📜
๑๗. โกธวคฺโค
๑. โรหินีขตฺติยกฺาวตฺถุ
โกธํ ¶ ¶ ¶ ชเหติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต โรหินึ นาม ขตฺติยกฺํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกสฺมึ กิร สมเย อายสฺมา อนุรุทฺโธ ปฺจสเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ กปิลวตฺถุํ อคมาสิ. อถสฺส าตกา ‘‘เถโร อาคโต’’ติ สุตฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อคมํสุ เปตฺวา โรหินึ นาม เถรสฺส ภคินึ. เถโร าตเก ปุจฺฉิ ‘‘กหํ, โรหินี’’ติ? ‘‘เคเห, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กสฺมา อิธ นาคตา’’ติ? ‘‘สรีเร ตสฺสา ฉวิโรโค อุปฺปนฺโนติ ลชฺชาย นาคตา, ภนฺเต’’ติ. เถโร ‘‘ปกฺโกสถ น’’นฺติ ปกฺโกสาเปตฺวา ปฏกฺจุกํ ปฏิมฺุจิตฺวา อาคตํ เอวมาห – ‘‘โรหินิ, กสฺมา นาคตาสี’’ติ? ‘‘สรีเร เม, ภนฺเต, ฉวิโรโค อุปฺปนฺโน, ตสฺมา ลชฺชาย นาคตามฺหี’’ติ. ‘‘กึ ปน เต ปฺุํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘กึ กโรมิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อาสนสาลํ กาเรหี’’ติ. ‘‘กึ ¶ คเหตฺวา’’ติ? ‘‘กึ เต ปสาธนภณฺฑกํ นตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ มูล’’นฺติ? ‘‘ทสสหสฺสมูลํ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ ตํ วิสฺสชฺเชตฺวา อาสนสาลํ กาเรหี’’ติ. ‘‘โก เม, ภนฺเต, กาเรสฺสตี’’ติ? เถโร สมีเป ิตาตเก โอโลเกตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ภาโร โหตู’’ติ อาห. ‘‘ตุมฺเห ปน, ภนฺเต, กึ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘อหมฺปิ อิเธว ภวิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ เอติสฺสา ทพฺพสมฺภาเร อาหรถา’’ติ. เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ อาหรึสุ.
เถโร อาสนสาลํ สํวิทหนฺโต โรหินึ อาห – ‘‘ทฺวิภูมิกํ อาสนสาลํ กาเรตฺวา อุปริ ปทรานํ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย เหฏฺาสาลํ นิพทฺธํ สมฺมชฺชิตฺวา อาสนานิ ปฺาเปหิ, นิพทฺธํ ปานียฆเฏ อุปฏฺาเปหี’’ติ. สา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ปสาธนภณฺฑกํ วิสฺสชฺเชตฺวา ทฺวิภูมิกอาสนสาลํ กาเรตฺวา อุปริ ปทรานํ ทินฺนกาลโต ปฏฺาย เหฏฺาสาลํ สมฺมชฺชนาทีนิ อกาสิ. นิพทฺธํ ภิกฺขู นิสีทนฺติ. อถสฺสา อาสนสาลํ สมฺมชฺชนฺติยาว ฉวิโรโค มิลายิ. สา อาสนสาลาย นิฏฺิตาย พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา อาสนสาลํ ปูเรตฺวา ¶ นิสินฺนสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส ¶ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ อทาสิ. สตฺถา กตภตฺตกิจฺโจ ‘‘กสฺเสตํ ทาน’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภคินิยา เม, ภนฺเต, โรหินิยา’’ติ. ‘‘สา ปน กห’’นฺติ? ‘‘เคเห, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปกฺโกสถ น’’นฺติ? สา อาคนฺตุํ น อิจฺฉิ. อถ นํ สตฺถา อนิจฺฉมานมฺปิ ปกฺโกสาเปสิเยว. อาคนฺตฺวา จ ปน วนฺทิตฺวา ¶ นิสินฺนํ อาห – ‘‘โรหินิ, กสฺมา นาคมิตฺถา’’ติ? ‘‘สรีเร เม, ภนฺเต, ฉวิโรโค อตฺถิ, เตน ลชฺชมานา นาคตามฺหี’’ติ. ‘‘ชานาสิ ปน กึ เต นิสฺสาย เอส อุปฺปนฺโน’’ติ? ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตว โกธํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน เอโส’’ติ. ‘‘กึ ปน เม, ภนฺเต, กต’’นฺติ? ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ. อถสฺสา สตฺถา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสี เอกิสฺสา รฺโ นาฏกิตฺถิยา อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ‘‘ทุกฺขมสฺสา อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหากจฺฉุผลานิ อาหราเปตฺวา ตํ นาฏกิตฺถึ อตฺตโน สนฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ยถา สา น ชานาติ, เอวมสฺสา สยเน เจว ปาวารโกชวาทีนฺจ อนฺตเรสุ กจฺฉุจุณฺณานิ ปาเปสิ, เกฬึ กุรุมานา วิย ตสฺสา สรีเรปิ โอกิริ. ตํ ขณํเยว ตสฺสา สรีรํ อุปฺปกฺกุปฺปกฺกํ คณฺฑาคณฺฑชาตํ อโหสิ. สา กณฺฑุวนฺตี คนฺตฺวา สยเน นิปชฺชิ, ตตฺราปิสฺสา กจฺฉุจุณฺเณหิ ขาทิยมานาย ขรตรา เวทนา อุปฺปชฺชิ. ตทา อคฺคมเหสี โรหินี อโหสีติ.
สตฺถา อิมํ อตีตํ อาหริตฺวา, ‘‘โรหินิ, ตทา ตยาเวตํ กมฺมํ กตํ. อปฺปมตฺตโกปิ หิ โกโธ วา อิสฺสา วา กาตุํ น ยุตฺตรูโป เอวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘โกธํ ชเห วิปฺปชเหยฺย มานํ,
สํโยชนํ สพฺพมติกฺกเมยฺย;
ตํ นามรูปสฺมิมสชฺชมานํ,
อกิฺจนํ นานุปตนฺติ ทุกฺขา’’ติ.
ตตฺถ ¶ โกธนฺติ สพฺพาการมฺปิ โกธํ นววิธมฺปิ มานํ ชเหยฺย. สํโยชนนฺติ กามราคสํโยชนาทิกํ ทสวิธมฺปิ สพฺพสํโยชนํ อติกฺกเมยฺย. อสชฺชมานนฺติ อลคฺคมานํ. โย หิ ‘‘มม รูปํ มม เวทนา’’ติอาทินา นเยน นามรูปํ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺมิฺจ ภิชฺชมาเน โสจติ วิหฺติ ¶ , อยํ นามรูปสฺมึ สชฺชติ นาม. เอวํ อคฺคณฺหนฺโต อวิหฺนฺโต น สชฺชติ นาม. ตํ ปุคฺคลํ เอวํ อสชฺชมานํ ราคาทีนํ อภาเวน อกิฺจนํ ¶ ทุกฺขา นาม นานุปตนฺตีติ อตฺโถ. เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ. โรหินีปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา, ตงฺขณฺเวสฺสา สรีรํ สุวณฺณวณฺณํ อโหสิ.
สา ตโต จุตา ตาวตึสภวเน จตุนฺนํ เทวปุตฺตานํ สีมนฺตเร นิพฺพตฺติตฺวา ปาสาทิกา รูปโสภคฺคปฺปตฺตา อโหสิ. จตฺตาโรปิ เทวปุตฺตา ตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนหา หุตฺวา ‘‘มม สีมาย อนฺโต นิพฺพตฺตา, มม สีมาย อนฺโต นิพฺพตฺตา’’ติ วิวทนฺตา สกฺกสฺส เทวรฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘เทว, อิมํ โน นิสฺสาย อฑฺโฑ อุปฺปนฺโน, ตํ วินิจฺฉินาถา’’ติ อาหํสุ. สกฺโกปิ ตํ โอโลเกตฺวาว อุปฺปนฺนสิเนโห หุตฺวา เอวมาห – ‘‘อิมาย โว ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย กถํ จิตฺตานิ อุปฺปนฺนานี’’ติ. อเถโก อาห – ‘‘มม ตาว อุปฺปนฺนจิตฺตํ สงฺคามเภริ วิย สนฺนิสีทิตุํ นาสกฺขี’’ติ. ทุติโย ‘‘มม จิตฺตํ ปพฺพตนที วิย สีฆํ ปวตฺตติเยวา’’ติ ¶ . ตติโย ‘‘มม อิมิสฺสา ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย กกฺกฏสฺส วิย อกฺขีนิ นิกฺขมึสู’’ติ. จตุตฺโถ ‘‘มม จิตฺตํ เจติเย อุสฺสาปิตธโช วิย นิจฺจลํ าตุํ นาสกฺขี’’ติ. อถ เน สกฺโก อาห – ‘‘ตาตา, ตุมฺหากํ ตาว จิตฺตานิ ปสยฺหรูปานิ, อหํ ปน อิมํ ลภนฺโต ชีวิสฺสามิ, อลภนฺตสฺส เม มรณํ ภวิสฺสตี’’ติ. เทวปุตฺตา, ‘‘มหาราช, ตุมฺหากํ มรเณน อตฺโถ นตฺถี’’ติ ตํ สกฺกสฺส วิสฺสชฺเชตฺวา ปกฺกมึสุ. สา สกฺกสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา. ‘‘อสุกกีฬํ นาม คจฺฉามา’’ติ วุตฺเต สกฺโก ตสฺสา วจนํ ปฏิกฺขิปิตุํ นาสกฺขีติ.
โรหินีขตฺติยกฺาวตฺถุ ปมํ.
๒. อฺตรภิกฺขุวตฺถุ
โย เว อุปฺปติตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา อคฺคาฬเว เจติเย วิหรนฺโต อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ.
สตฺถารา ¶ หิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เสนาสเน อนฺุาเต ราชคหเสฏฺิอาทีหิ เสนาสเนสุ กริยมาเนสุ เอโก อาฬวิโก ภิกฺขุ อตฺตโน เสนาสนํ กโรนฺโต เอกํ มนาปรุกฺขํ ¶ ทิสฺวา ฉินฺทิตุํ อารภิ. ตตฺถ ปน นิพฺพตฺตา เอกา ตรุณปุตฺตา เทวตา ปุตฺตํ องฺเกนาทาย ิตา ยาจิ ‘‘มา เม, สามิ, วิมานํ ฉินฺทิ, น สกฺขิสฺสามิ ปุตฺตํ อาทาย อนาวาสา วิจริตุ’’นฺติ. โส ¶ ‘‘อหํ อฺตฺร อีทิสํ รุกฺขํ น ลภิสฺสามี’’ติ ตสฺสา วจนํ นาทิยิ. สา ‘‘อิมมฺปิ ตาว ทารกํ โอโลเกตฺวา โอรมิสฺสตี’’ติ ปุตฺตํ รุกฺขสาขาย เปสิ. โสปิ ภิกฺขุ อุกฺขิปิตํ ผรสุํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ทารกสฺส พาหุํ ฉินฺทิ, เทวตา อุปฺปนฺนพลวโกธา ‘‘ปหริตฺวา นํ มาเรสฺสามี’’ติ อุโภ หตฺเถ อุกฺขิปิตฺวา เอวํ ตาว จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ สีลวา. สจาหํ อิมํ มาเรสฺสามิ, นิรยคามินี ภวิสฺสามิ. เสสเทวตาปิ อตฺตโน รุกฺขํ ฉินฺทนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘อสุกเทวตาย เอวํ นาม มาริโต ภิกฺขู’ติ มํ ปมาณํ กตฺวา ภิกฺขู มาเรสฺสนฺติ. อยฺจ สสามิโก ภิกฺขุ, สามิกสฺเสว นํ กเถสฺสามี’’ติ อุกฺขิตฺตหตฺเถ อปเนตฺวา โรทมานา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ เทวเต’’ติ อาห. สา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ เม สาวเกน อิทํ นาม กตํ, อหมฺปิ นํ มาเรตุกามา หุตฺวา อิทํ นาม จินฺเตตฺวา อมาเรตฺวาว อิธาคตา’’ติ สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ วิตฺถารโต อาโรเจสิ.
สตฺถา ตํ สุตฺวา ‘‘สาธุ, ¶ สาธุ เทวเต, สาธุ เต กตํ เอวํ อุคฺคตํ โกปํ ภนฺตํ รถํ วิย นิคฺคณฺหมานายา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘โย เว อุปฺปติตํ โกธํ, รถํ ภนฺตํว วารเย;
ตมหํ สารถึ พฺรูมิ, รสฺมิคฺคาโห อิตโร ชโน’’ติ.
ตตฺถ อุปฺปติตนฺติ อุปฺปนฺนํ. รถํ ภนฺตํ วาติ ยถา นาม เฉโก สารถิ อติเวเคน ธาวนฺตํ รถํ นิคฺคณฺหิตฺวา ยถิจฺฉกํ เปติ, เอวํ โย ปุคฺคโล อุปฺปนฺนํ โกธํ วารเย นิคฺคณฺหิตุํ สกฺโกติ. ตมหนฺติ ตํ อหํ สารถึ พฺรูมิ. อิตโร ชโนติ อิตโร ปน ราชอุปราชาทีนํ รถสารถิชโน รสฺมิคฺคาโห นาม โหติ, น อุตฺตมสารถีติ.
เทสนาวสาเน ¶ เทวตา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
เทวตา ปน โสตาปนฺนา หุตฺวาปิ โรทมานา อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘กึ เทวเต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, วิมานํ เม นฏฺํ, อิทานิ กึ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อลํ เทวเต, มา จินฺตยิ, อหํ เต วิมานํ ทสฺสามี’’ติ เชตวเน คนฺธกุฏิสมีเป ปุริมทิวเส จุตเทวตํ เอกํ รุกฺขํ อปทิสนฺโต ‘‘อมุกสฺมึ โอกาเส รุกฺโข วิวิตฺโต, ตตฺถ อุปคจฺฉา’’ติ อาห. สา ตตฺถ ¶ อุปคฺฉิ. ตโต ปฏฺาย ‘‘พุทฺธทตฺติยํ อิมิสฺสา วิมาน’’นฺติ มเหสกฺขเทวตาปิ อาคนฺตฺวา ¶ ตํ จาเลตุํ นาสกฺขึสุ. สตฺถา ตํ อตฺถุปฺปตฺตึ กตฺวา ภิกฺขูนํ ภูตคามสิกฺขาปทํ ปฺาเปสีติ.
อฺตรภิกฺขุวตฺถุ ทุติยํ.
๓. อุตฺตราอุปาสิกาวตฺถุ
อกฺโกเธน ชิเน โกธนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อุตฺตราย เคเห กตภตฺตกิจฺโจ อุตฺตรํ อุปาสิกํ อารพฺภ กเถสิ.
ตตฺรายมนุปุพฺพี กถา – ราชคเห กิร สุมนเสฏฺึ นิสฺสาย ปุณฺโณ นาม ทลิทฺโท ภตึ กตฺวา ชีวติ. ตสฺส ภริยา จ อุตฺตรา นาม ธีตา จาติ ทฺเวเยว เคหมานุสกา. อเถกทิวสํ ‘‘สตฺตาหํ นกฺขตฺตํ กีฬิตพฺพ’’นฺติ ราชคเห โฆสนํ กรึสุ. ตํ สุตฺวา สุมนเสฏฺิ ปาโตว อาคตํ ปุณฺณํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต, อมฺหากํ ปริชโน นกฺขตฺตํ กีฬิตุกาโม, ตฺวํ กึ นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสสิ, อุทาหุ ภตึ กริสฺสสี’’ติ อาห. ‘‘สามิ, นกฺขตฺตํ นาม สธนานํ โหติ, มม ปน เคเห สฺวาตนาย ยาคุตณฺฑุลมฺปิ นตฺถิ, กึ เม นกฺขตฺเตน, โคเณ ลภนฺโต กสิตุํ คมิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ โคเณ คณฺหาหี’’ติ. โส พลวโคเณ จ นงฺคลฺจ คเหตฺวา, ‘‘ภทฺเท, นาครา นกฺขตฺตํ กีฬนฺติ, อหํ ทลิทฺทตาย ภตึ กาตุํ คมิสฺสามิ, มยฺหมฺปิ ตาว อชฺช ทฺวิคุณํ ¶ นิวาปํ ปจิตฺวา ภตฺตํ อาหเรยฺยาสี’’ติ ภริยํ วตฺวา เขตฺตํ อคมาสิ.
สาริปุตฺตตฺเถโรปิ ¶ สตฺตาหํ นิโรธสมาปนฺโน ตํ ทิวสํ วุฏฺาย ‘‘กสฺส นุ โข อชฺช มยา สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ โอโลเกนฺโต ปุณฺณํ อตฺตโน าณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺํ ทิสฺวา ‘‘สทฺโธ นุ โข เอส, สกฺขิสฺสติ วา เม สงฺคหํ กาตุ’’นฺติ โอโลเกนฺโต ตสฺส สทฺธภาวฺจ สงฺคหํ กาตุํ สมตฺถภาวฺจ ตปฺปจฺจยา จสฺส มหาสมฺปตฺติปฏิลาภฺจ ตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺส กสนฏฺานํ คนฺตฺวา อาวาฏตีเร เอกํ คุมฺพํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ.
ปุณฺโณ เถรํ ทิสฺวาว กสึ เปตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ทนฺตกฏฺเน อตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ ทนฺตกฏฺํ กปฺปิยํ กตฺวา อทาสิ. อถสฺส เถโร ปตฺตฺจ ปริสฺสาวนฺจ นีหริตฺวา ¶ อทาสิ. โส ‘‘ปานีเยน อตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ ตํ อาทาย ปานียํ ปริสฺสาเวตฺวา อทาสิ. เถโร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ปเรสํ ปจฺฉิมเคเห วสติ. สจสฺส เคหทฺวารํ คมิสฺสามิ, อิมสฺส ภริยา มํ ทฏฺุํ น ลภิสฺสติ. ยาวสฺสา ภตฺตํ อาทาย มคฺคํ ปฏิปชฺชติ, ตาว อิเธว ภวิสฺสามี’’ติ. โส ตตฺเถว โถกํ วีตินาเมตฺวา ตสฺส มคฺคารุฬฺหภาวํ ตฺวา อนฺโตนคราภิมุโข ปายาสิ.
สา อนฺตรามคฺเค เถรํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อปฺเปกทาหํ เทยฺยธมฺเม สติ ¶ อยฺยํ น ปสฺสามิ, อปฺเปกทา เม อยฺยํ ปสฺสนฺติยา เทยฺยธมฺโม น โหติ. อชฺช ปน เม อยฺโย จ ทิฏฺโ, เทยฺยธมฺโม จายํ อตฺถิ, กริสฺสติ นุ โข เม สงฺคห’’นฺติ. สา ภตฺตภาชนํ โอโรเปตฺวา เถรํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิทํ ลูขํ วา ปณีตํ วาติ อจินฺเตตฺวา ทาสสฺส โว สงฺคหํ กโรถา’’ติ อาห. เถโร ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา ตาย เอเกน หตฺเถน ภาชนํ ธาเรตฺวา เอเกน หตฺเถน ตโต ภตฺตํ ททมานาย อุปฑฺฒภตฺเต ทินฺเน ‘‘อล’’นฺติ หตฺเถน ปตฺตํ ปิทหิ. สา, ‘‘ภนฺเต, เอโกว ปฏิวิโส, น สกฺกา ทฺวิธา กาตุํ. ตุมฺหากํ ทาสสฺส อิธโลกสงฺคหํ อกตฺวา ปรโลกสงฺคหํ กโรถ, นิรวเสสเมว ทาตุกามมฺหี’’ติ วตฺวา สพฺพเมว เถรสฺส ปตฺเต ปติฏฺเปตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ ทิฏฺธมฺมสฺเสว ภาคี อสฺส’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิ. เถโร ‘‘เอวํ โหตู’’ติ วตฺวา ิตโกว อนุโมทนํ กริตฺวา เอกสฺมึ อุทกผาสุกฏฺาเน นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจมกาสิ. สาปิ นิวตฺติตฺวา ตณฺฑุเล ปริเยสิตฺวา ภตฺตํ ปจิ. ปุณฺโณปิ อฑฺฒกรีสมตฺตฏฺานํ กสิตฺวา ชิฆจฺฉํ สหิตุํ อสกฺโกนฺโต โคเณ วิสฺสชฺเชตฺวา เอกรุกฺขจฺฉายํ ปวิสิตฺวา มคฺคํ โอโลเกนฺโต นิสีทิ.
อถสฺส ¶ ภริยา ภตฺตํ อาทาย คจฺฉมานา ตํ ทิสฺวาว ‘‘เอส ชิฆจฺฉาย ปีฬิโต มํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโน. สเจ มํ ¶ ‘อติวิย เช จิรายี’ติ ตชฺเชตฺวา ปโตทลฏฺิยา มํ ปหริสฺสติ, มยา กตกมฺมํ นิรตฺถกํ ภวิสฺสติ. ปฏิกจฺเจวสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห – ‘‘สามิ, อชฺเชกทิวสํ จิตฺตํ ปสาเทหิ, มา มยา กตกมฺมํ นิรตฺถกํ กริ. อหฺหิ ปาโตว เต ภตฺตํ อาหรนฺตี อนฺตรามคฺเค ธมฺมเสนาปตึ ทิสฺวา ตว ภตฺตํ ตสฺส ทตฺวา ปุน คนฺตฺวา ภตฺตํ ปจิตฺวา อาคตา, ปสาเทหิ, สามิ, จิตฺต’’นฺติ. โส ‘‘กึ วเทสิ, ภทฺเท’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปุน ตมตฺถํ สุตฺวา, ‘‘ภทฺเท, สาธุ วต เต กตํ มม ภตฺตํ อยฺยสฺส ททมานาย, มยาปิสฺส อชฺช ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุโขทกฺจ ทินฺน’’นฺติ ปสนฺนมานโส ตํ วจนํ อภินนฺทิตฺวา อุสฺสุเร ลทฺธภตฺตตาย กิลนฺตกาโย ตสฺสา องฺเก สีสํ กตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ.
อถสฺส ¶ ปาโตว กสิตฏฺานํ ปํสุจุณฺณํ อุปาทาย สพฺพํ รตฺตสุวณฺณํ กณิการปุปฺผราสิ วิย โสภมานํ อฏฺาสิ. โส ปพุทฺโธ โอโลเกตฺวา ภริยํ อาห – ‘‘ภทฺเท, เอตํ กสิตฏฺานํ สพฺพํ มม สุวณฺณํ หุตฺวา ปฺายติ, กึ นุ โข เม อติอุสฺสุเร ลทฺธภตฺตตาย อกฺขีนิ ภมนฺตี’’ติ. ‘‘สามิ, มยฺหมฺปิ เอวเมว ปฺายตี’’ติ. โส อุฏฺาย ตตฺถ คนฺตฺวา เอกปิณฺฑํ คเหตฺวา นงฺคลสีเส ปหริตฺวา สุวณฺณภาวํ ตฺวา ¶ ‘‘อโห อยฺยสฺส ธมฺมเสนาปติสฺส เม ทินฺนทาเนน อชฺเชว วิปาโก ทสฺสิโต, น โข ปน สกฺกา เอตฺตกํ ธนํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปริภฺุชิตุ’’นฺติ ภริยาย อาภตํ ภตฺตปาตึ สุวณฺณสฺส ปูเรตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา รฺา กโตกาโส ปวิสิตฺวา ราชานํ อภิวาเทตฺวา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ วุตฺเต, ‘‘เทว, อชฺช มยา กสิตฏฺานํ สพฺพํ สุวณฺณภริตเมว หุตฺวา ิตํ, อิทํ สุวณฺณํ อาหราเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ? ‘‘ปุณฺโณ นาม อห’’นฺติ. ‘‘กึ ปน เต อชฺช กต’’นฺติ? ‘‘ธมฺมเสนาปติสฺส เม อชฺช ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุโขทกฺจ ทินฺนํ, ภริยายปิ เม มยฺหํ อาหรณภตฺตํ ตสฺเสว ทินฺน’’นฺติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อชฺเชว กิร, โภ, ธมฺมเสนาปติสฺส ทินฺนทาเนน วิปาโก ทสฺสิโต’’ติ วตฺวา, ‘‘ตาต, กึ กโรมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘พหูนิ สกฏสหสฺสานิ ปหิณิตฺวา สุวณฺณํ อาหราเปถา’’ติ. ราชา สกฏานิ ปหิณิ. ราชปุริเสสุ ‘‘รฺโ สนฺตก’’นฺติ คณฺหนฺเตสุ คหิตคหิตํ มตฺติกาว โหติ. เต คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ กินฺติ ¶ วตฺวา คหิต’’นฺติ. ปุฏฺา ‘‘ตุมฺหากํ สนฺตก’’นฺติ อาหํสุ. น มยฺหํ, ตาตา, สนฺตกํ, คจฺฉถ ‘‘ปุณฺณสฺส สนฺตก’’นฺติ ¶ วตฺวา คณฺหถาติ. เต ตถา กรึสุ, คหิตคหิตํ สุวณฺณเมว อโหสิ. สพฺพมฺปิ อาหริตฺวา ราชงฺคเณ ราสิมกํสุ, อสีติหตฺถุพฺเพโธ ราสิ อโหสิ. ราชา นาคเร สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘อิมสฺมึ นคเร อตฺถิ กสฺสจิ เอตฺตกํ สุวณฺณ’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, เทวา’’ติ. ‘‘กึ ปนสฺส ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เสฏฺิฉตฺตํ, เทวา’’ติ. ราชา ‘‘พาหุธนเสฏฺิ นาม โหตู’’ติ มหนฺเตน โภเคน สทฺธึ ตสฺส เสฏฺิฉตฺตมทาสิ. อถ นํ โส อาห – ‘‘มยํ, เทว, เอตฺตกํ กาลํ ปรกุเล วสิมฺหา, วสนฏฺานํ โน เทถา’’ติ. ‘‘เตน หิ ปสฺส, เอส คุมฺโพ ปฺายติ, เอตํ หราเปตฺวา เคหํ กาเรหี’’ติ ปุราณเสฏฺิสฺส เคหฏฺานํ อาจิกฺขิ. โส ตสฺมึ าเน กติปาเหเนว เคหํ การาเปตฺวา เคหปฺปเวสนมงฺคลฺจ ฉตฺตมงฺคลฺจ เอกโตว กโรนฺโต สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ อทาสิ. อถสฺส สตฺถา อนุโมทนํ กโรนฺโต อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. ธมฺมกถาวสาเน ปุณฺณเสฏฺิ จ ภริยา จสฺส ธีตา จ อุตฺตราติ ตโย ชนา โสตาปนฺนา อเหสุํ.
อปรภาเค ¶ ราชคหเสฏฺิ ปุณฺณเสฏฺิโน ธีตรํ อตฺตโน ปุตฺตสฺส วาเรสิ. โส ‘‘นาหํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘มา เอวํ กโรตุ, เอตฺตกํ กาลํ อมฺเห นิสฺสาย วสนฺเตเนว ¶ เต สมฺปตฺติ ลทฺธา, เทตุ เม ปุตฺตสฺส ธีตร’’นฺติ วุตฺเต ‘‘โส มิจฺฉาทิฏฺิโก, มม ธีตา ตีหิ รตเนหิ วินา วตฺติตุํ น สกฺโกติ, เนวสฺส ธีตรํ ทสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ พหู เสฏฺิคณาทโย กุลปุตฺตา ‘‘มา เตน สทฺธึ วิสฺสาสํ ภินฺทิ, เทหิสฺส ธีตร’’นฺติ ยาจึสุ. โส เตสํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อาสาฬฺหิปุณฺณมายํ ธีตรํ อทาสิ. สา ปติกุลํ คตกาลโต ปฏฺาย ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา อุปสงฺกมิตุํ ทานํ วา ทาตุํ ธมฺมํ วา โสตุํ นาลตฺถ. เอวํ อฑฺฒติเยสุ มาเสสุ วีติวตฺเตสุ สนฺติเก ิตํ ปริจาริกํ ปุจฺฉิ – ‘‘อิทานิ กิตฺตกํ อนฺโตวสฺสสฺส อวสิฏฺ’’นฺติ? ‘‘อฑฺฒมาโส, อยฺเย’’ติ. สา ปิตุ สาสนํ ปหิณิ ‘‘กสฺมา มํ เอวรูเป พนฺธนาคาเร ปกฺขิปึสุ, วรํ เม ลกฺขณาหตํ กตฺวา ¶ ปเรสํ ทาสึ สาเวตุํ. เอวรูปสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกุลสฺส ทาตุํ น วฏฺฏติ. อาคตกาลโต ปฏฺาย ภิกฺขุทสฺสนาทีสุ เอกมฺปิ ปฺุํ กาตุํ น ลภามี’’ติ.
อถสฺสา ปิตา ‘‘ทุกฺขิตา วต เม ธีตา’’ติ อนตฺตมนตํ ปเวเทตฺวา ปฺจทส กหาปณสหสฺสานิ เปเสสิ ‘‘อิมสฺมึ นคเร สิริมา นาม คณิกา อตฺถิ, เทวสิกํ สหสฺสํ คณฺหาติ. อิเมหิ กหาปเณหิ ตํ อาเนตฺวา สามิกสฺส ปาทปริจาริกํ กตฺวา สยํ ปฺุานิ กโรตู’’ติ ¶ . สา สิริมํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สหายิเก อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ อฑฺฒมาสํ ตว สหายกํ ปริจราหี’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิ. สา ตํ อาทาย สามิกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เตน สิริมํ ทิสฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ วุตฺเต, ‘‘สามิ, อิมํ อฑฺฒมาสํ มม สหายิกา ตุมฺเห ปริจรตุ, อหํ ปน อิมํ อฑฺฒมาสํ ทานฺเจว ทาตุกามา ธมฺมฺจ โสตุกามา’’ติ อาห. โส ตํ อภิรูปํ อิตฺถึ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนโห ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
อุตฺตราปิ โข พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิมํ อฑฺฒมาสํ อฺตฺถ อคนฺตฺวา อิเธว ภิกฺขา คเหตพฺพา’’ติ สตฺถุ ปฏิฺํ คเหตฺวา ‘‘อิโต ทานิ ปฏฺาย ยาว มหาปวารณา, ตาว สตฺถารํ อุปฏฺาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ลภิสฺสามี’’ติ ตุฏฺมานสา ‘‘เอวํ ยาคุํ ปจถ, เอวํ ปูเว ปจถา’’ติ มหานเส สพฺพกิจฺจานิ สํวิทหนฺตี วิจรติ. อถสฺสา สามิโก ‘‘สฺเว ปวารณา ภวิสฺสตี’’ติ มหานสาภิมุโข วาตปาเน ตฺวา ‘‘กึ นุ โข กโรนฺตี สา อนฺธพาลา วิจรตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ เสฏฺีธีตรํ เสทกิลินฺนํ ฉาริกาย โอกิณฺณํ องฺคารมสิมกฺขิตํ ตถา สํวิทหิตฺวา วิจรมานํ ทิสฺวา ‘‘อโห อนฺธพาลา เอวรูเป าเน อิมํ สิริสมฺปตฺตึ ¶ นานุภวติ, ‘มุณฺฑกสมเณ อุปฏฺหิสฺสามี’ติ ตุฏฺจิตฺตา วิจรตี’’ติ หสิตฺวา อปคฺฉิ.
ตสฺมึ อปคเต ¶ ตสฺส สนฺติเก ิตา สิริมา ‘‘กึ นุ โข โอโลเกตฺวา เอส หสี’’ติ เตเนว วาตปาเนน โอโลเกนฺตี อุตฺตรํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ โอโลเกตฺวา อิมินา หสิตํ, อทฺธา อิมสฺส เอตาย สทฺธึ สนฺถโว อตฺถี’’ติ จินฺเตสิ. สา กิร อฑฺฒมาสํ ตสฺมึ เคเห พาหิรกอิตฺถี หุตฺวา วสมานาปิ ตํ สมฺปตฺตึ อนุภวมานา อตฺตโน พาหิรกอิตฺถิภาวํ อชานิตฺวา ‘‘อหํ ฆรสามินี’’ติ สฺมกาสิ. สา ¶ อุตฺตราย อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ‘‘ทุกฺขมสฺสา อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ปาสาทา โอรุยฺห มหานสํ ปวิสิตฺวา ปูวปจนฏฺาเน ปกฺกุถิตํ สปฺปึ กฏจฺฉุนา อาทาย อุตฺตราภิมุขํ ปายาสิ. อุตฺตรา ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘มม สหายิกาย มยฺหํ อุปกาโร กโต, จกฺกวาฬํ อติสมฺพาธํ, พฺรหฺมโลโก อตินีจโก, มม สหายิกาย คุโณว มหนฺโต. อหฺหิ เอตํ นิสฺสาย ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ ลภึ. สเจ มม เอติสฺสา อุปริ โกโป อตฺถิ, อิทํ สปฺปิ มํ ทหตุ. สเจ นตฺถิ, มา ทหตู’’ติ ตํ เมตฺตาย ผริ. ตาย ตสฺสา มตฺถเก อาสิตฺตํ ปกฺกุถิตสปฺปิ สีตุทกํ วิย อโหสิ.
อถ นํ ‘‘อิทํ สีตลํ ¶ ภวิสฺสตี’’ติ กฏจฺฉุํ ปูเรตฺวา อาทาย อาคจฺฉนฺตึ อุตฺตราย ทาสิโย ทิสฺวา ‘‘อเปหิ ทุพฺพินีเต, น ตฺวํ อมฺหากํ อยฺยาย ปกฺกุถิตํ สปฺปึ อาสิฺจิตุํ อนุจฺฉวิกา’’ติ สนฺตชฺเชนฺติโย อิโต จิโต จ อุฏฺาย หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โปเถตฺวา ภูมิยํ ปาเตสุํ. อุตฺตรา วาเรนฺตีปิ วาเรตุํ นาสกฺขิ. อถสฺสา อุปริ ิตา สพฺพา ทาสิโย ปฏิพาหิตฺวา ‘‘กิสฺส เต เอวรูปํ ภาริยํ กต’’นฺติ สิริมํ โอวทิตฺวา อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา สตปากเตเลน อพฺภฺชิ. ตสฺมึ ขเณ สา อตฺตโน พาหิรกิตฺถิภาวํ ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘มยา ภาริยํ กมฺมํ กตํ สามิกสฺส หสนมตฺตการณา อิมิสฺสา อุปริ ปกฺกุถิตํ สปฺปึ อาสิฺจนฺติยา, อยํ ‘คณฺหถ น’นฺติ ทาสิโย น อาณาเปสิ. มํ วิเหนกาเลปิ สพฺพทาสิโย ปฏิพาหิตฺวา มยฺหํ กตฺตพฺพเมว อกาสิ. สจาหํ อิมํ น ขมาเปสฺสามิ, มุทฺธา เม สตฺตธา ผเลยฺยา’’ติ ตสฺสา ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา, ‘‘อยฺเย, ขมาหิ เม’’ติ อาห. อหํ สปิติกา ธีตา, ปิตริ ขมนฺเต ขมามีติ. โหตุ, อยฺเย, ปิตรํ เต ¶ ปุณฺณเสฏฺึ ขมาเปสฺสามีติ. ปุณฺโณ มม วฏฺฏชนกปิตา, วิวฏฺฏชนเก ปิตริ ขมนฺเต ปนาหํ ขมิสฺสามีติ. โก ปน เต วิวฏฺฏชนกปิตาติ? สมฺมาสมฺพุทฺโธติ. มยฺหํ เตน สทฺธึ วิสฺสาโส นตฺถีติ. อหํ กริสฺสามิ, สตฺถา สฺเว ภิกฺขุสงฺฆํ อาทาย อิธาคมิสฺสติ, ตฺวํ ยถาลทฺธํ สกฺการํ คเหตฺวา อิเธว อาคนฺตฺวา ตํ ขมาเปหีติ. สา ‘‘สาธุ, อยฺเย’’ติ อุฏฺาย อตฺตโน ¶ เคหํ คนฺตฺวา ปฺจสตา ปริวาริตฺถิโย อาณาเปตฺวา นานาวิธานิ ขาทนียานิ เจว สูเปยฺยานิ จ สมฺปาเทตฺวา ปุนทิวเส ตํ สกฺการํ อาทาย ¶ อุตฺตราย เคหํ อาคนฺตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปตฺเต ปติฏฺาเปตุํ อวิสหนฺตี อฏฺาสิ. ตํ สพฺพํ คเหตฺวา อุตฺตราว สํวิทหิ. สิริมาปิ ภตฺตกิจฺจาวสาเน สทฺธึ ปริวาเรน สตฺถุ ปาทมูเล นิปชฺชิ.
อถ นํ สตฺถา ปุจฺฉิ – ‘‘โก เต อปราโธ’’ติ? ภนฺเต, มยา หิยฺโย อิทํ นาม กตํ, อถ เม สหายิกา มํ วิเหยมานา ทาสิโย นิวาเรตฺวา มยฺหํ อุปการเมว อกาสิ. สาหํ อิมิสฺสา คุณํ ชานิตฺวา อิมํ ขมาเปสึ, อถ มํ เอสา ‘‘ตุมฺเหสุ ขมนฺเตสุ ขมิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘เอวํ กิร อุตฺตเร’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สีเส เม สหายิกาย ปกฺกุถิตสปฺปิ อาสิตฺต’’นฺติ. อถ ‘‘ตยา กึ จินฺติต’’นฺติ? ‘‘จกฺกวาฬํ ¶ อติสมฺพาธํ, พฺรหฺมโลโก อตินีจโก, มม สหายิกาย คุโณว มหนฺโต. อหฺหิ เอตํ นิสฺสาย ทานฺจ ทาตุํ ธมฺมฺจ โสตุํ อลตฺถํ, สเจ เม อิมิสฺสา อุปริ โกโป อตฺถิ, อิทํ มํ ทหตุ. โน เจ, มา ทหตู’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา อิมํ เมตฺตาย ผรึ, ภนฺเตติ. สตฺถา ‘‘สาธุ สาธุ, อุตฺตเร, เอวํ โกธํ ชินิตุํ วฏฺฏติ. โกโธ หิ นาม อกฺโกเธน, อกฺโกสกปริภาสโก อนกฺโกสนฺเตน อปริภาสนฺเตน, ถทฺธมจฺฉรี อตฺตโน สนฺตกสฺส ทาเนน, มุสาวาที สจฺจวจเนน ชินิตพฺโพ’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธํ, อสาธุํ สาธุนา ชิเน;
ชิเน กทริยํ ทาเนน, สจฺเจนาลิกวาทิน’’นฺติ.
ตตฺถ อกฺโกเธนาติ โกธโน หิ ปุคฺคโล อกฺโกเธน หุตฺวา ชินิตพฺโพ. อสาธุนฺติ อภทฺทโก ภทฺทเกน หุตฺวา ชินิตพฺโพ. กทริยนฺติ ถทฺธมจฺฉรี อตฺตโน สนฺตกสฺส จาคจิตฺเตน ชินิตพฺโพ. อลิกวาที สจฺจวจเนน ¶ ชินิตพฺโพ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘อกฺโกเธน ชิเน โกธํ…เป… สจฺเจนาลิกวาทิน’’นฺติ.
เทสนาวสาเน สิริมา สทฺธึ ปฺจสตาหิ อิตฺถีหิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหีติ.
อุตฺตราอุปาสิกาวตฺถุ ตติยํ.
๔. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรปฺหวตฺถุ
สจฺจํ ¶ ¶ ภเณติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปฺหํ อารพฺภ กเถสิ.
เอกสฺมิฺหิ สมเย เถโร เทวจาริกํ คนฺตฺวา มเหสกฺขาย เทวตาย วิมานทฺวาเร ตฺวา ตํ อตฺตโน สนฺติกํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตํ เอวมาห – ‘‘เทวเต มหตี เต สมฺปตฺติ, กึ กมฺมํ กตฺวา อิมํ อลตฺถา’’ติ? ‘‘มา มํ, ภนฺเต, ปุจฺฉถา’’ติ. เทวตา กิร อตฺตโน ปริตฺตกมฺเมน ลชฺชมานา เอวํ วทติ. สา ปน เถเรน ‘‘กเถหิเยวา’’ติ วุจฺจมานา อาห – ‘‘ภนฺเต, มยา เนว ทานํ ทินฺนํ, น ปูชา กตา, น ธมฺโม สุโต, เกวลํ สจฺจมตฺตํ รกฺขิต’’นฺติ. เถโร อฺานิ วิมานทฺวารานิ ¶ คนฺตฺวา อาคตาคตา อปราปิ เทวธีตโร ปุจฺฉิ. ตาสุปิ ตเถว นิคุหิตฺวา เถรํ ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺตีสุ เอกา ตาว อาห – ‘‘ภนฺเต, มยา เนว ทานาทีสุ กตํ นาม อตฺถิ, อหํ ปน กสฺสปพุทฺธกาเล ปรสฺส ทาสี อโหสึ, ตสฺสา เม สามิโก อติวิย จณฺโฑ ผรุโส, คหิตคฺคหิเตเนว กฏฺเน วา กลิงฺคเรน วา สีสํ ภินฺทติ. สาหํ อุปฺปนฺเน โกเป ‘เอส ตว สามิโก ลกฺขณาหตํ วา กาตุํ นาสาทีนิ วา ฉินฺทิตุํ อิสฺสโร, มา กุชฺฌี’ติ อตฺตานเมว ปริภาเสตฺวา โกปํ นาม น อกาสึ, เตน เม อยํ สมฺปตฺติ ลทฺธา’’ติ. อปรา อาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, อุจฺฉุเขตฺตํ รกฺขมานา เอกสฺส ภิกฺขุโน อุจฺฉุยฏฺึ อทาสึ’’. อปรา เอกํ ติมฺพรุสกํ อทาสึ. อปรา เอกํ เอฬาลุกํ อทาสึ. อปรา เอกํ ผารุสกํ ¶ อทาสึ. อปรา เอกํ มูลมุฏฺึ. อปรา ‘‘นิมฺพมุฏฺิ’’นฺติอาทินา นเยน อตฺตนา อตฺตนา กตํ ปริตฺตทานํ อาโรเจตฺวา ‘‘อิมินา อิมินา การเณน อมฺเหหิ อยํ สมฺปตฺติ ลทฺธา’’ติ อาหํสุ.
เถโร ตาหิ กตกมฺมํ สุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, สจฺจกถนมตฺเตน, โกปนิพฺพาปนมตฺเตน, อติปริตฺตเกน ติมฺพรุสกาทิทานมตฺเตน ทิพฺพสมฺปตฺตึ ลทฺธุ’’นฺติ. ‘‘กสฺมา มํ, โมคฺคลฺลาน, ปุจฺฉสิ, นนุ เต เทวตาหิ อยํ อตฺโถ กถิโต’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ลพฺภติ มฺเ เอตฺตเกน ทิพฺพสมฺปตฺตี’’ติ. อถ นํ สตฺถา ‘‘โมคฺคลฺลาน, สจฺจมตฺตํ กเถตฺวาปิ โกปมตฺตํ ชหิตฺวาปิ ปริตฺตกํ ทานํ ทตฺวาปิ เทวโลกํ คจฺฉติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘สจฺจํ ¶ ¶ ภเณ น กุชฺเฌยฺย, ทชฺชา อปฺปมฺปิ ยาจิโต;
เอเตหิ ตีหิ าเนหิ, คจฺเฉ เทวาน สนฺติเก’’ติ.
ตตฺถ สจฺจํ ภเณติ สจฺจํ ทีเปยฺย โวหเรยฺย, สจฺเจ ปติฏฺเหยฺยาติ อตฺโถ. น กุชฺเฌยฺยาติ ปรสฺส น กุชฺเฌยฺย ¶ . ยาจิโตติ ยาจกา นาม สีลวนฺโต ปพฺพชิตา. เต หิ กิฺจาปิ ‘‘เทถา’’ติ อยาจิตฺวาว ฆรทฺวาเร ติฏฺนฺติ, อตฺถโต ปน ยาจนฺติเยว นาม. เอวํ สีลวนฺเตหิ ยาจิโต อปฺปสฺมึ เทยฺยธมฺเม วิชฺชมาเน อปฺปมตฺตกมฺปิ ทเทยฺย. เอเตหิ ตีหีติ เอเตสุ ตีสุ เอเกนาปิ การเณน เทวโลกํ คจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรปฺหวตฺถุ จตุตฺถํ.
๕. พุทฺธปิตุพฺราหฺมณวตฺถุ
อหึสกา เยติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาเกตํ นิสฺสาย อฺชนวเน วิหรนฺโต ภิกฺขูหิ ปฏฺปฺหํ อารพฺภ กเถสิ.
ภควโต กิร ภิกฺขุสงฺฆปริวุตสฺส สาเกตํ ปิณฺฑาย ปวิสนกาเล เอโก สาเกตวาสี มหลฺลกพฺราหฺมโณ นครโต นิกฺขมนฺโต อนฺตรฆรทฺวาเร ทสพลํ ทิสฺวา ปาเทสุ นิปติตฺวา โคปฺผเกสุ ทฬฺหํ คเหตฺวา, ‘‘ตาต, นนุ นาม ปุตฺเตหิ ชิณฺณกาเล มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิตพฺพา, กสฺมา เอตฺตกํ กาลํ อมฺหากํ อตฺตานํ น ทสฺเสสิ. มยา ตาว ทิฏฺโสิ, มาตรมฺปิ ปสฺสิตุํ เอหี’’ติ สตฺถารํ คเหตฺวา อตฺตโน เคหํ อคมาสิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน. พฺราหฺมณีปิ อาคนฺตฺวา สตฺถุ ¶ ปาเทสุ นิปติตฺวา, ‘‘ตาต, เอตฺตกํ กาลํ กุหึ คโตสิ, นนุ นาม มาตาปิตโร มหลฺลกกาเล อุปฏฺาตพฺพา’’ติ วตฺวา ปุตฺตธีตโร ‘‘เอถ ภาตรํ วนฺทถา’’ติ วนฺทาเปสิ. เต อุโภปิ ตุฏฺมานสา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิเธว นิพทฺธํ ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ‘‘พุทฺธา นาม เอกฏฺาเนเยว นิพทฺธํ ภิกฺขํ น คณฺหนฺตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, เย โว นิมนฺเตตุํ อาคจฺฉนฺติ, เต อมฺหากํ สนฺติกํ ปหิเณยฺยาถา’’ติ อาหํสุ. สตฺถา ตโต ¶ ปฏฺาย นิมนฺเตตุํ อาคเต ‘‘คนฺตฺวา พฺราหฺมณสฺส อาโรเจยฺยาถา’’ติ เปเสสิ. เต คนฺตฺวา ‘‘มยํ สฺวาตนาย สตฺถารํ นิมนฺเตมา’’ติ พฺราหฺมณํ ¶ วทนฺติ. พฺราหฺมโณ ปุนทิวเส อตฺตโน เคหโต ภตฺตภาชนสูเปยฺยภาชนานิ อาทาย สตฺถุ นิสีทนฏฺานํ คจฺฉติ. อฺตฺร ปน นิมนฺตเน อสติ สตฺถา พฺราหฺมณสฺเสว เคเห ภตฺตกิจฺจํ กโรติ. เต อุโภปิ อตฺตโน เทยฺยธมฺมํ นิจฺจกาลํ ตถาคตสฺส เทนฺตา ธมฺมกถํ สุณนฺตา อนาคามิผลํ ปาปุณึสุ.
ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ, ‘‘อาวุโส, พฺราหฺมโณ ‘ตถาคตสฺส สุทฺโธทโน ปิตา, มหามายา มาตา’ติ ชานาติ, ชานนฺโตว สทฺธึ พฺราหฺมณิยา ตถาคตํ ‘อมฺหากํ ปุตฺโต’ติ วทติ, สตฺถาปิ ¶ ตเถว อธิวาเสติ. กึ นุ โข การณ’’นฺติ? สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, อุโภปิ เต อตฺตโน ปุตฺตเมว ปุตฺโตติ วทนฺตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต, ภิกฺขเว, อยํ พฺราหฺมโณ นิรนฺตรํ ปฺจ ชาติสตานิ มยฺหํ ปิตา อโหสิ, ปฺจ ชาติสตานิ จูฬปิตา, ปฺจ ชาติสตานิ มหาปิตา. สาปิ เม พฺราหฺมณี นิรนฺตรเมว ปฺจ ชาติสตานิ มาตา อโหสิ, ปฺจ ชาติสตานิ จูฬมาตา, ปฺจ ชาติสตานิ มหามาตา. เอวาหํ ทิยฑฺฒชาติสหสฺสํ พฺราหฺมณสฺส หตฺเถ สํวฑฺโฒ, ทิยฑฺฒชาติสหสฺสํ พฺราหฺมณิยา หตฺเถติ ตีณิ ชาติสหสฺสานิ เตสํ ปุตฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ยสฺมึ มโน นิวิสติ, จิตฺตฺจาปิ ปสีทติ;
อทิฏฺปุพฺพเก โปเส, กามํ ตสฺมิมฺปิ วิสฺสเส. (ชา. ๑.๑.๖๘);
‘‘ปุพฺเพว สนฺนิวาเสน, ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วา;
เอวํ ตํ ชายเต เปมํ, อุปฺปลํว ยโถทเก’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๗๔);
สตฺถา เตมาสเมว ตํ กุลํ นิสฺสาย วิหาสิ. เต อุโภปิ อรหตฺตํ สจฺฉิกตฺวา ปรินิพฺพายึสุ. อถ เนสํ มหาสกฺการํ กตฺวา อุโภปิ เอกกูฏาคารเมว อาโรเปตฺวา นีหรึสุ. สตฺถาปิ ปฺจสตภิกฺขุปริวาโร เตหิ สทฺธึเยว อาฬาหนํ อคมาสิ. ‘‘พุทฺธานํ กิร มาตาปิตโร’’ติ มหาชโน นิกฺขมิ. สตฺถาปิ อาฬาหนสมีเป เอกํ สาลํ ¶ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. มนุสฺสา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ¶ เอกมนฺเต ตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ‘มาตาปิตโร โว กาลกตา’ติ มา จินฺตยิตฺถา’’ติ สตฺถารา สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺติ. สตฺถา เต ‘‘มา เอวํ อวจุตฺถา’’ติ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ปริสาย อาสยํ โอโลเกตฺวา ตงฺขณานุรูปํ ธมฺมํ เทเสนฺโต –
‘‘อปฺปํ ¶ วต ชีวิตํ อิทํ,
โอรํ วสฺสสตาปิ มิยฺยติ;
โย เจปิ อติจฺจ ชีวติ,
อถ โส ชรสาปิ มิยฺยตี’’ติ. (สุ. นิ. ๘๑๐; มหานิ. ๓๙) –
อิทํ ชราสุตฺตํ กเถสิ. เทสนาวสาเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. ภิกฺขู พฺราหฺมณสฺส จ พฺราหฺมณิยา จ ปรินิพฺพุตภาวํ อชานนฺตา, ‘‘ภนฺเต, เตสํ โก อภิสมฺปราโย’’ติ ปุจฺฉึสุ. สตฺถา, ‘‘ภิกฺขเว, เอวรูปานํ อเสขมุนีนํ อภิสมฺปราโย นาม นตฺถิ. เอวรูปา หิ อจฺจุตํ อมตํ มหานิพฺพานเมว ปาปุณนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อหึสกา เย มุนโย, นิจฺจํ กาเยน สํวุตา;
เต ยนฺติ อจฺจุตํ านํ, ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร’’ติ.
ตตฺถ ¶ มุนโยติ โมเนยฺยปฏิปทาย มคฺคผลปตฺตา อเสขมุนโย. กาเยนาติ เทสนามตฺตเมเวตํ, ตีหิปิ ทฺวาเรหิ สุสํวุตาติ อตฺโถ. อจฺจุตนฺติ สสฺสตํ. านนฺติ อกุปฺปฏฺานํ ธุวฏฺานํ. ยตฺถาติ ยสฺมึ นิพฺพาเน คนฺตฺวา น โสจเร น โสจนฺติ น วิหฺนฺติ, ตํ านํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
พุทฺธปิตุพฺราหฺมณวตฺถุ ปฺจมํ.
๖. ปุณฺณทาสีวตฺถุ
สทา ชาครมานานนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา คิชฺฌกูเฏ วิหรนฺโต ปุณฺณํ นาม ราชคหเสฏฺิโน ทาสึ อารพฺภ กเถสิ.
ตสฺสา ¶ กิร เอกทิวสํ โกฏฺฏนตฺถาย พหุวีหึ อทํสุ. สา รตฺติมฺปิ ทีปํ ชาเลตฺวา วีหึ โกฏฺเฏนฺตี วิสฺสมนตฺถาย เสทตินฺเตน คตฺเตน พหิวาเต อฏฺาสิ. ตสฺมึ สมเย ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต ¶ ภิกฺขูนํ เสนาสนปฺาปโก ¶ อโหสิ. โส ธมฺมสฺสวนํ สุตฺวา อตฺตโน อตฺตโน เสนาสนํ คจฺฉนฺตานํ ภิกฺขูนํ องฺคุลึ ชาเลตฺวา ปุรโต ปุรโต มคฺคเทสนตฺถาย คจฺฉนฺโต ภิกฺขูนํ อาโลกํ นิมฺมินิ. ปุณฺณา เตนาโลเกน ปพฺพเต วิจรนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘อหํ ตาว อตฺตโน ทุกฺเขน อุปทฺทุตา อิมายปิ เวลาย นิทฺทํ น อุเปมิ, ภทฺทนฺตา กึ การณา น นิทฺทายนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา กสฺสจิ ภิกฺขุโน อผาสุกํ วา ภวิสฺสติ, ทีฆชาติเกน วา อุปทฺทโว ภวิสฺสตี’’ติ สฺํ กตฺวา ปาโตว กุณฺฑกํ อาทาย อุทเกน เตเมตฺวา หตฺถตเล ปูวํ กตฺวา องฺคาเรสุ ปจิตฺวา อุจฺฉงฺเค กตฺวา ติตฺถมคฺเค ขาทิสฺสามีติ ฆฏํ อาทาย ติตฺถาภิมุขี ปายาสิ. สตฺถาปิ คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ.
สา สตฺถารํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ สตฺถริ ทิฏฺเปิ มม เทยฺยธมฺโม น โหติ, เทยฺยธมฺเม สติ สตฺถารํ น ปสฺสามิ, อิทานิ เม เทยฺยธมฺโม จ อตฺถิ, สตฺถา จ สมฺมุขีภูโต. สเจ ลูขํ วา ปณีตํ วาติ อจินฺเตตฺวา คณฺเหยฺย, ทเทยฺยาหํ อิมํ ปูว’’นฺติ ฆฏํ เอกมนฺเต นิกฺขิปิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต ¶ , อิมํ ลูขํ ทานํ ปฏิคฺคณฺหนฺตา มม สงฺคหํ กโรถา’’ติ อาห. สตฺถา อานนฺทตฺเถรํ โอโลเกตฺวา เตน นีหริตฺวา ทินฺนํ มหาราชทตฺติยํ ปตฺตํ อุปนาเมตฺวา ปูวํ คณฺหิ. ปุณฺณาปิ ตํ สตฺถุ ปตฺเต ปติฏฺเปตฺวาว ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ ทิฏฺธมฺโมเยว เม สมิชฺฌตู’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘เอวํ โหตู’’ติ ิตโกว อนุโมทนํ อกาสิ.
ปุณฺณาปิ จินฺเตสิ – ‘‘กิฺจาปิ เม สตฺถา สงฺคหํ กโรนฺโต ปูวํ คณฺหิ, น ปนิทํ ขาทิสฺสติ. อทฺธา ปุรโต กากสฺส วา สุนขสฺส วา ทตฺวา รฺโ วา ราชปุตฺตสฺส วา เคหํ คนฺตฺวา ปณีตโภชนํ ภฺุชิสฺสตี’’ติ. สตฺถาปิ ‘‘กึ นุ โข เอสา จินฺเตสี’’ติ ตสฺสา จิตฺตาจารํ ตฺวา อานนฺทตฺเถรํ โอโลเกตฺวา นิสีทนาการํ ทสฺเสสิ. เถโร จีวรํ ปฺาเปตฺวา อทาสิ. สตฺถา พหินคเรเยว นิสีทิตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. เทวตา สกลจกฺกวาฬคพฺเภ เทวมนุสฺสานํ อุปกปฺปนกํ โอชํ มธุปฏลํ วิย ปีเฬตฺวา ¶ ตตฺถ ปกฺขิปึสุ. ปุณฺณา จ โอโลเกนฺตี อฏฺาสิ. ภตฺตกิจฺจาวสาเน เถโร อุทกํ อทาสิ. สตฺถา กตภตฺตกิจฺโจ ปุณฺณํ อามนฺเตตฺวา ‘‘กสฺมา ตฺวํ ปุณฺเณ มม ¶ สาวเก ปริภวสี’’ติ อาห. น ปริภวามิ, ภนฺเตติ. อถ ตยา มม สาวเก โอโลเกตฺวา กึ กถิตนฺติ? ‘‘อหํ ตาว อิมินา ทุกฺขุปทฺทเวน นิทฺทํ น อุเปมิ, ภทฺทนฺตา กิมตฺถํ นิทฺทํ น อุเปนฺติ, อทฺธา กสฺสจิ อผาสุกํ วา ภวิสฺสติ, ทีฆชาติเกน วา อุปทฺทโว ภวิสฺสตี’’ติ เอตฺตกํ มยา, ภนฺเต, จินฺติตนฺติ. สตฺถา ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ปุณฺเณ ตฺวํ น ตาว ทุกฺขุปทฺทเวน นิทฺทายสิ, มม สาวกา สทา ชาคริยมนุยุตฺตตาย น นิทฺทายนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘สทา ¶ ชาครมานานํ, อโหรตฺตานุสิกฺขินํ;
นิพฺพานํ อธิมุตฺตานํ, อตฺถํ คจฺฉนฺติ อาสวา’’ติ.
ตตฺถ อโหรตฺตานุสิกฺขินนฺติ ทิวา จ รตฺติฺจ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขมานานํ. นิพฺพานํ อธิมุตฺตานนฺติ นิพฺพานชฺฌาสยานํ. อตฺถํ คจฺฉนฺตีติ เอวรูปานํ สพฺเพปิ อาสวา อตฺถํ วินาสํ นตฺถิภาวํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน ยถาิตา ปุณฺณา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.
สตฺถา กุณฺฑกองฺคารปูเวน ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วิหารํ อคมาสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ทุกฺกรํ ¶ , อาวุโส, สมฺมาสมฺพุทฺเธน กตํ ปุณฺณาย ทินฺเนน กุณฺฑกองฺคารปูเวน ภตฺตกิจฺจํ กโรนฺเตนา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ มยา อิมาย ทินฺนกุณฺฑกํ ปริภุตฺตเมวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา –
‘‘ภุตฺวา ติณปริฆาสํ, ภุตฺวา อาจามกุณฺฑกํ;
เอตํ เต โภชนํ อาสิ, กสฺมา ทานิ น ภฺุชสิ.
‘‘ยตฺถ โปสํ น ชานนฺติ, ชาติยา วินเยน วา;
พหุํ ตตฺถ มหาพฺรหฺเม, อปิ อาจามกุณฺฑกํ.
‘‘ตฺวฺจ ¶ โข มํ ปชานาสิ, ยาทิสายํ หยุตฺตโม;
ชานนฺโต ชานมาคมฺม, น เต ภกฺขามิ กุณฺฑก’’นฺติ. (ชา. ๑.๓.๑๐-๑๒) –
อิมํ กุณฺฑกสินฺธวโปตกชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา กเถสิ.
ปุณฺณทาสีวตฺถุ ฉฏฺํ.
๗. อตุลอุปาสกวตฺถุ
โปราณเมตนฺติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตุลํ นาม อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ.
โส หิ สาวตฺถิวาสี อุปาสโก ปฺจสตอุปาสกปริวาโร เอกทิวสํ ¶ เต อุปาสเก อาทาย ธมฺมสฺสวนตฺถาย วิหารํ คนฺตฺวา เรวตตฺเถรสฺส สนฺติเก ธมฺมํ โสตุกาโม หุตฺวา เรวตตฺเถรํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. โส ปนายสฺมา ปฏิสลฺลานาราโม สีโห วิย เอกจาโร, ตสฺมา เตน สทฺธึ น กิฺจิ กเถสิ. โส ‘‘อยํ เถโร น กิฺจิ กเถสี’’ติ กุทฺโธ อุฏฺาย สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ ิโต เถเรน ‘‘เกนตฺเถน อาคตตฺถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อหํ, ภนฺเต, อิเม อุปาสเก อาทาย ธมฺมสฺสวนตฺถาย เรวตตฺเถรํ อุปสงฺกมึ, ตสฺส เม เถโร น กิฺจิ กเถสิ, สฺวาหํ ตสฺส กุชฺฌิตฺวา อิธาคโต, ธมฺมํ เม กเถถา’’ติ อาห. อถ เถโร ‘‘เตน หิ อุปาสกา นิสีทถา’’ติ วตฺวา พหุกํ กตฺวา อภิธมฺมกถํ กเถสิ. อุปาสโกปิ ‘‘อภิธมฺมกถา นาม อติสณฺหา, เถโร พหุํ อภิธมฺมเมว กเถสิ, อมฺหากํ อิมินา โก อตฺโถ’’ติ กุชฺฌิตฺวา ปริสํ อาทาย อานนฺทตฺเถรสฺส สนฺติกํ อคมาสิ.
เถเรนาปิ ‘‘กึ อุปาสกา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภนฺเต, มยํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย เรวตตฺเถรํ อุปสงฺกมิมฺหา, ตสฺส สนฺติเก อาลาปสลฺลาปมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา กุทฺธา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สนฺติกํ อคมิมฺหา, โสปิ โน อติสณฺหํ พหุํ อภิธมฺมเมว กเถสิ, ‘อิมินา อมฺหากํ โก อตฺโถ’ติ เอตสฺสาปิ กุชฺฌิตฺวา อิธาคมิมฺหา, กเถหิ โน, ภนฺเต, ธมฺมกถ’’นฺติ. เตน หิ นิสีทิตฺวา สุณาถาติ เถโร เตสํ สุวิฺเยฺยํ กตฺวา อปฺปกเมว ¶ ธมฺมํ กเถสิ. เต เถรสฺสปิ กุชฺฌิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ, อถ เน สตฺถา อาห – ‘‘กสฺมา ¶ อุปาสกา อาคตตฺถา’’ติ? ‘‘ธมฺมสฺสวนาย, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สุโต ปน โว ธมฺโม’’ติ? ‘‘ภนฺเต, มยํ อาทิโต เรวตตฺเถรํ อุปสงฺกมิมฺหา, โส อมฺเหหิ สทฺธึ น กิฺจิ กเถสิ, ตสฺส กุชฺฌิตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรํ อุปสงฺกมิมฺหา, เตน โน พหุ อภิธมฺโม กถิโต, ตํ อสลฺลกฺเขตฺวา กุชฺฌิตฺวา อานนฺทตฺเถรํ อุปสงฺกมิมฺหา, เตน โน อปฺปมตฺตโกว ธมฺโม กถิโต, ตสฺสปิ กุชฺฌิตฺวา อิธาคตมฺหา’’ติ.
สตฺถา ตสฺส กถํ สุตฺวา, ‘‘อตุล, โปราณโต ปฏฺาย อาจิณฺณเมเวตํ, ตุณฺหีภูตมฺปิ พหุกถมฺปิ มนฺทกถมฺปิ ครหนฺติเยว. เอกนฺตํ ครหิตพฺโพเยว วา หิ ปสํสิตพฺโพเยว วา นตฺถิ ¶ . ราชาโนปิ เอกจฺเจ นินฺทนฺติ, เอกจฺเจ ปสํสนฺติ. มหาปถวิมฺปิ จนฺทิมสูริเยปิ อากาสาทโยปิ จตุปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมํ กเถนฺตมฺปิ สมฺมาสมฺพุทฺธํ เอกจฺเจ ครหนฺติ, เอกจฺเจ ปสํสนฺติ. อนฺธพาลานฺหิ นินฺทา วา ปสํสา วา อปฺปมาณา, ปณฺฑิเตน ปน เมธาวินา นินฺทิโต นินฺทิโต นาม, ปสํสิโต จ ปสํสิโต นาม โหตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘โปราณเมตํ ¶ อตุล, เนตํ อชฺชตนามิว;
นินฺทนฺติ ตุณฺหิมาสีนํ, นินฺทนฺติ พหุภาณินํ;
มิตภาณิมฺปิ นินฺทนฺติ, นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต.
‘‘น จาหุ น จ ภวิสฺสติ, น เจตรหิ วิชฺชติ;
เอกนฺตํ นินฺทิโต โปโส, เอกนฺตํ วา ปสํสิโต.
‘‘ยํ เจ วิฺู ปสํสนฺติ, อนุวิจฺจ สุเว สุเว;
อจฺฉิทฺทวุตฺตึ เมธาวึ, ปฺาสีลสมาหิตํ.
‘‘นิกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติ.
ตตฺถ โปราณเมตนฺติ ปุราณกํ เอตํ. อตุลาติ ตํ อุปาสกํ นาเมน อาลปติ. เนตํ อชฺชตนามิวาติ อิทํ นินฺทนํ วา ปสํสนํ วา อชฺชตนํ ¶ อธุนา อุปฺปนฺนํ วิย น โหติ. ตุณฺหิมาสีนนฺติ กึ เอโส มูโค วิย พธิโร วิย กิฺจิ อชานนฺโต วิย ตุณฺหี หุตฺวา นิสินฺโนติ นินฺทนฺติ. พหุภาณินนฺติ กึ เอส วาตาหตตาลปณฺณํ วิย ตฏตฏายติ, อิมสฺส กถาปริยนฺโตเยว นตฺถีติ นินฺทนฺติ. มิตภาณิมฺปีติ กึ ¶ เอส สุวณฺณหิรฺํ วิย อตฺตโน วจนํ มฺมาโน เอกํ วา ทฺเว วา วตฺวา ตุณฺหี อโหสีติ นินฺทนฺติ. เอวํ สพฺพถาปิ อิมสฺมึ โลเก อนินฺทิโต นาม นตฺถีติ อตฺโถ. น จาหูติ อตีเตปิ นาโหสิ, อนาคเตปิ น ภวิสฺสติ.
ยํ เจ วิฺูติ พาลานํ นินฺทา วา ปสํสา วา อปฺปมาณา, ยํ ปน ปณฺฑิตา ทิวเส ทิวเส อนุวิจฺจ นินฺทการณํ วา ปสํสการณํ วา ชานิตฺวา ปสํสนฺติ, อจฺฉิทฺทาย วา สิกฺขาย ¶ อจฺฉิทฺทาย วา ชีวิตวุตฺติยา สมนฺนาคตตฺตา อจฺฉิทฺทวุตฺตึ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคตตฺตา เมธาวึ โลกิยโลกุตฺตรปฺาย เจว จตุปาริสุทฺธิสีเลน จ สมนฺนาคตตฺตา ปฺาสีลสมาหิตํ ปสํสนฺติ, ตํ สุวณฺณโทสวิรหิตํ ฆฏฺฏนมชฺชนกฺขมํ ชมฺโพนทนิกฺขํ วิย โก นินฺทิตุมรหตีติ อตฺโถ. เทวาปีติ เทวตาปิ ปณฺฑิตมนุสฺสาปิ ตํ ภิกฺขุํ อุปฏฺาย โถเมนฺติ ปสํสนฺติ. พฺรหฺมุนาปีติ น เกวลํ เทวมนุสฺเสหิ, ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ มหาพฺรหฺมุนาปิ เอส ปสํสิโตเยวาติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน ปฺจสตาปิ อุปาสกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสูติ.
อตุลอุปาสกวตฺถุ สตฺตมํ.
๘. ฉพฺพคฺคิยวตฺถุ
กายปฺปโกปนฺติ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ.
เอกทิวสฺหิ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เตสํ ฉพฺพคฺคิยานํ อุโภหิ หตฺเถหิ ยฏฺิโย คเหตฺวา กฏฺปาทุกา อารุยฺห ปิฏฺิปาสาเณ จงฺกมนฺตานํ ขฏขฏาติสทฺทํ สุตฺวา, ‘‘อานนฺท, กึ สทฺโท นาเมโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ¶ ‘‘ฉพฺพคฺคิยานํ ปาทุกา อารุยฺห จงฺกมนฺตานํ ขฏขฏสทฺโท’’ติ สุตฺวา สิกฺขาปทํ ปฺาเปตฺวา ‘‘ภิกฺขุนา นาม กายาทีนิ รกฺขิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘กายปฺปโกปํ รกฺเขยฺย, กาเยน สํวุโต สิยา;
กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, กาเยน สุจริตํ จเร.
‘‘วจีปโกปํ รกฺเขยฺย, วาจาย สํวุโต สิยา;
วจีทุจฺจริตํ หิตฺวา, วาจาย สุจริตํ จเร.
‘‘มโนปโกปํ รกฺเขยฺย, มนสา สํวุโต สิยา;
มโนทุจฺจริตํ หิตฺวา, มนสา สุจริตํ จเร.
‘‘กาเยน ¶ สํวุตา ธีรา, อโถ วาจาย สํวุตา;
มนสา สํวุตา ธีรา, เต เว สุปริสํวุตา’’ติ.
ตตฺถ กายปฺปโกปนฺติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ รกฺเขยฺย. กาเยน สํวุโตติ กายทฺวาเร ทุจฺจริตปเวสนํ นิวาเรตฺวา สํวุโต ปิหิตทฺวาโร สิยา. ยสฺมา ปน ¶ กายทุจฺจริตํ หิตฺวา กายสุจริตํ จรนฺโต อุภยมฺเปตํ กโรติ, ตสฺมา กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, กาเยน สุจริตํ จเรติ วุตฺตํ. อนนฺตรคาถาสุปิ เอเสว นโย. กาเยน สํวุตา ธีราติ เย ปณฺฑิตา ปาณาติปาตาทีนิ อกโรนฺตา กาเยน, มุสาวาทาทีนิ อกโรนฺตา วาจาย, อภิชฺฌาทีนิ อสมุฏฺเปนฺตา มนสา สํวุตา, เต อิธ โลกสฺมึ สุสํวุตา สุรกฺขิตา สุโคปิตา สุปิหิตทฺวาราติ อตฺโถ.
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.
ฉพฺพคฺคิยวตฺถุ อฏฺมํ.
โกธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตรสโม วคฺโค.