📜
๑๑. ชราวคฺโค
๑. วิสาขาย สหายิกานํ วตฺถุ
โก ¶ ¶ ¶ นุ หาโส กิมานนฺโทติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต วิสาขาย สหายิกาโย อารพฺภ กเถสิ.
สาวตฺถิยํ กิร ปฺจสตา กุลปุตฺตา ‘‘เอวํ อิมา อปฺปมาทวิหารินิโย ภวิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน อตฺตโน ภริยาโย วิสาขํ มหาอุปาสิกํ สมฺปฏิจฺฉาเปสุํ. ตา อุยฺยานํ วา วิหารํ วา คจฺฉนฺติโย ตาย สทฺธึเยว คจฺฉนฺติ. ตา เอกสฺมึ กาเล ‘‘สตฺตาหํ สุราฉโณ ภวิสฺสตี’’ติ ฉเณ สงฺฆุฏฺเ อตฺตโน อตฺตโน สามิกานํ สุรํ ปฏิยาเทสุํ. เต สตฺตาหํ สุราฉณํ กีฬิตฺวา อฏฺเม ทิวเส กมฺมนฺตเภริยา นิกฺขนฺตาย กมฺมนฺเต อคมํสุ. ตาปิ อิตฺถิโย ‘‘มยํ สามิกานํ สมฺมุขา สุรํ ปาตุํ น ลภิมฺหา, อวเสสา สุรา จ อตฺถิ, อิทํ ยถา เต น ชานนฺติ, ตถา ปิวิสฺสามา’’ติ วิสาขาย สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อิจฺฉาม, อยฺเย, อุยฺยานํ ทฏฺุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘สาธุ, อมฺมา, เตน หิ กตฺตพฺพกิจฺจานิ กตฺวา นิกฺขมถา’’ติ วุตฺเต ตาย สทฺธึ คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนากาเรน ¶ สุรํ นีหราเปตฺวา อุยฺยาเน ปิวิตฺวา มตฺตา วิจรึสุ. วิสาขาปิ ‘‘อยุตฺตํ อิมาหิ กตํ, อิทานิ มํ ‘สมณสฺส โคตมสฺส สาวิกา วิสาขา สุรํ ปิวิตฺวา วิจรตี’ติ ติตฺถิยาปิ ครหิสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตา อิตฺถิโย อาห – ‘‘อมฺมา อยุตฺตํ โว กตํ, มมปิ อยโส อุปฺปาทิโต, สามิกาปิ โว กุชฺฌิสฺสนฺติ, อิทานิ กึ กริสฺสถา’’ติ. คิลานาลยํ ทสฺสยิสฺสาม, อยฺเยติ. เตน หิ ปฺายิสฺสถ สเกน กมฺเมนาติ. ตา เคหํ คนฺตฺวา คิลานาลยํ กรึสุ. อถ ตาสํ สามิกา ‘‘อิตฺถนฺนามา จ อิตฺถนฺนามา จ กห’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา ‘‘อทฺธา เอตาหิ อวเสสสุรา ปีตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ตา โปเถตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสุํ. ตา อปรสฺมิมฺปิ ฉณวาเร ตเถว สุรํ ปิวิตุกามา วิสาขํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อยฺเย, อุยฺยานํ โน เนหี’’ติ วตฺวา ‘‘ปุพฺเพปิ เม ตุมฺเหหิ อยโส อุปฺปาทิโต, คจฺฉถ, น โว อหํ เนสฺสามี’’ติ ตาย ปฏิกฺขิตฺตา ‘‘อิทานิ เอวํ น กริสฺสามา’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ปุน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อาหํสุ, ‘‘อยฺเย ¶ , พุทฺธปูชํ กาตุกามามฺหา, วิหารํ โน เนหี’’ติ. อิทานิ อมฺมา ยุชฺชติ, คจฺฉถ, ปริวจฺฉํ กโรถาติ. ตา จงฺโกฏเกหิ คนฺธมาลาทีนิ คาหาเปตฺวา สุราปุณฺเณ มุฏฺิวารเก ¶ หตฺเถหิ โอลมฺเพตฺวา มหาปเฏ ปารุปิตฺวา วิสาขํ อุปสงฺกมิตฺวา ตาย สทฺธึ วิหารํ ปวิสมานา เอกมนฺตํ คนฺตฺวา มุฏฺิวารเกเหว สุรํ ปิวิตฺวา วารเก ฉฑฺเฑตฺวา ธมฺมสภายํ สตฺถุ ปุรโต นิสีทึสุ ¶ .
วิสาขา ‘‘อิมาสํ, ภนฺเต, ธมฺมํ กเถถา’’ติ อาห. ตาปิ มทเวเคน กมฺปมานสรีรา ‘‘อิจฺจาม, คายามา’’ติ จิตฺตํ อุปฺปาเทสุํ. อเถกา มารกายิกา เทวตา ‘‘อิมาสํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส ปุรโต วิปฺปการํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตาสํ สรีเร อธิมุจฺจิ. ตาสุ เอกจฺจา สตฺถุ ปุรโต ปาณึ ปหริตฺวา หสิตุํ, เอกจฺจา นจฺจิตุํ อารภึสุ. สตฺถา ‘‘กึ อิท’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘น อิทานิ มารกายิกานํ โอตารํ ลภิตุํ ทสฺสามิ. น หิ มยา เอตฺตกํ กาลํ ปารมิโย ปูเรนฺเตน มารกายิกานํ โอตารลาภตฺถาย ปูริตา’’ติ ตา สํเวเชตุํ ภมุกโลมโต รสฺมิโย วิสฺสชฺเชสิ, ตาวเทว อนฺธการติมิสา อโหสิ. ตา ภีตา อเหสุํ มรณภยตชฺชิตา. เตน ตาสํ กุจฺฉิยํ สุรา ชีริ. สตฺถา นิสินฺนปลฺลงฺเก อนฺตรหิโต สิเนรุมุทฺธนิ ตฺวา อุณฺณาโลมโต รสฺมึ วิสฺสชฺเชสิ, ตงฺขณํเยว จนฺทสหสฺสุคฺคมนํ วิย อโหสิ. อถ สตฺถา ตา อิตฺถิโย อามนฺเตตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ มม สนฺติกํ อาคจฺฉมานาหิ ปมตฺตาหิ อาคนฺตุํ น วฏฺฏติ. ตุมฺหากฺหิ ปมาเทเนว มารกายิกา เทวตา โอตารํ ลภิตฺวา ตุมฺเห หสาทีนํ อกรณฏฺาเน หสาทีนิ การาเปสิ, อิทานิ ตุมฺเหหิ ราคาทีนํ ¶ อคฺคีนํ นิพฺพาปนตฺถาย อุสฺสาหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘โก นุ หาโส กิมานนฺโท, นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ;
อนฺธกาเรน โอนทฺธา, ปทีปํ น คเวสถา’’ติ.
ตตฺถ อานนฺโทติ ตุฏฺิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมสฺมึ โลกสนฺนิวาเส ราคาทีหิ เอกาทสหิ อคฺคีหิ นิจฺจํ ปชฺชลิเต สติ โก นุ ตุมฺหากํ หาโส วา ¶ ตุฏฺิ วา? นนุ เอส อกตฺตพฺพรูโปเยว. อฏฺวตฺถุเกน หิ อวิชฺชานฺธกาเรน โอนทฺธา ตุมฺเห ตสฺเสว อนฺธการสฺส วิธมนตฺถาย กึ การณา าณปฺปทีปํ น คเวสถ น กโรถาติ.
เทสนาวสาเน ปฺจสตาปิ ตา อิตฺถิโย โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ.
สตฺถา ตาสํ อจลสทฺธาย ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา สิเนรุมตฺถกา โอตริตฺวา พุทฺธาสเน นิสีทิ. อถ นํ วิสาขา อาห – ‘‘ภนฺเต, สุรา นาเมสา ปาปิกา. เอวรูปา หิ นาม อิมา ¶ อิตฺถิโย ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส ปุรโต นิสีทิตฺวา อิริยาปถมตฺตมฺปิ สณฺาเปตุํ อสกฺโกนฺติโย อุฏฺาย ปาณึ ปหริตฺวา หสนคีตนจฺจาทีนิ อารภึสู’’ติ. สตฺถา ‘‘อาม, วิสาเข, ปาปิกา เอว เอสา สุรา นาม. เอตฺหิ นิสฺสาย อเนเก สตฺตา อนยพฺยสนํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา ‘‘กทา ปเนสา, ภนฺเต, อุปฺปนฺนา’’ติ วุตฺเต ตสฺสา อุปฺปตฺตึ วิตฺถาเรน กเถตุํ อตีตํ อาหริตฺวา กุมฺภชาตกํ (ชา. ๑.๑๖.๓๓ อาทโย) กเถสีติ.
วิสาขาย สหายิกานํ วตฺถุ ปมํ.
๒. สิริมาวตฺถุ
ปสฺส ¶ จิตฺตกตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สิริมํ อารพฺภ กเถสิ.
สา กิร ราชคเห อภิรูปา คณิกา. เอกสฺมึ ปน อนฺโตวสฺเส สุมนเสฏฺิปุตฺตสฺส ภริยาย ปุณฺณกเสฏฺิสฺส ธีตาย อุตฺตราย นาม อุปาสิกาย อปรชฺฌิตฺวา ตํ ปสาเทตุกามา ตสฺสา เคเห ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ กตภตฺตกิจฺจํ สตฺถารํ ขมาเปตฺวา ตํ ทิวสํ ทสพลสฺส ภตฺตานุโมทนํ สุตฺวา –
‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธํ, อสาธุํ สาธุนา ชิเน;
ชิเน กทริยํ ทาเนน, สจฺเจนาลิกวาทิน’’นฺติ. (ชา. ๑.๒.๒; ธ. ป. ๒๒๓) –
คาถาปริโยสาเน ¶ โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารกถา ปน โกธวคฺเค อนุโมทนคาถาวณฺณนายเมว อาวิภวิสฺสติ. เอวํ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา ปน สิริมา ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหาทานํ ทตฺวา สงฺฆสฺส อฏฺกภตฺตํ นิพทฺธํ ทาเปสิ. อาทิโต ปฏฺาย นิพทฺธํ อฏฺ ภิกฺขู เคหํ คจฺฉนฺติ. ‘‘สปฺปึ คณฺหถ, ขีรํ คณฺหถา’’ติอาทีนิ วตฺวา เตสํ ปตฺเต ปูเรติ. เอเกน ลทฺธํ ติณฺณมฺปิ จตุนฺนมฺปิ ปโหติ. เทวสิกํ โสฬสกหาปณปริพฺพเยน ปิณฺฑปาโต ทียติ. อเถกทิวสํ เอโก ภิกฺขุ ตสฺสา เคเห อฏฺกภตฺตํ ภฺุชิตฺวา ติโยชนมตฺถเก เอกํ วิหารํ อคมาสิ. อถ นํ สายํ เถรุปฏฺาเน นิสินฺนํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘อาวุโส, กหํ ภิกฺขํ ¶ คเหตฺวา อาคโตสี’’ติ. สิริมาย อฏฺกภตฺตํ เม ภุตฺตนฺติ. มนาปํ กตฺวา เทติ, อาวุโสติ. ‘‘น สกฺกา ตสฺสา ภตฺตํ วณฺเณตุํ, อติวิย ปณีตํ กตฺวา เทติ, เอเกน ¶ ลทฺธํ ติณฺณมฺปิ จตุนฺนมฺปิ ปโหติ, ตสฺสา ปน เทยฺยธมฺมโตปิ ทสฺสนเมว อุตฺตริตรํ. สา หิ อิตฺถี เอวรูปา จ เอวรูปา จา’’ติ ตสฺสา คุเณ วณฺเณสิ.
อเถโก ภิกฺขุ ตสฺสา คุณกถํ สุตฺวา อทสฺสเนเนว สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มยา คนฺตฺวา ตํ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ อตฺตโน วสฺสคฺคํ กเถตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ิติกํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สฺเว, อาวุโส, ตสฺมึ เคเห ตฺวํ สงฺฆตฺเถโร หุตฺวา อฏฺกภตฺตํ ลภิสฺสสี’’ติ สุตฺวา ตงฺขณฺเว ปตฺตจีวรํ อาทาย ปกฺกนฺโตปิ ปาโตว อรุเณ อุคฺคเต สลากคฺคํ ปวิสิตฺวา ิโต สงฺฆตฺเถโร หุตฺวา ตสฺสา เคเห อฏฺกภตฺตํ ลภิ. โย ปน ภิกฺขุ หิยฺโย ภฺุชิตฺวา ปกฺกามิ, ตสฺส คตเวลายเมว อสฺสา สรีเร โรโค อุปฺปชฺชิ. ตสฺมา สา อาภรณานิ โอมฺุจิตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺสา ทาสิโย อฏฺกภตฺตํ ลภิตฺวา อาคเต ภิกฺขู ทิสฺวา อาโรเจสุํ. สา สหตฺถา ปตฺเต คเหตฺวา นิสีทาเปตุํ วา ปริวิสิตุํ วา อสกฺโกนฺตี ทาสิโย อาณาเปสิ – ‘‘อมฺมา ปตฺเต คเหตฺวา, อยฺเย, นิสีทาเปตฺวา ยาคุํ ปาเยตฺวา ขชฺชกํ ทตฺวา ภตฺตเวลาย ¶ ปตฺเต ปูเรตฺวา เทถา’’ติ. ตา ‘‘สาธุ, อยฺเย’’ติ ภิกฺขู ปเวเสตฺวา ยาคุํ ปาเยตฺวา ขชฺชกํ ทตฺวา ภตฺตเวลาย ภตฺตสฺส ปตฺเต ปูเรตฺวา ตสฺสา อาโรจยึสุ. สา ‘‘มํ ปริคฺคเหตฺวา เนถ, อยฺเย, วนฺทิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตาหิ ปริคฺคเหตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺติกํ นีตา เวธมาเนน สรีเรน ภิกฺขู วนฺทิ. โส ภิกฺขุ ตํ โอโลเกตฺวา ¶ จินฺเตสิ – ‘‘คิลานาย ตาว เอวรูปา อยํ เอติสฺสา รูปโสภา, อโรคกาเล ปน สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตาย อิมิสฺสา กีทิสี รูปสมฺปตฺตี’’ติ. อถสฺส อเนกวสฺสโกฏิสนฺนิจิโต กิเลโส สมุทาจริ, โส อฺาณี หุตฺวา ภตฺตํ ภฺุชิตุํ อสกฺโกนฺโต ปตฺตมาทาย วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ปิธาย เอกมนฺเต เปตฺวา จีวรํ ปตฺถริตฺวา นิปชฺชิ.
อถ นํ เอโก สหายโก ภิกฺขุ ยาจนฺโตปิ โภเชตุํ นาสกฺขิ. โส ฉินฺนภตฺโต อโหสิ. ตํ ทิวสเมว สายนฺหสมเย สิริมา กาลมกาสิ. ราชา สตฺถุ สาสนํ เปเสสิ – ‘‘ภนฺเต, ชีวกสฺส กนิฏฺภคินี, สิริมา, กาลมกาสี’’ติ. สตฺถา ตํ สุตฺวา รฺโ สาสนํ ปหิณิ ‘‘สิริมาย ฌาปนกิจฺจํ นตฺถิ, อามกสุสาเน ตํ ยถา กากสุนขาทโย น ขาทนฺติ, ตถา นิปชฺชาเปตฺวา รกฺขาเปถา’’ติ. ราชาปิ ตถา อกาสิ. ปฏิปาฏิยา ตโย ทิวสา อติกฺกนฺตา, จตุตฺเถ ทิวเส สรีรํ อุทฺธุมายิ, นวหิ วณมุเขหิ ปุฬวา ปคฺฆรึสุ ¶ , สกลสรีรํ ภินฺนํ สาลิภตฺตจาฏิ วิย อโหสิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘เปตฺวา เคหรกฺขเก ทารเก สิริมาย ทสฺสนตฺถํ อนาคจฺฉนฺตานํ อฏฺ กหาปณานิ ทณฺโฑ’’ติ. สตฺถุ สนฺติ กฺจ เปเสสิ – ‘‘พุทฺธปฺปมุโข กิร ภิกฺขุสงฺโฆ สิริมาย ทสฺสนตฺถํ อาคจฺฉตู’’ติ. สตฺถา ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ – ‘‘สิริมาย ทสฺสนตฺถํ คมิสฺสามา’’ติ. โสปิ ทหรภิกฺขุ จตฺตาโร ¶ ทิวเส กสฺสจิ วจนํ อคฺคเหตฺวา ฉินฺนภตฺโตว นิปชฺชิ. ปตฺเต ภตฺตํ ปูติกํ ชาตํ, ปตฺเต มลํ อุฏฺหิ. อถ นํ โส สหายโก ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อาวุโส, สตฺถา สิริมาย ทสฺสนตฺถํ คจฺฉตี’’ติ อาห. โส ตถา ฉาตชฺฌตฺโตปิ ‘‘สิริมา’’ติ วุตฺตปเทเยว สหสา อุฏฺหิตฺวา ‘‘กึ ภณสี’’ติ อาห. ‘‘สตฺถา สิริมํ ทฏฺุํ คจฺฉติ, ตฺวมฺปิ คมิสฺสสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, คมิสฺสามี’’ติ ภตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวา ปตฺตํ โธวิตฺวา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อคมาสิ. สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต เอกปสฺเส อฏฺาสิ, ภิกฺขุนิสงฺโฆปิ ราชปริสาปิ อุปาสกปริสาปิ อุปาสิกาปริสาปิ เอเกกปสฺเส อฏฺํสุ ¶ .
สตฺถา ราชานํ ปุจฺฉิ – ‘‘กา เอสา, มหาราโช’’ติ. ภนฺเต, ชีวกสฺส ภคินี, สิริมา, นามาติ. สิริมา, เอสาติ. อาม, ภนฺเตติ. เตน ¶ หิ นคเร เภรึ จราเปหิ ‘‘สหสฺสํ ทตฺวา สิริมํ คณฺหนฺตู’’ติ. ราชา ตถา กาเรสิ. เอโกปิ ‘ห’นฺติ วา ‘หุ’นฺติ วา วทนฺโต นาม นาโหสิ. ราชา สตฺถุ อาโรเจสิ – ‘‘น คณฺหนฺติ, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ, มหาราช, อคฺฆํ โอหาเรหีติ. ราชา ‘‘ปฺจสตานิ ทตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา กฺจิ คณฺหนกํ อทิสฺวา ‘‘อฑฺฒเตยฺยานิ สตานิ, ทฺเว สตานิ, สตํ, ปณฺณาสํ, ปฺจวีสติ กหาปเณ, ทส กหาปเณ, ปฺจ กหาปเณ, เอกํ กหาปณํ อฑฺฒํ, ปาทํ, มาสกํ, กากณิกํ ทตฺวา สิริมํ คณฺหนฺตู’’ติ เภรึ จราเปสิ. โกจิ ตํ น อิจฺฉิ. ‘‘มุธาปิ คณฺหนฺตู’’ติ เภรึ จราเปสิ. ‘ห’นฺติ วา ‘หุ’นฺติ วา วทนฺโต นาม นาโหสิ. ราชา ‘‘มุธาปิ, ภนฺเต, คณฺหนฺโต นาม นตฺถี’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘ปสฺสถ, ภิกฺขเว, มหาชนสฺส ปิยํ มาตุคามํ, อิมสฺมึเยว นคเร สหสฺสํ ทตฺวา ปุพฺเพ เอกทิวสํ ลภึสุ, อิทานิ มุธา คณฺหนฺโตปิ นตฺถิ, เอวรูปํ นาม ¶ รูปํ ขยวยปฺปตฺตํ, ปสฺสถ, ภิกฺขเว, อาตุรํ อตฺตภาว’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปสฺส จิตฺตกตํ พิมฺพํ, อรุกายํ สมุสฺสิตํ;
อาตุรํ พหุสงฺกปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิตี’’ติ.
ตตฺถ จิตฺตกตนฺติ กตจิตฺตํ, วตฺถาภรณมาลาลตฺตกาทีหิ วิจิตฺตนฺติ อตฺโถ. พิมฺพนฺติ ทีฆาทิยุตฺตฏฺาเนสุ ทีฆาทีหิ องฺคปจฺจงฺเคหิ สณฺิตํ อตฺตภาวํ. อรุกายนฺติ นวนฺนํ วณมุขานํ วเสน อรุภูตํ กายํ. สมุสฺสิตนฺติ ตีหิ อฏฺิสเตหิ สมุสฺสิตํ. อาตุรนฺติ สพฺพกาลํ อิริยาปถาทีหิ ปริหริตพฺพตาย นิจฺจคิลานํ. พหุสงฺกปฺปนฺติ มหาชเนน พหุธา สงฺกปฺปิตํ. ยสฺส นตฺถิ ธุวํ ิตีติ ยสฺส ธุวภาโว วา ิติภาโว วา นตฺถิ, เอกนฺเตน เภทนวิกิรณวิทฺธํสนธมฺมเมเวตํ, อิมํ ปสฺสถาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน ¶ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, โสปิ ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ.
สิริมาวตฺถุ ทุติยํ.
๓. อุตฺตราเถรีวตฺถุ
ปริชิณฺณมิทนฺติ ¶ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุตฺตราเถรึ นาม ภิกฺขุนึ อารพฺภ กเถสิ.
เถรี กิร วีสวสฺสสติกา ชาติยา ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธปิณฺฑปาตา อนฺตรวีถิยํ เอกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา ปิณฺฑปาเตน อาปุจฺฉิตฺวา ตสฺส อปฏิกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺตสฺส สพฺพํ ทตฺวา นิราหารา อโหสิ. เอวํ ทุติเยปิ ตติเยปิ ทิวเส ตสฺเสว ภิกฺขุโน ตสฺมึเยว าเน ภตฺตํ ทตฺวา นิราหารา อโหสิ, จตุตฺเถ ทิวเส ปน ปิณฺฑาย จรนฺตี เอกสฺมึ สมฺพาธฏฺาเน สตฺถารํ ทิสฺวา ปฏิกฺกมนฺตี โอลมฺพนฺตํ อตฺตโน จีวรกณฺณํ อกฺกมิตฺวา สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี ปริวตฺติตฺวา ปติ. สตฺถา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ภคินิ, ปริชิณฺโณ เต อตฺตภาโว น จิรสฺเสว ภิชฺชิสฺสตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปริชิณฺณมิทํ รูปํ, โรคนีฬํ ปภงฺคุรํ;
ภิชฺชติ ปูติสนฺเทโห, มรณนฺตฺหิ ชีวิต’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – ภคินิ อิทํ ตว สรีรสงฺขาตํ รูปํ มหลฺลกภาเวน ปริชิณฺณํ, ตฺจ โข สพฺพโรคานํ นิวาสฏฺานฏฺเน โรคนีฬํ, ยถา โข ปน ตรุโณปิ สิงฺคาโล ‘‘ชรสิงฺคาโล’’ติ วุจฺจติ, ตรุณาปิ คโฬจีลตา ‘‘ปูติลตา’’ติ ¶ วุจฺจติ, เอวํ ตทหุชาตํ สุวณฺณวณฺณมฺปิ สมานํ นิจฺจํ ปคฺฆรณฏฺเน ปูติตาย ปภงฺคุรํ, โส เอส ปูติโก สมาโน ตว เทโห ภิชฺชติ, น จิรสฺเสว ภิชฺชิสฺสตีติ เวทิตพฺโพ. กึ การณา? มรณนฺตฺหิ ชีวิตํ ยสฺมา สพฺพสตฺตานํ ชีวิตํ มรณปริโยสานเมวาติ วุตฺตํ โหติ.
เทสนาวสาเน สา เถรี โสตาปตฺติผลํ ปตฺตา, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
อุตฺตราเถรีวตฺถุ ตติยํ.
๔. สมฺพหุลอธิมานิกภิกฺขุวตฺถุ
ยานิมานีติ ¶ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สมฺพหุเล อธิมานิเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ.
ปฺจสตา กิร ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ฆเฏนฺตา วายมนฺตา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘กิเลสานํ อสมุทาจาเรน ปพฺพชิตกิจฺจํ โน นิปฺผนฺนํ, อตฺตนา ปฏิลทฺธคุณํ สตฺถุ อาโรเจสฺสามา’’ติ อาคมึสุ. สตฺถา เตสํ พหิทฺวารโกฏฺกํ ปตฺตกาเลเยว อานนฺทตฺเถรํ อาห – ‘‘อานนฺท, เอเตสํ ภิกฺขูนํ ปวิสิตฺวา มยา ทิฏฺเน กมฺมํ นตฺถิ, อามกสุสานํ ¶ คนฺตฺวา ตโต อาคนฺตฺวา มํ ปสฺสนฺตู’’ติ. เถโร คนฺตฺวา เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. เต ‘‘กึ อมฺหากํ อามกสุสาเนนา’’ติ อวตฺวาว ‘‘ทีฆทสฺสินา พุทฺเธน การณํ ทิฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ อามกสุสานํ คนฺตฺวา ตตฺถ กุณปานิ ปสฺสนฺตา เอกาหทฺวีหปติเตสุ กุณเปสุ อาฆาตํ ปฏิลภิตฺวา ตํ ขณํ ปติเตสุ อลฺลสรีเรสุ ราคํ อุปฺปาทยึสุ, ตสฺมึ ขเณ อตฺตโน สกิเลสภาวํ ชานึสุ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว โอภาสํ ผริตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ สมฺมุเข กเถนฺโต วิย ‘‘นปฺปติรูปํ นุ โข, ภิกฺขเว, ตุมฺหากํ เอวรูปํ อฏฺิสงฺฆาตํ ทิสฺวา ราครตึ อุปฺปาเทตุ’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ยานิมานิ อปตฺถานิ, อลาพูเนว สารเท;
กาโปตกานิ อฏฺีนิ, ตานิ ทิสฺวาน กา รตี’’ติ.
ตตฺถ อปตฺถานีติ ฉฑฺฑิตานิ. สารเทติ สรทกาเล วาตาตปปหตานิ ตตฺถ ตตฺถ วิปฺปกิณฺณอลาพูนิ วิย. กาโปตกานีติ กโปตกวณฺณานิ. ตานิ ทิสฺวานาติ ตานิ เอวรูปานิ อฏฺีนิ ทิสฺวา ตุมฺหากํ กา รติ, นนุ อปฺปมตฺตกมฺปิ กามรตึ กาตุํ น วฏฺฏติเยวาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน เต ภิกฺขู ยถาิตาว อรหตฺตํ ปตฺวา ภควนฺตํ อภิตฺถวมานา อาคนฺตฺวา วนฺทึสูติ.
สมฺพหุลอธิมานิกภิกฺขุวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. ชนปทกลฺยาณี รูปนนฺทาเถรีวตฺถุ
อฏฺีนํ ¶ ¶ ¶ นครํ กตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ชนปทกลฺยาณึ รูปนนฺทาเถรึ อารพฺภ กเถสิ.
สา กิร เอกทิวสํ จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ เชฏฺภาติโก รชฺชสิรึ ปหาย ปพฺพชิตฺวา โลเก อคฺคปุคฺคโล พุทฺโธ ชาโต, ปุตฺโตปิสฺส ราหุลกุมาโร ปพฺพชิโต, ภตฺตาปิ เม ปพฺพชิโต, มาตาปิ เม ปพฺพชิตา, อหมฺปิ เอตฺตเก าติชเน ปพฺพชิเต เคเห กึ กริสฺสามิ, ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. สา ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิ าติสิเนเหเนว, โน สทฺธาย, อภิรูปตาย ปน รูปนนฺทาติ ปฺายิ. ‘‘สตฺถา กิร ‘รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา, เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ วเทตี’’ติ สุตฺวา สา เอวํ ทสฺสนีเย ปาสาทิเก มมปิ รูเป โทสํ กเถยฺยาติ สตฺถุ สมฺมุขีภาวํ น คจฺฉติ. สาวตฺถิวาสิโน ปาโตว ทานํ ทตฺวา สมาทินฺนุโปสถา สุทฺธุตฺตราสงฺคา คนฺธมาลาทิหตฺถา สายนฺหสมเย เชตวเน สนฺนิปติตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติ. ภิกฺขุนิสงฺโฆปิ สตฺถุ ธมฺมเทสนาย อุปฺปนฺนจฺฉนฺโท วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณาติ. ธมฺมํ สุตฺวา นครํ ปวิสนฺโต สตฺถุ คุณกถํ กเถนฺโตว ปวิสติ.
จตุปฺปมาณิเก หิ โลกสนฺนิวาเส อปฺปกาว เต สตฺตา, เยสํ ตถาคตํ ปสฺสนฺตานํ ปสาโท น อุปฺปชฺชติ. รูปปฺปมาณิกาปิ หิ ตถาคตสฺส ลกฺขณานุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตํ สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ ทิสฺวา ปสีทนฺติ, โฆสปฺปมาณิกาปิ ¶ อเนกานิ ชาติสตานิ นิสฺสาย ปวตฺตํ สตฺถุ คุณโฆสฺเจว อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ ธมฺมเทสนาโฆสฺจ สุตฺวา ปสีทนฺติ, ลูขปฺปมาณิกาปิสฺส จีวราทิลูขตํ ปฏิจฺจ ปสีทนฺติ, ธมฺมปฺปมาณิกาปิ ‘‘เอวรูปํ ทสพลสฺส สีลํ, เอวรูโป สมาธิ, เอวรูปา ปฺา, ภควา สีลาทีหิ คุเณหิ อสโม อปฺปฏิปุคฺคโล’’ติ ปสีทนฺติ. เตสํ ตถาคตสฺส คุณํ กเถนฺตานํ มุขํ นปฺปโหติ. รูปนนฺทา ภิกฺขุนีนฺเจว อุปาสิกานฺจ สนฺติกา ตถาคตสฺส คุณกถํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อติวิย เม ภาติกสฺส วณฺณํ กเถนฺติเยว. เอกทิวสมฺปิ เม รูเป โทสํ กเถนฺโต กิตฺตกํ กเถสฺสติ. ยํนูนาหํ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ คนฺตฺวา อตฺตานํ อทสฺเสตฺวาว ตถาคตํ ปสฺสิตฺวา ธมฺมมสฺส สุณิตฺวา อาคจฺเฉยฺย’’นฺติ. สา ‘‘อหมฺปิ อชฺช ธมฺมสฺสวนํ คมิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุนีนํ ¶ อาโรเจสิ.
ภิกฺขุนิโย ¶ ‘‘จิรสฺสํ วต รูปนนฺทาย สตฺถุ อุปฏฺานํ คนฺตุกามตา อุปฺปนฺนา, อชฺช สตฺถา ¶ อิมํ นิสฺสาย วิจิตฺรธมฺมเทสนํ นานานยํ เทเสสฺสตี’’ติ ตุฏฺมานสา ตํ อาทาย นิกฺขมึสุ. สา นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย ‘‘อหํ อตฺตานํ เนว ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. สตฺถา ‘‘อชฺช รูปนนฺทา มยฺหํ อุปฏฺานํ อาคมิสฺสติ, กีทิสี นุ โข ตสฺสา ธมฺมเทสนา สปฺปายา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘รูปครุกา เอสา อตฺตภาเว พลวสิเนหา, กณฺฏเกน กณฺฏกุทฺธรณํ วิย รูเปเนวสฺสา รูปมทนิมฺมทนํ สปฺปาย’’นฺติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตสฺสา วิหารํ ปวิสนสมเย เอกํ ปน อภิรูปํ อิตฺถึ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกํ รตฺตวตฺถนิวตฺถํ สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตํ พีชนึ คเหตฺวา อตฺตโน สนฺติเก ตฺวา พีชยมานํ อิทฺธิพเลน อภินิมฺมินิ. ตํ โข ปน อิตฺถึ สตฺถา เจว ปสฺสติ รูปนนฺทา จ. สา ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ วิหารํ ปวิสิตฺวา ภิกฺขุนีนํ ปิฏฺิปสฺเส ตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ภิกฺขุนีนํ อนฺตเร นิสินฺนา ปาทนฺตโต ปฏฺาย สตฺถารํ โอโลเกนฺตี ลกฺขณวิจิตฺตํ อนุพฺยฺชนสมุชฺชลํ พฺยามปฺปภาปริกฺขิตฺตํ สตฺถุ สรีรํ ทิสฺวา ปุณฺณจนฺทสสฺสิริกํ มุขํ โอโลเกนฺตี สมีเป ิตํ อิตฺถิรูปํ อทฺทส ¶ . สา ตํ โอโลเกตฺวา อตฺตภาวํ โอโลเกนฺตี สุวณฺณราชหํสิยา ปุรโต กากีสทิสํ อตฺตานํ อวมฺิ. อิทฺธิมยรูปํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาเยว หิ ตสฺสา อกฺขีนิ ภมึสุ. สา ‘‘อโห อิมิสฺสา เกสา โสภนา, อโห นลาฏํ โสภน’’นฺติ สพฺเพสํ สารีรปฺปเทสานํ รูปสิริยา สมากฑฺฒิตจิตฺตา ตสฺมึ รูเป พลวสิเนหา อโหสิ.
สตฺถา ตสฺสา ตตฺถ อภิรตึ ตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโตว ตํ รูปํ โสฬสวสฺสุทฺเทสิกภาวํ อติกฺกมิตฺวา วีสติวสฺสุทฺเทสิกํ กตฺวา ทสฺเสสิ. รูปนนฺทา โอโลเกตฺวา ‘‘น วติทํ รูปํ ปุริมสทิส’’นฺติ โถกํ วิรตฺตจิตฺตา อโหสิ. สตฺถา อนุกฺกเมเนว ตสฺสา อิตฺถิยา สกึ วิชาตวณฺณํ มชฺฌิมิตฺถิวณฺณํ ชราชิณฺณมหลฺลิกิตฺถิวณฺณฺจ ทสฺเสสิ. สาปิ อนุปุพฺเพเนว ‘‘อิทมฺปิ อนฺตรหิตํ, อิทมฺปิ อนฺตรหิต’’นฺติ ชราชิณฺณกาเล ตํ วิรชฺชมานา ขณฺฑทนฺตึ ปลิตสิรํ โอภคฺคํ โคปานสิวงฺกํ ทณฺฑปรายณํ ปเวธมานํ ทิสฺวา อติวิย วิรชฺชิ. อถ สตฺถา ตํ พฺยาธินา อภิภูตํ กตฺวา ทสฺเสสิ. สา ตงฺขณฺเว ทณฺฑฺจ ตาลวณฺฏฺจ ฉฑฺเฑตฺวา มหาวิรวํ ¶ วิรวมานา ภูมิยํ ปติตฺวา สเก มุตฺตกรีเส นิมุคฺคา อปราปรํ ปริวตฺติ. รูปนนฺทา ตมฺปิ ¶ ทิสฺวา อติวิย วิรชฺชิ. สตฺถาปิ ตสฺสา อิตฺถิยา มรณํ ทสฺเสสิ. สา ตงฺขณํเยว อุทฺธุมาตกภาวํ อาปชฺชิ, นวหิ วณมุเขหิ ปุพฺพวฏฺฏิโย เจว ปุฬวา จ ปคฺฆรึสุ, กากาทโย สนฺนิปติตฺวา วิลุมฺปึสุ. รูปนนฺทาปิ ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ อิตฺถี อิมสฺมึเยว าเน ชรํ ปตฺตา, พฺยาธึ ปตฺตา, มรณํ ปตฺตา, อิมสฺสาปิ เม อตฺตภาวสฺส เอวเมว ชราพฺยาธิมรณานิ อาคมิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตภาวํ อนิจฺจโต ปสฺสิ. อนิจฺจโต ทิฏฺตฺตา เอว ปน ทุกฺขโต อนตฺตโต ทิฏฺโเยว โหติ. อถสฺสา ตโย ภวา อาทิตฺตา เคหา วิย คีวาย พทฺธกุณปํ วิย จ ¶ อุปฏฺหึสุ, กมฺมฏฺานาภิมุขํ จิตฺตํ ปกฺขนฺทิ. สตฺถา ตาย อนิจฺจโต ทิฏฺภาวํ ตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสติ นุ โข สยเมว อตฺตโน ปติฏฺํ กาตุ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ‘‘น สกฺขิสฺสติ, พหิทฺธา ปจฺจยํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺสา สปฺปายวเสน ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –
‘‘อาตุรํ อสุจึ ปูตึ, ปสฺส นนฺเท สมุสฺสยํ;
อุคฺฆรนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ, พาลานํ อภิปตฺถิตํ.
‘‘ยถา อิทํ ตถา เอตํ, ยถา เอตํ ตถา อิทํ;
ธาตุโต สฺุโต ปสฺส, มา โลกํ ปุนราคมิ;
ภเว ฉนฺทํ วิราเชตฺวา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ. –
อิตฺถํ ¶ สุทํ ภควา นนฺทํ ภิกฺขุนึ อารพฺภ อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ. นนฺทา เทสนานุสาเรน าณํ เปเสตฺวา โสตาปตฺติผลํ ปาปุณิ. อถสฺสา อุปริ ติณฺณํ มคฺคผลานํ วิปสฺสนาปริวาสตฺถาย สฺุตากมฺมฏฺานํ กเถตุํ, ‘‘นนฺเท, มา ‘อิมสฺมึ สรีเร สาโร อตฺถี’ติ สฺํ กริ. อปฺปมตฺตโกปิ หิ เอตฺถ สาโร นตฺถิ, ตีณิ อฏฺิสตานิ อุสฺสาเปตฺวา กตํ อฏฺินครเมต’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อฏฺีนํ นครํ กตํ, มํสโลหิตเลปนํ;
ยตฺถ ชรา จ มจฺจุ จ, มาโน มกฺโข จ โอหิโต’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ยเถว หิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณาทีนํ โอทหนตฺถาย กฏฺานิ อุสฺสาเปตฺวา วลฺลีหิ พนฺธิตฺวา มตฺติกาย วิลิมฺเปตฺวา นครสงฺขาตํ พหิทฺธา เคหํ ¶ กโรนฺติ, เอวมิทํ อชฺฌตฺติกมฺปิ ตีณิ อฏฺิสตานิ อุสฺสาเปตฺวา นฺหารุวินทฺธํ มํสโลหิตเลปนํ ตจปฏิจฺฉนฺนํ ชีรณลกฺขณาย ชราย มรณลกฺขณสฺส มจฺจุโน อาโรหสมฺปทาทีนิ ปฏิจฺจ มฺนลกฺขณสฺส มานสฺส สุกตการณวินาสนลกฺขณสฺส มกฺขสฺส จ โอทหนตฺถาย ¶ นครํ กตํ. เอวรูโป เอว หิ เอตฺถ กายิกเจตสิโก อาพาโธ โอหิโต, อิโต อุทฺธํ กิฺจิ คยฺหูปคํ นตฺถีติ.
เทสนาวสาเน สา เถรี อรหตฺตํ ปาปุณิ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
ชนปทกลฺยาณี รูปนนฺทาเถรีวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. มลฺลิกาเทวีวตฺถุ
ชีรนฺติ ¶ เวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวึ อารพฺภ กเถสิ.
สา กิร เอกทิวสํ นฺหานโกฏฺกํ ปวิฏฺา มุขํ โธวิตฺวา โอนตสรีรา ชงฺฆํ โธวิตุํ อารภิ. ตาย จ สทฺธึเยว ปวิฏฺโ เอโก วลฺลภสุนโข อตฺถิ. โส ตํ ตถา โอนตํ ทิสฺวา อสทฺธมฺมสนฺถวํ กาตุํ อารภิ. สา ผสฺสํ สาทิยนฺตี อฏฺาสิ. ราชาปิ อุปริปาสาเท วาตปาเนน โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ตโต อาคตกาเล ‘‘นสฺส, วสลิ, กสฺมา เอวรูปมกาสี’’ติ อาห. กึ มยา กตํ, เทวาติ. สุนเขน สทฺธึ สนฺถโวติ. นตฺเถตํ, เทวาติ. มยา สามํ ทิฏฺํ, นาหํ ตว สทฺทหิสฺสามิ, นสฺส, วสลีติ. ‘‘มหาราช, โย โกจิ อิมํ โกฏฺกํ ปวิฏฺโ อิมินา วาตปาเนน โอโลเกนฺตสฺส เอโกว ทฺวิธา ปฺายตี’’ติ อภูตํ กเถสิ. เทว, สเจ เม สทฺทหสิ, เอตํ โกฏฺกํ ปวิส, อหํ ตํ อิมินา วาตปาเนน ¶ โอโลเกสฺสามีติ. ราชา มูฬฺหธาตุโก ตสฺสา วจนํ สทฺทหิตฺวา โกฏฺกํ ปาวิสิ. สาปิ โข เทวี วาตปาเน ตฺวา โอโลเกนฺตี ‘‘อนฺธพาล, มหาราช, กึ นาเมตํ, อชิกาย สทฺธึ สนฺถวํ กโรสี’’ติ อาห. ‘‘นาหํ, ภทฺเท, เอวรูปํ กโรมี’’ติ จ วุตฺเตปิ ‘‘มยา สามํ ทิฏฺํ, นาหํ ตว สทฺทหิสฺสามี’’ติ อาห.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา ‘‘อทฺธา อิมํ โกฏฺกํ ปวิฏฺโ เอโกว ทฺวิธา ปฺายตี’’ติ สทฺทหิ. มลฺลิกา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา อนฺธพาลตาย มยา วฺจิโต, ปาปํ เม กตํ, อยฺจ เม อภูเตน อพฺภาจิกฺขิโต, อิทํ เม กมฺมํ สตฺถาปิ ชานิสฺสติ, ทฺเว อคฺคสาวกาปิ อสีติ มหาสาวกาปิ ชานิสฺสนฺติ, อโห วต เม ภาริยํ กมฺมํ กต’’นฺติ. อยํ กิร รฺโ อสทิสทาเน สหายิกา อโหสิ. ตตฺถ จ เอกทิวสํ กตปริจฺจาโค ธนสฺส จุทฺทสโกฏิอคฺฆนโก อโหสิ. ตถาคตสฺส เสตจฺฉตฺตํ นิสีทนปลฺลงฺโก อาธารโก ปาทปีนฺติ อิมานิ ปน จตฺตาริ อนคฺฆาเนว อเหสุํ. สา มรณกาเล เอวรูปํ มหาปริจฺจาคํ นานุสฺสริตฺวา ตเทว ปาปกมฺมํ อนุสฺสรนฺตี กาลํ กตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติ. รฺโ ปน สา อติวิย ปิยา อโหสิ. โส พลวโสกาภิภูโต ตสฺสา สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตฏฺานมสฺสา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิ. สตฺถา ยถา โส อาคตการณํ น สรติ, ตถา อกาสิ. โส สตฺถุ สนฺติเก สารณียธมฺมกถํ ¶ สุตฺวา เคหํ ปวิฏฺกาเล สริตฺวา ‘‘อหํ ภเณ มลฺลิกาย นิพฺพตฺตฏฺานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปมุฏฺโ, สฺเว ปุน ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ปุนทิวเสปิ อคมาสิ. สตฺถาปิ ปฏิปาฏิยา สตฺต ทิวสานิ ยถา โส น สรติ ¶ , ตถา อกาสิ. สาปิ สตฺตาหเมว นิรเย ปจฺจิตฺวา อฏฺเม ทิวเส ตโต จุตา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติ. กสฺมา ปนสฺส สตฺถา อสรณภาวํ อกาสีติ? สา กิร ตสฺส อติวิย ปิยา อโหสิ มนาปา, ตสฺมา ตสฺสา นิรเย นิพฺพตฺตภาวํ สุตฺวา ‘‘สเจ เอวรูปา สทฺธาสมฺปนฺนา นิรเย นิพฺพตฺตา, ทานํ ทตฺวา กึ กริสฺสามี’’ติ มิจฺฉาทิฏฺึ คเหตฺวา ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ เคเห ปวตฺตํ นิจฺจภตฺตํ หราเปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺเตยฺย, เตนสฺส สตฺถา สตฺตาหํ อสรณภาวํ กตฺวา อฏฺเม ทิวเส ปิณฺฑาย จรนฺโต สยเมว ราชกุลทฺวารํ อคมาสิ.
ราชา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปตฺตํ อาทาย ปาสาทํ อภิรุหิตุํ อารภิ. สตฺถา ปน รถสาลาย นิสีทิตุํ อาการํ ทสฺเสสิ. ราชา สตฺถารํ ตตฺเถว นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชเกน ปฏิมาเนตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺโนว อหํ, ภนฺเต, มลฺลิกาย เทวิยา นิพฺพตฺตฏฺานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ คนฺตฺวา ปมุฏฺโ, กตฺถ นุ โข สา, ภนฺเต, นิพฺพตฺตาติ. ตุสิตภวเน, มหาราชาติ, ภนฺเต, ตาย ตุสิตภวเน อนิพฺพตฺตนฺติยา โก อฺโ นิพฺพตฺติสฺสติ ¶ , ภนฺเต, นตฺถิ ตาย สทิสา อิตฺถี. ตสฺสา หิ นิสินฺนฏฺานาทีสุ ‘‘สฺเว ตถาคตสฺส ¶ อิทํ ทสฺสามิ, อิทํ กริสฺสามี’’ติ ทานสํวิธานํ เปตฺวา อฺํ กิจฺจเมว นตฺถิ, ภนฺเต, ตสฺสา ปรโลกํ คตกาลโต ปฏฺาย สรีรํ เม น วหตีติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘มา จินฺตยิ, มหาราช, สพฺเพสํ ธุวธมฺโม อย’’นฺติ วตฺวา ‘‘อยํ, มหาราช, รโถ กสฺสา’’ติ ปุจฺฉิ. ตํ สุตฺวา ราชา สิรสฺมึ อฺชลึ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘ปิตามหสฺส เม, ภนฺเต’’ติ อาห. ‘‘อยํ กสฺสา’’ติ? ‘‘ปิตุ เม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อยํ ปน รโถ กสฺสา’’ติ? ‘‘มม, ภนฺเต’’ติ. เอวํ วุตฺเต สตฺถา, ‘‘มหาราช, ตว ปิตามหสฺส รโถ เตเนวากาเรน ตว ปิตุ รถํ น ปาปุณิ, ตว ปิตุ รโถ ตว รถํ น ปาปุณิ, เอวรูปสฺส นาม กฏฺกลิงฺครสฺสาปิ ชรา อาคจฺฉติ, กิมงฺคํ ปน อตฺตภาวสฺส. มหาราช, สปฺปุริสธมฺมสฺเสว หิ ชรา นตฺถิ, สตฺตา ปน อชีรกา นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา,
อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;
สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ,
สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติ.
ตตฺถ เวติ นิปาโต. สุจิตฺตาติ สตฺตหิ รตเนหิ อปเรหิ จ รถาลงฺกาเรหิ สุฏฺุ จิตฺติตา ราชูนํ รถาปิ ชีรนฺติ. สรีรมฺปีติ น เกวลํ รถา เอว, อิทํ สุปฺปฏิชคฺคิตํ ¶ สรีรมฺปิ ขณฺฑิจฺจาทีนิ ¶ ปาปุณนฺตํ ชรํ อุเปติ. สตฺจาติ พุทฺธาทีนํ ปน สนฺตานํ นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม จ กิฺจิ อุปฆาตํ น อุเปตีติ น ชรํ อุเปติ นาม. ปเวทยนฺตีติ เอวํ สนฺโต พุทฺธาทโย สพฺภิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธึ กเถนฺตีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
มลฺลิกาเทวีวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. ลาฬุทายิตฺเถรวตฺถุ
อปฺปสฺสุตายนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ลาฬุทายิตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
โส ¶ กิร มงฺคลํ กโรนฺตานํ เคหํ คนฺตฺวา ‘‘ติโรกุฏฺเฏสุ ติฏฺนฺตี’’ติอาทินา (ขุ. ปา. ๗.๑; เป. ว. ๑๔) นเยน อวมงฺคลํ กเถติ, อวมงฺคลํ กโรนฺตานํ เคหํ คนฺตฺวา ติโรกุฏฺฏาทีสุ กเถตพฺเพสุ ‘‘ทานฺจ ธมฺมจริยา จา’’ติอาทินา (ขุ. ปา. ๕.๗; สุ. นิ. ๒๖๖) นเยน มงฺคลคาถา วา ‘‘ยํ กิฺจิ วิตฺตํ อิธ วา หุรํ วา’’ติ รตนสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๖.๓; สุ. นิ. ๒๒๖) วา กเถติ. เอวํ เตสุ เตสุ าเนสุ ‘‘อฺํ กเถสฺสามี’’ติ อฺํ กเถนฺโตปิ ‘‘อฺํ กเถมี’’ติ น ชานาติ. ภิกฺขู ตสฺส กถํ สุตฺวา สตฺถุ อาโรเจสุํ – ‘‘กึ, ภนฺเต, ลาฬุทายิสฺส มงฺคลามงฺคลฏฺาเนสุ คมเนน, อฺสฺมึ กเถตพฺเพ อฺเมว ¶ กเถตี’’ติ. สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนเวส เอวํ กเถติ, ปุพฺเพปิ อฺสฺมึ กเถตพฺเพ อฺเมว กเถสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ –
อตีเต กิร พาราณสิยํ อคฺคิทตฺตสฺส นาม พฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต โสมทตฺตกุมาโร นาม ราชานํ อุปฏฺหิ. โส รฺา ปิโย อโหสิ มนาโป. พฺราหฺมโณ ปน กสิกมฺมํ นิสฺสาย ชีวติ. ตสฺส ทฺเวเยว โคณา อเหสุํ. เตสุ เอโก มโต. พฺราหฺมโณ ปุตฺตํ อาห – ‘‘ตาต, โสมทตฺต, ราชานํ เม ยาจิตฺวา เอกํ โคณํ อาหรา’’ติ. โสมทตฺโต ‘‘สจาหํ ราชานํ ยาจิสฺสามิ, ลหุภาโว เม ปฺายิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตุมฺเหเยว, ตาต, ราชานํ ยาจถา’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ, ตาต, มํ คเหตฺวา ยาหี’’ติ วุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ทนฺธปฺโ อภิกฺกมาทิวจนมตฺตมฺปิ น ชานาติ, อฺสฺมึ วตฺตพฺเพ อฺเมว วทติ, สิกฺขาเปตฺวา ปน นํ เนสฺสามี’’ติ. โส ตํ อาทาย พีรณตฺถมฺภกํ นาม สุสานํ คนฺตฺวา ติณกลาเป พนฺธิตฺวา ‘‘อยํ ¶ ราชา, อยํ อุปราชา, อยํ เสนาปตี’’ติ นามานิ กตฺวา ปฏิปาฏิยา ปิตุ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ ราชกุลํ คนฺตฺวา เอวํ อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ ปฏิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ นาม ราชา วตฺตพฺโพ, เอวํ นาม อุปราชา, ราชานํ ปน อุปสงฺกมิตฺวา ‘ชยตุ ภวํ, มหาราชา’ติ วตฺวา เอวํ ตฺวา อิมํ ¶ คาถํ วตฺวา โคณํ ยาเจยฺยาถา’’ติ คาถํ อุคฺคณฺหาเปสิ –
‘‘ทฺเว เม โคณา มหาราช, เยหิ เขตฺตํ กสามเส;
เตสุ เอโก มโต เทว, ทุติยํ เทหิ ขตฺติยา’’ติ.
โส หิ สํวจฺฉรมตฺเตน ตํ คาถํ ปคุณํ กตฺวา ปคุณภาวํ ปุตฺตสฺส อาโรเจตฺวา ‘‘เตน หิ, ตาต, กฺจิเทว ปณฺณาการํ อาทาย อาคจฺฉถ, อหํ ¶ ปุริมตรํ คนฺตฺวา รฺโ สนฺติเก สฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ปณฺณาการํ คเหตฺวา โสมทตฺตสฺส รฺโ สนฺติเก ิตกาเล อุสฺสาหปฺปตฺโต ราชกุลํ คนฺตฺวา รฺา ตุฏฺจิตฺเตน กตปฏิสมฺโมทโน, ‘‘ตาต, จิรสฺสํ วต อาคตตฺถ, อิทมาสนํ นิสีทิตฺวา วทถ, เยนตฺโถ’’ติ วุตฺเต อิมํ คาถมาห –
‘‘ทฺเว เม โคณา มหาราช, เยหิ เขตฺตํ กสามเส;
เตสุ เอโก มโต เทว, ทุติยํ คณฺห ขตฺติยา’’ติ.
รฺา ‘‘กึ วเทสิ, ตาต, ปุน วเทหี’’ติ วุตฺเตปิ ตเมว คาถํ อาห. ราชา เตน วิรชฺฌิตฺวา กถิตภาวํ ตฺวา สิตํ กตฺวา, ‘‘โสมทตฺต, ตุมฺหากํ เคเห พหู มฺเ โคณา’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ ทินฺนา พหู ภวิสฺสนฺติ, เทวา’’ติ วุตฺเต โพธิสตฺตสฺส ตุสฺสิตฺวา พฺราหฺมณสฺส โสฬส โคเณ อลงฺการภณฺฑกํ นิวาสคามฺจสฺส พฺรหฺมเทยฺยํ ทตฺวา มหนฺเตน ยเสน พฺราหฺมณํ อุยฺโยเชสีติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, พฺราหฺมโณ ลาฬุทายี, โสมทตฺโต ปน อหเมวา’’ติ ชาตกํ ¶ สโมธาเนตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส อตฺตโน อปฺปสฺสุตตาย อฺสฺมึ วตฺตพฺเพ อฺเมว วทติ. อปฺปสฺสุตปุริโส หิ พลิพทฺทสทิโส นาม โหตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อปฺปสฺสุตายํ ปุริโส, พลิพทฺโทว ชีรติ;
มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ, ปฺา ตสฺส น วฑฺฒตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อปฺปสฺสุตายนฺติ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ปณฺณาสกานํ. อถ วา ปน วคฺคานํ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา สุตฺตนฺตานํ วาปิ อภาเวน อปฺปสฺสุโต อยํ. กมฺมฏฺานํ ปน อุคฺคเหตฺวา อนุยฺุชนฺโต พหุสฺสุโตว. พลิพทฺโทว ชีรตีติ ยถา หิ พลิพทฺโท ชีรมาโน วฑฺฒมาโน เนว มาตุ, น ปิตุ, น เสสาตกานํ อตฺถาย วฑฺฒติ, อถ โข นิรตฺถกเมว ชีรติ, เอวเมวํ อยมฺปิ น อุปชฺฌายวตฺตํ กโรติ, น อาจริยวตฺตํ, น อาคนฺตุกวตฺตาทีนิ, น ภาวนารามตํ อนุยฺุชติ, นิรตฺถกเมว ชีรติ, มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺตีติ ยถา พลิพทฺทสฺส ‘‘ยุคนงฺคลาทีนิ วหิตุํ อสมตฺโถ เอโส’’ติ อรฺเ วิสฺสฏฺสฺส ตตฺเถว วิจรนฺตสฺส ¶ ขาทนฺตสฺส ปิวนฺตสฺส มํสานิ วฑฺฒนฺติ, เอวเมว อิมสฺสาปิ อุปชฺฌายาทีหิ วิสฺสฏฺสฺส สงฺฆํ นิสฺสาย จตฺตาโร ปจฺจเย ลภิตฺวา อุทฺธวิเรจนาทีนิ กตฺวา กายํ โปเสนฺตสฺส ¶ มํสานิ วฑฺฒนฺติ, ถูลสรีโร หุตฺวา วิจรติ. ปฺา ตสฺสาติ โลกิยโลกุตฺตรา ปนสฺส ปฺา เอกงฺคุลมตฺตาปิ น วฑฺฒติ, อรฺเ ปน คจฺฉลตาทีนิ วิย ฉ ทฺวารานิ นิสฺสาย ตณฺหา เจว นววิธมาโน จ วฑฺฒตีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน มหาชโน โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณีติ.
ลาฬุทายิตฺเถรวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. อุทานวตฺถุ
อเนกชาติสํสารนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา โพธิรุกฺขมูเล นิสินฺโน อุทานวเสน อุทาเนตฺวา อปรภาเค อานนฺทตฺเถเรน ปุฏฺโ กเถสิ.
โส หิ โพธิรุกฺขมูเล นิสินฺโน สูริเย อนตฺถงฺคเตเยว มารพลํ วิทฺธํเสตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสปฏิจฺฉาทกํ ตมํ ปทาเลตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยาเม สตฺเตสุ การฺุตํ ปฏิจฺจ ปจฺจยากาเร าณํ โอตาเรตฺวา ตํ อนุโลมปฏิโลมวเสน สมฺมสนฺโต อรุณุคฺคมนเวลาย สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา อเนเกหิ พุทฺธสตสหสฺเสหิ อวิชหิตํ อุทานํ อุทาเนนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;
คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.
‘‘คหการก ¶ ¶ ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;
สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;
วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ.
ตตฺถ คหการํ คเวสนฺโตติ อหํ อิมสฺส อตฺตภาวสงฺขาตสฺส เคหสฺส การกํ ตณฺหาวฑฺฒกึ คเวสนฺโต เยน าเณน สกฺกา ตํ ทฏฺุํ ¶ , ตสฺส โพธิาณสฺสตฺถาย ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหาโร เอตฺตกํ กาลํ อเนกชาติสํสารํ อเนกชาติสตสหสฺสสงฺขาตํ อิมํ สํสารวฏฺฏํ อนิพฺพิสํ ตํ าณํ อวินฺทนฺโต อลภนฺโตเยว สนฺธาวิสฺสํ สํสรึ, อปราปรํ อนุวิจรินฺติ อตฺโถ. ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนนฺติ อิทํ คหการกคเวสนสฺส การณวจนํ. ยสฺมา ชราพฺยาธิมรณมิสฺสิตาย ชาติ นาเมสา ปุนปฺปุนํ อุปคนฺตุํ ทุกฺขา, น จ สา ตสฺมึ อทิฏฺเ นิวตฺตติ. ตสฺมา ตํ คเวสนฺโต สนฺธาวิสฺสนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺโสีติ สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺเตน มยา อิทานิ ทิฏฺโสิ. ปุน เคหนฺติ ปุน อิมสฺมึ สํสารวฏฺเฏ อตฺตภาวสงฺขาตํ มม เคหํ น กาหสิ. สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคาติ ตว สพฺพา อวเสสา กิเลสผาสุกา มยา ภคฺคา. คหกูฏํ วิสงฺขตนฺติ อิมสฺส ตยา กตสฺส อตฺตภาวเคหสฺส อวิชฺชาสงฺขาตํ ¶ กณฺณิกมณฺฑลมฺปิ มยา วิทฺธํสิตํ. วิสงฺขารคตํ จิตฺตนฺติ อิทานิ มม จิตฺตํ วิสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน คตํ อนุปวิฏฺํ. ตณฺหานํ ขยมชฺฌคาติ ตณฺหานํ ขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ อธิคโตสฺมีติ.
อุทานวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. มหาธนเสฏฺิปุตฺตวตฺถุ
อจริตฺวาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา อิสิปตเน มิคทาเย วิหรนฺโต มหาธนเสฏฺิปุตฺตํ อารพฺภ กเถสิ.
โส กิร พาราณสิยํ อสีติโกฏิวิภเว กุเล นิพฺพตฺติ. อถสฺส มาตาปิตโร จินฺเตสุํ – ‘‘อมฺหากํ กุเล มหาโภคกฺขนฺโธ, ปุตฺตสฺส โน หตฺเถ เปตฺวา ยถาสุขํ ปริโภคํ กริสฺสาม, อฺเน กมฺเมน กิจฺจํ นตฺถี’’ติ. ตํ นจฺจคีตวาทิตมตฺตเมว สิกฺขาเปสุํ. ตสฺมึเยว นคเร อฺสฺมึ อสีติโกฏิวิภเว กุเล เอกา ธีตาปิ นิพฺพตฺติ. ตสฺสาปิ มาตาปิตโร ตเถว จินฺเตตฺวา ตํ นจฺจคีตวาทิตมตฺตเมว สิกฺขาเปสุํ. เตสํ วยปฺปตฺตานํ อาวาหวิวาโห อโหสิ. อถ เนสํ อปรภาเค มาตาปิตโร กาลมกํสุ. ทฺเวอสีติโกฏิธนํ เอกสฺมึเยว ¶ เคเห อโหสิ. เสฏฺิปุตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ รฺโ ¶ อุปฏฺานํ คจฺฉติ. อถ ตสฺมึ นคเร ธุตฺตา จินฺเตสุํ – ‘‘สจายํ เสฏฺิปุตฺโต สุราโสณฺโฑ ภวิสฺสติ, อมฺหากํ ผาสุกํ ภวิสฺสติ, อุคฺคณฺหาเปม นํ สุราโสณฺฑภาว’’นฺติ. เต สุรํ อาทาย ขชฺชกมํเส เจว โลณสกฺขรา ¶ จ ทุสฺสนฺเต พนฺธิตฺวา มูลกนฺเท คเหตฺวา ตสฺส ราชกุลโต อาคจฺฉนฺตสฺส มคฺคํ โอโลกยมานา นิสีทิตฺวา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สุรํ ปิวิตฺวา โลณสกฺขรํ มุเข ขิปิตฺวา มูลกนฺทํ ฑํสิตฺวา ‘‘วสฺสสตํ ชีว สามิ, เสฏฺิปุตฺต, ตํ นิสฺสาย มยํ ขาทนปิวนสมตฺถา ภเวยฺยามา’’ติ อาหํสุ. โส เตสํ วจนํ สุตฺวา ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตํ จูฬูปฏฺากํ ปุจฺฉิ – ‘‘กึ เอเต ปิวนฺตี’’ติ. เอกํ ปานกํ, สามีติ. มนาปชาติกํ เอตนฺติ. สามิ, อิมสฺมึ ชีวโลเก อิมินา สทิสํ ปาตพฺพยุตฺตกํ นาม นตฺถีติ. โส ‘‘เอวํ สนฺเต มยาปิ ปาตุํ วฏฺฏตี’’ติ โถกํ โถกํ อาหราเปตฺวา ปิวติ. อถสฺส นจิรสฺเสว เต ธุตฺตา ปิวนภาวํ ตฺวา ตํ ปริวารยึสุ. คจฺฉนฺเต กาเล ปริวาโร มหา อโหสิ. โส สเตนปิ สตทฺวเยนปิ สุรํ อาหราเปตฺวา ปิวนฺโต อิมินา อนุกฺกเมเนว นิสินฺนฏฺานาทีสุ กหาปณราสึ เปตฺวา สุรํ ปิวนฺโต ‘‘อิมินา มาลา อาหรถ, อิมินา คนฺเธ, อยํ ชโน ชุเต เฉโก, อยํ นจฺเจ, อยํ คีเต, อยํ วาทิเต. อิมสฺส สหสฺสํ เทถ, อิมสฺส ทฺเว สหสฺสานี’’ติ เอวํ วิกิรนฺโต นจิรสฺเสว อตฺตโน สนฺตกํ อสีติโกฏิธนํ เขเปตฺวา ‘‘ขีณํ เต, สามิ, ธน’’นฺติ วุตฺเต กึ ภริยาย เม สนฺตกํ นตฺถีติ. อตฺถิ, สามีติ ¶ . เตน หิ ตํ อาหรถาติ. ตมฺปิ ตเถว เขเปตฺวา อนุปุพฺเพน เขตฺตอารามุยฺยานโยคฺคาทิกมฺปิ อนฺตมโส ภาชนภณฺฑกมฺปิ อตฺถรณปาวุรณนิสีทนมฺปิ สพฺพํ อตฺตโน สนฺตกํ วิกฺกิณิตฺวา ขาทิ. อถ นํ มหลฺลกกาเล เยหิสฺส กุลสนฺตกํ เคหํ วิกฺกิณิตฺวา คหิตํ, เต ตํ เคหา นีหรึสุ. โส ภริยํ อาทาย ปรชนสฺส เคหภิตฺตึ นิสฺสาย วสนฺโต กปาลขณฺฑํ อาทาย ภิกฺขาย จริตฺวา ชนสฺส อุจฺฉิฏฺกํ ภฺุชิตุํ อารภิ.
อถ นํ เอกทิวสํ อาสนสาลาย ทฺวาเร ตฺวา ทหรสามเณเรหิ ทิยฺยมานํ อุจฺฉิฏฺกโภชนํ ปฏิคฺคณฺหนฺตํ ทิสฺวา สตฺถา สิตํ ปาตฺวากาสิ. อถ นํ อานนฺทตฺเถโร สิตการณํ ปุจฺฉิ. สตฺถา สิตการณํ กเถนฺโต ‘‘ปสฺสานนฺท, อิมํ มหาธนเสฏฺิปุตฺตํ อิมสฺมึ นคเร ทฺเวอสีติโกฏิธนํ ¶ เขเปตฺวา ภริยํ อาทาย ภิกฺขาย จรนฺตํ. สเจ หิ อยํ ปมวเย โภเค อเขเปตฺวา กมฺมนฺเต ปโยชยิสฺส, อิมสฺมึเยว นคเร อคฺคเสฏฺิ อภวิสฺส. สเจ ปน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺส, อรหตฺตํ ปาปุณิสฺส, ภริยาปิสฺส อนาคามิผเล ปติฏฺหิสฺส. สเจ มชฺฌิมวเย โภเค อเขเปตฺวา กมฺมนฺเต ปโยชยิสฺส, ทุติยเสฏฺิ อภวิสฺส, นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชนฺโต อนาคามี อภวิสฺส. ภริยาปิสฺส สกทาคามิผเล ปติฏฺหิสฺส. สเจ ปจฺฉิมวเย โภเค อเขเปตฺวา กมฺมนฺเต ปโยชยิสฺส, ตติยเสฏฺิ อภวิสฺส, นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชนฺโตปิ ¶ สกทาคามี อภวิสฺส ¶ , ภริยาปิสฺส โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิสฺส. อิทานิ ปเนส คิหิโภคโตปิ ปริหีโน สามฺโตปิ. ปริหายิตฺวา จ ปน สุกฺขปลฺลเล โกฺจสกุโณ วิย ชาโต’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘อจริตฺวา พฺรหฺมจริยํ, อลทฺธา โยพฺพเน ธนํ;
ชิณฺณโกฺจาว ฌายนฺติ, ขีณมจฺเฉว ปลฺลเล.
‘‘อจริตฺวา พฺรหฺมจริยํ, อลทฺธา โยพฺพเน ธนํ;
เสนฺติ จาปาติขีณาว, ปุราณานิ อนุตฺถุน’’นฺติ.
ตตฺถ อจริตฺวาติ พฺรหฺมจริยวาสํ อวสิตฺวา. โยพฺพเนติ อนุปฺปนฺเน วา โภเค อุปฺปาเทตุํ อุปฺปนฺเน วา โภเค รกฺขิตุํ สมตฺถกาเล ธนมฺปิ อลภิตฺวา. ขีณมจฺเฉติ เต เอวรูปา พาลา อุทกสฺส อภาวา ขีณมจฺเฉ ปลฺลเล ปริกฺขีณปตฺตา ชิณฺณโกฺจา วิย อวฌายนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปลฺลเล อุทกสฺส อภาโว วิย หิ อิเมสํ วสนฏฺานสฺส อภาโว, มจฺฉานํ ขีณภาโว วิย อิเมสํ โภคานํ อภาโว, ขีณปตฺตานํ โกฺจานํ อุปฺปติตฺวา คมนาภาโว วิย อิเมสํ อิทานิ ชลถลปถาทีหิ โภเค สณฺาเปตุํ อสมตฺถภาโว. ตสฺมา เต ขีณปตฺตา โกฺจา วิย เอตฺเถว พชฺฌิตฺวา อวฌายนฺตีติ. จาปาติขีณาวาติ จาปโต อติขีณา, จาปา วินิมุตฺตาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา จาปา วินิมุตฺตา สรา ยถาเวคํ คนฺตฺวา ปติตา, ตํ คเหตฺวา อุกฺขิปนฺเต ¶ อสติ ตตฺเถว อุปจิกานํ ภตฺตํ โหนฺติ, เอวํ อิเมปิ ตโย ¶ วเย อติกฺกนฺตา อิทานิ อตฺตานํ อุทฺธริตุํ อสมตฺถตาย มรณํ อุปคมิสฺสนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เสนฺติ จาปาติขีณาวา’’ติ. ปุราณานิ อนุตฺถุนนฺติ ‘‘อิติ อมฺเหหิ ขาทิตํ อิติ ปีต’’นฺติ ปุพฺเพ กตานิ ขาทิตปิวิตนจฺจคีตวาทิตาทีนิ อนุตฺถุนนฺตา โสจนฺตา อนุโสจนฺตา เสนฺตีติ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
มหาธนเสฏฺิปุตฺตวตฺถุ นวมํ.
ชราวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกาทสโม วคฺโค.