📜

๑๘. มลวคฺโค

๑. โคฆาตกปุตฺตวตฺถุ

ปณฺฑุปลาโสวทานิสีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โคฆาตกปุตฺตํ อารพฺภ กเถสิ.

สาวตฺถิยํ กิเรโก โคฆาตโก คาโว วธิตฺวา วรมํสานิ คเหตฺวา ปจาเปตฺวา ปุตฺตทาเรหิ สทฺธึ นิสีทิตฺวา มํสฺจ ขาทติ, มูเลน จ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ. โส เอวํ ปฺจปณฺณาส วสฺสานิ โคฆาตกกมฺมํ กโรนฺโต ธุรวิหาเร วิหรนฺตสฺส สตฺถุ เอกทิวสมฺปิ กฏจฺฉุมตฺตมฺปิ ยาคุํ วา ภตฺตํ วา น อทาสิ. โส จ วินา มํเสน ภตฺตํ น ภุฺชติ. โส เอกทิวสํ ทิวสภาเค มํสํ วิกฺกิณิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย ปจิตุํ เอกํ มํสขณฺฑํ ภริยาย ทตฺวา นฺหายิตุํ อคมาสิ. อถสฺส สหายโก เคหํ คนฺตฺวา ภริยํ อาห – ‘‘โถกํ เม วิกฺกิณิยมํสํ เทหิ, เคหํ เม ปาหุนโก อาคโต’’ติ. นตฺถิ วิกฺกิณิยมํสํ, สหายโก เต มํสํ วิกฺกิณิตฺวา อิทานิ นฺหายิตุํ คโตติ. มา เอวํ กริ, สเจ มํสขณฺฑํ อตฺถิ, เทหีติ. สหายกสฺส เต นิกฺขิตฺตมํสํ เปตฺวา อฺํ นตฺถีติ. โส ‘‘สหายกสฺส เม อตฺถาย ปิตมํสโต อฺํ มํสํ นตฺถิ, โส จ วินา มํเสน น ภุฺชติ, นายํ ทสฺสตี’’ติ สามํเยว ตํ มํสํ คเหตฺวา ปกฺกามิ.

โคฆาตโกปิ นฺหตฺวา อาคโต ตาย อตฺตโน ปกฺกปณฺเณน สทฺธึ วฑฺเฒตฺวา ภตฺเต อุปนีเต อาห ‘‘กหํ มํส’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, สามี’’ติ. นนุ อหํ ปจฺจนตฺถาย มํสํ ทตฺวา คโตติ. ตว สหายโก อาคนฺตฺวา ‘‘ปาหุนโก เม อาคโต, วิกฺกิณิยมํสํ เทหี’’ติ วตฺวา มยา ‘‘สหายกสฺส เต ปิตมํสโต อฺํ มํสํ นตฺถิ, โส จ วินา มํเสน น ภุฺชตี’’ติ วุตฺเตปิ พลกฺกาเรน ตํ มํสํ สามํเยว คเหตฺวา คโตติ. อหํ วินา มํเสน ภตฺตํ น ภุฺชามิ, หราหิ นนฺติ. กึ สกฺกา กาตุํ, ภุฺช, สามีติ. โส ‘‘นาหํ ภุฺชามี’’ติ ตํ ภตฺตํ หราเปตฺวา สตฺถํ อาทาย ปจฺฉาเคเห ิโต โคโณ อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา มุเข หตฺถํ ปกฺขิปิตฺวา ชิวฺหํ นีหริตฺวา สตฺเถน มูเล ฉินฺทิตฺวา อาทาย คนฺตฺวา องฺคาเรสุ ปจาเปตฺวา ภตฺตมตฺถเก เปตฺวา นิสินฺโน เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ ภุฺชิตฺวา เอกํ มํสขณฺฑํ มุเข เปสิ. ตงฺขณฺเวสฺส ชิวฺหา ฉิชฺชิตฺวา ภตฺตปาติยํ ปติ. ตงฺขณฺเว กมฺมสริกฺขกํ วิปากํ ลภิ. โสปิ โข โคโณ วิย โลหิตธาราย มุขโต ปคฺฆรนฺติยา อนฺโตเคหํ ปวิสิตฺวา ชณฺณุเกหิ วิจรนฺโต วิรวิ.

ตสฺมึ สมเย โคฆาตกสฺส ปุตฺโต ปิตรํ โอโลเกนฺโต สมีเป ิโต โหติ. อถ นํ มาตา อาห – ‘‘ปสฺส, ปุตฺต, อิมํ โคฆาตกํ โคณํ วิย เคหมชฺเฌ ชณฺณุเกหิ วิจริตฺวา วิรวนฺตํ, อิทํ ทุกฺขํ ตว มตฺถเก ปติสฺสติ, มมมฺปิ อโนโลเกตฺวา อตฺตโน โสตฺถึ กโรนฺโต ปลายสฺสู’’ติ. โส มรณภยตชฺชิโต มาตรํ วนฺทิตฺวา ปลายิ, ปลายิตฺวา จ ปน ตกฺกสิลํ อคมาสิ. โคฆาตโกปิ โคโณ วิย เคหมชฺเฌ วิรวนฺโต วิจริตฺวา กาลกโต อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติ. โคโณปิ กาลมกาสิ. โคฆาตกปุตฺโตปิ ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สุวณฺณการกมฺมํ อุคฺคณฺหิ. อถสฺสาจริโย คามํ คจฺฉนฺโต ‘‘เอวรูปํ นาม อลงฺการํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. โสปิ ตถารูปํ อลงฺการํ อกาสิ. อถสฺสาจริโย อาคนฺตฺวา อลงฺการํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ยตฺถ กตฺถจิ คนฺตฺวา ชีวิตุํ สมตฺโถ’’ติ วยปฺปตฺตํ อตฺตโน ธีตรํ อทาสิ. โส ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิ.

อถสฺส ปุตฺตา วยปฺปตฺตา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อปรภาเค สาวตฺถิยํ คนฺตฺวา ตตฺถ ฆราวาสํ สณฺเปตฺวา วสนฺตา สทฺธา ปสนฺนา อเหสุํ. ปิตาปิ เนสํ ตกฺกสิลายํ กิฺจิ กุสลํ อกตฺวาว ชรํ ปาปุณิ. อถสฺส ปุตฺตา ‘‘ปิตา โน มหลฺลโก’’ติ อตฺตโน สนฺติกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ปิตุ อตฺถาย ทานํ ทสฺสามา’’ติ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺตยึสุ. เต ปุนทิวเส อนฺโตเคเห พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา สกฺกจฺจํ ปริวิสิตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน สตฺถารํ อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, อมฺเหหิ อิทํ ปิตุ ชีวภตฺตํ ทินฺนํ, ปิตุ โน อนุโมทนํ กโรถา’’ติ. สตฺถา ตํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘อุปาสก, ตฺวํ มหลฺลโก ปริปกฺกสรีโร ปณฺฑุปลาสสทิโส, ตว ปรโลกคมนาย กุสลปาเถยฺยํ นตฺถิ, อตฺตโน ปติฏฺํ กโรหิ, ปณฺฑิโต ภว, มา พาโล’’ติ อนุโมทนํ กโรนฺโต อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๓๕.

‘‘ปณฺฑุปลาโสว ทานิสิ,

ยมปุริสาปิ จ เต อุปฏฺิตา;

อุยฺโยคมุเข จ ติฏฺสิ,

ปาเถยฺยมฺปิ จ เต น วิชฺชติ.

๒๓๖.

‘‘โส กโรหิ ทีปมตฺตโน,

ขิปฺปํ วายม ปณฺฑิโต ภว;

นิทฺธนฺตมโล อนงฺคโณ,

ทิพฺพํ อริยภูมึ อุเปหิสี’’ติ.

ตตฺถ ปณฺฑุปลาโสว ทานิสีติ, อุปาสก, ตฺวํ อิทานิ ฉิชฺชิตฺวา ภูมิยํ ปติตปณฺฑุปลาโส วิย อโหสิ. ยมปุริสาติ ยมทูตา วุจฺจนฺติ, อิทํ ปน มรณเมว สนฺธาย วุตฺตํ, มรณํ เต ปจฺจุปฏฺิตนฺติ อตฺโถ. อุยฺโยคมุเขติ ปริหานิมุเข, อวุฑฺฒิมุเข จ ิโตสีติ อตฺโถ. ปาเถยฺยนฺติ คมิกสฺส ตณฺฑุลาทิปาเถยฺยํ วิย ปรโลกํ คจฺฉนฺตสฺส ตว กุสลปาเถยฺยมฺปิ นตฺถีติ อตฺโถ. โส กโรหีติ โส ตฺวํ สมุทฺเท นาวาย ภินฺนาย ทีปสงฺขาตํ ปติฏฺํ วิย อตฺตโน กุสลปติฏฺํ กโรหิ. กโรนฺโต จ ขิปฺปํ วายม, สีฆํ สีฆํ วีริยํ อารภ, อตฺตโน กุสลกมฺมปติฏฺกรเณน ปณฺฑิโต ภว. โย หิ มรณมุขํ อปฺปตฺวา กาตุํ สมตฺถกาเลว กุสลํ กโรติ, เอส ปณฺฑิโต นาม, ตาทิโส ภว, มา อนฺธพาโลติ อตฺโถ. ทิพฺพํ อริยภูมินฺติ เอวํ วีริยํ กโรนฺโต ราคาทีนํ มลานํ นีหฏตาย นิทฺธนฺตมโล องฺคณาภาเวน อนงฺคโณ นิกฺกิเลโส หุตฺวา ปฺจวิธํ สุทฺธาวาสภูมึ ปาปุณิสฺสสีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน อุปาสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

เต ปุนทิวสตฺถายปิ สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ทานํ ทตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ สตฺถารํ อนุโมทนกาเล อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, อิทมฺปิ อมฺหากํ ปิตุ ชีวภตฺตเมว, อิมสฺเสว อนุโมทนํ กโรถา’’ติ. สตฺถา ตสฺส อนุโมทนํ กโรนฺโต อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๓๗.

‘‘อุปนีตวโย จ ทานิสิ,

สมฺปยาโตสิ ยมสฺส สนฺติกํ;

วาโส เต นตฺถิ อนฺตรา,

ปาเถยฺยมฺปิ จ เต น วิชฺชติ.

๒๓๘.

‘‘โส กโรหิ ทีปมตฺตโน,

ขิปฺปํ วายม ปณฺฑิโต ภว;

นิทฺธนฺตมโล อนงฺคโณ,

น ปุน ชาติชรํ อุเปหิสี’’ติ.

ตตฺถ อุปนีตวโยติ อุปาติ นิปาตมตฺตํ, นีตวโยติ วิคตวโย อติกฺกนฺตวโย, ตฺวฺจสิ ทานิ ตโย วเย อติกฺกมิตฺวา มรณมุเข ิโตติ อตฺโถ. สมฺปยาโตสิ ยมสฺส สนฺติกนฺติ มรณมุขํ คนฺตุํ สชฺโช หุตฺวา ิโตสีติ อตฺโถ. วาโส เต นตฺถิ อนฺตราติ ยถา มคฺคํ คจฺฉนฺตา ตานิ ตานิ กิจฺจานิ กโรนฺตา อนฺตรามคฺเค วสนฺติ, น เอวํ ปรโลกํ คจฺฉนฺตา. น หิ สกฺกา ปรโลกํ คจฺฉนฺเตน ‘‘อธิวาเสถ กติปาหํ, ทานํ ตาว เทมิ, ธมฺมํ ตาว สุณามี’’ติอาทีนิ วตฺตุํ. อิโต ปน จวิตฺวา ปรโลเก นิพฺพตฺโตว โหติ. อิมมตฺถํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ปาเถยฺยนฺติ อิทํ กิฺจาปิ เหฏฺา วุตฺตเมว, อุปาสกสฺส ปน ปุนปฺปุนํ ทฬฺหีกรณตฺถํ อิธาปิ สตฺถารา กถิตํ. ชาติชรนฺติ เอตฺถ พฺยาธิมรณานิปิ คหิตาเนว โหนฺติ. เหฏฺิมคาถาหิ จ อนาคามิมคฺโค กถิโต, อิธ อรหตฺตมคฺโค กถิโต. เอวํ สนฺเตปิ ยถา นาม รฺา อตฺตโน มุขปมาเณน กพฬํ วฑฺเฒตฺวา ปุตฺตสฺส อุปนีเต โส กุมาโร อตฺตโน มุขปมาเณเนว คณฺหาติ, เอวเมว สตฺถารา อุปริมคฺควเสน ธมฺเม เทสิเตปิ อุปาสโก อตฺตโน อุปนิสฺสยวเสน เหฏฺา โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา อิมิสฺสา อนุโมทนาย อวสาเน อนาคามิผลํ ปตฺโต. เสสปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

โคฆาตกปุตฺตวตฺถุ ปมํ.

๒. อฺตรพฺราหฺมณวตฺถุ

อนุปุพฺเพนาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรพฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร เอกทิวสํ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา ภิกฺขูนํ จีวรปารุปนฏฺาเน ภิกฺขู จีวรํ ปารุปนฺเต โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตํ ปน านํ วิรูฬฺหติณํ โหติ. อเถกสฺส ภิกฺขุโน จีวรํ ปารุปนฺตสฺส จีวรกณฺโณ ติเณสุ ปวฏฺเฏนฺโต อุสฺสาวพินฺทูหิ เตมิ. พฺราหฺมโณ ‘‘อิมํ านํ อปฺปหริตํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปุนทิวเส กุทฺทาลํ อาทาย คนฺตฺวา ตํ านํ ตจฺเฉตฺวา ขลมณฺฑลสทิสํ อกาสิ. ปุนทิวเสปิ ตํ านํ อาคนฺตฺวา ภิกฺขูสุ จีวรํ ปารุปนฺเตสุ เอกสฺส จีวรกณฺณํ ภูมิยํ ปติตฺวา ปํสุมฺหิ ปวฏฺฏมานํ ทิสฺวา ‘‘อิธ วาลุกํ โอกิริตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา วาลุกํ อาหริตฺวา โอกิริ.

อเถกทิวสํ ปุเรภตฺตํ จณฺโฑ อาตโป อโหสิ, ตทาปิ ภิกฺขูนํ จีวรํ ปารุปนฺตานํ คตฺตโต เสเท มุจฺจนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิธ มยา มณฺฑปํ กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา มณฺฑปํ กาเรสิ. ปุนทิวเส ปาโตว วสฺสํ วสฺสิ, วทฺทลิกํ อโหสิ. ตทาปิ พฺราหฺมโณ ภิกฺขู โอโลเกนฺโตว ิโต ตินฺตจีวรเก ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘เอตฺถ มยา สาลํ กาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ สาลํ กาเรตฺวา ‘‘อิทานิ สาลมหํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิมนฺเตตฺวา อนฺโต จ พหิ จ ภิกฺขู นิสีทาเปตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน อนุโมทนตฺถาย สตฺถุ ปตฺตํ คเหตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหํ ภิกฺขูนํ จีวรปารุปนกาเล อิมสฺมึ าเน โอโลเกนฺโต ิโต อิทฺจิทฺจ ทิสฺวา อิทฺจิทฺจ กาเรสิ’’นฺติ อาทิโต ปฏฺาย สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. สตฺถา ตสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, ปณฺฑิตา นาม ขเณ ขเณ โถกํ กุสลํ กโรนฺตา อนุปุพฺเพน อตฺตโน อกุสลมลํ นีหรนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๓๙.

‘‘อนุปุพฺเพน เมธาวี, โถกํ โถกํ ขเณ ขเณ;

กมฺมาโร รชตสฺเสว, นิทฺธเม มลมตฺตโน’’ติ.

ตตฺถ อนุปุพฺเพนาติ อนุปฏิปาฏิยา. เมธาวีติ ธมฺโมชปฺาย สมนฺนาคโต. ขเณ ขเณติ โอกาเส โอกาเส กุสลํ กโรนฺโต. กมฺมาโร รชตสฺเสวาติ ยถา สุวณฺณกาโร เอกวารเมว สุวณฺณํ ตาเปตฺวา โกฏฺเฏตฺวา มลํ นีหริตฺวา ปิลนฺธนวิกตึ กาตุํ น สกฺโกติ , ปุนปฺปุนํ ตาเปนฺโต โกฏฺเฏนฺโต ปน มลํ นีหรติ, ตโต อเนกวิธํ ปิลนฺธนวิกตึ กโรติ, เอวเมว ปุนปฺปุนํ กุสลํ กโรนฺโต ปณฺฑิโต อตฺตโน ราคาทิมลํ นิทฺธเมยฺย, เอวํ นิทฺธนฺตมโล นิกฺกิเลโสว โหตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺติ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

อฺตรพฺราหฺมณวตฺถุ ทุติยํ.

๓. ติสฺสตฺเถรวตฺถุ

อยสาวมลนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ติสฺสตฺเถรํ นาม ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ.

เอโก กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท ติสฺสตฺเถโรติ ปฺายิ. โส อปรภาเค ชนปทวิหาเร วสฺสูปคโต อฏฺหตฺถกํ ถูลสาฏกํ ลภิตฺวา วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ตํ อาทาย คนฺตฺวา ภคินิยา หตฺเถ เปสิ. สา ‘‘น เม เอโส สาฏโก ภาตุ อนุจฺฉวิโก’’ติ ตํ ติขิณาย วาสิยา ฉินฺทิตฺวา หีรหีรํ กตฺวา อุทุกฺขเล โกฏฺเฏตฺวา ปวิเสตฺวา โปเถตฺวา วฏฺเฏตฺวา สุขุมสุตฺตํ กนฺติตฺวา สาฏกํ วายาเปสิ. เถโรปิ สุตฺตฺเจว สูจิโย จ สํวิทหิตฺวา จีวรการเก ทหรสามเณเร สนฺนิปาเตตฺวา ภคินิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตํ เม สาฏกํ เทถ, จีวรํ กาเรสฺสามี’’ติ อาห. สา นวหตฺถํ สาฏกํ นีหริตฺวา กนิฏฺภาติกสฺส หตฺเถ เปสิ. โส ตํ คเหตฺวา วิตฺถาเรตฺวา โอโลเกตฺวา ‘‘มม สาฏโก ถูโล อฏฺหตฺโถ, อยํ สุขุโม นวหตฺโถ. นายํ มม สาฏโก, ตุมฺหากํ เอส, น เม อิมินา อตฺโถ, ตเมว เม เทถา’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากเมว เอโส, คณฺหถ น’’นฺติ? โส เนว อิจฺฉิ. อถสฺส อตฺตนา กตกิจฺจํ สพฺพํ อาโรเจตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากเมเวส, คณฺหถ น’’นฺติ อทาสิ. โส ตํ อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา จีวรกมฺมํ ปฏฺเปสิ.

อถสฺส ภคินี จีวรการานํ อตฺถาย ยาคุภตฺตาทีนิ สมฺปาเทสิ. จีวรสฺส นิฏฺิตทิวเส ปน อติเรกสกฺการํ กาเรสิ. โส จีวรํ โอโลเกตฺวา ตสฺมึ อุปฺปนฺนสิเนโห ‘‘สฺเว ทานิ นํ ปารุปิสฺสามี’’ติ สํหริตฺวา จีวรวํเส เปตฺวา ตํ รตฺตึ ภุตฺตาหารํ ชิราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาลํ กตฺวา ตสฺมึเยว จีวเร อูกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ภคินีปิสฺส กาลกิริยํ สุตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเทสุ ปวตฺตมานา โรทิ. ภิกฺขู ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา คิลานุปฏฺากสฺส อภาเวน สงฺฆสฺเสว ตํ ปาปุณาติ. ‘‘ภาเชสฺสาม น’’นฺติ ตํ จีวรํ นีหราเปสุํ. สา อูกา ‘‘อิเม มม สนฺตกํ วิลุมฺปนฺตี’’ติ วิรวนฺตี อิโต จิโต จ สนฺธาวิ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว ทิพฺพาย โสตธาตุยา ตํ สทฺทํ สุตฺวา, ‘‘อานนฺท, ติสฺสสฺส จีวรํ อภาเชตฺวา สตฺตาหํ นิกฺขิปิตุํ วเทหี’’ติ อาห. เถโร ตถา กาเรสิ. สาปิ สตฺตเม ทิวเส กาลํ กตฺวา ตุสิตวิมาเน นิพฺพตฺติ. สตฺถา ‘‘อฏฺเม ทิวเส ติสฺสสฺส จีวรํ ภาเชตฺวา คณฺหถา’’ติ อาณาเปสิ. ภิกฺขู ตถา กรึสุ.

ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘กสฺมา นุ โข สตฺถา ติสฺสสฺส จีวรํ สตฺต ทิวเส ปาเปตฺวา อฏฺเม ทิวเส คณฺหิตุํ อนุชานี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภิกฺขเว, ติสฺโส อตฺตโน จีวเร อูกา หุตฺวา นิพฺพตฺโต, ตุมฺเหหิ ตสฺมึ ภาชิยมาเน ‘อิเม มม สนฺตกํ วิลุมฺปนฺตี’ติ วิรวนฺตี อิโต จิโต จ ธาวิ. สา ตุมฺเหหิ จีวเร คยฺหมาเน ตุมฺเหสุ มนํ ปทุสฺสิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺเตยฺย, เตน จาหํ จีวรํ นิกฺขิปาเปสึ. อิทานิ ปน สา ตุสิตวิมาเน นิพฺพตฺตา, เตน โว มยา จีวรคหณํ อนุฺาต’’นฺติ วตฺวา ปุน เตหิ ‘‘ภาริยา วต อยํ, ภนฺเต, ตณฺหา นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อาม, ภิกฺขเว, อิเมสํ สตฺตานํ ตณฺหา นาม ภาริยา. ยถา อยโต มลํ อุฏฺหิตฺวา อยเมว ขาทติ วินาเสติ อปริโภคํ กโรติ, เอวเมวายํ ตณฺหา อิเมสํ สตฺตานํ อพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชิตฺวา เต สตฺเต นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตาเปติ, วินาสํ ปาเปตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๔๐.

‘‘อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ,

ตตุฏฺาย ตเมว ขาทติ;

เอวํ อติโธนจารินํ,

สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคติ’’นฺติ.

ตตฺถ อยสาวาติ อยโต สมุฏฺิตํ. ตตุฏฺายาติ ตโต อุฏฺาย. อติโธนจารินนฺติ โธนา วุจฺจติ จตฺตาโร ปจฺจเย ‘‘อิทมตฺถํ เอเต’’ติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนปฺา, ตํ อติกฺกมิตฺวา จรนฺโต อติโธนจารี นาม. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อยโต มลํ สมุฏฺาย ตโต สมุฏฺิตํ ตเมว ขาทติ, เอวเมวํ จตุปจฺจเย อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนฺตํ อติโธนจารินํ สานิ กมฺมานิ อตฺตนิ ิตตฺตา อตฺตโน สนฺตกาเนว ตานิ กมฺมานิ ทุคฺคตึ นยนฺตีติ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

ติสฺสตฺเถรวตฺถุ ตติยํ.

๔. ลาลุทายิตฺเถรวตฺถุ

อสชฺฌายมลาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ลาลุทายิตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิ.

สาวตฺถิยํ กิร ปฺจโกฏิมตฺตา อริยสาวกา วสนฺติ, ทฺเว โกฏิมตฺตา ปุถุชฺชนา วสนฺติ. เตสุ อริยสาวกา ปุเรภตฺตํ ทานํ ทตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ สปฺปิเตลมธุผาณิตวตฺถาทีนิ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ธมฺมกถํ สุณนฺติ. ธมฺมํ สุตฺวา คมนกาเล จ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ คุณกถํ กเถนฺติ. อุทายิตฺเถโร เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘เอเตสํ ตาว ธมฺมํ สุตฺวา ตุมฺเห เอวํ กเถถ, มม ธมฺมกถํ สุตฺวา กึ นุ โข น กเถสฺสถา’’ติ วทติ. มนุสฺสา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อยํ เอโก ธมฺมกถิโก ภวิสฺสติ, อิมสฺสปิ อมฺเหหิ ธมฺมกถํ โสตุํ วฏฺฏตี’’ติ เต เอกทิวสํ เถรํ ยาจิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อชฺช อมฺหากํ ธมฺมสฺสวนทิวโส’’ติ สงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห อมฺหากํ ทิวา ธมฺมกถํ กเถยฺยาถา’’ติ อาหํสุ. โสปิ เตสํ อธิวาเสสิ.

เตหิ ธมฺมสฺสวนเวลาย อาคนฺตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โน ธมฺมํ กเถถา’’ติ วุตฺเต ลาลุทายิตฺเถโร อาสเน นิสีทิตฺวา จิตฺตพีชนึ คเหตฺวา จาเลนฺโต เอกมฺปิ ธมฺมปทํ อทิสฺวา ‘‘อหํ สรภฺํ ภณิสฺสามิ, อฺโ ธมฺมกถํ กเถตู’’ติ วตฺวา โอตริ. เต อฺเน ธมฺมกถํ กถาเปตฺวา สรภาณตฺถาย ปุน ตํ อาสนํ อาโรปยึสุ. โส ปุนปิ กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘อหํ รตฺตึ กเถสฺสามิ, อฺโ สรภฺํ ภณตู’’ติ วตฺวา อาสนา โอตริ. เต อฺเน สรภฺํ ภณาเปตฺวา ปุน รตฺตึ เถรํ อานยึสุ. โส รตฺติมฺปิ กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘อหํ ปจฺจูสกาเล กเถสฺสามิ, รตฺตึ อฺโ กเถตู’’ติ วตฺวา โอตริ. เต อฺเน รตฺตึ กถาเปตฺวา ปุน ปจฺจูเส ตํ อานยึสุ. โส ปุนปิ กิฺจิ นาทฺทส. มหาชโน เลฑฺฑุทณฺฑาทีนิ คเหตฺวา, ‘‘อนฺธพาล, ตฺวํ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ วณฺเณ กถิยมาเน เอวฺเจวฺจ วเทสิ, อิทานิ กสฺมา น กเถสี’’ติ สนฺตชฺเชตฺวา ปลายนฺตํ อนุพนฺธิ. โส ปลายนฺโต เอกิสฺสา วจฺจกุฏิยา ปติ.

มหาชโน กถํ สมุฏฺาเปสิ – ‘‘อชฺช ลาลุทายี สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานานํ คุณกถาย ปวตฺตมานาย อุสฺสูยนฺโต อตฺตโน ธมฺมกถิกภาวํ ปกาเสตฺวา มนุสฺเสหิ สกฺการํ กตฺวา ‘ธมฺมํ สุโณมา’ติ วุตฺเต จตุกฺขตฺตุํ อาสเน นิสีทิตฺวา กเถตพฺพยุตฺตกํ กิฺจิ อปสฺสนฺโต ‘ตฺวํ อมฺหากํ อยฺเยหิ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานตฺเถเรหิ สทฺธึ ยุคคฺคาหํ คณฺหาสี’ติ เลฑฺฑุทณฺฑาทีนิ คเหตฺวา สนฺตชฺเชตฺวา ปลาปิยมาโน วจฺจกุฏิยา ปติโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอโส คูถกูเป นิมุคฺโคเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา –

‘‘จตุปฺปโท อหํ สมฺม, ตฺวมฺปิ สมฺม จตุปฺปโท;

เอหิ สมฺม นิวตฺตสฺสุ, กึ นุ ภีโต ปลายสิ.

‘‘อสุจิปูติโลโมสิ, ทุคฺคนฺโธ วาสิ สูกร;

สเจ ยุชฺฌิตุกาโมสิ, ชยํ สมฺม ททามิ เต’’ติ. (ชา. ๑.๒.๕-๖) –

อิมํ ชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา กเถสิ. ตทา สีโห สาริปุตฺโต อโหสิ, สูกโร ลาลุทายีติ. สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, ลาลุทายินา อปฺปมตฺตโกว ธมฺโม อุคฺคหิโต, สชฺฌายํ ปน เนว อกาสิ, กิฺจิ ปริยตฺตึ อุคฺคเหตฺวา ตสฺสา อสชฺฌายกรณํ มลเมวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๔๑.

‘‘อสชฺฌายมลา มนฺตา, อนุฏฺานมลา ฆรา;

มลํ วณฺณสฺส โกสชฺชํ, ปมาโท รกฺขโต มล’’นฺติ.

ตตฺถ อสชฺฌายมลาติ ยากาจิ ปริยตฺติ วา สิปฺปํ วา ยสฺมา อสชฺฌายนฺตสฺส อนนุยุฺชนฺตสฺส วินสฺสติ วา นิรนฺตรํ วา น อุปฏฺาติ, ตสฺมา ‘‘อสชฺฌายมลา มนฺตา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ฆราวาสํ วสนฺตสฺส อุฏฺายุฏฺาย ชิณฺณปฏิสงฺขรณาทีนิ อกโรนฺตสฺส ฆรํ นาม วินสฺสติ, ตสฺมา ‘‘อนุฏฺานมลา ฆรา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา คิหิสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา โกสชฺชวเสน สรีรปฏิชคฺคนํ วา ปริกฺขารปฏิชคฺคนํ วา อกโรนฺตสฺส กาโย ทุพฺพณฺโณ โหติ, ตสฺมา ‘‘มลํ วณฺณสฺส โกสชฺช’’นฺติ วุตฺตํ. ยสฺมา คาโว รกฺขนฺตสฺส ปมาทวเสน นิทฺทายนฺตสฺส วา กีฬนฺตสฺส วา ตา คาโว อติตฺถปกฺขนฺทนาทินา วา วาฬมิคโจราทิอุปทฺทเวน วา ปเรสํ สาลิเขตฺตาทีนิ โอตริตฺวา ขาทนวเสน วินาสํ อาปชฺชนฺติ, สยมฺปิ ทณฺฑํ วา ปริภาสํ วา ปาปุณาติ, ปพฺพชิตํ วา ปน ฉ ทฺวารานิ อรกฺขนฺตํ ปมาทวเสน กิเลสา โอตริตฺวา สาสนา จาเวนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปมาโท รกฺขโต มล’’นฺติ วุตฺตํ. โส หิสฺส วินาสาวหเนน มลฏฺานิยตฺตา มลนฺติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

ลาลุทายิตฺเถรวตฺถุ จตุตฺถํ.

๕. อฺตรกุลปุตฺตวตฺถุ

มลิตฺถิยา ทุจฺจริตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อฺตรํ กุลปุตฺตํ อารพฺภ กเถสิ.

ตสฺส กิร สมานชาติกํ กุลกุมาริกํ อาเนสุํ. สา อานีตทิวสโต ปฏฺาย อติจารินี อโหสิ. โส กุลปุตฺโต ตสฺสา อติจาเรน ลชฺชิโต กสฺสจิ สมฺมุขีภาวํ อุปคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต พุทฺธุปฏฺานาทีนิ ปจฺฉินฺทิตฺวา กติปาหจฺจเยน สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ‘‘กึ, อุปาสก, น ทิสฺสสี’’ติ วุตฺเต ตมตฺถํ อาโรเจสิ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘อุปาสก, ปุพฺเพปิ มยา ‘อิตฺถิโย นาม นทีอาทิสทิสา, ตาสุ ปณฺฑิเตน โกโธ น กาตพฺโพ’ติ วุตฺตํ, ตฺวํ ปน ภวปฏิจฺฉนฺนตฺตา น สลฺลกฺเขสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต –

‘‘ยถา นที จ ปนฺโถ จ, ปานาคารํ สภา ปปา;

เอวํ โลกิตฺถิโย นาม, เวลา ตาสํ น วิชฺชตี’’ติ. (ชา. ๑.๑.๖๕; ๑.๑๒.๙) –

ชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘อุปาสก, อิตฺถิยา หิ อติจารินิภาโว มลํ, ทานํ เทนฺตสฺส มจฺเฉรํ มลํ, อิธโลกปรโลเกสุ สตฺตานํ อกุสลกมฺมํ วินาสนตฺเถน มลํ, อวิชฺชา ปน สพฺพมลานํ อุตฺตมมล’’นฺติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๔๒.

‘‘มลิตฺถิยา ทุจฺจริตํ, มจฺเฉรํ ททโต มลํ;

มลา เว ปาปกา ธมฺมา, อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ.

๒๔๓.

‘‘ตโต มลา มลตรํ, อวิชฺชา ปรมํ มลํ;

เอตํ มลํ ปหนฺตฺวาน, นิมฺมลา โหถ ภิกฺขโว’’ติ.

ตตฺถ ทุจฺจริตนฺติ อติจาโร. อติจารินิฺหิ อิตฺถึ สามิโกปิ เคหา นีหรติ, มาตาปิตูนํ สนฺติกํ คตมฺปิ ‘‘ตฺวํ กุลสฺส อคารวภูตา, อกฺขีหิปิ น ทฏฺพฺพา’’ติ ตํ นีหรนฺติ. สา อนาถา วิจรนฺตี มหาทุกฺขํ ปาปุณาติ. เตนสฺสา ทุจฺจริตํ ‘‘มล’’นฺติ วุตฺตํ. ททโตติ ทายกสฺส. ยสฺส หิ เขตฺตกสนกาเล ‘‘อิมสฺมึ เขตฺเต สมฺปนฺเน สลากภตฺตาทีนิ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิปฺผนฺเน สสฺเสปิ มจฺเฉรํ อุปฺปชฺชิตฺวา จาคจิตฺตํ นิวาเรติ, โส มจฺเฉรวเสน จาคจิตฺเต อวิรูหนฺเต มนุสฺสสมฺปตฺตึ ทิพฺพสมฺปตฺตึ นิพฺพานสมฺปตฺตินฺติ ติสฺโส สมฺปตฺติโย น ลภติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘มจฺเฉรํ ททโต มล’’นฺติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปาปกา ธมฺมาติ อกุสลธมฺมา ปน อิธโลเก จ ปรโลเก จ มลเมว.

ตโตติ เหฏฺา วุตฺตมลโต. มลตรนฺติ อติเรกมลํ โว กเถมีติ อตฺโถ. อวิชฺชาติ อฏฺวตฺถุกํ อฺาณเมว ปรมํ มลํ. ปหนฺตฺวานาติ เอตํ มลํ ชหิตฺวา, ภิกฺขเว, ตุมฺเห นิมฺมลา โหถาติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

อฺตรกุลปุตฺตวตฺถุ ปฺจมํ.

๖. จูฬสาริวตฺถุ

สุชีวนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต จูฬสารึ นาม สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร เอกทิวเส เวชฺชกมฺมํ กตฺวา ปณีตโภชนํ ลภิตฺวา อาทาย นิกฺขมนฺโต อนฺตรามคฺเค เถรํ ทิสฺวา, ‘‘ภนฺเต, อิทํ มยา เวชฺชกมฺมํ กตฺวา ลทฺธํ, ตุมฺเห อฺตฺถ เอวรูปํ โภชนํ น ลภิสฺสถ, อิมํ ภุฺชถ, อหํ เต เวชฺชกมฺมํ กตฺวา นิจฺจกาลํ เอวรูปํ อาหารํ อาหริสฺสามี’’ติ อาห. เถโร ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุณฺหีภูโตว ปกฺกามิ. ภิกฺขู วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถุ ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สตฺถา, ‘‘ภิกฺขเว, อหิริโก นาม ปคพฺโภ กากสทิโส หุตฺวา เอกวีสติวิธาย อเนสนาย ตฺวา สุขํ ชีวติ, หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺโน ปน ทุกฺขํ ชีวตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๔๔.

‘‘สุชีวํ อหิริเกน, กากสูเรน ธํสินา;

ปกฺขนฺทินา ปคพฺเภน, สํกิลิฏฺเน ชีวิตํ.

๒๔๕.

‘‘หิรีมตา จ ทุชฺชีวํ, นิจฺจํ สุจิคเวสินา;

อลีเนนาปฺปคพฺเภน, สุทฺธาชีเวน ปสฺสตา’’ติ.

ตตฺถ อหิริเกนาติ ฉินฺนหิโรตฺตปฺปเกน. เอวรูเปน หิ อมาตรเมว ‘‘มาตา เม’’ติ อปิตาทโย เอว จ ‘‘ปิตา เม’’ติอาทินา นเยน วตฺวา เอกวีสติวิธาย อเนสนาย ปติฏฺาย สุเขน ชีวตุํ สกฺกา. กากสูเรนาติ สูรกากสทิเสน. ยถา หิ สูรกาโก กุลฆเรสุ ยาคุอาทีนิ คณฺหิตุกาโม ภิตฺติอาทีสุ นิสีทิตฺวา อตฺตโน โอโลกนภาวํ ตฺวา อโนโลเกนฺโต วิย อฺวิหิตโก วิย นิทฺทายนฺโต วิย จ หุตฺวา มนุสฺสานํ ปมาทํ สลฺลกฺเขตฺวา อนุปติตฺวา ‘‘สูสู’’ติ วทนฺเตสุเยว ภาชนโต มุขปูรํ คเหตฺวา ปลายติ, เอวเมวํ อหิริกปุคฺคโลปิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คามํ ปวิสิตฺวา ยาคุภตฺตฏฺานาทีนิ ววตฺถเปติ. ตตฺถ ภิกฺขู ปิณฺฑาย จริตฺวา ยาปนมตฺตํ อาทาย อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตา ยาคุํ ปิวิตฺวา กมฺมฏฺานํ มนสิ กโรนฺติ สชฺฌายนฺติ อาสนสาลํ สมฺมชฺชนฺติ. อยํ ปน อกตฺวา คามาภิมุโขว โหติ.

โส หิ ภิกฺขูหิ ‘‘ปสฺสถิม’’นฺติ โอโลกิยมาโนปิ อโนโลเกนฺโต วิย อฺวิหิโต วิย นิทฺทายนฺโต วิย คณฺิกํ ปฏิมุฺจนฺโต วิย จีวรํ สํวิทหนฺโต วิย หุตฺวา ‘‘อสุกํ นาม เม กมฺมํ อตฺถี’’ติ วทนฺโต อุฏฺายาสนา คามํ ปวิสิตฺวา ปาโตว ววตฺถปิตเคเหสุ อฺตรํ เคหํ อุปสงฺกมิตฺวา ฆรมานุสเกสุ โถกํ กวาฏํ ปิธาย ทฺวาเร นิสีทิตฺวา กนฺทนฺเตสุปิ เอเกน หตฺเถน กวาฏํ ปณาเมตฺวา อนฺโต ปวิสติ. อถ นํ ทิสฺวา อกามกาปิ อาสเน นิสีทาเปตฺวา ยาคุอาทีสุ ยํ อตฺถิ, ตํ เทนฺติ. โส ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา อวเสสํ ปตฺเตนาทาย ปกฺกมติ. อยํ กากสูโร นาม. เอวรูเปน อหิริเกน สุชีวนฺติ อตฺโถ.

ธํสินาติ ‘‘อสุกตฺเถโร นาม อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีนิ วทนฺเตสุ – ‘‘กึ ปน มยํ น อปฺปิจฺฉา’’ติอาทิวจเนน ปเรสํ คุณธํสนตาย ธํสินา. ตถารูปสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยมฺปิ อปฺปิจฺฉตาทิคุเณ ยุตฺโต’’ติ มฺมานา มนุสฺสา ทาตพฺพํ มฺนฺติ. โส ปน ตโต ปฏฺาย วิฺูปุริสานํ จิตฺตํ อาราเธตุํ อสกฺโกนฺโต ตมฺหาปิ ลาภา ปริหายติ. เอวํ ธํสิปุคฺคโล อตฺตโนปิ ปรสฺสปิ ลาภํ นาเสติเยว.

ปกฺขนฺทินาติ ปกฺขนฺทจารินา. ปเรสํ กิจฺจานิปิ อตฺตโน กิจฺจานิ วิย ทสฺเสนฺโต ปาโตว ภิกฺขูสุ เจติยงฺคณาทีสุ วตฺตํ กตฺวา กมฺมฏฺานมนสิกาเรน โถกํ นิสีทิตฺวา อุฏฺาย คามํ ปวิสนฺเตสุ มุขํ โธวิตฺวา ปณฺฑุกาสาวปารุปนอกฺขิอฺชนสีสมกฺขนาทีหิ อตฺตภาวํ มณฺเฑตฺวา สมฺมชฺชนฺโต วิย ทฺเว ตโย สมฺมชฺชนิปหาเร ทตฺวา ทฺวารโกฏฺกาภิมุโข โหติ. มนุสฺสา ปาโตว ‘‘เจติยํ วนฺทิสฺสาม, มาลาปูชํ กริสฺสามา’’ติ อาคตา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ วิหาโร อิมํ ทหรํ นิสฺสาย ปฏิชคฺคนํ ลภติ, อิมํ มา ปมชฺชิตฺถา’’ติ วตฺวา ตสฺส ทาตพฺพํ มฺนฺติ. เอวรูเปน ปกฺขนฺทินาปิ สุชีวํ. ปคพฺเภนาติ กายปาคพฺภิยาทีหิ สมนฺนาคเตน. สํกิลิฏฺเน ชีวิตนฺติ เอวํ ชีวิกํ กปฺเปตฺวา ชีวนฺเตน หิ ปุคฺคเลน สํกิลิฏฺเน หุตฺวา ชีวิตํ นาม โหติ, ตํ ทุชฺชีวิตํ ปาปเมวาติ อตฺโถ.

หิรีมตา จาติ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺเนน ปุคฺคเลน ทุชฺชีวํ. โส หิ อมาตาทโยว ‘‘มาตา เม’’ติอาทีนิ อวตฺวา อธมฺมิเก ปจฺจเย คูถํ วิย ชิคุจฺฉนฺโต ธมฺเมน สเมน ปริเยสนฺโต สปทานํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ลูขํ ชีวิกํ ชีวตีติ อตฺโถ. สุจิคเวสินาติ สุจีนิ กายกมฺมาทีนิ คเวสนฺเตน. อลีเนนาติ ชีวิตวุตฺติมนลฺลีเนน. สุทฺธาชีเวน ปสฺสตาติ เอวรูโป หิ ปุคฺคโล สุทฺธาชีโว นาม โหติ. เตน เอวํ สุทฺธาชีเวน ตเมว สุทฺธาชีวํ สารโต ปสฺสตา ลูขชีวิตวเสน ทุชฺชีวํ โหตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

จูฬสาริวตฺถุ ฉฏฺํ.

๗. ปฺจอุปาสกวตฺถุ

โย ปาณนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺจ อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ.

เตสุ หิ เอโก ปาณาติปาตาเวรมณิสิกฺขาปทเมว รกฺขติ, อิตเร อิตรานิ. เต เอกทิวสํ ‘‘อหํ ทุกฺกรํ กโรมิ, ทุกฺกรํ รกฺขามี’’ติ วิวาทาปนฺนา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา เอกสีลมฺปิ กนิฏฺกํ อกตฺวา ‘‘สพฺพาเนว ทุรกฺขานี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๔๖.

‘‘โย ปาณมติปาเตติ, มุสาวาทฺจ ภาสติ;

โลเก อทินฺนมาทิยติ, ปรทารฺจ คจฺฉติ.

๒๔๗.

‘‘สุราเมรยปานฺจ , โย นโร อนุยุฺชติ;

อิเธว เมโส โลกสฺมึ, มูลํ ขณติ อตฺตโน.

๒๔๘.

‘‘เอวํ โภ ปุริส ชานาหิ, ปาปธมฺมา อสฺตา;

มา ตํ โลโภ อธมฺโม จ, จิรํ ทุกฺขาย รนฺธยุ’’นฺติ.

ตตฺถ โย ปาณมติปาเตตีติ โย สาหตฺถิกาทีสุ ฉสุ ปโยเคสุ เอกปโยเคนาปิ ปรสฺส ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ. มุสาวาทนฺติ ปเรสํ อตฺถภฺชนกํ มุสาวาทฺจ ภาสติ. โลเก อทินฺนมาทิยตีติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก เถยฺยาวหาราทีสุ เอเกนปิ อวหาเรน ปรปริคฺคหิตํ อาทิยติ. ปรทารฺจ คจฺฉตีติ ปรสฺส รกฺขิตโคปิเตสุ ภณฺเฑสุ อปรชฺฌนฺโต อุปฺปถจารํ จรติ. สุราเมรยปานนฺติ ยสฺส กสฺสจิ สุราย เจว เมรยสฺส จ ปานํ. อนุยุฺชตีติ เสวติ พหุลีกโรติ. มูลํ ขณตีติ ติฏฺตุ ปรโลโก, โส ปน ปุคฺคโล อิธ โลกสฺมึเยว เยน เขตฺตวตฺถุอาทินา มูเลน ปติฏฺเปยฺย, ตมฺปิ อฏฺเปตฺวา วา วิสฺสชฺเชตฺวา วา สุรํ ปิวนฺโต อตฺตโน มูลํ ขณติ, อนาโถ กปโณ หุตฺวา วิจรติ. เอวํ, โภติ ปฺจทุสฺสีลฺยกมฺมการกํ ปุคฺคลํ อาลปติ. ปาปธมฺมาติ ลามกธมฺมา. อสฺตาติ กายสฺตาทิรหิตา. อเจตสาติปิ ปาโ, อจิตฺตกาติ อตฺโถ. โลโภ อธมฺโม จาติ โลโภ เจว โทโส จ. อุภยมฺปิ เหตํ อกุสลเมว. จิรํ ทุกฺขาย รนฺธยุนฺติ จิรกาลํ นิรยทุกฺขาทีนํ อตฺถาย ตํ เอเต ธมฺมา มา รนฺเธนฺตุ มา มตฺเถนฺตูติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน เต ปฺจ อุปาสกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

ปฺจอุปาสกวตฺถุ สตฺตมํ.

๘. ติสฺสทหรวตฺถุ

ททาติเวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ติสฺสทหรํ นาม อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติโน วิสาขาย อุปาสิกายาติ ปฺจนฺนํ อริยสาวกโกฏีนํ ทานํ นินฺทนฺโต วิจริ, อสทิสทานมฺปิ นินฺทิเยว. เตสํ เตสํ ทานคฺเค สีตลํ ลภิตฺวา ‘‘สีตล’’นฺติ นินฺทิ, อุณฺหํ ลภิตฺวา ‘‘อุณฺห’’นฺติ นินฺทิ. อปฺปํ เทนฺเตปิ ‘‘กึ อิเม อปฺปมตฺตกํ เทนฺตี’’ติ นินฺทิ, พหุํ เทนฺเตปิ ‘‘อิเมสํ เคเห ปนฏฺานํ มฺเ นตฺถิ, นนุ นาม ภิกฺขูนํ ยาปนมตฺตํ ทาตพฺพํ, เอตฺตกํ ยาคุภตฺตํ นิรตฺถกเมว วิสฺสชฺชตี’’ติ นินฺทิ. อตฺตโน ปน าตเก อารพฺภ ‘‘อโห อมฺหากํ าตกานํ เคหํ จตูหิ ทิสาหิ อาคตาคตานํ ภิกฺขูนํ โอปานภูต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา ปสํสํ ปวตฺเตสิ. โส ปเนกสฺส โทวาริกสฺส ปุตฺโต ชนปทํ วิจรนฺเตหิ วฑฺฒกีหิ สทฺธึ วิจรนฺโต สาวตฺถึ ปตฺวา ปพฺพชิโต. อถ นํ ภิกฺขู เอวํ มนุสฺสานํ ทานาทีนิ นินฺทนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ปริคฺคณฺหิสฺสาม น’’นฺติ จินฺเตตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตว าตกา กหํ วสนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกคาเม นามา’’ติ สุตฺวาว กติปเย ทหเร เปเสสุํ. เต ตตฺถ คนฺตฺวา คามวาสิเกหิ อาสนสาลาย นิสีทาเปตฺวา กตสกฺการา ปุจฺฉึสุ – ‘‘อิมมฺหา คามา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโต ติสฺโส นาม ทหโร อตฺถิ. ตสฺส กตเม าตกา’’ติ? มนุสฺสา ‘‘อิธ กุลเคหโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตทารโก นตฺถิ, กึ นุ โข อิเม วทนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เอโก โทวาริกปุตฺโต วฑฺฒกีหิ สทฺธึ วิจริตฺวา ปพฺพชิโตติ สุโณม, ตํ สนฺธาย วเทถ มฺเ’’ติ อาหํสุ. ทหรภิกฺขู ติสฺสสฺส ตตฺถ อิสฺสราตกานํ อภาวํ ตฺวา สาวตฺถึ คนฺตฺวา ‘‘อการณเมว, ภนฺเต, ติสฺโส วิลปนฺโต วิจรตี’’ติ ตํ ปวตฺตึ ภิกฺขูนํ อาโรเจสุํ. ภิกฺขูปิ ตํ ตถาคตสฺส อาโรเจสุํ.

สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว วิกตฺเถนฺโต วิจรติ, ปุพฺเพปิ วิกตฺถโกว อโหสี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริตฺวา –

‘‘พหุมฺปิ โส วิกตฺเถยฺย, อฺํ ชนปทํ คโต;

อนฺวาคนฺตฺวาน ทูเสยฺย, ภุฺช โภเค กฏาหกา’’ติ. (ชา. ๑.๑.๑๒๕) –

อิมํ กฏาหชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, โย หิ ปุคฺคโล ปเรหิ อปฺปเก วา พหุเก วา ลูเข วา ปณีเต วา ทินฺเน อฺเสํ วา ทตฺวา อตฺตโน อทินฺเน มงฺกุ โหติ, ตสฺส ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา มคฺคผลาทีนิ วา น อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –

๒๔๙.

‘‘ททาติ เว ยถาสทฺธํ, ยถาปสาทนํ ชโน;

ตตฺถ โย จ มงฺกุ โหติ, ปเรสํ ปานโภชเน;

น โส ทิวา วา รตฺตึ วา, สมาธิมธิคจฺฉติ.

๒๕๐.

‘‘ยสฺส เจตํ สมุจฺฉินฺนํ, มูลฆจฺจํ สมูหตํ;

ส เว ทิวา วา รตฺตึ วา, สมาธิมธิคจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ททาติ เว ยถาสทฺธนฺติ ลูขปณีตาทีสุ ยํกิฺจิ เทนฺโต ชโน ยถาสทฺธํ อตฺตโน สทฺธานุรูปเมว เทติ. ยถาปสาทนนฺติ เถรนวาทีสุ จสฺส ยสฺมึ ยสฺมึ ปสาโท อุปฺปชฺชติ, ตสฺส เทนฺโต ยถาปสาทนํ อตฺตโน ปสาทานุรูปเมว เทติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปรสฺส ทาเน ‘‘มยา อปฺปํ วา ลทฺธํ, ลูขํ วา ลทฺธ’’นฺติ มงฺกุภาวํ อาปชฺชติ. สมาธินฺติ โส ปุคฺคโล ทิวา วา รตฺตึ วา อุปจารปฺปนาวเสน วา มคฺคผลวเสน วา สมาธึ นาธิคจฺฉติ. ยสฺส เจตนฺติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส เอตํ เอเกสุ าเนสุ มงฺกุภาวสงฺขาตํ อกุสลํ สมุจฺฉินฺนํ มูลฆจฺจํ กตฺวา อรหตฺตมคฺคาเณน สมูหตํ, โส วุตฺตปฺปการํ สมาธึ อธิคจฺฉตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

ติสฺสทหรวตฺถุ อฏฺมํ.

๙. ปฺจอุปาสกวตฺถุ

นตฺถิราคสโม อคฺคีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺจ อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ.

เต กิร ธมฺมํ โสตุกามา วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. พุทฺธานฺจ ‘‘อยํ ขตฺติโย, อยํ พฺราหฺมโณ, อยํ อฑฺโฒ, อยํ ทุคฺคโต, อิมสฺส อุฬารํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามิ, อิมสฺส โน’’ติ จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ. ยํกิฺจิ อารพฺภ ธมฺมํ เทเสนฺโต ธมฺมคารวํ ปุรกฺขตฺวา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย เทเสติ. เอวํ เทเสนฺตสฺส ปน ตถาคตสฺส สนฺติเก นิสินฺนานํ เตสํ เอโก นิสินฺนโกว นิทฺทายิ, เอโก องฺคุลิยา ภูมึ ลิขนฺโต นิสีทิ, เอโก เอกํ รุกฺขํ จาเลนฺโต นิสีทิ, เอโก อากาสํ อุลฺโลเกนฺโต นิสีทิ, เอโก ปน สกฺกจฺจํ ธมฺมํ อสฺโสสิ.

อานนฺทตฺเถโร สตฺถารํ พีชยมาโน เตสํ อาการํ โอโลเกนฺโต สตฺถารํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห อิเมสํ มหาเมฆคชฺชิตํ คชฺชนฺตา วิย ธมฺมํ เทเสถ, เอเต ปน ตุมฺเหสุปิ ธมฺมํ กเถนฺเตสุ อิทฺจิทฺจ กโรนฺตา นิสินฺนา’’ติ. ‘‘อานนฺท, ตฺวํ เอเต น ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ. เอเตสุ หิ โย เอส นิทฺทายนฺโต นิสินฺโน, เอส ปฺจ ชาติสตานิ สปฺปโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา โภเคสุ สีสํ เปตฺวา นิทฺทายิ, อิทานิปิสฺส นิทฺทาย ติตฺติ นตฺถิ, นาสฺส กณฺณํ มม สทฺโท ปวิสตีติ. กึ ปน, ภนฺเต, ปฏิปาฏิยา กเถถ, อุทาหุ อนฺตรนฺตราติ. อานนฺท, เอตสฺส หิ กาเลน มนุสฺสตฺตํ, กาเลน เทวตฺตํ, กาเลน นาคตฺตนฺติ เอวํ อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชนฺตสฺส อุปปตฺติโย สพฺพฺุตฺาเณนาปิ น สกฺกา ปริจฺฉินฺทิตุํ. ปฏิปาฏิยา ปเนส ปฺจ ชาติสตานิ นาคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นิทฺทายนฺโตปิ นิทฺทาย อติตฺโตเยว. องฺคุลิยา ภูมึ ลิขนฺโต นิสินฺนปุริโสปิ ปฺจ ชาติสตานิ คณฺฑุปฺปาทโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ภูมึ ขณิ, อิทานิปิ ภูมึ ขณนฺโตว มม สทฺทํ น สุณาติ. เอส รุกฺขํ จาเลนฺโต นิสินฺนปุริโสปิ ปฏิปาฏิยา ปฺจ ชาติสตานิ มกฺกฏโยนิยํ นิพฺพตฺติ, อิทานิปิ ปุพฺพาจิณฺณวเสน รุกฺขํ จาเลติเยว, นาสฺส กณฺณํ มม สทฺโท ปวิสติ. เอส อากาสํ อุลฺโลเกตฺวา นิสินฺนปุริโสปิ ปฺจ ชาติสตานิ นกฺขตฺตปาโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิทานิ ปุพฺพาจิณฺณวเสน อชฺชาปิ อากาสเมว อุลฺโลเกติ, นาสฺส กณฺณํ มม สทฺโท ปวิสติ. เอส สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺโต นิสินฺนปุริโส ปน ปฏิปาฏิยา ปฺจ ชาติสตานิ ติณฺณํ เวทานํ ปารคู มนฺตชฺฌายกพฺราหฺมโณ หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิทานิปิ มนฺตํ สํสนฺทนฺโต วิย สกฺกจฺจํ สุณาตีติ.

‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ธมฺมเทสนา ฉวิอาทีนิ ฉินฺทิตฺวา อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ ติฏฺติ, กสฺมา อิเม ตุมฺเหสุปิ ธมฺมํ เทเสนฺเตสุ สกฺกจฺจํ น สุณนฺตี’’ติ? ‘‘อานนฺท, มม ธมฺโม สุสฺสวนีโยติ สฺํ กโรสิ มฺเ’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ทุสฺสวนีโย’’ติ? ‘‘อาม, อานนฺทา’’ติ. ‘‘กสฺมา, ภนฺเต’’ติ ? ‘‘อานนฺท, พุทฺโธติ วา ธมฺโมติ วา สงฺโฆติ วา ปทํ อิเมหิ สตฺเตหิ อเนเกสุปิ กปฺปโกฏิสตสหสฺเสสุ อสุตปุพฺพํ. ยสฺมา อิมํ ธมฺมํ โสตุํ น สกฺโกนฺตา อนมตคฺเค สํสาเร อิเม สตฺตา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํเยว สุณนฺตา อาคตา, ตสฺมา สุราปานเกฬิมณฺฑลาทีสุ คายนฺตา นจฺจนฺตา วิจรนฺติ, ธมฺมํ โสตุํ น สกฺโกนฺตี’’ติ. ‘‘กึ นิสฺสาย ปเนเต น สกฺโกนฺติ, ภนฺเต’’ติ?

อถสฺส สตฺถา, ‘‘อานนฺท, ราคํ นิสฺสาย โทสํ นิสฺสาย โมหํ นิสฺสาย ตณฺหํ นิสฺสาย น สกฺโกนฺติ. ราคคฺคิสทิโส อคฺคิ นาม นตฺถิ, โส ฉาริกมฺปิ อเสเสตฺวา สตฺเต ทหติ. กิฺจาปิ สตฺตสูริยปาตุภาวํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน กปฺปวินาสโก อคฺคิปิ กิฺจิ อนวเสเสตฺวาว โลกํ ทหติ, โส ปน อคฺคิ กทาจิเยว ทหติ. ราคคฺคิโน อทหนกาโล นาม นตฺถิ, ตสฺมา ราคสโม วา อคฺคิ โทสสโม วา คโห โมหสมํ วา ชาลํ ตณฺหาสมา วา นที นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๕๑.

‘‘นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ, นตฺถิ โทสสโม คโห;

นตฺถิ โมหสมํ ชาลํ, นตฺถิ ตณฺหาสมา นที’’ติ.

ตตฺถ ราคสโมติ ธูมาทีสุ กิฺจิ อทสฺเสตฺวา อนฺโตเยว อุฏฺาย ฌาปนวเสน ราเคน สโม อคฺคิ นาม นตฺถิ. โทสสโมติ ยกฺขคหอชครคหกุมฺภิลคหาทโย เอกสฺมึเยว อตฺตภาเว คณฺหิตุํ สกฺโกนฺติ, โทสคโห ปน สพฺพตฺถ เอกนฺตเมว คณฺหาตีติ โทเสน สโม คโห นาม นตฺถิ. โมหสมนฺติ โอนนฺธนปริโยนนฺธนฏฺเน ปน โมหสมํ ชาลํ นาม นตฺถิ. ตณฺหาสมาติ คงฺคาทีนํ นทีนํ ปุณฺณกาโลปิ อูนกาโลปิ สุกฺขกาโลปิ ปฺายติ, ตณฺหาย ปน ปุณฺณกาโล วา สุกฺขกาโล วา นตฺถิ, นิจฺจํ อูนาว ปฺายตีติ ทุปฺปูรณฏฺเน ตณฺหาย สมา นที นาม นตฺถีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน สกฺกจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺโต อุปาสโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตานมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

ปฺจอุปาสกวตฺถุ นวมํ.

๑๐. เมณฺฑกเสฏฺิวตฺถุ

สุทสฺสํวชฺชนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา ภทฺทิยนครํ นิสฺสาย ชาติยาวเน วิหรนฺโต เมณฺฑกเสฏฺึ อารพฺภ กเถสิ.

สตฺถา กิร องฺคุตฺตราเปสุ จาริกํ จรนฺโต เมณฺฑกเสฏฺิโน จ, ภริยาย จสฺส จนฺทปทุมาย, ปุตฺตสฺส จ ธนฺจยเสฏฺิโน, สุณิสาย จ สุมนเทวิยา, นตฺตาย จสฺส วิสาขาย, ทาสสฺส จ ปุณฺณสฺสาติ อิเมสํ โสตาปตฺติผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ภทฺทิยนครํ คนฺตฺวา ชาติยาวเน วิหาสิ. เมณฺฑกเสฏฺิ สตฺถุ อาคมนํ อสฺโสสิ. กสฺมา ปเนส เมณฺฑกเสฏฺิ นาม ชาโตติ? ตสฺส กิร ปจฺฉิมเคเห อฏฺกรีสมตฺเต าเน หตฺถิอสฺสอุสภปมาณา สุวณฺณเมณฺฑกา ปถวึ ภินฺทิตฺวา ปิฏฺิยา ปิฏฺึ ปหรมานา อุฏฺหึสุ. เตสํ มุเขสุ ปฺจวณฺณานํ สุตฺตานํ เคณฺฑุกา ปกฺขิตฺตา โหนฺติ. สปฺปิเตลมธุผาณิตาทีหิ วา วตฺถจฺฉาทนหิรฺสุวณฺณาทีหิ วา อตฺเถ สติ เตสํ มุขโต เคณฺฑุเก อปเนนฺติ, เอกสฺสาปิ เมณฺฑกสฺส มุขโต ชมฺพุทีปวาสีนํ ปโหนกํ สปฺปิเตลมธุผาณิตวตฺถจฺฉาทนหิรฺสุวณฺณํ นิกฺขมติ. ตโต ปฏฺาย เมณฺฑกเสฏฺีติ ปฺายิ.

กึ ปนสฺส ปุพฺพกมฺมนฺติ? วิปสฺสีพุทฺธกาเล กิร เอส อวโรชสฺส นาม กุฏุมฺพิกสฺส ภาคิเนยฺโย มาตุเลน สมานนาโม อวโรโช นาม อโหสิ. อถสฺส มาตุโล สตฺถุ คนฺธกุฏึ กาตุํ อารภิ. โส ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘มาตุล, อุโภปิ สเหว กโรมา’’ติ วตฺวา ‘‘อหํ อฺเหิ สทฺธึ อสาธารณํ กตฺวา เอกโกว กริสฺสามี’’ติ เตน ปน ปฏิกฺขิตฺตกาเล ‘‘อิมสฺมึ าเน คนฺธกุฏิยา กตาย อิมสฺมึ นาม าเน กุฺชรสาลํ นาม ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อรฺโต ทพฺพสมฺภาเร อาหราเปตฺวา เอกํ ถมฺภํ สุวณฺณขจิตํ, เอกํ รชตขจิตํ, เอกํ มณิขจิตํ, เอกํ สตฺตรตนขจิตนฺติ เอวํ ตุลาสงฺฆาตทฺวารกวาฏวาตปานโคปานสีฉทนิฏฺกา สพฺพาปิ สุวณฺณาทิขจิตาว กาเรตฺวา คนฺธกุฏิยา สมฺมุขฏฺาเน ตถาคตสฺส สตฺตรตนมยํ กุฺชรสาลํ กาเรสิ. ตสฺสา อุปริ ฆนรตฺตสุวณฺณมยา กมฺพลา ปวาฬมยา สิขรถูปิกาโย อเหสุํ. กุฺชรสาลาย มชฺเฌ าเน รตนมณฺฑปํ กาเรตฺวา ธมฺมาสนํ ปติฏฺาเปสิ. ตสฺส ฆนรตฺตสุวณฺณมยา ปาทา อเหสุํ, ตถา จตสฺโส อฏนิโย. จตฺตาโร ปน สุวณฺณเมณฺฑเก การาเปตฺวา อาสนสฺส จตุนฺนํ ปาทานํ เหฏฺา เปสิ, ทฺเว เมณฺฑเก การาเปตฺวา ปาทปีกาย เหฏฺา เปสิ, ฉ สุวณฺณเมณฺฑเก การาเปตฺวา มณฺฑปํ ปริกฺขิเปนฺโต เปสิ. ธมฺมาสนํ ปมํ สุตฺตมเยหิ รชฺชุเกหิ วายาเปตฺวา มชฺเฌ สุวณฺณสุตฺตมเยหิ อุปริ มุตฺตมเยหิ สุตฺเตหิ วายาเปสิ. ตสฺส จนฺทนมโย อปสฺสโย อโหสิ. เอวํ กุฺชรสาลํ นิฏฺาเปตฺวา สาลามหํ กโรนฺโต อฏฺสฏฺีหิ ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา จตฺตาโร มาเส ทานํ ทตฺวา โอสานทิวเส ติจีวรํ อทาสิ. ตตฺถ สงฺฆนวกสฺส สตสหสฺสคฺฆนิกํ ปาปุณิ.

เอวํ วิปสฺสีพุทฺธกาเล ปุฺกมฺมํ กตฺวา ตโต จุโต เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สํสรนฺโต อิมสฺมึ ภทฺทกปฺเป พาราณสิยํ มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติตฺวา พาราณสิเสฏฺิ นาม อโหสิ. โส เอกทิวสํ ราชูปฏฺานํ คจฺฉนฺโต ปุโรหิตํ ทิสฺวา ‘‘กึ, อาจริย, นกฺขตฺตมุหุตฺตํ, อุปธาเรถา’’ติ อาห. อาม, อุปธาเรมิ, กึ อฺํ อมฺหากํ กมฺมนฺติ. เตน หิ กีทิสํ ชนปทจาริตฺตนฺติ? เอกํ ภยํ ภวิสฺสตีติ. กึ ภยํ นามาติ? ฉาตกภยํ เสฏฺีติ. กทา ภวิสฺสตีติ? อิโต ติณฺณํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยนาติ. ตํ สุตฺวา เสฏฺิ พหุํ กสิกมฺมํ กาเรตฺวา เคเห วิชฺชมานธเนนาปิ ธฺเมว คเหตฺวา อฑฺฒเตรสานิ โกฏฺสตานิ กาเรตฺวา สพฺพโกฏฺเก วีหีหิ ปริปูเรสิ. โกฏฺเสุ อปฺปโหนฺเตสุ จาฏิอาทีนิ ปูเรตฺวา อวเสสํ ภูมิยํ อาวาเฏ กตฺวา นิขณิ. นิธานาวเสสํ มตฺติกาย สทฺธึ มทฺทิตฺวา ภิตฺติโย ลิมฺปาเปสิ.

โส อปเรน สมเยน ฉาตกภเย สมฺปตฺเต ยถานิกฺขิตฺตํ ธฺํ ปริภุฺชนฺโต โกฏฺเสุ จ จาฏิอาทีสุ จ นิกฺขิตฺตธฺเ ปริกฺขีเณ ปริชเน ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘คจฺฉถ, ตาตา, ปพฺพตปาทํ ปวิสิตฺวา ชีวนฺตา สุภิกฺขกาเล มม สนฺติกํ อาคนฺตุกามา อาคจฺฉถ, อนาคนฺตุกามา ตตฺถ ตตฺเถว ชีวถา’’ติ. เต โรทมานา อสฺสุมุขา หุตฺวา เสฏฺึ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา สตฺตาหํ นิสีทิตฺวา ตถา อกํสุ. ตสฺส ปน สนฺติเก เวยฺยาวจฺจกโร เอโกว ปุณฺโณ นาม ทาโส โอหียิ, เตน สทฺธึ เสฏฺิชายา เสฏฺิปุตฺโต เสฏฺิสุณิสาติ ปฺเจว ชนา อเหสุํ. เต ภูมิยํ อาวาเฏสุ นิหิตธฺเปิ ปริกฺขีเณ ภิตฺติมตฺติกํ ปาเตตฺวา เตเมตฺวา ตโต ลทฺธธฺเน ยาปยึสุ. อถสฺส ชายา ฉาตเก อวตฺถรนฺเต มตฺติกาย ขียมานาย ภิตฺติปาเทสุ อวสิฏฺมตฺติกํ ปาเตตฺวา เตเมตฺวา อฑฺฒาฬฺหกมตฺตํ วีหึ ลภิตฺวา โกฏฺเฏตฺวา เอกํ ตณฺฑุลนาฬึ คเหตฺวา ‘‘ฉาตกกาเล โจรา พหู โหนฺตี’’ติ โจรภเยน เอกสฺมึ กุเฏ ปกฺขิปิตฺวา ปิทหิตฺวา ภูมิยํ นิขณิตฺวา เปสิ. อถ นํ เสฏฺิ ราชูปฏฺานโต อาคนฺตฺวา อาห – ‘‘ภทฺเท, ฉาโตมฺหิ, อตฺถิ กิฺจี’’ติ. สา วิชฺชมานํ ‘‘นตฺถี’’ติ อวตฺวา ‘‘เอกา ตณฺฑุลนาฬิ อตฺถี’’ติ อาห. ‘‘กหํ สา’’ติ? ‘‘โจรภเยน เม นิขณิตฺวา ปิตา’’ติ. ‘‘เตน หิ นํ อุทฺธริตฺวา กิฺจิ ปจาหี’’ติ. ‘‘สเจ ยาคุํ ปจิสฺสามิ, ทฺเว วาเร ลภิสฺสติ. สเจ ภตฺตํ ปจิสฺสามิ, เอกวารเมว ลภิสฺสติ, กึ ปจามิ, สามี’’ติ อาห. ‘‘อมฺหากํ อฺโ ปจฺจโย นตฺถิ, ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา มริสฺสาม, ภตฺตเมว ปจาหี’’ติ. สา ภตฺตํ ปจิตฺวา ปฺจ โกฏฺาเส กตฺวา เสฏฺิโน โกฏฺาสํ วฑฺเฒตฺวา ปุรโต เปสิ.

ตสฺมึ ขเณ คนฺธมาทนปพฺพเต ปจฺเจกพุทฺโธ สมาปตฺติโต วุฏฺาติ. อนฺโตสมาปตฺติยํ กิร สมาปตฺติพเลน ชิฆจฺฉา น พาธติ. สมาปตฺติโต วุฏฺิตานํ ปน พลวตี หุตฺวา อุทรปฏลํ ฑยฺหนฺตี วิย อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา เต ลภนฏฺานํ โอโลเกตฺวา คจฺฉนฺติ. ตํ ทิวสฺจ เตสํ ทานํ ทตฺวา เสนาปติฏฺานาทีสุ อฺตรสมฺปตฺตึ ลภนฺติ. ตสฺมา โสปิ ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกนฺโต ‘‘สกลชมฺพุทีเป ฉาตกภยํ อุปฺปนฺนํ, เสฏฺิเคเห จ ปฺจนฺนํ ชนานํ นาฬิโกทโนว ปกฺโก, สทฺธา นุ โข เอเต, สกฺขิสฺสนฺติ วา มม สงฺคหํ กาตุ’’นฺติ เตสํ สทฺธภาวฺจ สงฺคหํ กาตุํ สมตฺถภาวฺจ ทิสฺวา ปตฺตจีวรมาทาย มหาเสฏฺิสฺส ปุรโต ทฺวาเร ิตเมว อตฺตานํ ทสฺเสสิ. โส ตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘ปุพฺเพปิ มยา ทานสฺส อทินฺนตฺตา เอวรูปํ ฉาตกํ ทิฏฺํ, อิทํ โข ปน ภตฺตํ มํ เอกทิวสเมว รกฺเขยฺย. อยฺยสฺส ปน ทินฺนํ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ มม หิตสุขาวหํ ภวิสฺสตี’’ติ ตํ ภตฺตปาตึ อปเนตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา เคหํ ปเวเสตฺวา อาสเน นิสินฺนสฺส ปาเท โธวิตฺวา สุวณฺณปาทปีเ เปตฺวา ภตฺตปาติมาทาย ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺเต โอกิริ. อุปฑฺฒาวเสเส ภตฺเต ปจฺเจกพุทฺโธ หตฺเถน ปตฺตํ ปิทหิ. อถ นํ, ‘‘ภนฺเต, เอกาย ตณฺฑุลนาฬิยา ปฺจนฺนํ ชนานํ ปกฺกโอทนสฺส อยํ เอโก โกฏฺาโส, อิมํ ทฺวิธา กาตุํ น สกฺกา. มา มยฺหํ อิธโลเก สงฺคหํ กโรถ, อหํ นิรวเสสํ ทาตุกาโมมฺหี’’ติ วตฺวา สพฺพํ ภตฺตมทาสิ. ทตฺวา จ ปน ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ, ‘‘มา, ภนฺเต, ปุน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เอวรูปํ ฉาตกภยํ อทฺทสํ, อิโต ปฏฺาย สกลชมฺพุทีปวาสีนํ พีชภตฺตํ ทาตุํ สมตฺโถ ภเวยฺยํ, สหตฺเถน กมฺมํ กตฺวา ชีวิกํ น กปฺเปยฺยํ, อฑฺฒเตรส โกฏฺสตานิ โสธาเปตฺวา สีสํ นฺหายิตฺวา เตสํ ทฺวาเร นิสีทิตฺวา อุทฺธํ โอโลกิตกฺขเณเยว เม รตฺตสาลิธารา ปติตฺวา สพฺพโกฏฺเ ปูเรยฺยุํ. นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน จ อยเมว ภริยา, อยเมว ปุตฺโต, อยเมว สุณิสา, อยเมว ทาโส โหตู’’ติ.

ภริยาปิสฺส ‘‘มม สามิเก ชิฆจฺฉาย ปีฬิยมาเน น สกฺกา มยา ภุฺชิตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ, ‘‘ภนฺเต, อิทานิ นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เอวรูปํ ฉาตกภยํ น ปสฺเสยฺยํ, ภตฺตถาลิกํ ปุรโต กตฺวา สกลชมฺพุทีปวาสีนํ ภตฺตํ เทนฺติยาปิ จ เม ยาว น อุฏฺหิสฺสามิ, ตาว คหิตคหิตฏฺานํ ปูริตเมว โหตุ. อยเมว สามิโก, อยเมว ปุตฺโต, อยเมว สุณิสา, อยเมว ทาโส โหตู’’ติ. ปุตฺโตปิสฺส อตฺตโน โกฏฺาสํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ, ‘‘ภนฺเต, อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ ฉาตกภยํ น ปสฺเสยฺยํ, เอกฺจ เม สหสฺสถวิกํ คเหตฺวา สกลชมฺพุทีปวาสีนํ กหาปณํ เทนฺตสฺสาปิ อยํ สหสฺสถวิกา ปริปุณฺณาว โหตุ, อิเมเยว มาตาปิตโร โหนฺตุ, อยํ ภริยา, อยํ ทาโส โหตู’’ติ.

สุณิสาปิสฺส อตฺตโน โกฏฺาสํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ, ‘‘อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ ฉาตกภยํ น ปสฺเสยฺยํ, เอกฺจ เม ธฺปิฏกํ ปุรโต เปตฺวา สกลชมฺพุทีปวาสีนํ พีชภตฺตํ เทนฺติยาปิ ขีณภาโว มา ปฺายิตฺถ, นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน อิเมเยว สสุรา โหนฺตุ, อยเมว สามิโก, อยเมว ทาโส โหตู’’ติ. ทาโสปิ อตฺตโน โกฏฺาสํ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ , ‘‘อิโต ปฏฺาย เอวรูปํ ฉาตกภยํ น ปสฺเสยฺยํ, สพฺเพ อิเม สามิกา โหนฺตุ, กสนฺตสฺส จ เม อิโต ติสฺโส, เอตฺโต ติสฺโส, มชฺเฌ เอกาติ ทารุอมฺพณมตฺตา สตฺต สตฺต สีตาโย คจฺฉนฺตู’’ติ. โส ตํ ทิวสํ เสนาปติฏฺานํ ปตฺเถตฺวา ลทฺธุํ สมตฺโถปิ สามิเกสุ สิเนเหน ‘‘อิเมเยว เม สามิกา โหนฺตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ สพฺเพสมฺปิ วจนาวสาเน ‘‘เอวํ โหตู’’ติ วตฺวา –

‘‘อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ขิปฺปเมว สมิชฺฌตุ;

สพฺเพ ปูเรนฺตุ สงฺกปฺปา, จนฺโท ปนฺนรโส ยถา.

‘‘อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ขิปฺปเมว สมิชฺฌตุ;

สพฺเพ ปูเรนฺตุ สงฺกปฺปา, มณิ โชติรโส ยถา’’ติ. –

ปจฺเจกพุทฺธคาถาหิ อนุโมทนํ กตฺวา ‘‘มยา อิเมสํ จิตฺตํ ปสาเทตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ยาว คนฺธมาทนปพฺพตา อิเม มํ ปสฺสนฺตู’’ติ อธิฏฺหิตฺวา ปกฺกามิ. เตปิ โอโลเกตฺวาว อฏฺํสุ. โส คนฺตฺวา ตํ ภตฺตํ ปฺจหิ ปจฺเจกพุทฺธสเตหิ สทฺธึ สํวิภชิ. ตํ ตสฺสานุภาเวน สพฺเพสมฺปิ ปโหติ. เต โอโลเกนฺตาเยว อฏฺํสุ.

อติกฺกนฺเต ปน มชฺฌนฺหิเก เสฏฺิภริยา อุกฺขลึ โธวิตฺวา ปิทหิตฺวา เปสิ. เสฏฺิปิ ชิฆจฺฉาย ปีฬิโต นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ. โส สายนฺเห ปพุชฺฌิตฺวา ภริยํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อติวิย ฉาโตมฺหิ, อตฺถิ นุ โข อุกฺขลิยา ตเล ฌามกสิตฺถานี’’ติ. สา โธวิตฺวา อุกฺขลิยา ปิตภาวํ ชานนฺตีปิ ‘‘นตฺถี’’ติ อวตฺวา ‘‘อุกฺขลึ วิวริตฺวา อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ อุฏฺาย อุกฺขลิมูลํ คนฺตฺวา อุกฺขลึ วิวริ, ตาวเทว สุมนมกุลสทิสวณฺณสฺส ภตฺตสฺส ปูรา อุกฺขลิ ปิธานํ อุกฺขิปิตฺวา อฏฺาสิ. สา ตํ ทิสฺวาว ปีติยา ผุฏฺสรีรา เสฏฺึ อาห – ‘‘อุฏฺเหิ, สามิ, อหํ อุกฺขลึ โธวิตฺวา ปิทหึ, สา ปน สุมนมกุลสทิสวณฺณสฺส ภตฺตสฺส ปูรา, ปุฺานิ นาม กตฺตพฺพรูปานิ, ทานํ นาม กตฺตพฺพยุตฺตกํ. อุฏฺเหิ, สามิ, ภุฺชสฺสู’’ติ. สา ทฺวินฺนํ ปิตาปุตฺตานํ ภตฺตํ อทาสิ. เตสุ สุตฺวา อุฏฺิเตสุ สุณิสาย สทฺธึ นิสีทิตฺวา ภุฺชิตฺวา ปุณฺณสฺส ภตฺตํ อทาสิ. คหิตคหิตฏฺานํ น ขียติ, กฏจฺฉุนา สกึ คหิตฏฺานเมว ปฺายติ. ตํทิวสเมว โกฏฺาทโย ปุพฺเพ ปูริตนิยาเมเนว ปุน ปูรยึสุ. ‘‘เสฏฺิสฺส เคเห ภตฺตํ อุปฺปนฺนํ, พีชภตฺเตหิ อตฺถิกา อาคนฺตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ นคเร โฆสนํ กาเรสิ. มนุสฺสา ตสฺส เคหโต พีชภตฺตํ คณฺหึสุ. สกลชมฺพุทีปวาสิโน ตํ นิสฺสาย ชีวิตํ ลภึสุเยว.

โส ตโต จุโต เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา เทวมนุสฺเสสุ สํสรนฺโต อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเท ภทฺทิยนคเร เสฏฺิกุเล นิพฺพตฺติ. ภริยาปิสฺส มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺตา ตสฺเสว เคหํ อคมาสิ. ตสฺส ตํ ปุพฺพกมฺมํ นิสฺสาย ปจฺฉาเคเห ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการา เมณฺฑกา อุฏฺหึสุ. ปุตฺโตปิ เนสํ ปุตฺโตว, สุณิสา สุณิสาว, ทาโส ทาโสว อโหสิ. อเถกทิวสํ เสฏฺิ อตฺตโน ปุฺํ วีมํสิตุกาโม อฑฺฒเตรสานิ โกฏฺสตานิ โสธาเปตฺวา สีสํ นฺหาโต ทฺวาเร นิสีทิตฺวา อุทฺธํ โอโลเกสิ. สพฺพานิปิ วุตฺตปฺปการานํ รตฺตสาลีนํ ปูรยึสุ. โส เสสานมฺปิ ปุฺานิ วีมํสิตุกาโม ภริยฺจ ปุตฺตาทโย จ ‘‘ตุมฺหากมฺปิ ปุฺานิ วีมํสิสฺสถา’’ติ อาห.

อถสฺส ภริยา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว ตณฺฑุเล มินาเปตฺวา เตหิ ภตฺตํ ปจาเปตฺวา ทฺวารโกฏฺเก ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา สุวณฺณกฏจฺฉุํ อาทาย ‘‘ภตฺเตน อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ โฆสาเปตฺวา อาคตาคตานํ อุปนีตภาชนานิ ปูเรตฺวา อทาสิ. สกลทิวสมฺปิ เทนฺติยา กฏจฺฉุนา คหิตฏฺานเมว ปฺายติ. ตสฺสา ปน ปุริมพุทฺธานมฺปิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส วามหตฺเถน อุกฺขลึ ทกฺขิณหตฺเถน กฏจฺฉุํ คเหตฺวา เอวเมว ปตฺเต ปูเรตฺวา ภตฺตสฺส ทินฺนตฺตา วามหตฺถตลํ ปูเรตฺวา ปทุมลกฺขณํ นิพฺพตฺติ, ทกฺขิณหตฺถตลํ ปูเรตฺวา จนฺทลกฺขณํ นิพฺพตฺติ. ยสฺมา ปน วามหตฺถโต ธมฺมกรณํ อาทาย ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุทกํ ปริสฺสาเวตฺวา ททมานา อปราปรํ วิจริ, เตนสฺสา ทกฺขิณปาทตลํ ปูเรตฺวา จนฺทลกฺขณํ นิพฺพตฺติ, วามปาทตลํ ปูเรตฺวา ปทุมลกฺขณํ นิพฺพตฺติ. ตสฺสา อิมินา การเณน จนฺทปทุมาติ นามํ กรึสุ.

ปุตฺโตปิสฺส สีสํ นฺหาโต สหสฺสถวิกํ อาทาย ‘‘กหาปเณหิ อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วตฺวา อาคตาคตานํ คหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา อทาสิ. ถวิกาย กหาปณสหสฺสํ อโหสิเยว. สุณิสาปิสฺส สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา วีหิปิฏกํ อาทาย อากาสงฺคเณ นิสินฺนา ‘‘พีชภตฺเตหิ อตฺถิกา อาคจฺฉนฺตู’’ติ วตฺวา อาคตาคตานํ คหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา อทาสิ. ปิฏกํ ยถาปูริตเมว อโหสิ. ทาโสปิสฺส สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา สุวณฺณยุเคสุ สุวณฺณโยตฺเตหิ โคเณ โยเชตฺวา สุวณฺณปโตทยฏฺึ อาทาย ทฺวินฺนํ โคณานํ คนฺธปฺจงฺคุลิกานิ ทตฺวา วิสาเณสุ สุวณฺณโกสเก ปฏิมุฺจิตฺวา เขตฺตํ คนฺตฺวา ปาเชสิ. อิโต ติสฺโส, เอตฺโต ติสฺโส, มชฺเฌ เอกาติ สตฺต สีตา ภิชฺชิตฺวา อคมํสุ. ชมฺพุทีปวาสิโน ภตฺตพีชหิรฺสุวณฺณาทีสุ ยถารุจิตํ เสฏฺิเคหโตเยว คณฺหึสุ. อิเม ปฺจ มหาปุฺา.

เอวํ มหานุภาโว เสฏฺิ ‘‘สตฺถา กิร อาคโต’’ติ สุตฺวา ‘‘สตฺถุ ปจฺจุคฺคมนํ กริสฺสามี’’ติ นิกฺขมนฺโต อนฺตรามคฺเค ติตฺถิเย ทิสฺวา เตหิ ‘‘กสฺมา ตํ, คหปติ, กิริยวาโท สมาโน อกิริยวาทสฺส สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คจฺฉสี’’ติ นิวาริยมาโนปิ เตสํ วจนํ อนาทิยิตฺวา คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ . อถสฺส สตฺถา อนุปุพฺพึ กถํ กเถสิ. โส เทสนาวสาเน โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา สตฺถุ ติตฺถิเยหิ อวณฺณํ วตฺวา อตฺตโน นิวาริตภาวํ อาโรเจสิ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘คหปติ, อิเม สตฺตา นาม มหนฺตมฺปิ อตฺตโน โทสํ น ปสฺสนฺติ, อวิชฺชมานมฺปิ ปเรสํ โทสํ วิชฺชมานํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ภุสํ วิย โอปุนนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๕๒.

‘‘สุทสฺสํ วชฺชมฺเสํ, อตฺตโน ปน ทุทฺทสํ;

ปเรสฺหิ โส วชฺชานิ, โอปุนาติ ยถา ภุสํ;

อตฺตโน ปน ฉาเทติ, กลึว กิตวา สโ’’ติ.

ตตฺถ สุทสฺสํ วชฺชนฺติ ปรสฺส อณุมตฺตมฺปิ วชฺชํ ขลิตํ สุทสฺสํ สุเขเนว ปสฺสิตุํ สกฺกา, อตฺตโน ปน อติมหนฺตมฺปิ ทุทฺทสํ. ปเรสํ หีติ เตเนว การเณน โส ปุคฺคโล สงฺฆมชฺฌาทีสุ ปเรสํ วชฺชานิ อุจฺจฏฺาเน เปตฺวา ภุสํ โอปุนนฺโต วิย โอปุนาติ. กลึว กิตวา สโติ เอตฺถ สกุเณสุ อปรชฺฌนภาเวน อตฺตภาโว กลิ นาม, สาขภงฺคาทิกํ ปฏิจฺฉาทนํ กิตวา นาม, สากุณิโก สโ นาม. ยถา สกุณลุทฺทโก สกุเณ คเหตฺวา มาเรตุกาโม กิตวา วิย อตฺตภาวํ ปฏิจฺฉาเทติ, เอวํ อตฺตโน วชฺชํ ฉาเทตีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

เมณฺฑกเสฏฺิวตฺถุ ทสมํ.

๑๑. อุชฺฌานสฺิตฺเถรวตฺถุ

ปรวชฺชานุปสฺสิสฺสาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุชฺฌานสฺึ นาม เอกํ เถรํ อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร ‘‘อยํ เอวํ นิวาเสติ, เอวํ ปารุปตี’’ติ ภิกฺขูนํ อนฺตรเมว คเวสนฺโต วิจรติ. ภิกฺขู ‘‘อสุโก นาม, ภนฺเต, เถโร เอวํ กโรตี’’ติ สตฺถุ อาโรเจสุํ. สตฺถา, ‘‘ภิกฺขเว, วตฺตสีเส ตฺวา เอวํ โอวทนฺโต อนนุปวาโท. โย ปน นิจฺจํ อุชฺฌานสฺิตาย ปเรสํ อนฺตรํ ปริเยสมาโน เอวํ วตฺวา วิจรติ, ตสฺส ฌานาทีสุ เอโกปิ วิเสโส นุปฺปชฺชติ, เกวลํ อาสวาเยว วฑฺฒนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

๒๕๓.

‘‘ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส, นิจฺจํ อุชฺฌานสฺิโน;

อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ, อารา โส อาสวกฺขยา’’ติ.

ตตฺถ อุชฺฌานสฺิโนติ เอวํ นิวาเสตพฺพํ เอวํ ปารุปิตพฺพนฺติ ปเรสํ อนฺตรคเวสิตาย อุชฺฌานพหุลสฺส ปุคฺคลสฺส ฌานาทีสุ เอกธมฺโมปิ น วฑฺฒติ, อถ โข อาสวาว ตสฺส วฑฺฒนฺติ. เตเนว การเณน โส อรหตฺตมคฺคสงฺขาตา อาสวกฺขยา อารา ทูรํ คโตว โหตีติ.

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณึสูติ.

อุชฺฌานสฺิตฺเถรวตฺถุ เอกาทสมํ.

๑๒. สุภทฺทปริพฺพาชกวตฺถุ

อากาเสติ อิทํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา กุสินารายํ อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเน ปรินิพฺพานมฺจเก นิปนฺโน สุภทฺทํ ปริพฺพาชกํ อารพฺภ กเถสิ.

โส กิร อตีเต กนิฏฺภาตริ เอกสฺมึ สสฺเส นวกฺขตฺตุํ อคฺคทานํ เทนฺเต ทานํ ทาตุํ อนิจฺฉนฺโต โอสกฺกิตฺวา อวสาเน อทาสิ. ตสฺมา ปมโพธิยมฺปิ มชฺฌิมโพธิยมฺปิ สตฺถารํ ทฏฺุํ นาลตฺถ. ปจฺฉิมโพธิยํ ปน สตฺถุ ปรินิพฺพานกาเล ‘‘อหํ ตีสุ ปฺเหสุ อตฺตโน กงฺขํ มหลฺลเก ปริพฺพาชเก ปุจฺฉิตฺวา สมณํ โคตมํ ‘ทหโร’ติ สฺาย น ปุจฺฉึ , ตสฺส จ ทานิ ปรินิพฺพานกาโล, ปจฺฉา เม สมณสฺส โคตมสฺส อปุจฺฉิตการณา วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา อานนฺทตฺเถเรน นิวาริยมาโนปิ สตฺถารา โอกาสํ กตฺวา, ‘‘อานนฺท, มา สุภทฺทํ นิวารยิ, ปุจฺฉตุ มํ ปฺห’’นฺติ วุตฺเต อนฺโตสาณึ ปวิสิตฺวา เหฏฺามฺจเก นิสินฺโน, ‘‘โภ สมณ, กึ นุ โข อากาเส ปทํ นาม อตฺถิ, อิโต พหิทฺธา สมโณ นาม อตฺถิ, สงฺขารา สสฺสตา นาม อตฺถี’’ติ อิเม ปฺเห ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถา เตสํ อภาวํ อาจิกฺขนฺโต อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ –

๒๕๔.

‘‘อากาเสว ปทํ นตฺถิ, สมโณ นตฺถิ พาหิเร;

ปปฺจาภิรตา ปชา, นิปฺปปฺจา ตถาคตา.

๒๕๕.

‘‘อากาเสว ปทํ นตฺถิ, สมโณ นตฺถิ พาหิเร;

สงฺขารา สสฺสตา นตฺถิ, นตฺถิ พุทฺธานมิฺชิต’’นฺติ.

ตตฺถ ปทนฺติ อิมสฺมึ อากาเส วณฺณสณฺานวเสน เอวรูปนฺติ ปฺาเปตพฺพํ กสฺสจิ ปทํ นาม นตฺถิ. พาหิเรติ มม สาสนโต พหิทฺธา มคฺคผลฏฺโ สมโณ นาม นตฺถิ. ปชาติ อยํ สตฺตโลกสงฺขาตา ปชา ตณฺหาทีสุ ปปฺเจสุเยวาภิรตา. นิปฺปปฺจาติ โพธิมูเลเยว สพฺพปปฺจานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา นิปฺปปฺจา ตถาคตา. สงฺขาราติ ปฺจกฺขนฺธา. เตสุ หิ เอโกปิ สสฺสโต นาม นตฺถิ. อิฺชิตนฺติ พุทฺธานํ ปน ตณฺหามานาทีสุ อิฺชิเตสุ เยน สงฺขารา สสฺสตาติ คณฺเหยฺย, ตํ เอกํ อิฺชิตมฺปิ นาม นตฺถีติ อตฺโถ.

เทสนาวสาเน สุภทฺโท อนาคามิผเล ปติฏฺหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติ.

สุภทฺทปริพฺพาชกวตฺถุ ทฺวาทสมํ.

มลวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺารสโม วคฺโค.