ สตฺตาธิฏฺานํ. อิทํ ‘‘จตฺตาโรเม’’ติอาทิกํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ. (๔)
๑๑๔. ยํ ¶ สพฺพฺุตาณํ โลกุตฺตรํ โลกํ อุตฺตริตฺวา อภิภวิตฺวา ิตํ, เยน สพฺพฺุตฺาเณน ภควา ‘‘สพฺพฺู’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส สพฺพฺุตฺาณสฺส ปริหานํ นตฺถิ, ตํ สพฺพฺุตฺาณํ สพฺพกาเล ชานิตุํ อาวชฺชนกาเล ปวตฺตตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ยํ ต’’นฺติอาทิกํ าเณ อตฺเถ วาจกาปกภาเวนปิ ปวตฺตนโต าณํ นาม.
ยาย นิพฺพานคามินิยา มคฺคปฺาย ชาติมรณสงฺขยํ ปชานาติ, สา นิพฺพานคามินี มคฺคปฺา สพฺพาหิ โลกิยาหิ ปฺาหิ เสฏฺา ปสตฺถาติ โยชนา. อิทํ ‘‘ปฺา หี’’ติอาทิกํ วุตฺตนเยน าณํ นาม.
‘‘โธตก, โว ตุมฺหากํ สนฺตึ อหํ กิตฺตยิสฺสามี’’ติ ภควา อโวจ. ‘‘ทิฏฺเ ธมฺเม ทุกฺขาทิธมฺเม วา อตฺตภาเว วา สโต อนิจฺจานุปสฺสนาทิสติสมฺปนฺโน หุตฺวา จรํ จรนฺโต โยคาวจโร อนีติหํ ยํ สนฺตึ ยํ นิพฺพานํ อริยมคฺเคน วิทิตฺวา โลเก สํสารโลเก วิสตฺติกํ วิสปฺปกํ ตณฺหํ ตเร ตเรยฺยา’’ติ ภควา อโวจ.
โธตโก ภควนฺตํ วทติ ‘‘มเหสิ มหนฺเต สีลกฺขนฺธาที เอสนสีล, โคตม, สโต ‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’ติอาทิสรณสมฺปนฺโน หุตฺวา จรํ จรนฺโต โยคาวจโร อุตฺตมํ ยํ สนฺตึ ยํ ¶ นิพฺพานํ อริยมคฺเคน วิทิตฺวา โลเก สํสารโลเก วิสตฺติกํ ตณฺหํ ตเร ตเรยฺยาติ ตฺจ วจนํ ตฺจ สนฺตึ นิพฺพานํ อหํ อภินนฺทามิ อภิปตฺถยามิ, มเหสิ ตฺวํ, ยฺจ สมฺปชานาสี’’ติ โธตโก ภควนฺตํ วทติ.
‘‘โธตกา’’ติ อาลปิตฺวา ภควา โธตกํ อโวจ. ‘‘อุทฺธํ อนาคตํ อุปริ อโธ อตีตํ เหฏฺา จ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ ปจฺจุปฺปนฺนํ ปริโต จ โลเก สํสารโลเก เอตํ ตณฺหํ ภวาภวาย ขุทฺทกภวมหนฺตภวตฺถาย สงฺโค ลคฺโคติ วิทิตฺวา วิจรนฺโต ตฺวํ ตณฺหํ มากาสิ มา อกาสี’’ติ ภควา โธตกํ อโวจาติ โยชนา. อิทํ ‘‘กิตฺตยิสฺสามี’’ติอาทิกํ เยฺเย วิสเย อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต เยฺยํ นาม.
‘‘เอตฺตกเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘จตุนฺนํ ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภิกฺขเว, จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อริยภาวกรานํ สจฺจานํ อนนุโพธา อพุชฺฌเนน อปฺปฏิเวธา อปฺปฏิวิชฺฌเนน เอวํ อิมินา การเณน มมฺเจว ตุมฺหากฺจ ทีฆมทฺธานํ อิทํ สนฺธาวิตํ สนฺธาวนํ, อิทํ สํสริตํ สํสรณํ อโหสีติ, ภิกฺขเว, อชฺช ¶ ตยิทํ ตํ อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ มยา อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ…เป… ตยิทํ ตํ อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ มยา อนุพุทฺธํ ปฏิวิทฺธํ, มม ภวตณฺหา อุจฺฉินฺนา, ภวเนตฺติ ตณฺหา ขีณา, อิทานิ มม ปุนพฺภโว นตฺถิ, อิติ อิทํ ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิกํ ภควา อโวจ, สุคโต อิทํ ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิกํ วตฺวา อถาปรํ เอตํ ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิคาถาวจนํ สตฺถา อโวจาติ โยเชตฺวา คาถายฺจ ตเถว โยชนา กาตพฺพา. อิทํ ‘‘จตุนฺน’’นฺติอาทิกํ วุตฺตนเยน เยฺยํ นาม. (๕)
‘‘รูปํ อนิจฺจํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ อิทํ สุตฺตํ เยฺเย รูปาทิธมฺเม วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต เยฺยํ นาม.
เอวํ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปกาเรน ชานํ ชานนฺโต เอวํ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปกาเรน ปสฺสํ ปสฺสนฺโต อริยสาวโก อริยสฺส ภควโต สาวโก ‘‘อิทํ รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ รูปํ ปสฺสติ, ‘‘อยํ เวทนา อนิจฺจา’’ติ เวทนํ ปสฺสติ, ‘‘อยํ สฺา อนิจฺจา’’ติ สฺํ ปสฺสติ, ‘‘อิเม สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ สงฺขาเร ปสฺสติ, ‘‘อิทํ วิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ วิฺาณํ ปสฺสติ. อิติ อิทํ สุตฺตํ รูปาทิปสฺสเน าเณ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต าณํ นาม.
โส ¶ ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปกาเรน ปสฺสนฺโต อริยสาวโก รูเปน รูปราเคน ปริมุจฺจติ…เป… วิฺาณมฺหา วิฺาณราคมฺหา ปริมุจฺจตีติ ทุกฺขสฺมา ปริมุจฺจตีติ อหํ วทามีติ โยชนา. อิทํ ‘‘โส ปริมุจฺจตี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ าเณ จ เยฺเย จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต าณฺจ เยฺยฺจ โหติ.
สพฺเพ ปฺจกฺขนฺธา ปจฺจเยหิ สงฺขริตตฺตา สงฺขารา อาทิอนฺตวนฺตภาวโต, อนิจฺจนฺติกภาวโต, ตาวกาลิกภาวโต จ ขณปริตฺตภาวโต อนิจฺจา ภวนฺติ. อิทํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ สุตฺตปฺปเทสวจนํ วุตฺตนเยน เยฺยํ นาม. ยทา วิปสฺสนากรณกาเล ปฺาย วิปสฺสนาปฺาย ปสฺสติ อนิจฺจตาทิกํ ปสฺสติ. อิทํ ‘‘ยทา ปฺาย ปสฺสตี’’ติ สุตฺตปฺปเทสวจนํ าณํ นาม. อถ ปสฺสนกฺขเณ ทุกฺเข ปฺจกฺขนฺเธ วิปสฺสโก นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทนฺโต ปุคฺคโล ทุกฺขาทิชานนาทิวเสน จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, เอโส จตุสจฺจปฏิเวโธ วิสุทฺธิยา วิสุทฺธตฺถาย มคฺโคติ. อิทํ ‘‘อถา’’ติอาทิกํ สุตฺตปฺปเทสวจนํ าณฺจ เยฺยฺจ โหติ.
โสณาติ ¶ โสณํ อาลปติ. สมณา พาหิรกสมณา พฺราหฺมณา ชาติพฺราหฺมณา อนิจฺเจน รูเปน, ทุกฺเขน รูเปน, วิปริณามธมฺเมน รูเปน ‘‘อหํ ปเรหิ เสยฺโย อุตฺตโม อสฺมี’’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘‘อหํ ปเรน สทิโส สมาโน อสฺมี’’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ‘‘อหํ ปรโต หีโน ลามโก อสฺมี’’ติ วา สมนุปสฺสนฺติ, ยถาภูตสฺส อทสฺสนา อฺตฺร วชฺเชตฺวา อฺํ กึ นาม การณํ สิยา, ยถาภูตํ อทสฺสนโต ตาว สมนุปสฺสนสฺส อฺํ การณํ นตฺถิ, ยถาภูตํ อทสฺสนเมว การณนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อนิจฺจาย เวทนายา’’ติอาทีสุปิ อิมินา วุตฺตนเยน วุตฺตนยานุสาเรน โยชนา กาตพฺพา. อิทํ ‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทิกํ สุตฺตปฺปเทสวจนํ เยฺยํ นาม. ‘‘เย จ โข เกจี’’ติอาทิโก สุกฺกปกฺโข ปน วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. อิทํ ‘‘เย จ โข’’ติอาทิกํ สุตฺตปฺปเทสวจนํ าณํ นาม. อิทํ ‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ าเณ จ เยฺเย จ อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต าณฺจ เยฺยฺจ โหติ. (๖)
นานาวิธํ าณฺจ เยฺยฺจ สาสนปฏฺานสุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ ทสฺสน’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ ทสฺสน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ โลกิยาทีสุ อฏฺวีสติวิเธสุ สาสนปฏฺาเนสุ สุตฺเตสุ กตมํ สุตฺตํ ทสฺสนํ นามาติ ปุจฺฉติ.
๑๑๕. คมฺภีรปฺเน ¶ สพฺพฺุพุทฺเธน สุเทสิตานิ สงฺเขปวิตฺถาราทีหิ เตหิ เตหิ นเยหิ สุฏฺุ เทสิตานิ อริยสจฺจานิ เย ภาวิตภาวนา อริยปุคฺคลา ปฺาโอภาเสน วิภาวยนฺติ, เต ภาวิตภาวนา อริยปุคฺคลา เทวรชฺชจกฺกวตฺติรชฺชาทิปมาทฏฺานํ อาคมฺม ภุสํ ปมตฺตา กิฺจาปิ โหนฺติ, ตถาปิ เต ภาวิตภาวนา อริยปุคฺคลา โสตาปตฺติมคฺคาเณน อภิสงฺขารวิฺาณสฺส นิโรเธน อฏฺมภวาทีสุ อุปฺปชฺชนารหานํ นามรูปานํ นิรุทฺธตฺตา อฏฺมกฺขตฺตุวเสน อฏฺมํ ภวํ น อาทิยนฺตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘เย อริยสจฺจานี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ ทสฺสเน ปมมคฺคาเณ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต ทสฺสนํ นาม.
นครทฺวารพาหถิรกรณตฺถํ อุมฺมารพฺภนฺตเร ปถวิยํ อฏฺหตฺถทสหตฺถปฺปมาณํ อาวาฏํ ขณิตฺวา ตสฺมึ อาวาเฏ อุสฺสาปิตตฺตา ปถวิสฺสิโต ปถวินิสฺสิโต อนฺโตปถวินิสฺสิโต อินฺทขีโล สารทารุมโย ถมฺโภ ¶ จตุพฺภิ จตูหิ ทิสาหิ อาคเตหิ วาเตหิ มหาวาเตหิ อสมฺปกมฺปิโย สมฺปกมฺปิตุํ อสกฺกุเณยฺโย สิยา ยถา, โย สปฺปุริโส อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสติ, ตํ สปฺปุริสํ สพฺพติตฺถิยวาทวาเตหิ อสมฺปกมฺปิยตฺตา ตถูปมํ อหํ วทามีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ยถินฺทขีโล’’ติอาทิกํ สุตฺตํ วุตฺตนเยน ทสฺสนํ นาม.
ภิกฺขเว, จตูหิ โสตาปตฺติยงฺเคหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อริยสฺส ภควโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาวโก อาจิกฺขิตุํ อากงฺขมาโน หุตฺวา อตฺตนาว สยเมว อตฺตานํ พฺยากเรยฺย ‘‘โภ, มม อตฺต อหํ อิทานิ ขีณนิรโย อมฺหิ, ขีณติรจฺฉานโยนิ อมฺหิ…เป…. ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’ติ พฺยากเรยฺย. จตุรงฺคสรูปํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเมหิ จตูหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ‘‘จตูหี’’ติอาทิกํ ทสฺสนํ นาม.
นานาวิธํ ทสฺสนํ นิทฺธาริตํ, ‘‘กตมา ภาวนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมา ภาวนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อิธ สาสเน ยสฺส อริยสาวกสฺส อชฺฌตฺตํ กามภเว นิพฺพตฺตาปกานํ โอรมฺภาคิยสํโยชนานํ ปชหนวเสน จ พหิทฺธา รูปารูปภเวสุ นิพฺพตฺตาปกานํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ ปชหนวเสน จ อินฺทฺริยานิ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ อินฺทฺริยานิ สุภาวิตานิ อริยมคฺคภาวนาวเสน สุฏฺุ ภาวิตานิ ภวนฺติ, ภาวิโต ภาวิตมคฺโค ส ทนฺโต โส อริยสาวโก อิมํ โลกฺจ ปรํ โลกฺจ นิพฺพิชฺฌ นิพฺพิชฺฌิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา กาลํ มรณกาเล ¶ , กาลํกิริยํ วา กงฺขติ ปตฺเถตีติ โยชนา. อยํ ‘‘ยสฺสินฺทฺริยานี’’ติอาทิกา ปาฬิ ภาวนาย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต ภาวนา นาม.
ธมฺมปทานิ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานธมฺมโกฏฺาสานิ. อนภิชฺฌา ธมฺมปทํ อนภิชฺฌาสีเสน อธิคตฌานวิปสฺสนามคฺคนิพฺพานธมฺมปทํ โกฏฺาสํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อยํ ‘‘จตฺตาริมานี’’ติอาทิกา ปาฬิ วุตฺตนเยน ภาวนา นาม. (๗)
เทวปุตฺต ฉินฺทนฺโต ปุคฺคโล ปฺจ โอรมฺภาคิยสํโยชนานิ เหฏฺา มคฺคตฺตเยน ฉินฺเท ฉินฺเทยฺย, ปชหนฺโต ปุคฺคโล ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ อรหตฺตมคฺเคน ชเห ปชเหยฺย, ภาวยนฺโต ปุคฺคโล ปฺจ ¶ สทฺธินฺทฺริยาทีนิ จ อุตฺตริ ภาวเย ภาเวยฺย. ปฺจสงฺคาติโค ราคสงฺคโทสสงฺคโมหสงฺคมานสงฺคทิฏฺิสงฺคาติโค ภิกฺขุ โอฆติณฺโณติ กาโมฆภโวฆทิฏฺโฆอวิชฺโชฆติณฺโณติ วุจฺจติ กถียตีติ โยชนา. ‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห’’ติ อิทํ วจนํ ทสฺสนํ นาม. ‘‘ปฺจ จุตฺตริ…เป… วุจฺจตี’’ติ อยํ ปาฬิ ภาวนา นาม. อิทํ ‘‘ปฺจา’’ติอาทิกํ สุตฺตํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ โหติ.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว’’ติอาทีสุ โยชนา ปากฏา. (๘)
๑๑๖. ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ…เป… พุทฺธาน สาสน’’นฺติ อิทํ สุตฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนภาวโต สกวจนํ นาม. อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว.
ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลอุปลกฺขณการณานิ พาลนิมิตฺตานิ ‘‘อยํ พาโล’’ติ คหณการณานิ พาลาปทานานิ พาลสฺส อปทานานิ โปราณานิ วิรุฬฺหานิ กมฺมานิ เยหิ พาลลกฺขณาทีหิ พาลํ ‘‘พาโล’’ติ ปเร ปณฺฑิตา สฺชานนฺติ, อิมานิ พาลลกฺขณานิ มยา วุจฺจมานานิ ตีณิ. กตมานิ ตีณิ? ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ ทุจฺจินฺติตํ อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทสฺสนํ จินฺตี จ โหติ, ทุพฺภาสิตภาสี ทุพฺภาสิตํ มุสาวาทาทึ ภาสี จ โหติ. ทุกฺกฏกมฺมการี จ ทุกฺกฏํ ปาณาติปาตาทิกมฺมํ การี จ โหติ. ภิกฺขเว, พาลสฺส…เป… พาลาปทานานิ อิมินา มยา วุตฺตานิ ตีณิ โข ภวนฺติ. สุกฺกปกฺโข ปน วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. อิทํ ‘‘ตีณิมานิ ภิกฺขเว’’ติอาทิกํ วจนํ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส วจนภาวโต สกวจนํ นาม.
ปถวีสโม ¶ วิตฺถโต สมฺโพโธ นาม นตฺถิ. ปาตํ วุฏฺํ อุทกํ อาภุโส ลาภิ คณฺหาตีติ ปาตาโล, ปาตาเลน สโม ปาตาลสโม นินฺโน น วิชฺชติ. เมรุสโม อุนฺนโต นตฺถิ, จกฺกวตฺติสทิโส โปริโส นตฺถีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ปถวีสโม’’ติอาทิกํ วจนํ ปรสฺส เทวสฺส วจนภาวโต ปรวจนํ โหติ.
‘‘เทวานํ อินฺท, ตว สุภาสิเตน ชโย โหตี’’ติ วตฺวา ‘‘เวปจิตฺติ, ตว สุภาสิเตน ชโย โหตู’’ติ วตฺวา ‘‘เวปจิตฺติ, ตฺวํ คาถํ ภณ ภณาหี’’ติ อโวจ. ภิกฺขเว, อถ โข อสุรินฺโท เวปจิตฺติ อิมํ วุจฺจมานํ คาถํ อภาสิ ‘‘เต ปฏิเสธโก โน เจ อสฺส โน เจ ภเวยฺย ¶ , เอวํ สติ พาลา ภิยฺโย ปกุชฺเฌยฺยุํ, ตสฺมา ธีโร ปณฺฑิโต ภุเสน ทณฺเฑน พาลํ นิเสธเย’’ติ.
คาถาย, ภิกฺขเว, อสุรินฺเทน เวปจิตฺตินา ภาสิตาย อสุรา อนุโมทึสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. ภิกฺขเว, อถ โข อสุรินฺโท เวปจิตฺติ เทวานํ อินฺทํ สกฺกํ เอตํ วจนํ อโวจ ‘‘เทวานมินฺท, ตฺวํ คาถํ ภณ ภณาหี’’ติ เอตํ วจนํ อโวจ. ภิกฺขเว, อถ โข เทวานมินฺโท สกฺโก อิมํ คาถํ อภาสิ ‘‘พาลสฺส ปฏิเสธนํ ปรํ ปจฺจตฺถิกํ สงฺกุปิตํ ตฺวา สโต สติมา โย ปณฺฑิโต โกธโต อุปสมฺมติ, ตสฺส ปณฺฑิตสฺส เอตเทว อุปสมํ วรนฺติ อหํ มฺเ’’ติ.
คาถาย, ภิกฺขเว, เทวานมินฺเทน สกฺเกน ภาสิตาย เทวา อนุโมทึสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุํ. ภิกฺขเว, อถ โข เทวานมินฺโท สกฺโก อสุรินฺทํ เวปจิตฺตึ เอตํ วจนํ อโวจ ‘‘เวปจิตฺติ, ตฺวํ คาถํ ภณาหี’’ติ เอตํ วจนํ อโวจ. ภิกฺขเว, อถ โข อสุรินฺโท เวปจิตฺติ อิมํ คาถํ อภาสิ ‘‘วาสว ยทา ติติกฺขติ, ตทา นํ ติติกฺขนฺตํ ปุคฺคลํ พาโล ‘‘อยํ เม ภยา ติติกฺขตี’’ติ มฺติ, ติติกฺขาย เอตเทว วชฺชํ อหํ ปสฺสามิ. วาสว โคคโณ ปลายินํ ควํ อชฺโฌตฺถรติ อิว, เอวํ ทุมฺเมโธ ขมนฺตํ ภิยฺโย อชฺฌารุหติ อชฺโฌตฺถรติ.
คาถาย, ภิกฺขเว, อสุรินฺเทน เวปจิตฺตินา ภาสิตาย อสุรา อนุโมทึสุ, เทวา ตุณฺหี อเหสุํ. ชายมาเน จ โคยุทฺเธ ปมํ ทฺเวเยว โคณา ยุชฺฌนฺติ, โคคโณ ปน ยาว เอโก โคโณ น ปลายติ, ตาว โอโลเกนฺโตว ติฏฺติ. ยทา จ เอโก โคโณ ปลายติ ¶ , ตทา สพฺโพ โคโณ ตํ ปลายินํ ควํ ภิยฺโย อชฺโฌตฺถรตีติ โคยุทฺธสภาโว เวทิตพฺโพ. ‘‘อถ โข’’ติอาทีนํ โยชนตฺโถ ปากโฏ.
เวปจิตฺติ, โย ปุคฺคโล ติติกฺขติ, ตํ ขมนฺตํ ปุคฺคลํ ‘‘อยํ เม ภยา ติติกฺขตี’’ติ กามํ มฺตุ วา, มา มฺตุ วา, ตํ มฺนํ นิปฺผลเมว. อตฺถา สทตฺถปรมา ภวนฺติ. ขนฺตฺยา ขนฺติโต ภิยฺโย สทตฺโถ นาม น วิชฺชติ.
โย พลวา สนฺโต ทุพฺพลสฺส หเว ติติกฺขตีติ ตสฺส พลวนฺตสฺส ตํ ติติกฺขนํ ปรมํ ขนฺตินฺติ สปฺปุริสา อาหุ, ทุพฺพโล นิจฺจํ ขมติ เอว.
ยสฺส ¶ พาลสฺส พาลพลํ อตฺถิ, ตสฺส พาลสฺส พาลพลํ ‘‘อพล’’นฺติ สปฺปุริสา อาหุ, ยสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส ยํ พลํ อตฺถิ, ตสฺส ธมฺมคุตฺตสฺส ตสฺส พลสฺส ปฏิวตฺตา ปฏิปฺผริตฺวา วตฺตา น วิชฺชติ.
เวปจิตฺติ, โย ปุคฺคโล กุทฺธํ ปมํ กุชฺฌนฺตสฺส ปฏิกุชฺฌติ, โส ปฏิกุชฺฌนฺโต ปุคฺคโล เตน ปฏิกุชฺฌเนน ตสฺส ปมํ กุชฺฌนฺตสฺส ปาปปุคฺคลสฺส ปาปปุคฺคลโต ปาปิโย เอว ปาปตโร หีนตโร เอว ภเว.
เวปจิตฺติ, โย สปฺปุริโส สโต สติมา ปรํ สงฺกุปิตํ ตฺวา ปมํ กุชฺฌนฺตสฺส อปฺปฏิกุชฺฌนฺโตว ภเว, โส สปฺปุริโส ทุชฺชยํ สงฺคามํ เชติ นาม, อตฺตโน จ ปรสฺส จ อุภินฺนํ อตฺถํ จรติ นาม.
อตฺตโน จ ปรสฺส จ ติกิจฺฉนฺตานํ อุภินฺนํ โกโธ อุปสมฺมติ, เย ชนา ธมฺมสฺส ขนฺติธมฺมสฺส อตฺเถ, จตุสจฺจธมฺเม วา อโกวิทา ภวนฺติ, เต ชนา ขมนฺตํ สปฺปุริสํ ‘‘อยํ พาโล’’ติ มฺนฺติ, เตสํ อโกวิทานํ ชนานํ ตํ มฺนํ นิปฺผลนฺติ.
คาถาสุ, ภิกฺขเว, เทวานมินฺเทน สกฺเกน ภาสิตาสุ เทวา อนุโมทึสุ, อสุรา ตุณฺหี อเหสุนฺติ โยชนา. อิทํ ‘‘ภิยฺโย พาลา’’ติอาทิกํ วจนํ สกฺกเวปจิตฺตีนํ วจนภาวโต ปรวจนํ นาม. (๙)
๑๑๗. ปตฺตํ ¶ เอตรหิ อธิคตํ ยฺจ กามูปกรณํ, อายตึ ปตฺตพฺพํ อธิคตํ ยฺจ กามูปกรณํ อตฺถิ, เอตํ อุภยํ รชานุกิณฺณํ ราครชาทิกิณฺณํ อิติ อาตุรสฺส อาตุรานํเยว ปุคฺคลานํ สนฺติเก อนุสิกฺขโต อนุสิกฺขนฺตสฺส สิกฺขาสารา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, สีลํ วตํ ชีวิตํ พฺรหฺมจริยํ อิเม สิกฺขาสารา หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ เย อุปฏฺานสารา ปุคฺคลา สารโต คเหตฺวา ิตา. เอตฺถ สีลํ นาม ‘‘น กโรมี’’ติ โอรมณํ. วตํ นาม โภชนกิจฺจกรณาทิ. ชีวิตํ นาม อาชีโว. พฺรหฺมจริยํ นาม เมถุนวิรติวิเสสภาโว เวทิตพฺโพ. เตสํ อุปฏฺานสารานํ ปุคฺคลานํ อยํ วาโท เอโก ปโม อนฺโต ลามโก. เย จ ปุคฺคลา ‘‘กาเมสุ โทโส นตฺถี’’ติ เอวํวาทิโน เอวํทิฏฺิโน หุตฺวา ิตา, เตสํ ปุคฺคลานํ อยํ วาโท เอโก ทุติโย อนฺโต ¶ ลามโก. อิจฺเจเต อุโภ อนฺตา อนฺตวาทา ปุคฺคลา กฏสิวฑฺฒนา กฏสิโย ทิฏฺึ วฑฺเฒนฺติ. เอเต อุโภ อนฺเต อตฺตกิลมถานุโยเค กามสุขลฺลิกานุโยเค เอเก ปุคฺคลา อนภิฺาย โอลียนฺติ, เอเก ปุคฺคลา อติธาวนฺตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ยฺจ ปตฺต’’นฺติอาทิกํ วจนํ ปเรสํ ปุคฺคลานํ วจนภาวโต ปรวจนํ นาม.
เย จ สมฺมาทิฏฺิปุคฺคลา เต อุโภ อนฺเต อตฺตกิลมถานุโยคกามสุขลฺลิกานุโยเค อภิฺาย ตตฺร จ อนฺเต น อเหสุํ. เตน จ อภิชานเนน เต อุโภ อนฺเต น อมฺึสุ, เตสํ สมฺมาทิฏฺิปุคฺคลานํ วฏฺฏํ ติวิธํ วฏฺฏํ ปฺาปนาย นตฺถิ. อิติ เอวํ อิทํ ‘‘เย จา’’ติอาทิกํ วจนํ ภควโต วจนภาวโต สกวจนํ นาม. อยํ อุทาโน ‘‘ยฺจ ปตฺตํ…เป… ปฺาปนายา’’ติ อยํ อุทาโน วุตฺตนเยน สกวจนฺจ ปรวจนฺจ โหติ.
ปเสนทิ นาม โกสโล โกสลิสฺสโร ราชา ภควนฺตํ เอตํ ‘‘อิธ มยฺหํ…เป… เตสํ ปิโย อตฺตา’’ติ วจนํ อโวจ. ภนฺเต, อิธ รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส มยฺหํ มม เจตโส จิตฺตสฺส เอวํ ปริวิตกฺโก อุทปาทิ, เกสํ สตฺตานํ อตฺตา ปิโย นุ โข, เกสํ สตฺตานํ อตฺตา อปฺปิโย นุ โข อิติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อุทปาทิ. ภนฺเต, ตสฺส มยฺหํ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ, เย จ เกจิ สตฺตา กาเยน ทุจฺจริตํ จรนฺติ โข…เป… มนสา ทุจฺจริตํ จรนฺติ โข, เตสํ สตฺตานํ อตฺตา อปฺปิโย โข. เต ทุจฺจริตํ จรนฺตา สตฺตา ‘‘โน อตฺตา ปิโย’’ติ เอวํ กิฺจาปิ วเทยฺยุํ, อถ โข เตสํ ทุจฺจริตํ จรนฺตานํ สตฺตานํ อตฺตา อปฺปิโยว. ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺปิโย อปฺปิยสฺส อนตฺถาย ยํ ทุจฺจริตํ กเรยฺย, ตํ ทุจฺจริตํ เต ทุจฺจริตํ จรนฺตา สตฺตา อตฺตนาว. สยเมว. อตฺตโน อนตฺถาย หิ ยสฺมา กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ ทุจฺจริตํ จรนฺตานํ สตฺตานํ อตฺตา อปฺปิโยวาติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ.
ภนฺเต ¶ , เย จ เกจิ สตฺตา กาเยน สุจริตํ จรนฺติ โข…เป… มนสา สุจริตํ จรนฺติ โข, เตสํ สุจริตํ จรนฺตานํ สตฺตานํ อตฺตา ปิโย โข, เต สุจริตํ จรนฺตา สตฺตา ‘‘โน อตฺตา อปฺปิโย’’ติ เอวํ กิฺจาปิ วเทยฺยุํ, อถ โข เตสํ สุจริตํ จรนฺตานํ สตฺตานํ อตฺตา ปิโยว. ตํ กิสฺส เหตุ? ปิโย ปิยสฺส อตฺถาย ยํ สุจริตํ จเรยฺย, ตํ สุจริตํ เต สุจริตํ จรนฺตา สตฺตา อตฺตนาว สยเมว อตฺตโน อตฺถาย หิ ยสฺมา กโรนฺติ ¶ , ตสฺมา เตสํ สุจริตํ จรนฺตานํ สตฺตานํ อตฺตา ปิโยวาติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ. เอตํ วจนํ อโวจาติ โยชนา.
‘‘เอวเมตํ มหาราชา’’ติ วจนํ ปมํ วตฺวา ‘‘เย หิ เกจี’’ติอาทิเก ภควโต วุตฺตวจเนปิ โยชนา ตเถว กาตพฺพา.
คาถาสุ ปน โย ปณฺฑิโต อตฺตานํ ‘‘ปิย’’นฺติ เจ ชฺา, เอวํ สติ โส ปณฺฑิโต นํ อตฺตานํ ปาเปน กมฺเมน น สํยุเช น สํโยเชยฺย, ตํ วจนํ หิ สจฺจํ ปิยํ อตฺตานํ สุลภํ น โหติ, ทุกฺกฏการินา สุขํ สุลภํ น โหติ.
อนฺตเกน มจฺจุนา อธิปนฺนสฺส มานุสํ ภวํ ชหโต ปชหนฺตสฺส ตสฺส มรณมุเข ิตสฺส สตฺตสฺส กึ สกํ โหติ, มรณมุเข ิโต โส สตฺโต กิฺจ อาทาย ปรโลกํ คจฺฉติ, ฉายา คจฺฉนฺตํ สตฺตํ อนปายินี อิว, เอวํ อสฺส ปรโลกคตสฺส สตฺตสฺส กิฺจ อนุคํ โหติ.
อิติ ภควา เอวํ ปุจฺฉติ, ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุโภ’’ติอาทิวิสฺสชฺชนวจนฺจ อาห. อิธ โลเก โย มจฺโจ ยํ ปฺฺุจ ยํ ปาปฺจ อุโภ กมฺเม กุรุเต กโรติ, ตสฺส ปรโลกคตสฺส มจฺจสฺส ตํ ปฺุปาปทฺวยํ สกํ โหติ. ปรโลกํ คโต มจฺโจ ตํว ปฺุปาปทฺวยํ อาทาย ปรโลกํ คจฺฉติ, ฉายา คจฺฉนฺตํ สตฺตํ อนปายินี อิว, เอวํ อสฺส ปรโลกคตสฺส มจฺจสฺส ตํว ปฺุปาปทฺวยํ อนุคํ โหติ.
ตสฺมา ปณฺฑิโต สมฺปรายิกํ สมฺปราเย ผลนิพฺพตฺตาปกํ กลฺยาณํ นิจยํ นิจยนฺโต หุตฺวา กเรยฺย. ปาณินํ ปรโลกสฺมึ ปฺุานิ ปติฏฺา โหนฺติ, อิติ ภควา อาหาติ โยชนา กาตพฺพา. อิทํ ‘‘ราชา ปเสนที’’ติอาทิกํ สุตฺตํ โกสลรฺโ วจนภาวโต ปรวจนํ โหติ. ‘‘เอวเมตํ ¶ , มหาราช, เอวเมตํ มหาราชา’’ติอาทิกา อนุคีติ ภควโต วจนภาวโต สกวจนํ โหติ. อิทํ ทฺวยํ วจนํ สกวจนฺจ ปรวจนฺจ โหติ. (๑๐)
๑๑๘. ปฺเห ปุจฺฉิเต อิทํ ทุกฺขสจฺจํ อภิฺเยฺยํ, อิทํ สมุทยสจฺจํ ปหาตพฺพํ, อิทํ มคฺคสจฺจํ ภาเวตพฺพํ, อิทํ นิโรธสจฺจํ, ผลํ วา สจฺฉิกาตพฺพํ, อิเม กุสลากุสลา ธมฺมา เอวํ กุสลากุสลภาเวน คหิตา อนวชฺชสาวชฺชภาเวน วา คหิตา สุขวิปากทุกฺขวิปากภาเวน วา คหิตา ¶ , อิทํ อิฏฺวิปากํ อิทํ อนิฏฺวิปากํ ผลํ นิพฺพตฺตยอิติ เอวํคหิตานํ เตสํ กุสลากุสลธมฺมานํ อยํ วุฑฺฒิ อตฺโถ, อยํ หานิ อตฺโถติ. อิติ อิทํ ‘‘ปฺเห ปุจฺฉิเต’’ติอาทิกํ สุตฺตํ วิสฺสชฺชนีเย อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วิสฺสชฺชนียํ นาม.
‘‘อุฬาโร พุทฺโธ ภควา’’ติ อิมินา ปเทน พุทฺธอุฬารตํ เอกํเสเนว เอกโกฏฺาเสเนว นิทฺทิเส. ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม’’ติ อิมินา ปเทน ธมฺมสฺวากฺขาตตํ เอกํเสเนว เอกโกฏฺาเสเนว นิทฺทิเส. ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’’ติ อิมินา ปเทน สงฺฆสุปฺปฏิปตฺตึ เอกํเสเนว เอกโกฏฺาเสเนว นิทฺทิเส ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ อิมินา ปเทน สงฺขารานิจฺจตํ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ อิมินา ปเทน สงฺขารทุกฺขตํ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ อิมินา ปเทน ธมฺมานตฺตตํ เอกํเสเนว นิทฺทิเส. ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนตฺตา’’ติ อวตฺวา ‘‘สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ วุตฺเตน อิมินา ปเทน สงฺขาเรหิ อฺํ ยํ วา ปน มคฺคผลนิโรธสมาปตฺติธมฺมชาตํ อตฺถิ, ตํ มคฺคผลนิโรธสมาปตฺติธมฺมชาตมฺปิ เอวํชาติยํ เอวํ เอกํสพฺยากรณียนฺติ มคฺคผลนิโรธสมาปตฺติธมฺมชาตสฺสาปิ อนตฺตตํ เอกํเสเนว นิทฺทิเสติ โยชนา. อิทํ ‘‘อุฬาโร’’ติอาทิกํ สุตฺตํ วิสฺสชฺชนีเย พุทฺธอุฬารตาทิเก วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วิสฺสชฺชนียํ นาม.
นรทมฺมสารถิ อากงฺขโต เต ภควโต มนสา สพฺพฺุตฺาณสหิตาทิมนสา วิจินฺติตํ เยฺยธมฺมํ เทวา มนุสฺสา สพฺเพ ปาณิโน น ชฺา น ชาเนยฺยุํ. สนฺตํ อรณํ สมาธึ นิเสวโต เต ภควโต มนสา วิจินฺติตา กสิณาปิ สพฺเพ ปาณิโน น ชฺา น ชาเนยฺยุํ. กสิณาปิ วา กสิณารมฺมณาย ปฺายปิ น ชฺา น ชาเนยฺยุํ. กสิณาปีติ เอตฺถ จ ‘‘กสิณายปี’’ติ วตฺตพฺเพปิ ย-การ โลปวเสน ‘‘กสิณาปี’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ‘‘ยํ อากงฺขติ ยํ อากงฺขนํ กโรติ, ตํ อากงฺขนํ กึ กตม’’นฺติ ปุจฺฉิตํ ปฺหํ อฺเสํ อวิสยตฺตา ¶ อวิสฺสชฺชนียํ โหตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘อากงฺขโต’’ติอาทิกํ สุตฺตํ อวิสฺสชฺชนีเย วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อวิสฺสชฺชนียํ นาม.
ภควา สีลกฺขนฺเธ สีลกฺขนฺธเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา สมาธิกฺขนฺเธ สมาธิกฺขนฺธเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา ปฺากฺขนฺเธ ¶ ปฺากฺขนฺธเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา วิมุตฺติกฺขนฺเธ วิมุตฺติกฺขนฺธเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา อิริยายํ กายวจีสมาจาเร กายวจีสมาจารเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา ปภาเว อานุภาวเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา หิเตสิตายํ เมตฺตาเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา กรุณายํ กรุณาเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณ, ภควา อิทฺธิยํ อิทฺธิวิธเหตุ เอตฺตโก เอตปริมาโณติ อวิสฺสชฺชนีโยติ โยชนา. อิทํ ‘‘เอตฺตโก’’ติอาทิกํ สุตฺตํ อวิสฺสชฺชนีเย วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อวิสฺสชฺชนียํ นาม.
ภิกฺขเว, อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ตถาคตสฺส โลเก อุปฺปาทา อุปฺปาทเหตุ ติณฺณํ รตนานํ อุปฺปาโท สมฺภวติ, อายตึ พุทฺธรตนสฺส อุปฺปาโท สมฺภวติ, เอกสฺส พุทฺธรตนสฺส ธรมานกฺขเณน หิ อฺสฺส พุทฺธรตนสฺส อนุปฺปชฺชนโต อายตินฺติ วุตฺตํ, ธมฺมรตนสฺส อุปฺปาโท สมฺภวติ, สงฺฆรตนสฺส อุปฺปาโท สมฺภวตีติ ตีณิ รตนานิ. ‘‘ตานิ ตีณิ รตนานิ คุณโต กึปมาณานี’’ติ ปุจฺฉิเต สติ ตานิ ตีณิ รตนานิ คุณโต เอตปริมาณานีติ น วิสฺสชฺชิตพฺพานีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ตถาคตสฺสา’’ติอาทิกํ สุตฺตํ อวิสฺสชฺชนีเย วิสเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อวิสฺสชฺชนียํ นาม.
พุทฺธวิสโย ปุคฺคลปโร ปุคฺคลปธาโน ปฺโห อวิสฺสชฺชนีโย, พุทฺธวิสยาว ปุคฺคลปโรปรฺุตา อวิสฺสชฺชนียา. ภิกฺขเว, อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ ตณฺหาสํโยชนานํ, สกึ นิรยํ สนฺธาวตํ สํสรตํ สตฺตานํ, สกึ ติรจฺฉานโยนึ สนฺธาวตํ สํสรตํ สตฺตานํ, สกึ เปตฺติวิสยํ สนฺธาวตํ สํสรตํ สตฺตานํ, สกึ อสุรโยนึ สนฺธาวตํ สํสรตํ สตฺตานํ, สกึ เทเว สนฺธาวตํ สํสรตํ สตฺตานํ, สกึ มนุสฺเส สนฺธาวตํ สํสรตํ สตฺตานํ ปุพฺพา โกฏิ น ปฺายติ น ทิสฺสติ น อุปลพฺภตีติ. ‘‘สา ปุพฺพา โกฏิ กตมา’’ติ เกนจิ กตํ ปุจฺฉนํ อวิสฺสชฺชนียํ สํสารสฺส ปุพฺพโกฏิยา อภาวโต อวิสฺสชฺชนียํ โหติ. ‘‘น ปฺายตี’’ติ เทสนา สาวกานํ าณเวกลฺเลน กตา, น อตฺตโน าณเวกลฺเลน. ‘‘น ปฺายตี’’ติ เทสนา อตฺตโน เจว สาวกานฺจ าณเวกลฺเลน กาตพฺพา ¶ ¶ สิยาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘ทุวิธา พุทฺธานํ ภควนฺตานํ เทสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺตา อุปเนตพฺโพ เอติสฺสา เทสนายาติ อตฺตูปนายิกา. ปโร อุปเนตพฺโพ เอติสฺสา เทสนายาติ ปรูปนายิกา. ‘‘กตมา อตฺตูปนายิกา เทสนา, กตมา ปรูปนายิกา เทสนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘น ปฺายตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘น ปฺายตี’’ติ เทสนา สาวกานํ เนตพฺพานํ วเสน เทสิตตฺตา ปรูปนายิกา เทสนา นาม, ‘‘นตฺถิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อวิชานนา’’ติ เทสนา อตฺตโน เนตพฺพสฺส วเสน เทสิตตฺตา อตฺตูปนายิกา เทสนา นาม. ‘‘นตฺถิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อวิชานนา’’ติ วุตฺตตฺตา ปุพฺพาย โกฏิยา อภาวโต เอว น ปฺายตีติ วิฺายติ, ภควโต าณสฺส ปฺาปนํ กาตุํ อสมตฺถตฺตา น ปฺายตีติ น วิฺายติ เตน อฏฺกถายํ ‘‘นตฺถิ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อวิชานนาติ เอเตน ปุริมาย โกฏิยา อภาวโต เอว น ปฺายติ, น ตตฺถ าณสฺส ปฏิฆาโตติ ทสฺเสตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๑๘) วุตฺตํ.
‘‘กถํ ปน พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อวิชานนาย นตฺถิภาโววิชานิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา อวิชานนาย นตฺถิภาวํ ชานาเปตุํ ‘‘ยถา ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘ยํ ปน อตฺถิ, ตํ อฺเสํ อปฺปเมยฺยมฺปิ ภควโต น อปฺปเมยฺยนฺติ ภควโต สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตาณตํ ทสฺเสตุํ ‘ยถา ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ อารพฺภา’ติอาทิมาหา’’ติ วุตฺตํ. ภควา โกกาลิกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ ‘‘กีว ทีฆํ นุ โข, ภนฺเต, ปทุเม นิรเย อายุปฺปมาณ’’นฺติ ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา นิสินฺนํ อฺตรํ ภิกฺขุํ ยถา เยน ปกาเรน ‘‘เสยฺยถาปิ…เป… อาฆาเตตฺวา’’ติ เอวมาห. ตโต เตน ปกาเรน อวิชานนาย นตฺถิภาโว วิชานิตพฺโพติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.
ภิกฺขุ, ตฺวํ สลฺลกฺเขหิ, โกกาลิโก วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห ราสึ กตฺวา ปิโต, ตโต ติลโต ปุริโส วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน เอกเมกํ ติลํ อุทฺธเรยฺย, โส วีสติขาริโก โกสลโก ติลวาโห อิมินา อุทฺธรานุปกฺกเมน ขิปฺปตรํ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ เสยฺยถาปิ คจฺเฉยฺย, เอโก อพฺพุโท นิรโย ปริกฺขยํ ปริยาทานํ น ตฺเวว คจฺเฉยฺย. วีสติ อพฺพุทา นิรยา ตตฺตเก กาเล ¶ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ เสยฺยถาปิ คจฺเฉยฺยุํ, เอวเมว เอโก นิรพฺพุโท นิรโย ตตฺตเก กาเล ปริกฺขยํ ปริยาทานํ น ตฺเวว คจฺเฉยฺย. เอส นโย เสเสสุปิ. สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ อาฆาเตตฺวา ปทุมํ นิรยํ โกกาลิโก ภิกฺขุ อุปปนฺโน โข, ภิกฺขุ, ตฺวํ เอวํ สลฺลกฺเขหีติ ภควา อาหาติ โยชนา. ภควา ‘‘อยํ อปฺปเมยฺโย อยํ อสงฺขฺเยยฺโย’’ติ วา น กิฺจิ อาห. ‘‘ตสฺมึ อปฺปเมยฺเย ¶ กตโม อปฺปเมยฺโย, ตสฺมึ อสงฺขฺเยยฺเย กตโม อสงฺขฺเยยฺโย’’ติ เกนจิ กตํ ปุจฺฉนํ พุทฺธวิสยตฺตา อวิสฺสชฺชนียํ. อิทํ อปฺปเมยฺยอสงฺขฺเยยฺยสุตฺตํ วุตฺตนเยน อวิสฺสชฺชนียํ. (๑๑)
๑๑๙. ‘‘ยทา โส อุปโก’’ติอาทีสุ โยชนา ปากฏา.
‘‘กถํ เกน ปกาเรน ชิโน’’ติ อุปเกน กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘กิเลสปฺปหานปกาเรน ชิโน’’ติ วิสฺสชฺชนียตฺตา วิสฺสชฺชนียํ. ‘‘เกน ปกาเรน ชิโน’’ติ อุปเกน กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘ปาปกานํ ธมฺมานํ ชิตตฺตา ชิโน’’ติ วิสฺสชฺชนียตฺตา วิสฺสชฺชนียํ. ‘‘กตโม ชิโน’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘รูปาทิโก ชิโน’’ติ วา ‘‘รูปาทิกํ มฺุจิตฺวา อฺโ ชิโน’’ติ วา วิสฺสชฺเชตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา อวิสฺสชฺชนียํ. ‘‘กตโม อาสวกฺขโย, กตโม ราคกฺขโย, กตโม โทสกฺขโย, กตโม โมหกฺขโย’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘นิพฺพานํ อาสวกฺขโย’’ติ วา ‘‘อรหตฺตมคฺโค อาสวกฺขโย’’ติ วา ‘‘อรหตฺตผลํ ราคกฺขโย’’ติ วา อิติ เอวมาทินา วิสฺสชฺชนียตฺตา วิสฺสชฺชนียํ. ‘‘กิตฺตโก อาสวกฺขโย, กิตฺตโก ราคกฺขโย, กิตฺตโก โทสกฺขโย, กิตฺตโก โมหกฺขโย’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘เอตฺตโก เอตปริมาโณ อาสวกฺขโย’’ติ เอวมาทินา อวิสฺสชฺชนียตฺตา อวิสฺสชฺชนียํ. อิทํ วุตฺตปฺปการํ สุตฺตํ วุตฺตนเยน วิสฺสชฺชนียฺจ อวิสฺสชฺชนียฺจ โหติ. (๑๒)
‘‘ตถาคโต สตฺโต อตฺถี’’ติ ปุจฺฉนํ ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ อุปาทาย ปฺาเปตพฺโพ สตฺตภูโต อตฺถี’’ติ วิสฺสชฺชนียตฺตา วิสฺสชฺชนียํ. ‘‘อตฺถิ รูป’’นฺติ กตํ ปุจฺฉนํ รูปสฺส วิสฺสชฺชมานตฺตา ‘‘อามนฺตา’’ติ วิสฺสชฺชนียตฺตา วิสฺสชฺชนียํ, ‘‘รูปํ ตถาคโต’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ตถาภาวโต อลพฺภนโต อวิสฺสชฺชนียตฺตา อวิสฺสชฺชนียํ. ‘‘รูปวา ตถาคโต’’ติอาทีสุปิ เอส นโย ¶ ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ. อิทํ วุตฺตปฺปการํ สุตฺตํ วุตฺตนเยน วิสฺสชฺชนียฺจ อวิสฺสชฺชนียฺจ โหติ.
‘‘ปสฺสติ ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา…เป… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตี’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘ปสฺสติ ภควา’’ติ วา…เป… ‘‘ปชานาติ ภควา’’ติ วา วิสฺสชฺชนียตฺตา วิสฺสชฺชนียํ. ‘‘กตเม สตฺตา, กตโม ตถาคโต’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ปรมตฺถโต อลพฺภนโต อวิสฺสชฺชนียตฺตา อวิสฺสชฺชนียํ.
‘‘อตฺถิ ¶ ตถาคโต’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ เหฏฺา วุตฺตนเยน วิสฺสชฺชนียํ. ‘‘อตฺถิ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ กตํ ปุจฺฉนํ ‘‘อตฺถิ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วิสฺสชฺชมาเน สติ จ อิธโลโก เอว ปรโลโกติ อาปชฺชติ, ‘‘นตฺถิ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วิสฺสชฺชมาเน สติ จ อิธโลกโต อฺโ ปรโลโกติ อาปชฺชติ, ตสฺมา อวิสฺสชฺชนียตฺตา อวิสฺสชฺชนียํ. อิทํ วุตฺตปฺปการํ สุตฺตํ วิสฺสชฺชนีเย วิสเย จ อวิสฺสชฺชนีเย วิสเย จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วิสฺสชฺชนียฺจ อวิสฺสชฺชนียฺจ โหติ.
๑๒๐. นานาวิธํ วิสฺสชฺชนียาวิสฺสชฺชนียสุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สุตฺตํ กมฺม’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ กมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘อนฺตเกนาธิปนฺนสฺสา’’ติอาทีสุ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา ปากโฏ ‘‘มรเณนาภิภูตสฺส…เป… ฉายาว อนปายินี’’ติ อิทํ สุตฺตํ ปฺุกมฺมปาปกมฺมทฺวเย วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต กมฺมํ นาม.
ภิกฺขเว, ตุมฺเห ปุน จปรํ กมฺมํ สลฺลกฺเขถ. (อนุฏฺานคิลานํ) อนุฏฺานคิลานสฺส ปีสมารุฬฺหํ ปีสมารุฬฺหสฺส พาลํ พาลสฺส วา มฺจสมารุฬฺหํ มฺจสมารุฬฺหสฺส พาลํ พาลสฺส วา ฉมายํ ภูมิยํ เสมานํ เสมานสฺส สยนฺตสฺส พาลํ พาลสฺส วา กาเยน ทุจฺจริตานิ วาจาย ทุจฺจริตานิ มนสา ทุจฺจริตานิ ปาปกานิ ยานิ กมฺมานิ ปุพฺเพ ปุพฺพกาเล วา อตีเต อเนกกปฺปโกฏิสตสหสฺเส วา อสฺส พาเลน กตานิ, ตานิ ปาปกานิ กมฺมานิ ตมฺหิ ปีสมารุฬฺหาทิสมเย โอลมฺพนฺติ วิย อุปฏฺหนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ วิย อุปฏฺหนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ วิย อุปฏฺหนฺติ. ภิกฺขเว ¶ , มหตํ มหนฺตานํ ปพฺพตกูฏานํ ฉายา สายนฺหสมยํ ปถวิยํ เสยฺยถาปิ โอลมฺพนฺติ อชฺโฌลมฺพนฺติ อภิปฺปลมฺพนฺติ ยถา, ภิกฺขเว, เอวเมว พาลํ…เป… อภิปฺปลมฺพนฺติ. ภิกฺขเว, ตตฺร ตสฺมึ อุปฏฺานากาเร อุปฏฺานาการเหตุ พาลสฺส กตปาปสฺส เอวํ ปริวิตกฺโก โหติ ‘‘เม มยา กลฺยาณํ อกตํ วต, เม มยา กุสลํ อกตํ วต, ภีรุตฺตาณํ กตํ วต, เม มยา ปาปํ กตํ วต, เม มยา ลุทฺทํ กตํ วต, เม มยา กิพฺพิสํ กตํ วต, โภ อคิลาน สปฺปุริส อกตกลฺยาณานํ อกตกุสลานํ อกตภีรุตฺตาณานํ กตปาปานํ กตลุทฺทานํ กตกิพฺพิสานํ ยาวตา คติ ทุคฺคติ อตฺถิ, ตํ คตึ อหํ เปจฺจ คจฺฉามี’’ติ เอวํ ปริวิตกฺโก โหติ. เอวํ วิตกฺเกนฺโต โส พาโล โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬึ กนฺทติ สมฺโมหํ อาปชฺชตีติ โยชนา.
ปพฺพตกูฏานํ ¶ ฉายา นาม สูริยุคฺคมนกาเลปิ ปถวิยา โอลมฺพนฺตีปิ ฉายา หายนวเสน โอลมฺพนฺติ. สายนฺหสมยํ ปน ฉายา วฑฺฒนวเสน โอลมฺพนฺติ, ตเถว กมฺมานิปิ ตสฺมึ กาเล วฑฺฒนวเสน อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา ตเมว วฑฺฒนุปฏฺานํ สนฺธาย ‘‘สายนฺหสมย’’นฺติ วุตฺตํ. สุกฺกปกฺเขปิ โยชนา กณฺหปกฺเข โยชนานุสาเรน กาตพฺพา. อิทํ ‘‘ปุน จปร’’นฺติอาทิกํ สุตฺตทฺวยํ กุสลกมฺมอกุสลกมฺเมสุ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต กมฺมํ นาม.
นานาวิธํ กมฺมํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตโม วิปาโก’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตตฺถ กตโม วิปาโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เตสุ อฏฺวีสติวิเธสุ โลกิยาทีสุ สาสนปฏฺาเนสุ กตโม วิปาโกติ ปุจฺฉติ. ภิกฺขเว, โว ตุมฺเหหิ เย มนุสฺสตฺตสทฺธาปฏิลาภาทโย ปฏิลทฺธา, เต มนุสฺสตฺตสทฺธาปฏิลาภาทโย โว ตุมฺหากํ ลาภา ภวนฺติ. ตุมฺเหหิ ปพฺพชิตฺวา ยํ จตุปาริสุทฺธิสีลาทิสมฺปาทนํ ลทฺธํ, ตํ จตุปาริสุทฺธิสีลาทิสมฺปาทนํ โว ตุมฺหากํ สุลทฺธํ ภวติ. ภิกฺขเว, โย พุทฺธุปฺปาโท นวโม ขโณ ตุมฺเหหิ ลทฺโธ, โส พุทฺธุปฺปาโท นวโม ขโณ โว ตุมฺหากํ พฺรหฺมจริยวาสาย ปฏิลทฺโธ ภวติ.
ภิกฺขเว, มยา ฉผสฺสายตนิกา นาม นิรยา ทิฏฺา, ตตฺถ เตสุ ทิฏฺเสุ ฉผสฺสายตนิเกสุ นาม นิรเยสุ ยํ กิฺจิ รูปํ จกฺขุนา ปสฺสติ, ตํ อนิฏฺรูปํเยว ปสฺสติ, โน อิฏฺรูปํ. อกนฺตรูปํเยว ปสฺสติ, โน กนฺตรูปํ. อมนาปรูปํเยว ปสฺสติ, โน มนาปรูปํ.
ยํ ¶ กิฺจิ สทฺทํ โสเตน…เป… ฆาเนน…เป… ชิวฺหาย…เป… กาเยน…เป… ยํ กิฺจิ ธมฺมํ มนสา วิชานาติ, ตํ อนิฏฺธมฺมํเยว วิชานาติ, โน อิฏฺธมฺมํ. อกนฺตธมฺมํเยว วิชานาติ, โน กนฺตธมฺมํ. อมนาปธมฺมํเยว วิชานาติ, โน มนาปธมฺมนฺติ ปาโ ยุตฺโต. ‘‘อนิฏฺรูปํเยว วิชานาติ, โน อิฏฺรูป’’นฺติอาทิปาโ อยุตฺโต, กตฺถจิ ปาฬิยํ อยุตฺตปาโ ทิฏฺโ. สุกฺกปกฺเข วุตฺตนยวิปริยาเยน โยชนา กาตพฺพา. อยํ วุตฺตปฺปการา ‘‘ลาภา โว, ภิกฺขเว’’ติอาทิโก ปาโ วิปาเก วาจกาปกภาเวเนว ปวตฺตนโต วิปาโก นาม.
มาริสา นิรเย ปจฺจมานานํ อมฺหากํ สพฺพโส นิมุชฺชนอุมฺมุชฺชนวเสน สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ ปริปุณฺณานิ, นิรยสฺส อนฺโต ปริโยสานํ กทา กสฺมึ กาเล ภวิสฺสติ.
นิรยสฺส ¶ อนฺโต ปริโยสานํ นตฺถิ. นิรยสฺส อนฺโต ปริโยสานํ กุโต อตฺถิ? นิรยสฺส อนฺโต ปริโยสานํ อมฺหากํ น ปฏิทิสฺสติ. มาริสา, ยทา ตุมฺเห จ อหฺจ เสฏฺิปุตฺตา ชาตา, ตทา ตุยฺหํ ตุมฺหากฺจ มยฺหํ มม จ ปาปํ หิ ยสฺมา ปกตํ ปกาเรหิ กตํ, ตสฺมา นิรยสฺส อนฺโต ปริโยสานํ อมฺหากํ น ทิสฺสตีติ อยํ ปาโ วิปาเก วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต วิปาโก นาม. (๑๓)
๑๒๑. อธมฺมจารี นโร กุสลธมฺเมสุ ปมตฺโต หิ ยสฺมา โหติ, ตสฺมา โส อธมฺมจารี ปมตฺโต นโร ยหึ ยหึ ยํ ยํ ทุคฺคตึ คจฺฉติ, ตํ ตํ คจฺฉนฺตํ อธมฺมจารึ นํ นรํ อตฺตนา จริโต โส ธมฺโมว หนติ. กิมิว หนติ? สยํ อตฺตนา คหิโต กณฺหสปฺโป คณฺหนฺตํ ชนํ หนติ ยถา, เอวํ อตฺตนา จริโต อธมฺโม อธมฺมจารึ นํ หนติ. ‘‘น หิ ธมฺโม อธมฺโม จา’’ติอาทิคาถาย อตฺโถ ปากโฏ. อิทํ สุตฺตทฺวยํ กมฺเม จ วิปาเก จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต กมฺมฺจ วิปาโก จ โหติ.
ภิกฺขเว, ตุมฺเห ปฺุานํ มา ภายิตฺถ; ภิกฺขเว, ยทิทํ ยํ อิทํ ‘‘ปฺุานี’’ติ อธิวจนํ ปวตฺตํ; เอตํ ‘‘ปฺุานี’’ติ อธิวจนํ อิฏฺสฺส กนฺตสฺส ปิยสฺส มนาปสฺส สุขสฺส สุขวิปากชนกสฺส กมฺมสฺส อธิวจนํ โหติ. ภิกฺขเว, อหํ ทีฆรตฺตํ กตานํ ปฺุานํ ทีฆรตฺตํ ปจฺจนุภูตํ อิฏฺํ กนฺตํ ปิยํ มนาปํ อภิชานามิ โข. ‘‘กถํ อภิชานามี’’ติ เจ ปุจฺเฉยฺย ¶ , ปุพฺเพ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตจิตฺตํ เมตฺตาย สหิตํ ทุติยชฺฌานจิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป อิมํ โลกํ มนุสฺสโลกํ ปุน น อาคมาสึ. สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเปติ เจตฺถ สํวฏฺฏคฺคหเณน สํวฏฺฏฏฺายี, วิวฏฺฏคฺคหเณน วิวฏฺฏฏฺายีปิ คหิตาติ เวทิตพฺพา. เสเสสุปิ เอวเมว คเหตพฺโพ. ภิกฺขเว, สํวฏฺฏมาเน กปฺเป อหํ อาภสฺสรูปโค โหมิ, วิวฏฺฏกปฺเป สฺุํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิ. ภิกฺขเว, ตตฺร พฺรหฺมวิมาเน ตตฺร อุปปชฺชมาเน อุปปชฺชมานเหตุ อหํ พฺรหฺมา โหมิ, อฺเ มหานุภาเวน อภิภวนโต อภิภู, อฺเหิ อนภิภวนโต อนภิภูโต มหาพฺรหฺมา โหมิ, อฺทตฺถุ เอกํเสน ทโส อหํ วสวตฺตี โหมิ.
ภิกฺขเว, อหํ เทวานมินฺโท สกฺโก ฉตฺตึสกฺขตฺตุํ อโหสึ โข, ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต จกฺกรตนาทิสตฺตรตนสมนฺนาคโต จกฺกวตฺติราชา อเนกสตกฺขตฺตุํ อโหสึ, ปเทสรชฺชสฺส ราชภาเว โก ปน วาโท.
ภิกฺขเว, ตสฺส จกฺกวตฺติราชภูตสฺส มยฺหํ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ ‘‘เยน ผเลน เยน ¶ วิปาเกน อหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว อมฺหิ, ตํ อิทํ ผลํ กิสฺส กมฺมสฺส ผลํ นุ โข, โส อยํ วิปาโก กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก นุ โข’’ติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ. ภิกฺขเว, ตสฺส วิตกฺเกนฺตสฺส มยฺหํ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ ‘‘เยน ผเลน เยน วิปาเกน อหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว อมฺหิ, เม ปวตฺตํ ตํ อิทํ ผลํ ติณฺณํ กมฺมานํ ผลํ โข, โส อยํ วิปาโก ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก โข, เสยฺยถิทํ กตเมสํ ติณฺณํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก? ทานสฺส ทมสฺส สํยมสฺสาติ ติณฺณํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก’’ติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสีติ อโวจาติ โยชนา.
ตตฺถ ตสฺมึ ‘‘มา, ภิกฺขเว, ปฺุานํ ภายิตฺถา’’ติอาทิเก สุตฺเต ยฺจ ทานํ, โย จ ทโม, โย จ สํยโม อตฺถิ, อิทํ ทานาทิตฺตยํ กมฺมํ, ตํวาจกาปกํ สุตฺตมฺปิ กมฺมํ นาม. ตปฺปจฺจโย ตํกมฺมปจฺจโย ปจฺจยุปฺปนฺนภูโต ปจฺจนุภูโต โย วิปาโก อตฺถิ, เอตํ วิปาเก ผลมฺปิ ปกฺขิปิตพฺพํ, อยํ วิปาโก ตํวาจกาปโก ปาโปิ วิปาโก นาม. จูฬกมฺมวิภงฺโค จูฬกมฺมวิปากปุถุตฺตวิภาโค ตถา วตฺตพฺโพ.
โตเทยฺยปุตฺตสฺส ¶ สุภสฺส มาณวสฺส ยํ สุตฺตํ ภควตา เทสิตํ, ตตฺถ สุตฺเต วุตฺตา เย ปาณาติปาตาทโย ธมฺมา อปฺปายุกทีฆายุกตาย สํวตฺตนฺติ, เย หึสนาทโย ธมฺมา พหฺวาพาธอปฺปาพาธตาย สํวตฺตนฺติ, เย อุสูยนาทโย ธมฺมา อปฺเปสกฺขมเหสกฺขตาย สํวตฺตนฺติ, เย โกธาทโย ธมฺมา ทุพฺพณฺณสุวณฺณตาย สํวตฺตนฺติ, เย อคารวาทโย ธมฺมา นีจกุลิกอุจฺจกุลิกตาย สํวตฺตนฺติ, เย มจฺเฉราทโย ธมฺมา อปฺปโภคมหาโภคตาย สํวตฺตนฺติ, เย อสลฺลกฺขณาทโย ธมฺมา ทุปฺปฺปฺวนฺตตาย สํวตฺตนฺติ. อิทํ ปาณาติปาตสตฺตยุคํ กมฺมํ, ตํวาจกาปกํ สุตฺตมฺปิ กมฺมํ นาม. ตตฺถ สุภสุตฺเต ยา อปฺปายุกทีฆายุกตา วุตฺตา…เป… ยา ทุปฺปฺปฺวนฺตตา วุตฺตา, โส อยํ อปฺปายุกทีฆายุกตาทิโก วิปาโก, ตํวาจกาปกปาโปิ วิปาโก. อิทํ สุภสุตฺตํ กุสลากุสลกมฺเม เจว วิปาเก จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต กมฺมฺจ วิปาโก จ โหติ. (๑๔)
๑๒๒. โย ปุคฺคโล วจีทุจฺจริตปริวชฺชเนน วาจานุรกฺขี ภเวยฺย, อภิชฺฌาทิอนุปฺปาทเนน มนสา สํวุโต ภเวยฺย, ปาณาติปาตาทิปชหเนน กาเยน อกุสลํ น กยิรา, อิติ ตโย เอเต กมฺมปเถ วิโสธเย, โส ปุคฺคโล อิสิปฺปเวทิตํ มคฺคํ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อาราธเย อาราธเยยฺยาติ โยชนา. อิทํ ‘‘วาจานุรกฺขี’’ติอาทิกํ สุตฺตํ กุสเล วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต กุสลํ นาม.
ยสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส กาเยน ทุกฺกฏํ ทุคฺคติสํวตฺตนิยกมฺมํ นตฺถิ, วาจาย ทุกฺกฏกมฺมํ นตฺถิ, มนสา ทุกฺกฏกมฺมํ นตฺถิ, ตีหิ าเนหิ อุปฺปชฺชนฏฺาเนหิ สํวุตํ ตํ ปุคฺคลํ ‘‘พฺราหฺมณ’’นฺติ อหํ วทามีติ โยชนา. อิทํ คาถาวจนํ วุตฺตนเยน กุสลํ นาม.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว…เป… กุสลมูลานี’’ติ อิทํ วจนํ วุตฺตนเยน กุสลํ. ภิกฺขเว, กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยา วิชฺชา ปุพฺพงฺคมา โหติ, หิรี จ โอตฺตปฺปฺจ อนุเทวาติ โยชนา. อิทํ วจนํ วุตฺตนเยน กุสลํ นาม.
มาลุวา สาลํ รุกฺขํ โอนตํ ภูมิยํ ปตนํ กโรติ อิว, ตถา ยสฺส ชนสฺส อจฺจนฺตํ ทฺวีสุ ตีสุ ภเวสุ ทุสฺสีลฺยํ อตฺถิ, โส ชโน อตฺตานํ โอนตํ ¶ อปาเยสุ ปากฏํ กโรติ. อนตฺถกาโม ชโน ยถา อนตฺถํ อิจฺฉติ, ตถา อนตฺถํ กโรติ ยถา, ตถา อีทิโส ทุสฺสีโล นํ อตฺตานํ อนตฺถํ กโรตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิกํ วจนํ วุตฺตนเยน อกุสลํ.
อสฺมมยํ อสฺมสงฺขาตํ ปาสาณมณิมยํ วชิรํ วชิรสฺส อุฏฺานสงฺขาตํ ปาสาณมณึ อภิมตฺถติ วิธํเสติ อิว, ตถา อตฺตนา หิ สยเมว กตํ อตฺตชํ อตฺตสมฺภวํ ปาปํ ทุมฺเมธํ ปาปํ กโรนฺตํ ชนํ อภิมตฺถตีติ โยชนา. อิทํ ‘‘อตฺตนา หี’’ติอาทิกํ วจนํ วุตฺตนเยน อกุสลํ.
เทวเต กุสเลหิ วิวชฺชิตา อกุสลา ทส กมฺมปเถ นิเสวิย กตฺวา ครหา คารยฺหา ภวนฺติ, พาลมตี มนฺทพุทฺธิโน นิรเยสุ ปจฺจเรติ โยชนา. อิทํ ‘‘ทส กมฺมปเถ’’ติอาทิกํ สุตฺตํ วุตฺตนเยน อกุสลํ.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว…เป… อกุสลมูลานี’’ติ อิทํ วจนํ วุตฺตนเยน อกุสลํ. (๑๕)
ยาทิสํ ยํ พีชํ วปเต, ตํ พีชํ ตาทิสํ ผลํ หรเต อิว, ตถา กลฺยาณการี ปณฺฑิโต กลฺยาณํ ผลํ หรเต, ปาปการี พาโล จ ปาปกํ ผลํ หรเตติ โยชนา. ตตฺถ ‘‘ยาทิส’’นฺติอาทิเก สุตฺเต ‘‘กลฺยาณการี กลฺยาณ’’นฺติ ยํ วจนํ อาห, อิทํ วจนํ กุสลํ. ‘‘ปาปการี จ ปาปก’’นฺติ ยํ วจนํ อาห, อิทํ วจนํ อกุสลํ. อิทํ ทฺวิวจนํ วุตฺตนเยน กุสลฺจ อกุสลฺจ โหติ.
กลฺยาณการี ¶ สปฺปุริสา สุเภน กมฺเมน สุคฺคตึ วชนฺติ คจฺฉนฺติ, ปาปการี กาปุริสา อสุเภน กมฺมุนา อปายภูมึ วชนฺติ คจฺฉนฺติ, กมฺมสฺส อภิสงฺขารวิฺาณสหคตกมฺมสฺส ขยา ขยนโต วิมุตฺตเจตสา สมุจฺเฉทวิมุตฺติปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติจิตฺตา เต สปฺปุริสา อสุเภ นิพฺพนฺติ. กิมิว นิพฺพนฺติ? อินฺธนกฺขยา โชติ นิพฺพาติ อิว, ตถา เต สปฺปุริสา กมฺมสฺส ขยา อนวเสสขยนโต นิพฺพนฺตีติ โยชนา. ตตฺถ ตสฺมึ ‘‘สุเภนา’’ติอาทิคาถาวจเน ‘‘สุเภน…เป… สุคฺคติ’’นฺติ ยํ วจนํ อาห, อิทํ ‘‘สุเภน…เป…สุคฺคติ’’นฺติ วจนํ กุสเล วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต กุสลํ นาม. ‘‘อปายภูมึ อสุเภน กมฺมุนา’’ติ ยํ วจนํ อาห ¶ , อิทํ ‘‘อปาย…เป… กมฺมุนา’’ติ วจนํ อกุสเล วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อกุสลํ นาม. อิทํ ‘‘สุเภนา’’ติอาทิกํ คาถาวจนํ วุตฺตนเยน กุสลฺจ อกุสลฺจ โหติ. (๑๖)
๑๒๓. ‘‘ยถาปิ ภมโร ปุปฺผํ…เป… มุนี จเร’’ติ อิทํ คาถาวจนํ อนฺุาเต จรเณ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อนฺุาตํ นาม.
ภมโร นาม ปุปฺผรสปิวนคหณวเสน จรณโก มธุกราทิโก ภมโร. โส ปุปฺผรสํ คณฺหนฺโต มนฺทเวโค หุตฺวา ปุปฺผฺจ วณฺณฺจ คนฺธฺจ อวินาเสตฺวา ยาวทตฺถํ ปุปฺผรสํ ปิวิตฺวา มธุกรณตฺถาย จ ปุปฺผรสํ คเหตฺวา มธุกรณฏฺานํ วนสณฺฑํ ปเลติ. ปุปฺผวณฺณคนฺธา ปากติกาว โหนฺติ. เอวเมว ปิณฺฑาย คามํ ปวิสนฺโต มุนิ ปสาทชนกํ อาโลกนวิโลกนคมนติฏฺนาทิกํ ชเนตฺวา ปีติโสมนสฺสสหิตํ ปสาทํ ชเนตฺวา สทฺธาเทยฺยํ ปิณฺฑปาตํ ยาปนมตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา คามโต นิกฺขมิตฺวา อุทกผาสุกฏฺาเน วเน เภสชฺชํ ลิมฺปนฺโต วิย, กนฺตาเร ปุตฺตมํสํ ขาทนฺโต วิย, ปิณฺฑปาตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชิตฺวา ภมโร วเน มธุํ กโรติ วิย, กมฺมฏฺานานุรูปํ วนสณฺฑํ ปวิสิตฺวา ฌานมคฺคผลนิพฺพตฺตนตฺถาย สมณธมฺมกรณตฺถาย คาเม จเร จเรยฺยาติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ กรณียานิ…เป… อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขูนํ ตีณิ กรณียานี’’ติ อิทํ สุตฺตํ ภควตา อนฺุาเต อาจาเร อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อนฺุาตํ นาม. ตสฺมึ สุตฺเต โย ภิกฺขุ สีลํ ปาติ รกฺขติ, อิติ รกฺขณโต โส ภิกฺขุ ปาติ นาม. ยํ สีลํ ตํ ปาตึ ภิกฺขุํ อปายาทิทุกฺขโต โมเจติ, อิติ โมจนโต ตํ สีลํ ปาติโมกฺขํ นาม. เยน สีเลน ภิกฺขุ สํวริตพฺพจกฺขุนฺทฺริยาทิกํ สํวรติ, อิติ สํวรณกรณโต ตํ สีลํ สํวรํ นาม, ปาติโมกฺขํ เอว ¶ สํวรํ ปาติโมกฺขสํวรํ, ปาติโมกฺขสํวเรน สํวุโต สมนฺนาคโต หุตฺวา สํวุณนโต จตุอิริยาปเถสุ จารโก โหติ, อิติ สํวุณนโต ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต นาม. วิหรติ จตุอิริยาปเถ ปวตฺเตติ. วาริตฺตจารํ วชฺเชตฺวา จาริตฺตสีลํ อาทาย จรณํ อาจาโร, อโคจเร วชฺเชตฺวา โคจเร ¶ จรณํ โคจโรติ. อตฺโถ วุจฺจมาโน อติวิตฺถาโร ภวิสฺสติ, ตสฺมา กิฺจิมตฺตํ กเถตฺวา สาสนปฏฺานสุตฺตภาวํ กเถสฺสาม.
‘‘เอตฺตกเมว สุตฺตํ ‘อนฺุาต’นฺติ นิทฺธาริตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ‘‘ทสา’’ติอาทิกํ สุตฺตมฺปิ อนฺุาเต ทสวิเธ ปจฺจเวกฺขิตพฺเพ ธมฺเม วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อนฺุาตํ นาม. ‘‘ตีณิมานิ…เป… กรณียานี’’ติ อิทํ สุตฺตมฺปิ อนฺุาเต ติวิเธ สุจริเต วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อนฺุาตํ นาม.
นานาวิธํ อนฺุาตํ สุตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ สุตฺตํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ, นตฺถิ โคสมิตํ ธนํ;
นตฺถิ สูริยสมา อาภา, สมุทฺทปรมา สรา’’ติ. –
อิทํ เทวปุตฺตวจนํ ปฏิกฺขิปนฺโต ภควา –
‘‘นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ, นตฺถิ ธฺสมํ ธนํ;
นตฺถิ ปฺาสมา อาภา, วุฏฺิ เว ปรมา สรา’’ติ. –
คาถํ อาห. เอตฺถ เอตสฺมึ คาถาทฺวเย ยํ ‘‘นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปม’’นฺติอาทิกํ ปุริมกํ โหติ. อิทํ ‘‘นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปม’’นฺติอาทิกํ เทวปุตฺตวจนํ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตตฺตา, ปฏิกฺขิตฺเต อตฺเถ ปวตฺตนโต จ ปฏิกฺขิตฺตํ นาม.
ทุพฺภิกฺขกาเล วา กนฺตาเร วา มาตาปิตโร ปุตฺตธีตโร ฆาเตตฺวาปิ อตฺตานเมว โปเสนฺติ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ อตฺตสมํ เปม’’นฺติ วุตฺตํ. ทุพฺภิกฺขกาลาทีสุ หิรฺสุวณฺณสาราทีนิ, โคมหึสาทีนิปิ ธฺคหณตฺถาย ธฺสฺสามิกานํ ทตฺวา ธฺเมว คณฺหนฺติ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ ธฺสมํ ¶ ธน’’นฺติ วุตฺตํ. สูริยาทีนํ อาภา ปจฺจุปฺปนฺนตมํ เอกเทสํว วิโนเทติ, ปฺา ปน ทสสหสฺสิโลกธาตุมฺปิ เอกปชฺโชตํ เอโกภาสํ กาตุํ สมตฺถา, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนธมฺมโกฏฺาเสสุปิ ปฏิจฺฉาทกํ กิเลสตมมฺปิ วิธมติ, ตสฺมา ‘‘นตฺถิ ปฺาสมา อาภา’’ติ วุตฺตํ. สมุทฺโท ภูมิยา ¶ จ เอกเทเสเยว ติฏฺติ, โส จ เทเว อวุฏฺเ สติ ขยนสภาโว ภเวยฺย, วุฏฺิ ปน โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬสุปิ ยาว อาภสฺสรา พฺรหฺมโลกาปิ ปูรา ภวติ, ตสฺมา ‘‘วุฏฺิ เว ปรมาสรา’’ติ วุตฺตํ.
‘‘อิทเมว ปฏิกฺขิตฺตํ นิทฺธาริตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตีณิมานิ ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ ‘‘ตีณิมานี’’ติอาทิกํ สุตฺตมฺปิ ปฏิกฺขิตฺเต ทุจฺจริเต วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต ปฏิกฺขิตฺตํ นาม. (๑๗)
๑๒๔. นานาวิธํ ปฏิกฺขิตฺตํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตมํ อนฺุาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กตมํ อนฺุาตฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ภูริปฺภูริปฺวนฺต โคตม, ตํ ภูริปฺํ โคตมํ อหํ ปุจฺฉามิ. อิธ โลเก อเนกา ยา ชนตา ภีตา, สา ชนตา กึสุ กตมา ภเว. โย จ มคฺโค อเนกายตโน อิติ ปวุตฺโต, โส จ มคฺโค กึสุ กตโม ภเว. กิสฺมึ ธมฺเม ิโต ชโน ปรโลกํ น ภาเย น ภาเยยฺยาติ ปุจฺฉตีติ โยชนา.
เทวปุตฺต โย ชโน สมฺมาวาจฺจ ปณิธาย, สมฺมามนฺจ ปณิธาย, กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน จ ภเว, อยํ เอโก. พหฺวนฺนปานํ ฆรํ อาวสนฺโต จ ภเว, อยํ เอโก. สทฺโธ สทฺธาสมฺปนฺโน จิตฺตมุทุภาเวน มุทุ จ ภเว, อยํ เอโก. วทฺู ยาจกานํ ยาจนวเสน วุตฺตวจนฺู หุตฺวา สํวิภาคี จ ภเว, อยํ เอโก. อิติ เอเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ิโต ชโน ธมฺเมสุ ิโต หุตฺวา ปรโลกํ น ภาเย น ภาเยยฺยาติ โยชนา.
‘‘ตสฺมึ สุตฺเต กตมํ อนฺุาตํ, กตมํ ปฏิกฺขิตฺตํ นามา’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ยํ อาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมึ ‘‘กึสูธา’’ติอาทิปฺหาย วิสฺสชฺชเน ‘‘วาจํ มนฺจา’’ติอาทิวจเน ‘‘วาจํ มนฺจ ปณิธาย สมฺมา’’ติ ยํ วจนํ ภควา อาห, อิทํ ‘‘วาจํ…เป… สมฺมา’’ติ วจนํ อนฺุาเต วจนียาทิเก อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต อนฺุาตํ นาม. ‘‘กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน’’ติ ยํ วจนํ อาห, อิทํ ‘‘กาเยน ¶ …เป… มาโน’’ติ วจนํ ปาปกุพฺเพน ปฏิกฺขิตฺเต วุตฺตนเยน ปวตฺตนโต ปฏิกฺขิตฺตํ นาม. ‘‘พหฺวนฺน…เป… น ภาเย’’ติ ยํ วจนํ อาห, อิทํ ‘‘พหฺวนฺน…เป… น ¶ ภาเย’’ติ วจนํ วุตฺตนเยน อนฺุาตํ นาม. อิทํ ‘‘วาจ’’นฺติอาทิกํ วจนํ วุตฺตนยทฺวเยน อนฺุาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ โหติ.
‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติอาทิโก วุตฺตตฺโถว. ‘‘ตสฺมึ สพฺพปาปสฺสาติอาทิเก กตมํ อนฺุาตํ, กตมํ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘ตตฺถ ย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
เทวานมินฺท, อหํ กายสมาจารมฺปิ ทุวิเธน วทามิ – เสวิตพฺพํ อนวชฺชํ กายสมาจารมฺปิ วทามิ, อเสวิตพฺพํ สาวชฺชํ กายสมาจารมฺปิ อหํ วทามิ. วจีสมาจาราทีสุปิ วุตฺตนยานุสาเรน โยชนา กาตพฺพา.
‘‘กิฺจ วฑฺฒนหายนํ อาคมฺม กายสมาจาราทิกํ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพเภเทน วุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘กิฺเจตํ ปฏิจฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อกุสลธมฺมวฑฺฒนํ, กุสลธมฺมหายนฺจ ปฏิจฺจ กายสมาจาราทโย น เสวิตพฺพา, กุสลธมฺมวฑฺฒนํ, อกุสลธมฺมหายนฺจ ปฏิจฺจ กายสมาจาราทโย เสวิตพฺพาติ สลฺลกฺเขตพฺพา. (๑๘)
๑๒๕. นานาวิธํ อนฺุาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กตโม สุตฺตวิเสโส ถโว’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ตถา ปุจฺฉิตฺวา อยํ สุตฺตวิเสโส ถโว นามาติ วิฺาเปตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม ถโว’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ อฏฺวีสติวิเธสุ โลกิยาทีสุ สาสนปฏฺานสุตฺเตสุ กตโม สุตฺตวิเสโส ถโว นามาติ ปุจฺฉติ.
มคฺคานํ ชงฺฆมคฺคทิฏฺิมคฺคาทีนํ อฏฺงฺคิโก สมฺมาทิฏฺิมคฺคงฺคาทิอฏฺงฺคิโก มคฺโค เสฏฺโ อุตฺตโม. สจฺจานํ วจีสจฺจขตฺติยาทิสมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานํ จตุโร ทุกฺขสมุทยนิโรธนิโรธคามินิปฏิปทาวเสน จตุโร อริยสจฺจา ปทา เสฏฺา อุตฺตมา. ธมฺมานํ สพฺพสงฺขตสปฺปจฺจยธมฺมานํ วิราโค อสงฺขตนิพฺพานสงฺขาโต วิราโค ธมฺโม เสฏฺโ อุตฺตโม. ทฺวิปทานํ สพฺพเทวมนุสฺสาทีนํ ทฺวิปทานํ จกฺขุมา ปฺจวิธจกฺขุมา ภควา เสฏฺโ อุตฺตโมติ โยชนา. อยํ ‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก’’ติอาทิสุตฺตวิเสโส ถเว อตฺเถ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต ถโว นาม.
‘‘อยเมว ¶ สุตฺตวิเสโส ถโว’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตีณิมานิ ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํ. อปทา อหิมจฺฉาทโย วา, ทฺวิปทา มนุสฺสสกุณปกฺขิชาติกาทโย วา, จตุปฺปทา หตฺถิอสฺสโคมหึสาทโย วา, พหุปฺปทา ¶ สตปทิอาทโย วา, รูปิโน กามรูปสตฺตา วา, อรูปิโน อรูปสตฺตา วา, สฺิโน สตฺตวิฺาณฏฺิติสตฺตา วา, อสฺิโน อสฺสตฺตา วา, เนวสฺีนาสฺิโน ภวคฺเค นิพฺพตฺตสตฺตา วา ยาวตา ยตฺตกา สตฺตา สํวิชฺชนฺติ, เตสํ ตตฺตกานํ อปทาทีนํ สตฺตานํ ยทิทํ โย อยํ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตถาคโต อุปฺปนฺโน, โส อยํ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตถาคโต อคฺคํ อคฺโคติ อกฺขายติ, เสฏฺํ เสฏฺโติ อกฺขายติ, ปวรํ ปวโรติ อกฺขายติ, อยํ ปโม อคฺโค.
สงฺขตานํ ธมฺมานํ วา สปฺปจฺจยสภาวานํ วา, อสงฺขตานํ ปจฺจเยหิ อสงฺขริตานํ ปณฺณตฺติมตฺตภูตานํ ธมฺมานํ วา ยาวตา ยตฺตกา ปณฺณตฺตี โวหรียนฺติ, ตตฺตเกหิ ปณฺณตฺตีหิ ปฺเปตพฺพานํ เตสํ สงฺขตาสงฺขตานํ ธมฺมานํ ยทิทํ โย อยํ มทนิมฺมทโน…เป… โย อยํ นิโรโธ, ยํ อิทํ นิพฺพานมคฺคผลานมาลมฺพณํ ภวติ, โส อยํ มทนิมฺมทนาทิโก ธมฺโม อคฺคํ อคฺโคติ อกฺขายติ…เป… อกฺขายติ, อยํ ทุติโย อคฺโค.
สงฺฆานํ ยาวตา ปณฺณตฺติ, คณานํ ยาวตา ปณฺณตฺติ, มหาชนสนฺนิปาตานํ ยาวตา ปณฺณตฺติ โวหรียนฺติ, ตตฺตเกหิ ปณฺณตฺตีหิ ปฺเปตพฺพานํ เตสํ สงฺฆคณาทีนํ ยานิ อิมานิ จตฺตาริ ปุคฺคลานิ ปุริสยุคานิ, เย อิเม อฏฺ ปุริสปุคฺคลา…เป… โลกสฺส ยํ อิทํ ปฺุกฺเขตฺตํ สํวิชฺชติ, โส อยํ จตุปุริสยุคาทิโก ตถาคตสาวกสงฺโฆ อคฺคํ อคฺโคติ อกฺขายติ…เป… อกฺขายติ, อยํ ตติโย อคฺโค. อิมานิ ตีณิ ตถาคตนิพฺพานอริยสงฺฆรตนานิ อคฺคานิ ภวนฺติ.
สพฺพโลกุตฺตโร อปทาทิสพฺพสตฺตโลกโต อุตฺตโร สตฺถา จ, กุสลปกฺขโต กุสลอนวชฺชปกฺขภาวโต อุตฺตโร ธมฺโม จ, นรสีหสฺส สตฺถุโน คโณ จ อิติ ตีณิ สตฺถุธมฺมคณรตนานิ อคฺคานิ, ตานิ ตีณิ สตฺถุธมฺมคณรตนานิ วิสิสฺสเร คุณวเสน วิสิสฺสนฺติ.
สมณปทุมสฺจโย สเร รุหมานํ ปทุมํ โสภนํ อิว สาสเน โสภนสมณปทุมสมูโห คโณ จ, ธมฺมวโร จ, วิทูนํ สกฺกโต นรวรทมโก ¶ นรวรานํ พฺรหฺมเทวมนุสฺสราชราชมหามจฺจาทีนํ ¶ ทมโก อนุทมโก จกฺขุมา สมฺพุทฺโธ จ อิติ ตีณิ คณธมฺมพุทฺธรตนานิ โลกสฺส อุตฺตริ ภวนฺติ.
อปฺปฏิสโม สตฺถา จ, นิรุปทาโห นิคฺคตอุปทาโห, สพฺโพ ธมฺโม จ อริโย คณวโร จ อิติ ยานิ ตีณิ พุทฺธธมฺมคณรตนานิ อคฺคานิ, ตานิ ตีณิ…เป… นานิ ขลุ เอกํเสน วิสิสฺสเร วิสิสฺสนฺติ.
สจฺจนาโม อวิตถสจฺจเทสนโต สจฺจนาโม เขโม สพฺพาภิภู สพฺเพ มนุสฺสเทวาทิเก อนภิภวมาโนปิ คุณาติเรกวเสน อภิภวมาโน วิย ปวตฺตนโต สพฺพาภิภู ชิโน จ, สจฺจธมฺโม อวิตถสภาวโต สจฺจธมฺโม จ, ตสฺส สจฺจธมฺมสฺส อุตฺตริ อุตฺตโม อฺโ ธมฺโม นตฺถิ, วิฺูนํ นิจฺจํ ปูชิโต ปูชารโห อริยสงฺโฆ จ อิติ ตีณิ โลกสฺส อุตฺตริ อุตฺตมานิ ภวนฺติ.
เอกายนปทสฺส วจนตฺโถ อฏฺกถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๗๐) พหุธา วุตฺโต. ชาติขยนฺตทสฺสี หิตานุกมฺปี ภควา เอกายนํ มคฺคํ ปชานาติ. ‘‘ยํ เอกายนํ มคฺคํ ปชานาติ, เตน มคฺเคน กึ ตรตี’’ติ วตฺตพฺพภาวโต ‘‘เอเตน มคฺเคนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยํ มคฺคํ ภควา ชานาติ, เอเตน มคฺเคน ปุพฺเพ อตีตมทฺธานํ พุทฺธาทโย อริยา โอฆํ สํสาโรฆํ ตรึสุ, อนาคตมทฺธานํ ตริสฺสนฺติ, เย จาปิ พุทฺธาทโย ปจฺจุปฺปนฺเน อุปฺปชฺชนฺติ, เต จาปิ พุทฺธาทโย ปจฺจุปฺปนฺเน ตรนฺติ, วิสุทฺธิเปกฺขา วิสุทฺธึ อเปกฺขมานา สตฺตา เทวมนุสฺสเสฏฺํ ตาทิสํ ยถาวุตฺตคุณํ ตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ นมสฺสนฺติ, อิติ อยํ นานาวิธสุตฺตวิเสโสปิ ถเว รตนตฺตเย, รตนตฺตยคุเณ จ วาจกาปกภาเวน ปวตฺตนโต ถโว นาม. อิจฺเจตํ สาสนปฏฺานสุตฺตวิเสสทสฺสโก สํวณฺณนาวิเสโสปิ สาสนปฏฺานํ นามาติ เวทิตพฺโพ.
อมฺหากาจริย ตุมฺเหหิ อมฺหากาจริเยหิ โสฬสปฺปเภทสํกิเลสภาคิยาทิสาสนปฏฺานสุตฺตฺเจว อฏฺวีสติวิธํ โลกิยาทิสาสนปฏฺานสุตฺตฺจ นิทฺธาริตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘เตสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สาสนปฏฺานสุตฺตวิเสเสสุ กตมํ สุตฺตวิเสสํ กตเมน สุตฺตวิเสเสน สํสนฺทิตฺวา นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ โลกิยํ ¶ สุตฺต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. อฏฺกถายํ ปน – ‘‘เอวํ ทุวิธมฺปิ สาสนปฏฺานํ นานาสุตฺตปทานิ อุทาหรนฺเตน วิภชิตฺวา อิทานิ สํกิเลสภาคิยาทีหิ สํสนฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ ปุน ‘โลกิยํ สุตฺต’นฺติอาทิ อารทฺธ’’นฺติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๗๐) วุตฺตํ.
ตตฺถ ¶ ตตฺถาติ เตสุ โสฬสวิเธสุ สํกิเลสภาคิยาทีสุ สาสนปฏฺานสุตฺตวิเสเสสุ เจว อฏฺวีสติวิเธสุ โลกิยาทีสุ สาสนปฏฺานสุตฺตวิเสเสสุ จ อกุสลปกฺเข ปวตฺตํ โลกิยํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยสุตฺเตน สมานตฺถภาเวน สํสนฺทติ, กุสลปกฺเข ปวตฺตํ โลกิยํ สุตฺตํ วาสนาภาคิยสุตฺเตน สมานตฺถภาเวน สํสนฺทติ, ตสฺมา โลกิยํ สุตฺตํ เอกวิธมฺปิ สํกิเลสภาคิเยน จ วาสนาภาคิเยน จ ทฺวีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. ทสฺสนปกฺเข ปวตฺตํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ ทสฺสนภาคิเยน สมานตฺถภาเวน สํสนฺทติ, ภาวนาปกฺเข ปวตฺตํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ ภาวนาภาคิเยน สมานตฺถภาเวน สํสนฺทติ, อเสกฺขปกฺเข ปวตฺตํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ อเสกฺขภาคิเยน สมานตฺถภาเวน สํสนฺทติ, ตสฺมา โลกุตฺตรมฺปิ สุตฺตํ ทสฺสนภาคิเยน จ ภาวนาภาคิเยน จ อเสกฺขภาคิเยน จ ตีหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพํ. วุตฺตนยานุสาเรน เสเสสุปิ สํสนฺทนโยชนา กาตพฺพา.
อมฺหากาจริย ตุมฺเหหิ อมฺหากาจริเยหิ นยทสฺสนวเสน สุตฺตวิเสสสํสนฺทนํ ทสฺสิตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กิมตฺถาย สํกิเลสภาคิยาทิเภเทน วิภชิตฺวา ภควตา วุตฺต’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยสฺส สุตฺตสฺส นิคฺฆาตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ สุตฺตวเสน สุตฺตตฺถา คหิตา.
‘‘ยํ สตฺตาธิฏฺานํ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, ตํ สตฺตาธิฏฺานํ กิตฺตเกหิ สุตฺเตหิ วิภชิตฺวา นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานํ ฉพฺพิสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘เต ฉพฺพีสติ ปุคฺคลา กติหิ สุตฺเตหิ สมนฺเวสิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เต ตีหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทสฺสนภาคิเยน สตฺตาธิฏฺาเนน, ภาวนาภาคิเยน สตฺตาธิฏฺาเนน, อเสกฺขภาคิเยน สตฺตาธิฏฺาเนน จาติ ตีหิ สุตฺเตหิ เต ฉพฺพีสติ ปุคฺคลา สมนฺเวสิตพฺพา.
‘‘กตเมหิ ¶ กตเมหิ กตมํ กตมํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ ทสฺสนภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ตีสุ ทสฺสนภาคิยาทีสุ สุตฺเตสุ. ตตฺถาติ วา เตสุ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคเลสุ. สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ เอกพีชินา ปุคฺคเลน จ นิทฺทิสิตพฺพํ…เป… ธมฺมานุสารินา ปุคฺคเลน จ นิทฺทิสิตพฺพํ, อิติ อิเมหิ ปฺจหิ ปุคฺคเลหิ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพํ. เอตฺถ จ ทสฺสนคฺคหเณน โสตาปตฺติผลฏฺาปิ คหิตา, ตสฺมา เอกพีชิโกลํโกลสตฺตกฺขตฺตุปรมา ผลฏฺาปิ คหิตา.
สทฺธานุสารี ¶ ปน โย วิปสฺสนากฺขเณ สทฺธํ ธุรํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ, โส ปุคฺคโล นิพฺพตฺเตตพฺพโสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม, สทฺธาย สมาปตฺตึ อนุสฺสรติ, อิติ สทฺธาย สมาปตฺติยา อนุสฺสรณโต โสตาปตฺติมคฺคฏฺโ ปุคฺคโล สทฺธานุสารี นาม. โส ปุคฺคโล โสตาปตฺติผลกฺขเณ สทฺธาย วิมุตฺตตฺตา สทฺธาวิมุตฺโต หุตฺวา เอกพีชิโกลํโกลสตฺตกฺขตฺตุปรโม ภวติ. โย ปน ปุคฺคโล วิปสฺสนากฺขเณ ปฺํ ธุรํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ, โส ปุคฺคโล นิพฺพตฺเตตพฺพโสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม, ธมฺเมน ปฺาย สมาปตฺตึ อนุสฺสรติ, อิติ ธมฺเมน ปฺาย สมาปตฺติยา อนุสฺสรณโต ธมฺมานุสารี นาม. โส ปุคฺคโล ผลกฺขเณ ทิฏฺิยา ปฺาย นิโรธํ ปตฺตตฺตา ทิฏฺิปตฺโต หุตฺวา เอกพีชิ…เป… ปรโม ภวติ. ธมฺโมติ เจตฺถ ปฺา คหิตา. อิติ ปเภทโต ทฺเว มคฺคฏฺา, ฉ ผลฏฺาติ อฏฺหิ อริยปุคฺคเลหิ, สมฺปิณฺฑิเต ปน ปฺจหิ อริยปุคฺคเลหิ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพํ.
อิเมสํ เอกพีชิอาทีนํ ปุคฺคลานํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสตฺถตฺตา เจว ทสฺสนภาคิยตฺถตฺตา จ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ เอตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ นิยเมตฺวา อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ กิตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา –
‘‘ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สกทาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนน, สกทาคามินา, อนาคามิผลสจฺฉิกิริยาย ปฏิปนฺเนน, อนาคามินา, อนฺตราปรินิพฺพายินา, อุปหจฺจปรินิพฺพายินา, อสงฺขารปรินิพฺพายินา, สสงฺขารปรินิพฺพายินา ¶ , อุทฺธํโสเตน อกนิฏฺคามินา, สทฺธาวิมุตฺเตน, ทิฏฺิปฺปตฺเตน, กายสกฺขินา จาติ ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ –
วุตฺตํ. ตตฺถาปิ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ภาวนาภาคิยํ สุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. สกทา…เป… ปนฺเนน สกทาคามิมคฺคฏฺเน ปุคฺคเลน, สกทาคามินา สกทาคามิผลฏฺเน, อนาคามิ…เป… ปนฺเนน อนาคามิมคฺคฏฺเน, อนาคามินา อนาคามิผลฏฺเน, อวิหาทีสุ ปฺจสุ สุทฺธาวาเสสุ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนสภาเวน อนฺตราปรินิพฺพายีนามเกน อนาคามินา, อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนสภาเวน อุปหจฺจปรินิพฺพายีนามเกน อนาคามินา, อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนสภาเวน ¶ อสงฺขารปรินิพฺพายีนามเกน อนาคามินา, สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนสภาเวน สสงฺขารปรินิพฺพายีนามเกน อนาคามินา, อวิหาทีหิ อุทฺธํ อตปฺปาทีสุ อุปปตฺติโสเตน อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนสภาเวน อุทฺธํโสตนามเกน อนาคามินา, อกนิฏฺํ คนฺตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ปรินิพฺพายนสภาเวน อกนิฏฺคามีนามเกน อนาคามินา, สทฺธาย วิมุตฺตตฺตา สทฺธาวิมุตฺตนามเกน อนาคามินา, ทิฏฺิยา ปฺาย นิโรธํ ปตฺตตฺตา ทิฏฺิปฺปตฺตนามเกน อนาคามินา จาติ อิเมหิ เอกาทสหิ อฌานลาภีปุคฺคเลหิ จ, กาเยน นามกาเย ผุฏฺานํ อรูปฌานานํ อนนฺตรํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, อิติ สจฺฉิกรณโต กายสกฺขีนามเกน ฌานลาภินา จาติ ทฺวาทสหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ.
อิเมสํ วุตฺตปฺปการานํ ปุคฺคลานํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสตฺถตฺตา เจว ภาวนาภาคิยตฺถตฺตา จ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ เอตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ นิยเมตฺวา อาจริเยน วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘กิตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา –
‘‘อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นวหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพํ สทฺธาวิมุตฺเตน, ปฺาวิมุตฺเตน, สฺุตวิมุตฺเตน, อนิมิตฺตวิมุตฺเตน, อปฺปณิหิตวิมุตฺเตน, อุภโตภาควิมุตฺเตน, สมสีสินา, ปจฺเจกพุทฺเธหิ, สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ จาติ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ อิเมหิ นวหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ –
วุตฺตํ ¶ . ตตฺถ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ. สทฺธาย กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา อรหตฺตผลกฺขเณ สทฺธาวิมุตฺโต อรหา, เตน สทฺธาวิมุตฺเตน. ปฺาย วิมุตฺตตฺตา อรหตฺตผลกฺขเณ ปฺาวิมุตฺโต อรหา, เตน ปฺาวิมุตฺเตน. สฺุตวิปสฺสนาสงฺขาเตน อนตฺตานุปสฺสเนน วิมุตฺตตฺตา สฺุตวิมุตฺโต อรหา, เตน สฺุตวิมุตฺเตน. อนิมิตฺตานุปสฺสนาสงฺขาเตน อนิจฺจานุปสฺสเนน วิมุตฺตตฺตา อนิมิตฺตวิมุตฺโต อรหา, เตน อนิมิตฺตวิมุตฺเตน. อปฺปณิหิตานุปสฺสนาสงฺขาเตน ทุกฺขานุปสฺสเนน วิมุตฺตตฺตา อปฺปณิหิตวิมุตฺโต อรหา, เตน อปฺปณิหิตวิมุตฺเตน. อุภโต รูปกายนามกายโต อุภโตภาคโต วิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต อรหา, เตน อุภโตภาควิมุตฺเตน. ปุริมา ปฺจ ปุคฺคลา อฌานลาภิโน คหิตา, อุภโตภาควิมุตฺโต ปน ฌานลาภีคหิโต.
สมสีสี นาม อิริยาปถสมสีสี, โรคสมสีสี, ชีวิตสมสีสีติ ติวิธา โหนฺติ. อิเมสุ ¶ ตีสุ สมสีสีสุ โย อรหา จตูสุ อิริยาปเถสุ เอเกกสฺมึ อิริยาปเถ อรหตฺตํ ปตฺวา อฺํ อิริยาปถํ อสงฺกมิตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ อิริยาปเถเยว ปรินิพฺพายติ, อยํ อรหา อิริยาปถสมสีสี นาม. โย อรหา ยสฺมึ โรเค อุปฺปนฺเน อรหตฺตํ ปตฺวา ตโต โรคโต อนุฏฺหิตฺวา ตสฺมึ โรเคเยว ปรินิพฺพายติ, อยํ อรหา โรคสมสีสี นาม. โย อรหา ปจฺจเวกฺขณวีถิยานนฺตรํ ภวงฺคํ โอตริตฺวา ตโต มรณาสนฺนชวนวีถิยานนฺตรเมว ปรินิพฺพายติ, อยํ อรหา วารสมตาย ชีวิตสมสีสี นาม. วารสมตาติ จ ปจฺจเวกฺขณวีถิ มคฺควิถฺยานุวตฺตกตฺตา ปจฺจเวกฺขณวีถิอนนฺตรํ ปวตฺตมานายปิ มรณาสนฺนวีถิ มคฺควีถิอนนฺตรํ ปวตฺตาติ วตฺตพฺพารหา, ตสฺมา วีถิอนนฺตรตา วารสมตา นาม. ตาย วารสมตาย จ ชีวิตสมสีสี วุตฺโต.
สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณีติ เอตฺถปิ ปจฺจเวกฺขณวีถิยานนฺตรํ ภวงฺคํ โอตริตฺวา ภวงฺคโต วุฏฺาย ปวตฺตวีถิยา ปฏิสมฺภิทาาณานิ ปวตฺตนฺติ. วุตฺตนเยน วีถิอนนฺตรตาย วารสมตาย ‘‘สห ปฏิสมฺภิทาหี’’ติ วุตฺตํ. ภควโต สพฺพฺุตฺาณมฺปิ ปจฺจเวกฺขณวีถิยานนฺตรํ ภวงฺคํ โอตริตฺวา ภวงฺคโต วุฏฺาย ปวตฺตวีถิยา ปมํ ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. อิมินา ¶ ชีวิตสมสีสินา, สพฺเพหิ ปจฺเจกพุทฺเธหิ, สพฺเพหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ จาติ อิเมหิ นวหิ ปุคฺคเลหิ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพํ.
อิเมสํ ปุคฺคลานํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสตฺถตฺตา เจว อเสกฺขภาคิยตฺถตฺตา จ เอวํ อิมินา ‘‘โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺาน’’นฺติอาทินา ปกาเรน วุตฺเตหิ อิเมหิ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคเลหิ อริเยหิ ทสฺสนภาคิยวาสนาภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺตานํ วเสน โลกุตฺตรํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพํ.
อิเมสํ ฉพฺพีสติยา ปุคฺคลานํ สกลโลกุตฺตรสุตฺตตฺถตฺตา เจว สตฺตาธิฏฺาเนกเทสสุตฺตตฺถตฺตา จ โลกุตฺตรํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ. เอตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ อาจริเยน นิยเมตฺวา วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘โลกิยํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ กิตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โลกิยํ สุตฺตํ สตฺตาธิฏฺานํ เอกูนวีสติยา ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เต เอกูนวีสติ โลกิยา ปุคฺคลา กตเมหิ ธมฺเมหิ นิทฺทิฏฺา สมนฺเวสิตพฺพา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เต จริเตหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เต เอกูนวีสติ โลกิยา ปุคฺคลา จริเตหิ จริตวิเสเสหิ นิทฺทิฏฺา สมนฺเวสิตพฺพาติ. ‘‘กถํ จริเตหิ นิทฺทิฏฺา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เกจิ ราคจริตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ราคจริตโทสจริตาทีหิ จริเตหิ เอกูนวีสติ โลกิยปุคฺคลา ¶ ราคจริตา, เกจิ โทสจริตา…เป… โมหจริโต จาติ นิทฺทิฏฺา. อิติ นิทฺทิฏฺเหิ อิเมหิ เอกูนวีสติยา ปุคฺคเลหิ โลกิยสตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ นิทฺทิสิตพฺพํ. ‘‘โลกิย’’นฺติ สามฺวเสน วุตฺตมฺปิ ‘‘สํกิเลสภาคิยํ โลกิย’’นฺติ วิเสสโต วิฺาตพฺพํ.
โลกิยํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ เอตฺตเกหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ อาจริเยน นิยเมตฺวา วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘วาสนาภาคิยํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ กตเมหิ ปุคฺคเลหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘วาสนาภาคิย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. วาสนาภาคิยํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ สีลวนฺเตหิ ปุคฺคเลหิ, ธมฺเมหิ จ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํ. ‘‘กิตฺตกา สีลวนฺตปุคฺคลา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เต สีลวนฺโต ปฺจ ปุคฺคลา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘กิตฺตกา ธมฺมา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปกติสีล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปกติสีลวนฺโต จ สมาทานสีลวนฺโต จ จิตฺตปฺปสาทวนฺโต ¶ จ สมถวนฺโต จ วิปสฺสนาวนฺโต จาติ ปฺจ ปุคฺคลา, ปกติสีลธมฺโม จ สมาทานสีลธมฺโม จ จิตฺตปฺปสาทธมฺโม จ สมถธมฺโม จ วิปสฺสนาธมฺโม จาติ ปฺจ ธมฺมาติ อิเมหิ ปฺจหิ ปุคฺคเลหิ, อิเมหิ ปฺจหิ ธมฺเมหิ วาสนาภาคิยํ สตฺตาธิฏฺาเนกเทสธมฺมาธิฏฺาเนกเทสํ สุตฺตํ ยถากฺกมํ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.
โลกุตฺตรํ สตฺตาธิฏฺานํ สุตฺตํ ทสฺสนภาคิยวาสนาภาคิยอเสกฺขภาคิยสุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ อาจริเยน นิยเมตฺวา วิภตฺตํ, อมฺเหหิ จ าตํ, ‘‘โลกุตฺตรํ ธมฺมาธิฏฺานํ สุตฺตํ กิตฺตเกหิ สุตฺเตหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โลกุตฺตรํ สุตฺตํ ธมฺมาธิฏฺานํ…เป… อเสกฺขภาคิเยนา’’ติ วุตฺตํ.
‘‘โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ กิตฺตเกหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โลกิยฺจ…เป… อุภเยน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อุภเยนาติ โลกิยโลกุตฺตเรน, สตฺตาธิฏฺานธมฺมาธิฏฺาเนน สมานตฺถภาเวน นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.
‘‘าณํ กิตฺตเกหิ นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘าณํ ปฺายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ สุตฺเต าณํ อาคตํ, ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต าณํ าณปริยาเยน ปฺาทินา นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.
‘‘เยฺยํ กิตฺตเกน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เยฺยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเนหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ สุตฺเต เยฺยํ อาคตํ, ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต เยฺยํ เยฺยปริยาเยน นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.
‘‘าณฺจ ¶ เยฺยฺจ กิตฺตเกน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘าณฺจ เยฺยฺจ ตทุภเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ สุตฺเต าณเยฺยา อาคตา, ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต าณเยฺยา าณเยฺยปริยาเยน นิทฺทิสิตพฺพนฺติ.
ทสฺสนสุตฺเต ยถา นิทฺทิฏฺํ, ตถา อุปธารยิตฺวา ลพฺภมานโต นิทฺทิสิตพฺพํ. ภาวนาสุตฺเต ยถา นิทฺทิฏฺํ, ตถา อุปธารยิตฺวา ลพฺภมานโต นิทฺทิสิตพฺพํ. ตทุภยํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ สุตฺเต ยถา นิทฺทิฏฺํ, ตถา อุปธารยิตฺวา ลพฺภมานโต นิทฺทิสิตพฺพํ.
‘‘สกวจนํ ¶ ปรวจน’’นฺติอาทีสุปิ เอวเมว วิสุํ วิสุํ จ เอกโต จ สุตฺเต ยถา นิทฺทิฏฺํ, ตถา อุปธารยิตฺวา ลพฺภมานโต นิทฺทิสิตพฺพนฺติ โยชนา กาตพฺพา. ‘‘เอตฺตกเมว นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ยํ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
‘‘วิปากสฺส เหตุ กมฺมเมวา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ทุวิโธ เหตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. กิเลสา สํกิเลสภาคิยสุตฺเตน สมานตฺถภาเวน นิทฺทิสิตพฺพา. ตณฺหาสงฺขาโต สมุทโย วา กิเลสสงฺขาโต สมุทโย วา อกุสลสงฺขาโต สมุทโย วา สํกิเลสภาคิเยน สุตฺเตน สมานตฺถภาเวน นิทฺทิสิตพฺโพ. โลกิยกุสลเหตุสงฺขาโต สมุทโย วา โลกิยกุสลสงฺขาโต สมุทโย วา วาสนาภาคิเยน สุตฺเตน สมานตฺถภาเวน นิทฺทิสิตพฺโพ.
กมฺมฺจ วิปาโก จ ยถารหํ ลพฺภมานสุตฺเตน นิทฺทิสิตพฺโพติ สามฺวเสน วิภตฺโต, ‘‘กุสลํ กตเมน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตตฺถ กุสล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ อฏฺวีสติยา สาสนปฏฺานสุตฺเตสุ กุสลํ จตูหิ สุตฺเตหิ สมานตฺถภาเวน นิทฺทิสิตพฺพํ. ‘‘กตเมหิ จตูหี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘วาสนาภาคิเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โลกิยกุสลํ วาสนาภาคิเยน นิทฺทิสิตพฺพํ สมานตฺถตฺตา, โลกุตฺตรกุสลํ ทสฺสนภาคิเยน, วาสนาภาคิเยน, อเสกฺขภาคิเยน จ ยถารหํ สมานตฺถภาเวน นิทฺทิสิตพฺพํ. กุสลํ เอตฺตเกหิ นิทฺทิสิตพฺพนฺติ นิยเมตฺวา วิภตฺตํ, ‘‘อกุสลํ กตเมน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อกุสล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘กุสลฺจ อกุสลฺจ กตเมน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘กุสลฺจ อกุสลฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ สุตฺเต ตทุภยํ อาคตํ, ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต อาคเตน ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ.
‘‘อนฺุาตํ กตเมน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อนฺุาต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อนฺุาตํ ¶ ภควโต อนฺุาตาย สมานตาย นิทฺทิสิตพฺพํ. ‘‘กติวิธํ อนฺุาต’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตํ ปฺจวิธ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยํ อนฺุาตํ ยาสุ ยาสุ ภูมีสุ ทิสฺสติ, ตํ อนฺุาตํ ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อาคเตน สมาเนน กปฺปิยานุโลเมน นิทฺทิสิตพฺพํ.
อนฺุาตํ ¶ อิมินา นิทฺทิสิตพฺพนฺติ อาจริเยน นิยเมตฺวา วิภตฺตํ, ‘‘ปฏิกฺขิตฺตํ กตเมน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ปฏิกฺขิตฺตํ ภควตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภควตา ปฏิกฺขิตฺตํ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตการเณน สุตฺเต อาคเตน วตฺถุนา การณผลภาเวน นิทฺทิสิตพฺพํ. ยํ ปฏิกฺขิตฺตํ ยาสุ ยาสุ ภูมีสุ ทิสฺสติ, ตํ ปน ปฏิกฺขิตฺตํ ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อาคเตน ปากเฏน อกปฺปิยานุโลเมน นิทฺทิสิตพฺพํ.
‘‘อนฺุาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ กตเมน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘อนฺุาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ สุตฺเต อนฺุาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ อาคตํ, ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต อาคเตน ตทุภเยน นิทฺทิสิตพฺพํ.
‘‘ถโว กตเมน นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ถโว ปสํสายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมึ ยสฺมึ สุตฺเต ยา ยา ปสํสา อาคตา, ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต อาคตาย ตาย ตาย ปสํสาย ถโว นิทฺทิสิตพฺโพ. ‘‘โย ถโว ปสํสาย นิทฺทิสิตพฺโพ, โส ถโว กติวิเธน นิทฺทิสิตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘โส ปฺจวิเธนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ภควโต ถโว จ ธมฺมสฺส ถโว จ อริยสงฺฆสฺส ถโว จ อริยธมฺมานํ สิกฺขาย ถโว จ โลกิยคุณสมฺปตฺติยา ถโว จาติ ปฺจวิเธน เวทิตพฺโพ. อิติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน ปฺจวิเธน ถโว นิทฺทิสิตพฺโพ.
อมฺหากาจริย อมฺหากาจริเยน อฏฺารส มูลปทา สาสนปฏฺาเน ทฏฺพฺพาติ วุตฺตา, ‘‘กตมานิ ตานิ อฏฺารส มูลปทานี’’ติ ปุจฺฉิตพฺพตฺตา ‘‘อินฺทฺริยภูมี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาสนปฏฺาเน อินฺทฺริยภูมิ สทฺธินฺทฺริยาทิอินฺทฺริยภูมิ เยหิ นวหิ ปเทหิ นิทฺทิสิตพฺพา, สาสนปฏฺาเน กิเลสภูมิ เยหิ นวหิ ปเทหิ นิทฺทิสิตพฺพา, เอวํ อิมินา ปกาเรน เอตานิ มูลปทานิ นว ปทานิ กุสลปทานิ, นว ปทานิ อกุสลปทานีติ อฏฺารส มูลปทานิ โหนฺติ. สาสนปฏฺาเน ทฏฺพฺพา, ‘‘เกน การเณน อฏฺารส มูลปทา สาสนปฏฺาเน ทฏฺพฺพาติ วิฺายตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หีติ ตโต เอว อฏฺารสมูลปทานํ สาสนปฏฺาเน ทฏฺพฺพตฺตา ‘‘อฏฺารส มูลปทา กุหึ ทฏฺพฺพา? สาสนปฏฺาเน’’ติ ยํ ¶ วจนํ วุตฺตํ, เตน วจเนน วิฺายตีติ. ‘‘เกน มูลปทานํ นวกุสลปทนวอกุสลปทภาเวน ¶ อฏฺารสภาโว วิฺายตี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เตนาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน มูลปทานํ นวกุสลปทนวอกุสลปทภาวโต อายสฺมา มหากจฺจาโน –
‘‘นวหิ จ ปเทหิ กุสลา, นวหิ จ ยุชฺชนฺติ อกุสลปกฺขา;
เอเต โข มูลปทา, ภวนฺติ อฏฺารส ปทานี’’ติ. –
ยํ วจนํ อาห, เตน ‘‘นวหิ…เป… ปทานี’’ติ วจเนน มูลปทานํ นวกุสลปทนวอกุสลปทภาเวน อฏฺารสภาโว วิฺายตีติ.
‘‘ยํ ยํ สํกิเลสภาคิยาทิโสฬสวิธํ สาสนปฏฺานฺเจว ยํ ยํ โลกิยาทิอฏฺวีสติวิธํ สาสนปฏฺานฺจ อาจริเยน นิทฺธาริตํ, เอตฺตกเมว ปริปุณฺณํ, อฺํ สาสนปฏฺานํ นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺตํ ยุชฺชิตพฺพํ นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘นิยุตฺตํ สาสนปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ยถานิทฺธาริตสาสนปฏฺานโต ยํ ยํ อฺํ สาสนปฏฺานํ นิทฺธาริตํ อตฺถิ, ตํ ตํ อฺํ สาสนปฏฺานํ นิยุตฺตํ ยถารหํ นิทฺธาเรตฺวา ยุตฺตํ ยุชฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ คเหตพฺโพติ.
‘‘ยํ โลโก ปูชยเต…เป… นิยุตฺตํ สาสนปฏฺานนฺติ ยตฺตโก วจนกฺกโม ภาสิโต, เอตฺตเกน วจนกฺกเมน กึ เนตฺติ สมตฺตา, อุทาหุ อสมตฺตา’’ติ วตฺตพฺพตฺตา ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อายสฺมตา มหากจฺจาเนน ยา เนตฺติ ภาสิตา, ภควตา สา เนตฺติ อนุโมทิตา, มูลสงฺคีติยํ สงฺคายนฺเตหิ เถราสเภหิ ยา เนตฺติ สงฺคีตา, สา เนตฺติ ‘‘ยํ โลโก ปูชยเต…เป… นิยุตฺตํ สาสนปฏฺาน’’นฺติ เอตฺตาวตา วจนกฺกเมน สมตฺตา ปริปุณฺณาว โหติ.
อิติ สมตฺตาย อายสฺมตา มหากจฺจาเนน ภาสิตาย ภควตา อนุโมทิตาย มูลสงฺคีติยํ สงฺคายนฺเตหิ เถราสเภหิ สงฺคีตาย เนตฺติยา อตฺถวณฺณนา สทฺธมฺมปาลนาเมน มหาธมฺมราชคุรุนา มหาเถเรน รจิตา ชินปุตฺตานํ หิตกรา เนตฺติวิภาวนา ฉพฺพีสาธิกนวสเต สกฺกราเช สาวณมาเส สุกฺกปกฺเข นวมทิวเส สูริยุคฺคมนสมเย สมตฺตา.
อิติ สาสนปฏฺาเน สตฺติพลานุรูปา รจิตา วิภาวนา
นิฏฺิตา.
นิคมนกถา
สพฺพสตฺตุตฺตโม ¶ ¶ นาโถ, โลเก อุปฺปชฺชิ นายโก;
สมฺพุทฺโธ โคตโม ชิโน, อเนกคุณลงฺกโต.
สาสนํ ตสฺส เสฏฺสฺส, อฏฺวสฺสสตาธิกํ;
ทฺวิสหสฺสํ ยทา ปตฺตํ, นิมฺมลํ วฑฺฒนํ สุภํ.
ตทา ภูมิสฺสโร มหาธมฺมราชา มหิทฺธิโก;
อาณาจกฺเกน สาเรติ, ราชา โนอนุวตฺตเก.
ลทฺธา เสตคเช วเร, โลเก วิมฺหยชานเก;
อปฺปมตฺโต มหาวีโร, ปฺุํ กตฺวาภิโมทติ.
ตสฺมึ วสฺเสว สาวเณ, มาเส นวมทิวเส;
สูริยุคฺคมเน กาเล, นิพฺพตฺตายํ วิภาวนา.
ยตฺตกํ สาสนํ ิตํ, ตตฺตกํ รจิตํ มยา;
าตุ เนตฺติวิภาวนา, ชินปุตฺตหิตาวหา.
อิติ ตํ รจยนฺเตน, ปฺุํ อธิคตํ มยา;
โหนฺตุ ตสฺสานุภาเวน, สพฺเพ วิมุตฺติภาคิโน.
ราชเทวี ¶ ปุตฺตนตฺตา, ปนตฺตา จ สชาติกา;
สพฺเพ รชฺชสุเข ตฺวา, จรนฺตุ จริตํ สุขี.
เทโว กาเล สุวสฺสตุ, สพฺโพ รฏฺชโน สุขี;
อฺมฺํ อหึสนฺโต, ปิโย โหตุ หิตาวโหติ.
เนตฺติวิภาวินี นิฏฺิตา.