📜
๑๖. ปิยวคฺโค
๑. ตโยชนปพฺพชิตวตฺถุ
อโยเคติ ¶ ¶ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ตโย ปพฺพชิเต อารพฺภ กเถสิ.
สาวตฺถิยํ กิร เอกสฺมึ กุเล มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก อโหสิ ปิโย มนาโป. โส เอกทิวสํ เคเห นิมนฺติตานํ ภิกฺขูนํ อนุโมทนํ กโรนฺตานํ ธมฺมกถํ สุตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา มาตาปิตโร ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เต นานุชานึสุ. ตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ มาตาปิตูนํ อปสฺสนฺตานํเยว พหิ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. อถสฺส ปิตา พหิ นิกฺขมนฺโต ‘‘อิมํ รกฺเขยฺยาสี’’ติ มาตรํ ปฏิจฺฉาเปสิ, มาตา พหิ นิกฺขมนฺตี ปิตรํ ปฏิจฺฉาเปสิ. อถสฺส เอกทิวสํ ปิตริ พหิ คเต มาตา ‘‘ปุตฺตํ รกฺขิสฺสามี’’ติ เอกํ ทฺวารพาหํ นิสฺสาย เอกํ ปาเทหิ อุปฺปีเฬตฺวา ฉมาย นิสินฺนา สุตฺตํ กนฺตติ. โส ‘‘อิมํ วฺเจตฺวา คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อมฺม, โถกํ ตาว อเปหิ, สรีรวลฺชํ กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ตาย ปาเท สมิฺชิเต นิกฺขมิตฺวา เวเคน วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปพฺพาเชถ มํ, ภนฺเต’’ติ ¶ ยาจิตฺวา เตสํ สนฺติเก ปพฺพชิ.
อถสฺส ปิตา อาคนฺตฺวา มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ เม ปุตฺโต’’ติ? ‘‘สามิ, อิมสฺมึ ปเทเส อโหสี’’ติ. โส ‘‘กหํ นุ โข เม ปุตฺโต’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ อทิสฺวา ‘‘วิหารํ คโต ภวิสฺสตี’’ติ วิหารํ คนฺตฺวา ปุตฺตํ ปพฺพชิตํ ทิสฺวา กนฺทิตฺวา โรทิตฺวา, ‘‘ตาต, กึ มํ นาเสสี’’ติ วตฺวา ‘‘มม ปุตฺเต ปพฺพชิเต อหํ อิทานิ เคเห กึ กริสฺสามี’’ติ สยมฺปิ ภิกฺขู ยาจิตฺวา ปพฺพชิ. อถสฺส มาตาปิ ‘‘กึ นุ โข เม ปุตฺโต จ ปติ จ จิรายนฺติ, กจฺจิ วิหารํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตา’’ติ เต โอโลเกนฺตี วิหารํ คนฺตฺวา อุโภปิ ปพฺพชิเต ทิสฺวา ‘‘อิเมสํ ปพฺพชิตกาเล มม เคเหน โก อตฺโถ’’ติ สยมฺปิ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ คนฺตฺวา ปพฺพชิ. เต ปพฺพชิตฺวาปิ วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ, วิหาเรปิ ภิกฺขุนิอุปสฺสเยปิ เอกโตว นิสีทิตฺวา สลฺลปนฺตา ทิวสํ วีตินาเมนฺติ. เตน ภิกฺขูปิ ภิกฺขูนิโยปิ อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ.
อเถกทิวสํ ¶ ¶ ภิกฺขู เนสํ กิริยํ สตฺถุํ อาโรเจสุํ. สตฺถา เต ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตุมฺเห เอวํ กโรถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา เอวํ กโรถ? น หิ เอส ปพฺพชิตานํ โยโค’’ติ. ‘‘ภนฺเต, วินา ภวิตุํ น สกฺโกมา’’ติ. ‘‘ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย เอวํ กรณํ อยุตฺตํ. ปิยานฺหิ อทสฺสนํ, อปฺปิยานฺจ ทสฺสนํ ทุกฺขเมว. ตสฺมา สตฺเตสุ จ สงฺขาเรสุ จ กฺจิ ปิยํ วา อปฺปิยํ วา กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘อโยเค ยฺุชมตฺตานํ, โยคสฺมิฺจ อโยชยํ;
อตฺถํ หิตฺวา ปิยคฺคาหี, ปิเหตตฺตานุโยคินํ.
‘‘มา ¶ ปิเยหิ สมาคฺฉิ, อปฺปิเยหิ กุทาจนํ;
ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ, อปฺปิยานฺจ ทสฺสนํ.
‘‘ตสฺมา ปิยํ น กยิราถ, ปิยาปาโย หิ ปาปโก;
คนฺถา เตสํ น วิชฺชนฺติ, เยสํ นตฺถิ ปิยาปฺปิย’’นฺติ.
ตตฺถ อโยเคติ อยฺุชิตพฺเพ อโยนิโสมนสิกาเร. เวสิยาโคจราทิเภทสฺส หิ ฉพฺพิธสฺส อโคจรสฺส เสวนํ อิธ อโยนิโสมนสิกาโร นาม, ตสฺมึ อโยนิโสมนสิกาเร อตฺตานํ ยฺุชนฺโตติ อตฺโถ. โยคสฺมินฺติ ตพฺพิปรีเต จ โยนิโสมนสิกาเร อยฺุชนฺโตติ อตฺโถ. อตฺถํ หิตฺวาติ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย อธิสีลาทิสิกฺขตฺตยํ อตฺโถ นาม, ตํ อตฺถํ หิตฺวา. ปิยคฺคาหีติ ปฺจกามคุณสงฺขาตํ ปิยเมว คณฺหนฺโต. ปิเหตตฺตานุโยคินนฺติ ตาย ปฏิปตฺติยา สาสนโต จุโต คิหิภาวํ ปตฺวา ปจฺฉา เย อตฺตานุโยคํ อนุยุตฺตา สีลาทีนิ สมฺปาเทตฺวา เทวมนุสฺสานํ สนฺติกา สกฺการํ ลภนฺติ, เตสํ ปิเหติ, ‘‘อโห วตาหมฺปิ เอวรูโป อสฺส’’นฺติ อิจฺฉตีติ อตฺโถ.
มา ปิเยหีติ ปิเยหิ สตฺเตหิ วา สงฺขาเรหิ วา กุทาจนํ เอกกฺขเณปิ น สมาคจฺเฉยฺย, ตถา อปฺปิเยหิ. กึ การณา? ปิยา นฺหิ วิโยควเสน อทสฺสนํ อปฺปิยานฺจ อุปสงฺกมนวเสน ทสฺสนํ นาม ทุกฺขํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อิทํ อุภยมฺปิ ทุกฺขํ, ตสฺมา กฺจิ สตฺตํ วา สงฺขารํ วา ปิยํ นาม น กเรยฺย. ปิยาปาโย หีติ ปิเยหิ ¶ อปาโย วิโยโค ¶ . ปาปโกติ ลามโก. คนฺถา เตสํ น วิชฺชนฺตีติ เยสํ ปิยํ นตฺถิ, เตสํ อภิชฺฌากายคนฺโถ ¶ ปหียติ. เยสํ อปฺปิยํ นตฺถิ, เตสํ พฺยาปาโท กายคนฺโถ. เตสุ ปน ทฺวีสุ ปหีเนสุ เสสคนฺถา ปหีนา โหนฺติ. ตสฺมา ปิยํ วา อปฺปิยํ วา น กตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ. เตน ปน ตโย ชนา ‘‘มยํ วินา ภวิตุํ น สกฺโกมา’’ติ วิพฺภมิตฺวา เคหเมว อคมึสูติ.
ตโยชนปพฺพชิตวตฺถุ ปมํ.
๒. อฺตรกุฏุมฺพิกวตฺถุ
ปิยโต ชายตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ.
โส หิ อตฺตโน ปุตฺเต กาลกเต ปุตฺตโสกาภิภูโต อาฬาหนํ คนฺตฺวา โรทติ, ปุตฺตโสกํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ. สตฺถา ปจฺจูสกาเล โลกํ โวโลเกนฺโต ตสฺส โสตาปตฺติมคฺคสฺสูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เอกํ ปจฺฉาสมณํ คเหตฺวา ตสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. โส สตฺถุ อาคตภาวํ สุตฺวา ‘‘มยา สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กาตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ สตฺถารํ ปเวเสตฺวา เคหมชฺเฌ อาสนํ ปฺาเปตฺวา สตฺถริ นิสินฺเน อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ นุ โข, อุปาสก, ทุกฺขิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ปุตฺตวิโยคทุกฺเข อาโรจิเต, ‘‘อุปาสก, มา จินฺตยิ, อิทํ มรณํ นาม น เอกสฺมึเยว ¶ าเน, น จ เอกสฺเสว โหติ, ยาวตา ปน ภวุปฺปตฺติ นาม อตฺถิ, สพฺพสตฺตานํ โหติเยว. เอกสงฺขาโรปิ นิจฺโจ นาม นตฺถิ. ตสฺมา ‘มรณธมฺมํ มตํ, ภิชฺชนธมฺมํ ภินฺน’นฺติ โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, น โสจิตพฺพํ. โปราณปณฺฑิตาปิ หิ ปุตฺตสฺส มตกาเล ‘มรณธมฺมํ มตํ, ภิชฺชนธมฺมํ ภินฺน’นฺติ โสกํ อกตฺวา มรณสฺสติเมว ภาวยึสู’’ติ วตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เก เอวมกํสุ, กทา จ อกํสุ, อาจิกฺขถ เม’’ติ ยาจิโต ตสฺสตฺถสฺส ปกาสนตฺถํ อตีตํ อาหริตฺวา –
‘‘อุรโคว ¶ ตจํ ชิณฺณํ, หิตฺวา คจฺฉติ สํ ตนุํ;
เอวํ สรีเร นิพฺโภเค, เปเต กาลกเต สติ.
‘‘ฑยฺหมาโน ¶ น ชานาติ, าตีนํ ปริเทวิตํ;
ตสฺมา เอตํ น โสจามิ, คโต โส ตสฺส ยา คตี’’ติ. (ชา. ๑.๕.๑๙-๒๐) –
อิมํ ปฺจกนิปาเต อุรคชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา ‘‘เอวํ ปุพฺเพ ปณฺฑิตา ปิยปุตฺเต กาลกเต ยถา เอตรหิ ตฺวํ กมฺมนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา นิราหาโร โรทนฺโต วิจรสิ, ตถา อวิจริตฺวา มรณสฺสติภาวนาพเลน โสกํ อกตฺวา อาหารํ ปริภฺุชึสุ, กมฺมนฺตฺจ อธิฏฺหึสุ ¶ . ตสฺมา ‘ปิยปุตฺโต เม กาลกโต’ติ มา จินฺตยิ. อุปฺปชฺชมาโน หิ โสโก วา ภยํ วา ปิยเมว นิสฺสาย อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ปิยโต ชายตี โสโก, ปิยโต ชายตี ภยํ;
ปิยโต วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติ.
ตตฺถ ปิยโตติ วฏฺฏมูลโก หิ โสโก วา ภยํ วา อุปฺปชฺชมานํ ปิยเมว สตฺตํ วา สงฺขารํ วา นิสฺสาย อุปฺปชฺชติ, ตโต ปน วิปฺปมุตฺตสฺส อุภยมฺเปตํ นตฺถีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน กุฏุมฺพิโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
อฺตรกุฏุมฺพิกวตฺถุ ทุติยํ.
๓. วิสาขาวตฺถุ
เปมโต ชายตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต วิสาขํ อุปาสิกํ อารพฺภ กเถสิ.
สา กิร ปุตฺตสฺส ธีตรํ สุทตฺตํ นาม กุมาริกํ อตฺตโน าเน เปตฺวา เคเห ภิกฺขุสงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กาเรสิ. สา อปเรน สมเยน กาลมกาสิ. สา ตสฺสา สรีรนิกฺเขปํ กาเรตฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ทุกฺขินี ทุมฺมนา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ นุ โข ตฺวํ, วิสาเข, ทุกฺขินี ทุมฺมนา อสฺสุมุขา ¶ โรทมานา นิสินฺนา’’ติ ¶ อาห. สา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ปิยา เม, ภนฺเต, สา กุมาริกา วตฺตสมฺปนฺนา, อิทานิ ตถารูปํ น ปสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘กิตฺตกา ปน, วิสาเข, สาวตฺถิยํ มนุสฺสา’’ติ? ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิเยว เม กถิตํ สตฺต ชนโกฏิโย’’ติ. ‘‘สเจ ปนายํ เอตฺตโก ชโน ตว นตฺตาย สทิโส ภเวยฺย, อิจฺเฉยฺยาสิ น’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กติ ปน ชนา สาวตฺถิยํ เทวสิกํ กาลํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘พหู, ภนฺเต’’ติ. ‘‘นนุ เอวํ, ภนฺเต, ตว อโสจนกาโล น ภเวยฺย, รตฺตินฺทิวํ โรทนฺตีเยว วิจเรยฺยาสี’’ติ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต, าตํ มยา’’ติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘เตน หิ มา โสจิ, โสโก วา ภยํ วา เปมโตว ชายตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘เปมโต ชายตี โสโก, เปมโต ชายตี ภยํ;
เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติ.
ตตฺถ เปมโตติ ปุตฺตธีตาทีสุ กตํ เปมเมว นิสฺสาย โสโก ชายตีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
วิสาขาวตฺถุ ตติยํ.
๔. ลิจฺฉวีวตฺถุ
รติยา ชายตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวสาลึ นิสฺสาย กูฏาคารสาลายํ วิหรนฺโต ลิจฺฉวี อารพฺภ กเถสิ.
เต ¶ กิร เอกสฺมึ ฉณทิวเส อฺมฺํ อสทิเสหิ อลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา อุยฺยานคมนตฺถาย นครา นิกฺขมึสุ. สตฺถา ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต เต ทิสฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวโย, เยหิ เทวา ตาวตึสา น ทิฏฺปุพฺพา, เต อิเม โอโลเกนฺตู’’ติ วตฺวา นครํ ปาวิสิ. เตปิ อุยฺยานํ คจฺฉนฺตา เอกํ นครโสภินึ อิตฺถึ อาทาย คนฺตฺวา ตํ นิสฺสาย อิสฺสาภิภูตา อฺมฺํ ปหริตฺวา โลหิตํ ¶ นทึ วิย ปวตฺตยึสุ. อถ เน มฺเจนาทาย อุกฺขิปิตฺวา อาคมํสุ. สตฺถาปิ กตภตฺตกิจฺโจ นครา นิกฺขมิ. ภิกฺขูปิ ลิจฺฉวโย ตถา นียมาเน ทิสฺวา สตฺถารํ อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, ลิจฺฉวิราชาโน ¶ ปาโตว อลงฺกตปฏิยตฺตา เทวา วิย นครา นิกฺขมิตฺวา อิทานิ เอกํ อิตฺถึ นิสฺสาย อิมํ พฺยสนํ ปตฺตา’’ติ. สตฺถา, ‘‘ภิกฺขเว, โสโก วา ภยํ วา อุปฺปชฺชมานํ รตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘รติยา ชายตี โสโก, รติยา ชายตี ภยํ;
รติยา วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติ.
ตตฺถ รติยาติ ปฺจกามคุณรติโต, ตํ นิสฺสายาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
ลิจฺฉวีวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. อนิตฺถิคนฺธกุมารวตฺถุ
กามโตติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อนิตฺถิคนฺธกุมารํ นาม อารพฺภ กเถสิ.
โส กิร พฺรหฺมโลกา จุตสตฺโต สาวตฺถิยํ มหาโภคกุเล นิพฺพตฺโต ชาตทิวสโต ปฏฺาย อิตฺถิสมีปํ อุปคนฺตุํ น อิจฺฉติ, อิตฺถิยา คยฺหมาโน โรทติ. วตฺถจุมฺพฏเกน นํ คเหตฺวา ถฺํ ปาเยนฺติ. โส วยปฺปตฺโต มาตาปิตูหิ, ‘‘ตาต, อาวาหํ เต กริสฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น เม อิตฺถิยา อตฺโถ’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ปฺจสเต สุวณฺณกาเร ปกฺโกสาเปตฺวา รตฺตสุวณฺณนิกฺขสหสฺสํ ทาเปตฺวา อติวิย ปาสาทิกํ ฆนโกฏฺฏิมํ อิตฺถิรูปํ กาเรตฺวา ปุน มาตาปิตูหิ, ‘‘ตาต, ตยิ อาวาหํ อกโรนฺเต กุลวํโส น ปติฏฺหิสฺสติ, กุมาริกํ เต อาเนสฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สเจ เม เอวรูปํ กุมาริกํ อาเนสฺสถ, กริสฺสามิ โว วจน’’นฺติ ตํ สุวณฺณรูปกํ ทสฺเสติ. อถสฺส มาตาปิตโร อภิฺาเต พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปุตฺโต มหาปฺุโ, อวสฺสํ อิมินา สทฺธึ กตปฺุา ¶ กุมาริกา ภวิสฺสติ, คจฺฉถ อิมํ สุวณฺณรูปกํ คเหตฺวา เอวรูปํ กุมาริกํ อาหรถา’’ติ ปหิณึสุ. เต ‘‘สาธู’’ติ จาริกํ จรนฺตา มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ คตา. ตสฺมิฺจ นคเร เอกา โสฬสวสฺสุทฺเทสิกา อภิรูปา กุมาริกา อโหสิ, ตํ มาตาปิตโร สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺสูปริมตเล ¶ ¶ ปริวาเสสุํ. เตปิ โข พฺราหฺมณา ‘‘สเจ อิธ เอวรูปา กุมาริกา ภวิสฺสติ, อิมํ ทิสฺวา ‘อยํ อสุกสฺส กุลสฺส ธีตา วิย อภิรูปา’ติ วกฺขนฺตี’’ติ ตํ สุวณฺณรูปกํ ติตฺถมคฺเค เปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ.
อถสฺส กุมาริกาย ธาตี ตํ กุมาริกํ นฺหาเปตฺวา สยมฺปิ นฺหายิตุกามา หุตฺวา ติตฺถํ อาคตา ตํ รูปกํ ทิสฺวา ‘‘ธีตา เม’’ติ สฺาย ‘‘ทุพฺพินีตาสิ, อิทาเนวาหํ นฺหาเปตฺวา นิกฺขนฺตา, ตฺวํ มยา ปุเรตรํ อิธาคตาสี’’ติ หตฺเถน ปหริตฺวา ถทฺธภาวฺเจว นิพฺพิการตฺจ ตฺวา ‘‘อหํ เม, ธีตาติ สฺมกาสึ, กึ นาเมต’’นฺติ อาห. อถ นํ เต พฺราหฺมณา ‘‘เอวรูปา เต, อมฺม, ธีตา’’ติ ปุจฺฉึสุ. อยํ มม ธีตุ สนฺติเก กึ อคฺฆตีติ? เตน หิ เต ธีตรํ อมฺหากํ ทสฺเสหีติ. สา เตหิ สทฺธึ เคหํ คนฺตฺวา สามิกานํ อาโรเจสิ. เต พฺราหฺมเณหิ สทฺธึ กตปฏิสมฺโมทนา ธีตรํ โอตาเรตฺวา เหฏฺาปาสาเท สุวณฺณรูปกสฺส สนฺติเก เปสุํ. สุวณฺณรูปกํ นิปฺปภํ อโหสิ, กุมาริกา สปฺปภา อโหสิ. พฺราหฺมณา ตํ เตสํ ทตฺวา กุมาริกํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา คนฺตฺวา อนิตฺถิคนฺธกุมารสฺส มาตาปิตูนํ อาโรจยึสุ. เต ตุฏฺมานสา ‘‘คจฺฉถ, นํ สีฆํ อาเนถา’’ติ มหนฺเตน สกฺกาเรน ปหิณึสุ.
กุมาโรปิ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘กฺจนรูปโตปิ กิร อภิรูปตรา ทาริกา อตฺถี’’ติ สวนวเสเนว สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีฆํ อาเนนฺตู’’ติ ¶ อาห. สาปิ โข ยานํ อาโรเปตฺวา อานียมานา อติสุขุมาลตาย ยานุคฺฆาเตน สมุปฺปาทิตวาตโรคา อนฺตรามคฺเคเยว กาลมกาสิ. กุมาโรปิ ‘‘อาคตา’’ติ นิรนฺตรํ ปุจฺฉติ, ตสฺส อติสิเนเหน ปุจฺฉนฺตสฺส สหสาว อนาโรเจตฺวา กติปาหํ วิกฺเขปํ กตฺวา ตมตฺถํ อาโรจยึสุ. โส ‘‘ตถารูปาย นาม อิตฺถิยา สทฺธึ สมาคมํ นาลตฺถ’’นฺติ อุปฺปนฺนโทมนสฺโส ปพฺพเตน วิย โสกทุกฺเขน อชฺโฌตฺถโฏ ¶ อโหสิ. สตฺถา ตสฺสูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปิณฺฑาย จรนฺโต ตํ เคหทฺวารํ อคมาสิ. อถสฺส มาตาปิตโร สตฺถารํ อนฺโตเคหํ ปเวเสตฺวา สกฺกจฺจํ ปริวิสึสุ. สตฺถา ภตฺตกิจฺจาวสาเน ‘‘กหํ อนิตฺถิคนฺธกุมาโร’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เอโส, ภนฺเต, อาหารูปจฺเฉทํ กตฺวา อนฺโตคพฺเภ นิสินฺโน’’ติ. ‘‘ปกฺโกสถ น’’นฺติ. โส อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ‘‘กึ นุ โข, กุมาร, พลวโสโก อุปฺปนฺโน’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, ภนฺเต, ‘เอวรูปา นาม อิตฺถี อนฺตรามคฺเค กาลกตา’ติ สุตฺวา พลวโสโก อุปฺปนฺโน, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทตี’’ติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ชานาสิ ปน ตฺวํ, กุมาร, กึ เต นิสฺสาย โสโก อุปฺปนฺโน’’ติ? ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กามํ นิสฺสาย, กุมาร, พลวโสโก อุปฺปนฺโน, โสโก วา ภยํ วา กามํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘กามโต ¶ ชายตี โสโก, กามโต ชายตี ภยํ;
กามโต วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ กามโตติ วตฺถุกามกิเลสกามโต, ทุวิธมฺเปตํ กามํ นิสฺสายาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน อนิตฺถิคนฺธกุมาโร โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.
อนิตฺถิคนฺธกุมารวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. อฺตรพฺราหฺมณวตฺถุ
ตณฺหาย ชายตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ.
โส กิร มิจฺฉาทิฏฺิโก เอกทิวสํ นทีตีรํ คนฺตฺวา เขตฺตํ โสเธติ. สตฺถา ตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โส สตฺถารํ ทิสฺวาปิ สามีจิกมฺมํ อกตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ สตฺถา ปุเรตรํ อาลปิตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, กึ กโรสี’’ติ อาห. ‘‘เขตฺตํ, โภ โคตม, โสเธมี’’ติ. สตฺถา เอตฺตกเมว วตฺวา คโต. ปุนทิวเสปิ ตสฺส เขตฺตํ กสิตุํ อาคตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, กึ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เขตฺตํ กสามิ, โภ โคตมา’’ติ สุตฺวา ปกฺกามิ. ปุนทิวสาทีสุปิ ตเถว คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘โภ โคตม, เขตฺตํ วปามิ นิทฺเทมิ รกฺขามี’’ติ ¶ สุตฺวา ปกฺกามิ. อถ นํ เอกทิวสํ พฺราหฺมโณ อาห – ‘‘โภ โคตม, ตฺวํ มม เขตฺตโสธนทิวสโต ปฏฺาย อาคโต. สเจ เม สสฺสํ สมฺปชฺชิสฺสติ, ตุยฺหมฺปิ สํวิภาคํ กริสฺสามิ, ตุยฺหํ อทตฺวา สยํ น ขาทิสฺสามิ, อิโต ทานิ ปฏฺาย ตฺวํ มม สหาโย’’ติ.
อถสฺส อปเรน สมเยน สสฺสํ สมฺปชฺชิ ¶ , ตสฺส ‘‘สมฺปนฺนํ เม สสฺสํ, สฺเว ทานิ ลายาเปสฺสามี’’ติ ลายนตฺถํ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส รตฺตึ มหาเมโฆ วสฺสิตฺวา สพฺพํ สสฺสํ หริ, เขตฺตํ ตจฺเฉตฺวา ปิตสทิสํ อโหสิ. สตฺถา ปน ปมทิวสํเยว ‘‘ตํ สสฺสํ น สมฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. พฺราหฺมโณ ปาโตว ‘‘เขตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติ คโต ตุจฺฉํ เขตฺตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนพลวโสโก จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มม เขตฺตโสธนกาลโต ปฏฺาย อาคโต ¶ , อหมฺปิ นํ ‘อิมสฺมึ สสฺเส นิปฺผนฺเน ตุยฺหมฺปิ สํวิภาคํ กริสฺสามิ, ตุยฺหํ อทตฺวา สยํ น ขาทิสฺสามิ, อิโต ปฏฺาย ทานิ ตฺวํ มม สหาโย’ติ อวจํ. โสปิ เม มโนรโถ มตฺถกํ น ปาปุณี’’ติ อาหารูปจฺเฉทํ กตฺวา มฺจเก นิปชฺชิ. อถสฺส สตฺถา เคหทฺวารํ อคมาสิ. โส สตฺถุ อาคมนํ สุตฺวา ‘‘สหายํ เม อาเนตฺวา อิธ นิสีทาเปถา’’ติ อาห. ปริชโน ตถา อกาสิ. สตฺถา นิสีทิตฺวา ‘‘กหํ พฺราหฺมโณ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คพฺเภ นิปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘ปกฺโกสถ น’’นฺติ ปกฺโกสาเปตฺวา อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนํ อาห ‘‘กึ, พฺราหฺมณา’’ติ? โภ โคตม, ตุมฺเห มม เขตฺตโสธนทิวสโต ปฏฺาย อาคตา, อหมฺปิ ‘‘สสฺเส นิปฺผนฺเน ตุมฺหากํ สํวิภาคํ กริสฺสามี’’ติ อวจํ. โส เม มโนรโถ อนิปฺผนฺโน, เตน เม โสโก อุปฺปนฺโน, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทตีติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘ชานาสิ ปน, พฺราหฺมณ, กึ เต นิสฺสาย โสโก อุปฺปนฺโน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘น ชานามิ, โภ โคตม, ตฺวํ ปน ชานาสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, อุปฺปชฺชมาโน โสโก วา ภยํ วา ตณฺหํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ตณฺหาย ¶ ชายตี โสโก, ตณฺหาย ชายตี ภยํ;
ตณฺหาย วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติ.
ตตฺถ ตณฺหายาติ ฉทฺวาริกาย ตณฺหาย, เอตํ ตณฺหํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ.
อฺตรพฺราหฺมณวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. ปฺจสตทารกวตฺถุ
สีลทสฺสนสมฺปนฺนนฺติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อนฺตรามคฺเค ปฺจสตทารเก อารพฺภ กเถสิ.
เอกทิวสฺหิ สตฺถา อสีติมหาเถเรหิ สทฺธึ ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต เอกสฺมึ ฉณทิวเส ปฺจสเต ทารเก ปูวปจฺฉิโย อุกฺขิปาเปตฺวา นครา นิกฺขมฺม อุยฺยานํ คจฺฉนฺเต อทฺทส. เตปิ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมึสุ, เต เอกํ ภิกฺขุมฺปิ ‘‘ปูวํ คณฺหถา’’ติ ¶ น วทึสุ. สตฺถา เตสํ คตกาเล ภิกฺขู อาห – ‘‘ขาทิสฺสถ, ภิกฺขเว, ปูเว’’ติ. ‘‘กหํ ภนฺเต, ปูวา’’ติ? ‘‘กึ น ปสฺสถ เต ทารเก ปูวปจฺฉิโย อุกฺขิปาเปตฺวา อติกฺกนฺเต’’ติ? ‘‘ภนฺเต, เอวรูปา นาม ทารกา กสฺสจิ ปูวํ น เทนฺตี’’ติ. ‘‘ภิกฺขเว, กิฺจาปิ เอเต มํ วา ตุมฺเห วา ปูเวหิ น นิมนฺตยึสุ, ปูวสามิโก ปน ภิกฺขุ ปจฺฉโต อาคจฺฉติ, ปูเว ขาทิตฺวาว คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. พุทฺธานฺหิ ¶ เอกปุคฺคเลปิ อิสฺสา วา โทโส วา นตฺถิ, ตสฺมา อิมํ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ อาทาย เอกสฺมึ รุกฺขมูเล ฉายาย นิสีทิ. ทารกา มหากสฺสปตฺเถรํ ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนหา ปีติเวเคน ปริปุณฺณสรีรา หุตฺวา ปจฺฉิโย โอตาเรตฺวา เถรํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา ปูเว ปจฺฉีหิ สทฺธึเยว อุกฺขิปิตฺวา ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ เถรํ วทึสุ. อถ เน เถโร อาห – ‘‘เอส สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆํ คเหตฺวา รุกฺขมูเล นิสินฺโน, ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺมํ อาทาย คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สํวิภาคํ กโรถา’’ติ. เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ นิวตฺติตฺวา เถเรน สทฺธึเยว คนฺตฺวา ปูเว ทตฺวา โอโลกยมานา เอกมนฺเต ตฺวา ปริโภคาวสาเน อุทกํ อทํสุ. ภิกฺขู อุชฺฌายึสุ ‘‘ทารเกหิ มุโขโลกเนน ภิกฺขา ทินฺนา, สมฺมาสมฺพุทฺธํ วา มหาเถเร วา ปูเวหิ อนาปุจฺฉิตฺวา มหากสฺสปตฺเถรํ ทิสฺวา ปจฺฉีหิ สทฺธึเยว อาทาย อาคมึสู’’ติ. สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, มม ปุตฺเตน มหากสฺสเปน สทิโส ภิกฺขุ เทวมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, เต จ ตสฺส จตุปจฺจเยน ปูชํ กโรนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘สีลทสฺสนสมฺปนฺนํ, ธมฺมฏฺํ สจฺจเวทินํ;
อตฺตโน กมฺม กุพฺพานํ, ตํ ชโน กุรุเต ปิย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ¶ สีลทสฺสนสมฺปนฺนนฺติ จตุปาริสุทฺธิสีเลน เจว มคฺคผลสมฺปยุตฺเตน จ สมฺมาทสฺสเนน สมฺปนฺนํ. ธมฺมฏฺนฺติ นววิธโลกุตฺตรธมฺเม ิตํ, สจฺฉิกตโลกุตฺตรธมฺมนฺติ อตฺโถ. สจฺจเวทินนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ โสฬสหากาเรหิ สจฺฉิกตตฺตา สจฺจาเณน สจฺจเวทินํ. อตฺตโน กมฺม กุพฺพานนฺติ อตฺตโน กมฺมํ นาม ติสฺโส สิกฺขา, ตา ปูรยมานนฺติ อตฺโถ. ตํ ชโนติ ตํ ปุคฺคลํ โลกิยมหาชโน ปิยํ กโรติ, ทฏฺุกาโม วนฺทิตุกาโม ปจฺจเยน ปูเชตุกาโม โหติเยวาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน สพฺเพปิ เต ทารกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสูติ.
ปฺจสตทารกวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. เอกอนาคามิตฺเถรวตฺถุ
ฉนฺทชาโตติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อนาคามิตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกทิวสฺหิ ตํ เถรํ สทฺธิวิหาริกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘อตฺถิ ปน โว, ภนฺเต, วิเสสาธิคโม’’ติ. เถโร ‘‘อนาคามิผลํ นาม คหฏฺาปิ ปาปุณนฺติ, อรหตฺตํ ปตฺตกาเลเยว เตหิ สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ หรายมาโน กิฺจิ อกเถตฺวาว กาลกโต สุทฺธาวาสเทวโลเก นิพฺพตฺติ. อถสฺส สทฺธิวิหาริกา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตาว เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. อถ ¶ เน สตฺถา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, โรทถา’’ติ อาห. ‘‘อุปชฺฌาโย โน, ภนฺเต, กาลกโต’’ติ. ‘‘โหตุ, ภิกฺขเว, มา จินฺตยิตฺถ, ธุวธมฺโม นาเมโส’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, มยมฺปิ ชานาม, อปิจ มยํ อุปชฺฌายํ วิเสสาธิคมํ ปุจฺฉิมฺหา, โส กิฺจิ อกเถตฺวาว กาลกโต, เตนมฺห ทุกฺขิตา’’ติ. สตฺถา, ‘‘ภิกฺขเว, มา จินฺตยิตฺถ, อุปชฺฌาเยน โว อนาคามิผลํ ปตฺตํ, โส ‘คิหีเปตํ ปาปุณนฺติ, อรหตฺตํ ปตฺวาว เนสํ กเถสฺสามี’ติ หรายนฺโต ตุมฺหากํ กิฺจิ อกเถตฺวา กาลํ กตฺวา สุทฺธาวาเส นิพฺพตฺโต, อสฺสาสถ, ภิกฺขเว, อุปชฺฌาโย โว กาเมสุ อปฺปฏิพทฺธจิตฺตตํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘ฉนฺทชาโต ¶ อนกฺขาเต, มนสา จ ผุโฏ สิยา;
กาเมสุ จ อปฺปฏิพทฺธจิตฺโต, อุทฺธํโสโตติ วุจฺจตี’’ติ.
ตตฺถ ฉนฺทชาโตติ กตฺตุกามตาวเสน ชาตฉนฺโท อุสฺสาหปตฺโต. อนกฺขาเตติ นิพฺพาเน. ตฺหิ ‘‘อสุเกน กตํ วา นีลาทีสุ เอวรูปํ วา’’ติ อวตฺตพฺพตาย อนกฺขาตํ นาม. มนสา จ ผุโฏ สิยาติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ มคฺคผลจิตฺเตหิ ผุโฏ ปูริโต ภเวยฺย. อปฺปฏิพทฺธจิตฺโตติ อนาคามิมคฺควเสน กาเมสุ อปฺปฏิพทฺธจิตฺโต. อุทฺธํโสโตติ เอวรูโป ภิกฺขุ อวิเหสุ ¶ นิพฺพตฺติตฺวา ตโต ปฏฺาย ปฏิสนฺธิวเสน อกนิฏฺํ คจฺฉนฺโต อุทฺธํโสโตติ วุจฺจติ, ตาทิโส โว อุปชฺฌาโยติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน เต ภิกฺขู อรหตฺตผเล ปติฏฺหึสุ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
เอกอนาคามิตฺเถรวตฺถุ อฏฺมํ.
๙. นนฺทิยวตฺถุ
จิรปฺปวาสินฺติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา อิสิปตเน วิหรนฺโต นนฺทิยํ อารพฺภ กเถสิ.
พาราณสิยํ กิร สทฺธาสมฺปนฺนสฺส กุลสฺส นนฺทิโย นาม ปุตฺโต อโหสิ, โส มาตาปิตูนํ อนุรูโป สทฺธาสมฺปนฺโน สงฺฆุปฏฺาโก อโหสิ. อถสฺส มาตาปิตโร วยปฺปตฺตกาเล สมฺมุขเคหโต มาตุลธีตรํ เรวตึ นาม อาเนตุกามา อเหสุํ. สา ปน อสฺสทฺธา อทานสีลา, นนฺทิโย ตํ น อิจฺฉิ. อถสฺส มาตา เรวตึ อาห – ‘‘อมฺม, ตฺวํ อิมสฺมึ เคเห ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิสชฺชนฏฺานํ อุปลิมฺปิตฺวา อาสนานิ ปฺาเปหิ, อาธารเก เปหิ, ภิกฺขูนํ อาคตกาเล ปตฺตํ คเหตฺวา นิสีทาเปตฺวา ธมฺมกรเณน ปานียํ ปริสฺสาเวตฺวา ภุตฺตกาเล ปตฺเต โธว, เอวํ เม ปุตฺตสฺส อาราธิตา ภวิสฺสสี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. อถ นํ ‘‘โอวาทกฺขมา ชาตา’’ติ ปุตฺตสฺส อาโรเจตฺวา เตน สาธูติ สมฺปฏิจฺฉิเต ทิวสํ เปตฺวา อาวาหํ กรึสุ ¶ .
อถ ¶ นํ นนฺทิโย อาห – ‘‘สเจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ มาตาปิตโร จ เม อุปฏฺหิสฺสสิ, เอวํ อิมสฺมึ เคเห วสิตุํ ลภิสฺสสิ, อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา กติปาหํ สทฺธา วิย หุตฺวา ภตฺตารํ อุปฏฺหนฺตี ทฺเว ปุตฺเต วิชายิ. นนฺทิยสฺสาปิ มาตาปิตโร กาลมกํสุ, เคเห สพฺพิสฺสริยํ ตสฺสาเยว อโหสิ. นนฺทิโยปิ มาตาปิตูนํ กาลกิริยโต ปฏฺาย มหาทานปติ หุตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ปฏฺเปสิ. กปณทฺธิกาทีนมฺปิ เคหทฺวาเร ปากวตฺตํ ปฏฺเปสิ. โส อปรภาเค สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อาวาสทาเน อานิสํสํ สลฺลกฺเขตฺวา อิสิปตเน มหาวิหาเร จตูหิ คพฺเภหิ ปฏิมณฺฑิตํ จตุสาลํ กาเรตฺวา มฺจปีาทีนิ อตฺถราเปตฺวา ตํ อาวาสํ นิยฺยาเทนฺโต พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา ตถาคตสฺส ทกฺขิโณทกํ อทาสิ. สตฺถุ หตฺเถ ทกฺขิโณทกปติฏฺาเนน สทฺธึเยว ตาวตึสเทวโลเก สพฺพทิสาสุ ทฺวาทสโยชนิโก อุทฺธํ โยชนสตุพฺเพโธ สตฺตรตนมโย นารีคณสมฺปนฺโน ทิพฺพปาสาโท อุคฺคจฺฉิ.
อเถกทิวเส มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร เทวจาริกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาสาทสฺส อวิทูเร ิโต อตฺตโน สนฺติเก อาคเต เทวปุตฺเต ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺเสโส อจฺฉราคณปริวุโต ทิพฺพปาสาโท นิพฺพตฺโต’’ติ. อถสฺส เทวปุตฺตา วิมานสามิกํ อาจิกฺขนฺตา อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, เยน นนฺทิเยน นาม คหปติปุตฺเตน อิสิปตเน ¶ สตฺถุ วิหารํ กาเรตฺวา ทินฺโน, ตสฺสตฺถาย เอตํ วิมานํ นิพฺพตฺต’’นฺติ ¶ . อจฺฉราสงฺโฆปิ นํ ทิสฺวา ปาสาทโต โอโรหิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต, มยํ ‘นนฺทิยสฺส ปริจาริกา ภวิสฺสามา’ติ อิธ นิพฺพตฺตา, ตํ ปน อปสฺสนฺตี อติวิย อุกฺกณฺิตมฺหา, มตฺติกปาตึ ภินฺทิตฺวา สุวณฺณปาติคหณํ วิย มนุสฺสสมฺปตฺตึ ชหิตฺวา ทิพฺพสมฺปตฺติคหณํ, อิธาคมนตฺถาย นํ วเทยฺยาถา’’ติ. เถโร ตโต อาคนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘นิพฺพตฺตติ นุ โข, ภนฺเต, มนุสฺสโลเก ิตานํเยว กตกลฺยาณานํ ทิพฺพสมฺปตฺตี’’ติ. ‘‘โมคฺคลฺลาน, นนุ เต เทวโลเก นนฺทิยสฺส นิพฺพตฺตา ทิพฺพสมฺปตฺติ สามํ ทิฏฺา, กสฺมา มํ ปุจฺฉสี’’ติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต, นิพฺพตฺตตี’’ติ.
อถ นํ สตฺถา ‘‘โมคฺคลฺลานํ กึ นาเมตํ กเถสิ. ยถา หิ จิรปฺปวุฏฺํ ปุตฺตํ วา ภาตรํ วา วิปฺปวาสโต อาคจฺฉนฺตํ คามทฺวาเร ิโต โกจิเทว ¶ ทิสฺวา เวเคน เคหํ อาคนฺตฺวา ‘อสุโก นาม อาคโต’ติ อาโรเจยฺย, อถสฺส าตกา หฏฺปหฏฺา เวเคน นิกฺขมิตฺวา ‘อาคโตสิ, ตาต, อโรโคสิ, ตาตา’ติ ตํ อภินนฺเทยฺยุํ, เอวเมว อิธ กตกลฺยาณํ อิตฺถึ วา ปุริสํ วา อิมํ โลกํ ชหิตฺวา ปรโลกํ คตํ ทสวิธํ ทิพฺพปณฺณาการํ อาทาย ‘อหํ ปุรโต ¶ , อหํ ปุรโต’ติ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เทวตา อภินนฺทนฺตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘จิรปฺปวาสึ ปุริสํ, ทูรโต โสตฺถิมาคตํ;
าติมิตฺตา สุหชฺชา จ, อภินนฺทนฺติ อาคตํ.
‘‘ตเถว กตปฺุมฺปิ, อสฺมา โลกา ปรํ คตํ;
ปฺุานิ ปฏิคณฺหนฺติ, ปิยํ าตีว อาคต’’นฺติ.
ตตฺถ จิรปฺปวาสินฺติ จิรปฺปวุฏฺํ. ทูรโต โสตฺถิมาคตนฺติ วณิชฺชํ วา ราชโปริสํ วา กตฺวา ลทฺธลาภํ นิปฺผนฺนสมฺปตฺตึ อนุปทฺทเวน ทูรฏฺานโต อาคตํ. าติมิตฺตา สุหชฺชา จาติ กุลสมฺพนฺธวเสน าตี จ สนฺทิฏฺาทิภาเวน มิตฺตา จ สุหทยภาเวน สุหชฺชา จ. อภินนฺทนฺติ อาคตนฺติ นํ ทิสฺวา อาคตนฺติ วจนมตฺเตน วา อฺชลิกรณมตฺเตน วา เคหสมฺปตฺตํ ปน นานปฺปการปณฺณาการาภิหรณวเสน อภินนฺทนฺติ. ตเถวาติ เตเนวากาเรน กตปฺุมฺปิ ปุคฺคลํ อิมสฺมา โลกา ปรโลกํ คตํ ทิพฺพํ อายุวณฺณสุขยสอาธิปเตยฺยํ, ทิพฺพํ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพนฺติ อิมํ ทสวิธํ ปณฺณาการํ อาทาย มาตาปิตุฏฺาเน ิตานิ ปฺุานิ อภินนฺทนฺตานิ ¶ ปฏิคฺคณฺหนฺติ. ปิยํ าตีวาติ อิธโลเก ปิยาตกํ อาคตํ เสสาตกา วิยาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน ¶ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
นนฺทิยวตฺถุ นวมํ.
ปิยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
โสฬสโม วคฺโค.