📜

๑๕. สุขวคฺโค

๑. าอาติกลหวูปสมนวตฺถุ

สุสุขํวตาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สกฺเกสุ วิหรนฺโต กลหวูปสมนตฺถํ าตเก อารพฺภ กเถสิ.

สากิยโกลิยา กิร กปิลวตฺถุนครสฺส จ โกลิยนครสฺส จ อนฺตเร โรหิณึ นาม นทึ เอเกเนว อาวรเณน พนฺธาเปตฺวา สสฺสานิ กโรนฺติ. อถ เชฏฺมูลมาเส สสฺเสสุ มิลายนฺเตสุ อุภยนครวาสิกานมฺปิ กมฺมการา สนฺนิปตึสุ. ตตฺถ โกลิยนครวาสิโน อาหํสุ – ‘‘อิทํ อุทกํ อุภยโต หริยมานํ เนว ตุมฺหากํ, น อมฺหากํ ปโหสฺสติ, อมฺหากํ ปน สสฺสํ เอกอุทเกเนว นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. อิตเรปิ อาหํสุ – ‘‘ตุมฺเหสุ โกฏฺเก ปูเรตฺวา ิเตสุ มยํ รตฺตสุวณฺณนีลมณิกาฬกหาปเณ จ คเหตฺวา ปจฺฉิปสิพฺพกาทิหตฺถา น สกฺขิสฺสาม ตุมฺหากํ ฆรทฺวาเร วิจริตุํ, อมฺหากมฺปิ สสฺสํ เอกอุทเกเนว นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. น มยํ ทสฺสามาติ. มยมฺปิ น ทสฺสามาติ เอวํ กถํ วฑฺเฒตฺวา เอโก อุฏฺาย เอกสฺส ปหารํ อทาสิ, โสปิ อฺสฺสาติ เอวํ อฺมฺํ ปหริตฺวา ราชกุลานํ ชาตึ ฆฏฺเฏตฺวา กลหํ วฑฺฒยึสุ.

โกลิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห กปิลวตฺถุวาสิเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย โสณสิงฺคาลาทโย วิย อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ สํวสึสุ, เอเตสํ หตฺถิโน เจว อสฺสา จ ผลกาวุธานิ จ อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ. สากิยกมฺมการาปิ วทนฺติ ‘‘ตุมฺเห อิทานิ กุฏฺิโน ทารเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย อนาถา นิคฺคติกา ติรจฺฉานา วิย โกลรุกฺเข วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิโน จ อสฺสา จ ผลกาวุธานิ จ อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ. เต คนฺตฺวา ตสฺมึ กมฺเม นิยุตฺตานํ อมจฺจานํ กถยึสุ, อมจฺจา ราชกุลานํ กเถสุํ. ตโต สากิยา ‘‘ภคินีหิ สทฺธึ สํวสิตกานํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. โกลิยาปิ ‘‘โกลรุกฺขวาสีนํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ.

สตฺถาปิ ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต าตเก ทิสฺวา ‘‘มยิ อคจฺฉนฺเต อิเม นสฺสิสฺสนฺติ, มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกโกว อากาเสน คนฺตฺวา โรหิณินทิยา มชฺเฌ อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. าตกา สตฺถารํ ทิสฺวา อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา วนฺทึสุ. อถ เน สตฺถา อาห – ‘‘กึ กลโห นาเมส, มหาราชา’’ติ? ‘‘น ชานาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โก ทานิ ชานิสฺสตี’’ติ? เต ‘‘อุปราชา ชานิสฺสติ, เสนาปติ ชานิสฺสตี’’ติ อิมินา อุปาเยน ยาว ทาสกมฺมกเร ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อุทกกลโห’’ติ อาหํสุ. ‘‘อุทกํ กึ อคฺฆติ, มหาราชา’’ติ? ‘‘อปฺปคฺฆํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ขตฺติยา กึ อคฺฆนฺติ มหาราชา’’ติ? ‘‘ขตฺติยา นาม อนคฺฆา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อยุตฺตํ ตุมฺหากํ อปฺปมตฺตตํ อุทกํ นิสฺสาย อนคฺเฆ ขตฺติเย นาเสตุ’’นฺติ. เต ตุณฺหี อเหสุํ. อถ เต สตฺถา อามนฺเตตฺวา ‘‘กสฺมา มหาราชา เอวรูปํ กโรถ, มยิ อสนฺเต อชฺช โลหิตนที ปวตฺติสฺสติ, อยุตฺตํ โว กตํ, ตุมฺเห ปฺจหิ เวเรหิ สเวรา วิหรถ, อหํ อเวโร วิหรามิ. ตุมฺเห กิเลสาตุรา หุตฺวา วิหรถ, อหํ อนาตุโร. ตุมฺเห กามคุณปริเยสนุสฺสุกฺกา หุตฺวา วิหรถ, อหํ อนุสฺสุกฺโก วิหรามี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๑๙๗.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เวริเนสุ อเวริโน,

เวริเนสุ มนุสฺเสสุ, วิหราม อเวริโน.

๑๙๘.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, อาตุเรสุ อนาตุรา;

อาตุเรสุ มนุสฺเสสุ, วิหราม อนาตุรา.

๑๙๙.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, อุสฺสุเกสุ อนุสฺสุกา;

อุสฺสุเกสุ มนุสฺเสสุ, วิหราม อนุสฺสุกา’’ติ.

ตตฺถ สุสุขนฺติ สุฏฺุ สุขํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย คิหิโน สนฺธิจฺเฉทาทิวเสน, ปพฺพชิตา วา ปน เวชฺชกมฺมาทิวเสน ชีวิตวุตฺตึ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สุเขน ชีวามา’’ติ วทนฺติ, เตหิ มยเมว สุสุขํ วต ชีวาม, เย มยํ ปฺจหิ เวรีหิ เวริเนสุ มนุสฺเสสุ อเวริโน, กิเลสาตุเรสุ มนุสฺเสสุ นิกฺกิเลสตาย อนาตุรา, ปฺจกามคุณปริเยสเน อุสฺสุเกสุ ตาย ปริเยสนาย อภาเวน อนุสฺสุกาติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

าติกลหวูปสมนวตฺถุ ปมํ.

๒. มารวตฺถุ

สุสุขํวต ชีวามาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา ปฺจสาลาย พฺราหฺมณคาเม วิหรนฺโต มารํ อารพฺภ กเถสิ.

เอกทิวสฺหิ สตฺถา ปฺจสตานํ กุมาริกานํ โสตาปตฺติมคฺคสฺสูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ตํ คามํ อุปนิสฺสาย วิหาสิ. ตาปิ กุมาริกาโย เอกสฺมึ นกฺขตฺตทิวเส นทึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตา คามาภิมุขิโย ปายึสุ. สตฺถาปิ ตํ คามํ ปวิสิตฺวา ปิณฺฑาย จรติ. อถ มาโร สกลคามวาสีนํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา ยถา สตฺถา กฏจฺฉุภตฺตมตฺตมฺปิ น ลภติ, เอวํ กตฺวา ยถาโธเตน ปตฺเตน นิกฺขมนฺตํ สตฺถารํ คามทฺวาเร ตฺวา อาห – ‘‘อปิ, สมณ, ปิณฺฑปาตํ ลภิตฺถา’’ติ. ‘‘กึ ปน ตฺวํ, ปาปิม, ตถา อกาสิ, ยถาหํ ปิณฺฑํ น ลเภยฺย’’นฺติ? ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, ปุน ปวิสถา’’ติ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สเจ ปุน ปวิสติ, สพฺเพสํ สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา อิมสฺส ปุรโต ปาณึ ปหริตฺวา หสฺสเกฬึ กริสฺสามี’’ติ. ตสฺมึ ขเณ ตา กุมาริกาโย คามทฺวารํ ปตฺวา สตฺถารํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺํสุ. มาโรปิ สตฺถารํ อาห – ‘‘อปิ, ภนฺเต, ปิณฺฑํ อลภมานา ชิฆจฺฉาทุกฺเขน ปีฬิตตฺถา’’ติ. สตฺถา ‘‘อชฺช มยํ, ปาปิม, กิฺจิ อลภิตฺวาปิ อาภสฺสรโลเก มหาพฺรหฺมาโน วิย ปีติสุเขเนว วีตินาเมสฺสามา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๐๐.

‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิฺจนํ;

ปีติภกฺขา ภวิสฺสาม, เทวา อาภสฺสรา ยถา’’ติ.

ตตฺถ เยสํ โนติ เยสํ อมฺหากํ ปลิพุชฺฌนตฺเถน ราคาทีสุ กิฺจเนสุ เอกมฺปิ กิฺจนํ นตฺถิ. ปีติภกฺขาติ ยถา อาภสฺสรา เทวา ปีติภกฺขา หุตฺวา ปีติสุเขเนว วีตินาเมนฺติ, เอวํ มยมฺปิ, ปาปิม, กิฺจิ อลภิตฺวา ปีติภกฺขา ภวิสฺสามาติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน ปฺจสตาปิ กุมาริกาโย โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสูติ.

มารวตฺถุ ทุติยํ.

๓. โกสลรฺโ ปราชยวตฺถุ

ชยํเวรนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ ปราชยํ อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร กาสิกคามํ นิสฺสาย ภาคิเนยฺเยน อชาตสตฺตุนา สทฺธึ ยุชฺฌนฺโต เตน ตโย วาเร ปราชิโต ตติยวาเร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ขีรมุขมฺปิ ทารกํ ปราเชตุํ นาสกฺขึ, กึ เม ชีวิเตนา’’ติ. โส อาหารูปจฺเฉทํ กตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถสฺส สา ปวตฺติ สกลนครํ ปตฺถริ. ภิกฺขู ตถาคตสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘ภนฺเต, ราชา กิร กาสิกคามกํ นิสฺสาย ตโย วาเร ปราชิโต, โส อิทานิ ปราชิตฺวา อาคโต ‘ขีรมุขมฺปิ ทารกํ ปราเชตุํ นาสกฺขึ, กึ เม ชีวิเตนา’ติ อาหารูปจฺเฉทํ กตฺวา มฺจเก นิปนฺโน’’ติ. สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, ชินนฺโตปิ เวรํ ปสวติ, ปราชิโต ปน ทุกฺขํ เสติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๐๑.

‘‘ชยํ เวรํ ปสวติ, ทุกฺขํ เสติ ปราชิโต;

อุปสนฺโต สุขํ เสติ, หิตฺวา ชยปราชย’’นฺติ.

ตตฺถ ชยนฺติ ปรํ ชินนฺโต เวรํ ปฏิลภติ. ปราชิโตติ ปเรน ปราชิโต ‘‘กทา นุ โข ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ทฏฺุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ทุกฺขํ เสติ สพฺพิริยาปเถสุ ทุกฺขเมว วิหรตีติ อตฺโถ. อุปสนฺโตติ อพฺภนฺตเร อุปสนฺตราคาทิกิเลโส ขีณาสโว ชยฺจ ปราชยฺจ หิตฺวา สุขํ เสติ, สพฺพิริยาปเถสุ สุขเมว วิหรตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

โกสลรฺโ ปราชยวตฺถุ ตติยํ.

๔. อฺตรกุลทาริกาวตฺถุ

นตฺถิ ราคสโมติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ กุลทาริกํ อารพฺภ กเถสิ.

ตสฺสา กิร มาตาปิตโร อาวาหํ กตฺวา มงฺคลทิวเส สตฺถารํ นิมนฺตยึสุ. สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา นิสีทิ. สาปิ โข วธุกา ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุทกปริสฺสาวนาทีนิ กโรนฺตี อปราปรํ สฺจรติ. สามิโกปิสฺสา ตํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตสฺส ราควเสน โอโลเกนฺตสฺส อนฺโต กิเลโส สมุทาจริ. โส อฺาณาภิภูโต เนว พุทฺธํ อุปฏฺหิ, น อสีติ มหาเถเร. หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘ตํ วธุกํ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปน จิตฺตํ อกาสิ. สตฺถา ตสฺสชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา ยถา ตํ อิตฺถึ น ปสฺสติ, เอวมกาสิ. โส อทิสฺวา สตฺถารํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺส โอโลเกตฺวา ิตกาเล ‘‘กุมารก, น หิ ราคคฺคินา สทิโส อคฺคิ นาม , โทสกลินา สทิโส กลิ นาม, ขนฺธปริหรณทุกฺเขน สทิสํ ทุกฺขํ นาม อตฺถิ, นิพฺพานสุขสทิสํ สุขมฺปิ นตฺถิเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๐๒.

‘‘นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ, นตฺถิ โทสสโม กลิ;

นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา, นตฺถิ สนฺติปรํ สุข’’นฺติ.

ตตฺถ นตฺถิ ราคสโมติ ธูมํ วา ชาลํ วา องฺคารํ วา อทสฺเสตฺวา อนฺโตเยว ฌาเปตฺวา ภสฺมมุฏฺึ กาตุํ สมตฺโถ ราเคน สโม อฺโ อคฺคิ นาม นตฺถิ. กลีติ โทเสน สโม อปราโธปิ นตฺถิ. ขนฺธสมาติ ขนฺเธหิ สมา. ยถา ปริหริยมานา ขนฺธา ทุกฺขา, เอวํ อฺํ ทุกฺขํ นาม นตฺถิ. สนฺติปรนฺติ นิพฺพานโต อุตฺตรึ อฺํ สุขมฺปิ นตฺถิ. อฺฺหิ สุขํ สุขเมว, นิพฺพานํ ปรมสุขนฺติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน กุมาริกา จ กุมารโก จ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ. ตสฺมึ สมเย ภควา เตสํ อฺมฺํ ทสฺสนาการํ อกาสีติ.

อฺตรกุลทาริกาวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. เอกอุปาสกวตฺถุ

ชิฆจฺฉาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา อาฬวิยํ วิหรนฺโต เอกํ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ.

เอกสฺมิฺหิ ทิวเส สตฺถา เชตวเน คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว ปจฺจูสกาเล โลกํ โวโลเกนฺโต อาฬวิยํ เอกํ ทุคฺคตมนุสฺสํ ทิสฺวา ตสฺสูปนิสฺสยสมฺปตฺตึ ตฺวา ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร อาฬวึ อคมาสิ. อาฬวิวาสิโน สตฺถารํ นิมนฺตยึสุ. โสปิ ทุคฺคตมนุสฺโส ‘‘สตฺถา กิร อาคโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ มนํ อกาสิ. ตํทิวสเมว จสฺส เอโก โคโณ ปลายิ. โส ‘‘กึ นุ โข โคณํ ปริเยสิสฺสามิ, อุทาหุ ธมฺมํ สุณามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘โคณํ ปริเยสิตฺวา ปจฺฉา ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ ปาโตว เคหา นิกฺขมิ. อาฬวิวาสิโนปิ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา ปริวิสิตฺวา อนุโมทนตฺถาย ปตฺตํ คณฺหึสุ. สตฺถา ‘‘ยํ นิสฺสาย อหํ ตึสโยชนมคฺคํ อาคโต, โส โคณํ ปริเยสิตุํ อรฺํ ปวิฏฺโ, ตสฺมึ อาคเตเยว ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ ตุณฺหี อโหสิ.

โสปิ มนุสฺโส ทิวา โคณํ ทิสฺวา โคคเณ ปกฺขิปิตฺวา ‘‘สเจปิ อฺํ นตฺถิ, สตฺถุ วนฺทนมตฺตมฺปิ กริสฺสามี’’ติ ชิฆจฺฉาปีฬิโตปิ เคหํ คมนาย มนํ อกตฺวา เวเคน สตฺถุ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สตฺถา ตสฺส ิตกาเล ทานเวยฺยาวฏิกํ อาห – ‘‘อตฺถิ กิฺจิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อติริตฺตภตฺต’’นฺติ? ‘‘ภนฺเต, สพฺพํ อตฺถี’’ติ. เตน หิ ‘‘อิมํ ปริวิสาหี’’ติ. โส สตฺถารา วุตฺตฏฺาเนเยว ตํ นิสีทาเปตฺวา ยาคุขาทนียโภชนีเยหิ สกฺกจฺจํ ปริวิสิ. โส ภุตฺตภตฺโต มุขํ วิกฺขาเลสิ. เปตฺวา กิร อิมํ านํ ตีสุ ปิฏเกสุ อฺตฺถ คตาคตสฺส ภตฺตวิจารณํ นาม นตฺถิ. ตสฺส ปสฺสทฺธทรถสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ อโหสิ. อถสฺส สตฺถา อนุปุพฺพึ กถํ กเถตฺวา สจฺจานิ ปกาเสสิ. โส เทสนาวสาเน โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. สตฺถาปิ อนุโมทนํ กตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. มหาชโน สตฺถารํ อนุคนฺตฺวา นิวตฺติ.

ภิกฺขู สตฺถารา สทฺธึ คจฺฉนฺตาเยว อุชฺฌายึสุ – ‘‘ปสฺสถาวุโส, สตฺถุ กมฺมํ, อฺเสุ ทิวเสสุ เอวรูปํ นตฺถิ, อชฺช ปเนกํ มนุสฺสํ ทิสฺวาว ยาคุอาทีนิ วิจาเรตฺวา ทาเปสี’’ติ. สตฺถา นิวตฺติตฺวา ิตโกว ‘‘กึ กเถถ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘อาม, ภิกฺขเว, อหํ ตึสโยชนํ กนฺตารํ อาคจฺฉนฺโต ตสฺส อุปาสกสฺสูปนิสฺสยํ ทิสฺวา อาคโต, โส อติวิย ชิฆจฺฉิโต, ปาโตว ปฏฺาย โคณํ ปริเยสนฺโต อรฺเ วิจริ. ‘ชิฆจฺฉทุกฺเขน ธมฺเม เทสิยมาเนปิ ปฏิวิชฺฌิตุํ น สกฺขิสฺสตี’ติ จินฺเตตฺวา เอวํ อกาสึ, ชิฆจฺฉาโรคสทิโส โรโค นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๐๓.

‘‘ชิฆจฺฉาปรมา โรคา, สงฺขารปรมา ทุขา;

เอตํ ตฺวา ยถาภูตํ, นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติ.

ตตฺถ ชิฆจฺฉาปรมา โรคาติ ยสฺมา อฺโ โรโค สกึ ติกิจฺฉิโต วินสฺสติ วา ตทงฺควเสน วา ปหียติ , ชิฆจฺฉา ปน นิจฺจกาลํ ติกิจฺฉิตพฺพาเยวาติ เสสโรคานํ อยํ ปรมา นาม. สงฺขาราติ ปฺจ ขนฺธา. เอตํ ตฺวาติ ชิฆจฺฉาสโม โรโค นตฺถิ, ขนฺธปริหรณสมํ ทุกฺขํ นาม นตฺถีติ เอตมตฺถํ ยถาภูตํ ตฺวา ปณฺฑิโต นิพฺพานํ สจฺฉิ กโรติ. นิพฺพานํ ปรมํ สุขนฺติ ตฺหิ สพฺพสุขานํ ปรมํ อุตฺตมํ สุขนฺติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

เอกอุปาสกวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. ปเสนทิโกสลวตฺถุ

อาโรคฺยปรมา ลาภาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ราชานํ ปเสนทิโกสลํ อารพฺภ กเถสิ.

เอกสฺมิฺหิ สมเย ราชา ตณฺฑุลโทณสฺส โอทนํ ตทุปิเยน สูปพฺยฺชเนน ภุฺชติ. เอกทิวสํ ภุตฺตปาตราโส ภตฺตสมฺมทํ อวิโนเทตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา กิลนฺตรูโป อิโต จิโต จ สมฺปริวตฺตติ, นิทฺทาย อภิภูยมาโนปิ อุชุกํ นิปชฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘กึ, มหาราช, อวิสฺสมิตฺวาว อาคโตสี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ภุตฺตกาลโต ปฏฺาย เม มหาทุกฺขํ โหตี’’ติ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘มหาราช , อติพหุโภชนํ เอวํ ทุกฺขํ โหตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘มิทฺธี ยทา โหติ มหคฺฆโส จ,

นิทฺทายิตา สมฺปริวตฺตสายี;

มหาวราโหว นิวาปปุฏฺโ,

ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโท’’ติ. (ธ. ป. ๓๒๕); –

อิมาย คาถาย โอวทิตฺวา, ‘‘มหาราช, โภชนํ นาม มตฺตาย ภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. มตฺตโภชิโน หิ สุขํ โหตี’’ติ อุตฺตริ โอวทนฺโต อิมํ คาถมาห –

‘‘มนุชสฺส สทา สตีมโต,

มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน;

ตนุกสฺส ภวนฺติ เวทนา,

สณิกํ ชีรติ อายุปาลย’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๒๔);

ราชา คาถํ อุคฺคณฺหิตุํ นาสกฺขิ, สมีเป ิตํ ปน ภาคิเนยฺยํ, สุทสฺสนํ นาม มาณวํ ‘‘อิมํ คาถํ อุคฺคณฺห, ตาตา’’ติ อาห. โส ตํ คาถํ อุคฺคณฺหิตฺวา ‘‘กึ กโรมิ, ภนฺเต’’ติ สตฺถารํ ปุจฺฉิ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘รฺโ ภุฺชนฺตสฺส โอสานปิณฺฑกาเล อิมํ คาถํ วเทยฺยาสิ, ราชา อตฺถํ สลฺลกฺเขตฺวา ยํ ปิณฺฑํ ฉฑฺเฑสฺสติ, ตสฺมึ ปิณฺเฑ สิตฺถคณนาย รฺโ ภตฺตปจนกาเล ตตฺตเก ตณฺฑุเล หเรยฺยาสี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สายมฺปิ ปาโตปิ รฺโ ภุฺชนฺตสฺส โอสานปิณฺฑกาเล ตํ คาถํ อุทาหริตฺวา เตน ฉฑฺฑิตปิณฺเฑ สิตฺถคณนาย ตณฺฑุเล หาเปสิ. ราชาปิ ตสฺส คาถํ สุตฺวา สหสฺสํ สหสฺสํ ทาเปสิ . โส อปเรน สมเยน นาฬิโกทนปรมตาย สณฺหิตฺวา สุขปฺปตฺโต ตนุสรีโร อโหสิ.

อเถกทิวสํ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต, อิทานิ เม สุขํ ชาตํ, มิคมฺปิ อสฺสมฺปิ อนุพนฺธิตฺวา คณฺหนสมตฺโถ ชาโตมฺหิ. ปุพฺเพ เม ภาคิเนยฺเยน สทฺธึ ยุทฺธเมว โหติ, อิทานิ วชีรกุมารึ นาม ธีตรํ ภาคิเนยฺยสฺส ทตฺวา โส คาโม ตสฺสาเยว นฺหานจุณฺณมูลํ กตฺวา ทินฺโน, เตน สทฺธึ วิคฺคโห วูปสนฺโต, อิมินาปิ เม การเณน สุขเมว ชาตํ. กุลสนฺตกํ ราชมณิรตนํ โน เคเห ปุริมทิวเส นฏฺํ, ตมฺปิ อิทานิ หตฺถปตฺตํ อาคตํ, อิมินาปิ เม การเณน สุขเมว ชาตํ. ตุมฺหากํ สาวเกหิ สทฺธึ วิสฺสาสํ อิจฺฉนฺเตน าติธีตาปิ โน เคเห กตา, อิมินาปิ เม การเณน สุขเมว ชาต’’นฺติ. สตฺถา ‘‘อาโรคฺยํ นาม, มหาราช, ปรโม ลาโภ, ยถาลทฺเธน สนฺตุฏฺภาวสทิสมฺปิ ธนํ, วิสฺสาสสทิโส จ ปรมา าติ, นิพฺพานสทิสฺจ สุขํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๐๔.

‘‘อาโรคฺยปรมา ลาภา, สนฺตุฏฺิปรมํ ธนํ;

วิสฺสาสปรมา าติ, นิพฺพานปรมํ สุข’’นฺติ.

ตตฺถ อาโรคฺยปรมา ลาภาติ อโรคภาวปรมา ลาภา. โรคิโน หิ วิชฺชมานาปิ ลาภา อลาภาเยว, ตสฺมา อโรคสฺส สพฺพลาภา อาคตาว โหนฺติ. เตเนตํ วุตฺตํ – ‘‘อาโรคฺยปรมา ลาภา’’ติ. สนฺตุฏฺิปรมํ ธนนฺติ คิหิโน วา ปพฺพชิตสฺส วา ยํ อตฺตนา ลทฺธํ อตฺตโน สนฺตกํ, เตเนว ตุสฺสนภาโว สนฺตุฏฺี นาม เสสธเนหิ ปรมํ ธนํ. วิสฺสาสปรมา าตีติ มาตา วา โหตุ ปิตา วา, เยน สทฺธึ วิสฺสาโส นตฺถิ, โส อฺาตโกว. เยน อฺาตเกน ปน สทฺธึ วิสฺสาโส อตฺถิ, โส อสมฺพนฺโธปิ ปรโม อุตฺตโม าติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิสฺสาสปรมา าตี’’ติ. นิพฺพานสทิสํ ปน สุขํ นาม นตฺถิ, เตเนวาห – นิพฺพานปรมํ สุขนฺติ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

ปเสนทิโกสลวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. ติสฺสตฺเถรวตฺถุ

ปวิเวกรสนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวสาลิยํ วิหรนฺโต อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ.

สตฺถารา หิ, ‘‘ภิกฺขเว, อหํ อิโต จตูหิ มาเสหิ ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วุตฺเต สตฺถุ สนฺติเก สตฺต ภิกฺขุสตานิ สนฺตาสํ อาปชฺชึสุ, ขีณาสวานํ ธมฺมสํเวโค อุปฺปชฺชิ, ปุถุชฺชนา อสฺสูนิ สนฺธาเรตุํ นาสกฺขึสุ. ภิกฺขู วคฺคา วคฺคา หุตฺวา ‘‘กึ นุ โข กริสฺสามา’’ติ มนฺเตนฺตา วิจรนฺติ. อเถโก ติสฺสตฺเถโร นาม ภิกฺขู ‘‘สตฺถา กิร จตุมาสจฺจเยน ปรินิพฺพายิสฺสติ, อหฺจมฺหิ อวีตราโค, สตฺถริ ธรมาเนเยว มยา อรหตฺตํ คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกโกว วิหาสิ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก คมนํ วา เกนจิ สทฺธึ กถาสลฺลาโป วา นตฺถิ. อถ นํ ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ติสฺส ตสฺมา เอวํ กโรสี’’ติ. โส เตสํ กถํ น สุณาติ. เต ตสฺส ปวตฺตึ สตฺถุ อาโรเจตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ติสฺสตฺเถรสฺส สิเนโห นตฺถี’’ติ อาหํสุ. สตฺถา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กสฺมา ติสฺส เอวํ อกาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน อตฺตโน อธิปฺปาเย อาโรจิเต ‘‘สาธุ, ติสฺสา’’ติ สาธุการํ ทตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, มยิ สิเนโห ติสฺสสทิโสว โหตุ. คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กโรนฺตาปิ เนว มํ ปูเชนฺติ, ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺชมานาเยว ปน มํ ปูเชนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๐๕.

‘‘ปวิเวกรสํ ปิตฺวา, รสํ อุปสมสฺส จ;

นิทฺทโร โหติ นิปฺปาโป, ธมฺมปีติรสํ ปิว’’นฺติ.

ตตฺถ ปวิเวกรสนฺติ ปวิเวกโต อุปฺปนฺนํ รสํ, เอกีภาวสุขนฺติ อตฺโถ. ปิตฺวาติ ทุกฺขปริฺาทีนิ กโรนฺโต อารมฺมณโต สจฺฉิกิริยาวเสน ปิวิตฺวา. อุปสมสฺสจาติ กิเลสูปสมนิพฺพานสฺส จ รสํ ปิตฺวา. นิทฺทโร โหตีติ เตน อุภยรสปาเนน ขีณาสโว ภิกฺขุ อพฺภนฺตเร ราคทรถาทีนํ อภาเวน นิทฺทโร เจว นิปฺปาโป จ โหติ. รสํ ปิวนฺติ นววิธโลกุตฺตรธมฺมวเสน อุปฺปนฺนํ ปีติรสํ ปิวนฺโตปิ นิทฺทโร นิปฺปาโป จ โหติ.

เทสนาวสาเน ติสฺสตฺเถโร อรหตฺตํ ปาปุณิ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

ติสฺสตฺเถรวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. สกฺกวตฺถุ

สาหุทสฺสนนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวคามเก วิหรนฺโต สกฺกํ อารพฺภ กเถสิ.

ตถาคตสฺส หิ อายุสงฺขาเร วิสฺสฏฺเ โลหิตปกฺขนฺทิกาพาธสฺส อุปฺปนฺนภาวํ ตฺวา สกฺโก เทวราชา ‘‘มยา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา คิลานุปฏฺานํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ติคาวุตปฺปมาณํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา หตฺเถหิ ปาเท ปริมชฺชิ. อถ นํ สตฺถา อาห ‘‘โก เอโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, สกฺโก’’ติ. ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ? ‘‘ตุมฺเห คิลาเน อุปฏฺหิตุํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สกฺก, เทวานํ มนุสฺสคนฺโธ โยชนสตโต ปฏฺาย คเล พทฺธกุณปํ วิย โหติ , คจฺฉ ตฺวํ, อตฺถิ เม คิลานุปฏฺกา ภิกฺขู’’ติ. ‘‘ภนฺเต, จตุราสีติโยชนสหสฺสมตฺถเก ิโต ตุมฺหากํ สีลคนฺธํ ฆายิตฺวา อาคโต, อหเมว อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ โส สตฺถุ สรีรวฬฺชนภาชนํ อฺสฺส หตฺเถนาปิ ผุสิตุํ อทตฺวา สีเสเยว เปตฺวา นีหรนฺโต มุขสงฺโกจนมตฺตมฺปิ น อกาสิ, คนฺธภาชนํ ปริหรนฺโต วิย อโหสิ. เอวํ สตฺถารํ ปฏิชคฺคิตฺวา สตฺถุ ผาสุกกาเลเยว อคมาสิ.

ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อโห สตฺถริ สกฺกสฺส สิเนโห, เอวรูปํ นาม ทิพฺพสมฺปตฺตึ ปหาย มุขสงฺโกจนมตฺตมฺปิ อกตฺวา คนฺธภาชนํ นีหรนฺโต วิย สตฺถุ สรีรวฬฺชนภาชนํ สีเสน นีหรนฺโต อุปฏฺานมกาสี’’ติ. สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา กึ วเทถ, ภิกฺขเว, อนจฺฉริยํ เอตํ, ยํ สกฺโก เทวราชา มยิ สิเนหํ กโรติ. อยํ สกฺโก หิ เทวราชา มํ นิสฺสาย ชรสกฺกภาวํ วิชหิตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา ตรุณสกฺกสฺส ภาวํ ปตฺโต, อหํ หิสฺส มรณภยตชฺชิตสฺส ปฺจสิขคนฺธพฺพเทวปุตฺตํ ปุรโต กตฺวา อาคตกาเล อินฺทสาลคุหายํ เทวปริสาย มชฺเฌ นิสินฺนสฺส –

‘‘ปุจฺฉ วาสว มํ ปฺหํ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๕๖) –

วตฺวา ตสฺส กงฺขํ วิโนเทนฺโต ธมฺมํ เทเสสึ. เทสนาวสาเน จุทฺทสนฺนํ ปาณโกฏีนํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, สกฺโกปิ ยถานิสินฺโนว โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ตรุณสกฺโก ชาโต. เอวมสฺสาหํ พหูปกาโร. ตสฺส มยิ สิเนโห นาม อนจฺฉริโย. ภิกฺขเว, อริยานฺหิ ทสฺสนมฺปิ สุขํ, เตหิ สทฺธึ เอกฏฺาเน สนฺนิวาโสปิ สุโข. พาเลหิ สทฺธึ ปน สพฺพเมตํ ทุกฺขนฺติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๐๖.

‘‘สาหุ ทสฺสนมริยานํ, สนฺนิวาโส สทา สุโข;

อทสฺสเนน พาลานํ, นิจฺจเมว สุขี สิยา.

๒๐๗.

‘‘พาลสงฺคตจารี หิ, ทีฆมทฺธาน โสจติ;

ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส, อมิตฺเตเนว สพฺพทา;

ธีโร จ สุขสํวาโส, าตีนํว สมาคโม’’.

ตสฺมา หิ –

๒๐๘.

‘‘ธีรฺจ ปฺฺจ พหุสฺสุตฺจ,โธรยฺหสีลํ วตวนฺตมริยํ;

ตํ ตาทิสํ สปฺปุริสํ สุเมธํ,ภเชถ นกฺขตฺตปถํ ว จนฺทิมา’’ติ.

ตตฺถ สาหูติ สุนฺทรํ ภทฺทกํ. สนฺนิวาโสติ น เกวลฺจ เตสํ ทสฺสนเมว, เตหิ สทฺธึ เอกฏฺาเน นิสีทนาทิภาโวปิ เตสํ วตฺตปฏิวตฺตํ กาตุํ ลภนภาโวปิ สาธุเยว. พาลสงฺคตจารี หีติ โย พาเลน สหจารี. ทีฆมทฺธานนฺติ โส พาลสหาเยน ‘‘เอหิ สนฺธิจฺเฉทาทีนิ กโรมา’’ติ วุจฺจมาโน เตน สทฺธึ เอกจฺฉนฺโท หุตฺวา ตานิ กโรนฺโต หตฺถจฺเฉทาทีนิ ปตฺวา ทีฆมทฺธานํ โสจติ. สพฺพทาติ ยถา อสิหตฺเถน วา อมิตฺเตน อาสีวิสาทีหิ วา สทฺธึ เอกโต วาโส นาม นิจฺจํ ทุกฺโข, ตเถว พาเลหิ สทฺธินฺติ อตฺโถ. ธีโร จ สุขสํวาโสติ เอตฺถ สุโข สํวาโส เอเตนาติ สุขสํวาโส, ปณฺฑิเตน สทฺธึ เอกฏฺาเน สํวาโส สุโขติ อตฺโถ. กถํ? าตีนํว สมาคโมติ ยถาปิ าตีนํ สมาคโม สุโข, เอวํ สุโข.

ตสฺมา หีติ ยสฺมา พาเลหิ สทฺธึ สํวาโส ทุกฺโข, ปณฺฑิเตน สทฺธึ สุโข, ตสฺมา หิ ธิติสมฺปนฺนํ ธีรฺจ, โลกิยโลกุตฺตรปฺาสมฺปนฺนํ ปฺฺจ , อาคมาธิคมสมฺปนฺนํ พหุสฺสุตฺจ, อรหตฺตปาปนกสงฺขาตาย ธุรวหนสีลตาย โธรยฺหสีลํ, สีลวเตน เจว ธุตงฺควเตน จ วตวนฺตํ, กิเลเสหิ อารกตาย อริยํ, ตถารูปํ สปฺปุริสํ โสภนปฺหํ ยถา นิมฺมลํ นกฺขตฺตปถสงฺขาตํ อากาสํ จนฺทิมา ภชติ, เอวํ ภเชถ ปยิรุปาเสถาติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

สกฺกวตฺถุ อฏฺมํ.

สุขวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ปนฺนรสโม วคฺโค.